สวัสดีครับเพื่อนสมาชิก BP

เมื่อหลายวันก่อน ผมเองซึ่งปัจจุบันมาทำงานที่ต่างจังหวัดซึ่งอยู่ห่างจาก กทม ประมาณ 600 กม. นั่นคือ จ.อำนาจเจริญ จะต้องมีภารกิจพิเศษที่จะต้องเข้าไป กทม .....  

แต่ผมเองก็ีีมีงานประจำที่มิอาจจะปลีกเวลาไปได้มากนัก ดังนั้นงานนี้ จึงมีเวลาแค่ 24 ชม. เท่านั้น และต้องกลับมาทำงานตามปกติ   จึงต้องเลือกเดินทางด้วย เครื่องบิน เท่านั้น
แต่เนื่องจาก จ.อำนาจเจริญ ไม่มีไฟลท์บิน และไม่มีสนามบินด้วยซ้ำ สนามบินที่ใกล้ทีสุดคือ สนามบินนานาชาติอุบลราชธานี

ได้ตั๋วโปรโมชั่นของ Nokair มาช่วยเซฟเงินในกระเป๋าพอดี เลยได้ตั๋วไป-กลับ ในราคาที่ไม่หนีจาก ค่าตั๋วรถบัส VIP  มากนัก

ออกเดินทางเลยดีกว่าครับ ไฟลท์บิน นกแอร์ DD9315 ออกจากอุบลฯ 12.40 น. รออยู่แล้ว  ระยะทางจากที่นี่ ไปสนามบิน ประมาณ 100 กม.



...............................................................................................
ปล. รีวิวนี้ เป็นภาพจากการที่ขับรถไป และถ่ายภาพไปด้วยความระมัดระวัง ในการขับขี่เป็นหลัก ดังนั้น ภาพอาจจะมีมุมมองที่ซ้ำๆ นะครับ ไม่ถูกใจอย่างไรก็ขออภัยนะครับ
คิดเสียว่าชมวิว ภูมิประเทศต่างจังหวัดครับ

อนึ่ง ขณะถ่ายภาพซึ่งใช้กล้องคอมแพคขนาดเล็กนี้ ผมจะใช้ความเร็วประมาณ 40-60 กม./ชม. ด้วยลักษณะที่เป็นถนนต่างจังหวัดซึ่งการจราจรไม่ได้คับคั่งเลย  จึงไม่ได้เป็นเรื่องอันตรายหากจะต้องมาถ่ายภาพด้วยกล้องคอมแพคขนาดเล็กไปด้วย
และก็ไม่ได้ขับช้าจนเกินไป จนเป็นการกีดขวางเส้นทางการจราจร

และผมได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ครับ ภาพไม่สวยช่างมัน ปลอดภัยไว้ก่อน

ภูมิประเทศช่วงนี้ มีฝนตกมาเรื่อยๆ ต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ ก็เขียวขจีดีครับ

ผมใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2210 ซึ่งเป็นเส้นทางที่แยกจาก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 202 ถนนอรุณประเสริฐ (อ.ประทาย จ.นครราชสีมา -อ.เขมราฐ จ.อุึบลราชธานี) โดยเป็นเส้นทางลัดจากทิศทางที่มาจาก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ข้ามสะพานข้ามลำเซบาย เข้าเขต อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ  และลัดไป จ.อุบลราชธานี ได้ โดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองอำนาจเจริญ ซึ่งจะถือว่าลัดไปประมาณ 12-13 กิโลเมตร ครับ

โดยเส้นทางนี้ จะผ่าน อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ และจะไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 ถนนชยางกูร ในเขต อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ผ่านตัว อ.ม่วงสามสิบ และจะไปตัว อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

อ่านแล้วงงไหมครับ ไปกันเถอะ อิอิ

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2210 ช่วงเขต ต.น้ำปลีก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ไปยัง อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ก็มีสภาพอย่างที่เห็นล่ะครับ

นานๆ จะมีรถผ่านสวนมาซักคัน  พอเห็นถนนว่างๆ ผมก็ชะลอความเร็ว แล้วก็กดชัตเตอร์ซักหน่อยครับ

ผ่าน บ้านหนองขอน อ.หัวตะพาน ครับ

ที่เห็นป้ายไป บ้านหัวตะพานนั้น อันนี้เป็นชุมชนเก่าของ อ.หัวตะพาน ครับ มีประชากรหนาแน่นพอสมควร

เข้าเขตชุมชนเทศบาลตำบลหัวตะพานแล้วครับ บริเวณด้านหน้านี้เป็นทางโค้งหักศอกครับ สมาชิกที่ไม่คุ้นเคยเส้นทาง โปรดใช้ความระมัดระวังด้วยครับ

โดยโค้งนี้ เราจะโค้งเลี้ยวไปทางด้านซ้ายครับ



ถ้านำรถแล่นเข้าโค้งซัก 40 กม./ชม. ขึ้นไป เกรงว่าจะไม่พ้นโค้งแน่

ผ่านเขตชุมชน ตลาดเทศบาลตำบลหัวตะพาน อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ครับ

สมาชิกท่านใดที่อยากมาเที่ยวชุมชนเมืองระดับอำเภอที่เงียบสงบมาก กระทั่ง ร้าน 7-11 ก็ไ่ม่มีแม้แต่ร้านเดียว มาที่ อ.หัวตะพาน ก็ได้ครับ

ตามไปชมเส้นทางด้วยคนครับ

ถ้างั้นก็ขอเชิญคุณ  เล็กทาโร่  ขึ้้นรถมานำกันเลยครับ^^
.................................................

ตลาดชุมชนเทศบาลตำบลหัวตะพาน มีตลาดที่ยาวไปตามแนวทางหลวงแ่ผ่นดินหมายเลข 2210 ครับ

แต่ก็จะมีระยะทางยาวไม่เกิน 500 เมตร ก็จะสุดเขตตลาดแล้วครับ

ตามไปด้วยครับ

ใกล้จะสุดเขตตลาดแล้วครับ

ส่วนทางหลวงแผ่นดิน 2210 นั้น บริเวณเกาะกลางที่สวยงาม ก็ใกล้จะหมดไปแล้วครับ จากถนน 4 เลน มีเกาะกลาง ก็กำลังจะลดระดับเป็นถนน 4 เลน ที่ไม่มีเกาะกลางแล้ว

ถ้าอย่างนั้นก็ขอเชิญคุณ tottui ขึ้นรถมาด้วยกันเลยครับ

รถผมนั่งได้หลายคนครับ ไม่ต้องห่วง ชิดในเลยครับ เบาะ 2 นั่ง 3 เบาะ 3 นั่ง 4 มาก่อนชิดใน แอบซ้าย เหลือขวาให้กระเป๋าเดินเก็บตังด้วยครับ^^

..........................................................................................

พ้นเขตตลาดหัวตะพานแล้ว กลายเป็นถนน 4 เลน ไม่มีเกาะกลางแล้วครับ

ทางช่วงนี้ก็สามารถใช้ความเร็วได้ขึ้นมาอีกนิด แต่ย้ำว่าอีกนิดเท่านั้นครับ

ถนนต่างจังหวัดแถบนี้ อย่าคิดว่าคนอื่นจะระวังเสมอไปครับ บางทีก็มีมอเตอร์ไซต์พรวดพราดขึ้นมาบนถนนแบบไม่คาดคิด ถ้าขับช้าก็จะหลบทัน หรือหยุดรถได้ทันครับ

แวะมาชมครับ ขอตามไปด้วยคน

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

แล้วถนนก็กลายเป็นถนน 2 เลน สวนกันครับ

แต่ขณะนี้ ผ่านวิทยาลัยการอาชีพหัวตะพาน ซึ่งทางหลวงช่วงนี้ก็มีการขยายเป็นถนน 4 เลนแบบไม่มีเกาะกลาง เป็นช่วงสั้นๆ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าเหมือนงูกินไก่ที่ท้องจะป่องออกครับ

เวลาที่ผมขับรถผ่านถนนช่วงนี้ ซึ่งจะมีต้นยางนา ต้นใหญ่ๆ ซึ่งยืนต้นอยู่ริมถนนทางด้านซ้ายมืออย่างนี้ รวมทั้งบริเวณอื่นๆ ริมทางหลวงแถบนี้ ซึ่งมักจะมีต้นยางนา อยู่บ้าง
ผมมักจะมีจินตนาการเสมอๆ เลยครับว่า ถ้าสามารถนำต้นยางนาแบบใหญ่ๆ ขนาดนี้ ไปปลูกในสวนสาธารณะใน กทม ขอเนื้อที่ซัก 20 ไร่ ให้มีต้นยางนาใหญ่ขนาดนี้ ให้ครึ้มๆ เต็มไปหมด
แบบว่า 1 ต้น ต่อ 20 ตารางวา  20 ไร่ ก็มีซัก 400 ต้น

สวนสาธารณะที่ผมจินตนาการนี้ คงจะเต็มได้ด้วยผู้คนแน่ๆ เพราะมันคงจะมีอากาศที่ร่มเย็นสบายมากๆ และเป็นอากาศที่บริสุทธิ์จากต้นไม้เสียด้วย

แป่ว ลืมลงรูปซะงั้น

อย่างนั้นก็ขอก็เชิญคุณ  "กัปตันลูกชุบ" ขึ้นมาบนรถด้วยกันเลยครับ

..................................................

ครับ ทางหลวงช่วงนี้ยังคงเป็นลักษณะงูกินไก่ ตามที่ชาวบ้านว่ามา เพราะว่าท้องป่องออกเป็นช่วงสั้นๆ 555+

ถนนหนทางก็โล่งดีแท้ครับ อยู่ต่างจังหวัดมันก็มีข้อดี เยอะเหมือนกันนะ

ทางหลวง 2210 กลายเป็นถนน 2 เลน สวนกันแล้วครับ

ช่วงนี้กำลังจะออกจากเขต อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ และกำลังจะเข้าเขต อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี  แล้วครับ

ผมนึกสงสัยเสมอว่า แถวนี้ เขาแบ่งเขตพื้นที่ให้ชัดเจนได้อย่างไร เพราะแนวแบ่งเขตจังหวัดนั้น ไม่มีลำธาร ลำคลอง ไม่มีแนวถนน ไม่มีพรมแดนที่ชัดเจนเลย
คงจะสับสนเหมือนกันเวลาเกิดปัญหาพิพาทต่างๆ

ต้นนี้ผมมาถึงยังสามแยก บ้านหลักชัย อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี   ซึ่งเป็นจุดที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2210 มาบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 แล้ว

เราจะไปอุบลราชธานี ดังนั้นพอมาถึงสามแยกนี้ เราก็เตรียมตัวเลี้ยวขวากันครับ

ตามไปขึ้นเครื่องที่อุบลด้วยค่ะ
คิดถึงปากหม้อหน้าอำเภอ
อร่อยจริงๆ

จริงๆ มันก็ไม่เชิง 3 แยกครับ เพราะถ้าตรงไปก็มีถนนไปต่อได้

แต่ระดับของถนนที่ตรงไป เป็นเพียงแค่ซอยเล็กๆ ครับ ดังนั้นเรียกว่าเป็นสามแยกบ้านหลักชัยดีกว่า ^^

ก่อนจะเข้าสู่ทางหลัก ก็มองซ้ายมองขวาให้ปลอดภัยก่อนนะครับ

เลี้ยวขวา เข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 ถนนชยางกูร แล้วครับ

สำหรับถนนชยางกูร หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 นั้น เป็นถนนที่มีความสำคัญพอสมควรครับ เพราะถือว่าเป็นถนนเลียบแม่น้ำโขงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือกันเลย  

ซึ่งเป็นถนนระหว่าง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ผ่าน อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ผ่าน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ผ่าน อ.ธาตุพนม และ อ.เมือง จ.นครพนม ผ่าน อ.บุ่งคล้า (อำเภอที่มีรถบัสประจำทาง บขส.ที่มีระยะทางเดินรถไกลสุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 832 กิโลเมตร ระยะเวลาเดินทาง 11 ชั่วโมงจาก กทม) และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ และจะมาถึง อ.เมือง จ.หนองคาย

รวมระยะทางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 นี้ ประมาณ 615 กิโลเมตร

พอขึ้นมาบนทางหลวง 212 ก็เจอรถบัสประจำทางพัดลม แบบที่เรียกได้ว่าค่อนข้างย้อนยุคกันเลยทีเดียว
แต่อย่าดูถูกนะครับ รถบัสแบบนี้ บางคันแล่นสายอุบล-นครพนม หรืออุบล-อุดร ซึ่งใช้เส้นทางส่วนหนึ่งซึ่งเลยครึ่งทางของทางหลวง 212 เลยครับ

ตอนนี้ เหลือระยะทางอีก 18 กิโลเมตร จะถึง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี และเหลืออีก 52 กิโลเมตร จะถึง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

สำหรับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 นั้น จากข้อมูลที่ผมทราบแน่นอนชัดเจนนั้น  ช่วงจาก อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จนถึง อ.เมือง จ.มุกดาหาร รวมระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร นั้น จะเป็นเส้นทางแบบ 4 เลน มีเกาะกลางเป็นส่วนใหญ่ เกือบทั้งหมด
ยกเว้น จากบ้านสร้างมิ่ง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลฯ ไปจนถึงบ้านไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ที่ยังเป็นถนน 2 เลน สวนกันอยู่ ระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร

ก็ต้องขอฝากท่าน สส.ที่ดูแลจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ ช่วยพัฒนาถนนในจุดนี้ด้วยเถิดครับ จักเกิดประโยชน์มหาศาลต่อการคมนาคม

ขับตามมาห่างๆ ขอไปยลเมืองอุบลฯ ด้วยคนนะครับ

คุณเป็นทหารหรือครับ

ตามไปด้วยนะ 55+

หมวกหรือกระเป๋าสะท้อนกระจกครับ

ตามไปเที่ยวอุบลราชธานีด้วยค่ะ

ขอบคุณมากๆครับผม

การเดินทางมีความสุข ผมชอบวิวแบบนี้จัง

ขอบคุณมากครับ

อรุณสวัสดิ์ครับ คุณ "Memories pink" คุณ "BANGKOK-MANILA-JAKARTA"  คุณ "มังกรวังทอง" คุณ"สาวหน้าใส" คุณ "digimontamer" และ คุณ "ชานมชงเอง" ครับ

ขอเชิญทุกท่านขึ้นรถมาด้วยกันเลยครับ ตอนนี้ผมเปลี่ยนเป็นรถตู้คันใหญ่แล้ว ยังนั่งกันได้สบาย^^

ผมก็ทำงานทำนองนั้นครับ คุณ "มังกรวังทอง"
.......................................................................

กิจการเดินรถของ  สหมิตรอุบลทัวร์ ก็ไม่ได้มีเฉพาะรถพัดลมสไตล์ย้อนยุคเมื่อ 10-20 ปี ที่แล้วเท่านั้นนะครับ  รถปรับอากาศ ม.2 ก. ก็มีครับ

อย่างคันในภาพนี้ก็คงจะไปสุดปลายทางที่ อ.เมือง จ.นครพนม ล่ะครับ ระยะทางก็อีกประมาณ  260 กิโลเมตร จากจุดนี้ล่ะครับ

ตอนนี้ เหลือระยะทางอีกประมาณ 45 กิโลเมตร จะไปถึงตัวเมือง จ.อุบลราชธานี

เหลืออีกไม่กี่กิโลเมตร ถนนชยางกูรก็จะเปลี่ยนเป็นถนน 4 เลน แบบมีเกาะกลางแล้วครับ

ไปเที่ยว อุบล ด้วยกัน

       ผมรออยู่แยกหน้า จอดรับด้วยครับ จะได้เปลี่ยนมือกันขับทางไกล

       ขอแวะ บ.ม่วงสามสิบกินข้าวก่อนนะ

ตอนนี้ เรามาถึงบ้านสร้างมิ่ง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลฯ กันแล้ว

เราจะไม่ต้องมาอึดอัดกับถนน 2 เลน สวนทางกันแล้วครับ เพราะระยะทางต่อจากนี้ไปจนถึง ตัวเมือง จ.อุบลฯ จะเป็นถนน 4 เลน มีไหล่ทางกว้าง และมีเกาะกลาง ถนนราบเรียบอย่างดีกันแล้ว

ก็อีกประมาณ 40 กิโลเมตร จะถึงอุบลฯ ครับ

ขอเชิญคุณ "กบซีเนียร์" ขึ้นรถมาด้วยกันเลยครับ ตอนนี้รถมาถึงม่วงสามสิบแล้ว

...........................................................................

เรากำลังจะผ่าน 4 แยกไฟแดง กลางตลาดเทศบาลตำบลม่วงสามสิบกันแล้วครับ ซึ่งสี่แยกไฟแดงนี้ ถ้าเลี้ยวซ้ายเราจะสามารถไปที่ อ.พนา จ.อำนาจเจริญ ได้ ถ้าเลี้ยวขวา ถนนจะสามารถไปบรรจบกับทางหลวงแ่ผ่นดินหมายเลข 23 ถนนแจ้งสนิท ซึ่งจะมุ่งหน้าไปยัง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร และไปยัง อ.เมือง จ.ยโสธร ต่อไปได้

ถนนชยางกูร ช่วงนี้จะแคบลงเป็นคอขวดครับ อาจจะเนื่องจากว่าในตอนที่มีการขยายถนนจาก 2 เลน เป็น 4 เลน นั้น ไม่สามารถขอเวนคืนเอาพื้นที่จากบ้านเรือนประชาชนที่เขาตั้งอยู่ก่อนแล้วได้ ซึ่งจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม

ก็ต้องลดความเร็วและใช้ความระมัดระวังกันครับ

นี่ครับ ถนนจะแคบลงเป็นคอขวด

แต่ก็ดีที่ว่า ณ ปัจจุบันนี้การจราจรก็ไม่ได้คับคั่งมากมายครับ ดังนั้นแล้วแม้ถนนจะเป็นคอขวดก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการจราจรมากนัก

แต่ในอนาคตที่ประชากรมากขึ้น จำนวนรถมากขึ้น ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรครับ

ขอขึ้นรถไป กินลม ชมวิว ด้วยคนนะครับ

เดินทางไปด้วยคน

ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ