4วัน 3คืน  กับการเดินทางโดย Triton Plus พร้อมด้วย Sony A580 เมื่อวันที่ 6-9 ก.ค. 54 ที่ผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ  โดยมีเพื่อนร่วมทางคือ Tag 5  
ถ้าพร้อมกันแล้วก็เก็บกระเป๋าแล้วตามไปเที่ยวกันได้เลย!!  Let  go!!

รูปทั้งหมดเจ้าของกระทู้ขอนำเสนอแบบโดยรวม เพราะมันเยอะมาก

เริ่มวันแรกของการเดินทาง  ณ  คีรีวารีฯ  หาดบ้านกรูด  เราออกจาก กทม.ประมาณ ตี 5 ครึ่ง แวะพักกลางทางนิดหน่อย ถึงที่หมายแรกประมาณ 10.30 น.

ก่อนอื่นต้องเช็คอิน เราพักที่ Garden Villa  มาดูภายในห้องกัน
(โดยรวมแล้ว Garden Villa ถือว่าโอเคที่สุดในรีสอร์ท ถ้าไม่รวมแบบ Pool Villa นะ)

ขออภัยหากรูปที่ทำมามันเบลอๆ แตกๆ  เพราะ จขกท  ไม่อยากอัพโหลดเยอะๆ

มารอชมภาพค่ะ

หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว  ก็ได้ปฏิบัติการสำรวจรอบ ๆ รีสอร์ท
ตามกฎกติกามารยาทในการเข้าพักของ  จขกท เอง  55555

@ยินดีคร้าคุณ Poo-ma  ตามมาด้วยกันเลย
วันที่เราเข้าพักนั้นเป็นวันธรรมดา รีสอร์ทเลยดูเงียบเหงา
ทั้งรีสอร์ทมีกันอยู่ 3 หลัง  บรรยากาศโดยรวมจึงดูเงีบบเหงาแต่เรากับชอบ
เพราะมันได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ และเพราะความเงียบเหงานี่เราจึงได้ย่อง ๆ เข้าไปดูบ้านแบบ Pool Villa มา  อิอิ

มารอชมด้วยคนครับ

ไปค่ะ...ตามไปเที่ยวทะเลด้วยคน

ยังไม่มีโอกาสเหมาะพาน้อง tag5 ไปเที่ยวเลยอ่ะค่ะ

หลังจากเยี่ยมชมภายในรีสอร์ทเป็นอันเสร็จภารกิจแล้ว
เราก็ออกตามหาร้าน หนูโภชนา ตามที่เพื่อน ๆ เหล่า BP ที่เคยเที่ยวหาดบ้านกรูดแนะนำเอาไว้
เราลองไปทานมื้อเที่ยงกันก่อน 1 รอบ และมื้อเย็นเรากะจะไปลองร้านปลาทูซีฟู๊ด
แต่พอวนรถเห็นว่ามันช่างวังเวงมาก เลยกลับมาฝากท้องที่ร้านหนูโภชนาที่เดิม
เราขอรับประกันทั้งเรื่องของรสชาติ  ปริมาณอาหารและราคา  ว่าคุ้มค่ามาก
แต่ข้อควรระวังคือโปรดสังเกตบิลเก็บเงินทุกครั้งว่าตรงหรือป่าว

ยินดีต้อนรับทุกท่านคร้า  รูปรอบนี้อาจจะเบลอๆ นิดนึงนะ เพราะไม่อยากเอาไฟล์จิงลง มันเยอะไป เดวเพื่อน ๆ จะขี้เกียจดูกันก่อนจะหมด

หลังจากอิ่มท้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เราก็กลับมายังที่พัก โดยก่อนเข้าที่พักก็เก็บบรรยากาศยามค่ำ
ในรีสอร์ทมาฝากด้วย แต่อาจจะเป็นเพราะแขกน้อยทางรีสอร์ทเลย
ต้องการประหยัดไฟนิสนึงเลยออกจะดูมืด ๆ เล็กน้อย แต่ถ้าใครเคยไปเห็น
บรรยากาศแบบวันหยุดยาว ๆ รีสอร์ทนี่ยามค่ำจะสวยมาก (แต่ทางเดินเข้าที่พักเรามืดมาก แถมลืมเปิดไฟหน้าทางเข้าบ้านพักเราอีก แอบน่ากลัวมาก)

หลังจากพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบเงียบแล้ว
เราก็รีบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเพราะเมื่อรอบที่แล้วตื่นไม่ทันรอบนี้เลยห้ามพลาด
แล้วเราก็ไม่ผิดหวังจิง ๆ  พระอาทิตย์ขึ้น  ณ  หาดบ้านกรูด

เราใช้เวลาอยู่บริเวณหน้าหาดได้พอประมาณ
ก็กลับเข้ามาทานอาหารเช้า พื้นที่ในการทานอาหารเช้านั้นบรรยากาศสุดจะบรรยาย
เราใช้เวลาอยู่บริเวณนั้นพอสมควรเพราะมันทำให้รู้สึกถึงคำว่า  "พักผ่อน"

และแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องลาจาก  คีรีวารีฯ  ณ หาดบ้านกรูด  เพื่อมุ่งตรงสู่อ่าวปราณ  ก่อนที่เราจะออกจากบ้านกรูดนั้น เราแวะทานไอศกรีมและกาแฟ
ที่ บ้านกรูดอาคาเดีย  ก่อนกลับเล็กน้อย

เราออกจากบ้านกรูดประมาณ 11.00 น.  เราเลือกที่จะขับรถเลาะ ๆ เส้นทาง
ที่ไม่ถึงกับจะเลียบชาดหาดแต่เลาะๆ ไปทางนั้น ทำให้เราได้เหมือนหลายๆที่
ภายในวันเดียว เราผ่าน อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด  เขากะโหลก เรื่อยมาจนถึงอ่าวปราณ

ว้า!!  รูปอยู่นี่

ตามมาเที่ยวด้วยครับ

ด้วยความที่ขับรถวน ๆ ไม่ชินเส้นทาง ทำให้เราใช้เวลานานไปหน่อยกว่า
จะถึงจุดหมายปลายทาง  ทิวมะพร้าวอ่าวปราณรีสอร์ท

เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก แต่บรรยากาศดี เสียอยู่อย่างเดวทางเข้ารีสอร์ท
ไม่เหมาะสมกับรีสอร์ทเลย  เมื่อมาถึงเราก็แวะเช็คอิน พนักงานของที่นี่
เป็นดังที่หลายๆ ท่านใน BP ว่าไว้  ภาษาไทยไม่แข็งแต่บริการแข็งแรงเว่อร์
มาดูภายในห้องพักกัน เลยที่ออกคือ  803 เดวเราจะมีเรื่องเราให้อ่านกัน

ขอเกาะท้ายไทรตันไปด้วยคนจ้า....

อันที่จริงเราโทรจองห้องไว้คือ 804 แต่ด้วยความที่อาจจะสื่อสารกันผิด ของคุณโอ๊ตกับพนักงาน  
พนักงานจึงนำห้อง 804 ไปให้แขกท่านอื่นแทน ทำให้ จขกท  
เกิดอารมณ์ขึ้นเป็นอย่างมาก ต่อว่าพนักงานชุดใหญ่ ขอเลือกห้องใหม่
คุณเชื่อไหม พนักงานทั้งรีสอร์ทเดินตามเราไปหมดทุกคนเลย  
แต่เมื่อเราหวังไว้กะห้อง 804 มาก เราจึงเอาห้อง 803 ก็ได้ติดกันเลย
ถึงแดดจะร้อนส่องเข้าห้องเต็มๆ ตามที่พนักงานบอกแต่เราก็จะเอาห้องนี้
(สุดท้ายวันรุ่งขึ้นคุณโอ๊ตโทรบอกให้พนักงานเอาเสื้อให้เรา 1 ตัวเพื่อเป็นการขอโทษ)

ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ คิดถึงทิวมะพร้าวอ่าวปราณฯจังเลย


อยากไปเที่ยวทะเลจังเลยครับตอนนี้...

ตามมาชมกันต่อคะ
อันนี้ห้องน้ำของภายในห้องแยกสัดส่วนได้ลงตัวพอควร

คุณ P.S. i  love  you
เราแอบตามกระทู้ ทิวมะพร้าวอ่าวปราณ ของคุณด้วยละ
น่ารักอย่างที่คุณบอกจิงๆ

ตามมาเที่ยวด้วยครับ

เราไปถึงที่นั้นประมาณบ่ายสองกว่า ๆ  
เมื่อเก็บข้าวเก็บของเข้าที่เรียบร้อยแล้ว เราก็แปลงร่างกระโจนลงสระทันที

หลังจากเล่นน้ำพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็ออกเดินทางหามื้อเย็นทานกัน
เราขับรถจากหน้ารีสอร์ทย้อนไปทางหาดสามร้อยยอด
บรรยากาศของรีสอร์ทในแถบนั้นมันช่างดูเงียบเหงามาก บ้างแห่งก็ดูร้าง ๆ
ร้านอาหารก็เปิดน้อยมาก อาจเป็นเพราะเราไปพักในวันธรรมดา
แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเราขับรถย้อนออกไปทางที่จะเข้าไปยังตัวอำเภอ
เพื่อไปยังตลาดโต้รุ่ง (จำชื่อไม่ได้แล้ว)  ของกินเยอะมาก
เราหอบหิ้วกลับมายังรีสอร์ท  อิ่มท้องแล้วก็พักผ่อน

เช้าวันต่อมา คุณตากล้องอารมณ์ดีตื่นมาปฏิบัติหน้าที่สำรวจรีสอร์ท
ในตอนเช้า  หลายห้อง  หลายมุมมอง  หลากสี   หลากความต้องการ
เพราะนี่คือ  ทิวมะพร้าวอ่าวปราณรีสอร์ท

หลากหลายทางเลือก  ของห้องพักภายในรีสอร์ท

และแล้วก็มาถึงอาหารเช้าแบบเรียบๆ ง่ายๆ แต่อร่อยอยู่นะ

และแล้วก็ถึงเวลาลาจาก  ทิวมะพร้าวอ่าวปราณรีสอร์ท
เพื่อมุ่งหน้าไปยัง  อัมพวาพาเพลิน

เมื่อออกเดินทางจากอ่าวปราณเพื่อมุ่งหน้าไปยัง อัมพวา
เราก็แวะไหว้พระ ที่วัดห้วยมงคลเล็กน้อย ต่อด้วย หม้อแกงที่ ชิดชนก
และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราก็รีบดิ่งไปยังจุดหมายปลายทาง  
ตลาดน้ำอัมพวา

เราเดินทางมาถึงตลาดน้ำอัมพวา เวลาประมาณ 16.30น. วันศุกร์พอดี
ร้านค้าอาจดูบางตาอยู่บ้างเพราะเป็นวันศุกร์ โดยส่วนใหญ่จะคึกคักวันเสาร์-อาทิตย์  
แต่ก็ถือว่าดี  ไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนมากมาย

เราใช้เวลาอยู่ที่ตลาดนานพอสมควรจึงออกเดินทางตามหารีสอร์ทเพื่อพักผ่อนในคืนนี้
เราไม่ได้วางแผนเรื่องที่พักอัมพวามา จึงใช้เวลาหาจาก GPSและGooGle นานอยู่พอควร
เราจึงตกลงพักที่  แม่กลองกาเดนท์รีสอร์ท
บวกกับการที่เราไม่ชินเส้นทางกว่าจะเจอรีสอร์ทเล่นเอาใจหาดวูบหลายครั้ง
เราไปถึงรีสอร์ทประมาณ 2 ทุ่มทำให้บรรยากาศของรูปภาพออกมาเป็นสองช่วง
ช่วงบนถ่ายตอนเช้า   ช่วงล่างถ่ายตอนดึกได้สองสามรูป ไม่ไหวขอนอนดีกว่า

เช้ามาจึงรีบตื่นเพื่อมาถ่ายรูปภายในรีสอร์ทว่าราคานี้จริงหรือ
บ้านหลังที่เราพัก วันธรรมดา 900  ส-อา 1200  ส่วนหลังอื่นต้องขออภัย
ไม่ได้หาข้อมูลไว้ล่วงหน้า โทรจองได้ เอาเลย
มาดูบรรยากาศภายในรีสอร์ทกัน

ห้องอื่นๆ เราไม่สามารถไปรีวิวมาให้เพื่อน ๆ ดูได้ เพราะเต็มหมดทุกห้อง
ถือว่าเราสองคนโชคดีมาก  เพราะคืนนั้นเหลืออยู่หลังเดวทั้งรีสอร์ท
อาหารเช้าที่นี่ก็ธรรมดา ๆ ตามสไตล์ไทยๆ  ขนมปังปิ้ง  กาแฟ  เกี๊ยวน้ำ เงาะ
หลังจากเช็คเอาออกจากรีสอร์ทแล้ว  เราก็ออกเดินทางตามแผนที่คุณพ่อบอกมา
ให้แวะสักการะพระบาทสี่รอย โดยที่พ่อให้ข้อมูลมาแค่นี้ที่เหลือเราต้องหาเอง
โดยอาศัยพี่เกิ้ลตามเคย ได้ชื่อวัดมา   วัดบางกระพ้อม อยู่ก่อนถึงทางเข้าตลาดน้ำอัมพวา (หาข้อมูลได้ที่พี่เกิ้ลอีกที)

ออกจากวัดบางกระพ้อม  ภาระกิจต่อไปคือตามหาน้ำมันนวดขาให้คุณแม่
ซึ่งเหมือนเดิมได้ข้อมูลแค่ว่าโบสไม้สัก  วัดศรัทธราธรรม เราจึงรีบมุ่งไปยังวัดที่ว่านั้น
ปรากฏว่า ที่วัดไม่มีน้ำมันนวดขา ขาย  หน้าแตกยับเยิน แล้วสองคนจึงแก้เขิน
ด้วยการเลยไปดอนหอยหลอด  แวะร้านน้องกุ้ง 2  จัดหนักไปสองอย่าง
หอยหลอดผัดฉ่า (น้ำตาแทบไหลจาน 200 แหนะ)  กับปลาหมึกย่าง (น้ำตาแทบเล็ด 200 เหมือนกัน)

สวยจังค่ะ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะค่ะ

รีสอร์ทสวยครับ ตามไปด้วยคน ^^

หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

จบทริปใหญ่ แค่ปีละ 1 ครั้ง   เที่ยวตามประสาคนใช้แรงงานทำงานแลกเงิน
เก็บหอมรอมริบเพื่อจะไปพักผ่อนหวานๆ กับคนรัก  ใช้ทุกเวลาทุกนาทีให้คุ้มค่า
เพราะไม่รู้ว่าเวลาแห่งความสุขนี้มันจะหายไปจากเราเมื่อไหร่
ตอนนี้มีแรงแค่ไหน  มีกำลังพอเท่าไหร่  หาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนกันเถอะ
อย่ามัวอุดอู้อยู่แต่ในวงล้อมแคบๆ  ออกไปกอดเมืองไทยกัน

ขอบคุณสำหรับการรีวิวและภาพสวยๆมากมายค่ะ

จบแล้วคร้า  แต่รับรองปีหน้า เราจะนำเสนอ หาดบ้านกรูด ในรูปแบบ
1 ปี  1 รีสอร์ท  รอบหาดบ้านกรูด
อันนี้ของปีที่แล้วเพิ่งหัดทำคะ  ที่ราชาวดีรีสอร์ท
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=xmxoe&date=07-10-2010&group=1&gblog=2

ที่พักสวย อาหารแต่ละอย่างน่าทานจัง

ดูรูปเพลินเลยค่ะ  ชอบๆๆๆ  

ไปเที่ยวได้คุ้มมากเลยครับ ได้ทั้งทะเล ทั้งวัด ทั้งตลาดน้ำอัมพวา
คุ้มเวลามากเลยครับ

ขอบคุณที่พาเที่ยวนะครับ  สนุกสนานน่าไปด้วยจัง

บ้านกรูดผมเคยไปและรู้สึกชอบมากครับ

ไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

สวยครับ  ขอบคุณครับ

1 ปี  จะได้หยุดพักร้อนยาวๆ สำหรับมนุษย์เงินอย่างเราค่ะ  ต้องเที่ยวให้คุ้ม

ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ

รูปที่พักสวยมากครับ