หายหน้าไปหลายวัน .. แหะๆ 

วันนี้วันที่ 4 แล้ว ตามสัญญาจะพาไปเที่ยวเมืองโรแมนติกลอยน้ำ .. Venice นั่นเองค่า สารภาพตามตรงว่าแรกเริ่มเลยที่วางแผนปักหมุดว่าจะไปเมืองไหนบ้าง

Venice .. ไม่ได้อยู่ใน Shorted List เลย

เวลาผ่านไป .. มีแต่คนทักว่าทำไมไม่ไป Venice ด้วย สวยนะ โรแมนติกนะ เรากับสามีก็ยังฟังไปผ่านๆ .. จนไปๆมาๆมีปรับแผนเที่ยว

ก็เลยยกเลิก Verona แล้วมาเที่ยว Venice แทน ^__^

ก็เลยเริ่มหาว่ามีที่เที่ยวที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ .. ทริปนี้เนื่องจากเราไปกันแค่ 2 คน ดังนั้นคุยกันแล้วว่า ใช้วิธี List ที่ท่องเที่ยวขึ้นมาทั้งหมดก่อน แล้วเลือกที่น่าสนใจ และ "เหมาะกับจริตในการท่องเที่ยวของเรา"

เพราะบางอย่างเป็นที่ท่องเที่ยวก็จริง .. แต่ไม่ถูกกับจริตการท่องเที่ยวของเรา เราก็ไม่รู้จะไปทำอะไร ไปแล้วไม่อิน ไม่เพลิน สู้ไปที่อื่นที่เลิฟๆดีกว่าใช่ปะล่ะ ^_^

ทีนี้เวลาเที่ยวจริง .. เที่ยวได้แค่ไหนก็แค่นั้น ทุกอย่าง Flexible ได้หมด ทำได้แบบนี้แล้วจะได้เที่ยวสนุก ไม่ต้องไปตามแพลนเป๊ะๆ

เพราะเอาเข้าจริงๆ .. ถ้าไม่ได้เป็นไปตามแพลน จะอารมณ์เสียเปล่าๆ ^^

Day4: Italy - Campanile - Palazzo Ducale - Piazza San Marco - Basilica of San Marco

โปรแกรมวันนี้ก็มีประมาณนี้เองค่ะ ชิวๆ .. แต่เอาจริงๆ เดินเยอะน่าดู
แต่ก็นั่นแหละค่ะ เพลินๆดี ผู้คนมากมาย

แต่บางซอกซอย .. ก็แทบไม่มีคนเลย น่ากลัวใช้ได้ 555

วันนี้รูปเยอะกว่าวันก่อนๆ .. จะพยายามใส่ข้อมูล รายละเอียดให้เท่าที่จะระลึกได้นะคะ ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ก็ช่วยกันเก็บเข้าคลังกระทู้ด้วยนะค๊า ขอบคุณค่ะ :)

ย้อนไปวันเก่าๆ .. ติดตามได้จ้า 

Day1: [West Europe in April] Italy - Rome ตกเครื่องบิน วิ่งขึ้นรถไฟ เดินเดินและเดิน

Day2: [West Europe in April] 2 Italy - Vatican - Florence เข้าวาติกันแบบหวิดๆ ปิดท้ายด้วยพระอาทิตย์ตกดินที่ฟลอเรนซ์

Day3: [West Europe in April] 3 Italy - Pisa ไปเอนๆเอียงๆ สูดอากาศดีๆที่ปิซ่า แต่เกือบจะไม่มีตั๋วรถไฟกลับฟลอเรนซ์

เช้าวันนี้พวกเราตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม เพราะเราจองตั๋วรถไฟไว้แล้วน่ะสิ

Booking Ticket

เหมือนเดิมนะคะ เราจองและจ่ายเงินผ่านเวบ Trenitalia แล้วก็ปริ้นตั๋วออกมาไว้ให้เรียบร้อย และใช้ตั๋วนี้กระโดดขึ้นรถไฟได้เลยค่ะ

จะเห็นว่าในตั๋วระบุ Carriage และ Seat ไว้เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลเหล่านี้ต้องดูไว้ด้วยนะคะ เพราะมีประโยชน์มากเวลาขึ้นรถไฟค่ะ

Platform & Sector & Carriage & Seat

Platform ที่นี่ส่วนใหญ่จะยาวมากกกก ครั้นจะเดินดุ่มๆไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีเป้าหมาย บางทีมันไม่ทันค่ะ เพราะมันตรงเวลา มาจอดรับปุีป ถึงเวลามันก็ไป ถ้าเรามัวแต่งกๆเงิ่นๆ ก็อาจจะตกรถไฟได้ง่ายๆค่ะ

บางชานชาลา บางขบวนมีบอกไว้เลยว่า Carriage ไหนจอดตรง Sector ไหน อะไรยังไง จะได้พุ่งไปได้ถูก ไม่ขึ้นไปผิดตู้ค่ะ

(คือเราเป็นประเภทต้องวิ่งขึ้นรถไฟตลอด ฮ่าๆๆ ก็เลยต้องเล็งๆไว้บ้างของแบบนี้ เดี๋ยวตกรถไฟเอา แหะๆ)

Barcode

บาร์โค้ดที่เห็นบนตั๋ว เมื่อรถไฟเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา จะมีนายตรวจตั๋วขึ้นมาตรวจ ตั๋วประเภทนี้นายตรวจจะเอาเครื่องยิงบาร์โค้ดมายิง  หรือไม่ก็จะกดรหัส PNR ที่ปรากฎบนตั๋วลงไปที่เครื่องของเค้า แค่นี้ก็เรียบร้อยค่ะ

ปล. นั่งให้ตรงที่นั่งที่เราจองมานะคะ อย่าติดนิสัยคนไทย นั่งตรงไหนก็ได้มั่วๆมึนๆไป เพราะถ้ามีคนที่เค้าจองมาแล้ว แล้วเราไปนั่งทับที่เค้า เราก็ต้องลุกอยู่ดีนะคะ อายเค้าค่ะ ไม่ดีๆ :D

สถานีรถไฟที่ Venice มีทั้งส่วนที่อยู่บนแผ่นดิน และส่วนที่อยู่ในทะเล (จะพูดยังไงดีนะ 555 เข้าใจที่เราพูดใช่ปะ)

เนื่องจากที่พัก และที่เที่ยวส่วนใหญ่ที่คนนิยมไปกัน อยู่ในส่วนที่อยู่ในทะเล ดังนั้นสถานีรถไฟที่เราจะจอง ก็ต้องจองให้ถูกด้วยนะคะ

สถานีรถไฟที่อยู่บนฝั่งพื้นแผ่นดิน คือ Mestre
ส่วนสถานีรถไฟที่อยู่บนฝั่งที่อยู่ในทะเล คือ Santa Lucia ค่ะ 

สัมภารก .. กระเป๋าเดินทางคนละ 1 ใบ เป้คนละ 1 ใบ

ตอนแรกฟิตมาก .. ว่าจะแบกเป้ Backpack แต่พอเอาของออกมากองๆ เตรียมจะจัดกระเป๋า

เอ่อ .. เราเปลี่ยนใจกันดีมั้ยคะ ลากกระเป๋าไปกันเถอะ 555

เราแนะนำว่า .. ให้ใช้กระเป๋าเดินทาง 4 ล้อลาก นะคะ มันช่วยผ่อนแรงคุณได้มากกว่า 2 ล้อลาก ประมาณ 108 เท่า

ขนาดสามีเราตัวโตๆ บึกๆ ให้ลากกระเป๋าหนักเป็นสิบกว่าโลทุกวันเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็แอบมีเมื่อย มีเหนื่อยเหมือนกันค่ะ

โดยเฉพาะเวลาลากขึ้นบันไดที่โรงแรม .. ที่ไม่มีลิฟท์ (ส่วนใหญ่ที่เราจองไม่มี) สุดยอดเลยค่ะ - -"

ขาไปอ่อนแอ .. ขากลับมาแข็งแรงเลย ยกไรก็ยกไหวหมด 555

ตัวอย่างบันไดที่บอก .. ชันมั้ยละคะ เนี่ยแหละ ต้องลากกระเป๋าขึ้น และลง ฮ่าๆๆ ไม่แข็งแรงได้ไงเนะ

เมื่อถึงสถานีรถไฟ .. สิ่งแรกที่ทำคือ ดู Timetable ที่หน้าจอว่าขบวนที่เราจะไป มันจะจอด Platform (จะเห็นคำว่า "Binari") ไหน

แต่บางทีถ้าไปเร็วเกินก็จะยังไม่ขึ้นมาให้ดูนะคะ ก็ต้องคอยเล็งไว้เรื่อยๆ

อีกอย่างนึงที่จะพอเป็นตัวช่วยได้คือ ประเภทของรถไฟ และรหัสรถไฟ
ยกตัวอย่าง เราจะไป Venezia รอบ 8.30 น.

ในตั๋วที่ปริ้นมาระบุไว้ว่าเป็น AV 9400

จากรูปนี้ก็จะเห็นว่ามี AV 9400 ออกตอน 8.30 น. จาก Florence - Venezia S. Lucia จะจอดที่ Platform 9 ค่ะ

ที่สถานีรถไฟ มีป้ายไฟมากมายกระจายกันอยู่ให้ดูได้ค่ะ ทั้ง Arrival & Departure

สถานีรถไฟ .. ยามเช้า

เราจะนั่งขบวนนี้ไป Venice กันค่ะ

พอรถไฟเข้าชานชาลา จอดเสร็จเรียบร้อย ผู้คนมากมายมาจากไหนกันบ้างไม่รู้ ก็เริ่มทยอยขึ้นรถไฟกัน

*** สังเกตุนะคะ ที่ข้างโบกี้รถไฟมีเลข 2 กำกับอยู่ หมายถึง 2nd Class

ส่วนป้ายแดงๆที่อยู่ด้านบน เป็นป้ายที่ระบุว่าตำแหน่งนี้เป็น Carriage ที่เท่าไหร่ จากในรูปเป็นเบอร์  4 ซึ่งก็จะตรงกับ Carriage 4 ที่ระบุในตั๋วของเราค่ะ :)

ที่บอกไว้ว่าข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์มาก เวลาที่เจอคนเยอะๆแบบนี้ เราจะได้รู้ตำแหน่งโบกี้ และที่นั่งที่เราจองไว้ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องขึ้นไปผิดโบกี้ ไม่ต้องมาลากกระเป๋าทุลักทุเลบนรถไฟด้วยค่ะ

ขึ้นรถไฟแล้ว ได้ที่นั่งแล้ว เตรียมตั๋วไว้ให้พร้อมด้วยนะคะ อีกแป๊บนายตรวจก็มาแล้วค่ะ

นายตรวจแต่งตัวดี เรียบร้อย  หน้าตาก็ดี หุ่นก็ดีเป็นส่วนใหญ่ซะด้วย  555

บนรถไฟมีที่ให้วางสัมภาระอยู่พอสมควร .. ส่วนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ส่วนใหญ่จะวางกันไว้ตรงปากทางขึ้นค่ะ ตรงนั้นจะมีที่วางค่อนข้างกว้างขวางพอสมควร

ตรงนี้ต้องดูนิดนึง หากคุณมีกระเป๋าใบใหญ่ กรุณารีบขึ้นรถไฟเร็วหน่อย  เพราะไม่งั้นจะไม่มีที่วางกระเป๋าเอานะคะ เพราะนักท่องเที่ยวเยอะ ต่างคนต่างมีสัมภาระมากมาย ดูทำเลดีๆ ถ้านั่งระยะทางไกลๆ ก็หมั่นเดินไปดูกระเป๋าบ้าง มิจฉาชีพเยอะค่ะ :)

ตั๋วตรวจไปแล้ว .. หมดหน้าที่เราแล้ว นอนหลับได้ละค่ะ
แต่เหมือนเดิมนะคะ ระวังกระเป๋า สัมภาระด้วย กอดได้กอดไว้ค่ะ อิอิ

เดี๋ยวออกไปกินข้าวบางแสนแป๊บนะคะ เย็นๆกลับมาเล่าต่อค่ะ วันนี้เงียบเชียบเชียว

สงสัยไปวัด ทำบุญกันหมดแน่เลย

ตามมาเวนิสด้วยค่ะ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ไปเที่ยวด้วยค่า .. แต่ขอย้อนกลับไปเที่ยวตอนก่อน ๆ แป๊บนะคะ ^^

มาเที่ยวด้วยคนค่ะ  รอเย็นๆกลับมาชมต่อนะคะ

ตามไปชมภาพสวยๆ ด้วยคนนะคะ

มารอติดตามส่วนที่เหลืออยู่ครับ

ตามมาเที่ยวด้วยคนะคะ
อยู่ในแพลนค่ะ แ่ต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลย

กลับมาต่อละค่ะ คุณ+G@To+, เล็กทาโร่, หนูกิตหอ 4 ชาย, Red-Rose-14Feb, toastlover, Destiny-Boy, Freedom of Life

หลับไปไม่กี่อึดใจ .. ตื่นมาก็เจอว่ารถไฟกำลังวิ่งข้ามน้ำข้ามทะเลแล้ว แสดงว่าใกล้ถึงละค่ะ (ดูรูปใน คห.2 เอาก็ได้)

ลงจากรถไฟปุ๊ป .. ก็หยิบ iPad ออกมาดูแผนที่กันเป็นการใหญ่  เพราะเวนิสตรอกซอกซอยเยอะ  วนไปเวียนมา

และแล้วเราสองคนก็หลง 555 ตามสไตล์ (ชินแล้ว เหอๆ)

ที่พักวันนี้เราจองไว้ที่ Caterina House เป็นของพี่คนไทย .. ขนาดเขียนมาละเอียดมากๆแล้วนะ ว่าเลี้ยวตรงไหน ข้ามสะพานไหน บลาๆ

แต่สุดท้ายก็หลงอีก เดินวนอยู่นาน ก็เจอค่ะ

แต่พี่เค้าบอกว่า .. เดี๋ยวให้ไปพักอีกที่นึง กว้างขวางกว่า แต่ขึ้นบันไดหลายชั้นหน่อย และยกห้องให้เราสองคนไปเลย 

.. ตอนนั้นประมาณบ่ายๆละ พี่เค้าก็เลยถามว่าเรากินไรกันมายัง แหะๆ เราก็รีบตอบเลยนะสิว่ายังค่ะ 55

พอดีเค้าตุ๋นหูหมูไว้ + น้ำจิ้มสุโค่ยมากๆ เราได้กลิ่นแล้วน้ำลายสอเลยตอนนั้น อิอิ

พี่เค้าชวนกินด้วยกัน .. โอ้ยยย คิดถึงเมืองไทยมากมาย น้ำจิ้มนี่สุดยอด ตอนอยู่ไทยเราไม่กินหูหมู ก็เพิ่งจะกินครั้งแรกก็ตอนไปเวนิสนี่แหละ :P

สภาพห้องพัก .. หลังจากลากกระเป๋าทุลักทุเลขึ้นมา 4 ชั้น O_O

.. เรานอนห้องนี้ กว้างขวางมาก จริงๆเหมือนเป็นบ้านของพี่เค้าเลยอะ มันไม่เหมือนที่พักที่ให้คนทั่วไปมาพัก

มีครัว มีห้องน้ำ เครื่องซักผ้า โต๊ะกินข้าวเสร็จสรรพ

อันนี้คืออีกห้องนึง ที่ตอนเราไปพัก ไม่มีคนมาพักค่ะ สรุปก็เลยกลายเป็นว่า เราครองห้องนี้คนเดียว อิอิ

 เก็บข้าวของเสร็จ .. ล้างหน้าล้างตาแล้วก็ออกไปเดินเล่นกัน

ห้องพักเราอยู่ตรอกนี้ล่ะค่ะ .. ตอนนั้นถ่ายรูปไว้กันเหนียว เผื่อขากลับแล้วกลับไม่ถูก 555

หน้าปากตรอก .. มีร้านขายผลไม้สดๆ น่ากิ๊น น่ากินล่ะค่ะ

ออกมาปุ๊ป ก็หาทางเดินไปที่ท่าเรือที่ใกล้ที่สุดค่ะ เราอยู่ที่เวนิสไม่ถึง 2 วันด้วยซ้ำ

อิอิ นับเหรียญใหญ่เลย จะเห็นว่าตู้นี้สามารถใช้บัตรเครดิตซื้อได้นะคะ แต่อย่างที่บอกไว้ในตอนก่อนๆ ต้องรู้รหัสผ่านด้วยค่ะ (ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันต้องใช้รหัสผ่านอันไหนกันแน่)

แต่ถ้าจะ Back to Basic ก็หยอดเหรียญโลดค่ะ .. ชัวร์ๆ รอไม่ถึงวินาที ตั๋วก็จะปริ้นออกมา สะดวกมากค่ะ

บ้านนอกมาเที่ยวยุโรปก็งี้ .. จะหยอดเหรียญซื้อตั๋วเรือ ก็ต้องถ่ายรูปด้วย

ดังนั้นอย่าแปลกใจหากเราเจอต่างชาติยืนถ่ายรูปกับตู้ขายบัตรบีทีเอส อิอิ

Vaporetto (Water Bus) ใน Venice

การเดินทางใน Venice นั้น ที่ใช้กันมากที่สุดคือ ทางเรือ (แต่ส่วนใหญ่เราใช้เดินเท้ากันค่ะ 555)

สำหรับทางเรือนั้น Route ที่ใช้กันบ่อยๆ จะมีอยู่ 2 Route (ไม่รวม Route ตอนกลางคืน) คือ Route Bus No1: ตามภาพเลยค่ะ

Route Bus No 2: เป็น Route ที่จอดน้อยกว่าค่ะ และจะลงไปที่เกาะด้านล่างด้วย

อย่าลืม Validate ตั๋วก่อนขึ้นเรือนะคะ ตู้เหลืองๆนี่เลยค่ะ

เรือมาแล้วววว คนเอี้ยดเลย

ดูด้วยนะคะว่าเป็นสายที่เราจะไปหรือเปล่า อย่างรูปนี้เป็นสาย 1 ค่ะ (Actv1)

แต่เราจะไปสาย 2 เพราะจอดน้อยกว่า ปลายทางคือ San Marco ค่ะ

ซ้ำค่ะ

ชมบรรยากาศไปเรื่อยๆนะคะ .. เพลินๆ

ท่าเรือ .. ฝั่งตรงข้าม สีสันเหลืองสดใสแบบนี้ล่ะค่ะ

สะพาน Rialto เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ

เนื่องจากเป็นความชอบส่วนตัว .. เซ็ทรูปที่เวนิส จะปรับโทนสีออกโทนเหลืองๆ หม่นๆหน่อยนะคะ บรรยากาศมันได้ อิอิ

ตึกรามบ้านช่อง .. สีสันสดใส เวนิสของแท้ค่ะ

เพลินๆ .. ไปเรื่อยๆ

สะพานไม้ .. แต่เอ่อ ไม่น่ามีไอ้แท่งๆนี่อยู่ข้างหลังเลย

อีกรูป .. พยายามจะหลบไอ้แท่งนี่ แต่ก็ยังหลบไม่พ้น

นั่งมาซักพัก .. แล้ว ยังไม่ถึงซะทีน๊อ

ตามมาเที่ยวต่อแล้วค่ะ

Classic ..

อ๊าว  นึกว่าโพสอยู่คนเดียวซะอีก ตามมาเลยค่าคุณ Red-Rose-14Feb 

ท่าเรือ .. ที่เดินผ่าน

ร้านรวง .. ระหว่างทางก่อนจะถึง San Marco

จะเข้าโหมดทะมึนแล้วนะคะ .. ฮ่าๆ

สถานที่เที่ยวที่เกริ่นไว้ตอนแรก Campanile - Palazzo Ducale - Piazza San Marco - Basilica of San Marco อยู่ตรงนี้หมดเลยค่ะ

เดินวนๆอยู่แค่ตรงนี้ก็เพลินแล้วค่ะ .. กดไปเยอะมากๆ

อีกมุม ..

ตั้งขาตั้งกล้องละค่ะ ..  เสร็จแล้วก็ขี่หลังสามีซะเลย 555

ไปเรื่อยๆ

กรุ๊ปที่มากับทัวร์ .. บางทีเราก็แอบไปยืนฟัง แบบเนียนๆ

นกสีขาว .. บินไปบินมา สง่างาม แต่เราถ่ายมาได้แค่นี้แหละ

ท้องฟ้าขาวได้อีกค่ะ .. มุมนี้

หนุ่มน้อยคนนี้ .. ดันเอาขนมปังกรอบให้นกกิน

ผลคือ .. นกมารุมเต็มเลย น่ากลัวมาก แต่ตอนนั้นเราก็กดรัวเลย :P

อยากถ่ายรูปกับนกบ้าง .. แต่กล้าๆกลัวๆ

ปีกกระพือที .. บรื๋อออ จะเป็นไข้หวัดนกมั้ยเนี่ย

ยืนนานไปหน่อย .. และแล้วมันก็

มาเกาะหัวเรา .. สยองมาก กรี๊ดๆๆๆใหญ่เลย เล็บเท้ามันจิกหัวเราเบาๆ แต่ทำเอาเราขนลุกซู่เลยอะ

เทียบกับเด็กน้อยคนนี้ .. นิ่งมากจริงๆ ฮ่าๆๆ น้องเค้าไม่กลัวนกเลย แหะๆ

สองคนนี้ .. อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ว นกมาเต็ม นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาแถวนั้น ก็ฮือฮา วู้วๆกันใหญ่ นกเยอะ 

คือจะลุกไปก็ไม่ได้ .. คนยืนถ่ายรูปเค้าสองคนมากมายอะ

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ  รูปสวยมากๆ  

ขอบคุณค่า ตามมาเลยค่ะคุณ สาวหน้าใส

ละเอียดอ่อน ..

มุมมหาชน .. แต่ท้องฟ้าไม่เป็นใจเลย

ขออีกรูปนะคะ .. ชอบอะ

...

ตึกรามบ้านช่อง .. เรือกอนโดล่า .. สะพาน .. คลองเล็กคลองน้อย

เสน่ห์ของเวนิส .. จริงๆ

ร้านขายของชำ .. ยังสวย ดูดีเลย

 สามียืนดูแผนที่หน้าร้าน Trattoria Bruno ..

.. ร้านอาหารคนไทย แต่ขายอาหารอิตาเลียนค่ะ

เดินไปเดินมา .. มาเจอสะพาน Rialto แล้วค่ะ

คนขายภาพวาด หรือวาดสดๆตอนนั้น มีให้เห็นทั่วไปเลยค่ะ

รูปที่ขายก็มีหลายราคา .. แต่สวยๆทั้งนั้นเลยนะ

เพลินๆ .. ค่ะ

นกน้อย ..

ตรอก .. ซอก .. ซอย

เก่าแบบดูดี .. ดูคลาสสิก

นึกถึงหนังเรื่อง The Tourist ขึ้นมาทันที

ขนม .. ที่ดูหว๊านนน หวานจนไม่กล้ากิน

สาวน้อย .. มานั่งกินอะไรตรงนี้คนเดียวเนี่ย

สวยทุกมุม .. ถ่ายไปเรื่อยๆ เพลินๆ

Chocolate !!!

กำแพงสีส้มอิฐ .. เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่จริงๆ

หน้ากาก .. ที่แพงแสนแพง เราได้แต่ดู

Rialto .. ขากลับอีกที

วันนี้ลาไปด้วยรูปนี้แล้วกันค่ะ .. เดินทั้งวัน ขาจะหลุดอยู่แล้ว 555

ตลาด .. ยามเย็นก่อนเข้าที่พัก

ติดตามตอนต่อไปนะคะ Day5 แล้ว .. ไปนั่งรถไฟข้ามประเทศกัน เป็นวันที่แทบจะอยู่บนรถไฟเกือบครึ่งค่อนวันเลยล่ะค่ะ

เพราะเราจะยิงยาวจาก Venice  ผ่านไป Milan - Domodossola แล้วเข้าสวิสที่เมือง Brig ค่ะ

รูปสวยมากเลยค่ะ  รอดูต่อพรุ่งนี้นะคะ

มาเที่ยวชมเวนิสในมุมมองของคุณพ่อเจ้าประคุณรุนช่องด้วยครับ

ชอบอ่ะละเอียดมากๆ รูปสวยถูกใจหลายรูป ชอบรูปนกเกาะหัวอ่ะ ถ่ายทันได้ไง ถูกจาย

ถ่ายภาพสวยมากกกเลยค่ะ คุณ พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง พักที่เดียวกับเราเลย ^^

เมืองนี้แสนมีเสน่ห์

ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ

เวนิสสวยงามมากเลยครับ ^_^

เนื่องจากพรุ่งนี้จะได้ลางานไปพักฟรีที่ X2 Rayong คาดว่าน่าจะมีเวลามารีวิวต่อ อย่าลืมมาขึ้นรถไฟกันให้ทันนะค๊า จะข้ามประเทศกันแล้ว

ขอบคุณคุณ Red-Rose-14Feb, ฟองสบู่, Mr. M, Blue Whale, SOYU_K, Us-Sama Iland, tataweb ที่ติดตามกันนะคะ  

รบกวนเน้น รายละเอียดการเดินทางให้ด้วยครับ ตามอ่านแล้วชอบ
จะลอกการบ้านไปเลย คุณครูคงจับไม่ได้นะ

สวยจริง อะไรจริง คนจนอย่างผมจะมีโอกาสอย่างนี้มั๊ยน้า......


ต้องขอขอบคุณรีวิวมากๆเลยนะครับ กระทู้ จขกท เยอะมาก ผมจะพยายามตามเก็บทุกอันเลย อันนี้กระทู้แรกครับที่เลือกกดเข้ามาอ่าน เพราะอยากไปมาก เวนิช น่ะ

คุณ Stevyboy26 ค๊าาา คือเราก็มิได้ร่ำรวย 555 ฝันมานานแล้วว่าอยากไปยุโรปให้ได้ ซักครั้งนึงในชีวิต

ก็ฝันไปเรื่อยๆ จนวันนึงก็ทำฝันให้เป็นจริงจนได้ ไปเที่ยวนี่ไม่ได้ว่าจะมีเงินถุงเงินถังหรอกนะคะ อย่าเข้าใจผิด ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่เลย อิอิ

ลองไปซักช่วงสั้นๆก่อนก็ได้ .. อาจจะเป็นไปได้มากขึ้น ^^

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ไปถึง Day8 แล้ว .. คุณอาจจะเปลี่ยนใจชอบสวิสก็ได้นะคะ

รูปสวยมากๆ เห็นแล้วอยากไปค่ะ ชอบเมืองที่มีเสน่ห์แบบนี้แหล่ะ

สวยค่ะ ถ่ายภาพมาสวยๆ ทั้งนั้น  ใจไม่ค่อยชอบอิตาลี่เท่าไหร่ เห็นทีจะเปลี่ยนก็คราวนี้หล่ะค่ะ