สวัสดีค่ะ

ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ Mneme หายไปนาน ทริปกัวเตมาลาที่ว่าจะรีบมาลงก็ถูกเก็บลงโหลดองเค็มไปซะงั้น

ล่าสุดไปเที่ยวรัสเซียมาค่า เลยคิดว่าถ้าจะสละเวลา (อู้งาน) มาเขียน เอาอันสดๆใหม่ๆที่จำรายละเอียดได้น่าจะดีกว่า
เอาเป็นว่า รอบนี้เราไปลุยรัสเซียกันนะคะ


หลายๆคนที่เคยอ่านรีวิวประเทศต่างๆของ Mneme (นีมี่) มาบ้างก็อาจจะชินๆกันแล้ว ว่าเป็นทริปถึกเถือกเถื่อน เก็บแต้มกันสุดชีวิต

ทริปนี้ก็เช่นเคยค่ะ เพราะไปกับผู้จัดการทัวร์ส่วนตัวท่านเดิมเลย ก็คนที่ไป ทริปนอร์เวย์ ทริปอัมสเตอร์ดัม...บรัสเซล...ปารีส ทริปเปรู
ทริปอิยิปต์จอร์แดน ทริปกัวเตมาลา มาด้วยกันนั่นแหละค่ะ


เอาลิงค์ของสองชุดล่าสุดไว้ให้เผื่อสนใจนะคะ
พาเที่ยวกัวเตมาลา: จากแอนติกัวสู่โคปาน เมืองทองของอารยธรรมมายัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10314536/E10314536.html
ตะลุยแดนมัมมี่ ตื่นตาอารยธรรมพันปี ณ อิยิปต์: ชมพิรามิดกิซ่า วิหารคารนัค วิหารอาบูซิมเบล ก่อนพาท่องไคโร
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10048258/E10048258.html



คุณพี่ท่านนี้ ตอนนี้ไม่เรียกว่าเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวแล้ว เรียกว่าเอเจนซี่ทัวร์ส่วนตัวจะเหมาะเสียกว่า
เนื่องจากไปด้วยกันมามากมาย รู้ไส้รู้พุง เอ๋ย เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยออกขนาดนี้
คุณพี่เลยยกให้เราเป็นลูกทัวร์กิตติมศักดิ์ อัญเชิญบัตรแพลทตินัมประจำเอเจนซี่มาให้ครอง ทำให้มีสิทธิพิเศษได้รับเชิญคนแรกทุกครั้งที่ท่านพี่เกิดอาการชีพจรลงเท้า

ครานี้คุณพี่เกิดปิ๊งไอเดียอยากไปรัสเซียช่วงซัมเมอร์
หลังจากเราอิดออดอยู่นานเพราะไม่อยากขาดงาน สุดท้ายก็ทนแรงกิเลสตัวเองไม่ไหว ตกลงปลงใจไปจนได้
จะไปกันสองคนก็เกรงใจ คุณพี่เลยไปจิกคุณน้องร่วมโรงเรียนแต่ก่อนเก่ามาเป็นลูกทัวร์หน้าใหม่ได้อีกรายหนึ่ง

ครบแก๊งค์สามทหารเสือแล้ว เราก็พร้อมจัดทัวร์กันล่ะค่ะ


ใครที่ชอบถามว่าทำไมถึงเลือกรัสเซีย ก็อยากให้ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่า รัสเซียเค้ามีของสวยๆงามๆ มากมายเสียเพียงไหน



เปิดฉากอวดโฉมรัสเซียกันด้วยวิวมุมกว้างของ  Red square @ Moscow ยามโพล้เพล้
แสงยามเย็นให้อารมณ์ไปอีกแบบ

เครดิตรูป : รูปทริปนี้ แหม ก็ไปกันสามคน ไม่กล้องเรา ก็กล้องคุณพี่ หรือ กล้องคุณน้องล่ะค่ะ
รูปไหนดูแสงดี สีอาร์ท ให้เดาว่าเป็นกล้องกระบอกแบบหรูของคุณน้องเค้า

พูดถึงรัสเซีย หลายๆคนก็อาจจะกล้าๆกลัวๆที่จะเที่ยวกันอยู่บ้าง
ก่อนนีมี่จะไป เพื่อนๆมาเตือนกันเยอะเลยว่าอันตราย มีแก๊งหัวเกรียนเหยียดสีผิวที่ discriminate เอเชียน
เห็นหน้ากระเหรี่ยงอย่างเราๆแล้วอาจจะคันบาทา เข้ามาซ้อมเล่นเสียดื้อๆ

อีกหลายๆคนก็มาเตือนว่าตำรวจที่นั่นน่ากลัว ชอบมาหาเรื่องเอาเงิน
เช่นถ้าไม่พกพาสปอร์ตไว้กับตัว ก็จะหาว่าเราผิดกฏต้องถูกปรับอะไรอย่างนี้

ตอนแรกเราก็แหยงเล็กน้อยหลังถูกขู่ แต่ท่านหัวหน้าทัวร์เค้ายืนยันนั่งยันนอนยันว่าเราวางแผนกันรัดกุม ให้นอนใจได้
เราเกร็งๆก็เลยอัดฉีดเพิ่ม ให้มีไกด์เดินประกบกับเราเกือบตลอด จะได้ไม่ต้องไปผวาเองมากนัก
พอได้ไปเข้าจริงๆแล้วปรากฏว่าไม่น่ากลัวสักนิด ผู้คนอัธยาศัยดี บ้านเมืองเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน สวยงามเหมือนยุโรปดีๆนี่เอง

ดีใจมากที่ไม่ป๊อดจนถอยไปก่อน ไม่งั้นต้องเสียดายแย่เลย
รัสเซียยิ่งใหญ่ งามประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆ


จะบอกว่าชอบมากเสียกว่ายุโรปหลายๆประเทศที่ไปมาซะอีกแน่ะ


อย่างที่บอกไปแล้วว่าพวกเราเที่ยวแบบเก็บแต้ม ใครว่าอะไรดี ที่ไหนเป็น UNESCO World Heritage Site เราต้องไปเหยียบให้หมด
อีกทั้งยังชอบไปกว้านหาพวก hidden gems ที่คนไม่ไปกัน ดังนั้นเราเลยจองทัวร์กันเองตลอด เพราะถ้าไปกับแพคเก็จทัวร์
นอกจากจะเสียเงินมากกว่ามาก ยังจะเสียเวลา เพราะอัดโปรแกรมได้ไม่สะใจเท่า


แผนคร่าวๆของทริปนี้ก็คือบินไปลงที่ St. Petersburg เที่ยวตัวเมืองบ่ายวันแรก (เรียกว่าลงจากเครื่องก้นยังไม่ทันหายร้อนก็ลุยล่ะ)

จากนั้นรุ่งขึ้นก็ออกนอกเมืองไป Veliky Novgorod (UNESCO World Heritage) ทั้งวัน

วันที่สามก็ออกนอกเมืองไปที่ Pushkin และ Pavlovsk เพื่อไปดูพระราชวัง Catherine Palace กับ Pavlovsk Palace

วันที่สี่ไป Peterhof อันเลื่องชื่อ ต่อด้วย พิพิธภัณฑ์ Hermitage ก่อนจะถึกนั่งรถไฟนอนไป Petrozavodsk

วันที่ห้า ลัลล้าใน Petrozavodsk เมืองสวยงามข้างทะเลสาบ ตกบ่ายก็ขึ้นเรือไป Kizhi ไปดู Kizhsky Pogost (UNESCO World Heritage)

วันที่หก แหกขี้ตาตื่นไปสนามบิน บินไปมอสโคว์ แล้วขับรถสามชม.ออกไปที่เมือง Vladimir เมือง Suzdal และเมือง Bogolyubovo

วันที่เจ็ด เช้าไป Sergiev Posad เพื่อชม Trinity Monastery of St. Sergius (UNESCO World Heritage) ก่อนจะใช้ช่วงบ่ายเที่ยวในเมือง มอสโคว์

วันที่แปด เป็นรายการไฮไลท์ Krasnaya Ploshchad (Red Square) กับ Kremlin (UNESCO World Heritage)
แล้วยังอัด Kolomenskoye (UNESCO World Heritage) เข้าไปตอนบ่ายได้อีก ก่อนจะบินไป Kazan เมืองที่มีกลิ่นอายตะวันออกอันเดียวของทริปนี้

วันที่เก้า เที่ยว Kazan Kremlin (UNESCO World Heritage) ช่วงเช้า แล้วถึกขับรถออกไปชม Raifa Monastery และ Sviyazhsk Island ที่ไม่ได้ใกล้เล้ย
ก่อนจะพากันไปสนามบิน แยกย้าย บินต่ออีกเป็นวันกว่าจะแต่ละคนถ่อสังขารกลับมาถึงบ้าน





รูปแผนที่ ที่คุณพี่ทำเองกับมือ
บอกแล้วววววววว ว่าให้ร่วมทุนเปิดเอเจนซี่ทัวร์กันเลย คงมีเพื่อนๆที่อยากไปเที่ยวรัสเซียแบบ exclusive กับเราใช่มั้ยค้า

นักเดินทางมืออาชีพคงรู้กันว่าหัวใจหลักของการเดินทางเอง นอกจากจะเป็นการเตรียมตัวที่ดีแล้ว ความคล่องตัวก็สำคัญ

ไปมาตั้งหลายทริป ประสบการณ์ทำให้รู้ว่า การเริ่มต้นที่ดี เริ่มตั้งแต่การจัดกระเป๋ากันเลยทีเดียว

การมีกระเป๋าเล็กกระทัดรัด จะช่วยคุณประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นการที่ไม่ต้อง check in กระเป๋าเข้าเครื่อง
ถ้ามาสายเฉียดฉิวแล้วกลัวกระเป๋าเข้าไม่ทัน หรือ การที่สามารถวิ่งหน้าตั้งพร้อมกระเป๋าได้เมื่อชาติต้องการ

โดยเฉพาะสาวๆ ถ้ารักจะเที่ยวแบบค่อนไปทางถึก อย่านึกห่วงการประทินโฉมให้มากนัก ไดร์เป่าผมอะไรไม่ต้องแบกมันมา โรงแรมก็มี
เครื่องสำอางค์เยอะจัดใส่ถุงซิปล็อกไม่พอก็ทำให้ต้องโหลดอีก
ไม่นับพวกที่กะพึ่งสุภาพบุรุษให้ยกกระเป๋าให้ แล้วจัดของมาหนักเกินกำลังตัวเอง
บอกเลยว่า ไม่เวิร์คอย่างแรง

ถึงเวลาคับขัน สาว(ไม่)น้อยอย่างเราควรช่วยเหลือตัวเองได้
ถ้านั่งที่นั่งแยกกันแล้วยังไม่มีปัญญายกกระเป๋า ขึ้น overhead compartment ได้แล้วเนี่ย จะไปหวังให้ใครหน้าไหนมาช่วย

บทเรียนนี้ได้เจอกับตัวเองหลายครั้งหลายครา (เกินไป) ในทริปนี้ เพราะเกือบๆตกรถตกเครื่องอยู่หลายเพลา
ดีใจที่เป็นคนจัดกระเป๋าเก่ง กระเป๋าคู่ชีพใบน้อยจึงทำให้วิ่งทันมาทุกงาน



ขอแสดงความภูมิใจ กระเป๋าใบเล็กที่สุดเป็นของเรา
เก้าวันมีแค่ใบนี้กับเป้สะพายหลังอีกหนึ่งใบถ้วน

ส่วนใบอ้วนๆข้างหลังเป็นของหนุ่มๆ ที่จะแอบแฉว่าคุณท่านพกครีมโบ๊ะหน้ากันมาเยอะกว่าสาวแท้ๆอย่างเราเสียอีกน่ะ
แหม นี่ขนาดวางใบเล็กของเราไว้หน้าสุด ดูหลอกตาซะขนาดนี้แล้วนะ

พูดถึงกระเป๋าไปแล้วก็มาเมาท์ถึงการเตรียมตัวด้านอื่นๆกันบ้าง

ทริปนี้ต้องซูฮกคุณพี่เค้าจริงๆค่ะ ว่า แรว๊งงงงง
เพราะเวปหลายๆเวปเป็นภาษารัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นเวปจองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ หรือ เวปจองตั๋วรถไฟ
แต่คุณพี่ก็ไม่ย่อท้อ นั่ง google translate จนจองตั๋วมาได้สำเร็จ

ส่วนทัวร์นี่อาการดีขึ้นมาหน่อยเพราะใช้อีกเมลติดต่อกันเป็นภาษาอังกฤษ
คุณพี่เลือกบริษัทที่ custom รายการตามใจฉันได้ แล้วก็อีเมลปรึกษา ยัดสถานที่มากมายพร้อมต่อราคาไปมาจนสำเร็จเสร็จสรรพ

การหาข้อมูลยุคอินเตอร์เนตนี่ ถ้ามีเวลา ทำได้ทุกอย่างจริงๆค่ะ
อย่างทัวร์ก็หาที่มีรีวิวใน trip advisor
ส่วนที่เที่ยว พี่เค้ารอบคอบ ดูเวลาเปิดปิดทุกที่ไว้อย่างละเอียด
ทำให้ได้รู้ว่า บางอันปิดวันจันทร์ บางอันปิดวันอังคาร ต้องจัดแผนกันให้ลงตัวอย่าให้ไปเก้อ
เวลายิ่งมีน้อยๆอยู่


เอกสารทุกอย่างก็พรินท์แบกติดตัวไว้ตลอดเลยค่ะ

ไม่ว่าจะเป็น treaty ของประเทศไทยกับรัสเซีย ที่ว่าพาสปอร์ตไทยไม่ต้องใช้วีซ่า
พรินท์ทั้งภาษารัสเซียและภาษาอังกฤษเลย
แล้วพรินท์มานี่ได้ใช้ตั้งแต่เริ่ม เพราะเจ๊ที่อเมริกาไม่เก็ทว่าไปเที่ยวรัสเซียยังไงไม่ต้องใช้วีซ่า

ไหนจะอีเมลที่ติดต่อกับทัวร์ ว่าจะไปไหนยังไงเท่าไหร่บ้าง
กันการมั่วทีหลังว่า อ้าวตกลงกันไว้งั้นงี้มิใช่เหรอ
แหม หลังฐานเรามีเต็มสองมือ อย่ามามั่วซะให้ยาก

ถึงจะมีไกด์ แต่แบกหนังสือพาเที่ยวไว้ไม่เสียหลาย
ไม่ได้กะจับไต๋ว่าไกด์มั่วตรงไหน แต่จะได้มีแผนที่ มีที่อยู่
ไกด์หลงยังพาไกด์เดินถูกเลย

ยืนยันว่ารอบคอบไว้มีชัยไปกว่าครึ่งจริงๆ


นอกจากหาข้อมูลปลีกย่อยแล้ว
เราก็มีเรียกน้ำย่อยกันเองบ้างด้วยการดูสารคดีไปล่วงหน้า

เวอร์ชั่นยาวนี่ปาไปยี่สิบกว่าตอน ดูจนหลับหลายวันยังไม่จบเสียที เลยเอาแบบสั้นมาแบ่งกันดูค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=yP3EBHZJW-8&feature=related


และที่เด็ดไปกว่านั้น ...
เราฝึกภาษารัสเซียกันค่ะ

อย่างคราวก่อนๆไปอเมริกาใต้ เราก็ท่องตัวเลขไปจนคล่อง
ต่อราคาทีแม่ค้ายังเถียงไม่ทัน

คราวนี้ แอดวานซ์ ท่อง Cyrillic ไปค่ะ
อ่านเล่นๆบนเครื่องตอนบินไปนี่ล่ะค่ะ ปรากฏว่าได้ใช้เยอะเลย
ไม่ว่าจะเป็นการแกะเมนูภาษารัสเซีย หรือ การอ่านชื่อสถานีตอนขึ้นรถใต้ดินเอง
แม้แต่ไปนั่งแกะชื่อหลุมศพคนดังๆตอนไปเที่ยว cemetery กันเองจนเจอ
อ่านนู่นอ่านนี่ตอนเดินผ่าน ไกด์เป็นปลื้มกันทุกรายเลยค่ะ
แนะนำใครจะไปให้ท่องไว้เล่นๆค่ะ เป็นประโยชน์จริงๆ

มันไม่ยากด้วยอ่ะค่ะ แค่กลับอักษรในใจ
ยิ่งเป็นตัวกรีกนี่ ใช้เรียนวิทย์กันมาเยอะ เห็นแล้วกลับในใจได้ว่องไว

ตัว Pi เป็น P
ตัว p ให้คิดถึง rho ก็เลยเป็น R
ตัว lambda เป็น L
ตัว H เป็น N
ตัว N กลับด้าน เป็น I
ตัว L กลับหัว ที่เป็น gamma พิมพ์ใหญ่ ก็เป็น G
ตัวสามเหลี่ยม ก็คิดเป็น delta จะได้เป็น D
ตัว Phi เป็น F
ตัว B เป็น V
ตัว C เป็น S
แค่นี้ก็อ่านได้บานเลยค่ะ โชว์ความเนิร์ดของแก๊งค์เรามากไปมั้ยค่ะนี่ เหอๆๆ

เกริ่นมามากแล้วกลัวจะเบื่อ พาบินลัดฟ้าสู่รัสเซียกันเลยดีกว่า
รอบนี้ โชคดี (?) กันตั้งแต่ต้น เริ่มจากคุณพี่ดีเลย์ไปหลายชม.จากซานฟราน
นีมี่เองไม่น้อยหน้า ดีเลย์จากบอสตันเช่นกัน ต้องไปแสตนด์บายให้ใจตุ๊มต่อม
คุณน้องจากอังกฤษคนเดียวที่รอดตัวไป

นีมี่ออกจากบ้านแต่ตีห้า ไฟลท์ดีเลย์เลยใช้บัตรทองไปเบ่ง
นั่งซดชากินขนมอยู่ที่เลาจน์สบายใจ
สแตนด์บายอีกลำไว้แล้วได้ขึ้นนี่ก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

มานัดพบกับคุณพี่ตอนต่อเครื่องที่นิวยอร์ก
ปรากฏว่าเจ๊ที่เช็กอินพี่เค้าวีน ไม่ยอม check through ให้
เราเลยต้องลากกระเป๋าไปหาที่ฝากไว้ จ่ายสิบเหรียญเหนาะๆแล้วก็ออกตะลอนนิวยอร์ก
ไหนๆก็จะรอเครื่องถึงตั้งห้าโมงนี่นา


วันนี้ไม่มีเวลาไปชิมร้านมิชเชลลินสตาร์อะไรกับเค้า เลยขอเอาแค่เกาหลีเป็นพอ
ว่าแล้วเราก็เลยนั่งรถเมล์ ต่อ PATH ต่อ Metro จนมาถึง Korean Town
มานิวยอร์กหลายครั้งยังไม่เคยมากินแถวนี้เลย
ได้มาคราวนี้ไม่ผิดหวัง อาหารเค้าอร่อยได้ใจจริงๆ


รูปประกอบจาก Korean Town ที่มีทั้ง Ramen @ Arirang Korean Restaurant
ทั้ง Galbi set @ Seoul Garden
จบด้วย shake ชาเขียว และเค้กสวยน่ากิน @ Koryodang Bakery ค่ะ

ด้วยความที่ตะกละ ไปกินตั้งสามร้าน
ขากลับจึงวิ่งแจ้นกลับมาด้วยอาการเฉียดฉิว

รถใต้ดินมาห่างกันมาก เสียเวลารออย่างนาน เราเลยนั่งแทกซี่แทนบัส
มาถึงสนามบิน ยังต้องตะกายไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้
แบตมือถือก็ดันหมดกันทั้งคู่ เพราะ เรามัวแต่เล่นเฟชบุคระหว่างทางอีกต่างหาก
ต้องทุลักทุเล ลากสายชาร์ตมาโทรหาบริษัทฝากกระเป๋า
ได้ของมาก็วิ่งร้อยเมตรข้ามเทอร์มินัล

กระนั้นก็ยังไปเช็คอินก่อนเวลาปิดตั้งเจ็ดนาทีแน่ะ คนเช็คให้นี่มองหน้าเลย
แบบว่าโชคดีจริงๆที่นายรอดตัวไปน่ะ

ครืองานนี้เป็นความดีความชอบของบัตรทองนะเจ้าคะ
ถ้าต้องไปต่อแถวไม่ใช้เส้นอภิสิทธิชน ทริปรัสเซียอาจล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เหอๆๆ

หลับๆตื่นๆไปจนถึงแฟรงเฟิร์ต ลงไปจิบขนมในเลาจน์แม้จะมีเวลาเปลี่ยนเครื่องเพียงน้อยนิด
แล้วจึงใช้บัตรทองเบ่งขึ้นเครื่องไปอย่างทันท่วงที (หรือที่เรียกว่าเฉียดฉิว)
จนในที่สุดเราก็ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงรัสเซีย



สวยตั้งแต่บนเครื่องเลย แท่นแท้นนนนน

ลงมาถึงสนามบินที่ St. Petersburg (St. P) ก็มีรถมารับตามนัดหมาย
ช่วงที่อยู่ St. P นั้นเราใช้บริการของ Alla Tours (www.alla-tour.com) ตลอด
เค้าจัดให้ตั้งแต่คนขับ ไกด์แต่ละวัน รวมไปถึงซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆให้

**Disclaimer: ทัวร์และโรงแรมต่างๆในทริปนี้ที่นำมาบอกเล่า เป็นการแชร์ประสบการณ์ ไม่ได้ต้องการโฆษณาทางการค้า มิได้รับสินบนหรือมีเอี่ยวแต่อย่างใดนะคะ


มาวันแรกก็ฉุกละหุกเสียแล้ว เพราะเจ๊ Alla เค้าลืมว่าเราจองบัลเลต์กันไว้ตอนหนึ่งทุ่ม
เจ๊กลัวแขกจะเหนี่ยเลยเพิ่มโปรแกรมให้มีไปพักผ่อนที่โรงแรมสองชม.เสร็จสรรพ
เราก็กรี๊ดแตกสิคะ เดี๋ยวไปดูบัลเลต์ไม่ทันทำไงล่ะ ตั๋วก็ไม่ใช่ถูกๆ

ปรับความเข้าใจกันได้ เจ๊เลยให้เราขับรถไปรับไกด์สำรอง
ท่าทางคุณไกด์หน้าบอกบุญไม่รับเต็มที่
คงเป็นเพราะถูกจิกออกมากระทันหัน เนื่องด้วยไกด์ตัวจริงมีเรียนรอบบ่าย กว่าจะเสร็จก็อีกสองชม. อย่างที่เจ๊ Alla กะไว้นั่นแล
งานนี้เลยมีเกร็งเพราะเจ๊ถามคำตอบคำอย่างจริงจัง มาคุมาก

เราตัดสินใจไปหย่อนกระเป๋าแปรงฟันล้างหน้าที่โรงแรมสิบห้านาที (สองชม.เยอะเกินย่ะ) หลังจากหมักหมมข้ามทวีปมาเสียนาน


โรงแรม Renaissance St. Petersburg Baltic Hotel นี่ดูดี ไม่ทำให้ผิดหวัง
มีสาว receptionist สวยเช้ง สูงยาวเข่าดี มายืนยิ้มแป้นต้อนรับ
ที่ล็อบบี้มีอินเตอร์เนตให้เล่นฟรีด้วย

โรงแรมมีอินเตอร์เนตหรือไม่ก็เป็นอย่างหนึ่งที่คุณพี่เช็คมาล่วงหน้า
ละเอียดจริงอะไรจริง

ระหว่างรอเอกสาร สาวสวยก็เดินมาหาพร้อมแชมเปญคนและแก้วให้ได้จิบพอกรึ่ม
เสียดายเรากินแอลกอฮอล์ไม่เป็น เลยจิบไปแค่ครึ่งคำพอเป็นพิธี (แต่กรึ่มจัดเพราะเหล่สาว อิอิ)

ห้องเราโชคดีได้อัพเกรด เห็นแล้วถึงกับตาค้าง
ปรากฏว่าได้เป็น Suite สองชั้นค่ะ มีบันไดเชื่อมกัน
มีทีวีจอใหญ่ชั้นละเครื่อง ข้างบนห้องน้ำเต็มรูปแบบอาบน้ำได้ ข้างล่างมีห้องน้ำเล็ก
เตียงใหญ่คิงไซส์อยู่ข้างบนให้สองหนุ่มแบ่งกันนอน ส่วนข้างล่างกางเตียงเสริม twin ไว้ให้เรา

ต้องออกตัวว่าที่เลือกโรงแรมเชนมีชื่อเพราะคุณพ่อเป็นห่วง เราก็เลยไม่กล้าอยู่ที่มันแรนด้อมเกิน
แล้วก็เข้ามาประเทศนี้เค้าต้องให้โรงแรม register เรากับตำรวจด้วยล่ะ
เราเลยอยากได้โรงแรมที่รู้เรื่องจะได้ทำให้เรียบร้อยไม่มั่ว

ถ่ายบันไดระหว่างชั้นมา
เป็นครั้งแรกจริงๆนะนี่ ที่อยู่ห้องสองชั้นเนี่ย

แปรงฟันล้างหน้าวางเป้แล้วก็ออกมาเตรียมลุย
คุณ Alla เจ้าของบริษัทลงทุนมาทักทายด้วยตัวเอง พร้อมเอาโปรแกรมใส่แฟ้มมาให้
โปรแกรมปึกนี้เราต้องเอาให้ไกด์(ตัวจริง)คนถัดไป จะได้ไม่งง

ขึ้นรถปุ๊บ เจ๊ไกด์หน้าดุ(ตัวแทน)ก็ออกโรงพ่นเป็นไฟทันที
เริ่มตั้งแต่ชี้ชวนชมทุกอณูของเมือง ไปจนถึงแงะประวัติศาสตร์พระเจ้าซาร์ทั้งหลายมาเล่า

เราจึงค่อยได้เข้าใจว่า อ่อ ที่เจ๊นั่งเงียบมาคุมาตลอดทางเพราะมันยังไม่มีเสียงระฆังบอกเวลาเริ่มงานเจ๊นั่นเอง

เนื่องจากประวัติศาสตร์ของรัสเซียตื่นเต้นเร้าใจ มีการฆ่าฟันแย่งอำนาจ ดราม่าจนละครไทยยังอาย
นีมี่ก็เลยจะขอปูพื้นให้

จริงๆซื้อหนังสือ มาเป็นกระบุงเลยค่ะ แต่จะมานั่งเขียนหมดก็จะกลายเป็นหนังสือสอนประวัติศาสตร์ไป
แถมคงเขียนช้า นอกจากจะไม่ได้ทำงานแล้ว พองานท่วมหัวก็คงต้องเก็บทริปเข้าโหลดองเป็นวัฏจักรต่อไป
เลยตัดใจขอเล่าย่อพอสังเขปละกันนะคะ

เริ่มจากยุคเก่าก่อน ชนชาติที่อยู่แถบนี้คือชาว Rurik
ชาว Rurik รวมพลกล้าแข็งแล้วก็ตั้งเมืองขึ้นที่เมือง Novgorod
เนื่องจากในช่วงยุคนั้น ผู้คนอยู่กันเป็นเผ่าย่อยๆ
ต่างกลุ่มก็ต่างนับถือเทพเจ้ามากมายแตกต่างกันตามความเชื่อดั้งเดิมของเผ่า

เมื่อเจ้าชาย Vladimir ขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงเล็งเห็นว่า ความแตกต่างนี้ทำให้ยากแก่การควบคุมคน
หรือการรวมตัวกันเป็นปึกแผ่น จึงดำริให้เหล่าเสนาธิการทหารหาญ ออกไปค้นคว้าสุดหล้าฟ้าเขียว
เพื่อตามหาศาสนาที่ดีที่สุด
จนทหารกลับมาจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ ซึ่ง ณ ตอนนั้นมีศูนย์กลางที่คอนสแตนติโนเปิล
แล้วกราบทูลให้ทราบถึงศาสนาคริสต์ อีกทั้งยังกล่าวถึงเมืองคอนสแตนติโนเปิลว่างดงามราวกับสรวงสวรรค์
พระองค์จึงเลือกศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลักเพื่อรวมใจ และบังคับให้ชาวเมืองเปลี่ยนศาสนามาเป็นคริสต์โดยทั่วกัน

จากนั้นก็มีการแย่งชิงอำนาจมากมายซึ่งเราจะเล่าในรายละเอียดภายหลัง
เมื่อราชวงศ์ Rurik ขาดช่วงลง บ้านเมืองก็สับสนวุ่นวาย จนกระทั่งมีการสถาปนาราชวงศ์โรมานอฟขึ้นจึงสงบสุขอีกครา

Timeline ถึงช่วงก่อตั้งราชวงศ์โรมานอฟ

ปีเตอร์มหาราชหรือ Peter the Great แห่งราชวงศ์โรมานอฟนี่เองที่เป็นผู้ก่อตั้งเมือง St. Petersburg ขึ้น
และก่อร่างสร้างเมืองจนเจริญรุ่งเรืองรุดหน้าล้ำสมัยจนดำริให้ย้ายมาเป็นเมืองหลวงในที่สุด

ประวัติของ Peter the Great นี่ดุเด็ดเผ็ดมันส์มาก
เริ่มตั้งแต่การแย่งอำนาจกันระหว่างโอรสธิดาของมเหสีองค์แรก กับ มเหสีองค์ที่สองซึ่งคือแม่ของปีเตอร์

มีการก่อกบฏขึ้น ปีเตอร์ต้องทนเห็นการฆ่าล้างครอบครัวฝ่ายแม่ของตนเต็มตา
ความโหดร้ายวุ่นวายลงเอยด้วยการที่ปีเตอร์และอีวาน บุตรของมเหสีองค์แรกได้ขึ้นดำรงตำแหน่งซาร์พร้อมกัน

ดูเหมือนจะเป็นข้อตกลงที่ดีกับปีเตอร์แต่แท้จริงแล้ว พระนางโซฟี บุตรีของมเหสีองค์แรกนั้น ยังคอยชักใยอยู่เบื้องหลังคอยบงการปีเตอร์ซึ่งตอนนั้นอายุเพียงสิบขวบ

ปีเตอร์ใช้เวลาช่วงวัยรุ่นหลีกลี้ความทรงจำอันโหดร้ายในมอสโคว์ไปพักผ่อนที่ St. Petersburg อยู่บ่อยครั้ง
ณ ที่นั่น เด็กชายลองก่อป้อมปราการ เกณฑ์ลูกชายขุนนางมาเล่นเกมสงคราม ฝึกบุกยึดป้อมทหารกันอย่างดูจริงจัง
เมื่ออีวานซึ่งอ่อนแออยู่เดิมแล้วเสียชีวิตลง ปีเตอร์ก็นำกองกำลังเข้ายึดอำนาจคืนจากโซเฟีย

เกมสงครามที่ปีเตอร์เล่นเมื่อครั้งเยาว์ กลับกลายเป็นกลยุทธ์ในการปฏิรูปรูปแบบทางการทหารของประเทศรัสเซีย
แต่ความใฝ่ฝันของเด็กน้อยซึ่งบัดนี้เติบใหญ่สูงถึงสองเมตรกว่านั้น แท้จริงคือการสร้างกองทัพเรือที่แกร่งกล้า
ดังนั้นปีเตอร์จึงปลอมตัวไปเที่ยวยุโรป เรียนงานช่างไม้ ช่างฝีมือ จนทำรองเท้าบู๊ท ทำเฟอร์นิเจอร์ใช้เองได้
เรียนหมอ เรียนผ่าตัด เรียนทำฟัน (มีข่าวลือว่าทรงเสียเงินจ้างคนมาเป็นคนไข้ แล้วทำเค้าตายอีกน่ะ)
เรียนวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ จนแทบจะทรงเป็นคนเดียวที่ทำคณิตศาสตร์ได้ในรัสเซียในสมัยนั้น
และที่สำคัญที่สุด ทรงได้เรียนรู้ศาสตร์ที่พระองค์ใฝ่ฝันมาแสนนาน นั่นคือศาสตร์ของการต่อเรือนั่นเอง

ด้วยความสนใจจริง พระองค์เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับการต่อเรือจนช่ำชองทุกลำดับขั้น
จนเมื่อกลับมา ทรงลงไปคลุกคลีช่วยช่างต่อเรือด้วยพระองค์เอง และสร้างหน่วยนาวิกโยธินอันเกรียงไกรให้กับรัสเซีย

การที่ไปยุโรปก็ทำให้ทรงได้เห็นความเจริญก้าวหน้าของประเทศแถบนั้น
พระองค์รู้สึกว่ารัสเซียล้าหลังเสียเหลือเกินจึงกลับมาปฏิรูปเสียหลายด้าน
ทั้งการวางผังเมือง การสร้างพระราชวังใหญ่โตสวยงามที่มีสวนกว้างขวาง

ที่เป็นที่เลื่องลือก็เห็นจะเป็นเรื่องการไว้หนวดเครา
ปีเตอร์ทรงเห็นว่าล้าสมัยจึงสั่งให้ประชาชนตัดหนวดเคราทิ้ง
อีกทั้งออกกฏหมายให้เพิ่มภาษีสำหรับคนที่ยังคงไวหนวดเคราอีกด้วย

พระปรีชาสามารถของปีเตอร์นั้นเป็นเครื่องยืนยันความยิ่งใหญ่ของพระองค์ สมกับที่ทรงเป็นมหาราชอย่างแท้จริง
และเราก็แสนโชคดี ที่จะได้มาเห็นความเจริญรุ่งเรือง ความสวยงามที่ปีเตอร์ทิ้งไว้ให้เป็นมรดกตกทอดแก่ชาวรัสเชียกับเขาด้วย

Timeline ในช่วงชีวิตของปีเตอร์มหาราช

การที่ปีเตอร์ต้องการปฏิรูปทุกอย่างเลียนแบบยุโรป จึงไม่แปลกที่เมือง St. P นั้นจะดูยุโรปมาก
แต่นอกจากสถาปัตยกรรมอันงดงามแบบยุโรปแล้ว St. P ก็ยังมีสถาปัตยกรรมเรียบง่ายเน้นการใช้สอยในยุคโซเวียตปะปนอยู่ด้วย
บ่ายวันนี้เราจะได้ขับรถชมเมือง ดูสถานที่สำคัญ St. P ในทุกๆรูปแบบกันอย่างจุใจเลยทีเดียว

St. Petersburg นั้น เคยถูกเปลี่ยนชื่อไปหลายครั้งหลายครา
ตั้งแต่ถูกเปลี่ยนเป็น Petrograd ที่เป็นภาษารัสเซียเนื่องจาก St. Petersburg ฟังดูเยอรมัน
จนถึงเปลี่ยนเป็น Leningrad ในปี 1924 เพื่อเป็นเกีรยติให้แก่เลนนินซึ่งเสียชีวิตในเวลานั้น
ก่อนจะถูกเปลี่ยนกลับเป็น St. Petersburg อีกทีในปี 1991

ดังนั้น ถ้าจะเรียกสลับไปมาบ้างตามช่วงเวลาที่สถานที่ที่เราจะเยี่ยมชมถูกก่อตั้งขึ้นก็อย่าเพิ่งรีบงงนะคะ

ตึกทึมๆเหลี่ยมๆสไตล์โซเวียต

อย่าง Siege monument ที่เห็นในรูปนี้ สร้างขึ้นตอนที่เมืองเปลี่ยนชื่อเป็น Leningrad ไปแล้ว

Siege monument สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของชัยชนะที่มีต่อประเทศเยอร์มัน ในปี 1941
เวลานั้นทหารเยอรมันยกกำลังเข้าปิดล้อมเมืองเอาไว้
ชาวเมือง Leningrad ในตอนนั้นขาดแคลนทุกอย่าง ไม่มีแม้ไฟฟ้าหรือน้ำดื่ม
อุณหภูมิภายนอกหนาวยะเยือกติดลบ -40C เลยเชียว
เชื่อว่าชาวเมือง Leningrad ไม่ต่ำกว่าสี่พันคนเสียชีวิตไปในช่วงนั้น
หลังจากยึดเมืองอยู่เก้าร้อยวัน ทหารเยอรมันที่อ่อนล้าหนาวเหน็บและขาดแคลนเสบียงก็ถอยทัพไป
อนุสรณ์สูง 48m นี้จึงได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองชัย
นอกจากจำนวนผู้เสียชีวิตจะมากมายแล้ว อาคารบ้านเรือนกว่า 40% ของเมืองยังถูกระเบิดเสียหายอีกด้วย

ปัจจุบันด้านล่างของอนุสรณ์นี้ถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อแสดงเรื่องราวครานั้น

The Moscow Triumphal Gates
สร้างขึ้นในช่วงราวๆปี 1834 เพื่อฉลองชัยชนะที่รัสเซียมีต่อชาวตุรกีในปี 1828

Lenin Monument
ตั้งอยู่หน้า Russian National Library

มาฝึกอ่าน Cyrillic กันดีกว่า
โรงแรมชื่ออะไรค้า

ถูกต้องค่า ตูดิ๊ดตูดิ๊ด
ACTOPИ я = ASTORIja ออกเสียงประมาณแอสตอริยานะคะ

ไกด์ชี้ให้ดูว่าเป็นโรงแรมห้าดาวที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง
ฮิตเลอร์เคยมาจัดงานเลี้ยงที่นี่
คนดังอย่างเอลตัน จอห์น มากาเร็ต แธทเชอร์ และจอร์จ บุชก็ยังเคยมาพัก

วิวของ Peter and Paul Fortress ค่ะ
เดี๋ยวจะพาไปเดินดูข้างในด้วยนะคะ

อย่างที่บอกไปว่า Peter the Great ได้พัฒนากองทัพเรือจนยิ่งใหญ่
ที่เห็นในรูปนี่คือ Admiralty เป็นสถานที่ที่ทรงใช้ต่อเรือในสมัยท่าน
ปัจจุบัน Admiralty ถูกใช้เป็นเป็นโรงเรียนนาวิกโยธิน (Navy School)

ขับรถผ่านสะพาน ไกด์ก็เล่าถึงที่มาของชื่อเล่นของเมือง St. P
เมื่อคราปีเตอร์มหาราชไปเยี่ยมชมยุโรป ทรงได้แวะเมือง Amsterdam ซึ่งมีคูคลองการเมืองมากมาย ขนส่งทางน้ำสะดวก

เมื่อวางผังเมือง St. P พระองค์จึงสั่งให้ขุดคลอง (artificial canal) ทั้งเมืองเพื่อช่วยการขนส่ง เลียนแบบอัมเตอร์ดัม
ด้วยความที่มีคลองเยอะ สะพานข้ามคลองเลยเยอะตามไปด้วย เมืองนี้มีจึงสะพานถึง 365 สะพาน
สะพานกว้างที่สุด กว้างถึง 98m
เมือง St. P จึงได้ชื่อเล่นเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางว่า The Venice of the North

สองข้างฝั่งแม่น้ำมีสิ่งน่าสนใจอยู่หลายอย่าง
สฟิงก์นี่ดูแปลกตาเมื่อมาอยู่ผิดที่ผิดทางเอาแถวนี้

ไกด์เล่าว่าสฟิงก์นี้เป็นสฟิงก์เก่าแก่ตัวจริงจากอียิปต์ สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่สิบสี่
สฟิงก์นี้ฝรั่งเศสยึดไปจากอียิปต์ และถูกยกให้ประเทศรัสเซียในปี 1832 เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีทางการทูต

น่าสนุกจังค่ะ   อากาศตอนที่ไปเที่ยวเป็นอย่างไรบ้างคะ

เสาหน้าประหลาดนี่คือ Rostral Columns
ที่เห็นยื่นออกมานั้นเป็นหัวเรือ (prows)
เสาแบบนี้เลียนแบบมาจากกรีกโรมันที่มักเอาหัวเรือข้าศึกมาประดับบนเสาฉลองชัยชนะทางน้ำ

เสานี้สร้างขึ้นครั้งเฉลิมฉลองสามร้อยปีก่อตั้งเมือง St. P เมื่อปี 2003 (ตั้งเมื่อ May 23, 1703)
ที่เป็นหัวเรือเพราะความรักการต่อเรือของปีเตอร์นั่นเอง

เสานี้ตั้งอยู่สองฝั่งของแม่น้ำ Neva ทำหน้าที่เป็นประภาคารให้เรือที่สัญจรไปมาในห้วงน้ำแห่งนี้

รูปปั้นสาวสวยที่ฐานนั้นเป็นตัวแทนของแม่น้ำหลักสามสายคือแม่น้ำ Volga แม่น้ำ Neva และแม่น้ำ Volkhov

วิวของ Hermitage Museum จากอีกฟากของแม่น้ำ
Hermitage ก่อตั้งเมื่อ ปี 1764 โดย Catherine the Great
และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ในปี 1852

Hermitage เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่และใหญ่โตที่สุดในโลก มีของล้ำค่ากว่าสามล้านชิ้น
ว่ากันว่าถ้าจะดูให้ครบทุกชิ้นจริงๆ จะต้องใช้เวลาเป็นสิบปีทีเดียว

ดูๆไปก็เหมือนว่าจะมีอนุสรณ์สถานอยู่ทุกหัวระแหง
อย่าง Bronze Horseman อันนี้เป็นผลงานของ Medny Vsadnik
สั่งทำโดย Catherine the Great ให้เป็นอนุสรณ์แก่ Peter the Great
เป็นรูปพระองค์ทรงม้า อาชาเหยียบอยู่บนงูซึ่งเปรียบเสมือนชัยชนะเหนือศัตรู

หินที่รองรับที่รูปร่างเหมือนคลื่นนั้นเป็นหินแกรนิต
เล่ากันว่าหินนี้ถูกฟ้าผ่า หักออกมาเป็นก้อนใหญ่รูปร่างคล้ายคลื่น อยู่บริเวณห่างจากเมืองไปสี่ร้อยกิโลเมตร
จึงได้สั่งให้ขนย้ายเข้ามาเพื่อสร้างอนุสาวรีย์ไว้ที่นี่

ที่เห็นสูงเสียดฟ้าคือ Alexander Column ที่ Dvortsovaya Ploshchad (Palace square)
บนเสามีนางฟ้าเหยียบงูอยู่

ส่วนอันนี้เป็นอนุสาวรีย์ของ Nicholas I
แถบรูปสลักข้างล่างบอกเล่าเรื่องราวในช่วงเวลาของพระองค์
ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของโรคฝีดาษหรือการลุกฮือขึ้นประท้วงของชาวเมือง

โบสถ์สวยๆทางด้านหลังนั้นคือ St Isaac cathedral
ด้านบนของโบสถ์มีทางเดินรอบ หรือ colonnade ให้ปีนบันไดขึ้นไปเดินชมวิวของเมืองจากด้านบนได้
โบสถ์นี้อยู่ใกล้โรงแรมมาก เราเลยหมายใจไว้ว่าจะกลับมาเดินเองทีหลัง จะได้ไม่เสียเวลาไกด์

เอารูปอาร์ทๆที่คุณน้องร้อนวิชาถ่ายไว้มาให้ชมค่ะ

อ๊ะ ข้ามรูปเรือไปอัน
อันนี้ Battleship Aurora นะคะ

สนุกมากเลยครับ...ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ...

พอไกด์เริ่มเมาท์เยอะ เราก็พบว่าเค้าหน้าดุไม่ค่อยยิ้มเฉยๆ จริงๆก็เฟรนด์ดี เราก็เลยเริ่มเม้าท์เรื่อยเจื้อยกับเค้าบ้าง
ไกด์เล่าให้ฟังว่า ที่นี่อุณหภูมิหนาวจัด ติดลบ -30C ในช่วงหน้าหนาว
ช่วงพคก็ยังจะเย็นอยู่ แถมฝนตก จะเริ่มอุ่นเข้าฤดูร้อนอย่างจริงจังก็ช่วงมิยที่เรามาเที่ยวกันพอดี

หน้าร้อนของรัสเซียช่วงนี้มีความพิเศษอยู่คือกลางวันจะยาวมาก
ตกกลางคืนแล้วก็ยังดูสว่างโร่ เรียกกันว่า White night
วันที่ 22 Jun นั้นเป็นวันที่มีเวลากลางวันยาวที่สุดในรอบปี

ส่วนหน้าหนาว จะมีแสงเพียง 10am-4pm เท่านั้น
เค้าบอกว่า ออกไปทำงานก็มืด กลับออกมาก็มืด เซ็งจิตเลยเชียวล่ะ

เรามาคราวนี้ก็ไม่รู้จะเตรียมตัวมาอย่างไร
บางเวปบอกว่าอุ่น อีกเวปบอกว่าหนาวฝนตก เลบต้องเตรียมเสื้อผ้ามาพร้อมท้ารบทุกสถานการณ์
วันแรกนี่โชคดี อากาศดี แดดอุ่น ลมพัดเย็น ฟ้าช่างเป็นใจ
ดูวิว St. Isaac จากด้าน canal ซะก่อน ถ่ายรูปใสกิ๊งเลย

ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ

ชมวิวจากรถบ้าง ลงซุ่มยิงแบบสายฟ้าแลบบ้างมานาน
ในที่สุดเราก็ได้ฤกษ์ลงเดินยืดเส้นยืดสายกันจริงจังเสียที

ไกด์พาเรามาหยุดที่ Peter and Paul Fortress ในบริเวณ Petrogradskaya
Peter and Paul Fortress นั้น ปีเตอร์เป็นคนสั่งให้สร้างขึ้นเมื่อ 27 พค 1703 เพื่อฉลองการสร้างเมืองใหม่ คือ St. P
ณ ป้อมปราการนี่เอง นักโทษการเมืองมากมายได้มาถูกคุมขังอยู่
จนร่ำลือกันว่า ป้อม Peter and Paul นั้นเปรียบเสมือน Russian’s Bastille ดีๆนี่เอง


นักโทษกิติมศักดิ์คนแรกก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น Aleksey ลูกชายคนโตของปีเตอร์

Aleksey ถูกแม่คือพระนาง Eudoxia เลี้ยงมาให้เกลียดพ่อ เพราะทั้งสองบาดหมางกัน
การแต่งงานของทั้งสองถูกจัดขึ้นโดยปีเตอร์ไม่เต็มใจ และล้มเหลวไม่เป็นท่า
ปีเตอร์นั้นได้ส่งมเหสีของตนเข้าไปอยู่ในคอนแวนต์เพื่อที่จะได้มีมเหสีใหม่ สร้างความโกรธเคืองแก่ Aleksey ยิ่งนัก

นอกจากความเกลียดชังส่วนตัว ทั้งสองยังขัดแย้งกันด้วยเรื่องการเมือง
อย่างที่เราทราบกันแล้วก็ปีเตอร์หัวก้าวหน้า เป็นนักปฏิรูปตัวยง
ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีขุนนางหลายฝ่ายที่ยังคงค่านิยมแบบเก่าไม่เห็นด้วย
Aleksey ซึ่งถูกเลี้ยงมาอย่างอนุรักษ์นิยมก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน และได้รับการสนับสนุนจากเหล่าขุนนางหัวเก่า
ปีเตอร์กลัวลูกชายสร้างความกระด้างกระเดื่องจึงจับมาขังไว้ที่นี่
และหลังจากที่มีเบาะแสว่าลูกชายคิดกบฏ ปีเตอร์จึงได้มีคำสั่งประหารลูกชายด้วยตนเอง
เรื่องนี้จบลงอย่างน่าเศร้าและทำให้ชีวิตของลูกชายคนเดียวที่ยังรอดอยู่ของปีเตอร์จบสิ้นลง

รูปจากด้านนอกของ Cathedral of SS Peter and Paul

ด้านในของ Cathedral of SS Peter and Paul นั้น เราจะเห็นเสาลายหินอ่อน และโคมไฟระย้า งดงามหมดจด
โบสถ์นี้แม้จะเป็นโบสถ์ orthodox แต่กลับตกแต่งตามสไตล์บารอค
รูปตามผนังและเพดานเป็นภาพวาดบนผืนผ้าใบแทนที่จะเป็นเฟรสโก แถมประดับประดาด้วยเทพองค์น้อยๆ (putti)อีกด้วย

โบสถ์นี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นโบสถ์ที่ตั้งของสุสานของพระศพของราชวงศ์โรมานอฟ
ที่เห็นโลงศพนั้น ตัวพระศพจริงจะถูกฝังอยู่ใต้ผืนดินในตำแหน่งใต้โลงศพ

ในโบสถ์มีสุสานของราชวงศ์อยู่ถึงสิบสามพระองค์ด้วยกัน นับตั้งแต่ปีเตอร์ลงมา
เรื่องราวการผลัดเปลี่ยนอำนาจนั้นเข้มข้นมาก
เราเลยเหมือนถูกจับเรียน crash course ประวัติศาสตร์ราชวงศ์โรมานอฟไปโดยปริยาย

เรื่องเริ่มตั้งแต่การที่ปีเตอร์สั่งประหารลูกชายและทายาทคนสุดท้ายของตน
รัชกาลถัดมาจึงฝืนขนบธรรมเนียมโดยการให้ผู้หญิงขึ้นครองราชย์ ซึ่งตำแหน่งตกอยู่กับจักพรรดินีของปีเตอร์หรือ Catherine นั่นเอง
ที่เธอมีตำแหน่งเป็นถึงจักรพรรดินีนั้น เป็นเพราะปีเตอร์รับวัฒนธรรมยุโรปเข้ามา
ตั้งแต่การสถาปนาตัวเองให้มีตำแหน่ง "the Great, Father of His Country, Emperor of All the Russias"
ปีเตอร์รักมเหสีองค์ที่สองคือ Catherine มาก จึงได้สถาปนาให้เธอมีตำแหน่ง Empress

ต่อจาก Catherine ที่หนึ่ง บัลลังก์ก็ตกมาอยู่ที่ Peter II ซึ่งครองราชย์อยู่ได้เพียงสี่ปีก็เสียชีวิตด้วยโรคฝีดาษ
จากนั้น บัลลังก์จึงตกอยู่ในมือของผู้หญิงอีกครั้ง เริ่มจาก Anna มาจนถึง Elizabeth ลูกสาวของ Peter the Great  

หมดจาก Elizabeth แล้ว Peter III หลานชายของ Peter the Great ก็ได้ขึ้นครองราชย์
แต่กลับถูกลอบปลงพระชนม์โดยแผนการอันแยบยลของมเหสีของตน
ก่อนที่พระมเหสี Catherine เจ้าหญิงจากประเทศเยอรมัน จะสถาปนาตนขึ้นครองราชย์แทน
Catherine II เป็นที่รักของชาวรัสเซีย และได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศรัสเซีย จนได้รับขนานนามเป็นมหาราช หรือ Catherine the Great  
ซึ่งเธอเป็นเพียงคนที่สองในประวัติศาสตร์รัสเซีย ต่อจาก Peter the Great ที่ได้สมญานามนี้มาครอง

เมื่อสิ้น Catherine ลูกชายของเธอ Paul I ก็ได้ขึ้นครองราชย์ ก่อนจะถูกลอบปลงพระชนม์ในพระราชวังของตนเอง
จากนั้นจึงเป็นช่วงของลูกชายทั้งสอง Alexander I และ Nicholas I ที่ได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา
ลูกชาย Nicholas I คือ Alexander II นั้นขึ้นครองราชย์เป็นรายถัดไป ก่อนจะถูกลอบปลงพระชนม์อีกเช่นเคย
บัลลังก์จึงตกเป็นของ Alexander III ลูกชาย

ขอบคุณสำหรับรีวืวครับ ประเทศในฝันผมเลย

เมื่อ Alexander III เสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วนด้วยโรคไต Nicholas II ถูกอัญเชิญให้ขึ้นครองราชย์ แต่พระองค์ปฏิเสธเนื่องจากเกรงกลัวการถูกลอบปลงพระชนม์ แต่ในที่สุดก็ขึ้นครองราชย์
ด้วยความที่บุคลิกอ่อนแอ พระองค์ไม่สามารถปกครองอย่างเด็ดขาดได้ ทำให้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
นอกจากนี้การที่พระองค์มีมเหสีชาวเยอรมันก็ทำให้เกิดความร้าวฉานในยามสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

หลังการปฏิวัติพระองค์สละราชย์บัลลังก์ น้องชายของพระองค์คือ Grand Duke Michael Alexandrovich นั้นปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งต่อ
ถือเป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์โรมานอฟ

ครอบครัวของ Nicholas II ถูกจับขังอยู่ใน Alexander Palace อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะถูกย้ายไปขังอยู่ที่ Ipatiev House ที่ Yekaterinburg
ในที่สุดกบฏบอลเชวิกก็ตัดสินใจที่จะไม่เก็บราชวงศ์ไว้เป็นเสี้ยนหนาม
ครอบครัวของ Nicholas II ถูกต้อนมารวมกันโดยถูกหลอกว่าจะนำไปถ่ายรูปเพื่อยืนยันว่าครอบครัวพระองค์ยังมีชีวิตอยู่
เมื่อมารวมกันแล้ว เหล่ามือสังหารก็เข้ามากราดยิง

เล่ากันว่า เนื่องด้วยฉลองพระองค์เต็มยศของสาวๆตามไปด้วยเพชรนิลจินดา โดยเฉพาะรัดทรง corset ด้านใน กระสุนจึงเจาะไม่ทะลุ
มือสังหารเปลี่ยนมาใช้มีดแทน แต่ก็แทงไม่เข้าเช่นกัน
จนในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจใช้วิธีจ่อยิงที่ศีรษะอย่างโหดเหี้ยม

พระศพของครอบครัวของ Nicholas II ถูกขุดพบ แต่กลับขาดพระศพของโอรสธิดาไปสองคน จนทำให้เกิดเสี่ยงร่ำลือถึงความเป็นไปได้ที่ทั้งสองจะหลบหนีการฆาตกรรมอันโหดร้ายไปได้
อย่างไรก็ดี ในปี 2007นักโบราณคดีค้นพบโครงกระดูกอีกสองชุดห่างไปไม่ไกล
จากการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าเป็นโอรสธิดาที่ขาดหายไปจริง
พระศพของทั้งครอบครัวรวมทั้งคนสนิทที่ถูกประหารไปด้วยกันในวันนั้นได้ถูกนำมาฝังไว้นะห้องด้านหนึ่งใน Cathedral of SS Peter and Paul นี้เอง

ออกจาก Cathedral of SS Peter and Paul มา เราก็วกกลับมาลุยเมืองกันต่อ
เริ่มจากโบสถ์สวยๆที่ชื่อ Smolny Convent of the Resurrection (Voskresensky)
โบสถ์นี้ Elizabeth ตั้งใจว่าจะมาอยู่หากไม่ได้ขึ้นครองราชย์
แต่แม้เธอขึ้นครองราชย์แล้ว เธอก็ยังคงหมั่นทำนุบำรุงอยู่เสมอ

สถาปัตยกรรมแบบยุโรปอันตื่นตาก็ยังมีมาให้เห็นเรื่อยๆ
State Russian Museum หรือที่เคยชื่อ Russian Museum of His Imperial Majesty Alexander III
นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมศิลปะของรัสเซีย (Russian Arts) ไว้มากมาย

ตลอดเส้นทางถนนเส้นหลักของเมืองหรือ Nevsky Prospekt นั้นก็ดูยุโรปและดูทันสมัยมาก

โชคดีที่วันที่เรามาถึงนั้นเป็นวันเสาร์
ไกด์บอกว่า ถนนเส้นนี้ วันธรรมดานั้น รถติดไม่ขยับกันเลยจริงๆ

รออ่านๆ ข้อมูล+เนื้อหา ปีัก มากเลย
จุดประกายที่เที่ยวใหม่ๆ อีกแล้ว

รออ่านนะค้าา

และแล้วเราก็มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ นั่นคือ Church of the Resurrection (Saviour on Spilled Blood)
โบสถ์นี้เสมือนเป็นออร์เดิร์ฟ ก่อนที่เราจะไปเจอความแรงแบบจัดเต็มของ St. Basil ที่มอสโคว์ ซึ่งเป็นต้นแบบ

ที่ชื่อโบสถ์ดูสยองขวัญขนาดนี้ เป็นเพราะถูกสร้างขึ้นทับบริเวณที่ Alexander II ถูกลอบปลงพระชนม์
ก่อนที่จะมาสวรรคตที่นี่พระองค์เคยถูกพยายามลอบปลงพระชนม์มาแล้วหลายครั้ง รวมเป็นแปดครั้งด้วยกัน

Alexander III พระโอรสเป็นผู้ริเริ่มสร้างเพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานแด่พระบิดา
ตัวโบสถ์ประดับประดาด้วยหินมีค่ามากมาย ไพฑูรย์ เพทาย รวมถึง Jasper และ Rhodonite

ไม่น่าเชื่อว่าวันแรก ผ่านไปแค่สี่ชม พวกเราจะเก็บแต้มกันได้มากมายก่ายกองขนาดนี้
ร่ำลาคุณไกด์แล้วพวกเราก็จรลีไปดูบัลเลต์ยามราตรีทันใด


รายการบัลเลต์แห่งค่ำคืนนี้ขอนำเสนอเรื่องราวความรักของสาวน้อยผู้ถูกสาบกับชายหนุ่มผู้กล้า
เรื่องนี้ชื่อ Shurale นำแสดงโดยคณะบัลเลต์ Mariinsky ซึ่งดังเป็นอันดับต้นๆของโลก

สถานที่แสดงก็ขลังใช่ย่อยคือ Mariinsky Theater ซึ่งเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1860

ภายในโรงละครนั้นโอ่อ่า ตกแต่งสวยงามอลังการ
ตรงกลางชั้นสองมี Tsar Box สำหรับเวลาบุคคลสำคัญมาเข้าชม
ส่วนสามัญชนอย่างเราก็นั่งชั้นสูงๆชะเง้อคอดูกันไป

งานนี้เตรียมตัวมาพร้อมเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นการจองออนไลน์และพรินท์เอกสารมาอย่างครบถ้วนเพื่อมาแลกตั๋วก่อนเข้าชม
อย่าลืมนำบัตรเครดิตใบที่ใช้จองเป๊ะๆมาด้วยล่ะค่ะ

บัลเลต์คณะนี้ เก่งสมราคาคุยจริงๆ  ตัวเอกนี่ฝีมือเนี๊ยบกริบ

นางเอกที่ถูกสาบเป็นนกนี่กระพือปีกพลิ้วมาก แยกได้เลยว่าตอนไหนใส่ปีก ตอนไหนไม่ใส่
ส่วนปีศาจก็ทำได้เหมือน Grinch มาก แถม choreograph ท่าประหลาดหงิกๆงอๆได้อย่างเท่ห์

บางฉากก็อัดแน่น cast ใหญ่โต เสริมความยิ่งใหญ่อลังการ
ส่วนเราที่เดินทางเหน็ดเหนื่อยกันมานานก็ผลัดกันนั่งสัปหงกกันคนละทีสองที

คุณพี่ติดใจความที่เรื่องนี้จัดฉากกึ่งแนวตะวันออก อารมณ์ประมาณเมือง Kazan ที่เรากำลังจะไป
(ตอน premiere ก็ที่ Kazan)

สวยงามคุ้มราคามากมาย

http://www.mariinsky.ru/en/playbill/playbill/2011/5/8/1_1130/

ออกมาก็ดึกแล้ว แต่ตะวันยังเพิ่งยอแสง
เดินกลับโรงแรมเองได้ไม่รู้สึกอันตรายแต่อย่างใด
แถมยังมีกะใจถ่ายรูปกันต่อตามทางอีกต่างหาก

ปิดท้ายด้วยรูป Yusupov Palace ค่ะ รับรองว่าจะพามาเที่ยวในตอนหน้าแน่นอน
อย่าลืมติดตามกันนะคะ

ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆและรายละเอียดค่ะ จะติดตามต่อไป

กำลังจะไปรัสเซียช่วง 20 -31 July นี้ค่ะ ไป St.Petersburg 22-25 ใช้บริการรถเช่า กับน้องพาเที่ยวค่ะ
ได้ที่เที่ยวเพิ่มอีกแห่งจากกระทู้นี้ Smolny Convent of the Resurrection ขอบคุณนะคะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ^^

ตามไปเที่ยว ด้วยคน. มองไปทางไหนดูยิ่งใหญ่ไปหมด

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รอติดตามตอนต่อไปอยู่ครับ

อยากไปบ้างจัง  ไว้รอชมต่อครับ

review ได้สนุกจริงๆครับ โดยเฉพาะท่อนที่เอาเรื่องราชวงศ์ของรัสเซียมาย่อยให้คนอ่านรีวิวเสพ ชอบมากๆ รอชมตอนหน้าต่อนะครับ

สนุกและได้ความรู้ด้วยรอตอนต่อไปค่ะ

เป็นประเทศในฝันอีกหนึ่งประเทศ

เห็นรีวิว แล้วก็ยิ่งอยากไป

แต่ตอนนี้ขอชมรีวิวก่อนนะคะ

อีกนานกว่าจะไป...ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

ตามมาเที่ยวและย้อนรำลึกถึงความหนาวเย็นด้วยครับ

เป็นเมืองที่สวยงามอลังการมากๆครับ....

 

ไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ข้อมูลแน่นปึกเลย ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ แบบนี้นะคะ มีเนื้อหาให้ศึกษาเพียบเลยค่ะ

ดูรูปพร้อมอ่านรายละเอียดแล้วอยากไป  รอชมรีวิวอีกนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ  

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ  สวยงามใหญ่โตไปหมดเลยนะคะ เราก็อยากไปเที่ยวค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ยอดเยี่ยมมากครับ

ขอบคุณครับ

ไม่ค่อยได้เห็นรีวิว  รัสเซีย ซักเท่าไหร่... 

รีวิวสวยมากค่ะ

@  สนุกมากครับ..ขนาดข้อความเยอะๆ ยาวๆ ขนาดนี้
    อ่านได้ไม่เบื่อเลยครับ...ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

รัสเซียเป็นหนึ่งประเทศในฝัน ต้องไปให้ได้

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

ขอบคุณนะคะ
รีวิวละเอียด ภาพสวยมากค่ะ
อยากไปบ้างจัง

แค่อ่านสถานที่ที่ไปก็น้ำลายหกเลอะโน้ตบุคแล้วครับ
ดูแล้วอยากตามรอยอย่าง จขกท จริง ๆ
ขอบคุณสำหรับรีวิวเยี่ยม ๆ แบบนี้นะครับ

สวยดี  ขอบคุณสำหรับรีวิวและภาพสวยๆ นะครับ

ภาพสวยและข้อมูลละเอียดดีมากๆเลยครับ

รอติดตามตอนหน้าต่อนะครับ

เก็บแต้มได้มากจริง ๆครับ นับถือเลย และ ประวัติย่อของสถานที่ต่าง ๆ ก็เขียนได้ใจความเข้าใจง่ายดีครับ ไปเก้าวันเหมือนกันแต่ไปได้แค่สามเมืองเองครับ

ตอนต่อไปมาแล้วค่า

{ Mneme in Russia } เก้าวันตระการตากับประเทศรัสเซีย 2: Veliky Novgorod - The Greater Newtown
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10765741/E10765741.html

ขอบคุณสำหรับรีวิวข้อมูลแน่นปึ้ก ที่อ่านแล้วน่าติดตาม ไม่เบื่อเลยค่ะ
รูปสวยมาก ถึงมากที่สุด ขอมาเก็บข้อมูลไปตามรอยด้วยคนนะคะ  
จะไปช่วง 25 กค - 5 สค นี้อ่ะค่ะ

ขอบคุณมากๆ นะคะ และจะรอตามเที่ยวต่อค่ะ