มาต่อแล้วค่ะ วันนี้เรายังอยู่กันที่เวนิส .. ช่วงเช้า เก็บตกบรรยากาศช่วงเช้าอีกนิดหน่อยยย

บ่ายๆต้องเตรียมตัวนั่งรถไฟยิงยาวเข้าสวิสเซอร์แลนด์กัน ดังนั้นเสบียงต้องตุนกันนิดนึง เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างอะเนาะ

Day5: Venice - Milan - Domodossola - Brig

ตอนวางแพลนกัน .. ก็หาทางว่าจะเข้าสวิสเซอร์แลนด์ยังไงดีให้มันใกล้ที่สุด และจะไปกันยังไง 555

เราพยายามจะไปทางที่ชาวบ้านเค้าไปกันหน่อย เพราะเราเดินทางตอนบ่ายไปถึงค่ำๆ ก็ไม่อยากจะไปทางที่มันประหลาดมากนัก มันก็อันตรายอยู่อะเนาะ

สุดท้ายเลยมาลงเอยที่ Route นี้ และที่สำคัญมีเรื่องให้ลุ้นอีกแล้นนนนน .. เอิ๊กๆๆ

* วันนี้รูปน้อยมากนะคะ เพราะอยู่แต่บนรถไฟ แถมเดินทางช่วงบ่ายถึงค่ำอีกต่างหาก

บรรยากาศตอนเช้าวันที่ที่เวนิส .. ยังเงียบเหงาอยู่เลย อากาศเย็น ร้านรวงยังไม่ค่อยเปิดกันเท่าไหร่ จะมีก็เป็นร้านขายขนมปัง กาแฟร้อน อะไรทำนองนี้

แต่ขอบอกว่าขนมปังย่านนี้ "ไม่อร่อย" เอาซะเลย 555 แข็งโป๊ก สามารถเอาไปปาหัวสุนัขให้บาดเจ็บได้

ดังนั้นเวลาเลือกซื้อ .. แนะนำให้เลือกแนว Croissant หรือ Pie จะกินได้มากกว่าค่ะ

ถ้าไปเลือกแบบแข็งๆ พวกแซนด์วิชของเค้า จะเกิดอาการกลืนไม่ลงได้ เพราะมันแข็งและแห้งมากๆ

ที่สำคัญเช้าๆกินแค่นี้ก็อิ่มได้ค่ะ และไม่แพง :D

สตอเบอร์รี่ที่ตลาดหน้าปากซอยที่พัก .. ลูกโตม๊ากกกกกก แต่เผอิญเราไม่ได้ชอบกินสตอเบอร์รี่ ก็เลยถ่ายรูปมาเฉยๆ อิอิ

ปาดขวาาาาาาาาาาาาาาา

ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ :)

วันนี้ปนๆกันไปนะคะ จำไม่ได้แล้วว่าเดินผ่านตรงไหนก่อนหลัง 555

แต่จำได้ว่าอันนี้น่าจะถ่ายจากบนสะพาน Rialto ค่ะ แดดแจ๋เลย แต่ไม่ร้อนนะคะ เย็นๆ 

ท่าขึ้นลงเรือกอนโดล่าที่มีให้เห็นทั่วเมืองค่ะ .. จะว่าไปแล้วเวนิสก็เป็นเมืองแห่งสีสันเหมือนกันนะ

ตึกรามบ้านช่อง .. สีสันสดใสตัดกับน้ำ ที่เห็นเป็นเมืองแห่งคลอง แต่ขอบอกว่าน้ำไม่เน่านะคะ น้ำสะอาดใช้ได้

ตามมาเลยค่า .. แต่วันนี้นั่งแต่รถไฟน๊า คุณ Salmon Lover

ยังอยู่บนสะพาน Rialto มาดูแบบแนวตั้งบ้าง มีเรือวิ่งไปมาตลอดค่ะ

มารีวิวต่อแล้ว  กำลังรออยู่เลยค่ะ ^_^

ตามไปเที่ยวต่อครับ

หนึ่งประเทศในฝันของลุงไม่ตายก่อนจะไปให้ได้สักครั้ง

เดินไปชะแว่บที่เดิมอีกรอบนึงที่เมื่อวานเราไปมาแล้ว

Campanile - Palazzo Ducale - Piazza San Marco - Basilica of San Marco

เอาแบบใกล้ๆ .. หน่อย

เย้ มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว .. ตามมาเลยค่ะ เตรียมเสบียงมาด้วยนะ วันนี้นั่งรถไฟยาวววววว

คนเยอะแล้วค่ะ .. ขนาดสายๆเองนะ ช่วงที่มาเที่ยวนี่มีหลายแห่งปิดซ่อม แต่ยังดีที่เค้าไม่ปิดทั้งหมด .. เท่าที่สังเกตุเค้าจะทยอยปิดทีละส่วน

จริงๆแล้วก็ดีเหมือนกัน .. ถ้าปิดหมด คงไม่ได้ดูเลย

... ด้านหน้า San Marco

คุณลุงแบกเป้ .. ทำฝันให้เป็นจริงนะคะ จริงๆแล้ว 3 ประเทศนี้ก็เป็นประเทศในฝันเหมือนกันที่ต้องไปให้ได้ แล้วในที่สุดฝันก็เป็นจริงแล้วล่ะ ^_^ มันสวยจริงๆ

อีกมุม .. กับฟ้าใสแจ๋ว

พิซซ่าอันเท่าบ้าน .. เมื่อเทียบกับหน้า อันใหญ่มากกกกกก

ตอนแรกว่าจะจัดมาคนละชิ้น .. แต่เห็นไซส์แล้ว เอ่อ แบ่งกันกินดีกว่าเนอะ 555 สรุปซื้อมาชิ้นเดียวแบ่งกันกิน อิ่มกำลังดี เหลือท้องไว้กินอย่างอื่นได้อีก

พิซซ่าร้อนๆ .. ชีสเยิ้มๆ .. เนื้อขนมปังพิซซ่าก็กำลังดี ไม่ใช่มาแบบแข็งกะเป๊ก นั่งกินกันริมน้ำนี่แหละ ชิวอย่าบอกใคร

ใกล้เวลาแล้วที่จะต้องไบ๋บายเวนิส .. เมืองที่ไม่ได้อยู่ในแพลนตอนแรกเลย แต่สุดท้ายแล้วก็ได้มา แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ

เรากลับไปเอากระเป๋าที่ที่พัก .. อย่างที่รีวิวไว้วันก่อนว่าที่พักดี ที่หลับที่นอน ห้องน้ำดีหมด แต่เสียอย่างเดียวคือ ต้องเดินขึ้นบันไดถึง 4 ชั้น !!!

ด้วยน้ำหนักกระเป๋าที่หนักถึงใบละ 20 โล .. ฮือๆๆ ทำเอาเราเป็นคนแข็งแรงไปเลย มาถึงวันที่ 5 นี่แล้ว ร่างกายไม่ปวดไม่เมื่อยอะไรแล้วค่ะ ถึกทนแล้ว

ลากลงมา 4 ชั้น .. ค่อยๆลงทีละขั้น เดี๋ยวก็ถึง ดังนั้นให้เผื่อเวลาการขนย้ายกระเป๋าด้วยนะคะ จองรถไฟไว้กี่โมง ทุกวันควรจะคอย Recheck & Update Schedule กันก่อน จะได้กะเวลาถูกค่ะ

อธิบายนิดส์นึง เราเป็นผู้หญิงที่ถือว่าตัวเล็ก แต่เราสามารถลาก ยก แบกกระเป๋าใบนี้ได้ + เป้อีก 1 ใบ

เผื่อใครเป็นสาวๆแล้วกังวลว่าจะแบกไหวหรือเปล่า เราว่าไหว ขอให้ใจสู้ 555555555555555 ไม่งั้นคนที่ไปด้วยจะเหนื่อยเป็น 2 เท่า เพราะต้องคอยมาลากให้เราด้วย เดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุกนะคะ

ไปด้วยครับ เคยไปเห็นของปลอมทั้งมาเก๊า และเวกัส ยังไงมันก็สวยของจริงไม่ได้หรอก

นั่งรถไฟยาวๆแบบนี้ จะไม่พูดถึง Route ที่นั่งรถไฟได้ยังไงเนอะ ที่เกริ่นไว้แล้ว Route จะวิ่งจาก Venice -> Milan ไม่แวะเที่ยวเลยนะคะ

แวะเปลี่ยนรถไฟที่ Milan แล้วนั่งยาวไป Domodossola ผ่านชายแดนและเข้าประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่เมือง Brig ค่ะ

ที่วาง Route แบบนี้ เพราะเดี๋ยวเช้า Day6 เราจะขึ้น Zermatt แต่เช้า ดังนั้นที่ที่ใกล้ที่สุดที่จะแวะนอนพักได้ และเดินทางต่อไป Zermatt แบบไม่ย้อนไปย้อนมา คือ Brig

ทั้งหมดนี้ใช้เวลาตั้งแต่ 14.20 - 19.30 กันเลยทีเดียว .. แต่ก็คุ้มได้ชมวิวข้างทางตลอด และที่สำคัญได้ลุ้นกันบนรถไฟอีกแล้ว

ทิ้งไว้เป็นปริศนาว่า .. เราลุ้นอะไรกัน !!!

แวะมาเที่ยวเวนิซด้วยคนนะครับ ภาพสวยๆทั้งนั้น

ใช่เลยค่ะคุณ Coffee Blended  ของทำเลียนแบบ ทำเสมือน ยังไงก็ไม่ได้บรรยากาศเท่า Original จริงๆ

ยินดีเลยค่ะ คุณ inint&anant พาสองคุณนายมาเที่ยวด้วยกันเลยค่า

มาถึง Route ช่วงแรกคือ Venice - Milan จองผ่านเวบ Trenitalia เหมือนเดิม วิธีการจองคร่าวๆหาอ่านได้ในรีวิววันแรกๆนะคะ

เนื่องจากเราซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้า .. ดังนั้นถ้าสังเกตุจะเห็นว่าเราได้ราคา Fare แบบ Mini เกือบหมด

อันนี้ก็เช่นกันจาก Venice ไป Milan ไม่ใช่ใกล้ๆ แต่ได้ราคาตกคนละ 9 EUR เอง สำหรับเราถือว่าถูกมากแล้ว และสะดวกด้วยเพราะซื้อเสร็จก็ปริ้นตั๋วเอาไปใช้ได้เลย ไม่ต้องมาเสียค่าส่งตั๋วอะไรให้วุ่นวาย

ไปถึงสถานีรถไฟ .. สิ่งแรกที่ควรทำคือ ตรวจสอบขบวนรถไฟ ชานชาลา เวลารถออก

ที่สำคัญ Carriage & Seat ที่เราจองมาด้วยว่าอยู่ตู้ไหน ที่นั่งเบอร์อะไร

โดยเฉพาะยิ่งเรามีกระเป๋าใบโตๆด้วยแล้ว .. สิ่งนี้จำเป็นมากนะคะ ถ้าขึ้นผิดตู้ คุณจะต้องไปทุลักทุเลลากกระเป๋าใบเขื่องบนรถไฟ ซึ่งชาวบ้านเค้าก็กำลังขึ้น และมีกระเป๋ามาด้วยเหมือนกัน

มันจะเกิดการจราจรติดขัด และสุดท้ายเราจะไปถึงโบกี้จริงๆของเราช้า และทำให้ไม่มีที่วางกระเป๋าที่โอเคอะค่ะ

วิธีการดู Carriage & Seat .. มีบอกไปแล้วในรีวิววันก่อนๆ หาอ่านดูได้นะคะ ไม่ยาก

ส่วนวิธีการดูว่ารถไฟจะจอดชานชาลาไหน ให้ดูแบบนี้ค่ะ

1. จากรูปตั๋วในคห.ที่ 19 จะเห็นว่า

- เราได้นั่งรถไฟ Eurostar City 9730
- จาก Venezia S. Lucia ไป Milano Centrale
- ออกจาก Venezia S. Lucia ตอน 14.20 น.

ดังนั้นเทียบกับตารางสีเหลืองเด่นเป็นสง่า ที่จะมีให้เห็นทั่วไปที่สถานีรถไฟได้ดังนี้ค่ะ

1.1 หาจากเวลาออกเดินทางก่อน อย่างกรณีนี้ออกเดินทาง 14.20 ก็พุ่งเป้าไปที่ 14.20 เลย จะมีหลากหลายขบวนที่ออกเวลาเดียวกัน

1.2 หาขบวนรถไฟที่ตรงกับที่เราจองมา กรณีนี้ให้หา Eurostar City 9730 เมื่อเจอแล้วจะเห็นสัญลักษณ์ต่างๆ

- รูป 1-2 แปลว่า มีทั้ง 1st Class และ 2nd Class ดังนั้นขึ้นให้ถูกโบกี้นะคะ มีแนะนำไปแล้วว่าดูที่ตรงไหนว่าเป็น 1st or 2nd ในรีวิววันก่อนๆ

- รูปรถเข็น แปลว่าขบวนนี้อำนวยความสะดวกให้คนพิการด้วย ที่เราเห็นๆก็จะมีเช่นว่า พอรถไฟจอด จะมีแผ่นเหล็กยื่นมาเชื่อมต่อกับชานชาลา รถเข็นก็สามารถเข็นขึ้นรถไฟได้เลย หรือบนรถไฟอาจจะมีพื้นที่กว้างโล่งสำหรับรถเข็นคนพิการ เป็นต้นค่ะ

- รูปแก้วน้ำ กับรถเข็น แปลว่าขบวนนี้มีโบกี้ที่เป็น Catering หรือรถเสบียงด้วย เท่าที่สังเกตจะมีทุกขบวนที่เป็นเส้นทางยาวๆ หรือเส้นทางพิเศษค่ะ

1.3 เมื่อเจอแล้วก็อ่านซักนิดว่ามันมีสถานีปลายทางที่เราจะไปอยู่ในนี้หรือไม่ และเวลาที่กำกับอยู่ด้านหลังก็เป็นเวลาที่รถไฟขบวนนี้จะไปถึงสถานีนั้นๆ กรณีนี้สถานีปลายทางของเราคือ Milano Centrale และจะไปถึงเวลา 16.55 ซึ่งจะตรงกับในตั๋วพอดี

1.4 เมื่อถูกต้องทุกอย่างแล้ว .. ให้เหลือบไปดูตัวหนังสือสีเหลืองในวงกลมสีน้ำเงินค่ะ กรณีนี้คือเลข 7 แปลว่าขบวนนี้จะจอดที่ชานชาลาที่ 7

ใกล้ๆเวลาจริงๆ ควรตรวจสอบจากจอแสดงชานชาลาที่สถานีอีกครั้ง เพราะบางครั้งมีการเปลี่ยนชานชาลากระทันหันค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะตรงนะ

** มาอธิบายเพิ่มเติมนะคะ

จากรูปตัวหนังสือสีฟ้า "Torino Porta Nouva" ตัวหนาๆ ตรงนี้คือสถานีปลายทางของขบวนนี้ และเวลาที่ถึงคือ 18.55 น.

ส่วนสถานีตัวหนังสือสีดำ ที่เขียนไว้เป็นสถานีแรก "Venezia Mestre" ตรงนี้คือสถานีที่จะจอดถัดไปจากสถานีที่เราอยู่ค่ะ จะถึงเวลา 14.30 น.

และสถานีตัวหนังสือสีดำ ที่เขียนไว้เป็นสถานีสุดท้าย "Torino Porta Susa" ตรงนี้คือสถานีที่จะจอดก่อนสถานีสุดท้ายของขบวนนี้ค่ะ

ดังนั้นขึ้นให้ถูกฝั่งด้วยนะจ้ะ .. ดูให้ดีๆ

หากคุณไม่ได้ซื้อตั๋วผ่านเนทมา .. แต่ไปซื้อที่สถานี อย่าลืมดูด้วยนะคะว่าต้องเอามา Validate ที่เครื่องสีเหลืองนี่หรือเปล่า

แต่สำหรับตั๋วที่ซื้อผ่านเนทไม่ต้อง Validate แล้วนะคะ กระโดดขึ้นรถไฟได้เลย

ขบวนนี้นี่เอง .. ที่จะพาเราไปสวิสเซอร์แลนด์

"เมืองในฝัน"

Vendor Machine ที่มีให้เห็นทั่วไปตามสถานีรถไฟ แต่ราคานี่บางทีก็อดคูณเป็นเงินไทยไม่ได้ 555

ปล. เคยหยอดเงินซื้อ KitKat กินทีนึง .. เฮ้ย อร่อยกว่า KitKat เมืองไทย เอิ๊กๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่ใจมันบอกแบบนั้นจริงๆ

จาก Venice มา Milan ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.ได้ ด้วยความที่แอบเพลียๆ ก็เลยหลับกันไปช่วงนึง

ใกล้ถึง Milan แล้ว .. เราก็เตรียมตัวไปลากกระเป๋าเตรียมไว้ เพราะ 17.20 ต้องไปเปลี่ยนขบวนขึ้นรถไฟต่อจาก Milan ไป Domodossola อีก

เอาเข้าจริงๆไม่มีเวลามากนัก .. ลงจากรถไฟขบวนที่มาจาก Venice แล้ว เรียกว่าแทบจะวิ่งขึ้นรถไฟอีกขบวนนึงเลย

สายตาต้องไว .. ต้องหาว่าต้องไปขึ้นขบวนไหน แถมเรายังกังวลอีกเรื่องคือ เราไม่ได้ซื้อตั๋ว Domodossola - Brig ไว้ล่วงหน้าด้วยนี่สิ

ตอนแรกตั้งใจจะซื้อที่ Milan แต่เวลาไม่มีทำไงดีนะ ขึ้นรถไฟไปก่อนแล้วกัน ระหว่างรอรถไฟออกจากชานชาลา ก็รีบถามนายตรวจว่า

เราจะไป Brig แต่เรายังไม่ได้ซื้อตั๋วจาก Domodossola - Brig เราจะซื้อที่ไหนได้บ้าง หรือซื้อบนรถไฟได้หรือป่าว?

นายตรวจก็บอกเราเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า .. "I will be right back"

แต่กระนั้น .. เราก็ยังไม่สบายใจ เพราะมันข้ามประเทศด้วย T_T เอาอีกแล้ว จะไม่เจออุปสรรค เรื่องลุ้นระทึกซักวันจะได้ม๊ายยยย

จาก Milan ไป Domodossola ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม. ได้ วิวข้างทางสวย เริ่มเห็นภูเขาหิมะสูงใหญ่บ้างแล้ว แต่เนื่องจากเริ่มมืด และไฟในรถไฟก็เปิด ดังนั้นการถ่ายรูปช่วงเวลาแบบนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะแสงสะท้อนกระจุยกระจายเลย ถ่ายมาให้ตายก็ไม่สวย สุดท้ายเลยนอนเอาแรงดีกว่า กว่าจะถึง Brig

แต่กลับเป็นการนอนที่ไม่สบาย .. กับตั๋วที่ช่วงนึงที่เรายังไม่ได้ซื้อ แล้วไม่รู้ด้วยว่าจะไปซื้อที่ไหนได้อย่างไร?

นายตรวจคนนั้นก็ยังไม่เห็นจะกลับมาเลย .. แง จะโดน ตม. จับไหมเนี่ย

พอถึง Domodossola .. รถไฟขบวนเดิมจอดเทียบชานชาลา

เราสองคนลังเล .. จะเอายังไงดีหนอ ตั๋วก็ไม่มีซื้อบนรถไฟได้ไหม หรือวิ่งลงไปซื้อ แต่เกิดไม่ทันล่ะ รออีกกี่เท่าไหร่ ไม่รู้จะมีรอบอีกหรือเปล่าด้วย นี่ก็เย็นย่ำแล้ว

เอาไงดี .. สุดท้ายตัดสินใจไม่ลง นั่งอยู่ที่เดิมรอนายตรวจชุดใหม่ขึ้นมา ทีนี้รีบถามก่อนเลยว่า เราจะทำยังไงได้บ้าง ยังไม่ได้ซื้อตั๋วมา

นายตรวจตอบด้วยน้ำเสียงชิวๆ .. ให้นั่งไปก่อน เดี๋ยวมา (เดี๋ยวมาอีกแล้วว่ะ จะมาจริงๆปะเนี่ย)

เสร็จแล้วพักนึง .. ก็มีคุณป้ากับผู้หญิงวัยรุ่นขึ้นมา แล้วบอกว่าเค้าจองตั๋วมา เป็นที่นั่งที่เรากำลังนั่งอยู่

แหะๆ .. ทำไงละคะ ลุกสิคะ อนาถมาก ต้องลุกไปยืนตรงที่วางกระเป๋าค่ะ ไม่มีที่นั่ง

อย่างที่บอกขบวนยาวๆแบบนี้ .. ในเวบมักจะบอกว่าต้อง Obligatory Reservation เสมอ

และถ้าเราไม่ได้จองไว้ .. เมื่อมีคนที่เค้าจองไว้ขึ้นมา ต้องลุกให้เค้านั่งค่ะ

เราสองคนไปยืนเก้ๆกังๆตรงที่วางกระเป๋าเดินทาง  .. อย่างกังวลใจ ทำไงดี ทันใดนั้นเหลือบไปเห็น ตม. ทั้งอิตาลี ทั้งสวิสเดินย่างเข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้าไม่มีตั๋วง่ะ

เมื่อต้องนั่งรถไฟข้ามประเทศแบบนี้ .. สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไว้คือ Passport + Ticket และเตรียมตอบคำถามที่คุณอาจจะโดนถามได้

ในที่สุด ตม. ก็เดินมาถึงเราสองคน เรายิ้มให้พร้อมกับรีบชิงพูดไปก่อนว่า เรามาจาก Venice ผ่าน Milan ผ่าน Domodossola เพื่อจะไป Brig

แต่เราไม่ได้ซื้อตั๋ว Domodossola - Brig มา ถามนายตรวจแล้ว นายตรวจก็บอกว่านั่งไปก่อน เดี๋ยวกลับมา แต่ก็ยังไม่กลับมา

คือเอาว่าเราใส่ไปก่อนเป็นชุดเลยอะ 555 กลัวเค้าหาว่าเบี้ยว ขึ้นรถไฟฟรี >_<

แต่สุดท้าย ตม. ถามเราว่า .. นี่มาเที่ยวกัน 2 คนเหรอ เราก็ตอบไปว่าใช่ On Vacation แล้ว ตม. ก็บอกว่าไม่เป็นไร นั่งไปก่อน

ตรวจ Passport เราสองคนแล้ว ก็ถามว่าไหนกระเป๋าเรา เราก็ชี้ๆให้ดู แล้วเค้าก็เดินผ่านเราไป

.. ไปตรวจผู้ชายคนนึง มาคนเดียว ท่าทางพิรุธ ตรวจไปตรวจมา เจอมีดคัตเตอร์ ตม. ยึดไป แถมตรวจรูดๆตามตัวด้วย แต่สุดท้ายก็ผ่านไป ไม่มีไร

เราสองคนงี้ .. ยืนมองมั่ง เหลือบมั่งแบบกลัวไปเลย 555 ตรูมีมีด มีไรติดเป๋าไว้ป่าวฟะ เอิ๊กๆ

ตามมาชมต่อค่ะ อ่านไปลุ้นไปด้วยเลย.. ตอนเราก็เจอเจ้าหน้าที่เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบขึ้นมาพร้อมกับลาบราดอร์สีดำ แต่เค้าก็ใจดีมากๆ ค่ะ พอถึง Brig ก็บอกเราว่า สามารถเปลี่ยนรถไฟได้ที่นี่ แต่รอบที่เราไปนั้น ต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่ Visp จะเร็วกว่าค่ะ เลยไม่ได้ลงไปที่ Brig พร้อมกับเค้า

สถานี Domodossola บรรยากาศสมกับเป็นสถานีตะเข็บชายแดนจริงๆ 555

ใช่เลยค่ะคุณ Blue Whale  ตอนแรกเราก็ชั่งใจว่าจะไปพักที่ Visp หรือ Brig ดี แต่ไม่รู้อีท่าไหน สามีบอกว่า รร. ที่ Brig สะดวกกว่า อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลย

ที่พักพิงของเรา .. หลังจากโดนไล่ที่มา เนื่องจากไม่ได้จองตั๋วมาล่วงหน้า นี่เลยค่ะ หน้าห้องน้ำ 555 อนาถจริงๆ เลยลากกระเป๋าออกมานั่ง แก้เมื่อยไปก่อน

อ่อ แนะนำไว้อย่างนึงนะคะ หากรู้ว่าจะถึงเขตชายแดนจะข้ามประเทศแล้ว ถ้าเลี่ยงได้ให้เลี่ยงการเข้าห้องน้ำไปก่อน

เพราะ ตม. พวกนี้โหดมาก หากเจอว่าห้องน้ำเป็น Occupied ปุ๊ป แกจะทุบประตูอย่างโหดอะ แล้วเรียก ถ้าไม่มีเสียงตอบกลับ ทีสองที ตม. จะมีกุญแจไขประตูห้องน้ำ และเค้าจะไขแล้วเปิดเข้าไปเลยอะค่ะ

ทางทีดี .. อย่าเพิ่งเข้าห้องน้ำตอนที่รถไฟกำลังจะข้ามชายแดนดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน โดยเฉพาะคุณผู้หญิง :D

* หากไม่ทราบว่าตอนนี้อยู่ไหนแล้ว .. ตรงบันไดขึ้น-ลง จะมีหน้าจอบอกว่าเวลาไหนจะอยู่ถึงไหนแล้ว สถานีไหนแล้ว มีภาษาอังกฤษให้เลือก ไม่ยากค่ะ :)

โฮ่ ไปสวิสด้วยคนนะคะ ^^

รูปบางส่วนหลุดไปอยู่ Day6 เราก็ว่ารูปหายไปไหน งั้นขอย้อนนิดหน่อยเนอะ

ป้ายไฟที่ชานชาลา .. ตั้งแต่ Venice โน่นนน ที่ว่าให้เช็ก คือเช็กตรงป้ายนี้ด้วยว่าถูกขบวนป่าว

คุณ LittleEntchen ตามมาเลยค่า .. หาที่นั่งว่างๆเอาเลยนะค๊า จะมีป่าวไม่รู้ อิอิ

ขึ้นมาแล้ว .. ที่นั่งชั้น 2 ก็โอเคแล้วสำหรับเรา นั่งสบายแล้วล่ะ

รถไฟเต็มยังครับ ไปด้วย

เลขที่นั่งชัดเจน .. พร้อมตำแหน่ง ว่าใครนั่งติดหน้าต่าง ใครนั่งติดทางเดิน นั่งให้ถูกนะคะ

คุณ Koon Shy_Tour Dee ขึ้นมาเลยค่า .. กำลังย้อนเวลาพอดี เอิ๊กๆ อย่าเพิ่งงงกัน ทำไมจะเข้าสวิสแล้ว ย้อนกลับไปอิตาลีอีก 555 คนเล่ามึนเอง :P

ปลั้กไฟมีให้พร้อม .. ใช้งานได้จริง ใครติดโน๊ตบุ๊กมา จะชาร์ทมือถือ iPad อะไร จัดไปค่ะ นั่งกันอีกยาว

ที่นั่งพับได้แบบนี้ .. เอาโล่งๆหน่อยก็ไม่ต้องพับลงมาก็ได้ค่ะ

แต่ถ้าจะกินอะไรเล็กๆน้อยๆ .. ก็พับมันลงมา แต่ขออย่าเป็นของที่มีกลิ่นนะคะ เกรงใจคนในรถด้วยเน้อ นิดส์นึง

ห้องน้ำห้องท่า .. คล้ายๆห้องน้ำบนเครื่องบิน

แต่บางขบวนกลิ่นอาจจะไม่ค่อยน่าพิศมัยนักค่ะ .. แอบเจอว่าเหม็นบ้างนิดหน่อย

เรื่องนายตรวจนี่แล้วแต่ดวงนะคะ พี่ที่ทำงานสามีโดนมา ในอิตาลีนี่แหละค่ะ อานเรยย

ถึง Milan ก็เปลี่ยนมาขึ้น EC36 ขบวนนี้ .. สังเกตุว่าสัญชาติจะเป็น SBB CFF FFS ของสวิสเซอร์แลนด์ไปแล้ว วู้วๆ รถไฟใหม่กริ๊ก

ดูตั๋วให้ดีนะคะ .. ว่า 1st Class or 2nd Class ไม่งั้นจะโดนปรับเอาง่ายๆ ถ้าซื้อชั้นสอง แต่ดันไปนั่งชั้นหนึ่ง

ใช่เลยค่ะ คุณ ต้องให้เปลี่ยนสักกี่ที เราว่าแล้วแต่ดวง ปกติไม่น่าจะมาให้นั่งฟรีๆกันอย่างนี้หรอก เหอๆ

สถานีรถไฟมิลาน .. ก่อนจากกัน ยังไม่มีเวลาแม้แต่ละละเลียดอะไรเลย ต้องไปซะแล้ว (ไว้มาอีกรอบดีแมะ ฮ่าๆ)

เรานั่งติดประตูพอดี .. ด้านบนมีบอกสถานีด้วยนะคะ "มิลาโน่ เซนทราเล่"

Carriage 4, Seat 11,13

แต่มันฉลาดกว่านั้นคือ มันบอกด้วยว่า ที่นั่งตรงนี้นั่งจากไหนถึงไหน ที่รู้เพราะแอบไปเหลือบดูของคนอื่น สังเกตุเห็นว่าไม่เหมือนกัน

ดูของเรา .. ก็เลย Display ว่านั่งจาก Milan - Domodossola แทนที่จะเป็น Brig T_T

ชัดๆอีกที

หลังจากผ่านเหตุการณ์ลุ้นๆกับตม. มาแล้ว ..

19.35 น. สุดท้ายก็มาถึงซะที Brig .. การเดินทางอันแสนยาวไกล

.. ชานชาลา 4 จะมีขบวนรถไฟวิ่งไป Domodossola - Milan

วิธีดูป้ายลักษณะนี้ที่ชานชาลา (ถ้ามี)

1. คำว่า Gleis = Binari = Platform = ชานชาลา

2. EC ที่พื้นสีแดง คือ ประเภทของรถไฟ ดูให้ตรงกับตั๋วที่จองมานะคะ

3. Sion - Lausanne - Geneve พื้นสีน้ำเงิน เป็นสถานีหลักๆที่รถไฟจะจอด

4. Sektor = เสาที่สถานีรถไฟ ที่แบ่งเป็น A, B, C, D, ... แล้วแต่ว่าชานชาลานั้นๆจะยาวแค่ไหน ก็จะไล่ไปเรื่อยๆ

และจะมีการระบุว่าโบกี้ที่เป็น 1st Class, 2nd Class, หรือ Catering จะอยู่ Sektor ไหน

จากรูปเนี่ย .. สีเหลืองคือ 1st Class สีเขียว 2nd Class และสีแดงรูปช้อนส้อมเป็น Catering

ถ้าเราจองตั๋ว หรือซื้อ Swiss Pass มาเป็น 2nd Class ก็ต้องเล็งสีเขียวไว้ค่ะ แปลว่าพอรถไฟเข้าจอดในชานชาลาแล้ว เราต้องไปรอที่เสา A ปลายๆถึงเสา B

แล้วมันจะพอดีกับโบกี้ หรือ Carriage ที่เราต้องขึ้น จะได้ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาให้งงนะคะ :)

เนื่องจากเรารู้ว่าเราจะมาถึง Brig มืดๆ ด้วยความที่ไม่แน่ใจในเรื่องของสภาพอากาศ ท้องฟ้า ไม่รู้ว่าจะมืด หรือสว่างแค่ไหน เพราะถึงตั้งทุ่มกว่านินา

เอาปลอดภัยไว้ก่อน .. ก็เลยจองโรงแรมที่ใกล้สถานีรถไฟมากที่สุด ดังนั้นโรงแรมที่ Brig เป็นรร.ที่ดีที่สุดในทริปนี้ ทั้งเรื่องของความสะดวกในการเดินทางจากสถานีรถไฟมารร.

ทั้งเรื่องห้องพัก .. เป็นอะไรที่เริ่ดมากๆ

ที่นอน .. ผ้าห่มเป็นสไตล์สวิสแท้ๆ แต่ดีที่ไม่ได้ให้เราใส่ปลอกผ้าห่มเอง ปูที่นอนเอง เพราะเราเหนื่อยมากแล้ววันนั้น

ดูสิ .. น่านอนมั้ยล่ะ

สนนราคาค่าเสียหายต่อคืน ล่อเข้าไป 119 CHF โอ้วแม่เจ้า อย่าได้ริอาจคูณเป็นเงินไทย สำหรับเราเราว่ามันแพงใช้ได้ทีเดียว 55555

หน้าต่างบานอย่างใหญ่ .. มองออกไปเอ๊ะอะไร

สถานีรถไฟไงล่ะ .. อยู่มันตรงข้ามสถานีรถไฟเนี่ยแหละ เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องออกจากนี่แต่เช้าตรู่ (มากๆ)

ห้องกว้างได้อีก ..

ในเมื่อมาถึงมืดขนาดนี้แล้ว คืนนี้เลยพึ่งมาม่าต้มร้อนๆ หายเหนื่อย ชื่นใจดีนักแล

พรุ่งนี้เราจะขึ้น Zermatt ด้วยขบวนรถไฟขบวนนี้นี่แหละ .. จอดรอแว้ววว

ขอให้ฟ้าใสด้วยเถอะ .. เพี้ยง อิ๊อิ๊

เปิดโทรทัศน์ในห้อง .. อยู่ดีๆก็เจออะไรที่คุ้นตา

อะไรเอ่ย .. สุโขทัยบ้านเรานี่เอง ไปดังถึงเมืองนอกเลยนะคะ น่าชื่นใจ :)

Matterhorn Gotthardbahn .. สีแดงสด

จบแล้วค่า .. สำหรับ Day5 ที่มีแต่การเดินทางด้วยรถไฟ ลาไปก่อนด้วยภาพนี้ เดาได้แล้วใช่ป่าวคะว่า ฟ้าใส หรือ ฟ้าหม่น ^_^

ตอนต่อไป Day6 จะพาไปเที่ยว Zermatt - Interlaken - Lauterbrunnen กัน

ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ ช่วยกันเก็บเข้าคลังกระทู้ด้วยนะค๊า ขอบคุณค่ะ

ตามชมมาทุกตอนเลยนะคะ ข้อมูลเยี่ยมมากๆค่ะ  รูปก็สวยมากจริงๆ ขอถามค่ะ โรงแรมที่ Brig นี่ชื่อ Europe Hotel หรือเปล่าคะ

พิซซ่าชิ้นหญ่าย ๆ น่ากินจังค่ะ ^^

ขอบคุณรีวิวนะคะ

K.สร้อยฟ้าสุวรรณมาลี : ขอบคุณมากครับที่ตามมาชม ถูกต้องแล้วครับโรงแรมนี้ชื่อ Europe ครับ แฟนพันธ์แท้จริงๆ

K.หนูกิตหอ 4 ชาย : ขอบคุณนะครับ

วันนี้ขออนุญาตเข้ามาตอบแทนภรรยาครับ

รีวิวได้ละเอียดมากเลยค่ะ
เล่าได้สนุกมากๆๆ
เห็น Matterhorn แล้วอยากไป

ขอบคุณรีวิวสวยๆ

เพิ่งมีโอกาสตามชม เลยแวะไปชมมาซะครบทุกตอนเชียว เล่าเรื่องสนุกมาก ภาพก็สวยมากเลยค่ะ เลยถือโอกาสเก็บข้อมูลที่อิตาลีไว้ เพราะจะไปเดือนตุลานี้เองค่ะ ยังไม่เริ่มหาข้อมูลเท่าไหร่เลย ไว้คงได้รบกวนถามคำถามทางหลังบ้านนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ แล้วจะรอชม สวิสต่อนะค่ะ ปล. Zermatt เป็นเมืองที่สวยมากๆจริงๆค่ะ เคยไปเที่ยวสวิสตอนสามปีที่แล้วกับสามี ไปเกือบทุกเมืองเลยค่ะ สามีโหวตให้ Zermatt สวยอันดับหนึ่งในใจ ^-^
ปล.กดเข้าคลังให้แล้วค่ะ รีวิวดีๆ ภาพแจ่มๆแบบนี้ ไม่พลาดๆ

เวนิสนี่เป็นเมืองที่น่าไปมากครับต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง
นั่งรถไฟข้ามไปเทศไปเมืองBrig มีเหตุให้ลุ่นระทึกเล็กๆด้วย
น่าสนุกดีนะครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รอตอนหน้าอยู่ครับ

สวยมากๆครับ รอชมตอนต่อไปนะครับ

มาสายตามเคย แต่มาช้าดีกว่าไม่มา 555 ภาพสวยยย มากกครับบ ;)

รีวิว ได้ละเอียดดีจังเลยค่ะ อ่านแล้วมีประโยชน์มาก เอาไปใช้แพลนทริปได้เลย ไว้รอตอนต่อไปนะคะ

ประทับใจมาก ละเอียดสุดๆ อ่านสนุกด้วย
ขอบคุณมากๆค่ะ

สตรอเบอรี่น่ากินมาก  
ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆค่ะ  

ขอบคุณมากค่ะ ทุกคำตอบที่สละ้้เวลามาให้ข้อมูล

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เลยนะคะ .. ตอนใหม่มาแล้วนะ อิอิ ไปถึง Day8 แล้ว หาอ่านกันได้นะคะ

เป็นการเดินทางที่ลุ้นมากๆ เลยนะเนี่ย
ถ้าไปเจอคงไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์ยังไง ^^