สวัสดีครับ เพื่อนๆชาว Blueplanet ทุกท่าน

เมื่อวันหยุดยาวช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสนั่งรถไฟลงใต้ เพื่อไปเล่นน้ำตก 2 แห่ง ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมาครับ นั่นก็คือน้ำตกคลองจัง ที่อำเภอนาบอน และก็น้ำตกโยง ที่อำเภอทุ่งสง ครับ และขากลับมีเวลาเหลือ จึงนั่งรถไฟต่อไปเดินเล่นที่อำเภอห้วยยอดด้วยเลย เป็นการท่องเที่ยวทางรถไฟสายใต้ไปในตัว

จะเป็นอย่างไรนั้น เรียนเชิญไปเที่ยวด้วยกันเลยครับผม

สำหรับการเดินทาง ผมก็ใช้รถไฟเป็นพาหนะเช่นเดิมครับ โดยจะไปกับขบวนรถเร็วที่ 169 กรุงเทพ-ยะลา ครับ
จุดหมายปลายทางคือสถานีรถไฟคลองจันดี ที่ตำบลจันดี อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ค่าโดยสารก็ 229 บาท ครับ ใช้เวลาในการเดินทางราวๆ 15 ชั่วโมง

วันที่ผมไปนี้ ข.169 ช้าเล็กน้อยครับ ไปถึงคลองจันดีตอน 6 โมงเศษๆ

สำหรับสถานีรถไฟคลองจันดีนี่ก็เป็นสถานีรถไฟสำคัญอีกแห่งของภาคใต้ครับ เพราะจันดีเป็นตำบลใหญ่ มีตลาดคึกคักและประชากรอาศัยเป็นจำนวนมาก รถเร็วแทบทุกขบวนจะจอดรับส่งที่จันดีด้วยครับ

ไปด้วยเกือบมาไม่ทัน

สถานีรถไฟคลองจันดีตั้งอยู่บนหลักกิโลเมตรที่ 728 จากสถานีรถไฟบางกอกน้อยครับ (พอๆกับสถานีรถไฟลำพูน) แต่ถ้านับจากหัวลำโพงจะเป็นระยะทางราวๆ 744 กิโลเมตร (พอๆกับสถานีรถไฟสารภี)

สวัสดีครับ คุณ คนข้างหนุน ขอเชิญไปเที่ยวน้ำตกเมืองใต้ด้วยกันครับ หุหุ

ที่ผมมาลงรถไฟที่คลองจันดี ก็เพราะผมจะแวะไปเที่ยววัดพระธาตุน้อยกันก่อนครับ โดยจากสถานีรถไฟนี่ก็เดินข้ามคลองจันดีไปไม่ไกล ก็ถึงวัดพระธาตุน้อยแล้ว

จากสถานีก็เดินลงไปทางใต้ราวๆ 300 เมตร ก็จะเจอสะพานรถไฟเก่าแก่อายุเกือบร้อยปี ที่เรียกว่าสะพานโค้งรถไฟครับ เป็นสะพานที่สร้างข้ามคลองจันดี เชื่อมระหว่างฟากตำบลจันดี และตำบลช้างกลาง

สะพานนี้มีชื่อว่า สะพานโค้ง 100 ปี

เข้าใจว่าเป็นสะพานรุ่นแรกๆเลยครับ รอดจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกมาได้

ด้านใต้ของสะพานคือคลองจันดี อันเป็นชื่อเดียวกับชื่อตำบล ครับ คลองสายนี้จะไหลไปรวมกับแม่น้ำฉวางที่ตำบลฉวาง

เมื่อปีที่แล้ว เคยมีความพยายามจะสร้างตลาดน้ำคลองจันดี ที่ใต้สะพานนี้ครับ แต่เนื่องจากมีผู้มาเที่ยวน้อย ตลาดน้ำเลยถูกยกเลิกไป

ลงจากสะพานโค้ง 100 ปี แล้ว เดินไปอีกนิดเดียวก็จะถึงวัดพระธาตุน้อย วัดสำคัญประจำตำบลช้างกลาง ครับ

วัดนี้ถูกสร้างขึ้นโดย พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือ ที่ชาวฉวางและหลักช้างเรียกท่านว่า ท่านพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ เกจิดังแห่งลุ่มน้ำฉวางครับ
โดยได้จำลองเอาพระธาตุเมืองนคร มาทำเป็นองค์พระธาตุจำลองขนาดย่อม เลยเรียกกันว่าพระธาตุน้อย

ภายในพระธาตุของวัดพระธาตุน้อย ยังเป็นที่บรรจุสรีระของท่านพ่อคล้ายเอาไว้ด้วยครับ ชาวบ้านในย่านนี้นั่งรถไฟหรือขับรถผ่านไปผ่านมาก็มักจะยกมือไหว้ท่านเสมอๆ

ตกขบวนมั้ยเนี่ยเรา....

ขอศรีไปด้วยคนค่าาาา....

ไปด้วยคร้าบบ

ตามไปเที่ยวด้วยเช่นเคยครับ

มารออาบน้ำตก

เรียน คุณ ศรีญดาซัง--ขอบคุณมากครับผม----

เรียน คุณ หน้าที่ของคนรอ (LeoGeMiNi)--ขอบคุณมากครับผม----

เรียน คุณ ม่วงมหากาฬ--ขอบคุณ น้าม่วง มากๆครับ----

เรียน คุณ ต้นโพธิ์ต้นไทร--ขอบคุณมากๆครับ----

ไปเที่ยวด้วยกันเลยครับ

ไปด้วยคนยังทันมั้ยครับ

ออกจากวัดพระธาตุน้อย ผมก็เดินกลับมาที่ตลาดจันดีครับ เพื่อรอรถไฟไปเที่ยวน้ำตกคลองจัง ที่อำเภอนาบอน ต่อ

แต่ไหนๆก็มีเวลาเหลือเฟือ ผมเลยลองไปเดินเล่นในตลาดจันดีดูครับ เป็นการเปิดหูเปิดตา (ผมนั่งรถไฟผ่านจันดีมาหลายครั้ง แต่ไม่เคยแวะลงมาเสียที)

สวัสดีครับ คุณ chartchy ไปลุยกันเลย

ช่วงเช้าๆนี่ ตลาดจันดีจะคึกคักมากครับ เพราะชาวบ้านจากตำบลข้างๆจะเข้ามาจับจ่ายซื้อของกันที่นี่
ตลาดเช้าก็อยู่ริมทางรถไฟเลยครับ แต่ตั้งไปตั้งมา ก็ขยายกินที่ลงมา วางแผงกันบนรางรถไฟไปด้วย หุหุ

แต่ที่นี่ไม่ต้องเก็บของหนีรถไฟเหมือนแม่กลองครับ เนื่องจากราง 3 และ ราง 4 ด้านนอกไม่ค่อยได้ใช้งาน เลยกลายเป็นที่ตั้งแผงถาวรไป

บางแผงก็กางเต๊นท์ เอาโต๊ะเก้าอี้วาง ทำเป็นร้านกาแฟไปเลย

ตลาดจันดีนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ครับ โดยเริ่มคึกคักและขยายเป็นชุมชนขนาดใหญ่เมื่อครั้นที่ชาวจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานกันมากๆเข้า จนปัจจุบันดูเหมือนว่าตำบลจันดี จะคึกคักกว่าตำบลฉวาง ที่เป็นสถานที่ตั้งของตัวอำเภอเสียอีก

ใกล้ๆทางรถไฟยังมีศาลเจ้าแบบจีนตั้งอยู่ แสดงให้เห็นว่าที่นี่ก็เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนขนาดใหญ่เหมือนกัน

ตาม คุณ  : ศรีญดาซัง  มาอย่างไว

ทันไหม รถไฟออกยัง ๆ

ของมีชื่อของที่นี่ก็คือ บะหมี่เกี๊ยวจันดี ครับ มีสาขาหลายแห่งทั่วภาคใต้และในกรุงเทพ แต่เสียดายว่าผมมาเช้าไป เขายังไม่เปิดร้าน หุหุ

สวัสดีครับ คุณ ชานมชงเอง

เดินไปเดินมาจนได้เวลาราวๆ 8.00 น. ผมก็กลับไปที่สถานีรถไฟ เพื่อรอรถไฟ ข.447 สุราษฎร์ธานี-สุไหงโกลก เพื่อเดินทางไปน้ำตกคลองจัง ครับ

ขอบคุณครับ

เรียน คุณ แม่จีน-ไท (GT2007)--ขอบคุณเช่นกันครับผม---

นั่งรอไปรอมา ราวๆ 8.11 น. ข.447 ก็มาถึงแล้วครับ

ขบวนนี้เป็นรถไฟฟรีครับโดยผมจะโดยสารไปลงที่สถานีรถไฟคลองจัง ครับ ซึ่งใช้เวลาเดินทางราวๆ 28 นาที

เนื่องจาก ข.447 ออกจากต้นทางค่อนข้างเช้าครับ ผู้โดยสารเลยไม่มากเท่าไหร่  ซึ่งขบวนนี้คนจะไปแน่นเอาเมื่อออกทุ่งสงครับ

ผมก็เลยเดินไปเดินไปถ่ายรูปได้โดยสะดวก

ตามมาเที่ยว 2 น้ำตก เมืองนครฯด้วยคนค่ะ คุณอุ้ย

จากคลองจันดี รถไฟก็ออกวิ่งไปเรื่อยๆ ไปจอดรับ-ส่ง อีกครั้ง ที่สถานีรถไฟหลักช้าง ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอช้างกลาง ครับ

เรียน คุณ คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน--ขอบคุณมากๆครับผม------


ที่สถานีหลักช้างนี่ก็มีผู้โดยสารขึ้น-ลง พอสมควรเลยครับ ส่วนใหญ่จะเดินทางไปทุ่งสงกัน

จากนั้นก็มาหยุดที่ป้ายหยุดรถคลองกุย ครับ ตอนนี้เข้าเขตอำเภอนาบอน แล้ว

และก็ต่อด้วยสถานีรถไฟนาบอน สถานีรถไฟสำคัญอีกแห่งประจำอำเภอนาบอน ครับ

ผมนั่งรถไฟผ่านไปผ่านมา ก็ยังไม่เคยลงมาเดินเล่นที่นาบอนเสียที ไว้ต้องหาโอกาสลงมาชิมขนมแปะโอ่งที่นาบอนบ้าง หุหุ

ออกจากนาบอนมา ก็เริ่มมองเห็นเขาเหมน หนึ่งในเขาสูงของทิวเขาหลวงแล้วครับ

และแล้วประมาณ 8.48 น. ผมก็มาถึงสถานีรถไฟคลองจัง อันเป็นจุดหมายต่อมาครับ

สถานีรถไฟคลองจังนี่ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนาบอน ครับ โดยห่างจากสถานีนาบอนราวๆ 4 กิโลเมตรเศษๆ
เป็นสถานีเล็กๆ แต่ก็มีชุมชนด้านหลังสถานีรถไฟตั้งอยู่ ทำให้มีผู้โดยสารรอขึ้น-ลง รถไฟที่นี่พอสมควร

ชุมชนด้านหลังสถานีก็มีตลาดเล็กๆครับ ถ้าจะไปเที่ยวน้ำตกคลองจัง หรือเดินป่าขึ้นยอดเขาเหมน ก็แวะเติมเสบียงหรือซื้อหาของจำเป็นจากที่นี่ได้

มาแปะชื่อจองที่นั่งไว้ก่อนค่ะ   เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นแล้วจะมาอ่าน...

จากสถานีรถไฟคลองจัง เดินไปตามถนนราวๆ 5 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกคลองจังครับ

เรียน คุณ ป้าฟู---ขอบคุณมากๆเลยครับ หลับฝันดีนะครับ---

น้ำตกคลองจังนี่ก็มีขนาดไม่ใหญ่ครับ แต่บรรยากาศดี เงียบสงบ และไม่พลุกพล่าน (วันที่ผมไป ผมเป็นนักท่องเที่ยวคนเดียวเลย หุหุ)

น้ำที่นี่ก็ไหลมาจากยอดเขาเหมน ครับ เป็นต้นน้ำของคลองหลายแห่งในย่านน้ำ น้ำใสสะอาด น่าเล่นมากๆ

บริเวณน้ำตกมีการสร้างฝายกั้นน้ำเอาไว้ครับ เพื่อชะลอการไหลของน้ำในหน้าน้ำหลาก หรือเวลาน้ำถล่มลงมา

เสียดายว่า วันที่ผมไปนี่ ฝนตกพรำๆครับ น้ำเลยเย็นมากๆ ได้ลงไปแช่น้ำนิดหน่อย ทนไม่ไหวเลยต้องขึ้นมา หุหุ

น้ำตกคลองจังนี่ก็มีหลายชั้นครับ แต่ชั้นที่เดินขึ้นได้มีเพียง 1-2 ชั้นเท่านั้น

น้ำตกคลองจังนี่ก็มีหลายชั้นครับ แต่ชั้นที่เดินขึ้นได้มีเพียง 1-2 ชั้นเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่า ขึ้นไปพิชิตยอดเขาเหมนด้วยครับ

จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของอุทยาน ท่านบอกว่าขึ้นทางนี้ระยะทางราวๆ 7 กิโลเมตรหน่ะครับ ถ้าเดินก็ 5-6 ชั่วโมง จะถึงยอดเขา แต่ช่วงนี้ปิดครับ ต้องรอปลายปีถึงจะขึ้นได้

เห็นรูปสถานีรถไฟแล้ว นึกถึงอ.ชะอวด เมื่อก่อนบ้านยายอยู่ที่นั่น ได้ไปเที่ยวเสมอๆ เดี๋ยวนี้ย้ายมาอยู่ กทมแล้วครับ

จากนั้นผมก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟคลองจัง เพื่อต่อรถไฟไปเที่ยวน้ำตกโยง เมืองทุ่งสงต่อครับ

โดยจะไปกับขบวนรถท้องถิ่นที่ 445 ชุมพร-หาดใหญ่ ครับ ซึ่งเป็นรถไฟฟรีอีกเช่นเคย

ไปเที่ยวด้วยครับ

ข.445 นี่คนเยอะเสมอๆเลยครับ แต่ ข.446 ที่มาจากหาดใหญ่จะคนเยอะกว่า หุหุ

จากคลองจัง ก็ไปแวะจอดที่ป้ายหยุดรถบ้านเกาะปลิง ครับ และก็วิ่งเข้าสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง

แต่ผมจะไม่ลงรถไฟที่ทุ่งสงครับ เพราะน้ำตกโยงนี่สามารถนั่งรถไฟไปลงใกล้ๆได้

ผมก็นั่งรถไฟต่อไปอีก 1 ป้าย ยังสถานีรถไฟไสใหญ่ครับ

สวัสดีครับ ไปลุยกันต่อเลยครับ

เรียน คุณ mr.peach (Mr.Peach)---ขอบคุณมากๆครับ ผมเคยไปชะอวด 1 ครั้ง ได้ไปทานขนมจีนในตลาดชะอวด ยังถูกใจจนถึงวันนี้เลยครับ

เรียน คุณ waruta ---ขอบคุณมากๆครับ

เห็นน้ำตกแล้วชุ่มช่ำหัวใจจริง ๆ
ภาพถ่ายน้ำตกสวยจังครับ สายน้ำนี่นุ่มเลยนะ ครับ ๆ

เด่วค่ำนี้เข้ามาดูต่อนะครับ

มีรูตอนลอดช่องเขาไหมครับ

สถานีรถไฟบ้านใสใหญ่ จะห่างจากสถานีรถไฟทุ่งสงราวๆ 4 กิโลเมตร ครับ อยู่ริมถนนหลวงสาย ทุ่งสง-ร่อนพิบูลย์ พอดี
ผมก็ลงรถไฟที่นี่ และเดินไปยังน้ำตกโยงครับ ทางเข้าก็อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช เลยครับ

จากสถานีรถไฟใสใหญ่ไปยังน้ำตกโยง ก็จะเป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรครับ

เรียน คุณ underdome---ขอบคุณมากๆครับ----

เรียน คุณ Mr.Peach---ทริปนี้กระผมไปไม่ถึงอุโมงค์ช่องเขาหน่ะครับ สายหลักนี่มาสุดแค่ที่ใสใหญ่เอง

สวยครับ  ตามไปเที่ยวด้วยครับ

สำหรับน้ำตกโยงก็มีค่าบำรุงสถานที่ท่านละ 20 บาท ครับ

จากด่านเก็บเงินเดินเข้าไปไม่ไกลก็จะเริ่มเห็นธารน้ำของน้ำตกครับ

น้ำตกโยงนี่ถือว่ามีชื่อเสียงมากๆของอำเภอทุ่งสงเลยครับ คู่กับน้ำตกกะโรมที่ลานสกา และน้ำตกแม่เศรษฐีที่ร่อนพิบูลย์

วันที่ผมไปเป็นวันหยุดพอดีครับ เลยมีพี่น้องประชาชนเดินทางมาพักผ่อนที่น้ำตกโยงกันมากมายเลย

สวัสดีครับ คุณ เล็กทาโร่---ไปลุยกันเลยครับ

ด้านในสุดจะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ที่มีน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาครับ

สมัยก่อนเคยได้ยินว่า เขามีทางให้เดินขึ้นไปสำรวจด้านบนของน้ำตกด้วย แต่ช่วงหน้าฝนทางจะลื่นมาก ตอนหลังเลยไม่อนุญาตให้ขึ้นแล้ว

น้ำตกโยงนี่ยังเป็นบ้านของปลาพลวงจำนวนมากครับ ว่ายกันเต็มแอ่งน้ำเลย

ช่วงนี้หน้าฝน น้ำเลยเย็นไปหน่อยครับ
แต่อากาศร้อนๆแบบนี้ ผมเลยพอแช่ไหว เพราะเริ่มมีแดดแล้ว ไม่เหมือนตอนเช้าที่คลองจัง อันนั้นหนาวสั่นเลย

เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเยอะครับ ทางอุทยานเลยจัดเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย เพราะบางทีหากฝนตกหนักๆ อาจจะมีน้ำป่าไหลลงมาได้

จากนั้น ผมก็จะเดินทางกลับตัวตลาดทุ่งสงไปหาที่พักแล้วครับ โดยนั่งเจ้ารถประจำทางสาย นครศรีธรรมราช-ทุ่งสง จากแถวๆสถานีรถไฟใสใหญ่กลับเข้าเมืองทุ่งสงครับ

แต่ก่อนอื่น ไปแวะลงกลางทางที่ศาลเจ้าซำปอกง ซึ่งมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมกันก่อน

น้ำน่าเล่นจังเลย

เจ้าแม่กวนอิมทุ่งสงนี่ ก็ตั้งอยู่ในศาลเจ้าซำปอกง เมืองทุ่งสง ครับ

ศาลเจ้าซำปอกงนี่มีอายุกว่า 50 ปี สร้างขึ้นโดยสาธุชนชาวทุ่งสงครับ เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ทีเดียว ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าแบบจีน

วันที่ผมไป เป็นวันจัดงานวันเกิดเจ้าแม่กวนอิมพอดีครับ ภายในศาลเลยมีพิธีกรรมกัน ไม่สะดวกจะให้คนนอกเข้าไป ผมเลยกราบท่านอยู่ข้างนอกศาล

ขออนุญาต ปาดนะครับ อยากเที่ยวแบบ จขกท.มั้งจัง

ส่วนเจ้าแม่กวนอิมในศาลนี่ เขาบอกว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิม ที่มีส่วนสูงมากที่สุดในประเทศไทยครับ
ดูจากความสูงแล้ว ผมก็ว่าน่าจะสูงกว่าที่ท่าฉลอมไม่น้อยเลย

เรียน คุณ ต้มส้มปลากระบอก---ขอบคุณมากๆครับ----

เรียน คุณ Jelly&Kiwi---ขอบคุณมากๆครับ----

หลังจากนั้นผมก็เดินจากศาลซำปอกง กลับไปตลาดทุ่งสงครับ โดยเดินเลาะไปตามทางรถไฟ จะผ่านสวนสาธารณะ ที่เป็นที่ตั้งของหัวรถจักรไอน้ำฮาโนแม็คพอดี

หัวรถจักรฮาโนแม็ค นี่ก็ตั้งอยู่ในบริเวณของสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ ใกล้ๆสถานีรถไฟทุ่งสงครับ
เป็นสัญลักษณ์ของการเดินรถไฟในภาคใต้ตอนล่างเลย

สวนสาธารณะแห่งนี้ ตั้งอยู่บนทางแยกของทางรถไฟสายอันดามัน (ทุ่งสง-กันตัง) และทางรถไฟสายหลัก ที่จะลงไปหาดใหญ่พอดีครับ

มองจากตรงนี้ ถ้าเลี้ยวซ้ายก็ไปใสใหญ่ และลงใต้ไปนครศรีธรรมราช แต่หากเลี้ยวขวาก็ไปที่วังและจังหวัดตรัง

ในตัวเมืองทุ่งสงก็มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่งครับ อย่างเช่นหอนาฬิกา ข้างๆทางรถไฟ ที่กลางคืนจะมีขายของกินเยอะเลย

หรือสถานีรถไฟทุ่งสง ที่เป็นสถานีขนาดใหญ่ในภาคใต้ ที่นี่เป็นชุมชนรถไฟขนาดใหญ่เลยครับ มีทั้งโรงรถจักร โรงงาน และก้บ้านพักของคนรถไฟ

นอกจากนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ของทุ่งสง นั่นก็คือถ้ำตลอดครับ

โดยหากมาจากสถานีรถไฟ ก็เดินไปทางศูนย์ราชการเรื่อยไม่ไกลก็จะถึงถ้ำตลอดครับ ซึ่งระหว่างทางจะเจอตำหนักซาลาเปา ของร้านทุ่งสงซาลาเปา ที่เป็นร้านซาลาเปาเจ้าดังของทุ่งสง หุหุ

จากร้านซาลาเปา เดินไปหน่อยก็จะถึงทางเข้าถ้ำตลอดแล้วครับ

ถ้ำนี้ชื่อว่าถ้ำตลอด ก็เพราะถ้ำมันทะลุไปอีกฟากหนึ่งของภูเขาได้ครับ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของทุ่งสงเลย

ด้านในมีพระพุทธรูปปางไสยาศน์องค์ใหญ่ตั้งอยู่

และก็พระพุทธรูปมากมาย

ปากถ้ำยังมีสิงโตแกะสลักขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า สิงโตท่านพ่อคล้าย

ภายในถ้ำตลอดนี่อากาศเย็นสบายครับ นั่งพักได้ และรอบๆก็เป็นสวนสาธารณะให้นั่งเล่นได้

หลังจากนั้นผมก็ไปเดินทางทางขึ้นเขาโคกหม้อครับ เพื่อจะลองขึ้นไปชมวิวเมืองทุ่งสง แต่เดินวนไปวนมาก็หาทางขึ้นไม่เจอ
ลองไปถามชาวบ้านแถวนั้นเขาก็บอกว่า ทางขึ้นมันค่อนข้างรกครับ อย่าขึ้นไปดีกว่า

ผมเลยเปลี่ยนใจเดินกลับเข้าไปในเมือง หาที่พักแทนแล้วกัน

เดินไปเดินมาก็มาได้โรงแรมนี้แลครับ อยู่ใจกลางเมืองพอดี ราคาไม่แพงเท่าไหร่

ปล. ผมลงรูปผิดครับ กลายเป็นภาพถ้ำตลอดไปเสีย เลยขอลบออกดีกว่า

ราคาห้องคืนละ 220 บาท ก็สะอาดพอใช้ได้ครับ

กลางคืนนี่บริเวณถนนหน้าโรงแรมเทียมฟ้าจะมีตลาดขายของกินมากมายเลยครับ แต่เสียดายว่าถ่านกล้องผมหมด เลยไม่ได้เก็บภาพมา

ตอนเช้าผมก็รีบออกจากโรงแรมเพื่อไปรอรถไฟ ข.167 กรุงเทพ-กันตัง ไปเที่ยวที่ห้วยยอดต่อครับ

สถานีรถไฟทุ่งสงยามเช้านี่ก็คึกคักครับ เพราะรถไฟส่วนใหญ่จะเข้าทุ่งสงตอนเช้าๆไปจรดตอนสายๆ ผู้โดยสารเดินทางมาก็จะหาข้าวเช้าทานกันที่สถานีนี้แล

รออยู่ไม่นาน ข.167 ก็มาแล้วครับ ผมก็ขึ้นไปทำการโดยสารเลย ค่าโดยสาร ทุ่งสง-ห้วยยอด คนละ 10 บาท

ปกติ ข.167 ถ้าไม่ใช่เทศกาล มันก็รถเร็วทหารม้าเหมือนกันครับ โดยเฉพาะวันช่วงใกล้สิ้นสุดวันหยุด ที่รถขาล่องออกจากกรุงเทพจะคนน้อยเป็นพิเศษ

ประมาณ 9.05 น. ข.167 ก็ออกเดินทางจากทุ่งสง เข้าสู่ทางรถไฟสายอันดามันครับ

ผ่านสถานีรถไฟที่วัง สถานีแรกของทางรถไฟสายนี้ที่ยังหลงเหลืออยู่

และก็ป้ายหยุดรถกะปาง ป้ายหยุดรถเดียวที่หลงเหลือในสายนี้ครับ

ระยะทางจากทุ่งสงไปห้วยยอดนั้นไม่ไกลครับ แต่รถไฟจะวิ่งราวๆเกือบ 70 นาที เพราะว่าทางรถไฟสายนี้มีสภาพไม่ค่อยจะดีหน่ะครับ ต้องวิ่งด้วยความเร็วแค่ 40-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง เกือบตลอดทางเลย

แต่อนาคตการรถไฟจะปรับปรุงไม้หมอนของทางสายนี้เป็นหมอนคอนกรีตแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้จากทุ่งสงไปตรัง ใช้เวลาในการเดินทางน้อยลงได้เยอะเลยหล่ะครับ

พอรถไฟใกล้ถึงห้วยยอด ผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็เริ่มเตรียมตัวลงจากรถกันครับ
คุณป้าท่านนี้ เขาก็โทรบอกลูกหลานให้เตรียมมารับที่สถานีได้

ตามคุณอุ้ยนั่งรถไฟไปเที่ยวด้วยค่ะ
ยังหาเวลาไปตามรอยไม่ได้เลยสักทริป

เรียน คุณ Memories pink---ขอบคุณมากๆครับผม----

รถเร็วทหารม้า หมายความว่ายังงัยหรอครับ เห็นในWebคนรักรถไฟชอบพูดกัน

ประมาณ 10.50 น. ผมก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟห้วยยอดแล้วครับ

มาเที่ยวกับตาอุ้ยด้วยคน
แต่ไม่อยากนั่งรถไฟแล้วเดินกับตาอุ้ยนะ มันเหนื่อย
นอนรอในโรงแรมดีกว่า....

*ชอบดูรีวิวและโรงแรม ที่ตาอุ้ยไปพัก
 คิดถึงอดีต ตอนตะลอนๆทำงานตามต่างจังหวัด ก็นอนโรงแรมแบบนี้ล่ะ

เรียน คุณ Jelly&Kiwi--รถเร็วทหารม้า คือรถไฟ ที่มีศักย์เป็นขบวนรถเร็ว แต่กลับไม่ค่อยมีคนนิยมโดยสารหน่ะครับ มันเลยมีแต่โบกี้เปล่าๆไร้ผู้โดยสาร มีทหารม้า (นั่ง) เต็มไปหมด ไม่มีคนนั่งครับ หุหุ

ขบวนรถเร็วทหารม้าประจำสายใต้ก็คือ ข.167, ข.177/178 ครับ

ขบวนรถเร็วทหารม้าประจำสายเหนือ คือ ข.115

ขบวนรถเร็วทหารม้าประจำสายอีสานใต้คือ ข.143/144 ครับ

สวัสดีครับ น้า หนุ่ม ณ วันวาน

สถานีรถไฟห้วยยอดนี่ก็เป็นสถานี 1 ใน 4 แห่ง ของทางรถไฟสายอันดามัน ครับ

อยู่ในกลางอำเภอห้วยยอดพอดี ทำให้มีผู้โดยสารจากอำเภอนี้นิยมมาใช้บริการรถไฟขึ้น-ล่อง กันมากทีเดียว ที่นี่มีรถไฟจอดวันละ 4 ขบวนคือ ข.83/84/167/168

ตามมาเที่ยวเรื่อยๆครับ เมื่อก่อนตอนเด็กๆก็อยู่ ต.ลำภูราอ.ห้วยยอด จ.ตรัง เห็นรุปแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆ

เดิมทีสถานีรถไฟห้วยยอดจะเป็นอาคารไม้สีเขียวๆครับ หน้าตาคล้ายๆกับสถานีรถไฟที่วังและใสใหญ่ และก็เป็นอาคารไม้แบบนี้มาแต่โบราณ

จนเมื่อราวปีนิดๆมานี้เอง ที่อาคารไม้ผุพังลงมาก ทางการรถไฟได้งบไทยเข้มแข็งมา เลยจัดการปรับปรุงสถานีรถไฟห้วยยอดใหม่ กลายเป็นอาคารฉาบปูนแทน และทาสีเหลืองแสบตาแบบนี้แล........

เสียดายผมลงมาช้าไป 1 ปี ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นอาคารเดิมก่อนจะรื้อทิ้งเป็นแน่

สถานีรถไฟห้วยยอดเลยแปลงร่างกลายเป็นกล่องสี่เหลี่ยมๆฉาบปูนไปในที่สุดครับ.........

ถ้ามองจากด้านนอกริมถนนเข้าไป ก็จะเห็นว่ากลายเป็นกล่องสี่เหลี่ยมหลังคาแดงแจ๊ไปแล้ว...

ภาพสวยมากเลยค่ะ

ส่วนตัวตอนเด็กๆ แม่ชอบพาขึ้นรถไฟไปเยี่ยมคุณตาที่นครศรีฯ เหมือนกันค่ะ แต่พอโตมา ไม่ชอบซะงั้น เพราะว่ามัน ช้า

แต่เห็นแบบนี้แล้วคิดถึงเหมือนกันนะคะ ขอบคุณ จขกท.ค่ะ

เรียน คุณ Mr.Peach ----เดี๋ยวออกจากสถานี รถไฟไปเดินในตลาดห้วยยอดกันต่อครับ อิอิ----


ด้านหน้าสถานีรถไฟห้วยยอด เคยมีรถรางวางอยู่บนวงเวียนครับ แต่หลังจากปรับปรุงสถานี ไม่รู้รถรางหายไปไหนแล้ว

จากสถานีรถไฟ ผมก็ออกไปเดินเล่นชมตลาดห้วยยอดครับ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ลงมาเห็นห้วยยอดครับ หลังจากเมื่อ 2 เดือนก่อน ได้นั่งรถไฟผ่านที่นี่เป็นครั้งแรกตอนไปเที่ยวตรัง หุหุ

บ้านเรือนที่ห้วยยอดนี่จะเป็นบ้านเก่าแก่ ทรงแบบซิโน-โปรตุกีส เหมือนที่ตรังครับ โดยตัวเมืองจะวางแนวยาวริมสองฟากของถนนเพชรเกษมสายเก่า

แต่รถเร็วทหารม้าของคุณอุ้ยที่ผมชอบคือ 167 วิ่งผ่านไม่ค่อยหยุด หลายๆครั้งมักจะตามขบวน 173 ทันจนต้องรอทาง

ถ้ามาตอนเช้าคงจะคึกคักน่าดูครับ เพราะบ้านคนเยอะทีเดียว เสียดายผมมาเที่ยงๆแล้ว คนเลยหายหมด

เรียน คุณ Girl_of_Monsterteam--ขอบคุณมากๆครับ----

เรียน คุณ Alderwood---ผมก็ชอบ ข.167 เหมือนกันครับ โดยเฉพาะถ้านั่งไปแค่พวกชุมพรหรือหลังสวน นี่ จะนอนสบายมากๆ อิอิ ไม่ต้องถ่อไปบางกอกน้อยขึ้น ข.177----

แต่สายๆแล้ว ก็ยังมีหมูย่างขายกันอยู่ครับ เป็นของฝากคู่กับเค้กตรัง ให้ผู้สัญจรไปมาได้แวะชิม

อยากไปบ้างจังครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ผมก็เดินเล่นดูโน่นดูนี่ในตลาดห้วยยอดไปเรื่อยๆครับ ที่นี่ร้านขนมเค้กเยอะดีจริงๆ

เรียน คุณ (lamp_lover)---ขอบคุณมากครับ----

เดินไปเดินมาจนบ่ายๆ ก็ต่อรถตู้เข้าไปที่ตรังครับ ค่ารถก็ 30 บาท

ไปลงแถวตลาดเทศบาลครับ

และก็เดินไปสถานีรถไฟตรัง เพื่อซื้อตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพครับ

วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษ ครับ เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันทำงานแล้ว คนเลยเดินทางเข้ากรุงเทพกันมาก

พอดีมีเวลาเหลือก่อนขึ้นรถไฟกลับบ้านครับ ผมเลยขึ้นไปเที่ยวที่วัดหน้าเขา หลังสถานีรถไฟเล่นๆ

จากด้านบนวัดหน้าเขา มองลงมาจะเห็นเมืองตรังได้เกือบทั่วเลยครับ

ผมก็เดินไปเดินมา ซื้อของฝากเรียบร้อย และก็ไปเตรียมขึ้นรถไฟ ข.84 กลับกรุงเทพครับ (ค่าตั๋วก็ 285 บาท) ใช้เวลาเดินทางราวๆ 15 ชั่วโมง

แน่นอนว่า ผมมาซื้อเอาก่อนขึ้นรถไฟ ในช่วงเทศกาลแบบนี้ ก็ได้ตั๋วยืนไปตามระเบียบครับ อิอิ แต่ไม่เป็นไร ผมเตรียมหนังสือพิมพ์มาแล้ว

เวลาประมาณ 17.30 น. ข.84 ก็เดินทางจากตรังกลับกรุงเทพ เป็นอันจบการเดินทางครับ

ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมมากๆครับผม

ผมจำได้ว่าสมัยก่อน อยู่ตรัง ขึ้นมากทม โดยตั๋วชั้นสาม แล้วที่นั่งเต็ม เป็ยอะไรที่ทรมารมากกว่าจะถึงที่หมาย

ป้ายังโดดเกาะท้ายโบกี้ทันมั้ยเนี่ย น้องอุ้ย

ถ่ายรูปสวยจัง อยากถ่ายรูปได้แบบนี้บ้างค่ะ

ขอบคุณครับ

น้ำตกสวยมากค่ะ

ขอบคุณมากๆ เลยครับผม

ทริปรถไฟแบบนี้ ได้อารมณ์ท่องเที่ยวจริงๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ รูปสวยมาก :))

กว่าจะชมรีวิวจบตาลายพอดี  อย่าถือสาผู้สูงวัยเลยนะ  ต้องขอบคุณอีกครั้ง ทำให้นึกวันเก่าๆที่เคยอยู่นาบอนเมื่อสักห้าสิบปีที่แล้ว

ตามไปเที่ยวใต้ด้วยคนนะคะ เป็นภาคที่ไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ทั้งๆ ที่มีสถานที่สวยงามอยู่มาก คงมีโอกาสได้ตามรอยท่องเที่ยวสักวันนึงค่ะ

ชอบกระทู้นี้จัง กดไลค์ให้ล่ะนะ  

รูปสวยคลาสสิคครับ


ึคิดถึงวัยเด็กครับ  

ได้นั่งรถไฟ  จากนาบอน ไปเที่ยวทุ่งสงบ่อยๆ  แค่นี้ก็ดีใจแทบแย่แล้ว มีความสุขมากมายเหลือเกิน  
คิดถึงวันเก่าๆเหล่านั้นจัง

รถไฟธรรมดาสาย หาดใหญ่  ชุมพร ก็เป็นรถไฟในความทรงจำ ตลอดไป

ไปเที่ยวทุ่งสงด้วยคนค่ะ
ให้พี่ที่ทำงานด้วยกันดูรีวิวนี้ด้วยค่ะ พี่เค้าบอกว่าดูแล้วคิดถึงบ้านมาก

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆ ค่ะ ^^

หายหน้า หายตา ไปซะนาน ว่าแล้วเชียว กลับมาต้องมีอะไรมาให้ชมแน่ๆ

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ อีกเช่นเคยนะครับ

รูปตลาดแต่ละที่ น่าสนใจดีน่ะครับ วิถีชีวิต ชาวบ้าน

อยากไปสถานีรถไฟตรังอ่ะคับ อยากไปถ่ายรูป

ขอบคุณมากค่ะที่พาเที่ยว เป็นความใฝ่ฝันของเราเลยนั่งรถไฟไปเที่ยวเรื่อยๆ

ภาพสวยมากค่ะ

 มาไม่ทันถ่ายทอดสดล่ะ ขอบคุณที่พาเที่ยวนะจ๊ะหลานอุ้ย

       ทั้งรูปและข้อมูล ถ่ายทอดได้ดีเหมือนเดิมเลยนะเรา

ทั้งภาพถ่ายและการเขียนบรรยายชวนติดตามมากครับ
สงสัยผมคงต้องโหนรถไฟเที่ยวบ้างเสียแล้วล่ะ

รูปสีสันสดใสมากครับ
อยากหม่ำหมูย่างอ่ะ

อยากไปแบบนี้บ้างจัง

น้ำตกสวยงามมากครับ

จังหวัดตรังก็รู้จักแต่หมูย่างนี่แหล่ะ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะครับ

มารอเก็บข้อมูลด้วยคนครับ
น้ำตกมีปลาพวงด้วย ปลาพลวงที่นี่ชอบกินถั่วฝักยาวแบบที่ปลาพวงที่นำตกพริ้วหรือเปล่าน๊า เห็นแล้วน่าจะลองให้อาหารจังครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ภาพสวย น้ำตกก็น่าเล่นมากเลยครับ

ตามไปเที่ยวด้วยครับ

อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้างจริงๆค่ะ  รู้สึกสบาย ไปเรื่อยๆ ได้มีเวลาเห็นอะไรรอบข้างมากขึ้น  ไปเที่ยวกับรถไฟกับคุณ digimontamer นี่เพลินจริงๆ

เยี่ยมมากๆเลยครับ ไว้ต้องตามรอยบ้างครับ

...ตามคุณอุ้ยมานั่งรถไฟเที่ยวใต้ด้วยคนนะคะ  

น้ำตกสวยมากๆ เลยนะคะ  ^-^

รูปสวยสดชื่นมากค่ะคุณอุ้ย    ป่าเมืองใต้มันเขียวชอุ่มดีจัง... เดี๋ยวก็อพยพไปอยู่ซะเลย.... อิอิอิ..

เข้ามาเที่ยวด้วยค่ะ  คุณdigimontamer  ท่าทางจะชอบนั่งรถไฟนะคะ ^_^

เห็นสถานีห้วยยอดแล้วปลงครับ แทนที่จะใช้พวกไม้ฝาเทียม ดันใช้ปูนซะนี่


ลองมาดูที่สถานีปากช่องได้เลยครับ เคยปรับปรุงเมื่อนานมาแล้ว ไม้ผุ แต่ก็ใช้ไม้เทียม ยังคงคุณลักษณะเดิมของอาคารอยู่ครับ

มาเยี่ยมกระทู้จ้า....

เดือนหน้าจะนั่งรถไฟ ล่องใต้เหมือนกัน

....ตีตั๋ว ฟรี เหมือนเดิม....ชั้น 3

ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมมากๆครับผม

เรียน คุณ Mr.Peach----ขอบคุณมากครับ ผมก็อาศัยได้นั่งช่วงจากตรังมาห้วยยอดหน่ะครับ จากนั้นเจ้าของที่มา ก็ยืนมาตลอด จนพ้นแถวๆไชยา พนักงานตู้เสบียงเขาเลิกเดินขายของแล้ว จึงค่อยเอาหนังสือพิมพ์ไปปูนั่งตรงทางเดินครับ หุหุ-----

เรียน คุณ เตี้ยอ้วนชวนไถล----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ อยากรู้ง่า----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ คนมีแฟนขับ (chun_cx)----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ umi_chan_2----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ 3KKK----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ Soleindee----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ พิบูลย์----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ ตัวยาว (lekatuayao)----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ ป้อม (ppomp2003)----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ ย้ำคิดย้ำฝัน----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ Greenapple1----ขอบคุณมากครับ ช่วง 2 สัปดาห์ก่อน พอกลับจากหาดวนกรแล้ว พอดีผมไปข้อเท้าพลิกตอนวิ่งออกกำลังหน่ะครับ เลยอดไปเที่ยวต้องอยู่บ้านหลายสัปดาห์เลย-----

เรียน คุณ เย็นตาโฟไม่หู้ไม่เลือดไม่ไทย----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ maychaegyeong----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ กบจูเนียร์----ขอบคุณ น้ากบฯ มากครับ-----

เรียน คุณ อั่งเปาใจ----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ ลุงแบกเป้----ขอบคุณ ลุงแบกเป้ มากครับ-----

เรียน คุณ May_BP----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ Koon Shy_Tour Dee----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ Destiny-Boy----ขอบคุณมากครับ มีคนเอาขนมปังกับอาหารปลาไปให้ด้วยครับ ปลาแย่งกันใหญ่เลย-----

เรียน คุณ tataweb----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ TheFootball----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ Red-Rose-14Feb----ขอบคุณมากครับ-----

เรียน คุณ วัชเจียเหว่ย----ขอบคุณมากครับ----

เรียน คุณ จูลายกะปลายฟ้า ^-^ (ปลายฟ้าที่ภูตะวัน)----ขอบคุณมากครับ----

เรียน คุณ ป้าฟู----ขอบคุณ คุณป้าฟู มากครับ----

เรียน คุณ ชอบกินชอบเที่ยว----ขอบคุณมากครับ เดินทางด้วยรถไฟสนุกดีครับ ได้ชมวิว ผมเลยติดใจมากๆเลย----

เรียน คุณ Alderwood----ขอบคุณมากครับ เห็นด้วยเลยครับ น่าจะใช้ไม้เทียมแทน ราคาอาจจะแพงหน่อย แต่ทนทานและสวยงาม แต่พอฉาบปูนแบบนี้กลายเป็นป้อมยามไปเลยหน่ะครับ----

เรียน คุณ Sugarbean----ขอบคุณมากครับ แล้วจะรอติดตามชมรีวิวสวยๆของคุณตาลครับ----

- เป็นการเดินทางที่คลาสสิคมากๆ เลยครับ ว่างๆนั่รถไฟมาเที่ยวเมืองนคร
 บ้างนะครับ

เยี่ยมเลยครับ ไว้มีโอกาสจะลอกการบัานบ้างนะครับ

เพิ่งมาค่ะ  ตกขบวนไปหลายวันเลย
ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆ นะคะ  

เรียน คุณ ฮ่ายเหล็ง---ขอบคุณมากครับผม----

เรียน คุณ น้ำตาพระรอง---ขอบคุณมากครับผม----

เรียน คุณ สาวหน้าใส---ขอบคุณมากครับผม----

คิดถึงทุ่งสง บ้านเกิดเมืองนอน