ตอนที่สามมาแล้วค่า
เช่นเคย ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนสำหรับกิฟและคอมเมนต์นะคะ
คนเขียนดีใจมากจริงๆที่ผู้อ่านชื่นชอบกันค่ะ

ตอนก่อนๆค่ะ
{ Mneme in Russia } เก้าวันตระการตากับประเทศรัสเซีย 1: St. Petersburg -The Venice of the North
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10735067/E10735067.html
{ Mneme in Russia } เก้าวันตระการตากับประเทศรัสเซีย 2: Veliky Novgorod - The Greater Newtown
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10765741/E10765741.html

วันนี้เราจะพาไปชมพระราชวัง Pavlovsk และ พระราชวัง Catherine อันเลื่องชื่อ
ส่วนตอนบ่ายนั้น กลับมาเดินเที่ยวกันที่ St. Petersburg ต่อค่ะ
พ่วงด้วยรายการพิเศษยามเย็นคือ บัลเล่ต์เรื่อง Swan Lake ที่โด่งดัง

รูป Catherine Palace เรียกน้ำย่อย

วันนี้เราเผื่อเวลาทานข้าวเช้าไว้เต็มที่ เลยมีโอกาสได้ละเลียดอาหารเช้ากันอย่างจุใจ
สั่งไข่ดาวยาวมะตูมมาทาน ตบท้ายด้วยซีเรียลและผลไม้

ขึ้นรถไปเจอสาวสวยคนใหม่มารอท่า

ไกด์ของวันนี้ชื่อคุณนาเดีย เป็นคนที่จริงๆควรจะมาพาเราเที่ยวตั้งแต่วันแรก
แต่ด้วยเวลาที่เจ๊อัลลาเจ้าของทัวร์เข้าใจผิดนัดกันคลาดเคลื่อน ทำให้เธอมาไม่ได้เพราะติดเรียน
ในที่สุดวันนี้ก็ได้ฤกษ์มาเจอกัน
คุณนาเดียนี่จัดว่าสวย ที่สำคัญผอมมากๆ หุ่นออกจะนางแบบ


นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราอยากแนะนำเพื่อนๆให้มารัสเซีย
สาวรัสเซียที่เจอสวยๆทั้งน้าน
เดินถนนนี่เห็นขายาวๆเรียวๆก้าวฉับๆผ่านไปเป็นแพ
มาเที่ยวนี้ได้เหล่สาวกันจุใจ
ใครก็ไม่รู้ในทริปแอบถ่ายภาพสาวๆมา อิอิ

วันนี้เราวางแผนที่จะไปกันหลายที่
เริ่มจาก Pavlovsk Palace and Parks
ต่อด้วย Catherine Palace and Park  ที่เมือง Pushkin
จากนั้นก็กะจะกลับมาเดินเล่นเก็บแต้มต่อในตัวเมืองกันเอง



ขึ้นรถแล้วพี่นาเดียก็จัดการเล่าประวัติอะไรต่อมิอะไรมากมายทันใด


ราชวัง Pavlovsk ที่เราไปเป็นแห่งแรกนั้น สร้างโดย Catherine II เพื่อเป็นของขวัญให้แก่ลูกชายคือ Paul I
เนื่องในโอกาสที่พระนาง Maria Feodorovna พระมเหสีให้กำเนิดพระโอรสให้แก่พอลหลังจากที่รอคอยทายาทตัวน้อยกันมาเป็นเวลานาน
ต่อมาโอรสของทั้งสองนั้นได้ขึ้นครองราชย์ในนาม Alexander I


ที่พระราชวังชื่อ Pavlovsk นั้นมาจากชื่อของพอลในภาษารัสเซียคือ Pavel Petrovichนั่นเอง
ถึงแม้ตัวพระราชวังเองจะไม่สวยงามยิ่งใหญ่เหมือนที่อื่นๆที่เราจะไป แต่ก็น่าสนใจและควรค่าแก่การแวะชมด้วยเป็นแหล่งรวมของสะสมหายากอันล้ำค่า
กล่าวกันว่าระหว่างที่สร้างพระราชวังนั้น พอลและมาเรียได้ออกท่องเที่ยวยุโรป และซื้อของสะสมมีค่ามากมายจากออสเตรีย เยอรมัน อิตาลี และฝรั่งเศสเพื่อมาตกแต่งพระราชวังแห่งนี้



วันนี้แดดไม่โผล่มาเยี่ยมหน้า รูปที่ถ่ายออกมาเลยสีไม่แจ่มเสียเท่าไร
บรรยากาศเทาๆหนาวๆฝนโปรยๆอย่างกับอยู่อังกฤษเสียอย่างนั้น

เราออกกันแต่เช้า แต่ไปถึงก็ยังเจอคนต่อคิวกันมากมาย
เธอบอกว่าสายๆจะแถวยาวกว่านี้อีก

ที่นี่ดูแลเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการนับคนแล้วกั้นให้เข้าห่างๆกันเป็นช่วงๆ
ส่วนใหญ่กรุ๊ปทัวร์มากันเป็นกลุ่มใหญ่ คุณไกด์เราเปรี้ยว แทรกตัวไปบอกว่าเรามากันสี่คนเค้าก็เลยให้แซงคิวเข้าไปก่อน

มาทริปนี้เราเลยได้บัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้ นั่นคือคำว่า”แซ่บ”
ซึ่งถูกใจได้อารมณ์มากๆ (เวลาออกเสียงต้องใส่อารมณ์ด้วย)
ถ้าจะแปลคงแปลได้ว่า แซงแบบสายฟ้าแลบละกระมัง
เพราะเจ๊นาเดียชีแรงไปแทรกไปแซงชาวบ้านด้วยความเชี่ยวชาญได้บ่อยๆอันจะได้เห็นฝีมือในงานต่อๆไป

อย่างคราวนี้แซงคิวมาได้ เราก็เข้ามาจ่ายเงินค่าถ่ายรูป (คิดต่างหาก ) เราเลยเอากล้องเดียวคือกล้องคุณน้อง
เอาทุกกล้องทุกวังคงจ่ายตังค์กันหมดตัว

จากนั้นจึงไปใส่ที่คลุมรองเท้าอย่างที่เห็น
ที่นี่เค้าบังคับใส่เพื่อไม่ให้ไปทำลายพื้นไม้ที่เป็นปาเก้อย่างหรูที่บูรณะกันอยู่
จากนี้ไปจะได้เห็นที่คลุมรองเท้าอีกเรื่อยๆ เป็นมาตรการรักษาสภาพพิพิธภัณฑ์ของที่นี่

เข้าไปก็ได้เจอห้องโถงก่อนทางขึ้นบันได
เริ่มมีรูปปั้นต่างๆให้เห็น
ด้านบนเป็นรูปสัญลักษณ์จักราศีทั้งสิบสอง

บนเพดานนั้นมีโคมไฟระย้า
ไกด์ชี้ให้ดูรูปวาดซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่า Grizaille หรือการวาดรูปให้มองไกลๆเหมือนเป็นรูปปั้นรูปสลัก

เข้าไปถึงก็ได้เห็นของสะสมอันล้ำค่ามากมาย
ดีใจจริงๆที่ไม่มองข้ามที่นี่ไป
ห้องโถงใหญ่ห้องแรกหรือ Italian Hall มีรูปปั้นแบบโรมันจากอิตาลีวางอยู่โดยรอบ
ไกด์บอกว่าไม่ได้ทำจากหินอ่อนจริงๆแต่ทำเลียนแบบให้ดูเหมือนหินอ่อน

มี Italian Hall แล้วก็มาเจอ Greek Hall กันบ้าง

บริเวณทางเดินมีรูปถ่ายขาวดำบอกเล่าถึงเรื่องราวของพระราชวัง
ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่จะถูกทำลายเสียหายมากในช่วงสงครามโลกและสามารถบูรณะขึ้นมาให้เหมือนต้นฉบับเดิมได้อย่างน่าทึ่งขนาดนี้

รูปปั้นรูปโปรดของเรา
เป็นเรื่องราวของอพอลโลและดาฟนี

สนใจเรื่องราว ตามโฆษณาแฝงไปอ่านที่ bloggang ของพันทิพได้ค่า
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mneme&group=10

หนึ่งห้องที่ชอบมากๆคือห้องหนังสือ
พอลนั้นทรงพระปรีชาสามารถ
ปริมาณหนังสือที่มากมายและหลากหลายแขนงจนน่าทึ่งแสดงถึงความรอบรู้ของพระองค์ได้เป็นอย่างดี

เหมือนกับว่าจะเป็นนักคณิตศาสตร์ด้วย
มีหนังสือดูเนิร์ดๆมากมาย (ถูกใจพวกเรา)

สวยมากครับ  ตามไปเที่ยวรัสเซียด้วยคนครับ

ตอนนี้เค้าจัดนิทรรศการ มีหนังสือต่างๆให้ดูมากมาย
เล่มยักษ์ที่เห็นอยู่นี่เป็นเรื่องราวและรูปจากงานฉลองการขึ้นครองราชย์ของราชวงศ์โรมานอฟ (ถ้าจำไม่ผิด)
หลักฐานหนังสือต่างๆทำให้ได้รู้เพิ่มอีกอย่างว่า ราชวงศ์ชั้นสูงและขุนนางรัสเซียนั้นต้องร่ำเรียนภาษาฝรั่งเศสเพราะใช้ในงานบ้านเมืองทุกอย่าง เรียกว่าใช้เป็น court language นั่นเอง

มากับไกด์ส่วนตัวนี่ช่างแสนดี
โดยเฉพาะคุณไกด์นาเดียนี่ข้อมูลละเอียดถี่ยิบ แทบจะอธิบายเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นกันเลยทีเดียว
ทั้งที่มาที่ไป ปีผลิต โรงงานผลิต

อย่างอันนี้เป็นโต๊ะที่ฮิตมากในสมัยนั้นคือ bean shaped table (ก็ดูเหมือนถั่วจริงอยู่) ที่ทำจากไม้มะฮอกกานี

นอกจากของสะสมที่พอลซื้อหามาเองแล้ว ที่นี่ก็ยังจัดแสดงของขวัญและบรรณาการที่ประเทศต่างๆส่งมาถวายในโอกาสพิเศษ
ตั้งแต่ของตกแต่งกระจุกกระจิก

ไปจนถึงเครื่องชามเครื่องกระเบื้องอย่างดีที่เห็นใน The throne room
ที่มีไว้สำหรับงานจัดเลี้ยงต้อนรับแขกเหรื่อผู้มีเกียรติ

เครื่องกระเบื้องเข้าชุดกันหนึ่งเดียวที่หาไม่ได้อีกแล้วในโลกหลายๆชุดถูกนำไปเก็บซ่อนอย่างดี
จนรอดพ้นจากการปล้นและทำลายในช่วงสงครามโลกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เครื่องเสวยใน The Dining room ก็ทองอร่ามมาเชียว

เช่นเดียวกับงานศิลปะล้ำค่าหลายๆชิ้น ที่รอดมาได้จนถึงวันที่ได้กลับมาวางแสดงอย่างสง่างาม ณ The picture gallery

ของล้ำค่ามากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าทุกๆห้องจะมีคนนั่งเฝ้าดูแล

นี่ห้องเขียนหนังสือของพระนางมาเรีย
เป็นแบบที่เรียกว่า cabinet ซึ่งมักอยู่ติดห้องนอน
สังเกตที่พื้นจะเห็นปาเก้ที่บูรณะหรือสร้างใหม่แล้ว มีลวดลายสวยงาม

ห้องนอนสมัยก่อนเป็นอย่างที่เห็นใน State bedroom นี่

เข้ามาละลานตากับความงามของพระราชวังค่ะ
รัสเซียเป็นหนึ่งใน wish list ที่เราอยากจะไป
ขอเก็บข้อมูลก่อนละกันนะคะ

ห้อง portrait room นี้ก็เป็นอีกห้องที่ชอบเป็นพิเศษ
รูปสาวๆหน้าแฉล้มแขวนอยู่เรียงราย

ถึงแม้ Pavlovsk จะได้รับการบูรณะไปมากแล้ว
แต่ก็ยังมีงานรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอีกมากที่ยังต้องทำอย่างที่เห็นลิบๆในรูป

ชมความงดงามสไตล์คลาสสิกของภายในกันถ้วนทั่วแล้ว
พวกเราก็ออกมาชมสวนกันบ้าง

พื้นที่ตรงนี้ก่อนแคทเธอลีนยกให้พอลนั้นเธอเคยใช้เป็นที่ล่าสัตว์
ด้วยพื้นที่ราวหนึ่งพันห้าร้อยเอเคอร์ Pavlovsk Park จึงถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในสวนที่ครอบคลุมเนื้อที่กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรปเลยเชียว

อาคารสีขาวที่เห็นลิบๆดูโรแมนติกท่ามกลางหมู่ไม้และทิวทัศน์สวยงามราวภาพฝันนี้มีชื่อว่า The Temple of Friendship

เดินสวนกับแวบนึงพอได้เห็นวิวแล้วเราก็กลับขึ้นรถเพื่อไปชมความยิ่งใหญ่อลังการของ Catherine's Palace

Catherine's Palace นั้นสร้างในสมัย Peter the Great ให้แก่พระมเหสีซึ่งหลังการเสียชีวิตของปีเตอร์ได้ขึ้นครองราชย์ในนามพระนางแคทเธอรีนที่หนึ่ง
ต่อมาพระนางอลิซาเบธบุตรสาวได้บูรณะต่อเติม ตกแต่งเสียจนยิ่งใหญ่หรูหราอย่างที่เราจะได้ยลในวันนี้


ลงจากรถเราก็ได้เจอกับโดมทองส่องประกาย
คุณไกด์ปล่อยเราให้ไปเดินถ่ายรูปด้านนอกแวบนึงระหว่างที่เธอวิ่งไปจัดการเรื่องตั๋วเข้าให้

แต่เดิมพระราชวังนี้หรูหราฟู่ฟ่าสุดฤทธิ์
ที่เห็นเป็นสีทองนั้นเคยเคลือบทองทั้งหมด
หลังจากบูรณะ ตัวยอดโดมก็เคลือบทองแวววามงดงามดังเดิม
แต่ด้วยงบที่จำกัด ขอบหน้าต่างที่เหลือจึงไม่สามารถเคลือบทองหมดได้
บางส่วนจึงถูกทาสีให้ดูเหลืองๆทองๆเฉยๆอย่างที่เห็นส่วนด้านขวาของภาพ

หลังจากทาสีทองไปได้สักพัก คนออกแบบก็เริ่มคิดได้ว่า ทาไปก็ไม่เงา ไม่สวยเหมือนทองอยู่ดี
เลยปรับเปลี่ยนตอนหลัง อย่างที่เห็นว่าโค้งประตูหน้าต่างส่วนด้านที่หันเข้าข้างในนั้นเลิกทาสีทองแต่หันมาใช้สีครีมแทน

ได้ตั๋วแล้ว เธอก็พยายามจะใช้วิชามาร “แซ่บ” เข้าให้อีก
แรกเริ่มเธอพาเดินไปเข้าตรงประตูทางออกอย่างมาดมั่น

ปรากฏว่าโชคไม่ดียามเพิ่งเปลี่ยนกะ คุณยามไม่ให้เข้าซะงั้น ชี้ไปที่แถวที่มีคนต่อยาวเหยียดราวหลายร้อยคน
พวกเราก็ใจแป้ว เห็นแถวแล้วอยากจะเป็นลม ทัวร์ไทยทัวร์จีนทัวร์ฝรั่งมุงกันให้วุ่น แล้ววันนี้จะได้เข้าวังมั้ยล่ะนี่

คุณเธอไปวีนยามอยู่นานแต่ยามไม่ยอมท่าเดียว ในที่สุดเราเลยต้องยอมถอย
ระหว่างล่าทัพเธอก็เล่าให้ฟังว่า เธอเพิ่งเข้าทางประตูทางออกนั่นแหละเพื่อไปเอาตั๋วมา
จริงๆแล้วถ้าไม่เปลี่ยนยามเป็นคนไร้เหตุผล(เธอว่า)คนนี้ ตั๋วและ license ไกด์แบบที่เธอมีควรจะนำพวกเรากลับเข้าไปได้สบายชิล
เธอทำอย่างนี้ทุกครั้งที่มากับทัวร์กลุ่มเล็ก และปกติก็ทำได้ ยิ่งคราวนี้เรามากันแค่สามรวมเธอเป็นสี่ยิ่งไม่น่ายาก

ระหว่างเล่าอย่างหงุดหงิดขาเรียวๆของเธอก็พาเราจ้ำอ้าวเดินฝ่าฝูงชนกลับมาตรงแถวเข้าหน้าประตูทางเข้า
แล้วก็เปิดที่กั้นพาเราแซ่บเข้าให้อย่างหน้าเลย
ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่เค้าเปิดให้เข้าเป็นรอบๆไป
กะจากระยะทาง แซ่บใกล้ขนาดนี้ เปิดอีกทีได้เข้าชัวร์

คนรอบข้างเราก็มองกะเหรี่ยงที่มาแซงคิวด้วยสายตาที่กะแผดเผาให้มอดไหม้เป็นจุณ
เธอเห็นแล้วก็เข้าไปอธิบาย เอาตั๋วไปโชว์ไกด์ที่เหมือนจะเป็นรัสเซียของทัวร์กลุ่มใหญ่ข้างหน้า
ชะรอยจะเมาท์กันรู้เรื่องเพราะเราได้ขยับขึ้นนำทัวร์กลุ่มนั้นไป

เจ๊นาเดียพยายามจะเปรี้ยวแทรกขึ้นหน้าไปให้ใกล้ขึ้นอีก แต่ป้าๆหางแถวของทัวร์ดัชท์กลุ่มหน้าเริ่มเมาท์ด่ากันล่ะ
เราก็ยืนเอ๋อฟังไม่รู้เรื่อง ลูกทัวร์ที่ดีมีหน้าที่วิ่งตามไกด์ให้ทันเท่านั้นพอ

พอเค้าเปิดรอบถัดไป แถวเริ่มขยับ เราก็ได้เห็นฤทธิ์ป้าดัชท์กลุ่มนั้น ที่ทั้งดัน ทั้งกัน เอาเป้สะพายข้าง ขวางทางเต็มที่
จนเราเข้าไปได้ คุณนาเดียก็บ่นประปอดกระแปดว่าคนเรานี่มันร้ายได้ใจจริงๆ

ก็เราไปแซ่บเค้าอ่ะนะ คงมีเคืองกันบ้าง ถึงแม้ฟังๆดูเหมือนว่าอาจจะทำได้สำหรับไกด์ที่มี license พิเศษก็ตาม (ไม่แน่ใจเหมือนกัน)

ว่าแล้วดูแถวจากรูปที่ยกกล้องสูงไม่พ้นหัวคนกันให้ตื่นตา
ของจริงแถวยาววววววววววววววววว จนน่าสยองเลยล่ะ

เข้ามาได้เราก็ฝากกระเป๋า ใส่ที่คลุมรองเท้ากันอีกรอบ
แถวห้องน้ำก็ยาวโหดร้าย แต่เราเริ่มไม่ไหวแล้วก็เลยไปทนต่อคิว

ออกมาก็เจอทัวร์ไทยส่งเสียงกันเจี๊ยวจ๊าว
ที่นี่แรง ทัวร์ไทยเราไม่พลาด ผิดกับ Pavlovsk ที่คงแทบไม่มีทัวร์ไทยจัดโปรแกรมพาไป

นอกจากจะกั้นด้านนอกแล้ว พอเข้ามาข้างใน เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยขึ้นบันไดไปเป็นกะๆอีกเช่นกัน
ไกด์เรานี่ wonder woman สุดฤทธิ์ ไปเจรจาให้เค้าเปิดให้เรามุดเข้าไปนอกรอบก็ได้ด้วย

โถงทางขึ้นที่มีเชือกสีแดงกั้นคนเดินขึ้นลงตามรอบ

พอไกด์เราแซ่บได้ เราก็เลยสบาย ได้เข้าไปในช่วงค่อนข้างปลอดคน
มากันน้อยคนแสนคล่องตัว
ห้องไหนเจอไกด์จีนไกด์ฝรั่งหยุดเล่านานเบียดเสียด คุณนาเดียก็จะพาเจาะผ่านไปดูห้องว่างๆก่อน
แล้วค่อยย้อนกลับมาอธิบายตอนคนเคลื่อนย้ายไปห้องอื่นแล้ว

อย่าง Great Hall หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Hall of Light เราก็สามารถถ่ายรูปมาได้โดยไม่มีคน

ห้องนี้ทองระยิบระยับบาดตาจริงๆ

ด้านในของพระราชวังช่างโอ่อ่า
ไกด์เล่าว่าพระนางอลิซาเบธนั้นเป็นคนฟุ่มเฟือย
เธอได้ใช้เงินไปกับการตกแต่งพระราชวังนี้ไปมาก

นอกจากนี้ เธอยังใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปกับการเป็นผู้นำแฟชั่น
เล่ากันว่า เธอห้ามมิให้ใครทำผมทรงเดียวกับเธอเพื่อเธอจะได้โดดเด่นแต่เพียงผู้เดียวในงานเลี้ยงและงานเต้นรำที่เธอจัดขึ้น
อีกทั้ง เธอแทบจะไม่ใส่ชุดซ้ำกันเลย
หลังจากเธอเสียชีวิตลง พบว่าเธอนั้นมีชุดเสื้อผ้ากว่าหนึ่งหมื่นห้าพันชุดในครอบครอง

ชีเว่อร์จริงอะไรจริง

เช่นเดียวกับ Pavlovsk ที่นี่ก็มีเครื่องกระเบื้องเข้าชุดล้ำค่า

เตาผิงมักเป็นกระเบื้องลายครามแบบจีนซึ่งฮิตมากในยุโรปในสมัยนั้น รัสเซียก็ไม่น้อยหน้า

ห้อง portrait ของวังนี้ก็น่าประทับใจ

อีกห้องที่แสนโด่งดังเป็นที่กล่าวขวัญและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมายของพระราชวังนี้ก็คือ Amber room
ซึ่งของเดิมนั้นมีอำพันถึง 450 กิโลกรัม ประดับประดาอยู่ตามผนังทุกด้าน

เมื่อตอนทหารเยอรมันบุกพระราชวังแห่งนี้ในปี 1941 นั้น อำพันทั้งหมดถูกปลดลงมาและขนส่งออกไป จากนั้นจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบถึงความเป็นไปของอำพันมากมายเหล่านั้น

ในปี 1982 ได้มีการวางแผนให้สร้างห้องอำพันขึ้นมาใหม่ให้เหมือนเดิมมากที่สุดจากข้อมูลที่เคยมีมา
การสร้างห้องอำพันนั้นดำเนินไปเป็นเวลายาวนานถึงยี่สิบปี ใช้งบประมาณไปมากกว่าสิบสองล้านเหรียญสหรัฐ
จนในที่สุดโครงห้องเดิมก็ได้ถูกแปรสภาพมาเป็นห้องอำพันด้วยงานฝีมือละเอียดลออของช่างศิลป์
อำพันนับร้อยชิ้นที่นำมาประกอบนั้นก็ได้ส่องแสงสีทองมลังเมลืองอวดโฉมแก่คนนับร้อยนับพันต่อวัน

เป็นบุญตาจริงจริ๊งที่ได้มาเห็น
เสียดายที่เค้าห้ามถ่ายรูปเข้มงวดมาก

เห็นห้องที่บูรณะให้ใกล้สภาพเดิมกันมาหลายห้อง ใช้ทั้งทองจริง เงินจริง อำพันจริง
พอมาถึงห้องนี้คุณไกด์เลยให้ทายว่าสีเขียวสวยๆที่ผนังนี่น่าจะทำมาจากอะไร

เราก็หยายามจะเดา ว่าเพชรพลอยหินอะไรหว่าสีเขียวซะขนาด
ปรากฏว่าเป็นคำถามหลอก
คุณไกด์เฉลยว่าเป็นกระดาษฟอยล์จ้า ประมาณว่า ห้องไหนไม่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากนัก งบหมด ทำอย่างนี้ก็พอ สวยแระ

ตอนก่อนออกมาได้เห็นสภาพหลังสงครามของพระราชวังแห่งนี้แล้วก็ต้องอึ้งทึ่งเสียวอีกรอบ
มันเยินขนาดนี้เลยน่ะ

ประทับใจกับความอุตสาหะในการบูรณะให้ใกล้เคียงของเดิม ทั้งรายละเอียดงานศิลป์และความอลังการจริงๆ

ด้านนอกเป็นสวนบริเวณกว้างใหญ่
ถ้ามีเวลาเยอะกว่านี้คงได้เดินกันเพลิน

แต่ไกด์เราเร่งแล้วเร่งอีกแล้วเดินจ้ำอ้าวทำเวลาเช่นเคย
พวกเราเลยได้ใช้ความสามารถชั้นสูง คือวิ่งไปถ่ายรูปไป
ยังดีที่เก็บภาพความสวยงามของสวนมาได้บ้าง

ส่วนอาคารอีกหลังในสวนที่เห็นนี้คือ Cameron Gallery ซึ่งแคทเธอรีนสั่งให้สถาปนิกคนโปรด Charles Cameron สร้างขึ้น
โดยเน้นให้เห็นวิวตัวสวนและบ่อน้ำมุมที่สวยงามที่สุด
ทางเดินด้านบนนั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ที่พระนางเดินเล่นชมสวนหรือถกเถียงเกี่ยวกับปรัชญากับคนรอบตัวของพระองค์

จบทัวร์ปราสาทราชวังกันแล้ว คุณนาเดียก็พาเรามาโยนปุลงที่  Alexander Nevsky Monastery and Tikhvin Cemetery ตามคำขอ

ที่มาที่นี่เพราะต้องการมาเยี่ยมชมหลุมศพสุดยอดนักดนตรีในดวงใจ
ถึงแม้ไม่มีไกด์ เราก็ใช้ความสามารถในการแกะ Cyrillic หากันจนเจอ

ทั้ง Nicolai Rimsky-Korsakov

ทั้ง Borodin

และที่ปลาบปลื้มมากก็คือ Tchaikovsky

เข้ามาเที่ยวรัสเซียด้วย  จริงๆไม่อยู่ใน list เลยนะคะ    เพราะฉะนั้น ขอเที่ยวผ่านรีวิวละกันนะคะ

แกะลายแทง หาขุมทรัพย์ เอ๊ย หลุมศพที่ต้องการ และทำความเคารพเสร็จเรียบร้อย
เราก็มุ่งหน้าสู่พระราชวัง Yusupov แม้เวลาจะเหลือน้อยลงทุกทีๆ

Yusupov นั้นเป็นวังของเจ้าชาย Felix Yusupov ทายาทของครอบครัวขุนนางที่ร่ำรวย และ สามีของ Irina หลานสาวของซาร์นิโคลัสที่สอง
เจ้าชาย Yusupov ทรงเป็นนักสะสม
ข้าวของเครื่องใช้หลายๆอย่างที่นี่จึงสูงค่าอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมาเก็บอยู่ในพระราชวังเล็กๆแห่งนี้
ห้องสมุดก็มีหนังสือมากมายและมีคอลเลกชั่นหายากมากมาย รวมถึงจดหมายต้นฉบับของ Pushkin นักกวีผู้โด่งดังของรัสเซีย

ท่านพี่หัวหน้าแก๊งค์เดินใส่เกียร์ตีนสุนัขโกย เพราะกลัวไม่ได้ดูวัง จนลูกทัวร์ปวดตับปวดทรีนไปตามๆกัน
เหตุก็ด้วยความที่ Yusupov นั้นปิดค่อนข้างเร็วคือตั้งแต่ห้าโมงเย็น

วันนี้รองเท้าผ้าใบคู่ทุกข์คู่ยากที่อยู่ด้วยกันมานานนับปีก็กลับทำพิษ กัดซะเยินเสียเฉย
ก็เดินมาเยอะจริงตั้งแต่เช้า ไม่อยากโทษรองเท้าคู่โปรด
แต่แม้ลูกทัวร์จะอุทธรณ์ ศาลก็ไม่รับฟัง
สรุปว่าต้องหยุดแปะพลาสเตอร์แล้ววิ่งกระเผลกตามท่านพี่ไปโดยห้ามบ่น

ในที่สุดก็กระหืดกระหอบมาถึง Yusupov
มีเวลาเหลือให้ดูข้างในราวๆครึ่งชม.
ที่เคืองมากคือเจ๊ป้าขายตั๋วมัวแต่เมาท์โทรศัพท์กับกิ๊ก ซื้อตั๋วแค่สามใบเนี่ย นานมากกกกก
งอน

เข้าไปได้ก็เจออุปสรรคด่านต่อไป เพราะต้องวางเงินมัดจำเพื่อเอา audio guide แต่เงินเรามีไม่พอ
ในที่สุดก็แงะๆดอลลาร์ออกมาได้ โชคดีที่เค้าให้เอาดอลลาร์วางได้

ผ่านด่านสุดท้ายแล้วก็วิ่งขึ้นไปดูกันด้วยความรวดเร็ว

จริงๆข้างในไม่ให้ถ่ายรูป มีคนเฝ้าด้วย
แต่แบบสองห้องหนึ่งคน
คุณพี่เลยฉวยโอกาสเวลาป้าเผลอแอบยิงออกมา

ชอบสีโทนชมพุเขียวพาสเทลอย่างมาก

ห้องนอนสีน้ำเงินดูขรึมๆ

ในสมัยก่อน ชาวยุโรปนิยมนำศิลปะวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลตะวันออกหรือตะวันออกกลางมาจัดแสดงเพื่อความ exotic

จริงๆรายละเอียดของที่นี่ก็อัดแน่น แต่เพราะเป็น audio guide เราเลยฟังเบลอๆจำไม่ได้
ที่เด็ดๆที่จำได้เพราะไกด์เล่าตอนนั่งรถก็เรื่องที่ว่า วังนี้เป็นที่ที่รัสปูติน (ใครดูอนาสเทเชียคงจำกันได้) ถูกฆ่า

รัสปูตินเป็นคนธรรมดาที่จับพลัดจับผลูเข้ามามีบทบาทในราชสำนัก
เขาแสดงตนเป็นพ่อมดหมอผีผู้หยั่งรู้อนาคตและมีอำนาจในการรักษา
ณ เวลานั้น โอรสองค์เล็กของซาร์นิโคลัสที่สองนามว่า Aleksei Nikolayevichป่วยเป็นโรคฮีโมฟีเลียซึ่งเป็นโรคเลือดชนิดหนึ่ง
รัสปูตินนั้นสามารถรักษาเด็กน้อยให้อาการทุเลาลงได้ (ยังเป็นที่ถกเถียงของนักวิชาการอยู่ว่าทำได้จริงหรือไม่ ด้วยวิธีใด)
อย่างไรก็ดี รัสปูตินจึงเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าซาร์และพระมเหสี และได้รับความไว้วางใจอย่างล้นหลามและก้าวมามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของทั้งสอง

ชนชั้นสูงหลายๆคนไม่พอใจ และเจ้าชาย Yusupov ก็เป็นหนึ่งในนั้น
แผนลอบฆ่ารัสปูตินจึงเริ่มขึ้น

เจ้าชายตีสนิทกับรัสปูติน และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักก็วางแผนเชิญมาทานอาหารเย็นที่บ้าน ในห้องอาหารที่สร้างใหม่ไว้ใต้ดินเพื่อเก็บเสียงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
เจ้าชายวางยาพิษรัสปูตินในเค้กและไวน์ แต่ด้วยความดวงแข็งหรือความเป็นพ่อมดหมอผีก็ไม่ทราบได้รัสปูตินกลับไม่เป็นอะไร
เจ้าชายจึงยิงรัสปูติน เมื่อรัสปูตินแน่นิ่งไปแล้ว เจ้าชายและผู้สมรู้ร่วมคิดจึงห่อศพด้วยพรม และรอเวลาฟ้ามืดเพื่อจะกำจัดศพ

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เมือเจ้าชายตรวจดูศพอักครั้ง รัสปูตินกลับทะลึ่งพรวดลุกขึ้นมา และวิ่งหนีไปในสวน
เมื่อเหตุการณ์พลิกผัน คนของเจ้าชายจึงยิงรัสปูตินอีกสามนัดด้วยกัน สองนัดเข้ากลางหลังและอีกนัดเจาะศีรษะ
อย่างไรก็ดี รัสปูตินก็ยังไม่ตาย (โอ้ว แม่เจ้า คนเหล็กภาครัสเซีย) เจ้าชายเลยเอาดัมเบลทุบหัวต่ออีกหลายรอบ(จนเลือดท่วมและเป็นหลักฐานในภายหลัง)
ด้วยความที่ใกล้เช้าแล้ว ทั้งหมดจึงรีบนำศพไปทิ้งแม่น้ำ
การวางแผนที่รัดกุมล่มไม่เป็นท่าเพราะความอึดของรัสปูตินและความตระหนกของผู้วางแผนทั้งหลาย ทำให้ตำรวจได้ยินเสียงปืนและมีการสอบสวนตามมา
ที่สุดแล้วฆาตกรทั้งหมดก็ถูกคำสั่ง house arrest ส่วนเจ้าชายถูกเนรเทศออกนอกประเทศไป

เรื่องก็เมามันส์โดยประการละฉะนี้

จบราชวังทันเวลาปิดพอดี จากนั้นเราก็กลับโรงแรมเก็บของ และนั่งรถบัสไปรับบัตรเข้าชม Swan Lake แถวๆ Nevsky Prospect  ซึ่งเป็นถนนใหญ่กลางเมือง

และแน่นอนว่าต้องไปแวะ Kazan Cathedral ที่อยู่ใกล้ๆเพื่อเก็บแต้ม

ถึงแม้จะเป็นแค่แนวชะโงกทัวร์ ถ่ายรูปแล้วจรก็ตาม

เวลาเหลือน้อยนิดเราก็เลยไม่เรื่องมากกับอาหารเย็นมื้อนี้มากนัก
แวะเข้าร้านเชนที่ดูเหมือนจะเป็นอาหารรัสเซียที่อยู่ใกล้ๆ บัลเลต์ของเรา

เข้าไปถึงเมนูรัสเซียก็มาวาง
เราก็ใช้วิทยายุทธ์ decode เมนูกันเช่นเคย
อ่านๆ ออกเสียงมาก็พอจะเก็ดบ้าง
โดยเฉพาะพวกอาหารฝรั่งหน่อย สะกดออกมาเป็นคาโบนาร่า ครีมมัชรูม อะไรอย่างนี้พอได้
พอเค้ามาถึงเราก็เลยพูดอังกฤษจิ้มๆชี้ๆส่งไป
คนเสิร์ฟก็นำหน้างง แล้วเดินกลับมาพร้อมเมนูอังกฤษ

เอ๊า หน้าเราที่อ่านรัสเซียได้มากเลยนะ แล้วปล่อยให้กระเหรี่ยงงงอยู่เป็นนาน

ว่าแล้วก็ได้ Borschอันเป็นซุปอาหารพื้นเมืองรัสเซียที่ทำจากหัวบีทรูทมาชิม
มีโยเกิร์ตขาวๆเปรี้ยวๆราดด้านบนด้วย
รสชาติกลมกล่อมถูกใจ

ส่วนอีกอันเป็นพัฟอย่างกรอบไส้ไก่ครีมเห็ด
อร่อยเด็ด

จ้วงด้วยความเร็วเท่าแสงแล้วเราก็วิ่งไปที่ Alexandrinsky Theatre
มาถึงสองนาทีก่อนเวลาเริ่ม
ฉิวเฉียดสุดฤทธิ์

ตื่นเต้นมากๆที่ได้มาดู Swan Lake ตัวจริงเสียงจริงถึงรัสเซีย
บัลเล่ต์เค้าสวยงามอ่อนช้อยแต่ก็ทรงพลังในเวลาเดียวกัน

ตัวเอกของเรานี่พลิ้วไหวจนเหมือนไม่มีกระดูก เวอร์มากๆ
ถ้าจะติหน่อยก็ตรงที่วงออเคสตร้านี่ล่ะ
เล่นซะเยินเชียว จังหวะเร่งบ้าง คอร์ดไม่พร้อมกันบ้าง ปวดตับเป็นกำลัง

ถ้าคราวหน้ามาใหม่จะหาคณะเจ๋งๆดู
มารอบนี้เวลามีจำกัด คณะดังๆก็ดันไม่เปิดแสดง Swan Lake ในช่วงที่เรามาซะงั้น
น่าเสียดาย

สรุปว่า วันนี้ก็จบลงอยากถึกเถือกทรหดเช่นเคย
ถึงจะเหนื่อยแต่ก็คุ้ม อย่างไรก็ได้อิ่มตาอิ่มใจกับวังสวยๆไปหลายที่

วันต่อไปจะพาชม Peterhof (UNESCO World Heritage) ที่เลื่องชื่ในความยิ่งใหญ่สวยงามว่าสู้แวร์ซายได้เลยทีเดียว
อย่าลืมติดตามชมนะคะ

งานศิลปต่างๆสวยงามมากครับ

ดูไม่เหมือนรัสเซียเลย

ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

นานๆถึงจะได้ชมรีวิวรัสเซีย
เกาะจอติดตามอย่างใกล้ชิด ขอบคุณนะครับ

อยากไปบ้างอะไรบ้าง (อีกแล้ว) -_-! ปล. ดึกแล้วนะคะ พักบ้างอะไรบ้าง :P

โอ้วรัสเซีย ประเทศที่อยากจะกลับไปเยี่ยมเยือนอีกครั้ง...
สวยงามมากคะ

ใหญ่โต  อลังการ และสวยงามมากเลยค่ะ

งานศิลป์ต่างๆสวยมากครับ อลังการณ์มากครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ขอบคุณรีวิวสวยๆ

สวยงามอลังการมากๆ อยากบินไปดูสวอนเลคบ้างจังเลยครับ ^_^

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ทิ้งช่วงไปนานเลยนะคะ


จะตามเก็บให้ครบเลยคะ


ขอบคุณสำหรับทริปดีๆ นะคะ

สวย อลังการมากๆ ขอบคุณที่พาเที่ยวอีกนะคะ

สถานที่สวย... ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นด้วยคำบรรยาย
กำลังอยากไป แต่ยายแก่ๆ2 คนจะไปเองอย่างหนูๆไหวไหมเนี่ย
ไม่ชอบไปกะทัวร์เหมือนกัน อาศัยข้อมูลทางลัดจากหนู
น่าจะหลอกลวงเอาสาวๆไปด้วยสัก 2คน เพี้ยงขอให้สำเร็จ

Спасибо!(สะ-ปา-ซี-บ้า) คร้าบบบ คุณ Mnemosyne

-Соранат-

ไม่มีตอนต่อไป เหรอคะ กำลังสนุก