แหะๆ มารีวิวต่อตามสัญญาค่ะ 

วันนี้เน็ตดีแล้ว ปรู๊ดปร๊าดๆๆ


ต่อจากกระทู้นี้นะคะ  ท่านไหนเพิ่งเปิดมาเจอ เชิญชมกระทู้แรกก่อนจะได้ครบรสชาติค่ะ อิอิ (คลิกที่ชื่อกระทู้ได้เลยนะคะ ^^)

กระทู้ืี่ 1 [CR](ญี่ปุ่น) * วัดน้ำใส * วัดเงิน *ทางเดินนักปราชญ์ * : รีวิวภาพถ่ายเดินเที่ยว วันเดียวในเกียวโตค่ะ (*ดอกไม้จัดเต็ม*)

กระทู้ 2 [CR](ญี่ปุ่น)* วัดน้ำใส*วัดเงิน*ทางเดินนักปราชญ์ *:รีวิวภาพถ่ายเดินเที่ยว วันเดียวในเกียวโต ภาค#2 (*ดอกไม้จัดเต็ม*)



   รีวิวนี้เ้น้นภาพถ่ายนะคะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่พาไปวันนี้เป็นที่รู้จักพอสมควร สามารถค้นหาข้อมูลการเดินทางได้ไม่ยากเลยค่ะ แนะนำกระทู้พี่ kungtalay ค่ะ ไปช่วงเดียวกันเลย ข้อมูลละเอียดมากๆ ^^ +.+.+ Kyoto : Ginkakuji Temple & Path of Philosophy & Nanzenji Temple & Keage Incline +.+.+  <<ลิ้งค์กระทู้พี่kungtalay ค่ะ =w=


ภาพ(เกือบ)ทั้งหมดจากกระทู้นี้ ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2554 ค่ะ


     หลังจากเดินเที่ยวในวัดเงินแล้ว เราจะเดินไปที่ "Path of Philosophy" หรือทางเดินนักปราชญ์ เส้นทางชมซากุระอันขึ้นชื่อของเกียวโตกัน อยู่ใกล้ๆกับวัดเงินค่ะ เดินไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว


แต่ก่อนอื่น หาอะไรมารองท้องก่อนค่ะ ดังโหงะร้อนๆชุบน้ำเชื่อมเหนียวๆ จากร้านหน้าวัดเงินค่ะ ^^

ยังไม่อิ่มค่ะ >.< 

ต่อด้วยชูครีมเจ้าดังตรากระต่าย หน้าวัดเงินเช่นกันค่ะ 

ไส้ชูครีมเย็นๆ หอมกลิ่นวานิลลา ข้าวพองกรุบๆ อร่อยดีค่ะ =w=

ชมดอกไม้ระหว่างทาง มีร้านขายต้นไม้เล็กๆอยู่ตรงทางขึ้นวัดเงิน 


เจอดอกโบตั๋นค่ะ

ดอกไม้ริมทางง

ดอกไม้หน้าบ้าน เหมือนจัดไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเลย สวยมาก TwT

ดอกนี้ก็น่ารักดีค่ะ

ป้ายห้ามจอดรถ ยังเป็นดอกไม้เลยค่ะ 

หน้าร้านอาหาร

เดินมาเรื่อยๆ ก็จะถึง "Path of Philosophy" หรือทางเดินนักปราชญ์ ที่อยู่ก่อนถึงทางเข้าวัดเงินนั่นเองค่ะ

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ ^^

ทางสายนักปราชญ์ (บางคนก็เรียกว่าทางสายปรัชญา ฯลฯ) มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า "tetsugaku no michi" ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เรียงรายไปด้วยต้นซากุระ และขนานไปกับคลองเล็กๆ

ที่เรียกกันว่าเส้นทางนักปราชญ์ ก็เพราะว่าเป็นเส้นทางเดินประจำของนักปราชญ์ชื่อดังท่านหนึ่งของญี่ปุ่น "Nishida Kitaro" ที่ใช้เส้นทางนี้ทำสมาธิระหว่างเดินไปมหาวิทยาลัยเกียวโตทุกๆวันค่ะ 

ซากุระสวยๆ

มีคนพาน้องหมามาเดินเล่นเยอะแยะเลยค่ะ 

สวยครับ  ตามไปเที่ยวต่อครับ

ตามมาเลยค่ะ เดี๋ยวพาไปกินโอโคโนมิยากิ ^^


กลีบซากุระโปรยปราย

แดดเริ่มหมด อากาศเริ่มเย็น แสงเริ่มน้อยแล้วค่ะ

คนก็ไม่ค่อยมีเลย บรรยากาศโรแมนติกมากๆ

.
.
.
.
ตามสีสวยๆ กลิ่นหอมๆของดอกไม้เข้ามาค่า

สวยจังเลยอ่ะ  ^^

กลีบซากุระที่ตกลงไปในคลอง ก่อนผ่านท่อระบายน้ำ =w=

นกกระจอกตัวกลม 

ดอกไม้สวยๆหน้าบ้านแถวนั้น

ชุมชนคนรักหมาค่ะ ^^

แดดร่มลมหนาวแล้ว ท้องก็ร้องแล้วค่ะ 

เดินทางต่อไปกิออนค่ะ

อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นบ้างค่ะ มิเคยไปเรยยย...อยากรู้จักว่า ดังโหงะ รสชาดเป็นไงคะ เหมือนลูกชิ้นปิ้งป่าว เหมือนเลยอ่ะ

ป้ายรถเมล์ค่ะ ดูหมายเลขสายที่เราจะขึ้น แล้วสังเกตรูกลมๆไว้ ป้ายสีเหลืองๆมันจะเลื่อนมาเรื่อยๆตามลูกศร แสดงว่ารถเมล์สายนั้นใกล้จะมาจอดที่ป้ายแล้วค่ะ =w=

นั่งรถเมล์มาหาของกินกันที่ย่านกิออนค่ะ

เจอซอยอะไรไม่รู้มีป้ายสวยดี หลงแสงสีเลยลองเข้าไปดูค่ะ >.<

กลายเป็นถนนย้อนยุค สองข้างทางเป็นบ้านและ้ร้านค้าแบบสมัยเก่า

หิวก็หิวค่ะ T T เดินหาร้านกินข้าว

นี่คือผลของการไม่ทำการบ้าน คิดอยู่ว่าเดินๆไปคงมีร้าน

แต่สงสัยจะเดินผิดโซน เลยเจอแต่ร้านแพงๆค่ะ แงๆๆ 




เดินดูของไปด้วยค่ะ ร้านนี้ขายเครื่องประดับไว้ใส่กับกิโมโน

เกาลัดคั่วร้อนๆ

เดินจนขาลาก หาร้านกินข้าวราคาถูกใจไม่ได้ซักกะที
วันถัดมาถึงได้รู้ว่าเดินผิดโซน T T

แต่สุดท้ายก็เจอร้านโอโคโนมิยากิสไตล์เกียวโตที่เคยอ่านในรีวิวมา
ราคาชิ้นละหกร้อยกว่าเยน เลยตกลงฝากท้องกันที่นี่ค่ะ

เว็บร้านนะคะ http://www.issen-yosyoku.co.jp/index2.html

ร้านนี้มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยค่ะ

ร้านนี้มีเมนูเดียวค่ะ โอโคโนมิยากิ

ราคาเดียวด้วย ชิ้นละประมาณหกร้อยกว่าเยน

เลือกหน้าที่จะใส่ตามใจชอบค่ะ หมู ไก่ กุ้ง หมึก เนื้อ ผัก ฯลฯ


เลยเลือกหน้ารวมมาชิมก่อนค่ะ

น่ากินเน้อะ ^^


พนักงานสาวที่มารับออเดอร์โต๊ะเราก็น่ารักมากเลยค่ะ ^^

แอบตามมาเดินเกียวโตด้วยคนนะครับ เคยไปเดินเล่นแถววัด Nanzenji ออกมาจากวัดจะไปเดินถนนสายปรัชญาซะหน่อย แต่หาไม่เจอ เสร่อจริงๆกระผม แต่ก็ไม่ได้นำพาครับ เพราะว่าไม่ได้ไปช่วงซากุระ ถ้าไปช่วงนั้นแล้วไม่ได้เห็นอาจจะเซ็งแทน


ปล ภาพสวยมากๆครับ

มาแล้วค่ะ โอโคโนมิยากิสไตล์เกียวโต ^^ 

หน้าตาไม่เหมือนที่เคยกินมาเลยค่ะ แบบที่แผ่นกลมๆราดมายองเนสน่ะ

มาลองชิมกันเลยค่ะ

แหวกกกก  ออกมาเป็นไส้อะไรต่อมิอะไร สับเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกเคล้าด้วยไข่ ห่อแป้งบางกรอบๆ หน้าตาเหมือนขนมเบื้องญวน อิอิ

ซอสก็เค็มๆเปรี้ยวนิดๆ เหมือนซอสโอโคโนมิยากิแบบที่เคยกินแต่เหลวๆกว่า

แต่เวลากินค่อนข้างลำบากเพราะไส้มันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตะเกียบคีบยากค่ะ



สรุปแล้ว ราคาโอเค รสชาติก็อร่อยดีค่ะ แต่จขกท.ชอบรสโอโคโนมิยากิอีกแบบมากกว่าละ

อิ่มแล้วเราก็ออกเดินทางต่อค่ะ =w=

แต่ยังเหลือเผื่อท้องไว้ให้ของหวาน อิอิ


พี่คนนึงในกรุ๊ปเค้าไปต่อคิวซื้อดังโหงะเจ้าดัง ที่ขายอยู่ริมทางเดินมาชิมค่ะ (คิดว่าคงเจ้าดัง เพราะคนต่อคิวยาวมวากก  ต่อคิวนานมากกกก)

ตอนแรกจะไปถ่ายรูปตอนเค้ากะลังปิ้ง แต่เค้าดุ บอกว่าห้ามถ่ายค่ะ =[]= พอพี่เค้าเข้าแถวต่อคิว คนที่เหลือก็ยืนรออยู่แถวนั้น  คุณป้าเจ้าของร้านก็มาดุอีกค่ะ ประมาณว่ายืนขวางหน้าร้าน  T T แงๆๆ (เพิ่งเคยเจอคนญี่ปุ่นเหวี่ยงง่ะ) เลยไปยืนเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่ไกลๆนู้น  


พอได้ดังโหงะมาก็มาลองชิมกันค่ะ เป็นดังโหงะสีขาวชุบน้ำเชื่อมเหนียวๆ โรยด้วยถั่วบดหรืออะไรสักอย่างรสเหมือนถั่วในขนมตุ๊บตั๊บ ห่ออยู่ในใบอะไรสักอย่างคล้ายใบไผ่ รัศมีความเทพเปล่งประกายมาก ประมาณว่ารอนานมากและโดนป้าเหวี่ยงใส่เพื่อสิ่งนี้


ตอนนั้นถ้าใครผ่านไปแถวนั้นก็จะเห็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 5 คน งัดกล้องทุกกล้องที่มีออกมารุมถ่ายเจ้าดังโหงะนี้ริมถนน ด้วยในใจคิดว่ามันต้องอร่อยเทพแน่ๆ ต้องถ่ายไปรีวิวๆๆ =w=  มานึกตอนนี้ยังขำไม่หาย

พอได้ชิมเท่านั้นละค่ะ


น้ำตาจะไหล


เพราะรสไม่ได้ต่างกับดังโหงะต้นกระทู้ไปเท่าไหร่เลย T[]T

ถ้าจะบรรยายรสชาติก็เปรียบเหมือนข้าวเหนียวบดละเอียดจี่ไฟหอมๆ ชุบน้ำเชื่อมหวานๆเหนียวๆ

แต่เพิ่มออพชั่นถั่วตุ๊บตั๊บโรยมาแล้วก็รอคิวเกือบชม.เท่านั้นเอง

เหอๆๆๆๆ

หรือจขก.ลิ้นจระเข้ก็ไม่รู้เนอะ >.<


เราทุกคนก็กินจนหมดเพราะเสียดาย : 9

เดินไปไม่กี่ก้าว เจอร้านดังโหงะอีกร้านค่ะ ไม่มีคนต่อคิวเลย =[]=

แต่อันนี้เป็นดังโหงะชุบมิโสะค่ะ


ก็เลยซื้อมาลองดูซิ

อยากจะบอกว่า...


อร่อยอ้ะ !! >[]<


ดังโหงะนิ่มๆจืดๆ เคลือบมิโสะออกเค็มๆหวานๆ

เข้ากันซะอย่างนั้น

ก่อนกลับที่พักแวะห้างโยโดบาชิ เพื่อดูกล้องถ่ายรูปค่ะ

ในตู้นี้ราคาถูกมาก เพราะเป็นตัวโชว์ในห้างค่ะ และมีแต่เมนูภาษาญี่ปุ่น

รุ่นนี้ในไทยก็หมื่นกว่าบาท

แต่อันนี้เป็นตัวโชว์ค่ะ ราคาเลยถูก


จขกท.ก็ซื้อรุ่นนี้เหมือนกันแต่เป็นมือหนึ่ง เมนูภาษาญี่ปุ่น ถูกกว่าที่ไทยตั้งครึ่งแน่ะค่ะ

จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิวรูปถ่ายไตรภาค (แต่เป็นการเที่ยวในวันเดียวของจขกท.)

ชอบกันรึเปล่าคะ

เดี๋ยวคราวหน้าจะมารีวิววันที่ใส่กิโมโนไปเดินเที่ยว และรีวิวที่พักนะคะ


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมนะคะ


แล้วพบกันใหม่ค่ะ

จะรอชมชุดกิโมโนนะครับ

รูปสวยจังเลยค่ะ

ชอบน้องหมา ดอกไม้ ของกิน ชอบทุกอย่างเลยค่ะ

เรากลับชอบ Okonimuyaki แบบ kyoto นี่ล่ะค่ะ  แป้งไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ ทานแล้วไม่เลี่ยนมาก  ชอบไข่สุกๆดิบๆด้วย ~  รอชมสาวงามในตอนหน้านะคะ

/ okonomiyaki น่าหม่ำที่สุดดดดดดดด

เห็นเกียวโตตอนซากุระที่ไร ใจละลายทุกทีเลยค่ะ
ว่าตอนใบไม้แดงก็งามหยดแล้ว ตอนซากุระกับดอกไม้บานสวยๆนี่ก็ไม่แแพ้กันเลย สวยมากๆค่ะ ^^

ตามไปด้วยคน..ขอบคุณมากครับ

สวยงามมากครับ

อยากไปเที่ยวแล้วเจอแบบนี้จังเลย

ขอบคุณครับ

เปิดเข้ามาก็เจอชูครีมกระแทกเบ้าตาเข้าใ้ห้ ไม่น่าเล้ยยยย >_<

ถนนกิออน เห็นแล้วนึกถึงกระทู้ชูชกของพี่ฟ้าเมื่อวันก่อน ... มีแต่เรื่องของกินในหัวอ่ะ XD

น่ากินทั้งน้านนนนนนนนเลยค่ะ ลืมซากุระไปแว้บนึงเลย

รอดูจขกทในชุดกิโมโนนะคะ

ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ

รอชมชุดกิโมโนด้วยคนค่ะ  
ลิลลี่เก็บเข้าคลังกระทู้ไว้ให้เช่นเคยนะคะ

...ร้านโอโคโนมิยากิ พี่ก็แวะไปค่ะน้องใบเตย แต่ทานไม่ลง เพราะอิ่ม เสียดายจัง >_< มาทานกับน้องใบเตยก่อนแล้วกัน

ขอบคุณที่แปะ link พี่ไว้นะคะ ^_^

รูปที่ Path of Philosophy พูดได้คำเดียวว่า "โคตรสวยเลย" ครับ

ทางสายนักปราชญ์นี่สวยจริงครับ ต้นซากุระออกดอกเต็มไปหมด
มีคลองเล็กๆใสๆไหลผ่านสวยงามยิ่งนัก

ตามไปเที่ยวด้วยคน  ภาพสวยมากค่ะ

ชอบทั้งดอกไม้ ทั้งของกิน  ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

สวยมากค่ะ ทุกรูป อิจฉามากอยากไปๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

แวะมาแปะกระทู้กิโมโนค่ะ : D

[CR](ญี่ปุ่น) *+ kimono day +* รีวิวร้านเช่ากิโมโนในวัดคิโยมิสึ และไปกินซูชิราคาสบายกระเป๋าที่ร้าน Kappa Sushi [Kyoto]*

ตอนนี้เปลี่ยนล็อกอินแล้วเด้อ^^