สวัสดีค่า
รีบมารีวิวต่อตามสัญญา กลัวดองไว้แล้วเดี๋ยวจะยาวว ฮ่าๆ

คราวนี้ก็พาไปเดินเล่น ช็อปปิ้งในห้างดังของเซี่ยงไฮ้ และหาของอร่อยกิน พร้อมทั้งหาของฝากติดไม้ติดมือมาเผื่อคนที่บ้านด้วย
ตามประสาคนไทยเราเนอะ ไปไหนมาทีจะมีของฝากบางคน ไม่มีฝากบางคน เดี๋ยวอาจจะมีงอนมีน้อยใจกันอีก เลยต้องหอบหิ้วกันมาแบบกระเป๋าแทบแตก ^^"

คร่าวๆก็จะมี ห้าง Super Brand Mall, ห้าง Raffles City, ร้านหนังสือ ซั่งไห่ซูเฉิิง (Shanghai Shu Cheng), แล้วก็ร้านอาหาร ของกินอื่นๆประปราย

คว้ากระเป๋าตังค์แล้วตามมาเลยค่ะ :D

ไป eat ด้วยคนค่ะ ^^

เช่นเคย ก่อนจะลืม ความเดิมตอนที่แล้วค่ะ

ตอนที่ 1 เกริ่นนำ >> http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10323068/E10323068.html
ตอนที่ 2 French Concession...chill chill >> http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10327803/E10327803.html
ตอนที่ 3 Cultural road..Duolun Lu >> http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10739950/E10739950.html
ตอนที่ 4 Food street, bird market >> http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10748597/E10748597.html

----------------------------------------------------------------------------

เริ่มกันที่ห้างใหญ่ที่สุดก่ิอนก็แล้วกัน ก็คือ ห้าง Super Brand Mall ค่ะ
ห้างนี้ตั้งอยู่ที่ฝั่งผู่ตง ข้างๆหอไข่มุกที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซี่ยงไฮ้นั่นเลย

วิธีไป ก็ให้ขึ้นรถใต้ดินไปลงสถานี ลู่เจียจุ่ย (Lujiajui) รถไฟสายอะไรจำไม่ได้แล้ว ^^"
สถานีนี้เป็นสถานีใหญ่ มีร้านอาหารอยู่บนตัวอาคารสถานีครบครัน
ออกจากสถานีไปจะเป็นสะพานคนเดินยาววววววววไปถึงทางเข้าห้างเลย สะดวกมั่กๆ

ตามไปเที่ยวต่อครับ

ไป Shopping ด้วยคน

คุณ เก๊กฮวยเย็น  ไม่ช็อปเนอะ ขออีทอย่างเดียว ดึกแล้วระวังจะอวบบบบบเอานา :D

--------------------------------------------------------------------------

มุ่งหน้าตรงไปทางเดียวกับฝูงชนมากมายเนี่ยแหละ รับรองไม่มีหลง
ตึกสีแดงๆใหญ่ๆตรงสุดทางนั่นล่ะ ตัวห้างที่ว่า

ทางเดินกว้างขวางมากๆค่ะ ขอบอก ต่อให้เป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ว่าคนมากมายแค่ไหนก็ยังเดินกันไปได้ค่า

คุณ เล็กทาโร่    มาไวเหมียนเคย^^
คุณ The Best of Me   เชิญค่า มามะๆ จะเข้าห้างแล้ว

--------------------------------------------------------------------

อ่ะ หันซ้าย เจอพี่แอปเปิ้ล ทองอร่ามเห็นมาแต่ไกล สาขานี้ออกแบบได้เดิ้นมากกกกกก แถมทำเลเยี่ยม

อ่ะ หันขวา...เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงเซี่ยงไฮ้  จุดนี้ก็จัดไปคนละแชะสองแชะตามอัธยาศัยนะคะ

อ่ะ เข้าไปในห้างกันซะที หนาวจะแย่....
ข้างในก็ทันสมัยใหญ่โตค่ะ ร้านค้าเยอะแยะมากมาย แต่เท่าที่ดูแล้วหน้าตาการตกแต่งภายในตึกยังไม่สวยเท่าห้างในกรุงเทพฯนะ CTW ของเราเริ่ดว่าแยะะะ :P

ที่นี่ชั้นล่างสุดจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต
ชั้นถัดๆขึ้นไปเป็นร้านแบรนด์ทั้งหลาย ส่วนร้านอาหารกับโรงหนังจะอยู่ชั้นบนสุดค่ะ

ร้านดังๆก็มีอย่าง Sephora (ดักอยู่ข้างประตูทางเข้าห้างเลยเชียว), H&M
แต่ละแบรนด์ที่บอกนี่ ร้านใหญ่เหมือนกันค่ะ อย่าง H&M ที่นี่มีสองชั้น ก็เลือกกันเข้าไป....

ใครอยากช็อปแบรนด์ H&M แบบจุใจต้องไปที่ถนนหวายไห่โน่นเลย สาขานั้นเป็นตึกทั้งตึกค่ะ ชั้น1 2 3 แล้วยังมีใต้ดินอีก!

อีกแบรนด์ที่ขนาดร้านใหญ่โตอลังมาก ยูนิคุโระ Uniqlo ค่ะ
เรียบๆ ราคาน่ารักน่าคบ ^^

เสื้อผ้าที่เป็นเบสิคไอเท็มของยูนิคุโระนี่ เห็นแล้วน่าหยิบๆๆๆๆใส่ตะกร้าซะให้หมด >w<
แต่ละแบบ ดีไซน์ก็โอเค วัสดุก็ใช้ได้ แถมมีตั้งไม่รู้กี่สีให้เลือก ช่างใส่ใจรายละเอียดสมเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นจริงๆ

แต่ข่าวดีก็คือ ปลายปีนี้ก็ไม่ต้องไปช็อปยูนิคุโระที่อื่นไกลแล้ว บ.เค้ามาเปิดสาขา(ละลายทรัพย์)เองที่ CTW แล้วค่าา

ร้านขายเสื้อผ้าของสาวๆที่นี่มีเยอะะะะะะมากกกกกกกกก (ของหนุ่มๆไม่รู้แฮะ เพราะไม่ได้มอง xD) ทั้งโลคอลแบรนด์และอินเตอร์
ร้านเล็กๆน้อยๆแต่ดีไซน์สวยๆก็มีหลายร้านนะคะ ไม่ใช่ว่าเป็นงานเมืองจีนแล้วจะเชย
...แถมราคาก็ อื่มม ไม่น้อยเหมือนกันค่ะ^^"

ร้านสำหรับสาวๆที่แนะนำก็ร้านนี้ค่ะ Honey จะเป็นแบบน่ารักๆ สบายๆ สไตล์ญี่ปุ่นหน่อยๆ ราคาก็สมเหตุสมผลดี
ตัวร้านค่อนข้างกว้างค่ะ มีของให้เลือกหลายธีมเลย แถมยังมีโซนลดราคาด้วย (อันนี้ชอบมาก อิอิ)

ไปเดินดูอยู่เป็นนานสองนาน คนขายก็เทคแคร์อย่างดี สื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่อง อย่างนี้มันต้องมีของติดไม้ติดมือกลับมา...

เราได้รองเท้าบูทมาคู่นึง เนื่องด้วยมันลดราคาจาก 263 หยวน ลงมาอีกครึ่งหนึ่ง!!

หน้าตาประมาณนี้ (ยืมรูปจากเนท) ชอบมากๆ ใส่ลุยตลอดทริปที่เหลือ ไม่ค่อยเห่อเลย xD

เดินดูร้านค้าเสร็จแล้ว ก็ลงไปชั้นล่างบ้าง ...ดูซิว่าซุปเปอร์ฯที่นี่จะมีอะไรให้ติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง

ซุปเปอร์ฯของห้างนี้ทำได้ดีค่ะ ดูสะอาด ทันสมัยเชียว

พยายามสอดส่ายสายตามองหาของที่หีบห่อสวยๆค่ะ

อย่างห่อที่เป็นรูปผู้หญิงจีนสวยๆนี่ ห่อสวยมาก แต่จำไม่ได้แล้วว่ามันคืออะไร
ส่วนห่อด้านล่างซ้าย กำลังจะเลือกลงตะกร้าแล้ว แม่บอกว่า มันเป็นม็ดกวยจี๊(เม็ดแตงโม)นะ เท่านั้นล่ะ เก็บคืนขึ้นบนชั้นเลยค่ะ ไม่กล้าเอามาฝากใคร ถึงห่อมันจะสวยก็เถอะนะ^^"

ของจริงที่น่าซื้อเป็นของฝากคือ เจ้าแฮมรมควันแบบจีน รูปบนซ้ายค่ะ
ถ้าเอามาฝากแม่บ้านเนี่ยจะเหมาะมาก เป็นแฮมที่กลิ่นหอมมากค่ะ รสชาติเค็มๆหน่อย เอามาใส่น้ำแกงต้มกับผัก หรือหั่นเล็กๆผัดผักก็อร่อยเหาะ ^^

หรือจะซื้อเส้นหมี่จีน ที่ที่นี่มีหลายชนิดหลายยี่ห้อให้เลือกกันจนตาลายก็ได้ค่ะ
ราคาไม่แพง แถมเอาไปทำอาหารแล้วก็ได้ฟีลเดียวกันกับเส้นหมี่ญี่ปุ่นที่ขายแพงๆกันในบ้านเรานี่แหละ
มีให้เลือกทั้งของผู้ใหญ่ ของเด็ก(เส้นจะถูกหั่นเป็นท่อนเล็กๆมาแล้ว)

ส่วนสำหรับผู้นิยมของหวานสัญชาติญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ(อย่างเรา) ไปเมืองจีนทีไรไม่เคยพลาดค่ะ

...ป็อกกี้

ใช่แล้วว ป็อกกี้นี่แหละ ที่จีนมีให้เลือกหลายรสเหมือนกันค่ะ ถึงจะไม่หลากหลายเท่าที่ญี่ปุ่นต้นสังกัด แต่ราคาน่าคบหา แถมรสชาติก็ใช้ได้นะ

รสแปลกๆที่บ้านเราไม่มี ก็อย่างเช่น (เรียงจากซ้ายไปขวา) รสชาเขียว รสดาร์กช็อค(มั้ง-จำไม่ได้) รสไวน์แดง รสกาแฟ

เอ้า ได้ของฝากนิดๆหน่อยๆทั้งฝากตัวเองและฝากคนอื่นบ้างแล้ว ก็นั่งใต้ดินย้อนกลับไปที่ฝั่งผู่ซีกันค่ะ

ที่ฝั่งผู่ซีจะมีร้านค้าร้านอาหารอะไรเยอะมากกกกก ตามประสาชุมชนเมืองใหญ่ แต่จะเลือกมาเฉพาะที่เดินใกล้ๆ ไปสะดวกในย่านเดียวกันก็แล้วกัน ^^

ถ้าเราเอาถนนคนเดิน หนานจิงลู่ (Nanjing walking street) เป็นจุดสังเกต -ตามเส้นสีเขียวในแผนที่นะคะ
ห้าง Raffles City ที่จะพาไปเดินก็จะอยู่หัวมุมถนน ถัดจากปากถนนหนานจิงลู่ไปอีกหนึ่งแยกเท่านั้นค่ะ

อ่าว เอ๊ะ ....มีงานเข้าอย่างด่วนค่าาา

ไว้มาต่อวันพรุ่งนี้นะคะ ขออภัยค่ะ ^^"

เห็นภาพบรรยากาศหนาวๆแบนี้ น่าเดินเล่นมากมายครับ

เย้ๆๆๆเที่ยงคืนแล้ว ...เลยมีกิฟท์มาให้คุณ pititee
เดี๋ยวพรุ่งนี้กลับมาชมรีวิวต่อนะคะ

ไปเที่ยวเมืองจีนด้วยคนครับ

ขอบคุณค่ะ อยากไปชอปเสื้อผ้าจริงๆ เลย

ห้างด้านบนที่เดินเข้าไป คือ superbrand mall หรือ ifc ครับ
ผมหมดเวลากับ h&m ที่นี่ไปนานมาก 555

อยากให้บ้านเราเอา Pocky รสแปลกๆแบบอื่นมาขายบ้างจังเลยครับ

รอติดตามรีวิวที่เหลืออยู่ครับ

ขอบคุณมากค่ะ เซฟบุ้คมาร์คไว้เรียบร้อย  เผื่อได้ตามรอยไปช้อปบ้าง ชอบๆๆๆ

เมื่อวานฝนตก รถติด น้ำท่วมได้อีก - -" กลับบ้านซะดึก ไม่มีปัญญาลงรีวิวแล้วค่ะ หลับเป็นตาย
วันนี้ตื่นเช้ามาสดชื่นแจ่มใส มาพาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ต่อแล้วนะคะ ^^

-------------------------------------------------------------------------------

คุณ Teechoco    ใช่ค่า หนาวกำลังดี ยังเดินเล่นสบายๆได้อยู่ แต่บางทีก็ต้องหลบเข้าไปอาศัยไออุ่นในห้างเหมือนกันค่ะ
คุณ crabbad     เย้ๆๆ ขอบคุณมากค่ะ เมื่อวานเราก็กิฟท์หมดเกลี้ยงเหมือนกัน ฮ่าๆ
คุณ noiwanwannoi     ตามมาเลยค่ะ ของอร่อยๆเพียบบบค่ะคราวนี้
คุณ ม่านบาหลี    มิเป็นไรค่ะ ยั่วกิเลสคนแถวนี้นี่ถนัดนักล่ะ อิอิ
คุณ realp**  ห้างที่เข้าไปห้างแรกนั่น super band mall ค่ะ ก็ร้านเค้าใหญ่จริงๆอ่ะเนอะ ที่เดินอยู่นานเพราะหาทางออกไม่เจอ ฮ่าๆ
คุณ Destiny-Boy    อยากให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกันนนน ถึงจะเป็นแฟนตัวยงป็อกกี้ช็อคโก แต่ก็อยากลองรสอื่นมั่งนะ กูลิโกะไทยแลนด์ T^T
คุณ สาวหน้าใส   ดีใจที่ชอบค่ะ :D

-------------------------------------------------------------------------------

ตอนนี้เราก็เข้ามาที่ใจกลางเมืองกันแล้ว อยู่ตรง People square ฝั่งที่มี Shanghai Urban Planning Exhibition Center นะคะ
หันหลังให้ตัวมิวเซียม ข้ามถนนใหญ่ไปที่มีคนข้ามเยอะๆๆนั่นแหละ ก็จะเจอห้าง Raffles City ค่ะ

หน้าตาห้างเป็นเช่นนี้ (ยืมรูปคนอื่นเค้ามา)

ไม่ต้องดูอะไรมาก หาบันไดเลื่อนแล้วลงไปชั้นใต้ดินเลยค่ะ สวรรค์กระเพาะน้อยๆๆของเราอยู่ข้างล่างนี้เอง >_<

ชั้นล่างสุดจะเป็นร้านอาหาร มากมายๆๆ มีทั้งร้านที่เป็นร้านจริงๆ(ยังไงฟระนี่?) คือเป็นห้องเข้าไป มีที่นั่งทานในส่วนของร้านเรียบร้อย
กับที่เป็นกลุ่มโต๊ะ เหมือนๆฟู้ดคอร์ทอยู่ตรงกลาง แล้วมีซุ้มขายอาหารเรียงอยู่รอบๆ จะเดินไปสั่งข้าวร้านนี้ ซื้อขนมร้านโน้นมานั่งกินก็ได้ สบายแฮ~

อีกอย่างที่สำคัญมั่กๆก็คือ ส่วนของชั้นใต้ดินของห้างที่ว่านี้ มีทางเชือมต่อตรงมาจากรถไฟใต้ดินสถานี People square เลยล่ะ  Exit 15 จำไว้ให้มั่น ฝนจะตกแดดจะออกยังไงก็ไม่หวั่น

เริ่มกันจากของดังที่ไม่ควรพลาดก่อน

เดินออกมาจาก Exit 15 มองไปทางซ้ายยย ซุ้มที่มีจีนมุงเยอะๆๆนั่นแหละ
ร้าน ลิเลียน (Lilian)เจ้าค่ะ ป้ายสว่างๆเหลืองๆในรูปค่ะ ถ่ายมาได้ดีมากก มองไม่เห็นชื่อร้านเลย ฮ่าๆ

ก่อนที่จะเห็นว่าร้านเค้าขายอะไร จะได้กลิ่นมาก่อนเลย ห๊อมม หอมม...กลิ่นอะไรน่ะ...(อย่าบอกนะว่าหอมหมูสับ! >_<)

มองไปก็เห็นเค้าหิ้วกันออกมาคนละถุงสองถุงใหญ่ๆ ข้างในเรียงกันเป็นกล่องๆ
หน้าตากล่องเป็นแบบนี้ค่ะ

ใช่แร้วว มันคือ ทาร์ตไข่ ค่ะ
อร่อยมากกกกกกก ยิ่งถ้าได้ทานใหม่ๆตอนมันยังร้อนๆล่ะก็...>w<

หนึ่งกล่องมีแบบ 4 ชิ้นและ 6 ชิ้น ราคาชิ้นละ 3.8 หยวนค่ะ สามารถหอบหิ้วขึ้นเครื่องกลับมาไทยได้
แต่ว่าพอเอามาเข้าไมโครเวฟอุ่นอีกที มันออกจะเหนียวๆไม่กรอบอย่างที่ควรจะเป็นแล้วค่ะ แต่ว่าก็ยังนุ่ม หอม อร่อยอยู่ดีแหละนะ

เสร็จจากทาร์ตไข่ ที่ซื้อมาตุนไว้เป็นเสบียงยามดึกแล้ว ก็มาต่อกันที่ของกินเล่นละกัน

ฝั่งตรงข้ามกับซุ้มร้านลิเลียน ก็จะเจอจีนมุงอีกจำนวนมากกเช่นกัน เป็นร้านน้ำปั่นที่เคยบอกไว้ในรีวิวตอน 3 ค่ะ ...ร้าน Happy Lemon

ร้านขายน้ำชื่อดังร้านนี้เค้ามีสาขาไปทั่วค่ะ ขายชานมไข่มุก กาแฟ ชาร้อนเย็น น้ำผลไม้ แบบว่ามีหลากหลายมาก ท้อปปิ้งก็มีให้เลือกอย่างเยอะ จะสั่งทีตาลายๆ
แถมจะมีเมนูพิเศษแต่ละเทศกาล อย่างตอนที่ไปนี่ รู้สึกจะเป็นชานมใส่เก๋าคี่(ยาจีน-เรียกกันภาษาวัยรุ่นว่า โกจิเบอร์รี่) ก็น่าลองอยู่เหมือนกัน

สนนราคาแก้วละประมาณ 6-13 หยวน แล้วแต่ความแอดวานซ์ของเมนูที่สั่ง
เมนูของเย็นจะแพงกว่า แล้วไอ่ที่ใส่ท็อปปิ้งมันเยอะๆๆก็จะราคาแอดวานซ์กว่าเช่นกัน

ที่เคาน์เตอร์จะมีคนต่อคิวอยู่ยาวๆตลอด เวลาจะสั่งก็ดูเมนูสี่สีสวยสดที่เค้าวางไว้ มีภาษาอังกฤษด้วย ไม่ต้องห่วงค่ะ แต่ต้องตัดสินใจเลือกอย่างรวดเร็วสักนิด เพราะคิวยาว
แล้วน้องหมวยหรือเจ๊ๆพนักงานแต่ละคนก็ออกแนวมาเร็วเคลมเร็ว เค้าจะทำงานกันเร็วมากเพื่อไม่ให้คิวยาวล้นไปที่ Exit ของรถใต้ดินค่ะ

สั่งเสร็จ จ่ายเงินเลย แล้วพนักงานก็จะให้การ์ดคิวไว้รับแก้วเครื่องดื่มของเรามาค่ะ

ทริปนี้ที่ไป เราก็ได้ลองเมนู Rock salt cheese+Matcha เป็นชาเขียวใส่ท็อปปิ้งชีส(มั้ง) ก็หอมๆเค็มปะแล่มๆดี กับ Milk Tea+Puff cream เจ้าครีมที่เป็นพุดดิ้งบนหน้านี่ อร่อยมากค่ะ ^^

ของหวานไปแล้ว มาต่อของหนักกันค่ะ (สลับกันไปบ้าง ช่างมันเถอะนะ^^")
ยังคงเดินวนเวียนกันอยู่ที่ชั้นใต้ดินห้าง Raffles city นะคะ

ร้านที่จะกินนี่ก็ชื่อดังเหมือนกัน สังเกตจำนวนคนเข้าแถว...

ร้านนี้ขายบะหมี่แบบยูนนานค่ัะ ชื่อร้านจำไม่ได้แล้ว แต่มีคำว่า Yunnan อยู่ด้วย ...แปลว่า ยืนนาน ด้วยค่ะ เพราะร้านจุได้ไม่เยอะ ยืนต่อแถวนานมากก
ใครอยากทานแบบสบายๆให้รีบมาตอนห้างเปิดค่ะ ห้างเปิดปุ๊บ ร้านเค้าก็มีคนมานั่งทานกันแล้ว @___@;

บรรยากาศในร้านจะคึกคักมาก แต่ละโต๊ะก็จะนั่งกันแบบแนบชิดกันนิดนึง
นั่งลงปุ๊บ น้องหมวยก็จะมาถามว่าจะเอาแบบไหนดี เซทใหญ่หรือเซทเล็ก สั่งเสร็จก็นั่งรอเค้ายกมาเสิร์ฟได้เลย ทานเสร็จก็ลุกไปจ่ายตังค์ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า

ที่ร้านนี้มีเมนูเดียวค่ะ คือจะเป็นก๊วยเตี๋ยวเส้นลื่นๆขาวๆเหมือนขนมจีนบ้านเรา กับน้ำซุปเค็มๆจืดๆ
เวลาสั่งก็จะมีน้ำซุป 1 ชาม กับเส้น จะเอากี่ชามก็ได้ (เห็นสาวโต๊ะข้างๆสั่งน้ำซุปสองชาม กับเส้นหนึ่งชามก็ได้ค่ะ) แล้วก็สั่งเครื่องเคียงที่จะมาเป็นจานเล็กๆ 12, 14 อย่างหรือจะเอามากกว่านั้นก็สั่งไป แต่อย่างน้อย 12 อย่างค่ะ

เครื่องเคียงก็จะเป็นของพวก กุ้งแห้ง ไส้กรอก ผักต่างๆ แล้วก็มีปอเปี๊ยะให้สั่งมาทานเล่นด้วยค่ะ
เวลาพนักงานเอาของมาเสิร์ฟ มันก็จะเต็มโต๊ะมากกก ให้รีบๆจัดการเทเครื่องที่ได้มาทั้งหมดของชามน้ำซุปไป แล้วเดี๋ยวเค้าจะมาเก็บจานเปล่าไปเอง
กินๆไป จะสั่งเครื่องเคียงมาเพิ่มก็ได้ไม่ว่ากัน ทั้งหมดเรากินไป 2 ชุด กับปอเปี๊ยะ 1 จาน ค่าเสียหาย 50 หยวนพอดี อิ่มมากกกก

กินเสร็จ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ก็ออกไปข้างนอกรอบๆหาของอร่อยอีกสิคะ xD
ด้านบนของห้างนี้ก็เป็นร้านแบรนด์ต่างๆเหมือนห้างอื่นๆทั่วไปแหละค่ะ แต่ที่นี่จะดูไฮโซหน่อย แต่งร้านได้สวยหรูน่าเดิน

เราจะไปตะลุยถนนฟู่โจว (Fuzhou Road) ที่อยู่ข้างๆห้างกันค่ะ
ถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายพวกอุปกรณ์เครื่องเขียน ชุดพู่กันจีน หนังสือ อะไรประมาณนี้ มีร้านหนังสือร้านใหญ่มากอย่าง ซั่งไห่ซูเฉิง ตั้งอยู่
ที่จะพาไปเดินเล่นนี่แหละค่ะ

เดินไปตามเส้นถนนฟู่โจว ถึงช่วงกลางๆเส้นฝั่งด้านขวา (หันหน้าออกจาก People square ) จะเจอตึกใหญ่ๆหน้าตาแบบในรูปค่ะ ที่นี่แหละ ซั่งไห่ซูเฉิง (Shanghai Shu Cheng) ร้านหนังสือร้านใหญ่ที่สุดของเซี่ยงไฮ้

ลืมถ่ายรูปด้านนอกมาตามเคย..ขอยืมรูปคนอื่นมาใช้นะคะ

ร้านนี้เค้าจะขายหนังสือภาษาจีนเป็นส่วนใหญ่
หนังสือแต่ละหมวดจะแยกไปตามแต่ละชั้น เราสนใจพวกหนังสือศิลปะ เขียนพู่กันจีน ก็พุ่งขึ้นไปชั้นบนตามป้ายไปเลย

ที่ชั้นสองมีร้านกาแฟพี่บั๊คอยู่ด้วย >w<

มีแต่หนังสือๆๆๆๆ ละลานตาค่ะ มีทั้งหนังสือหายาก หนังสือวรรณกรรม หนังสือแพทย์ แล้วก็พวกอุปกรณ์เรียนภาษาอย่างดิคฯไฟฟ้า ครบครันมากๆ
แล้วรู้สึกว่าที่ชั้นบนสุดจะมีคาเฟ่ใ้ห้นั่งริมระเบียงด้วยนะ ถ้าจำไม่ผิด

พวกหนังสือภาพวาดศิลปะ ที่นี่มีให้เลือกเยอะมากกก
ทั้งภาพวาดดังๆของฝรั่ง ภาพวาดจีน จะเป็นรูปภูเขา รูปดอกไม้ รูปผู้หญิง เค้าทำรวบรวมไว้เป็นเล่มๆอย่างดีค่ะ

หนังสือสอนวาดภาพคนก็มี จะมีภาพถ่ายนายแบบนางแบบ ในทุกอิริยาบถมาเป็นแบบให้เราวาดตาม
ไปยืนเปิดๆมาแล้ว แต่ไม่กล้่าถ่ายรูปด้านในมา แบบว่า มันเปิดเผยมากๆ >/////<

หนังสือภาพที่แปลมาจากภาษาอื่นๆก็มีเยอะค่ะ
ทั้งการ์ตูน ติน ติน, หนังสือสอนวาดภาพประกอบ イラストの学校 ของคุณ Umoto Sachiko ก็มี (ขายที่ร้านเอเซีย บุคส์บ้านเราแพ๊ง แพง)

แต่ละเล่มราคาถูกมากค่ะ หนังสือที่พิมพ์ในจีนนี่ราคาถูกกว่าบ้านเราอย่างเหลือเชื่อจริงๆ ทั้งๆที่เนื้อหา รูปเล่มก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
อยู่บ้านเรานี่ เดี๋ยวนี้จะซื้อหนังสือที่ชอบเก็บไว้แต่ละเล่มที ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะราคาสูงเหลือเกิน T_T

เดินเลือกกันสบายไปเลยค่ะ ทั้งๆที่อ่านไม่ออก แต่ก็ได้หนังสือภาพกลับมาตั้งหลายเล่มแน่ะ

ที่นี่จะไม่มีเก้าอี้ให้เรานั่งเอกเขนก นอนอ่านหนังสือจนพอใจแล้วค่อยพากลับบ้านนี่ ไม่มีค่ะ
แต่เห็นเค้าก็อาศัยมุมโน้นที มุมนี้ที ตรงไหนที่มันสามารถหย่อนก้นนั่งได้ เขาก็นั่งกันเกลื่อน แล้วก็ไม่เห็นพนักงานจะว่าอะไรด้วยค่ะ

ลืมรูป ^^"

ฝั่งตรงข้ามของตึกซั่งไห่ ซูเฉิง จะเป็น Shanghai Foreign Language Bookstore ร้านหนังสือภาษาอังกฤษร้านใหญ่ของที่นี่

ร้านนี้จะเป็นตึก 4 ชั้น ขายหนังสือและนิตยสารภาษาัอังกฤษ ประเภทหนังสือส่วนใหญ่ของร้านนี้จะเป็นหนังสือพวกศิลปะ แฟชั่น
พวกไกด์บุค แผนที่ทั้งเก่า ใหม่ก็มี -ไปยืนดูมาแล้ว แผนที่เซี่ยงไฮ้แบบเก่าที่เป็นภาพวาดลายเส้นก็มีค่ะ สวยมากกกกกก แต่ราคา...ไม่สู้ค่ะ - -"

ถ้าใครอยากได้หนังสือภาพถ่ายสวยๆของจีนล่ะก็ มาร้านนี้คงไม่ผิดหวัง

ซื้อหนังสือฝากเพื่อนๆญาติ และตัวเองกันไปแล้ว กลับมาที่ของฝากเด็ดๆกันอีกดีกว่า...

เดินเลยจากตึกซั่งไห่ ซูเฉิง มาไม่เท่าไหร่ บนถนนฝั่งเดียวกัน จะเจอร้านอาหาร ซิ่งฮวาโหลว เป็นตึกสีน้ำตาลๆ ด้านหน้าเป็นกระจกใสหลายๆห้องค่ะ สังเกตไม่ยาก (รูปจากเน็ต)

เข้ามาอีกรอบเจอ ทาร์ตของ lilian ทำเอาเครียด
ต้องไปหาราคาตั๋วเครื่องบินบ้างล่ะ ^^

ร้านนี้จริงๆแล้วเป็นภัตตาคารขายอาหารจีนร้านดัง และด้านล่างเปิดเป็นร้านขายขนม อาหารแพ็คๆของทางร้านเค้าเอง

เรื่องภัตตาคารนี่ไม่รู้ว่าเด่นดังเรื่องอะไรนะคะ แต่ขนมที่ซื้อกลับบ้านได้นี่แหละ ทีเด็ด
อันนี้เพื่อนคนจีนแนะนำมาค่ะ ว่าให้ซื้อเจ้าขนมโมจิไส้ต่างๆของที่นี่กลับบ้านไปเป็นของฝาก
เหมาะมาก เพราะมีหลายไส้ ทั้งถั่วแดง ถั่วกวน ชาเขียว งาดำ สตรอเบอรี่ และอื่นๆๆๆ อีกหลายอย่าง >_<
ราคาก็ไม่แพงด้วยค่ะ จะมีขายทั้งแบบที่เป็นแพ็คละสี่ชิ้น ห่อมาอย่างดี กับแบบแพ็คละชิ้น ใช้วิธีชั่งนน. บอกราคาเป็นครึ่งกิโล เรียกว่า 1 ชั่ง ชั่งละประมาณ 12.4 หยวนค่ะ

หน้าตาร้านก็เป็นแบบจี๊นนน จีนอ่ะนะ ไม่ค่อยจะดึงดูดเท่าไหร่เร้ยย

อันนี้เป็นหน้าตาขนม (ขออภัย มีรูปซ้ำด้วย XD)

ดูกันใกล้ๆ

เจ้าโมจิของร้านนี้ จะเป็นแป้งขุ่นๆเหนียวๆแบบไดฟุกุของญี่ปุ่นนะคะ ซื้อมาแล้วก็ต้องเก็บในตู้เย็น และถ้าเป็นของฝากให้คนอื่น ก็ต้องรีบเอาไปให้ค่ะ ไม่งั้นอาจจะเสียได้

ถึงจะทำได้ไม่ "เทพ" เท่าของญี่ปุ่นก็ตามที แต่ก็นับว่าอร่อยสมราคา
ไม่ใช่ขนมจีนไก่กาที่ขายอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ประเภทห่อสวยมากก แต่ข้างในทานไม่ลงอะไรอย่างนั้น

ขายดีแค่ไหน ถ้าไปถึงตอนเย็นๆก็หมด อดกินน่ะค่ะ ^^"

คุณ realp**    
สวัสดีวันหยุดค่า แน่ะ จะไม่โดนได้ยังไง
ก็ลิเลียนเค้าถึงขนาดประกาศกร้าวไว้บนกล่องขนมว่า นี่คงจะเป็นขนมที่อร่อยที่สุดในเซี่ยงไฮ้ล่ะ! ^^

----------------------------------------------------------------------------

กว่าจะออกมาจากร้านซิ่ง ฮวา โหลว (Xing Hua Lou)กันได้ ก็"อุ้ม"กันมาคนละถุงสองถุงล่ะค่ะ

ยัง...ยังไม่หมดทัวร์ถนนฟู่โจว ยังมีของกินเล่นอีกร้าน
ต้องขออภัยอีกทีค่ะ เพราะจำไม่ได้จริงๆว่าอยู่ช่วงไหนของถนน -น่าจะเป็นก่อนถึงตึกร้านซั่งไห่ ซูเฉิงนะ

เป็นร้านเล๊กก เล็ก ขายขนมเปี๊ยะไส้เค็มทำกันสดๆตรงนั้นล่ะค่ะ

มีป้ายเล่าประวัติความเป็นมาด้วยค่ะ แสดงว่าไม่ธรรมดา...

ใครอ่านออกช่วยแปลให้ที xD

ขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ของร้านนี้ มีสองแบบ ไส้วุ้นเส้น กับไส้หมูสับ (มั้ง)
อากาศหนาวๆเดินไปกินไป อร่อยจังฮู้~

ก็เป็นอันจบเรื่องช็อปๆกินๆบริเวณ People square ^^
ส่วน Baron Business Hotel ที่เห็นในแผนที่ที่แปะไว้ด้านบนนั้น จะมาเล่าในรีวิวที่พัก คราวหน้าค่ะ

แต่ ยัง..ยังไม่จบรีวิวตอนนี้แค่นี้นะ บอกแร้ว เราจะกินกันให้สะจายยย XDD

จะไปต่อกันที่ร้านอาหารใกล้ๆแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เถียนจื่อฝาง ที่เคยรีวิวไปในตอน 2 จ้ะ
อย่างที่บอกว่า บริเวณย่านนั้นมันถูกปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยว ร้านค้าเก๋ๆทั้งหลาย ฉะนั้นร้านอาหารราคาถูกใจ สบายกระเป๋าตังค์มันก็ไม่ค่อยจะมี^^"

พอดีว่าเราเดินไปเจ๊อะร้านนี้เข้า ท่านแม่บอกว่า เข้าไปเลยๆ ร้านนี้ไว้ใจได้ XD
พิกัดร้านตั้งอยู่บนถนนไท่คัง (Taikang Road) จุดที่เป็นสามแยกตัดกับถนนซือหนาน (Sinan Road) พอดี
ด้านหน้าร้านก็ดูปิดๆเยี่ยงนี้ ถ้าไม่รู้จักคงเดินผ่านไปเฉยๆ ^^

้ร้านนี้ชื่อว่า อู่เยว่เหรินเจีย ค่ะ (Wu Yue Ren Jia)

เป็นร้านอาหารแบบ Chain Restaurant ของที่นี่ มีหลายสาขา แต่รู้สึกว่าสาขาไท่คังลู่จะค่อนข้างกว้างกว่า ตกแต่งดีกว่าสาขาอื่น

เป็นร้านขายอาหารจีนแบบที่คนจีนทั่วไปกิน อย่างบะหมี่ ข้าวผัด ผัดผักต่างๆ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนไม่รู้ภาษาจีน แต่อยากลองกินอาหารจีนตามร้านอาหารดูบ้าง

ข้างในตกแต่งแบบจีน สะอาด สวยงามค่ะ
เมนูเล่มใหญ่ สี่สีสวยงาม มีภาพประกอบคมชัด และ..ภาษาอังกฤษกำกับชัดเจน ^^

ุถ้าไปช่วงเที่ยงๆจะเจอคนเต็มร้านเลย ต้องแบ่งๆกันนั่ง โต๊ะเราอาจจะมีคนจีนมาขอแจมนั่งด้วย
จับจองที่นั่งได้แล้ว อาเจ๊ก็จะถือกระดาษมาจดรายการอาหารที่สั่งอย่างรวดเร็ว
เจ๊อาจจะดูดุๆไปบ้าง ตามประสาคนจีนทั่วไป ^^" แต่ก็ช่วยแนะนำอาหารให้เราได้ค่ะ

รายการอาหารแต่ละอย่าง เห็นแล้วเป็นต้องร้องซี้ดดดด น่ากินทั้งน้านนน

เราสั่งหมี่กรอบราดหน้าหมูกับเซเลอรี่ผัดซอส หอมน้ำมันงามากๆ

พี่สาวสั่งข้าวผัดหยางโจวค่ะ มาพร้อมน้ำแกงผักกวางตุ้งถ้วยเล็กๆ

หิวกันรึยังงง...XD

สาวๆระวังไว้นิดนึง กับข้าวที่ร้านนี้จะมาจานใหญ่โตมาก ถ้าไปกัน 3 คน สั่ง 2 จานน่าจะกำลังพอดี แต่หนุ่มๆก็ปล่อยไปค่ะ ซัดกันตามสบาย

รู้ว่าหิว ...อ่ะ อ้ามมม

ค่าอาหารตกจานละประมาณ 15-30 หยวน แล้วแต่เมนููค่ะ ถือว่าไม่ได้แพงมากสำหรับเซีี่ยงไฮ้ที่โกอินเตอร์แล้วในปัจจุบัน

กินของคาวแล้ว เค้าก็มีของหวานให้สั่งกันได้อีกค่ะ แต่เราขอผ่านก่อนเพราะยังมีร้านต่อไป ฮ่าๆ

ว่าแล้วก็เดินตัวหนัก(พุง)ออกมาจากร้าน มุ่งหน้าไปถนนหวายไห่กัน (จริงๆแล้วไม่ได้ปทั้งหมดที่ว่ามานี้ในวันเดียวนะ เดี๋ยวจะหาว่า จขกท เป็นชูชกอีกคน)

ขอตัดฉับๆไปที่ถนนหวายไห่ตอนกลาง (Middle Huaihai Road) สี่แยกตัดกับถนนเม่าหมิง (Mao Ming South Road)

จากสี่แยกนี้ เราเดินเลี้ยวซ้ายไปตามถนนหวายไห่
ไปตามทางเรื่อยๆ ไม่นานนักก็จะเจอร้านเบเกอรี่ ชื่อ อิจิโด (Ichido) ในอยู่ในตึกสวยหรู
(ยืมรูปจากเน็ต)

เห็นสาวๆแต่ละคนที่เดินผ่านร้านนี้ เป็นอันต้องเลี้ยวเข้าไปกันแทบทุกราย

ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เมืองจีนยังหาขนมฝรั่ง ขนมเค้กอร่อยๆยากอยู่รึเปล่าไม่ทราบ
แต่เมื่อหลายปีก่อนที่ไป ไม่ว่าเมืองไหนที่ได้ไปลองซื้อเค้ก ขนมปังกิน เป็นอันต้องเข็ดตลอด เพราะมันจะมีรสชาติจีนๆแบบบอกไม่ถูกปนอยู่ด้วยทุกที
อย่างบ้านเรานี่ยังไว้ใจได้ว่า ขนมปังที่ขายๆกันอยู่ของเราอร่อยกว่าเยอะะะะ นมเนยถึงเครื่องกว่าแน่นอน

อิจิโด เป็นเชนเบเกอรี่เหมือนอย่างร้านยะมะซะกิในไทย มีร้านสาขาอยู่ตามห้างทั่วไป
แต่ที่ถนนหวายไห่นี่เป็นสาขาบูทีค คือเป็นร้านขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ขายของเกรดพรีเมี่ยมขึ้นอีกหน่อย ราคามาตรฐานเค้กสวยๆทั่วไป แต่ที่สำคัญคือ รสชาติฝรั่ง ไว้ใจได้ XD

มีให้เลือกหลายอย่างค่ะ ทั้งขนมอบ ขนมเค้ก นมสด ทำกันสดๆในร้านนี้แหละ หน้าตาหน้ากินทั้งน้านนน

ทำเอาเดินออกมากระเป๋าเบาเลยเชียว...^^"

ละลานตา...

อ้อ ลืมบอกไป นอกจากร้านอิจิโดแล้ว ที่เซี่ยงไฮ้ยังมีสาขาของร้าน Bread Talk ตามห้างต่างๆด้วยเหมือนกันค่ะ
หาซื้อได้สะดวก ที่ห้าง Raffles City ก็มี^^

เหนื่อยกันรึยัง??...

ขอฝากไว้อีก 1 ร้านนะคะ สุดท้ายๆ สำหรับนักช็อปตัวยง เราจะจบกันที่ร้านอาหารแบบเซี่ยงไฮ้เล็กๆที่ถนนคนเดิน หนานจิงลู่ (Nanjing walking street) ค่ะ

ร้านนี้หาไม่ยาก อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวมากๆค่ะ
ให้เดินเข้าถนนคนเดินหนานจิงจากทางด้านเดอะบันด์ หรือทางด้านสถานีรถใต้ดินหนานจิงตงลู่ (Nanjing East Road station)

เิดินเลี้ยวเข้าซอยขวามือซอยแรกที่เจอ

เดินเข้าไปนี้ดดเดียว ร้านอยู่ซ้ายมือ มีโคมแดงๆห้อยหน้าร้าน

ร้านนี้มีชื่อว่า ซั่งไห่เสี่ยวชือ (Shanghai Xiao Chi -Shanghai Snack)

ไม่แน่ใจว่าเป็นร้านแบบมีสาขาทั่วไปรึเปล่านะ
ร้านนี้จะขายอาหารจีนแบบเซี่ยงไฮ้สไตล์ฟาสต์ฟู้ดนิดนึง คือมาด่วน กินด่วน

ของที่ขายจะเป็นพวกอาหารทานเล่นแบบเย็นๆ แบบฉบับอาหารเซี่ยงไฮ้ พวกยำสาหร่าย ยำแมงกะพรุน เ้ต้าหู้เย็นไข่เยี่ยวม้า แน่~~ เริ่มคุ้นแล้วใช่มั้ย
แบบเดียวกับที่ร้าน ซั่งไห่เสี่ยวหลงเปา ในบ้านเราขายอย่างนั้นแหละค่ะ

ร้านไม่ใหญ่มาก และไม่มีเมนูภาษาอังกฤษค่ะ แต่ว่าเดินไปดูที่เคา์น์เตอร์ด้านหน้าก็ได้ ว่าเค้ามีอะไรบ้าง หรืออย่างง่ายสุด ก็ดูจากที่โต๊ะอื่นกินอยู่นั่นแหละ XD

ไม่แน่ใจว่าต้องเดินไปสั่งที่เคาน์เตอร์ หรือบอกพนักงานที่มารับออเดอร์ที่โต๊ะนะ แต่ว่าเค้าจะเอามาเสิร์ฟเราถึงโต๊ะแน่ๆค่ะ

มาแล้ววว ซาละเปาทอด...^^

เต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า...^^

ตบท้ายด้วยบะหมี่เนื้อ ^^

อาหารแต่ละจานมาเร็วมากเลยค่ะ เหมาะกับเวลาหิวๆเป็นอย่างดี

ซาละเปาทอดที่นี่แป้งหนาและเหนียวไปหน่อย แต่อย่างอื่นโอเคเลย
รวมกินไป 4 จาน (อีกจานนึงจำไม่ได้แล้วค่ะ ว่าสั่งอะไรไป) ค่าเสียหาย 58 หยวนเท่านั้น ^^

หน้าปากซอยร้านซั่งไห่ เสี่ยวชือ นี่ยังเป็นร้านขายขนมของผากร้านดังอีกด้วยค่ะ

ชื่อร้าน เซ่าวั่นเซิง (Shao Wan Sheng) ร้านขนมเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง

ร้านนี้มีขนมให้เลือกเยอะมากกกกกกกกค่ะ หลากหลายประเภททั้งช็อคโกแลต ขนมแบบจีน คุ้กกี้ แม้แต่หมูแฮมก็ยังมี!

ราคาเท่าไหร่ อร่อยมั้ย ไม่ทราบค่ะ เพราะไม่ได้ซื้อมา^^"

เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับใครที่ไปเซี่ยงไฮ้แล้วจะหาที่กิน ที่ซื้อของฝากตามย่านต่างๆ

ถ้าที่เล่ามายังไม่ถูกใจ ก็ไปร้านนี้ที่ถนนหวายไห่เลยก็แล้วกัน xD

ตอนหน้าตอนสุดท้าย จะรีวิวที่พักของทั้ง 2 ทริป (2008, 2010) ให้ค่ะ สั้นๆแต่อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ไว้เจอกันค่ะ ^^

เห็นเรื่องช้อปๆ กินๆ ต้องรีบเข้ามาดู

ขอบคุณมากค่ะ ไว้จะตามรอยมั่ง

ยังรอตามรอยเรื่องที่พักอยู่นะค่ะ ขอบคุณค่ะ