รีวิววันแรกจบไปแล้วใครยังไม่ได้ติดตามคลิ้กด้านล่างได้เลยค่ะ
จากที่เราตกเครื่องกันใน Day1 เราเลยสลับแผนของครึ่งวันบ่าย Day1 มาไว้ครึ่งวันเช้า Day2 แทน

ทริปนี้เราตื่นประมาณ 6.30 น. เกือบทุกวัน ออกจากรร.ไปเดินเที่ยวประมาณ 8 โมง เนื่องจากปกติไม่ใช่คนนอนตื่นสายอยู่แล้ว ยิ่งมาเที่ยวแบบนี้ มีเหรอจะปล่อยเวลาให้สูญไปกับการนอน อิอิ ไม่มีทาง

ยิ่งช่วงที่เราไป .. ฟ้ามืดช้ามากกกกกกกกก จำได้ว่า 3-4 ทุ่มยังสว่างจ้าอยู่เลย ทำให้บางวันที่เราไม่ได้ทันได้ดูเวลา มารู้อีกที อ๊าวว 4 ทุ่มแล้ว ยังคิดว่าหกโมงเย็น ^^"

Day2: Italy - Vatican Museum - Sistine Chapel - St.Peter's Square - Florence

เช้าวันที่ 2 ตื่นมาอาบน้ำกินอาหารเช้าที่เค้าเตรียมไว้ให้เล็กๆน้อยๆ แล้วก็ออกเดินทางกัน

ก้าวแรกที่เดิน .. โอยยยยย ทำไมมันเมื่อยแบบนี้ - -" แต่ก็บ่นไปอย่างนั้นเอง เดินๆไปเดี๋ยวก็หายเมื่อย 555

สิ่งแรกที่ลุ้นในเช้าวันนี้คือ .. รถไฟใต้ดินจะเปิดให้บริการหรือยัง และเค้าเลิกประท้วงกันหรือยัง?

ถ้ายังเนี่ย .. เราจะถอดใจมาก เพราะนั่นแปลว่าเราต้องเที่ยวด้วย 2 ขาของเราอีก 1 วันเต็มๆนะสิ

แต่แล้วพระเจ้าก็ไม่ลงโทษเรา อิอิ .. รถไฟใต้ดินเปิดให้บริการตามปกติ แต่เรื่องที่กังวลอีกเรื่องคือ ตั๋วเข้าวาติกัน จะยังใช้ได้อยู่ไหมนะ

เพราะมันลงวันที่ไว้เป็นวันที่เมื่อวาน .. หึหึ ไปลุ้นกันค่ะ

เพิ่มเติมวิธีการจองตั๋วรถไฟผ่านเวบ Trenitalia ตั้งแต่คห.ที่ 65 เป็นต้นไปนะคะ

แปดโมงนิดๆ ออกเดินทางจากรร. ไปรถไฟใต้ดิน เดินไปลุ้นไป เปิดป่าวว๊า สรุปว่าเปิดแล้ว เลิกประท้วงกันแล้วด้วย อิอิ

ว่าแล้วก็พุ่งไปที่ตู้ขายตั๋วเลย ซื้อง่ายนะคะ ไม่ยาก มีภาษาอังกฤษให้เลือกก่อนด้วยค่ะ

ถ้าจำไม่ผิดเที่ยวละ 1 EUR แต่มีเวลาจำกัดในการใช้ นับจากที่เราตี๊ดบัตรเข้าสถานีไป ก็นับว่าถูก และสะดวกมากเลยทีเดียว

วันนี้เราจะบึ่งไป Vatican Museum กันก่อน ดังนั้นเราจะนั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดงจาก Termini - Ottaviano กันนะคะ

เวลาขึ้นรถไฟในโรม ง่ายนิดเดียวค่ะ ดูก่อนว่าเราจะไปที่ไหน และสถานีไหนใกล้สุด แค่นั้นไม่พอ ต้องดูด้วยว่าต้องนั่งเส้นที่รถไฟจะวิ่งไปสุดที่สถานีไหน ไม่งั้นนั่งถูกสาย แต่ไปกันคนละด้านไม่รู้ด้วยนะเออ ^^

* ดูรูป Noise เยอะๆจากกล้อง Compact Lumix ไปก่อนนะคะ อิอิ

บรรยากาศมาคุๆ หยักไย่เยอะๆ นี่แหละโรม 555 ดูป้ายให้ดีๆว่าไป Line A หรือ Line B จริงๆเค้าแยกสีอยู่แล้วล่ะ :D

ระหว่างที่เดินในสถานีแบบนี้ .. ระวังกระเป๋าด้วยนะคะ อย่ามัวแต่เดินเพลิน หรืออย่ามัวแต่เงอะงะ จนเปิดช่องว่างให้มิจฉาชีพมันล้วงเป๋าเอาง่ายๆนะคะ :)

เดินมาถูกทางแล้ว ก็สอดบัตรไปง่ายๆแบบนี้แหละค่ะ เหมือน BTS บ้านเรา

ไม่รู้คนอื่นเป็นมั้ย บางทีมันก็เหมือนๆบ้านเราล่ะ แต่นี่แบบว่าแปลกถิ่น จะสอดบัตร จะอะไรที คิดเยอะเป็นพิเศษ

จะสอดผิดด้านไหม จะปล่อยไก่ไหม บลาๆ 555

รถไฟใต้ดินที่โรมออกแนวเก่า และมี Graffiti เต็มไปหมด (แต่ส่วนใหญ่สวยนะ ไม่ใช่มาพ่นว่าใครพ่อใคร)

เราเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมา บวกกับว่าคนเยอะ เราระวังเป๋าเรานิดนึงดีกว่า อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลิน อิอิ

นั่งแค่อึดใจเดียว เราก็มาโผล่ตรงนี้แล้ว เดินตามคนเยอะๆมานั่นแหละ เดี๋ยวเจอเอง ทุกคนที่มาขึ้นสถานีนี้น่าจะมีเป้าหมายเดียวกัน 555

แฮ่ เห็นกำแพงแนวยาวแบบนี้ คนต่อแถวเยอะๆแบบนี้ใช่แล้ว Vatican Museum แน่นอน

แนะนำขั้นตอนการจองตั๋วเข้า Vatican Museum

1. เข้า Website ไป มันจะมีให้เลือกหลายแบบ แต่เราเลือก Admission Ticket (แบบอื่นๆมันจะเป็น Group หรือแบบมี Guide อะไรแบบนี้)

2. เลือกเดือน และจำนวนคนที่ต้องการ ระบบจะโชว์ขึ้นมาให้นะคะ ว่าวันไหนยังว่างบ้าง
PS. The Museums are closed on Sundays, with the exception of the last Sunday of the month unless it coincides with Easter Sunday, the 29th of June (St. Peter and Paul), 25th and 26th of December (Christmas and St. Stephen). It is not possible to book admission tickets online for the last Sunday of the month. Admission is free.

3. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการ ระบบจะบอกอีกเหมือนกันค่ะว่าช่วงเวลาไหนยังว่างบ้าง หรือจะเต็มแล้วอะไรแบบนี้ ก็เลือกไปค่ะ (มีรอบทุกครึ่งชม. ตั้งแต่ 9.00 - 15.00)

4. ให้ระบุจำนวนที่ต้องการอีกครั้ง กรณีที่มีเด็กอายุ 6 - 18 หรือเด็กนักเรียนที่เข้าเกณฑ์ของเค้า ก็ลดราคาได้อีก 8 EUR

ส่วนราคาปกติของผู้ใหญ่ในการเข้าชม Vatican Museum + Sistine Chapel ก็ตกที่ 15 EUR + Pre-Sales Fee 4 EUR รวมเป็น 19 EUR ค่ะ
PS. For children aged between 6 and 18 years old (18 years included). For students under 26 years on presentation of a student identity card (International Student Card) on the day of the visit. If a reduced price ticket is purchased without the required documents the visitor will be asked to make payment of a full price ticket so as to enter. The reduced ticket will not be refunded.

5. จากนั้นก็ทำการจ่ายตังค์ (ซะดีๆ) ระบุเลขบัตรเครดิต Email อะไรไป
แล้วก็รอรับไฟล์ได้เลยค่ะ พอได้ไฟล์ส่งมาในเมลล์แล้ว ก็อย่าลืมปริ้นไปด้วยนะคะ เอากระดาษที่ปริ้นยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่ด้านหน้าได้เลย

เอาใหม่ค่ะ ตะกี้ลืมเซนเซอร์ชื่อสามี 555

ตัวอย่างไฟล์ที่ได้มา ที่เราปริ้นติดตัวไปด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่จะติ๊ดที่บาร์โค้ดตรงนี้ก่อน พอเข้าไปข้างในแล้ว เราต้องไปเคาทเตอร์อีกที เพื่อออกตั๋ว จะมาเป็นตั๋วใบเล็กๆ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เจาะบัตรอีกที ตอนเข้าสู่ข้างในของข้างใน 555

ที่นี้ปัญหามันอยู่ที่ตั๋วเราระบุเป็นวันที่ 1 April ซึ่งวันนั้นมันมีประท้วง แล้วแถมเป็นเจ้าหน้าที่ที่วาติกันนี่แหละประท้วงมั้ง - -"

เราก็เลยพยายามจะบอกเจ้าหน้าที่พี่ชุดดำตัวใหญ่ๆที่ยืนอยู่ข้างนอกวาติกันว่า เนี่ยเราจองตั๋วมาเป็นเมื่อวาน แต่คุณมีประท้วงกัน เราก็เลยมาไม่ได้ สุดท้ายพี่เจ้าหน้าที่ก็ให้เราเข้าไป

พอเข้าไปจะมีเครื่องตรวจระเบิด วัตถุแปลกปลอม กระเป๋าเป้ของสามีเราใส่กล้องตัวใหญ่ พร้อมเลนส์ 2 ตัว ส่วนกระเป๋าเรามีแต่ของกิน Baby Wipe และกระติกน้ำ 555

ทีนี้เค้าก็บอกว่ากระเป๋าใหญ่แบบนี้ต้องฝากไว้ที่ตรงนี้ ห้ามเอาเข้าไป ไอ้เราก็พาซื่อ ฝากมันหมดเลยทั้งเป๋า ทั้งกล้องใหญ่ เหลือแต่กล้อง Compact Noise บานๆ ติดตัวไป

ทีนี้มันน่าเศร้าตรงที่พอฝากเสร็จ .. ก็เหลือบไปเห็นคนอื่นๆ ก็สะพายกล้องกันนิหว่า แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะไปเอาคืน ก็ไม่ได้ เพราะเข้าไปแล้ว งึ่กๆ เสียใจ

พอผ่านเข้าไปปุ๊ปต้องเอาแผ่นกระดาษที่ปริ้นมา .. ไปที่เคาทเตอร์เพื่อออกตั๋ว เจ้าหน้าที่ก็ทำมึน (ทำไม่รู้เรื่องว่าเมื่อวานตัวเองประท้วง) ก็พูดกลับมาว่าตั๋วนี่ของเมื่อวานนิ แล้วเราก็ No show บลาๆๆ

เราก็เลยสวนกลับไปว่า .. ใช่เราจองมาเป็นเมื่อวาน แต่คุณประท้วงกัน จนต้องปิด Museum ไม่ให้เข้าชมนิ แล้วจะให้เราทำยังไง เป็นความผิดเราเหรอ?

ฮ่าๆ ฝรั่งก็ฝรั่งเหอะ .. หน้าจ๋อยๆ แล้วก็ส่งเคสเราให้อีกช่องนึง เพื่อไปเช็กว่าตั๋วเราเอามาใช้ไปแล้วเมื่อวานหรือยัง สรุปว่าเค้าก็ออกตั๋วให้เรา อิอิ

จำไว้นะคะ ถ้าเราไม่ผิด อย่าไปกลัวฝรั่ง

พอเข้าไปแล้ว ก็ไม่ผิดหวัง (ที่ฝ่าฝันเข้ามา ฮ่าๆ) สวยมากๆ เราชอบดูอะไรแบบนี้อยู่แล้ว กดชัตเตอร์มันส์ไปเลย

ปล. ภาพที่ถ่ายบนเพดาน เป็นฝืมือกล้อง Compact Lumix ทั้งนั้น กล้องตัวเล็กได้เปรียบหน่อยนึง เนื่องจากกล้องไม่หนัก ไม่ต้องกลัวมือสั่น

รูปจาก D7000 ที่ถ่ายบนเพดาน ค่อนข้างจะสั่นเล็กน้อย เลยไม่ได้เอามาลงให้ชมกัน

เปิดประเดิมด้วยรูปแรก วิจิตรตระการตาจริงๆ

คุณ สามแซ่ ตามมาเลยค่า นึกว่าจะไม่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนถ่ายทอดสดซะแล้ว :D

เคลิ้ม .. เพลิดเพลินกันไป แหงนคอถ่ายรูปจนปวดคอเลย 555

ทุกเม็ด .. ละเอียดละออจริงๆ เข้าใจว่าเค้าคงเพิ่งบูรณะ ไม่งั้นสีสันคงไม่จัดจ้านแบบนี้

ระหว่างทางเดิน .. สังเกตสิ มีแต่คนแหงนคอกันทั้งนั้นเลย 555 จะรู้ตัวว่าแก่แล้วก็งานนี้ เมื่อยคอไปเลย

ภาพนี้งามมากจริงๆ ตอนที่ถ่ายมาไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้ ตอนมาทำรูปถึงได้ร้องว๊าวววว

เราใช้เวลาเกือบ 3 ชม. ใน Vatican Museum + Sistine Chapel ทำเวลากันมากๆ แต่ว่าก็ดื่มด่ำพอสมควรแก่เวลา

เดินมาเรื่อยๆตาม Route ที่เค้าให้เดิน สุดท้ายมาโผล่ที่บันไดวนเก๋ๆ
ที่เป็นมุมมหาชนก็ว่าได้

เนื่องจากใน Sistine Chapel ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ แบบว่ามีเจ้าหน้าที่ 2 คน คอยยืนบอกว่า No Photo!!! เป็นระยะ แต่ก็ยังมีทัวร์เอเชีย เกาหลี จีน อาซิ้มอาแปะยังคงถ่ายรูป แถมเปิดแฟลชอีกต่างหาก (เดาว่าคงมีกลุ่มคนไทยในนั้่นด้วยหรือเปล่า ไม่แน่ใจ)

แต่ขอบอกว่าประทับใจมาก สำหรับ Sistine Chapel สวยจริงๆ

ขาออกมารับกระเป๋าที่ฝากไว้ .. เราถามทางกับเจ้าหน้าที่ตรงนั้นว่าเราจะไป St. Peter ไปทางไหน สุดท้ายเค้าให้หนังสือท่องเที่ยวเรามาเล่มนึง อย่างดีเลยอะ ภาพสีทั้งเล่ม แต่เป็นภาษาอังกฤษ (เดาว่าเป็นของนักท่องเที่ยวที่มาลืมไว้)

ใจจริงเราไม่อยากได้ แต่เกรงใจเค้า เค้าอุส่าห์มีน้ำใจ 55 ก็เลยรับมา ^^

วิ่งตามขึ้นmetroมาด้วยค่ะเห็นด้วยว่าศิลปะgrafitiเต็มเมืองจนดูเลอะเทอะ

ออกจากวาติกัน เราก็เดินเลียบๆไป จริงๆคือเดินตามชาวบ้านเค้าไป 555 แล้วก็เจอละล่ะ St. Peter Square ใหญ่โตได้อีก + คนเยอะอีกด้วย

ตอนแรกว่าจะขึ้นไปบนยอดโดมโน้นนน .. แต่เห็นคนต่อแถวแล้วเปลี่ยนใจ เราเป็นพวกไม่ค่อยมีความอดทนในการต่อแถว 555

ดูคนสิ .. ตัวเล็กยิ่งกว่ามดอีก

ปล. เห็นแดดจ้าแบบนี้ แต่อากาศดีมาก ลมพัด อากาศเย็น สบายๆค่ะ

นาฬิกาเรือนใหญ่ยังคงเดินอยู่อย่างเที่ยงตรง .. นับถือจริงๆ ของพวกนี้เก่าแก่แค่ไหนแล้วไม่รู้ แต่ยังบูรณะกันอย่างดี จนเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังอย่างเราๆได้ชมกัน

จริงๆรูปนี้ .. เราอยากทดสอบประสิทธิภาพของเลนส์ Nikon 28-300 mm ว่าเป็นยังไงบ้าง ผลก็น่าพอใจระดับนึงเลย ได้แค่นี้โอเคแล้ว

ขอบคุณนะคะ ตามมาเที่ยวกันต่อเลยค่า คุณ ข้าวซอยคอยเครื่องเคียง

นาฬิกาเรือนข้างบน คือเรือนเดียวกันกับนาฬิกามุมบนซ้ายมือของรูปนี้ อิอิ พลังซูมใช้ได้เลยนะเนี่ย ซูมขนาดนั้นแล้วยังชัดแจ๋วอยู่เลย แต่อาจจะเป็นเพราะแสงพอก็เป็นได้

อีกรูปนะคะ ฟ้าใสๆ แดดแจ๋ๆ พร้อมคนตัวเท่ามด ^^

สวยมากครับ ตามไปเที่ยวด้วยครับ

สมควรแก่เวลาแล้ว เราก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับไปที่รร. ไปเอากระเป๋าเดินทาง ลากกันปุเลงๆไปที่สถานีรถไฟเตรียมไปฟลอเรนซ์กันต่อค่ะ

นาทีนี้ร่างกายจะมาสะเงาะสะแงะไม่ได้ 555 กระเป๋าเราหนักซัก 20 โลได้ เราถือว่าเป็นคนตัวเล็ก (จริงๆคือเตี้ยนั่นแหละ) แต่ทริปนี้ทำให้เราแข็งแรงขึ้นจริงๆ ฮ่าๆๆ

กระเป๋าเรายกเองหมด ขึ้นลงบันได รถไฟอะไรแบบนี้เรายกเอง ฝรั่งที่เห็นยังแอบมองแล้วอมยิ้ม 555

ขั้นตอนการซื้อตั๋วที่เราใช้เดินทางระหว่างเมืองในอิตาลี

2. ใครยังไม่ได้สมัครสมาชิกก็สมัครให้เรียบร้อย (เราจำไม่ได้ละว่ามันต้องสมัครก่อนหรือเปล่า ถึงจะซื้อตั๋วผ่านเนทได้) แต่เราจำได้ว่าเรา Login ทุกครั้งก่อนซื้อตั๋ว

3. Login เรียบร้อย ก็เลือก Reservation: Buy Ticket
* ปกติแล้วเราจะตรวจสอบเวลากับขบวนรถก่อนที่จะ Buy Ticket ซึ่งไปเลือกที่ Timetable and Purchasing ได้เลยค่ะ

4. เกร็ดเล็กๆน้อยๆคือ เราวางแผนค่อนข้างแน่นอนได้เร็ว เราก็เลยเลือกที่จะซื้อตั๋วไปเลย เพราะมันจะมีราคาแบบ Mini ซึ่งถูกกว่าราคาปกติอยู่มากทีเดียว (แอบงกนั่นเอง)

ดังนั้นส่วนใหญ่การเดินทางระหว่างเมือง หรือประเทศ เราจะจองตั๋วล่วงหน้าไว้แล้วทั้งสิ้น ซึ่งประหยัดไปได้เยอะเลย

5. ตั๋วที่ซื้อผ่านเวบของอิตาลี สามารถปริ้นนำติดตัวไปด้วยได้เลย และใช้ขึ้นรถไฟได้เลยนะคะ ไม่ต้องทำการ Valid ตั๋วก่อน หน้าตาเป็นประมาณนี้ค่ะ

รถไฟที่ยุโรปนี่น่านั่งจริงๆ

อิอิ นั่งรถไฟมาได้อึดใจใหญ่ๆ ก็มาถึงฟลอเรนซ์ซะที

ฮ่าๆ ตามเดิมพอตั้งหลักได้ ก็ยืนหมุนๆเคว้งๆอยู่พักนึง สุดท้ายก็หารร.เจอจนได้

เราใช้วิธียืนเฝ้ากระเป๋า แล้วให้สามีเดินไปดูว่ามันใช่หรือเปล่า จะได้ไม่ต้องลากกระเป๋าให้เหนื่อยทั้งคู่ พอใช่ก็ค่อยลากกระเป๋าตามไป อิอิ

รร.ที่อิตาลีที่จองๆไปส่วนใหญ่ไม่มีลิฟท์ T_T นั่นแปลว่าเราต้องยกกระเป๋าขึ้นไปเอง กล้ามขึ้นก็คราวนี้ละค่ะ 555

หลังจากไปแฮ่กๆยกกระเป๋ากันมา .. ถึงซะทีห้องพักคืนนี้ เฮ้อออ
ห้องโอเคล่ะ ซุกหัวนอนได้ แต่เป็นห้องน้ำรวม งิงิ

ช่วงที่ไปนี่อากาศค่อนข้างเย็น ซึ่งสารภาพว่าเราอาบแค่ตอนเย็น 555 ตอนเช้าไม่ได้อาบ ก็อาศัยอ่างล้างหน้าในห้องนอนนี่แหละ ล้างหน้าแปรงฟัน ก็สะดวกดี ไม่ต้องออกไปข้างนอก

* บางที่เจ้าของหรือพนักงานของรร.นั้นๆก็ช่วยยกกระเป๋าให้ แต่บางที่ก็ต้องบริการตัวเองค่ะ ไม่มีช่วย

เก็บข้าวของ ล้างหน้าล้างตากันเสร็จแล้ว ก็ออกมาเดินเล่นกันค่ะ แต่แดดเวลานี้ไม่อำนวยเอาซะเลย (ประมาณ 4 โมงเย็น)

เพราะมันทำให้สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไป โดนเงาแดดเต็มๆ T_T

การเที่ยวในฟลอเรนซ์ ก็ใช้วิธีเดินเอาทั้งหมด แต่ถึงวันนี้เราเริ่มทนได้มากขึ้น 555

แต่การเดินเที่ยว .. มันเป็นอะไรที่ได้บรรยากาศจริงๆนะคะ ได้เห็นวิถีชีวิตของคนที่นั่น วิถีชีวิตของคนที่มาเที่ยวเหมือนกันกับเรา และ Feeling ของความมั่วๆ มึนๆ หลงทาง อะไรแบบนี้ มันมีสีสัน

เดินมาเรื่อยๆ ก็มาเจอ Duomo in Florence แต่โดนเงาบังไปหน่อยนึง

ด้านข้างที่โดนแดดแจ๋ๆสาดเข้าไป .. กับอีกส่วนที่โดนเงาบัง เฮ้อออ

ทุกเม็ด .. เก็บรายละเอียดได้สุดยอดจริงๆ

ใครเป็นใครไม่รู้เหมือนกัน .. แต่ดูแล้วทึ่ง

อิอิ เดินผ่านร้านขนม .. แต่เห็นราคาแล้วไม่ไหว
บวกกับไม่รู้สึกอยากกิน .. เก็บตังค์ไว้กินไอติมดีกร่า ^^

เราไม่ได้เดินไปดู David ตัวจริง เลยเอา David ตัวปลอมมาฝากแทน อิอิ

เดินมาถึง Ponte Vecchio แดดแจ๋ดแจ๋ได้อีก 555 เริ่มร้อนนิดๆฮ่ะ

ดูกันใกล้ๆ แอบมีต่อเติมบ้านยื่นออกมากันเต็มไปหมดเลย

ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ...ข้อมูลดีมากเลยครับ...ขอบคุณนะครับ

แอบเห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นๆขึ้นไปนั่งชิวบนขอบซีเมนต์ เลยเอาบ้าง สามีช่วยอุ้มขึ้นไปให้ 555 ทุลักทุเลพอสมควร เอิ๊กๆ

สังเกตว่ารองเท้านี่กลายเป็นอีแตะไปแล้ว อิอิ บอกแล้วว่าเดินเยอะ เจ็บนิ้วก้อยเลย T_T

อิอิ เราอยากอ่านรีวิวของคุณ ฟองสบู่ ที่ไปออสเตรียมากๆ แต่สงสัยต้องรีวิวของตัวเองให้เสร็จก่อน 555

ขอบคุณนะคะ คุณ mordek1 อันไหนผิด ช่วยบอกด้วยนะคะ คือมันเลือนลางไปตามกาลเวลาบ้างไรบ้างแล้วเหมือนกัน 55

ตอนนี้ประมาณทุ่มกว่าแล้ว แต่ดูฟ้าสิ จ๊ากกกก สว่างได้อีก ถ้าไม่ได้ดูนาฬิกานี่จะรู้ไหมเนี่ย???

Palazzo Pitti ลานด้านหน้ามีคนมานั่งพักเต็มเลย อากาศดี ลมเย็น เราก็ถือโอกาสนั่งพักเหมือนกัน ด้านหน้ามีก๊อกน้ำดื่ม เติมน้ำกินได้เลยนะคะ ไม่ต้องแช่ตู้เย็น เราก็ได้กินน้ำเย็นกันแล้ว ฟรีด้วย สะอาดด้วย

ดังนั้นไปเที่ยวแบบนี้ สิ่งสำคัญคือกระบอกน้ำ จะใช้เป็นขวดพลาสติกก็ได้ หรืออย่างเรา เราเอากระติกน้ำเก็บความเย็นไป เลือกเอาที่ไม่หนักนะคะ ทีนี้ก็พกกันคนละกระติก เดินเยอะๆแบบนี้ได้กินน้ำเย็นๆ สดชื่นดีนักแล

ขากลับเดินกลับมาทางเดิมค่ะ เห็นฟ้ายังไม่มืด แถมมีนักแสดงเปิดหมวกมาเล่นเพลงเพราะๆให้ฟัง อากาศเย็นๆ สุดยอดไปเลย

คือนักแสดงเปิดหมวกที่เราเจอตอนไปเที่ยวนี่แบบว่าไม่ใช่ไก่กาเลยนะคะ เสียงดี เล่นแบบจริงจัง เพราะมากด้วย

คุณไข่เค็มเริ่มลับขอบฟ้าไปแล้ว .. มุมนี้ถ่ายจากบน Ponte Vecchio ค่ะ
อันนี้ก็ต้องแทรกแซงเข้าไปถ่ายเช่นกัน เพราะคนเยอะมว๊ากก

บรรยากาศเริ่มมืดแล้ว .. ท้องก็เริ่มร้องแล้วด้วย
เดินเยอะขนาดนี้ .. มีเหรอจะไม่หิว แหะๆ

หิวๆแบบนี้ อากาศเย็นๆแบบนี้ ได้ราเมงร้อนๆ คงจะดีไม่น้อย
เราก็เลยใช้ iPad ให้เป็นประโยชน์อีกเหมือนเดิม

หาร้านอาหารจาก Offline Map ที่เราลงไว้ใน iPad สุดท้ายหวยมาออกที่ร้านนี้ค่ะ คนเยอะใช้ได้ มีทั้งฝรั่ง ทั้งเอเชียอย่างเราๆ

ถึงกับต้องยืนต่อคิวกันเลยทีเดียว ราเมงเค้ารสชาตดี ไม่รู้เพราะเราหิวหรือเปล่า 555 แต่จริงๆมันก็อร่อยละนะ

ลา Day2 ไปด้วยประการละฉะนี้ ส่วนตัวเราไม่ค่อยอินกับฟลอเรนซ์เลยแฮะ เป็นเมืองเดียวที่เราจำไม่ค่อยจะได้ว่ามันมีจุดเด่นอะไรยังไง แหะๆ

ตอนต่อไปจะพาไปเที่ยว Pisa กันแต่เช้านะคะ แล้วบ่ายๆกลับมาเดินเล่นพักผ่อนที่ฟลอเรนซ์เตรียมเก็บกระเป๋าไป Venice กันค่ะ

รูปสวยมากเลยค่ะ ข้อมูลเป็นประโยชน์มากๆ
รอดู ปิซ่า กับเวนิซ อยู่นะคะ

ตามไปเที่ยวด้วยคน ภาพสวยมากค่ะ

แวะมาเซฟข้อมูลเช่นเคยพร้อมช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ค่ะ
รีวิวเซตนี้รายละเอียดเยอะดี ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์

คู่เรากำลังเตรียมไปอิตาลีช่วงต้นเดือนสิงหาค่ะ
จองตั๋วรถไฟผ่านเวปTrenitalia ได้โปรของminiเช่นกัน ไม่ได้สมัครสมาชิกแต่ก็ซื้อตั๋วออนไลน์ได้นะคะ
นี่กำลังลุ้นว่าพวกห้องโรงแรมที่จองผ่านเนตไปในแต่ละเมือง เจอสภาพห้องจริงจะเป็นยังไง ..

ปล. เจ้าของกระทู้แต่งตัวสีเจ็บดีมาก สดใสดีค่ะ เขียว ฟ้า เหลือง ชมพู ^^

ชอบบริเวณ Ponte Vecchio ในคห.46 ยามเย็นนี่มากที่สุดเลยครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

อยู่เป็นเพื่อนกันไปจนจบนะค๊า คุณ snuffle, เอื้องเหมย
คุณ MollyJinx 555 บางวันเรารู้สึกว่า นี่เราเป็นนกแก้วหรือเปล่าเนี่ย แต่ถ่ายรูปออกมาก็แจ๋ดแจ๋ดี เอิ๊กๆ
คุณ Destiny-Boy ตอนไปยืนอยู่ตรง Ponte Vecchio ไม่รู้มันเป็นยังไง บรรยากาศมันโอเคมากๆ โรแมนติก เย็นๆ คลาสสิค มีเพลงคลอ โอยย อยากไปอีก ^^

ขอบคุณที่ช่วยกันเก็บเข้าคลังกระทู้นะคะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวรูปสวยๆค่ะ ช่วยเก็บเข้าคลังกระทู้ไว้ให้นะคะ เด็กหญิง

ขอบคุณมากค่ะ รูปสวยมากเลย

อยากไปมั้งจัง

มาคิดถึงฟลอเรนซ์ด้วยค่ะ....

ได้เข้าไปเยี่ยมหลุมฝังศพกาลิเลโอ และเข้าไปชมภาพสวยๆ ในพิพิธภัณฑ์รึเปล่าคะ

รูปสวยจังคะ ขอบคุณจขกท. สำหรับรีวิวงามๆๆคะ

กว่าจะได้ตามมาเที่ยว ตกรถไปหนึ่งวัน 5555
รูปสวยมากๆ ครับ ช้อบบ ชอบบ :D

ที่วาติกันสวยมากๆเลยค่ะ จากเดิมที่ไม่ค่อยสนใจโรมกับวาติกัน เห็นรูปแล้วชักเปลี่ยนใจ อยากไปบ้างซะแล้ว

ตอนไปเที่ยวเราก็ตั้งใจว่าจะตื่นเช้าๆจะได้รีบออกไปเที่ยว แต่พอเอาเข้าจริงๆตื่นประมาณ 9 โมงเช้า กว่าจะได้ออกจากโรงแรมก็ 11 โมงแล้ว
แถมยังต้องแวะทานอาหารกลางวันก่อนอีก สรุปกว่าจะได้เริ่มเที่ยวก็หลังเที่ยงเป็นต้นไปค่ะ รู้สึกไม่คุ้มเลยเนอะ มัวแต่นอน

ตามมาเที่ยววาติกันด้วยคนครับ ^_^

รูปสวยมากค่ะ ^^
ขนาดในวาติกันถ่ายด้วยกล้อง compact นะเนี่ย.. ฝีมือจริงๆ

ขอบคุณมากๆ สำหรับข้อมูล กำลังจะไปอิตาลีเดือนกันยานี้
เล็งตั๋ว mini อยู่เหมือนกันค่ะ ราคาที่ซื้อในเว็บนี่เราไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกใช่มั้ยคะ
ถือใบที่พริ้นต์นี้ขึ้นรถไฟได้เลย?

เห็นคุณ rutto-chan มาถามเรื่องจองตั๋วที่เวบ Trenitalia เลยขอทำละเอียดหน่อยเลยแล้วกันนะคะ เพื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆไปด้วยเลย

เข้าไปที่เวบ Trenitalia จะเห็นหน้าจอตามรูป ให้ระบุ From - To ตามที่ต้องการ

แล้วระบุวันที่ และเวลาที่ต้องการ (Hour*)

จะ One Way หรือ Return (ไป-กลับ) ก็เลือกไปค่ะ

โดยปกติแล้วเราซื้อแค่ One Way เพราะไม่รู้ว่าจะเที่ยวเสร็จกลับมาเมื่อไหร่ อิอิ ระบุเสร็จแล้วกด SEND โลดค่ะ

* Hour บางทีเราไม่รู้เวลาเป๊ะๆ แต่รู้ว่าเราจะออกจากสถานีนั้นประมาณกี่โมง สมมติจะออกก่อน 8 โมง ก็ลองใส่ไป 7 เวบมันจะได้แสดงรอบรถไฟตั้งแต่ 7 โมงเป็นต้นไปให้ค่ะ (ถ้ามี)

ถ้าไม่มี มันก็จะโชว์รอบที่เร็วที่สุดให้ค่ะ

เวบจะแสดงรอบรถไฟมาให้ พร้อมรายละเอียดตามรูปเลยค่ะ ทีนี้เราก็เลือกไปว่าจะไปรอบเวลาไหน

*** ดูสถานีให้ดีๆนะคะ บางเมืองมันก็มีหลายสถานี ก็ต้องดูว่าที่ที่เราจะไป มันใกล้สถานีไหนมากสุด

อย่างอันนี้เราจะไป Firenze S. Maria Novella เราก็ต้องรู้นิดนึงว่าในเวบบางทีมันจะย่อเป็น Firenze SMN เป็นต้นค่ะ

จริงๆเราก็ไม่ค่อยรู้หรอก อาศัยว่าหาไปเรื่อยๆจะรู้ไปเองว่ามันเรียกว่าอะไร หรือเอาเร็วก็ต้องเปิด Google Map แล้ว Zoom ลงไปดูค่ะ ส่วนใหญ่จะมี

พอเลือกเสร็จปุ๊ป ก็กด CONTINUE โลดค่ะ

หน้านี้จะแสดงราคามาให้หลายๆแบบ กรณีที่จองล่วงหน้านานๆ ซัก 2 เดือนอัพ ส่วนใหญ่ระยะทางไกลหน่อย จะมีราคาแบบ MINI ให้เลือกบ่อยๆ

สังเกตว่าราคาจะถูกกว่าราคาแบบอื่น .. แต่เท่าที่เคยอ่าน จะ Non-Refundable นะคะ และต้องจองล่วงหน้าด้วยซัก 2 เดือนอัพอย่างที่บอกด้วย ถึงจะมีให้เลือก

ก็ระบุไปว่า Adult หรือ Children กี่คน ซื้อได้เยอะสุดต่อครั้ง น่าจะ 5 ใบค่ะ
จะซื้อ Class ไหน ของเราซื้อ 2nd Class ทั้งหมดค่ะ เพราะแค่ 2nd Class ก็โอเคแล้วล่ะ ประหยัดๆๆ

1. ระบุว่าจะเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง (Window) หรือจะตรงกลาง (Median) หรือจะริมทางเดิน (Corridor)

ด้านล่างที่เป็น Seat near to Coach .... Seat ....
อันนี้กรณีที่ซื้อแยกกัน แล้วอยากนั่งใกล้ๆกันหรือติดกัน ก็อาจจะลองระบุไปก็ได้ค่ะ ถ้ามีว่าง ระบบก็น่าจะเลือกที่นั่งที่ดีที่สุดให้

2. ระบุชื่อนามสกุล ให้ตรงกับ Passport ไว้ก่อนเป็นดีค่ะ (อาจจะโดนขอตรวจเพิ่ม จะได้ไม่มีปัญหา)

3. วิธีรับตั๋ว อันนี้แนะนำให้เลือก Option แรก สะดวกที่สุดเลยค่ะ ตั๋วจะส่งมาทาง Email แล้วปริ้นไปใช้ได้เลย

4. ถ้าไม่ได้สมัคร Member ไว้ ก็เลือก "I want to pursue the purchase w/o registering"

แล้วระบุชื่อนามสกุลอีกที พร้อมใส่ Email ให้ถูกต้อง

ตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกต้องมั้ยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น

จำนวนตั๋วที่ซื้อ + Class ที่เลือก

จากนั้นเลื่อนหน้าจอลงมา แล้วกด CREDIT CARD or PREPAID

หลังจากนั้นก็กรอกพวกข้อมูล Credit Card อะไรไป พอทำเสร็จขั้นตอนนี้ ซักแป๊บก็จะมี Email มา โดยเค้าจะส่งเป็นไฟล์ PDF มาให้

ก็จัดการปริ้นโลดเลยค่ะ เวลาใช้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ถือขึ้นรถไฟไปได้เลย

* ไม่แน่ใจว่าเสียค่าจองอีกป่าวนะคะ ถ้ามีน่าจะนิดๆหน่อยๆ

ก็ประมาณนี้นะคะ .. วิธีจองตั๋ว

รีวิวไปก็อยากไปเที่ยวอีกรอบ 5555

ขอบคุณมากๆๆ ค่า อุตส่าห์มาตอบให้อย่างละเอียดมั่กๆ น่ารักที่ซู้ด...

เข้าไปเช็ค mini offer ดูแล้วเหมือนกัน
แบบนี้ถูกกว่าที่จะซื้อตั๋ว eurailpass เยอะเลยเนอะ ^^

และดูท่าทางจะไม่ต้องเสียค่าจอง Reservation อะไรเพิ่ม
เพราะคุณ จขกท ก็ถือขึ้นไปนั่งรถไฟได้เลยนี่คะ

อ้อ... อยากถามเรื่องเอา iPad ไปใช้ด้วยค่ะ ^^ กะว่าจะเอาไปใช้เหมียนกัลล์
สงกะสัยว่าจะใช้ดู google maps ได้ยังไง ถ้าบริเวณนั้นไม่มี wi-fi (เช่นตอนที่คุณ จขกท ไป Pisa)
เราวางแผนว่าจะเช่ารถขับเที่ยวตามเมืองเล็กๆ ใน Provence ฝรั่งเศสอ่ะค่ะ

คุณ rutto-chan จริงๆแล้วการเดินทางในอิตาลี เราแนะนำว่าถ้าเที่ยวแบบทั่วๆไป ข้ามเมือง 2-3 เมืองแค่นั้น ซื้อเป็น Shotๆ ดีกว่าค่ะ ประหยัดกว่าซื้อ Eurailpass

แต่เอาเข้าจริงๆ ต้องลองคำนวณเทียบจาก Plan เที่ยวของตัวเองอะ อิอิ อาจจะเที่ยวไม่เหมือนกันไรงี้

สำหรับ iPad แนะนำให้หาโหลด App ที่เป็น Offline Map แล้วใช้เฉพาะ GPS นำทางนะคะ แต่จากปสก. ทุกเมืองที่ไป เจอสัญญาณ GPS หมด ใช้ได้หมด ยกเว้นที่ Rome ง่ะ

ปล. จำชื่อ App ไม่ได้แล้ว ไว้ไปดูที่บ้านให้นะคะ

ขอบคุณล่วงหน้านะค้าาาา
น่ารักที่สุด คุณพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง ^_^

ขอบคุณมากค่ะ วิธีจองตั๋วชัดเจนมากค่ะ คลำๆมาตั้งหลายวัน ช่วยได้เยอะเลย >__<

คุณ rutto-chan เรายังไม่ได้ดู App iPad ให้เลย งื่อ แอบลืม

เหอๆ คิดอยู่เหมือนกันว่าคุณคงลืม...
อิอิ

สวยมากๆเลยครับว่าจะไปปีหน้าอยู่ route เดียวกันเลย อยากสอบถามครับ

การซื้อตั๋วรถไฟใต้ดิน+ค่าเข้าชมmuseum เท่าไหรเหรอครับ พอดีกำลังลังเลใจเรื่อง ROMA PASS ครับ เพราะ ฟรี museum 2 ที่ และ Metro bus เรือ ฟรี 3 วันครับ 25 EUR

อ๊าวคุณ dryot มาถามไว้ในนี้ด้วยหรอคะ 55 ตอบหลังไมล์ไปแล้วเนอะ ^^