เมื่อวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา ไปตะลุยเหนือหน้าฝน ด้วยเส้นทางหมายเลข 8 ที่ไม่ใช่ทางหลวงหมายเลข 8 ลองดูภาพประกอบเส้นทางกัน

ตั้งใจจะใช้วันหยุด ที่มีครั้งนี้ไปชาร์จแบตให้คุ้มค่า วางแผนตระเตรียม จะไป พิษณุโลก อุตรดิถต์ แพร่ น่าน ลำปาง สุโขทัย เพชรบูรณ์ และลพบุรี ก่อนเดินทางสักอาทิตย์กว่า มีข่าวน้ำท่วมน่าน และเริ่มไหลลงมาท่วม ตามเส้นทางที่จะเดินทางไป ข่าวพยากรณ์อากาศ ก็ยังบอกว่าจะมีฝนในช่วงเวลาที่จะเดินทางไปอีก หันมาคุยกับคณะที่จะร่วมเดินทางทุกคนก็มีความคิดเห็นตรงกันคือ ถึงฝนตกน้ำท่วมเราก็ไม่เปลี่ยนใจ การเดินทางจึงเริ่มต้น ตามมาเที่ยวกันเลยครับ

(รูปใหญ่ไปขอแก้ไขหน่อยครับ)

ลองดูใหม่ครับ

เนื่องจากเป็นเทศกาลเข้าพรรษา และเป็นการเดินทางไปทางภาคเหนือ สถานที่ส่วนใหญ่ก็ไปเที่วัดแหละครับ

ที่แรกที่ไปคือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง ถือได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลก

พระวิหารหลวงประดิษฐานพระพุทธชินราช เป็นวิหารทรงโรง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ซึ่งนับถือกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดองค์หนึ่งในโลก

องค์พระปรางค์ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางของวัด เป็นพระปรางค์ประธาน และเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของวัด

พระวิหารพระอัฏฐารส  บริเวณหลังวิหารพระพุทธชินราช มีพระอัฏฐารส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติสูง 18 ศอก (ประมาณ 10 เมตร) สร้างในสมัยเดียวกับพระพุทธชินราช ในราว พ.ศ. 1800 เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารใหญ่แต่วิหารได้พังไปจนหมด เหลือเพียงเสาที่ก่อด้วยศิลาแลงขนาดใหญ่ 3 – 4 ต้น

หลังจากสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดาแล้ว พระยาลิไทรับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือนำมารวมกันหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดเล็ก หน้าตัก กว้าง 1 ศอกเศษ เรียกชื่อพระพุทธรูปนี้ว่า “พระเหลือ

สถานที่ถัดไปที่มาก็คื วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ที่บนเนินเขาเต่า บ้านพระแท่น ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล

วัดพระแท่นศิลาอาสน์เป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดสร้าง และสร้างแต่เมื่อใด ในศิลาจารึกครั้งกรุงสุโขทัยไม่ปรากฏข้อความกล่าวถึงพระแท่นศิลาอาสน์ แต่เพิ่งมีปรากฏในหนังสือพระราชพงศาวดาร ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์ได้เสด็จนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อปี พ.ศ. 2283 ได้แสดงว่าพระแท่นศิลาอาสน์ได้มีมาก่อนหน้านี้แล้ว

ตามไปเที่ยวด้วยจ้า

ยินดีครับคุณต้มส้มปลากระบอก

พระแท่นศิลาอาสน์เป็นพุทธเจดีย์ เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง เป็นที่เชื่อกันมาแต่โบราณว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จและจะได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้ว

ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑป ศิลปะเชียงแสนครอบ อยู่ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์

เดินทางมาต่อที่จังหวัดแพร่  ไปไหว้พระที่ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่ คู่บ้าน คู่เมืองจังหวัดแพร่และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล เป็นวัดที่ตั้งอยู่เนินเขาเตี้ย สูงประมาณ 28 เมตร

องค์พระธาตุช่อแฮ เป็นเจดีย์พุกามรูปแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะแบบเชียงแสน บุด้วยทองดอกบวบสูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร ลักษณะองค์พระธาตุตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม 1 ชั้น ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยม 3 ชั้นรองรับ ถัดไปเป็นฐานบัวคว่ำและชุดท้องไม้แปดเหลี่ยม ซ้อนลดชั้นกันขึ้นไป 7 ชั้น จากนั้นเป็นบัวระฆัง 1 ชั้น และหน้ากระดานหนึ่งชั้น จนถึงองค์ระฆังแปดเหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังค์ย่อมุมไม้สิบสองและปล้องไฉน ส่วนยอดฉัตรประดับตกแต่งด้วยเครื่องบนแบบล้านนา หุ้มด้วยทองจังโก้ตลอดทั้งองค์

ภายในวัดยังมี พระเจ้าทันใจหรือหลวงพ่อทันใจ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิปูนปั้น ลงรักปิดทอง พระเจ้าทันใจหรือหลวงพ่อทันใจ) เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้นิยมมากราบไหว้ บนบานศาลกล่าวอยู่เสมอ เชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใครมาขอพรแล้ว จะได้สิ่งนั้นอย่างสมประสงค์

องค์พระที่อยู่ภายในวิหาร

รอบๆองค์พระธาตุ

ออกจากวัดพระธาตุช่อแฮก็เดินทางมาต่อที่ แพะเมืองผี ซึ่งเกิดจากสภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นดิน และหินทรายถูกกัดเซาะตามธรรมชาติเป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ

มีตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ ความลี้ลับจนเป็นความเชื่อของคนในท้องถิ่นที่บรรพบุรุษได้เล่าสืบต่อกันมาว่า มียายชราคนหนึ่ง เข้าไปในป่าถึงสถานที่แห่งหนึ่งได้พบหลุมเงินหลุมทองยายชราพยายามจะเอาเงิน เอาทองใส่หาบกลับบ้าน แต่เทพยาดาอารักษ์ไม่ให้เอาไปเพียงแต่เอาอวดให้เห็นเท่านั้น พอไปตามชาวบ้านมาดูก็พบแต่รอยเท้า หาบเงิน หาบทอง หายไป ชาวบ้านจึงเรียกสถานที่นี้ว่า "แพะเมืองผี"

แป๊ะ หมายถึงป่าละเมาะ ส่วนเมืองผี หมายถึงดินแดนที่เร้นลับ

แพะ ในภาษาสำเนียงชาวแพร่ ออกเสียงเป็น แป๊ะ

จากแพร่เดินทางไปต่อที่จังหวัดน่าน ไปที่วัดพระธาตุแช่แห้ง

วัดพระธาตุแช่แห้ง องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต แต่วันที่ไปองค์พระธาตุกำลังปรับปรุงอยู่

พระธาตุแช่แห้งองค์เดิม

ออกจากวัดพระธาตุแช่แห้ง เดินทางไปยังวัดภูมินทร์

พระอุโบสถจตุรมุข ความสวยแปลกของวัดภูมินทร์ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยก็คือ เป็น พระอุโบสถทรงจตุรมุข พระประธานจตุรพักตร์ นาคสะดุ้งขนาดใหญ่แห่แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัวนาค

ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังซึ่งบอกเล่าวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในยุคสมัยที่ผ่านมาของเมืองน่าน  และที่โด่งดังจนได้ชื่อว่ากระซิบรักบันลือโลก คือภาพชายหนุ่มกับหญิงสาวในชุดแต่งกายแบบพม่าหรือไทใหญ่ กำลังยืนกระซิบกระซาบกัน ใช้สายตาเป็นสื่อภาษาใจต่อกัน โดยด้านบน มีอักษรล้านนาโบราณเขียนกำกับไว้ลางๆ ถอดความได้ว่า "ปู่ม่านญ่าม่าน"

ตามแผนเดิมตั้งใจว่าจะไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่วัดพระธาตุเขาน้อย เสียดายที่วันนั้นพระอาทิตย์ตกไปตั้งแต่เช้า เพราะตลอดทั้งวันมีแต่เมฆและฝน แต่เราก็มาไหว้พระเช่นเดิม

วัดพระธาตุเขาน้อย อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองน่าน ห่าง สันนิษฐานกันว่า วัดนี้มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง องค์พระเจดีย์พระธาตุเขาน้อยมีศิลปะแบบพม่าผสมผสานกับล้านนา ดูงดงามอยู่บนยอดเขา ด้านหน้ามีลานปูนเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปยืนปางลีลาองค์ใหญ่ หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวเมืองน่าน

ตัวเมืองน่านเมื่อมองออกมาจากวัดพระธาตุเขาน้อย

เดินทางเพื่อไปลำปางโดยย้อนกลับมาทางจังหวัดแพร่เพื่อแวะไหว้พระที่วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีสามัคคีธรรม ซึ่งเป็นวัดที่รวบรวมศิลปกรรมล้านนาประยุกต์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ภาพจิตรกรรมบนฝาผนังระเบียงคตเป็นเรื่องราวของชาดกพื้นบ้านและภาพพุทธประวัติ ในบริเวณวัดมีเจดีย์ทรงล้านนากว่า 30 องค์ ด้านหน้าบันไดทางขึ้นทิศตะวันออกมีรูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่ มีอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้สักทรงล้านนา ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของล้านนาและเมืองแพร่ จัดแสดงเครื่องใช้ อาวุธของนักรบโบราณ รวมทั้งภาพถ่ายของเจ้านายฝ่ายเหนือและภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในล้านนา

ชมความงดงามของวัดไปตามภาพนะครับ

.

ขอบคุณครับ

..

...

....

.....

ขอบคุณ  คุณ คนมีแฟนขับ (chun_cx) ที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ
......

........

........

.........

..........

เดินทางต่อมาจนถึงลำปาง

วัดพระธาตุลำปางหลวงคือที่หมายถัดไปที่เรามาถึง

วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลาย เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย

ซุ้มพระบาท สร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 1992

เส้นทางน่าสนใจมากครับ ภาพก็สวยมาก

ภายในซุ้มพระบาท มองเห็นแสงหักเห ปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ แต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น

ขอบคุณครับคุณ tiger's nest

จากวัดพระธาตุลำปางหลวง ที่ภายในซุ้มพระบาท ห้ามผู้หญิงขึ้นไป เราก็มาต่อที่วัดพระธาตุจอมปิงที่ผู้หญิงเข้าไปดูเงาพระธาตุหัวกลับได้

วัดพระธาตุจอมปิงเป็นวัดโบราณ ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนาไทย

เมื่อเข้าไปในวิหารเราก็จะสามารถเห็นเงาพระธาตุหัวกลับ จากรูที่บานหน้าต้างตกกระทบลงมาเป็นภาพที่เห็น

เมื่อคุณลุงที่ดูแลเลื่อนผ้ามาบังที่รูที่หน้าต่างเราก็จะเห็นเป็นภาพ นี้ (ขอบคุณคุณลุงที่คอยแนะนำเราตลอดด้วยนะครับ)

จากวัดพระธาตุจอมปิงก็เดินทางมาต่อที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ดินแดนที่เคยเป็นยุคทองที่ยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ไทยในอดีต ที่ยังทิ้งร่องรอยแห่งอารยะธรรมอันรุ่งเรือง สถาปัตยกรรมอันงดงามวิจิตรบรรจง จนได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก

ให้ภาพเหล่านี้เล่าเรื่องแทนครับ

.

..

...

....

อำลาอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยก่อนไปต่อที่อื่น ด้วยภาพนี้ครับ

จากสุโขทัย เดินทางตามทางหลวงหมายเลข 12 ระหว่างทางเห็นป้ายบอกว่ามีจุดชมวิว เราก็ไม่รีรอ ไปตามทางที่ป้ายบอก ขึ้นไปเราก็จะพบโรงเจนี้ครับ

ข้างในมีเจ้าแม่กวนอิมหยกขาวประทับอยู่

และเมื่อมองลงมายังทิวทัศน์เบื้องล่าง

แวะเข้ามาชื่นชมธรรมชาติที่น้ำตกสกุโณทยาน

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่า

ต่อเนื่องด้วยน้ำตกแก่งโสภา

ตามมาเลยครับคุณ ต้นหอมสด

ที่สุดท้ายสำหรับทริป วัดพระธาตุผาแก้วที่ยังคงงดงามในวันที่ฝนพรำ จนไม่รู้ว่าจะบรรยายอะไร

.

..

...

....

.....

......

.......

........

.........

อำลาวัดพระธาตุผาแก้วและทริปนี้ด้วยภาพนี้ครับ

รูปสวยมากค่ะ

เป็นหลาายๆ จังหวัดที่อยากไปเลย ทั้งน่านและสุโขทัย

ขอบคุณสำหรับ รีวิว ดีๆ พร้อมภาพสวยๆนะค่ะ

เป็นทริปที่อิ่มบุญอิ่มใจมากๆครับ ชอบจัง ^^

งดงามมากๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ^^

ชอบที่วัดพระธาตุผาแก้วที่สุดเลยครับสวยมาก

ไปเที่ยวหน้าฝนก็ดีนะคะ   ต้นไม้ใบไม้เขียวสดชื่นไปหมด   ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆ ค่ะ...

เที่ยวเหนือหน้าฝน ดูสดชื่นจังเลยคะ

แต่ละที่ภาพสวย ข้อมูลละเอียดครบครันมากๆเลยครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะครับ

เส้นทางน่าตามรอยมากๆเลยครับ ภาพสวยครับ หากมีโอกาสต้องขอตามรอยซะหน่อยแล้วครับ

ไปเที่ยวหลายที่เลยนะครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

เข้ามาไหว้พระก่อนไปนอนคืนนี้
ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ