.
จากคุณ : แม่หนูนวล
[23 ก.ค. 54 12:43:42
]
เชียงใหม่ เชียงใหม่ เชียงใหม่
เมืองที่นึกอยากจะไปก็ไป
ไปสะดวกดาย
ไปง่ายมาก
ไปด้วยสายการบินราคาประหยัดทั้งหลาย
ไปเดินไปดูไปแดกไปดื่ม ทำเหมือนที่เคยไป ...แทบทุกครั้ง
เริ่มแรกจากผู้ร่วมขบวนการเพียงสาม แตกหน่อเพิ่ม เป็นห้า เป็นหก เป็นเก้า และอาจจะอีกกว่านั้นหากวันเวลานัดหมายเลื่อนออกไปได้อีก
แผนเดิมแค่เดินดูแดกและดื่ม แค่นี้ก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อนเอาหัวนาบหมอนกันแล้ว
จะไปเดินนั่น จะไปดูนี่ จะไปแดกตรงนี้ แล้วจบลงที่ดื่มตรงนั้น ปรับเปลี่ยนเส้นทางและจุดหมาย จนเป็นที่พึงพอใจ ลงตัวดีมาก
...กระทั่งผู้ร่วมทริปนางหนึ่งเสนอแทรกหมายใหม่ขึ้นมาอย่างกระทันหัน !!!
เพียงแค่เธอเอ่ยปากถึงสถานที่นั้น ยังมิทันไล่ไปถึงรายละเอียดตามหลัง
ฉันรีบกระโดดงับเพียงเสี้ยววินาทีไม่มีหยุดคิดแม้แต่น้อย
ฉันจะไป ฉันจะไป ฉันจะไป!!!
ให้งดหมายอื่นๆที่เตรียมการไว้ทั้งหมด ฉันก็ยอมงดเพื่อจะไป
ให้ออดอ้อนวิงวอนเพื่อนร่วมทางที่เหลือด้วยมารยาสาไถย ฉันก็จะยอมทำ
และถ้าใครอิดออดไม่ยอมไป...ฉันจะจับพวกมันมัดแขนมัดขาเอาผ้าอุดปากแล้วลากขึ้นรถไปกับฉันในทันใด
......ก็ฉันอยากไป !!!
................ให้ตายเถอะ !!!
.......................นี่ฉันจะได้ไปสวนทูนอิน !!!
เป็นครั้งแรกที่มีอาการแบบนี้ก่อนออกทริป
....คล้ายๆกับอิสาววัยกำดัด ริมีนัดกับไอ้หนุ่มคนที่ถูกใจ
ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ระทึก ประหม่า เร่งวันเร่งเวลาให้มาถึงเร็วไว
[23 ก.ค. 54 12:55:03
]
เพิ่งกลับมาจากแม่ริมเหมือนกันค่ะ
ทีแรกกะว่าจะไปที่นี้เหมือนกัน
ไปๆมาๆพลาดซะงั้น
รอชมบรรยากาศสวนทูนอินด้วยค่ะ ^^
[23 ก.ค. 54 12:57:34
]
วันศุกร์ที่แปด เดือนเจ็ด ปีสี่ห้า รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในห้องเล็กๆ
แสงจากภายนอกทะลุกระจกสีแบบโบราณเข้ามาพอให้เห็นเงาตะคุ่มของสรรพสิ่งภายใน กลั้นใจลุกขึ้นมาอาบน้ำอุ่นจัด
ตื่นๆๆๆ วันนี้นัดหมายสำคัญนะเฮ้ย กรุณาอย่าทรยศ ฉันออกคำสั่งกับร่างกาย
Micasa Guest House ท่าแพ ซอยสี่
ฉันชอบนอนที่นี่ เล็กดี และไม่ใคร่จะมีคนไทยเข้าพัก
ใกล้กาด ใกล้ร้านกิน ใกล้ร้านซื้อ ใกล้ร้านซักผ้า และราคาสบายกระเป๋า
จะว่าไปแล้ว การเที่ยวเชียงใหม่ในแบบของฉัน ต้องการแค่น้ำอุ่น ทุกมื้ออาบ ส้วมแบบโถนั่งราบ พร้อมสายฉีดชำระทุกมื้อขี้
มีเตียงนอนไม่ปวดหลัง และสัญญาณเน็ตไร้สายความเร็วสูง ...แค่นี้ฉันก็พอใจ
ขี้! ...ฉันกังวลอยู่ว่าคำนี้จะหยาบเกินไปสำหรับผู้อ่าน ! หวังว่าคงจะไม่ ?
ฉันไม่ชอบวัฒนธรรมส้วมจากฝรั่ง ของโรงแรมใหญ่ๆหลายแห่งในไทย
ไปค้างอ้างแรมแบบนั้นทีไร เจอแต่กระดาษม้วนสำหรับเช็ดทำความสะอาด
น้อยมากจะได้พบสายชำระเหน็บไว้ข้างโถส้วมให้กระโดดโลดเต้นดีใจ
เอ๊ะ... หรือนี่จะเป็นข้ออ้าง ของพวกองุ่นเปรี้ยวไม่อยากกระเป๋าฉีกกันละนี่
คุณคิดว่าอย่างไร....
เรื่องขี้กับฉันเป็นเรื่องสำคัญ ฉันขี้เป็นประจำทุกๆวัน สองเวลา หลังตื่น และก่อนนอน
ปวดขี้ก่อนอาบน้ำมักไม่เป็นปัญหาถ้าไม่มีสายฉีด
ก็แค่ไปยืนควักล้วงให้สายน้ำและเมือกสบู่ทำหน้าที่เหมือนเช่นเคย พร้อมกันไปกับการขัดสีร่างกาย
ต่อเมื่อยามอื่นนั่นแหละ เผลอกินเกินจนปวดขี้ ใครจะมีเวลาถอดเสื้อผ้าเอาตูดยื่นใส่น้ำได้เล่า
อย่างดีก็เพียงคว้ากระดาษนุ่มพับทบ ชุบน้ำให้ชุ่ม แปะและซับซ้ำไปซ้ำมา กระนั้นก็ยังคิดไปเองว่ายังมีคราบเหลือคาร่องรูอยู่ดี
[23 ก.ค. 54 12:58:03
]
อุณหภูมิแดดบอกผ่านมาทางผิวหนังโดยไม่ต้องแหงนหน้ามองตะวัน เป็นสัญญาณให้รู้ว่าสายมากแล้ว
ปิสาจสุราสามตนเดินละห้อยละเหี่ยจากที่พัก พิษสุราจากคืนก่อนยังตกค้างให้รู้สึกกันถ้วนทั่วจนฉันนึกสมน้ำหน้าตัวเอง
และเผลอปาก กล่าวหยอกเย้าสมน้ำหน้าอีกสองปิศาจร่วมทางในบางขณะ
เราประคองร่างบอบช้ำออกย่ำกาดหาของรองท้องพอไม่ให้กระเพาะทรยศ
หกมือหยิบจกอาหารเมืองจากถุงปลาสติกหูหิ้ว เป็นพัลวัน พลางสายตาสอดส่ายแหวกเจาะ เสาะแสวงของฝาก
....หมายใจจะไปเป็นกำนัลแด่มาดามวารินชำราบ
หมุนซ้ายหมุนขวา หาของต้องใจไม่ได้ สุมหัวปรึกษา แล้วพากันมุ่งหน้าไปสันป่าข่อย ได้ซาลาเปาวิกุลมาห่อใหญ่
ร้านวิกุลพานิชย์แต่ก่อนขายอะไรบ้าง ก็คงหลายอย่างอยู่ แต่เดี๋ยวนี้มีซาลาเปาเป็นของขึ้นชื่อลือชา
ซาลาเปาบ้านนี้เนื้อแน่น หนัก หนึบ มีไส้เค็มซึ่งเป็รไส้หมู ไส้ครีมสีเหลืองสวย และไส้ถั่วดำแบบโบราณ
มีขนมจีบลูกเขื่องขายด้วย เป็นของกินคู่กับซาลาเปา
อยากซื้อแบบไหน เชิญระบุความต้องการพร้อมจำนวน ซาลาเปานึ่งร้อนๆจะย้ายจากซึ้งมาบรรจุในถุงกระดาษสีน้ำตาล ...ดูขลังดี ฉันชอบจริงเชียว
ฉันไม่ชอบไส้หวาน ดังนั้นซาลาเปาที่ฉันกินได้มีไส้เดียว
ก่อนกินจะลอกแป้งหนาๆออกเสียบ้าง เหลือพอหุ้มไส้หมูให้รู้ว่าเป็นซาลาเปา นี่ถ้าคนทำมาเห็นเข้าคงเสียใจ แย่
หิ้วซาลาเปาพะรุงพะรังออกจากร้าน มีีทั้งเป็นของฝากและไว้กินกันกันเอง
เสร็จกิจปิดจุดหมายแรกเมื่อใกล้เพล
กระทืบคันเร่งออกจากร้านวิกุล รีบรุดไปหมายที่สอง
เพื่อสงบอารมณ์เป็นเบื้องต้น ......ที่วัดอุโมงค์
[23 ก.ค. 54 12:59:15
]
ที่วัดอุโมงค์นี้ คณะพุทธนิคม ได้ริเริ่มก่อตั้งสวนพุทธธรรม ตามอย่างการจัดตั้งแบบสวนโมกข์ เพื่อใช้เป็นแหล่งเผยแผ่ธรรมะที่เชียงใหม่
ปากทางเข้าอาณาบริเวณ มีป้่ายใหญ่ ทำเป็นผังบอกตำแหน่งต่างๆของสถานที่สำคัญภายในวัด
ซึ่งการจัดวางสิ่งปลูกสร้าง ก็เป็นไปเช่นเดียวกับสวนโมกขพลาราม
ผู้คนมากมายหิ้วภาชนะต่างแบบ แยกย้ายไปขึ้นพาหนะของตน
รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน เคลื่อนหายพ้นไปจากวัดทีละคันสองคัน
วันนี้วันพระ ดูเหมือนเขาเสร็จกิจทำบุญกันแล้ว
คงเหลือแต่เพียงเราสาม กับเสียงของความเงียบ
เงียบ สงบ เงียบ สงบ เงียบ !!!
..........................เงียบจนแทบได้ยินความคิดของตัวเองทะลุออกนอกหัว
[23 ก.ค. 54 13:01:11
]
กำหนดรวมพลกันก่อน จึงจะไปตามนัดหมายที่สวนทูนอินตอนบ่าย กึ่ง
กระชั้นเข้ามาทุกนาที เข็มนาฬิกาไม่หยุดเดิน
....ที่สุดก็พร้อมหน้า !
จากเชียงใหม่มุ่งสู่ แม่ริม-สะเมิง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่โป่งแยง-ผานกกก แล่นไล่ไปตามถนนหมายเลขเท่าไหร่บ้าง ฉันจำไม่ได้ เสียแล้ว
ก็ หนทางนั้นไม่มีใครรู้ นอกจากเพื่อนสาวนางหนึ่ง ผู้ซึ่งละทิ้งตำแหน่งอาคัณตุกะแปลกหน้า ไปเป็นขาประจำของบ้านนี้ มาเป็นเวลาพอสมควร
กระนั้นก็ตาม เมื่อใกล้จุดหมาย ยังต้องจอดหยุดนิ่งอยู่ตรงทางแยกเล็กๆ แล้วต่อสายแจ้งปลายทาง ให้ส่งสารถีรถเครื่องออกมารับช่วงนำไปอีกเป็นต่อท้ายสุด
....กว่าจะถึง !
จากถนนใหญ่ หนทางสู่สวนทูนอินนั้น คนไม่คุ้นอย่างฉันว่าลึก
นึกถึงตอนอาว์ปุ๊ต้องออกมาฟอกไตแต่ละคราวแล้วช่างน่าเหนื่อยแทนเสียจริง
ไหนจะช่วงไม่สบายครั้งสุดท้ายอีก.....
...ระยะทางระหว่างเมืองกับป่าเขา !
[23 ก.ค. 54 13:02:55
]
ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ
ไม่เคยมีโอกาสไปเยือนสวนทูนอินซักครั้ง
TURN ON , TUNE IN , DROP OUT!
[23 ก.ค. 54 13:03:44
]
ใจเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อมาดามวารินชำราบยืนอยู่ตรงหน้า
นี่คือคู่ชีวิตของพญาอินทรีแห่งสวนอักษร นี่คือหนึ่งในตัวละครที่ฉันปรารถนาจะพบ
ฉันรู้จักเธอผ่านแค่ตัวอักษร ....บัดนี้เธอมายืนอยู่ตรงหน้า
โอ... บัดนี้เธอมายืนอยู่ตรงหน้า
ฉันยื่นส่งของฝากไปให้ จับจ้องแต่เธอไม่วางสายตา มองเห็นมุมปากทั้งสองคลี่ขยับโค้งปรากฏเป็นรอยยิ้ม
...ยิ้มของมาดามวารินำราบสุดแสนละมุนละไม คำกล่าวขอบอกขอบใจออกจากปากของเธอ
....ไม่ได้กินมานานแล้ว เพราะไม่ค่อยได้ลงไปในเมือง เธอว่ามาอย่างนั้น
ยิ้มของฉันเริ่มขยายกว้างใหญ่ แทบทะลุออกจากข้างในอก
หัวใจฉันยิ้มให้ท้องฟ้า
หัวใจฉันยิ้มให้ยอดไม้
หัวใจฉันยิ้มให้ใบหญ้า ...และเผื่อไปถึงผีเสื้อที่บินผ่านมาเสียด้วยซ้ำไป
เชิญค่ะ เชิญ ลงมาทานของว่างกันตรงนี้ก่อน .... เสียงของเธอกระตุกสติสตังกระเจิดกระเจิงของฉันให้มาอยู่ในปัจจุบันขณะ
เราทุกคนต่างพร้อมใจก้าวเดิน ไปยังตูบหลังน้อย
เหมือนลูกไก่โข่ง... ทั้งสิบกว่าตัวย่ำเท้าชักแถวตามหลังเธอต้อยๆ เหลียวหน้าเหลียวหลังชะแง้ชะเง้อ ชี้ชวนกันดูนี้นั่น
พลางเดินตามเสียงเรียกของแม่ไก่ใจดี อย่างไม่ยอมให้ห่างสายตา
[23 ก.ค. 54 13:10:44
]
น้ำเสาวรสสีสวย กับม้าฮ่อสีสด ทยอยส่งผ่านมือแต่ละคนจนครบ
บทสนทนาเพื่อลดอาการเก้อกระดากระหว่างกันย่อมไม่พ้น ถึงชื่อและที่มาของอาหารชนิดนี้
มาดามวารินชำราบอธิบายอย่างละเอียดละออด้วยน้ำเสียงนุ่มเนิบ
..... เธอใช้สรรพนามแทนตน ว่าแม่
และเพียงไม่นาน เราทุกคนต่างเรียกขานเธอว่าแม่เช่นกัน
.................................แม่ติ๋ม
[23 ก.ค. 54 13:13:09
]
วงสนทนายังยืดเยื้อ
ฉันขอตัวผละมา ออกเดินดูสารพันใบสีเขียวหลากรูปทรงและสารพัดดอกประดับสลับกิ่งก้าน
จะว่าไปเป็นหลายต้นหลายดอกคุ้นเคยจากที่อื่น แต่มันสุดแสนจะตื่นใจเมื่อคิดไปว่า ณ ที่แห่งนี้คือที่แห่งนั้น ที่ซึ่งเคยสัมผัสผ่านจากตัวอักษร
แว่วเสียงฝีเท้าย่ำตามหลังมาไม่ห่าง และที่ปรากฏตรงหน้าคือเรือนหลังน้อยๆ
.....นี่ไงคะ ห้องทำงานของพ่อ แม่ติ๋มมาบอกอยู่ข้างๆแต่เมื่อใดไม่รู้
ผนังห้องตรงที่ยืนอยู่เป็นกระจก
ฉันยื่นหน้าจนจมูกแทบทิ่มกระจก
สองมือฉันแปะทาบอยู่ที่กระจก
กระจก
กระจก
กระจก
หากเป็นไปได้ ฉันอยากแทรกตัวทะลุกระจกเข้าไปอยู่ในนั้นทันทีทันใด
น้ำตา
น้ำตา
น้ำตา
บางครั้งต่อมน้ำตาก็ทำหน้าที่ของมันเองโดยเราไม่ทันรู้ตัว
ปล่อยให้คนอื่นๆเดินตามแม่ติ๋มไปก่อน เพราะต้องการซ่อนน้ำตาที่กำลังจะหยดไหล
หนังสือ
หนังสือ
หนังสือ
ในเรือนหลังน้อยนี้ ฉันมองเห็นเป็นห้องซึ่งอัดแน่นไปด้วยหนังสือ ไม่มีสมาธิพอจะสังเกตสิ่งอื่นได้
....รีบสูดหายใจ ผละเดินออกมาก่อนจะร้องไห้จนเสียกิริยา
[23 ก.ค. 54 13:15:49
]
ขึ้น
ขึ้น
ขึ้น
ลง
ลง
ลง
ลัดเลาะไปตามไหล่เขา
ซ้ายมือคือบ้าน ขวามือคือลำธาร ฉันกำลังมุ่งหน้าสู่โต๊ะอาหารกลางสวน
เมฆฝนบางๆคลุมทั่วฟ้า เราช่วยกันภาวนา ฝนจ๋าอย่าเพิ่งเท
ขอผ่านมือสำคัญ ก่อนเถิดหนาพระพิรุณเจ้าข้าเอย
[23 ก.ค. 54 13:17:16
]
กินข้าวพร้อมหน้า มีแม่ติ๋มคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง
...นั่นชิมหรือยัง ...นี่ลองหรือยัง
อาหารของที่นี่ ไม่เหมือนกับภัตตาคารร้านใดในโลก ซ้ำยังมีอยู่ไม่กี่อย่าง
บ้างเป็นของที่อาว์ปุ๊ชอบกิน และบ้างเป็นอาหารเก่าแก่ประจำครอบครัว
วันไหนแม่ติ๋มจะปรุงสิ่งใดขึ้นโต๊ะ อยู่ที่ว่ามีวัตถุดิบอะไรในช่วงฤดู มาให้หยิบจับ
เนรมิตรายการ หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนมาให้ได้ลองลิ้มกัน
......เหมือนเวลาที่เรากลับบ้าน แล้วแม่เตรียมอาหารไว้รอท่า อย่างไรก็อย่างนั้น
[23 ก.ค. 54 13:19:52
]
คิดถึงอารงค์ มาครับ ตามไปชมสวนทูนอินด้วยคนครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[23 ก.ค. 54 13:19:56
]
ทานเป็นไหมคะ ปลาแห้งแตงโม.... แม่ติ๋มถามไถ่
คงเป็นเพราะเห็นสีหน้าประหลาดใจของหลายๆคนเมื่อเห็นแตงโมเนื้อแดงรูปทรงประหลาดวางเรียงอยู่ในจาน ขนาบข้างด้วยอาหารคาวชนิดอื่นๆ
ฉันนึกถึงย่า.....
ย่าใช้ช้อนสั้นตักเนื้อแตงโมเป็นอย่างนี้แหละ แต่ไม่ได้กินคู่กับปลาแห้งยีผัดเคล้าน้ำตาลและหอมเจียวเหมือนอย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้า
ย่ากินข้าวกับผลไม้รสอ่อนๆ ....แตงโม มะม่วงสุก จิ้มน้ำปลา
กินแล้วชื่นใจดี แก้เบื่อกับข้าว ...ย่าว่างั้น
[23 ก.ค. 54 13:21:43
]
... การปรุงน้ำพริกแกงส้มไม่ยุ่งยากมากกว่าการคะเนจำนวนพริกแห้งเท่านั้นเท่านี้ ฝัก
หัวหอมแดง หัวกระเทียม กะปิ เกลือ ถ้าชอบกระชายก็ปลิออกจากเหง้าสองสามแง่งเอาลงโขลกด้วยกัน
รสของแกงส้มระบุว่าเปรี้ยวนำโดยเปรี้ยวส้มมะขามเปียก เค็มน้ำปลาดีหมักกินเองในไหบนนอกชาน และเหลื่อมหวานแผ่วบางพอเป็นกิริยาว่าหวาน
รสอันสมบูรณ์แบบระบุต่อมาว่า
พริกแห้งบางช้าง (ผิวฝักเลื่อมแวววาว)
หัวหอมแดงหัวกระเทียมสวนดำเนินสะดวก (หลักหก)
กะปิแม่กลอง
น้ำตาลปึกเมืองเพชร
เกลือเมืองสมุทร
สินค้าเหล่านี้เดินทางมาถึงอำเภอโพธารามมโดยรถไฟและเรือไอ
... ผมคุ้นเคยและเรียนรู้รสแกงส้มของยาย!
...........................................
บางตอน จาก “เงาของเวลา”
[23 ก.ค. 54 13:25:05
]
โต๊ะกลางสวนในวันนั้น มีหมูอบอย่างที่อาว์ปุ๊ชอบกิน แกงส้มเปลือกแตงโม ไข่ยัดไส้ ยำผักกูด ปลาแห้งแตงโม
และขนมหวาน ซึ่งฉันเลือนๆไปแล้วว่าเป็นอะไร
มีน้ำดื่มในเหยือกใส เป็นน้ำแร่เย็นจากธรรมชาติ
SAP-E-LEE DELICIOUS
ข้าวนี่เราปลูกเองนะคะ... แม่ติ๋มบอก ตอนที่ยกข้าวเหนียวมูนมาเสริมทัพของหวาน
ฉันตักแบ่งมาใส่จาน พร้อมกับหน้าปลาแห้ง
ข้าวเหนียวมูนของภาคกลาง ทางเหนือเรียก ข้าวมัน
ถึงบรรทัดนี้ ...สารภาพตามตรง !
ลิ้นฉันแทบไม่รู้รสอาหาร ตักโน่นนี่เข้าปาก เคี้ยว กลืน อย่างเคยชิน
ใจมัวจดจ่อกับทุกคำพูดที่แม่ติ๋มบอกเล่า ...ล้วนสิ่งละอันพันละน้อย ประกอบเชื่อมเข้าหากัน ให้เห็นภาพของอาว์ปุ๊ชัดเจนขึ้น กว่าเดิมมากมายนัก
[23 ก.ค. 54 13:27:36
]
แม่คะ...... อยากเห็นห้องทำงานของอาว์
รวบรวมความกล้าก่อนเอ่ยปาก
แม่ติ๋มนิ่งไปชั่วอึดใจ แล้วเดินนำไปยังห้องนั้น
“แม่ยังทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ที่เดิมนะ เหมือนกับตอนที่พ่อยังอยู่ ....เหมือนเขายังไม่จากเราไปไหน ใจเรานี่คิดถึงเขาตลอดเวลา”
สองหน่วยนัยน์ตาของแม่ติ๋มมีหยดน้ำวาวๆเอ่อจนแทบล้นออกมา
ฉันยืนอยู่มุมห้อง มองไปที่เก้าอี้ว่างเปล่าหลังโต๊ะทำงาน
สองอารมณ์ปะทะกันอึงอลอยู่ข้างใน
ฉันได้ยืนอยู่ตรงนี้ ฉันดีใจ
ฉันได้ยืนอยู่ตรงนี้ ฉันเสียใจ
น้ำตาฉันไหลออกมา
[23 ก.ค. 54 13:29:22
]
ที่สวนทูนอิน ลมยังพัดหยอกยอดไม้ ผีเสื้อกระพือปีกเย้ากระไอแดด
.............แต่เวลาเหมือนหยุดนิ่ง
เราย้ายวงสนทนาไปเรื่อยๆ
ข้างบ่อปลาคาร์ฟฝูงมหึมาตัวอ้วนพี
ใต้ชายคารอบเตาซึ่งใช้เป็นที่ล้อมวงผิงไฟในบางค่ำคืนอันเหน็บหนาวของเหล่าผู้มาเยือน
แม้แต่ระหว่างทางเดิน ...เราก็คุยกัน
ฉันมองเห็นเงาพญาอินทรีวูบไหวอยู่ทั่วบ้าน
อดีตพรั่งพรูผ่านปากคำของแม่ติ๋ม
เรื่องราวลื่นไหล และชะงักไปบ้างเมื่อบางอย่างในคำพูดย้อนกลับกระทบใจเธอ
เราทุกคนนิ่งฟังดังถูกมนต์สะกด เราถูกสะกดด้วยความรัก
ความรักที่เธอมีให้เขา
มากมายมหาศาลเกินกว่าจะใช้คำใดมาอธิบาย
ฉันมองเห็นความรักและความเศร้า เหมือนกับที่ฉันมองเห็นเงาพญาอินทรี
...แน่ละ มันวูบไหวอยู่ทั่วบ้าน
เหล้าบ๊วยปรุงเองอายุห้าปี ยกมาวางตั้ง
หอม และหวาน ....มีอดีตหมักบ่มรวมอยู่ภายใน
ลูกบ๊วยจากต้นในสวน คัดเลือกอย่างพิถีพิถัน
ปรุงเองตามสูตรที่เพื่อนชาวต่างชาติของอาว์ปุ๊ให้มา
เขาเคยกลับมาชิม และชื่นชมรสชาติของมัน
ยังมีเหลืออีกไม่มาก ตุ่นกัดกินรากบ๊วยยืนตายคาต้น
..... ไม่มีลูกบ๊วยอีกต่อไป
แม่ติ๋มบอกพวกเรา
ฉันยกจอกใสใบน้อยจรดริมฝีปาก ละเลียดจิบอย่างตั้งใจ
หอม และหวาน ฉันดื่มกินอดีตจากเหล้าบ๊วยจอกนั้น
[23 ก.ค. 54 13:31:25
]
มาดามวารินชำราบ ผู้หญิงที่น่ารักใคร่ ผู้มีเสน่ห์ปลายจวักไม่เป็นรองใคร
สุมาลี วงษ์สวรรค์ ผู้หญิงอ่อนหวาน นุ่มนวล ผู้เป็นแม่ของบ้านอย่างแท้จริง
คงไม่มีใครที่รู้จัก ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ แล้วไม่รู้จักเธอ
มาดามวารินชำราบ อยู่ในงานเขียนของเขา
สุมาลี วงษ์สวรรค์ อยู่ในชีวิตของเขา
งดงามทั้งภายนอกและภายใน รู้รอบและรอบรู้
ต้อนรับขับสู้ผู้มาเยือนไม่ขาดตกบกพร่อง จนเป็นที่เลื่องลือในหมู่ญาติน้ำหมึกของ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์
เป็นเช่นนั้นตลอดมา และจะเป็นตลอดไป
ฉันไม่แปลกใจที่อาว์ปุ๊บอกเธอไว้ว่า เธอคืออวัยวะที่สามสิบสาม
ผู้หญิงคนนี้
...ฉันยอมศิโรราบ ให้เธอ ทั้งหมดของหัวใจ
.
[23 ก.ค. 54 13:35:27
]
สวนทูนอินยินดีต้อนรับทุกท่านที่มาเยือน ขอเพียงนัดหมายล่วงหน้า
และโปรดมอบค่าประสบการณ์น่าจะจำมิรู้ลืมก่อนจะจากลา ในราคาปัจจุบันตั้งไว้ สี่ร้อยบาทถ้วน
เชิญ !
ขอเชิญหมู่ภมรแห่งสวนอักษร
ขอเชิญสาธุชนทั่วหล้า
ขอเชิญท่านมา ....คว้าเงาพญาอินทรี !
[23 ก.ค. 54 13:36:56
]
อ่านจบอิ่มเอมว่ะ อิ่มทั้งความรู้สึก และสายตา
จากคุณ : เจ๊มาเองจ้ะ
[23 ก.ค. 54 14:50:46
]
อ่านไป ใจเต้นตาม
จะพยายาม หาโอกาส ไปซักครั้ง ให้ได้
ขอบคุณกระทู้ดีๆ ค่ะ
[23 ก.ค. 54 14:53:32
]
กิ๊บหมดหนะค่า ไปแจกในทู้หอยทากของตัวเองหมดเกลี้ยงเลย
เอา
แทนนะคะ
อ่านแล้วอิ่มอกอิ่มใจ
แอบๆน้ำตาจะไหล
แอบๆนำ้ลายไหล
แอบๆไปรินเหล้าบ๊วยอุเมชุมากิน 1จอก 
คิดถึงหนังสือเรื่องอะไรน้า...เมนูบ้านท้ายวัง...โครงกระดูกในตู้กับข้าว
อ่านแล้วยิ่งอยากไปมากมากกก
ปีที่แล้วขับรถผ่านก็ได้แต่ชะเง้อคอยืดคอยาว
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ
[23 ก.ค. 54 15:22:54
]
ขอบคุณครับสำหรับรีวิวดีๆสถานที่ยอดเยี่ยมของนักประพันธ์ที่เป็นตำนาน ที่ห่างไกลจากใต้ถุนป่าคอนกรีต ...ด้วยความระลึกถึงครับ
จากคุณ : Red Fox
[23 ก.ค. 54 15:24:18
]
ขอบคุรสำหรับข้อมุลและรูปนะคะ
[23 ก.ค. 54 16:02:42
]
เดือนหน้าจะตามไปมั่ง
ถ้ามีวาสนาคงได้จิบเหล้าบ๊วยซักจอก!
[23 ก.ค. 54 16:23:18
]
หนึ่งในผู้ร่วมทริปเดินทาง ตามเงาพญาอินทรี
อาหารเรียบง่าย แต่หาทานยาก อิ่มอร่อยในรสชาติ และอารมณ์ที่ได้ละเลียดกิน ริมลำธาร ใต้หมู่ไม้ใหญ่
ฟังแม่ติ๋ม เล่าเรื่องมากมาย ด้วยความสุข เหมือนเวลาหยุดลงตรงนั้นจริง ๆ
เหล้าบ๊วย รสนุ่ม ที่เคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก จอกหนึ่ง จอกสอง จอกสาม.....
เย็น.....ทั้งบ้าน ทั้งน้ำใจ จากผู้ต้อนรับ
ตื้นตันใจ....ที่ได้เห็น ห้องทำงานของ นักเขียนในดวงใจ
ถ้ามีโอกาส คงได้กลับไปเยือนอีกครั้งครับ
[23 ก.ค. 54 17:16:19
]
ขอบคุณมากๆครับ
จากคุณ : คุณชายชอบเที่ยว
[23 ก.ค. 54 20:44:18
]
คห3ลุงก็ชิงชัง รังเกียจมากเลยกะที่พักที่ห้องน้ำไม่มีสายชำระนี่นะ
ฝรั่งมังค่าเค้าเมืองหนาวใช้สายชำระอาจสะดุ้งเฮือกได้ แต่ก็น่าจะทำระบบน้ำอุ่นน้ำเย็นรองรับก็ได้นี่นาไหนว่าเมืองนอกเมืองนาไฮเทคกันนัก
แต่พี่ไทยเมืองร้อน ร้อนมาก ร้อนที่สุดนี่ซิ ขอสายชำระให้เย็นๆใจหน่อยเถอะ
บ่นไรเยอะแยะเนี่ยเรา
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ
[23 ก.ค. 54 20:45:32
]
น่าไปเยี่ยมเยือนจริงๆค่ะ รีวิวได้สวยงามและละเอียดอ่อนจริงๆค่ะ
ขอบคุณนะคะ
[23 ก.ค. 54 20:47:39
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
จากคุณ : tonhok
[23 ก.ค. 54 21:01:39
]
โอ้ว ว๊าววว อู้วววว..
[23 ก.ค. 54 23:14:43
]
สุดยอดเลยฮะ
อ่านแล้วมันละเมียดดีจัง ชอบบบบบบบ ^ ^
[23 ก.ค. 54 23:16:00
]
ภาษาสละสลวยมาก อาหารก็น่ากินมาก...ขอบคุณค่ะที่เอามาฝากกัน
[23 ก.ค. 54 23:17:59
]
รีวิวนี้ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะ
หนูช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ไว้ให้แทนคำขอบคุณนะคะ
[24 ก.ค. 54 00:12:22
]
โอ้ ชอบมากๆ
จากคุณ : boy next door
[24 ก.ค. 54 20:43:19
]
ขอบคุณมากค่ะ
ดูรูปแล้วหิวเลย
[25 ก.ค. 54 00:05:12
]
มาซาบซึ้ง อารมณ์อันสุนทรีย์ของ จขกท ไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้ง ต่อ กี่ครั้ง ก็ยังรู้สึกดี ขอบคุณนะคะ ที่นำเรื่องดีๆ มาแบ่งปัน 
[25 ก.ค. 54 07:38:49
]
อยากไปมานานแล้ว ไว้ต้องหาโอกาสไปซะที
จากคุณ : debby the gunner
[25 ก.ค. 54 10:27:50
]
ขอบคุณมากๆครับ
จากคุณ : LIFE AFTER DEATH
[25 ก.ค. 54 11:41:39
]
น่าไปเยือนมากๆ ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
จากคุณ : kittscake
[25 ก.ค. 54 11:56:43
]
ธรรมชาติมากค่ะ ^^
จากคุณ : umi_chan_2
[25 ก.ค. 54 13:37:20
]
log in มาเฉพาะกิจเลยนะเนี่ย
ขอบคุณค่ะ ป้าปอ
คิดถึงเมืองไทยจริงๆ
[25 ก.ค. 54 14:27:05
]
อยากขึ้นไปครับ ใกล้บ้านแค่นี้เอง
แต่กลัวถ้าไปเห็นแล้ว จะกลั้นน้ำตาไม่อยู่อ่ะครับ.......
[25 ก.ค. 54 16:24:57
]
ครั้งแรกที่ได้ไปเยือน ภาพมาดามวารินชำราบนั่งยิ้มละไมข้างๆพลางกุมมือพญาอินทรียังตริงตราตรึงใจ
ครั้งถัดมาได้มีโอกาสพูดคุยกับป้าติ๋มมากขึ้น กลับลงมาฉันถึงกับละเมอเพ้อหาเป็นอาทิตย์...คิดถึงค่ะ
[27 ก.ค. 54 12:55:30
]