สวัสดีครับ หลังจากที่ห่างหายไปนานหลายสัปดาห์ 
เนื่องจากเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ผมได้มีโอกาสไปกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิได้เกือบ 3 เดือนพอดี
ผมเพียงอยากจะบอกว่า ตอนนี้ญี่ปุ่น พร้อมแล้วทีจะให้นักท่องเที่ยวกลับไปเที่ยว แม้ว่าความเสียหายอาจจะยังมีอยู่ในพื้นที่ที่ประสบภัย
แต่พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างกรุงโตเกียว และเมืองใกล้เคียง รวมไปถึงเมืองใหญ่ทางตอนใต้ ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร
ส่วนตัวผมมีโอกาสไปญี่ปุนในช่วงซากุระ ปี 2553 และในครั้งนี้
เมือเปรียบเทียบกัน ผมแทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง
นอกจากอุณหภูมิที่ต่างกันสุดขั้ว (ไปช่วงซากุระ อุณหภูมิที่โตเกียว 8 องศา แต่ไปทริปนี้ หน้าร้อน อากาศร้อนเหมือนเมืองไทยเด๊ะๆ)
แต่อย่างอื่นก็รู้สึกเหมือนเดิม อาหารการกินก็กินกันเหมือนเดิม
ญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นญี่ปุ่น ที่น่ารัก และยังสมกับสโลแกนว่า
Japan : Endless Discovery หรือ ไปญี่ปุ่นกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ (จริงๆ)
---------------------------------------------------------------------------
สำหรับทริปนี้ แน่นอนครับว่า ผมเดินทางไปญี่ปุ่นกับสายการบินแอร์เอเชีย สายการบินที่ใครๆ ก็บินได้ แต่ต้องจองข้ามปี ตามสโลแกน
จองชาตินี้บินชาติหน้า อย่างที่ชาว Blueplanet รู้จักกัน (หางแดงอาจจะแอบเคืองอยู่ แต่เป็นสัจธรรมครับ ของถูกก็ต้องรีบสอย ของดีมีไม่มาก ช้าก็อด หมดจริงอะไรจริง)
โปรโมชั่นตัวที่ผมใช้เดินทาง ... เป็นโปรโมชั่นเปิดเส้นทางครับ
เปิดจองเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553 เวลา 10.00 น.
มีที่นั่งราคา 99 ริงกิต (หรือ 1,090 บาท ไป-กลับ 3,000 บาท/คน) เพียงแค่ 1,000 ที่นั่งเท่านั้น ... พอเวลา 9.50 น. ผมเปิดหน้าจอง เตรียม search เส้นทาง Kuala Lumper - Haneda ไว้แล้ว พอ 10 โมงปุ๊บ กด update อีกทีนึง ราคาโปรโผล่ ก็กดจองทันที ก็เลยได้มา ... ทราบว่า 10.30 น. ที่นั่งโปรโมชั่น 1,000 ที่นั่ง หมดลงไปอย่างรวดเร็ว
โปรโมชั่นตัวนี้จึงเป็นโปรโมชั่นในตำนาน ที่ไม่เคยมีถูกไปกว่านี้อีก เพราะภายหลังจากโปรฯ ตัวนี้ออกไป เส้นทาง กัวลาลัมเปอร์-ฮาเนดะ ก็ได้รับความนิยมสูงมาก ตั้งแต่เปิดบินไฟล์ทปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2553 ก็ไม่เคยมีโปรโมชั่นอีกเลย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์สึนามิ ที่แขกมาเลย์เองก็ยังกลัวกัมมันตภาพรังสีและแผ่นดินไหว ถึงขนาดในช่วงแรกๆ เที่ยวขากลับยอม stop over แวะที่ไทเป ส่งให้ลูกเรือค้างคืนที่ไทเป (บินแบบ KUL-HND-TPE-KUL) แทนที่จะนอนที่โตเกียวเลยทีเดียว (ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นปัญหาด้านการเดินทางด้วยเช่นกัน)
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ ... ผู้โดยสารลดลงอย่างมาก
จนน่ากลัว ปริมาณ Load Factor ที่เต็มเอี๊ยด ก็ว่างเพียบ เครื่องโล่งน่ากลัว จนแอร์เอเชียต้องออกแคมเปญ To Japan with Love
ก็ลองคิดดูนะครับ ถ้าไม่ with Love มีหวังแอร์เอเชียต้องปิดเส้นทางฮาเนดะเป็นแน่แท้ ด้วยการออกโปรโมชั่น 199 ริงกิต (ไป-กลับจากกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 5,xxx บาท) ก็ทำให้ผู้โดยสารกลับมาคึกคักพอสมควรทีเดียวครับ ....
---------------------------------------------------------------------------
กระทู้นี้ ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูลสำหรับใครที่จ้องจะสอยโปรโมชั่นแอร์เอเชีย บินแบบอ้อมๆ ไปแวะที่กัวลาลัมเปอร์ ก่อนไปญี่ปุ่นครับ ถึงแม้จะบินอ้อม แต่ถ้าสอยได้ตั๋วถูก ไป-กลับ ถูกกว่าหลักหมื่นก็คุ้มอยู่เช่นกัน สำหรับโปรโมชั่น Big Sale งวดหน้า ตามฤดูกาลอยู่ช่วงเดือน สิงหาคม ใกล้ๆ กับวันแม่นะครับ สนใจก็เตรียมเก็บเงินเก็บทองหาข้อมูล เตรียมบินปีหน้ากันได้เลย
(แต่สำหรับใครที่จะบินเร็วๆ นี้อยู่แล้ว โปรดตรวจสอบราคากับสายการบินอื่นด้วยครับ เพราะปัจจุบันเส้นทางญี่ปุน ราคารวมภาษีก็นับว่าไม่แพงเท่าแต่ก่อนครับ ยอมจ่ายแพงกว่าแต่บิน Direct Flight พร้อมบริการ Full Service ย่อมคุ้มค่ากว่าครับ)
เที่ยวบินแบบ Fly-Thru จากไทย ต่อแอร์เอเชียเอ๊กซ์สบายๆ
จองรวดเดียวจากกรุงเทพ ถึง ฮาเนดะ เช็คอินครั้งเดียว โหลดกระเป๋าทีเดียว รับกระเป๋าที่ปลายทาง ไม่ต้องผ่าน ตม.มาเลย์
กรุงเทพ - กัวลาลัมเปอร์ AK735 10.00 - 13.05 น.
เชียงใหม่ - กัวลาลัมเปอร์ AK763 9.10 - 12.45 น.**
กัวลาลัมเปอร์ - ฮาเนดะ D7 2682 14.40 - 22.30 น.
ฮาเนดะ - กัวลาลัมเปอร์ D7 2683 23.45 - 6.30(+1)น.
กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพ AK734 8.25 - 9.30 น.
**สำหรับเที่ยวบินจากเชียงใหม่ ไม่เข้าร่วมโปรแกรม Fly-Thru ผู้โดยสารต้องรีบผ่าน ตม.ไปรับกระเป๋าและโหลดกระเป๋าใหม่ด้วยตนเอง
[27 มิ.ย. 54 01:50:55
]
## ขออนุญาตประชาสัมพันธ์นิดนึงครับ ##
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมเป็นหนึ่งในนักรีวิวในโครงการ Thailand Boutique Awards 2011 หรือโครงการประกวดสุดยอดโรงแรมบูติก ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดโดย บริษัทบัตรกรุงไทยจำกัด (มหาชน) และ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะรู้จักจากกิจกรรมในปีที่แล้ว ที่มีนักรีวิวหลายๆ ท่านได้รับเกียรติไปทำรีวิวโรงแรมหลายๆ แห่ง
และก็ทำกระทู้ลงใน Blueplanet หลายกระทู้ร้อนแรงมาก อาทิเช่น เจ๊ผักอ้วนกับศรีพันวา แต่ก็ไม่วายโดนเรื่องประเด็น [SR] จนกระทู้แนะนำโดนลบไป ปีนี้คงจะไม่เป็นปัญหา เพราะมีหมวด [SR] ให้เลือกอย่างชัดเจน และทางทีมงานก็บอกเองว่าถ้าไม่บ่อยจนเกินไปก็ไม่มีปัญหาอย่างใด
ในครั้งนี้ พันทิปเองก็ได้มีส่วนเข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วยครับ โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมเป็นนักรีวิวในโครงการนี้ จะได้เข้าทำ Workshop กับ คุณวันฉัตร เจ้าของ Pantip.com และ คุณชายไม้ชานเขา นักรีวิวโรงแรมขั้นเทพชื่อดัง ที่ทุกท่านรู้จักกันดีครับ และก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้นักรีวิวหน้าใหม่ ที่มีผลงานดีๆ ได้มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมโครงการ
ซึ่งแน่นอนว่า โครงการนี้ เป้าหมายสำคัญก็คือ เพื่อช่วยเหลือโรงแรมบูติก ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดกลางถึงเล็ก ให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น โดยใช้สื่อกลางอย่าง Social Network อย่างเว็บบอร์ดต่างๆ นั่นเองครับ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและสมัครเป็นนักรีวิวได้ตามลิ๊งค์นี้ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้นครับ
http://2011.thailandboutiqueawards.com/AdmissionBloggersDetail.aspx
[27 มิ.ย. 54 01:59:42
]
ตามหมอยุ่ง ไปเที่ยว ด้วยคน
จากคุณ : tummeng_in
[27 มิ.ย. 54 02:19:45
]
กิฟท์หมด...เดี๋ยวต้นเดือนมาแจกให้รีวิวในตำนานอันนี้นะครับ
[27 มิ.ย. 54 02:21:22
]
## ว่าด้วยเรื่องวีซ่าญี่ปุ่น ##
ทุกท่านต่างทราบดีกว่า คนไทยจะไปญี่ปุ่นได้นั้น จะต้องทำวีซ่าญี่ปุ่นก่อน ซึ่งสำหรับท่านที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพ และภาคอื่น
(ยกเว้นภาคเหนือ 9 จังหวัดตอนบน) ท่านจะต้องยื่นวีซ่าผ่านบริษัท VFS (เหมือนกับการยื่นวีซ่าออสเตรเลีย) ดังรายละเอียดในลิ๊งค์นี้ครับ
http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/
ส่วนผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และอีก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน สามารถยื่นวีซ่าได้ที่ สถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ที่อาคารแอร์พอร์ต บิสิเนสพาร์ค ด้วยตนเอง
เปิดให้บริการ จันทร์-ศุกร์ ยื่นวีซ่าตอนเช้า 8.30-11.30 น.
และรับพาสปอร์ตคืนเวลา 13.30 -16.30 น. (โปรดตรงเวลาเป๊ะๆ)
สำหรับที่เชียงใหม่ ยื่นเรื่องวันจันทร์เช้า สามารถรับเล่มคืนวันพุธได้เลยครับ หากเตรียมเอกสารเรียบร้อยก็ไม่มีปัญหาอย่างใด แต่ถ้าเอกสารเตรียมมาไม่พร้อม เรียงมาไม่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะไม่รับเรื่องครับ (ตอนนี้เจ๊เขี้ยว แห่ง สถานกงศุลญี่ปุ่นเชียงใหม่ เธอยิ้มได้แล้วนะครับ วันที่ผมไปยื่นเรื่อง เธอก็ยิ้มให้ผม ดูเป็นมิตรกว่าแต่ก่อนเยอะเลย)
ค่าทำวีซ่าอยู่ที่ 1,100 บาท ครับ สำหรับการยื่นผ่าน VFS มีค่าบริการ 535 บาท (ระยะเวลารอรับเลมคงต้องใช้เวลานานกว่าที่เชียงใหม่แน่ๆ)
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์สถานกงศุลญีปุ่นครับ (สำหรับคนเชียงใหม่ที่ยื่นเรื่องเองก็ลองไปดูได้เลย)
http://www.chiangmai.th.emb-japan.go.jp/thai/d/vsd.html
หลักๆ ที่ต้องเตรียมก็คือ
1. กรอกแบบฟอร์ม และแบบสอบถามให้เรียบร้อย
2. รูปถ่าย 2x2 นิ้ว ฉากขาว มาตรฐานวีซ่าญี่ปุ่น
3. พาสปอร์ต ที่มีอายุเหลืออยู่มากกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทาง และมีหน้าว่างเหลืออยู่ พร้อมพาสปอร์ตเล่มเก่าๆ มีกี่เล่มเอามาให้หมด
4. ทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อม สำเนา
5. เอกสารรับรองการทำงาน/การศึกษา ของตนเองหรือผู้อุปการะ
เพื่อยื่นยันว่า ข้าพเจ้ามีอะไรที่ต้องทำในเมืองไทย ไม่หนีไปเป็นโรบินฮู๊ดที่ญี่ปุ่นแน่นอน ....
(สำหรับ นักเรียน/นักศึกษา ให้ขอ ใบรับรองการศึกษาจากสถานศึกษาที่ตนเรียนอยู่ และให้พ่อแม่เตรียม statement รับรองด้วย)
(สำหรับคนทำงาน ใบรับรองการทำงาน จะต้องระบุด้วยว่า อนุญาตให้ลางานเพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ และพนักงานมีอายุงานเท่าไหร่ เริ่มร่วมงานมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่เดือนอะไรปีอะไร เป็นต้น)
(สำหรับเจ้าของธุรกิจส่วนตัว เตรียม ใบสำคัญ และหนังสือรับรองการจดทะเบียนธุรกิจ ตัวจริงและสำเนาไปด้วย)
6. สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมสำเนา ที่มีรอยประทับตราสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือ ใบแจ้ง Statement ยืนยันการมีเงินฝากกับธนาคาร (สำหรับนักเรียน/นักศึกษา หรือ แม่บ้าน หรือ ผู้ที่ยังไม่มีรายได้ ให้ใช้ของผู้อุปการะ)
7. สำหรับผู้ที่ไปครั้งแรก ในบางทีเจ้าหน้าที่อาจจะให้เขียนแผนการเดินทางคร่าวๆ ว่าจะไปทำอะไรที่ไหนอย่างไรบ้างด้วยเช่นกันครับ (อันนี้สำหรับยื่นที่เชียงใหม่นะครับ ที่กรุงเทพ ยื่นผ่าน VFS ผมไม่แน่ใจ)
ถ้าวีซ่าอนุมัติ ผู้ที่ยื่นวีซ่าแบบเต็มขั้นแบบนี้ จะได้รับสิทธิ์เข้าไปพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้สูงสุด 90 วันแบบ Temporary Visitor ซึ่งสามารถซื้อบัตร Japan Rail Pass ได้ครับ
--------------------------------------------------------------------------
## ทางลัดสำหรับผู้ที่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน ##
สำหรับผู้ที่เคยไปญี่ปุ่นในช่วงเวลาไม่เกิน 3 ปีที่ผ่านมา
โดยที่ครั้งสุดท้ายพำนักในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน
สามารถยื่นวีซ่าญี่ปุ่นแบบ Short Term Repeater
ซึ่งจะได้รับสิทธิ์พำนักในประเทศญี่ปุ่นได้เพียงแค่ 15 วันเท่านั้น (สำหรับผมนี่ก็ว่าเหลือหลายแล้ว) เอกสารที่ใช้ก็หดหายไปหลายอย่าง ที่แน่ๆ "ไม่ต้องแสดง ทะเบียนบ้าน และ ไม่ต้องใช้ Statement หรือสมุดบัญชีธนาคารใดๆ ทั้งสิ้น"
(เรื่อง Short Term Repeater มีเอกสารและการยืนยันจากเจ้าหน้าที่สถานกงศุลญี่ปุ่นเชียงใหม่ครับว่า อนุญาตให้พำนักในญี่ปุ่นได้เพียง "15 วัน" เท่านั้น)
รายละเอียดและเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่นแบบ Short Term Repeater อยู่ตามลิ๊งค์นี้เลยครับ
http://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/visastr.htm
สำหรับตัวผม ผมจึงใช้เอกสารเพียงแค่ ...
แบบฟอร์มขอวีซ่า, รูปถ่าย 2x2 นิ้ว, แบบสอบถาม, พาสปอร์ต, ใบสำคัญและหนังสือรับรองการจดทะเบียนธุรกิจ เท่านั้นเองครับ ผ่านฉลุย อีก 2 วันมารับเล่ม พร้อมเตรียมเงิน 1,100 บาทมาจ่ายค่าวีซ่าได้เลย
สำหรับคุณเธอ ซึ่งเดินทางไปญี่ปุนเป็นครั้งแรก ก็จะมีเอกสารมากกว่าผมนิดหน่อย ก็ตรงที่ ทะเบียนบ้านตัวจริง และ สำเนา กับ ใบแจ้ง Statement และ สมุดบัญชีธนาคาร (ตัวจริง และสำเนา) แสดงให้กับเจ้าหน้าที่ ก็เท่านั้นเองครับ วีซ่าอนุมัติพร้อมกัน ได้มา 15 วันเหมือนกัน
---------------------------------------------------------------------------------
มาเพิ่มเติมเนื้อหาครับ พอดีนึกถึงบางคำถามที่หลายๆ คนชอบถาม
Q : ขอวีซ่าญี่ปุ่นได้ล่วงหน้าก่อนการเดินทางนานที่สุดเท่าไหร่ ??
A : วีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นมีอายุ 3 เดือนนับจากวันที่ได้รับวีซ่าครับ เราจะต้องเข้าประเทศภายในอายุของวีซ่า (เข้าไปแล้วอยู่ได้ 15-90 วันตามที่ได้รับอนุมัติ) ตัวอย่างเช่น วีซ่าอนุมัติ 22 เมษายน เราจะต้องเข้าญี่ปุ่นอย่างช้าสุดไม่เกินวันที่ 22 กรกฎาคม หรือตามวันหมดอายุในหน้าวีซ่าครับ
[27 มิ.ย. 54 02:21:28
]
สวัสดี ตอนกลางคืนครับ คุณหมอยุ่ง
ขอตามรอย นั่ง Keikyu Line จาก Haneda Airport
ไปเที่ยว Tokyo ด้วยคนนะครับ 
ก่อนที่จะ Oyasuminasai
จากคุณ : Brad Pooh
[27 มิ.ย. 54 02:22:19
]
.
.
ขออนุญาตปาดหน้าครับ^^
.
.
[27 มิ.ย. 54 02:23:09
]
อยากสมัครโครงการที่หมอยุ่งบอก แต่ไม่มี บัตร ktc อดเลย
จากคุณ : tummeng_in
[27 มิ.ย. 54 02:29:07
]
ขอบคุณ อาจารย์หนุ่ม ติวเตอร์ที่ให้คำแนะนำเป็นอย่างดีเสมอครับ และขอบคุณคุณ tummeng_in, เจ๊ sueko และ คุณ Miss_Behaving ที่แวะมาให้กีบครับ
ก่อนอื่น ต้องบอกว่า ช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม ของญี่ปุ่นเป็นหน้าร้อน เป็นหน้าร้อนที่ ... มีฝนตกด้วย เหมือนประเทศไทยเลยครับ
ดังนั้น เสื้อกันหนาวจึงแทบไม่จำเป็นต้องใช้เลย
แตสิ่งที่จำเป็นต้องใช้มากจริงๆ กลับเป็น "ร่ม" ครับ ....
สิ่งสำคัญก่อนออกจากบ้าน ตอนเก็บกระเป๋า อย่าลืมเช็คข่าว
เรืองพยากรณ์อากาศก่อนนะครับ
http://www.weather.com/weather/tenday/Tokyo+Japan+JAXX0085
อย่างช่วงที่ผมไป ก็บอกว่ามีเมฆ แล้วก็มีแดด (แต่ความจริงก็มีฝนเหมือนกัน เจอฝนญี่ปุ่นนี่ก็สนุกเหมือนกันครับ) มีร่มพับไปด้วย
อีกสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน ก็คือเรื่อง "เวชภัณฑ์" หยูกยาจำเป็นครับ อาทิเช่น ยาลดปวดอย่าง Ibuprofen เม็ดสีชมพู เผื่อคุณสุภาพสตรีปวดช่วงนั้นของเดือน หรือดันมาปวดฟัน หรือปวดอะไรพอดีๆ ก็จะช่วยได้ เช่นเดียวกับยาพาราเซตามอล และพวกยาแก้ท้องเสีย ยาอื่นๆ เพราะแน่นอนว่า จะไปหาซื้อที่ญี่ปุ่นก็ลำบากครับ สู้เตรียมเองดีกว่า
## คำเตือนเรื่องสัมภาระ สำหรับผู้ที่จะไปญี่ปุ่นกับแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ##
--> เคาน์เตอร์เช็คอิน แอร์เอเชียเอ๊กซ์ ณ ท่าอากาศยานฮาเนดะ
มีความเข้มมวดต่อ "จำนวนสัมภาระ" และ "น้ำหนักสัมภาระ" เป็นอย่างยิ่ง (มากที่สุดเท่าที่เคยเจอกับหางแดงเลยทีเดียว)
--> "จำนวนสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบิน" อนุญาตให้แค่ "2 ชิ้น" เท่านั้น ชิ้นใหญ่ ชิ้นเล็ก นับหมดครับ ตัวอย่างเช่น
กระเป๋าเป้ 1 ใบ และ กระเป๋ากล้อง 1 ใบ = 2 ชิ้น
กระเป๋า Laptop 1 ใบ และกระเป๋าถือคุณผู้หญิง 1 ใบ = 2 ชิ้น
ส่วนที่เหลือ "จะต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น" ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นไปได้ อาจจะอนุญาตนิดหน่อยเช่นถุงนอน (โผล่ขึ้นมาเป็นชิ้นที่ 3 แต่เจ้าหน้าที่ยอม)
--> "น้ำหนักสัมภาระขึ้นเครื่อง" ชิ้นละไม่เกิน 7 กิโลกรัม สัมภาระทุกชิ้น ไม่ว่าจะโหลดใต้ท้องเครื่อง หรือนำขึ้นบนเครื่อง จะต้องถูกชั่งน้ำหนักครับ ถ้าชิ้นไหนหนักเกิน 7 กิโลกรัม จะต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่องบิน ไม่สามารถติดตัวนำขึ้นเครื่องได้ครับ
สรุปก็คือ .... สำหรับเที่ยวบินขากลับ ฮาเนดะ-กัวลาลัมเปอร์
อย่างไรก็ต้องโหลดกระเป๋าแน่ๆ ครับ ควรซื้อน้ำหนักกระเป๋าเผื่อไว้เลยครับ คิดเสียว่า เหลือดีกว่าขาด เพราะถ้าขาด ท่านจะโดนปรับน้ำหนักส่วนเกิน กิโลกรัมละ 2,000 เยน (ประมาณ 760 บาท)
---------------------------------------------------------------------------
เอาหละครับ ได้เวลาเดินทางกันดีกว่า ....
ด้วยเหตุการณ์สึนามิ แอร์เอเชียเอ๊กซ์จึงให้สิทธิ์ผู้โดยสารที่จองตั๋วฮาเนดะไว้แล้ว เลื่อนเที่ยวบินได้ฟรี 1 เดือนตามใจชอบ หวยก็เลยมาออกที่ต้นเดือนมิถุนายนพอดี จากเดิมตั้งใจจะไปกัน 9 วันก็ลดจำนวนวันลงเหลือแค่ 4 วันก็ไปได้รอบๆ แล้ว และสืบเนื่องจากไฟล์ท AK เส้นทาง CNX-KUL ก็แพงใช้ได้ทีเดียว ผมก็เลยต้องได้บินกับ FD แวะสุวรรณภูมิก่อน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจะได้ใช้เล้าจน์คิงพาวเวอร์ด้วยเช่นกัน
## รายละเอียดการเดินทาง ##
เชียงใหม่-กรุงเทพ : FD3241 22.40-23.50 น. HS-ABM
กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์ : FD3571 7.10-10.15 น. HS-ABE
กัวลาลัมเปอร์-ฮาเนดะ : D72682 14.40-22.30 น. 9M-XXB (A330-300)
ฮาเนดะ-กัวลาลัมเปอร์ : D72683 23.20-6.30(+1) น. 9M-XXD (A330-300)
กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพ : FD3572 10.40-11.40 น. HS-ABR
กรุงเทพ-เชียงใหม่ : FD3230 6.40-7.50 น. HS-ABC
[27 มิ.ย. 54 02:42:27
]
บินไปด้วยนะครับ เด็กเชียงใหม่เหมือนกัน
จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก
[27 มิ.ย. 54 02:54:21
]
การเดินทางเริ่มต้นที่เชียงใหม่
เป็นวันที่ฝนตกหนักมาก ไม่รู้จะตกหนักไปถึงไหน
เราทั้งคู่ไปทำธุระที่ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่แอร์พอร์ต แต่ดันขี่มอเตอร์ไซด์มา ก็เลยต้องขี่มอเตอร์ไซด์ลุยฝน เป็นลูกสุนัขตกน้ำทั้งคู่ กลับมาเก็บของ ฝ่าฝนออกไปเรียกรถแดงไปสนามบิน และสุดท้ายก็วิ่งขึ้นเครื่องแบบเหลือกันอยู่ 3 คนสุดท้าย โดยเครื่องออกก่อนเวลา 10 กว่านาที เรียกได้ว่า ถ้าไม่ทำเว็บเช็คอินมาก่อน ก็คงจะโดนทิ้งไว้ที่เชียงใหม่หล่ะครับ
วันนี้เจอน้อง HS-ABM เจอกันบ่อยแล้วครับ และไฟล์ทดึก FD3241 ก็เป็นไฟล์ทที่คนน้อยโหรงเหรง แต่เค้าไม่ยกเลิก เพราะถือว่าเป็นไฟล์ทเก็บตก และผู้โดยสารจากกรุงเทพมาเชียงใหม่ ก็ยังถือว่าไม่น้อยเท่าไหร่นักครับ เรียกได้ว่า นอนยาวกันคนละ 3 ที่นั่งได้อย่างสบายๆ
ตัดมาที่สุวรรณภูมิเลยนะครับ
ด้วยความที่เราตั้งใจว่าจะไปนอนในเล้าจน์คิงเพาเวอร์อยู่แล้ว ก็เตรียม ใบ ตม. ให้เรียบร้อย กรอกข้อมูลครบแล้วผ่านด่านไปเลย (ไม่ได้ Verify เอกสารครับ) เจ้าหน้าที่อาจจะทักนิดหน่อยก็ไม่ต้องเขิน ว่าแหม จะบินตั้ง 7 โมงเช้า เข้า ตม.ตั้งแต่เที่ยงคืน
ก็จะเข้าไปนอนในเล้าจน์หน่ะครับ มีของกิน มีโซฟาให้นอนยาวได้ แค่นี้ก็สบายแล้วครับ
## FAQ : เรื่องการ Verify เห็นถามกันอยู่บ่อยๆ ##
Q : บินหางแดง ทำเว็บเช็คอิน ไม่มีกระเป๋าโหลด ต้อง Verify เอกสารไหม ??
A : ถ้าเป็นช่วงเวลากลางวันหรือช่วงอื่นที่ไม่ใช่เช้ามืด หรือกลางดึก ก็ควรจะต้องแวะครับ หากไม่ทำให้เสียเวลาจนเกินไป ที่เคาน์เตอร์ E1-E5 ยิ่งเส้นทางที่ต้องมีการตรวจวีซ่าก่อนอย่าง จีน พม่า ควรต้อง Verify ก่อนครับ จะได้ไม่มีปัญหากับเจ๊หงิกในภายหลัง
Q : ถ้าไม่ Verify จะได้ไหม ??
A : ส่วนตัวผม เนื่องจากมีความตั้งใจจะไปนอนในเล้าจน์คิงเพาเวอร์ อย่างไรก็ไม่ได้ Verify อยู่ดี แต่สิ่งสำคัญก็คือ "ต้องเตรียมใบ Itinerary ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน้า Gate ให้ได้แล้วกันครับ" สำหรับเส้นทาง มาเก๊า, ฮ่องกง, สิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ แต่เส้นทางบาหลี หรือ พม่า ถ้าไม่ได้ Verify ไปก่อน จนท.อาจจะต้อง วิทยุกันหัวหมุน เสี่ยงต่อการโดนจิกกัดหรือหงิกใส่มาก
Q : ถ้ามีกระเป๋าโหลดด้วย จะโหลดกระเป๋าตอนดึก แล้วไปนอนในเล้าจน์ได้ไหม ??
A : ตอบได้คำเดียวเลยครับว่า "ไม่ได้ครับ" เคาน์เตอร์โหลดกระเป๋าเปิดตอนเวลา 4.00 น. เท่านั้นครับ ถ้าคุณจะโหลดกระเป๋า คุณก็ต้องรอให้เคาน์เตอร์เปิด พอโหลดกระเป๋าเสร็จแล้วจึงค่อยผ่าน ตม. มาเล้าจน์ครับ แต่ถ้าไม่มีกระเป๋าโหลด ก็ผ่าน ตม. ตรงมาเล้าจน์ได้เลย .....
Q : จะหาใบ ตม.6 (แบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง) ได้จากที่ไหน ??
A : สามารถไปขอกับสายการบินอื่นได้ (แต่อาจจะโดน จนท. สายการบินอื่นถาม) หรือขอกับตัวแทนจำหน่าย เอเจ้นท์ใหญ่ๆ หรือ ขอกับเคาน์เตอร์เช็คอินแอร์เอเชียไว้ก่อนที่จะเดินทาง (ตอนที่เค้าเปิดนะครับ)
[27 มิ.ย. 54 02:56:07
]
## เล้าจน์คิงเพาเวอร์ : บินหางแดง 0 บาทก็เข้าได้ ##
นอกจากจะบิน 0 บาทก็เข้าเล้าจน์ได้แล้ว ยังพักค้างอ้างแรมได้ด้วย เพราะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีคนนอนเป็น 10ๆ คนครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะเหงา เพราะอยู่กันเต็ม เสียงโรงสี(กรน)ดังสนั่นหวั่นไหวทีเดียว
เพียงแสดงบัตรเครดิต SCB Kingpower บัตรทอง ก็เข้าไปนอนในเล้าจน์ Premium ได้แล้ว แต่จริงๆ ผมอยากจะบอกว่า เล้าจน์ธรรมดา จะนอนสบายกว่าโดยเฉพาะบริเวณระเบียงด้านนอก เพราะทุกคนนอนกันหมด นอนกันเป็นสิบๆ คน
ในขณะที่เล้าจน์พรีเมียมเปิดไฟสว่างจ้าตลอด (ควรมีถุงนอนด้วย) และถ้ามีใครเข้ามาก็มักจะชอบเสียงดัง (เสียงดังจริงๆ ดังจนสะดุ้งตื่น ไม่ได้เกรงใจกันเท่าไหร่) ก็ต้องทำใจนิดนึงนะครับ ...
หรือจะทานอาหารในเล้าจน์พรีเมียม แล้วค่อยไปหาโซฟาในเล้าจน์ธรรมดาด้านนอกห้องก็ได้เช่นกันครับ (แต่โซฟาด้านนอก มักจะถูกจับจองกันเต็มไปหมดครับ)
## FAQ : King Power Lounge ##
Q : ทำอย่างไรจึงจะได้เข้าเล้าจน์คิงเพาเวอร์ ??
A : 1. ต้องสมัครเป็นสมาชิก King Power ซึ่งปกติถ้าจำไม่ผิด คิดค่าสมัคร 500 บาทจะได้คูปอง 500 บาทไปซื้อสินค้าใน King Power Duty Free ได้ และได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิกเข้าเล้าจน์ฝั่งธรรมดาได้
2. สมัครบัตรเครดิต SCB King Power ง่ายๆ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ไม่น้อยที่หิวกระหายยอดเร่งทำเป้าอยู่แล้วครับ วิธีการสมัครก็ง่ายๆ ถ้าทำงานประจำเกิน 6 เดือนมีรายได้มากกว่า 18,000 บาทขึ้นไปอันนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้า ไม่มีรายได้ประจำ ก็สามารถสมัครบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำได้เช่นกัน เช่น เปิดบัญชีฝากประจำ 30,000 บาทก็จะได้วงเงินบัตรเครดิต 30,000 บาทและได้บัตรเครดิต SCB King Power บัตรทองด้วยครับ
ทั้งนี้ก็จะได้รับสิทธิ์เข้าเล้าจน์คิงเพาเวอร์ที่สุวรรณภูมิ แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง เพียงแต่ต้องมีบอร์ดดิ้งพาส แสดงเทียวบินขาออกไปต่างประเทศเท่านั้น มาแสดงกับเจ้าหน้าที่หน้าเล้าจน์ เท่านั้นเองครับ ....
Q : สมาชิก 1 คน สามารถพาผู้ติดตามเข้าได้อีกกี่คน ??
A : นำผู้ติดตามเข้าเล้าจน์ได้อีก 2 คน รวมทั้งหมดเป็น 3 คนครับ
Q : เล้าจน์ธรรมดา ต่างจากเล้าจน์พรีเมียมอย่างไร ??
A : หลักๆ ต่างกันที่ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งชนิด คุณภาพ และความหลากหลายครับ และเล้าจน์พรีเมียม มีห้องอาบน้ำด้วย ซึ่งเราสามารถขอชุดผ้าเช็ดตัวเป็น set จากเจ้าหน้าที่ยืมมาใช้ได้ ฟรี
[27 มิ.ย. 54 03:07:41
]
อาหารการกินมื้อดึกก็มีแต่มาม่าครับ แต่ตอนเช้าก็จะมีโจ๊กไก่ร้อนๆ ที่ขอเติมได้ไม่อั้นด้วยเช่นกัน (แต่ส่วนใหญ่เติมซัก 3 รอบ จนท.ก็มองหน้าแล้ว)
ดังนั้น สิ่งที่เห็นในภาพ ไม่ใช่สิ่งที่ผมกินทั้งหมดครับ แฮ่ๆๆ
ปล. ในเล้าจน์ก็มี wi-fi ให้ใช้ฟรีนะครับ ไปขอรหัสผ่านจากเจ้าหน้าที่ได้เลย เรียกได้ว่าครบครันคุ้มค่าครับ
[27 มิ.ย. 54 03:10:49
]
## เรืองการแลกเงินเยน ##
ช่วงที่ผมเดินทาง ค่าเงินเยนแข็งตัวแบบสุดๆ ครับ ...
ตอนที่ผมไปปีที่แล้วแค่ 35.xx บาท/100 เยน
คราวนี้ปาเข้าไป 38.61 บาท/100 เยน
เวลาตีค่าเงินเยนเป็นเงินบาท แต่ก่อนหาร 3 ได้สบาย
ปัจจุบันต้องหารที่ 2.6 ครับ เห็นอะไรก็แพงไปหมดจริงๆ ....
--------------------------------------------------------------------------
โชคดีได้ Gate ใกล้แฮะ
ปกติไฟล์ท FD ตอนเช้าๆมักจะชอบเรียกขึ้นเครื่องกันที่ Gate ตรง Concourse F และ G สุดนู้นเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าถ้าวิ่งจากในเล้าจน์คิงเพาเวอร์ฝั่ง Concourse A ไปแล้วอาจจะมีตับปลิ้นได้ ดังนั้นควรเผื่อเวลาไว้ด้วยนะครับ
ส่วนตัวผม วันนี้โชคดีมากไฟล์ทเช้าไปกัวลาลัมเปอร์ เรียกขึ้นเครื่องที่ Gate D1 เดินมานิดเดียวก็ถึงแล้ว
ผมก็เลยกะเวลาไว้พอดีๆ มาถึงปุ๊บก็ Final Call เลย
เห็นพี่แขกอินเดียลงไปเยอะมากๆ นึกว่าไฟล์ทนิวเดลลีซะอีก
เห็น จนท. บอกว่า ช่วงนี้ชาวอินเดียเดินทางกันเยอะมากๆ เป็นหน้าเที่ยวของเขาครับ
พอขึ้นไปบนเครื่อง ผู้โดยสารเต็ม 100% เป็นชาวอินเดียมากกว่าครึ่ง เหมือนจะยิ่งกว่าไฟล์ทเดลลีอีกหล่ะมั้ง ...
แต่กลิ่นไม่เท่าไหรครับ พอดีง่วงๆ ก็เลยได้นอน แฮ่ๆๆๆ
บ้ายบาย สุวรรณภูมิ เจอกันอีก 5 วันข้างหน้า ....
[27 มิ.ย. 54 03:14:10
]
พอดีสั่งอาหารไว้ครับ .... แอร์เข็นมาแจกตั้งแต่เครื่องไต่ระดับได้ พอดีง่วงจัด ก็เลยขอเคลมทีหลัง
ก็เลยมาเคลมกันช่วง 40 นาทีก่อนเครื่องจะลงครับ อย่าลืมแสดงบอร์ดดิ้งพาสให้เจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ
แอ่นแอ๊น ...
เมนูที่สั่งไปคือ ข้าวมันไก่ย่าง และ สปาเก๊ตตี้ซอสไก่ จากครัวภัตตาคารมีสี อาหาร pre-book จะ มาพร้อมกับน้ำดืมกระปุกเล็กๆ 1 กระปุกครับ
แต่เดิมเคยได้รับสมญานามว่า "ข้าวมันไก่ย่างไหว้เจ้า" มีไก่โปะอยู่ 4-5 ชิ้น
ปัจจุบัน หลังจากเพิ่มราคาแล้ว หน้าตาดูน่าทานขึ้น ปริมาณข้าวไม่เพิ่มเท่าไหร่ มาเพิ่มไก่ก็ยังโอเค แต่ไม่มีน้ำจิ้มให้นะครับ (หรือว่ามีแต่แอร์ไม่ให้ก็ไม่แน่ใจครับ)
ส่วนสปาเก็ตตี้ ส่วนตัวผมคิดว่าก็โอเคอยู่ครับ รสชาติใช้ได้ทีเดียว ... (ด้วยความหิวจัดจึงลืมถ่ายภาพมา)
[27 มิ.ย. 54 03:17:05
]
มีเวลาอยู่ที่ LCCT อยู่ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ครับ
สำหรับผู้โดยสาร Fly-Thru บินข้ามทวีป สามารถเข้าประตูด้านซ้ายมือก่อนขึ้นบันไดเลื่อนได้เลยครับ จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสแกน ตรวจเอกสาร แล้วปล่อยเข้าไปในห้องผู้โดยสารขาออกได้เลย ไม่ต้องผ่าน ตม.มาเลย์อีก แต่พอดีว่าเราจะออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกอยู่แล้วก็เลยขึ้นบันไดเลื่อนไปผ่าน ตม. ครับ
ปัจจุบัน ตม.มาเลย์ ต้องสแกนนิ้วมือด้วย และจะได้สติกเกอร์มี QR Code แบบในภาพครับ คิว ตม. ค่อนข้างยาว ดังนั้นใครมาเปลีย่นเครื่องที่ LCCT แบบเปลี่ยนเองต้องเผื่อเวลากับ ตม. ไว้ด้วยนะครับ
[27 มิ.ย. 54 03:19:13
]
## สำหรับซิมโทรศัพท์มือถือมาเลย์ ##
เท่าที่ดูๆ Tune Talk ค่ายหางแดงนี่หล่ะครับคุ้มสุด โทรกลับไทยแค่ประมาณ 0.17 ริงกิต หรือ 1.7 บาทเท่านั้นเอง
ไม่ต้องกดเบอร์อะไรนำหน้าให้วุ่นวายด้วย
(ถ้าไปมาเลย์กับไฟล์ท AK จะมีซิม Tune Talk ขายในระบบการจองของแอร์เอเชียด้วย สามารถซื้อได้ในราคา 5 ริงกิต มีเงินในระบบพอโทรได้ 5 ริงกิตครับ)
ซิม Tune Talk เป็นซิมแจกฟรีครับ
แต่... บังคับให้เติมเงินด้วย ต้องเติมเงินก่อนจึงจะเอาซิมไปได้ ถ้าซื้อตรง เคาน์เตอร์ทางลงบันไดเลื่อนตรงแยกเลี้ยวขวาไปรับกระเป๋า จะต้องเติมเงินขั้นต่ำ 50 ริงกิต
ในขณะที่ถ้าซื้อเคาน์เตอร์ด้านนอก ตรงปากทางเข้าอาคารตรงโถงกลาง LCCT จะต้องเติมเงินขั้นต่ำ 30 ริงกิตครับ
เรียกได้ว่า ถ้าค่าโทรถูกขนาดนี้โทรได้หลายชั่วโมงเลยทีเดียว
สำหรับใครทีจองตั๋วแอร์เอเชียมาลงมาเลย์อยูแล้ว สามารถซื้อซิม Tune Talk ได้ในขั้นตอนการจองครับ
สำหรับการซื้อต้องลงทะเบียนก่อนโดยใช้พาสปอร์ต ดังในภาพนี้เลยครับ จ่ายเงินเอาซิมมาเสียบใช้งานได้เลย โทรกลับไทยเหมือนอยู่ในไทย
ปล. ผมลองเดินหาซิมเจ้าอื่นทั่ว LCCT แล้วครับ คิดว่า Tune Talk คุ้มสุดแล้ว
[27 มิ.ย. 54 03:24:21
]
ออกมาข้างนอก ก็แวะหาอะไรกินที่ร้านกาแฟ Old Town ก่อน ...
สำหรับวิธีการสั่งของร้านนี้ เราไปนั่งที่โต๊ะ บนโต๊ะจะมีกระดาษให้สั่งอาหาร เราก็เลือกตามเมนูเขียนใส่กระดาษไปเรียบร้อย
แล้วไปเข้าคิว รอสั่งอาหารและชำระเงิน เจ้าหน้าที่จะให้หมายเลขโต๊ะเป็นแท่งมา
แล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาเสิร์ฟอาหารครับ
อาหารที่สั่งทุกทีนั่นก็คือ Nasi Lemak
แต่ส่วนตัวผมก็ยังคงชอบ Pak's Nasi Lemak ของแท้บนเครื่อง AK มากกว่าครับ
และที่ต้องสั่งก็คือพวกขนมปัง คิดถึงร้าน Yakun Kaya Toast ที่สิงคโปร์ขึ้นมาทันที ....
[27 มิ.ย. 54 03:25:54
]
และแล้วก็มาแวะเคาน์เตอร์เช็คอิน ของแอร์เอเชียเอ๊กซ์
ผู้โดยสารค่อนข้างน้อยครับ เรียกได้ว่าเตรียมตัวไปนอนยาวบนเครื่องได้แล้ว สำหรับผู้ที่ยังไมได้เช็คอินล่วงหน้า หรือมีกระเป๋าโหลด ก็เชิญช่องปกติได้เลยครับ
แต่ถ้าผู้ที่ไม่มีกระเป๋าโหลด ก็แค่แวะ Verify เอกสารตรงเคาน์เตอร์สีแดงๆ ได้เลย โดยดูดีๆ นะครับ จะมีเจ้าหน้าที่ 2 จุดคือ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ และ แอร์เอเชียปกติ (AK/FD/QZ)
ไปต่อคิว Verify เอกสารต่อจากคุณผู้หญิงเสื้อขาวได้เลย
ปกติที่ LCCT ไม่ได้เคร่งครัดมากกับเรื่องสัมภาระไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก หรือจำนวนชิ้นครับ แต่ที่ Haneda เคร่งมากๆ ครับ ดังนั้นโปรดจัดสัมภาระให้เรียบร้อย สัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องได้แค่คนละ 2 ชิ้นเท่านั้น
น้ำหนักต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัม ส่วนที่เกินต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่องทั้งหมด
ดังนั้นไฟล์ทขากลับ HND-KUL อย่างไรก็ต้องเลือกโหลดกระเป๋าครับ ไม่โหลดก็คงไม่ได้แน่ๆ เพราะถ้าน้ำหนักไม่เกิน ก็จำนวนชิ้นสัมภาระเกินครับ
[27 มิ.ย. 54 03:27:19
]
ผ่าน ตม. ไปรอข้างในกันนะครับ ...
ตรงด่านปากทางเข้า จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระอยู่ครับ
จำนวนสัมภาระไม่เรื่องซีเรียส ถ้าติดตัวซัก 3-4 ชิ้นเล็กๆ น้อยๆ ก็ให้ผ่านไปได้
แต่น้ำหนักกระเป๋า พี่ท่านจะใช้เกณฑ์ในการพิจารณาแบบไม่ใช้ตาชั่งก็คือ .... พี่ท่านจะยกกระเป๋าหิ้วดูเองครับว่าหนักไหม ให้ผ่านหรือเปล่า ถ้าผ่านก็จะได้ติดสติกเกอร์แบบนี้ครับ
ปล. ลองคิดเล่นๆ นะครับ ผู้โดยสาร 100 คนยกกระเป๋า 100 ครั้ง คงจะ fit & firm มากเลยทีเดียว
[27 มิ.ย. 54 03:28:50
]
เข้าไปนั่งรอข้างใน มีอาหารการกินขายด้วยเช่นกัน จะซื้อไปกินบนเครื่องก็ได้ครับ แต่อยากจะบอกว่า น้ำดื่มบนเครื่องขวด 500 ซีซี ราคา 3 ริงกิต ถ้าซื้อข้างล่างไป ราคาแพงกว่าครับ อย่างน้อยก็ 3.5-4 ริงกิตแล้ว
แนะนำให้ไปซื้อน้ำดื่มบนเครื่องครับ ...
ปล. กรณีสั่งอาหาร pre-book ไว้จะได้รับน้ำดื่มขวด 330 ซีซีด้วยเช่นกันครับ อาจจะไม่ต้องซื้อน้ำดื่มเลยก็ได้ แต่ถ้าบินไกลขนาดนั้น เตรียมเงินริงกิตไว้ซื้อน้ำเถอะครับ
[27 มิ.ย. 54 03:30:00
]
กรณีที่ต้องการซื้อพวกเครื่องดื่มอื่นๆ หรืออาหารการกิน แม้ว่าแอร์เอเชียเอ๊กซ์ เค้าประกาศเรื่อง No outside food policy หรือไม่อนุญาตให้นำอาหารมาทานบนเครื่องก็ตาม
แต่ลองคิดเล่นๆ นะครับไฟล์ทบินไกลกว่า 7-8 ชั่วโมง เป็นใครใครก็หิวครับ ดังนั้นก็หิ้วไปเถอะ ซื้อตุนไว้บ้าง เพราะเอาเข้าจริงๆ แอร์ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากมายครับ หากกินแล้วเก็บ ไม่ประเจิดประเจ้อ รุงรังวุ่นวายจนเกินไปนัก ....
ไปขึ้นเครื่องกันดีกว่าครับ ตากแดด LCCT ไปขึ้นเครื่องกลางลานจอด
เปิดเพลงญี่ปุ่นปรับอารมณ์กันก่อนเลยทีเดียว
(ไฟล์ทไปเกาหลี ก็เปิดเพลงเกาหลี ไฟล์ทญี่ปุ่นก็เปิดเพลงญี่ปุ่น)
เนื่องจากที่นั่งว่างเยอะมากๆๆ ก็เลยได้นั่งข้างหน้าครับ มีที่ว่างอยู่ ก็จับจองไว้ นั่งลงไปแต่พร้อมที่จะลุกให้เจ้าของที่ได้เสมอ
พอได้รับสัญญาณ Cabincrew, Arm all door and cross check. ก็แปลว่า เราได้ที่นั่งตรงนั้นไปครองแล้ว
บางทีย้ายหลังจากเครื่องไต่ระดับได้อาจจะไม่ทันการครับ เพราะคนแถวๆ นั้นอาจจะจ้องสอยไว้ก่อนแล้ว
(ยิ่งไฟล์ทขากลับนี่ ตาต่อตาฟันต่อฟัน แย่งชิงที่นั่งกันสนุกสนาน)
จำนวนผู้โดยสารที่กะด้วยสายตาประมาณ 60% ครับ
ส่วน Premium Seat เต็ม เดาว่าส่วนใหญ่คงซื้อแพคเกจอัพเกรดที่นั่งจาก Optiontown.com มา จ่ายเงินจิ๊บๆ แค่ 250 ริงกิตได้อัพเกรดไปนั่งชั้น Premium
แต่ข้อเสียของ Optiontown.com ก็คือ...
จะรู้ผลว่าได้อัพเกรดก็อย่างช้าสุด 1-3 วันก่อนออกเดินทาง ไม่สามารถทำเว็บเช็คอินได้ (เหมือนรอ standby ว่ามีที่นั่งว่างหรือไม่)
และถ้าผลออกมาว่าไม่ได้อัพเกรด จะโดนหักค่าธรรมเนียมกินเปล่า 10 ริงกิต (สำหรับไฟล์ทฮาเนดะ จ่ายไป 250 ริงกิตจะได้คืนมาแค่ 240 ริงกิตเป็นต้น)
ก็ต้องดูแล้วหล่ะครับว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม ถ้าในแง่นอนยาวที่นั่ง Premium Seat ย่อมนั่งสบายกว่าอยู่แล้วครับ มีอาหาร โหลดกระเป๋าฟรี 20 กิโลกรัม แต่ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยเช่นกัน
[27 มิ.ย. 54 03:32:36
]
พอเครื่องไต่ระดับได้ ก็จะได้แบบฟอร์ม ตม.ญี่ปุ่นมากรอกครับ ....
และแอร์ก็จะเดินแจกผ้าห่ม Comfort Kit และเครื่องเล่น ePlayer สำหรับคนที่สั่งจองล่วงหน้า
[27 มิ.ย. 54 03:34:16
]
ตามหมอยุ่งไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยค่ะ
จากคุณ : Memories pink
[27 มิ.ย. 54 03:44:10
]
บางท่านอาจจะไม่ทราบว่า แอร์เอเชียเอ๊กซ์ ก็มีลูกเรือคนไทยด้วย ...
แน่นอนครับ ลูกเรือไทยไม่ได้มีแต่บนเที่ยวบิน FD เท่านั้น
แต่ยังคงมีในเที่ยวบิน AK และ D7 (AirAsia X) ด้วยเชนกัน
บางทีบิน AK ไฟล์ทที่เข้าออกไทย แต่มีเสียงประกาศภาษาไทยด้วย นั่นก็แปลว่า ไฟล์ทนี้มีลูกเรือไทยร่วมบินด้วยนั่นเอง
โดยจะสังเกตได้จากป้ายชื่อ มีธงชาติ แสดงถึงสัญชาติของลูกเรือคนนั้นๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสัญชาติมาเลย์อยู่แล้ว
อย่างไฟล์ทนี้โชคดีมีแอร์โฮสเตสไทยด้วยครับ เธอเห็นหน้าเราก็คิดว่าน่าจะใช่คนไทย พอได้ยินผมคุยกับคุณเธอปั๊บ เธอก็ทักเราเป็นภาษาไทยเลย ดูเธอก็ได้แวะเวียนมา service เราอยู่บ่อยๆ ครับ รู้สึกเป็นกันเองเหมือนขึ้น FD เลยครับ
เธอเป็นลูกเรือ Thai Batch รุ่นเดียวกับลุงแชส (นักรีวิวที่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นลูกเรือแอร์เอเชียเอ๊กซ์) ในคลิ๊ปนี่หล่ะครับ
ปล. ขออนุญาตหยิบยืมคลิ๊ปลุงแชส และเพื่อนลูกเรือไทย ของแอร์เอเชียเอ๊กซ์ มาแนะนำสายการบินครับ (ขอให้เครดิตน้อง เจเค..LSKY ผู้สัมภาษณ์ครับ)
[27 มิ.ย. 54 03:47:51
]
ไปญี่ปุ่นด้วยคนนะคร้าบบบบ
จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย
[27 มิ.ย. 54 03:49:44
]
สำหรับเจ้าเครื่องเล่น ePlayer ค่าเช่าอยู่ที่ 30 ริงกิต (จองล่วงหน้า) ถ้าเช่าบนเครื่องคิด 35 ริงกิตครับ
ใช้ได้ตลอดจนกระทั่งก่อนเครื่องลงประมาณ 1 ชั่วโมงแอร์จะเดินมาเก็บครับ
รายการที่ฉายอยู่ใน ePlayer จะอยู่ในเมนูอาหารครับ ลองดูๆ ก็ได้
ข้อเสียคือ มีแต่ sub ภาษาจีนนะครับ ไม่มี sub ไทย
ถ้าคิดว่าโอเคกับหนังภาษา Eng ล้วนๆ ก็ไม่เป็นปัญหาครับ
เมือกระหายน้ำ ก็ซื้อน้ำ ราคา 3 ริงกิต ได้น้ำขวดใหญ่ 500 ซีซีมา
(แต่ก่อนเป็นขวดเล็กแค่ 330 ซีซี สงสัยคนบ่นกันเยอะเลยต้องเพิ่มขนาดให้)
[27 มิ.ย. 54 03:52:05
]
บรรยากาศบนเครื่องบิน บินบ่ายๆ แบบนี้ คนที่นอนยาวก็มีครับ ไฟล์ทโล่งๆ อย่างที่เห็น
จึงไม่ค่อยแปลกใจว่าทำไมต้องปล่อยโปรฯ เพราะถ้าไม่ปล่อยคนก็ไม่มี เสียวจะปิดเส้นทางหน่ะสิครับ ....
ปล. เท่าที่ดูๆ ยังไม่น่าจะปิดง่ายๆ ครับ คิดว่าคนน่าจะกลับไปญี่ปุ่นกันมากขึ้นแล้ว หลังจากเวลาผ่านไป ...
[27 มิ.ย. 54 03:56:00
]
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ ข้อมูลเพียบตามเคย...
จากคุณ : ป้าฟู
[27 มิ.ย. 54 03:57:05
]
ไฟล์ทนี้แนะนำนั่งฝั่งขวาครับ เพราะแดดจะไม่ส่องตลอดทาง แต่ช่วงพระอาทิตย์ตกติด ทางฝั่งซ้ายวิวจะสวยกว่ามากๆ ครับ
สวยจนต้องเรียกคนข้างๆ มาชมพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน
(คือมีที่นั่งฝั่งซ้ายว่าง ก็ย้ายมานั่งชมวิวกันเพลินๆ เดี๋ยวก็ย้ายกลับครับ)
[27 มิ.ย. 54 03:59:43
]
## การเสิร์ฟอาหาร ทั้ง Pre-book และขายอาหาร ##
เส้นทางฮาเนดะ ก็เหมือนกับเส้นทางที่บิน 6-8 ชั่วโมงเส้นทางอื่นๆ
ก็คือจะเดินรถอาหาร 2 รอบ ในช่วงชั่วโมงแรกหลังจากที่ไต่ระดับได้
และช่วงสุดท้ายคือประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนเครื่องลง ซึ่งจะตรงกับมื้อเย็นพอดี ฟ้าเริ่มมืดและเราก็เริ่มหิวแล้ว
สำหรับผู้ที่จองอาหาร pre-book ไว้สามารถเลือกเคลมตอนรอบแรก หรือรอบสองก็ได้ครับ
ส่วนตัวผมแนะนำว่ารอบสองน่าจะดีกว่าเพราะถือว่าเป็นมื้อเย็นไปเลย (ถ้าเคลมแต่รอบแรก ก็เท่ากับว่ากินข้าวตอนบ่ายๆ)
เมนูอาหาร pre-book ในแต่ละเส้นทางจะไม่เหมือนกัน แต่ก็คล้ายๆ กันครับ มีในตารางในเมนูอาหารเลย จองอะไรไว้แล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต้องซื้อเพิ่มเอาเองครับ อย่างเส้นทางญี่ปุ่น
Asian Menu -- ข้าวไก่ผัดเม็ดมะม่วง
International -- ไก่รมควันราดซอสบาร์บีคิว (เมนูประจำเลย !!)
Vegetable -- ข้าว+ผัดเม็ดมะม่วงแบบมังสวิรัต
Kid -- ฮอทดอกไก่
แน่นอนว่าเส้นทางญี่ปุ่นก็ต้องมีชุด Bento Set 25 ริงกิต และ Japanese Set 35 ริงกิต ครับ
สิ่งที่แตกต่างกันคือ ชุด Japanese ก็คือชุด Bento + หมี่เย็น + ซุปมิโซ ตามภาพเลยครับ
[27 มิ.ย. 54 04:03:24
]
ส่วนเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกซื้อบนเครื่อง ในราคา 13 ริงกิต (ไมมีน้ำ) ก็ตามนี้เลยเช่นกันครับ
ความต่างระหว่างการจองอาหารล่วงหน้า กับไม่จองไว้ก่อน
ข้อดีของการจองอาหารไว้ก่อนคือ ...
ราคาจองล่วงหน้าถูกกว่า + มีน้ำดื่มด้วยครับ
ซึ่งถ้าบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ระยะไกล แนะนำว่าอย่างไรก็ต้องจ่ายค่าอาหารอยู่ดีครับ
[27 มิ.ย. 54 04:06:08
]
มาดูหน้าตาอาหารกันก่อนนะครับ ....
มีการปูกระดาษรองด้วย
[27 มิ.ย. 54 04:07:54
]
สำหรับ Bento Set (25 ริงกิต) ไม่มีซุปมิโซ และหมี่เย็น
หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ .....
(ส่วนตัวผมคิดว่า รุ่นที่ออกจากฮาเนดะ อร่อยกว่า รุ่นที่ออกจาก LCCT)
[27 มิ.ย. 54 04:10:17
]
สำหรับอาหารที่ pre-book ไว้ ....
เห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน แต่ก็ทานเกลี้ยงครับ
อันแรกเป็นข้าวไก่ผัดเม็ดมะม่วง (Asian Menu)
ทำไมมันดำแปลกๆ หว่า .....
[27 มิ.ย. 54 04:12:35
]
และอันหลังคือ ไก่รมควันราดซอสบาร์บีคิว ดำๆ แปลกๆ
พอพลิกแล้วยิ่งเครียด คือ เหมือนจะเกรียมเลยทีเดียว เพราะว่าอุ่นมาหลายรอบ เหมือน อุ่นจนไหม้เลย ...
ผมลองไปถามคุณจ๊วตดู แกบอกว่า ปกติก็เป็นอย่างนี้ และไม่มีอาหารเหลือให้เปลี่ยน แฮ่ๆๆๆ ... (เพลีย)
[27 มิ.ย. 54 04:13:52
]
ก่อนเครื่องจะลง 1 ชั่วโมง แอร์ก็เดินมาเก็บเครื่อง ePlayer ไป ...
ตอนนี้เวลา 3 ทุ่มกว่าตามเวลาญี่ปุ่นครับ กัปตันประกาศว่า ไฟล์ทจะดีเลย์ไปประมาณครึ่งชั่วโมง
สภาพอากาศ อาจจะมีฝนตก ...
คือมาญี่ปุ่นกลางปี เป็นหน้าร้อน อากาศเหมือนไทยเด๊ะเลยครับ ก็ไม่หนาวทรมาน แต่ร้อนตับแล่บเหมือนอยู่เมืองไทย
เดินไปเข้าห้องน้ำท้ายเครื่องครับ ส่วนใหญ่ก็หลับๆ กัน เดี๋ยวก็จะถึงแล้วครับ
ไม่นานเครื่องก็ลดระดับลง มองเห็นแสงไฟเบื้องล่าง ว้าว เมืองญี่ปุ่น ปรากฎว่า ฝนตกครับ แห่ะๆๆ ....
[27 มิ.ย. 54 04:16:37
]
และเครื่องก็แลนดิ้งที่ท่าอากาศยานฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่ฮาเนดะครับ ส่วนตัวผมคิดว่า เวิร์กกว่านาริตะเยอะเลย ใกล้เมืองกว่า เดินทางก็สะดวกไม่แพงมากเกินไป
แต่ที่แน่ๆ ... แอร์เอเชียเอ๊กซ์ ที่ฮาเนดะ เป็น Bus Gate ไม่ได้เทียบงวงนะครับ (อย่างที่อินชอนยังเทียบงวงเลย)
เดินลงจากเครื่องบิน ฝ่าฝนปรอยๆ ขึ้นรถบัสไปที่อาคารกัน
เย้ ได้กลับมาเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่นแล้ว
[27 มิ.ย. 54 04:18:18
]
แอ่นแอ๊น ... เดินไปผ่าน ตม.ญี่ปุ่น
เนื่องจากเรามีวีซ่าอยู่แล้ว ก็แค่สแกนนิ้วมือ และถ่ายรูปเรียบร้อย เราก็ได้ประทับตราเข้าญี่ปุ่นครับ (ไม่ต้องลุ้นระทึกแบบเกาหลี)
โดยปกติ วีซ่าท่องเที่ยว จะอยู่ญี่ปุ่นได้นานสูงสุด 90 วัน
แต่พอดีผมขอวีซ่าแบบ Short Term Repeater เพราะเคยมาญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว (ยื่นเอกสารเหมือนเดิม แต่ไม่ต้องแสดง Statement และทะเบียนบ้าน) จะได้วีซ่าญี่ปุ่นมาแค่ 15 วัน
ซึ่งทริปนี้เรามาแค่ 4 วันอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาอะไรครับ ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าคนเคยได้ไปแล้ว ยื่นวีซ่าใหม่แบบ Short Term Repeater นั้นง่ายสะดวกจริงๆ
ตม.ญี่ปุ่นรวดเร็วทันใจ เช่นเดียวกับกระเป๋าก็มาเร็วครับ
ผ่านตรงด่าน Custom แล้วออกไปข้างนอกได้เลย
เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็จะสอบถามนิดหน่อยว่า มากี่วันจะไปไหนบ้าง แต่ก็ไม่ได้เปิดกระเป๋าเราดูครับ (อาหารการกินไม่สามารถนำเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ครับ)
ปล. บนจอแสดงรายละเอียดกระเป๋า มีการแสดงสถานะการโหลดกระเป๋าด้วยนะครับ อันนี้หล่ะที่เจ๋ง
[27 มิ.ย. 54 04:20:44
]
เอาหล่ะครับ พามาถึงสนามบินฮาเนดะแล้ว ...
เดี๋ยวผมจะพาเข้าเมืองแล้วกันครับ โดยขาเข้าเมืองจากสนามบินฮาเนดะจะเดินทางด้วย "รถไฟของบริษัท Keikyu" ส่วนขากลับจะกลับด้วย "รถไฟ Tokyo Monorail" ครับ
ถือว่าได้ลองวิธีการเดินทางเข้าออกเมืองทั้ง 2 แบบกันเลยทีเดียว
---------------------------------------------------------------------------
## การเดินทางเข้าสู่กรุงโตเกียว จากท่าอากาศยานฮาเนดะ ##
สนามบินฮาเนดะ ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงโตเกียวไปทางทิศใต้ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ ก็อารมณ์เหมือนกับสนามบินสุวรรณภูมิ กับใจกลางกรุงเทพ ซึ่งนับว่าอยู่ใกล้ใจกลางกรุงมาก เมื่อเทียบกับสนามบินนาริตะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปราว 60 กิโลเมตรทางตะวันออกของกรุงโตเกียว (อารมณ์เหมือนกับ สนามบิน KLIA ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปตั้งอยู่ซะไกลปืนเที่ยงเลยทีเดียว)
สนามบินฮาเนดะ เดิมก็เป็นสนามบินแห่งชาติหลัก ต่อมาเมื่อการจราจรทางอากาศมากขึ้น ทางการญี่ปุ่นก็เลยสร้างสนามบินนาริตะขึ้น
แต่ก็ประสบปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน แม้ว่าตอนนี้นาริตะจะเปิดมากกว่า 30 ปีแต่ก็ยังมีที่ดินที่ยังแหว่งๆ แถมมีปัญหากับชาวบ้านโดยรอบ จึงไม่สามารถนำเครื่องขึ้น-ลงทีนาริตะในชวงเวลาตอนดึกจนกระทั่งถึงเช้าได้ (เท่าที่ทราบคือ สนามบินไม่มีเครื่องขึ้นลง ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนจนถึง 6 โมงเช้า)
จึงทำให้ สนามบินฮาเนดะ (ถ้าเปรียบกับไทยก็คือดอนเมือง) ได้ถูกขุดขึ้นมาใช้อีกครั้งหนึ่ง และมีการสร้าง International Terminal ขึ้นใหม่ และได้เปิดให้บริการเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา พร้อมกับเที่ยวบินระหว่างประเทศจากตรงฮาเนดะ
สำหรับท่านทีต้องการความสะดวกสบายในการขนสัมภาระ
แนะนำวาควรใช้บริการพวกรถ Airport Limousine ซึ่งผมต้องบอกตามตรงว่า ผมไม่มีข้อมูลครับ แต่ราคาไม่ถูกแน่ๆ แต่ก็สะดวกกว่าพอสมควร
สำหรับการเดินทางที่ประหยัดและได้รับความนิยมมากที่สุด นั่นก็คือ การเดินทางด้วยรถไฟ แล้วไปต่อเครือข่ายรถไฟอย่างกะไยแมงมุมในกรุงโตเกียวได้
สิ่งที่ผมจะแนะนำก็คือ "ผมจะพาเข้าเมืองไปส่งที่สถานีรถไฟในทางรถไฟสำคัญที่สุด พื้นฐานเบสิกของโตเกียว"
นั่นก็คือ ทางรถไฟวนลูป JR Yamanote Line ที่สถานี Shinagawa นั่นเอง (ถ้าเปรียบเทียบกับกรุงเทพ สถานี Shinagawa จะเหมือนกับสถานีรถไฟบางซื่อ เป็นชุมทางใหญ่ที่ชินกังเซ็นต้องหยุดทุกขบวน)
และอย่าเพิ่งสับสนกับ "ชื่อบริษัทรถไฟ" นะครับ ขออธิบายแยกให้เข้าใจง่ายๆ คร่าวๆ ก่อนแล้วกันครับ (ถ้าไม่ครบอย่าว่ากันนะครับ เพราะเยอะมากจริงๆ -- รอพี่หนุ่มอารมณ์ดี เทพรถไฟญี่ปุ่นมาฟันธงดีกว่า)
1. JR - Japan Railway คือบริษัทรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีเครือข่ายครอบครุมทั่วประเทศ และยังแบ่งบริษัทย่อยอีก อาทิเช่น JR-East, JR-Central, JR-West ฯลฯ ไปตามภูมิภาคต่างๆ บริษัทนี้คนไทยจะรู้จักดีว่า ถ้าเป็นคนต่างชาติจะสามารถซื้อบัตร Japan Rail Pass หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่าบัตร JR ได้ บัตรนี้ก็คือบัตรเบ่งที่สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้า ของบริษัท JR ทั่วประเทศได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดระยะเวลา 7-21 วัน ตามที่ซื้อมา (มีข้อยกเว้นเฉพาะชินกังเซ็นขั้นเทพขบวน Nozomi ที่บัตรนี้เบ่งไม่ได้) ##โปรดระลึกถึงว่า บัตร Japan Rail Pass จะคุ้มค่าที่สุดก็ต่อเมื่อเดินทางด้วยรถไฟชินกังเซ็นครับ แค่นั่งไป-กลับ โตเกียว-โอซาก้า ก็เกือบเท่ามูลค่าบัตรแล้ว##
2. Tokyo Metro บริษัทเดินรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียว มีอยู่มากกว่า 7 สาย (หรือมากกว่านั้น) โยงใยมากมาย
3. Toei ก็เป็นบริษัทเดินรถไฟใต้ดินอีกเจ้าหนึ่งในกรุงโตเกียว แต่มีเครือข่ายน้อยกว่า Tokyo Metro (ราคาเริ่มต้นแพงกว่า Tokyo Metro)
4. Keisei บริษัทรถไฟเอกชน ที่ให้บริการเดินรถไฟเส้นทางจากกรุงโตเกียว (Keisei-Ueno และ JR Nippori) สู่สนามบิน Narita ครับ (เส้นทางนาริตะ มี 2 เจ้าแข่งกันคือ JR และ Keisei) (ถ้าเทียบราคาแล้ว Keisei รถหวานเย็นราคาเข้าเมืองถูกว่า JR โดย Keisei คิดที่ 1,000 เยน)
5. Keikyu บริษัทรถไฟเอกชน ที่ให้บริการเดินรถไฟเส้นทางจากกรุงโตเกียว (สถานี JR Shinagawa) สู่สนามบิน Haneda ครับ (เส้นทางฮาเนดะ มี 2 เจ้าแข่งกันคือ Tokyo Monorail และ Keikyu)และ Keikyu ยังคงให้บริการเส้นทางไปยังเมืองโยโกฮาม่าด้วยเช่นกันครับ
6. Tokyu เป็นห้างสรรพสินค้า และ บริษัทรถไฟเอกชน ให้บริการจากสถานี Shibuya ไปยังเมืองโยโกฮาม่า และเส้นทางอื่นๆ
(เท่าที่เช็คดู ถ้าเดินทางจาก Shibuya ไป Yokohama ของ Tokyu ถูกกว่าและเร็วกว่า JR ครับ)
7. Seibu เป็นห้างสรรพสินค้า และ บริษัทรถไฟเอกชน ให้บริการจากสถานี Shinjuku, JR Takadanobaba และ Ikebukuro ไปยังชานเมือง (มีสองสายสำคัญคือ Seibu Shinjuku Line และ Seibu Ikebukuro Line) ส่วนใหญ่ไม่ใช่ทางที่นักท่องเที่ยวจะไปกันครับ
8. Odakyu เป็นห้างสรรพสินค้า และ บริษัทรถไฟเอกชน ให้บริการจากสถานี Shinjuku ไปยัง JR Odawara และเมือง Kamakura ฯลฯ (สายสำคัญที่นักท่องเทียวรู้จักกันมากก็คือ บัตร Hakone Free Pass เพราะ Odakyu เป็นเจ้าของทางรถไฟ และรถไฟที่วิ่งในย่านฮาโกเน่ทั้งหมดเลย)
9. Tobu บริษัทรถไฟเอกชน ให้บริการจากสถานี Tobu-Asakusa ไปยังเมืองนิกโก้ และยังมีเส้นทางอื่นๆ อีก
(ที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันมากก็คือบัตร World Heritage Pass ไปนิกโก้ราคาประหยัดกับรถไฟ Tobu เพียง 3,600 เยน)
10. Keio เป็นบริษัทรถไฟเอกชน ให้บริการจากสถานี Shibuya ไปยังชานเมือง ฯลฯ
11. Tokyo Monorail และบริษัทรถไฟเอกชนเล็กๆ อื่นๆ ที่มีทางรถไฟสายเดียว ซึ่งจริงๆ ยังมีบริษัทอื่นๆ อีกเพียบเลยครับ แต่ที่เด่นๆ สำคัญๆ ก็ประมาณนี้ครับ
--------------------------------------------------------------------------
ดังนั้น ถ้าบินไปลงฮาเนดะ ก็ต้องเลือกหล่ะครับว่าจะใช้บริการของ Keikyu หรือ Tokyo Monorail "ไม่มี JR ให้เลือก"
ซึ่งเราจะเริ่มใช้บัตร Japan Rail Pass ได้ก็ต้องเข้าไปอยู่ในระบบทางรถไฟของ JR เท่านั้น (เช่นสถานีในเส้นทางวนหลัก JR Yamanote Line)
กรณีถ้าบินไปลงนาริตะ ก็สามารถใช้บัตร JR จากสนามบินนั่ง Narita Express (เจ้า N'EX) ได้เช่นกัน
(แต่การใช้ Japan Rail Pass ควรคำนวนให้ดีๆ ว่าวันไหนจะทำอะไร ค่อยใช้งาน เพราะถ้าอยู่แต่ในโตเกียว และละแวกใกล้เคียง ไม่ได้ขึ้นชินกังเซ็น ก็ไม่ต้องใช้ครับ
บัตรนี้จะคุ้มมาก ถ้าต้องเดินทางระหว่างเมืองโดยใช้ชินกังเซ็นเป็นหลัก เพราะราคาบัตรแบบ 7 วันตั้ง 28,300 เยน หรือประมาณหมื่นบาท)
ในกระทู้นี้จะพานั่ง Keikyu เข้ากรุงโตเกียวกันครับ
เดินออกจากด่าน Custom แล้วเดินตรงไปตรงรถไฟได้เลย
Tokyo Monorail อยู่ทางซ้าย, Keikyu อยู่ทางขวา
ดูจากแผนที่เอาเลยนะครับ ....
[27 มิ.ย. 54 04:40:21
]
## ตัวช่วยในการวางแผนการเดินทางที่ยอดเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่น ##
ไปญี่ปุ่น ห้ามลืมเว็บไซต์นี้เด็ดขาดครับ
เพราะคือคัมภีร์ในการเดินทางด้วยรถไฟ ต่อนั่นต่อที่ที่ไหนอย่างไร
เว็บนี้เป็นอับดุลบอกได้หมดครับ
http://www.hyperdia.com/en
## Keikyu ต่างกับ Tokyo Monorail อย่างไร ?? ##
Keikyu เป็นรถไฟฟ้า // Tokyo Monorail เป็นรถโมโนเรล (ถ้าให้นึกภาพออก ให้นึกถึง KL Monorail แบบนั้นเลยครับ รถจะวิ่งได้ช้ากว่ารถไฟปกติ และเวลาวิ่งก็จะมีการสั่นๆ แบบรถไฟรางเดี่ยว
Keikyu เดินทางไปเชื่อมกับทางรถไฟ JR Yamanote Line ที่ JR Shinagawa และสามารถนั่งไปทางเมือง Yokohama ได้ด้วย // Tokyo Monorail เชื่อมกับ JR Yamanote Line ที่สถานี JR Hamamatsucho ซึ่งจะอยู่ใกล้กับสถานี Tokyo มากกว่า
Keikyu มีชานชลาอยู่ชั้นล่างสุด (เข้าตัวสถานีแล้วต้องลงไปอีก 1 ชั้น)
ในขณะที Tokyo Monorail ชานชลาเสมอกับชั้น Departure Hall พอดี
ชื่อสถานีที่ฮาเนดะในเว็บไซต์ Hyperdia ไม่เหมือนกัน
-- Keikyu : Haneda Airport International Terminal
-- Tokyo Monorail : Haneda Airport International Building
แต่ความจริงก็อยู่ติดกับอาคารผู้โดยสารระหวางประเทศเหมือนกันครับ
(เพราะตอนแรกผมงงมาก แต่พอไปจึงก็ถึงบางอ้อว่า มันคือที่เดียวกัน แต่คนละสถานี เพราะเป็นคนละเจ้ากัน)
ราคาเท่าที่เปรียบเทียบ กรณีไปลง Akihabara พบว่า Tokyo Monorail แพงกว่า Keikyu อยู่หน่อยนึงครับ (โปรดเปรียบเทียบราคาและความสะดวกในการต่อรถที่ Hyperdia ก่อนตัดสินใจเลือก)
---------------------------------------------------------------------------
อีกหนึ่งคำถามยอดฮิต ...
Q : สนามบินฮาเนดะ นอนค้างคืนได้ไหม ??
A : สนามบินฮาเนดะ นอนได้นะครับ อย่างที่เห็นในภาพมีเบาะดำๆ ให้นอนได้มากมาย สำหรับใครที่อยากจะค้างอ้างแรมที่ HND กอนแล้วตอนเช้าค่อยไปหา Hostel ถูกๆ นอนก็ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เช่นกัน
แต่แนะนำว่าควรจะมีถุงนอนมาด้วยนะครับ
[27 มิ.ย. 54 04:54:53
]
ได้เวลาเดินทางเข้าเมืองกันดีกว่าครับ
ปัญหาหนึ่งที่ผู้โดยสารการบินไทย และแอร์เอเชียเอ๊กซ์ จะประสบกันก็คือ เที่ยวบิน TG660 และ D72682 ไปถึง ฮาเนดะค่อนข้างดึก คือหลัง 4 ทุ่ม ต้องทำเวลานิดนึงครับ และ "อย่าเลือกที่พักที่อยู่ไกลจากสนามบินมากจนเกินไป"
เพราะรถไฟในโตเกียวจะหยุดวิ่งเวลาเที่ยงคืนครับ !!
จะเหลือรถไฟแค่ไม่กี่สายที่วิ่งหลังเที่ยงคืน
อย่างรถไฟสาย JR Yamanote Line ก็หยุดวิ่งตอนเที่ยงคืนเป๊ะครับ ....
ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ควรหาที่พักในแถบๆ Shinagawa หรือ ย่านที่มีรถไฟ JR สายสำคัญวิ่งผ่าน เช่นสถานี Shimbashi, Tokyo, Akihabara, Ueno หรือไปนอนที่เมือง Yokohama ก็ได้เช่นกันครับ
(ถ้าไปนอนที่เมือง Yokohama สามารถนั่งรถไฟของบริษํท Keikyu ไปได้เลย เพียงแวะเปลี่ยนรถไฟแค่ 1 สถานีเท่านั้น)
ถ้าจะเข้าเมืองก็ต้องรีบกันหน่อยนะครับ รถไฟขบวนสุดท้ายที่ออกจากฮาเนดะ ไป Shinagawa ออกประมาณ 0.01 น. ครับ (แล้วแต่วัน)
ที่ผมนั่งก็รอบ 23.40 น. ยังต่อรถไฟไปที่พักเกือบจะไม่ทันเลย ต้องรีบหน่อยครับ
[27 มิ.ย. 54 05:03:22
]
มาถึงสถานีรถไฟของ Keikyu แล้ว อย่าเพิ่งมึนนะครับ
พยายามทำความเข้าใจกันก่อน
สิ่งสำคัญ ที่ใครจะไปญี่ปุ่น "อย่าลืมวางแผนการเดินทางคร่าวๆ ว่าจะนั่งรถไฟไหน ต่อรถไฟอะไร ที่สถานีอะไร"
วางแผนเองง่ายๆ โดยการเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.hyperdia.com/en ใส่ชื่อสถานีต้นทาง และ ปลายทาง
ระบบก็จะแสดงว่า เราต้องนั่งรถไฟอะไร ออกกีโมง ใช้เวลากี่นาที ไปเปลี่ยนขบวนที่สถานีอะไร รถออกกี่โมง จะช่วยวางแผนได้เป็นอย่างดีครับ
อย่างตัวผม ผมจองโรงแรมชื่อ Hotel MyStays Ochanomizu ซึ่งอยู่ระหว่างสถานี JR Ochanomizu กับ JR Akihabara พอดี
ดังนั้น ผมก็ดูแผนผังบนป้ายว่า ถ้านั่งจากสถานี Keikyu-Haneda Intenational Terminal ไปสถานี JR Ochanomizu หรือ JR Akihabara จะคิดราคาเท่าไหร่
ถ้าดูบนป้าย (มีภาษาอังกฤษกำกับ) เห็นว่า "คิดราคา 560 เยน"
เวลาเราซื้อตั๋ว เราก็จำไว้เลยครับว่า ให้คลิ๊กปุ่มที่ 560 เยน แล้วเราจะได้ตัวมา (ไม่ใช่ระบบเลือกต้นทาง-ปลายทางในเครื่องขายตั๋วครับ) ให้อิงราคาขายเป็นเกณฑ์ในการซื้อ
พูดง่ายๆ ก็คือ "ให้ซื้อตั๋วตามราคาที่เค้ากำหนดไว้" นั่นเอง
---------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ :
คือระบบรถไฟฟ้าของไทย หรือแถวๆ ประเทศที่คนไทยมีโอกาสไปกันบ่อยๆ อย่าง สิงคโปร์, ฮ่องกง, มาเลเซีย ฯลฯ จะใช้วิธีนับสถานีต้นทาง-ปลายทาง โดยจิ้มๆ บนเครื่องขายตั๋ว เครื่องจะคำนวนราคาให้ใช่ไหมครับ แต่สำหรับญี่ปุ่นจะคิดต่างกัน ก็คือ เราต้องรู้ก่อนว่า นั่งจากนี้ไปนี้ ราคาเท่าไหร่ แล้วจึงซื้อตั๋วในราคานั้น
แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ ญี่ปุ่นก็มีทางออกให้ครับ คือ ที่สถานีปลายทางจะมีเครื่อง Fare Adjustment หรือ เครื่องที่คำนวนส่วนต่างราคาให้ สมมติว่า ราคาตั๋ว 560 เยน แต่เราซื้อตัวมาแค่ 500 เยน เราก็จะไม่สามารถออกจากสถานีปลายทางได้ ซึ่งเราต้องเอาตั๋วเสียบไปที่เครื่อง Fare Adjustment บนหน้าจอก็จะแสดงว่า คุณต้องหยอดเหรียญไปอีก 60 เยนจึงจะได้ตั๋วใหม่ ที่สามารถใช้ออกจากสถานีได้ เป็นต้นครับ
[27 มิ.ย. 54 05:11:24
]
คลิ๊กบนหน้าจอ touch screen เลือกเมนูภาษาอังกฤษได้เลยครับ
แล้วเราก็เลือกว่าจะซื้อตั๋ว Connecting (เพราะเป็น Keikyu ไปต่อ JR) ก็จะมีปุ่มๆ ให้เลือกราคาทีจะต้องจ่าย เราก็จ่ายตามราคา เช่น 560 เยนเราก็จ่ายตามนั้นครับ (กรณีลงแค่ Shinagawa ก็เลือกเป็น Single Trip)
กรณีซื้อตั๋วมากกว่า 1 ใบ ก็กดปุ่มเลือกจำนวนคนทางด้านซ้ายมือได้เลยครับ จะมีปุ่มให้เลือกอยู่
[27 มิ.ย. 54 05:14:21
]
หวัดดีครับหมอ นั่งอ่านมาตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่จบ ขอออกไปทำงานก่อนนะครับเดี๋ยวตอนเย็นมาอ่านต่อครับ
จากคุณ : Gelgoog
[27 มิ.ย. 54 05:14:51
]
วิธีการจ่ายเงินก็ง่ายครับ
(อยากจะสารภาพว่าตอนที่ผมไปญี่ปุ่นครั้งแรก งงกับเครื่องขายตั๋วที่สถานี Keisei นาริตะอยู่ตั้งนาน แถมไปถึง JR Nippori ออกจากสถานีไม่ได้อีก แห่ะๆๆ)
หลังจากที่เลือกราคาไปแล้ว เราก็แค่สอดแบ๊งค์ 1,000 เยนเข้าไป (หรือ ถ้ามีเหรียญก็หยอดเหรียญไป) เครื่องจะทอนเงินเองโดยอัตโนมัติ ออกมาเป็นเหรียญดังภาพ พร้อม print ตั๋วใบเล็กๆ มาให้เรียบร้อย
และเราก็จะได้ตั๋วใบเล็กๆ นี้มา โปรดเก็บรักษาไว้เยี่ยงชีพ จนกระทั่งถึงสถานีปลายทางครับ
[27 มิ.ย. 54 05:18:59
]
หวัดดีครับพี่ Gelgoog อยากจะบอกว่าผมรู้เรื่อง Japan Rail Pass
ก็เพราะทู้ของพี่นีหล่ะครับ อ่านแล้วอ่านอีก จนกว่าจะเข้าใจ
ตอนแรกรู้สึกว่า มันช่างลึกล้ำอะไรเช่นนี้ แต่พอได้มาใช้จริงก็เข้าใจได้ไม่ยากครับ ....
---------------------------------------------------------------------------
## ความมหัศจรรย์ของสิ่งเล็กๆ -- ตั๋วรถไฟฟ้าญี่ปุ่น ##
ได้ตั๋วกระดาษใบเล็กๆ มาครับ บัตรนี้วิเศษมาก เล็กจิ๋วแต่แจ่ว ตั๋วเดียวใช้ข้ามค่าย ทั้ง Keikyu และ JR ใบเดียวจนถึงปลายทาง แม้ว่าจะเดินทางกับรถไฟคนละบริษัทก็ตามครับ เวลาเสียบเข้าไปในเครื่อง Gate ประตูอัตโนมัติ จะเสียบไปยังไงก็ได้ กลับด้านกลับข้าง ตะแคงซ้ายขวา เครื่องจะกลับบัตรให้เองแล้วเราก็หยิบไป
ตอนที่ออกจากสถานี Keikyu เข้าสถานีของ JR เวลาเปลี่ยนรถ เราก็เสียบตั๋วใบนี้เข้าไป แล้วก็หยิบตั๋วออกมา จนกระทั่งสถานีสุดท้ายปลายทาง เวลาเราออกจากสถานี เครื่องก้จะกินตั๋วไปเลยครับ
ในทางกลับกัน สมมติว่า เราซื้อตั๋วแบบ Single Trip ของ Keikyu ลงสุดสายแค่ Shinagawa แล้วยังไม่ทันได้ออกจากสถานี Keikyu ปรากฎว่า เราเกิดเปลียนใจอยากต่อรถของ JR ไปที่อื่น ทีนี้เราสามารถซื้อตั๋วของ JR ใบใหม่จากตู้อัตโนมัติในสถานีของ Keikyu ... แล้วเวลาเราเดินผ่าน Gate อัตโนมัติ ให้เราเสียบบัตรทั้ง 2 ใบ (ทั้งใบเก่า และใบใหม่) ลงไปพร้อมกัน เครื่องก็จะอ่าน และคืนใบใหม่ให้แค่ใบเดียว ใช้เดินทางต่อไปกับ JR เป็นต้นครับ ....
[27 มิ.ย. 54 05:25:02
]
ตารางการเดินรถไฟ Keikyu จากสนามบินฮาเนดะ มีรถวิ่งเข้าเมืองทุกๆ 20 นาทีตอนช่วงดึกครับ มีรอบรถเวลา 23.01, 23.21, 23.41 และคืนนี้เที่ยวสุดท้ายคือ 0.01 น. ครับ
แผนที่ทางรถไฟที่จะวิ่งไปก็ตามภาพนี้เลยครับ ปลายทางที่สถานี Shinagawa
เข้าสถานีแล้วก็ไปรอรถไฟกันครับ ดูป้ายตรงชานชลาได้เลยครับว่า
ขบวนต่อไป จะไปไหน ถ้าโชว์ว่าไป Shinagawa และเวลาตามนี้ก็ใช่เลยครับ (อย่างขบวนที่เราขึ้น ไป Shinagawa ออกเวลา 23.40 น. ครับ)
ขบวนสีแดงๆ อย่างนี้หล่ะใช่เลย ...ไม่ผิดขบวนแน่ๆ สุดสาย Shinagawa ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะต้องไปลงที่ไหน
[27 มิ.ย. 54 05:27:38
]
ผ่านไปแค่ 20 นาทีนิดๆ เราก็ถึงสถานี Shinagawa แล้วครับ
ข้อเสียของการนั่งรถไฟเข้าเมืองก็คือ..
สถานีรถไฟญี่ปุ่นหลายแห่ง (น่าจะแทบทุกแห่ง) ไม่มีบันไดเลื่อนนะครับ ต้องแบกกระเป๋าขึ้น-ลงบันไดกันเอง เหนื่อยหน่อยแล้วกันครับ
[27 มิ.ย. 54 05:33:16
]
เดินไปตรงช่อง Transfer to JR Lines (ทางขวา) ได้เลยครับ
เราออกจากสถานี Keikyu เสียบตั๋วเข้าเครื่องเพื่อจะข้ามไปสถานี JR (เพราะเป็นรถไฟคนละบริษัทกัน)
เราก็จะข้ามมายังสถานี JR Shinagawa
ใครที่นั่งรถไฟรอบ 23.40 น.จากฮาเนดะ ถ้ามาถึง Shinagawa ตอนนี้เที่ยงคืนพอดี จะพบว่า JR Yamanote Line หยุดวิ่งแล้วครับ !!
รถไฟที่ยังเหลืออยู่ คือขบวนชานเมืองที่ไปสถานี Omiya (ไซตามะ) เป็นรถไฟสายสีฟ้า JR วิ่งระหว่าง Omiya-Ofuna
ถ้าใครที่นอนแถวสถานี Shimbashi (กินซ่า), Tokyo, Akihabara, Ueno ก็นั่งรถไฟขบวนนี้ต่อไปได้เลยครับ
ก็เลยต้องรีบเกาะรถไฟขบวนนี้ มิฉะนั้นจะไม่มีรถให้กลับที่พักแล้ว
เวลาเดินเข้าสถานี JR ดูชานชลาดีๆ นะครับ ปากทางลงชานชลาจะมีบอกไว้ว่า ชานชลานี้ไปไหน อย่างสาย Yamanote คือชานชลา 1/2
แต่ถ้าเป็นสายสีฟ้า รู้สึกจะเป็นชานชลา 3/4 ครับ
ดูทิศทางและสถานีปลายทางจากบนหน้าจอทีชานชลาด้วยนะครับว่า
ขบวนนี้ไปไหน เช่นชานชลานี้ สุดสาย Ofuna หรือ ชานชลานี้สุดสายที่ Omiya (ถ้าเราไปสถานี Tokyo, Akihabara, Ueno ก็ต้องนั่งสายที่ไป Omiya) เป็นต้น
[27 มิ.ย. 54 05:35:56
]
เนื่องจากดึกมาก และเราก็รีบมาก ไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ จากสถานี JR Akihabara เราทันเกาะรถไฟขบวนสุดท้าย
มาลงที่ สถานี JR Ochanomizu พอดี (1 สถานี) แล้วก็เดินมาถึงที่พัก อิอิ
[27 มิ.ย. 54 05:37:46
]
พาไปดูโรงแรมที่พักหน่อยนะครับ
โรงแรม Hotel MyStays Ochanomizu, Akihabara
ตั้งอยู่ระหว่างสถานี JR Ochanomizu กับสถานี JR Akihabara พอดี
(ใช้เวลาเดินไปสถานี JR Ochanomizu ประมาณ 5 นาที และ Akihabara ประมาณไม่เกิน 10 นาทีครับ ใช้เวลามากกว่าเพราะต้องข้ามหลายแยก)
ถ้าใครที่ตั้งใจอยากจะชม Electric Town หาเกมส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นี่ก็คงจะถูกใจมากเพราะอยู่ในระยะเดินได้หมดเลย
แต่ถ้าไปเที่ยวที่อื่น ที่นี่ก็มีสถานีรถไฟอยู่ใกล้ๆ ประมาณ 5 สถานีครับ
ไม่ว่าจะเป็น JR Ochanomizu (นั่งไป Shinjuku เพียง 10 นาที 190 เยน หรือจะนั่งตรงดิ่งเข้าสถานี Tokyo เพื่อไปต่อชินกังเซ็นก็ได้ง่ายๆ), JR Akihabara หนึ่งในสถานีในทางรถไฟ JR Yamanote Line วนลูปรอบกรุงโตเกียว
หรือสถานีที่อยู่ใกล้สุด สถานี Tokyo Metro สถานี Awajicho (สายสีแดง Marunochi Line) ซึ่งสามารถนั่งไปย่าน Ginza, Ikebukuro โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ หรือจะนั่งไป Roppongi Hills, Shibuya, Harajuku, ตลาดปลา Tsukiji ก็แค่เปลี่ยนรถต่อเดียวเท่านั้นเอง
หรือ สถานีอีกสถานีหนึ่งถ้าจะไปวัด Asakusa หรือจะไปเมืองนิกโก้ กับบริษัทรถไฟ Tobu ก็ง่ายไปขึ้นที่สถานี Tokyo Metro สถานี Kanda (สายสีส้ม Ginza Line)นั่งไปสุดสายลงสถานี Asakusa ได้เลย ราคา 160 เยน
------------------------------------------------
สำหรับโรงแรมนี้ ผมจองผ่านเว็บไซต์ LateRooms.com เพราะราคาถูกสุดครับ แต่ก่อนจองแนะนำให้ตรวจสอบราคาห้องพักก่อนได้ที่ http://www.hotelscombined.com
ราคาปกติจะขายอยู่ที่คืนละ 9,000 เยน หรือโดยประมาณ 3,000 กว่าบาท/คืนครับ แต่พอดีช่วงที่จองโรงแรมมีโปรโมชั่นพิเศษพอดี ก็เลยได้จ่ายถูกกว่าปกติพอสมควร และที่สำคัญ จองผ่าน LateRooms.com มาชำระเงินตรงกับโรงแรมได้นะครับ ไม่ต้องชำระเงินล่วงหน้าจากไทยมาก่อน
ปล. สำหรับอาหารเช้า ไม่รวมในค่าห้องครับ สามารถซื้อคูปองอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์เพิ่มได้ในราคา 1,000 เยนต่อคน (ประมาณ 380 บาท) ที่เห็นคูปองมากมายนี่คือสำหรับ 4 คืน ที่เราพักครับ แฮ่ๆๆๆ
[27 มิ.ย. 54 05:43:11
]
ข้างล่างมี Family Mart ครับ
ยามต้องการประหยัด Family Mart คือที่พึ่ง
มีอาหารพร้อมอุ่นให้เลือกมากมาย ราคาเริ่มต้นแค่ 2xx กว่าเยนเท่านั้น
(แต่อยากจะบอกว่า กินบ่อยๆ ก็มีเบื่อนะครับ เพราะเคยมาแล้ว เบื่อจริง)
[27 มิ.ย. 54 05:45:16
]
ห้องหับอาจจะเล็กสไตล์ห้องพักในญี่ปุ่น
แต่ครบครัน สะอาดมากๆ ห้องน้ำก็ไฮเทคมากครับ ถ้าไปพัก 2 คนถือว่าอยู่ได้สบายๆ ครับ
[27 มิ.ย. 54 05:46:28
]
เตียงก็ขนาดกำลังพอดีสำหรับคนไทยหุ่นมาตรฐานครับ
หมอนที่นี่ให้มา 2 แบบครับ จะมีหมอนฟองน้ำเพื่อสุขภาพด้วย
นอนสบายสุดๆ ครับ (ถ้าชอบเค้าก็ขาย ใบละ 5,000 เยน)
โรงแรมนี้ เช็คอินบ่าย 3 โมง เช็คเอ้าท์ 10 โมงเช้านะครับ ....
[27 มิ.ย. 54 05:49:06
]
ห้องน้ำเล็กกะทัดรัด แต่ใช้สบายครับ
สุขภัณฑ์ไฮเทคปุ่มมากมาย ....
ที่นี่ น้ำประปาดื่มได้นะครับ (มีป้ายบอกอยู่)
ถ้าอยากจะดื่มน้ำ ก็เปิดจากก๊อกดื่มได้เลย ....
[27 มิ.ย. 54 05:50:32
]
มีตู้เย็น แช่ของ กาต้มน้ำร้อน (แต่ไม่มีน้ำดื่มบรรจุขวดให้นะครับ)
ดังนั้น ขวดแอร์เอเชียทีเก็บมาจากบนเครื่องจึงได้ใช้ประโยชน์ตลอด
โดยเฉพาะขวดเล็ก 330 ซีซี เหมาะสำหรับใส่น้ำไว้ดื่มระหว่างไปเที่ยว กำลังพอดี ไม่หนักไปด้วยครับ
[27 มิ.ย. 54 05:52:20
]
ญี่ปุ่นหน้าร้อน ท้องฟ้าสว่างไวกว่าที่คิดมากครับ
เชื่อไหมครับว่า เวลาขณะนี้ (ภาพแรก) เวลาตี 4 กว่าของญี่ปุ่น ฟ้าสว่างจนนึกว่าซัก 6 โมงเช้าแล้ว ....
[27 มิ.ย. 54 05:54:05
]
สำหรับอาหารเช้า ราคา 1,000 เยนแบบบุฟเฟต์ ส่วนตัวผมคิดว่าคุ้มมากๆ และแนะนำว่าควรทานอาหารเช้าให้เยอะๆ จะได้มีแรง แม้ว่าเวลาญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมงก็ตาม
สามารถซื้อคูปองอาหารเช้าได้ที่เคาน์เตอร์ Reception แล้วเวลาใช้บริการก็แค่ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่เท่านั้นเองครับ
ไลน์อาหารเป็นบุฟเฟต์สไตล์ญี่ปุ่น เติมได้ไม่อั้น มีทั้งพวกขนมปัง เนย แยม ฯลฯ สไตล์ฝรั่ง และข้าว ปลาย่าง เครื่องเคียง สารพัดไข่ สลัดผัก ฯลฯ แบบญี่ปุ่น เลือกตักเอง เติมเองเลยครับ
ข้อเสียอย่างเดียวคือ "ตื่นมาทานให้ทันนะครับ"
เพราะห้องอาหารเปิดแค่ 7.00-9.30 น. เท่านั้นเอง (ถ้าเวลาไทยก็คือ ต้องตื่นมากินข้าวเช้าตั้งแต่ 5.00-7.30 น.)
(ปิดไลน์อาหาร 9.30 น. ยังสามารถนั่งทานได้จนห้องอาหารปิดเวลา 10.00 น. ตรง)
[27 มิ.ย. 54 05:55:52
]
เอาหล่ะครับ ขออนุญาตจบตอนแรกไปก่อนแล้วกันครับ ....
ตอนต่อไป จะพาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในกรุงโตเกียวครับ
ทริปนี้ไม่ได้ไปไหนไกลเท่าไหร่นัก เน้นเที่ยวแบบสบายๆ
และผมเองก็อยากไปในจุดที่ผมไม่เคยไป (ในครั้งที่แล้ว)
อาทิเช่น ....
-- ตระเวนชิมของอร่อย และบุกตลาดปลา Tsukiji
-- Roppongi Hills ชมวิวกรุงโตเกียวจากมุมสูงยามค่ำคืน ...
-- Odaiba (เมืองแห่งคนรักสัตว์เลี้ยง ตะลุยร้าน Pet City และบุกคลินิคสัตวแพทย์ญี่ปุ่น --> ตอนสมัยเรียนไม่มีปัญญาสอบสัมภาษณ์แข่งกับเพื่อนๆ ชิงทุนมาดูงานครับ ก็เลยต้องมาดูตอนทำงานแล้ว)
รออ่านแล้วกันนะครับ แห่ะๆๆ หากท่านใดมีคำถามสงสัย
จะทิ้งไว้ในกระทู้นี้ก็ได้ หรือจะเมล์มาถามก็ได้ที่ yoongchamud@gmail.com ครับ
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ
[27 มิ.ย. 54 06:02:08
]
แวะมารับข้อมูลแน่นๆจากหมอยุ่งครับ
จากคุณ : Palm Jung Won
[27 มิ.ย. 54 06:28:49
]
ขอบคุณมากนะครับ...เด๋วจบแล้วจะขออนุญาตเซฟเก็บเป็นreferenceนะครับ...
จากคุณ : mordek1
[27 มิ.ย. 54 06:32:15
]
ระเอียดมากๆ....ขอบคุณสำหรับรีวิวจ้า
จากคุณ : โรม ณ. โคราช
[27 มิ.ย. 54 06:52:54
]

[27 มิ.ย. 54 06:59:48
]
@ เมื่อหลายวันก่อนเพิ่งไปอ่านที่ hflight มา..
วันนี้มาอ่านห้องนี้..โอ้โห..ละเอียดยิบเลยครับ
เป็นประโยชน์มากๆ เลย.. แต่เอ ผมไปเมื่อสงกรานต์
ขอแบบ short term repeater เหมือนกัน ก็ได้รับการ
stamp มา 90 วันนะครับ
[27 มิ.ย. 54 07:05:01
]
ข้อมูลละเอียดแน่นปึ๊กเลยครับ
จากคุณ : ม่วงมหากาฬ
[27 มิ.ย. 54 07:16:47
]
รอตอนต่อไปนะครับ
จากคุณ : stupidine
[27 มิ.ย. 54 07:32:34
]
เก็บลง bookmak เรียบโร้ย .. ^^
ขอบคุณมากค่า
[27 มิ.ย. 54 07:44:21
]
คิดถึงญี่ปุ่นค่ะ
จากคุณ : องค์หญิงห่อหมก
[27 มิ.ย. 54 07:45:19
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ข้อมูลละเอียดแน่นปึ้กเหมือนเคยเลยค่ะหมอยุ่ง
[27 มิ.ย. 54 07:50:08
]
ข้อมูลละเอียดมากมายเช่นเคย
ขอบคุณสำหรับรีวิวที่เป็นประโยชน์นะครับ
[27 มิ.ย. 54 08:01:47
]
โปร ญี่ปุ่น จองไม่เคยทันเลยยยยยย
จากคุณ : อุดมสุข
[27 มิ.ย. 54 08:24:51
]
ตามคุณหมอยุ่งไปเที่ยวด้วยครับ
จากคุณ : เที่ยวตามหัวใจ
[27 มิ.ย. 54 08:38:34
]
ตามหมอยุ่งไปญี่ปุ่นด้วยคน
จากคุณ : ตระเวนเที่ยว
[27 มิ.ย. 54 08:55:01
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
อ่านถึง คห. 38 เดี๋ยวตอนเย็นกลับมาอ่านต่อครับ ขอตัวทำงานก่อน
[27 มิ.ย. 54 09:05:01
]
สวัสดีครับ
รีวิวยอดเยี่ยมมากครับ ขอตามมาเที่ยวด้วยคนนะครับ
ขอบคุณครับ
[27 มิ.ย. 54 09:08:47
]
กระทู้ ดี ๆ ที่ตามรอย ได้อีก ไว้จะตามรอย ค๊าฟ ฮิ๊ว ๆ
ขอบคุณครับ หมอยุ่ง ละเอียดกว่าหนังสือที่วางขาย หลาย ๆ เล่ม เลย แฮะ ๆ
[27 มิ.ย. 54 09:14:36
]
ขอเข้ามาเก็บข้อมูลจากกระทู้น้องหมอยุ่งสะสมไว้เรื่อยๆ ก่อน
[27 มิ.ย. 54 09:17:40
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะค่ะ เป็นอีกประเทศหนึ่งที่จะไป เก็บไว้ในคลังเรียบร้อย
[27 มิ.ย. 54 09:22:38
]
ละเอียดดีจังเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ อยากกลับไปญี่ปุ่นอีกจังเลย
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ ว่าหมอจะพาไปเที่ยวไหนต่อ
[27 มิ.ย. 54 09:43:08
]
คุณหมอยุ่งคะ ขอถามเรืื่้อง Fly trhu นิดหนึ่ง
หมายความว่า กระเป๋าเราจะไปถึงที่เลย
แต่ถ้าเกิดระหว่างที่ รอต่อเครื่องแล้วเรา ไปขึ้นเครื่องไม่ทัน กระเป๋าจะไปถึงที่หมายเลยใช่ไหมคะ? แล้วจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?
[27 มิ.ย. 54 09:48:22
]
ตามมาเที่ยวกับคุณหมอยุ่งด้วยค่ะ
กำลังหยอดกระปุก ญี่ปุ่น เป็นอีกประเทศที่อยากกลับไปเที่ยว แล้วเจอกันนะ โตเกียว
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
[27 มิ.ย. 54 09:51:32
]
สุดยอดมากๆครับ ขอบคุณสำหรับ รีิวิวครับผม ^_^
จากคุณ : Curly
[27 มิ.ย. 54 09:54:46
]
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
ศึกษาเส้นทางไว้เพราะสอยโปรปลายปีนี้มาแล้วววว
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากค่าาาm (_ _) m
[27 มิ.ย. 54 10:00:08
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ ข้อมูลละเอียดดีจริงๆ 
[27 มิ.ย. 54 10:02:57
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
กำลังศึกษาข้อมูลเพื่อวางแผนไปเที่ยวอยู่เหมือนกันค่ะ
[27 มิ.ย. 54 10:16:47
]
ขอบคุณคุณหมอยุ่งครับ
สำหรับผมคุณคืออันดับหนึ่งในโลกแล้วครับ ^^
[27 มิ.ย. 54 10:19:14
]
ถ้าจะนอนสนามบินฮาเนดะ เตรียมเครื่องกันหนาวไปให้พร้อมนะครับ กลางคืนหนาวมาก
จากคุณ : CocoaChocolate
[27 มิ.ย. 54 10:19:53
]
ขอบคุณหมอยุ่งคะ saveไว้แล้วนะ
หมอมากระตุ้นต่อมอยากเที่ยวอีกแล้ววว
[27 มิ.ย. 54 10:22:43
]
ขอบคุณรีวิวหมอยุ่งค่ะ ข้อมมูลละเอียดดีค่ะ
จากคุณ : aor-naja
[27 มิ.ย. 54 10:29:44
]
รูปสวย ข้อมูลเยี่ยม ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[27 มิ.ย. 54 10:44:39
]
สวัสดีครับ.
เข้ามาหาข้อมูลด้วยดนครับ
ขอบคุณมากครับ..คุณหมอฯ..
[27 มิ.ย. 54 10:51:37
]
ข้อมูลแน่น ภาษาชัดเจน
ต้องกด "ถูกใจ"
[27 มิ.ย. 54 10:55:56
]
ถูกใจจัง
จากคุณ : snas89Pink
[27 มิ.ย. 54 10:57:47
]
สุดยอดเลยค่ะ ติดตามรีวิวตอนต่อไปนะคะ เผื่อจะมีโอกาสไปบ้าง
[27 มิ.ย. 54 11:10:36
]
save กระทู้ไว้ดูด้วยแล้วครับ
เพราะจองไว้แบบเดียวกัน
[27 มิ.ย. 54 11:12:08
]
รอชมตอนต่อไปครับ ขอบคุณครับ
จากคุณ : shintaro
[27 มิ.ย. 54 11:16:06
]
ติดตามผลงานมาตลอด ขอบคุณข้อมูลและพาเที่ยวญี่ปุ่น
ชอบรีวิวแบบนี้ครับ ข้อมูลแน่น ราคาไม่แพง ฉลาดเลือก ไม่เวอร์ไม่ดัดไม่ก๊อปปี้เฟรมใคร
จะตามอ่านไปทุกตอนครับ
[27 มิ.ย. 54 11:31:24
]
อัดแน่นไปด้วยข้อมูลจริงๆเลยค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ
[27 มิ.ย. 54 11:33:21
]
รีวิวได้ละเอียดมากค่ะ เก็บเข้าคลังกระทู้เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากๆ นะค่ะ
จากคุณ : แม่น้องบูม
[27 มิ.ย. 54 11:41:35
]
เย้! ในที่สุดก็มีคุณเพื่อนทำรีวิวมาให้ก๊อบ
เดี๋ยวตุลานี้เจอกันแน่โตเกียวกับหางแดงXL
(ยังคิดอยู่ว่าจะกลับไปขอวีซ่าที่เชียงใหม่ดีไหมนะ ต้องลางาน 2 วันเลยหรือเปล่าหว่า?)
[27 มิ.ย. 54 11:48:16
]
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ละเอียดมากเลย ตั้งตารอตอนต่อไปเลยหล่ะค่ะ
จากคุณ : MinnieMoChi
[27 มิ.ย. 54 12:02:02
]
ให้ข้อมูลละเอียดดีจัง เป็นคู่มืออย่างดีไม่มีหลงเลยล่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
[27 มิ.ย. 54 12:07:47
]
ข้อมูลเยี่ยมค่ะ ไว้มีโอกาสจะลองลุ้นโปรหางแดงกะเค้ามั่ง
รอชมตอนต่อไปนะคะ ^^
[27 มิ.ย. 54 12:13:08
]
ได้ความรู้อีกแล้ว ขอบคุณครับที่พาไปเที่ยว
จากคุณ : predator_john
[27 มิ.ย. 54 12:13:57
]
ถูกใจมากเลย
คนไม่เคยไปญึ่ปุ่น จะได้ลองดูบ้าง
[27 มิ.ย. 54 12:18:08
]
เข้ามาชมครับ
จากคุณ : CANDIDI
[27 มิ.ย. 54 12:26:57
]
ชอบหรกระทู้ของหมอยุ่งตรงอธิบายละเอียด ใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจได้ง่ายๆนี่แหละครับ เยี่ยมครับ
จากคุณ : ไรเฟิล
[27 มิ.ย. 54 12:37:54
]
ขอบคุณน้องหมอ สำหรับรีวิวที่สุดเจ๋ง ข้อมูลแน่นปึ้ก ใส่ใจทุกรายละเอียดสไตล์หมอยุ่งด้วยจ้า


เก็บเข้าคลังละ
จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล
[27 มิ.ย. 54 12:38:40
]
เข้ามาเก็บข้อมูลละเอียดๆ ด้วยค่ะ
[27 มิ.ย. 54 12:42:10
]
Japan ตอนนี้ร้อนโฮกจริงๆ ครับ น้องที่รู้จักที่ไปเรียนที่โน่นก็บอกมา
ร้อนกว่าหน้าร้อนปีนี้ของเมืองไทยซะอีก
แนะนำเรื่องสัมภาระหิ้วขึ้นเครื่องของหางแดง
สำหรับคนที่บ้าหอบฟางอุปกรณ์ถ่ายรูปและอุปกรณ์คอมแบบผม
ขอให้ไปหาเป้แบบที่ใส่โน้ตบุคได้ครับ
แล้วสารพัดของติดตัวอะไรทุกอย่างก็ใส่เป้ใบนี้ไปให้หมด
แล้วถือกระเป๋ากล้องอีกใบขึ้นเครื่อง จะได้พอดีสองชิ้นไม่เกิน
ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้าเครื่องสำอางประดามีอื่นๆ คงต้องโหลดครับ
[27 มิ.ย. 54 12:45:09
]
noted ไว้ก่อน เด๋วกลับมาดู
[27 มิ.ย. 54 12:55:33
]
รีวิวสวยมากค่ะ
จากคุณ : Us-Sama Iland
[27 มิ.ย. 54 12:58:17
]
จะไม่ชอบคุณหมอฯก็วันนี้แหละค่ะ ทำงานเซ็งๆอยู่แล้วมาเจอกระทู้พาเที่ยวญี่ปุ่น U_U
แถมบินถูก อยู่ถูก เที่ยวถูกอีก ไม่เป็นอันทำงานแล้วค่ะ อยากกลับไปญี่ปุ่น
[27 มิ.ย. 54 13:09:10
]
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์ครับ
จากคุณ : beckkeng_7
[27 มิ.ย. 54 13:23:31
]
แจ่มมากเลยคะ กำลังคิดอยู่ว่าจะไปญี่ปุ่นอีกครั้งมั้ย....พอได้อ่านรีวิวของหมอแล้ว...จะตามไปคะ
จากคุณ : yuitom
[27 มิ.ย. 54 13:33:31
]
รีวิว แจ่มตลอดเลย ชอบมากๆๆค่ะ
จากคุณ : koy_onair
[27 มิ.ย. 54 13:55:23
]
ขอบคุณมากๆครับผม
จากคุณ : digimontamer
[27 มิ.ย. 54 14:02:33
]
ขอสอบถามการนอนค้างที่สนามบิน LCCT ได้ไหมและแนะนำจุดไหนที่นอนได้สะดวก ....
ขอบคุณสำหรับ Review และข้อมูล
[27 มิ.ย. 54 14:06:21
]
รีวิวละเอียดมาก ขอบคุณค่ะ
จะตามไปเส้นทางนี้ช่วงกลางเดือนตุลาค่ะ จองพร้อมกันกะหมอยุ่ง
จองชาติที่แล้ว ชาตินี้ใกล้จะได้ไปแล้ววววววววววววววววว
[27 มิ.ย. 54 14:09:20
]
โห รีวิวได้ละเอียดลออมากเลยค่ะ
จากคุณ : mini (iammini55)
[27 มิ.ย. 54 14:21:44
]
ข้อมูลแน่นเหมือนเดิมค่ะ
จากคุณ : เกิดมาเพื่อเที่ยว
[27 มิ.ย. 54 14:22:19
]
ข้อมูลแน่นมากค่ะหมอยุ่ง
รอตอนต่อไปนะคะ
[27 มิ.ย. 54 14:36:48
]
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านและโหวตให้ครับ 
หากกระทู้ผมเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเดินทาง ผมก็ดีใจครับ
จริงๆ กระทู้นี้ก็อาจจะเหมาะสำหรับผู้ทีมีแผนจะไปญี่ปุ่นด้วยตนเองครั้งแรก เพราะผมเองก็เขียนจากความรู้สึกตอนที่ไปเอง รู้สึกได้เลยว่า ถ้าไม่เคยผ่านหลักสูตร สิงคโปร์ ฮ่องกง มาก่อนนี่ มีมึนแน่ๆ ....
ก็เลยพยายามเขียนอะไรแบบ Basic เหมาะสำหรับ Beginner ก่อน
ส่วนท่านเทพญี่ปุ่นขั้น Profesional แล้ว กระทู้นี้ก็อาจจะเป็นแค่กระทู้ธรรมดาๆ บ้านๆ เนื้อหาไม่มีอะไรก็เท่านั้นเองครับ โปรดได้ปล่อยผ่านไป เพราะผมเองก็ยอมรับว่า ผมเคยไปญี่ปุ่นแค่ 2 ครั้ง ชั่วโมงบินยังน้อยมาก เมืองหลายเมือง และสถานที่หลายแห่งก็ไม่เคยไป (อย่างที่บอกหล่ะครับ Japan : Endless Discovery เที่ยวไงก็ไม่หมด)
ขออนุญาตตอบคำถามนะครับ 
Q : ผมไปเมื่อสงกรานต์ ขอแบบ short term repeater เหมือนกัน ก็ได้รับการ stamp มา 90 วันนะครับ ??
A : เท่าที่ผมทราบ เจ๊เขี้ยว แห่งสถานกงศุลญี่ปุ่นเชียงใหม่ เธอบอกกับผม ชัดเจนถึง 2 รอบเลยครับว่า ถ้าผมจะขอแบบ Short Term Repeater จะได้สิทธิพำนักได้เพียง 15 วันเท่านั้น และคนที่ยื่นขอไปด้วยกัน ก็จะได้ 15 วันเหมือนกันครับ ถ้าอยากจะอยู่ 90 วันต้องยื่นแบบปกติเท่านั้น สำหรับรายละเอียดเรื่อง Short Term Repeater ตามลิ๊งค์นี้เลยครับ
http://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/visastr.htm
Q : ขอถามเรื่อง Fly-Thru นิดหนึ่ง หมายความว่า กระเป๋าเราจะไปถึงที่เลย แต่ถ้าเกิดระหว่างที่ รอต่อเครื่องแล้วเรา ไปขึ้นเครื่องไม่ทัน กระเป๋าจะไปถึงที่หมายเลยใช่ไหมคะ? แล้วจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?
A : ถ้าเราไป LCCT แล้วเราไปเถลไถล กลับไปขึ้นเครื่องไม่ทัน ประตูขึ้นเครื่องปิดไปแล้ว ทางสายการบินจะทำการ off load กระเป๋าทิ้งไว้ที่ LCCT ไม่ได้ส่งไปกับเที่ยวบิน เพราะผู้โดยสารไม่ได้ไปด้วยครับ
Q : ขอสอบถามการนอนค้างที่สนามบิน LCCT ได้ไหมและแนะนำจุดไหนที่นอนได้สะดวก ??
A : ถ้าไม่แคร์ว่าเหมือนนอนในห้างโลตัส ก็นอนได้ครับ แต่แทบจะไม่มีม้านั่งให้นอนนะครับ ต้องปูกระดาษหนังสือพิมพ์ ใส่ถุงนอน แล้วก็นอนบนพื้น ตามริมกำแพงโซนเคาน์เตอร์เช็คอินก็พอไหวครับ แต่พื้นที่อื่นๆ ส่วนตัวผมคิดว่า ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ คนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะมาก ไม่เหมาะแก่การนอนครับ .... กรณีต้องการนอนแบบจริงๆ จังๆ ในบรรยากาศดีแบบสนามบินใหญ่ แนะนำนั่งรถ Shuttle Bus 1.5 ริงกิต ข้ามไปนอนที่ KLIA Main Terminal จะดีกว่าครับ เงียบสงบกว่า อลังการกว่าครับ
ปล. ถึง Ethanol ถ้าลางานมายื่นวีซ่าที่เชียงใหม่ ต้องลางานถึง 3 วันเลยนะ เพราะยื่นเช้าจันทร์ รับเล่มคืนบ่ายวันพุธ ครั้นจะไป-กลับ 2 รอบเกรงว่า ยื่นกับ VFS ที่กรุงเทพน่าจะประหยัดกว่าหน่ะ
[27 มิ.ย. 54 15:02:17
]
ขอบคุณสำหรับรีวิว+ข้อมูลต่างๆมากครับ เป็นประโยชน์อย่างมากเลยครับ
[27 มิ.ย. 54 15:08:03
]
ตามมาเก็บข้อมูลค่ะ ^^
จากคุณ : :D keigo :D
[27 มิ.ย. 54 15:20:30
]
ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ
จากคุณ : ทะเลดาวอาบแสงจันทร์
[27 มิ.ย. 54 15:44:41
]
เข้ามารอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อครับ
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล สำหรับ Beginner อย่างละเอียดครับ
[27 มิ.ย. 54 15:46:18
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวและข้อมูลครับ
จากคุณ : BANBONDOI
[27 มิ.ย. 54 16:35:36
]
รีวิวได้เยี่ยมเลยน้องยุ่ง
พี่จะรอดูตอนหน้านะ
อยากรู้ว่าคลินิกสัตวแพทย์ที่ญี่ปุ่นจะเป็นยังไง
[27 มิ.ย. 54 16:44:56
]
กระทู้มีประโยชน์มากมายค่ะสำหรับคนจะไปญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ขอบคุณมากค่ะ
อยากรบกวนถามคุณหมอยุ่งว่าสำหรับการขอวีซ่าญี่ปุ่นครั้งแรก เอกสารสำคัญ 1-7 ในคห. 4 ของคนไปเที่ยว(เอง ไม่ง้อทัวร์)ครั้งแรก ที่ให้เพิ่มแนบรายการเที่ยวไปด้วย นอกเหนือจากนี้
ต้องมีใบบุ๊กเที่ยวบินหรือโรงแรมให้ดูด้วยไหมคะ เราก็ยังไม่รู้ว่าจะได้วีซ่าไหม เข้าไปเช็คราคาเวปแล้วก็อยากซื้อเอง ไม่ผ่านเอเยนต์(ซึ่งคงแพงกว่า) แต่ซื้อตั๋วเรือบินทางเน็ตต้องจ่ายเงินเลย
จองโรงแรมอาจไม่มีปัญหาเพราะโรงแรม เรียวกัง หลายแห่งให้จองโดยเขาไม่เรียกเก็บเงินก่อน ให้ไปจ่ายเต็มจำนวนที่โน่นตอนเช็คอินอย่างโรงแรมที่คุณหมอไปพัก
รบกวนถามแค่นี้ค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
[27 มิ.ย. 54 16:53:09
]
ข้อมูลแน่นเหมือนเดิม
จากคุณ : tottui
[27 มิ.ย. 54 17:05:01
]
หมอยุ่ง ข้อมูลแน่นปึ้กทุกกระทู้เลยนะครับ ชอบมาก
จากคุณ : เล็กพัดลม
[27 มิ.ย. 54 17:13:35
]
review มีประโยชน์ให้ความรู้มาก ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด
[27 มิ.ย. 54 17:16:10
]
ขอบคุณครับ หาข้อมูลอยู่พอดี
จากคุณ : narupol
[27 มิ.ย. 54 18:03:06
]
เก็บเข้าคลังด่วนๆๆๆๆเลยค่ะ ^^
จากคุณ : cherry..Boom
[27 มิ.ย. 54 18:03:08
]
ขอบคุณครับ
อ่านกระทู้ท่องเที่ยวแล้ว
คิดถึงคนที่เคยไปเที่ยวด้วยกันมาก
[27 มิ.ย. 54 18:10:26
]
ขอบคุณคุณหมอยุ่งฯ ข้อมูลแน่นเหมือนเดิมจริง ๆ ครับ
ตอบคุณ la liga fan ตอนผมไปเองครั้งแรก ผมใช้วิธีไปขอวีซ่าก่อน แล้วค่อยจอง ตั๋วเตรื่องบิน + รร.
เพราะขอวีซ่าล่วงหน้าได้ 90 วัน ตอนผมไป เดือนปลายมีนา ผมไปขอตั้งแต่ต้นมกรา ให้ได้วีซ่าแล้วค่อยจองส่วนที่เหลือ
ยกเว้นว่าได้ตั๋วเครื่องบินถูกมาก ๆ ก็เป็นอีกกรณีนึงครับ
[27 มิ.ย. 54 18:13:15
]
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
เราต้องตั้งใจรอโปรนี้มั่งแล้ว
[27 มิ.ย. 54 18:16:35
]
สุดยอดเลยค่ะ มีประโยชน์ ได้ความรู้มากๆ ขอบคุณค่ะ ^^
จากคุณ : จาจ้า (jabraza)
[27 มิ.ย. 54 18:16:46
]
เข้ามาชมญี่ปุ่นค่ะ
จากคุณ : นางมารชุดส้ม
[27 มิ.ย. 54 18:35:13
]
ติดตามหมอยุ่งไปญี่ปุ่นด้วยค่ะ ละเอียดยิบแบบใช้เป็นคัมภีร์ได้เลยนะเนี่ย
จากคุณ : สร้อยฟ้าสุวรรณมาลี
[27 มิ.ย. 54 18:51:55
]
รร ดูดีมากๆ เลยจ้ะ
ไปญี่ปุ่นเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มเลย ปลายปีนี้อาจจะไปอีกรอบ คราวนี้จะบินลงโตเกียวบ้างแล้ว ที่ผ่านๆมา บินลงแต่โอซาก้า
[27 มิ.ย. 54 18:55:45
]
จัดเต็มจริงๆค่ะรีวิวนี้ ขอบคุณมากค่ะ^^
จากคุณ : สามแซ่
[27 มิ.ย. 54 19:01:58
]
ขอบคุณค่ะ
กระทู้นี้เป็นเหมือนแสงสว่างเลยค่ะ
จองตั๋วไว้เหมือนกัน
กำลังงงๆและมืดมนอยู่เลย
มีคนชี้ทางสว่างให้แล้วดีใจจัง
[27 มิ.ย. 54 19:07:41
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวแบบแน่นปึ๊กค่ะ จะเก็บไว้เป็น guidebook ค่ะ ^_^
จากคุณ : มุ่นแพร
[27 มิ.ย. 54 19:08:33
]
มาตามรีวิวของคุณหมอยุ่งค่ะ ข้อมูลดี ๆ เป็นประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
จากคุณ : ลูกอ๊อดตัวใหญ่
[27 มิ.ย. 54 19:10:28
]
รอ รอ ขอตามคุณหมอไปเที่ยวด้วยคนนะค่ะ ^^
จากคุณ : a_neung
[27 มิ.ย. 54 19:30:08
]
อยากเป็นแฟน(คลับ)คุณหมอค่ะ
[27 มิ.ย. 54 19:40:10
]
แวะมาขอบคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่งครับ ... กำลังใจดีมีพลัง 
เท่าที่เคยได้ยินมานะครับ ...
เห็นว่าแผนของแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ในอนาคต มีโครงการที่จะไปลงที่ โอซาก้า-คันไซ (KIX) และ ฟูกูโอกะ (FUK) ด้วย ซึ่งถ้าได้ไปลง KIX ซื้อ Kansai Thru Pass ก็น่าจะเวิร์กไม่น้อย เที่ยวได้ครบเลย โอซาก้า-นารา-เกียวโต-โกเบ หรือ ถ้าไปลง FUK ก็อยากจะตะลุยคิวชู ไป Beppu และเมืองรอบๆ เช่นกัน
ซึ่งสำหรับนักล่าโปรโมชั่นบินถูกๆ ตอนนี้ผมได้ข้อคิดอย่างหนึ่งครับว่า
"โปรโมชั่นเปิดเส้นทาง อย่างไรก็ถูกที่สุดครับ" ถึงจะมี Big Sale หรือ Free Seat แต่เส้นทางแอร์เอเชียเอ๊กซ์ เส้นไหนที่ขายดี โปรฯ ก็จะไม่แรงเท่าไหร่ หรือถ้าแรงอย่างไรก็ไม่เท่ากับโปรฯ เปิดเส้นทาง
ก็รอลุ้นกันต่อไปกับเส้นทาง KUL-KIX, KUL-FUK จัดมาเลย 99 ริงกิต จะได้รีบสอย อิอิ (สำหรับเส้นทางจากกรุงเทพ อย่าได้หวังเลยครับ ตราบใดที่พี่ใหญ่มาเลย์ไม่ได้แบ่งเครื่องแอร์บัส A330-300 มาให้ FD ก็คงยากครับ เป้าหมายของเค้าคือให้ LCCT เป็นฮับใหญ่เท่านั้น)
---------------------------------------------------------------------------
ตอบคำถามก่อนนะครับ ....
Q : การขอวีซ่าญี่ปุ่นครั้งแรก เอกสารสำคัญ 1-7 ในคห. 4 ของคนไปเที่ยว(เอง ไม่ง้อทัวร์)ครั้งแรก ที่ให้เพิ่มแนบรายการเที่ยวไปด้วย นอกเหนือจากนี้ ต้องมีใบบุ๊กเที่ยวบินหรือโรงแรมให้ดูด้วยไหมคะ ??
A : เท่าที่ผมเคยยืนครั้งแรกเมือปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ไม่สนใจใบจองตั๋ว หรือ ใบจองโรงแรมเลยครับ she เมินใส่ แยกออกมาไม่ชายตามองด้วยซ้ำไป ดังนั้นผมคิดว่า แค่แนบรายการเที่ยวเขียนโปรแกรมคร่าวๆ ว่าวันนี้จะไปไหนอะไรอย่างไร เพียงเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอครับ
---------------------------------------------------------------------------
ปล. ถึงพี่ RachaprukCM ครับ คลินิคเค้าอลังการงานสร้างมากมายครับ ใครคิดว่า รพส.ทองหล่อ เทพแล้ว เจอญี่ปุ่นไป ผมว่าทองหล่อกลายเป็นเฉยๆ ไปเลยครับ แค่อุปกรณ์หลายอย่างในห้องตรวจเค้า แค่เห็นก็อึ้งแล้วครับ แต่ก็อย่างว่า ราคาสัตว์เลี้ยงที่ญี่ปุ่น สุนัข/แมวพันธุ์เดียวกัน แต่ราคาขายแพงกวาไทย > 10 เท่าครับ คนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวในญีปุ่นได้ จึงต้องมีกำลังสูงมากพอสมควร มิใช่ใครจะเลี้ยงก็ได้ และแน่นอนว่า เวลาเค้าไปหา รพส. หรือคลินิค ก็มีกำลังจ่ายได้สูงเช่นกัน (เรื่อง Pet City, คลินิคสัตวแพทย์ และ Cat Cafe เอาใจคนรักสัตว์ จะอยู่ในกระทู้เรื่อง Odaiba ตอนที่ 3 ครับ)
ปล.2 ถึงเจ๊ sueko ครับ เห็นล๊อกอินพี่แล้วผมนึกถึงของกินครับ
พี่มีร้านประจำร้านไหนเด็ดๆ ในย่านตลาดปลา Tsukiji หรือย่านอื่นๆ ในโตเกียวไหมครับ ที่แบบว่า ถ้าได้กลับไปจะต้องไปทานทุกครั้งครับ
[27 มิ.ย. 54 19:51:50
]
สุดยอดครับ หมอยุ่ง
ทำงานแล้ว ยังหาเวลาเที่ยวได้
[27 มิ.ย. 54 20:31:57
]
ขอบคุณคุณหมอยุ่งฯ มากค่ะ
และคุณ ExUnited ด้วยค่ะ
ช่วยสร้างความกระจ่างให้แล้ว
[27 มิ.ย. 54 20:43:34
]
แวะเข้ามาชมครับ
รอชมภาคต่อ 

[27 มิ.ย. 54 21:34:28
]
คุณหมอยุ่งฯ สุดยอดมากค่ะ ข้อมูลเพียบ เต็มแน่นไปด้วยสาระ
เข้ามาอ่านกระทู้คุณหมอยุ่งฯ ได้ข้อมูล ความรู้เต็มๆ เลยค่ะ นับถือจริงๆ
รอชมตอนต่อไปค่ะ (ภาพในคห.149 น่าทานอย่างแรง)
[27 มิ.ย. 54 22:29:53
]
Thank you for good review
จากคุณ : genie&winnie
[27 มิ.ย. 54 22:36:08
]
มาอัพเดทให้ครับเรื่องน้ำดื่มที่ LCCT ร้านที่หมอยุ่งซื้อนั่นแพงจริงครับ ถ้าไม่แคร์ว่าต้องเป็นน้ำแช่เย็นให้ไปซื้อกับร้านที่อยู่ริมสุดตรง gate ที่เป็นห้องครับ ไม่แน่ใจใช่ gate T18 หรือไม่ราคา 1.4 ริงกิตเองครับ ผมใช้บริการทุกครั้ง
ส่วน keikyu จาก Haneda ไป shinnakawa รอบ 23.40 น ผมนั่งไปก็ต่อสาย yamanote ทันนะครับ ตอนนั้นผมพัก cube ueno ต่อสบายๆดูป้ายแล้วรู้สึกยังไม่ใช่คันสุดท้ายด้วยครับ
เห็นแล้วก็อยากไป Japan อีกรอบจริงๆ
โหวตกระทู้รีวิวคุณภาพค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอยุ่งมากๆสำหรับรูปสวยพร้อมรายละเอียดนะคะ
[27 มิ.ย. 54 23:16:56
]
ตามหมอยุ่งไปญี่ปุ่นด้วยคนนะคะ
จากคุณ : ultraple
[27 มิ.ย. 54 23:19:08
]
ยังอ่านไม่จบเลย ตาลายแล้ววันนี้
พรุ่งนี้จะมาตามอ่านต่อให้จบค่ะ
ยังไงก็ขอบคุณมาก ๆ นะคะ
[28 มิ.ย. 54 00:10:18
]
ผมไปเที่ยวเกาหลีได้ก็เพราะคุณ
ผมจองตั๋วเที่ยวญี่ปุ่น ฮาเนดะ ได้ก็เพราะคุณ
และผมก็กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ได้แบบคุณอีก (ไปปีหน้า เม.ย)
ผม "ขอบคุณ" จริงๆ ครับ
รักษาสุขภาพ
ปล. ผมจะส่งหลังไมค์ไปขอบคุณ แต่ส่งไม่ได้เลย
ขอขอบคุณทางนี้แล้วกันนะครับ
[28 มิ.ย. 54 00:45:36
]
แห่ะๆ มาเคลียร์ครับ 
มาอัพเดทให้ครับเรื่องน้ำดื่มที่ LCCT ร้านที่หมอยุ่งซื้อนั่นแพงจริงครับ ถ้าไม่แคร์ว่าต้องเป็นน้ำแช่เย็นให้ไปซื้อกับร้านที่อยู่ริมสุดตรง gate ที่เป็นห้องครับ ไม่แน่ใจใช่ gate T18 หรือไม่ราคา 1.4 ริงกิตเองครับ ผมใช้บริการทุกครั้ง
--> ถ้า Gate T18 คือ Gate ที่เป็นคอกริมสุด ข้างกันคือประตูช่อง Fly-Thru จากนั้นคือป้ายโฆษณาของ MH และฝั่งตรงข้ามเป็นธนาคารแลกเงินนี่ครับ และพอดีเห็นราคา ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่แต่รู้สึกว่าแพงแปลกๆ ก็เลยไม่เอาดีกว่า แต่อยางไรต้องขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ เพราะถ้าน้ำแช่เย็นยังไงก็ 3.5 ริงกิตขึ้นแน่ๆ
ส่วน keikyu จาก Haneda ไป shinnakawa รอบ 23.40 น ผมนั่งไปก็ต่อสาย yamanote ทันนะครับ ตอนนั้นผมพัก cube ueno ต่อสบายๆดูป้ายแล้วรู้สึกยังไม่ใช่คันสุดท้ายด้วยครับ
--> สำหรับผม คือ ตอนแรกผมกะจะต่อ Yamanote นี่หล่ะครับ
ลงไปชานชลาข้างล่าง เงียบสนิท ป้ายชานชลาปิดมืดตื๋อไม่มีอะไรบอกซักอย่าง และเจอ Yamanote จอดนิ่งๆ อยู่ 1 คัน ส่วนชานชลารถไฟสายสีฟ้า (Kenhin-Tohoku) สาย Omiya-Ofuna คนรอกันเต็มอยู่เลยครับ ก็เลยเชื่อได้สนิทใจว่า Yamanote หยุดวิ่งแล้วจริงๆ ไม่งั้นควรจะต้องมีคนมารอรถไฟบ้าง และตรงชานชลาต้องมีเวลาระบุขบวนถัดไป จริงไหมครับ แห่ะๆ เลยไม่แน่ใจว่าเป็นมาตรการประหยัดพลังงานด้วยหรือเปล่าครับ
[28 มิ.ย. 54 00:55:50
]
ถึงคุณ PICKER GEMINI ครับ
--> ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจครับ ยินดีเช่นกันครับ
แต่เรื่องสอยตั๋วนี่ อย่างโปรฯ ล่าสุดนี่ต้องยกให้เป็นความสามารถของคุณด้วยนะครับ เส้นทางฮาเนดะ ก็นับว่าจองยากใช้ได้ เพราะถ้าไม่ได้เพียรพยายามอย่างถึงที่สุดก็สอยยากอยู่ มัวแต่ค้างแหง่กอยู่ใน Waiting Room ไม่ได้ไปไหน
--> ถ้าไปเดือนเมษายนปีหน้า อากาศน่าจะดีมากครับ ไม่แน่ใจว่าไปช่วงต้นเดือนหรือไม่ ถ้าช่วงต้นๆ เดือนเป็นช่วงดอกซากุระบาน โรแมนติกสุดๆ ครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านกันอีกครั้งหนึ่งครับ
[28 มิ.ย. 54 01:01:56
]
หวัดดีครับหมอ
ข้อมูลละเอียดยิบเช่นเคย ขอให้นำข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างนี้มาให้เพื่อนๆตลอดไปนะครับ เพราะคงไม่มีใครทำรีวิวละเอียดเช่นนี้อีกแล้ว
ช่วงนี้รถไฟญี่ปุ่นเวลาจะยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ครับ คนท้องถิ่นเค้าจะดูประกาศที่ติดไว้แถวๆห้องขายตั๋วก่อนว่าวันนั้นๆมีเปลี่ยนเวลาหรือไม่
HND สะดวกจริงครับแค่ 20 นาทีเท่านั้นก็ถึง Shinagawa แล้ว คนก็นิยมมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยว Gate ที่เหลือสร้างเสร็จแล้วคงจะรองรับเส้นทาง International Flight ได้มากกว่านี้อีกครับ
[28 มิ.ย. 54 03:48:31
]
โห..คุณหมอ ละเอียดยิบทุกเม็ด
อ่านแล้วขนลุก ทุ่มเทขนาดนี้
รักคุณหมอหมดใจเลยคะ
[28 มิ.ย. 54 07:31:23
]
อ่านแล้วอยากตามไปมั่ง
จากคุณ : Paksabuy
[28 มิ.ย. 54 08:08:13
]
ไปด้วยคนนะครับ
จากคุณ : noiwanwannoi
[28 มิ.ย. 54 08:42:29
]
รีวิวยอดเยี่ยมแห่งปี
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูล
[28 มิ.ย. 54 08:55:57
]
เยี่ยมครับ ตามต่อนะ..
จากคุณ : water_front
[28 มิ.ย. 54 09:50:13
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ โรงแรมที่คุณหมอไปพัก น่าสนใจมากครับ เพราะผมก็ชอบเดินแถวอากิฮะบาระเหมือนกัน ไว้คราวหน้าจะไปพักดู
ว่าแต่ คุณหมอไปแค่ไม่กี่วันเอง เที่ยวพอหรือครับ
[28 มิ.ย. 54 11:12:47
]
กระทู้ดีแบบนี้ กดโหวตเข้าคลัง และบุ๊คมาร์กไว้เลยค่ะ
ข้อมูลดีๆจะได้ไปญี่ปุ่น(ครั้งแรก)กะเค้าบ้างอะไรบ้าง
[28 มิ.ย. 54 11:20:30
]
คอนเฟิร์มเรื่องร้านขายของชำติดกับช่องตรวจ Fly tru ใน LCCCT ที่เห็นคนแน่นๆ พนักงานหน้าหงิกตลอด
ร้านนั้นขายถูกสุดแล้วจริงๆเน้อ น้ำเปล่าขวดละริงกิตกว่าๆเอง ขนมก็ถูก ซื้อไปกินบนเครื่องสบายเลยตอนไปเกาหลีคราวที่แล้ว
[28 มิ.ย. 54 11:35:28
]
^_^ ตามอ่านค่า
จากคุณ : bassgirl
[28 มิ.ย. 54 12:04:07
]
สุดยอดเลยค่ะ ถ้าเห็นชื่อนี้รีวิวเมื่อไหร่ ไม่เคยผิดหวังเลยที่เปิดมาดู ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลละเอียด ๆ ยอดเยี่ยมแบบนี้
[28 มิ.ย. 54 12:26:45
]
กระทู้นี้สร้างแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นจะกลับไปเยือนญี่ปุ่นอีกครั้ง : )
จากคุณ : Hermy
[28 มิ.ย. 54 13:09:21
]
อยากไปบ้างงงง
จากคุณ : ขนมจีนแม่แต๋วอร่อยมาก
[28 มิ.ย. 54 13:31:07
]
ขอบคุณมากๆ ค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ
อยากไปเที่ยวบ้างจัง
[28 มิ.ย. 54 14:41:29
]
ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ
จากคุณ : extrajeab
[28 มิ.ย. 54 14:53:28
]
หมอยุ่งครับ ผมดูใน hyperdia สาย yamanote line เที่ยวสุดท้าย จาก SHINAGAWA ไป IKEBUKURO เวลา 00.26 นะครับตาม link ครับ
http://www.hyperdia.com/en/cgi/en/deptime.html?dep_node=SHINAGAWA&arv_node=IKEBUKURO&search_target=deptime&diagram=574&year=2011&month=6&day=29&searchday=20110628
[28 มิ.ย. 54 16:58:11
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวข้อมูลดีๆเพียบเหมือนเคยนะครับ
ว่าแต่อาหารบนเครื่องนั่นดำเกินไปหน่อยจริงๆครับ
[28 มิ.ย. 54 20:46:59
]
ขอบคุณมากค่ะ ..ละเอียดมากๆเลย ^^
จากคุณ : ปลาผัดคื่นช่าย
[28 มิ.ย. 54 21:02:29
]
ขอบคุณค่ะสำหรับการรีวิว ให้ความรู้สึกเหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วยเลยค่ะ
จากคุณ : petsoon
[28 มิ.ย. 54 21:18:50
]
ถามเรื่องวีซ่าอ่ะค่ะ ถ้าเราเคยไปแล้วเนี่ย ยื่น Repeater แต่ว่า ฝากคนอื่นไปยื่นได้มั้ยคะ
มันจำเป็นที่ต้องไปเองเหมือนเดิมหรือเปล่า
[28 มิ.ย. 54 22:10:58
]
เราเคยมีความคิดว่า ญี่ปุ่น จะไปตอนอายุมากๆหน่อย เก็บเงินได้เยอะๆแล้ว
แต่เจอ รีวิว หมอยุ่งเข้าไป
เหอๆๆ หนูขอเปลี่ยนใจ เก็บเงินโดยไว เพื่อไป แบคแพค อิอิอิ
[28 มิ.ย. 54 22:54:35
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีนะครับ ข้อมูลแน่นปึ้ก อ่านแล้วอยากไปเลย รอลูกโตก่อนจะพาไปลุย Tokyo Disneyland ช่วงนี้ก็ซ้อมๆ Singapore ไปพลางๆ
จากคุณ : magolf
[28 มิ.ย. 54 22:57:20
]
แวะเข้ามาขอบคุณทุกๆ ท่านครับ 
สำหรับเรื่องการขอยื่นวีซ่าญี่ปุ่นแบบ Short Term Repeater
เท่าที่ผมทราบที่เชียงใหม่ อย่างไรเจ้าตัวก็ต้องมาเองอยู่ดี
แค่ได้รับสิทธิ์ไม่ต้องแสดงทะเบียนบ้าน และ สมุดบัญชีธนาคาร
ก็เท่านั้นครับ แต่ถ้าเป็นที่กรุงเทพ ผมไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะเหมือนกันครับ
-------------------------------------------------------------------------
ส่วนเรื่องรถไฟสาย Yamanote จริงๆ ตอนที่ผม search ใน Hyperdia มันก็เหมือนจะมีวิ่งครับ แต่วันจริง ปรากฎว่า ไม่มีครับ ไม่มีแน่ๆ เห็นรถไฟจอดนิ่งไปแล้ว ไม่มีใครรอรถ และบนป้ายไฟแสดงขบวนรถที่ชานชลาก็ปิดสนิท เรียกได้ว่า ผมแบกกระเป๋าลงบันได แล้วก็ต้องแบกกลับขึ้นไปใหม่ ย้ายชานชลาอีกรอบหนึ่ง ดังนั้นถ้าคิดว่าใน Hyperdia ค่อนข้างแม่นจริงๆ ก็จัดไปตามนั้นครับ (ใน Hyperdia จะมีหมายเหตุอยูข้างล่างนะครับ ว่าตารางอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้จากภาวะที่ยังไม่ปกติเต็มที่แบบนี้)
---------------------------------------------------------------------------
ถึง Ethanol เรื่องร้านขายของชำ ขอบคุณมากที่มาฟันธง ไว้คราวหน้าจะได้ไปตุนเสบียงกรังหากต้องบินไกลๆ
---------------------------------------------------------------------------
ถึงคุณ Freedom and Justice ครับ
คือ 4 วันอย่างไรก็ไม่พอครับ รู้ตัวตั้งแต่ตอนตัดสินใจทำรายการเลื่อนวัน เพราะอย่างที่เล่าไว้ตอนแรกตั้งใจจะมา 9 วันครับ แล้วหดเหลือ 4 วันด้วยเหตุหลายๆ อย่าง (ที่สำคัญสุดคือ มาตอนเปิดเทอม ป.โท แล้วครับ และเราก็เรียน ป.โท เสาร์-อาทิตย์ กันทั้งคู่แต่คนละสาขา)
ก็ได้แต่ปลอบใจครับว่า อย่างไรคงไม่ได้มาญีปุนครั้งเดียวแน่ๆ ครับ
ตอนที่แพลนทริป ผมคิดถึง นิกโก้, ฮาโกเน่ และ คามาคุระ แบบวันเดย์ทริปไว้ และให้เวลากับโตเกียวแค่วันเดียว พอเล่าให้อาจารย์หนุ่ม (NMkrung) ฟัง แกก็ฟันธงเลยว่า ผมต้องใช้เวลาในโตเกียว 2 วันแน่ๆ
และสุดท้ายผมใช้เวลาในโตเกียวไป 3 วันและยกให้ฮาโกเน่ไปวันนึงครับ เนื่องจากพาคุณเธอไปวัด Meji Jingu ที่อยู่ Harajuku แล้วดูคุณเธอจะเฉยๆ กับวัด ก็เลยคิดว่า ถ้าไปนิกโก้ นี่คงจะต้องอิ่มกับวัดแน่ๆ ก็เลยตัดสินใจไปฮาโกเน่ แต่ทริปนี้ไม่ได้เข้าออนเซนครับ แห่ะๆๆ
(กระทู้ตอนที่เขียนถึงฮาโกเน่ จะเขียนเรื่องออนเซนด้วยครับ แต่เอาประสบการณ์ปีที่แล้วมาเล่าก็แล้วกันครับ)
วันสุดท้ายเราตัดสินใจไป Odaiba โดยตอนแรกผมก็คิดว่าจะพาคุณเธอไปไหว้พระใหญที่คามาคุระ และต่อด้วย Yokohama คุณเธอคิดถึงลูกชายสีขาหูกางตัวจิ๋วที่อยู่ที่บ้าน ก็เลยนึกถึงคำว่า Pet Shop เธอก็เลยใช้อากู๋ค้นดู จึงพบว่า มีร้านใหญ่ชื่อ Pet City อยู่ที่โอไดบะ ... เอ๋า โอไดบะที่มีเทพีเสรีภาพญี่ปุ่นนี่ ... สรุปสุดท้ายแล้ว เราแฮปปี้กับโอไดบะมากสุดเลยครับ น่าจะมาตั้งแต่วันแรกเลยนะเนี่ยะ ....
ทริปหน้า คงต้องได้มีอีกแน่ครับ แต่ก็คงต้องโอกาส+เวลา+โปรโมชั่นอำนวย ไว้คงได้มาอีกแน่ๆ ครับ สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกกันได้ก็คือ ตลอด 4 วันที่อยู่ เราไม่ได้มีความรู้สึกวิตกกังวลกับเรื่องกัมมันตภาพรังสี หรือเรื่องแผ่นดินไหวเลย (ผมรู้อย่างเดียวว่า ถ้าแผ่นดินไหว ให้ไปมุดใต้โต๊ะ และห้ามใช้ลิฟท์ คราวก่อนก็ได้ซ้อมนิดหน่อยตอนแผ่นดินไหวที่เชียงใหม่ เหอๆๆ วิ่งออกนอกอาคารกันเป็นฝูงเลยทีเดียว)
---------------------------------------------------------------------------
คิดว่ากระทู้ญีปุ่น ซีรีย์นี้ น่าจะเหมาะสำหรับ Beginner แล้วหล่ะครับ
จะพยายามตั้งใจเขียนให้เหมาะสำหรับ มือใหม่ที่จะไปญี่ปุ่นด้วยตนเองครั้งแรก ให้พอไปเที่ยวเองได้ เหมือนกับตอนสมัยก่อนที่เขียนเรื่องสิงคโปร์ รีวิวแบบสิบเก้าถ่าย แต่คงไม่ถึงกับขนาดนั้นครับ ....
ขอขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้ และขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจครับ
[28 มิ.ย. 54 23:19:02
]
เยี่ยม ครับ..หมอ ยุ่ง
แล้วจะ รอยไป
แจก GIVE ครับ
Forded
[29 มิ.ย. 54 00:11:10
]
อยากไป ๆ
จากคุณ : ส้มตำปลาร้า
[29 มิ.ย. 54 14:28:32
]
เมื่อไหร่จะมารีวิวต่อคะ รอชมอยู่นะ
อธิบายละเอียดมาก ขอบคุณนะคะ
[29 มิ.ย. 54 14:28:38
]
ยอดเยี่ยมไปเลยครับหมอยุ่ง รออ่านตอนต่อๆไป นะครับ
จากคุณ : moddmd
[29 มิ.ย. 54 15:39:34
]
ละเอียดยิบสมเป็นคุณหมอยุ่งจริงๆ รอตอนต่อไปค่า
จากคุณ : อะจึ๋ยเคี้ยก
[29 มิ.ย. 54 16:13:45
]
ตามอ่านมาหลายกระทู้แล้วของคุณหมอ
ขอยกนิ้วให้เลยว่าคุณเก่งมากเขียนได้หน้าอ่านตามแบบข้าไม่ได้เลย ได้ประโยชน์มากมาย เก่งจริงๆคะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆที่เขียนมาโดยตลอด + 1 giveคะ
[29 มิ.ย. 54 16:24:31
]
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะคะ ติดตามมาตลอดเลยคะ
จากคุณ : ผึ้งตัวกลม
[29 มิ.ย. 54 16:48:36
]
Thank you for good review
จากคุณ : genie&winnie
[29 มิ.ย. 54 21:44:37
]
ขอบคุณมากค่ะ
จากคุณ : พฤติกรรมดีเด่น
[30 มิ.ย. 54 10:36:43
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวข้อมูลเพียบฉบับญี่ปุ่นค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
[30 มิ.ย. 54 12:16:55
]
ขอบคุณสำหรับ รีวิวดีน่ะครับ :)
จากคุณ : norrapat
[30 มิ.ย. 54 13:54:06
]
รีวิวละเีอียดมากๆ เลยค่ะ
เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นเหมือนกัน ร้อนยิ่งกว่าเมืองไทยจริงๆ (เพราะตอนนี้เมืองไทยฝนตกเลยเย็นกว่า)
สนามบินฮาเนดะ ขาออก ตอนนี้ร้านค้าเยอะกว่าเดิมมาก ขนม ของฝากเพียบ (เทียบกับตอนปลายปีที่แล้วที่เพิ่งเปิดอ่ะนะคะ) ถ้าใครขี้เกียจหิ้วมาจากในเมืองก้อมาหาซื้อเอาข้างในได้เลยค่ะ (ตรง duty free หลังจากผ่าน ตม.แล้ว)
ปล. JR pass ใช้ขึ้น Tokyo monorail ได้ฟรีนะคะ แต่ไม่แน่ใจว่ามี counter exchange ที่ฮาเนดะรึยัง หรือ ต้องทำยังไง ใครรู้ช่วยบอกด้วยนะคะ ^^
[30 มิ.ย. 54 14:07:16
]
ซ้ำ
จากคุณ : redmazda
[30 มิ.ย. 54 14:15:38
]
ขอบคุณครับรายละเอียดครบทุกเม็ด
จากคุณ : GT-Four
[30 มิ.ย. 54 14:57:09
]
จะรอดูรีวิวโอไดบะนะคะ
หมอคะ ถามจริงๆเถอะ น้องโฮ่งที่ญี่ปุ่นนี่ มันโดน GMO ใช่ไหมคะ เพราะมันไม่เคยกัดกัน ไม่เคยเห่าเสียงดัง แถมเห็นเจ้าของก็มาโดดเหยงๆ อยากให้เจ้าของอุ้มอย่างกับเด็ก
[30 มิ.ย. 54 15:48:39
]
-.-" ไม่น่าจะจริงนะครับ ผมว่าเค้าสอนดีมากกว่า เพราะถ้าหมาคุณไปกัดหมาคนอื่น หรือไปทำเสียงดัง โดนเพื่อนบ้านร้องเรียน ถ้าผิดมากๆ เค้าจะไม่ให้คุณเลี้ยงสัตว์นะครับ
จากคุณ : คุณปลาทอง
[30 มิ.ย. 54 17:01:32
]
กระทู้นี้หมด กีป ไป 60 เชียวนะคุณหมอยุ่งฯ ผมต้องขอขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลที่เป็ประโยชน์มากๆต่อทุกๆคนที่กำลังตัดสินใจไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผม อ่านซะลืมกินข้าวเลย สนุกมากครับ
จากคุณ : korakodsan
[30 มิ.ย. 54 17:38:10
]
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับรีวิว ดูแล้วก็อยากไปมั่งจัง
ไม่รู้ปีหน้าจะมีโอกาสไปรึเปล่า เพราะที่บ้านยังไม่อนุมัติเล๊ยยย
เอ่อ นิดนึงนะคะ ไม่อยากขัด
แต่เราพอจะจำได้ลางๆ ว่าราคาเปิดตัววันแรกที่ขายตั๋ว ราคา 74 ริงกิตต่อเที่ยว ต่อคน อ่ะค่ะ
[30 มิ.ย. 54 21:19:55
]
สุดยอดรีวิวอีกแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆนะคะ
จากคุณ : bremstrahlung
[30 มิ.ย. 54 21:30:24
]
คุณหมอค่ะ ทำเอาอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกหลายๆรอบเลยค่ะ
ลีมูซีนบัส ที่ฮาเนดะเคยนั่งสายที่ไปสถานีชินจูกุค่ะ ราคาประมาณ 2000 เยนได้นะค่ะ ถ้าจำไม่ผิด (ได้ข่าวไปก่อนคุณหมอแค่ 2 เดือน)
ก็สะดวกสบายดีไปอีกแบบค่ะ
จะรอคุณหมอมาต่อนะค่ะ สะกดจิตตัวเองว่า อย่าพึ่งๆ พึ่งกลับมา สะสมงบใหม่ก่อน 5555
[30 มิ.ย. 54 21:46:54
]
ขอเข้ามาชมรีวิวด้วยนะครับ ปีหน้าจะได้เก็บตังไปอีกรอบ
Japan Endless Discovery จริงๆ
[30 มิ.ย. 54 22:34:10
]
ตามมาเก็บข้อมูลรีวิวค่ะ
จองโปร Airasia X ข้ามปีเหมือนกัน
จะไปตอน กลางกค นี้ค่า ...^^
[1 ก.ค. 54 11:54:11
]
มาแจกกิฟท์ตามสัญญาครับ...รีวิวข้อมูลเยี่ยมเลยน้องหมอ สำหรับมือใหม่ไปญี่ปุ่นกับ D7 มาดูรีวิวนี้จะได้ประโยชน์มากๆครับ...ขอบคุณอีกทีนะครับ
จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung)
[1 ก.ค. 54 13:25:29
]
หายไปรับจ้างรักษาหมาแมวมาก็เลยไมได้เปิดเน็ตเลยครับ
แวะมาขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะครับ
--> โปรเปิดตัว ราคาค่าโดยสาร 74 ริงกิต + ภาษีสนามบิน 25 ริงกิต รวมเป็น 99 ริงกิตครับ
--> ถึงคุณ booklovers เรื่องน้องหมาครับ คิดว่าเค้าเลี้ยงดีมากกว่าครับ เพราะคงเป็นเรื่องวัฒนธรรมการเกรงอกเกรงใจข้างบ้าน ถ้าทำตัวไม่ดีก็คงต้องโดนดุแน่ๆ หล่ะครับ คงจะไม่เหมือนหมาไทย ที่ปล่อยวิ่งไปมา บางบ้านก็ไม่รู้จักหัดสังสอนหมาตัวเองซะอย่างนั้น บางบ้านตามใจหมา จนเสียหมาไปเลย
--> ถึงคุณ redmazda ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่อง Tokyo Monorail นะครับ ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจว่าใช้ได้หรือเปล่า เพราะ Tokyo Monorail ไม่ได้เป็นของ JR แต่คิดว่า JR เค้าต้องอยากให้ใช้ได้ได้เพราะจะเป็นหนึ่งในเครือข่ายไปสนามบินฮาเนดะครับ บูธของ JR ที่ฮาเนดะมีครับ แต่ปิดเร็วมาก แถมเปิดสายด้วย เห็นว่าปิดตั้งแต่ 2 ทุ่มครับ ซึ่งถ้าใครบิน TG หรือ D7 ไปก็คงต้องไปเปิดใช้บัตร Japan Rail Pass ที่อื่นครับ
[1 ก.ค. 54 13:58:04
]
ขอบคุณคุณหมอสำหรับข้อมูล ป้าก็พึ่งกลับมา ช่วง 11 มิย.ไม่ร้อนเลยนะ แต่ช่วง 20มิย.ไปแล้วก็เหมือนเมืองไทยนิ ป้าขอถามคำถามโง่ๆว่ามีลิฟท์ที่สถานีรถไฟkeikyuจากฮาเนดะเข้าเมืองไหม กพ.หน้าป้าจองairasia ไว้ แบกกระเป๋าหนักขึ้นลงบันไดไม่ไหวค่ะ อ้อ มีairport bus เหมือนnarita ไหมคะ
จากคุณ : simply one
[2 ก.ค. 54 15:21:57
]
มาตอบคุณป้า simply one ครับ
สถานี Keikyu ที่ฮาเนดะ มีลิฟท์ลงไปชั้นชานชลาครับ
แต่ที่ Shinagawa เหมือนจะไม่มีครับ ต้องลากขึ้นบันไดเอา
(หรือมีแต่ไปหลบมุม ผมไม่แน่ใจครับ)
ส่วน Airport Bus ตามที่คุณ Seventh Ave (คห.204)
บอกว่ามีรถวิ่งไปสถานี Shinjuku อยู่ครับราคา 2,000 เยน
ถ้าแบบนั้นอาจจะนั่งสบายกว่านะครับ รวดเดียวถึงไม่ต้องแบกกระเป๋า
แต่รถหมดกี่โมงอันนี้ผมไม่แน่ใจในข้อมูลเลยครับ
[3 ก.ค. 54 12:42:14
]
ขอบคุณค่ะ คุณหมอ
จากคุณ : simply one
[3 ก.ค. 54 17:20:07
]
โอ้วววว ขอบคุณหมอยุ่งสุดหัวใจ
ถ้าวีซ่าผ่าน สิ้นปีนี่ ได้ตามรอยหมอยุ่งแน่ๆค่ะ ครบครันสุดๆ กระทู้เดียวจบเลย
สำหรับการเดินทางเข้าเมือง อิอิ
[3 ก.ค. 54 22:40:54
]
แต่ถ้า ไม่มีรายได้ประจำ ก็สามารถสมัครบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำได้เช่นกัน เช่น เปิดบัญชีฝากประจำ 30,000 บาทก็จะได้วงเงินบัตรเครดิต 30,000 บาทและได้บัตรเครดิต SCB King Power บัตรทองด้วยครับ
จากข้อนี้รบกวนคุณ หมอยุ่งด้วยคับ เพราะผมได้ลองสอบถามทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วๆทางธนาคารบอกว่า " ต้องฝากประจำมาก่อนแล้ว ไม่น้อยกว่า 500,000 บาทคับ ก้เลยอึ้งคับ... แล้วเขาก็ถามว่า ไม่มีทำงานประจำแล้วทำธุรกิจอะไรอยู่ ก็บอกเขาไป มีรายได้เดินบัญชี ไม่ถึง 6หลัก ต่อเดิน มีแค่ 5 หลักปลายๆๆ ก็ยังไม่ได้เลยอะคับ" รบกวนหมอยุ่งแนะนำที ทำไงถึงจะทำได้อะคับ
[3 ก.ค. 54 23:50:10
]
^
^
แปลกดีนะครับ ผมไปถาม จนท.ไทยพาณิชย์ ที่สาขา (หลายสาขา)
เค้าก็บอกว่า ถ้าอยากได้บัตรเครดิตแบบฝากค้ำ
ก็เปิดบัญชีฝากประจำเริ่มที่ 15,000 บาทได้บัตรแฟมิลี่พลัส
ถ้า 30,000 บาทจึงจะได้บัตรทอง SCB King Power วงเงินบัตรเท่ากับเงินฝากค้ำนะครับ
ลองสอบถามกับ 02-777777 (หรือล๊อกอิน SCB Thailand ในโต๊ะสินทรดูก็ได้ครับ)
แต่ถ้าทำธุรกิจส่วนตัว ตอนนี้ก็อาจจะจะลองเร่งเดินบัญชีดู
แล้วใช้รายได้ของร้านยื่นก็น่าจะได้นะครับ แต่ถ้าคิดว่ายังไม่เยอะพอ ก็อาจจะต้องมองหาหนทางเร่งปั๊มยอดกันอีกซักนิดครับ
[5 ก.ค. 54 18:22:06
]
ตามคุงหมออย่างห่วง ๆ
ห่วงว่า ถ้าคุงหมอออกหนังสืออีก ผมก็เสียตังได้อีก 555+
[11 ก.ค. 54 18:13:18
]
หมอยุ่งขรา.....น้องไอซ์ ไปด้วยค่ะ
จากคุณ : บ้านสามออ
[11 ก.ค. 54 20:21:15
]
รบกวนสอบถามค่ะคุณหมอ ไม่เข้าใจเรื่องเวลาค่ะ
กรุงเทพ - กัวลาลัมเปอร์ AK735 10.00 - 13.05 น.
เวลาที่ระบุ คือเวลาตามประเทศไทยใช่ไหมคะ
แล้วเวลาใน 3 รายการนี้
กัวลาลัมเปอร์ - ฮาเนดะ D7 2682 14.40 - 22.30 น.
ฮาเนดะ - กัวลาลัมเปอร์ D7 2683 23.45 - 6.30(+1)น.
กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพ AK734 8.25 - 9.30 น.
ยึดตามเวลาประเทศอะไร แล้ว (+1) หมายถึงอะไรคะ
ต้องขออภัยนะคะ หากเป็นคำถามที่ไม่ค่อยเข้าท่า แต่เพราะไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจค่ะ พอดีกำลังเล็งอยากไปญี่ปุ่น กลัวกะเวลาไม่ถูกค่ะ
[21 ก.ย. 54 20:47:25
]
เข้ามาเก็บข้อมูลรถไฟญี่ปุ่น >< ขอบคุณนะคะคุณหมอ
จากคุณ : CuoreRossoNeri
[15 มี.ค. 55 18:42:00
]
รูปขอวีซ่าญี่ปุ่นถ่ายเองได้ป่าวคะ จำเป็นต้องเป็นถ่ายจากร้านรึป่าว
จากคุณ : กิกิ [30 มี.ค. 55 18:32:45 ]A:223.206.110.154 X: TicketID:353888กำลังจะไป มกรา 56 ตอนนี้มาเก็บข้อมูลครับ
ขอบคุณมากครับ สำหรับรีวิว
[19 ก.ค. 55 10:11:41
]