"สิงคโปร์".... ชื่อนี้หลายๆคนคงเคยไปกันมาบ้างแล้ว เพราะถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตร Singapore 001 โรงเรียนบลูพลาเนตนั้นเอง  555+  ด้วยความเป็นประเทศที่เหมาะในการเริ่มต้นเดินทางแบบแบคแพคเกอร์เที่ยวเองง่ายๆ สบายๆ เดินทางสะดวก มีที่เที่ยวใหม่ๆเกิดขึ้นพร้อมจะดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้ไปเยือนทุกๆปี

สำหรับสิงคโปร์บางคนไปมาก บางคนไปน้อย บางคนไปครั้งเดียวก็พอ... เพราะให้เหตุผลว่า "มันไม่มีอะไร"

แต่สิงคโปร์สำหรับเรานั้น มันมีความพิเศษพอสมควร แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร? แต่กระนั้นเราก็ยังไปแทบทุกปี ไปมันอยู่นั่นแหล่ะ 55+

และทริปนี้ก็ได้สร้างความพิเศษสำหรับเราเพิ่มขึ้นมาตรงที่ว่า ได้ไปพร้อมกับเพื่อนสาวที่สนิทๆกันหลายคนด้วย นานๆจะได้ไปเที่ยวตปท.กันหลายๆคนแบบนี้ซะที มันก็พิเศษตรงที่ สนุกสนาน หลงทาง ทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้าง สร้างความครื้นเครงให้กับทริปเรายิ่งขึ้น  ทำให้เป็นอีกทริปหนึ่งที่เราจะจดจำไว้ เวลานึกถึงขึ้นมาทีไรก็ยิ้มได้ทุกที.... รึเปล่า?  555+

เอาล่ะ เม้าท์มอยมาก็ยาว... เตรียมปูเสื่อจับจองที่นั่งรับชมรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะ ^^

มาหาของกินรอบดึกก่อนนอนอ่ะค่ะ

หยิบก้ามปูไปชิ้นนึงก่อนนะจ๊ะ

นั่งรออยู่หน้าเกตนะครับคุณกิฟ ^^

รอดูๆๆค่ะ

สิงคโปร์รอบนี้เราไปทั้งหมด 4วัน 3 คืนค่ะ ไปมาเมื่อวันที่ 1-4 มิ.ย. 54 (กว่าจะได้ฤกษ์รีวิว ก็หมักดองได้ที่พอดี  อิอิ) ที่เลือกไปช่วงนั้นเพราะมันตรงกับ Singapore Great Sale 2011 พอดี กะช้อปเต็มที่ว่างั้น ตามประสาผู้หญิงอ่ะเนอะ ^^


ทริปนี้เราแยกกันเป็น 2 ไฟลต์ค่ะ  คือ 10.40  และ 16.45  เพื่อนเราบินไปก่อน ส่วนเรากับเพื่อนอีก 2 คน บินไปทีหลัง ไฟลต์สุดท้ายของวันเลย >_<

กว่าจะไปถึงก็ 2ทุ่มแล้ว... ขอตัดภาพมาเป็นที่สนามบินชางฮี สิงคโปร์เลยนะคะ

เมื่อมาถึงสนามบินชางฮี สำหรับเพื่อนๆที่ใช้บีบี ต้องการซื้อซิม StarHub ไว้เล่นบีบี แนะนำให้ซื้อที่สนามบินได้เลยค่ะ ให้สังเกตป้ายนี้

มารอหมึกยักษ์ ไปสิงคโปร

แล้วจากนั้นมองไปซ้ายมือ จะเจอเคาน์เตอร์ธนาคาร UOB สามารถซื้อซิมได้ที่นี่ค่ะ

ซิม StarHub ราคา 15 SGD (ประมาณ 368 บ.) เปิดใช้ซิมแล้วจะแถมให้อีก 3 SGD ดังนั้นจะใช้ได้จริง 18 SGD เลยค่ะ

เปิดใช้ซิม: ที่สิงคโปร์เป็น 3G ได้ซิมมาแล้วแกะใส่เครื่อง รอ sms แจ้งข้อความต้อนรับ

จากนั้นสมัครแพคเกจบีบี โดยกด *122# โทรออก
เลือกใช้ BB สำหรับ 3 วัน ราคา 10 SGD (ใช้ BBM, FB, Twitter,internet 50MB)
ที่เหลือ 8 SGD ใช้เป็นค่าโทรได้ตลอด 3-4 วันเลยค่ะ ไม่ว่าจะโทรหากันเองในสิงคโปร์ หรือโทรกลับไทย ถูกมาก

อ่อ! เช็ค Status เงินเหลือได้ที่ กด *131# โทรออก  ค่ะ

ปล.แต่เราไม่ได้ซื้อที่นี่เพราะเรามีผู้อุปการะคุณผู้ใจดี ให้ซิมเราฟรีๆโดยนัดเจอกันที่ไชน่าทาวน์ค่ะ ขอขอบคุณพี่ส้อมมา ณ ที่นี้ด้วย อิอิ ^^

ตรงจุดที่ขายซิม จะเป็นช่วงก่อนที่เราจะลงไปที่ ตม. หรือ Immigration นะคะ ต้องสังเกตให้ดีๆ ถ้าเลยไปแล้วก็เลยไปเลยค่ะ ไปหาซื้อซิมเอาในเมืองก็ได้ ^^

จากนั้น เมื่อผ่านตม.ออกมาแล้ว ก็รับกระเป๋า แต่ของเราไม่ได้โหลดกระเป๋็าค่ะ ก็เลยเดินออกมาเลยที่ Arrival Terminal

จากนั้นเดินไปทางซ้าย ตามป้าย "Train To City (at T2)" เลยค่ะ   เพราะเราเลือกใช้การเดินทางเข้าเมืองแบบประหยัด ชิลๆ  ^^

ว๊าวๆๆ มีคนมารอดูรีวิวเราด้วย ดีใจจังเลย >_<,,

@คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน  หยิบปูไปเยอะๆเลยค่ะ กินไม่หมดแล้ว พุงจะแตก อิอิ
@คุณกาแฟ  ไม่ต้องรอแล้วค่ะ มาแล้ว ไปเที่ยวด้วยกันเลยดีกว่า ^,^
@nugate ขอบคุณค่ะ ตามมาๆเลยๆ ^^
@พ่อขนุน ลูกน้องแม่ยายป้าไข่  มารอดูค่ะว่าจะพาไปไหนบ้าง  >_<

***********************************************

สำหรับคนที่นัดเจอกับเพื่อนๆ ก็อาจจะนัดกันที่ Berger King ตรงนี้ก็ได้นะคะ ง่ายดี หรือถ้าใครหิวๆก็แวะเลยค่ะ ช่วยได้เยอะ  แต่ของทริปเราผ่านไปค่ะ

ยาวไปๆๆๆ เพราะมีนัดที่ไชน่าทาวน์ รีบไปขึ้นรถไฟไป Terminal 2 กันดีกว่า ^^

ชัดๆอีกที...


ขึ้นรถไฟฟ้าไป Terminal 2 ขึ้นบันไดเลื่อนไปเลยจ้า  ^^

ถึงแล้ว รถไฟฟ้าจะมาทางขวามือ


Skytrain ระหว่าง Terminal ต่างๆ ในสนามบินชางฮี ให้บริการเวลา 5.00-02.30น. นอกเหนือจากเวลาดังกล่าว สำหรับผู้ที่เดินทางมาลง Terminal 1 สามารถใช้บริการ Free Shuttle Bus ที่ Departure Hall ประตู 5 (ใกล้ๆกับ Row14) ได้ค่ะ

มาปาดยามดึกจ๊ะ

ปาดด้วยจ้ะ กำลังจะไป 20 นี้

รอไม่นาน แป๊บๆรถไฟก็มา ^^

ตามมาชมสาวๆช้อปปิ้ง ได้อะไรกลับมาบ้างคะ

@hikaruki ปาดเลยจ้า ดีใจจังยังมีคนอยู่เป็นเพื่อน ^^
@รพช.แห่งความสุข  ถ้ามีอะไรพอที่เราจะช่วยได้ ตอบได้บ้าง ถามมาได้เลยจ้า ยินดีๆ ^^

****************************************************

นั่งรถไฟฟ้ามาแป๊บๆ ก็มาถึง Terminal 2 กันแล้ว

เดินออกมาจากรถไฟฟ้า ให้สังเกตป้าย "Train to City" เหมือนเดิมนะคะ  ตามไปเลยๆๆ ^^

@Najenjira  ได้กลับมาเยอะพอตัวเลยค่ะ  หน้ามืดตามัวช้อปปิ้งกันมาก 555+

**************************************************

เลี้ยวขวาตามป้าย "Train to City" ข้างบนแล้ว จะเจอบันไดเลื่อน ก็ลงไปเลยค่ะ  ยาวไปๆๆ ^^

ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ^^

(เห็นสาวๆ ไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มแบบนี้  

คิดถึงเพื่อนๆ ของตัวเอง เที่ยวยกแกงค์ไปสมุยเมื่อสองปีก่อนเลย)

พอลงมาจากบันไดเลื่อนมา  ก็จะเจอป้าย MRT Changi Airport ก็ลงบันไดเลื่อนไปอีกชั้นนึงค่ะ ก็จะเป็นรถไฟฟ้าสถานีสนามบินชางฮีแล้ว ^^

@chicken demon ตามมาเลยค่า ที่เหลือเพียบ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนสาวนี่สนุกจริงๆค่ะ ^^

************************************************

เมื่อลงมาถึง MRT Changi Airport แล้ว ใครมี Ezlink ก็ยืดอกเติมเงินได้ตรงนี้เลยค่ะ ขั้นต่ำ 10 SGD นะคะ ^^  

ใครยังไม่มี Ezlink ก็สามารถซื้อได้เลยที่นี่เช่นกันค่ะ

*ทบทวนกันอีกทีนะคะ :  Ezlink ราคา 15 SGD จะสามารถใช้จริงแค่ 7 SGD / 5 SGD เป็นค่าบัตรไม่ได้คืน / 3 SGD เป็นค่ามัดจำบัตร จะได้คืนเมื่อคืนบัตรค่ะ*

Ezlink สามารถใช้ได้กับ MRT ทุกสาย ขึ้นรถเมล์ก็ได้ หรือจะซื้อของใน 7-11 ก็ได้นะคะ สะดวกดีจริงๆ ^^

เมื่อขึ้นรถไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่งไปได้ซักพัก สำหรับมือใหม่  ห้ามลืมเด็ดขาดนะคะว่าต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ MRT Tanah Merah นะคะ!!  ถ้าไม่เปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าจะย้อนกลับมาที่สนามบินเหมือนเดิมค่ะ


มาถึงแล้ว MRT Tanah Merah เพียง 2 สถานีจาก MRT Changi Airport
พอลงจากรถไฟฟ้าแล้ว ไปรอรถไฟขบวนใหม่ ตามลูกศรเลยค่ะ

แวะมาปาดก่อนไปนอน ถามหน่อยนะครับของผู้ชายมีอะไรน่าสนบ้างมั๊ยครับ ? พวกเสื้อผ้า , นาฬิกา หรืออะไรก็ได้ครับ แล้วลดเยอะมั๊ยครับที่นู่น

และเพื่อความชัวร์ ให้สังเกตป้าย "to Joo Koon" หรือ "to city"  ก็ได้ค่ะ  ถ้ามี 2 ป้ายนี้เป็นอันว่าเรามาถูกทางแล้ว ^^

@กั๊ตจัง  ขอบคุณที่แวะมาค่า  สำหรับของที่สิงคโปร์ ไม่ว่าชาย/หญิง เราว่าก็ไม่ถูกมากนะคะ แม้ว่าจะไปช่วงเซลล์ (- -") เราว่ามันถูกเป็นบางรุ่น บางยี่ห้อมากกว่า ไม่ว่าจะเสื้อฟ้า น้ำหอม นาฬิกา รองเท้า กระเป๋า ควรเช็คราคาจากเมืองไทยไปก่อนดีกว่าค่ะ ไปถึงนู่นแล้วจะได้ตัดสินใจถูก ^^

*************************************************

ทริปนี้เราพักที่ Fragrance Hotel Sapphire เกลังซอย 10 ค่ะ
ที่พักสุดฮิตที่สิงคโปร์ิีอีกแห่งหนึ่งของห้องบลู ^^

ดังนั้นเราต้องลงรถไฟฟ้าที่สถานีนี้เลยค่ะ MRT Aljunied

ตามไปด้วยทันไม๊คะ??
อยากทราบว่าแล้วถ้าใช้iphone อ่ะคะ ใช้ซิมของอะไรดี
ขอบคุณมากๆค่ะ

@Nutoun  ทันค่ะ มาเลยๆ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลค่ะ ^^  ถ้าจะใช้ iphone เราไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไหร่อ่ะค่ะ  แต่พี่อีกกลุ่มหนึ่งที่ไปด้วยกันใช้ iphone4 ไปซื้อ micro sim ของ Sintel ค่ะ เพราะเห็นว่าสามารถใช้ wi-fi free ที่สิงคโปร์ได้ด้วย

**************************************************

เมื่อมาถึง MRT Aljunied แล้วก็ลงไปข้างล่าง แล้วก็เดินออกไปด้านซ้ายนะคะ  จากสถานีรถไฟฟ้า เราจะไปขึ้นรถเมล์ไปที่พักของเรากันค่ะ

เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ก็เดินไปทางขวาเลยค่ะ

ป้ายรถเมล์อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าตามรูปเลยค่ะ ^^

ชัดๆกับป้ายรถเมล์ค่ะ ตอนที่เรามาถึงก็ เวลาประมา๊ณ 3ทุ่มกว่า ของสิงคโปร์ได้ คนยังมีอยู่ค่ะ ไม่เปลี่ยว ไม่น่ากลัว ^^

สำหรับเพื่อนๆ ที่เลือกที่พักย่านเกลัง โดยเฉพาะ GeyLung Lor 8, 10, 12, 14, 16, 18, 20  สามารถรอรถเมล์ที่ป้ายนี้ได้เลยค่ะ

สายรถเมล์ที่ไป ได้แก่ 62, 63, 80, 100, 158

สำหรับเพื่อนๆที่พัก Fragrance Hotel Sapphire Geylung Lor 10 นั่งไปเพียง 2 ป้าย ก็ถึงแล้วค่ะ


**ขึ้นรถเมล์ในสิงคโปร์  ให้ขึ้นรถประตูหน้า แล้วใช้ Ezlink แปะ 1 ที   และก่อนลง ให้ลงประตูหลังแล้วใช้ Ezlink แปะอีก 1 ทีก่อนลงนะคะ ^^

สำหรับย่านเกลัง  เราเคยพัก 3 ที่ค่ะ

ตามแผนที่เลยก็คือ (ตัวหนังสือสีแดง)
1.Hotel 81 Orchid Lor8
2.Fragrance Hotel Sapphire Lor10
3.Hotel 81 Lucky Lor20


ทั้ง 3 ที่นี้มี Fragrance Hotel Sapphire และ Hotel 81 Lucky ที่ได้รับการ renovate ห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็โอเคใช้ได้เลยค่ะ  ส่วน Hotel 81 Orchid ตอนเราไปพักเมื่อปี 2010 ยังไม่มีการ renovate ห้องนะคะ  สภาพจะเก่าๆหน่อย ตามรูปในเว็บไซต์เลย เหม็นกลิ่นบุหรี่นิดๆ แต่พอนอนได้ค่ะ

แต่ทั้ง 3 ที่นี้สังเกตว่าจะไม่ไกลจากป้ายรถเมล์มากเท่าไหร่ สะดวกมากๆค่ะ


ปล.ตรงที่เป็นเครื่องหมายดาวสีน้ำเงิน คือป้ายรถเมล์จริงๆนะคะ เบอร์16 ในแผนที่จะคลาดเคลื่อนนิดหน่อย

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงที่พักเราจนได้ค่ะ  Fragrance Hotel Sapphire
จากสนามบินจนมาถึงโรงแรม เราก็มาเรื่อยๆนะคะ ไม่ได้แวะซื้อ ไม่ได้แวะกินอะไรเลย ใช้เวลาไป 1 ชม.เศษๆค่ะ  

ทริปนี้เราจองห้อง Family สำหรับ 3 คนไว้ ในราคา คืนละ 98 SGD ประมาณ 2400 บาทค่ะ  ก็พอดีไปพัก 3 คน 3 คืนพอดี ก็เหมือนจ่ายไปคนละคืน ถือว่าคุ้มมากๆนะคะ เพราะเฉลี่ยแล้วตกค่าที่พักคืนละ 800 บาทเอง

นี่คือหน้าตา Family Room ค่ะ

มุมมองจากหัวเตียงไปที่ปลายเตียง จะเป็นประตุห้องทางซ้าย และประตูห้องน้ำทางขวาค่ะ

ทีวีเป็นจอแบนติดผนัง แต่ก็ไม่ได้ดูค่ะ เปิดเอาไว้เฉยๆ พอไม่ให้ห้องเงียบเหงา

พื้นที่เราว่า ก็ไม่แคบมากนะคะ พอวางกระเป๋็าแบกับพื้นได้สบายๆ 3 ใบ

ถือว่าโอเคเลยค่ะ สำหรับห้องนี้

มาดูห้องน้ำกันบ้าง

ไม่เล็กไม่ใหญ่ น้ำแรงกำลังดี ทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็น

มีครีมอาบน้ำให้กดใช้ได้ฟรีด้วย

และเป็นธรรมดา ที่นี่ไม่มีสายชำระค่ะ

ห้องน้ำที่นี่มีแปรงสีฟันและหมวกอาบน้ำไว้ให้ด้วยนะคะ ตามมาตรฐาน
Fragrance Hotel มีผ้าขนหนู ผืนเล็ก-ใหญ่เปลี่ยนให้ทุกวัน วันละ 3 ชุดค่ะ

แต่ขอบ่นหน่อยค่ะ คือ เรื่องผ้าเช็ดเท้า ทางโรงแรมไม่ให้เราไว้เลยค่ะ

เราเองก็ลืมขอ จนผ่านไปจนเช็คเอ้าท์ก็ไม่มี มาถามเพื่อนที่พักอีกห้อง เพิ่งมารู้ว่าที่ห้องเพื่อนน่ะมี!! สงสัยแม่บ้านจะลืม และเราเองก็ลืมบอกที่ front ให้บอกแม่บ้านด้วย แอบเซ็งเล็กน้อยค่ะ เพราะเวลาเข้าห้องเสร็จ พอออกมาต้องเดินเท้าแฉะๆอยู่ในห้อง ไม่ค่อยเวิคเท่าไหร่ค่ะ (-  -*)

มีกาต้มน้ำ แก้วน้ำ 3 ใบ และน้ำเปล่า 3 แก้ว (ไม่ให้เป็นขวดนะคะ) มีชากาแฟให้มา 3 ชุดด้วยเหมือนกัน ทิชชู่ก็มีให้กล่องเดียวตามรูปเลย

มีเรื่องบ่นเรื่องที่ 2 ค่ะ คือ แม่บ้านไม่เปลี่ยนแก้วที่ใช้แล้วให้!!

คือเพื่อนเราซื้อนมมากินที่ห้องก่อนนอน ก็เทใส่แก้วดื่มที่ห้อง ดื่มเสร็จก็วางไว้ไม่ได้ล้าง เพราะถึงห้องก็เหนื่อยหมดแรง ตอนเช้าก็ตื่นเช้าออกจากห้องไปเลย

พอกลับมาตอนกลางคืน ก็ยังพบว่าแก้วใบเดิมไม่ได้ล้างค่ะ! ยังวางอยู่ที่เดิม! เราคิดว่าจริงๆแล้วมันควรเป็นหน้าที่แม่บ้านต้องนำแก้วใหม่มาเปลี่ยนให้ไม่ใช่เหรอคะ?  และแน่นอนแก้วใบนั้นก็ถูกวางอยู่ที่เดิมจนเช็คเอาท์ตามระเบียบ

เราเลยเขียน suggestion หย่อนไว้ที่ front ให้ปรับปรุงเรื่องแม่บ้านแล้วค่ะ ไม่รู้จะได้เรื่องรึเปล่า  แต่นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ ขัดใจตรงแม่บ้านนี่แหล่ะ (- -*)

และนี่คือตู้เก็บเสื้อผ้าค่ะ มีไม้แขวนให้ประมาณ 3 อัน

ด้านซ้ายมือของตู้ที่เห็นแดงๆนั่นคือประตูห้องค่ะ เป็นการใช้สอยพื้นที่ได้ดีมากๆ ^^

ขอตัดภาพมาตอนเช้า แป๊บนึง สำหรับหน้าตาโรงแรมของเรานะคะ

และรูปนี้ถ่ายจากหน้าปากซอยค่ะ  มองไปเห็นโรงแรมอยู่ไม่ไกล ด้านซ้ายมือเลย  สะดวกมากจริงๆ  คะแนนความสะดวก เต็ม 10 เลยค่ะ

และโรงแรมย่านเกลังจะเหมาะกับเพื่อนๆที่พอจะมีข้อมูลการเดินทางด้วยรถเมล์บ้าง เพราะถ้าจะเดินทางด้วย MRT อยา่งเดียวอาจจะต้องมีเดินไกลกันบ้างเล็กน้อย  ถ้ารู้สายรถเมล์ก็จะสะดวกขึ้นมาอย่างมากเลยค่ะ ^^

เมื่อเก็บของเข้าที่เรียบร้อย เราก็รีบออกมา เพื่อไปตามนัดกับเพื่อนและพี่ที่นัดไว้ที่ไชน่าทาวน์ค่ะ  

เราเดินทางด้วย รถเมล์สาย 80 ยิงตรงไปไชน่าทาวน์เลยค่ะ ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงไชน่าทาวน์แล้ว

เมื่อมาถึงที่นัดหมาย เราก็ได้รับซิม StarHub จากคุณพี่ผู้มีพระคุณเรียบร้อยแล้ว ^^ ก็ได้เวลาสุย!! กันค่ะ

ปล. "สุย" เป็นอาการที่ใช้เรียกแทนอาการ "กิน" ของกลุ่มเราค่ะ ส่วนเรื่องความหมายไม่แน่ชัด แต่มันไม่ได้เป็นอาการกินแบบธรรมดาๆแน่นอน อิอิ

เรามาถึงเยาวราชในวันพฤหัส ซึ่งเป็นวันธรรมดา ตามโปรแกรมเรากะจะฝากท้องไว้ที่ Smith Street แต่ไม่รู้มาก่อนเลยว่า คืนวันธรรมดา เวลา 4 ทุ่มจะเงียบเหงาขนาดนี้ นึกว่าจะเหมือนเยาวราชบ้านเราซะอีก ที่ยิ่งดึกยิ่งคึกคัก >_<

เมื่อ Smith Street เหลือตัวเลือกเพียงไม่กี่ร้าน เราจึงได้เล็งไปที่ร้านรถเข็นคุณลุงเสื้อขาวด้านขวาเลยค่ะ เพราะหน้าตาอาหารน่าทานสุดแล้ว เลยจัดแจงสั่งอาหารกันซะเลย  คุณลุงพูดไทยได้ด้วยล่ะ  ดีใจ๊~ดีใจ ^^

รายละเอียดดีมาก ตอนออกจากสนามบิน ติดตามชมนะคะ

มาแล้วๆๆๆ จานแรกของเรา "ผัดหมี่" ค่ะ  

แต่เพื่อนเราบอกว่าเหมือนผัดมาม่า เลย 555+  

รสชาติดี ใช้ได้เลย เอ๊ะ! หรือเป็นเพราะเราหิว?!? (^___^)

จานถัดมา... "หอยทอด" ค่ะ  ใส่หอยมาเยอะมากกกกกกกก  
ตักทุกคำต้องมีหอย!! สวดยวดจริงๆ ^^

จานนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย ทานกับน้ำจิ้มบ้านเค้า จะออกแนวเผ็ดๆหน่อย แปลกดีค่ะ ไม่เหมือนบ้านเราทานกับซอสพริกหวานๆ

ตามมาติดๆ จานสุดท้าย "ข้าวผัดซีฟู้ด" รสเข้มข้นเค็มๆดี
ข้าวผัดแห้งๆร่วนๆ สไตล์อาหารจีนแท้ๆ
ขอบอกว่าอร่อยมากกกกกกกกกกกกก (>_____<,,)

สรุปว่าร้านนี้ผ่านค่ะ อร่อยทุกอย่าง ประทับใจจริงๆ ไม่ผิดหวังที่มา Smith Street เลย v(^__^)

@TheFebruary  ยังไม่นอนเหรอคะ นอนดึกจังเลย ขอบคุณที่แวะมานะคะ  มาถึงตอนสุยพอดี อิอิ

*************************************************

เมื่อหนังท้องตึง แต่หนังตายังไม่หย่อนง่ายๆ ก็ได้เวลาเดินย่อยค่ะ  แน่นอนว่าเราเพิ่งจะมาถึงสิงคโปร์ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล  ที่หมายต่อไปก็คือ Clarke Quay ค่ะ \(^^)

เราเดินจาก Smith Street ไปขึ้น MRT Chinatown เวลานั้นร้านรวงปิดกันเกือบหมดแล้ว ทำเอาย่านไชน่าทาวน์ที่นี่เงียบเหงาแปลกตาไปเลย

ระหว่างเดินไป MRT Chinatown ผ่าน Chinatown Heritage Centre ด้วย ถ้าคราวหน้าใครมาเที่ยวสิงคโปร์ มีโอกาสแนะนำเลยนะคะ เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ดีอีกแห่งหนึ่ง คุ้มค่าบัตรมากๆค่ะ (^_^)

เพียง 1 สถานี จาก MRT Chinatown เราก็มาถึงแล้วค่ะ Clarke Quay

ย่านราตรีของวัยรุ่นสิงคโปร์ แน่นอนว่าวัยรุ่นไทยอย่างเราก็ต้องไม่พลาดค่ะ  หุหุ v(^^)

เราออกจาก MRT Clarke Quay ใต้ห้างเซ็นทรัล พอขึ้นมาบนห้างเราก็เดินไปหลังห้างก็จะเจอกับ Clarke Quay

จากนั้นเราก็เริ่มด้วยการเดินลัดเลาะริมแม่น้ำสิงคโปร์ไปทางด้านซ้ายเรื่อยๆค่ะ
เพื่อข้าม Read Bridge สะพานสีฟ้าๆในรูป ไปฝั่งตรงข้าม

วิวระหว่างทางค่ะ

กำลังจะเดินข้าม Read Bridge แล้ว

ที่เห็นเป็นตึกสูงๆข้างหลังนั่นคือ Novotel Singapore Clarke Quay ค่ะ ทำเลดีมากๆเลย ^^

รูปข้างล่างขวาเป็นย่าน Clarke Quay น่าเดินมากๆ แสงสีเสียงล่อตา่ล่อใจวัยรุ่น (ตอนปลายๆ) อย่างเราจริงๆ  อิอิ

มุมนี้นับว่าเป็นศูนย์กลางของ Clarle Quay เลยก็ว่าได้ เป็นจุดตัด 4 มุม
มีลานน้ำพุ และไฟเปลี่ยนสีให้ถ่ายรูปเพลินๆ ชอบๆๆ ^^

ส่วนหนึ่งของนักท่องเที่ยว และบรรดาร้านต่างๆ ในย่านนี้

มีร้านแปลกๆออกแนวคอสเพลย์ เป็นโรงพยาบาลด้วย แปลกดีเหมือนกันแฮะ

เราเดินไป เดินมาอยู่นาน สุดท้าย เราเลยเลือกร้านนี้ ^^
เห็นร้านมันโล่งๆ เก๋ๆ สวยๆ แปลกตาดี
ออกแนวแขกๆหน่อย ไม่เคยเข้ามาก่อน
เปิดเพลงแขกๆด้วยล่ะ จังหวะคึกคักดีชอบๆ
จนอยากจะลุกมาระบำหน้าท้อง วิ่งข้ามภูเขากันเลยทีเดียว 5555+
ก็ขอลองหน่อยละกันเนอะ  นานๆมาที v(^_^ )

แก้วเดียวทั้งคืน.... ได้ข่าวว่าตอนนั้นเที่ยงคืนกว่าๆ แล้ว ร้านใกล้ปิดแล้ว 555+

ปล.อย่าถามนะว่าร้านชื่ออะไร เพราะเข้ามาแบบไม่ได้คิดเลยอ่ะ >_<

เมื่อเครื่องดื่มหมดแก้ว  ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อนแล้ว  เลยเดินเล่นเลียบแม่น้ำต่อไปอีกซักหน่อย เพื่อไปขึ้นแท๊กซี่กลับโรงแรม ตรงหน้าห้างเซ็นทรัล

รูปนี้ถ่า่ยจาก Coleman Bridge  ค่ะ ^^

ปล.รูปอาจไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ มือใหม่มากๆ แต่มีค่าในมุมมองของเราค่ะ ^^

เข้าสู่เช้าวัีนที่สอง ของทริป เราออกจากห้องตอน 8โมงกว่า เป้าหมายคือ "อาหรับสตรีท (Arab Street)" ค่ะ

ย่านนี้เป็นอีกย่านหนึ่งที่เราตั้งใจมามากๆ เพราะครั้งก่อนที่มา ได้แต่นั่งรถเมล์ผ่าน มาคราวนี้เลยไม่พลาดที่จะต้องเดินเล่นถ่ายรูป สัมผัสกลิ่นอายอารยธรรมอาหรับที่ไม่คุ้นตา แต่น่าตื่นตาตื่นใจซะหน่อย ^^

ในย่านนี้มีที่เที่ยวที่น่าสนใจอยู่ด้วยคือ Malay Heritage Centre
แต่เรามาเช้าเกินไป เพราะที่นี่เปิดเวลา 10.00-18.00 น.  ค่าเข้าชม 4 SGD

เราเลยได้แต่ถ่ายเก็บไว้จากข้างนอก แล้วก็เดินต่อไป...

หิวแล้วววววว.... เรามาตามลายแทงจากลุงเด้ง แห่ง Singapore Fanclub
ก็คือร้าน Singapore ZAM ZAM เป็นร้านขายอาหารมุสลิมพวกโรตีมะตะบะ ข้าวหมกไก่ ประมาณนั้น

เป็นร้านเล็กๆ 2 คูหา ในร้านมีโต๊ะแค่ไม่กี่ที่ ร้านไม่ใหญ่มาก ราคาอาหารประมาณ 4-5.5 SGD

มื้อนี้ยังเช้าอยู่ เราเลยสั่งเป็น โรตีมะตะบะไก่ และโรตีไข่มาอย่างละจาน

ทางร้านให้น้ำแกงมาด้วย คิดว่าน่าจะเอาไว้สุยคู่กับโรตี

แต่... พออาหารมาเสริ์ฟ ขอบอกว่า โรตีมะตะบะไก่ ชิ้นใหญ่มากๆๆๆๆๆๆ คาดว่าไม่สามารถสุยคนเดียวจนหมด ดีนะมากัน 3 คน

อีกทั้งยังมีโรตีไข่อีกแผ่นนึง นี่ก็ใช่ย่อย ไซต์ไม่ธรรมดาเลย

แต่สุดท้ายเราก็จัดแจง "สุย" จนเรียบ ^^

ปล.ขอบอกว่า ถ้าใครที่ชอบกาแฟ แล้วไปสุยร้านนี้ แนะนำให้สั่ง "โกปี๊" ด้วย เพราะอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ต้องไม่พลาดนะคะ ^^

เอาล่ะ พาสุยเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรามาเดินเที่ยวย่านอาหรับสตรีท หรือที่เรียกว่าย่าน Kampong Glam (กำปงกลาม) กันต่อเลยดีกว่า

จุดเด่นของย่านนี้เลยคือ Sultan Musque ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมถนนกันเลยทีเดียว

ไม่พลาดที่จะเก็บความประทับใจไว้อีกซักรูป ^^

...

ตามสาวๆมาเที่ยวด้วยคนค่ะ


อยากช๊อปบ้างงงงงงงง

..

ช่วงที่เราไป ยังค่อนข้างเช้า ประมาณ 9 โมงกว่าๆ
อีกทั้งยังเป็นวันธรรมดาๆ ร้านรวงเลยยังไม่เปิดดีนัก
นักท่องเที่ยวก็ยังไม่เยอะ เลยได้เก็บรูปบรรยากาศชิลๆ ที่ย่านนี้กันอย่างไม่บันยะบันยังกันเลยทีเดียว ^^

สวยทุกมุม ชอบมากๆอ่ะ ไม่ผิดหวังที่มาจริงๆ ตึกย่านนี้มีแต่เก๋ๆ สีสันสดใสทั้งนั้น ^^

ปล.มีเกสต์เฮ้าส์น่ารักๆชื่อ "Sleepy Sam's" ด้วยล่ะ  ท่าทางจะชิลน่าดู
น้องที่ทำงานเคยไปพักบอกว่าโอเคเลย สะอาดใช้ได้ ^^

@โอลีพ/แม่น้องเซ้นต์ (olives)  ตื่นเช้าจังค่ะ ^^ ตามมาเลยๆค่ะ ต่อจากอาหรับสตรีทก็จะไปช้อปปิ้งกันแล้ว  อิอิ

*************************************************
ชอบจริงจังๆ ย่านนี้ ไม่ผิดหวังที่มา ถ่ายแบบไม่ยั้งเลย เอาให้คุ้ม อิอิ ^^

เมื่อเดินชมเมือง ถ่ายรูป ดื่มด่ำกับความเป็นอาหรับ วัฒนธรรม และตึกสวยๆงามๆแล้ว ก็ได้เวลาช้อปปิ้งกันแล้วค่ะ ^^

จากย่านอาหรับสตรีท เราเดินไปขึ้น MRT Bugis จากนั้นไปลง MRT City Hall เพื่อเปลี่ยนเป็นสายสีแดง ลงที่ MRT Orchard ค่ะ

เป้าหมายของเรา แน่นอนอยู่แล้ว Charles&Keith รองเท้า+กระเป๋า ออเดอร์เพียบอีกตามเคย ไหนจะของตัวเอง ของฝากคนอื่นเค้าอีก ก็เลยจัดเต็มอีกครั้งค่ะ!!

ทริปนี้เราโชคดีมากที่มี Charles&Keith Member Card จากปีก่อนที่มาช้อปไว้
รอบนี้มาช้อปตรงกับวันเกิด ได้ส่วนลดอีก 20% จากป้ายค่ะ  สุโค่ยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ (>_____<,,)  
แต่ใช้สิทธิ์ส่วนลด 20% ได้แค่ 5 ชิ้นเท่านั้นค่ะ  นอกนั้นลดได้ 10% ทุกชิ้น ทุกสาขาในสิงคโปร์เลย!!


*ซื้อครบ 200 sgd ในบิลเดียว สามารถทำ "Charles&Keith Singapore Member Card" ได้ทันทีค่ะ*
ทำปุ๊บ ลดปั๊บได้เลย 10% All items ^^


แต่ Charles&Keith มาช่วง Sale ทั้งเกาะ เค้าก็ไม่ลดนะคะ
แต่ถึงไม่ลด ราคาก็ถูกกว่าบ้านเรา 50% แล้ว ยิ่งได้บัตรลดอีก 10-20%
เท่ากับว่าถูกกว่าบ้านเราถึง 70-80% แน่ะค่ะ!! (>____<,,)

รอบนี้เราแวะเกือบทุกสาขาที่ผ่าน รวมๆแล้วประมาณ 7 สาขาได้  แหะๆ (- -")
ที่ไปมาก็จะมี ION, 313 SOMESET, City Link, Central Clarke Quay, Vivo, Bugis และ Outlet Anchor Point ค่ะ

แต่ละสาขาก็จะมีของวางไม่เหมือนกันนะคะ ไปหลายสาขาจนจำสินค้าได้เกือบหมด
ทั้งๆที่ก็ซื้อแล้ว ยังจะหยุดดูอีก!! เคยเป็นมั้ยคะสาวๆห้องบลู  ^^

และจากในรูปนี่ก็เป็น "บางส่วน" ที่เราเก็บภาพมาให้ดูกันค่ะ
ในรูปเป็นสาขา ION นะคะ สาขานี้เราช้อปเยอะสุดเลย

ปล.ถ้าซื้อเกิน 100 SGD ในช้อปเดียว สามารถทำ Vat Refund ได้นะคะ

รูปนี้คือสาขา Bugis ค่ะ เป็นสาขาเก็บตก เพราะเราไปวันสุดท้าย
อะไรที่คาใจ ยังไม่ได้ซื้อก็ได้เสียเงินที่นี่แหล่ะค่ะ 5555+

สำหรับสินค้าราคาปกติที่ไม่ได้ใช้ Member Card ลดนั้นจะอยู่ที่ประมาณ...
- กระเป๋า Handbag ประมาณ 1600-1700 บาท
- กระเป๋าสตางค์  ประมาณ 700-900 บาท
- รองเท้า ถ้าลำลองราคาจะๆกับกระเป๋าสตางค์ หรือถ้าเป็นคัชชู รองเท้าส้นสูงทั่วไป ประมาณ 1000-1300 บาท
ถ้าหรูหราขึ้นมาอีกหรือเป็นรุ่น Signature ก็จะราคาสูง ประมาณ 1500-1700 บาท
- แว่นตา  ประมาณ 1000-1200 บาท

อันนี้เราคิดจากเรทล่าสุดที่ไปมาเมื่อต้นเดือนมิ.ย. 54 นะคะ ประมาณ 1 SGD = 24.5 บาท

เมื่อเป้าหมายบรรลุแล้ว ^^ ได้เสียเงินไปชุดใหญ่ ก็เดินเล่นที่ออร์ชาดซักพัก และหาที่สุยข้าวเที่ยงด้วย

ปกติไปออร์ชาดเรามักจะไปสุยที่ฟู้ดคอร์ท ชั้นใต้ดิน Lucky Plaza ค่ะ ราคาถูกดีแค่ 2-3 SGD

แต่รอบนี้ของเยอะ ขี้เกียจข้ามถนนไปมาด้วย เลยแวะทานที่ฟู้ดคอร์ท ชั้นใต้ดิน ห้าง Takashimaya แทน
ราคาอาหารที่นี่ค่อนข้างสูงคือ 4-7 SGD สำหรับอาหารจานเดียว
แต่ในเรื่องรสชาติ และคุณภาพก็ใช้ได้ค่ะ แต่ปัญหาคือหาที่นั่งยากมากๆๆๆๆๆๆ
เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรี ว่างตรงไหนต้องรีบพุ่งไปจอง 5555+


ข้อดีของ Takashimaya อีกอย่างหนึ่งคือ เป็นห้างที่มีขนม+อาหารญี่ปุ่นละลานตาไปหมด >_<
สำหรับเรามีของที่ไม่ควรพลาดซื้ออีกหนึ่งอย่างของที่นี่คือ "ช้อคโกแลต ยี่ห้อ ROYCE " ค่ะ  
ราคาบ้านเราประมาณ 490 บาท ที่สิงคโปร์ขาย 15 SGD ประมาณ 370 บาท
ก็ถือว่าถูกกว่าบ้านเราอ่ะนะ แต่อย่าถามว่าญี่ปุ่นเท่าไหร่ ถูกกว่านี้แน่นอน  ... แฮ่ >___<!!

จาก Takashiyama เป้าหมายต่อไปคือ 313 Somerset ถือเป็นห้างน้องใหม่ของออร์ชาดเลยทีเดียว
เพราะเพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ น่าจะซักปีที่แล้ว 2010 (ถ้าข้อมูลผิดต้องขออภัยนะคะ >_<") เพราะปีก่อนนู้นนนนเป็นโรงแรมฟีนิกซ์ ถ้าจำไม่ผิด เพราะเราเคยมาพักครั้งนึง

ห้าง 313 Somerset จะมี Forever21 ตั้งอยู่หน้าห้างเลย มีตั้ง 3 ชั้น ช้อปกันให้เต็มที่เลยค่ะคู้นนนน ^^
แต่เท่าที่ดูราคาไม่แตกต่างจากไทยมากเท่าไหร่นะคะ เราเลยไม่ได้เสียตังค์  อิอิ

เมื่อเดินช้อปจนหนำใจจนเย็นย่ำ เพลินไปหน่อย ไม่ได้ดูเวลา >_<"
จากตอนแรกกะจะกลับที่พักไปเก็บของ แล้วค่อยออกมาใหม่
กลายเป็นว่าต้องหอบของพะรุงพะรัง ไปต่อที่ Marina Bay Sand ค่ะ

แต่... จะไปยังไงนั้น คำตอบเดียวเลยคือ taxi เพราะของหนักมากค่ะ
ไม่สามารถใช้บริการ public transport ได้เลย (- -")

มาถึงแล้วค่า ตึก ตึก ตึก มีเรืออยู่บนตึกด้วย >___<,,

ค่าเข้าชมวิว บนชั้น 56 Marina Bay Sand อยู่ที่ 20 SGD ค่ะ
เปิดให้ขึ้นชมตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ไม่จำกัดเวลาในการชมนะคะ
อยู่ได้ตามต้องการเลย  แต่บนนั้นไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเรา
เราเฉยๆมากอ่ะค่ะ ได้แค่ถ่ายรูปๆ ชมวิว แล้วก็ลงมา...

เราใช้เวลาอยู่บนเรือ เอ๊ย! ยอดตึก Marina Bay Sand ตั้งแต่ 5-6 โมงเย็น เพราะกะจะรอชมวิวจนพระอาทิตย์ตกดินกันเลยทีเดียว

แต่ผิดคาด วันนั้นพระอาทิตย์ตกช้ามากกกกกกกก  จน 6โมงกว่าๆแล้วยังไม่มีทีท่าจะมืด  เราเลยเก็บมาได้แต่บรรยากาศตอนเย็นๆมาฝากค่ะ

เสียดาย ฟ้าไม่แจ่มเลย ไปทริปนี้ฟ้าเป็นแบบนี้ตลอด เสียดายๆ >__<!

อีกมุมหนึ่ง.....

เห็น Singapore Flyer ด้วย  เดี๋ยววันสุดท้ายเจอกันนะ ^^

ชมวิวไปเรื่อยๆ....

มุมนี้มองลงไปเห็นสะพาน Helix ด้วย  เด๋วอีกซักพักเราจะได้เดินข้ามด้วยล่ะ ^^

พระอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้า  แสงสีส้มเริ่มจะหมดลง .....

มองเห็น Merlion Park ด้วย....

แต่ช่วงที่เราไปยังไม่พ่นน้ำ สงสัยว่าอาจจะยังเหนื่อยจากการถูกแปลงร่างให้เป็นโรมแรมก็เป็นได้

มาตามติด แกงค์สาวๆไปเที่ยวด้วยคนนะคะ

อีกสักรูป.....

เห็นท่าว่าจะไม่มืดง่ายๆ เราเลยลงจากเรือลำนี้แล้วไปหาของสุยมื้อเย็นดีกว่า ^^

เป้าหมายเราคือร้าน No Sign Board Seafood สาขา Esplanade นั่นเอง
จาก Marina Bay Sand เราต้องเดิน เดิน และเดิน คงต้องใช้เวลาซักพัก
เพราะของในมือก็ไม่ใช่น้อย ไหนจะแวะถ่ายรูประหว่างทางอีก ที่ต้องมีแน่นอน 5555+

เอาล่ะ บ๊ายบายนะ Marina Bay Sands ^^

ตามไปเดินเล่นสิงคโปร์ด้วยคนจ้า เห็นแล้วคิดถึงจังอยากไปเที่ยวอีกรอบ

@jarabeebb อรุณสวัสดิ์ค่า ^^ ตามมาเลยค่ะ เด๋วจะพาไปสุยปูยักษ์ด้วยล่ะ
@ตระเวนเที่ยว   ตามมาเลยค่า ที่เยอะแยะเลย ^^

***************************************************

เมื่อลงมาจากชั้น 56 ออกจากลิฟต์ให้เดินไปทางขวา แล้วมุดลงใต้ดิน เพื่อข้ามถนนไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ที่เป็นศูนย์การค้า จากนั้นทะลุศูนย์การค้าออกมา
จะเจอกับตึกนี้...

"The ArtScience Museum"  
หรือ พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์แห่งแรกของโลก บนพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย 21 แกลอรี่
ภายในอาคาร "รูปกลีบบัว" ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนถึงจิตวิญญาณโลกตะวันออกกับตะวันตก
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จัดแสดงงานที่ครอบคลุมตั้งแต่ ศิลปะและวิทยาศาสตร์, สื่อและเทคโนโลยี รวมไปถึงการออกแบบและสถาปัตยกรรมด้วย

อาคาร" รูปกลีบบัว"  แต่เพื่อนเรามันเรียกว่า "อาคารส้มโอมือ" อ่ะ  555+  ขำๆนะคะ อย่าคิดมาก ^^

มุมนี้ จะเจอได้เมื่อเดินผ่าน "อาคารส้มโอมือ"  ค่ะ ^^
ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร แต่ดูเก๋ดี ชอบๆ

จากนั้น เราก็เดินมาถึง "Helix Bridge" ลักษณะสะพานนี้เค้าว่าได้แรงบันดาลใจจาก DNA ที่พันกันยุ่บยับไปหมดแบบนี้

เมื่อเดินข้ามสะพาน Helix จะได้มุมนี้....

สนามกีฬาลอยน้ำยามโพล้เพล้...

และที่เห็นลิบๆถัดไปทรงคล้ายทุเรียน หรือไมโครโฟน ก็แล้วแต่คนมอง
"เอสพลานาด" คือจุดหมายของเราค่ะ

มองไปอีกด้าน.... ก็ยังไม่วายที่จะขอลั่นชัตเตอร์กับตึกทรงเก๋ๆ ตึกนี้

ช่างมีเสน่ห์จริงๆ >___<,,

สิ้นสุดสะพาน Helix เราเห็นแววตัวเองและเดอะแก๊งค์แล้วว่า... คงเดินต่อไปไม่ไหวแน่ๆ โชคดีที่มีป้ายรถเมลล์อยู่แถวนั้น ขึ้นสายอะไรก็ได้ เพราะแค่ป้ายเดียว (ป้ายเดียวก็เอาอ่ะ ณ จุดนั้น ไม่มีไรจะเสียแล้ว 555+)

เมื่อมาถึง Esplanade เราก็เดินทะลุออกไปยังด้านหลัง ริมน้ำ เพื่อไปที่ร้าน No Sign Board Seafood ค่ะ

เราได้โทรมาจองไว้ก่อนแล้ว เพราะคิดว่าคนท่าจะแน่น และจริงดังคาด โชคดีที่โทรมาจอง เลยไม่ต้องรอนาน ^^

เราไปกันทั้งหมด 5 คนเลือกไม่ถูกว่าจะสั่งอะไรดี เลยสั่งมาเป็นเซตเมนูแทนดีกว่า เลยเลือกเซตนี้ค่ะ

Set Menu สำหรับ 4 คน = 259 SGD

- No Signboard Platter
- Braised Shark's Fin with Conpoy&Fresh Scallop
- White Pepper Crab/ Chilli Crab
- Crispy Cereal Prawn
- Braised Yee-Fu Noodle
- Dessert of the Day

และเรายังได้สั่ง ซุปหูฉลามเพิ่มอีก 1 ที่ และหมั่นโถอีก 5 ลูก พร้อมกับน้ำชาอีก 5 แก้วด้วยค่ะ

จานนี้มาเสิร์ฟก่อนเลย "ถั่ว" ไว้สุยเล่นๆเป็นออร์เดิฟ  จานนี้ "ไม่ฟรี" นะคะ ไม่มีในเมนู

นั่งรอกันซักพักใหญ่ๆๆๆๆๆๆๆ
จานแรกถึงจะมาค่ะ  "No Signboard Platter" ตามรูปเลย
เป็นคล้ายๆออเดิฟตามโต๊ะจีนบ้านเรา แต่รสชาติดีทุกอย่างเลยค่ะ
อร่อยๆๆๆ ^^

ต่อกันเลยที่ถ้วยนี้....

"Braised Shark's Fin with Conpoy&Fresh Scallop"
ก็อร่อยดีค่ะ แต่เยอะมากอ่ะ ทานเกือบไม่หมด >_<

จานถัดมาคือ....

"Crispy Cereal Prawn"  

อารมณ์คล้ายๆกรรเชียงกุ้งบ้านเรา ที่ทอดกรอบจนทานได้ทั้งตัว
อร่อยดีค่ะ กินได้กรุบๆ ^^

ต่อกันเลยที่จานนี้....

"Braised Yee-Fu Noodle"
เราไม่ค่อยปลื้มกับอะไรที่เป็นเส้นๆ จานนี้ขอผ่านค่ะ
โนคอมเม้นท์

ในที่สุด!!! ไฮไลท์ของทริปนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ววววว >___<

"Chilli Crab"  นั่นเองงงงงง \(>.< )

ปูยักษ์จากศรีลังกาผัดซอสพริก!!!!!
ดูความอลังการได้ที่ก้ามเลยค่ะ!!
รสชาติไม่ต้องพูดถึง "อร่อยอ่ะ" >___<!!

ที่เห็นในจานน่าจะมีปูยักษ์ประมาณ 3-4 ตัวได้!! โอ้วแม่เจ้า!!!

ให้ดูกันชัดๆว่า "มัน ใหญ่ มากกกกกกกกกกกกก"  (>_______<,,)!!

จะสุยปูยักษ์ ต้องอย่าลืมสั่งหมั่นโถว  เอาไว้จิ้มกับน้ำซอส เข้ากั๊น~เข้ากัน ^^

ได้เวลาสุยปูยักษ์!!!!

ขอบอกว่า ณ เวลานั้น เริ่มอิ่มแล้วอ่ะ (-___-")
แล้วปูยักษ์ตรงหน้าเราจะทำการ "สุย" หมดหรือไม่?!?!?
มันเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจเรา ณ เวลานั้นเป็นอย่างมากค่ะ (>__<")



แต่ในที่สุด!!! เราก็สุยมันไม่หมดค่ะ  ขอยอมแพ้!! (+__+")

มันทั้งเยอะ ทั้งใหญ่ จุกแน่นท้องไปหมดเลย ไม่ไหวๆๆ (T__T )

ขอแนะนำเลยนะคะ ใครจะไปสุย ให้สั่งมาเป็นอย่างๆก็พอ
เมนูปูยักษ์นี่ก็สั่งมาแค่ตัว หรือสองตัวก็พอ เพราะมันใหญ่จริงๆ
อาหารอย่างอื่นๆก็มาจานใหญ่ๆทั้งนั้นนนนนนน....

อย่าริอาจหาญสั่งมาเป็นเซตเลยค่ะ ขนาดสายแข็งอย่างพวกเรายังต้องขอยอมแพ้ !!!  ด้วยความหวังดีจากหมียักษ์ค่ะ \(>.< )

หลังจากสุยปูเสร็จแล้ว ทำการเช็คบิล...

ขอบอกว่า จะสุยปูยักษ์ ต้องคิดให้ดี คิดให้หนักเข้าไว้....
เพราะมื้อนี้สุย 5 คน รวมราคา 350 SGD!!! ค่ะ
ตกคนละ 70 SGD กันเลยทีเดียว!!!

ปล. คูณเงินสิงโปเองเด้อ ไม่กล้าคูณ (- -")

หลังจากสุยปูเสร็จ ออกจากร้านก็เจอกับโชว์แสงสี จาก Marina Bay Sands
เท่าที่รู้มา เหมือนจะมีแค่ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่วันที่เราไปมันวันพฤหัส
แต่เหตุใดจึงมีโชว์ก็ไม่รู้ มิอาจทราบได้ (- - )?  

ใครรู้ว่ามีโชว์ที่แน่นอนวันไหนบ้างก็เม้นท์บอกกันด้วยนะคะ

**************************************************
ขอบคุณคุณ UMNgirl ค่ะสำหรับข้อมูลเวลาโชว์แสงสีของมารินา เบย์ แซนด์  ขออนุญาตลงข้อมูลให้เพื่อนๆไว้เป็นข้อมูลนะคะ ^^

Marina Bay Sands will run the show on a nightly basis, with 2-3 performances from

  * Sunday to Thursday (8pm and 9:30pm)
  * Fridays and Saturdays (8pm, 9:30pm and 11pm)

ตามสาวๆ ไปเทียวสิงคโปร์ด้วยคนนะคะ

ข้าวผัดซีฟู้ด กับ ก้ามปู ดูน่าทานมาก ๆ ค่ะ

ปิดท้ายรีวิวด้วยรูปนี้ค่ะ ^_^
โชว์แสงเสียงนี้ ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว เราชอบนะ เพลินดี ^^
ถ้าได้ไปนั่งดูกะแฟน  คงจะหวีททททท กันน่าดู  อิอิ

หลังจากโชว์จบ ยังไม่ดึกมาก ขอไปช้อปต่อที่มุสตาฟาค่ะ ได้น้ำหอมมาด้วย ถือว่าถูกมาก ถ้าเทียบกับที่ไทยนะคะ
แต่เราว่ามันก็เป็นบางรุ่นบ้างยี่ห้อ ข้อสำคัญต้องสืบราคาจากไทยมาก่อน จะได้ตัดสินใจได้ถูกค่ะ ^^

โปรแกรม 2 วันแรกของเราหมดลงแล้ว
ยังเหลืออีก 2 วันกับ "ทริปสาวๆ สุยๆ ตะลุยช้อปปิ้ง @Singapore ภาค2" ค่ะ

ไม่ว่าจะเป็น .....

- ทานอาหารเช้าที่ร้านต้นตำรับ Yakun Kaya Toast สาขา Fareast Square
- ไหว้พระ ทำบุญ ขอพร ที่วัดพระเขี้ยวแก้ว ไชน่าทาวน์
- ช้อปปิ้งเก็บตกที่ IKEA และ Charles&Keith Outlet ที่ Anchor Point
- ชมวิวบนยอดหัวสิงโตตัวพ่อ Merlion Tower
- โชว์ตระการตากับ Song of the Sea
- ชมวิวสิงคโปร์มุมสูงกับ Singapore Flyer
- และพาสุยตามมื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวมันไก่เทียนเทียน โดนัท J.Co ข้าวหน้าเนื้อ Yoshinoya ^^

อย่าลืมติดตามภาค 2 กันนะคะ ^^

ขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และกิ๊ฟท์  ....."น่ารักอ้ะ" ...... อิอิ
และถ้าเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้พอจะมีประโยชน์ให้ลูกให้หลานตามรอยบ้าง ฝากเพื่อนๆ "เก็บเข้าคลังกระทู้" ด้วยนะคะ \(>0<)

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า  ขอบคุณค่า (^_____^)

รอชมภาค 2 ต่อจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาา

แก๊งค์สาวๆน่ารักกกก  
รีวิวรูปสวยมากค่ะ  กิฟท์หมดลิลลี่ให้ แทนคำขอบคุณนะคะ

ข้อมูลละเอียดมาก ๆ เลยค่ะ  เก็บเข้าคลังเรียบร้อยแว้ววววว

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

ตามสาวๆมาเที่ยวด้วยคนจร้า ... อยากไปบ้าง ><

ตามมาเก็บข้อมูลไว้ก่อน อยากไปเที่ยวสิงคโปร์เหมือนกัน ขอบคุณสำหรับรีวิวและภาพสวยๆ นะครับ

รอชมต่อภาค2ค่ะ ชอบๆๆ

ตอนไปวันจันทร์ ไม่มีโชว์ที่ Marina Bay Sands เลยอ่ะ เสียดายจัง

ข้อมูลละเอียดมากเลย  ^^

ตามสาวๆๆ มา ชม มา ชิม มาช็อป ของโปรดดดดดดด

รีวิวได้ยอดเยี่ยมมากๆ ค่ะ
ถูกใจขาช๊อปอย่างเรามากมาย

มีประโยชน์มากเลย รูปสวย รายละเอียดเยอะมาก ของกินน่าทานทั้งนั้นเลย  เก็บใส่คลังเรียบร้อยแล้วค่ะ  

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ร้านที่จขกท.ไปนั่งที่ Clarke Quay ชื่อร้าน Marrakesh ค่ะ  เราก็ไปนั่งร้านนี้เหมือนกันค่ะ

Clarke Quay ยามค่ำคืนสวยมากเลยครับ ชอบตรงลานน้ำพุมากครับ
วิวเมืองจากยอดตึก ยอดตึก Marina Bay Sand นี่สวยมากครับ
สะพาน Helix Bridge ออกแบบได้เก๋มากครับสวยแปลกตาจัง

ขอบคุณสำหรับรีวิวสิงคโปร์ครับ

มาเก็บข้อมูลไว้ก่อนครับ ขอบคุณรีวิวครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิว รอชมภาค 2 ต่อนะคะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  สิงคโปร์บางอย่างก็ถูกกว่าบ้านเรา
อย่างไม่น่าเชื่อ

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ รีวิวการเดินทางได้ละเอียดดีจริงๆ

อาหารก็น่าหม่ำทั้งนั้นเลย

คงเป็นทริปที่มันส์ อิ่มอร่อย และสนุกมากแน่ๆเลย

ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ

ดูกระทุ้นี้แล้วต่อมเดินทางทำงานอย่างแรงค่ะ

กำลังจะไปสิงคโปร์ศุกร์นี้ พักที่เดียวกันเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ นะึคะ ^^

Thank you for good review

ชอบจังพาออกจากสนามบินได้ละเอียดดี

ถั่วที่ร้าน No Signboard น่าจะ 4SGD นะครับ ไม่ฟรีนะครับ 555 ผมก็โดนร้านนี้มาเหมือนกัน

ใช้กล้องอะไรถ่ายครับ สวยดี

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ตามมาช้อปปิ้งด้วยคนครับ ^_^

ทิ้งท้ายด้วย chili crab ชวนหิวมากเลยล่ะครับ

แวะมาชมครับ ขอตามไปเที่ยวด้วยคนครับ สาวๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ระเอียดมากๆ เป็นตัวอย่างแก่คนอื่นๆได้เลย

ยกเว้นการกิน ล้อเล่นนะคร๊าบ อิอิ

กำลังจะเดินทางไปสัปดาห์หน้าพอดี  ขอบคุณครับ

เที่ยวกันเก่งมากเลยค่ะ  ทั้งเที่ยว กิน ช๊อป ครบเครื่องเลย  เยี่ยม ๆๆ  

ลุงไปมาหลายรอบแล้ว แต่ยังไม่เคยเสียตังค์ช็อปรัยเลยอิอิ

รีวิวรูปสวยมากค่ะ โชว์ไฟที่ Marina Bay Sands มีทุกวันนะคะ ตามเวลาข้างล่างนี้ค่ะ

Marina Bay Sands will run the show on a nightly basis, with 2-3 performances from

   * Sunday to Thursday (8pm and 9:30pm)
   * Fridays and Saturdays (8pm, 9:30pm and 11pm).

พรุ่งนี้เช้าก็เดินทางแล้ว เราปริ๊นซ์รูปที่สนามบินไว้แล้ว เผื่อเปลี่ยนใจนัดเจอน้องที่สนามบิน กลัวเรียกแทกซี่ไม่เป็น 55

จะนัดเจอที่ร้าน Berger King ตามที่บอก

ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ

รีวิวละเอียดแล้วก็เป็นประโยชน์กับมือใหม่อย่างเรามากเลยค่า
จะไปเดือนหน้านี้แล้ว วางโปรแกรมคร่าวๆ แต่เรื่องเดินทางยังไม่แม่นเลย
ไปพักที่เดียวกันด้วย ยังไงจะรอรีวิวภาคสองนะคะ ^^

รีวิวละเอียด (โดยเฉพาะการเดินทางจากสนามบินมีประโยชน์มากๆๆ)

ถ่ายรูปสวย

ขอบคุณครับ

สวยและละเอียดมากเลยค่ะ คุ้มค่าจริงๆ

ใช้กล้องอะไรถ่ายเหรอคะ ถ่ายรูปสวยจัง...

แล้วใช้โปรแกรมอะไรทำกรอบภาพเหรอคะ ชอบมากเลย Photoscape รึเปล่าคะ? แต่ชอบรูปนี้ไม่รู้ว่าทำมาจากโปรแกรมอะไร
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10805450/E10805450-59.jpg

รอติดตามรีวิวที่สองด้วยคนค่ะ

กำลังจะไปอาทิตย์หน้าแล้วตื่นเต้น มาดูรีวิว หมียักษ์ อยากเที่ยว  แล้วถือว่าละเอียดมาก

น่าสนุก มีไอเดียๆดีๆเพียบเลยค่ะ

ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์มากๆเลยนะคะ เป็นกำลังใจในการทำรีวิวภาคสองได้มากมายเลย ตอนนี้กำลังเลือกรูป+ทำรูปอยู่เลยค่ะ คาดว่าอีกวัน-สองวันคงได้ชมกัน >___<,,

ตอนนี้ gift หมด ต้องขอโทษเพื่อนๆบางคนด้วยนะคะที่แวะมาเยี่ยมกระทู้แต่ไม่สามารถให้ gift ได้ แต่ทุกๆคอมเม้นท์ได้ "ใจ" เราไปเต็มๆเลยค่ะ v(^^,,)

@ตกน้ำป๋อมแป๋ม  ขอบคุณสำหรับชื่อร้านนะคะ จะได้เมมไว้บอกเพื่อนๆเผื่อไปคราวหน้า  อิอิ

@กินข้าวนอกบ้าน  อ่าวไม่ฟรีเหรอคะ 5555+ สงสัยเราช้อคกับบิลจนไม่ได้ดูรายการอาหารให้ละเอียดอ่ะค่ะ 555+

@chinyonna เรื่องกินเราสู้ไม่ถอยจิงๆค่ะ  ถึงเรียกการกินว่า "สุย" ไงคะ   อิอิ

@Brabus k3 (gift W210)  ขอบคุณค่ะ ^^ เราใช้ Canon D550เลนส์คิท ฝีมือกะโหลกกะลามากๆ  แต่จะพยายามพัฒนาให้มากกว่านี้ค่ะ >__<!

@UMNgirl  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ สำหรับข้อมูล  เด๋วขออนุญาตก๊อปปี้ไปแปะในคห.ที่ 89 ด้วยนะคะ >_<

@MimiConcerto ขอบคุณมากเลยนะคะ ใช่แล้วค่ะเราใช้ Photoscape ลองโหลดมาใช้ดูนะคะ ใช้งานง่ายมากเลย ^^

เห็นแล้วเสียดาย ไปครั้งนั้น
Mem เสียตอนกลับ ...

อยากกลับไปอีกรอบ ..

แวะมาสุยต่อจ้าาาา คืนนั้นรอไม่ไหว เลยหนีไปนอนก่อน เพิ่งไปมาเมื่อต้นปี โปรแกรมหลายๆอย่างคล้ายกันจนน่าใจหาย เช่นนอนที่ Sapphire เหมือนกัน ไป Marina เหมือนกัน, สุยปูยักษ์+หมั่นโถ และ Cereal Prawn เหมือนกันอีก 555+



รอชมตอนหน้าต่อครับ ดูรีวิวคุณกิฟแล้ว ชักคันไม้คันมืออยากเอาสิงคโปร์มารีวิวบ้างซะละ

@NakToad   อย่างงี้ต้องกลับไปซ่อมนะคะ  ไม่เป็นไรค่ะ สิงคโปร์ใกล้แค่นี้บินไปง่ายนิดเดียว ^^

@คุณกาแฟ  ชักอยากเห็นรีวิวคุณกาแฟขึ้นมาตะหงิดแล้วสิ  หุหุ  รีวิวเลยค่ะ จะรอดูว่าจะเหมือนกันขนาดไหน โฮะๆๆ  \(^^ )

*************************************************************************


Review: "ทริปสาวๆ สุยๆ ตะลุยช้อปปิ้ง @Singapore Sale 2011" ตอนจบ  มาแล้วนะคะ  กดไปตามลิ้งค์ที่ให้ไ้้ว้ได้เลยค่า
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10859636/E10859636.html

ข้อมูลดีมากครับ