ต้องขออภัยที่เขียนชื่อกระทู้ผิด จริงๆมันต้องเป็น Split Bridge ค่ะ


มารีวิวช้าไปซักนิด เพราะความขี้เกียจและไม่ค่อยว่างนั่นเอง โดยความตั้งใจแรก ว่าจะเอารูปทั้งหมดจากการไปเที่ยวที่ออสเตรเลียมาให้ดูกัน ไม่ว่าจะเป็นทริปล่าสุด 1-16 พ.ค.54 หรือตอนที่ไปเรียนที่นั่นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่พอดีเห็นว่ามีคน Review ไปแล้วมากมายทีเดียว เลยขอพาไปดูที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ไปกันบ้าง


ที่ที่ว่าก็คือการไป Manly Beach ด้วยการเดิน  ซึ่งปกติเค้าก็จะนั่ง Ferry ไปกัน แต่ว่าคราวนี้จะพาไปดูมุมมองที่แตกต่างจากเดิมกันบ้าง เผื่อใครสนใจจะลองเดินไปก็จะได้ประสบการณ์ดีดีอีกแบบ


จุดเริ่มต้นคือ Split Bridge อย่าถามว่ามาถึง Split Bridge ได้ยังไง เพราะชาวออสซี่ขับรถพาเรามากับเพื่อนชาวเวียดนามอีกหนึ่งคน ก็มาจอดรถเอาไว้แล้วเริ่มต้นเดิน ขากลับนั่งรถเมล์กลับมาเอารถที่เดิม ส่วนที่มาของชื่อ Split Bridge มาจากที่มันเป็นสะพานที่เปิดตรงกลางให้เรือที่มีความสูงกว่าเรือปกติสามารถข้ามไปได้ จะมีรูปให้ชมตอนท้ายค่ะ


ระยะทางรวมทั้งทริปของวันนี้ โดยประมาณ 11-12 กม. ใช้เวลาเดินบวกกับพักเหนื่อยแล้วประมาณ 4.30 ชั่วโมง ไม่เหนื่อยมากนัก เพราะอากาศเย็น อุณหภูมิประมาณ 10 กว่าองศา ลมพัดสบาย แต่พัดแรงไปนิดหัวกระเจิงตลอดเวลา ถ้าเดินตอนหน้าร้อนต้องขอลาเพราะคงเป็นลมไปตามๆกันแน่


ภาพด้านล่างที่เห็นคือแผนที่การเดินโดยคร่าวๆตามเส้นสีแดง

สะพานที่เห็นข้างหลังก็คือ Split Bridge นั่นเอง

บรรยากาศโดยรอบก่อนเริ่มต้นเดินทาง

ก่อนอื่นต้องเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยซะก่อน ที่เห็นอาคารเล็กๆด้านหลังก็คือห้องน้ำสาธารณะนั่นเอง

แต่จริงๆ เดินๆไปก็มีห้องน้ำให้ตลอดทางนะ สะอาดใช้ได้

เริ่มต้นออกเดินทางกันได้แล้ว


ทางเดินก็จะมีทั้งสะพานไม้ที่เห็น พื้นดิน แล้วก็ชายหาด

ไปเที่ยวด้วยคนครับ

ช่วงแรกๆ จะเป็นป่าและต้นไม่ซะเยอะหน่อย แต่การเดินก็จะเลาะริมหาดไปเรื่อย ดังนั้นจะเห็นหาดทรายไปเกือบตลอดทาง

ยินดีค่ะคุณเล็กทาโร่ เกาะหลังมาเลย อิอิ

ที่นี่ดีอย่างเค้ามีป้ายบอกทางเป็นระยะว่าเดินถึงไหนแล้ว ไม่ต้องกลัวหลง

อย่างป้ายข้างบน และป้ายนี้เป็นต้น

เดินเดินมาก็มาเจอหินแปลกๆ สวยดี

ขอถ่ายรูปด้วยซักกะหน่อย

สีส้มบนหินคาดว่าเกิดจากน้ำที่ไหลลงมา สีสวยดีค่ะ

งานนี้นอกจากจะเดินผ่านต้นไม้ หาดทราย แล้วยังผ่านหน้าบ้านเค้าด้วย

ที่นี่เป็นแหล่งพักอาศัยของคนมีเงินในซิดนีย์ บ้านระแวกนั้นก็จะใหญ่ซักหน่อย และส่วนใหญ่ก็จะมีเรือเป็นของตัวเองแทบทุกบ้าน


ที่เห็นลิบๆ ก็คือบ้านที่ว่า ส่วนเรือที่เห็นก็เป็นของบ้านเหล่านั้นแหละค่ะ

เดินมาซักระยะก็จะเจอจุดแวะให้ชมวิว อย่างที่เห็นนี่จุดชมชายหาด

จริงๆแล้วเราจะเดินไปตามชายหาดนี้ก็ได้ แต่บางจุดหินอาจจะเยอะ และมีน้ำแฉะๆ ทำให้เดินลำบาก ดังนั้น เดินตามทางที่เค้าจัดให้น่าจะดีกว่า

มีหอยนางรมเต็มไปหมด  กำลังคิดว่าถ้าเป็นบ้านเราคงมีคนเอามีดกะอุปกรณ์การกินมาด้วยเป็นแน่

ตามมา seen ซิดนีย์ด้วยคนครับ ^^

Blueberry เค้าแปะป้ายว่าอย่างนั้น แต่กินได้รึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ ไม่กล้าชิม กลัวเป็นไรไป ค่ารักษาพยาบาลแพงอยู่

เดินมาตั้งไกลละ ดูซิเพิ่งจะมีป้ายบอกว่าที่นี่คืออะไร

สวัสดีค่ะคุณไผ่พริ้ว

เห็นลิบๆโน่นไม๊  มันคือย่าน CBD นั่นเอง เห็น Harbour Bridge กับ Center Point หรือ Sky Tower ด้วย

ทางเดินช่วงนี้จะค่อนข้างเรียบ เดินง่าย แดดร้อน ถึงขั้นต้องถอด Jacket ออกเลยทีเดียว ขนาดลมแรงนะเนี่ย

มีน้องหมาขึ้นมาชมวิวกะเค้าด้วยเหมือนกัน

ของจริงสวยมาก ทั้งน้ำทะเลและท้องฟ้า อยากให้ทุกคนได้เห็นจัง

ที่เห็นลิบๆ ตรงกลางภาพนั่นคือ Ferry และท่าเรือที่เราจะต้องเดินไปให้ถึง

เริ่มหิวละ ก็พักทานอาหารกลางวัน ระหว่างทานไปก็สงสัยว่าเค้าล้อมรั้วไว้ทำไม

คำตอบก็คือเค้าล้อมไว้เพื่อให้เด็กเล่นแค่ตรงนั้น เพื่อป้องกันอันตราย

ระยะทางจากนี้จะเป็นชายหาดแล้วล่ะค่ะ ใกล้ Manly เข้ามาแล้ว

ที่เห็นนี่ก็คือสระว่ายน้ำเช่นกัน ก็คงใช้น้ำจากธรรมชาตินั่นแหละ แต่ตอนนี้ไม่มีใครเล่นเลย เพราะหนาวมาก ไม่ไหวอ่ะ

ห้องน้ำที่นี่ข้างนอกสวยดี แต่เราไม่ได้เข้าไปดูข้างใน

ถึงแล้ว เย้........

เดินมาถึงตรงนี้ก็ใช้เวลาประมาณเกือบๆ 4 ชั่วโมงได้ค่ะ

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน 3 คน

บรรยากาศโดยทั่วไปของ Manly มีให้เช่า Surf และชุดเล่น Surf เหมือนบ้านเราเช่าเตียงผ้าใบอะไรงี้

มีคนเล่นวอลเลย์บอลชายหาด มียามชายฝั่ง

เดินมาเรื่อยๆก็มาเจอหาดเล็กๆอีกหนึ่งหาด เอ....แต่ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกหาดรึเปล่า เอาเป็นว่าชื่อ......

ภาพระหว่างทาง

ตึกที่เห็นเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ส่วนผู้ชายคนนั้นพยายามพายเจ้า Surf ไปหาที่ที่มีคลื่น ดูมีความพยายามสูงจริงๆ

เจอเค้าจัดงานแต่งงานด้วย น่ารักดี

เดินมาไกลจาก Manly เหมือนกันแฮะ

ที่เห็นด้านหลังก็คือ Manly ซึ่งอีกเดี๋ยวก็ต้องเดินกลับไปที่นั่นเพื่อไปต่อรถเมล์กลับไปเอารถที่จอดไว้

ท้องฟ้าวันนี้เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง ถ่ายรูปออกมาก็เลยเป็นอย่างที่เห็นแต่ก็สวยไปอีกแบบ

ระหว่างทางที่เดินไปขึ้นรถเมล์ก็ไปเจอเด็กน้อยเล่นดนตรีอยู่ เพราะใช้ได้ทีเดียว

ถึงเวลาต้องไปจาก Manly ซะที

มาดูบรรยากาศตอนตะวันตกดินที่ Split Bridge กันดีกว่า

โชคดีที่ตอนมาเอารถเค้าเปิดสะพานพอดี เลยได้เห็นตอนที่กำลังยกสะพานขึ้น

อีกนิด

เรือลำสุดท้ายที่ผ่านสะพานไป

งานนี้ถึงแม้ไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่แค่วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ก็พอแล้ว ถือเป็นทริปสุดท้ายจริงๆก่อนกลับเมืองไทย แล้วไม่รู้อีกเมื่อไหร่จะได้กลับไปอีก แม้วีซ่าจะยังเหลืออีกเกือบปี แต่ตังค์ไม่มีอะนะ คงต้องไปเก็บเงินก่อนค่อยว่ากัน

ขอบคุณสำหรับการติดตามการรีวิวครั้งแรก อาจตกหล่นไปบ้าง คงไม่เป็นไรนะคะ

ตามไปซิดนีย์ด้วยคนค่ะ

เส้นทาง Unseen จริงๆ ครับ  ขอบคุณที่แบ่งปันกันคัรบ

ขอบคุณค่ะ  ที่ทำให้นึกถึงความหวัง  ป้าไปอยู่มา 1 เดือน
เมื่อ3-4ปีที่แล้ว  เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆแม้ว่าต้อง
เรียนหนังสือและทำการบ้านแบบเด็กๆด้วยก็ตาม

มีอีกสถานที่ คิดว่าทัวร์ส่วนใหญ่คงไม่ได้พาไป อยู่ที่ Kiama เรียกว่า "The Blow Hole"

ขับรถลงไปทางใต้ของซิดนีย์ แต่ยังอยู่ใน NSW ค่ะ ไม่ไกลมาก พอขับรถไปไหวอยู่

มันคือน้ำที่ขึ้นมาทางรูตรงหน้าผา จากการที่คลื่นซัดเข้าหาหน้าผา

จากรูปคือตรงที่คนยืนดูอยู่นั่นแหละค่ะ

และแล้วมันก็โผล่ขึ้นมาให้เราเห็น

สูงอีกนิด

Highlight ของที่นี่ก็คงไม่มีอะไรมากนอกจากเจ้าน้ำพุที่ว่านี่แหละ

แต่ทิวทัศน์แถวนี้ก็สวยอยู่ เหมาะแก่การขับรถมา Picnic

มีโต๊ะเล็กๆให้นั่งด้วย แต่แดดร้อนไปหน่อย ทาครีมกันแดดมาก่อนจะดีมากๆ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะครับบบ

ชอบภาพนี้

ปล.ภาพที่ Kiama เป็นภาพที่ถ่ายเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนแล้วเหมือนกัน

หมดแล้วค่ะสำหรับ Kiama

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมเช่นกันค่ะ

ชอบหาดนี้เหมือนกันค่ะ สงบดี

อยากกลับไปอีกกกจัง

ขอบคุณรีวิว Manly จากหลาย ๆ มุมนะคะ ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

เป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะ แต่ว่าเดินไกลเหลือเกิน

ขอบคุณที่มาแบ่งปันเรื่องให้ค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวคร๊า^^

spit = น้ำลาย

slit = แยก

อ๊ะ....จริงด้วย ลืม L ไป 1 ตัว

Split Bridge

ขอบคุณค่า

ไม่ได้ไป Nan Tien Temple เหรอครับ

ไม่ได้ไปค่ะ เพราะคนที่พาไปเค้าจะชอบแนวเดินๆ ลุยๆหน่อย ไม่ใช่แนวเค้าอะค่ะ  ส่วนใหญ่จะไปพวกป่าเขาลำเนาไพร พวกสวน Botanic อะไรประมาณนั้น อีกอย่างให้เราไปเองก็ไปไม่เป็นเพราะตอนเรียนก็ไม่ได้ไปไหนเลย เรียนแล้วกลับบ้าน เลยไปไหนไม่ค่อยเป็น แอบเสียดายเหมือนกัน ที่ไม่ได้ไปอีกตั้งหลายที่


ตอนแรกทริปนี้ก็คิดว่าจะเดินไม่ไหว แต่โชคดีที่อากาศดี ทางเดินไม่ลำบากนัก เลยรอดมาได้

น่าเสียดายจริง ๆ ด้วย มาถึง wollongong ทั้งที

Unseen จริงๆเพราะยังไม่เคยไป  น่าสนใจมาก
ขอบคุณมากค่า