[ทัวร์ศิลปะการกิน : California] ตอนที่ 2 NAPA VALLEY - American Eden

ในทู้ก่อนหน้า จขกท.ก็พาเที่ยว-หม่ำ-ช็อปครบสูตรที่แอลเอกันไปเบาะๆแล้ว
ตอนนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศชิมไวน์ชมวิวชิลๆที่ Napa Valley กันบ้างดีไหมคะ
ถ้าพร้อมที่จะกระดึ้บกรึ้บๆแล้วก็ตามพวกเรามาได้เลยค่า

และ จขกท.ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ ที่ทู้นี้"ไวน์ท่วมทุ่ง"มากๆ >_<


ทู้ทัวร์ L.A. อยู่นี่เจ้าค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10734785/E10734785.html

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:29:19 ]
ความเห็นที่ 1

Napa Valley เป็นย่านปลูกไวน์ชื่อดังของรัฐแคลิฟอร์เนียแล้วก็ของประเทศอเมริกาเลยค่ะ
แม้ว่าโดยรวม Napa Valley จะปลูกองุ่นได้แค่ 4% ของทั้งหมดที่ปลูกได้ในแคลิฟอร์เนีย
แต่ด้วยความที่ไวน์ยี่ห้อดังๆของเมกามากระจุกอยู่ที่นี่ซะเยอะ เลยทำให้ชื่อ Napa ติดตลาดคอไวน์ไปโดยปริยาย

อีกทั้ง Napa Valley ยังอยู่ห่างจากซานฟรานซิสโกไปแค่ชั่วโมงกว่าๆด้วยค่ะ
ส่วนคณะเราอึดหน่อยฮ่ะ เพราะถ่อกันมาจากแอลเอโน่น คืนก่อนหน้านั้นเราเลยแวะนอนระหว่างทาง
ที่เมือง Livermore ซึ่งอยู่ห่างจาก Napa Valley ไปเพียงชั่วโมงนิดๆเท่านั้น

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:29:44 ]
ความเห็นที่ 2

แค่ขับมาถึงถนน 29 ก็อลังการงานสร้างแล้วค่ะ เพราะสองข้างทางมีแต่ไร่ไวน์เต็มไปโหม้ด
แถมผ่านไร่ไวน์ชื่อดังทั้งนั้น อุ๊ยนั่น Robert Mondavi อ๊ะนั่น Domaine Chandon รักคุณ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:30:02 ]
ความเห็นที่ 3

แต่เป้าหมายแรกในเช้านี้ของเราอยู่ที่ Grgich Hills เจ้าค่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:30:22 ]
ความเห็นที่ 4

แต่ก่อน จขกท.ก็จินตนาการว่าไร่ไวน์นี้คงอยู่บนเนินเขา ด้วยความที่มันชื่อ Grgich Hills
ที่ไหนได้ มารู้ทีหลังว่าคนก่อตั้งมี 2 คน คนนึงชื่อ Grgich อีกคนชื่อ Hills กร๊ากกกก

ไร่ไวน์เจ้านี้อยู่ติดถนน 29 เลยเนี่ยแหล่ะ ส่วนภูเขาที่เห็นลิบๆนั่นก็ภูเขา Mayacamas
ซึ่งคั่นกลางระหว่าง Napa และ Sonoma Valley ซึ่งโซโนม่าก็เป็นแหล่งปลูกไวน์ชื่อดังเช่นกัน

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:30:43 ]
ความเห็นที่ 5

มีแปลงดอกไม้เล็กๆตรงทางเข้า

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:30:58 ]
ความเห็นที่ 6

ดอกสีสดสะใจมากอ่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:31:11 ]
ความเห็นที่ 7

แถมยังมีเถาไม้ปกคลุมอาคารไว้อีก น่าร๊ากกกก
ถ้าใครอยากลองชิมไวน์ของที่นี่ล่ะก็ เชิญย่างเท้าเข้าไปโลดฮ่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:31:42 ]
ความเห็นที่ 8

มีถังบาร์เรลที่เอาไว้บ่มไวน์วางเรียงเป็นตับเรย

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:31:56 ]
ความเห็นที่ 9

ส่วนตรงนี้เป็น Tasting Bar ค่ะ
ไร่ไวน์ที่นี่ส่วนมากจะเปิดให้คนทั่วไปได้เข้ามาชิมไวน์แบบเสียตังค์ค่ะ ซึ่งก็ดีนะฮะ จะได้ชิมก่อนซื้อ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:32:25 ]
ความเห็นที่ 10

แต่ไวน์ซื้อในไร่นี่ราคาไม่ถูกกว่าซื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ตที่เมกานะคะ บางทีในไร่ขายแพงกว่าด้วยซ้ำ
ฉะนั้นถ้าเป็นไวน์ที่หาซื้อได้ทั่วไป ก็อดใจกลับไปซื้อข้างนอกดีกว่าเน้อ
ยกเว้น Vertical Tasting เซ็ตนี้ ที่คงซื้อได้จากทีนี่เท่านั้น

Vertical Tasting หมายถึงชิมไวน์ชนิดเดียวกัน เจ้าเดียวกัน ไล่ไปทีละปีๆ
เพราะสภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝน อากาศร้อน/เย็น แถมปีที่ไวน์ aging ในขวด ล้วนมีผลต่อรสชาติไวน์
แถมยิ่งปีหลังๆมี Climate Change อากาศผีเข้าผีออกเยี่ยงนี้ รสชาติจะแตกต่างกันมากมั๊ยน๊อ

พูดไปเถอะ ลิ้นทุยๆอย่างเดี๊ยน ชิมไปก็คงไม่เห็นความแตกต่างหรอกค่ะ ฮา

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:32:57 ]
ความเห็นที่ 11

ที่ จขกท.เลือกมาที่ Grgich Hills นี่ ก็ด้วยความอินต่อเนื่องจากหนังสือ Judgment of Paris ค่ะ

ถ้าใครจะมา Napa Valley หรือสนใจเรื่องไวน์ โดยเฉพาะไวน์แคลิฟอร์เนีย ขอบอกว่าห้ามพลาดเล่มนี้เด็ดๆ
เพราะอ่านแล้วได้ทั้งความรู้และความบันเทิงชนิดนิยายบางเล่มยังชิดซ้าย และนอกจากหนังสือจะเล่าถึง
ประวัติความเป็นมาของอุตสาหกรรมไวน์ในอเมริกา และความแตกต่างระหว่างไวน์ "โลกใหม่" (New world wine)
อย่างไวน์อเมริกัน, แอฟริกาใต้, ชิลี, ออสเตรเลีย ฯลฯ กับ Old world wine โดยเฉพาะไวน์ฝรั่งเศสแล้ว

หนังสือยังเล่าประวัติย่อๆของโรงไวน์ดังๆใน Napa Valley ว่ากว่าจะมีวันนี้ พวกเขาต้องฟันฝ่าอุปสรรคกันมาขนาดไหน

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:33:25 ]
ความเห็นที่ 12

ตอนผู้อพยพจากยุโรปมาขึ้นฝั่งอเมริกาที่ East Coast พวกเขาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มลงมือปลูกไวน์ทันที
เนื่องจากชาวยุโรปนิยมดื่มไวน์เพื่อชูรสอาหาร แต่ปรากฎปลูกไม่ขึ้นค่ะ เพราะอากาศแถบโน้นชื้นเกิน รากินองุ่นหมด

แม้การปลูกไวน์ในฝั่งตะวันออกจะ fail โดยสิ้นเชิง แต่ทางฝั่งแคลิฟอร์เนียกลับไปได้สวย
นำทีมโดยมีพระแคธอลิคชาวสเปนจากเม็กซิโก (แต่ก่อนแคลิฟอร์เนียยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเม็กซิโก)
ที่พระมาทำไวน์ ก็เนื่องจากไวน์แดงเป็นส่วนหนึ่งในพิธีทางศาสนาค่ะ

ภายหลังก็มีคนแห่มาปลูกไวน์แถว Napa Valley เพราะที่นี่มีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ
คล้ายคลึงกับ Bordeaux แหล่งปลูกไวน์ชั้นนำของฝรั่งเศส ช่วงแรกๆก็ไปได้สวยเลยค่ะ
คนที่มาทำไร่ไวน์ก็เป็นคนเชื้อสายยุโรปทั้งนั้น พวกเขาเลยตั้งใจผลิตแต่ไวน์ดีๆให้ใกล้เคียงกับไวน์บ้านเกิด
ยิ่งช่วงปลายปี 1800s ที่เกิดโรคราองุ่นระบาดไปทั่วยุโรป จนต้นองุ่นที่ยุโรปตายเรียบ
ไวน์อเมริกันเลยขายดิบขายดี แถมยังไปชนะรางวี่รางวัลที่ฝรั่งเศสด้วยอีก

อนิจจายุครุ่งเรืองของไวน์แคลิฟอร์เนียนั้นแสนสั้นยิ่งนัก เพราะหลังจากไวน์ฝรั่งเศสฟื้นตัวจากโรครา
วงการไวน์อเมริกายังมาเจอมุขหักดิบของประธานาธิปดี Woodrow Wilson ที่อยากให้คนอเมริกันเลิกเหล้า
ด้วยการออกกฎหมาย Prohibition ซึ่งห้ามผลิต จำหน่าย แจกจ่าย หรือส่งออกแอลกอฮอลล์ทุกประเภท
แม้แต่ไวน์ที่มี %Alcohol น้อยกว่าวิสกี้ถึง 3 เท่าก็พลอยโดนหางเลขไปกับเขาด้วย!
เจอฤทธิ์ Prohibition Era อ่วมอรทัยเข้าไป 13 ปีเต็มเช่นนี้ บรรดาไร่ไวน์เลยพากันเจ๊งเป็นแถว

ส่วนนี่เป็นภาพของ Charles Krug Winery ซึ่งเป็นโรงไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดใน Napa Valley ค่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:34:18 ]
ความเห็นที่ 13

ในยุค Prohibition ไร่ไวน์หลายแห่งต้องหาทางรอด ด้วยการแอบขายน้ำองุ่นเข้มข้น
ให้คนเอาไปเจือจางและหมักไวน์เองที่บ้าน เลยทำให้คนอเมริกันเริ่มเคยชินกับการดื่มไวน์ด้อยคุณภาพ
แม้ Prohibition era จะสิ้นสุดในปี 1933 แต่รสนิยมการดื่มไวน์ของคนอเมริกันก็เปลี่ยนไป
ไวน์ชั้นดีสไตล์ยุโรปกลับขายไม่ออกซะงั้น ตึ่งโป๊ะ!

กว่า Napa Valley จะเข้าสู่ยุคเรเนอซองส์ก็ปาไปปี 1960s โน่น เมื่อคนอเมริกันรุ่นใหม่
ที่ได้ไปเปิดหูเปิดตาในยุโรป เริ่มมีความคิดว่า ประเทศเราน่าจะผลิตไวน์ชั้นดีแข่งกับชาวโลกได้
ผสมกับความเบื่อหน่ายในชีวิตเมืองกรุง พวกเขาเลยเข้ามากว้านซื้อและฟื้นฟูไร่ไวน์เก่าๆที่ถูกทิ้งร้างไป

ความเพียรพยายามของนักทำไวน์อเมริกันรุ่นใหม่ก็มาสัมฤทธิ์ผลในปี 1976
เมื่อมีการคัดไวน์ชั้นดีจากฝรั่งเศสและแคลิฟอร์เนีย ให้ผู้ทรงคุณวุฒิชาวฝรั่งเศสได้ Blind Tasting
(หมายถึงการชิมโดยไม่ให้เห็นขวดหรือฉลากไวน์) กันที่กรุงปารีส ซึ่งผลออกมาว่า
ไวน์ขาว Chardonnay และไวน์แดง Cabernet Sauvignon ของแคลิฟอร์เนีย
สามารถเอาชนะไวน์ชั้นดีจากฝรั่งเศสไปอย่างพลิกความคาดหมาย!

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:35:19 ]
ความเห็นที่ 14

และผู้ที่อยู่เบื้องหลัง Chateau Montelena 1973 Chardonnay ซึ่งเป็นไวน์ขาวที่ได้รับการโหวต
ให้ชนะใน Blind Tasting หนนั้น ก็คือคุณ Mike Grgich แห่ง Grgich Hills นี่เอง

Mike Grgich หรือชื่อจริง Miljenko Grgich (อ่านว่า เกอร์-กิช) เป็นชาวโครเอเชียโดยกำเนิดค่ะ
ปีนี้ปู่ไมค์ก็อายุปาเข้าไป 88 ขวบแล้ว และแกชอบพูดเสมอว่าแกเริ่มทำไวน์ตั้งแต่อายุ 4 ขวบเลยนะ!
ก็เพราะบ้านปู่ไมค์ปลูกพืชผักสวนครัวเลี้ยงสัตว์ไว้กินเอง รวมทั้งทำไวน์เองจากแปลงองุ่นเล็กๆหลังบ้านอีกตะหาก

ชีวิตอันแสนจะเรียบง่ายของปู่ไมค์ก็มาสั่นคลอน เมื่อยุโรปเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
และประเทศโครเอเชียตกอยู่ใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดปู่ไมค์ผู้ซึ่งใฝ่ฝันมาตลอด
ว่าอยากเป็น winemaker ได้ แกเลยสมัครเข้าเรียนที่ภาควิชาการทำไวน์ (Viticulture) ของมหาลัย Zagreb
และที่มหาลัย Zagreb นี่เอง ที่ปู่ได้ไปคุยกับอาจารย์ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากแคลิฟอร์เนียหมาดๆ

"แคลิฟอร์เนียเป็นไงบ้างครับจารย์"
"แคลิฟอร์เนียน่ะเหรอ ถ้าตรงไหนไม่มีน้ำก็จะแห้งเป็นทะเลทรายเลยล่ะ แต่ถ้าที่ไหนมีน้ำนะ มันก็สวรรค์ดีๆนี่เอง"

แดนสวรรค์...แคลิฟอร์เนีย... อาห์ คำๆนี้ได้ฝังเข้าไปในความคิดของปู่ไมค์ซะแล้ว


นี่แหล่ะค่ะโฉมหน้าของปู่ Mike Grgich ของแท้ต้องใส่หมวก Beret ด้วยนะเคอะ ขอโบก แพลบๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:36:02 ]
ความเห็นที่ 15

หลังจากปู่ไมค์ไปทำซ่าเดินขบวนประท้วงมหาลัย แกก็เริ่มหนาวๆร้อนๆว่าตูจะโดนตำรวจคอมมิวนิสต์ซิวไหมหนอ
ปู่เลยวางแผนเผ่นค่ะ โดยอาศัยที่ว่าปู่มีพี่สาวคนโตและพี่เขยอพยพไปอยู่ที่รัฐวอชิงตัน
แต่ปรากฎปู่ขอวีซ่าเมกาไม่ได้คะ (ปัญหาคลาสสิคเจงๆ -_-) เลยต้องเบนเข็มไปอยู่แคนาดาแทน

ด้วยความที่พูดปะกิตไม่คล่อง ทำให้ชีวิตช่วงแรกๆของปู่ไมค์ในแคนาดาลำบากมาก ต้องทำงานแรงงานสารพัด
ล้างจาน เสิร์ฟอาหารเลี้ยงชีพ จนปู่มาได้งานเป็น QC ในโรงงานกระดาษ เลยทำให้ปู่พอลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้หน่อย
แต่กระนั้นก็ตาม ปู่ไมค์ก็ยังไม่เคยลืมความฝัน ความฝันที่สักวัน ปู่จะไปปลูกไวน์ที่แคลิฟอร์เนีย

ดังนั้นเมื่อ Souverain Winery ตกลงรับปู่ไมค์เข้าทำงานเป็นผู้ช่วย winemaker
ปู่จึงไม่รอช้า รีบลาออกจากโรงงานกระดาษ แล้วมุ่งหน้าสู่ Napa Valley ทันที


(ภาพ : Souverain Winery จาก napavalleyregister.com)

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:37:15 ]
ความเห็นที่ 16

แต่ชีวิตในแดนสวรรค์แคลิฟอร์เนียนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด คุณ Lee Stewart เจ้าของ Souverain Winery นั้น
แม้จะเป็นนักทำไวน์ที่เก่งมาก แต่ฮีก็เผด็จการมากเช่นกัน ปู่ไมค์ต้องทำตามสเต็ปที่เฮียลีสั่งเป๊ะๆ ห้ามออกนอกลู่นอกทาง

ตอนหลังปู่ไมค์เลยลาออก แล้วแกก็บากหน้าไปของานกับ André Tchelistcheff นักทำไวน์เชื้อสายรัสเซีย
ที่มีคนยกย่องว่าเป็น "คณบดีแห่งวงการไวน์อเมริกัน" (ประมาณเรียก ศจ.ยังน้อยไป ฮ่าฮ่าฮ่า)
Tchelistcheff ตกลงรับปู่ไมค์เข้าทำงานในตำแหน่งนักเคมีไวน์ แต่ปู่ต้องผ่านโปรสองเดือนพร้อมบททดสอบ
ซึ่งเป็นไวน์แดง 25 แก้ว ที่ปู่ไมค์ต้องแยกระดับกรด แอลกอฮอลล์ และความหวานของแต่ละแก้วให้ได้ซะก่อน

เจอดอกนี้เข้าไปปู่ไมค์ก็อึ้งเล็กน้อย แต่ปู่ก็สู้ตายค่ะ แกลงทุนมาทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้าทุกวัน
เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมก่อนเวลาเข้างานตอน 8 โมง สุดท้ายปู่ไมค์ก็ผ่านโปรไปได้สบายๆ
แถมยังกลายเป็นศิษย์รักของ Tchelistcheff อีกตะหาก

นี่ก็โฉมหน้าของ Tchelistcheff ค่ะ หน้าตาดุเอาเรื่องไม่เบานะเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:37:48 ]
ความเห็นที่ 17

ปู่ไมค์รวมพลังกับ Tchelistcheff คิดค้นกระบวนการผลิตไวน์ใหม่ๆขึ้นมามากมาย
แต่ยังไงก็มีแต่คนมองว่าปู่เป็นแค่ลูกคู่ของท่านคณบดี ปู่เลยเริ่มมองหาลู่ทางใหม่
แกเลยได้ไปสมัครงานกับ Robert Mondavi บุรุษในตำนานของ Napa Valley
ผู้ประกาศก้องว่า คอยดู พวกเราจะผลิตไวน์ให้เท่าเที่ยมไวน์ฝรั่งเศสชั้นดีให้จงได้!!

ถ้าใครเดินซื้อไวน์ตามซูเปอร์มาร์เก็ตที่อเมริกา รับรองว่าต้องเจอไวน์ยี่ห้อ Robert Mondavi แน่ๆ
ซึ่งยี่ห้อนี้เค้ามีไวน์หลายเกรดนะฮะ ตั้งแต่ Woodbridge by Robert Mondavi ราคาขวดละไม่ถึง $10
ไปจนถึง Robert Mondavi Reserve ขวดละเป็นร้อยเลยฮ่ะ แพลบๆ


ในภาพนี่ก็คุณ Robert Mondavi ผู้ล่วงลับค่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:38:40 ]
ความเห็นที่ 18

แม้ปู่ไมค์จะอยู่ดีมีสุขที่ Robert Mondavi แต่แกก็ยังรู้สึกอีกว่า ยังไงแกก็เป็นได้แค่ลูกจ้าง
พอมีไร่ไวน์น้องใหม่ชื่อ Chateau Montelena ยื่นข้อเสนอมาว่า จะจ้างปู่ไมค์ไปเป็น winemaker
พร้อมเสนอออปชั่นหุ้นของไร่ไวน์ให้อีก 10% ปู่เลยไปยื่นใบลาออกกับคุณ Robert Mondavi ทันที

Chateau Montelena นั้นเป็นโปรเจ็คต์ของ Jim Barrett ทนายอสังหาริมทรัพย์จากแอลเอ
แม้แกจะทำเงินได้มากมายจากอาชีพทนาย แต่คุณจิมก็รู้สึกว่า อยากมีชีวิตบั้นปลายที่ไม่ต้องเครียดหัวโตแบบนี้
แกเลยมาขอซื้อ Chateau Montelena ไร่ไวน์เก่าแก่ที่สภาพจะพังไม่พังแหล่จากเจ้าของเดิม
โดยคุณจิมตั้งใจอย่างมากว่า ไวน์ของ Chateau Montelena จะต้องเป็นไวน์ชั้นดี
ขนาดช่วง 2-3 ปีแรกที่องุ่นที่ไร่ปลูกเองยังไม่ออกดอก แกยังย้ำกับปู่ไมค์นักหนาว่า
จะไปซื้อองุ่นที่อื่นมาก็ได้ แต่อย่าซื้อของห่วยๆ ไวน์เราต้องใช้แต่องุ่นชั้นดีเท่านั้น


(ภาพ : www.montelena.com)

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:39:44 ]
ความเห็นที่ 19

แม้ช่วงแรก Chateau Montelena จะต้องรับซื้อองุ่นจากเกษตรกรรายย่อย
แต่ปู่ไมค์ก็จะขับรถไป "คุยกับองุ่น" อยู่เนืองๆ เพราะเป็นหน้าที่ของ winemaker ที่ต้องตัดสินใจค่ะ
ว่าตอนนี้องุ่นพร้อมเก็บรึยัง ถ้าเก็บองุ่นเร็วเกินไป ระดับน้ำตาลจะน้อย ไวน์จะไม่มีรสชาติ แต่ถ้าปล่อยให้องุ่นสุกเกิน
น้ำตาลก็จะมากเกินไปด้วย แม้ว่าปกตินักทำไวน์จะมีเครื่องมือวัดระดับน้ำตาล (Brix meter) เป็นตัวช่วย
แต่ปู่ไมค์ก็เชื่อว่าไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่า การเดินเข้าไปดูๆ จับๆ ดมๆ ชิมๆองุ่นมันทีละแปลงๆอีกแล้ว

ไม่ใช่แค่การเก็บองุ่นเท่านั้น ปู่ไมค์ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดของกระบวนการผลิตไวน์ (ซึ่ง จขกท.ขี้เกียจพิมพ์
เชิญทุกท่านไปหาอ่านเองละกัน ฮา) จึงไม่น่าแปลกใจที่ไวน์ Chardonnay ของ Chateau Montelena
จะรสชาติกลมกล่อมจนชนะใจกรรมการในศึกวันทรงชัย Blind Tasting ในปี 1976 แพลบๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:40:20 ]
ความเห็นที่ 20

แต่หลังจาก Blind Tasting แค่ปีเดียว ปู่ไมค์ก็ชีพจรลงเท้าอีกรอบ เมื่อมีเศรษฐีเจ้าของบริษัทกาแฟ
นามว่า Austin Hills มาชักชวนให้ปู่ไมค์ออกไปตั้งโรงไวน์ใหม่ โดยคุณออสตินยื่นข้อเสนอว่า
จะให้ปู่เป็นเจ้าของร่วม และตั้งชื่อโรงไวน์ให้เบ็ดเสร็จว่า Grgich Hills

หลังจากได้ฟังข้อเสนอ ปู่ก็รีบขายหุ้น Chateau Montelena แล้วหนีตามคุณออสตินไปทันที ฮ่าฮ่าฮ่า
เพราะปู่ไมค์ใฝ่ฝันมานานแล้วว่าอยากเป็นเจ้าของไร่ไวน์ และแม้แกจะถือหุ้นบางส่วนที่ Chateau Montelena
แต่หลังๆคุณจิมก็เริ่มผลักดันให้ Bo Barrett ลูกชายของตนเข้ามามีบทบาทในการผลิตไวน์มากขึ้นเรื่อยๆ
จนปู่เริ่มเสียวสันหลังว่า สักวันตัวเองคงจะโดนเลื่อยขาเก้าอี้เป็นแน่ (จริงๆปู่อาจจะคิดถูกก็ได้นะฮะ
เพราะตอนนี้คุณ Bo Barrett ขึ้นแท่นเป็น winemaker ของ Chateau Montelena ไปแร๊ว >_<)

หลังจากระหกระเหินไปมาใน Napa Valley เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ในที่สุดปู่ไมค์ก็จะมีไร่ไวน์เป็นของตัวเองเสียที

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:40:56 ]
ความเห็นที่ 21

ปัจจุบันปู่ไมค์ก็ผันตัวเองไปเป็นที่ปรึกษาและมาสค็อตของ Grgich Hills
โดยมีคุณ Violet ลูกสาวคนเดียวของปู่คอยดูแลด้านการตลาด
ส่วน winemaker ตัวจริงนั้นคือ Ivo Jeramaz ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของปู่ไมค์อีกที

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:41:27 ]
ความเห็นที่ 22

ไม่ใช่มีแต่ญาติฝั่งปู่ไมค์ที่มาทำงานให้ Grgich Hills เท่านั้นนะคะ
หลานของคุณ Austin Hills ก็ขี่ Lamborghini มาช่วยงานโรงไวน์เหมือนกัน เอร๊ยยยย >_<
(อันนี้ที่รู้ เพราะ จขกท.ถามคนที่โน่นเองค่ะ ว่านี่ลัมบอร์กินี่ของปู่รึเปล่า กร๊ากกกกก)

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:42:37 ]
ความเห็นที่ 23

โม้มาเยอะแล้ว ได้เวลาเที่ยวไร่ไวน์จริงๆซะทีเน้อ ชนแก้ว

เราซื้อทัวร์ชมไร่ไวน์ค่ะ (สามารถปรินต์คูปองซื้อ 1 แถม 1 จากในเว็บของ Grgich Hills ได้นะฮะ)
นำทัวร์โดยคุณป้าจอมโหด ซึ่งป้าก็พาเราไปดูต้นองุ่นบนแปลงเล็กๆที่อยู่หน้าประตูทางเข้า

ส่วน Merlot นี้เป็นชื่อองุ่นแดงประเภทหนึ่งค่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:43:28 ]
ความเห็นที่ 24

ป้าไกด์บอกว่าเค้าจะตัดองุ่นที่อยู่แถวบนออก ให้เหลือแต่องุ่นแถวล่าง
ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นที่อยู่ข้างล่างจะได้รับแสงแดดเยอะๆ และเค้าก็จะไม่อยากให้องุ่นมันขึ้นดกเกินไปค่ะ
เพราะมันจะไปแย่งอาหารกันเอง ทำให้รสชาติองุ่นไม่เข้มข้น เช่นเดียวกับการให้น้ำ ต้องให้น้ำแต่น้อย
ถ้าให้น้ำเยอะเกิน หรือฝนตกมากๆเข้า องุ่นก็จะรสชาติเจือจางลง

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:44:13 ]
ความเห็นที่ 25

ส่วนไอ้ที่เห็นเป็นดอกเล็กๆในรูปนั่นแหล่ะค่ะดอกองุ่น!!
ป้าไกด์บอกปีนี้ฝนตกตลอด แถมอากาศก็เย็น องุ่นเลยออกผลช้าหน่อย

ตรงนี้ จขกท.โชว์ความทุย ถามป้าไกด์ว่า ถ้ามันโตเต็มที่แล้ว ขนาดจะใหญ่เท่าองุ่นที่ขายตามซูเปอร์ป่ะคะ
"คุณน้องขา นี่ไม่ใช่ grapes นะคะ มันคือ vine ค่ะ"
"แต่หนูอยากรู้นี่คะ ว่าตอนโตลูกมันจะขนาดเท่า grape ปกติรึเปล่า"

"คุณน้องไม่เข้าใจค่ะ นี่ไม่ใช่ grapes ค่ะ นี่เค้าเรียกว่า vine ค่ะ VINE!!"
"เออ กรูเข้าใจค่ะ ป้าตะหากที่ไม่เข้าใจคำถามหนู๊!!" หยอกเย้า

ขอบอกว่าบรรยากาศมาคุแบบนี้ไปตลอดทัวร์เลยค่ะ ประมาณว่าถามอะไร ป้าไกด์ไม่เคยเก็ต
แถมชักสีหน้าทำนองอธิบายแล้วทำไมยังไม่รู้เรื่องอีก ทำเอาเจ้าหนูจำไมแต่กำเนิดอย่าง จขกท.เซ็งเป็ดมาก
ฉะนั้นถ้าเดี๊ยนอธิบายไม่ละเอียดก็ให้โทษป้าไกด์แทนละกันนะเคอะ หนูไม่ผิด ขี้แง

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:45:12 ]
ความเห็นที่ 26

ต่อค่ะต่อ ป้าไกด์บอกด้วยว่า เค้าจะนิยมปลูกต้นกุหลาบไว้ตรงปลายแถวไร่ไวน์ redrose นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว
กุหลาบยังเป็นตัวเตือนภัยได้อย่างดี เพราะถ้าดินไม่ดี มีโรคมีรา น้องกุหลาบจะไปก่อนพี่องุ่นค่ะ แพลบๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:45:50 ]
ความเห็นที่ 27

ส่วนนี่ก็เป็นเครื่องที่เค้าไปไว้ crush องุ่นค่ะ เพื่อแยกสิ่งแปลกปลอมเช่นกิ่งไม้และงู(!)ออกมา
จากนั้นก็จะเป็นการบีบ (press) น้ำองุ่นให้ออกมา ไม่ใช่ปั่นนะคะ
ถ้าปั่นจะมีซากเม็ดองุ่นติดมา ซึ่งเม็ดนี่เป็นตัวทำให้ไวน์ขมเลย yuck

นอกจากนี้ป้าไกด์ยังเล่าอีกว่า ช่วงเก็บองุ่นเป็นช่วงปลายหน้าร้อน แล้วถ้าองุ่นที่กองอยู่ก้นตะกร้าโดนความร้อนมากๆ
องุ่นก็จะเริ่มหมักตัว ซึ่งมันไม่ดี ฉะนั้นที่ Grgich Hills เค้าจะเก็บองุ่นกันตอนกลางคืนค่ะ!
โดยให้คนงานใส่หมวกติด headlight เก็บองุ่นกันตั้งกะเที่ยงคืนยันหกโมงเช้าเนี่ยแหล่ะ >_<

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:46:48 ]
ความเห็นที่ 28

มาดูข้างในโรงไวน์กันบ้างนะฮะ

จากนั้นน้ำองุ่นก็จะถูกเอามาหมัก (fermentation) ในถัง Stainless Steel
Fermentation คือการใส่ยีสต์ลงไปเพื่อทำปฎิกิริยากับน้ำตาลในองุ่นให้กลายเป็นแอลกอฮอลล์ค่ะ

ส่วนถังโอ๊คอันมหึมาในรูปล่างก็มีไว้หมักไวน์เช่นกันฮ่ะ แต่จำบ่ได้แล้วมันต่างกับถังสแตนเลสตรงไหน
ถ้าให้เดา ถังสแตนเลสน่าจะเอาไว้หมักไวน์ขาว ซึ่งปกติจะหมักที่อุณหภูมิต่ำกว่าไวน์แดง
อย่างไวน์ขาวที่นี่จะหมักที่อุณหภูมิ 10C แต่ถ้าเป็นไวน์แดงก็อยู่ที่ประมาณ 30C

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:47:26 ]
ความเห็นที่ 29

กระบวนการหมักไวน์นี่ใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์เท่านั้น จากนั้นไวน์ก็จะเอามา Aging ใน Oak Barrel
ที่วางเรียงกันเป็นตับในภาพ ซึ่งจะเป็นการทำให้ไวน์มีรสชาตินุ่มขึ้นค่ะ ป้าไกด์ว่า Oak Barrel เนี่ยมีหลายเกรด
ถ้าของเมกาก็ประมาณถังละ $400 เมดอินฮังการีก็ถังละ $800 ถ้านำเข้าจากฝรั่งเศสเลยก็แพงหน่อยค่ะ
ประมาณ $1200-$2500 และที่ Grgich Hills เนี่ย เค้าใช้รุ่น $2500 ค่ะ แถมสี่ปีเปลี่ยนถังทีด้วย >_<

ถ้าจำไม่ผิดป้าไกด์บอกว่าไวน์แดง Cabernet Sauvignon จะ Age ในถังโอ๊ค 24 เดือน
และ Age ต่อในขวดอีก 24 เดือน ส่วนไวน์แดง Merlot ก็ 18/18 เดือน
ส่วนไวน์ขาวนี่ Age สั้นกว่าไวน์แดงเยอะฮ่ะ ประมาณ 9/9 เดือน ฉะนั้นแม้ปีนี้จะเป็นปี 2011
แต่ปีล่าสุดของ Cabernet Sauvignon ที่เริ่มวางขายมาจากปี 2007 โน่น

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:47:46 ]
ความเห็นที่ 30

ชมกระบวนการผลิตไวน์กันขำๆแล้ว ก็มาถึงรายการสำคัญแล้วค่ะ ซึ่งก็คือการชิมไวน์น่ะเอง แฮ่ แพลบๆ

ป้าไกด์นี่ก็ตลก ตอนนำทัวร์โคตรดุ แต่ตอน tasting นี่ใจดีมากเลย สงสัยจะเป็นอานิสงส์จากแอลกอฮอลล์ ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:48:25 ]
ความเห็นที่ 31

ก่อนเริ่มชิมไวน์ มาดูฉลากไวน์กันก่อนดีไหมฮะ นกดื่มชา

ฉลากไวน์อเมริกันนี่อ่านง่ายค่ะ มีการบอกชื่อพันธุ์องุ่นไว้ชัดเจน ถ้าฉลากโปะไว้ว่า เป็นไวน์จากองุ่นขาว Chardonnay
แปลว่าอย่างน้อย 75% ของไวน์ต้องมาจากองุ่น Chardonnay ส่วน Napa Valley ก็หมายถึงที่มาขององุ่นค่ะ
ว่าอย่างน้อย 85% ต้องเป็นองุ่นที่ปลูกใน Napa Valley

แม้แต่ใน Napa Valley เองก็ยังสามารถซอยไปได้อีกหลาย Appellation ย่อยๆตามภาพประกอบเจ้าค่ะ
ถ้าพื้นที่ตรงไหนได้รับการประกาศให้เป็น Appellation เฉพาะ อย่างเช่น Howell Mountain, Diamond Mountain
ก็แปลว่าพื้นที่ตรงนี้มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นด้านสภาพดิน, ภูมิประเทศ หรือภูมิอากาศ
อย่างเช่น Carneros อุณภูมิจะเย็นกว่าชาวบ้าน ส่วน Spring Mountain ก็ตั้งอยู่บนภูเขา ฯลฯ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:49:38 ]
ความเห็นที่ 32

แต่ฉลากไวน์ฝรั่งเศสนี่จะคนละระบบกับไวน์เมกันค่ะ เพราะเค้าเน้นชื่อ Appellation มากกว่า
ด้วยความที่ไวน์ฝรั่งเศสนี่ tradition สูงมาก แคว้นเบอร์กันดีจะปลูกเฉพาะองุ่นแดง Pinot Noir
ส่วน Bordeaux จะปลูกเฉพาะองุ่นแดง Cabernet Sauvignon ฉะนั้นถ้าเป็นไวน์แดงจากเบอร์กันดี
ก็ไม่ต้องมานั่งบอกว่าเป็น Pinot Noir ให้เสียเวลา

ส่วน Appellation หรือ Terroir ในภาษาฝรั่งเศสเนี่ย ที่ฝรั่งเศสเค้าซอยกันยิบยิ่งกว่าของเมกาอีกฮ่ะ
บาง Appellation ครอบคลุมพื้นที่ไม่ถึง 1 ตารางกิโลเมตรด้วยซ้ำ แถมมีแบ่งเป็นหลายเกรด
เกรดดีสุดก็คือ Grand Cru (Great Growth) เกรดรองลงมาเรียก Premier Cru (First Growth)

อย่างขวดนี้เป็นไวน์ขาวจากเบอร์กันดี ก็แปลว่าต้องเป็นไวน์ Chardonnay ชัวร์
แถมยังมาจาก Montrachet Appellation ซึ่งถูกยกให้เป็น Grand Cru อีกด้วย
ส่วนชื่อไร่ไวน์ก็คือ Comtes Lafon ฮ่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:50:16 ]
ความเห็นที่ 33

กลับมาสู่การชิมไวน์กับป้าไกด์จอมดุต่อ ป้าไกด์บอกว่าก่อนชิมไวน์ ต้องปั่นแก้วไวน์ให้กลิ่นไวน์ออกเพื่อดมกลิ่นก่อนค่ะ
ซึ่งอันนี้เป็นปัญหาใหญ่หลวงของคนจมูกบอดอย่างเดี๊ยนยิ่งนัก แถมดมได้ก็แยกไม่ออกอีกว่าอะไรเป็นอะไร ขี้แง
ส่วนเวลาชิมไวน์จริง ป้าก็บอกให้กลั้วไวน์ไปให้ทั่วปาก เพื่อให้ได้รสชาติของไวน์เต็มๆ
ถ้าใครชิมแล้วบ้วนทิ้งก็ไม่ว่ากัน แต่พวกเราไม่บ้วนหรอกฮ่ะ เสียดายของ >_<

งานนี้เด็จแม่ของ จขกท.แอบอึ้งเล็กน้อย เพราะหม่ามี๊ไม่เคยกินไวน์มาก่อนในชีวิต แต่พอมาเจอหลักสูตรบังคับกิน
หม่ามี๊เลยต้องกล้ำกลืนฝีนดื่มไวน์ไปตามระเบียบ ป้าไกด์ก็แสนดี พอป้ารู้ว่าแม่ไม่เคยกินไวน์ ป้าก็งัด dessert wine
ซึ่งไม่ได้อยู่ในเมนู tasting มาให้ชิมด้วย ซึ่งคุณแม่ทานแล้วก็ชอบค่ะ เพราะ dessert wine จะหวานกว่าไวน์ปกติมาก
(แต่ราคาก็แพงมากเช่นกัน ขวดละตั้ง $85 แน่ะ แพงกว่า Chardonnay อีกนะเน่ย >_<)

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:51:49 ]
ความเห็นที่ 34

ส่วนนี่ก็เป็นไวน์ที่เราได้ชิมในวันนี้ค่ะ ซึ่งได้แก่ 2008 Chardonnay, 2009 Fume Blanc, 2007 Zinfandel,
2006 Merlot แล้วก็ 2007 Cabernet Sauvignon โดยการชิมไวน์ต้องไล่จากไวน์ขาวไปไวน์แดง
เพราะไวน์แดงรสชาติจะจัดกว่า ถ้าเริ่มด้วยไวน์แดงก่อน คงไม่ได้รสไวน์ขาวแน่นอน

เราเริ่มรายการด้วย Chardonnay ไวน์ขาวขึ้นชื่อของ Grgich Hills ค่ะ หอมกลิ่นลูกพีชมาแต่ไกลเลยขวดนี้
รสชาติไวน์ก็เรียกว่าไม่เลวเลยค่ะ เพราะมีความสมดุลระหว่างรสผลไม้และไวน์ก็ creamy, buttery แบบกำลังดี
จขกท.เคยกินไวน์ที่มันโคตรจะ buttery ซึ่งมันจะนุ่มมากๆ แต่อิฉันว่ากินมากๆแล้วจะเลี่ยนเอาง่ายๆนะเน่ย -_-

ส่วน Fume Blanc เป็นไวน์ขาว Sauvignon Blanc ที่ค่อนข้าง dry ซึ่งป้าไกด์บอก Fume Blanc
เป็นไวน์ที่ปู่ไมค์และคุณ Robert Mondavi คิดค้นขึ้นมาค่ะ จขกท.ว่าปกติ Sauvignon Blanc จะเปรี้ยวกว่า
รสชาติผลไม้ๆกว่า Chardonnay แต่ จขกท.ว่า Fume Blanc ของเจ้านี้ รสชาติออก mineral มากกว่าผลไม้นะฮะ
กินแล้วก็สดชื่นดี เหมาะกับหน้าร้อนยิ่งมั่กๆ ว่าแล้วถอย Fume Blanc ขวดน้อยกลับบ้านซักขวดดีกว่า หุหุ แพลบๆ

ส่วนไวน์แดง ขออภัยที่จำบ่ได้จริงๆว่ารสเป็นไงบ้าง ฉะนั้นขอข้ามโลดเน้อ -_-

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:53:27 ]
ความเห็นที่ 35

อนึ่ง การชิมไวน์ตอนท้องว่างจะทำให้มึนเร็วนะฮะ ฉะนั้นควรหาอะไรรองท้องก่อนไปเน้อ
ส่วนใครที่มึนไปแล้ว ก็ต้องหาของหม่ำๆมากินแก้มึนค่ะ ซึ่งสังเวียนการแก้มึนของเราในเที่ยงนี้
ก็คือ Oxbow Public Market ที่อยู๋ในเมือง Napa ฮ่ะ

Napa Valley นั้นประกอบไปด้วยเมืองเล็กๆที่อยู่ตึดกันเป็นพรืด แต่ละเมืองอยู่ห่างกันประมาณ 5-10 นาที
Grgich Hills ที่เราไปมาเมื่อตะกี้ อยู่ที่เมือง Rutherford ซึ่งอยู่ใต้ St Helena มาจึ๊ดเดียวเท่านัน

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:54:04 ]
ความเห็นที่ 36

ข้างในตลาดดูไฮโซไม่เบา

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:54:54 ]
ความเห็นที่ 37

มีกระทั่ง Oyster Bar ด้วย ตึ่งโป๊ะ!

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:55:11 ]
ความเห็นที่ 38

เห็นว่าร้าน Mexican ที่นี่ดัง แต่เนื่องจากอาหารพี่เม็กไม่ผ่านการอนุมัติจากคุณนายแม่
เราเลยได้มานั่งแทะพิซซ่ากันที่ร้าน Ca’ Momi แทน

นี่ก็พิซซ่า pepperoni กับหัวหอมและมะกอก

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:55:28 ]
ความเห็นที่ 39

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [2 ก.ค. 54 20:55:31 ]
ความเห็นที่ 40

ได้เลยค่าคุณเล็กทาโร่ นกดื่มชา
----------------------------------------------------------------------


ถัดมาก็พิซซ่าแฮมเห็ด อาหย่อยยยยย แพลบๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:56:14 ]
ความเห็นที่ 41

หม่ำของคาวเสร็จ ก็ถึงทีของหวานที่ร้านไอติม Three Twins ซึ่งอยู่ในตลาดเช่นกัน

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:56:33 ]
ความเห็นที่ 42

จขกท.สั่งไอติมชาเขียวกับช็อคโกแล็คชิพค่ะ รสชาติก็ใช้ได้ รสคาราเมลที่น้องสาวสั่งอร่อยกว่า
แต่ไอติมแพงไปหน่อย ถ้วยนี้ $4 ได้มั๊ง -_-

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:56:49 ]
ความเห็นที่ 43

ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดยังสูงไม่พอ ก็เชิญไปต่อกันที่ร้าน Kara's Cupcake ได้ฮ่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:57:21 ]
ความเห็นที่ 44

อร๊ายยยย คัพเค้กน่าร๊ากมว๊ากกกกก รักคุณ

เนื่องจาก จขกท.ยังหม่ำคัพเค้กที่ถอยมาเมื่อวานไม่หมด อิฉันเลยซื้อมินิคัพเค้กมะพร้าวมาชิมดูก่อนเล่นๆ แพลบๆ
เค้กร้านนี้ก็อร่อยเลยค่ะ เค้กนุ่มหอมอร่อย โธ่ รู้งี้น่าจะถอยอันใหญ่มาก็ดีหรอก ขี้แง

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:57:41 ]
ความเห็นที่ 45

อาหารเต็มท้องแล้ว ชาวคณะก็พร้อมกรึ๊บต่อได้ แพลบๆ

จากตลาด เราก็ขับรถไปตามถนน Silverado Trail ค่ะ โดยถนนนี้จะอยู่ขนานกับถนน 29
แต่บรรยากาศนี่คนละเรื่องเลย เพราะ Silverado Trail รถน้อยกว่าและให้อารมณ์ชนบทๆกว่า
อีกทั้งไร่ไวน์ที่ตั้งอยู่ตาม Silverado Trail ก็ยังดูเป็นแนวไร่บูทิ้คไฮโซอีกด้วย รักคุณ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:58:24 ]
ความเห็นที่ 46

เป้าหมายอันดับสองของเราอยู่ที่ Stag's Leap Wine Cellars ที่อยู่บน Silverado Trail เนี่ยแหล่ะค่ะ
(มีอีกไร่ที่อยู่ใกล้ๆกันชื่อ Stags' Leap Winery อย่าสับสนล่ะเน้อ)

บรรยากาศดูร่มรื่นดีจัง

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:58:46 ]
ความเห็นที่ 47

Tasting Room น่ารักอีกแล้ว รักคุณ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:59:01 ]
ความเห็นที่ 48

ไม่ใช่สวยแต่รูปจูบไม่หอมนะคะ เพราะ Cabernet Sauvignon ของ Stag's Leap Wine Cellars
นี่ก็ไปชนะ Blind Tasting สาขาไวน์แดงที่ปารีสในปี 1976 มาเหมือนกันนะเธอว์ แพลบๆ

ตะกี้เล่าประวัติปู่ไมค์ไปแล้ว งวดนี้มาชมประวัติลุง Warren Winiarski แห่ง SLWC กันบ้าง
เห็นหน้าตาคงแก่เรียนของลุงวอร์เรนสมัยยังหนุ่มแบบนี้ บอกไปก็คงไม่มีใครร้องหา ว่าแรกเริ่มเดิมที
ลุงเป็นอาจารย์ที่ University of Chicago มาก่อนนะเคอะ!!

ลุงวอร์เรนเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายโปแลนด์ แถมนามสกุลยังแปลว่า "son of winemaker" ในภาษาโปลิชอีกด้วย
แบบนี้ไม่เรียกชะตาฟ้าลิขิตก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว แพลบๆ เช่นเดียวกับปู่ไมค์ ลุงวอร์เรนคุ้นเคยกับการทำไวน์
มาแต่อ้อนแต่ออก เพราะป๊ะป๋าของลุงทำไวน์กินเองที่บ้าน แต่ด้วยความฉลาด ช่างคิดและช่างใฝ่รู้
ทำให้ลุงวอร์เรนไปเรียนปริญญาสาขาปรัชญาและรัฐศาสตร์ แถมแกยังได้ไปทำวิทยานิพนธ์ถึงที่อิตาลีด้วยนะ

และที่อิตาลีนี่เอง ที่ลุงวอร์เรนได้สัมผัสถึงความลั่ลล๊าตามสไตล์พี่เลี่ยน ที่ญาติพี่น้องมาร่วมทานอาหารเที่ยงและเย็นด้วยกัน
พร้อมดื่นไวน์พูดคุยกันอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ช่างผิดจากวิถ๊ชีวิตชาวกรุงชิคาโกที่ต้องปากกัดตีนถีบเหลือกำลัง
หลังจากกลับมาเมกา ลุงวอร์เรนเลยกล่อมคุณเมียว่า ที่รักจ๋า พี่ไม่อยากให้ลูกเราต้องโตมาในสังคมแบบนี้ บ้านช่องคับแคบ
รอบๆก็มีแต่ตึก แถมอยู่บ้านลูกๆก็เอาแต่ดูทีวี เราย้ายไปทำไร่ไวน์ที่แคลิฟอร์เนียดีกว่านะจ๊า รักคุณ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่าเมียลุงวอร์เรนจะบ้าจี้ ยอมหอบลูกตามผัวไป California ด้วย >_<

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 20:59:54 ]
ความเห็นที่ 49

ว่าแล้วลุงวอร์เรนก็ตระเวนศึกษางานตามไร่ไวน์เล็กๆแถบ East Coast แล้วกลับมาลองหัดทำไวน์เองที่บ้าน
แถมยังอ่านหนังสืออีกเป็นกะตั้ง พร้อมร่อนจดหมายไปยังสารพัดโรงไวน์ แต่ไม่มีที่ไหนตอบรับใบสมัคร
ของคนไร้ประสบการณ์แต่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างแกเลย จนกระทั่งมีโรงไวน์แห่งนึงหลวมตัวตอบรับลุงวอร์เรน
ซึ่งโรงไวน์ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ Souverain Winery ที่ปู่ไมค์เคยทำงานมาก่อนน่ะเอง!!

แต่ลุงวอร์เรนทนไม้ทนมือคุณ Lee Stewart กว่าปู่ไมค์หลายเท่านัก เพราะปู่ไมค์อยู่ที่นี่แค่ 4 เดือน
ส่วนลุงวอร์เรนอยู่กับคุณลีถึง 2 ปี ในช่วงสองปีนั้น ลุงวอร์เรนก็ได้เรียนรู้จากคุณลีมากมาย
แต่ซักพักแกก็เริ่มมีความคิดที่แตกต่างจากคุณลี ว่าทำไมคุณลีถึงใช้เวลาบ่ม Merlot, Cabernet Sauvignon เท่ากัน
แล้วทำไมต้องบ่มด้วยความร้อนสูงขนาดนั้น ฯลฯ ลุงวอร์เรนเลยเริ่มแอบทดลองทำไวน์ตามสไตล์แกที่บ้านพัก

สองปีผ่านไป คุณลีก็บอกเลิกจ้างลุงวอร์เรน แกเลยเอาเงินไปซื้อที่บนภูเขา เพื่อจะทำไวน์เอง
แม้การทดลองปลูกไวน์ช่วงแรกๆของลุงวอร์เรนล้มเหลว องุ่นไม่ขึ้น แต่ลุงก็ยังไม่หมดความพยายาม
แกยังไปลงทะเบียนเรียนการทำไวน์ที่มหาลัย UC Davis และไปค้นคว้าอ่านหนังสือเพิ่มเติมจากห้องสมุดอยู่เนืองๆ

และแม้ว่าการเงินของบ้านจะอัตคัตขัดสน แต่ก็ยังดีที่ครอบครัวลุงยังสามารถปลูกผัก เก็บผลไม้ ล่ากวางเลี้ยงชีพได้
แม้ว่าบ้านลุงจะไม่มีทีวี แต่ลุงก็ให้ลูกๆแต่งบทละคร เล่นกันเอง ดูกันเอง หรือไม่ก็นั่งล้อมวงฟังโอเปร่าทางวิทยุแทน
แม้ว่าครอบครัวลุงจะยากจน แต่พวกเขาก็มีความสุขเหลือเกิน


ในรูปนี้ก็คือลูกๆทั้งสามของลุงวอร์เรนค่ะ ได้แก่ Julia, Stephen แล้วก็ Kasia ขณะช่วยงานในไร่ไวน์ของคุณพ่อ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:01:02 ]
ความเห็นที่ 50

และโชคก็เริ่มเข้าข้างลุงวอร์เรน เมื่อ Robert Mondavi มาชักชวนให้ลุงไปเป็น winemaker ของโรงไวน์ใหม่เอี่ยมอ่องของแก
ใหม่จริงๆค่ะขอบอก เพราะเครื่องไม้เครื่องมือแต่ละอย่างไฮเทคมากจนไม่มีใครใช้งานเป็น กร๊ากกก
ลุงวอร์เรนเลยต้องทั้งดูแลการผลิตไวน์ ทั้งเซ็ตโรงงาน ทั้งเรียนรู้การใช้เครื่องจักรไปด้วยอีก
แต่ภายหลังแกก็ลาออกจาก Robert Mondavi ไปเป็น consultant อิสระแทน
(ซึ่งคนที่มาเสียบตำแหน่ง winemaker แทนลุงวอร์เรนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ปู่ไมค์ของเฮานั่นเอง แพลบๆ)


คนกลางในรูปก็เฮีย Robert Mondavi สมัยหนุ่มๆเองฮ่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:01:58 ]
ความเห็นที่ 51

เนื่องจากลุงวอร์เรนมีประสบการณ์ในโรงไวน์สุดไฮเทคที่ Robert Mondavi
โรงไวน์เล็กๆเลยพากันมาจ้างแกไปเป็นที่ปรึกษา ลุงวอร์เรนเลยถือโอกาสนี้ ตระเวนทัวร์รอบ Napa
เพื่อสอดส่องว่ามีที่ไหนบ้างหนอ ที่จะสามารถปลูกไวน์ในอุดมคติของลุงได้

และแล้วแกก็มาเจอไร่ไวน์ในฝัน เมื่อ Nathan Fay ผู้มีอาชีพปลูกองุ่นขายบรรดาโรงไวน์
ชวนให้ลุงลองชิมไวน์แดง Cabernet Sauvignon ที่แกทำกินเองเล่นๆดู พอลุงวอร์เรนได้จิบไวน์ของคุณเฟย์เข้าไปเท่านั้น
แกก็บอกกับตัวเองว่า นี่แหล่ะ! ใช่ไวน์ในฝันของเราเลย! ว่าแล้วลุงวอร์เรนก็มาซื้อที่ติดกับไร่ของคุณเฟย์ซะให้
พร้อมตั้งชื่อไร่ตามชื่อภูเขาแถวนั้นว่า Stag's Leap Vineyard ซึ่งก็คือ SLV ในแผนที่ข้างล่างนี่เอง

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:02:37 ]
ความเห็นที่ 52

ลุงวอร์เรนมีความคิดว่า ไวน์ที่ดีจะต้องเป็นไวน์ที่ balanced นั่นคือมีความสมดุลระหว่าง
soft & hard, sweet & acidity แกคิดว่า Cabernet Sauvignon ที่ผลิตใน Napa Valley
ส่วนมากจะออกแนว Big & Bold นั่นคือระดับแอลกอฮอลล์สูง แล้วก็หนักไปทางรสฝาด(ที่ได้จากเปลือกองุ่น)
ลุงวอร์เรนคิดว่า Cabernet Sauvignon ของแกจะต้องผสม Merlot ซึ่งเป็นไวน์แดงที่เบากว่า
แต่รสชาติจะไม่ซับซ้อนเท่าลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลให้กับไวน์ ต่างจาก winemakers คนอื่นๆในสมัยนั้น
ที่เชื่อว่า Cabernet Sauvignon ที่ดีจะต้องทำจากองุ่น Cabernet Sauvignon 100% เท่านั้น

เช่นเดียวกับปู่ไมค์ ลุงวอร์เรนใส่ใจในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตมาก แล้วยิ่งนี่เป็นไร่ของแกล้วนๆ
ที่ลุงปลูกองุ่นเอง ทำไวน์เอง ขนาดตอนบรรจุขวดยังต้องเกณฑ์ลูกๆมาช่วย ลุงเลยได้สอดส่องไวน์ของแกอย่างใกล้ชิด
ทั้งเดินสำรวจไร่องุ่นทุกวัน เพื่อตัดสินใจว่าจะเก็บองุ่นได้รึยัง รวมทั้งกลางค่ำกลางคืนลุงก็ไปหมกตัวอยู่ในโรงไวน์
เพื่อครุ่นคิดว่าไวน์บ่มตัวเสร็จรึเปล่า ทั้งไล่ชิมไวน์ทีละ barrel เพื่อดูว่ามีความแตกต่างรึไม่
จากนั้นลุงก็ blend ไวน์แต่ละ barrel เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ไวน์ที่เพอร์เฟ็คต์ทีสุด

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:03:31 ]
ความเห็นที่ 53

เอาฮ่ะ ได้เวลาพิสูจน์แล้วว่าไวน์ของ Stag's Leap Wine Cellars จะยอดเยี่ยมสมกับที่หนังสือบิวต์มาหรือไม่

บรรยากาศใน Tasting Room ของที่นี่ดูเป็นการเป็นงานกว่าที่ Grgich Hills อยู่โข
ไม่มีของที่ระลึกอย่างถ้วยกาแฟ,หมวก,เสื้อแจ็กเก็ตขายแบบที่ Grgich Hills เลยด้วย
เรียกว่าเน้นกันที่ไวน์ล้วนๆ แพลบๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:03:59 ]
ความเห็นที่ 54

แม้ Tasting Room จะดูทางก๊ารทางการ แต่พนักงานที่รินไวน์ให้พวกเรานี่อัทธยาศรัยดีมากๆเลยค่ะ
นอกจากจะบรรยายไวน์ให้ฟังอย่างละเอียดแล้ว เฮียยังไม่มีทีท่าเหนื่อยหน่ายในคำถามทุยๆของ จขกท.อีกด้วย (ฮา)

Tasting ที่นี่มี 2 ราคา $15 กับ $30 ค่ะ โดย $30 ก็จะรินไวน์รุ่นแพงหน่อยให้ชิมกัน
เนื่องจากเรามีกันสองคนพี่น้อง (แม่ จขกท.ชิงยกธงขาวไปเรียบร้อยแล้ว)
เราเลยสั่ง tasting ทั้งสองแบบมาแชร์กัน จะได้ชิมไวน์กันอ่วมอรทัย 7 แก้วรวดเรย แพลบๆ

เริ่มต้นที่ไวน์ขาวค่ะ ซึ่งได้แก่ 2008 Sauvignon Blanc ซึ่งทำมาจากองุ่นพันธุ์เดียวกับ
Fume Blanc ของ Grgich Hills แต่ของที่นี่รสชาติจะฟรุ๊ตตี้กว่า หอมกลิ่น Citrus กว่า

ต่อกันด้วย 2008 Arcadia Vineyard Chardonnay ซึ่งเป็นไวน์ Chardonnay แบบฝรั่งเศส
นั่นคือมันจะนุ่มกว่า หนักกว่า Sauvignon Blanc แต่ก็ยังคงความฟรุ๊ตตี้ไว้แต่พอดี อันนี้หอมกลิ่นแอปเปิ้ลหน่อยๆ

ส่วน 2008 Karia Chardonnay นั้น เป็น Chardonnay แบบแคลิฟอร์เนีย นั่นคือไวน์จะนุ่มกว่า
creamy/buttery กว่า Chardonnay ของฝรั่งเศส แต่ของ SLWC ยังดีที่ถึงจะนุ่มแต่ก็ยังไม่เลี่ยน
ถ้าใครไปอย่าลืมลองชิม Arcadia เที่ยบกับ Karia ดูสิฮะ แล้วจะเห็นความแตกต่าง haha

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:04:39 ]
ความเห็นที่ 55

ขวดต่อมาเป็น Merlot ค่ะ ซึ่ง Merlot เป็นไวน์ที่เบากว่า Cabernet Sauvignon ขวดนี้หอมกลิ่นราสเบอร์รี่

จากนั้นเราก็เข้าสู่มหกรรม Cabernet Sauvignon 4 ขวด 4 สไตล์แล้วฮ่ะ แพลบๆ
ขวดแรกเป็น 2007 Artemis ซึ่งเป็นไวน์ Cabernet Sauvignon สไตล์แคลิฟอร์เนียที่ออก Big & Bold
นั่นคือ ดื่มแล้วได้รสฝาด (tannin) เต็มๆ แต่ยังดีที่ Artemis ขวดนี้ยังฝาดแบบไม่น่าเกลียดนะฮะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:05:10 ]
ความเห็นที่ 56

ต่อกันด้วย Cabernet Sauvignon อีกสามขวดติด 2007 Fay, 2007 S.L.V และ 2005 Cask23
ขวดหลังนี่ราคาตั้ง $195 แน่ะ พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง ถ้าไม่ได้มาที่ไร่ ตูจะมีปัญญากินมั๊ยเนี่ย >_<

Fay เป็น Cabernet Sauvignon ที่หอมกลิ่นเชอร์รี่ และเป็นไวน์นุ่มมากๆ แต่รสชาติติดลิ้นทนนาน
สมกับสโลแกนของ SLWC จริงๆฮ่ะว่าไวน์ของที่นีเหมือน "the iron fist in the velvet glove" แพลบๆ

สำหรับ S.L.V นั้นเป็นลูกครึ่งระหว่าง Fay กับ Artemis คือไม่นุ่มเท่า Fay แต่ก็ไม่ฝาดเท่า Artemis
และไวน์รุ่นนี้ คือไวน์ที่ไปชนะ Blind Tasting ปี 1976 ที่ปารีสนั่นเอง แพลบๆ

ส่วน 2005 Cask23 เป็นไวน์ที่เค้าคัดเฉพาะองุ่นที่ดีที่สุดของ Fay แล้วก็ S.L.V. มาผสมกัน
แถมถ้าปีไหน องุ่นไม่ดีพอ ตูไม่ทำขายอีกตะหาก นี่แหน่ะ!!

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:05:40 ]
ความเห็นที่ 57

จขกท.พอแยกความแตกต่างของไวน์แต่ละรุ่นของ Cabernet Sauvignon 3 แก้วแรกได้
แต่พอมาถึง Cask23 นี่ จขกท.สารภาพกับเฮียพนักงานเลยฮ่ะ ว่าเจ๊แยกไม่ออกจริงๆว่ะน้อง
ว่ารสชาติ Cask23 กับ Fay ต่างกันตรงไหน ขี้แง (หรืออาจจะเป็นบุญของเดี๊ยนก็ได้ฮ่ะ
ที่เกิดมาลิ้นทุย จมูกบอด ถ้าขืนลิ้นเทพจนหื่นแต่ไวน์แพงๆเนี่ย อาจหมดตรูดได้ง่ายๆ ฮ่าฮ่าฮ่า)


สารภาพอีกว่าปกติ จขกท.เป็นคนชอบดื่มไวน์ขาว ไม่ค่อยจะมักไวน์แดง เพราะรู้สึกรสชาติมันรุนแรงเกินไป
และถ้าต้องดื่มไวน์แดง ก็จะเลือก Pinot Noir ซึ่งมีรสชาติเบาๆ ดื่มง่ายกว่า Cabernet Sauvignon
แต่ไวน์ของ Stag's Leap Wine Cellars นี่ถึงกับเปลี่ยนความคิด จขกท.กันเลยทีเดียว
เพราะอิฉันว่าไวน์เค้า balanced ดีทั้งกลิ่นและรสชาติ สรุปชิมแล้วชอบมาก แต่หนูไม่มีปัญญาซื้อกลับบ้าน แง๊ ขี้แง

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:06:25 ]
ความเห็นที่ 58

อย่างที่บอกฮ่ะว่า Stag's Leap Wine Cellars 1973 Cabernet Sauvignon ไปชนะ Blind Tasting ที่ปารีสมา
โดยคนที่อุตริจัด Blind Tasting หนนั้น เป็นหนุ่มอังกฤษเจ้าของร้านไวน์ไฮโซในปารีสนาม Steven Spurrier
ร้านของแกมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นชาวอเมริกันและชาวอังกฤษที่อยู่ในปารีส เพราะ Spurrier เข้าใจดีกว่า
คนอเมริกันสมัยโน้นไม่ค่อยกล้าร่วมวงดื่มไวน์กับชาวฝรั่งเศส เนื่องจากกลัวโดนเจ้าถิ่นหัวเราะเยาะกลับมา
เพราะชิมแล้วไม่รู้รสบ้างล่ะ แยกไม่ออกว่า Grand Cru กับ Premier Cru ต่างกันตรงไหนบ้างล่ะ ฯลฯ
ภายหลัง Spurrier ยังจัดตั้งโรงเรียนสอนการหัดดื่มไวน์อีกด้วยนะฮะ แถมโรงเรียนยังขายดีจัด
ขนาดที่มีคนฝรั่งเศสจำนวนไม่น้อย โทรมาถามอย่างเหนียมๆว่า มีหลักสูตรภาษาฝรั่งเศสด้วยป่าวตะเอง กร๊ากกกก

หลังจาก Spurrier ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า ไวน์แคลิฟอร์เนียรุ่นใหม่ๆนี่ รสชาติไม่แพ้ไวน์ฝรั่งเศสเลย
แกเลยไปออกทัวร์ไร่ไวน์ที่ Napa Valley และขนไวน์กลับมาขายที่ฝรั่งเศสมากมาย


คนกลางในภาพนี่แหล่ะค่ะ Steven Spurrier

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:07:24 ]
ความเห็นที่ 59

การที่ Spurrier เชิญบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน ซึ่งมีทั้งนักวิจารณ์ไวน์ นักวิจารณ์อาหารชื่อดัง
Sommelier ของร้านมิเชลิน 3 ดาว แม้กระทั่งนักวิชาการด้านไวน์ มาชิมไวน์อเมริกันเทียบกับไวน์ฝรั่งเศสนั้น
ก็เพื่อให้เห็นว่าไวน์ของประเทศน้องใหม่อย่างอเมริกาก็รสชาติไม่แย่เลยนะ เมื่อเทียบกับไวน์ดีๆของฝรั่งเศส
โดย Spurrier เองก็ไม่คาดคิดเช่นกันค่ะว่า ตอนจบจะหักมุมเมื่อไวน์อเมริกันดันทะลึ่งชนะไวน์ฝรั่งเศสซะได้!

จบงานนี้ ทั้งคนจัดงาน ทั้งกรรมการ โดนสื่อฝรั่งเศสสับเละโดยถ้วนหน้า  โดยเฉพาะคุณ Spurrier
ที่โดนโรงไวน์ที่ฝรั่งเศสปิดประตูใส่ ด้วยข้อหาบังอาจทำไวน์ฝรั่งเศสเสียชื่อ หยอกเย้า

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:08:00 ]
ความเห็นที่ 60

ดูคะแนนกันให้จะๆเลยค่ะ จะเห็นว่าไวน์ Chardonnay ของอเมริกานั้น ทำคะแนนได้ไม่แพ้ไวน์
Grand Cru, Premier Cru ของฝรั่งเศสเลย ส่วนไวน์แดงนั้น แม้โดยรวมฝรั่งเศสทำคะแนนได้ดีกว่า
แต่ก็เจอ Cabernet Sauvignon ของลุงวอร์เรนเฉือนชนะไปอย่างเส้นยาแดงผ่านแปด แพลบๆ


ผลของ Blind Tasting ครั้งนี้ ทำให้วงการไวน์แคลิฟอร์เนียแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว
และทำให้คนอเมริกันที่แต่ก่อนร้องอี๋ใส่ไวน์แคลิฟอร์เนีย หันมาบริโภคไวน์ในประเทศมากขึ้น
อีกทั้งยังเป็นการพิสูจน์ว่า ไวน์ชั้นดีไม่จำเป็นต้องมาจากฝรั่งเศสเท่านั้น
อเมริกา ชิลี แอฟริกาใต้ หรือออสเตรเลีย ก็ผลิตไวน์ดีๆได้เช่นกันนะเธอ รักคุณ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:08:42 ]
ความเห็นที่ 61

วงการไวน์เมกันบูมไม่บูมก็ดูเอาเถอะค่ะ ขนาด Taittinger แชมเปญเจ้าดังจากฝรั่งเศส
ยังมาเปิดสาขาที่แคลิฟอร์เนียในนาม Domaine Carneros เลยนะเคอะ ชนแก้ว

ใครจะมาที่นี่รับรองไม่มีหลงแน่นอนค่ะ เพราะจะเห็น Chateau (ปลอม) ของโรงไวน์เด่นเป็นสง่าจากไฮเวย์เลย


(จขกท.หยุดรถถ่ายรูปหน้าปากซอยไม่ได้ฮ่ะ เลยต้องจิ๊กรูปนี้มาจาก Corbis.com นะคร้าบ)

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:09:56 ]
ความเห็นที่ 62

อลังการงานสร้างเจงๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:10:20 ]
ความเห็นที่ 63

แถมยังทำเก๋ ให้นั่งชิมไวน์จากระเบียงชาโต้อีกตะหาก

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:11:02 ]
ความเห็นที่ 64

ได้จิบไวน์เย็นๆใจ ชนแก้ว

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:11:27 ]
ความเห็นที่ 65

พร้อมชมวิวงามๆ รักคุณ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:11:54 ]
ความเห็นที่ 66

ขนาดวิวไฮย์เวย์ยังสวยได้อีก เกร๊ยยยย >_<

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:12:23 ]
ความเห็นที่ 67

ใครมาชิมไวน์ที่นี่ ไม่ต้องกลัวท้องจะว่างค่ะ เพราะมีขนามจานจิ๋ว หรือชีสขายด้วย แพลบๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:12:46 ]
ความเห็นที่ 68

คนที่ไม่กินไวน์เหมือนแม่เดี๊ยนก็ไม่ต้องกลัวเช่นกันฮ่ะ เพราะเขามี Sparkling Grape Juice
รุ่นไร้แอลกอฮอลล์ขายด้วยฮ่ะ อย่างขวดนี้ทำจากน้ำองุ่น Chardonnay

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:13:12 ]
ความเห็นที่ 69

Domaine Carneros นั้นดังด้าน Sparkling Wine ซึ่งก็คือแชมเปญนั่นเอง แต่แชมเปญเป็นชื่อทางการค้าค่ะ
ฉะน้ันถ้าไม่ใช่ Sparkling Wine ที่มาจากแคว้นแชมเปญที่ฝรั่งเศส ก็จะเรียกแชมเปญบ่ได้เน้อ

เช่นเคย เราสั่ง Tasting รุ่นถูกและรุ่นแพงอย่างละที่มาแบ่งกัน โดยจะมีพนักงานมาบริการถึงโต๊ะเลย

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:13:48 ]
ความเห็นที่ 70

3 แก้วนี้เป็น Tasting รุ่น $16 ค่ะ อันประกอบไปด้วย 2006 Vintage Brut Cuvée, 2007 Brut Rosé
แล้วก็ 2006 Verméil Demi-Sec ทั้งหมดเป็น Sparkling wine ฟองปุ๊ดๆมาเชียว แพลบๆ

ในกระบวนสามแก้วนี้ เราลงมติว่า Demi-Sec อร่อยสุดค่ะ เพราะมันจะหวานนิดๆ creamy หน่อยๆ ดื่มง่ายสุดๆ
ส่วนที่เหลือ จขกท.ก็ชักจำบ่ได้แล้วว่ารสชาติเป็นไง ขออภัยล่วย -_-

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:14:17 ]
ความเห็นที่ 71

มาต่อกันด้วย Tasting รุ่น $25 ค่ะ ประเดิมด้วย Sparkling wine สองแก้วได้แก่
2006 Ultra Brut แล้วก็ 2005 Le Rêve Blanc de Blancs

Ultra Brut นี่จะ dry กว่า Demi-Sec ค่ะ คือมันจะเน้นความซ่า และน้ำตาลน้อยๆ
น้องสาวอิฉันเลยว่ามันออกจะบาดคอนิดโหน่ย แต่ที่สุดๆเลยนี่ต้องยกให้ Le Rêve Blanc de Blancs ฮ่ะ
สุดยอดมากๆๆๆๆ ทั้งหอม ทั้งนุ่ม ทั้งกลมกล่อม ดื่มแล้วรสชาติไวน์ยังติดลิ้น โอว์ สุโค่ย >_<
และแม้ Le Rêve จะไม่หวานเท่า Demi-Sec แต่ก็ดื่มง่ายไม่แพ้กันเลยค่า รักคุณ


ปล. sparkling wine 4 แก้วแรก เป็นส่วนผสมระหว่างองุ่นขาว Chardonnay กับองุ่นแดง Pinot Noir
แต่ Le Rêve นี่เป็น Chardonnay ล้วนๆ เลยเรียก Blanc de Blancs (Blanc = white)

ปล2. Le Rêve แปลว่า "The Dream" ในภาษาฝรั่งเศสค่ะ กินแล้วเคลิ้มสมชื่อเจงๆ
แต่พอดูราคา โอ้แม่เจ้า ขวดละ $95 เลยไม่รู้ว่า The Dream ที่ว่าเนี่ย
จริงๆย่อมาจากคำว่า Dream On (= ฝันไปเถอะ) รึเปล่านะฮะ กร๊ากกกกก (หัวเราะทั้งน้ำตา ขี้แง)

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:14:53 ]
ความเห็นที่ 72

ปิดท้าย Tasting กันที่ Pinot Noir ค่ะ

Pinot Noir เป็นองุ่นที่ต้องปลูกในที่อากาศเย็นๆ เลยไม่ค่อยเห็นไร่ไวน์ใน Napa Valley ปลูกองุ่นพันธุ์นี้เท่าไหร่
ยกเว้นก็แต่ตรงแถว Carneros เนี่ยแหล่ะค่ะ (แต่เห็นว่า Pinot เมกันที่อร่อยจริงๆ ต้องของรัฐโอเรกอนนะเน่ย)

สารภาพอีกเช่นเคยว่า จำไม่ได้ว่า Pinot Noir ของเจ้านี้เป็นไง เพราะ จขกท.โดนน้องสาวแย่งกินไวน์ไปหมดเรย >_<

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:15:22 ]
ความเห็นที่ 73

ยัยน้องสาวตัวดี ตอนเช้าก็งอแงว่าอยากช็อปปิ้ง ไม่อยากเที่ยวไร่ไวน์ พอตอนนี้เมากรึ่มได้ที่แล้ว
ก็มางอแงอีกว่า "จะเข้าโรงแรมแล้วเหรอ ไปชิมไวน์ต่ออีกซักที่เถอะนะเจ่เจ๊ เอิ๊ก" กร๊ากกกกก

เมาขนาดแดนซ์หน้าชาโต้อย่างไม่อายประชาชีได้ขนาดนี้ เจ๊ว่าเข้าโรงแรมไปแหล่ะดีแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:15:56 ]
ความเห็นที่ 74

เราขับย้อนกลับมาที่เมือง St Helena ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ Grgich Hills
เพื่อเข้าไปยัง Shady Oaks Country Inn ที่ซุกหัวนอนของเราในคืนนี้

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:16:24 ]
ความเห็นที่ 75

บ้านน่ารักจังเลย รักคุณ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:16:47 ]
ความเห็นที่ 76

ห้องก็ตกแต่งได้กุ๊กกิ๊กซะไม่มี

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:17:27 ]
ความเห็นที่ 77

แต่เตียงสูงจังอ่ะ ถ้าใครเมาหนักๆจะปีนขึ้นเตียงไหวมั๊ยเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:17:48 ]
ความเห็นที่ 78

ห้องเราเป็นแบบ 2 ห้องนอนค่ะ แต่ห้องเล็กไม่มีแอร์เน้อ หน้าร้อนคงดูไม่จืดอ่ะ -_-

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:18:24 ]
ความเห็นที่ 79

ห้องน้ำก็ตกแต่งอย่างง่ายๆ สบายตา

จขกท.ว่า B&B นี้ออกจะคิขุกาโม่ไปนิด แต่แม่อิฉันชอบมากค่ะว่า ห้องคันทรี่ๆ น่าร๊ากกกก รักคุณ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:18:58 ]
ความเห็นที่ 80

หลังจากนอนกลิ้งๆให้แอลกอฮอลล์ซึมหายเข้าไปในชั้นไขมันของเดี๊ยนแล้ว เราก็ตะกายออกไปหาข้าวเย็นหม่ำกัน
ขับรถชมวิวเล่นบน Silverado Trail อีกซักยกดีกว่า แพลบๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:19:30 ]
ความเห็นที่ 81

วิวสวยเชียว ขับรถเพลินสุดๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:20:47 ]
ความเห็นที่ 82

ไร่ไวน์สุดลูกหูลูกตาเลย

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:21:08 ]
ความเห็นที่ 83

จากนั้นเราก็มาโผล่ที่เมือง Yountville ซึ่งอยู่ทางใต้ St Helena ไปประมาณ 15 นาที
Yountville เป็นเมืองเล็กๆน่ารักๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:21:41 ]
ความเห็นที่ 84

ถนนหนทางน่าเอ็นดูมากมาย

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:22:01 ]
ความเห็นที่ 85

เห็นแล้วอยากจะกรี๊ด ทำไมตูไม่มาพักเมืองนี้ ขี้แง

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:22:28 ]
ความเห็นที่ 86

มาทักก่อนแล้วย้อนไปอ่านใหม่ค่ะ  รูปสวยจังเลย

จากคุณ : Red-Rose-14Feb [2 ก.ค. 54 21:22:53 ]
ความเห็นที่ 87

เป้าหมายมื้อเย็นของเราอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อ Bistro Jeanty เจ้าค่ะ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:22:55 ]
ความเห็นที่ 88

ได้เลยค่าคุณ Red-Rose-14Feb นกดื่มชา
---------------------------------------------------------------

บรรยากาศในร้านสบายๆ ชิลๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:24:02 ]
ความเห็นที่ 89

แถมเมนูยังยาวเหยียด มีแต่ของน่าหม่ำไปโหม้ดเลย แพลบๆ
เราประเดิมรายการด้วย dumplings with lobster sauce ซอสอร่อยมั่กๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:24:26 ]
ความเห็นที่ 90

ต่อด้วย Duck foie gras pâté with a port poached pear
foie gras นุ่มหอมหวานมากเลยค่ะ ส่วนแพร์นี่ก็รสชาติไวน์สะใจมากค่ะ กินแล้วเข้ากันไม่หยอกนะเนี่ย

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:24:53 ]
ความเห็นที่ 91

ปิดท้ายรายการของว่างกันที่ Escargots หรือหอยทากในซอสเนยกระเทียมนั่นเอง แพลบๆ

ตอนแรกคุณนายแม่ไม่ยอมกินจานนี้ค่ะ แต่สุดท้ายคุณแม่ก็ทนแรงกดดันจากลูกๆไม่ไหว ลองชิมไปคำ
ปรากฎแม่ติดใจเลยค่ะ คว้าหอยทากอีกอันมาหม่ำต่ออย่างว่องทันที แพลบๆ เพราะเนื้อมันไม่ได้นิ่มๆเละๆ
อย่างที่แม่คิดไว้แต่แรกเลยค่ะ ออกจะหนึบๆหนับๆ เหมือนกินเห็ดมากกว่ากินหอยเน้อ อาหย่อยยยยยย รักคุณ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:25:36 ]
ความเห็นที่ 92

อันนี้เป็นจานหลักของคุณนายแม่ ซึ่งก็คือ Coq au Vin ซึ่งก็คือไก่อบไวน์แดง พร้อมเห็ดและเบคอน
คุณนายแม่บอกว่าไก่อร่อย เนื้อนุ่ม รสชาติกลมกล่อมมั่กๆ

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:26:09 ]
ความเห็นที่ 93

น้องสาวเดี๊ยนสั่ง Sole Meunière แต่รูปไม่ชัดของผ่านเน้อ

จขกท.สั่งเมนูพิเศษประจำวันเป็น Beef Stew ซึ่งทำได้อร่อย เนื้อวัวเหนียวนุ่มสุดๆมากมายค่ะ
เรียกว่าเป็นการจบ Napa Valley ไปอย่างประทับใจและประทับพุงยิ่งนัก T^T

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:26:33 ]
ความเห็นที่ 94

ตอนหน้ามาเที่ยว Napa Valley กันต่อนะฮะ โดย จขกท.จะพาบุกไร่ไวน์น้อยบนภูเขา
ที่แม้จะไม่มีไกด์บุคเล่มไหนเขียนถึง แต่ก็สุดยอดมากๆทั้งไร่ทั้งไวน์ทั้งวิว
พร้อมทัวร์วิธีการทำ Sparkling Wine สุดไฮโซ ที่เสิร์ฟมาหมดแล้วตั้งกะ Nixon ยันโอบาม่า!

คอยติดตามชมได้ที่นี่เร็วๆนี้นะคร้าบ haha

จากคุณ : ha-meow [2 ก.ค. 54 21:28:58 ]
ความเห็นที่ 95

ช้าไป 10 นาที T_____T



ผมค้นพบแล้วว่าเจ๊มีสปีดในการทำรีวิวอยู่อันดับต้นๆของชาว Blueplanet เลยทีเดียว


** เดี๋ยวอ่านจบแล้วจะมาเมนต์ต่อ **



อ่านจบแว้ววว ...


ตื่นเต้น เจ๊ขับรถไป Napa ยังไงก็ต้องผ่านอดีต apartment ที่เก่าและแพงของผมแน่นอน เพราะอยู่ติดฟรีเวย์เลย ฮ่าฮ่าฮ่า


แต่น่าแค้นใจตรงที่ผมเองกระแดะไปเที่ยวแต่ไกลๆ แต่มาตกม้าตายที่แถวๆบ้านตัวเองนี่แหละไม่เคยจะไปเที่ยว หยอกเย้า

ทั้งๆที่ตอนที่อยู่ California เนี่ยยย ชอบดื่มไวน์มากๆ ไม่ได้หรูนะ แต่เจ๊ก็รู้ว่าบ้านเราขายไวน์แพงเวอร์ ในขณะที่เมกา โดยเฉพาะ CA เนี่ยะไวน์ถูกเวอร์ๆ ถูกกว่ารัฐอื่นด้วย สงสัยเป็นเพราะค่าขนส่งไม่แพงด้วยมั้ง ดังนั้นจะไปเสียเงินซื้อเบียร์ทำไม จิบไวน์ดีกว่า ทำให้ความ ดจร ตรงส่วนนี้ ติดตัวกลับมาจากเมกาด้วย แต่อย่างที่บอก ไวน์บ้านเราแพงจัง กินบ่อยๆ มีสิทธิ์หมดตรูดได้ mad


ส่วนเรื่องดื่มไวน์ เจ๊เหมียวขนาดว่าลิ้น จมูกทุยแล้ว น้องคนนี้หนักกว่ามากครับ ไม่สามารถแยกแยะออก นอกจากว่า อร่อย ไม่อร่อย นุ่ม ไม่นุ่ม เท่านั้นจริงๆ แต่ทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะไม่อร่อย แต่ผมก็ซัดเรียบ อิอิ ตอนที่ร้านอาหารไทยที่โน่น สนุกมากๆครับ อย่างที่เจ๊รู้กันว่าคนเมกัน จะชอบจิบไวน์ระหว่างอาหารไปด้วย ซึ่งอาหารไทยก็เหมือนกัน ดังนั้น ยามว่าง เจ้าของร้านเผลอ อีตากาแฟเนี่ยะแหละ แอบจิบไวน์ของที่ร้าน จริงๆจะแอบจิบต่อหน้าก็ได้นะ เพราะเจ้าของร้านก็ไม่ได้ดุขนาดนั้น แต่ต้องแอ๊บเกรงใจกันบ้างนิดนึง ที่ร้านสั่งไวน์ของ Stag's Leap มาด้วย แต่ผมก็จำไม่ได้หรอกว่ารุ่นไหน และรสชาติเป็นไง ก็บอกแล้วว่าลิ้นทุยยิ่งกว่าเจ๊ อิอิ



ส่วนไวน์ที่ลูกค้าชอบสั่งมากสุดก็แน่นอนว่าเป็น Chardonnay ฮะเจ๊ สงสัย จะภูมิใจที่ไวน์พันธุ์นี้เอาชนะชาวฝรั่งเศสเพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหดได้ รองลงมาก็ Sauvignon Blanc อิอิ ส่วนไวน์แดง ก็คละๆกันไป Cabernet Sauvignon, Merlot เพิ่งรู้ว่า Pinot Noir ไม่ค่อยได้ปลูกที่ California นะเนี่ยยยย อิอิ


ตอนหน้ามาเข้าคอร์สอบรมการจิบไวน์ต่อนะเจ๊ สนุกมากมาย รักคุณ



ปล ขอติเจ๊เล็กน้อย ฮือๆๆๆ เจ๊มารีวิวเอาตอนนี้ ทำเอาผมเปรี้ยวปาก แล้วผมจะออกไปหาไวน์ที่ไหนดื่มละฮ๊าบบบ ในเมื่อพรุ่งนี้เลือกตั้งเค้างดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขี้แง หยอกเย้า

จากคุณ : Coffee Blended [2 ก.ค. 54 21:39:44 ]
ความเห็นที่ 96

สนุกจัง  อ่านเพลินเชียวค่ะ   เสียดายที่ป้าดื่มไวน์ไม่เป็น...

จากคุณ : ป้าฟู [2 ก.ค. 54 22:04:01 ]
ความเห็นที่ 97

หวัดดี...คุณ ha-meow....(เอิ๊ก )

หลัง 1 ทุ่ม สิบล้อ..(เอิ๊ก)..จาหุบปากไม่ทานอารายยย เพราะลดความอ้วน...(เอิ๊ก) ตอนนี้ท้องว่าง   (เอิ๊ก)... พอชิมไวน์(แค่ทางสายตา) ตามคุณ ha-meow ก็ ..(เอิ๊ก) อาการออก ...ม่ายหวาย...ม่ายหวาย  พิมพ์ไปมึนไป 

งวดหน้า เอาอีก เอาอีก หนูช๊อบ..ชอบ  ได้ความรู้ดี  (เอิ๊ก !!!)

จากคุณ : สิบล้อชอบเที่ยว [2 ก.ค. 54 22:20:10 ]
ความเห็นที่ 98

เป็นครั้งแรกที่มา(เกือบ)ทัน
ขอลงชื่อไว้ก่อนนะครับ เผื่อตลาดยังไม่วาย ฮ่าๆ

จากคุณ : de prince of darkness [2 ก.ค. 54 22:39:18 ]
ความเห็นที่ 99

...คำเตือน..กระทู้นี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพและกระเป๋าสตางค์เป็นอย่างมาก

..โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านอย่างสูงมากๆ !!!!..เอื๊อก...

จากคุณ : อายะ (prsty) [2 ก.ค. 54 23:06:23 ]
ความเห็นที่ 100

ชมกระทู้นี้เพลินมากๆค่ะ
ดูรีวิวจบเปรี้ยวปากขึ้นมาทันที ชนแก้ว

จากคุณ : สาวหน้าใส [2 ก.ค. 54 23:26:54 ]
ความเห็นที่ 101

ตามไปชิมไวน์ด้วยคนครับ และรอติดตามตอนต่อไปครับ

จากคุณ : jerry-t [2 ก.ค. 54 23:44:22 ]
ความเห็นที่ 102

อ่านจบผมลงไปเปิดไวน์ดื่มเลยครับ
ไป Yountville นึกว่าจะพาไปทาน French Laundry ซะแล้ว
เขียนได้สนุกมากครับ

จากคุณ : lakeshore [2 ก.ค. 54 23:58:19 ]
ความเห็นที่ 103

ยอดเยี่ยมมากครับ สนุกสนานเพลิดเพลินได้ความรู้ดีทีเดียว พอจะมีสักขวดสำหรับtasting,มั๊ยครับ  ปกติดื่มแต่เสือ11ตัวเป็นประจำ

จากคุณ : Red Fox [3 ก.ค. 54 00:29:29 ]
ความเห็นที่ 104

ได้ความรู้เรื่องไวน์ขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

รีวิวอ่านสนุกจุใจเช่นเคยเลยค่ะ

จากคุณ : Najenjira [3 ก.ค. 54 00:36:13 ]
ความเห็นที่ 105

อ่านจบแล้วครับบ
แอบสงสัยว่าตระกูล Grgich นี่ คือ ตระกูลเดียวกับ krkic ของ Bojan กองหน้าดาวรุ่งที่ทำท่าว่าจะไม่รุ่งแล้วของบาซ่ารึเปล่า :P

พี่ จบกท เล่าเรื่องได้สนุกมากเลย
ได้ความรู้เรื่องไวน์ขึ้นเยอะเลยครับ
แต่คิดว่าคงไม่ได้ใช้ ปกติถนัดกระดกเบียร์มากกว่าครับ ฮ่าๆๆ

ยังไม่ค่อยเข้าใจรสชาติของไวน์เลย ><"

กิน alcohol เวลาท้องว่างแล้วจะเมาเร็วขึ้น
แต่สมมติว่าถ้ากินพร้อมของหวานนี่ก็ทำให้เมาเร็วเหมือนกันนะครับ อันนี้ไม่รู้ว่าทราบหรือยัง :D

จากคุณ : de prince of darkness [3 ก.ค. 54 01:17:39 ]
ความเห็นที่ 106

ตะก่อนผ่านไร่องุ่นก็สงสัยว่าเค้าปลูกกุหลาบไว้ทำไมเหมือนกัน พึ่งมารู้เมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง ภูมิปัญญาชาวไร่ไวน์ เห็นแล้วคิดถึงเรื่อง  "วายุภัคมนตรา" มีเสนห์จริงๆเนอะ

จากคุณ : marzo [3 ก.ค. 54 01:48:58 ]
ความเห็นที่ 107

i see escargo menu, i miss them .........mmmhhhhhhhh
yam.... yam..... yam thank you ka.

จากคุณ : l.a. girl ( loi-ed ) [3 ก.ค. 54 05:14:54 ]A:138.188.100.246 X: TicketID:322214
ความเห็นที่ 108

ได้ความรู้เรื่องไวน์เพียบเลยครับ
แต่อ่านจนมึน คนรักไวน์ต้องชอบกระทู้นี้แน่นอน

ขอบคุณครับ

จากคุณ : ฟองสบู่ [3 ก.ค. 54 07:38:48 ]
ความเห็นที่ 109

ตามมากินต่อครับ wink

เที่ยวไร่้ไวน์นี่ก็สนุกดีนะครับ  B&B ก็น่ารักมากๆครับ เสียดายผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องไวน์ ดื่มไม่เป็นอีกต่างหากฮ่าฮ่าฮ่า ไม่งั้น แพลบๆ

จากคุณ : One Light One Shadow [3 ก.ค. 54 07:39:37 ]
ความเห็นที่ 110

แวะไปเที่ยวด้วยครับ

อาหารทำให้น้ำลายหกเช่นเคย

จากคุณ : inint&anant [3 ก.ค. 54 07:51:19 ]
ความเห็นที่ 111

สุดยอดเช่นเคยครับ ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ และการทำไวน์ครับ
อ่านเพลินเลยทีเดียว

จากคุณ : ม่วงมหากาฬ [3 ก.ค. 54 08:03:54 ]
ความเห็นที่ 112

ตามไปเที่ยวด้วยคน  ภาพสวยมากค่ะ

จากคุณ : เอื้องเหมย [3 ก.ค. 54 08:10:02 ]
ความเห็นที่ 113

พาชม พาชิม จนอยากเลยครับ ขอบคุณครับ

จากคุณ : white koala [3 ก.ค. 54 09:58:22 ]
ความเห็นที่ 114

ขอบคุณมากเลยครับ
ได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องไวน์ขึ้นเยอะเลย บรรยากาศนี่น่าเที่ยวมากครับ

จากคุณ : Destiny-Boy [3 ก.ค. 54 10:12:03 ]
ความเห็นที่ 115

เจ๊เหมียว..อ่านจบ เมาได้ที่เลย เอิ๊กกกกก ขอบคุณค่ะที่พาเมา..เอ๊ยพาชมไร่องุ่น vine not grapes หุ หุ เลียนแบบป้าไกด์จอมดุ

อิฉันผ่านตาทู้ไปได้ไงเนี่ย ดึกเมื่อคืนก็เข้ามาดูตามปกติวิสัย เพิ่งเห็นเช้านี้ สงสัยเมาดิบรอ 555

ที่พักน่ารักม๊ากกกก รอเมาต่อทู้หน้าค่ะทั่น

กลับมาอ่าน..เจอเจ๊โกะตามเมา (ดิบ) มาติดๆ
เฮ้ย ตูสะกดผิด...โห เมาจริงล่วย
มาแก้คำผิดแล้วก็เป๋ออกไปอีกที ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : la liga fan [3 ก.ค. 54 10:51:18 ]
ความเห็นที่ 116

เอิ่กกกก เมาตามคุณลาลีก้าไปติดๆเลยเดี๊ยน ฮ่าฮ่าฮ่า แต่เดี๊ยนเมาตั้งแต่เดินเข้าไร่แล้ว กร๊ากกกก~


ขอโทษทีเน้อ ทู้แล้วไม่ได้เม้นท์เลยอ่ะ ไม่ค่อยว่างมากเท่าใด แต่อ่านตั้งแต่เจ๊เอาไปหย่อนไว้แล้วนะฮะ โทษทีเน้อ ลูกสาว


เป็นอิฉันไปเที่ยวชิมไวน์แบบนี้ ท่าจะเสียของแน่หว่ะ แยกไม่ออกชัวร์ว่าอะไรเป็นอะไร -_-"
ปกติอิฉันไม่ได้ดื่มอะไรพวกนี้ซะด้วยแล้ว เพราะงั้นเรื่องนี้ ไม่มีความรู้เลยจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า


แต่ไร่สวยโฮกมาก รักคุณ จริงๆเคยไปไร่องุ่นที่ไทยด้วยนะ ที่เลยมั้ง ไม่แน่ใจอ่ะ ตั้งแต่เด็กมากแล้ว เลยจำไม่ได้ว่าเป็นยังไงบ้าง
ลุงๆอาๆไปเที่ยว ไปชิม ส่วนเดี๊ยนไปวิ่งเล่นในไร่ (จำได้แค่เนี้ย ฮ่าฮ่าฮ่า)


ประวัติปู่ไมค์กะลุงวอร์เรนนี่สุดติ่งมาก (ทำไมอิฉันดันฮา ฮ่าฮ่าฮ่า)



#22 กี๊ซซซซ Lamborghini สวยโฮกกก >_< แหม ทำไมไม่ขับ Ferrari นะ ไม่งั้นอิฉันได้โฮกตายแน่ แพลบๆ
ยังไงเดี๊ยนก็ Ferrari มากกว่าอ่ะ โฮะ โฮะ (แล้วไปเกี่ยวอะไรกะเขาเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า)
ชาตินี้ไม่มีปัญญาได้แตะของจริงแน่ ดูรูปก็ยังดี 5555555555555


เม้นท์ได้ไม่ยาวเท่าไร ขอโทษนะค้าบบบ ลูกสาว

จากคุณ : yokoyuki [3 ก.ค. 54 11:54:45 ]
ความเห็นที่ 117

คุณha-meowไม่ไปลองFrench laundryหรอคับ

จากคุณ : แตงโมน่ากิน [3 ก.ค. 54 13:28:16 ]
ความเห็นที่ 118

อยากรู้จังว่าFrench laundry จะอร่อยสมราคามั้ย....

แต่ที่แน่ๆ...รีวิวได้สวยและน่ารักมากครับ

ทำเอาอยากไปชิมไวน์แถวนั้นอีก

จากคุณ : studsie [3 ก.ค. 54 14:16:54 ]
ความเห็นที่ 119

ได้ความรู้เพียบเลยค่ะ

อยากชิมหอยทากบ้างจัง ไปเก็บเอาแถวทุ่งนาบ้านเราได้มั้ยเนี่ย...

จากคุณ : Sun-Dong [3 ก.ค. 54 15:22:30 ]
ความเห็นที่ 120

ขอบคุณสำหรับความรู้และที่พาไปเที่ยวคร๊า^^

จากคุณ : สามแซ่ [3 ก.ค. 54 16:07:01 ]
ความเห็นที่ 121

อ่านเพลินดีค่ะ ดิฉันก็เป็นพวกลิ้นไม่ถึงเหมือนกัน ไวน์แดงขวดละร้อยยูโร ก็ไม่เห็นจะต่างกะไวน์ขวดละสองสามยูโร เคยเททิ้งมาแล้วด้วย ชอบไวน์ขาวกลิ่นหอมๆมากกว่า ยี่ห้ออะไรก็ได้ดื่มให้หมดแหละ

จากคุณ : settembre [3 ก.ค. 54 16:35:36 ]
ความเห็นที่ 122

เข้ามาอ่านแล้วครับ ตอนอยู่เมกา สาบานได้ว่าไม่เคยได้ยินชื่อ Napa Valley เลย
จนมาอ่านเว็ปไหนซักอันเร็ว ๆ นี้ที่บอกว่าที่นี่เป็น 1 ใน 10 สถานที่ต้องไปเยือนให้ได้ในอเมริกา
ก็ยังสงสัยว่ามันอยู่ตรงไหนหว่า แถวนั้นเราก็ผ่านไป ๆ มา ๆ บ่อย ๆ ทำไมไม่คุ้นเลย
คงเป็นเพราะผมไม่ใช่นักดื่ม เวลาเพื่อนพาเที่ยวก็เลยไม่เคยพูดถึง

แต่เคยไปนอนเล่นใน Central Valley เหมือนกัน กลางวันร้อนตับแลบอย่างกะทะเลทราย
แต่กลางคืนนี่หนาวอย่าบอกใคร เลยไม่แปลกใจที่ห้องพักที่คุณเหมียวไปพักไม่ติดแอร์
คืนที่ไปค้าง ตอนจะนอนร้อนมาก ใส่เสื้อบาง ๆ ขาสั้นนอน ตื่นมาซักตีสาม หนาวปากสั่นไปหมด
ต้องคว้าเสื้อหนาว กางเกงวอร์มมาใส่ เพื่อนบอกว่าก็อากาศแบบทะเลทรายดี ๆ นี่เอง

ตอนต่อไปคงตามเก็บทีหลังนะคร้าบ เดี๋ยวจะแวะไปถามอะไรหลังบ้านหน่อยด้วย

จากคุณ : Cherokee1 [3 ก.ค. 54 21:24:29 ]
ความเห็นที่ 123

มาเป็นลูกเป็ดตามคุณไกด์ ha-meow เที่ยวต่อค่ะ  smile
ทัวร์สนุก ได้ความรู้มากๆ แถมไกด์ยังแอบฮาแบบนี้ ให้คะแนนเต็มสิบเลยค่ะ


ขอชื่นชมในความมุ่งมั่นและอดทนในการตามฝันของคุณลุงทั้งสองมากเลยค่ะ
แต่ปลื้มคุณวอร์เรนมากกว่านิดนึง แบบว่าไม่ดูทีวีแต่ ให้ลูกเล่นละคร แต่งบทละคร ฟังโอเปร่า

อื้อฮือ  คุณลุงเนี่ยอาร์ทตัวพ่อมากๆเลยนะคะ  haha
สงสัยว่าสมัยเป็นอาจารย์ จะสอนวรรณคอีอังกฤษและShakespeare รึป่าวนะ  


ไร่ไวน์แถวนี้เผลอๆ อาจจะนึกว่าอยู่ในยุโรปได้นะคะเนี่ย วิวสวยยยยย
แล้วยกกันมาเป็นChateauเลย
จัดเต็มมาก!

เพิ่งรู้ว่าเค้าต้องใส่หมวกติดไฟไปเก็บองุ่นกันตอนกลางคืนด้วยค่ะ
ยังกะชาวสวนยางแถวบ้านเราเลยนะคะ


wine tasting เอ่อ........
ขอบอกว่าคุณไกด์ha-meow ไม่ต้องกลัวค่ะ
ลูกทัวร์เป็ดน้อยนี่ นอกจากแยกความแตกต่างของไวน์ไม่ค่อยจะได้
ยังจำไม่ได้อีกด้วยค่ะว่าที่ดื่มๆไปน่ะรสชาดเป็นยังไง  
(หรือว่าอาจจะเมา?)  หยอกเย้า

ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจฝรั่งมังค่านะคะ ทำไมต้องไวน์กันตลอดเวลาทุกมื้อด้วย
เพราะว่าปกติจะนิยมสุราท้องถิ่น 35ดีกรีมากกว่าค่ะ  ฮ่าฮ่าฮ่า

ขอแอบแซวบุคคลในภาพนิสนึง
น้องขายไอติม #41 นี่ผมม้าเป๊ะมากเลยนะคะ

ส่วนคุณนางแบบ#69 ฝากชมว่าหมวกน่ารักกุ๊กกิ๊กมากๆค่ะ smile

แล้วคุณน้องร้านไวน์ #54 นอกจากอัธยาศัยดี แล้วหน้าแอบคล้ายพี่ Tobey  Maguire ด้วยนะคะ
หนุ่มๆไร่ไวน์นาปาเดี๋ยวนี้  ยังแอบหน้าตาดี
ไม่แพ้พี่ Keanu ใน a Walk in the Clounds เลยค่ะ  haha


รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ พร้อมเตรียมจดข้อมูลค่ะ
แอบเป็นแฟน sparkling wine ค่ะ haha

จากคุณ : ysl (youngsexylovely) [3 ก.ค. 54 23:30:10 ]
ความเห็นที่ 124

ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนค่า ที่มาร่วมขบวนกรึ๊บๆกับเราสามแม่ลูก ชนแก้ว


#คุณ Coffee Blended: อิจจ๋าคนแถวซานฟราน ได้กินไวน์ดีๆในราคามิตรภาพ ขี้แง
จะบอกว่าปกติพี่เหมียวก็ไม่ค่อยได้กินไวน์หรอกค่า เพราะตั้งแต่เพื่อนมอกับน้องปอสองไม่อยู่เนี่ย
ปริมาณการบริโภคแอลกอฮอลล์ของพี่เหมียวลดลงไปซัก 70% ได้ กร๊ากกกกก

เคยเดินไปสำรวจราคาไวน์ตามพวกคาร์ฟูร์ เห็นราคาแล้วตกใจเหมือนกัน อย่างว่า เมืองไทยภาษีเหล้าต้ัง 100% หนิ -_-
แต่เห็นเพื่อนบอกถ้าไปกินตามร้านอาหารดีๆหน่อย เค้าขาย wine by glass ราคาพอรับได้นะคะ เผลอๆถูกกว่าเมกาอีก
เพราะเค้าขายกันขำๆ ไม่ได้กะโขกสับเอากำไรกับการขายไวน์แบบที่นี่ อันนี้น้องกาแฟเคยทำงานร้านอาหารมาก่อนน่าจะทราบดี
ว่าไวน์ที่ขายในร้านอาหารราคาขูดรีดแค่ไหน เผลอๆราคาจะเป็นสองเท่าจากซื้อตามซูเปอร์ด้วยซ้ำ -*-
ว่าแต่ร้านไหนคะเนี่ย มี Stag's Leap Wine Cellars ขายด้วย สุดยอดดดดด รักคุณ
แล้วไวน์โปรดของน้องกาแฟคือไรฮะ ไวน์ขาวหรือไวน์แดง มียี่ห้อในดวงใจบ้างรึเปล่า haha

ปล.ไม่เป็นไรค่ะน้อง ซื้อไวน์ก่อนเลือกตั้งไม่ได้ กระดกหลังผลเลือกตั้งออกอาจจะดีกว่า กร๊ากกกกก


#คุณป้าฟู: จริงๆแต่ก่อนหนูก็เป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทนะป้า เหล้า บุหรี่นี่ไม่เคยแตะ เที่ยวกลางคืนยังไม่ไปเลยด้วย
เพิ่งจะหันเข้าสู่ด้านมืดตอนมาเมกานั่นแหล่ะ กร๊ากกกก แถมไวน์แก้วแรกที่มีคนเลี้ยง ก็ดันเป็นไวน์ดีซะด้วย
ยังจำได้เลยค่ะ Cakebread Cellars Sauvignon Blanc เลยติดลมบนจนถึงทุกวันนี้ แฮ่ แพลบๆ

#คุณสิบล้อชอบเที่ยว: อย่าเพิ่งเมาสิฮะคุณสิบล้อ นี่ยังไม่ถึงครึ่งทริปเลยน๊าาาาา ฮ่าฮ่าฮ่า

#คุณอายะ: แล้วก็ไม่ควรบริโภคกระทู้เกินวันละสองรอบด้วยนะคะ haha

#คุณสาวหน้าใส: งั้นเดี๊ยนฝากชนแก้วผ่านหน้าคอมตรงนี้เลยละกันนะฮะ ชนแก้ว


#คุณ jerry-t: ได้เรยฮะคุณ jerry-t


#คุณ lakeshore: อยากกินเหมือนกันค่ะ French Laundry แต่จองโต๊ะไม่ได้ง่ะ เง้ออออ ขี้แง

#คุณ Red Fox: กร๊ากกกก แบบนี้วันหลังจะไปทัวร์เยาวราช tasting ยาแก้เจ็บคอมารีวิวให้ชมนะฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า


#คุณ Najenjira: แหะแหะ จขกท.ลิ้นออกจะทุยค่ะ อธิบายไวน์ได้แค่งูๆปลาๆเท่่านั้นเองค่ะ เวลาอ่านรีวิวไวน์ออนไลน์
ที่เค้าพรรณนากันยาวเหยียด อ่านแล้วก็ทึ่งค่ะ ว่าถ้าคนรีวิวนี่ถ้าลิ้นไม่เทพมากๆ ก็ต้องจิตหลอนขั้นเทพแน่ๆ กร๊ากกกก


#คุณ de prince of darkness: เอร๊ยยย ทำเป็นเล่น อาจมาจากต้นตระกูลเดียวกันจริงๆก็ได้นะฮะ
เพราะ Grgich นี่จริงๆสะกดว่า Grgić ค่ะ แถมโครเอเชียอยู่ติดกับเซอร์เบีย บ้านเตี่ยของน้อง Bojan อีกด้วย แพลบๆ

แล้วแบบนี้น้องได้ไป beer tasting ที่เยอรมัน/เชคมารึเปล่าล่ะคะ แพลบๆ
สารภาพว่าปกติพี่ชอไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ แต่ไวน์นี่มันอร่อย เอร๊ย ดีต่อสุขภาพ ก็เลยดื่มนิดโหน่ย (แถไปโน่น)
ส่วนเบียร์ พี่กินได้แต่เบียร์สีทองๆเบาๆเท่านั้นแหล่ะค่ะน้องเอ๋ย T^T

กินเหล้ากับของหวานแล้วจะทำให้เมาเหรอ อืม อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันแฮะ เพราะปกติเวลาไปกินข้าวนอกบ้าน
ไวน์หมดก่อนถึงจานขนมทุกทีเลย หุหุ แพลบๆ

#คุณ marzo: ใช่ค่ะ แถมทำให้ไร่ไวน์ดูน่ารักขึ้นเป็นกองอีกด้วย รักคุณ


#คุณ l.a. girl: อร่อยเนอะ เจ้าหอยทากเนี่ย กลับมาบ้านนอกเมกาแล้วเศร้าเลย ไม่รู้จะไปหาหอยทากอร่อยๆที่ไหนกิน T^T

#คุณฟองสบู่: ขอบคุณค่า ตอนนี้หนักโม้ แต่ตอนหน้าจะเน้นวิวแล้วค่า โปรดติตตามนะก๊าบ นกดื่มชา

จากคุณ : ha-meow [4 ก.ค. 54 11:26:48 ]
ความเห็นที่ 125

#คุณ One Light One Shadow: ขอบคุณค่า จริงๆน่าจะสนุกกว่านี้ถ้าไม่เจอป้าโหดดับมู้ดที่ Grgich Hills ก่อนน่ะนะ -*-


#คุณ inint&anant: รูปอาจจะถ่ายไม่สวย แต่เรื่องกินนี่เดี๊ยนจัดเต็มทุกทริปแน่นอนค่า แพลบๆ


#คุณม่วงมหากาฬ: ขอบคุณเช่นกันฮะ ที่ทนอ่านทู้โม้กระจายของเดี๊ยนจนจบได้ (ฮา)

#คุณเอื้องเหมย: ขอบคุณค่าคุณเอื้องเหมย นกดื่มชา

#คุณ white koala: งั้น จขกท.ฝากชนแก้วคุณ white koala ด้วยคนฮ่ะ ชนแก้ว


#คุณ Destiny-Boy: จขกท.ก็รู้เรื่องเพราะอ่านจากหนังสือ Judgment of Paris เนี่ยแหล่ะค่ะ
นี่ขนาดล่าอย่างย่อๆแล้วนะคะ ตัดเรื่องกระบวนการทำไวน์ไปตั้งเยอะ เพราะเดี๊ยนกะเน้นดราม่าของปู่ไมค์กับลุงวอร์เรน กร๊ากกกก


#คุณ la liga fan: เหอเหอ คุณ la liga เมาทู้ซะแล้ว ไม่ทราบดับทุกข์ที่ River Plate ตกชั้นเปล่าฮะ -_-
แล้วคุณ la liga ชอบไวน์แบบไหน ยี่ห้ออะไร ช่วยตอบด้วย อยากรู้ๆ อิอิ แพลบๆ

#คุณ yokoyuki : เอร๊ยยย เจ๊โกะ อุตส่าห์มาทั้งที่งานยุ่ง ขอบคุณค่าาาา รักคุณ
จริงๆถ้ายุ่งไม่ต้องเมนต์ก็ได้เน้อ โดยเฉพาะทู้ไร่ไวน์นี้ ที่เหมือนเน้นดราม่าของปู่ไมค์ลุงวอร์เรนมากกว่าไวน์อีก ฮา
จริงๆนี่อุตส่าห์ตัดไปเยอะแล้วนะฮะ โดยเฉพาะปู่ไมค์นี่ประวัติแกสุดๆอ่ะ แกอยากเรียนทำไวน์มากๆ
แต่ภาควิชาการทำไวน์เปิดรับนักศึกษาปีละแค่ 12 คน ใครลงทะเบียนก่อนมีสิทธิ์ก่อน แล้วบ้านปู่อยู่ไกล
ปู่คิดว่า ขืนรอรถรางรอบเช้าตอนตีห้าต้องไม่ทันแน่ ปู่เลยลงทุนเดินออกจากบ้านตอนตีสองไปมหาลัยที่ห่างไปตั้ง 10 โล >_<

คือ อิฉันก็ไม่ได้เซียนอะไรเลยค่า ก็บอกแล้วว่าลิ้นก็ทุย จมูกก็บอดครบสูตรเยี่ยงนี้ -_- เพื่อนมอตะหาก ขานั้นเซียนของจริง แพลบๆ
เห็นเพื่อนมอบอกด้วยว่า ที่หัวหินก็มีไร่ไวน์นะเน่ย งั้นเดี๊ยนฝากเจ๊โกะไปลุยแทนละกัน haha

อ้าว เจ๊โกะเป็นแฟนน้อง Ferrari แบบนี้ได้ไปดู Transformers 3 มาด้วยป่าวฮะเนี่ย แพลบๆ


#คุณแตงโมน่ากิน: อยากไป The French Laundry ใจจะขาดค่ะ แต่จองโต๊ะม่ายล่าย เง้ออออ ขี้แง


#คุณ studsie: แหม่ แฟน TFL เยอะเหมือนกันแฮะแถวนี้ แล้วคุณ studsie ไปเที่ยวมาตอนนั้น ไปเที่ยวไร่ไหนมาบ้างฮะ
แล้วชอบที่ไหนเป็นพิเศษรึเปล่า ถามไว้ เผื่อฟลุ๊กได้กลับไปเที่ยวอีก แฮ่ แพลบๆ


#คุณ Sun-Dong: เหอเหอ อันนี้ไม่ทราบจริงๆนะฮะว่าเป็นหอยทากพันธุ์เดียวกับที่นอนแอ้งแม้งในจานนั้นรึเปล่า แพลบๆ

#คุณสามแซ่: ขอบคุณคุณสามแซ่เช่นกันค่า ที่มาร่วมขบวนทัวร์กรึ้บๆกับ จขกท. ชนแก้ว


#คุณ settembre: เอร๊ยยยย จกขท.ก็ชอบไวน์ขาวเหมือนกันเลยค่าาาาา จริงๆไวน์ถูกก็ชอบนะฮะ ดื่มแล้วสบายกระเป๋า อิอิ
เคยชอบ Kenwood Sauvignon Blanc ขวดละ $11 เอง อร่อยมั่กๆ แพลบๆ
แต่ไม่ค่อยได้ดื่มไวน์อิตาลีเลยค่ะ ยกเว้น Prosecco ที่แถวนี้ขายขวดละไม่ถึง $15 อร่อยมาก คุ้มสุดๆ ^_^

จากคุณ : ha-meow [4 ก.ค. 54 12:17:25 ]
ความเห็นที่ 126

ถ้าไปเนี่ย เราคงจะได้แต่ดูขวดไวน์..อิ่..อิ่.. เพราะเราแพ้แอลกอฮอลล์ล่ะค่ะ คือดื่มได้นะแต่แค่แก้วเดียว หลังจากนั้นหน้าจะแดงมากๆ เหมือนคนเมา แล้วผื่นจะขึ้นตามลำคอและตัวล่ะ เป็นส่าเหล้าเลย : P


เห็นท้องทุ่งแล้วสบายตาจริงๆ ค่ะ : )

จากคุณ : Hermy [4 ก.ค. 54 12:51:32 ]
ความเห็นที่ 127

อ่านไป ก็จิบไวน์ตามไป
ตอนนี้เมาแล้ว เหมียวเอ๋ย

จากคุณ : พิจารณ์รัฐกิจ [4 ก.ค. 54 13:21:37 ]
ความเห็นที่ 128

เดินเข้ามาดูกระทู้
ขากลับต้องคลานออก เพราะเมาตั้งแต่แก้วแรกแล้ว 5555

กระทู้สนุกให้สาระ พร้อมภาพประกอบสวยๆมากมาย

ขอบคุณที่ตามมาดูนะคะ เกือบพลาดกระทู้ดีๆซะแล้ว

จากคุณ : =U_U= PoRpLe [4 ก.ค. 54 13:39:36 ]
ความเห็นที่ 129

เซฟทู้เก็บไว้ตั้งแต่วันก่อนโน้น พึ่งจะอ่านจบก็วันนี้เอง ได้ความรู้ดีมากๆ เลยค่า ปกติก็ชอบไวน์ค่ะ
แต่รู้แค่ว่าอันนี้ดื่มแล้วชอบ อันนั้นดื่มแล้วไม่ชอบเอง 55

พอเห็นรีวิวอย่างนี้แล้วก็เสียดาย ไปอยู่นิวซีแลนด์มาปีนึง เพื่อนก็เคยชวนไปไวน์เทสติ้งทัวร์ แต่ด้วย
ความงก (แพงอ้ะ สำหรับคนได้ค่าจ้างเป็นค่าแรงขั้นต่ำของประเทศเค้า ฮ่าฮ่าฮ่า) เลยไม่เคยได้ไป
ได้แต่ซื้อไวน์ราคาโปรโมชั่นมาดริ้งคนเดียวตลอดเลย

ว่าแต่ยังไม่เคยลองไวน์อเมริกาเลยแฮะ ไว้ลองหาซื้อดูบ้างดีกว่า wink

ปล. ตั้งกระทู้ใหม่หลังมายมาสะกิดด้วยนะคะ เดี๋ยววันนี้ขอตามไปไล่อ่านกระทู้เก่าก่อนค่า

จากคุณ : ยูจินคุง [4 ก.ค. 54 14:16:58 ]
ความเห็นที่ 130

ตามาชิมไวน์ค่ะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับรีวิว smile

จากคุณ : มุ่นแพร [4 ก.ค. 54 19:10:38 ]
ความเห็นที่ 131

ตามอาจารย์เหมียวมาเล็คเชอร์ประวัติศาสตร์ไวน์ ค่ะ
ได้ความรู้และสนุกสนานตามเคยค่ะ

จากคุณ : Bpearl [4 ก.ค. 54 19:30:50 ]
ความเห็นที่ 132

#คุณ Cherokee1: จขกท.ก็รู้จัก Napa Valley ก็ตอนหัดกินไวน์นี่แหล่ะทั่น
แถมเพื่อนที่ไปเที่ยวมาแต่ละคน กลับมากรี๊ดสลบ เลยตั้งใจไว้ตั้งนานแล้วว่าจะต้องไปเยือนให้ได้ T^T
แต่ถึงไม่ทานไวน์ก็ไปได้นะฮะ แม่อิฉันไปแล้วชอบมาก กลับมาโม้ให้ญาติพี่น้องฟังสามบ้านแปดบ้านใหญ่เลย อิอิ


#คุณ youngsexylovely: ขอบคุณค่า ถ้าคุณ ysl ไปแล้วน่าจะชอบนะฮะ
จะได้แต่งตัวสวยๆแบบจัดเต็มไปถ่ายรูปไร่ไวน์กันให้สนุกไปเรย แพลบๆ

นั่นสิฮะ ชีวิตลุงวอร์เรนกับปู่ไมค์นี่เอาไปออกรายการทอล์คโชว์ได้สบายๆเลยนะเนี่ย
คุณ ysl เดาอาชีพเก่าลุงวอร์เรนเกือบถูกด้วยฮ่ะ เพราะลุงแกสอนพวก Plato, Aristotle อะไรเทือกนั้นที่ U of Chicago ค่า >_<
แต่ไม่ทราบว่าตอนเด็กๆลูกๆของลุงกัดเกลือกินมากไปหน่อยรึเปล่านะคะ เพราะลุงวอร์เรนเพิ่งขายกิจการ
Stag's Leap Wine Cellars ไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน (โดยลุงยังเกาะตำแหน่งที่ปรึกษาอยู่)
ที่ขายก็เพราะลุงก็แก่มากแล้ว แถมลูกๆสามคน ไม่มีใครอยากสืบทอดไร่ไวน์ต่อจากลุงซักคน -_-
เพิ่งรู้นะคะ ว่าสวนยางต้องกรีดยางตอนกลางคืน แบบนี้ขับรถผ่านสวนยางตอนมืดๆนี่เหมือนขับฝ่าดิสโก้เทคมั๊ยเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า
ฝรั่งยุโรปเค้าจะดื่มไวน์เพื่อชูรสอาหารค่ะ ไม่ได้ดื่มเอาเมา เคยคุยกับเพื่อนชาวอิตาเลี่ยน
เค้าหัดดืมไวน์ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ แต่ตอนอยู่ที่โน่น เค้าไม่เคยเห็นคนอิตาเลี่ยนเมาเละเทะแบบพี่กันเลย สิบอกไห่

เหอเหอ น้องสาวอิฉันสอยหมวกใบนี้มาจาก Target อ่ะค่ะ กิ๊บเก๋แถมราคาสบายกระเป๋าอีก แพลบๆ
ส่วนพนักงานที่ SLWC เราว่าหน้ากระเดียดไปทาง John Mayer เวอร์ชั่นผ่านการอัพเกรดแล้วหน่อยๆนะฮะ กร๊ากกก
(เอร๊ยยยย A Walk In the Clouds ลืมหนังเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย >_< ว่าแล้วเช่ามาดูรื้อฟื้นความหลังดีกว่า ฮี่ๆ แพลบๆ)


#คุณ Hermy: แต่ไวน์แอลกอฮอลล์แค่ประมาณ 14% เองนะฮะคุณ Hermy แพลบๆ
แต่ฟังแล้วน่ากลัวจัง ดื่มเหล้าแล้วผื่นขึ้นเลยเหรอ เดี๊ยนดีหน่อยค่ะ เมาแล้วหลับ ขับไม่ไหวลูกเดียว กั่กๆ

#คุณพิจารณ์รัฐกิจ: อย่าเพิ่งรีบเมาดิฮะ เด๋วไม่มีแรงอ่านตอนหน้าต่อนะเคอะ ฮ่าฮ่าฮ่า


#คุณ =U_U= PoRpLe: ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาค่า ทู้นี้ต้องยกความดีความชอบให้ปู่ไมค์แล้วก็ลุงวอร์เรนแล้วล่ะค่ะ
ชีวิตทั้งคู่ดราม่ามากมาย เอาไปสร้างเป็นหนังได้เลยนะเนี่ย haha (จริงๆมีคนสร้างไปแล้ว หนังชื่อ Bottle Shock
แต่หนังเน้นไปที่คุณ Jim กับคุณ Bo Barrett ไม่มีพูดถึงปู่ไมค์กับลุงวอร์เรนเลย ไรว๊า -_-)


#คุณยูจินคุง: แหม ก็เหมือนกันแหล่ะค่ะ จขกท.กินไปก็จำแนกรสกลิ่นย่อยยิบแบบพวกลิ้นเทพๆไม่ได้
แค่กินจนรู้ว่า อันไหนเป็นไวน์สไตล์เราชอบก็พอแล้วล่ะเน้อ ^_^
ไม่ทราบเมืองไทยมีไวน์อเมริกันขายกันขนาดไหนนะฮะ จขกท.ก็เสียนิสัย ถ้าชอบขวดไหนก็จะซื้อกินซ้ำๆ
ไม่ค่อยลองของใหม่ แบบว่ากลัวเสียดายตังค์ T^T ยี่ห้อที่กินประจำไม่แน่ใจว่ามีขายที่เมืองไทยรึเปล่านะคะ
เราชอบ Kenwood, Ferrari Carano, Mer Soleil แล้วก็ Cakebread ฮ่ะ ส่วนของนิวซีแลนด์นี่ไม่เคยกินเลยแฮะ
เคยแต่ลองชิมไวน์ขาวของ Kim Crawford อร่อยไม่เบาเลยนะฮะ แพลบๆ

#คุณมุ่นแพร: ขอบคุณที่ตามมาร่วมวงกรึ๊บๆเช่นกันฮะ ลูกสาว

#คุณ Bpearl: ขอบคุณค่า เรื่องดราม่าเคล้าของกินแบบนี้ อิฉันถนัดนักแหล่ะค่า ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : ha-meow [5 ก.ค. 54 00:20:43 ]
ความเห็นที่ 133

ว้าววว กระทู้ดีมีสาระ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆจัง ขอบคุณที่นำกระทู้ดีๆมาแชร์ค่ะ

จากคุณ : LoveError [5 ก.ค. 54 00:22:27 ]
ความเห็นที่ 134

ฮ่า ไม่รู้ว่าเรียกว่า tasting จะถูกรึเปล่าครับ
เพราะชิมวันละยี่ห้อส่วนใหญ่ยกเว้นที่บาวาเรียทานแต่ augustiner :p
ผมว่าอร่อยจริง

ส่วนเบียรฺเบลเยี่ยมเลือกไม่ค่อยถูกครับเยอะเกิน= =

มองโลกในแง่ดีครับผู้ชายทานวันละ 2drink ผู้หญิงวันละ1drink สม่ำเสมอ ลดอัตราเสี่ยงไขมันอุดตันเส้นเลือด artherosclerosis นะเออ:D

ปลพิมในไอแพดเว้นวรรคไม่ค่อยถนัดครับ ขออภัยด้วยคร้าบ
ทานalcohol พร้อมน้ำตาล น้ำตาลจะช่วยในการดูดซึมalcohol น่ะครับเลยเมาเร็วกว่า

จากคุณ : de prince of darkness [5 ก.ค. 54 01:03:21 ]
ความเห็นที่ 135

อิชั้นไม่ค่อยดื่มอ่ะ  ขอเมาอย่างอื่นมากกว่าน้ำแดงนี่ ลิ้นไม่ถึง ขนาดขวดหลายตัง
ยังรู้สึกมีรสชาติเปรี้ยวเป็นเยี่ยวแมวซะแทบทั้งนั้น  T___T  
แม้จะพยายามดูตรา ดูตัวอักษรรับประกันย้อมใจลิ้นแล้ว ก็ไม่ช่วยอะไร  
ช่วงหลังๆมักได้บรรณาการเป็นไวน์อิตาเลียนฟรีๆ ก็เป็นไวน์สดเก็บไม่มีอายุซะทั้งนั้นเลยแจกเรียบ

# 6
นั่นมันฮอลลี่ฮ็อคหรือเปล่าเนี่ย ม่วงอีกนิดจะฟิอ๊อ ฟิออ เชียว   รักคุณ


# 10
นั่นน่าซื้อไว้เป็นดาราในงานปาร์ตี้ฮ่ะ  ชิมนั่นนิด นี่หน่อย เม๊าธ์มอยกัน
ตอนจบเมาจนจำไม่ได้ เอิ๊ก   ฮ่าฮ่าฮ่า

# 14-21
ชีวิตของปู่ไมค์ช่างโอชินยิ่งนัก มีทั้งต้องไปเป็นคนรับใช้ สมัครเรียนวิชา
ได้หุ้น โดนเลื่อยขาเก้าอี้ จนในที่สุดก็พบรักแท้ เอ๊ย... ไร่แท้(ยังขาดแม่ผัว กร๊าก)


# 25
สรุปแล้ว มันคือองุ่นไข่ปลาใช่ป่ะคะ  คุณป้าทำไมไม่อธิบายง่ายๆฟระ
อิองุ่นเนี่ย อิชั้นเคยพิเรนทร์ปลูกเล่น มันก็เป็นต้นค่ะ แต่ไม่มีดอก ไม่มีลูก (ปลูกกรุงเต๊บอ่ะ)


# 29
นึกภาพทั่นประธาน โดดถีบถัง ให้กลิ้งลงมาทับป้าแบนแต๋แบบในการ์ตูนอ่ะ    ฮ่าฮ่าฮ่า


# 33
แง่ว อิชั้นก็ชอบอิไวน์ความหวานสูงเนี่ยฮ่ะ แพงได้อีก  


# 40
ทั่นประธานลำเอียงรักซานตอนอีกแล้ว   ฮ่าฮ่าฮ่า


# 54
แล้วทั่นประธานถามเค้าหรือเปล่าฮะ ว่าอิองุ่นนี่มันจะโตเท่าไหร่   ฮ่าฮ่าฮ่า
(วอนให้ทิ้งชีวิตไว้ที่นั่นชัดๆ กร๊ากกกกก~)


# 60
จริงๆไวน์แดงก็ไม่น่าจะแค้นเท่าไหร่นะ พ่ายกันไม่เยอะ
แต่ไวน์ขาวนั่นมันหยามกันช๊าดๆ


# 77
อิชั้นชอบเตียงสูงอ่ะ เค้ากะให้สามารถฟุบตูดโด่งลงไปอย่างสะดวกมั้งคะ อิอิ


# 87
อูย อยากได้อิกุหลาบป่าแดงๆนี่มาปลูกจังเลยอ่ะ


# 92
เดี๊ยนไม่เชื่อว่า ทั่นประธาน ต้องเอาเมนท์จากคุณนายแม่ ไม่ได้แอบจกเลยจริงง่ะ   แพลบๆ  

รอไร่ต่อไปนะคะ อะไรกันจะเสิร์ฟตั้งแต่นิกสัน ยันโอบาม่าเลยฤๅ

จากคุณ : ป้าหนอน [5 ก.ค. 54 06:01:06 ]
ความเห็นที่ 136

ขอโทษที่มาช้านะค๊า
คัพเค้กน่ากินทั้งน้านนนน

กระทู้ดูดกิ๊ฟฟฟฟฟฟฟฟ TOT

จากคุณ : miracle_rainyteddy [5 ก.ค. 54 07:38:04 ]
ความเห็นที่ 137

ตามมากึ่มไวน์ด้วยคนครับผม
ได้บรรยากาศดีครับ อ่านๆไป ชมรูปไป ก็ชักนึกถึงหนังในไร่ไวน์
A Good Year ที่ตา Russell Crowe แกเล่นอ่ะครับ
เดี๋ยววันนี้หยิบมาดูอีกรอบด้วยดีกว่า
ขอบคุณหลายๆครับผม

จากคุณ : LIFE AFTER DEATH [5 ก.ค. 54 08:50:21 ]
ความเห็นที่ 138

..

ละเอียดมาก ได้ความรู้มาก โหวตให้ทู้นี้เลยครับ

..

จากคุณ : POGGHI [5 ก.ค. 54 09:41:12 ]
ความเห็นที่ 139

เฮ้ย เพื่อนเราพึ่งไปชิมไวน์เมื่อวันเสาร์ มันอยู่ซานฟราน

เราว่าต้องไปที่เดียวกันแน่นอน มันบอกชิมจนกรึ่ม


ขอบคุณมากค่า เดี๋ยวเอาไปเมาท์กับมัน

จากคุณ : jasssilp [5 ก.ค. 54 09:52:08 ]
ความเห็นที่ 140

ทรานฟอร์มเมอร์ 3 ก็ตั้งใจไปดูอยู่แย้วหล่ะเจ๊ รอเพื่อนรักว่างอยู่ 555555 ฮ่าฮ่าฮ่า
(แต่กลัวไปดูแล้วจะโศกเหมือน'จารย์กี จริงๆเลยนิ T^T)


หัวหินมีไร่ไวน์เหรอ แสดงว่าคุณเพื่อนมอไปลุยมาแล้วสินะเนี่ย อิอิ ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : yokoyuki [5 ก.ค. 54 15:43:50 ]
ความเห็นที่ 141

#คุณ LoveError: นั่นดิฮะ ขนาด จขกท.เพิ่งไปเที่ยวมาหยกๆยังอยากกลับไปอีกเลย ขี้แง


#คุณ de prince of darkness: เรื่องเบียร์นี่ พี่ก็แบะๆค่ะน้อง แต่ฟังดูท่าจะกรึ๊บไปหลายนะเนี่ย beer
ขอบคุณสำหรับความรู้นะเน้อ พี่ก็หลอกตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ว่าเออ กินไวน์ไปเถอะ เพื่อสุขภาพทั้งนั้น กร๊ากกกก


#ป้าหนอน: แล้วแบบนี้ป้าหนอนชอบพวกแชมเปญ Demi-sec ป่าวฮะ
ลองสอย Moet Chandon Imperial Nectar มาชิมดูได้ ดื่มแล้วหวานนิดๆ ชื่นใจนักแลเน้อ แพลบๆ

#10 ก่อนเริ่มงานป้าหนอนก็อย่าลืมเตรียมสคริปต์ไว้ล่วงหน้าด้วยนะฮะ ว่าโอว์ ขวดนี้ช่างได้กลิ่นธรรมชาติ
กินแล้วราวกับเดินเท้าเปล่าอยู่ริมป่าละเมาะใน Piedmont ของอิตาลี ฯลฯ ฮ่าฮ่าฮ่า

#14-21  กร๊ากกกก จริงล่วย >_< ส่วนแม่ผัว ให้คุณ Jim Barrett รับไปแทนก่อนละกันฮ่ะ เหอเหอ
#25  แต่ดูจากรูปในหนังสือ พอองุ่นมันโตเต็มที่นี่ลูกอวบอัดน่ากินมากเลยนะป้า แถมสีม่วงอ่อนๆอีก แพลบๆ
#33  Dessert Wine ของ Grgich Hills นี่ไม่รู้ทำไม แพงมั่กๆ แต่เด๋วตอนหน้ามีอีกเจ้ามานำเสนอด้วยนะฮะ โปรดติดตาม หุหุ

#60  ในหนังสือบอกด้วยฮะว่า หลังจาก Blind Tasting หนนั้น Gault et Millau หนังสือรีวิวร้านอาหารชื่อดัง เกิดปิ๊งไอเดียว่า
จัดแข่งกันไปทำไมแค่ฝรั่งเศสกับเมกา ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาไวน์จากทุกประเทศมาแข่ง Wine Olympics มันซะเลยสิ กร๊ากกกก
แถมงวดนี้ไวน์ขาวเมกาก็ยังชนะอีก (แต่เป็นของไร่ชื่อ Trefethen) แต่ไวน์แดง ของฝรั่งเศสชนะ ก็เรียกว่ายังไม่เสียหน้านัก แพลบๆ

#77  ปัญหาคือ กระโดดทีเดียวไม่พอน่ะสิฮะ ประเภทท่อนบนอยู่บนเตียง ท่อนล่างยังเท้งเต้งอยู่กลางอากาศ T^T
#92  เอร๊ยยย ไรป้า หนูน่ะซัดน้องหอยทากไปแค่ 4 ตัวชิลๆเองน๊าาา ขี้แง


#คุณ miracle_rainyteddy: ทู้นี้น้องคัพเค้กออกโรง เด๋วทู้หน้ารอชม"เมกะรอน"บุกโลกได้เลยนะฮะ แพลบๆ


#คุณ LIFE AFTER DEATH: ไม่เคยดูหนังเรื่อง A Good Year เลย หนุกมั๊ยคะเนี่ย

#คุณ POGGHI: ขอบคุณค่า นกดื่มชา ทู้หน้ารับรองน้ำไม่เยอะเท่านี้แล้วฮ่ะ -_-


#คุณ jasssilp: เพื่อนคุณ jasssilp ก็คงไป Napa Valley หรือไม่ Sonoma Valley แหล่ะค่ะ
แต่ถ้าไปไร่เดียวกันเป๊ะนี่จะสิสยอง เพราะที่โน่นมีไร่ไวน์เป็นร้อยๆเจ้าเลยนะเคอะ แพลบๆ


#คุณ yokoyuki: จะเศร้าไม่เศร้านี่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นแฟนคลับหุ่นตัวไหนนะเจ๊โกะ wink
ส่วนไร่ไวน์ที่หัวหิน เจ๊ว่ามันจะรอดเงื้อมมือเพื่อนมอไปได้มั๊ยล่ะ ขานั้นยิ่งเห็นไวน์เป็นโดดเข้าใส่อยู่ กร๊ากกกก

จากคุณ : ha-meow [7 ก.ค. 54 11:53:31 ]
ความเห็นที่ 142

กร๊าก ในที่สุดฟามลับก็เปิดเผยว่า ได้มีเอี่ยวทุกจาน  แพลบๆ

เอาจริงดิคะ ทั่นประธาน #10 เซ็ทนึงมี 6 ขวด เดี๊ยนคงล่อซะหมดป่าทางเหนือ
ของอิตาลีเป็นแน่  (ส่วนพวกแคลิฟอร์เนียคงโคตรแค้น ตูเป็นคนผลิต ดันไป
เพ้อถึงเมืองอื่น เด๋วปั๊ดโบก)


ซุบซิบๆๆ แอบมีเกร็ดมาเสริม ไม่รู้มันมีในหนังสือที่ทั่นประธานอ่านมาหรือเปล่า
แบบว่าอันนี้อิชั้นอ่านมานานแล้ว ว่าไวน์ยุโรปออกแอ็คชั่นตอบโต้ เนื่องจากระยะหลังๆ
ไวน์ต้นตำรับทั้งฝรั่งเศสและพี่เลี่ยนพ่ายไวน์ที่อื่น ให้เสียหน้าซีดานและคันนาวาโร่ยิ่งนัก
อย่ากระนั้นเลย ชะรอยชาวตราไก่-มักกะโรนีเรา จงมาออกตรา...
อิชั้นก็จำตัวย่อไม่ได้เยอะจัด ประมาณว่า องุ่นนี้ พันธุ์นี้ ต้องปลูกในมณฑลนี้
ในเขตของท้องถิ่นนี้เท่านั้น (เพราะส่วนใหญ่ ไวน์จะอ้างพันธ์องุ่นก่อนในอันดับแรก)
ไม่งั้นห้ามใช้ตรานี้ และแม้ว่าจะองุ่นนี้ ปลูกที่ใดก็ตาม หากมีองุ่นอื่นปนมาเกิน 10 ปูเซ็ง
เอ็งจะโดนกดเกรดเป็นเทเบิ้ลไวน์ทันที (พาลชิป กร๊ากกกกกกก~)
((อันนี้พออ่านจากทั่นประธาน ทำให้รู้ว่า เป็นการตัดโอกาส ด้านผสมไวน์ปรับรสนั่นเอง))
ซึ่งต้นตำรับ ก็พยายามผสมแต่น้ำองุ่นในเขตตน ตามแบบเก่า

แถมตอนหลัง มันแน่วุ๊ย อิพวกเอเลี่ยนกลายพันธ์นี่ หาที่คืบมาปลูกในมณฑลนั้นๆ
ตามกฏจนได้อย่ากระนั้นเลย กำหนดอาณาเขตให้เล็กกระติ๋ว เป็นตำบลแมร่มเลย
แรว๊งงงงงงงงงงงงงง~    ฮ่าฮ่าฮ่า

ชิชะ มันยังเข้ามาปลูกในตำบลที่กำหนดได้อีก ก็หาข้อหาจิบจ๊อยเล่นมันต่อไป ประมาณว่า
บ่มจากถังไม้โอ๊คหรือไม่ (มันไม่กำหนดไปเลยวะ ว่าไม้โอ๊คจากตำบลไหน  :P )<< หรือกำหนดไปแล้ว

จากนั้นก็บี้ต่อทางการตลอด ด้วยการเปิดขาย ณ สถานที่ผลิตไวน์ มีทัวร์ ประมาณนี้
กะให้หายากสุดๆอ่ะ
อันนี้ไปมีแถวชนบทฝรั่งเศส & อิตาลีนี่แล พร้อมๆกับเอาผลิตผลพื้นเมืองมากินร่วม
+ โปรโมชั่นของพวกนี้ไปด้วย ประเภทแฮม ชีส เห็ด ท้องถิ่นอะไรนี่ ขึ้นโต๊ะกัน
เป็นแพ็คเกจสุดยอดโอท็อปกันเลยละค่า

แต่กลายเป็นว่า ไอ้ขายแบบนี้กลับกู้ชื่อมาได้เยอะอยู่ เพราะว่าทุกๆปี
นอกจากเจ้าของร้านไวน์ดังๆ ก็เริ่มมีเศรษฐีนิยมมาเที่ยว แล้วถ้าดื่มไป
ปิ๊ง ดูดี มีอนาคต ไวน์ที่ออกปีนั้นๆ มีสิทธิ์ได้ขายไปเติบโต ในห้องเก็บไวน์
เศรษฐีทั้งหลาย เป็นคอเล็คฉันส่วนตั๊ว ส่วนตัว เก๋ไก๋ชไนเดอร์ซะมิมีได้อีกค่ะ
เพราะว่าปีนึงทำไม่มาก เศรษฐีเหมาไปก็เป็นร้อยแล้ว มีเหลือขายน้อย = หายาก = ปั่นราคาได้อีก
(เศรษฐีไทย ก็เอากะเค้าด้วยเด้อ เน้นประเภทตรา 4 ตัวขึ้นไปอะไรแบบนี้นี่แล)

ส่วนผลการต่อสู้นั้น จะเป็นเช่นใด ต้องติดตามกันต่อไปฮ่ะ

จากคุณ : ป้าหนอน [7 ก.ค. 54 18:35:31 ]
ความเห็นที่ 143

...แวะมาเมื่อตลาดไวน์วาย เคยไปเทียวแล้วซื้อไวน์มาหนึ่งขวด กว่าจะหมดเกือบ 2 เดือน

สงกะสัยจะดื่มไม่ค่อยเป็น ล่าสุดไปเที่ยวขวดเดียวหมดภายใน 1 ชั่วโมง ...มีคนช่วย

จากคุณ : Biocalm [8 ก.ค. 54 11:20:51 ]
ความเห็นที่ 144

มาช้าหน่อยนะน้องหนู ป้าแป๊ดไปเที่ยวมาเพิ่งกลับ ตอนนี้ไล่อ่านกระทู้หนุกหนาน ของหนูนี่ทั้งเรื่องและภาพ สุดยอดจริงๆ

เรื่อง wine นี่ป้าก็ชอบนะ มีโอกาสโซ้ยก็โซ้ยมันได้เรื่อยๆแหละ แต่กินมันเรื่อยเปื่อยไม่มีสกุลรุนชาติอะไร แบบว่าอะไรออนเซลราคาพอรับได้ ก็เอานั้นแหละ  wine แพงๆราคาเป็นร้อยเป็นชั่งเคยแต่จับๆดูอย่างเดียว

ซื้อมาก็คงไม่กล้ากิน กลัวมันจะหมด ฮา..

กดเข้าคลังกระทู้ให้ด้วยแล้วนะ

จากคุณ : PatPDX [9 ก.ค. 54 12:30:26 ]
ความเห็นที่ 145

ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ

จากคุณ : Us-Sama Iland [12 ก.ค. 54 14:44:11 ]
ความเห็นที่ 146

#ป้าหนอน: ไอ้เรื่องนี้นี่หนูบ่ฮู้เลยอ่ะป้า -_-" ในหนังสือบอกมาแต่ว่า Terroir ระดับ grand cru, premier cru เนี่ย
เค้าจัดระบบกันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาแล้ว แถมแต่ละ terroir ก็ซอยยิบซะโคตรเล็กได้อีก
ส่วนเรื่องที่ว่าตีตรา OTOP นี่ นอกจากแชมเปญแล้วหนูบ่เคยได้ยินเลยป้า
แล้วเศรษฐีเมืองไทยเค้าไปออกทัวร์ไร่ไวน์ที่ฝรั่งเศสกันด้วยเหรอเนี่ย ขอหนูเกาะไปด้วยคนได้มั๊ย ไปเป็นคนขับรถก็ยังดี กร๊ากกกกก


#คุณ Biocalm: กร๊ากกกก ขอพรรค์นี้มันขึ้นกับบรรยากาศด้วยค่า
อย่างคุณแม่ของน้องปอ คู่หูคู่เที่ยวของ จขกท. ขานั้นก็ไม่กินไวน์เหมือนกัน
แต่พอไปเที่ยว Mosel Valley กับลูกสาวแล้ว บรรยากาศพาไป ทีนี้ล่ะกรึ๊บๆใหญ่ กร๊ากกกก


#คุณ PatPDX: ขอบคุณป้าแป๊ดที่มาทักทายค่ะ ขออภัยที่ตอบเมนต์ช้านะฮะ อาทิตย์ที่แล้วงานเข้า T^T
แล้วนี่หนีเที่ยวอีกแล้ว อยากไปเที่ยวม่างงงงง ขี้แง
ปกติ จขกท.ก็ไม่ได้มักไวน์ซักเท่าไหร่หรอกค่ะ ก็กินบ้าง โดยเฉพาะยี่ห้อประจำที่ราคาไม่เกิน $20 ฮ่าฮ่าฮ่า
เพิ่งจะมาอินจัดก็ตอนเตรียมตัวเที่ยว Napa Valley เนี่ยแหล่ะ ส่วนไวน์ราคาเฉียดร้อย ให้หนูซื้อกินเองก็ฝันไปเถอะค่ะ บ่มีปัญญาเช่นกัน ขี้แง


#คุณ Us-Sama Iland: ขอบคุณที่แวะมาทักทายเช่นกันฮะ ^_^


มหกรรมทัวร์กรึ๊บๆภาค 2 อยู่นี่แล้วจ้า
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10814466/E10814466.html

จากคุณ : ha-meow [วันเข้าพรรษา 54 11:45:42 ]
ความเห็นที่ 147

อ่านเพลินเลยค่ะ ประวัติของคนที่ทุ่มเททำเพื่อสิ่งที่รักนี่สุดยอดไปเลยนะคะ

ปล. กระทู้นี้จากที่จิบชาเย็นอ่านอยู่ดี ๆ สักพักอิฉันเลี้ยวไปหยิบเหล้าสตอร์เบอร์รี่มาชิมตามกระทู้เฉยเลย 555

อ่านสงครามไวน์ที่คุณป้าหนอนเขียนแล้วแอบทึ่ง
นี่สู้กันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ออกกฏยิบย่อยมากมายเลย

จากคุณ : nowan [19 ก.ค. 54 22:23:50 ]
ความเห็นที่ 148

เมา.......  คลานไปคามตอนสองต่อก่อนนะคะ  พึ่งจะยังป่วยๆมาก็เจอไวน์ซะแล้นนน

จากคุณ : agarwaen [21 ก.ค. 54 15:06:22 ]
ความเห็นที่ 149

#คุณ nowan: นั่นดิฮะ จขกท.อ่านประวัติปู่ไมค์กับลุงวอร์เรนแล้วอดอนาถในความสันหลังยาวของตัวเองไม่ได้จริงๆ หยอกเย้า
กร๊ากกกก ขออภัยนะฮะ ที่ทู้ของอิฉัน ทำให้คุณ nowan ต้องหันหน้าเข้าหาแอลกอฮอลล์ ฮ่าฮ่าฮ่า
ส่วนเรื่องไวน์ฝรั่งเศสนี่ สารภาพว่า จขกท.ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่เลยค่ะ
เห็นที่จะต้องหาโอกาสไปชิมไวน์ถึงที่ฝรั่งเศสบ้างแล้ว (ตังค์ล่ะอยู่ไหน T^T)

#คุณ agarwaen: แบบนี้ต้องดื่ม Riesling รึเปล่าฮะ ชนแก้ว
เพราะตามตำนาน มีพระชาวเยอรมันแถวๆ Mosel คนนึงป่วยหนักมาก แต่แกก็ยังไม่หยุดดื่มไวน์
โดยเฉพาะไวน์ agarwaen ที่ปลูกทั่วเยอรมัน โดยเฉพาะ Mosel ตอนหลังกินไปกินมา หายป่วยเลยฮ่ะ แพลบๆ
ทำให้ไวน์ Riesling จาก Mosel นี่หลายเจ้ายี่ห้อขึ้นต้นด้วย Dr. ซะให้ กร๊ากกกกก

จากคุณ : ha-meow [31 ก.ค. 54 10:09:55 ]