สวัสดีครับพี่ป้าน้าอาปู่ย่าตายาย น้องๆ และเพื่อนชาวบีพีทุกท่าน ความเดิมจากตอนที่แล้ว

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10744312/E10744312.html

คราวนี้เราจะพาไปเที่ยวต่อกันจนกลับเลยนะครับ เตรียมขนมขบเคี้ยวให้พร้อม แล้วตามมาเลย

ปล. ทุกคนจ้า ไม่ต้องแย่งกันปาด

เริ่มด้วยพระราชวังฤดูร้อน หรือ อี๋เหอหยวน จ้า

พระราชวังแห่งนี้ ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 8 กิโลเมตรจ้า พร้อมแล้วก็ตามเข้ามาเลย

กี๊ดดดไม่ค่อยออกอ่ะวันนี้.... มาให้กำลังใจล่ะกัน

อ๊ะ อ๊ะ ยังไม่ถึงนะครับ เพิ่งผ่านประตูเข้ามาเท่านั้น

ไวมากนู๋จุ๊บ ว่าแต่ไปทำไรมากรี๊ดไม่ออกอ่ะ



วัยรุ่นใจร้อน รีบเข้าไปดูพระราชวังดีกว่า

มาแล้วครับ

มีของกินไหม

เมื่อเข้ามาปุ๊บ สิ่งแรกที่รอรับเราอยู่ก็คือ "หิน" แต่เป็นหินที่ไม่ธรรมดา เค้าบอกว่ารูปร่างคล้ายคนเฒ่าคนแก่ ใครที่ได้ถ่ายรูปคู่กับหินก้อนนี้จะอายุยืน เค้าว่างั้นนะ

ตามมาเที่ยวต่อค่า

แหม๋ มาถึงก็จะกินเลยนะเหา รอสักครู่ ชริส์



เลยจัดซะ กะว่าจะได้อยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรกันเลยทีเดียว

ยินดีจ้ายิ้ม ตามมาเลย



ด้านหลังของหินจะเป็นตำหนักเหวินโซ่วเตี้ยน พระนางซูสีไทเฮาใช้เป็นที่เสด็จออกประทับนั่งบนบัลลังก์มังกร ให้บรรดาเชื้อพระวงศ์เข้าเฝ้า

มี "กิเลน" ทำจากทองแดงอยู่ที่หน้าตำหนัก
พูดถึง "กิเลน" ซะหน่อย ตามตำนานจีนว่ามีรูปร่างเหมือนกวาง แต่มีเขาเดียว หางเหมือนวัว หัวเป็นมังกร ตีนมีกีบเหมือนม้า (บางตำราว่ามีตัวเป็นสุนัข ลำตัวเป็นเนื้อสมัน) เกิดจากธาตุทั้งห้า คือ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และโลหะ ผสมกัน

อี๋เหอหยวนมีพื้นที่ประมาณ 2.9 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเนินเขาสูง 60 เมตร มีพระตำหนักอยู่บนเนิน และทะเลสาบคุนหมิง มีเนื้อที่ประมาณ 2.2 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยทะเลสาบนี้เกิดจากการใช้แรงงานคน ขุดดินขึ้นไปถมเป็นเนินเขา สำหรับสร้างพระตำหนักจ้า

ทะเลสาปแห่งนี้แต่เดิมมีขนาดเล็กกว่าที่เห็นนี้ประมาณ 3 เท่านะจ๊ะ

เครื่องดื่มพร้อม ขนมพร้อมมมม

ตามมาเที่ยวปักกิ่งด้วยคนค่ะคุณยู

ป้อ ยู   ลูกตามไปด้วย ครับ  

ตามมาเที่ยวต่อครับ พี่ยู...

ที่เห็นไกลๆ นั่นคือหอที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม เพื่อไว้สำหรับบูชาในสมัยพระนางซูสีไทเฮาจ้า

เตรียมไว้เยอะไหมครับคนช่างฝัน ระวังอ้วนนะจ๊ะ
ให้ไวลูกใส
มาเลยจ้าชานม หวังว่ารีวิวนี้คงราบรื่นนะ



ในทะเลสาปแห่งนี้ก็เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถเช่าเรือถีบไปถีบเล่นได้นะจ๊ะ

นี่ๆ ยูคุง

เค้าให้ถ่ายคู่กะหินนนนน  

ไม่ใช่มาถ่ายคู่กันเอง

ไปเที่ยวด้วยค่ะพี่ยู

ไม่รื่นราบหรอก สายรายงาน เรียบร้อยแล้ว ป้อยู  อิอิ

 ไม่น่าจะเกิน 5 นาที ฮิ๊ว ๆ

จุดหมายต่อไปคือ ตำหนักเล่อโซ่วถาง ต้องเดินอ้อมสระบัวไปนะจ๊ะ

เอาน่าน้าเค ของเห็นหินนิดๆ ด้านบนก็ยังดี
ตามมาเลยจ้าน้องชา
อะไรลูกใส ไหนๆ


มาถึงแล้ว ตำหนักเล่อโซ่วถาง

เป็นตำหนักประทับของพระนางซูสีไทเฮาในยามแปรพระราชฐานมาประทับในสวนหลวงตำหนักนี้มีขนาดไม่ใหญ่ ห้องทางด้านตะวันตกเป็นห้องบรรทม
ห้องทางด้านตะวันออกเป็นห้องฉลองพระองค์ ห้องกลางจัดแสดงรายการอาหารโดยพ่อครัวหลวงของซูสีไทเฮาที่เสิร์ฟถึง 108 ชนิด แบบ "กินหนึ่ง มองสอง ชำเรืองสาม" ค่าอาหารแต่ละมื้อของซูสีไทเฮา มีมูลค่าเท่ากับเงินหนัก 100 ตำลึง สามารถซื้อข้าวสารได้ 12,000 ชั่ง ชาวบ้านธรรมดาสามารถใช้หุงได้นานถึง 40 ปีเลยทีเดียว

ส่วนด้านหน้าตำหนักจะมีหินขนาดใหญ่อยู่ 1 ก้อน เชื่อกันว่าเป็นหินอาถรรพ์ เกี่ยวกับเรื่องไม่ดี สังเกตได้จากไม่มีคนถ่ายรูปด้วยเลย

ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ

เดินต่อมาจากตำหนัก จะเจอทางเข้าสู่ "ระเบียงกตัญญู" จ้า

ไปเที่ยวต่อค่ะพี่ยู

ของกินไม่มี ขอกินฟรีละกันนะ ^^

ระเบียงนี้ทอดยาวไปตามทะเลสาป มีความยาวถึง 700 เมตรเลยทีเดียว ว่ากันว่าเป็นระเบียงที่ยาวที่สุดในโลกจ้า

มาดู ทริปหวานๆๆ จ๊ะ

ขอบคุณที่ชมครับคุณ Us-Sama Iland
เอางั้นเลยนะติ๊ก เดี๋ยวจัดให้



ภายในระเบียง ก็มีภาพเขียนสวยงามอยู่ทุกคานเลยหล่ะจ้า

ระวังมดขึ้นคอมด้วยนะครับแม่จีน-ไท



หันกลับมาดูความกว้างใหญ่ของทะเลสาปกันอีกครั้ง

เอาหล่ะ ได้เวลาออกจากพระราชวังฤดูร้อนกันแล้ว ขาออกก็เจอเข้ากับต้นไม้ไร้ยอดต้นนี้ ไกด์บอกว่า ลักษณะต้นนี้เหมือนมังกร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องเต้ พระนางซูสีไทเฮาจึงสั่งให้ตัดซะ จนดูเหมือนหางหงษ์ ในที่สุด

ก่อนออก จะพบกันโรงงิ้ว ซึ่งปัจจุบันยังมีการแสดงอยู่นะจ๊ะ เสียค่าเข้าชมคนละประมาณ 10 หยวน

มาดูลุงยูเล่นงิ้วด้วยครับ

ต่อจากนี้เราจะพาไปชมความเจริญของปักกิ่งกันบ้าง เริ่มจากสถานที่จัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อน 2008 จ้า

ปาดดดดดด

ตามไปตะเวณเที่ยวปักกิ่งด้วยคนครับ

ว่าไงนุ
ยังดีนะลุงเปี๊ยกที่เล่นงิ้ว ไม่ปีนต้นงิ้ว



นี่คือตัวตึกที่ทำกางของโอลิมปิคของจีน ออกแบบเหมือนกับปี่เซี๊ยะ กันเลยทีเดียว

ยายมาปาดระวังมอไซคว่ำนะ
ตามมาเลยครับอาหนิง เอ้ย พี่เล็กทาโร่



เมื่อกี้ถ่ายจากในรถ ตอนนี้ลงมาเดินแล้ว ตามมาเลยจ้า

เริ่มจะเห็นสนามกีฬาแล้ว

ก่อนจะไปดูสนามกีฬาที่ขึ้นชื่อลือชา แอบมาดูตึกที่ทำการอีกทีว่าเหมือนปี่เซี๊ยะไหม

จากนั้นตรงหน้าคือสถานที่แข่งขันว่ายน้ำ หรือที่เรียกว่า National Aquatics Center ศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งชาติ “ลูกบาศก์น้ำ”

ปล. ไม่ได้เข้าไปข้างในนะครับ ยืนถ่ายรูปอยู่ด้านนอก เพราะถ้าเข้าไปต้องเสียคนละเกือบ 50 หยวน เลยไม่ได้เข้าอ่ะครับ

มาถึงสนามกีฬารังนก "Bird's Nest" มีความจุผู้ชมประมาณ 91,000 คน ใช้เหล็กกล้าซึ่งผลิตเองในจีนทำการก่อสร้าง (เหล็กกล้าส่วนใหญ่แล้วจะผลิตแค่ 2 ประเทศเท่านั้นคือ เยอรมันกับญี่ปุ่นครับ เท่าที่ทราบมา)

เอาหล่ะ ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอยแล้ว วันนี้เราจะพาไปลิ้มรสหมูหันกันที่นี่จ้า

อาหารเต็มโต๊ะตามเดิม

และนี่คือพระเอกของเราในมื้อนี้ หมูหัน
ไม่เหมือนของบ้านเรานะครับที่นิยมกินแบบเป็ดปักกิ่ง คือต้องห่อแป้งด้วย แต่ที่นี่กินเปล่าๆ เหมือนหมูกรอบเลย

จากนั้นเราจะพาท่านไปยังถนนคนเดิน แหล่งชอปปิ้งแห่งหนึ่งในปักกิ่ง

ปิดถนนให้คนเดินกันทีเดียวเลย โดยที่ 2 ข้างทางประกอบไปด้วยห้างหรูๆ จนสุดถนนเลยจ้า

หอนาฬิกาพร้อมห้างหรูมีแต่ของแบรนด์ไฮโซ

ตัวห้างชัดๆ

นอกจากจะมีห้างหรูๆ แล้ว ยังมีส่วนที่เป็นตรอกซอกซอย ขายของพื้นเมืองอยู่ด้วยจ้า

แต่ร้านที่สะดุดตามากที่สุดคือร้านประเภทนี้ ซึ่งมีอยู่หลายร้านเหมือนกัน ขายของปิ้งย่าง แบบที่เห็นเลย บรื๋อออออออออออ

ไปเที่ยวด้วยคนนะครับ

แต่ ไม่ เป็น ก ข ค หรอกครับ

เอาหล่ะ เข้าสู่วันต่อมา ลงมาหน้าโรงแรม เจอคันนี้จอดอยู่ เห็นเยอะมากตามท้องถนน แต่ไหงมีภาษาจีนด้วยเนี่ย ไกด์บอกว่ารถที่มีภาษาจีนจะเป็นรถที่ผลิตในจีน และก็ราคาถูกคือเสียภาษีแค่ 25% ส่วนรถนำเข้าจะไม่มีภาษาจีน เสียภาษีพอๆ กบรถนำเข้าในบ้านเรา คือเกือบๆ 200% จ้า

มาเลยจ้าน้องคิง ไม่เป็นหรอก กขคง อะไรนั่น เพราะไปกับทัวร์



โปรแกรมเช้านี้เริ่มจากไปชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของราชวงศ์หมิงกันจ้า

หุ่นขี้ผึ้งราชวงศ์หมิงแสดงประวัติศาสตร์ในระยะเวลา 276 ปี ของราชวงศ์หมิง ประกอบด้วยกษัตริย์ 16 พระองค์ มี 26 ฉาก รวมหุ่นขี้ผึ้ง 374 ตัวจ้า

โดยที่ฉากที่3 เราสามารถแต่งชุดฮ่องเต้เข้าไปถ่ายรูป แล้วรอรับได้เลยจ้า

ให้ดูภายในกันเรื่อยๆ นะครับ

ไปแอบมุดอยู่ใต้เตียงเรียบร้อยแล้ว

โดยแต่ละฉาก จะพูดถึงเหตุการณ์ในฮ่องเต้แต่ละองค์

เสียใจ ที่นี่ไม่มีใต้เตียง



แต่บางองค์ อาจจะมีเหตุการณ์สำคัญๆ ก็จะมีถึง 2 ฉาก

เอาหล่ะ ในนี้พอแค่นี้ดีกว่า ก่อนจาก จะเห็นเครื่องแปลกๆ ด้านขวาในรูปล่างสุด นั่นคือ กล้องดูดาวในสมัยก่อนของจีนจ้า

แต่ละฉากดูคล้ายๆ กับหนังแต่ละเรื่องเลยเนอะพี่ยู สวยอ่ะ

ส่วนเจ้านี่คือ เครื่องพยากรณ์แผ่นดินไหวในสมัยก่อนของจีน เราจะพบอีกครั้งที่สนามบินจ้า

ใช่แล้วติ๊ก ยิ่งมีคนบรรยายนะ เหมือนดูหนังเลยหล่ะ



เอาหล่ะ ต่อไปเราจะพาไปร้านหยก ซึ่งเป็น 1 ในหลายๆ ร้านที่ถ้าไปกับทัวร์มักจะโดนพาไป แต่ที่นี่น่าสนใจ เพราะมีหยกหลายๆ แบบให้ดู เลยถ่ายรูปมาให้ดูกันนิดหน่อยจ้า
เริ่มแรกกับ แผนที่ประเทศจีนที่มีหยกอยู่ ดูได้เลยนะ

นี่ก็คือ หยกที่นำมาแกะสลัก

อีกก้อนนึง

ส่วนในตู้บริจาคนี้ คือหยกเจ้าแม่กวนอิมแบบเนื้อ 3A เลยทีเดียว

บรรดาหยกในตู้โชว์

นี่คือหยกขาว ซึ่งในสมัยก่อนคนที่ทำการค้าจะยังไม่รู้จักปี่เซี๊ยะ ก็จะนิยมแกะสลักหยกขาวให้เป็นรูปผักกาดตั้งบูชาไว้ที่ร้าน

นี่คือชุดเกราะของฮ่องเต้ ซึ่งทำมาจากหยกแท้ๆ

เฮียยู อู้นะเนี่ย

หายไปนานกว่าจะมาต่อ ลืมความเดิมตอนที่แล้ว เรียบร้อย 

บรรยายไม่ถูก

hollaneung อู้ยังไง เนี่ยยังไม่ได้ลุกไปไหนเลยนะ



เอาหล่ะ ก่อนจะไปปีนกำแพงเมืองจีน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ฉะนั้น มื้อนี้จะพาไปกินสุกี้มองโกลกันนะ

หน้าตาของสุกี้มองโกล กินไปน้ำตาไหลไป เพราะควันจากแอลกอฮอล์ แถมเสียวเตาจะคว่ำอีก

ปล.ควรเตรียมน้ำจิ้มสุกี้จากบ้านเราไปด้วย

คนอื่นเค้ารีวิวตอนว่างจากงาน

...คนนี้รีวิวในเวลางาน หุหุ

เอาหล่ะ เมื่ออิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็ไปปีนสิ่งมหัศจรรย์ของโลกกันกับ กำแพงเมืองจีน

ไรฟ่ะบุก



ก่อนจะขึ้นก็ไปห้องน้ำห้องท่ากันเสียก่อน

เป็นกำแพงที่มีป้อมคั่นเป็นช่วง ๆ ของจีนสมัยโบราณ สร้างในสมัย พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้และ เป็นครั้งแรก กำแพงส่วนใหญ่ที่ปรากฏในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หชิง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกมองโกล และพวกเติร์ก หลังจากนั้นยังมีการสร้างกำแพงต่ออีกหลายครั้งด้วยกัน แต่ภายหลังก็มีเผ่าเร่ร่อนจากมองโกเลียและแมนจูเรียสามารถบุกฝ่ากำแพงเมือง จีนได้สำเร็จ

เย้ๆๆๆ มาถึงกำแพงเมืองจีนแล้ว

พร้อมกันหรือยัง จะเริ่มเดินขึ้นหล่ะนะ

คุณชาย ไหวไหม



ที่นี่ก็มีให้เอากุญแจมาคล้องด้วยนะ

เป็นที่ระทึกซะหน่อย ก่อนเดินขึ้น เดี๋ยวลงมาแล้วจะโทรม

เอาหล่ะ ขึ้นมาแล้ว

ทางขึ้นค่อนข้างชัน และมีป้อมระหว่างทางขึ้นอยู่ทั้งหมด 7 ป้อมกว่าจะถึงจุดสูงสุด คล้ายๆ เดินขึ้นภูกระดึงเลยนะ

ผลปรากฏว่าคุณภรรยาขึ้นมาได้แค่ป้อม 2 ก็ไม่ไหวแล้ว (รวมทั้งตัวเองด้วยแต่แอบแมน)

เลยให้คุณภรรยาอยู่กับพี่ๆ ที่ไปด้วยกันที่ป้อมนี้ ส่วนตัวเองขอไปอีกป้อมนึงแล้วพอหล่ะ (จริงๆ ก็จะแย่อยู่แล้ว เหมือนเดินขึ้นภูยังไงยังงั้น)

ไม่ไหวแล้ว ลงดีกว่า

ตรงป้อมล่างสุด มีอาวุธของทหารสมัยนั้นโชว์ให้ดูด้วย

ตามมาเที่ยวด้วยจ้า นะจ๊ะ ยู

ลงมาหล่ะ แค่ป้อม 3 ก็แทบแย่แล้ว แฮกๆๆ

แหม๋ มาตอนลงเลยนะพี่หนุ่ม



เดินไปดูป้อมปราการด่านแรกดีกว่า

ทั้งด้านขวาและซ้ายของป้อมนี้ จะมีแนวกำแพงเมืองจีนอยู่จ้า

สงสัยเดินถึงแค่ป้อมแรก ก็เดินกลับแล้วครับ

ด้านขวา

อย่างน้อยควรจะไปป้อม 2 นะคุณชาย



เสียดายมาก ช่วงที่ไปมีหมอก เลยไม่ได้รูปแจ่มๆ เลย

ก่อนจาก

จากนั้นเราก็ไปใช้ขากันต่อ แต่เป็นการเดินพื้นราบนะ นั่นคือชอปปิ้ง
ที่ที่เราจะไปเค้าเรียกกันว่าตลาดรัสเซีย อยู่ในตึกที่เห็น คล้ายๆ แพลทตินัมบ้านเรา แต่ส่วนมากจะเป็นของก๊อปปี้นะจ๊ะ
ปล. ถ้าได้ไป อย่าลืมต่อราคาด้วยนะ บอก 100 ต่อเหลือ 20 จริงๆ

มีไรกินบ้างทู้นี้

หลังจากชอปปิ้งเสร็จ ก็ไปเดินดูจอ LED ที่ใหญ่ที่สุดในปักกิ่งกันที่นี่ The Place

มีไป 2 แล้วครับพี่อุ๊ เหลืออีก 1



การจะมาชมจอที่นี่ ควรมาค่ำๆ ให้ฟ้ามันมืดซะก่อนนะครับ

พอเริ่มมืด ก็จะเป็นเช่นนี้

มีห้าง และร้านอาหารให้นั่งเล่นด้วยนะจ๊ะ

ไปหล่ะ มาดูแค่นี้แหละ

มีคนหิวแล้ว ป่ะ มากินกันที่นี่

อาหารก็เดิมๆ นะ

แต่มีพิเศษด้วย เค้าบอกว่านี่คือ เป๋าฮื้อ จริงรึเปล่าก็ไม่รู้

เอาหล่ะ วันสุดท้ายของปักกิ่งแล้ว เราจะไปกันที่นี่ "หอฟ้าเทียนถาน"

เส้นทางเดินร่มรื่นมาก

ต้นไม้เขียวขจี

ถ้าสังเกตให้ดีจะมีแผ่นแปะที่ต้นไม้ด้วยนะ ถ้าเป็นสีแดงแบบนี้ แสดงว่าต้นนั้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี

ส่วนถ้าเป็นสีเขียว แสดงว่ามีอายุเกิน 100 ปี แต่ไม่ถึง 300 ปี นะจ๊ะ

เอาหล่ะ เริ่มเห็นหอฟ้าเทียนถานแล้ว

เอาหล่ะ เข้าไปชมกันดีกว่า

หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งยังคงรักษา ไว้ในจีน ประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตําหนักหวงฉงอี่ และลานหยวนชิว

ส่วนด้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการสร้างหอฟ้าเทียนถานจ้า

เข้าไปดูภายในพิพิธภัณฑ์กันหน่อย

มีแบบจำลองของหอฟ้าเทียนถานด้วยนะ

ตามคุณยูไปเที่ยวปักกิ่งด้วยค่ะ
กำแพงเมืองจีนไปได้แค่ 3 ป้อมก็จอดเหมือนกัน

ซ้ำวุ้ย

ขอไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

ปล.ยังทันถ่ายทอดสด เย้!!

...


ว้าววววววววววววววววววววววว

ทริปนี้สนุกจังค่ะ


...

...


ว้าววววววววววววววววววววววว

ทริปนี้สนุกจังค่ะ


...

แสดงว่าสังขารเราพอๆ กันนะแอน
เกือบจบแล้วหวั่น
ใช่ครับโอลีฟ/แม่น้องเซ้นต์ ได้ทั้งเพื่อนร่วมทัวร์ ได้ทั้งประวัติศาสตร์จีนกลับมาเลย



นี่คือแบบจำลองโครงสร้างจริงๆ

กลับออกไปดูของจริงกันดีกว่า

ข้างในเค้าห้ามเข้า ต้องไปเบียดอาม่าอาเจ๊กอาอี้เพื่อจะถ่ายรูปข้างในมาให้ดูกัน
โดยตรงจุดนี้เรียกว่า ตําหนักฉีเหนียนเตี้ยนเป็นตําหนักเอก เริ่มก่อสร้างเมื่อ ค.ศ. ๑๔๒๐ ห่างจากปัจจุบัน ๕๐๐ กว่าปี เป็นรูปทรงกลมหลังคา ๓ ชั้น มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีนํ้าเงิน ไม่มีขื่อและอกไก่ อาศัยเสาไม้ ๒๔ ต้น เป็นโครงยึดไว้ซึ่งได้ชื่อว่า "ตําหนักไม่มีขื่อ" ภายในตําหนักมีภาพวาดสีประณีตงดงาม บนเพดานวาดเป็นรูปมังกรและหงส์

ตําหนักฉีเหนียนเตี้ยนเป็นตําหนักเอก

เอาหล่ะ ได้เวลาจากลากันแล้วกับที่นี่

ร่ำลาก่อนจาก

และแล้วก็ถึงเวลากลับไปสนามบิน เค้าบอกว่าถ้ามองลงมาลักษณะสนามบินจะเป็นเหมือนมังกรเลยหล่ะ

แบกกระเป๋ากลับบ้าน หมดเวลาเที่ยวแล้ว

อย่างที่บอกไว้ตอนต้นกระทู้ ที่นี่ก็มีเครื่องเตือนแผ่นดินไหวโบราณ

เก๋งจีนในสนามบิน สำหรับพักผ่อนรอขึ้นเครื่อง

หอบังคับการบิน รูปร่างเหมือนคบเพลิงโอลิมปิคเลย

ถึงเวลากลับจริงๆ แล้ว เครื่องมารอรับแล้ว

ก็ขอปิดทริปปักกิ่งเพียงเท่านี้นะครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจเข้ามาชม ทั้งที่มาคอมเม้นต์ และแอบดู พบกันใหม่ทริปหน้านะครับ ทริปนี้ขอลาด้วยภาพนี้แล้วกันนะครับ (ขอเดี่ยวหน่อยนะ) บายครับทุกคน

ตามเข้ามาชมแบบไม่กลัวแสงแดดครับ

เที่ยวที่แล้วไม่มีแรงเม้นท์...

ยิ่งดูยิ่งคิดถึงปักกิ่ง เดี๋ยวนี้ดูดีมีสีสันมากกว่าแต่ก่อนนู้นนนนน

แถมมีให้เอากุญแจมาแขวนบนกำแพงเมืองจีนได้แล้วเหรอ ทันสมัยเชียวนะ เป็นวิธีหาเงินที่กำลังมาแรง

ยูมัวแต่เที่ยวอย่างนี้ แล้วอีกเมื่อไหร่จะมีหลานย่าล่ะเนี่ย

สวยครับบบบบ

ตามลุงยูไปเที่ยวเช่นเคยค่ะ     เสียดายซูสีไทเฮาที่เหมือนไก่ได้พลอย   ถ้าเป็นป้านะ....ฮึ่มมมม...  ไอ้ร้อยแปดอย่างน่ะจะฟาดให้เรียบเชียว   ไม่มีวันแค่ชำเลืองมอง    เสียของชะมัด....อิอิอิ

แวะมาอ่านอีกรอบ  ขึ้นบันไดเหื่อยไหมๆๆ หอบแฮกๆๆๆ

เป็นแวมไพร์รุ่นใหม่จริงๆ
มีแล้วจะบอกนะครับป้าเตี้ย ตอนนี้ขอเที่ยวก่อน มีแล้วเที่ยวลำบาก
ขอบคุณครับ solef63treadmill (guide2day)
ท่าทางป้าฟูจะหิวจัดนะเนี่ย
จะเหลือเหรอชานม ถึงกับปวดเมื่อยเลยหล่ะ

รีวิวเดียวได้เที่ยวหลายที่ในปักกิ่งมากๆเลยครับ

รอชมทริปต่อไปนะครับ

มาไม่ทันถ่ายทอดสดเลยเค้า

ขอบคุณยูคุงที่พาเที่ยวนะคะ ได้ไปหลายที่เลย

อยากตามรอยไปกำแพงเมืองจีนมากที่สุดเลยค่ะ

รูปสุดท้ายเท่มากเลยค่ะ

ทะเลสาบคุนหมิงนี่กว้างใหญ่มากเลยครับ
กำแพงเมืองจีนเองก็สมกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆครับ
อลังการณ์งานสร้างมากยิ่งเห็นในรูปยิ่งเห็นความยิ่งใหญ่

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

...ตามพี่ยูมาหวีทหวานที่ปักกิ่งด้วยคนนะคะ  

เมื่อไหร่จะได้ไปมั่งนะคะเนี่ย อยากไปมั่งจังเลยค่ะ  ^-^

แวะมาชมครับ ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

แวะมาชิมปักกิ่งหน่อย

มาช้าไปหน่อยนะปู่

ผู้ชายคนกลางที่นั่งเห็นข้างๆในรูป 138 หล๊อหล่อโน๊ะพี่ยู  

ขอบคุณสำหรับรีวิวคะ ลุงยู สนุกจังเลย

พลาดตอนแรกไปเดียวย้อนกลับไปอ่านก่อน อิอิ

ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ ภาพสวยมากเลย ปักกิ่งก็น่าเที่ยวมากค่ะ

ตามมาเที่ยวเมืองจีนตอนตลาดวายซะแล้วเรา

     อากาศท่าทางจะไม่ร้อนนะค่ะพี่ยู ...

อยากไปเที่ยวบ้างจังเลย ขอบคุณพี่ยูกะน้องปุ๊กที่พาไปเที่ยวนะค่ะ

ปล. กำแพงเมืองจีน พี่ท่านก็พิชิตมาแล้ว  .. แสดงว่าฟิตจริงค่ะ

บรรยากาศใน คห 12 แปลกตา คนละอารมณ์กะตอนลุงไปมากๆเลยตอนนั้นน้ำในทะเลสาปเป็นน้ำแข็ง เรือจอดแน่นิ่งที่ฝั่งทุกลำ  คิดถึงปักกิ่งจังขอบคุณนะครับสำหรับรีวิวสนุกๆ

โอ้วววกำแพงเมืองจีน เค้าไปยังไม่ถึงป้อมแรกก็ยอมแระ อิอิ

แวะมาเก็บตก อิอิ


อยาก backpack ไปเองอะลุงยู เคยไปกับทัวร์แล้วเบื่อที่ต้องแวะ (จังวุ้ย)

ไปกับทัวร์อะไรคะ ขอทราบได้ไหม พอดีกำลังหาทัวร์อยู่ค่ะ