สวัสดีครับ มาพบกันกับตอนที่สองสำหรับทริปญี่ปุ่น ตะลุยกรุงโตเกียวหลังสึนามิ โดยสายการบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ซึ่งเนื้อหากระทู้ทั้งหมดเป็นแบบ Beginner เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาโอกาสไปญี่ปุ่น และอยากจะเดินทางด้วยตนเองเป็นครั้งแรก
แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เคยไปญี่ปุ่นขั้นเทพ หรือเคยมาแล้วมากกว่า 2 ครั้งเพราะท่านอาจจะเบื่อก็เป็นได้ครับ ทั้งนี้ผมพยายามเขียนกระทู้จากความรู้สึกในครั้งแรกที่เดินทางไปญี่ปุ่นเมื่อช่วงซากุระปีที่แล้ว ข้อมูลในหัวไม่ได้มีมาก และก็ต้องอาศัยรีวิวจากรุ่นพี่ๆ ต่างๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งรีวิวต่างๆ ก็นำเสนอเรื่องราวได้ดีมาก แต่ก็มีบางอย่างที่ผมอยากรู้แต่ต้องไปรู้เอาเองที่นั่นครับ
สำหรับตอนแรก การเดินทางแบบอ้อมๆ จากเชียงใหม่มาจนถึงฮาเนดะ และวิธีการเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟสู่ใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งผมต้องขอขอบพระคุณสำหรับ กำลังใจ และทุกความคิดเห็น ที่ได้แวะเข้ามาในกระทู้ครับ แวะตามไปได้อ่านที่นี่ได้เลยครับ
[CR] Welcome back to Tokyo !! : ตอนที่ 1 บินสุดคุ้มกับ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ สู่ ฮาเนดะ เข้าเมืองสะดวก พักผ่อนสบายใจกลางกรุง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10738093/E10738093.html
สำหรับเนื้อหาในกระทู้นี้ อาจจะค่อนข้างยาวหน่อยนะครับ เพราะผมรวบทริป 2 วันเป็นกระทู้เดียวเพื่อเนื้อหาสาระที่เต็มเปี่ยมมากยิ่งขึ้นครับ กลายเป็นกระทู้รวมมิตรเที่ยวเองในโตเกียวซะเลย เห็นแบบนี้อัดวันเดียวไม่ได้นะครับ ต้องแบ่งเป็น 2 วันกำลังสบายๆ ครับ ไม่งั้นจะชะโงกทัวร์เกินไป
สำหรับกรุงโตเกียว ก็มีจุดที่สำคัญๆ มากมายที่ไม่ควรพลาดครับ เอาแบบเน้นๆ เลยแล้วกันนะครับ แบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้ (จริงๆ อาจมีเยอะกว่านี้ แต่ผมนึกได้แค่นี้ เอาที่เด่นๆ ไปกันเยอะๆ)
ย่านช๊อปปิ้ง ย่านธุรกิจสำคัญ อาหารการกินเพียบ คนเยอะมาก
- Shinjuku (JR / Tokyo Metro / Toei / Odakyu ไป Hakone)
- Shibuya (JR / Tokyo Metro / Tokyu ไป Yokohama)
- Ginza (Tokyo Metro Ginza)
- Roppongi Hills (Tokyo Metro / Toei Roppongi)
- Akihabara (JR Akihabara / Tokyo Metro Suehirocho)
- Ikebukuro (JR / Tokyo Metro / Toei)
- Odaiba (**อันนี้ขอยกให้เป็นอีกกระทู้หนึ่งเลยนะครับ)
ตลาดสดและที่ซื้อของฝาก
- ตลาดปลา Tsukiji (Tokyo Metro Tsukiji/ Toei Tsukijishijo)
- ตลาดอาเมโยโก (อยู่ระหว่างสถานี JR Ueno กับ Okachimachi / Tokyo Metro Ueno-Okachimachi)
- วัด Senso-ji (วัดอาซาคุซะ) (Tokyo Metro/ Toei/ Tobu Asakusa)
วัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ และสวนสนุก
- วัด Meji Jingu (JR Harajuku/ Tokyo Metro Meijijingumae) ป่ากลางกรุง
- สวนสาธารณะอุเอโนะ รวมพิพิธภัณฑ์มากมาย วันเดียวเที่ยวก็ไม่ครบ หากเป็นคนสนใจด้านพิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงสวนสัตว์อุเอโน๊ะ ก็อยู่ละแวกเดียวกันหมด (ปกติถ้ามาช่วงซากุระก็ต้องมาดูที่นี่ สวยมากๆ)
- โตเกียวดิสนีย์แลนด์ / โตเกียวดิสนีย์ซี (Disney Resort Line) สำหรับใครที่เบื่อฮ่องกงดิสนีย์แลนด์แล้ว จะมาที่โตเกียวดูก็ได้ เพราะเห็นว่าอลังการและใหญ่กว่ากันเยอะ
ภาพประกอบ วิวกรุงโตเกียว และ Tokyo Tower ยามค่ำคืน
จากยอดตึก Roppongi Hills ชั้น 52 ครับ
[4 ก.ค. 54 02:18:39
]
ก่อนอื่น มาเริ่มที่คำถามยอดฮิตของช่วงนี้กันก่อนครับ
## ญี่ปุ่นไปเที่ยวได้จริงๆ หรือ ?? ##
จากรายการท่องเที่ยวของคุณณวัฒน์ ที่ออกอากาศไปเมื่อหลายคืนก่อน ทำเอาหลายๆ คนรู้สึกเป็นกังวลกับทริปญี่ปุ่นขึ้นมาไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว จนทำให้มีหลายกระทู้เอ่ยถึงว่า เราไปเที่ยวญี่ปุ่นได้จริงๆ หรือ แล้วจะเป็นอะไรไหม ?
ผมคิดว่า สิ่งที่หลายๆ คนเป็นห่วงเวลาที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นตอนนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง "กัมมันตภาพรังสี" และเรื่อง "แผ่นดินไหว" ซึ่งทั้ง 2 เรื่องเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ อย่างเรื่องแผ่นดินไหว หลายๆ ท่านก็คงจะเคยเห็นคลิ๊ปและวิธีการป้องกันตนขณะที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวแล้ว (อาทิเช่น ให้มุดไปอยู่ใต้โต๊ะ หรือ ห้ามใช้ลิฟท์ ห้ามวิ่งออกมาที่แจ้ง ฯลฯ ซึ่งสามารถหาข้อมูลเตรียมความพร้อมกันได้มากมาย) แต่เรื่องกัมมันตภาพรังสีนี่ หลายๆ ท่านกลัวว่า ไม่เห็นผลตอนนี้ แต่ไปเห็นผลอีก 5-10 ปีจะทำอย่างไรกัน .....
แน่นอนว่า เมืองฟูกูชิม่า ที่มีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ต้นเหตุตั้งอยู่ จะอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 260 กิโลเมตร จากข่าวจะพบว่ามีการตรวจวัดระดับรังสีตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงโตเกียว ดังนั้นผมจึงขออนุญาตอธิบายเรื่องระดับรังสีคร่าวๆ นิดนึงนะครับ (จะสารภาพว่า ตอนที่ผมเรียนสัตวแพทย์ปี 5-6 ผมไม่ถูกกับวิชาเอ๊กซ์เรย์อย่างแรง พอขึ้นคลินิคไปฝึกที่ห้องเอ็กซ์เรย์ เป็นอะไรที่เครียดมาก แบบว่าผมตอบอาจารย์ไม่ค่อยได้หน่ะครับ แต่ตอนทำงานต้องได้ใช้ครับ) หากข้อมูลผมผิดพลาดแย้งได้นะครับ
ระดับรังสีปกติๆ
ตามมาตรฐานที่คนทั่วๆ ไปจะรับกัน "ต่อหนึ่งปี"
คือ 1 มิลลิซีเวิร์ต (Millisieverts - mSv)
โดย 1 มิลลิซีเวิร์ต = 1,000 ไมโครซีเวิร์ต (Microsieverts uSv)
(เทียบหน่วยแบบเคมี ม.ปลาย ระวังสับสนระหว่างมิลลิกับไมโครนะครับ) ทั้งหมดเป็นค่าสะสม ต่อ 1 ปี แต่ค่ารังสีจริงที่คนทั่วโลกได้รับจริงเฉลี่ยต่อปี ได้รับกันไป 2.4 มิลลิซีเวิร์ต (2,400 ไมโครซีเวิร์ต) จากกิจวัตรประจำวันทั่วๆ ไป
จากภาพตารางแผนภูมิด้านล่างนี้ ได้อธิบายถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากกัมมันตภาพรังสีครับ
สำหรับค่าสูงสุดที่ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับรังสีทั้งปี จะต้องได้รับรังสีไม่เกิน 50 มิลลิซีเวิร์ต/ปี (50,000 ไมโครซีเวิร์ต) หรือถ้ารวม 5 ปีแล้วจะต้องไม่เกิน 100 มิลลิซีเวิร์ต/5 ปี (100,000 ไมโครซีเวิร์ต) ตามมาตรฐาน ICRP Publication 60 ส่วนขนาดที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนดไว้ว่าต้องตรวจสอบสถานประกอบการที่มีเครื่องกำเนิดรังสี เมื่อพนักงานผู้เกี่ยวข้องได้รับรังสีรวมแล้วมากกว่า 4 มิลลิซีเวิร์ต/เดือน ( 4,000 ไมโครซีเวิร์ต)
อย่างอันตรายที่จะเริ่มเกิดขึ้นกับตัวแบบมีอาการให้เห็น คือ คนที่ได้รับรังสีขนาด 150 มิลลิซีเวิร์ต (150,000 ไมโครซีเวิร์ต) จะมีอาการคลื่นไส้วิงเวียน และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดสติ เมื่อได้รับรังสีขนาด 10,000 มิลลิซีเวิร์ต (10,000,000 ไมโครซีเวิร์ต) หรือ 10,000 เท่าจากขนาดปกติที่ได้รับตลอดทั้งปี และที่หนักสุดคือ รังสีทำลายทั้งร่างกาย เสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง ที่ระดับรังสี 50,000 มิลลิซีเวิร์ต (50,000,000 ไมโครซีเวิร์ต)
จากข่าวเมื่อกลางเดือนมิถุนายน เรื่องทางการญี่ปุ่น ได้ติดตั้งเครื่องวัดระดับค่ารังสีในกรุงโตเกียวกระจายตามจุดต่างๆ พบว่า ณ ปัจจุบัน ค่าระดับรังสีในอากาศที่กรุงโตเกียวอยู่ที่ 0.06 0.07 ไมโครซีเวิร์ต (หรือ 0.00006-0.00007 มิลลิซีเวิร์ต) ซึ่งนับว่าห่างไกลจากระดับที่อันตรายมากพอสมควรครับ
ลองคำนวนเล่นๆ นะครับ (ผิดถูกแนะนำได้ครับ) ผมลองแปลงเป็นชั่วโมงได้ 0.000252 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง หรือ 0.006048 มิลลิซีเวิร์ต/วัน คูณตามจำนวนวันที่อยู่ในญี่ปุ่นเข้าไป เช่นอยู่ญี่ปุ่น 10 วันก็โดนไปประมาณ 0.06 มิลลิซีเวิร์ต/10 วัน หรือถ้าอยู่ทั้งปีเลย ก็โดนไป 2.207 มิลลิซีเวิร์ต/ปี ซึ่งก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติครับ
แต่สิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า "จะมีการแพร่กระจายของรังสีที่รุนแรงจากการระเบิดของโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า" ?? ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับ วิจารณญาณ ของแต่ละท่านครับว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะคงไม่มีใครรับประกันให้ท่านได้แน่ๆ ถ้าท่านยังคงกลัวไม่สบายใจ เกาะญี่ปุ่นก็ยังไม่หนีหายไปไหนครับ สามารถอ่านข้อมูลข้างล่างหรือหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้จากแหล่งอื่น ประกอบกันด้วยก็ได้ครับ อย่างข้างล่างมีเฟสบุ๊คคนที่เค้าวัดรังสีในกรุงโตเกียวกัน ลองดูประกอบกันได้ครับ (อย่างผลการคำนวณก็ใกล้เคียงกัน)
เครดิต : http://quixscience.exteen.com/20110316/entry
http://xraythai.com/webboard/index.php?action=vthread&forum=1&topic=5738
http://www.innnews.co.th/โตเกียว-วัดระดับสารรังสี100จุดทั่วเมือง--291289_04.html
http://www.เฟสบุ๊ก.com/Tokyo.Radiation.Levels
[4 ก.ค. 54 02:29:41
]
## การเดินทางในกรุงโตเกียวด้วยรถไฟฟ้า ##
ส่วนตัวผมคิดว่า รถไฟฟ้าเป็นอะไรที่เดินทางได้สะดวกที่สุดในญี่ปุ่นแล้วครับ
ด้วยเครือข่ายครอบคลุมเป็นไยแมงมุมขั้นเทพ เดินไปไหนไม่ไกลก็จะต้องพบสถานีรถไฟฟ้าใกล้ๆ ตัวในเขตใจกลางกรุง เรียกได้ว่า ถ้าหากจะมาขึ้นรถไฟญี่ปุ่นด้วยตนเอง ควรผ่านหลักสูตรสิงคโปร์ 101 ฮ่องกง 102 และ โซล 103 ก่อนจะทำให้เรียนรู้และเข้าใจระบบผังรถไฟฟ้าใต้ดินญี่ปุ่นได้มากขึ้นครับ
ลองคิดเล่นๆ นะครับ สิงคโปร์ และฮ่องกง มีรถไฟแค่ไม่กี่สาย (แต่ก็มากกว่ากรุงเทพ ซึ่งมี 2+1 สายรวมแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ตั๋วร่วมกัน) บางท่านอาจจะยังรู้สึกมึนๆ กับสิงคโปร์หรือ ฮ่องกง อยู่ ผมเลยกล้าบอกครับว่า ญี่ปุ่นยากกว่าสิงคโปร์พอสมควร แต่ถ้าค่อยๆ เรียนรู้การดูแผนผังเส้นทางรถไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการใช้เว็บ Hyperdia ( http://www.hyperdia.com/en ) ก็จะทำให้เข้าใจลักษณะการต่อรถไฟในญี่ปุ่นมากขึ้นครับ (แผนผังรถไฟฟ้ามีแจกฟรีอยู่ทั่วไปในสถานีของ Tokyo Metro ทั้งเวอร์ชั่น Eng และญี่ปุ่น)
ในใจกลางกรุงโตเกียว มีรถไฟอยู่ 3 เจ้าใหญ่ๆ
นั่นก็คือ บริษัท JR-EAST, บริษัท Tokyo Metro และ Toei แต่ละเจ้ามีทางรถไฟและสถานีเป็นของตนเอง (บางเส้นทางอาจจะมีขบวนเจ้าอื่นวิ่งร่วมมาด้วยเช่น Tobu ใน Tokyo Metro สาย Hibiya Line)
## บัตรรถไฟฟ้าแบบบุฟเฟต์ ขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวใน 1 วัน ##
อย่างที่ท่านทราบกันว่า ที่ฮ่องกงจะมีบัตร Tourist Pass ราคา 55 HKD ขึ้นรถไฟฟ้า MTR แบบบุฟเฟต์ได้ตลอดทั้งวัน (นับ 24 ชั่วโมง) ที่ญี่ปุ่นก็มีเหมือนกันครับ (นับสิ้นสุดแค่เที่ยงคืนเหมือนบุฟเฟต์ BTS) แต่จะเป็นแพคเกจดังนี้
Tokunai Pass (Tokyo Metropolitan District Pass -- บุฟเฟต์ เฉพาะ JR) = 730 เยน (สำหรับเด็ก 360 เยน)
Tokyo Metro 1-day open Ticket = 710 เยน (เด็ก 360 เยน)
Tokyo Metro + Toei 1-day Ticket = 1,000 เยน (เด็ก 500 เยน)
Tokyo Metro + Toei + JR 1-day Ticket = 1,580 เยน (เด็ก 790 เยน) (Combo Set)
สามารถซื้อได้ตามสถานีของ JR / Tokyo Metro / Toei ได้เลยครับ (ซื้อกับตู้อัตโนมัติก็ได้)
รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากลิ๊งค์นี้ครับ
http://www.tokyometro.jp/en/ticket/value/1day/index.html
## สำหรับท่านที่ซื้อบัตร Japan Rail Pass ไว้แล้ว ##
ถ้าหากวันที่อยู่แค่ในโตเกียว ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานบัตร Japan Rail Pass ครับเพราะจะไม่คุ้มอย่างแรง (บัตรนี้จะคุ้มสุดก็ต่อเมื่อเดินทางโดยรถไฟชินกังเซ็นครับ)
อีกทั้ง เครือข่ายของ JR ในกรุงโตเกียว ก็ไม่ได้ครอบครุมอะไรมากเลย เวลาเดินทางจริงก็ต้องใช้เครือข่ายของ Tokyo Metro หรือ Toei มาด้วยจึงจะไปถึงปลายทางครับ รูปภาพแสดงเครือข่ายของ JR ในเขตกรุงโตเกียว และระยะทางที่สามารถใช้ Tokunai Pass หรือบัตร JR แบบบุฟเฟต์ในโตเกียวได้นั่นเอง
[4 ก.ค. 54 02:45:53
]
## จะซื้อตั๋วแบบบุฟเฟต์ หรือซื้อแยกเป็นรายครั้งดี ?? ##
หลายๆ ท่านอาจจะเคยคิดว่านั่งแบบบุฟเฟต์แล้วจะคุ้ม อย่าลืมพิจารณาดีๆ นะครับว่าใน 1 วันเราจะไปไหนได้บ้าง ลองเปิด Hyperdia เปรียบเทียบราคาวิธีการเดินทางดูก่อนก็ได้ว่า จากไหนไปไหน วิธีการไหนจะประหยัดกว่ากัน
ตัวอย่างเช่น ... บางเส้นทาง JR เร็วกว่าและถูกกว่า แต่บางเส้นทางของ Tokyo Metro อาจจะถูกกว่าและไปได้เร็วกว่าของ JR ส่วนของ Toei นั้นราคาเค้าค่อนข้างจะสูงกว่าเจ้าอื่นครับ ราคาเริ่มต้นก็ 190 เยนเข้าไปแล้ว บางทีก็อาจจะไม่ได้ใช้ Toei เลยก็ได้ ถ้าคิดว่าจะเดินทางโดยใช้ Tokyo Metro เป็นหลัก จะซื้อแบบบุฟเฟต์ก็ได้ครับ เพราะราคาเริ่มต้นของ Tokyo Metro ก็ 160 เยนแล้วเช่นกัน แต่ข้อจำกัดสำคัญก็คือ ตั๋วบุฟเฟต์จะใช้ได้เฉพาะวันนั้นนะครับ ไม่ได้นับข้ามวันเป็น 24 ชั่วโมงแบบ MTR ฮ่องกง
## เดินทางไปเที่ยวจากที่พัก ##
เอาหล่ะครับ เนื่องจากผมพักที่ย่าน Akihabara ที่โรงแรม Hotel MyStays Ochanomizu อย่างที่บอกว่ามีสถานีรอบๆ อยู่ประมาณ 5 สถานี เลือกได้ตามใจชอบว่าถ้าไปไหนแล้วถูกกว่า ก็ขึ้นของเจ้านั้นได้เลย
ตัวอย่างเช่น .... เดินทางจากโรงแรมไป
- Akihabara เดินไปได้ประมาณ 5-10 นาทีถึง เข้าร้านรวงช๊อปปิ้งตามใจชอบ
- Asakusa เดินไปขึ้น Tokyo Metro สายสีส้ม ที่สถานี Kanda สุดสาย Asakusa
- Ginza ขึ้น Tokyo Metro สายสีแดงที่สถานี Awajicho ลงที่ Ginza ได้เลย
- Roppongi ขึ้น Tokyo Metro สายสีแดงที่ Awajicho ไปเปลี่ยนขบวนรถที่สถานี Kasumigaseki เป็นสายสีเทา ลงที่ Roppongi
- Shibuya ขึ้น Tokyo Metro สายสีแดงที่ Awajicho ไปเปลี่ยนขบวนรถที่สถานี Akasakamitsuke เป็นสายสีส้ม ไปลงที่ Shibuya ได้เลย
- Harajuku ขึ้น Tokyo Metro สายสีแดงที่ Awajicho ไปเปลี่ยนขบวนรถที่สถานี Kasumigaseki เป็นสายสีเขียว ลงที่ Mejijingumae ตรงนั้นหล่ะคือ Harajuku
- Shinjuku ขึ้น JR ที่ JR Ochanomizu ขึ้นสาย JR Chuo Line ด่วนพิเศษถึง JR Shinjuku ใน 10 นาที (แวะแค่สถานี Yotsuya สถานีเดียวเท่านั้น รถไม่แวะสถานีเล็ก)
- Tsukiji ขึ้น Tokyo Metro สายสีแดง ไปเปลี่ยนขบวนรถที่ Ginza เป็นสายสีเทา แล้วไปลงที่ Tsukiji ได้เลย (อาจจะเดินไกลกว่าสถานี Toei Sukijishijo ซักหน่อย แต่ต่อรถสะดวกกว่า)
สายสีส้ม = Tokyo Metro Ginza Line
สายสีแดง = Tokyo Metro Marunouchi Line
สายสีเทา = Tokyo Metro Hibiya Line
สายสีเขียว = Tokyo Metro Chiyoda Line
[4 ก.ค. 54 02:56:29
]
วันแรก เริ่มต้นที่ ...
-- Akihabara
-- Ginza
-- ตลาดอาเมโยโก
-- ร้าน 100 เยน (ตรงข้ามสถานี JR Ueno) (100 เยน = 38 บาท)
-- วัดอาซะคุซะ
ภาพล่างจะเป็นแผนที่อาณาบริเวณโดยรอบของที่พักครับ
ด้านบน โรงแรมจะเป็นอาคารสีเขียวๆ ตั้งอยูริมถนนที่มีทางรถไฟฟ้าสายสีแดงวิ่งผ่านอยู่ จากโรงแรม เดินลงมาทางทิศใต้นิดหน่อย ก็จะเจอสถานีรถไฟฟ้าแล้ว (สถานี Awajicho)
มุมบนขวาคือย่าน Akihabara หรือ Electric Town ใครชอบเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ เกมส์ หรือซอฟท์แวร์ หรือ ฯลฯ ต่างๆ อารมณืไปห้างพันทิพย์ ก็ต้องที่นี่หล่ะครับ ถูกใจแน่นอน อยู่ในระยะเดินได้จากโรงแรม
ส่วนสถานีกลางภาพ ที่มีลูกศรสีแดงชี้
คือ Tokyo Metro สถานี Kanda ครับ ถ้ายอมเดินมาไกลหน่อย
ก็สามารถขึ้นรถไฟสายสีส้มจาก Kanda ไปลงที่ Asakusa ได้เลยครับ สุดสายราคา 160 เยน
ด้านล่างของภาพคือสถานี JR Kanda ครับ
ถ้ากรณีจากโรงแรม ไปขึ้นที่ JR Ochanomizu จะใกล้กว่าแล้วนั่งย้อนลงมาผ่านสถานี Kanda และ Tokyo ครับ
[4 ก.ค. 54 03:09:28
]
เดินออกมาจากที่พัก เดินไปนิดหน่อย ก็ถึงแยกกลาง Akihabara แล้วครับ จริงๆ ปกติย่านนี้จะค่อนข้างคึกคักมากๆ
แต่ผมเดาว่า เพราะช่วงนี้เป็นหน้าร้อน (ร้อนเหมือนไทยเลย)
แดดก็แรง เลยทำให้คนไม่ออกมาเดินกันเท่าไหร่
สำหรับใครที่อ่านภาษาญี่ปุ่นได้ ก็อาจจะได้เปรียบ
ตรงที่บางทีจะมีคนยืนแจกใบปลิวแจ้งว่า ร้านของตนอยู่ตรงไหน
และมีโปรโมชั่นอะไรบ้าง สินค้าก็มีหลายประเภท อย่างบางคนสนใจเรื่องเกมส์ หรือเรื่องเครื่องใช้ใฟฟ้าบางประเทศ
นี่ Akihabara นี่หล่ะครับ คือ Electric Town ของโตเกียว
[4 ก.ค. 54 03:15:39
]
จาก Akihabara จะไปต่อที่ Ginza
วิธีการที่ง่าย สามารถลงใต้ดินไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม
ที่สถานี Tokyo Metro Suehirocho แล้วไปโผล่ที่ Ginza ก็ได้ครับ
ราคาเริ่มต้นที่ 160 เยน (ดูตารางรถและราคาเปรียบเทียบก่อนที่ Hyperdia ได้ครับ)
สถานี Ginza มีทั้งหมด 3 สถานีนะครับ
ตามสายรถไฟทั้งสายสีส้ม สายสีแดง และสายสีเทา มาเจอกัน
ถือวาเป็นชุมทางใหญ่ในการเปลียนสายรถไฟ
ที่ Ginza ก็มีห้างและร้านอาหารดังมากมาย
ส่วนใหญ่จะเป็นแนวของแบรนด์เนมชื่อดัง ราคาแพงละลิ่วทั้งนั้น
ซึ่งถ้าขาช๊อปเมืองไทยชอบของแบรนด์เนม น่าจะถูกใจกับที่ฮ่องกงมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ที่เป็นเทศกาล Sale ยกเกาะด้วย
เป้าหมายของเราในวันนี้คือ จะมาร้านเครื่องเขียนครับ
(เพราะคุณเธอตั้งใจว่า อยากมา อยากเห็นว่าเป็นไงบ้าง)
ผมก็เลยนึกถึงร้าน ITOYA สัญลักษณ์คลิ๊ปแดงขึ้นมา ....
เป็นร้านเครื่องเขียนที่ใหญ่มาก ... ออกตรงออก A13 เลยครับ
[4 ก.ค. 54 03:31:34
]
แวะมาปาด คู่มือท่องเที่ยว ก่อนไปนอนครับ
จากคุณ : David_kop
[4 ก.ค. 54 03:33:07
]
ตามมาเที่ยว Tokyo in a Day 
[4 ก.ค. 54 03:34:44
]
โผล่ขึ้นมาบนดินจากทางออก A13 เดินตรงไปเลยครับ
ก็จะเห็นห้างดังขายของแบรนด์เนมมากมาย
สำหรับทานทีมีเวลาและสนใจสินค้ากลุ่มนี ก็สามารถให้เวลากับที่นี่ได้เยอะครับ เพราะร้านค้ากลุ่มแบรนด์เนมเยอะจริงๆ
เจอร้านแล้วครับ ที่มีคลิ๊ปแดงๆ อยู่หน้าร้าน นั่นหล่ะใช่เลย
ที่เห็นเป็นตึกสูงๆ นั่น ชั้นบนๆ ก็ร้านเขาหล่ะครับ เป็นร้านเครื่องเขียนที่ใหญ่ ของเยอะครับ
[4 ก.ค. 54 03:35:56
]
มาทักทายตอนเช้าครับ
จากคุณ : MedicinePath
[4 ก.ค. 54 03:39:46
]
แห่ะๆ มาคู่กันเลย สีเดียวกันด้วย 
ยังไม่นอนกันเหรอครับ ตี 3 แว๊วว ผมก็แอบสับหงกไปหลายรอบครับ
เพราะตืนมาเลือกตั้งตั้งแต่ 8 โมงเช้า ตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลย แฮ่ๆๆ
ถึงคุณ Brad Pooh --> ผมว่าร้านแบรนด์เนมที่ญีปุ่น อย่างไรก็น่าจะแพงกว่าที่อื่น ตามค่าครองชีพครับ แห่ะๆๆ เหมาะสำหรับคนกระเป๋าหนักและชอบคอลเลคชั่นนั้นจริงๆ
--------------------------------------------------------------------------
สำหรับร้าน ITOYA คุณเธอก็ดูแฮปปี้ครับ ของกุ๊กกิ๊ก น่ารัก
สไตล์ญี่ปุนก็เยอะ แต่ราคาไม่ค่อยจะโดนใจเท่าไหร่
(อย่าลืมติดเครืองคิดเลขไปด้วยนะครับ แล้วก็หารด้วย 2.6 ก็จะได้เงินบาทมา เห็นแล้วก็ต้องรีบวางทันที เพราะอะไรๆ ก็แพงไปหมด)
สังเกตว่าสินค้าบางอย่าง ก็เป็นอะไรที่มีไอเดียดีครับ (น่าจะเอามาใช้ได้) อาทิเช่น พวกกลุ่มกระดาษโน๊ตต่างๆ รวมไปถึงพวกตรายาง สมุดบันทึก ฯลฯ คิดเสียว่ามาดูงาน ดูอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ น่าจะแฮปปี้กว่าครับ ถ้ากะมาซื้อต้องทำใจกับราคา และค่าเงินเยนที่แข็งพอสมควรด้วย
[4 ก.ค. 54 03:45:49
]
คิดว่าสมควรแก่เวลา และคิดว่าย่าน Ginza คงไม่ใช่แนวเราแน่ๆ
(สำหรับเรื่องแหล่งที่กินที่นี่ ลองหากระทู้อื่นๆ ดูนะครับ เห็นบางท่านเคยพาไปหาอะไรกินในย่านนี้อยู่ ร้านอาหารก็เยอะมาก อย่างห้างใหญ่ ที่ติดกับร้าน Itoya ก็มีร้านอาหารอยู่ชั้นบนเช่นกัน)
กลับมาที่ประตู A13 อีกครั้ง
คราวนี้เราจะไปเดินเล่นตลาดอาเมโยโกครับ .... ไปกินข้าวหน้าปลาดิบ
นั่งสายสีส้ม (Ginza Line) ไปลงที่สถานี Ueno-Okachimachi
[4 ก.ค. 54 03:49:59
]
สำหรับตลาดอาเมโยโก ....
ก็คือตลาดนัดที่มีของทุกสิ่งทุกอย่างขาย ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ
ส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร แต่พวกข้าวของเครื่องใช้
พวกเสื้อผ้า หรือ ร้าน Hello Kitty ก็มีที่นี่เช่นกัน
ตัวตลาดจะตั้งอยู่ระหว่างสถานี JR Okachimachi ยาวไปจนถึงสถานี JR Ueno เลยครับ เลียบทางรถไฟไป ก็เรียกได้ว่า จะลงที่ Okachimachi หรือจะลง Ueno ก็ได้เช่นกันครับ
ดูจากแผนที่ประกอบนะครับ ด้านล่างของภาพคือทิศเหนือ ด้านบนคือทิศใต้ จะหันหัวกลับด้านกัน
มุมบนขวาคือสถานี Ueno-Okachimachi ของ Tokyo Metro สายสีส้ม Ginza Line ส่วนด้านซ้ายเป็นสถานี JR และ Toei Okachimachi
ดังนั้น ถ้าเดินลงมา ทั้งหมดคือตลาดอาเมโยโก ครับ จนกระทั่งถึงด้านล่างคือสถานี JR Ueno
ส่วนด้านขวาของภาพ ที่มีทะเลสาบ คือสวนสาธารณะอุเอโนะ
ซึ่งมีทั้งพิพิธภัณฑ์ และสวนสัตว์อยู่ข้างใน ถ้าเป็นช่วงซากุระบานก็ต้องมาเดินเล่นที่นี่หล่ะครับ ตรงปากทางเข้าก็จะมีสถานีรถไฟ Keisei-Ueno ของบริษัทรถไฟ Keisei ที่ให้บริการเดินรถไฟไปสนามบินนาริตะ (เป็นคูแข่งกับ JR)
[4 ก.ค. 54 03:57:18
]
สำหรับที่นี่ ... ร้านทีผมแวะมาทานทุกครั้ง
ก็คือ ร้านข้าวหน้าปลาดิบครับ
ถ้ามาตรงกับมื้ออาหาร ร้านนี้คนจะแน่นมากๆ
แต่พอดี ตอนที่มาทานเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ แล้วก็เลยไม่ค่อยมีคน
หน้าร้านก็จะมีรูปถ่ายเมนูต่างๆ ให้เลือก จิ้มเลือกได้เลยครับ
อำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติเต็มที่ พูดญี่ปุ่นก็ไม่ใช่ปัญหา
ขอแค่มีเงิน่จ่ายเค้าก็พอครับ ราคาแต่ละเมนูเริ่มต้นที่ 500-700 เยนขึ้นไป แล้วแต่ความอลังการของเมนูที่สั่งครับ
[4 ก.ค. 54 04:00:49
]

[4 ก.ค. 54 04:05:11
]
แค่เห็นเมนูก็หิวแล้วครับ .... หลังจากสั่งอาหารก็ชำระเงินเลยครับ
แล้วก็นั่งรออาหารที่โต๊ะ ....
ด้านข้างร้านมี ทาโกะยากิขายด้วยนะครับ 4 ลูก 200 เยน
ซื้อมานั่งทานเล่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับร้านนี้ บริการชาเย็นด้วยตนเองนะครับ หยิบแก้วเปิดก๊อกรินชาเองได้เลย เติมเอง โชยุก็จัดการเองได้ตามนั้น
[4 ก.ค. 54 04:10:21
]
ถึงคุณ Brad Pooh ครับ --> จะบอกว่าตอนถ่ายรุปแทบไม่มีคน
พอเราเข้าร้านปุ๊บ ก็มีเข้ามานั่งในร้านกันพอสมควรเลยครับ (เวลาที่ถ่ายรูปคือบ่าย 3 โมงกว่าๆ จะ 4 โมงเวลาญี่ปุ่นแล้วครับ)
ตอนที่มาเมื่อซากุระปีที่แล้ว อากาศหนาว คนเต็มร้านเลยครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า คุ้มค่า ราคาถูกกว่าหลายๆ ร้านที่ตลาดปลา Tsukiji ครับ รสชาติไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ....
ปล. รู้สึกว่าร้านนี้จะเจอคู่แข่งมาเปิด ห่างออกไปประมาณ 100 เมตรครับ แต่ร้านนี้ก็ถือว่า Original คนเยอะกว่าร้านเปิดใหม่อยู่แล้ว ...
ปล. 2 ถ้วยนี้ราคา 600 เยน ก็ประมาณ 200 กว่าบาท อร่อย ปลาแซลม่อนเนื้ออย่างหวาน แผล่บๆๆ (พิมพ์ไปน้ำลายไหลไป)
[4 ก.ค. 54 04:14:00
]
ปิดท้ายด้วยทาโกะยากิ ขนมครกญี่ปุ่น มีหนวดปลาหมึกยักษ์อยู่ข้างใน ร้อนๆ ใส่ซอสและโรยกระเทียมเจียวเอาเองตามใจชอบ ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 04:16:04
]
บรรยากาศการขายของที่นี่ ก็ยังคงขายกันอย่างเต็มที่
แม้คนเดินอาจจะไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ .....
ได้เห็นความทุ่มเทของพนักงานขายญี่ปุ่นแล้วนี่ พี่ไทยอายแน่ๆ
[4 ก.ค. 54 04:24:56
]
เดินๆ ไปเจอร้าน Hello Kitty ลองเปรียบเทียบราคาถูก
หลายรายการราคาถูกกว่าทีส่งไปขายเมืองไทยนะครับ
ดังนั้น ใครที่เป็นสาวกคิตตี้ ก็เตรียมตังค์มาช๊อปคิตตี้ที่ญี่ปุ่นได้เลย
(สังเกตผลิตภัณฑ์หลายชนิด จะพิมพ์ว่า Made in China for Sale in Japan only)
[4 ก.ค. 54 04:27:07
]
มาถึงสถานี JR Ueno แล้ว ....
เดินข้ามถนนกัน ฝั่งตรงข้ามสถานีจะมีร้าน 100 เยน (38 บาท) อยู่ครับ
ย้ำว่าทั้งร้าน 100 เยนจริงๆ ก็เลยได้ทีเสียตังค์กับร้านนี้เยอะหน่อย
[4 ก.ค. 54 04:29:13
]
ความต่างของร้าน Daiso 1,000 วอน ที่เกาหลี
กับร้าน 100 เยนที่นี่ก็คือ ....
ร้าน Daiso เกาหลี มีของราคา 1,000 - 2,000 - 3,000 วอนด้วย
แล้วแต่ประเภทสินค้า แต่ของบางอย่างแพงหน่อยแต่ก็ดีมากๆ
สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ แต่ไม่ได้แจกถุงพลาสติก ต้องเตรียมถุงหิ้วไปเอง
ในขณะที่ร้าน 100 เยนร้านนี้ ทั้งร้าน 100 เยนจริงๆ จนบางอย่างตกใจว่า 100 เยนจริงๆ เหรอ เพราะของบางอย่างขายในร้านเครื่องเขียนก็แพงกว่า 2-3 เท่าเข้าไปแล้ว ก็ได้เลือกกันมากมายครับ ร้านนี้มีถุงพลาสติกหิ้วให้ แต่ชำระเงินเป็นเงินสดเท่านั้น ไม่รับบัตรเครดิตครับ
สินค้าหลายอย่างกุ๊กกิ้กมากมาย อาทิเช่น กล่องเก็บกล้วยไม่ให้ช้ำ คิดได้ไงเนี่ยะ
[4 ก.ค. 54 04:32:52
]
## ไปวัดอาซาคุซะกัน ##
วัดนี้เป็นวัดบังคับทีทัวร์ไทยทุกเจ้าจะต้องลง
และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ อย่างไรก็ต้องได้เจอคนไทยที่นี่ครับ
(ยิ่งถ้าช่วงซากุระ นึกว่าเดินอยู่จตุจักรเลยทีเดียว เพราะคนไทยเยอะมากๆ เดินสวนไปสวนมา)
วัดนี้ก็เลยมีของขายเยอะมากๆ ของฝากทั้งของเล่น ของตกแต่ง รวมไปถึงของกิน ก็พิจารณาตามอัธยาศัยครับ
วิธีการเดินทางก็คือ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน Tokyo Metro สายสีส้ม
Ginza Line มาลงสุดสายที่ Asakusa (สถานีปลายทางพอดี)
สำหรับผมก็แคมุดใต้ดินที่สถานี Ueno มาโผล่ Asakusa ออกตรง Exit no. 1 หรือ 3 เดินตรงไปนิดเดียวก็ถึงปากทางเข้าวัดแล้วครับ
สำหรับผู้ที่ต้องการต่อรถไฟของ Tobu ไปเที่ยวเมือง Nikko
(กับ World Heritage Pass คนละ 3,600 เยนรวมรถไฟไป-กลับ และค่าเข้าชมวัด 2 แห่ง และรถที่วิ่งในนิกโก้ก็ขึ้นฟรี)
ก็มาขึ้นรถไฟต้นทางที่สถานี Tobu-Asakusa ได้เลยครับ
โดยออกจากทางออก Exit no. 7 และ 8 ก็จะถึงสถานีของ Tobu เลย
[4 ก.ค. 54 04:42:49
]
พอโผล่ขึ้นมาบนดินปุ๊บ ....
สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ก็คือ จะมีบริการรถลากพาชมเมือง
โดยบุรุษร่างกายกำยำล้ำเลิศ (ก็แน่หล่ะครับ วิงออกกำลังกายลากผู้โดยสารทุกวัน) พี่แกจะเดินเข้ามาหาลูกค้าด้วยตนเอง สนนราคาก็ไมค่อยถูกเท่าไหร่นะครับ โดยประมาณ 2,000-3,000 เยน/15 นาทีได้อยู่ครับ เดินผ่านไปดีกว่า ....
[4 ก.ค. 54 04:48:21
]
คนก็เยอะใช้ได้เลยนะครับเนี่ยะ .....
[4 ก.ค. 54 04:51:05
]
มีร้านหนึ่งที่เราชอบครับ
เป็นร้านขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุนัข มีรูปจำลองสุนัขพันธุ์ต่างๆ เหมือนจริงมากๆ และก็มีสติ๊กเกอร์สุนัขแต่ละพันธุ์จำหน่าย ...
อาทิเช่น ชิวาว่า ก็เป็นสติ๊กเกอร์ที่มีแต่รูปหมาชิวาว่า พันธุ์อื่นๆ อย่าง มิเนเจอร์ พูดเดิ้ล ชิสุห์ ก็มีครบ สุนัขญี่ปุ่นอย่าง ชิบะ และ อะคิตะ ก็มีเช่นกัน แถมมีเป็นป้ายติดรถด้วย อารมณ์ประมาณ Chiba in Car ประมาณนั้น (กำลังอยากได้ป้ายเขียนว่า Chihuahua in Car แต่ไม่มีครับ)
ตอนบ่ายแก่เริ่มจะเย็น อากาศก็ไม่ร้อนมากนะครับ กำลังสบายๆ
[4 ก.ค. 54 04:55:56
]
เสี่ยงเซียมซีกัน เห็นว่าถ้าไม่ดีก็จะเอามาผูกทิ้งไว้ที่นี่
ถ้าดีก็จะเก็บไป (น่าจะเหมือนกันนะครับ)
[4 ก.ค. 54 04:59:22
]
ไปแล้วดีกว่า ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 05:01:02
]
สำหรับใครที่วางแผนจะไป Nikko กับบริษัทรถไฟ Tobu
แวะมาซื้อตั๋ว World Heritage Pass ได้ที่นี่เลยครับ
สำนักงานขายย้ายมาอยู่ด้านหน้าอาคาร เห็นเด่นเป็นสง่าจริงๆ
[4 ก.ค. 54 05:05:15
]
เนืองจากสถานี Asakusa ใกล้แม่น้ำมากๆ ครับ
ไปนั่งเล่นสบายๆ ริมน้ำกันก่อนจะกลับที่พัก
[4 ก.ค. 54 05:10:15
]
Selamat Pagi!! เช้าแล้วน้องหมอยุ่ง...ขยันเกินเเล้วนะครับเนี่ย 
แวะมาชมรีวิวครับ แจกกิฟท์ให้กำลังใจแล้วนะครับ พักผ่อนบ้างนะครับ ระวังสลบคาคอมนะครับเนี่ย หุหุ
[4 ก.ค. 54 05:19:44
]
แวะมาให้กำลังใจคะ แต่ก็ต้องบอกว่าขอไปนอนก่อนนะคะจะตีหนึ่งแย้วคะ รอจบรีวิวคงแย่แน่ๆ ,, พรุ่งนี้ต้องไปเรียนด้วย เอิ๊ก
จากคุณ : น้องวี (น้องวี : we-wee)
[4 ก.ค. 54 05:41:30
]
เนื่องจาก เหนื่อยแล้ว+ต้องการพักผ่อน+ประหยัด
ก็เลยได้ฝากท้องกับเมนูมากมายของร้าน Family Mart ข้าล่างครับ
สำหรับอาหาร Family Mart นี่เหมือนป็นอะไรที่ช่วยประทังหิวได้
เพียงแต่ว่าถ้าทานบ่อยเกินอาจจะมีเบื่อได้ บางเมนูก็อร่อย
บางเมนูก็เฉยๆ ราคาเริ่มต้นที่ 2xx เยนครับ ให้พนักงานอุนได้เลย
[4 ก.ค. 54 05:48:54
]
แวะมาชมค่ะ ^___^
หมอยุ่งมาเช้ามืดวันจันทร์เสมอ อิอิ
[4 ก.ค. 54 06:38:58
]
ข้อมูลดี ละเอียดแน่นเช่นเคยครับ^^
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีดีครับ
[4 ก.ค. 54 07:18:12
]
ตามมาเก็บข้อมูล ขอบคุณสำหรับรีวิวครับบ
จากคุณ : เที่ยวตามหัวใจ
[4 ก.ค. 54 08:23:17
]
ตามหมอยุ่งไปญี่ปุ่นด้วยคนจ้า
จากคุณ : ตระเวนเที่ยว
[4 ก.ค. 54 08:23:34
]
น่ารักจริงๆ รีวิว ละเอียดมากๆ ชอบเเละโหวต
จากคุณ : remy&chanel
[4 ก.ค. 54 08:28:18
]
ขอบคุณครับ
ภาพเปิดตัว แสดงให้เห็นว่าโตเกียวอยู่ในช่วงประหยัดไฟจริงๆ มืดซะ
[4 ก.ค. 54 08:38:49
]
ที่อยู่ ที่กิน ที่เที่ยว แผนที่ครบ
ขอบคุณมากครับ
[4 ก.ค. 54 08:40:06
]
น่ากินชะมัดเลย อยากกินๆข้าวหน้าปลาดิบ
จากคุณ : Mickey-kun
[4 ก.ค. 54 08:43:56
]
เข้ามาปักหมุดครับ
จากคุณ : CANDIDI
[4 ก.ค. 54 10:01:42
]
สำนักงานรถไฟ Tobu ย้ายมาอยู่ข้างในแล้ว
ดีจิง เมื่อเดือนกุภา ยังต้องเดินไปด้านหลังอยู่เลย
[4 ก.ค. 54 10:03:18
]
ข้อมูลปึ๊ก หากได้ไปขอลอกการบ้านนะค่ะ
จากคุณ : aor-naja
[4 ก.ค. 54 10:08:24
]
แวะมาติดไว้ก่อนค่า ยังอ่านไม่จบเดี๋ยวคืนนี้ค่อยกลับไปอ่านละเอียดๆ
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆค่า
[4 ก.ค. 54 10:22:32
]
ถ้ามีโอกาส backpack โตเกียว จะรีบเข้าดูรีวิวหมอยุ่งเลยค่ะ แจ่มมาก!!
[4 ก.ค. 54 10:24:28
]
ขอบคุณ คุณหมอมากครับที่พาไปเที่ยวด้วย
[4 ก.ค. 54 10:29:26
]
ตามมาเที่ยวญี่ปุ่นแบบใต้ดิน ใต้ดินกับคุณหมอ
แบกเป้เที่ยวตามรีวิว คงพอไหว
ตามอ่านต่อดีกว่า
[4 ก.ค. 54 10:39:00
]
แวะมาเก็บข้อมูลของหมอยุ่งค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
[4 ก.ค. 54 10:40:30
]
ข้อมูลสุดยอดดดดด!!!!
ขอเกาะกระแสไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยอีกคนค่ะ
[4 ก.ค. 54 10:42:03
]
... ร้านอาหารน่าทานจังเลยค่ะ ...
จากคุณ : kungtalay
[4 ก.ค. 54 10:42:18
]
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ สำหรับรายละเอียด เเละข้อมูล มีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
[4 ก.ค. 54 10:42:46
]
ได้เที่ยวโตเกียวแต่เช้าแบบนี้ ขีดพลังเพิ่มปรี๊ดๆเลยเรา มีแรงลุยงานแล้วจ้า
(เก็บตังค์ๆไว้ปีหน้าไปตะลุยโตเกียวบ้าง)
[4 ก.ค. 54 10:47:49
]
ตามไปเที่ยวโตเกียวด้วยคนค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยนะคะ
[4 ก.ค. 54 10:57:29
]
ตามไปเที่ยวต่อค่ะ 
[4 ก.ค. 54 11:11:00
]
ตามไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลแน่นปึ๊กค่ะ
[4 ก.ค. 54 11:28:22
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
จากคุณ : ไข่จังน้อย
[4 ก.ค. 54 11:42:44
]
กลับไปญี่ปุ่นด้วยคนค่ะ เห็นร้านร้อยเยนแล้วอยากไปซื้อของจังเลย
ของถูกและคุณภาพดี ตอนไปครั้งก่อนก็แวะร้านนี้ทุกวัน เพราะพักแถวนั้นค่ะ
[4 ก.ค. 54 12:00:49
]
ร้านข้าวปลาดิบ Minatoya ที่อาเมโยโกะนี่ก็ร้านโปรดเราเหมือนกันค่ะ
เท่าที่กินมาเราว่าอร่อยกว่า แถมให้เยอะกว่าร้านอื่นๆด้วย
นอกจากกินที่ร้านแล้ว สั่งแบบใส่กล่องเอากลับบ้านก็ได้นะคะไม่เสียเงินเพิ่ม
(แต่ถ้าหน้าร้อน กินที่ร้านเลยน่าจะดีกว่าถือตากแดดกลับบ้าน)
อีกอย่างคือสามารถสั่งเป็นปลาดิบเปล่าๆชิ้นใหญ่ๆกลับบ้านได้ค่ะ (ถ้าเค้ามีเหลือพอดี)
เราสั่งประจำแซลมอนหนึ่งเส้นยาวๆ 1000 yen เอากลับไปหั่นทานที่บ้าน
ได้กินปลาดิบอร่อยๆ ปลาเยอะจุใจไป 3-4 มื้อเลยค่ะ ^^
(เคยแนะนำที่แล็บซื้อไปกินกันตอนปาร์ตี้ ชมกันทุกคนเลยค่ะว่าแซลมอนร้านนี้อร่อย)
หรืออย่าง Yaki-harasu ส่วนมันๆของแซลมอน หรือ Negi-toro
ถุงเบ้อเริ่ม 500 yen เอาไปโปะข้าวสวยที่บ้านกินเองได้จนเลี่ยนเลยค่ะ
(แต่พวกนี้ไม่มีเขียนในเมนู ต้องอธิบายกันหน่อยค่ะ
เพราะคนคิดเงินบางทีก็ไม่รู้จักต้องไปถามพ่อครัวข้างใน
ถ้าเป็นหน้าหนาวเค้าจะวางโชว์พวกนี้หน้าร้านเลย ก็จิ้มซื้อกันได้ง่ายๆค่ะ)
แต่ไม่แน่ใจว่าอีกร้านที่ห่างไปหน่อยนั่นคือร้านคู่แข่งหรือเปล่านะคะ
(ร้านออริจินัลอยู่ใกล้ปากทางออกสถานี JR Okachimachi
ส่วนอีกร้านเพิ่งเห็นไม่กี่ปีนี้ อยู่ตรงจุดบรรจบของซอย Ameyoko กับ Uechun ค่อนไปทางสถานี JR Ueno)
เราเห็นรูปเมนูเหมือนกันเปี๊ยบๆ การจัดร้านข้างในก็เหมือน (รสชาติเราก็ว่าเหมือนๆกันด้วยค่ะ)
ก็คิดว่าเป็นสาขาอีกสาขาซะอีกค่ะ สงสัยไว้ต้องเดินไปลองถามดูให้ชัวร์ๆซะแล้ว ^^
ปล ร้านร้อยเยน Silk シルク สาขา Ueno ในความเห็น 22 ส่วนใหญ่เป็นพวกของใช้ในบ้านซะมากนะคะ
ตอนคุณแม่มาจะหาซื้อพวกของกุ๊กกิ๊กๆน่ารักๆแบบเอาไปเป็นของฝากได้ คุณแม่ดูจะถูกใจร้าน 100 เยนแถวชินจูกุกับฮาราจูกุมากกว่า
[4 ก.ค. 54 12:02:03
]
เดินตามมามุดดิน ชอนไชโตเกียว ไปเที่ยวกับหมอยุ่งค่ะ
จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย
[4 ก.ค. 54 12:10:57
]
ขอบคุณหมอยุ่งมากค่ะ สำหรับข้อมุลอย่างละเีอียด จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลได้
[4 ก.ค. 54 12:22:28
]
เก็บเป็นข้อมูล ขอบคุณค่ะ
จากคุณ : แม่ต้นไม้
[4 ก.ค. 54 12:51:01
]
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ
จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน
[4 ก.ค. 54 13:10:05
]
ขอบคุณคุณหมอยุ่งสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ เดี๋ยวจะได้ไปตามรอยบ้างอะไรบ้าง คนพาเที่ยวเป็นสัตวแพทย์เหมือนกันค่ะ
[4 ก.ค. 54 14:30:17
]
อยากไปญี่ปุ่น ไม่ได้ไปเองขอเกาะกระทู้ไปก็ยังดีค่าาาาา
จากคุณ : aralechan
[4 ก.ค. 54 15:04:23
]
ว้าววววววววว ข้อมูลดีๆๆๆมาแร็ว ขอบคุณสำหรับรีวิวคร้า
[4 ก.ค. 54 16:28:09
]
ตามมาอ่านต่อค่ะ
แหม เห็นปลาแล้วอยากกินจริง ๆ
[4 ก.ค. 54 16:30:44
]
อยากไปญี่ปุ่นคะ
จากคุณ : RioMommy
[4 ก.ค. 54 16:48:36
]
ขอบคุณมากค่ะ
อ่านง่ายๆ เห็นภาพตามเลยอ่ะ
ไม่เหมือนซื้อหนังสือของพี่ ลูกเกดมาอ่านๆ 3 รอบยังงง โทร.ไปก็ไม่รับ งง
[4 ก.ค. 54 17:56:45
]
มาแล้วครับ ขออภัยที่งีบหลายไปนานมากๆ แบบว่าเมื่อคืนสลบคาคอม
ตืนมาอีกทีนึง ฟ้าสว่างแล้ว ต้องสะสางงานก่อนแล้วค่อยมาปั๊มทู้ต่อได้
อย่างที่ลุงหนุ่มฯ แซวไม่มีผิดครับ (ลองดู คห. ท้ายๆ ที่ผมโพสต์นะครับ โพสต์ห่างกันหลายสิบนาที เพราะงีบไปโพสต์ไปจริงๆ)
---------------------------------------------------------------------------
ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านกระทู้ + มาให้กำลังใจกันด้วยนะครับ ...
จริงๆ เหตุผลทีต้องมาเช้ามืดวันจันทร์ เพราะว่า เสาร์-อาทิตย์ เรียนครับ ไม่สามารถโต้รุ่งคืนวันศุกร์และเสาร์ได้ ส่วนวันอื่นๆ จริงๆ ก็ต้องทำมาหากินด้วยครับ ยิ่งมีงานมือปีนรับจ้างรักษาสัตว์ให้รุ่นพี่สำหรับวันพุธ ดังนั้น จึงมีโอกาสโต้รุ่งได้แค่คืนวันอาทิตย์, จันทร์, พุธ, พฤหัส เท่านั้นครับ
ถึงคุณ White Amulet (คห.59) ครับ ใช่เลยครับ ร้านที่ว่านี้จะอยู่ใกล้กับสถานี JR Okachimachi แต่อีกร้านหนึ่ง จะอยู่ช่วงกลางๆ ตลาด ป้ายหน้าร้านเหมือนกัน เมนูเหมือนกัน แต่ที่ผมมั่นใจว่าร้านที่ทานเป็นร้าน Original เพราะเคยมีคนญี่ปุ่นพามาทานที่นี่ ตอนครั้งแรกที่ผมมาครับ ผมก็เพิ่งทราบว่าซื้อแพคกลับได้ แห่ะๆ
เท่าที่ลองเปรียบเทียบกับร้านที่ขายข้าวหน้าปลาดิบที่ขายเหมือนๆ กัน ปริมาณร้านนี้ให้เยอะกว่า และถูกกว่าครับ สรุปก็คือ ถ้าไม่ได้มีเวลาไปตลาดปลา Tsukiji มาที่นี่ก็โอเคแล้วครับ
ส่วนร้าน 100 เยน จริงๆ สาขา Ueno เราเจอโดยบังเอิญครับ
เห็นด้วยครับว่า ส่วนใหญ่เป็นข้าวของในบ้าน แต่ของสำนักงานก็มี
อย่างผมก็ได้ที่ใส่โบร์ชัวร์พลาสติกใสมา ก็โอเคอยู่ครับ แต่คิดว่าถ้ามีโอกาสคราวหน้าต้องไปลองที่ Shinjuku กับย่าน Harajuku บ้างแล้ว
---------------------------------------------------------------------------
## วันที่สอง ##
โปรแกรมวันนี้ พาไปเที่ยวเล่นตลาดปลา Tsukiji
เดินผ่านร้านปลาดิบชื่อดังที่มีคนต่อคิวยาวเหยียด
พาไปเดินเล่นที่ Harajuku, ไหว้พระวัด Meji Jingu และไปทานซูชิอีกรอบที่ Shibuya ก่อนปิดท้ายค่ำคืนที่ Roppongji Hills บนยอดตึก Mori Tower ชั้น 52 ครับ ....
เมื่อกี้ไหนๆ พูดถึงร้าน 100 เยนสาขา Ueno แล้ว
ก็เลยนึกถึง ช่วงดอกซากุระบาน ที่สวนอุเอโน๊ะ
เป็นอะไรที่ สวยงามประทับใจจริงๆ ครับ
ค่าตั๋วเครื่องบินอาจจะแพงหน่อย คราวนั้นผมได้ Vietnam Airlines แวะเปลี่ยนเครืองที่ โฮจิมินห์ซิตี้ ไป-กลับ BKK-SGN-NRT ราคา 17,xxx บาทก็นับว่าโอเคอยู่ครับ
[4 ก.ค. 54 18:04:46
]
ข้าวหน้าปลาดิบ น่ากินเป็นที่ซู๊ดดดด
จากคุณ : Tree Rose
[4 ก.ค. 54 18:10:54
]
แอ่นแอ๊นนน .... เช้าวันนี้ เริ่มต้นที่ Tokyo Metro สถานี Awajicho
สายสีแดง ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมมากๆ เดินแค่ 2-3 นาทีถึงโรงแรมแล้ว
เป้าหมายของเราก็คือจะไปตลาดปลา Tsukiji นั่นเอง
จากที่เคยทำการบ้าน หลายๆ คนบอกว่า สถานี Toei Tsukijishijo
จะอยู่ใกล้กับตลาดปลามากกว่าสถานี Tsukiji ของ Tokyo Metro
แต่ข้อเสียก็คือ ผมเปิด Hyperdia แล้วถ้าจะนั่ง Tokyo Metro ต่อ Toei เพื่อจะลงที่สถานี Tsukijishijo จะต้องเดินทางอ้อมไกล+แพงด้วยครับ เพราะ Toei สายนั้นไม่ค่อยจะเป็นสายหลักของนักท่องเที่ยว
ยกเว้น ... ใครที่พักที่ Roppongji Hills สามารถขึ้น Toei ไปลงที่ Tsukijishijo ได้เลย (ราคาประมาณ 230 เยนครับ Toei เค้าขายแพงกว่า Tokyo Metro หน่อยนึง)
[4 ก.ค. 54 18:18:48
]
ตรงแยกสถานี Awajicho มีร้านเครืองเขียนเล็กๆ ร้านหนึ่ง
เจ้าของเป็นคุณลุงคุณป้า ใจดีมากๆ
และเค้าก็ดูเราออกว่าเราเป็นคนต่างชาติ (การแต่งตัวไม่เหมือนคนอื่นเท่าไหร่)
เค้าก็ดูเอ็นดูเราเป็นพิเศษ เดินเข้ามาถาม (แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น)
พอดีผมเจอของเล่นแปลกๆ เป็นกล้องส่องทางไกลแบบพับได้ ก็เลยถามแก แกก็แกะกล่องเปิดมาให้ดูเลยว่าประกอบอะไรยังไง น่ารักดีครับ
ส่วนราคาขาย คุณเธอบอกว่า ราคาดูเป็นมิตรกว่าร้าน Itoya ที่กินซ่าพอสมควร ส่วนหนึ่งเดาว่า ค่าเช่าที่แถวนี้น่าจะไม่โหดเท่ากินซ่าครับ ก็เลยได้อุดหนุนคุณลุงคุณป้ากันไป แห่ะๆๆ
ร้านนี้หล่ะครับ เจ้าของใจดี
[4 ก.ค. 54 18:23:20
]
จากโรงแรมไปตลาดปลา
เรานั่ง Tokyo Metro จากสถานี Awajicho (สายสีแดง Marunouchi Line)
แวะเปลี่ยนขบวนรถที่ Ginza เป็นสายสีเทา (Hibiya Line) นั่งไปอีก 2 สถานีก็จะถึงสถานี Tsukiji แล้วครับ
แต่ผมก็เผื่อใจไว้แล้วหล่ะว่า ถ้านั่ง Tokyo Metro อย่างไรก็ต้องเดินหน่อยประมาณ 700-800 เมตร ก็จิ๊บๆ ครับเดินกินลมชมวิวไป
อย่างในภาพประกอบนี้ จะเห็นตัวสถานี Tsukiji อยู่
ในขณะที่สถานี Toei Tsukijishijo จะอยู่ด้านซ้ายมือของภาพ
จะวิ่งมุดใต้ดินลอดผ่านตลาดปลา Tsukiji (โค้งๆ สีฟ้าตรงมุมซ้ายของภาพ) พอดี แถมปากทางสถานีแทบจะโผล่ขึ้นมาเดินเข้าตลาดได้เลย ....
ดังนั้น ถ้าเรานั่ง Tokyo Metro ลงที่สถานี Tsukiji มาเราก็ต้องค่อยๆ เดินออกจากสถานีมาไปทางซ้ายเรื่อยๆ ไม่ไกล พอถึงแยกใหญ่ เราก็จะเห็นร้านอาหารปลาดิบมากมาย นั่นหล่ะครับใกล้ถึงตลาดปลาแล้ว ....
[4 ก.ค. 54 18:28:46
]
เดินผ่านตรงนี้ เราไม่แน่ใจว่าคืออะไรกันแน่ ??
(ท่านไหนทราบช่วยบอกด้วยนะครับ)
[4 ก.ค. 54 18:30:19
]
เดินมาแป๊บเดียวถึงแยกใหญ่แล้ว เดินตรงไปก็จะมีร้านขายข้าวหน้าปลาดิบ หรือซูชิมากมาย ในซอยก็มีเพียบครับ รวมๆ แล้วหลายสิบร้าน แต่ละร้านก็จะมีพนักงานเชียร์แขกกันอยู่ พร้อมโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเพียบ ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 18:31:31
]
บริเวณด้านหน้าเป็นร้านขายข้าวหน้าปลาดิบ
หน้าตาเหมือนกับร้าน Minatoya ที่ตลาดอาเมโยโก (ตาม คห.14)
เด๊ะเลย ลักษณะเมนูคล้ายคลึงกัน แต่ราคาต่างกัน
รู้สึกได้ว่า ราคาเฉลี่ยที่นี่จะสูงกวาที่อาเมโยโกพอสมควรครับ
แต่สำหรับใครที่อยากจะทานซูชิรถเลิศ สดสุดยอด ก็มีร้านให้เลือกเยอะมาก โดยแพคเกจซูชิราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที 1,5xx - 3,xxx เยน/เซ็ท ขึ้นไปครับ แล้วแต่สิ่งที่โปะลงบนหน้าซูชิครับ
ช่วงกลางวันคนก็เยอะพอสมควรครับ มีทั้งร้านทีขายพวกราเมน ฯลฯ ด้วยนะครับ ส่วนใหญ่ก็มีโต๊ะสำหรับให้ยืนกินกันเลยทีเดียว (ส่วนตัวผมเคยไปยืนกินแถวๆ โอซาก้ามาแล้ว สบายใจเฉิบ แต่คุณเธอขอนั่งก็เลยได้เดินวนๆ สำรวจตลาดก่อนครับ)
[4 ก.ค. 54 18:35:38
]
บริเวณด้านหน้าสถานี Toei Tsukijishijo ครับ
เรียกได้ว่า ออกจากประตูนี้มาเลี้ยวขวาเดินมาประมาณ 10 กว่าเมตร
ก็ถึงปากทางเข้าตลาดปลา Tsukiji แล้ว
[4 ก.ค. 54 18:36:35
]
ปากทางเข้าตลาดครับ ตอนแรกเราก็ยืนงงกันอยู่ตั้งนาน
แต่เห็นคนเดินเข้าไปกันเยอะ ก็เลยเดินตามๆ เค้าไปครับ
กลิ่นคาวปลา ไอทะเลมาแต่ไกลเลยทีเดียว
อารมณ์เดินผ่านห้องเย็นหน่ะครับ
[4 ก.ค. 54 18:37:39
]
ด้านปากทางเข้า มีป้ายดักนักท่องเที่ยวไว้แล้วครับ .....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 18:41:38
]
อีกป้ายนึงสำหรับสื่อ .... เรื่องการถ่ายภาพในตลาด
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 18:42:56
]
ผมจำได้ว่า ... ในรีวิวของใครซักคนหนึ่ง
เคยเอ่ยถึงร้านอาหารที่ขายดีมากๆ จนต้องเข้าคิวรอยาวเหยียด
อยู่ในตลาด Tsukiji แต่จำได้ว่า ไม่ได้ขายซูชินะครับ
(ป้ายหน้าร้านมีบอกเลยว่า No Sushi)
เดาว่าน่าจะเป็นร้านนี้ครับ เพราะคนเข้าคิวรอยาวมาก
เราก็อยากลองแต่คิดว่าถ้ารอแล้วอาจจะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่
สำหรับพิกัดร้านนี้คือ เดินตรงเข้าไปตาม คห.79 เข้าไปเรื่อยๆ
จนสุดทาง จะเจอร้านนี้อยู่ด้านซ้ายมือครับ คนเยอะเด่นเป็นสง่าเลย
ผมก็เลยไม่แน่ใจว่า ร้านนี้จะอารมณ์เดียวกับร้านดำรงค์
กาดหลวงเชียงใหม่ หรือเปล่า ที่ขายดีจนคนเข้าคิวยาวเหยียด
เพราะความเป็นดำรงค์ แม้เจ้าอื่นอาจจะรสชาติไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ เป็นต้นครับ .... ท่านไหนที่เคยไปลิ้มลองมาแล้ว มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะครับ อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นไงบ้าง .....
[4 ก.ค. 54 18:46:22
]
จากร้านนี้ก็จะเป็นลานกว้าง และข้างในก็คือตลาดครับ (แต่เหมือนตอนนี้จะวายไปแล้ว เรามาช้าไป แต่ถึงมาเร็ว ก็อาจจะเข้าไปถ่ายรูปข้างในไม่ได้อยู่ดีนะครับ .... คือนักท่องเที่ยวที่ไม่ดีหลายๆ คนสร้างเรื่องไว้เยอะ จนเค้าไม่อยากจะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายภาพ หรือมาวุ่นวายกับการซื้อขายของเขาแล้ว)
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 18:49:25
]
เดินออกจากตลาดมา เจอซอยด้านขวาก็เข้าไป ซอยนี้เหมือนจะมีร้านที่ขาย "ไข่หวาน" ที่โปะบนหน้าซูชิอยู่หลายเจ้าครับ ส่วนใหญ่จะขายแบบตัดเป็นชิ้นๆ เลย มีให้ลองชิมก่อนด้วยครับ
แต่ตัวผม ผมเป็นพวก Carnivore (กินเนื้อ) ครับก็เลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เห็นทัวร์จีนเดินถือธงตามมาเป็นแถวแวะชิมร้านไข่หวานเจ้าประจำกัน
[4 ก.ค. 54 18:51:46
]
เมื่อเดินเข้าไปในซอยนั้น (จริงๆ ตรอกซอกซอยสามารถเดินทะลุจากร้านข้าวหน้าปลาดิบตรง คห. 77 ได้เหมือนกันครับ)
ก็จะมีร้านที่ขายอาหารทะเลสดๆ มากมาย สำหรับคนที่จะซื้อไปทำเอง และร้านอาหารก็เยอะมากๆ ครับ ส่วนใหญ่ในซอยจะหนักไปทางซูชิครับ มีเยอะมากจนเลือกไม่ถูกทีเดียว แต่ละล้านก็จะมี PR มายืนเรียกแขกอยู่ (สังเกตได้ว่า การแต่งกายส่วนใหญ่ แต่งตัวกันดีมากๆ ครับ อย่าง คนที่มาเรียก บางทีแต่งชุดเป็น chef ผูกไท้อย่างดีเลยทีเดียว)
ก็เลยได้รับใบปลิวเชิญชวนประมาณนี้ครับ
มีคุณลุงคนหนึ่ง มาเชียร์แขก เห็นเราก็ทักเป็นภาษาอังกฤษว่า
เรามาจากชาติไหน เราก็เลยบอกว่า ลองทายซิ
ตอนแรกก็เดาว่าจีน ไม่ใช่ (เราทั้งคู่มีเชื้อสายจีนในเลือด > 50% แต่พูดจีนได้แค่คำว่า หนีห่าว !!)
เดาจนไม่อยากให้เดาแล้ว พอเราบอกว่า มาจากไทยแลนด์ปุ๊บ
ลุงแกพูดไทยใส่ไม่หยุดเลยครับ สะหวัดดีค้าบบ... มีเหวอเล็กๆ แกอ้างว่าเคยมาทำงานในไทยด้วย คุณเธอแอบสะกิด ทำไมเหมือนคุณลุงพูดตาม script เลย น่าจะท่องมาแน่ๆ เพราะถ้ารู้ว่าภาษาไทยเป็นอย่างไรจริงๆ คุณลุงน่าจะจับได้ตั้งแต่ตอนที่เราคุยกันครั้งแรกสุด ตอนที่ให้ทายว่าเรามาจากประเทศอะไรแล้ว .....
[4 ก.ค. 54 19:01:45
]
ร้านลุงก็ขาย 2,100 เยน ส่วนร้านอื่นก็ขายกันประมาณ 2,100 เยน
เป็นเซทหน้าตาแบบในภาพนี่หล่ะครับ ....
ราคาจะต่างกันจากของที่ใส่เข้าไปนะครับ ต้องดูดีๆ ว่าเค้าให้อะไรบ้าง เป็นปลาอะไร มีอะไรแพงๆ มั้ย ดูแต่ราคาอย่างเดียวไม่ได้ครับ
อย่างภาพนี้ คือร้านของลุงที่พูดไทยได้คนนั้นครับ ....
[4 ก.ค. 54 19:06:04
]
ส่วนร้านอื่นก็ไม่ใช่ย่อยครับ ดูราคา+ดูชนิดของปลาด้วยนะครับ
แข่งขันกันดุเดือด แต่ละร้านในร้านคนก็เยอะอยู่ครับ
เรียกได้ว่า ถ้าจะดูความนิยมจากคนเข้าร้าน ท่าจะดูลำบากอยู่ครับ
[4 ก.ค. 54 19:07:15
]
อย่างร้านนี้ ก็อารมณ์เป็นสายพาน แล้วก็จ่ายตามจานที่กินไป ....
อยากจะบอกอย่างเดียวว่า ถ้าได้ทานซูชิคำโตที่ญี่ปุ่นแล้ว
คุณจะลืม Fuji, ZEN, Oishi, ชาบูชิ และ ฯลฯ ไปเลยทีเดียวครับ
[4 ก.ค. 54 19:08:47
]
ไปดูของสดกันบ้าง ดูปูยักษ์ ...
ปูทะเลขาเกตัวใหญ่ซะไม่มี ....
(น่าจะมีแบบนี้ที่ภูเก็ตมั่งเนอะ)
[4 ก.ค. 54 19:10:16
]
พันทิปด๋อย ซัดปูไป 2 ตัวเลยทีเดียว
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 19:10:49
]
มาดูสารพัดหอย หอยใหญ่ๆ บ้างดีกว่า ใหญ่จนตะลึงครับ ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 19:15:39
]
ด้วยความที่อยากจะไปซัดซูชิร้านประจำที่ Shibuya ก็เลยกินเบาๆ แค่ข้าวหน้าปลาดิบ เหมือนเดิม ร้านนี้เจ้าของก็ใจดีครับ คนเหมือนจะเยอะ
ปลาชิ้นโต สดเหมือนกัน ถ้วยนี้ 800 เยน (แพงกว่าร้านที่อาเมโยโกหน่อยนึง)
[4 ก.ค. 54 19:17:16
]
โอ๊ยหิว แผล่บๆๆ
[4 ก.ค. 54 19:17:53
]
ข้อได้เปรียบของร้านค้าแถวๆ Tsukiji น่าจะเป็นตรงความหลากหลายของหน้าปลาดิบครับ มีอะไรหลายๆ อย่างให้เลือกใส่ เหมือนจะเยอะกว่าร้านที่ ตลาดอาเมโยโกพอสมควร ก้ค่อยๆ ไล่ดูไปนะครับ มีถ้วยตั้งแต่ 700 เยนยันไปถึง 1,xxx เยน ปลายๆ เช่นกันแล้วแต่ของที่ใส่เข้าไป
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 19:19:22
]
ปลาโอชิ้นใหญ่เต็มคำ + ทูน่าสับ + ไข่ปลาแซลม่อน .....
แผล่บๆๆๆ
[4 ก.ค. 54 19:20:08
]
เมื่อเติมพลังเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไป Harajuku กัน
จริงๆ ถ้าไปช่วงวันหยุด คงมีเด็กๆ ออกมาแต่งตัวให้เราได้ดูกัน
แต่วันนี้เป็นวันธรรมดา เด็กๆ ไปเรียนหนังสือ จึงอาจจะไม่มีอะไรมาก
สำหรับใครที่ชอบเดินดูร้านรวงกิ๊บเก๋ ก็สามารถเดินเล่นได้สนุกสนานครับ
การเดินทางจากตลาดปลา Tsujiji ไป Harajuku
ก็ไม่ยากครับด้วย Tokyo Metro ต่อรถครั้งเดียวถึง
เราเดินจากตลาดปลาไปขึ้น Tokyo Metro สายสีเทา (Hibiya Line)
ที่สถานี Higashi-Ginza (จะอยู่ระหว่างสถานี Ginza กับ Tsukiji)
แล้วไปเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีเขียว (Chidoya Line)
ที่สถานี Kasumigaseki ครั้งเดียวถึงเลยครับ (ดูภาพ คห. 3 ประกอบ)
ไปลงที่สถานี Mejijingumae (เมจิจิงกู)
ผังสถานีโดยรอบเป็นอย่างนี้ครับ สามารถใช้เวลาเดินเล่นที่นี่ได้
มีร้านค้ามากมายทีเดียว สำหรับวัด Meji Jingu จะอยู่ทางซ้ายของภาพครับ ต้องเดินข้ามสะพานรถไฟ JR ผ่านสถานี JR Harajuku ไปก็ถึงแล้ว
[4 ก.ค. 54 19:26:27
]
อันนี้โผล่มาที่ทางออกที่ 3 มองไปทางถนนสาย Harajuku นี่หล่ะครับ ต้นไม้ร่มรื่นมากทีเดียว ...
เนื่องจากวันนี้เป็นวันธรรมดาด้วย เราก็เลยกะว่าเดี๋ยวไปวัด Meji Jingu เลยดีกว่า
[4 ก.ค. 54 19:28:15
]
Harajuku อีกซักภาพหนึ่ง ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[4 ก.ค. 54 19:28:48
]
เดินข้ามผ่านสถานี JR Harajuku ดูเป็นสถานีที่น่ารักดีนะครับ ....
เดี๋ยวเราไปวัดแล้วก็กลับมาที่นี่ เพื่อนั่งรถ JR Yamanote ไป Shibuya (สถานีติดกัน นั่งไปแค่สถานีเดียวเอง)
[4 ก.ค. 54 19:30:17
]
เดินข้ามสะพานรถไฟ ข้ามไปวัด
มองมาก็จะเห็นรถไฟสาย Yamanote จอดคู่กัน
รถไฟขบวนซ้าย (วงนอก) จะวิ่งวนขวา ส่วนขบวนขวา (วงใน) จะวิ่งวนซ้าย รอบกรุงโตเกียวครับ เนื่องจากสถานี Harajuku เป็นสถานีเล็ก ดังนั้นก็มีแค่ JR Yamanote Line (สีเขียวในภาพ) จอดที่สถานีนี้เท่านั้น ส่วนสายอื่นๆ เช่น JR Shonan Shinjuku จะจอดแค่สถานีใหญ่ๆ (จะเห็นรางด้านขวาว่าง ไว้สำหรับขบวนที่ไม่จอดสถานีนี้วิ่งผ่านไป
[4 ก.ค. 54 19:33:17
]
เปี่ยมสาระมาก ขอ save นะคะ
จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด
[4 ก.ค. 54 19:37:29
]
ถึงปากทางเข้าหน้าวัดแล้ว ได้รู้สึกถึงอารมณ์ "ป่ากลางกรุง" จริงๆ ครับ
สำหรับท่านใดที่อยากจะรู้ว่า ตัวเองอยากไป Nikko ไหม
ให้มาลองที่วัดนี้ก่อนครับ ถ้าชอบวัดนี้ แปลว่าน่าจะชอบ Nikko ครับ
เพราะที่นิกโก้วัดวาอารามต่างก็ต้นไม้เยอะแบบนี้เหมือนกัน เดินไกลเหมือนกัน แต่ที่นิกโก้สวยงามกว่าครับ
[4 ก.ค. 54 19:38:34
]
สำหรับผม ผมมาที่วัดนี้ทีไรก็จะรู้สึกถึงความเย็นสบาย ที่ได้จากต้นไม้ใหญ่ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นหน้าร้อนก้ตาม (แต่ถ้ามาช่วงหน้าหนาวก็หนาวจับใจครับ เตรียมเสื้อกันหนาวมาเยอะๆ ได้เลย)
เดินกันไกลพอสมควร อาจจะมีเมื่อยขาได้นะครับ
แต่ปากทางเข้าวัด ก็จะมีน้ำใสไหลเย็นสำหรับล้างหน้าล้างตา ล้างมือ และดื่มได้ครับ สดชื่นจริงๆ ....
อย่างไร ผมขออนุญาตพักที่วัด Meji Jingu ก่อนนะครับ
เดี๋ยวดึกๆ จะพาไปเที่ยว Shibuya เยี่ยมเจ้า Hachiko หมาน้อยซื่อสัตย์ ทานซูชิเจ้าประจำ คนเยอะมาก และปิดท้ายที Roppongji Hills ครับ
[4 ก.ค. 54 19:47:08
]
ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ ชอบมากค่ะ^^
จากคุณ : สามแซ่
[4 ก.ค. 54 19:59:47
]
ขอบคุณหมอยุ่งมากครับ สำหรับข้อมูลอย่างละเีอียด จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูล
กลางเดือนตุลาคมจะตามรอยไปเที่ยวโตเกียว...
อยากไปเที่ยวบ้างค่ะ แต่ไม่สามารถ เที่ยวเองได้แน่ๆ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
[4 ก.ค. 54 21:00:50
]
คิดถึงญี่ปุ่นมากๆค่ะคุณหมอยุ่ง
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ รอชมอีกเรื่อยๆด้วยคน
[4 ก.ค. 54 21:11:34
]
Thank you for good review
จากคุณ : genie&winnie
[4 ก.ค. 54 21:18:51
]
กะลังอยากไปพอดี มีประโยชน์มากค่ะ
ช่วงนี้เห็นโปรแอร์เอเชียเพิ่งออกมา จากหน้าแรกของแอร์เอเชีย
จาก กทม ไปญี่ปุ่น (แวะที่กัวลาลัมเปอร์) เขียนว่า 5090
หาข้อมูลแล้ว คือ ราคานี้เที่ยวเดียว
แถมพอเข้าไปเช็คจริงๆ หาไม่เจออะค่ะ
เห็นแต่ 6XXX -8XXX
ก็งง ว่าเราหาไม่เจอเอง หรือว่าอย่างไร (ลองหลายๆช่วงเวลาแล้ว ตั้งแต่ กพ-เม.ย)
ไม่ทราบพอมี ปสก ไหมคะ
เมื่อหาไม่เจอ เลยเอาล่ะ ราคานี้ ก็ลองกดดูละกัน
ได้ออกมา ราคาตั๋วไปกลับ รวมภาษีแล้ว อยู่ที่ หมื่นสี่ปลายๆ
ตีว่า 15000 ละกันนะคะ
อยากทราบว่า
1 ราคานี้ ถ้าเราจะบินช่วง 1-20 เมษา ปีหน้า ถือว่าโอเคไหมคะ
คือ ราคาโปรอื่นๆ ที่เห็นมา ก็ว่า โปรนี้ไม่ได้ถูกไรมาก หมื่นห้า ก็พอมีอยู่
แต่หมื่นห้า "ช่วงเมษา" เนี่ย ได้ข่าวว่าหายากใช่หรือเปล่า
เพราะเมษาคือช่วงไฮของที่นั่น ใช่ไหมคะ
หรือว่า เรารอตั๋วโปรช่วงต่อไป (หรืออาจจะสายการบินอื่น ??)
ก็น่าจะมีถูกกว่านี้หรือเปล่า (ไม่แน่ใจช่วงเวลาโปรออกน่ะค่ะ)
2 ปกติ เวลาจองตั๋วโปรแบบนี้ จองก่อน ทำวีซ่าทีหลังหรือป่าวอะคะ
เพราะเวลาโปรออกมานี่ ปัจจุบันทันด่วนมั่กๆ
เห็นเวลาคนเข้าไปแห่กันจอง ก็ไม่น่าจะมีวีซ่าอยู่ในมือแล้วใช่หรือไม่
แบบนี้คือ ถ้าเราจะเอาโปรนี้ก่อน แล้วไปลุ้นวีซ่าทีหลัง ก็ได้ใช่ไหมคะ
(คือ อยากรู้ว่า คนเค้าทำกันหรือเปล่า หรือว่าทุกคนมีวีซ่ากันหมดแล้ว ก่อนจองตั๋วโปรพวกนี้)
จริงๆ อยากได้ต่ำกว่าหมื่นตามที่คุณยุ่งรีวิวบ้างนะคะเนี่ย
จะมีโปรแบบนี้อีกไหมมมๆๆ
เราเดินทางได้ทั้งช่วง เมษา และ พย เลยอะค่ะ
ถ้าจะมีโปรของเดือน พย ปีหน้าออกมา
ละได้ราคาต่ำกว่าหมื่นบ้าง ก็จะได้ปักหลักรอ อิอิอิ
รบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่า
[4 ก.ค. 54 21:27:18
]
เข้ามาเก็บข้อมูลดีจากคุณหมอยุ่งค่ะ ไม่เคยผิดหวังกับการรีวิวหรือการให้ข้อมูลของคุณหมอเลย ชื่นชม ๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ
จากคุณ : finaldevil [4 ก.ค. 54 22:39:25 ]A:223.207.164.251 X: TicketID:193636โอ้ยยย เห็นแล้วหิวขึ้นมาทันที เวงกรำ
จากคุณ : bOrEd
[5 ก.ค. 54 01:05:42
]
ขอบคุณครับ
จากคุณ : noiwanwannoi
[5 ก.ค. 54 05:13:01
]
ขอบคุณสำหรับรีวิว ที่มีข้อมูลดีๆแน่นๆนะครับ
[5 ก.ค. 54 07:38:49
]
#75 Tsukiji Hongan-ji
http://en.wikipedia.org/wiki/Tsukiji_Hongan-ji
[5 ก.ค. 54 10:07:09
]
^
^
^
ง่ะ ... พี่ฟ้าแย่งตอบ 
ตามหมอยุ่งมาระลึกถึงโตเกียวด้วย คิดถึงจริงๆ
กระทู้ข้อมูลแน่นๆแบบนี้ มีประโยชน์ โหวตเสมอ
..
[5 ก.ค. 54 11:24:36
]
ไปกินข้าวหน้าปลาดิบร้านเดียวกันที่ตลาดอเมโยโกะเลยครับ
ขออนุญาตเอารูปมาร่วมแจมกับหมอยุ่งหน่อยนะครับ...น่ากินไหมครับ
[5 ก.ค. 54 11:55:16
]
ข้าวหน้าปลาไหลจากร้านเดียวกันครับ
ส่วนตัวชอบข้าวหน้าปลาไหลมากกว่าแฮะ อร่อยจริงๆคิดแล้วอยากกลับไปโตเกียวอีกสักหนจังครับ...
[5 ก.ค. 54 11:56:04
]
ขอบคุณมากคะสำหรับข้อมูลดีๆ คิดถึงญี่ปุ่นจัง
เจอกันปลายปีนะ ขอทำงานเก็บเงินก่อน
[5 ก.ค. 54 12:01:19
]
ขอบคุณหมอยุ่งมากๆครับ
จากคุณ : coffee krem
[5 ก.ค. 54 13:21:14
]
ขอบคุณมากๆครับผม
จากคุณ : digimontamer
[5 ก.ค. 54 14:17:17
]
แห่ะๆ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะครับ
ตอนแรกนึกว่าจะได้โพสต์ตอนดึก แต่สลบ มาตอนบ่าย
เลยกลายเป็นรีวิว ที่ยังไม่เสร็จซักกะที 
ก็ไม่เป็นไรครับ คิดเสียว่า กระทู้เดียวเที่ยวคุ้มแล้วกัน เอาจนหมดทุกเม็ดเลย 
ขอขอบพระคุณคุณลุง SkyBox ที่ได้มาให้คำตอบด้วยนะครับ
เพราะตอนที่เดินผ่าน ก็ไม่เห็นมีป้ายภาษาอังกฤษอะไรกำกับไว้อยู่
---------------------------------------------------------------------------
ถึงคุณ cinta ครับ
1. สำหรับตั๋วช่วงปลายมีนาคม-เมษายน ถือว่าเป็นช่วง peak ทีคนจะไปดูดอกซากุระกัน (ส่วนช่วงต้นเดือน พฤษภาคม เป็น Golden Week ซึ่งคนญี่ปุ่นก็จะออกเที่ยวกัน อะไรๆ ก็จะแพงไปหมด) ดังนั้น ถ้าได้ตั๋วต่ำกว่าระดับ 15,000 ก็ถือว่าถูกมากครับ เพราะอย่างที่ผมจอง VN ได้ 17,xxx ก็จองล่วงหน้าแค่เดือนเดียวเท่านั้นเอง ซึ่งทีนี้เราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตั๋วของ UA (United Airlines) หรือ DL (Delta Airlines) แบบบินตรงไปลงนาริตะจะมีโปรฯ ออกมาอีกไหม หรือตั๋วแบบแวะ เช่น Cathay Pacific เปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง ก็อาจจะมีราคาระดับนั้นออกมาได้ ซึ่งก็ต้องตามข่าวครับ
ส่วนตัวผม ถ้าบินแอร์เอเชียราคารวมแล้วเกิน 12,xxx บาทถือว่าแพงครับ เพราะต้องบินอ้อมด้วย แถมทุกอย่างก็ต้องซื้อหมดเหมือนกัน เว้นแต่ว่าไม่ได้คิดอะไรมาก ต้องการไปช่วงซากุระพอดี จะสอยเลยก็ได้ครับ เพราะอย่างไร สายการบิน Full Service คงไม่ขายตั๋วถูกๆ ในช่วงเวลา Peakๆ แบบนี้แน่ๆ ครับ
ส่วนถ้าจะรอเดินทาง พย. ปีหน้าเลย
รอโปรฯ Free Seat ของแอร์เอเชียปลายปีนี้ไหวมั้ยครับ
น่าจะประมาณช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน
ถ้าแอร์เอเชีย+แอร์เอเชียเอ๊กซ์ เค้าขายตั๋วพร้อมกันแบบโปรฯ Big Sale เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก็น่าจะได้ตั๋วราคาถูกๆ ไปฮาเนดะ ไป-กลับจากกรุงเทพ ไม่น่าจะเกิน 6,xxx-8,xxx บาทถ้วนครับ
2. เรื่องวีซ่า ส่วนใหญ่คนจองโปรฯ หางแดงข้ามปี ไม่มีใครได้ทำวีซ่ากันก่อนหล่ะครับ เพราะวีซ่าทำล่วงหน้าได้สูงสุดแค่ 90 วันเท่านั้นเอง ดังนั้น ก็ต้องจองตั๋วไปก่อน แต่ถ้าวีซ่าดันเกิดไม่อนุมัติก็ต้องฟาดเคราะห์ไป ซึ่งถ้าเราเตรียมเอกสารการทำงานดีๆ และมีหลักฐานการเงินที่โอเคอยู่ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรในการขอวีซ่าครับ
---------------------------------------------------------------------------
มาต่อกันเลยนะครับ ที่วัด Meji Jingu
ผมคิดว่า วัดนี้ก็เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว
ที่ใครต่อใครก็มาขอพรกัน แน่นอนว่าผมก็ต้องมาขอพรด้วย
บางคนอยากจะเขียนข้อความขอพรไว้ ก็สามารถซื้อป้ายไม้มาเขียนได้ครับ ราคา 500 เยน
ปล. เจอป้ายที่เขียนเป็นภาษาไทยเยอะอยู่นะครับ
[5 ก.ค. 54 14:52:06
]
ขอบคุณคุณหมอ สำหรับข้อมูล
คงมีโอกาสได้ไปเที่ยวสักวัน
[5 ก.ค. 54 14:57:54
]
นั่งพักหายเหนื่อยแล้ว เติมน้ำเรียบร้อย
(น้ำที่ใช้ล้างมือ ล้างหน้าล้างตา ใสไหลเย็น
สามารถดื่มได้ และจะตวงใส่ขวดไว้ก็ได้ครับ น้ำเย็นสดชื่นมากๆ)
ได้เวลาไป Shibuya แล้วครับ การเดินทางก็มีให้เลือก 2 แบบ
คือจะขึ้นรถไฟฟ้า JR Yamanote Line (ในภาพ คห.100) ไปลงสถานีหน้าคือ Shibuya เลยก็ได้ครับ ราคา 130 เยน
ส่วนวิธีการที่สอง บริเวณนี้จะมีรถ Shuttle Bus เวียนในย่าน Shibuya มาย่าน Harajuku และในซอยนั้นก็จะมีสถานีโทรทัศน์ NHK ด้วย มีป้ายอยู่ตรงหน้าวัด Meji Jingu พอดี แต่เท่าที่ดูเส้นทาง น่าจะวนเวียนอ้อมๆ กว่าจะกลับไปถึง Shibuya ก็เลยตัดสินใจขึ้น Yamanote ไปดีกว่า (อีกทั้งไม่แน่ใจเรื่องราคาด้วยนครับว่าคิดเท่าไหร่)
รถ Shuttle Bus หน้าตาน่ารักมากมายครับ
นั่นก็คือการนำรูปเจ้า Hachiko หรือเจ้าฮาชิ สุนัขอาคิตะในตำนาน
ที่เฝ้ารอเจ้านายที่สถานี Shibuya ทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้านายเสียชีวิต ไม่ได้นั่งรถไฟกลับมา แต่เจ้าฮาชิก็ยังคงไปเฝ้ารอที่สถานี Shibuya ทุกวันเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งแก่ชรา หูเริ่มตก และเสียชีวิตหน้าสถานี Shibuya นั่นเอง ....
[5 ก.ค. 54 14:59:39
]
ดังนั้น เจ้าฮาชิ ก็เลยเป็นหนึ่งในตำนานของสถานีรถไฟ Shibuya
ก็เลยมีการตั้งอนุสาวรีย์เจ้าฮาชิขึ้น เป็นที่ระลึกถึงความรักและซื่อสัตย์
ที่เจ้าฮาชิ มีต่อเจ้านายนั่นเอง ....
[5 ก.ค. 54 15:01:51
]
Shibuya ช่วงเย็น คนเยอะใช้ได้ครับ
ร้านรวงคึกคัก อาหารการกินเพียบ ....
เรียกได้ว่า สำหรับใครที่เป็นขาช๊อป ชอบเดินดูนั่นดูนี่
ก็ใช้เวลากับที่นี่ได้นานพอสมควรทีเดียว ....
[5 ก.ค. 54 15:05:11
]
ตอนเย็นๆ คนก็เยอะแบบนี้หล่ะครับ ....
[5 ก.ค. 54 15:06:11
]
มาดูแผนที่ย่าน Shibuya กันหน่อย
มีห้างค่อนข้างเยอะครับ
อย่างห้างใหญ่ๆ ก็จะมี Tokyu ติดกับสถานีรถไฟ JR ซึ่งชั้นล่างของห้างก็จะมีสถานีรถไฟของบริษัท Tokyu อยู่ด้วยเช่นกัน
สำหรับใครที่จะไป Yokohama แบบเร็วๆ และราคาประหยัดกว่า JR
ก็สามารถมาขึ้นได้ที่นีครับ
ส่วนชั้นบนของห้างเป็นสถานี Tokyo Metro Shibuya ครับ
เป็นจุดเริ่มต้นของสายสีส้ม Ginza Line ที่ไปสิ้นสุดที่ Asakusa
มีห้าง Seibu อยู่ฝั่งตรงข้าม (ห้าง Seibu ก็มีหลายสาขาครับ สาขาที่ Shinjuku และ Ikebukuro มีสถานีรถไฟฟ้าของตัวเองด้วย เป็น Seibu Shinjuku Line และ Seibu Ikebukuro Line ไปย่านชานเมือง รู้สึกว่าเจ้าของ Seibu น่าจะชอบกีฬาเบสบอลมากครับ จึงเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมเบสบอล บางทีจะมีรูปนักเบสบอล มาโพสต์ท่าในสถานีและขบวนรถของ Seibu ด้วย)
สำหรับห้างที่ผมจะพามากินในวันนี้คือห้างพี่มาร์คครับ
Shibuya Mark City ซึ่งชั้นล่างจะเป็นสถานีรถไฟของบริษัท Keio ให้บริการขบวนรถไฟไปชานเมืองครับ (ไม่ใช่สายที่นักท่องเที่ยวไปกัน)
จะมีร้านอาหารหลายเจ้าอยู่บนชั้น 4 ซึ่งร้านซูชิที่ผมจะพามาก็อยู่ที่ห้างนี้ครับ (ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง แต่ผมมาทีไรคนแน่นตลอด พนักงานดูเอาใจใส่ดี และซูชิรสชาติเยี่ยม)
[5 ก.ค. 54 15:13:12
]
ก่อนขึ้นห้างพี่มาร์ค ไปเดินเล่นกันก่อนดีกว่า ....
ผมเพิ่งจะรู้ว่าไอติม Baskin Robbins ที่นี่ต้องต่อคิวซื้อ .....
[5 ก.ค. 54 15:15:56
]
ปากทางเข้าห้างพี่มาร์คด้านทิศตะวันตก
ส่วนด้านทิศตะวันออกจะมีทางเดินเชื่อมไปยังห้าง Tokyu และสถานี Tokyo Metro Shibuya ครับ
[5 ก.ค. 54 15:17:40
]
บนชั้น 4 ของห้างพี่มาร์ค
เราถูกใจกับร้านไอติมร้านนี้ครับ ....
คือ ไอติมก็เป็นไอติมปกตินั่นหล่ะ
เพียงแต่ว่าเป็นไอติมที่จะคลุกเคล้ากับผลไม้นานาชนิด
ที่เราสามารถเลือกได้ ตามหน้าต่างๆ ครับ
มีหลายขนาดให้เลือก ราคาเริ่มต้นประมาณ 600 เยน
[5 ก.ค. 54 15:19:26
]
ขอบคุณหมอยุ่งมากมายเพราะอ่านแล้วทำให้คิดถึงสถานที่ต่างๆในอดีตครับ
จากคุณ : Jackrapan O. [5 ก.ค. 54 15:20:38 ]A:210.246.188.227 X: TicketID:310590แห่ะๆ พันทิปเป็นอะไรไม่รู้มีด๋อยด้วยแฮะ ... พิมพ์ไปตั้งยาว
ก็คือ .... เค้าจะทำบนโต๊ะที่มีอุณหภูมิเย็นจัด เพื่อไมให้ไอติมละลาย
วางไอติมลงไป แล้วก็ใส่เครื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้หรือแยม หรือะไรแล้วแต่จะเลือก หรือตามเมนูที่กำหนดไว้
หลังจากนั้นเค้าก็จะคลุกๆๆๆ
[5 ก.ค. 54 15:34:29
]
ออกมาเป็นแบบนี้
[5 ก.ค. 54 15:35:13
]
พร้อมเสิร์ฟ ไอติมเหนียวนุ่ม อร่อยครับ
[5 ก.ค. 54 15:36:46
]
ไม่ต้องแปลกใจนะครับ พาทานของหวานก่อนของคาว ...
ร้านซูชิที่ผมพามานี้ อยู่บนชั้น 4 ห้างพี่มาร์คเหมือนกัน
ไม่ไกลจากร้านไอติมข้างบนครับ คนเยอะแน่นร้าน
ถ้ามาช่วง peak อาจจะต้องต่อคิวรอหน้าร้านกันเลยทีเดียว
ผมก็ไม่ทราบชื่อร้านหรอกครับ เห็นคนเยอะก็เลยเข้าไป
ตอนมาญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ก็เลยตั้งใจจะกลับมาอีกครับ
สำหรับในร้านมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบครับ
คือจะนั่งเคาน์เตอร์ติดขอบ ดูเค้าทำซูชิและสั่งซูชิได้ง่ายๆ
หรือจะนั่งแยกออกมาเป็นโต๊ะเดี่ยวๆ ก็ได้ครับ
ส่วนตัวผมจะชอบโต๊ะเคาน์เตอร์ เพราะจะมีเมนู ที่เราสามารถชี้นิ้ว
สั่งตามเมนูให้เค้าทำให้ได้เลยทันที (แต่ระวังเรื่องราคาด้วยนะครับ มีราคากำกับไว้ เวลาทานไปนั่งบวกเลขไป แห่ะๆๆ)
แต่สำหรับคนทีขี้เกียจสั่งเป็นรายชิ้นก็มีเป็นเซ็ทเมนูมาให้เลือก
ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2,380 เยนขึ้นไป จนถึง 3,xxx เยน
(แต่ถ้าสั่งแยก ราคาก็ประมาณ 2,xxx เยน ขึ้นไปอยู่ดีครับ)
ปล. ซูชิร้านนี้จะใส่วาซาบิข้างในด้วยนะครับ ดังนั้น คนที่ไม่ชอบวาซาบิอาจจะไม่ชอบร้านนี้ก็ได้ อย่างคุณเธอ ก็ไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ เผ็ดอ่ะ
[5 ก.ค. 54 15:40:29
]
เซ็ทนี้มาตรฐาน ราคารู้สึกจะ 1,6xx เยนครับ
มาพร้อมกับชาร้อน ซุปมิโซ และสลัดญี่ปุ่น
ปลาสดมาก แต่ข้างในใสวาซาบิไว้นิดนึง
แอบสงสารคุณเธอ เวลากินต้องค่อยๆ แงะเอาวาซาบิออกซักหน่อย
ไม่งั้นเผ็ดเกิน ชนิดหน้าแดง ควันออกหูเลยทีเดียว
แต่สำหรับผม กำลังโอเคเลยครับ ชอบมาก
[5 ก.ค. 54 15:45:48
]
อันนี้แบบชุดใหญ่ครับ ราคาแพงตรงทีมีปลาไหล
และขาปูยักษ์เอามาทำซูชิด้วย ... เมนูแบบนี้ไม่มีในไทยแน่ๆ
[5 ก.ค. 54 15:47:39
]
มาซูมซูมกัน โฮก.....
[5 ก.ค. 54 15:54:39
]
แคลิฟอร์เนียโรล หน้าทูน่าสับ อร่อยเหมือนกันแฮะ ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[5 ก.ค. 54 15:55:36
]
น้ำลายเลอะคีย์บอร์ดหมดแล้ว กลับไปพักผ่อนที่พักกันดีกว่า
กรณีจาก Shibuya กลับที่พัก คือสถานี Awajicho
ก็นั่ง Tokyo Metro สายสีส้มจาก Shibuya
แวะเปลี่ยนรถที่สถานี Akasakamitsuke ต่อเดียวเป็นสายสีแดง ถึงที่พักภายในเวลา 20 นาที สบายๆ ครับ
สำหรับสถานีนี้เปลี่ยนรถง่ายมาก เพราะแค่เดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ต้องเดินไกลเลย เหมือนออกแบบมาไว้สำหรับเปลี่ยนขบวนรถอยู่แล้วครับ
[5 ก.ค. 54 15:59:17
]
กรณีจาก Shibuya จะต่อไป Roppongi เลยก็ไม่ยากครับ ....
แต่ต้องนั่ง Tokyo Metro + Toei ราคาจะแพงหนอย อยู่ที่ 260 เยน
นั่ง Tokyo Metro จาก Shibuya เปลี่ยนขบวนเป็น Toei
ที่สถานี Aoyamaitchome แล้วก็ต่อมาลงที่ Roppongi ได้เลยครับ
พอดีผมขอมาดูพระอาทิตย์ตกดินที่ที่พักก่อน อิอิ
พอดีคุณเธอเหนือยแล้วครับ ดังนั้นรอบกลางคืนผมจะไปตะลุย Roppongi Hills คนเดียว แห่ะๆๆ
[5 ก.ค. 54 16:04:15
]
### การเดินทางแบบง่ายๆ สู่ Roppongi Hills ###
ง่ายสุดด้วยรถไฟ Tokyo Metro นี่หล่ะครับ
กรณีเดินทางจาก Ginza ก็ขึ้นสายสีเทา Hibiya Line
มาลงที่ Roppongi ได้เลย
สำหรับตัวผม เดินทางจาก Awajicho สายสีแดง
ก็แวะเปลียนรถที่สถานี Kasumigaseki แล้วนั่งไปอีกแค่ 2 สถานีก็ถึง Roppongi แล้ว ....
สำหรับย่าน Roppongi อารมณ์จะเป็นย่านไฮโซ
ถ้าเทียบกับกรุงเทพ อารมณ์ประมาณสุขุมวิท หรือ ราชดำริ ถนนวิทยุ
ถ้าห้างเซ็นทรัลที่กำลังก่อสร้างตรงสวนลุมไนท์บาซ่าร์เก่าเสร็จ
ผมเดาว่า จะออกมาเหมือน Roppongi มาก
(เพราะเจ้าของเค้าจงใจจะให้ตรงนั้นเป็นเหมือน Roppongi กรุงเทพ)
[5 ก.ค. 54 16:16:55
]
แป๊บเดียวก็มาถึงแล้ว Roppongi ย่านไฮโซ ....
ก็จะมีห้างร้านต่างๆ มากมายครับ
แต่จุดที่ผมสนใจที่สุดก็คือตัวห้าง Roppongi Hills
เป็นทั้งห้าง และ อาคารสำนักงาน มีโรงแรมและที่อยู่อาศัยด้วย
ซึ่งมีอาคารหลักที่สูงที่สุดในย่านนี้ก็คือ Mori Tower สูง 54 ชั้น
และเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวแห่งหนึงในกรุงโตเกียวคัรบ
ออกประตู 1C ได้เลยนะครับสำหรับ Roppongi Hills
[5 ก.ค. 54 16:21:28
]
ดูแผนที่อีกอันหนึ่ง จะได้นึกภาพออกขึ้นนะครับ
อันนี้คือส่วนของตัว Roppongi Hills ทั้งหมด
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ได้ครับ
http://www.roppongihills.com/en/
เค้าก็จะแบ่งเป็นส่วนๆ ตามภาพนี้เลย ก็จะมีห้างอยู่ด้วย
และจุดที่เป็นทางขึ้นไปชมวิวบนอาคาร จะมีทางแยกออกจากลิฟท์อาคารสำนักงานปกติครับ
[5 ก.ค. 54 16:25:25
]
บริเวณด้านหน้าตัว Roppongi Hills
ทีเห็นอาคารด้านหน้าคือทางออก 1C จะมีบันไดเลื่อนลากยาวขึ้นไปบนอาคารเลยครับ (พอดีผมเดินมาจากทางออกอื่น เลยเห็นภาพมุมนี้)
ส่วนตึกสูงด้านหลังคือ Mori Tower ซึ่งเดี๋ยวเราจะขึ้นไปชมวิวด้านบนกัน
[5 ก.ค. 54 16:26:47
]
เรียกได้ว่า ถ้านั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน Tokyo Metro
ลงที่สถานี Roppongi แล้วออกตรงทางออก 1C ก็ขึ้นบันไดเลื่อนยิงขึ้นอาคารแบบนี้ได้เลยครับ สะดวกสบายๆ มากๆ
[5 ก.ค. 54 16:27:55
]
มองออกไปเห็นโตเกียวทาวเวอร์อยู่
กรณีจะไปโตเกียวทาวเวอร์ ต้องไปลงที่สถานี Kamiyacho
ห่างจาก Roppongi ไป 1 สถานีครับ ถ้าเดินไปก็ไกลมากพอสมควร
[5 ก.ค. 54 16:29:18
]
Mori Art Museum และ Tokyo City View ชั้น 52-53
ต้องเข้าทางนี้ครับ ลิฟท์จะอยูที่ชั้น 3 (ที่เรายืนอยู่คือชั้น 2X
[5 ก.ค. 54 16:30:46
]
โมเดลอาคาร Mori Tower และอาณาบริเวณโดยรวมเป็นเช่นนี้ ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[5 ก.ค. 54 16:32:17
]
ค่าเข้าชม สำหรับแพคเกจธรรมดา
คือ Tokyo City View (ปิด 5 ทุ่ม) & Mori Art Museum (ปิด 2 ทุ่ม)
ราคาอยู่ที่ 1,500 เยน
แต่สำหรับใครที่ยังมีสถานะเป็นนักศึกษาอยู่ ราคา 1,000 เยน
(แสดงบัตรนักศึกษาด้วยครับ ป.ตรี ป.โท ได้หมดเลย)
[5 ก.ค. 54 16:35:31
]
ได้ตั๋วเรียบร้อย กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น 52 ได้เลยครับ
บริเวณจุดชมวิว วันที่ไปชมนี่มีที่นั่งของ ANA ตั้งโชว์อยู่
เหมือนตอนนี้ ANA เป็นสปอนเซอร์กิจกรรมดูดาวประมาณนั้น
ก็เลยได้ดูที่นั่ง Business ใหม่ของ NH ผมว่าแหล่มนะครับ
คล้ายกับของ Emirates เลย
[5 ก.ค. 54 16:43:32
]
มีแผนที่บอกว่าอะไรเป็นอะไรอยู่
อย่างใจกลางกรุงโตเกียว ถ้ามากลางวันคงจะได้เห็น
พื้นที่สีเขียวใหญ่ นั่นก็คือ พระราชวังอิมพีเรียล
แต่มากลางคืน แค่เห็นแสงไฟระยิบระยับ และ Tokyo Tower
ในเวลากลางคืนผมว่าก็โอเคแล้วครับ
ถ้ามีเวลาผมคิดว่า มาช่วงเย็นๆ พระอาทิตย์กำลังจะตกดินน่าจะดี
เพราะบริเวณมุมตึกอีกด้านหนึ่ง มีบาร์และร้านอาหารมีอะไรให้นั่งทานเล่นๆ ระหว่างชมพระอาทิตย์ตกดินด้วย (น่าจะโรแมนติกพอสมควร แต่ราคาก็อลังการตามชั้นที่อยู่หล่ะครับ)
[5 ก.ค. 54 16:46:58
]
มุมมองไปทาง Tokyo Tower คือภาพเปิดกระทู้นะครับ
พอมองไปด้านทิศใต้ ก็จะเห็นย่าน Shinagawa
และสนามบินฮาเนดะอยู่ลิบๆ นู้นเลยครับ
ถ้านั่งดูตรงนั้นนี่ จะเห็นเครื่องบินขึ้นลง มีไฟกระพริบๆ อยู่
[5 ก.ค. 54 16:48:34
]
หมอคะ background สีม่วงอ่านแล้วเครียดจัง
แอบเข้ามา bluit ตัวเองด้วยคน เพราะตุลานี้ยังไม่ได้เลือกเลยว่าจะไปไหน
ฝรั่งเขาบอกไว้ว่า JAPAN IS JAPAN ป้าเองอยากพิสูจน์เหมือนกันคะ
[5 ก.ค. 54 16:55:00
]
มองไปทางทิศเหนือ ก็จะเห็นกลุ่มตึกสูง ยาน Shinjuku นั่นเอง
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[5 ก.ค. 54 16:55:07
]
อื้มมม งั้น background สีอะไรดีครับ ??
เหมือนสีนี้ จะกลายเป็นสีประจำตัวผมไปซะแล้ว
สีด่างทับทิม แห่ะๆๆ
กำลังจะจบแล้วหล่ะครับ
Mori Art Museum พอดีมาดึกไปหนอยปิดไปแล้ว ก็ไม่แน่ใจว่าบนนั้นมีอะไรบ้างนะครับ
สำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวแบบ open air บนดาดฟ้าตึกชั้น 54
สามารถขึ้นไปชมได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 300 เยนครับ
[5 ก.ค. 54 16:58:16
]
บริเวณ West Walk ก็มีร้านค้าต่างๆ พอสมควร
แต่ตอนนี้ดึกแล้วเงียบกริบครับ .... หากมีเวลาจะเดินเล่นที่นี่
หรือเดินเล่นห้างอื่นๆ ใกล้เคียงก็ได้ครับ
[5 ก.ค. 54 16:59:51
]
ปิดกระทู้แล้วครับ ....
ทางลง 1C เข้าสถานี Tokyo Metro Roppongi
ก็เรียกได้ว่าเป็นกระทู้ที่ใช้เวลาทำนานมากๆ
เพราะค่อนข้างยาวพอสมควร ยิงยาวก็ไม่เสร็จแฮะ
สำหรับกระทู้หน้าตอนที่ 3 เช้ามืดวันจันทร์หน้า
จะพาไปเที่ยวรอบนอกกรุงโตเกียว กับ 3 ทริปสำคัญสบายๆ
อันได้แก่
1. Hakone Free Pass 1 วันแสนสนุกที่ฮาโกเน่ ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ล่องเรือโจรสลัด และลงบ่อออนเซ็น กับรถไฟ Odakyu
2. World Heritage Pass 1 วันเพลิดเพลินในนิกโก้ กับรถไฟ Tobu
3. ไหว้พระใหญ่ชมเมืองคามาคุระ + เมืองโยโกฮาม่า 1 วันกับแพคเกจรถไฟ JR (เริ่มต้นที่สถานี Ofuna)
(สำหรับ 2+3 เป็นของเก่าเมื่อปีที่แล้ว เอามารีรันแบบกระชับๆ ใหม่เนื่องจากคิดว่า เป็นทริปสำคัญที่ใครหลายๆ คนไปโตเกียวแล้วก็อยากไป) จะใส่ไว้ในกระทู้หน้าด้วยเลยครับ จะได้ตัดสินใจกันได้ ...
ส่วนทริปที่ไปไกลกว่านั้นแบบต้องค้างคืนเช่น คาวาฯ ซึ่งผมยังไม่มีโอกาสไป ลองหาข้อมูลจากท่านอืนๆ ประกอบกันด้วยก็ดีครับ ....
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกระทู้มาจนจบครับ (ยาวมากจริงๆ)
[5 ก.ค. 54 17:05:33
]
คุณหมอ อย่าลืม Odaiba ด้วยนะครับ รอชมอยู่
จากคุณ : GTO@Dummy
[5 ก.ค. 54 17:50:54
]
แห่ะๆ สำหรับ Odaiba ยกให้ 1 กระทู้เป็นตอนจบ (ตอนที่ 4) เลยครับ
งานนี้เอาใจคนรักสัตว์เป็นอย่างยิ่ง
และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สัตวแพทย์ ก็จะได้ไปดูคลินิคสัตวแพทย์ญี่ปุ่นด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วปิดท้ายด้วยบินกลับไทยแบบสั้นๆ ครับ
อย่างไรขอเอาเรื่องเที่ยวนอกเมืองก่อนในตอนหน้านะครับ ...
ขอขอบคุณที่แวะมาอ่านกระทู้ครับ
[5 ก.ค. 54 18:18:47
]
ขอบุ๊กมาร์คกระทู้นี้ไว้ก่อนเลยค่ะ ... ว่าง ๆ จะตามมาอ่านรายละเอียดแบบยิบย่อยจริง ๆ จะตามไปทุกส่วนที่อธิบายไว้เลยค่ะ
คิดถึงญี่ปุ่นมากกกกกกกกกกกกกกก จะไปหาแล้วน๊ะ ^^
[5 ก.ค. 54 20:33:40
]
ขอเก็บไว้เลยค่ะ ขอบคุณมากมากค่ะ หวังว่าเราจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเค้าบ้าง
จากคุณ : lovely_l
[5 ก.ค. 54 22:00:26
]
หมอยุ่ง...ครับ
รายละเอียด มากมาย จริงๆๆ...เก่ง มาก เลยครับ
เดา ว่า ตอนเรียนหนังสือ ต้องได้ลำดับ ต้นๆๆๆ เป็นแน่
สรุป ความและเขียนประเด็นได้ ดี ครับ
ชื่อชม ....และ...ขอบคุณที่ Share
Forded
[5 ก.ค. 54 22:39:04
]
เดี๋ยวไว้ครั้งหน้าขอไปลองชิมร้านซูชิ ชั้น4 ห้างพี่มาร์ค ตามที่คุณหมอแนะนำบ้างนะครับ กลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ผมได้ไปชิมคิวชูจังกะระราเม็งที่ฮาราจูกุมาแล้ว พอนั่ง jr ไปลง ueno แล้วไปตลาดอะเมโยโกะก็ยังอิ่มจนไม่ได้ชิมร้านข้าวใน คห.14 เลย
ไปญี่ปุ่นมาแล้วมีความสุขมาก โชคดีได้ขึ้นฟูจิชั้น 5 ด้วย confirm ด้วยคนครับว่าญี่ปุ่นไปเที่ยวได้จริงๆ ใครไปแล้วก็อยากจะกลับไปอีก
[6 ก.ค. 54 00:22:34
]
ขอบคุณสำหรับข้อมูลต่างๆมากครับ
จากคุณ : Destiny-Boy
[6 ก.ค. 54 09:36:19
]
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
จากคุณ : MinnieMoChi
[6 ก.ค. 54 15:46:42
]
เที่ยวสนุกมากเลยคะ ผึ้งก็ชอบไปเที่ยวเองมากกว่าไปเที่ยวกับทัวร์ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ขอเอาข้อมูลไปเที่ยวทริปของตัวเองด้วยได้ไหมคะ
จากคุณ : ผึ้งตัวกลม
[6 ก.ค. 54 16:35:39
]
ขอบคุณมากค่ะที่พาเที่ยว
แค่อ่านยังเหนื่อย แล้วคนทำจะเหนื่อยขนาดไหน
ขอบคุณจากใจเลยค่ะ
[6 ก.ค. 54 18:26:21
]
โอ้ย!...อยากกลับไปญี่ปุ่น แค่เดินเที่ยวก็มีความสุขแล้วค่ะประเทศนี้
[6 ก.ค. 54 22:07:52
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวดี ๆ ค่ะ
ปลาแซลมอลน่าทาน มว๊ากกกกกกกกก
[6 ก.ค. 54 22:26:35
]
#135 ชื่อร้าน Midori sushi ครับ เป็นร้านยอดนิยมคนไทยเลย
ส่วนผม...อยู่มาจะสามปีแล้วยังไม่เคยได้ไปกินร้านนี้เลย เพื่อนชวนไปหลายรอบแล้ว ฮ่าๆ
ย่าน awajicho ถ้ามาช่วงหน้าหนาว...แถวนั้นนี่เป็นแหล่งขายพวกอุปกรณ์สกีกับสโนบอร์ดเลยครับ
แล้วก็มีพวกแว่นตา/goggles แนวๆเพียบ 
ส่วนร้าน Coldstone รู้สึกมีที่ CTW กับเซนแจ้งนะครับ กลับไปล่าสุดเห็นไปเปิดอยู่
แต่ส่วนตัวคิดว่าที่นี่อร่อยกว่า เพราะที่ไทยไอสครีมมันหวานเกินสำหรับผมครับ
[6 ก.ค. 54 23:54:25
]
ขอบคุณค่ะ รีวิวด้วยใจจริง ๆ
จากคุณ : ม่านบาหลี
[7 ก.ค. 54 07:27:08
]
กำลังอยากไปพอดีเลย ... เกาะติดๆ ค่า
จากคุณ : แอนด้า
[7 ก.ค. 54 15:07:48
]
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ด้วยครับ
จากคุณ : white koala
[7 ก.ค. 54 16:27:21
]
ขอบคุณมากค่าาา ละเอียดมากเลย
เห็นรีวิวแล้วใจเต้นตุ้บๆ คิดถึงญึ่ปุ่นจริงๆ เลย
[7 ก.ค. 54 17:30:42
]
ตอนนี้ ไอศครีม Buskin มีโปร ซื้อ 2ลูก แถม1ลูก ทุกวันตลอดเดือนกรกฎาคม
จำไม่ได้ว่าโปรนี้ถึงสิงหาคมหรือเปล่านะคะ
ถ้าเป็น บัสกิ้นสาขานอกเมืองโตเกียวออกมาแล้ว(แถวที่เราอยู่)ก็ไม่ต้องต่อคิวค่ะ คนโล่งมาก ยกเว้นช่วงวันหยุด หรือเวลาเลิกงานพอดี คนต้องเดินเข้าออกสถานีเยอะอาจจะมีต่อคิวบ้าง
แต่ที่แน่ๆ แอนตี้แอนท์ คนต่อคิวยาวเหยียด เห่อมากๆวันเปิดสาขาออกข่าวทีวีญี่ปุ่นด้วย บ้านเขาไม่มี งงจริงๆ บ้านเรานี่ไปต่างจังหวัดยังได้กินเลย
[7 ก.ค. 54 21:40:45
]
อยากไปอีกที่สุด >.< แอบเห็นร้าน Midori ด้วย
เสียดายน่าจะลองสั่งเป็นคำๆนะค่ะ สนุกดี ^^
[8 ก.ค. 54 01:18:47
]
อยากไปญี่ปุ่นสักครั้ง และที่อยากไปมากๆ ก็ที่อนุสาวรีย์เจ้าฮาชิ นี่หละค่ะ ^_^
พี่บีเคยดูหนังเรื่องนี้ ร้องไห้ขี้มูกโป่ง เป็นหนังในดวงใจ สักวัน....คงได้มีโอกาสไปเยือน
ขอบคุณข้อมูลแน่นๆ ค่ะ
จากคุณ : DOGHALL
[8 ก.ค. 54 01:55:55
]
เพิ่งไปถามมา ตกลงว่าสองร้านข้าวปลาดิบที่เห็นคล้ายๆกันในอาเมโยโกะคือร้านเดียวกันนะคะ
ไม่ใช่คู่แข่งแต่เป็นร้านสาขาค่ะ เวลาคนเยอะสาขาออริจินัลจะได้ไปกินอีกที่ได้ ^^
ปล แต่เมื่อวานได้ยินคนเดินเข้าถามว่าซื้อกลับบ้านได้มั๊ย เหมือนเค้าจะตอบว่าไม่ได้แล้วน่ะค่ะ
(แต่แต่ก่อนซื้อกลับได้นะคะ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับฤดูว่าตอนนี้ร้อนอยู่หรือเปล่า)
[8 ก.ค. 54 10:59:18
]
อยากไปญี่ปุ่นบ้างจังค่ะหมอยุ่ง
จากคุณ : Warm Chocolate
[8 ก.ค. 54 15:29:43
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะคะคุณหมอ
จากคุณ : ไข่จังน้อย
[8 ก.ค. 54 17:32:21
]
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่า^_^
จากคุณ : ยายปลุก...มาแว้ว...
[9 ก.ค. 54 06:15:18
]
เข้ามาขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาอ่านครับ 
ตอบคุณ Forded ครับ --> อยากจะบอกว่าตรงกันข้ามครับ
ผมเป็นคนที่เรียนไม่เก่งเลย ตอนสมัยเรียน ม.ปลาย ก็เกรดแค่ 2 กว่าๆ
เหมือนจับพลัดจับผลูสอบติดสัตวแพทย์ได้ตามความคาดหวังของพ่อแม่ และก็ต้องพากเพียรเรียนจนจบ ซึ่งผมเองก็โชคดี ที่ได้เพื่อนดีครับ
เพื่อนสนิทผมเป็นคนเรียนเก่งมาก (เรียนจบ Ph.D. ตอนอายุแค่ 27 ปี)
เป็นติวเตอร์ให้กับผม และเพื่อนๆ ก็เลยผ่านพ้นมาได้แบบหวุดหวิดครับ
ตอบคุณ SavageDancer ครับ --> คราวหน้าผมก็อยากจะไป Kawaฯ และทางฟูจิชั้น 5 บ้าง แต่คงต้องมีเวลามากกว่านี้ครับ ไม่เป็นไร เกาะญี่ปุ่นยังไม่หนีหายไปไหน อิอิ
ตอบคุณ เฉาก๊วยกับบ๊วยเค็ม ครับ --> ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ หน้าร้านไม่มีป้ายภาษาอังกฤษเลย จริงๆ ผมชอบแบบสั่งมากกว่าครับ แต่ครั้งนี้ไปกับคุณเธอ โต๊ะเคาน์เตอร์เต็ม ก็เลยต้องไปนั่งโต๊ะแยกครับ น่าเสียดายเหมือนกัน ถ้าใครได้ไปน่าจะได้นั่งโต๊ะเคาน์เตอร์มากกว่า
ตอบคุณ Saori_gig ครับ --> ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ถึงว่าหล่ะครับว่าทำไมต้องต่อคิวยาวขนาดนั้น เพราะมีโปรโมชั่นนั่นเอง
ขนาด Swensen มีโปรฯ บัตรสมาชิก ซื้อ 1 แถม 1 วันอังคาร คนยังไม่เยอะขนาดนี้เลยนะครับ อิอิ
ตอบคุณ Moopenguin --> ใช่ครับ เสียดายว่าน่าจะสั่งเป็นคำๆ เพราะคราวที่แล้วผมสั่งเป็นคำๆ ใช้นิ้วจิ้มๆ เมนู เค้าก็ทำให้ เวลาสั่งก็ยกถาดไม้รองซูชิให้เค้าด้วย เค้าก็จะทำแล้วก็ส่งมาให้ แต่อย่างที่บอกหน่ะครับว่า จิ้มเครืองคิดเลขไปด้วยก็ดีครับ กลัวกินเพลิน พอเห็นบิลจะเป็นลมเสียก่อน
ตอบพี่บี DOGHALL ครับ --> ผมว่าแล้วว่า พี่บีต้องคิดเหมือนผม ตอนเด็กๆ เคยดูหนังเรื่องฮาชิแล้วสงสารมาก เป็นหนังที่ทำได้เศร้ามากจริงๆ
ส่วนอนุสาวรีย์เจ้าฮาชิ นี่ผมตั้งใจควานหา รู้ว่าอยู่ที่สถานี Shibuya ก็เลยต้องมาดูซักกะหน่อยนึง เดี๋ยวตอนที่ 4 พาไป Odaiba เมืองใหม่ ที่เป็นเหมือนเมืองคนรักสุนัข ในห้างอนุญาตให้เอาน้องหมาเข้าไปเดินเล่นเฉิดฉายได้ (แต่ต้องมีสายจูง หรือ อยู่ในตระกร้ารถเข็นสำหรับสุนัข ห้ามปล่อยวิ่ง) มีร้าน Pet Shop หลายร้าน อย่างร้านใหญ่ชื่อ Pet City ซึ่งคนรักน้องหมาน้องแมว น่าจะถูกใจกันมากๆ ครับ อีกทั้งยังมี Cat Cafe (อันนี้โดนใจคนรักแมว) ที่มีน้องแมวกว่า 30 ชีวิตอยู่ข้างใน นั่งทานขนมไป มีน้องแมวเดินผ่านไปผ่านมา ประมาณนั้นครับ
ตอบคุณ White Amulet ครับ --> ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับที่แวะไปถามให้ ดีเลยครับ ก็แปลว่าเป็นร้านเดียวกัน ทานตรงไหนก็อร่อยเหมือนกัน (เหมือนร้านใหม่ จะยกพื้นสูงกว่าร้านเดิมด้วยนะครับ)
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านกระทู้ครับ
[9 ก.ค. 54 09:49:46
]
#75
เป็นวัดค่ะ เป็นสถานที่จัดงานศพของฮิเดะ วง X Japan ด้วย
เราเคยลองเข้าไปดู มีสมุดในลงนามไว้อาลัย มีแฟนๆจากทั่วโลกมาเขียนข้อความถึงฮิเดะกันเต็มไปหมด จากแฟนคลับชาวไทยก็มีเหมือนกันค่ะ
#82
ร้านที่คนต่อเยอะๆนี่ขายซูชินะคะ ป้ายมันเขียนว่า ซูชิได เราเคยไปทานร้าน 仲家 ขายไคเซ็นด้ง(ขาวหน้าปลาดิบ) คนรอคิวเยอะมากๆ
ส่วนเรื่องรถบัส รถบัสในโตเกียวส่วนมากจะเหมาจ่าย 200 เยนค่ะ ใกล้-ไกล ราคาเดียวกัน
[10 ก.ค. 54 02:26:03
]
ชอบมากเลยครับ
กำลังหาตั๋วฟถูกๆไปลุยแบบหมอมั้ง
[10 ก.ค. 54 13:08:21
]
ดีใจจังเข้ามาเจอทู้หมอยุ่ง พาเที่ยวญี่ปุ่นแบบนี้.....
.....ได้จังหวะมั่กมาก กำลังจะไปเลยค่ะ ขอเก็บข้อมูลประกอบด้วยเลยล่ะกัน 55+
[10 ก.ค. 54 14:48:29
]
จะไปปลายปีนี้แล้วค่ะ มาเก็บข้อมูลไว้ก่อน ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ^^
จากคุณ : น.ส. เหอฮัว
[10 ก.ค. 54 16:03:15
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ><
ตอนนี้เรียนอยุ่ต่างแดน มีเวลาก็ทำงานเก็บตังค์กะไปเที่ยวญีป่นนีแหละ อิอิ
[10 ก.ค. 54 16:21:36
]
มาขอบคุณ คุณแดงตะวันตก สำหรับข้อมูลนะครับ
เป็นวัดนั่นเอง แห่ะๆๆ ส่วนร้าน คห.82
พอดีเห็นป้ายเขียนหน้าร้านว่า No Sushi ผมก็เลยแปลกใจครับ
อย่างไรคราวหน้า ถ้ามีโอกาสจะต้องไปต่อคิวดูมั่งครับ แฮ่ๆๆๆ
ส่วนรถเมล์/รถบัส ในโตเกียว เห็นผ่านเยอะแต่ก็ไม่กล้าขึ้นครับ
ยังไม่ Advance ขนาดนั้น (ขนาดรถเมล์สิงคโปร์ ก็ต้องสั่งสมประสบการณ์พักหนึ่งก่อนจะกล้าขึ้นรถเมล์) แต่ถ้าทราบว่าราคาเหมาจ่าย 200 เยนหมดก็นับว่าโอเคอยู่นะครับ นั่งไปไกลเท่าไหร่ก็ราคาเดียวกัน
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านด้วยนะครับ
[10 ก.ค. 54 22:19:13
]
น้องไอซ์ ตามมาอ่านด้วยคนค่ะ...
บ้านเราเคยไปแต่ ในประเทศ อยากลองออกนอกประเทศ มั่งจังค่ะ...
มีไกด์ดีๆ อย่างหมอยุ่ง สู้ตายคร่า อิอิ
[11 ก.ค. 54 20:25:41
]
อ่านจนจบทุกข้อความในกระทู้ถึงตรงนี้แล้วอยากบอกคุณหมอว่า
จะรอชม Odaiba เมืองใหม่ อยู่อย่างใจจดใจจ่อนะคะ
[14 ก.ค. 54 00:34:21
]
ขอบคุณครับ เข้ามาดูกระทู้หมอยุ่งบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้เขียนตอบเลย กระทู้ดีมากๆ อ่านไปก็อมยิ้มไปใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆดีจัง เป็นกำลังใจให้นะครับ
จากคุณ : speedbird
[19 ก.ค. 54 10:20:43
]
เพิ่งได้กลับเข้ามาดูอีกที ขอบคุณคุณหมอใน คคห ที่ 121 ค่า
^__________________^
[30 ส.ค. 54 12:44:18
]