ติดตามกระทู้ก่อนหน้าได้ที่นี่ค่า

ส้มจี๊ด@Malasia Road trip ณ. ลังกาวี วันแรกจ้า

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10815909/E10815909.html

เช้าวันที่สองส้มจี๊ดตื่นเร็วเป็นพิเศษ นอนกระสับกระส่ายอยู่นาน จนต้องตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง สาเหตุก็เป็นเพราะว่า เตียงนอนนุ่มนิ่มเสียเหลือเกิน ต้องลุกมาหยิบ  massage oil ที่ซื้อมาเมื่อวานมาลองทาดูสักกะหน่อยว่าจะได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจเพียงไร แต่ก็นั่นแหละตื่นขึ้นมาแล้ว ตาเลยแข็งข่มตาลงนอนต่อไม่ไหว จึงลุกมาอาบน้ำแต่งตัวก่อนปลุกเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคนต่อไป  เวลาประมาณ 7.00 น. ลงมาทานอาหารมื้อเช้า อาหารที่ Bay View Hotel เป็นแบบบุฟเฟ่ห์ มีอาหารให้เลือกหลากหลาย แบ่งออกเป็นโต๊ะใหญ่ๆ ประมาณ 4 โต๊ะด้วยกัน ได้แก่ โต๊ะขนมปังและไข่ โต๊ะอาหารอินเตอร์ โต๊ะข้าวต้มและบะหมี่ลูกชิ้นปลา และที่ดูจะเก๋กว่าบ้านเมืองอื่นก็คือโต๊ะอาหารแขกคะ  อาหารแขกที่นี่มีหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น baked bean ข้าวหุงรวมกับเครื่องเทศกลิ่นฉุน ไส้กรอกไก่ มัสมั่นไก่กลิ่นก็ฉุนไม่แพ้กันคะ

ส่วนน้ำผลไม้ก็มีให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำพั๊นซ์สีส้มคล้ายที่โออิชิ และอีกหนึ่งอย่างเป็นน้ำสีเหลืองอ่อนรสชาติคล้ายกับ passion fruit คะ

ที่ไหนๆ ส้มจี๊ดก็เห็นเค้าห้ามนำทุเรียนเข้ามาทานในโรงแรมที่พัก แต่ก็เห็นจะเป็นที่นี่ที่แรกที่ห้ามนำมังคุดเข้ามาทานด้วยคะ ทำไมหนอสงกะสัยกลัวน้ำสีม่วงเปื้อนผ้ามั่งคะ

ส้มจี๊ดจำได้แม่นว่านัดทัวร์ไว้ตอนแปดโมงเช้าที่ไหนได้เก้าโมงเช้าคะรีบกันแทบตาย เฮ้อแสนเหนื่อย  ระหว่างนั้นเลยมาฆ่าเวลาในห้างติดแอร์แทน จำห้างที่ติดกับท่าเรือได้ใช่ป่าวนั่นเลยคะ มาดูบรรยากาศยามเช้าของที่นี่กันนะคะ  ภาพแรกนั่งทอดหุยรอเวลาอีกกว่าหนึ่งชั่วโมง ภายในห้างเช้าแบบนี้ไร้ผู้ไร้คนดีจังคะ มีเพียงเราสามคน โฮะ โฮะ

Starbucks@ เกาะลังกาวีค่า

แวะซื้อโดนัทขึ้นไปทานบนเรือคะ ซื้อที่ร้านนี้เลยคะ Big Apple donut&coffee ที่นี่มีให้เลือกหลากหลายรสชาติมาเลยคะ แถมทำกันสดๆ ให้เห็นเลยด้วยคะ

ซื้อรสแอปเปิ้ล กับ เชอรี่ไปอย่างละหนึ่งชิ้นคะ

เมื่อถึงเวลารวมพล พวกเราก็เดินกันมารอที่บริษัทรถเช่า ที่อยู่ด้านหลัง KFC จากนั้นจะมีคนนำทางพาพวกเราไปท่าเรือคะ

 เย้........ถึงท่าเรือแล้วคะ

ที่นี่เป็นท่าเรือเล็กคะ ทั้งเรือชาวประมง เรือยอร์ช และเรือนำเที่ยวลอยลำกันเต็มไปหมด เราไหนหนอเป็นเรือท่องเที่ยวของพวกเรา

พวกเรานั่งพักรอเวลากันที่ศาลาริมท่าเรือ ขอบอกว่ารอนานมาก รอจนเหลียวหลังเลยละคะ เก้าโมงเกือบครึ่งแล้ว อินี่ฉันก็ยังคงอยู่ริมทะเลอยู่นั่นเอง

รอจนเหงือกแห้ง ในที่สุดเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึงคะ

เพือความปลอดภัยในการเดินทาง สวมชูชีพก่อนออกเรือทุกครั้งคะ

 ส้มจี๊ดไปจับจองซะตรงหัวเรือ หันหลังมาทางท้ายเรือ ลมพัดทีหัวฟูเป็นสิงโตเลยค่า

กว่าเรือลำน้อยจะพาพวกเราออกเดินทางก็ปาเข้าไป 9.30 น. คะ ผู้ร่วมเดินทางไปกับพวกเรา (รวมเราด้วย) ก็ 9 ชีวิตคะ มีครอบครัวหนึ่งมากับลูกอีกสองคน เป็นลูกสาวทั้งสองคนเลยคะ ครอบครัวนี้เราคุยกันเล็กน้อย พวกเธอมาจาก KL คะ ส่วนอีกครอบครัวเป็นคู่สวีทหวาน ฉันชอบครอบครัวแรกมากกว่า เพราะพวกเค้าบอกว่า ส้มจี๊ดยังดูเด็กอยู่นึกว่า 13 ปีเอง โฮะ โฮะ ยังงี้รักกันตาย ชวนไปเที่ยวเมืองไทยด้วยดีไม๊เนี่ย   เรือพาเราล่องทะเลกันนานเกือบครึ่งชั่วโมง ทุกครั้งที่เรือตัดผ่านคลื่นลูกเตี้ยๆ เรือจะลอยกระแทกดังโครม เป็นที่น่ากลัวของส้มจี๊ดมากคะ จนต้องเอาเสื้อชูชีพที่ใส่อยู่ดึงสายให้กระชับรัดตัวให้แน่นมากยิ่งขึ้น แถมเอามือจับสาละมีซะแน่น แต่แหมสาละมีอิชั้นก็ว่ายน้ำบ่เป็น ตอนเวลานั้นก็ลืมคิดไปคะ

ตามลงเรือไปด้วยคนค่ะ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ที่แรกที่เรือพามาเทียบท่าคือ เกาะ Pulau Beras Basah หรือเกาะข้าวเปียกคะ เป็นเกาะที่ได้ชื่อว่ามีน้ำทะเลสวยใส ชายหาดขาว เหมาะแก่การทิ้งความวุ่นวายต่างๆ ไว้ที่เกาะลังกาวี แล้วมาเริงร่าว่ายน้ำ และอาบแดดให้เบิกบานใจคะ

พวกเรามีเวลาอยู่ที่นี่นานประมาณ 1 ชั่วโมงคะ ส้มจี๊ดชอบที่นี่เหมือนกันนะคะ ถึงแม้ว่าจะสวยไม่เท่าบางเกาะที่เมืองไทยก็ตาม เริ่มกันตั้งแต่ที่สะพานคอนกรีตที่พาเราเดินไปที่ตัวเกาะนั้นถ้าได้ลองชะโงกหน้าดูน้ำทะเลแล้วละก็ ต้องตื่นตาตื่นใจ เพราะท้องน้ำเต็มไปด้วยปลาทะเลเยอะแยะไปหมด โดยเฉพาะปลาตัวลาย ๆ อยู่กันเป็นกลุ่มเป็นก้อนน่ารักน่าชัง

เดินกันต่อตามแนวต้นสนริมฝั่งทะเลไปไม่นานคะก็ถึงแล้วหาดทรายขาวอยู่ตรงหน้าพวกเรานี่เอง

หาดทรายที่เกาะข้าวเปียกนี้ทั้งขาวสวยและนุ่มเท้าดีจัง

เห็นต้นมะพร้าวแล้วคิดถึงสัตว์อะไรเอ๋ย

จะเป็นใครอื่นเป็นไม่ได้ เจ้าลิงจ๋อ เจ้าของเกาะข้าวเปียกนี้นี่เอง เจ้าตัวนี้คงอยากทานน้ำจืดกับเค้ามั๊ง ส้มจี๊ดเห็นมันค่อยๆ ย่องมาด้านหลังสองสามีภรรยาชาวมาเลย์ด้วยละ แต่น่าเสียดายโดนจับได้ซะก่อนเลยอดเลยคะ

นอกจากปลาและเหล่าลิงจ๋อแล้ว ชายหาดขาวแห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีนเต็มหาด ที่แต่ละคนต่างเป็นหญิงมั่น หนุ่มมั่นกันทั้งนั้น เพราะไม่ว่าจะอ้วนพุงโย้หรือหุ่นสะโอดสะองค์ แต่ละคนพากันสวมชุดว่ายน้ำ two piece กันทั้งนั้น ส่วนคุณผู้ชายก็แบกพุงหลามวิ่งเล่น ว่ายน้ำและอาบแดดกันใหญ่

มาพูดถึงพวกคนจีนกันต่อดีกว่า เพราะส้มจี๊ดแสนจะอิจฉาความขาวของพวกเธอซะจริง เฮ้อ.....ไม่เห็นตัวดำเป็นเหนี่ยงเหมือนฉันสักคน ไม่น่าละถึงไม่กลัวแสงแดดแผดเผากันเลย ต่างกับพวกเราสาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แถมใบหน้ายังบ่งบอกความเป็นลูกครึ่งสาวใต้อีกตั่งหาก ที่แต่ละคนต่างพากันมานั่งพักผ่อนกันตามม้านั่งใต้ร่มมะพร้าวหลบแดดกันใหญ่ โดยเฉพาะสาละมีของส้มจี๊ดที่พอเจอความร้อนเป็นไม่ได้เหมือนปลาขาดน้ำ เหมือนต้นไม้ยามหน้าแล้งกันเลยทีเดียว แหมแต่ถ้าตอนรุ่งเช้าหรือยามเย็นย่ำนะคุณพี่ร่าเริงเกินเหตุ

ถึงเวลาครบหนึ่งชั่วโมงเรือมารับพวกเราไปเที่ยวที่อื่นกันต่อคะ

เรือขับพาพวกเรามายังเกาะ Pulau Singa Besar หรือเกาะสิงโตใหญ่คะ ที่มีชื่อนี้ก็ไม่มีใครทราบเหมือนกันว่านำมาไหน และถ้าพยายามสังเกตทั้งรูปร่างเกาะเอยหรือรูปร่างสัณฐานของก้อนหินก้อนไหนนะที่จะเหมือนสิงโตกับเค้าบ้างก็ไม่มีคะ  ตัวเกาะอยู่ห่างจากเมือง Kuah ประมาณ 17 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างเกาะข้าวเปียกและเกาะ Pulau Dayang Bunting  ธรณีวิทยาของเกาะจะเต็มไปด้วยก้อนหินที่มีอายุเก่าแก่กว่า 500 ล้านปี ดังนั้นพืชพรรณและสัตว์ที่อาศัยอยู่จึงมีความแตกต่างจากที่อื่นๆ  ที่นี่จึงเป็นที่ๆ ได้รับการอนุรักษ์คะ ไม่มีการสร้างโรงแรม ที่พัก แต่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวมากางเต้นได้  แล้วเรามาทำอะไรที่นี่ละคะ

ขอบคุณค๊ามาตามเก็บข้อมูลอิอิ จองตั๋วโปรหางแดงได้ราคาดีสมใจค่ะ ^^

ขอบคุณมากครับ ที่ลังกาวีบรรยากาศดีจังครับ

Superkada : ตอนจองตั๋วโปรหางแดงตอนนั้นตรงกับวันสงกรานต์พอดีคะ ราคาก็แพงขึ้นนิดหน่อยคะ

Destiny-Boy : ที่ลังกาวีบรรยากาศดีคะ แต่ขอให้ติดตามส้มจี๊ดต่อไปนะคะเพราะยิ่งเที่ยวบรรยากาศยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จี๊ด confirm

จากความคิดที่ 33 ส้มจี๊ดถามคำถามฝากเอาไว้ว่าแล้วจี๊ดมาทำอะไรกันที่เกาะสิงโตใหญ่นี้กันละ ปิ๊งป๊อง คำตอบก็คือ ส้มจี๊ดมาดูเค้าให้อาหารนกอินทรีคะ แต่ละตัวบินโฉบเฉี่ยว เหมือนราชาแห่งท้องฟ้าเลยละคะ และทุกครั้งที่เค้าโยนอาหารขึ้นฟ้า พวกมันก็ทะยานโฉบมาอย่างเท่มากๆ บางตัวก็โฉบเหยี่อจากบนฟากฟ้า บางตัวก็โฉบเหนือท้องน้ำก่อนที่เหยื่อจะตกดิ่งสู่ใต้ทะเล โอ้โหแต่ละตัวเท่มากๆ แต่ภาพถ่ายของส้มจี๊ดนี่ซิ เห็นแล้วเศร้า

อีกซักภาพคะ

จากจุดนี้สถานที่ๆ เราจะเดินทางไปต่อก็คือ ฟาร์มปลาคะ มันตั้งอยู่กลางทะเล เป็นฟาร์มปลาเล็กๆ   ที่อยู่นอกเหนือโปรแกรมนำเที่ยวคะ ใครมาที่นี่มีการเสียค่าอาหารเพิ่มเติมอีก 5 ริงกิตด้วยละ เฮ้อ มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการคะ

ที่นี่มีปลามากมายหลายชนิดคะ โยนอาหารปลาให้ที แย่งกันกิน ตีน้ำกระเด็นกระจายทั่วไปหมด

มีปลาน่าสนใจหลายตัว โดยเฉพาะตัวที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คงไม่เกินเจ้า tiger shark ตัวสีขาวเผือกที่เจ้าตัวยินยอมให้นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราจับหาง เก็กท่าถ่ายรูปกันอย่างหนุกหนาน

ปลาอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจมาก แต่น่าเสียดายที่ส้มจี๊ดไม่ทราบว่าเป็นปลาพันธุ์ใด แต่มันทั้งดุและน่ากลัวม๊าก อาหารที่มันกินก็คือ เหล่าปลาสดต่าง ๆ คะ โดยก่อนโยนมันจะว่ายวนไปวนมาเป็นวงกลม และพอโยนเหยื่อลงไปในน้ำมันก็กระโดดตะคลุบเหยื่อรวดเร็วจนถ่ายภาพกันไม่ทันเลยละคะ  สุดท้ายที่นี่มีปลาทะเลหน้าตาคล้ายกับปลาเสือพ่นน้ำบ้านเราเด๊ะ เพราะตัวจะแบนๆ และก็มีลายจุดเหมียนกัน  พี่คนขับเรือจะเอาเศษจนมปังไปวางไว้บนหน้าตาข่าย รอสักพักคะเจ้าปลาเสือจะพ่นน้ำ ขนมปังก็เสร็จมันไปโดยปริยายจ๊า

จากฟาร์มปลาสถาที่ที่จะแวะเป็นที่สุดท้าย คือ ทะเลสาบนางครรภ์คะ จะเป็นยังไงต้องติดตามกันต่อไปคะ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ขณะนี้บรรยากาศรอบข้างมันช่างดูอึมครึม ฝนมีวี่แววว่าจะตกในไม่ช้าแล้วละคะ

ไม่นานนักก็ถึงแล้วคะ แต่จากท่าเรือการเดินทางไปยังทะเลสาบนางครรภ์ต้องขึ้นเขาลงเขากันอีกสักพักคะ พี่ขับเรือให้เวลาพวกเราที่นี่ 1 ชั่วโมงเต็มคะ  

เส้นทางเดินเท้าเป็นทางเดินอย่างดี แสนร่มรื่นจากหมู่แมกไม้โดยรอบ แต่อากาศก็ค่อนข้างอบอ้าวเนื่องจากเวลานี้เกินเที่ยงวันกันไปแล้วคะ

เดินกันต่ออย่างไม้ท้อถอยคะ เฮ้อ เส้นทางยังอีกยาวไกล

ถึงแล้วละคะทะเลสาบนางครรภ์ หรือในภาษามาเลย์เรียกกันว่า Tasik Dayang Bunting  ที่นี่เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในลังกาวี และก็ยังมีตำนานแห่งความรักเล่าสืบต่อกันมาด้วยว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ลูกชายคนแรกขององค์หญิงจากสวรรค์และเจ้าชายแห่งผืนพิภพได้เสียชีวิตหลังจากถือกำเนิดมาไม่นาน เธอเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากคะ เธอได้ทำการฝังศพลูกชายของเธอในทะเลสาบแห่งนี้ และเมื่อเธอกลับสู่สรวงสวรรค์ เธอได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าหญิงสาวคนใดที่ยังไม่มีบุตรมาอาบน้ำที่ทะเลสาบแห่งนี้ ขอให้ตั้งครรภ์สมใจปรารถนาคะ

ดังนั้นกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ การว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำธรรมชาติแห่งนี้ค่า

เจ้าถิ่นประจำทะเลสาบนางครรภ์ เจ้าลิงจ๋อ เจี๊ยก เจี๊ยก.....

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ เรือถีบพลังแสงอาทิตย์คะ

แต่กิจกรรมที่สนุกสำหรับพวกเรามากที่สุดคือ การทำสปาร์เท้าโดยเหล่าปลาดุกยุ๊บยั๊บไปหมด ตอนแรกส้มจี๊ดก็รู้สึกขยึก ขยึย ....... เหมือนกันคะ แต่นานๆ เข้าก็มันดีเหมือนกันคะ

จากที่นี่ก็เป็นอันจบทริปครึ่งวันอย่างสมบูรณ์คะแต่แหมท้องเนี่ยไม่รู้สึกดีด้วยหรอกคะเพราะมันประท้วงร้องดังสนั่น ถึงแม้จะได้โดนัทจาก Big apple มาประทังชีวิตแต่ส้มจี๊ดก็ไม่สู้เท่าไหร่เพราะหวานแสบไส้มาก ๆ กลับมาที่ท่าเรือปั๊บ รีบแวะทาน KFC กันโดยทันที ขอบอกว่าไม่มี KFC ที่ไหนอร่อยเท่าที่ไทยอีกแล้วละคะ แถมที่นี่ซอสพริก ซอสมะเขือเทศก็รสชาติประหลาด ไม่ถูกปากเท่าไหร่คะ แต่เวลาหิวอะไรก็เริ่ดคะ ค่าเสียหายอยู่ที่ 50 ริงกิตจ้า

ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ

ส้มจี๊ด@Malasia Road trip ณ. ลังกาวี : ขึ้นหิ่งห้อยลาจากลังกาวีในค่ำคืนวันที่สอง(ต่อ)

รีวิวสนุกมากค่ะ  ตามไปชมต่อ