ความเดิมจากตอนที่แล้ว ....
(ทริปนี้มีทั้งหมด 4 ตอนครับ ตอนนี้นำเสนอเป็นตอนจบ)
[CR] Welcome back to Tokyo !! : ตอนที่ 1 บินสุดคุ้มกับ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ สู่ ฮาเนดะ เข้าเมืองสะดวก พักผ่อนสบายใจกลางกรุง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10738093/E10738093.html
[CR] Welcome back to Tokyo !! : ตอนที่ 2 รวมมิตรไฮไลท์ โตเกียว เที่ยวเองได้ พามุดใต้ดิน พาชม พาชิมตามจุดสำคัญทั่วกรุง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10767323/E10767323.html
[CR] Welcome back to Tokyo !! : ตอนที่ 3 รวมมิตรเที่ยวนอกเมืองหลากสไตล์แบบวันเดียว นิกโก้-ฮาโกเน่-คามาคุระ-โยโกฮาม่า
(มาเสริมทริปไหว้พระใหญ่+โยโกฮาม่า+ชิม Ramen Museum จนจบเรียบร้อยแล้วครับตั้งแต่คห.ที่ 130-194)
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10796837/E10796837.html
---------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ 
ในที่สุดก็มาถึงตอนสุดท้ายสำหรับทริปโตเกียวหลังสึนามิของผม
ซึ่งตอนนี้ จริงๆ เป็นอะไรที่งอกขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจ
แต่เป็นวันที่เรารู้สึกดีใจ และโดนใจมากที่สุดครับ
เพราะวันนี้ เราจะพาไปเที่ยว Odaiba กัน
เมืองนี้ไม่ใช่แค่เมืองใหม่ที่ถมทะเลสร้างขึ้นมาเท่านั้น
แต่สำหรับใครที่รักสัตว์เลี้ยง อยากจะหาของฝากให้น้องหมาน้องแมว หรืออยากจะมาดูงานร้าน Pet Shop หรือแม้แต่คลินิคสัตวแพทย์ (สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ สพ. ครับ) ที่นี่น่าจะโดนใจมากพอสมควรครับ
หลายๆ ท่านจะรู้จัก Odaiba ก็จากภาพเทพีเสรีภาพ ที่ญี่ปุ่น
จริงๆ Odaiba เราสามารถใช้เวลาอยู่ได้เป็นวันเลยครับ
นอกจากจะมีร้าน Pet Shop แล้ว ก็ยังมี Outlet อีกมากมาย
สำหรับขาประจำโต๊ะรัชดา แฟนคลับพี่โตโยต้า น่าจะต้องถูกใจแน่ๆ กับ Toyota Universal Design Showcase ที่รวมมิตรรถโตโยต้าไว้
นอกจากรถใหม่ ก็ยังมีโกดังรถเก่ายุคสมัยคุณปู่ย่ายังหนุ่มสาวให้ชมและถ่ายรูปด้วยเช่นกันครับ
อีกฟากหนึ่งก็มีห้างเช่นกัน และข้างใต้ห้างก็มีร้าน Cat Cafe ซึ่งเป็นร้าน Pet Shop ที่เน้นของแมวๆ เป็นหลัก เรียกว่าสาวกทาสแมวทั้งหลายกรี๊ดกันแน่ๆ (ผมไม่ได้เห่อแมวมากแต่ก็ยังทึ่งกับของในร้าน) และก็จะมีห้อง Cat Cafe ที่เลี้ยงแมวกว่า 30 ชีวิตไว้อยู่ข้างใน เรียกได้ว่า นั่งทานของว่างจิบเครื่องดื่มไปเล่นกับแมวไปได้เลย ซึ่งก็ต้องอาศัยการจัดการที่ดีพอสมควรเช่นกัน เรียกได้ว่า ไป Odaiba เหมือนไปดูงานเสริมสร้างความรู้สุดๆ ไปเลยครับ
ไปกันเลยนะครับ Odaiba
[18 ก.ค. 54 06:29:11
]
สำหรับการเดินทางสู่ Odaiba นั้นก็ไม่ยากเลยครับ
ปกติจะมีวิธีการเดินทางด้วยรถไฟอยู่ 2 แบบ
คือรถไฟแบบวิ่งลอยฟ้า และรถไฟใต้ดิน
ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้านั่งแบบลอยฟ้า จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองโอไดบะด้วย แต่ถ้ามุดใต้ดินก็จะไม่เห็นอะไรเลยทีเดียว เพราะลอดใต้ทะเลลูกเดียว มาลงที่สถานี Tokyo Teleport ก้ได้ (โปรดเช็ครายละเอียดรถไฟได้จากเว็บ hyperdia http://www.hyperdia.com/en )
แน่นอนครับ ผมต้องเลือกแบบลอยฟ้า เพราะอยากชมวิว
ดังนั้น ตัวเลือกที่น่าสนใจก็คือ การเดินทางกับรถไฟ Yurikamome
โดยมีสถานีเริ่มต้นที่ สถานี Shimbashi
ถ้านั่งรถไฟสาย Yamanote มาก็ลงที่นี่ได้เลยครับ สบายบรื๋อ
[18 ก.ค. 54 06:33:42
]
เนื่องจากวันนี้เป็นวันเดินทางกลับ
อะไรๆ ก็เลยค่อนข้างทุลักทุเลครับ
เราก็ตัดสินใจนำข้าวของเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
มาหาล๊อกเกอร์เอาดาบหน้าที่สถานี Shimbashi นี้
ปรากฎว่าล๊อกเกอร์ใหญ่ๆ ราคา 500 เยนเต็มหมดครับ
ก็เลยต้องแบ่งใส่ล๊อกเกอร์เล็ก 300 เยนที่มีว่างอยู่น้อยนิด
บนสถานีรถไฟสาย Yurikamome ก็มีล๊อกเกอร์เหมือนกันครับ
และรู้สึกจะว่างกว่าพอสมควร ใครจะมาที่นี่วันกลับก็มาฝากของในล๊อกเกอร์บนสถานีของ Yurikamome ได้เช่นกัน
[18 ก.ค. 54 06:36:24
]
การเดินทางของเราก็คือ ...
นั่งรถไฟสาย Yurikamome ไป Odaiba
เริ่มต้นจากสถานีที่ 1 คือสถานี Shimbashi
ซึ่งสถานีสำคัญก็มีดังนี้ครับ
สถานีที่ 6 (สถานีแรกบนเกาะ)
เดินไปนิดเดียวก็จะถึงร้าน Cat Cafe ครับ
สถานีที่ 7 (สถานีที่ 2 บนเกาะ) สถานี Daiba
เดินไปนิดเดียวก็จะพบกับเทพีเสรีภาพ โอไดบะ, โรงแรม Nikko
สถานีที่ 8 (สถานีที่ 3 บนเกาะ)
ก็จะมีพิพิธภัณฑ์ทางทะเลอยู่ที่นี่ครับ หากใครสนใจก็ลงได้เช่นกัน
สถานีที่ 9 (สถานีที่ 4 บนเกาะ) สถานี Aomi
อยู่ติดกับห้าง Venus Fort ซึ่งชั้นล่างสุดเป็นชั้นสำหรับน้องหมาๆ แมวๆ และมีร้าน Pet Shop อยาง Pet City อยู่ รวมถึง Toyota Universal Design Showcase และชิงช้าสวรรค์ก็อยู่ที่สถานีนี้
[18 ก.ค. 54 06:42:13
]
ตอนแรกผมดูแผนที่รถไฟ ก็สงสัยเหมือนกันว่า
ทำไมยืกยือแบบนี้ ดูมีวนๆ โค้งๆ ด้วย สงสัยว่าให้บริการด้วยรถไฟประเภทไหนกันแน่ .....
สำหรับท่านที่เคยไปสนามบินชางงี สิงคโปร์
ท่านคงจะคุ้นเคยกับรถ Sky Train ที่วิ่งเชื่อมระหว่าง T1-T2, T2-T3, T1-T3 กันเป็นอย่างดีครับ รถที่วิ่งก็หน้าตาแบบเดียวกันเลยครับ
ไม่มีคนขับ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เพียงแต่ว่ามีที่นั่งเท่านั้นเอง
[18 ก.ค. 54 06:44:37
]
ข้อดีก็คือ กระจกบานใหญ่ เห็นวิวชัดดีครับ
พอยิ่งผ่านสถานีที่ 4 ไปแล้วก็จะวิ่งเลียบทะเล มองเห็นสะพานแขวน
พอพ้นสถานีที่ 5 ไปก็จะตีโค้งเพื่อขึ้นบนสะพานแขวนครับ
[18 ก.ค. 54 06:47:03
]
ติดตามต่อครับ หมอยุ่ง
จากคุณ : Palm Jung Won
[18 ก.ค. 54 06:48:11
]
แป๊บเดียว เราก็มาโผล่ที่สถานีที่ 9 สถานี Aomi
อยู่หน้าห้าง Venus Fort แล้วครับ ....
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้
การตกแต่งภายในห้าง Venus Fort นั้นละม้ายคล้าย The Venetian Macau พอสมควรทีเดียว ....
[18 ก.ค. 54 06:50:22
]
ดูแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวกันหน่อยนะครับ ....
สำหรับ Palette Town
จะประกอบไปด้วย Venus Fort (มีร้าน Pet City อยู่ชั้นล่างสุด) ฝั่งซ้าย
อยู่ในพื้นที่เดียวกับ Toyota Universal Design Showcase ฝั่งขวา
และชิงช้าสวรรค์ (อยู่ถัดจากพี่โตไป)
ถ้าเดินทะลุจาก Palette Town ก็จะพบกับสถานีรถไฟใต้ดิน
Tokyo Teleport และถ้าข้ามต่อไปจะเป็นสถานีที่ 6
และห้าง Decks Tokyo Beach (ชั้นล่างมี Cat Cafe)
ส่วนเทพีเสรีภาพ จะอยู่ใกล้ๆ กับห้าง Aqua City Odaiba
เรียกได้ว่า ถ้าขาช๊อป ชอบเดินห้าง ที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ....
[18 ก.ค. 54 06:55:34
]
อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ครับ
ตามต่อครับ
[18 ก.ค. 54 06:56:52
]
สำหรับ ห้าง Venus Fort ก็จะแบ่งเป็นชั้นๆ ครับ
โดยชั้นที่เกียวกับสัตว์เลี้ยง จะอยู่ชั้นล่างสุดในหมวดของ
Venus Family (เดินลงบันไดเลื่อนไปเลย สำหรับชั้นนี้ต้อนรับสัตว์เลี้ยงครับ เห็นหลายๆ คนก็เดินจูงน้องหมาเดินในห้างกันสนุกสนาน)
ส่วน Venus Grand คือส่วนที่เป็นห้าง ขายของแบรนด์เนม ร้านอาหาร และ Outlet ที่มีการตกแต่งสไตล์เวนิช หน่ะครับ
[18 ก.ค. 54 06:59:11
]
บรรยากาศชั้นล่างสุดครับ
จริงๆ ห้างไม่ได้ใหญ่เลยครับ
แต่มีจุดขายก็ตรงที่ เน้นสินค้าสำหรับครอบครัว และสัตว์เลี้ยง
(ถ้าใครพาเด็กเล็กๆ มาก็คงชอบครับ เพราะทางเข้าก็มีร้านคิตตี้แล้ว)
[18 ก.ค. 54 07:02:46
]
สำหรับร้าน Pet City ซึ่งเป็นทั้งร้าน Pet Shop, ร้านขายสัตว์เลี้ยง และ คลินิคสัตวแพทย์ จะอยู่ด้านในสุดเลยครับ
หากเปรียบเทียบกับที่สิงคโปร์
ร้าน Pet Zafari ชั้น 3 ห้าง Vivo ตรงข้ามเกาะเซ็นโตซ่าแล้ว
ส่วนตัวผมชอบร้าน Pet City ที่ห้างนี้มากกว่าครับ
1. สินค้าหลากหลายมาก กิ๊บเก๋สไตล์ญี่ปุ่น
แม้สินค้าบางอย่างจะ Made in China แต่ก็มีข้อความสำทับว่า
For Sale in Japan Only แห่ะๆๆ ไม่มีที่อื่นนะครับ
2. คลินิคสัตวแพทย์อลังการกว่าที่สิงคโปร์เป็นไหนๆ ด้วยการจัดเนื้อที่ใช้สอย และอุปกรณ์ที่ใช้ภายในคลินิค .... (คือ สพ.เมืองไทยไปเห็นก็ต้องตาโตกันทั้งนั้น)
3. นอกจากมีส่วนขายสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีส่วนที่ให้บริการรับฝึกสุนัขด้วย ดูค่อนข้างครบวงจรกว่าที่สิงคโปร (แต่ราคาก็อลังการต่างกันตามค่าครองชีพครับ)
[18 ก.ค. 54 07:07:12
]
ส่วนแรก คือส่วนจำหน่ายสุนัข/แมว
รู้สึกได้ว่าการจัดพื้นที่ดูค่อนข้างโปร่งโล่งสบายๆ ครับ
กรงที่ขังสัตว์ก็ดูไม่ปิดทึบ มีน้องหมาน้องแมวตัวจิ๋วให้เลือกมากมาย
แต่อยากจะบอกว่า ราคาโดยเฉลี่ย แต่ละตัว
แพงกว่าราคามาตรฐานของไทย ประมาณ 10 เท่าครับ
อย่างตัวที่เห็นในภาพนี้เห็นมีป้ายราคาเขียนว่าประมาณ 3xx,xxx เยน
ปาดโซ๊ะ !!!
เรียกได้ว่า ถ้าคิดจะเลี้ยงน้องหมาน้องแมวในญี่ปุ่น แค่ใจรักอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเงินถึงด้วยครับ (อันนี้ขนาดแค่ค่าตัวนะครับ ยังไม่กล้านึกถึงค่าบริการและค่ารักษาสัตว์ที่นี่ บรื๋อ....)
[18 ก.ค. 54 07:10:44
]
ไม่ได้โม้นะครับ ดูในส่วนของน้องแมวเหมียวซะก่อน
กำลังเล่นอยู่ข้างในอย่างหนำใจ
แต่ดูแล้วรู้สึกว่า เค้าจัดบรรยากาศทำให้สัตว์ไม่เครียดมาก
เมื่อเทียบกับร้าน Pet Zafari ที่ห้าง Vivo สิงคโปร์ ที่เป็นตู้กระจกล๊อกๆ ผมว่าดูอึดอัดมากๆ (คุณเธอไปนี่แทบไม่อยากเดินผ่านไปย่านนั้นเลย เธอทำใจไม่ได้ ไม่ชอบเห็นหมาขังกรงเป็นตู้โชว์แบบนั้น)
[18 ก.ค. 54 07:13:34
]
ในพื้นที Store ผมไม่ได้ถ่ายมานะครับ
แต่พื้นที่ขายถือว่าใหญ่มากๆ
แยกสินค้าแต่ละกลุ่ม กิ๊บเก๋ใช้ได้เลย
คุณเธอดูมีความสุขมาก เช่นเดียวกับผม ที่แยกกันไปคนละมุม
สำหรับราคาขาย บางรายการก็ถือว่าค่อนข้างสูงมาก
อย่างเช่นพวกกลุ่มรถเข็น ราคาไม่รู้จะแพงไปไหน
แต่หลายรายการก็นับว่าพอรับได้อยู่ (อย่าลืมเอาเงินเยนหารด้วย 2.6 เป็นเงินบาทนะครับ แต่ถ้ารูดบัตรก็เจอค่าธรรมเนียมอีกเล็กน้อย)
[18 ก.ค. 54 07:16:17
]
ห้องถัดไปก็จะเป็นส่วนโรงเรียนฝึกสุนัขครับ
เป็นคอร์สๆ ให้เลือก (แต่ทั้งหมดเป็นภาษาญี่ปุ่นนะครับ ผมก็ไม่กล้าเข้าไปถามว่าอะไรเป็นยังไงบ้าง เน้นการสังเกตเอาเป็นหลัก)
[18 ก.ค. 54 07:19:08
]
ตามไปด้วยครับคุณหมอ
จากคุณ : ม่วงมหากาฬ
[18 ก.ค. 54 07:20:09
]
เรื่องบริการ อาบน้ำ-ตัดขน เป็นบริการภาคบังคับที่ต้องมีครับ
อุปกรณ์ที่เค้าใช้ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันในไทย
ก็คงจะเป็นตู้เป่าแห้งหน่ะครับ
เรียกได้ว่าอาบน้ำน้องหมาเสร็จ จับน้องหมาเข้าตู้
แล้วก็จะมีลมเป่าน้องหมาจนแห้งแบบไม่ต้องใช้ไดร์ หรือเครื่องเป่า
สนนราคาค่าบริการ ก็ค่อนข้างอลังการตามค่าครองชีพครับ
[18 ก.ค. 54 07:21:10
]
หวัดดีครับน้าม่วงฯ ผมยังอึ้งกับน้าไม่หาย จากกระทู้ Broke Black ตามหาผู้ชายที่ดอยหลวงเชียงดาวหน่ะครับ 
มาถึงแล้วครับ คลินิคสัตวแพทย์ ....
การตกแต่งในส่วนหน้า ก็อาจจะดูคล้ายๆ กับคลินิคมาตรฐานทั่วๆไป
ซึ่งก็มีเคาน์เตอร์ต้อนรับ ประตูเข้าห้องตรวจ 3 ห้อง
และส่วนนั่งรอ แต่ข้างในมีอะไรมากกว่านั้นครับ พอดีไม่มีลูกค้าก็เลยได้เดินเข้าไปด้อมๆ มองๆ
[18 ก.ค. 54 07:23:46
]
เนื่องจากในร้านมีกล้องวงจรปิด พอเค้าเห็นผมเดินเข้าไป
ก็มีพนักงานออกมาทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น ผมก็อึ้งเล็กน้อย
แต่ก็บอกว่าพอดีขอมาดูหน่อยครับ
พนักงานเค้าก้หายไป แล้วก็มีคุณหมอออกมาแทน
คุณหมอสัตวแพทย์ญี่ปุ่น แกรีบออกตัวเลยว่า แกพูด Eng ไม่เก่งนะ
(คือจะพูด Eng สำเนียงค่อนข้างญี่ปุ่นพอสมควร แต่ก็พอแกะได้ เพราะผมก็ไม่ใช่พูด Eng ได้เก่งเท่าไหร่นัก)
ผมก็เลยแนะนำตัวเลยว่า ข้าพเจ้านั้นเป็นสัตวแพทย์มาจากไทยแลนด์
ขออนุญาตดูคลินิคของคุณหมอหน่อยได้ไหม (ขอดูงานกันตรงๆ เลย)
ซึ่งคุณหมอก็ยินดีเปิดคลินิค พาไปดูจุดต่างๆ เต็มที่เลยครับ (ไม่มีเคสด้วย)
เริ่มจากห้องตรวจแสนอลังการครับ ....
สังเกตโต๊ะตรวจนะครับ ....
โต๊ะตรวจสัตวแพทย์ไทยๆ ส่วนมากมักจะเป็นโต๊ะสแตนเลสกันใช่ไหมครับ สำหรับที่นี่ โต๊ะตัวนี้ควบคุมด้วยไฟฟ้าครับ (คุณหมอก็ทำท่าแล้วสาธิตให้ดู ยกสูง-ต่ำ เอียงซ้ายขวาได้ และใช้ชั่งน้ำหนักได้ด้วย)
[18 ก.ค. 54 07:29:04
]
ตามไปเที่ยวต่อครับ
[18 ก.ค. 54 07:30:59
]
ตามไปเที่ยวด้วยคนครับหมอยุ่ง^^
จากคุณ : ซูชิกะมิโซะ
[18 ก.ค. 54 07:31:24
]
โอฮาโยครับ ตามมาอ่าน Japan weekly
[18 ก.ค. 54 07:32:01
]
ส่วนฐานข้อมูลที่ใช้อย่าง OPD Card ก็บันทึกในคอมพิวเตอร์กันหมด
แต่สวนใหญ่ก็จะเป็นการเขียนลงในกระดาษและสแกนเข้าไปด้วย
(ลองนึกถึงคุณหมอท่าทางวุ่นๆ กับการตรวจน้องหมา มือไม้ก็อาจจะเปื้อน คงไม่สะดวกที่จะพิมพ์เท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ก็ถนัดเขียนมากกว่า
แล้วค่อยสแกนเข้าไปในระบบ ค้นหาได้ว่าวันนั้นตรวจอะไรเป็นไงบ้าง)
ใน OPD ก็จะมีการบันทึกทุกอย่างเช่นประวัติการตรวจเลือด, เอ๊กซ์เรย์ ก็ค้นได้ (บันทึกเป็นไฟล์ภาพด้วย) (สำหรับในไทย โรงพยาบาลสัตว์ขนาดใหญ่หลายแห่งก็ทำแบบนี้ได้ครับ อาจไม่ใช่เรื่องแปลกนัก)
[18 ก.ค. 54 07:33:56
]
ตามคุณหมอยุ่งไปด้วยคนค่ะ
ปล. วันนี้ทันถ่ายทอดสดด้วย อิอิ
[18 ก.ค. 54 07:36:22
]
เกาะติดรีวิว ยามเช้าด้วยคนนะคะ
วันนี้วันหยุด แต่มาทำงาน ขี้เกียจมากๆ
มา...เกาะติดรีวิวด้วยคนนะคะ
[18 ก.ค. 54 07:37:40
]
แห่ะๆ สวัสดีครับทุกๆ ท่าน (ตอนนี้ตอนจบแล้วครับ แห่ะๆๆ)
ว่าแล้ว คุณหมอก็ชวนเข้าไปบุกด้านหลังร้าน (ผมไม่กล้าขอแต่แกพาไปเลย) ซึ่งประกอบไปด้วย ห้อง Lab ห้องยา ห้องเอ๊กซ์เรย์ ห้องผ่าตัด รวมไปถึง Ward ข้างหลัง ครบสูตรเลย
เริ่มจากเครืองเอ๊กซ์เรย์แบบดิจิตอล ไม่ต้องล้างฟิล์ม
กดปุ่มเลือกเอา ว่าจะเอ๊กซ์เรย์ส่วนไหน น้ำหนักตัวเท่าไหร่ จิ้มๆ
(สำหรับเครื่องเอ๊กซ์เรย์ดิจิตอล มีไม่กี่แห่งที่ใช้ครับ เพราะราคาสูงมาก หลายๆ แห่งก็ใช้เครื่องแบบดั้งเดิมไปก่อน ใช้ได้เหมือนกัน)
[18 ก.ค. 54 07:38:35
]
ว้าวๆๆๆ หมอยุ่งพาเที่ยวเมืองคนรักสัตว์....โดนค่ะโดน...ติดตามติดๆเลยค่ะ
จากคุณ : auau_py
[18 ก.ค. 54 07:38:35
]
ห้องผ่าตัด และ เครื่องตรวจเลือด
(คล้ายของไทย แต่มูลค่าสูงนะครับ
มีโรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆ ไม่กี่แห่งที่มีเครื่องนี้ประจำ
เพราะเท่าที่ทราบ เครื่องตรวจเม็ดเลือด ราคาเท่ารถวีออส 1 คัน!!)
สำหรับที่นี่ก็ผ่าตัดเล็กทั่วๆ ไปครับ ไม่ได้ผ่ากระดูก
อุปกรณ์ดมยา คล้ายคลึงกัน ตัวยาที่ใช้ก็เหมือนกัน
ก็เลยถามว่าเจอเคสไหนบ่อยบ้าง
สังเกตได้ว่าที่ญี่ปุ่น ไม่ค่อยได้เจอพวกโรคติดเชื้อเท่าไหร่
(ในขณะที่ สพ.ไทยๆ นี่รักษาโรคติดเชื้อทั้งหลายเป็นเรื่องปกติ)
อย่างที่นี่ก็ผ่าพวกทำหมัน หรือผ่าตัดเนื้อเยื่ออ่อนทั่วๆ ไปเป็นหลัก
(ห้องผ่าตัดที่นี่ไม่ได้เป็นห้องปิดนะครับ ผมก็แปลกใจ เพราะส่วนใหญ่ตามมาตรฐานกรมปศุสัตว์จะบังคับให้ปิดมิดชิดกัน)
[18 ก.ค. 54 07:44:13
]
วกกลับมาที่เครื่องเอ๊กซ์เรย์ดิจิตอล
ถ่ายปุ๊บ แป๊บเดียวภาพโชว์บนจอปั๊บ ไม่ต้องล้างฟิล์ม
(มีหลายโรงพยาบาลสัตว์ในกรุงเทพ ที่ทำแบบนี้ได้ครับ)
[18 ก.ค. 54 07:48:07
]
ส่วน Treatment + CCU (ดูแลสัตว์ป่วยอาการหนัก)
อยู่ติดกันกับส่วนโต๊ะผ่าตัด (เพราะพื้นที่จำกัดมากๆ)
ปล. สำหรับโต๊ะอารมณ์นี้ ผมคิดถึงห้องผ่าตัดชั้น 2 ที่ รพส.เกษตร บางเขน จำได้ว่า ช่วงเวลาที่ฝึกงานในห้องผ่าตัดบางเขน เป็นช่วงที่มีความสุขในการเรียนที่สุดครับ แต่พอเรียนจบมา เนื่องจากที่ทำงานเก่าแทบไม่ให้รับเคสผ่าเลย ผมก็เลยไม่ค่อยได้ผ่า (ทั้งๆ ที่ชอบผ่าครับ)
[18 ก.ค. 54 07:50:16
]
ส่วน Ward ก็เหมือนกันครับ
แยกส่วนโรคติดเชื้อ กับไม่ติดเชื้อ
(แต่ดู Ward ติดเชื้อแทบจะไม่ถูกใช้งานเลย)
การจัดสัดส่วนทำได้ดีครับ พื้นที่ทั้งคลินิคเท่าที่กะด้วยสายตา
ไม่น่าจะเกิน 80-100 ตารางเมตร (ชั้นเดียว)
[18 ก.ค. 54 07:53:47
]
มานั่งรอดูน้องแมวน่าร๊ากกก ...
จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต
[18 ก.ค. 54 07:54:48
]
ในส่วนห้องทำงานหมอ ซึ่งประกอบไปด้วย Lab กล้องจุลทรรศน์ต่อออกทีวีได้ (และเข้าใจว่าบันทึกภาพลง OPD ได้) และส่วนเตรียมยา
บรรยากาศน่าทำงานมากจริงๆ
(ในไทยคงมีไม่กี่แห่งที่จัดห้องลักษณะแบบนี้)
[18 ก.ค. 54 07:55:42
]
ภายในคลินิคภาพสุดท้ายแล้วครับ (แอบเกรงใจท่านอื่นๆ คิดว่าพามาชมคลินิคสัตวแพทย์แล้วกันครับ)
เป็นส่วนห้องยา ซึ่งผมก็ได้มีโอกาสสอบถามเรื่องยาที่ใช้รักษา
เลยทำให้ทราบว่า ยาบางอย่างของไทยก็ใช้กันเยอะ แต่ญี่ปุ่นไม่ได้ใช้
เช่นเดียวกับ ยาบางอย่างญี่ปุ่นก็ใช้ แต่ของไทยยังไม่มี (หรือไม่คุ้นชื่อ)
ในห้องนี้ จะเห็นเครื่องใหญ่ๆ ทางด้านขวามือนะครับ
จะเป็นเครื่องแบ่งยาผงแบบผสมน้ำ ให้เป็นถุงเล็กๆ
เพียงพอสำหรับการป้อน 1 ครั้ง บรรจุใส่ซองซีลเรียบร้อย
(ตอนแรกนึกว่าเป็นเครื่องหักยา จะดีใจมากเพราะหมาตัวเล็กบางที ยา 1 เม็ดหักแบ่งตั้ง 8 ส่วน พระเจ้าจอร์จ -- แต่ไม่ใช่นะครับ)
ซึ่งอย่างไรผมก็ต้องขอบพระคุณคุณหมอที่ได้พาชมคลินิคครับ
แบบว่า คุณหมอใจดีมากๆ บางอย่างที่แกไม่แน่ใจว่าผมจะฟังรู้เรื่องไหม แกก็เปิดเครื่องแต่ละเครื่องให้ดูประกอบกันไปเลย (สังเกตว่า พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่เคยไปฝึกงานหรือเรียนที่ญี่ปุ่น เคยพบข้อสังเกตว่า ศัพท์เฉพาะทางสัตวแพทย์บางอย่าง ญี่ปุ่น กับฝรั่ง อาจเรียกไม่เหมือนกันครับ บางทีคุยกันอาจจะมีงงได้ คุยเรื่องเดียวกันแต่เข้าใจไปคนละอย่าง)
[18 ก.ค. 54 08:04:14
]
อยากไป
จากคุณ : อุดมสุข
[18 ก.ค. 54 08:07:28
]
เอาหล่ะครับ ...
กลับมาว่าด้วย Pet Shop กันต่อ
คุณเธอก็ซื้อของฝากให้เจ้าลูกชาย 4 ขาหลายชิ้นอยู่
(จนผมเริมเป็นกังวลว่า จะแบกกลับกันไหวเหรอนี่)
จึงคิดว่า สำหรับผู้ทีรักสัตว์เลี้ยง มีลูกๆ สี่ขาอยู่ที่บ้าน
ถ้ามาที่นี่ อย่างไรก็มีแนวโน้มจะได้เสียทรัพย์ ซื้อของไปฝากลูกๆ แน่ๆ ครับ ของแต่ละอย่างก็เย้ายวนใจ แต่ราคาบางอย่างก็ค่อนข้างอลังการทีเดียว อย่างเสื้อผ้าสุนัขนี่แพงเกินครับ เสื้อกันฝนสุนัขก็มี (บางอย่างจตุจักรถูกกว่าเยอะ เลือกๆ ดูเฉพาะของที่ไม่มีขายในไทยเป็นหลักครับ)
[18 ก.ค. 54 08:08:36
]
คาดว่า สำหรับคนรักสัตว์ น่าจะใช้เวลากับที่นี่นานพอสมควรครับ
(ได้ข่าวว่า ผมกะคุณเธออยู่ชั้นล่างนี้ก็ปาเข้าไปชั่วโมงกว่าๆ แล้ว)
สำหรับร้านอาหารที่อยู่ในชั้นนี้
ลูกค้าที่นำสัตว์เลี้ยงมาด้วย สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในร้านอาหารได้ครับ รู้สึกว่าเอาใจคนรักสัตว์เลี้ยงแบบสุดๆ ซึ่งแต่ละตัวก็แต่งตัวกันมาแบบไม่น้อยหน้าใคร แต่มีข้อบังคับอย่างเดียวว่า จะต้องใส่สายจูง ห้ามปล่อยวิ่งเพ่นพ่านครับ
(สำหรับรถไฟฟ้าญี่ปุ่น สุนัขสามารถเดินทางได้ แต่ต้องอยู่ใน Box ห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งโผล่ออกมา เช่นเดียวกับห้าง Venus Fort ส่วน Venus Grand ชั้นบนๆ ถ้าสุนัขจะเข้าไปก็ได้ แต่ต้องอยู่ใน Box หรือรถเข็นที่ปิดมิดชิดเท่านั้นครับ)
[18 ก.ค. 54 08:13:11
]
หนีจากโซนสัตว์เลี้ยง ขึ้นไปด้านบนตรง Venus Grand บ้างนะครับ
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของแบรนด์เนม, Outlet (ชั้น 3) และร้านอาหารมากมายครับ
[18 ก.ค. 54 08:15:23
]
ดูเผินๆ นึกว่า The Venetian Macau แต่ที่นี่ โอไดบะ ญี่ปุ่น ครับ
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[18 ก.ค. 54 08:16:35
]
สำหรับคุณผู้หญิง อาจจะได้เสียตังค์ที่นี่นะครับ
มีหลายร้าน ที่อาจจะโดนใจ ก็เผื่อเวลาเดินไว้ด้วยแล้วกัน
ส่วนคุณผู้ชาย โปรดเตรียมวงเงินบัตรเครดิตให้พร้อม
และ เตรียมตัวหิ้วของครับ
[18 ก.ค. 54 08:19:34
]
บนชั้น 3 ก็จะมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน
และแบบ Food Court ก็มีครับ
วิธีการก็คือเดินไปสั่งตามเมนู และชำระเงินเลยครับ
ทางร้านก็จะให้รีโมทตามตัวมา
ถ้าอาหารเสร็จเรียบร้อย เค้าก็จะส่งสัญญาณมาที่รีโมท
รีโมทก็จะร้องให้เราไปรับอาหาร และเอารีโมทไปคืนเขาครับ
[18 ก.ค. 54 08:21:03
]
รีโมทก็จะหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
พอรีโมทดังก็กดปุมปิดเสียงได้ รู้แล้วจ้า ... กำลังรีบไปรับ
[18 ก.ค. 54 08:21:50
]
ทานข้าวกันก่อนนะครับ ..... แผล่บๆ
[18 ก.ค. 54 08:22:39
]
แผล่บๆ กันต่อ 
ปล. ราคาอาหารเริมต้นเฉลี่ยที่ 8xx เยนขึ้นไปครับ
ถ้าเป็น set ส่วนใหญ่จะ 1,1xx เยนขึ้นไป
[18 ก.ค. 54 08:23:50
]
เปลี่ยนโหมดนิดนึงนะครับ
จากโต๊ะจตุจักร มาเป็นโต๊ะรัชดา ...
อย่างที่บอกครับ โอไดบะไม่ใช่เป็นแค่เมืองสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง
แต่ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ Toyota Universal Design Showcase
อย่างกับโชว์รูปรถโตโยต้า ทีรวมรถรุ่นในญีปุนไว้เพียบ
แน่นอนว่า ขาประจำรัชดาต้องถูกใจแน่ๆ (แม้ผมจะเป็นลูกค้าฮอนด้าก็ยังชอบครับ)
เริ่มต้นจากโรงเก็บรถเก่าก่อน ....
มีรถเกาตั้งแต่ยุครุ่น 50's จนถึง 90's แสดงให้ชมกันพอสมควรครับ
อยู่ตรงชั้น 2 Venus Grand ตามภาพนี้เลยครับ
[18 ก.ค. 54 08:26:49
]
รถเก่าเก็บแต่ละคันนี จะมีเจ้าหน้าที่มาให้ข้อมูล (เป็นภาษาญี่ปุ่น?) ด้วยนะครับ ถ้าอยากจะเข้าไปนั่งถ่ายรูปในรถก็ได้เช่นกัน
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[18 ก.ค. 54 08:28:37
]
ก็จะจำลองเป็นโรงจอดรถเก่าๆ คนชอบรถเก่าคลาสสิก คงจะถูกใจมาก
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[18 ก.ค. 54 08:29:52
]
ผมว่าคันนี้สวยดีนะครับ เห็นว่าเป็น Limited Edition แค่ 300 คันด้วย
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[18 ก.ค. 54 08:32:54
]
หลังจากดูของเก่าแล้ว พาไปดูของใหม่กันบ้างครับ ....
ฝั่งนี้เลย
[18 ก.ค. 54 08:33:56
]
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีไฮบริดของพี่โต คงจะถูกใจครับ
โดยเฉพาะพี่อู๊ด Prius หลากสีสัน
ปล. แคตตาล๊อกรถ ที่เมืองไทยแจกฟรี ที่นี่ต้องเสียตังค์นะครับ
[18 ก.ค. 54 08:40:51
]
จับพี่อู๊ด Prius มาชำแหล่ะให้ดู ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[18 ก.ค. 54 08:41:36
]
สำหรับเด็กๆ ก็ไม่ต้องกลัวจะเบื่อครับ
เพราะมีเกมส์ทดสอบการขับรถแบบ Hybrid (ใช้น้ำมันและมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกัน) ให้เด็กๆ เล่นได้อยู่ครับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นที่เกี่ยวกับการขับรถอยู่ เหมาะสำหรับเด็กๆ
[18 ก.ค. 54 08:43:15
]
สำหรับผู้ใหญ่ ก็ไปขับรถของจริงกันได้เลยครับ
แต่รู้สึกว่าจะต้องจองล่วงหน้า และต้องมี International Driving Licence ครับ (ถ้าเป็บบัตรแข็งสมาร์ทการ์ดไทยเกรงว่าจะไม่ได้)
ก็เรียกได้ว่า ที่นี่ก็คงจะเป็นที่ถูกอกถูกใจกับผู้ที่สนใจรถพี่โตฯ ครับ
[18 ก.ค. 54 08:49:30
]
จากส่วนของพี่โต เดินไปด้านหลังก็จะเป็นชิงช้าสวรรค์ครับ
สนนราคาหัวละ 900 เยน ขึ้นไปหมุนบนนั้นประมาณ 16 นาทีครับ
[18 ก.ค. 54 08:51:20
]
มองออกไปเห็นสะพานขึง ซึ่งบริเวณใต้นั้นจะเป็น
สถานีรถไฟใต้ดิน Tokyo Teleport ครับ
[18 ก.ค. 54 08:52:21
]
หลังจากให้เวลากับน้องหมา และ พี่โตแล้ว ...
ถึงเวลาน้องแมวบุกบ้างแล้วครับ ...
เอาใจผู้ชื่นชอบแมวเหมียวทั้งหลาย
เริ่มต้นด้วย แมวเหมียวคิตตี้ ซึ่งมี shop อยู่ชั้นล่างขอ Venus Family ครับ เป็น shop ที่จัดว่าค่อนข้างใหญ่ และมีส่วนนั่งเล่นสำหรับเด็กๆ ด้วย สาวๆ น่าจะกรี๊ดครับ เพราะคุณเธอจิ้มเครื่องคิดเลขดูหลายรายการ ราคาถูกกว่าที่เมืองไทยพอสมควร ก็เตรียมจ่ายตังค์กันไปครับ
[18 ก.ค. 54 08:55:02
]
ข้างหลังก็มีเครื่องเล่นอีกนะครับ
(แต่ไมใช่คิตตี้ -- คิตตี้มีเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น)
ปล. ภาพนี้จะเห็นว่ามีหุ่นคิตตี้เป็นหินอ่อนอยู่ด้วย
[18 ก.ค. 54 08:57:26
]
ได้เวลาโบกมือบ๊ายบาย Venus Fort แล้ว
เดี๋ยวจะพาไปชม Cat Cafe กันที Decks Tokyo Beach ครับ
เดินทะลุข้ามสะพานขึงไปได้เลย
[18 ก.ค. 54 08:58:26
]
เดินผ่านสถานีที่ 6 (โอไดบะ...)
เลี้ยวซ้าย เดินไปอีกนิดนึงจะเห็นห้าง Decks
ร้าน Cat Cafe & Cat Pet Shop อยู่ชั้นล่างสุด ตรงหัวมุมด้านหน้าอาคารเลยครับ ก็เดินลงไปชมได้เลย
[18 ก.ค. 54 09:00:32
]
นี่หล่ะครับ ใช้เลยร้านนี้แหล่ะ มีแต่ของแมวๆๆ
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
[18 ก.ค. 54 09:01:32
]
เข้าไปข้างในกันเลยครับ ....
ขนาดร้านไม่ใหญ่โตเท่าไหร่ แต่ของกุ๊กกิ๊ก น่ารักเยอะมากๆ
(ราคาก็ไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นะครับ)
[18 ก.ค. 54 09:02:27
]
อย่างเช่นอันพวกนี้ก็คือ ที่ฝนเล็บแมวหลากสีสัน
[18 ก.ค. 54 09:03:10
]
สำหรับ Cat Cafe อยู่ด้านหลังครับ
เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่บรรจุแมวหลากสายพันธุ์ไว้กว่า 30 ชีวิต
ให้ลูกค้าเข้าไปนั่งเล่น ทานเครื่องดื่มได้ฟรี 1 อย่าง
โดยคิดค่าบริการ 1,200 เยน/ชั่วโมง
ไม่อนุญาตให้นำแมวส่วนตัวเข้าไปข้างใน
และมีป้ายเตือนให้ระวังแมว และอย่าไปแกล้งแมวด้วยเช่นกัน
[18 ก.ค. 54 09:05:41
]
อย่างสภาพภายในก็อารมณ์ประมาณนี้ครับ
อันนี้เค้าเริ่มจะไล่เก็บแมวกันแล้ว ....
[18 ก.ค. 54 09:07:03
]
ห้องนั่งเล่นของแมว ที่คนสามารถจ่ายตังค์เข้าไปเล่นกับแมวด้วยได้
แมวแต่ละตัวดูหุ่นดีทั้งนั้นจริงๆ น่าจะเลี้ยงดูดีมากๆ
[18 ก.ค. 54 09:09:07
]
..
สวัสดีเช้าวันจันทร์ครับหมอยุ่ง
แวะมาเที่ยวโตเกียวกับหมอยุ่งในตอนจบ .. ผมไปญี่ปุ่นมา เคยเห็นแค่ pet shopเล็กๆเท่านั้นเอง กระทู้หมอฯ เปิดหูเปิดตามากมาย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลละเอียดยิบ เป็นประโยชน์แก่คนรักปุ่นจริงๆครับ 
โหวตละ
..
[18 ก.ค. 54 09:13:48
]
สำหรับสมาชิกแมวประจำบ้าน AF อิอิ
มี 30 ชีวิตครับชื่อเสียงเรียงนาม ประวัติพร้อม !!
[18 ก.ค. 54 09:15:14
]
ดีใจจังวันนี้มาทันคุุณหมอ
ขอบคุณนะคะที่พาเที่ยว
[18 ก.ค. 54 09:23:51
]
เดินจากห้าง Decks ไปโผล่ที่ห้าง Aqua City แป๊บเดียวถึงครับ
มีทางเดินเชื่อมถึงกันตลอด (แต่พอดีไม่มีเวลาเข้าไปเดินข้างในครับ รู้สึกของขายเยอะใช้ได้เหมือนกัน)
[18 ก.ค. 54 09:26:45
]
เกรงว่า ผมจะต้องเผ่นแล้วหล่ะครับ
ทำรีวิวทีไรต้องมีพักครึ่งทุกที 
กว่าจะเดินมาถึงเทพีเสรีภาพ แห่งโอไดบะ
ฟ้าก็เกือบมืดแล้วครับ
พอดีตอนนี้ 9 โมงครึ่งแล้ว เดี๋ยวต้องแวะไปทำธุระนิดหนอยครับ
คาดว่าช่วงคืนวันนี้คงจะได้มาต่อ
ก็คือการเดินทางจาก โอไดบะ ไปยังสนามบินฮาเนดะ
และบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์ จากฮาเนดะ ข้ามคืน สู่กัวลาลัมเปอร์
กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพ ที่มีแต่แขกป่วงเต็มลำ และกรุงเทพ-เชียงใหม่ครับ (ประเด็นเรื่องโอไดบะนี่ก็นำเสนอไปครบแล้วครับ แห่ะๆๆ)
ขออภัยที่ไม่ได้โพสต์จนจบรวดเดียวครับ
[18 ก.ค. 54 09:32:45
]
ขอบคุณค่ะ
ดีจังเลยได้เข้าไปชมด้านในคลินิกด้วย
มาเดินเกือบทุกสัปดาห์ยังไม่เคยได้เข้าไปดูเลยค่ะ
คุณหมอเค้าใจดีจัง
เสริมนิดนึงค่ะ สำหรับคนต้องการประหยัดที่ โอไดบะ มีรถบัสฟรี
จะวิ่งวนตามสถานที่ต่างบน เกาะ เช่น ห้างต่างๆ โรงแรมแกรนแปซิฟิค
พิพิธภัณฑ์ทั้งมารีน กะ มิไรคัน เอโดะออนเซน
แต่ว่าก็ต้องรอนานนิดนึง บางทีคนก็เต็มเลยค่ะ
[18 ก.ค. 54 09:52:16
]
เริ่ดมากกกกกกกกก
สิบล้ออิจฉาน้องหมาน้องแมวจริงๆ
[18 ก.ค. 54 10:17:31
]
ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบ
จากคุณ : บุษบารำไพ
[18 ก.ค. 54 10:22:10
]
ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ
จากคุณ : Us-Sama Iland
[18 ก.ค. 54 10:40:20
]
ตามมาชมด้วยคนค่ะ
ข้าวของน้องหมาน่ารักน่าซื้อมากกกกกกก
[18 ก.ค. 54 11:20:59
]
ขอบคุณหมอยุ่งที่นำเที่ยวเมืองโอไดบะนะคะ
เรื่องเทคโนโลยี่และของจุ๊กจิ๊กน่ารักเนี่ย ต้องซูฮกพี่ยุ่นเค้าจริงๆ
เข้าใจอารมณ์น้องคนข้างกายเลยจ้า เป็นป้าก็คงอดใจไม่ไหวเหมือนกัน
จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล
[18 ก.ค. 54 12:23:54
]
ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ
จากคุณ : tonhok
[18 ก.ค. 54 12:46:21
]
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[18 ก.ค. 54 12:49:49
]
ดูรีวิวแล้วก็ยิ่งอยากไปโอไดบะมากขึ้น ไปคาาวก่อนไม่ได้ไป เพราะเวลาไม่พอ ตอนนี้ยิ่งรู้ว่ามี Cat Cafe' ยิ่งอยากไปมากกว่าเดิมอีกค่ะ >___<
ค่ำๆจะมาชมรีวิวตอนจบนะคะ ^^
[18 ก.ค. 54 13:56:51
]
ตามมาเที่ยวต่อค่ะ
จากคุณ : Red-Rose-14Feb
[18 ก.ค. 54 14:22:23
]
ติดตามทุกตอนเลยคะ แอบเก็บข้อมูลไปเที่ยวด้วยคะ
จากคุณ : ผึ้งตัวกลม
[18 ก.ค. 54 14:25:21
]
thank you for good review
จากคุณ : genie&winnie
[18 ก.ค. 54 14:31:56
]
ขอบคุณมากนะคะ สำหรับรีวิวที่มีคุณภาพ เต็มไปด้วยข้อมูลเช่นเคย
จากคุณ : Miss_Behaving
[18 ก.ค. 54 14:59:15
]
มาติดตามต่อค่ะ ^^
จากคุณ : :D keigo :D
[18 ก.ค. 54 15:14:41
]
น้องยุ่งขอบคุณมากๆเลยนะ
เปิดหูเปิดตาวงการสัตว์แพทย์ไทยมากๆเลย
อิจฉาน้องแมวในคาเฟจัง
อยากไปใช้บริการสักครั้ง
[18 ก.ค. 54 16:37:50
]
เที่ยวเป็นก็เพราะพี่เขานี่แหละ.....ที่คอยแนะนำในกระทู้ต่างๆ
ขอบคุณค่ะ
[18 ก.ค. 54 17:08:00
]
ขอบคุณนะคะ ข้อมลดี ๆ พร้อมกับภาพสวย ๆ
คราวก่อนไปญี่ปุ่นก็ได้ไปโอไดบะเหมือนกันแต่ฝนตก เลยหมดอารมณ์
เดินเที่ยว เมษาปีหน้าว่าจะไปแก้ตัวค่ะ
[18 ก.ค. 54 17:28:09
]
#13-14 นึกเปรียบเทียบกับร้านขายสัตว์เลี้ยงที่จตุจักร
มันต่างกันราวฟ้าสูงกับเหวลึกจริงๆ
[18 ก.ค. 54 18:03:24
]
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ แต่ถ้าไปป้วนเปี้ยนแถวๆโซนนั้นกลัวว่าจะหมดตัวซะก่อนแน่ๆค่ะ 555
คลีนิคที่นู่นน่าไปมากเลยอ่ะ ถ้าเจอแบบนี้ถึงราคาสูงก็ยังพอรับได้อ่ะเนอะ
[18 ก.ค. 54 18:39:24
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
[18 ก.ค. 54 18:42:09
]
ถ้ารีวิวจบแล้ว อยากสอบถามค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่ะ แอบถามว่าไปกี่วันคะนี่
ขอบคุณที่มารีวิวนะคะ
[18 ก.ค. 54 18:44:47
]
ตามไปเที่ยวด้วยจ๊ะ ^^
จากคุณ : Tikgazza
[18 ก.ค. 54 20:37:03
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวข้อมูลดีมากเลยนะครับ
รอชมทริปต่อไปนะครับ
[18 ก.ค. 54 21:35:43
]
ค่อยๆตามมาชมรีวิวแบบไม่รีบค่ะ
[18 ก.ค. 54 22:03:25
]
ตามเข้ามาชมตอนจบครับ

[19 ก.ค. 54 01:02:27
]
มาทันก่อนแพ็คกระเป๋าคืนนี้ ได้ข้อมูลสำหรับเดินทางไปลุยญี่ปุ่นแล้วค่ะ
ขอบคุณคุณหมอมากๆ เลย ไว้กลับมาแล้วจะรายงานตัวให้ทราบนะคะ
ขอบคุณค่ะ
[19 ก.ค. 54 01:14:00
]
ที่บ้านได้ของจาก Pet City หลายชิ้น คิดถึงญี่ปุ่น มีโอกาสจะไปอีก
ขอบคุณหมอยุ่งที่มารีวิวค่ะ
[19 ก.ค. 54 10:11:07
]
ท้องฟ้าใน #40 นี่ของจริงหรือว่าเป็นหลังคาอ่ะน้องหมอยุ่ง หุหุ
จากคุณ : adangrawi
[19 ก.ค. 54 10:30:32
]
ตามมาชมรีวิวและขอแปะรูปน้องแมวน้อยน่ารักๆหน่อยนะครับ
จากคุณ : SavageDancer
[19 ก.ค. 54 14:46:44
]
และแล้วกระทู้นี้ก็ตกจากกระทู้แนะนำ (คาดไว้ไมผิด เพราะเรื่องมันค่อนข้างเอียงมาทางหมาๆ แมวๆ หมอๆ เยอะ) อย่างไรผมจะมาโพสต์เที่ยวบินขากลับในกระทู้นี้ต่อนะครับ
สำหรับท่านที่อยากจะอ่านเลย สามารถตามไปอ่านที่ HFlight ก่อนก็ได้ครับ ทริปขากลับจริงๆ โพสต์ไว้หมดแล้ว เหลือแค่ลงพันทิปเท่านั้นเอง
--------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะครับ
ขอบคุณคุณ blazing สำหรับเรื่องรถ shuttle bus ด้วยนะครับ แต่ผมดูๆ แล้วมีแนวโน้มคนจะเยอะครับ หากรถวิ่งไม่ถี่ ท่าจะต้องได้โหนแน่
ปล. ถึงพี่ adangrawi ครับ --> เพดานครับ เหมือนกับที่เวเนเชี่ยนเลย เปลี่ยนสีไม่ได้เหมือนกัน
[19 ก.ค. 54 23:45:42
]