สวัสดีครับ หลังจากได้จัดเตรียมภาพไว้สำหรับกระทู้ตอนนี้เสร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้ก็รีบนำมาโพสให้ชมกันทันที เพราะทริปนี้ก็เนิ่นนานมากว่า 3 เดือนแล้ว นับว่าได้หลากหลายบรรยากาศอย่างมาก จนดูเหมือนหลายๆ ทริปมารวมกัน
การท่องเที่ยวในตอนนี้ แม้จะถือเป็นช่วงท้ายของทริปแล้ว แต่ก็นับเป็นตอนสำคัญ แบบทิ้งทวน ทิ้งท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ กันเลย หลังจากพลาดหวังการขึ้น ภูทอกไปแล้ว พลังที่เตรียมมาต้องหาที่ออกให้ได้ พอดีมีแผนการจะไปเมียงมอง ค้นหา วัดภูลังกา(วัดถ้ำชัยมงคล) ที่เคยมีข่าวการทำบุญสร้างบันไดขึ้นบนภูลังกามาเมื่อปี พ.ศ.2551 โน้น อยู่แล้ว
http://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=2039
จากแค่ลองไปค้นหา จะเจอหรือไม่เจอก็ไม่เป็นไร แต่คราวนี้ต้องเจอให้ได้ และถ้ามีโอกาสต้องขึ้นบันไดที่เขาบริจาคทรัพย์สร้างขึ้นภูลังกา เพื่อไปไหว้เจดีย์อัฐิหลวงปู่วัง ด้วย ซึ่งงานนี้ สมหวังอย่างคาดไม่ถึงครับ คอยติดตามชมได้เลยนะครับ
ขอฝากลิ้งค์ตอนที่แล้ว ตอนที่ 8:เที่ยวบึงกาฬ-ชมวัดภูทอก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10808506/E10808506.html
[25 ก.ค. 54 13:38:17
]
ก่อนอื่นขอกางแผนที่เดินทางอีกตามเคยครับ จากในตอนที่แล้วผมออกเดินทางจาก วัดภูทอก ประมาณบ่ายโมงเศษ รีบมาภูลังกาให้เร็วที่สุด เพราะกลัวจะมืด แต่เส้นทางที่ไปจะต้องผ่าน บึงโขงหลง ที่มีเชื่อคล้ายกับ แม่น้ำโขง แล้วหลงมาโผล่ที่นี่...ฮา
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 14:02:19
]
จากแผนที่ข้างบน ตอนนี้มาถึงทางแยกลัดไป อ.บึงโขงหลง แต่ผมเลือกไปทาง อ.เซกา เพราะถนนด้านซ้ายดูเล็กกว่า และตอนนั้นคิดว่าเป็นทางไปบึงโขงหลงเท่านั้น ไม่สามารถ มาตัวอำเภอบึงโขงหลงได้
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 14:06:24
]
ตอนนี้บ่ายสองโมงแล้ว ท้องหิวเลยต้องหาอะไรทานหน่อย แถวนี้นับว่าหาร้านอาหารยาก ขนาดปั๊มน้ำมันยังไม่มีเลย(ถ้ามีก็เป็นปั๊มเล็กๆ เก่าๆ)
มาเจอร้านเล็กๆ ริมถนนขายก๋วยเตี๋ยวพื้นบ้าน แต่ชอบบ้านสวยๆตรงที่นั่งทานอาหาร ครับ
[25 ก.ค. 54 14:10:34
]
ทานเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ แม้ว่าเส้นทางช่วงนี้จะเลียบบึงโขงหลงไป แต่จะมองไม่เห็นบึงน้ำจากบนถนน เพราะมีสวนยางพารา ไปตลอดแนวถนน
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 14:13:36
]
จากแผนที่ถนนตรงนี้อยู่ใกล้กับบึงโขงหลงมากที่สุด ผมสังเกตุเห็นจุดพักรถตรงริมถนน (ภาพบน) เลยกะจะแวะเดินลงไปเก็บภาพ แต่คณะที่มาในรถอยากให้ลงไปจอดข้างล่างที่มีร่มต้นไม้ ผมเลยสนองความต้องการ เลี้ยวรถลงไปจอดข้างล่าง ในบรรรยากาศร่มรื่น แต่ต้องชำระค่าจอด 20 บาท ซึ่งผมไม่อิดออด เพราะถือเป็นรายได้คนในท้องถิ่นครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 14:18:29
]
ตามไปด้วยคนครับลุงคิดว่าภูลังกาจะอยู่แถวปักษ์ใต้ซะอีก
จากคุณ : ลุงแบกเป้
[25 ก.ค. 54 15:00:20
]
สวัสดีครับ คุณลุงแบกเป้ : ยินดีต้อนรับครับ สำหรับผมคิดว่า ภูลังกา น่าจะอยู่แถวๆ อินเดียไปโน่นเลยครับ แต่เป็นที่น่าแปลกว่า ในประเทศไทยเรามี 2 แห่งครับ คือ สถานที่ ที่ผมไปครั้งนี้ รอยต่อระหว่าง อ.บ้านแพง จ.นครพนม กับ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ (สันเขาภูลังกาถูกจะใช้เป็นเส้นรอยต่อระหว่างจังหวัด) กับ อีกแห่ง คือ วนอุทยานภูลังกา ใน อ.เชียงคำ กับ อ.ปง จ.พะเยา โน้น ซึ่งจัดตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2545 ดังนั้นเวลาเข้าไปค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับ ภูลังกา อาจงงได้ เผลอๆ เวลาติดต่อทัวร์ไปเที่ยว อาจพาไปคนละที่ คนละภาคเลย..
อ้อ..ส่วนภูลังกาที่ผมไปนี่ มีการจัดตั้งเป็น อุทยานแห่งชาติมานานแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2539 ตามข้อมูลของเว็บหมูหิน
http://www.moohin.com/044/044a001.shtml
ซึ่ง ส่วนที่ผมไปนั้นอยู่คนละด้านกับ อุทยาน คืออุทยานอยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ที่ผมไปนั้นเป็นส่วนใต้ของภูลังกา ครับ
มาต่อกันนะครับ ผมได้ลงจากรถ (เพียงคนเดียว) มาเดินเก็บภาพ บรรยากาศรอบๆ จุดท่องเที่ยวบึงโขงหลงมาให้ชมกัน ซึ่งต้องประหลาดใจว่า ไม่เห็นมีหาทางลงไปยังบึง มีแต่ที่นั่งทานอาหารทอดยาวตลอดแนวบึงเลยครับ
[25 ก.ค. 54 15:36:35
]
ภาพซ้าย : เนื่องจากแดดข้างนอกจ้ามาก ถ้าต้องการเห็นวิวบึงน้ำก็ต้องปรับแสงของกล้องจนข้างในมืด
ภาพกลาง : มองไปทางขวามือ (ใต้)จะเห็นแนวร้านค้าต่อเนื่องจนไม่เห็นพื้นที่โดยรอบเลย
ภาพขวา : อ้าว..เจอแล้ว (ช่อง)ทางลงไปยังบึงน้ำข้างล่าง
[25 ก.ค. 54 15:42:43
]
ภาพซ้าย : ผมโผล่ออกไปดู บึงโขงหลง ช่างกว้างใหญ่จริงๆ ครับ (แหม นายแบบคนนี้ ดันมายืนจังก้าบังผมอยู่ได้พอดี)
ภาพขวา : บรรยากาศที่นี่ ผู้คนมากมาย เล่นน้ำกันอย่างคาดไม่ถึงว่า สองข้างทางที่ผ่านมาช่างเงียบงันอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าจะมีคนมาเที่ยวในนี้กันมากมาย มองไปสุดตา จะเห็นเทือกเขาทอดยาวอยู่ไกลๆ นั่นแหละครับ ภูลังกา เป้าหมายที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไป โดยเฉพาะ จุดขาวๆบนยอด คือ เจดีย์หลวงปู่เสาร์ อันเป็นจุดสูงสุดของช่วงท้ายทริปนี้ ครับ
[25 ก.ค. 54 15:52:13
]
ลองมองไปทางริมบึงกันบ้าง ทั้งด้านเหนือและด้านใต้ คนเยอะราวกับหาดบางแสนเลยครับ อาจเป็นเพราะอากาศช่วงนี้ร้อนมาก วันหยุดสงกรานต์ยาว เลยทำให้คนมาเที่ยวกันเยอะ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 15:59:05
]
ยืนดูอย่างเพลิดเพลิน แม้จะไม่ได้ลงไปเล่นน้ำกับเขาด้วย
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 16:09:02
]
แทบไม่น่าเชื่อว่า หาดทรายที่นี่ก็มีคลื่นเหมือนริมทะเลเลย เพียงแต่เล็กกว่ามากๆ ถึงเวลากลับละ เพราะต้องรีบไปขึ้นภูลังกากัน
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 16:13:15
]
เดินกลับไปทางจุดที่เข้ามา พอดีเจอกับแฟนพาหลานเจ้าตัวน้อยมา เลยพานั่งชิงช้าเถาวัลย์ถ่ายภาพซะหน่อย
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 16:19:56
]
ภาพเป็นข่าว...อิอิ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 16:25:44
]
ผมออกมาจาก บึงโขงหลง ประมาณบ่าย 3 โมงเย็นแล้ว (เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ) มาเจอถนนสาย 2026 ที่มาจาก อ.เซกา (ตอนขากลับได้ผ่านไปทางนี้ แถมแวะทานมื้อค่ำด้วย) ไปตัดกับถนนเลียบริมโขงใกล้ๆ อ.บ้านแพง เลย หลังจากวิ่งผ่าน ตัวอำเภอบึงโขงหลง (ได้รับการยกเป็นอำเภอเมื่อปี พ.ศ.2536 ทำให้ข้อมูลเก่าๆเกี่ยวกับ ภูลังกา บันทึกไว้ว่า อยู่ใน อ.เซกา) ไปเล็กน้อยก็เลี้ยวขวา เข้าทางวัดศรีสว่างบูรพาราม(วัดนี้ลึกเข้าไปแค่ครึ่งกิโลเมตรเอง ในขณะที่วัดถ้ำชัยมงคล ที่ต้องการไป ลึกประมาณสิบกิโลเมตร)
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 16:40:50
]
ไปเที่ยวด้วยคนครับ
จากคุณ : ส่วนหนึ่งของประเทศไทย
[25 ก.ค. 54 16:47:40
]
พ้นแนวเขตบ้านคนไปไม่นาน ก็จะเห็นเทือกเขาอันยาวใหญ่ทอดอยู่ตรงหน้า คือ ภูลังกา ด้านทิศตะวันตก ครับ
จากรูปจะเห็นสิ่งที่สำคัญต่างๆ บนโน้น (เท่าที่จะมองเห็นได้) เป็นจุดขาวเล็กๆ ซึ่งในทีแรกผมเองก็ไม่คิดถึงกับว่าจะขึ้นไปข้างบนโน้นเลยทีเดียว
[25 ก.ค. 54 16:49:43
]
สวัสดีครับ คุณส่วนหนึ่งของประเทศไทย : ด้วยความยินดีครับ กระทู้กำลังเพิ่งเริ่มเอง คอยติดตามชมต่อไปนะครับ
มาถึงวิวตรงนี้สวยไม่เบา เพราะมีแอ่งน้ำอยู่ด้านขวามือด้วย (ผมจึงใช้เป็นภาพพื้นหลังเปิดกระทู้) มองไปไกลลิบๆ นั้นจะเห็นเจดีย์กองข้าว (พระธาตุภูลังกา) อยู่เล็กๆ แต่ ถัดไปมีอีกจุดสีขาวๆ นั้นไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นอะไร ใครพอทราบก็บอกมาได้นะครับ หรือไม่ต้องรอผมไปสำรวจคราวหน้าครับ
[25 ก.ค. 54 16:53:15
]
เข้าไปใกล้ๆเรื่อยๆ ภาพซ้ายจะเป็น มุมที่มองเห็นเจดีย์หลวงปู่เสาร์ ชัดที่สุด เมื่อเข้าไปอีก ถนนจะเลี้ยวขวา มาอีกด้านของภูเขา ซึ่งจะมองเห็นรูปปั้นพระสีขาวๆ อยู่ตรงกลางเขา
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 16:57:17
]
ขอบคุณมากๆครับผม
จากคุณ : digimontamer
[25 ก.ค. 54 16:57:48
]
ตอนนี้มองเห็นทางเข้าวัดอยู่ข้างหน้าแล้ว มีหลักกิโลอยู่ใกล้ๆ บอกว่า อีก 8 กิโลเมตรจะถึงน้ำตกกินรี ครับ (ผมลืมดูอีกด้านของหลักกิโลที่จะบอกระยะทางมายัง ตัวอำเภอบึงโขงหลง ครับ)
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 16:59:58
]
สวัสดีครับ คุณdigimontamer : ขอบคุณเช่นกันครับ สำหรับมิตรแท้ขาลุยแห่งห้อง BP ครับ (น่าจะลองมาเดินที่นี่บ้างนะครับ บรรยากาศธรรมชาติมากๆ)
ปากทางเข้าวัดถ้ำชัยมงคล ครับ ซุ้มประตูทำด้วยท่อเหล็ก ดูแปลกตามาก
[25 ก.ค. 54 17:06:54
]
เลี้ยวเข้ามาแล้ว ถนนเป็นลูกรัง ให้บรรยากาศแบบตอนผมเด็กๆ (กินฝุ่นสีแดงอิ่มเลย..ฮึฮึ) เงยหน้าดูพระพุทธรูปสีขาวบนหน้าผาข้างบน ใจคิดว่าจะขึ้นไปแค่ตรงนี้ เพราะตอนแรกคิดว่า เป็นรูปปั้นตั้งอยู่กลางลานโล่งๆข้างบน
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:10:48
]
เกือบถึงวัดล่ะ ทำไมยิ่งเข้าไปใกล้ก็เหมือนกับภูเขาข้างบนกำลังถอยห่างออกไปเรื่อยๆ (พร้อมๆ กับลดขนาดความสูงลง)
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:13:43
]
ถึงวัดถ้ำชัยมงคลละครับ กรุณาอ่านป้ายคำเตือนก่อนเข้า เมื่อเข้าไปแล้วก็พบกับความวิเวกเงียบสงบ อาจเป็นเพราะนี่บ่ายสามโมงเย็นครึ่งแล้ว ญาติโยมที่มา อาจกลับออกไปหมด
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:16:25
]
ตรงปลายลานจอดรถสังเกตุเห็น สลิงขึงลงมาจากข้างบน นี่คงเป็นวิธีส่งของขึ้นลงจากบนเขา ไม่งั้นก็ต้องแบกเดินขึ้นไปข้างบนเอง แหม...นี่เป็นระบบกระเช้าแบบไทยๆ ถ้าพัฒนาให้พาคนขึ้นไปได้ด้วยคงสนุก แต่เสียวสุดๆ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:19:01
]
ตรงลานจอดรถนี้มีแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์หลายแผ่น ผมเลือกเก็บมาเฉพาะที่น่าสนใจครับ คือ บึงน้ำ ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นบึงโขงหลง แต่ไม่ใช่ เป็นบึงน้ำก่อนถึงวัด ที่ผมบังเอิญถ่ายมาในภาพคห.18 นั่นแหละครับ ส่วนบันไดเหล็กนี้ ตอนนั้นผมก็รู้สึกสงสัยเหมือนกันว่าอยู่ตรงไหนกัน คิดว่าเป็นบันไดที่เพิ่งมีการบริจาคทำบุญสร้างกันไปไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ตอนที่ถ่ายภาพนี้ ผมยังไม่คิดว่าจะ(กล้า)ลองขึ้นบันไดนี้ด้วยซ้ำ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:24:16
]
ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร ผมรีบหาทางขึ้นทันที ตรงทางขึ้นมามีจุดไหว้พระพุทธรูปต่างๆ เพื่อความเป็นศิริมงคลก่อนขึ้น จะได้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายใดๆ กลับลงมาอย่างปลอดภัย ครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:28:04
]
มองไปทางซ้ายจะเห็นว่าตัวศาลาทอดยาวไปด้านนี้ คาดว่าเป็นจุดที่ใช้ถวายสังฆทานต่างๆ แต่ตอนนี้เย็นแล้ว เลยไม่มีใครอยู่ ด้านหน้าตรงแทนบูชา มองให้ดีจะเห็น รอยพระพุทธบาทจำลอง 2 รอย ด้วยครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:31:24
]
ถึงเวลาขึ้นกันจริงๆแล้วครับ ตื่นเต้นเหมือนกัน ตรงเชิงบันไดมีป้ายคำเตือนให้อ่านกันก่อนขึ้น เน้นว่า สงบ สำรวม และไม่ประมาท ครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:33:01
]
ตามมาชมด้วยนะครับ
จากคุณ : ว่าที่ลูกเรือ
[25 ก.ค. 54 17:35:01
]
ผ่านช่องหินที่มีพระพุทธรูปตั้งอยู่บนก้อนหิน 3 องค์แล้ว มีป้ายบอกทางไปยังถ้ำหลวงปู่วัง ซึ่งเมื่อขึ้นไปแล้ว ไม่พบป้ายบอกทางไปถ้ำอีกเลย ใครพอทราบก็บอกมาได้นะครับ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีทางแยกระหว่างทางขึ้นหรือเปล่า เพราะตอนนั้นนอกจากจะเหนื่อยแล้ว ก็มีความตั้งใจว่าจะขึ้นไปถึงข้างบนให้ได้ก่อน
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:36:01
]
สวัสดีครับ คุณว่าที่ลูกเรือ : ด้วยความยินดีในเพื่อนร่วมทาง(เดินเรื่องในกระทู้นี้) กำลังสนุกครับ
งานนี้ มีเฉพาะผมกับเด็กๆเท่านั้น ผู้ใหญ่ทั้งหลายขอบาย อยู่รอที่รถดีกว่า
บันไดช่วงนี้เป็นคอนกรีตเดินสบายครับ
[25 ก.ค. 54 17:39:10
]
มีบางช่วงเป็นบันไดเหล็ก เดินไม่ยากนัก เพราะมีราวให้จับตลอดทาง
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:49:55
]
เป็นทางขึ้นตลอด เริ่มมีวิวให้เห็นบ้างแล้ว
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:53:42
]
ภาพซ้าย : เจอทางราบบ้าง ค่อยสบายเท้าหน่อย
ภาพกลาง-ขวา : อ้าว..เจอบันไดสูงยาวเลย ขึ้นไปแล้วมองลงมา..เสียวตกเหมือนกันครับ
[25 ก.ค. 54 17:55:30
]
ช่วงนี้เป็นทางสูงชัน อันความเสียวย่อมมากับความสวย เป็นธรรมดา...ฮา
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 17:57:22
]
ภาพซ้าย : เห็นป้ายติดกับต้นไม้ พิมพ์คำสอนทางธรรม ให้ได้อ่าน ซึ่งที่วัดอุโมงค์หลังมหาวิทยาลัยเรียกกว่า ต้นไม้พูดได้ (ทำให้ผมสงสัยและหาเวลาไปเที่ยวมาแล้ว ถึงได้...บางอ้อ.. ครับ)
ภาพกลาง-ขวา : เป็นทางขึ้นต่อเนื่องครับ โอ..แค่ครึ่งแรก ยังหนักขนาดนี้ จะสังเกตุเห็นว่าเด็กๆ หายไป 2 คน ถอดใจไม่ขึ้น กลัวทั้งแดดและความสูงครับ คงเหลือเท่าที่เห็น
[25 ก.ค. 54 18:03:02
]
จากรูปจะเห็นเด็กสาวๆ เดินขึ้นกันอยู่ 2 คน ใจสู้กว่า เด็กหนุ่ม 2 คนที่ถอดใจเดินลงไปตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้ว นับถือๆ ครับ ส่วนอีกคนนั้นเขาไฟแรงเต็มอิ่ม (คงจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่ไปลุยอุโมงค์รถไฟกับผมที่ จ.อุตรดิตถิ์และจ.แพร่ คราวนั้น) ล่วงหน้าขึ้นไปจนมองไม่เห็นแล้ว (แต่ได้ยินเสียงบอกทางลงมาเป็นระยะๆ)
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 18:06:33
]
ภาพซ้าย : ตรงนี้วิวเริ่มสวยแล้ว แค่ตรงนี้ก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยแล้ว....
ภาพขวา : มองลงไปข้างล่าง ดูคดเคี้ยวมาก ตอนขากลับรู้สึกกลัวความมืดจะทำให้มองไม่เห็นทาง แต่ยังโชคดีที่มีราวบันไดยาวต่อเนื่องกันไม่ขาด แค่จับราวบันไดตลอดเวลาก็น่าจะปลอดภัยแล้ว
[25 ก.ค. 54 18:10:26
]
ภาพซ้าย : ความหวังที่รอคอยมาถึงแล้วครับ มองเห็นหลังคาอยู่ข้างบน พร้อมเสียงหนุ่มนายแบบ บอกมาว่า ถึงแล้ว.... ทางราบข้างบน
ภาพกลาง : ใช่ครับ เป็นจุดพักครึ่งทาง! เท่านั้น มองไปไกลๆ จะเห็นยอดเขาแหลมๆ พุ่งขึ้นไปบนฟ้า ดูคล้ายกับ ภูชี้ฟ้าเลย แต่อันที่จริงเป็นภาพด้านข้างเท่านั้น ด้านหน้าไม่ได้แหลมอะไร (ดังแสดงในรูป คห.19)
ภาพขวา : ตรงนี้มีเพิง ที่มีพระพุทธรูปให้นมัสการ กราบไหว้ ก่อนจะขึ้นไปต่อ...ในช่วงสอง ที่สุดหวาดเสียว
[25 ก.ค. 54 18:17:02
]
โอ...ภาพข้างหน้าคือ..บันไดเหล็กที่เห็นในภาพโปสเตอร์บริเวณลานจอดรถข้างล่างนั่นเอง... ชักน่าสน แต่ตอนนี้ขอไปไหว้พระสีขาวตรงหน้าผาก่อน อยากจะรู้เหมือนกันว่าเป็นทางโล่ง ทางราบขนาดไหน กางจอหนังกลางแปลงได้หรือไม่...
ตรงจุดนี้จะสังเกตุเห็นปลายสลิงที่ขึงมาจากข้างล่าง ตรงปลายลานจอดรถ มาสิ้นสุดตรงนี้ และก็มีสลิงอีกเส้น ขึงขึ้นไปข้างบน ทางด้านซ้ายมือ สลิงตกท้องช้าง ทำให้ไม่สามารถขึงรวดเดียวจากข้างบนลงมายังข้างล่างได้ อีกทั้งตรงจุดพักกลางทางนี้ก็มี ศาลาและองค์พระด้วย
[25 ก.ค. 54 18:22:30
]
ภาพซ้าย : ทางไปยังองค์พระสีขาวที่หน้าผานั้น แม้จะเป็นทางราบแต่ก็รก ไม่เรียบอย่างที่คิดครับ ข้างหน้ามีกุฏิพระอยู่ก่อนถึงองค์พระด้วย
ภาพขวา : หันหลังกลับไปดูทางที่เดินเข้ามา (ต้องเดินผ่านแผ่นกระดานสีขาวด้วย) สำหรับถังน้ำทีเห็น ผมได้ลองไปเปิดก๊อกดูแล้ว มีแต่ความว่างเปล่า อาจเป็นเพราะไม่มีฝนตกมานานแล้ว ถังน้ำนี้รับน้ำมาจากฝนที่ตกลงบนหลังคาศาลาใกล้ๆ ครับ บนโน้นไม่มีน้ำใดๆ ที่จะล้างมือได้เลย นอกจากน้ำที่นำขึ้นไปเองเพื่อดื่ม
[25 ก.ค. 54 18:27:22
]
ภาพซ้าย : กำลังเดินผ่านกุฏิพระ พระที่นี่เดินเก่งมาก คงมีสุขภาพดี เพราะได้ออกกำลังกายและอากาศก็บริสุทธิ์มากๆ ครับ
ภาพขวา : หันกลับไปดูบันไดท่อเหล็ก (บางคนนิยมเรียกว่า แป๊บน้ำ) ที่ต่อขึ้นไปข้างบนอย่างคดเดี้ยว ดูท้ายทายน่าลองขึ้นไปข้างบน
[25 ก.ค. 54 18:33:04
]
ภาพซ้าย : เริ่มมองเห็นองค์พระสีขาวตรงหน้าผาชัดๆแล้ว เส้นทางเดินมาไม่สวยหรู ราบเรียบอย่างที่คิดเลย
ภาพขวา : หันกลับไปดูบันไดท่อเหล็ก ตรงจุดนี้จะเห็นยอดบันไดอยู่ตรงช่องระหว่างหน้าผา ดูเสียวไม่น้อย บางคนมาเห็นรับรองถอดใจทันที ไหนจะสูงเกือบพันขั้น แล้วยังดูโล่งๆ เหมือนบันไดลิงอีก
[25 ก.ค. 54 18:37:45
]
รีบเข้ามาทักก่อน เดี๋ยวจะย้อนกลับไปอ่านค่ะ เห็นรูปแว๊บๆ พาเที่ยวป่าน่าตื่นเต้นดีจังค่ะ
จากคุณ : ป้าฟู
[25 ก.ค. 54 18:52:31
]
สวัสดีครับ คุณป้าฟู : มิตรแท้แห่งห้องบลู (ของผม..อิอิ) ตอนนี้กำลังตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ผมเดินมาถึง รูปปั้นพระสีขาว องค์ใหญ่ บนหน้าผาแล้ว เข้ามาใกล้จึงทราบว่าเป็นประติมากรรมนูนสูง ที่สลักหินบนหน้าผาเป็นรูปองค์พระ มีลักษณะคล้ายกับ ภาพถ่ายในภาพขวาคห.41 ในเพิงไหว้พระพุทธรูป การจะเดินเข้าไปใกล้กว่านี้ต้องลุยป่ารกๆ เข้าไป ผมจึงหยุดไว้แค่นี้ เพราะเดี๋ยวต้องไปบนภูลังกากันต่อครับ
[25 ก.ค. 54 19:51:09
]
ไปหน้าหนาวคงดีนะครับไม่ร้อนมาก เดินไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก
ร้อนๆแดดเปรี้ยงลุงไม่ไหวครับ ขอเกาะจอดูแบบนี้ไปก่อนนะ
[25 ก.ค. 54 19:52:22
]
ตอนนี้ผมเดินกลับมายังเชิงบันไดช่วงที่สอง ที่สร้างขึ้นมาจากท่อเหล็กล้วนๆ แล้วครับ รู้สึกตื่นเต้นน่าดูเหมือนกันว่าจะขึ้นไปได้หรือไม่ ทั้งสูง ทั้งโล่ง แบบนี้
จากรูป มองบันไดดีๆ ก็คล้ายกับ สร้อยเส้นยักษ์ถูกพาดลงมาจากบนเขา
[25 ก.ค. 54 19:59:55
]
คุณลุงแบกเป้ : ใช่ครับ ปกติการท่องเที่ยวภูเขานี้เขาก็นิยมมาในช่วงหน้าหนาว เพราะจะได้เห็นหมอกสวยๆ ในยามเช้าด้วย ถ้าหากมาค้างแรมบนเขา แต่เนื่องจากแฟนผมไม่อยากลาหยุดเพื่อมาเที่ยว เลยทำให้ต้องมาในช่วงเทศกาลหยุดยาว แต่ปีใหม่ ผมมักติดงานอีก พอดีสงกรานต์ปีนี้หยุดยาวจริงๆ เลยได้มาเที่ยวไกลๆ แบบนี้กับเขาได้... ก็ยังดีกว่าไม่ได้มาครับ น้ำดื่มก็ต้องหิ้วขึ้นไปข้างบน และก็หมดพอดีบนโน้น ขากลับก็ต้องเดินตัวเปล่ามากินเอาข้างล่างด้วยความหิวและอ่อนเพลียครับ
จากรูป ขณะนี้บันไดสู่ยอดเขา แดนศักดิ์สิทธิ์ ได้มาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว สภาพตอนนี้ก็รู้สึกเมื่อยขากันมากพอสมควร ขนาดเด็กสาวๆ สองคนที่ขึ้นมาด้วยกัน ต้องถอดใจ นั่งรอ และกลับลงไปก่อนหน้าผมที่จะลงไป สรุปคือ ผมไปกับนายแบบหนุ่ม ขาลุย คนเดิมนั้นแหละครับ
[25 ก.ค. 54 20:08:29
]
โอ้ โห นี่ถ้าไม่ใช่ด้วยศรัทธาจริงๆ คงยากที่จะได้ไปสักการะถึง
บนยอดภูนะคะเนี่ย
ตามชมอยู่ด้วยความชื่นชม และอนุโมธนาบุญ ด้วยคน นะคะ ^^
[25 ก.ค. 54 20:09:52
]
เป็นบันไดคอนกรีตตรงเชิงทางขึ้นแค่ 2 - 3 ขั้นเท่านั้น ต่อไปเป็นบันไดท่อเหล็กกลมๆ ล้วนๆ ครับ นึกไม่ออกเหมือนกันว่า ถ้าหากฝนตกคงลื่นมาก แล้วจะเดินกันอย่างไรละคราวนี้ นับว่าโชคดีที่ยังมีราวบันไดทั้ง 2 ข้างให้เกาะทั้งสองมือพอประทังความเสียวไปได้
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 20:11:42
]
สวัสดีครับ คุณลุงหนวด & ต้นอ้อ : ใช่ครับ ต้องมีทั้งความศรัทธาและสุขภาพดีด้วย คณะผมมีผู้ใหญ่มาหลายคน ต้องอยู่ข้างล่างเท่านั้น ได้แต่ขอให้ผมเก็บภาพมาให้ชมกันแทน นับวันอายุก็มากขึ้นเรื่อยๆ ปีก่อนผมยังพาขึ้นถ้ำพระธาตุที่ จ.กาญจนบุรี หรือแม่แต่ ภูกระดึงก็พาขึ้นมาแล้ว ตอนนี้ลำบากครับ ยิ่งมีเวลาจำกัดๆ ด้วย (ตอนที่เริ่มขึ้นจากข้างล่างก็เกือบสี่โมงเย็นแล้ว ตอนนี้ที่จะเริ่มขึ้นช่วงที่สองก็ สี่โมงครึ่ง กว่าจะถึงยอดกลัวจะมืดอยู่เหมือนกัน) ก็เป็นไปได้ยากครับ ถ้าอยากจะขึ้นจริงๆ คงต้องมาตอนเช้าสัก 9 โมงเช้าก็จะดี แต่...สำหรับที่นี่ คงจะยาก เพราะไม่ใช่สูง แต่เสียวด้วย ครับ
มาลุยกันต่อ แหงนหน้าขึ้นไป โอ้โฮ..บันไดดูเหมือนกับจะเล่นกายกรรมเลย... ก้มดูข้างล่างก็โล่งๆ เหมือนอยู่บนรางรถไฟเลย
[25 ก.ค. 54 20:18:53
]
อูว...มองกลับไปดูบันไดที่ขึ้นมา.... เหมือนสไลเดอร์เลย นี่ถ้าลื่นลงไปก็มีอันต้องยาวว.....แน่นอน (มองไม่เห็นว่าตรงไหนเป็นขั้นของบันไดเลย)
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 20:20:39
]
ภาพซ้าย : นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้นเอง ยังมีอีกไกล
ภาพขวา : ก้มมองดูเท้าตัวเอง (ต้องขอโทษที่ถ่ายเท้าให้ดูกัน) เพราะต้องการสื่อให้เห็นว่า ข้างล่างนั้นโล่งโจ้ง ถ้ามองขณะที่เดินจะตาลายไปหมด มือต้องจับราวทั้งสองให้แน่นเข้าไว้ เพื่อความมั่นใจ
[25 ก.ค. 54 20:23:38
]
ภาพซ้าย : ใกล้จะถึงยอดบันไดก่อนจะหักโค้งหายขึ้นไปอีก แดดจัดจริงๆ เพราะเป็นด้านทิศตะวันตกด้วย รู้สึกว่าตัวเองเหมือนหมูย่างเลย..ฮึฮึ
ภาพขวา : มองออกไปด้านขวามือ เป็นหน้าผาโล่งๆ ให้ความรู้สึกหวาดเสียว โชคดีที่ผมใช้กล้องคอมแพ็คขนาดเล็กที่ถ่ายได้ด้วยมือข้างเดียว เพราะอีกมือต้องเกาะราวให้แน่น เวลาเดินขึ้นนี่กล้องไม่ต้องปิด ถือติดมือไปกับราวบันไดตลอด เพราะมีมุมกล้องเสียวๆ แปลกๆ ให้น่าบันทึกไว้ตลอดทาง
[25 ก.ค. 54 20:27:06
]
ภาพซ้าย : แสดงขั้นแบบบันไดชัดๆ ให้ดู (แค่ดูก็ตาลาย ไม่รู้ขั้นไหนเป็นของขั้นไหนแล้ว) ช่วงนี้มีความชันมาก ต้องค่อยๆ ก้าวทีละก้าว ก้าวหยุดๆ ไปเรื่อยๆ
ภาพขวา : หันกลับไปมองข้างล่าง....ว้าว..เสียวกว่าเมื่อกี้อีก ผมยังนึกกังวลใจว่า ขากลับลงมาจะทำท่าไหนกันแน่ และถ้ามืดอีกด้วยคงยุ่งน่าดู เพราะไม่ได้นำไฟฉายขึ้นมาด้วย (ตามเคย)
[25 ก.ค. 54 20:29:55
]
ภาพซ้าย : ต่อเนื่องจากภาพขวา คห.57 ข้างบน คือเมื่อเงยหน้าขึ้นไปหน่อย พร้อมหันไปดูด้านซ้ายก็จะเห็นเชิงบันได ที่เป็นจุดพักครึ่งทางอยู่ข้างล่าง
ภาพขวา : เดินขึ้นมาบนจุดพักบันไดตรงโขดหิน ในรูปซ้าย คห.56 แล้วส่องกล้องลงไปดูข้างล่างอีก ด้วยความเสียว..กลัวจุดพักบันไดตรงนี้ไม่แข็งแรง เลยต้องค่อยๆ ก้มถ่ายภาพผ่านช่องใต้ราว อย่างที่เห็น
[25 ก.ค. 54 20:33:16
]
ภาพซ้าย : รวบรวมความกล้า แล้วยืนขึ้นเก็บภาพเหนือราวจับตรงที่พักบันไดลงมา แบบไม่มีอะไรบดบัง...หวิว..ไปหมด
ภาพขวา : หันมาดูหน้าผาด้านขวามือบ้าง เป็นวิวที่สวยไม่เบา จะมองเห็นพื้นที่ราบตรงหน้าองค์พระสีขาวตรงหน้าผาได้ชัดเจน ว่าไม่เรียบอย่างทีคิด ทั้งมีความลาดเอียงอยู่บ้าง และต้นไม้ขึ้นรกไปหมด
[25 ก.ค. 54 20:37:48
]
หันมาดูวิวไกลๆ ด้านหน้าอีกที... หมอกเยอะ ภาพย้อนแสงไปหน่อยครับ
จากภาพจะเห็นบึงโขงหลงด้านใต้โผล่มาให้เห็นขาวๆ ทางด้านขวามือเล็กน้อยด้วยครับ
[25 ก.ค. 54 20:47:08
]
ภาพซ้าย : พักพอแล้ว ยังไม่ถึงมาลุยต่อกันดีกว่า
ภาพกลาง : ตรงนี้เป็นสะพานแนวราบ ซึ่งใช้ท่อเหล็กทำเช่นเคย แทบไม่น่าเชื่อว่า วัสดุชนิดเดียวสามารถใช้ทำสะพานได้ทุกส่วนเลย สะพานช่วงนี้จะวกกลับมา ทำให้เหวเปลี่ยนมาอยู่ด้านซ้ายมือแทน
ภาพล่าง : หันไปทางซ้ายดูวิวข้างล่าง...ตรงจุดพักกลางทางที่เดิม
[25 ก.ค. 54 20:52:00
]
ภาพซ้าย : ข้างหน้าขึ้นไปยังช่องเขา มองลอดใต้บันไดจะเห็นช่องหินโล่งๆ ชวนให้เสียวเหมือนกัน
ภาพขวา : หันกลับไปดูข้างหลังอีกที จะเห็นทางราบที่ต่อเข้ากับบันได ดูหักมุมหายไปข้างล่าง เลยดูโล่งไปหมด
[25 ก.ค. 54 21:01:24
]
แบบนี้ผมขอเรียกว่า บันไดลอยฟ้า จริงๆ เพราะตัวบันไดมันแยกจากหน้าผาออกมา แบบโล่งๆ แถมเวลาเดินก็มีการขยับตัวนิดหน่อย..หุหุ.. คิดว่าคงได้ความรู้สึกคล้ายๆ กับการขึ้นภูทอก แน่นอน
ภาพซ้าย : ยัง..ยังไม่ถึง ยังมีต่อไปอีกเป็นช่วงๆ เฮ้อ... สุดๆเลยเรา
ภาพขวา : มองกลับไปข้างหลังอีกที อูย..
[25 ก.ค. 54 21:06:38
]
ภาพบน : ข้างหน้ามีสะพานแนวราบให้พักขาได้ เฮ้อ..ค่อยยังชั่วหน่อย
ภาพล่าง : ก้มดูท่อเหล็กชัดๆ เป็นขนาด ครึ่งนิ้ว เชื่อมเข้าด้วยกัน โดยไม่ใช้น๊อตยึด
[25 ก.ค. 54 21:09:43
]
ภาพบน : สะพานช่วงนี้ยาวที่สุดเท่าที่เดินผ่านมา ดูน่าจะเดินได้สบายๆ แต่...
ภาพล่าง : ก้มดูที่พื้น แท่งเหล็กหลุดหายไปหนึ่งอัน ให้ระมัดระวัง กันหน่อย
[25 ก.ค. 54 21:12:22
]
ลุยกันต่อไปครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 21:14:00
]
เวลาตอนนี้ใกล้ห้าโมงเย็นเข้าไปทุกที... ยังไม่ถึงยอดปลายบันไดสักที จิตใจต้องมีความแน่วแน่จริงๆ ไม่งั้นถอดใจกลับลงไปแล้ว...
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 21:16:45
]
นี่เป็นภาพสองภาพนำมาต่อกัน เพื่อให้เห็น มุมมองจริงๆ ตรงจุดนั้นครับ ซึ่งขาลงผมต้องหันหน้าลงมาเห็นแบบนี้ จะลงได้หรือไม่อย่างใดก็ไม่อาจทราบได้ แต่นับว่าเป็นโชคดีของผม ที่ได้ถ่ายภาพย้อนหลังไว้ก่อน เพราะแบตเตอรี่กล้องได้หมดลงบนยอดภูลังกาพอดี หลังจากได้เก็บภาพจุดสำคัญๆ ที่สุดไว้ครบถ้วนแล้ว ขากลับผมจึงเดินรวดเดียวโดยไม่มีการถ่ายภาพใดๆ อีก
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 21:21:37
]

แวะมาชมครับ ตามขึ้นไปด้วยคนครับ
เรียกเหงื่อทั้งตัวไดดีทีเดียว ^ ^
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
[25 ก.ค. 54 21:22:35
]
ภาพซ้าย : ใกล้ถึงจุดสูงสุดของบันได้แล้ว มีขึ้นอีกช่วงสั้นๆ
ภาพขวา : ไชโย..ถึงปลายบันไดแล้ว ข้างหน้าเป็นพื้นดินแนวราบ สำเร็จๆ แล้วครับ
[25 ก.ค. 54 21:24:23
]
สวัสดีครับ คุณกัปตันลูกชุบ : ขอบคุณเช่นกันที่มาร่วมเป็นเพื่อนเดินทางในเว็บนี้กับผมอีกครั้ง ต้องยอมรับว่าร้อนมากๆ แต่อากาศบริสุทธิ์ดี หิวน้ำน่าดูเลย ต้องค่อยๆ ทะยอยกินน้ำในขวดที่นำขึ้นมาเพียงขวดเดียวกับ หลานชาย ซึ่งก็หมดพอดีเมื่อถึงบนยอดภูครับ
ภาพซ้าย : หันกลับไปดูตรงบันไดที่เพิ่งขึ้นมา เป็นด้านทิศใต้ของภูลังกา
ภาพขวา : ทางด้านซ้ายมือของผม(ขณะที่เดินหน้าขึ้นภูลังกา) เป็นวิวด้านทิศตะวันออก ที่วัดถ้ำชัยมงคลตั้งอยู่ ครับ
[25 ก.ค. 54 21:29:05
]
ภาพซ้าย : ยังไม่หมดบันไดเสียทีเดียวครับ ยังมีบันไดอีกชุดไปสิ้นสุดบนก้อนหินข้างบนโน้น ถึงจะถือว่าขึ้นมาบนภูลังกาได้แล้ว
ภาพขวา : ลักษณะขั้นบันไดช่วงนี้เป็นเหล็กตัวซี ทาสีแดงแป๊ด ขณะที่ราวบันไดเป็นเหล็กท่อกลมเช่นเดิมแต่ทาสีเหลือง (เข้าใจคิด เอาสองสีนี้มารวมกันเพื่อความสามัคคีของชาติ)
ขั้นบันไดเรียบจัง อาจลื่นได้เหมือนกัน เดินต้องระวังบ้าง เหลือบเห็นบันไดเก่าทำด้วยไม้พาดไว้ข้างๆ พระสงฆ์ที่มาจำวัดที่นี่ นับว่ามีความเก่งในการปีนเขาอย่างมาก ทั้งๆ ที่ไม่มีเครื่องมือแบบเดียวกับ จนท.อุทยานฯ หรือชาวบ้านเลย โดยเฉพาะสมัยก่อนที่ยังไม่มีการสร้างบันไดอำนวยความสะดวกแบบนี้
[25 ก.ค. 54 21:36:05
]
ภาพซ้าย : ถ่ายภาพขั้นบันไดช่วงนี้มาให้ดูกันชัดๆ อีก ซึ่งพอดีมีขั้นบันไดแบบดิน อยู่ข้างล่างด้วย
ภาพขวา : มองบันไดข้างหน้า ดูคล้ายกับกระโดดข้ามก้อนหินขึ้นไปเลย เทียบกับสะพานเก่า ที่เป็นส่วนย่อยๆ นำมาพาดกับก้อนหินในแต่ละก้อน
[25 ก.ค. 54 21:41:24
]
หันกลับมาดูด้านหลังอีกครั้ง เป็นวิวด้านทิศใต้ที่จะเห็นเทือกเขาภูลังกาทอดยาวต่อไปอีกไกล
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 21:45:44
]
ภาพซ้าย : ในที่สุด ผมก็มาถึงโค้งสุดท้ายที่จะอ้อมก้อนหินใหญ่ข้างหน้าโน้นครับ
ภาพขวา : ขึ้นไปยืนบนทางราบข้างหน้า แล้วหันกลับมาดูข้างหลังอีกครั้ง คราวนี้โล่งโจ้งเลย..
[25 ก.ค. 54 21:48:51
]
ตอนนี้กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว...ตบท้ายด้วยบันไดสูงอีกครั้ง... ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายนะ... เพราะตอนนี้ ก็ห้าโมงเย็นตรงเป๊ะเลย
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 21:50:58
]
ระหว่างเดินขึ้นไปยังจุดบนสุดของสะพานช่วงสุดท้าย ก็หยุดเก็บภาพมาให้ชมอีกครั้งครับ
ภาพซ้าย : มองไปทางซ้ายมือ เป็นวิวด้านทิศตะวันตก ที่มีบึงโขงหลง เช่นเคยครับ เป็นภาพย้อนแสง เลยเห็นแต่หมอกเป็นส่วนใหญ่
ภาพขวา : มองไปทางขวาบ้าง.... เจอป้าย "ครั้งหนึ่งในชีวิต..." เหมือนกับที่ภูกระดึงเลย
[25 ก.ค. 54 21:53:28
]
ภาพซ้าย : ข้างหน้าผมคือ..บันไดขั้นสุดท้ายที่จะพาผมขึ้นมายังภูลังกาแห่งนี้ครับ ข้างหน้าเป็นพื้นหินทรายล้วนๆ ครับ
ภาพขวา : หันกลับไปมอง (เช่นเคย) โค้งสุดท้ายข้างล่าง ช่างสูงชันเป็นการทิ้งทวนจริงๆ เลยหลุดโค้งไปก็เหวครับ
[25 ก.ค. 54 21:56:18
]
ผมถอยหลังออกมาจากปลายบันได เพื่อเก็บภาพมุมมองตอนขากลับไว้ล่วงหน้า ครับ เห็นราวกันตกแล้ว ดูคล้ายกับดาดฟ้าหลังคาเรือเลย แต่ที่นี่ต้องเรียกว่า ดาดฟ้าภูลังกา ครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 21:59:39
]
ครับ...ในที่สุดก็มาถึงจนได้ ภูลังกา มองเห็นเจดีย์กองข้าว (พระธาตุภูลังกา) อยู่ไกลลิบๆ โน้นด้วย วันนี้ขอพักกระทู้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[25 ก.ค. 54 22:02:59
]
สุดยอดแห่งความเสียวเลยค่ะ อยากไปปีนมั่งแต่เป็นโรคกลัวความสูง...แค่เห็นรูปก็แย่แล้ว....อิอิอิ
จากคุณ : ป้าฟู
[25 ก.ค. 54 22:44:19
]
อยากไปบ้างจัง :D
จากคุณ : วัชเจียเหว่ย
[25 ก.ค. 54 23:20:15
]
ขอบคุณสำหรับข้อมูลต่างๆมากครับ
จากคุณ : Destiny-Boy
[25 ก.ค. 54 23:38:55
]
เสียวตามเลยอ่ะครับ
จากคุณ : เย็นตาโฟไม่หู้ไม่เลือดไม่ไทย
[26 ก.ค. 54 15:28:28
]
คุณป้าฟู : ใช่ครับ ของมีค่าต้องใช้ความพยายามกันมากหน่อย อย่างน้อยก็เป็นการวัดใจกัน และทำให้ธรรมชาติบนนั้นคงความสดใสได้ยาวนาน ครับ และนี่ก็เป็นวัตถุประสงค์ของกระทู้รีวิวของผมที่พยายามจะถ่ายทอดให้กับผู้ที่ไม่มีโอกาส หรือไม่สามารถมาเที่ยวสถานที่บางแห่งได้ (รวมทั้งตัวผมในอนาคตด้วย)
สวัสดีคุณวัชเจียเหว่ย, คุณ Destiny-Boy : ขอบคุณเช่นกันครับ ที่เข้ามาชมและให้กำลังใจกัน
สวัสดีคุณเย็นตาโฟไม่หู้ไม่เลือดไม่ไทย : ตอนขึ้นต้องมีความมั่นใจในตัวเองพอสมควร ที่จะไม่หน้ามืด หลุดมือ ลื่นตกลงมาเหมือนกัน ตอนที่ผมกำลังจัดเตรียมภาพนี่ บอกตรงๆ ว่ารู้สึกเวียนหัวกับรูปเลยครับ
กลับมาค้นหาแผนที่ของ ภูลังกา แห่งนี้ พบว่ามี จุดที่นิยมขึ้นกัน 3 จุด คือ ทางอุทยานแห่งชาติภูลังกา ใกล้กับถนนเลียบโขง(สาย 212) , เจดีย์กองข้าว (พระธาตุภูลังกา) และ วัดถ้ำชัยมงคล อันถือเป็นทางเลือกใหม่เพิ่มขึ้นมา เพราะเส้นทางเดิมนั้นมีความสูงชันมาก ซึ่งเมื่อขึ้นไปข้างบนก็สามารถเดินถึงกันได้ แต่....มีความลำบากพอสมควร เพราะไม่ใช่พื้นที่เรียบ เหมือนกับภูกระดึง ตามกระทู้ของคุณ legolas072 ใน เว็บลิ้งค์ข้างล่างนี้
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=34&topic_no=179438&topic_id=181708&&page=1
ที่เคยเดินขึ้นทางเจดีย์กองข้าว แล้วลงทางวัดถ้ำชัยมงคล โดยผ่านถ้ำของครูบาวังด้วย นับว่าสุดยอดของความอึดเหมือนกัน เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีการสร้างบันไดท่อเหล็กนี้
[26 ก.ค. 54 16:43:20
]
และจากกระทู้ของคุณlegolas072 ข้างบน ทำให้พอคาดเดาถึงเส้นทางขึ้นเดิมได้ โดยดูจากภาพตั้งแต่ คห.138 ขึ้นไป ในลิ้งค์นี้
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=34&topic_no=179438&topic_id=181708&&page=3
แต่น่าเสียดายที่ผมไม่พบเส้นทางไปยัง ถ้ำครูบาวัง ซึ่งคาดว่าจะต้องเดินแยกไปจากบริเวณเจดีย์ครูบาวัง เอาไว้คราวหน้ามีโอกาสจะไปค้นหาให้เจอ
และอีกเรื่องหนึ่งคือ ทางขึ้นด้านเจดีย์กองข้าวนั้น น่าลองขึ้นไปไหว้สักครั้งเช่นกัน ถ้ามีโอกาส ครับ
[26 ก.ค. 54 17:45:02
]
รูปลักษณะเชิงบันไดทางขึ้นด้านเจดีย์กองข้าว ครับ
ภาพของคุณ legolas072 คนเดิมนะครับ
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=34&topic_no=179266&topic_id=181529&&page=2
[26 ก.ค. 54 17:52:42
]
ซึ่งรูปเจดีย์กองข้าวนั้นมีลักษณะกลมๆ เหมือนกองฟาง ครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[26 ก.ค. 54 17:54:28
]
และนี่ก็เป็นเพิงถ้ำครูบาวัง ที่ผมหาทางเข้าไปไม่เจอ คิดว่าอยู่ลึกไปในหุบเขาด้านใน ซึ่งอาจต้องมีคนนำทางจากข้างล่างด้วยซ้ำไป ครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[26 ก.ค. 54 17:56:59
]
ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ
จากคุณ : Us-Sama Iland
[26 ก.ค. 54 18:00:27
]
เนื่องจากบนภูลังกายังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกเยอะ ผมเลยต้องขอยกไปอยู่ในตอนหน้า ตอนที่ 10 ที่คาดว่าจะเป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้ ก่อนกลับกรุงเทพฯ ครับ ซึ่งจะมีแถมภาพบึงแก่นนคร ของ จ.ขอนแก่น ที่ผมต้องแวะพักอีกคืนเพราะขับรถไม่ไหว ครับ (แค่ลงจากภูลังกามา ก็รู้สึกปวดขามากแล้ว กว่าจะหายดีก็หลังจากมากรุงเทพฯแล้ว 3 - 4 วันโน้นครับ)
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[26 ก.ค. 54 18:13:00
]
ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ
จากคุณ : noiwanwannoi
[26 ก.ค. 54 19:40:32
]
ไปเที่ยวแดนอีสานด้วยคนค่ะ
จากคุณ : สาวหน้าใส
[27 ก.ค. 54 02:01:46
]
สวัสดีครับ คุณUs-Sama Iland , คุณnoiwanwannoi และคุณสาวหน้าใส : ขอบคุณเช่นกันครับ สำหรับการเยี่ยมชมทุกท่าน ครับ ช่วงนี้ขอเวลาจัดเตรียมภาพในตอนต่อไปก่อนนะครับ คงสักสัปดาห์หน้า น่าจะได้นำมาให้ชมกันครับ คอยติดตามชมกันนะครับ
จากคุณ : มิราชช (mirage_II)
[27 ก.ค. 54 10:29:24
]
ถนนหนทาง สุดยอดจริงๆคะ
จากคุณ : มารร้ายวัวน้อย
[27 ก.ค. 54 21:15:43
]
ว๊า.... ไม่ทันดูสด
แต่... ดูแห้งก็ยังดี
[28 ก.ค. 54 02:09:07
]
น่าไปเที่ยวมาก ๆ เลยครับ เป็นความสวยงามที่คุ้มค่ามากเลยครับ หากใครได้สัมผัส ความสุขเลยครับ.. รอชมตอน 10 ครับ
จากคุณ : สุดท้ายตรงไหน
[29 ก.ค. 54 10:20:35
]
สวัสดีครับ คุณมารร้ายวัวน้อย : มีภาพและข้อมูลเกี่ยวกับถนน จะได้จำได้ง่าย เมื่อต้องการไปอีกครั้ง และด้วยเหตุที่ต้องแสดงภาพบรรยากาศ การเดินทาง เพราะถ้าหากเวลาผ่านไปหลายสิบปี ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งภาพเหล่านี้จะกลายเป็นภาพเก่าๆ เชิงประวัติศาสตร์ทันทีครับ
สวัสดีครับ คุณต้มมะระหมู : ดูสดไม่ทันก็ไม่เป็นไรครับ แค่ผ่านมา 2 - 3 วันเอง เดี๋ยวคอยชมตอนต่อไป ประมาณสัปดาห์หน้า แน่นอนครับ ขอบคุณสำหรับ กิฟท์ นะครับ
สวัสดีครับ คุณสุดท้ายตรงไหน : ใช่ครับผมกลับมาทำรีวิวนี้ ได้เห็นอะไรที่ตอนที่ไปไม่เห็นเยอะแยะเลย วันนี้ผมได้จัดเตรียมภาพบนภูลังกาเสร็จแล้ว คงเหลือแต่ ภาพการเดินทางกลับ โดยผ่าน จ.ขอนแก่น ซึ่งจะแวะ บึงแก่นนคร อีกเล็กน้อย ครับ ต้องยอมรับว่า อยากกลับไปอีกเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นทาง เจดีย์กองข้าว นั้น ผมยังไม่เคยไป กับ ถ้ำของครูบาวัง นั้น ผมคิดว่า คงไม่ไกลไป เจดีย์ครูบาวังแน่นอน
[30 ก.ค. 54 01:55:23
]
ต้องขอโทษที่ลืมวางลิ้งค์ในตอนจบไว้ด้วยครับ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10885838/E10885838.html
เนื้อหาเป็นการท่องไปบนภูลังกา ที่เวิ้งว้าง เหมือนอีกโลกหนึ่งในแดนหิมพานต์ ในยามเย็น ครับ
[22 ส.ค. 54 20:05:59
]