มาแล้วค่า ไปเที่ยวกันต่อ Day6 แล้วน๊า เกือบครึ่งทริปแล้ว อิอิ

Day6: Brig - Zermatt - Klein Matterhorn - Interlaken Ost - Lauterbrunnen

ต่อจาก Day5 เราข้ามจากเวนิสมานอนพักกันที่ Brig - Switzerland
เช้าของ Day6 ก็รีบตื่นแต่เช้า เพื่อจะไปให้ทันรถไฟขบวนแดงๆ รอบแปดโมงเช้าาาาา ขึ้น Zermatt กัน

โดยเราจะขึ้นไปทาง Klein Matterhorn กันนะคะ (ไม่ได้ขึ้นทาง Gornergrat)

พอลงจาก Zermatt ก็นั่งรถไฟไป Interlaken Ost แล้วขึ้นไปนอนค้างที่ Lauterbrunnen เมืองที่เล็กและสงบดีจริงๆ

พร้อมแล้วก็ขึ้นรถไฟไปเที่ยวด้วยกันเร้ยย .. รถออกแล้วเน่อ
ที่นั่งยังว่าง .. ใครอยากนั่งตรงไหน เชิญค่า อิอิ 

อ้อออ .. ลืมไป วันนี้ดูเหมือนจะ Smooth แต่จริงๆแล้ววันนี้ก็ยังมีเรื่องเอ๋อๆเกิดขึ้นได้อีก รอติดตามชม 555

ย้อนไปวันเก่าๆ .. ติดตามได้จ้า 

Day1: [West Europe in April] Italy - Rome ตกเครื่องบิน วิ่งขึ้นรถไฟ เดินเดินและเดิน

Day2: [West Europe in April] 2 Italy - Vatican - Florence เข้าวาติกันแบบหวิดๆ ปิดท้ายด้วยพระอาทิตย์ตกดินที่ฟลอเรนซ์

Day3: [West Europe in April] 3 Italy - Pisa ไปเอนๆเอียงๆ สูดอากาศดีๆที่ปิซ่า แต่เกือบจะไม่มีตั๋วรถไฟกลับฟลอเรนซ์

Day4: [West Europe in April] 4 Italy - Venice ขึ้นรถไฟ ล่องเรือ เมืองโรแมนติกลอยน้ำที่เวนิส

Day5: [West Europe in April] 5 Italy (Venice) - Switzerland (Brig) เก็บตกเมืองแห่งคลอง ก่อนจะยิงยาวไปเมืองในฝัน

คนพาเที่ยวงานเข้า ..  เดี๋ยวเคลียร์งานแล้วมาพาเที่ยวต่อนะคะ T_T เสียใจ

มารอชมครับ

คิดถึงzermatt

มารอไปเที่ยวด้วยครับ

ตามไปเที่ยวด้วยคนค๊าาาาาาาา :)

ตามมาเที่ยวกันให้หมดเลยค่า .. อาจจะมาๆหายๆนะคะ เพราะแอบมารีวิวเวลางาน 555

เช้าวันนี้เราตื่นเช้ามากอยู่เหมือนกัน เพราะมีอะไรที่ต้องทำหลายอย่าง ก่อนรถไฟจะออกตอนเกือบแปดโมง

อาหารเช้าที่รร.นี้ก็จัดว่าดีเลย แต่เรารีบมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา เนื่องจากมีคนจะออกจากโรงแรมค่อนข้างเช้าหลายคน ทางรร.ก็น่ารัก เตรียมอาหารให้แต่เช้าเลยล่ะ :)

* จุดนี้เริ่มรู้สึกได้มากขึ้นว่าคนสวิสน่ารักจริงๆ แฮปปี้ๆๆ

บรรยากาศยามเช้าหน้าห้องพัก .. อากาศเย็นนนนน และดีมากถึงมากที่สุดค่ะ

สิ่งแรกที่เช้านี้ต้องทำเมื่อเก็บกระเป๋าลากเดินข้ามรางรถไฟมาแล้วนั่นก็คือ เอาตั๋ว Swiss Pass ที่ซื้อมาจากเมืองไทยไป Validate ใช้วันนี้เป็นวันแรก

Agency ในเมืองไทยก็มีหลายเจ้า ก็ลองเลือกๆสืบราคาแล้วดูเอานะคะว่าอันไหนโอเคสุด ความแตกต่างที่เราเจอคือ

1. ค่าธรรมเนียมการออกบัตร
2. จ่ายเงินเป็น EUR หรือ THB

เราเที่ยวในสวิสทั้งหมด 6 วัน แต่เที่ยวจริงๆ 5 วัน เพราะ Day5 เราก็มาถึงสวิสค่ำแล้ว ตรงนี้ก็ต้ดไป

ทีนี้พออยู่แค่ 5 วัน ก็เลยซื้อแบบ 4Days/4Days พอ แปลว่าเมื่อ Validate แล้ว ต้องใช้ติดต่อกัน 4 วัน จะไม่เหมือนกับที่เป็น 4Days/1Month แบบนี้จะใช้ได้ 4 วัน ภายใน 1 Month ใช้วันไหนก็ได้ แต่แบบหลังเข้าใจว่าน่าจะต้องเขียนวันที่ที่ใช้ไว้มั้งคะ ไม่แน่ใจ

ดังนั้นพอ Validate ตั๋วเริ่มใช้ Day6 ตั๋วก็จะไปหมดอายุที่ Day9 เราก็เลย Swap แผนเที่ยวเอา ก็ประหยัดค่าตั๋วไปได้เยอะค่ะ

เราไปกัน 2 คน เราก็เลยซื้อแบบ Saver แต่ตั๋วประเภทนี้มีข้อแม้ว่า 2 คนนี้ต้องเดินทางพร้อมกันตลอดนะค๊า

ที่สำคัญ เราซื้อแค่ 2nd Class เท่านั้นเองค่ะ แค่นี้ก็เริ่ดแล้ว ไม่ต้อง 1st Class (แต่ถ้ามีบุญได้ไปอีก อาจจะลองนั่ง 1st Class ให้เป็นบุญก้นหน่อยเนาะ ฮาๆ)

เวลาซื้อกับ Agency ก็คอนเฟิร์มดีๆว่าเอาตั๋วแบบไหน แล้วระบุชื่อนามสกุลให้ตรงกับใน Passport ด้วยค่ะ ในตั๋วจะพิมพ์ชื่อกับนามสกุลเราลงไปด้วยเน้อ แต่ไปกรอกเลขที่ Passport เอาเองค่ะ

สำหรับตั๋ว Eurail Pass ทั้งหลาย .. หรือตั๋ว Point to Point ลองมองหาข้อมูลใน Rail Europe ก่อนก็ได้นะคะ สะดวกดี บางช่วงก็มีปล่อยโปรมาน่าสนใจมาก เช่น Upgrade to 1st Class ฟรี สำหรับตั๋วบางประเภทไรงี้

Locker ที่สถานี Brig มีตู้ว่างเป็นแถบเลยค่ะ เลือกได้ตามสบาย หยอดเหรียญตามไซส์กระเป๋า ง่ายๆสบายๆค่ะ

เรื่องวุ่นๆเริ่มเกิด .. ฮ่าๆๆ มาเที่ยวกับสองคนนี้ ไม่ต้องกลัวไม่มีเรื่องเอ๋อ มีมันได้ตลอดทุกวัน T_T

ตอนนั้นใกล้เวลารถไฟจะออกแล้ว .. ตั๋วยังไม่ได้ Validate (ตอนแรกไม่รู้ว่า Validate ที่เจ้าหน้าที่ได้ เราก็เที่ยววิ่งหาตู้จะ Validate ก็หาไม่เจอ

ส่วนสามีก็ทำเรื่องส่งกระเป๋าเดินทางไปรอที่ Lauterbrunnen เพราะเราจะขึ้น Zermatt แล้วขาลงมา เราจะนั่งรถไฟต่อไป Interlaken - Lauterbrunnen เลย จะไม่แวะมา Brig อีกแล้ว

ค่าส่งกระเป๋า 2 ใบใหญ่ๆไป  Lauterbrunnen ก็ตกใบละ 20 CHF แว่บแรกก็ "จ๊ากกกกกกกกกกกกก หกร้อยบาทททททททต่อใบ ฮือๆ ขูดเลือดขูดเนื้อ บลาๆ"

ซักพักนึกภาพที่ต้องลากกระเป๋าปุเลงๆ เออๆๆ หกร้อยก็หกร้อย 555 เอาเงินฟาดไป ถนอมร่างกายไว้หน่อย ต้องเที่ยวอีกหลายวัน เอิ๊กๆๆ

สุดท้ายก็ส่งกระเป๋าไป .. สบายแฮ

วิธีตรวจสอบว่าสถานีต้นทางกับปลายทางที่จะส่งกระเป๋ามีบริการหรือไม่ และสามารถส่ง-รับภายในวันเดียวกันได้หรือไม่ 

เช็กจากเวบ SBB ได้เลยนะคะ ตามรูป

ติดตามเที่ยวสวิสไปด้วยครับ ^^

งึ่กๆ ทำไมพันทิบเดี้ยงงี้ล่ะ .. ฮ่วยยย เขียนใหม่อีกละ T_T

เลือก Fast Baggage โลดค่า

มองหาลิ้งค์ที่เขียนว่า "The connections on which you can take advantage of Fast Luggage"

เข้าไปปุ๊ปจะเป็นไฟล์ PDF ก็กวาดตามองหาสถานีต้นทางกับปลายทาง
ตามรูปเลยค่า

จากรูปนี้ก็แปลว่า สามารถไปรับกระเป๋าที่สถานีปลายทางได้ภายในวันเดียวกันได้เลย

(แต่เช็กนิดนึงนะคะว่าเวลาเปิดทำการสถานีปลายทางเป็นกี่โมง ไม่ใช่ไปถึงสถานีปลายทางซะดึกเลย อาจจะไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่รอจ่ายกระเป๋าให้นะคะ)

เมื่อจ่ายตังค์ค่าส่งกระเป๋าแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ Ticket เรามา ให้เก็บไว้ดีๆนะคะ ต้องเอา Ticket นี้ไปรับกระเป๋าที่ปลายทางค่ะ

คนพาเที่ยว .. ขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ เด๋วคืนนี้มาใหม่ค่า

พ่อเจ้าประคุณ ถ่ายรูปสวยจริงๆค่ะ

มารอเที่ยว Klein Matterhorn ด้วยค่ะ ^^

รูปสวยมากค่ะ  รอชมอีกเรื่อยนะคะ  

ขอบคุณครับที่แนะนำซะละเอียดเลยครับ จะได้เก็บความรู้เอาไปใช้บ้างครับถ้ามีโอกาส

ขอบคุณทุกคนเลยนะค๊า คนพาเที่ยวมาแว้วว .. มาต่อๆ รถไฟไม่ออกเดินทางซักกะที

ส่งกระเป๋าไปเสร็จแล้ว .. ยังไม่จบแค่นั้น รถไฟขบวนที่จะไป Matterhorn มาจอดรอแล้ว แต่เรายังไม่ได้ Validate ตั๋วเลย

วิ่งซะวุ่น .. ที่ไหนได้อ้าปากถามเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องส่งกระเป๋า แกก็ตอบแบบหน้าตาเฉยว่า Validate ที่นี่ได้เลย

ป๊าดดดดดด .. ตรูก็โง่ไปวิ่งหาเครื่อง Validate ตั้งนาน ไอ้เครื่องที่มีอยู่ ก็เป็นเครื่องที่ไม่ได้เอาไว้ให้ Validate Swiss Pass ใบโตที่เราติดตัวมาซะด้วย

สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ Stamp ให้เสร็จสรรพค่ะ เกร๋ๆ เราก็เขียนวันที่เริ่มใช้งาน และวันที่สุดท้าย

แผ่นที่สองก็จะเป็นชื่อนามสกุลเราที่ตรงกับ Passport นะคะ .. แล้วเราก็กรอก Passport No. ลงไปด้วยค่า 

เก็บให้ดีๆ เพราะขนาดเราเก็บดีแล้ว กว่าจะจบทริปที่สวิส เล่นเอาเน่าเหมือนกัน 555

ต่อไปนี้ .. เราจะใช้บัตรเบ่งใบนี้ตลอดเวลาที่อยู่ในสวิสแล้วนะคะ

* ยกเว้นรถไฟ หรือกระเช้าบางอย่างที่เป็นเฉพาะที่ ต้องเสียตังค์ต่างหากเจ้าค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็สามารถใช้ Swiss Pass เป็นส่วนลดได้ 50% เป็นต้น

ส่งกระเป๋าเสร็จ Validate ตั๋วเสร็จ ทีนี้ก็ต้องหาล่ะว่าต้องขึ้นชานชาลาไหน

เปลี่ยนเมือง เปลี่ยนประเทศที ก็ต้องเรียนรู้กันใหม่นิดหน่อย ว่าอะไรเป็นอะไร ดูยังไง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็คล้ายๆกัน พอเดาๆได้ค่ะ

ป้าย Directory ของ Arrival & Departure ทำไว้ดีมากจริงๆนะ ชอบมากเลย เป็นระบบระเบียบ ดูง่ายด้วยค่ะ

สีเหลืองๆแบบนี้ เป็น Departure ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่เราก็ดู Departure นะ ไม่ค่อยได้ดู Arrival เท่าไหร่

ด้วยความมั่นใจ ขึ้นไปนั่งบนขบวนรถไฟสีแดงที่จอดอยู่ที่ชานชาลา นั่งพักเหนื่อย หลังจากที่วิ่งรอกหาที่ Validate ตั๋ว

เสร็จแล้วเริ่มเอะใจ .. ทำไมไม่มีคนเลยง่ะ เอ๊ะยังไง เลยลงไปถามเจ้าหน้าที่ว่าขบวนนี้ไป Zermatt ป่าว

กร๊ากกก .. ปรากฎว่าผิดขบวนคับพี่น้อง - -" เสร่อได้อี๊กกกก
ลงมาจากขบวนแทบไม่ทัน .. งานนี้เลือดพี่ไทยอย่างเราก็ออกอาการเลย

วิ่งข้ามรางรถไฟมันนั่นแหละ .. กลัวตกรถไฟอย่างเดียวล่ะตอนนั้น ไม่ได้ทันคิดเรื่องมารยาทในต่างแดน 555

เจอคนมองอะ เอิ๊กๆๆ .. มองราวกับเราเป็นบ้านนอก :P เค้าก็เตือนว่าห้ามวิ่งข้ามรางรถไฟแบบนี้ ไม่เห็นที่เค้าบอกไว้เหรอ

เค้าก็เตือนขำขำ อมยิ้มเราสองคนอะนะ แหะๆ

มันต้องขบวนนี้ และชานชาลานี้ต่างหากปัดโธ่ .. ขบวนเหมือนกันเด๊ะ แต่ขบวนนี้ออกก่อน

ขบวนที่เราขึ้นไปนั่ง .. ยังไม่ออก จะออกตอนสายๆ มันมาจอดรอไว้เฉยๆ แปร่วววววว

ป้ายที่ชานชาลาที่สวิสจะเป็นประมาณนี้ .. รถไฟออก 7.53 จ้า

เราเที่ยวแต่เช้าแบบนี้แหละค่ะ .. โดยเฉพาะวันไหนที่ต้องขึ้นเขา จะออกแต่เช้า เพราะออกสายมาก คนจะเยอะ กรุ๊ปทัวร์ก็จะเยอะด้วย

เดี๋ยวติดตามต่อกันว่าการออกไปเที่ยวแต่เช้า .. มันดียังไง :D

เริ่มต้น Route Zermatt - Klein Matterhorn จากสถานีนี้ละค่า "Brig"

เราจะนั่งขบวนแดงแรงฤทธิ์ที่ชื่อ Matterhorn Gotthardbahn จาก

Brig - Visp - Stalden - St. Niklaus - Zermatt

สังเกตุได้ว่าสถานีจะตรงกับป้ายที่เราเห็นที่ชานชาลา (คห. 21) ดังนั้นเวลาแพลน ก็เข้า Google Map นิดนึง ซูมเข้าไปค่ะว่าสถานีมันไล่ยังไง เวลาไปเที่ยวจริงๆจะได้คุ้นๆบ้าง อะไรบ้าง

แต่บนรถไฟก็จะมีแผนที่ให้เหมือนกันค่ะ ซึ่งแผนที่นี้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วแต่เส้นทางรถไฟนั้นๆ

รถไฟออกเดินทางปุ๊ป .. ไม่นานนายตรวจตั๋วก็เดินตรวจตั๋ว เราก็ต้องเอาตั๋วให้เค้าตรวจไปค่ะ

แต่อย่าลืมเขียนข้อมูลให้ครบนะคะ วันที่เริ่ม-สิ้นสุด, Passport No. 

ไม่งั้นโดนปรับไม่รู้ด้วย

บรรยากาศด้านนอก .. สายหน่อยแล้ว แดดก็เริ่มออก ลางดีแล้วเรา เย้ๆ

ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศที่มองไปทางไหนก็สวยไปหมด
มองไปทางไหน .. ก็ดูเหมือนจะเอามาเป็น Wallpaper หมด Desktop ได้หมด

บ้านเรือนที่สวิส .. มักจะมีหน้าต่างสีแดง

เราชอบมากเลย .. ไม้สีแบบนี้ กับหน้าต่างสีแดง เข้ากั๊นเข้ากัน

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ ^^ อยากไปๆ แต่คงดูได้แค่ภาพจากรีวิว

รอชมหิโม๊ะคะ..
เมืองเค้าน่าอยู่จัง

ตามมาเที่ยวด้วยถึงสวิสแล้วค่ะ ข้อมูลยังแน่นเปรี๊ยะเหมือนเดิม รูปสวยๆแบบนี่เกิดแรงบันดาลใจอยากไปเที่ยวบ้างแล้วซิ .. ขอตามกระทู้ไปก่อนแล้วกัน ..อิอิ

นั่งถ่ายรูปกันเพลินๆ .. นั่งดื่มด่ำกันจนถึงสถานีก่อน Zermatt นั่นก็คือ Tasch

ถ้าจำไม่ผิด .. สถานีนี้ใหญ่เหมือนกัน เหมือนเป็น Hub ของคนที่นี่ที่จะขึ้นไปเล่นสกีกัน

ส่วนใหญ่จะใส่ชุด ใส่รองเท้าสกีกันมาเต็มยศแล้ว  เดินกันเป็นหุ่นยนต์เลย

ไปด้วยคนครับลุงชอบอากศเย็นๆแบบนี้เลย

ถึง Zermatt แล้ว .. เดินตามเค้าไปค่า 5555555555 มองซ้ายมองขวา
ถามคนที่จะไปเล่นสกีกันว่าเราจะไป Klein Matterhorn ไปทางไหน?

เค้าบอกว่าตามเค้ามาเลย .. เย้ๆๆๆ ไม่หลงแล้วเรา คนสวิสน่ารักมากจริงๆค่ะ

เสร็จแล้วเราก็เดินตามเค้าต้อยๆ .. ไปขึ้นรถคันสีเหลืองๆเขียวๆนี่แหละค่ะ รถคันนี้วิ่งโดยใช้ไฟฟ้า ไม่ใช้น้ำมัน รักษาสภาพอากาศได้ดีมากทีเดียวค่ะ

ตอนขึ้นไป .. คนแน่นม๊ากกกกกกกกกกกกกก ทั้งคันมีแต่คนจะไปเล่นสกี มีกะเหรี่ยงสองคน ยืนตาแป๋วอยู่ในรถที่แสนจะเบียดเสียด

เนื่องจากคนเยอะ .. เราก็เลยไม่รู้ว่ามันต้องจ่ายตังค์ 555 ก็เลยขึ้นรถฟรีอีกแล้ว แฮ่ๆ

ตามมาเลยค่ะ คุณลุงแบกเป้ ^_^

ยืนแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เราก็เดินตามฝรั่งกลุ่มเดิมมาเหมือนเดิม อิอิ

ภาพที่เห็น .. ตั้งแต่ยังไม่ได้ไปซื้อตั๋วขึ้น Matterhorn โอ้ววว มันสุดยอดมากจริงๆ ฟ้าใสเป๊ะ เห็น Matterhorn เต็มๆตาแบบนี้เลยทีเดียว

ก่อนจะถึงเคาทเตอร์ขายตั๋ว .. เราจะเจอบอร์ดใหญ่บิ๊กเบิ้มแบบนี้ล่ะค่ะ ตรงนี้เค้าจะแสดงว่าจุดไหนขึ้นได้ จุดไหนขึ้นไม่ได้ อากาศปิด

ดูวันนี้สิ .. ไฟเขียว ผ่านฉลุยเลย ฮี่ๆ

เราจะขึ้นไปที่ Matterhorn Glacier Paradise กัน .. ไฟเขียวโลดค่า

แวะซื้อบัตรด้วยความเร่งรีบ เพราะกลัวจะไม่ทันฝรั่งกลุ่มนั้น ซึ่งเค้าก็น่ารักมากๆ เดินรอๆเราสองคนด้วย ปลาบปลื้ม

เราเลยซื้อตั๋วแบบลืมคิดไปว่าใช้บัตรเครดิตได้ .. เซ็งเลย จ่ายเงินสดไป 88 CHF ฮืออออ เศร้าจัง ไม่ได้แลกเงิน CHF มาเยอะด้วย ..

ราคานี้ .. ใช้ Swiss Pass ลดไป 50% แล้วนะคะ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ Matterhorn Glacier Paradise (Klein Matterhorn)

เท่าที่เช็กในเวบตอนนี้ ราคาขึ้นมาอีก 5 CHF จากคนละ 44 CHF ไปกลับ เป็น 49 CHF แล้ว

คนพร้อม บัตรพร้อม .. ไปขึ้นกระเช้ากันเลยค่า คนเยอะได้อีก มีแต่คนขึ้นไปเล่นสกี 

กะเหรี่ยงสองคน .. เดินไหลๆตามเค้าไป เอิ๊กๆ

ขึ้นไปแล้วค่า .. วู้วๆๆ แดดแจ๋ ฟ้าใส เป็นใจจริงๆเล๊ยยยย

ถึงสถานี Furi แล้วค่ะ (เห็นฝรั่งกลุ่มนั้นบอกว่าออกเสียงว่า  "ฟูครี่")

ขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆแล้วนะคะ

Schwarzsee Paradise !!!

สถานีนี้เห็นมีคนลงไปเหมือนกันค่ะ .. คงจะมีที่ราบกว้างๆหน่อยให้เล่นสกีได้

กิ๊วๆ เห็น Matterhorn อยู่ด้านหลังด้วยล่ะ

ถ่ายจากข้างในกระเช้า .. ฟ้าสีเข้มปี๋เลย

ถึงแล้วจ้ะ Trockener Steg

จำได้ว่าสถานีนี้ต้องเดินๆมาตามทางนิดนึง เพื่อเปลี่ยนเป็นกระเช้าใหญ่ ขึ้นไป Matterhorn Glacier Paradise (Klein Matterhorn)

ผู้คนมากมาย .. ถือไอ้แผ่นๆที่เล่นสกี เสียงดังทั่วไปหมด แต่ก็นั่นแหละ เกร๋ๆดี อยู่เมืองไทยไม่เคยได้เห็นของอย่างนี้อะเนาะ :D

สลิง .. เส้นใหญ่มากจริงๆ

เดินมาตามทาง .. มารอเปลี่ยนขึ้นกระเช้าอันใหญ่นี่แหละค่ะ

รูปค่ะ

มาแล้วค่ะ .. ไปขึ้นกระเช้ากันค่ะ ฝรั่งกลุ่มเดิมน่ารักอีกตามเคย บอกเราสองคนว่าให้เดินเข้าไปต่อแถวด้านขวามือ เข้ากระเช้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายมุมนั้นจะวิวดี :D

จากรูป ก็ตรงกระจกด้านขวาตรงเสื้อส้มๆนั่นแหละค่ะ อิอิ

และแล้ว .. กระเช้าก็พาเรามาถึงซะที Klein Matterhorn ขอบอกว่าหนาวมากจริงๆ แต่ก็ชอบนะ นานๆจะได้เจอหนาวอย่างนี้ อุณหภูมิติดลบ 2 องศาค่ะ

วิวจากกระเช้า .. มุมที่เราแนะนำให้ยืนเมื่อกี้

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อนะคะ .. มันยาวเกิ๊นนนน รีวิวคืนนี้ไม่จบแน่เลย 

อ่า ไม่โพสต์ต่อแล้วเหรอคะ >< กำลังติดตามอยู่เลย
.. คิดถึง Klein Matterhorn มากๆ เลย อยากกลับไปอีกจังค่ะ

ยังคงติดตามอยู่ค่ะ ...

ขอบคุณมากนะคะสำหรับรีวิวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ ^^

ตามมาดูรูปสวย ๆ ค่ะ

แหม ที่จริงฝากกระเป๋าถ้าโชว์บัตรสวิสพาสมันเหลือใบละสิบฟรังค์เองนะคะ
ีราคา ยี่สิบนี่คือ ราคาคนไม่ได้ซื้อสวิสพาสนะคะเนี่ย

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

เอ .. ที่เราส่งกระเป๋าจาก Brig - Lauterbrunnen เราก็ทำก่อนจะ Validate Swiss Pass นะ

เจ้าหน้าที่ไม่ได้บอกนะคะว่า Swiss Pass ลดได้ ใบเสร็จที่เราเก็บไว้ก็ 20 CHF

ตะกี้เลยไปดูในเวบ มันก็ไม่ได้บอกน๊าว่า Swiss Pass ลดได้ (แอบคิดว่าคนสวิสไม่น่าออกแนวขี้โกง หรือแบบลดได้แต่ไม่ยอมบอกอะค่ะ 555)

อันนี้ใครไปล่าสุด .. แล้วได้ใช้บริการ Fast Baggage แจ้งอัพเดทข้อมูลได้นะค๊า

ปล. เมื่อวานอ่านในเวบเรื่องเวลารับกระเป๋า เค้าเขียนในเวบว่า

"With “Fast luggage”, hand in your luggage before 9 a.m. and collect it at your destination on the same day any time after 6 p.m., somewhat later at certain locations."

ฝากกระเป๋าก่อน 9 โมงเช้า ไปรับกระเป๋าได้หลัง 6 โมงเย็น .. ^^ แปลผิดบอกได้นะคะ 555

หลังจากใช้ชีวิตในกระเช้าที่ค่อยๆไต่ระดับขึ้นมา ในที่สุดเราก็มาถึงกันเสียที Klein Matterhorn

บรรยากาศยังคงคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเล่นสกีกันค่ะ มาถึงต่างคนต่างหาทำเลที่มั่น .. แต่งองค์ทรงเครื่องกันให้พร้อม

ชอบมากเลย .. เสื้อกางเกงของคนเล่นสกี สีสันมันเจ็บจี๊ดได้ใจ แต่คิดว่าคงต้องสีแจ๊ดๆไว้ เผื่อมีอะไรกลางทาง สีเสื้อผ้าเหล่านี้อาจจะช่วยได้มาก ในการหาตัวเราให้เจอที่จุดประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น

ป้ายเตือนมากมาย .. ที่คนที่ขึ้นมาตรงนี้ควรระวัง และดูแลตัวเองให้ดีด้วย

จากประสบการณ์หากวันไหนคุณแพลนว่าจะขึ้นมาบนยอดเขาสูงที่มีหิมะแบบนี้ .. ควรใส่รองเท้าที่มีดอกยางเยอะๆหน่อย เพราะมันจะทำให้เดินสะดวก ไม่ต้องกลัวลื่น จะเที่ยวสนุกมากกว่า 10 เท่า ถ้าเทียบกับรองเท้าที่ใส่แล้วลื่น ปรี๊ดๆ

แต่งตัว .. เช็กอุปกรณ์ เสื้อผ้า รองเท้ากันใหญ่

เห็นแล้วก็อยากเล่นบ้าง .. จะเหมือนสมัยวัยรุ่นที่ไปเล่น Ice Skating ที่เวิร์ดเทรดมั้ย 555

สังเกตว่าตรงใกล้ๆประตูทางเข้า-ออก หิมะจะละลาย สีออกดำ และลื่นมากด้วย เดินระวังๆกันหน่อยนะคะ ล้มไปเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุกเปล่าๆ

แดดจ้ามากจริงๆ .. มาเที่ยวสวิสแล้วขึ้นยอดเขาสูงแบบนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ แว่นกันแดด ตาอาจจะบอดได้ แดดแรงได้อีก

แต่เห็นแดดแรงอย่างนี้ .. หนาวติดลบ 2 องศา - -"

พ่อหนุ่มคนนี้ .. สูงยาวเข่าดี หาที่มั่นใส่รองเท้าให้แน่น เตรียมพร้อมลุย !!

มองไปทางไหน .. ไม่มีเบื่อเลยจริงๆ อย่างที่บอกวิวที่นี่จับเอาไปเป็น Wallpaper / Postcard ได้หมดเลย

เราคิดเอาเองว่าเค้าคงไม่อยากให้ทัศนียภาพเสีย .. เลยเอาแค่เชือกเส้นบางๆมา กับเสาเล็กๆมาปักกั้นไว้

เอาเข้าจริงๆ หากพุ่งมาก็ตกลงไปอยู่ดี 5555 น่ากลัวมาก ตอนเราไปเลยไม่กล้าไปยืนริมมาก

จิตปรุงแต่งมันคิดไปไกลว่าเกิดหิมะมันแตกแล้วร่วงพลั่วลงไปจะทำยังไง เอิ๊กๆๆ

แต่งตัวกันเสร็จ .. ก็ทยอยๆกันลงไปเยอะแล้ว

พื้นที่ตรงนี้เหมาะกับการเล่นสกีจริงๆ .. น่าจะสูงที่สุดแล้วป่าวไม่แน่ใจ แต่ที่เห็นเป็นลานกว้างมากๆ

นั่งรีวิวแล้วนึกเสียดาย ตอนนั้นก็ไม่ได้ลงไปคลุกกะหิมะเลย

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ กำลังหาข้อมูลจะไป ตค.นี้ค่ะ
รีวิวละเอียดมากๆเลย ต้องเซฟกระทู้เก็บไว้ซะแล้ว

ปล.รูปสวยทุกรูปเลยนะคะ

Panorama Map - Matterhorn

จุดที่ฮิตๆคือ Gornergrat กับ Klein Matterhorn จากรูปนี่ดูแล้ว Klein Matterhorn จะอยู่สูงสุดแล้วที่จะขึ้นไปได้

Klein Matterhorn - 3883
Gornergrat - 3089

และสำหรับคนที่ขึ้นไปทาง Gornergrat ถ้ามีเวลาเหลือแนะนำให้ลงมาที่สถานี Rotenboden ซึ่งน่าจะอยู่ใกล้ๆ Riffelsee

หากสภาพอากาศดีๆ คุณอาจจะได้ถ่ายชอทนี้มาฝากคนแถวนี้ด้วยนะคะ เราอยากจะไปแต่ก็ต้องเลือกทางใดทางนึง

จะขึ้น Klein Matterhorn แล้วลงมาเปลี่ยน Route แยกไปทาง Rotenboden อีก คงไม่พอในวันเดียว ไม่อยากรีบก็เลยต้องเลือกขึ้น Klein Matterhorn อย่างเดียวพอ

ดูสิ .. สวยแค่ไหน อยากไปอีกรอบจัง 555

ปล. ภาพจาก Google นะคะ :)

ขอบคุณค่ะ คุณ แมงโม้ไม่โม้ ตามไปเที่ยวด้วยกันเลยค่า

เหมือนอยู่ในฝันมั้ยละ .. ของจริงสวยกว่านี้สิบเท่า บวกกับยืนหนาวๆ กอดๆกันให้อุ่นกาย โห้ยยยยย มีความสุข ไม่อยากจะลงเลย

เนื่องจากมันสูงมาก บางคนที่ไม่แข็งแรง .. ต้องหายใจลึกๆ ค่อยๆเดิน ค่อยๆปรับร่างกายด้วยนะคะ เดี๋ยวจะเป็นลมไปซะก่อน ยาดมอะไรก็ติดไปด้วยก็ดีค่ะ

แต่สำหรับเราที่ตอนแรกคิดว่าคงไม่รอด .. ที่ไหนได้แฮปปี้มากๆ ไม่เป็นอะไรเลย ไม่เวียนหัว ไม่เป็นลม ไม่อะไรทั้งสิ้น ลั่ลล๊ามากมาย

ขอนิดนึง .. แชะ !!!

ขอหมีตัวโตถ่ายบ้าง .. 555 ตัวใหญ่ได้อีกง่ะ

ชมภาพไปเรื่อยๆนะคะ ช่วงนี้กดแหลก

แดดจ้า

เด่นเป็นสง่า .. ฟ้าใสแจ๋ว เป็นโชคดีของเราจริงๆ T_T

สิ่งนึงที่อยากจะแนะนำคือ ถ้าไปเที่ยวกันสองคน แล้วอยากให้คนอื่นถ่ายรูปคู่ให้กับสิ่งๆนึงที่แบบต้องจัดวางองค์ประกอบภาพให้ดีๆแล้วเนี่ยเราต้องเลือกคนที่จะให้ช่วยถ่ายนิดนึง

เราก็ต้องพอจะดูออกอยู่แล้วว่าใครถ่ายรูปพอเป็น หรือเต็มใจเสียสละเวลาที่จะถ่ายให้เรา

เราเอาขาตั้งกล้องไป .. แต่สภาพพื้นที่ตรงนั้นมันไม่เหมาะจะตั้งขาตั้งกล้อง เราก็เลยวานให้คนแถวนั้นถ่ายให้ แต่ปรากฎว่ายอดเขา Matterhorn ของเราหายไป T_T

คือถ้ามันหายไป มันก็จบ มันก็เป็นแค่เพียงภูเขาลูกนึงที่ยอดเขาขาด คือมันเศร้าเล็กน้อย

ทริปนี้ที่เราไปเที่ยว มีคนมาขอให้เราถ่ายรูปให้ทุกวัน ไปเมืองไหนก็จะเจอคนขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย ซึ่งเราเต็มใจถ่ายให้ แถมไปบอกให้เค้ายืนมุมนั้นมุมนี้

คือจัดเต็ม เต็มใจ และตั้งใจจะถ่ายให้ออกมาดีที่สุด

เพราะคิดถึงใจเค้า .. ถ้าเราถ่ายไปสั่วๆ เค้าอาจจะเก็บเงินมาแทบตายเพื่อมาเที่ยวที่นี่ แล้วได้รูปง่อยๆกลับไป เป็นเราเราก็เสียดายใช่ป่ะ

อันนี้เป็นบทเรียนจริงๆ สุดท้ายเราก็เลยช่างมันไม่เอารูปคู่ก็ได้ เราผลัดกันถ่ายเองดีกว่า

ผลัดกัน .. พื้นที่ตรงนั้นไม่อำนวยเลย ขยับได้เท่านี้จริงๆ

จำได้ว่าอยู่ข้างบนนั้นนานพอสมควร .. ได้เวลาลงแล้วล่ะค่ะ

ลวดสลิง .. ที่พาเราขึ้นมา

กระเช้าสีแดงที่ขนนักสกีขึ้นมาแน่นเอี๊ยดเป็นปลากระป๋องเยี่ยงนี้ ..

.. เรารอให้เค้าออกมาหมดก่อน แล้วก็ค่อยเข้าไป มิฉะนั้นอาจจะโดนเหยียบตายได้

หิมะๆๆๆ

ทั้งกระเช้าไม่มีใครเลย .. มีแค่เราสองคน

เลยวานให้คุณลุงที่คุมกระเช้า .. ถ่ายรูปให้ค่ะ

เข้ามาชมต่อค่ะ .. คุณพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง ไม่เข้าไปชม Ice Palace ด้วยเหรอคะ แล้วก็จากตรงนั้น มีจุดให้ขึ้นลิฟท์ไปบนจุดสูงสุดด้วยค่ะ

อิอิ คุณ Blue Whale อันนั้นมัน Jungfraujoch ป่าวอะคะ ถ้า Jungfrau เดี๋ยว Day7 พาไปค่า

ตรง Klein Matterhorn ไม่มีนินา

ถึง Trockener Steg Station แล้วเดินไปทางนี้โลด .. เพื่อเปลี่ยนเป็นกระเช้าเล็กลงไปข้างล่างค่ะ

เราจะเจอไอ้ที่ตี๊ดบัตรแบบ Handsfree-Zone ที่เราเห็นคือ ทุกคนที่ขึ้นมาเล่นสกี จะใส่บัตรไว้ที่เสื้อด้านในตรงอกพอดี

เวลาเค้าเดินผ่านเครื่องนี้ เค้าก็เอาอกแตะเครื่อง ไม่ต้องเอาบัตรออกมาตี๊ด เพราะเค้าต้องถือไอ้ไม้สกีอันนั้น บางคนถือรองเท้าสกีด้วย แต่ส่วนใหญ่เห็นใส่กันมาเลยจากข้างล่าง

ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเรา .. เอาบัตรที่ซื้อมาเสียบเข้าไปตรงช่องสีส้มค่ะ แล้วค่อยเดินผ่านเข้าไป

อุณหภูมิวันนี้ .. หนาวเย็นใช้ได้

อีกซักที .. แจ่มๆอย่างนี้ไม่ถ่ายรูปเก็บไว้ได้ไง

อีกนะ 555

กระเช้ามีขึ้นมีลงตลอดเลย .. ถ่ายคู่ไว้ซักหน่อย

ผ่านสถานีระหว่างทาง ..

ไปต่อกันเลย .. ค่อยๆลงแล้วน๊าา

ไปเรื่อยๆนะคะ .. เริ่มเห็นบ้านคนแล้ว

... อากาศดีอย่างต่อเนื่อง

ร้านอาหาร .. ข้างทางยังสวยเลย 555

ชมกันไปเพลินๆนะคะ

เบื่อกันยังคะ อิอิ

ยังไม่หยุดถ่าย ..

เรื่อยๆ ตอนถ่ายไม่รู้ตัวว่าถ่ายมาเยอะ มารู้ตัวตอนทำรูปรีวิวนี่แหละ เฮือกกก

ลงมาถึงข้างล่างแล้วค่ะ .. ดูจากนาฬิกาจะบ่ายโมงพอดี

เราขึ้นไปตั้งแต่เก้าโมงได้มั้งคะ แหะๆ

เนื่องจากเราจะต้องนั่งรถไฟเป็นระยะทางไกลๆอีกแล้ว ก็เลยหาอะไรใส่ท้องไว้ก่อน

เอาร้านนี้แหละ .. ใกล้ดี ดีกว่าไปหาเอาดาบหน้า จริงๆเริ่มหิวแล้วด้วยสิ

วิวงามได้อีก .. นั่งกินไปชม Matterhorn ไป วู้วๆ

สปาเกตตี้คนละจานก็อิ่มท้องแล้ว .. จานใหญ่เหมือนกัน

เสร็จแล้วก็ได้เวลาออกจากที่นี่แล้วล่ะ .. ไบ๋บาย Zermatt เห็นป้ายนี้ลงลิฟท์ไปได้เลยค่ะ เพื่อไปรอขึ้นรถคันสีเขียวที่เรานั่งมากันเมื่อเช้าไง

ขากลับคนน้อย .. แหะๆ ต้องเสียตังค์ด้วยนะคะ เราสองคนก็เหวอล่ะ เมื่อเช้านั่งมาไม่เสียตังค์นิหว่า 555

คนละ 2.50 CHF นะคะ

เมื่อเช้าขาไปรีบไปหน่อย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้

สังเกตป้ายนี้นะคะ รถจะจอดตรงนี้ละค่ะ

ไปให้ถูกทางนะ ถ้าจะขึ้นทาง Klein Matterhorn เราไปสีเขียวค่ะ

ถ้าใครจะขึ้นทาง Gornergrat ก็ไปติดต่อได้ในนี้เลยค่ะ

เดี๋ยวต้องออกไปข้างนอกอีกแล้ว พอดีมี Voucher ไปพักที่ Conrad ตรงถนนวิทยุฟรี ถ้าที่ Conrad มีเนทให้เล่น เดี๋ยวจะมารีวิวต่อช่วงเย็นๆค่ำๆนะคะ

จากนี้เราจะขึ้นรถไฟไป Lauterbrunnen แล้วค่า ต้องขอโทษด้วยนะค๊า มารีวิวเป็นชอทๆ อารมณ์ขาดตอนกันเลย แหะๆ

เหมือนจะ Smooth ตั้งแต่เช้า .. แต่สุดท้ายเราก็เอ๋อกันอีก 555 นั่งรถไฟผิดค๊าบบบบ T_T เดี๋ยวมาเล่าต่อเย็นๆนะคะ

เป็นกระทู้นักเดินทางที่ทั้งดูทั้งอ่านทั้งติดตามไม่เบื่อเลย
ชอบมากๆ กำลังจะไปสวีทกับภรรยาที่นี่พอดีเลย
ขอบคุณมากมาย ชื่นชมสำหรับผู้นำเสนอ

อยากไปเล่นสกีบ้างจังเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวและภาพสวยๆ นะครับ

มาต่อแล้วค่ะ Day6 นี่ดูเหมือนจะยาวนาน รีวิว 3 รอบยังไม่จบซะที 555 รอบนี้จะเอาให้จบละค่า

เกริ่นทิ้งท้ายไว้ว่า "เหมือนจะ Smooth แต่ก็ไม่ Smooth จนได้" แหะๆ เรานั่งรถไฟขบวนสีแดงแรงฤทธิ์ Matterhorn Gotthardbahn ลงมาจาก Zermatt

วิวข้างทาง .. หน้าต่างของรถไฟขบวนนี้เอาลงมาได้นะคะ แต่บางช่วงอาจจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ประมาณมูลสัตว์ที่ชาวบ้านเค้าเลี้ยงไว้ ยังไงก็เกรงใจคนร่วมโบกี้นิดนึงก็ดี ^^

ลำธารเล็กๆที่ธรรมชาติสร้างไว้ .. น้ำใสแจ๋ว

นั่งรถไฟเพลิน .. จนไม่รู้ว่ากำลังจะนั่งรถไฟผิดสาย

ที่นั่งบนรถไฟสาย Matterhorn Gotthardbahn .. ของจริงดูเก่ากว่านี้ แต่ยังดูโอเค และสะอาดค่ะ :)

รถไฟจอดที่ Visp แต่เราไม่ได้เปลี่ยนขบวน .. ดันนั่งต่อไปอีก

มันเลยกลับมาที่ Brig เง่ออออ .. เราเลยต้องรีบหารถไฟรอบที่เร็วที่สุด เพื่อนั่งไป Visp - Spiez - Interlaken Ost. 

แล้วไปเปลี่ยนขบวนเพื่อขึ้นไป Lauterbrunnen

จากแผนที่มันดูไกลพอสมควร ก็เลยกลัวว่าจะถึงปลายทางมืดเกินไป แล้วจะเอากระเป๋าเดินทางไม่ได้

วิธีหาข้อมูลรถไฟคร่าวๆผ่านเวบ SBB [SBB Website]

จากรูปก็กรอก From - To ไปค่ะ หากเส้นทางมันไปได้หลายทาง เราอาจจะกรอก Via ไปด้วยก็ได้นะคะ เพื่อกำหนดให้มันวิ่งไปผ่านสถานีระหว่างทางที่เราต้องการ

จากนั้นก็ระบุวันที่ .. เวลาที่ต้องการ ในที่นี้ระบุเป็นแบบ 24 Hrs นะคะ

เสร็จแล้วระบบมันก็จะแสดงให้เห็นแบบนี้ค่ะ .. เราถือ Swiss Pass อยู่แล้ว ดังนั้นก็วิ่งขึ้นรถไฟโลด

* แต่ดูด้วยนะคะ บางขบวนอาจจะแสดง

สัญลักษณ์ "R" เฉยๆ = Reservations Possible

สัญลักษณ์ "R" แบบมีกรอบสี่เหลี่ยมล้อมรอบ = Reservations Compulsory

ถ้าเห็นเป็นแบบหลัง .. คิดว่าต้องจองด้วยนะคะ
แต่ส่วนใหญ่ที่เรานั่ง .. มักจะเป็นแค่ R เฉยๆ ก็ไม่ได้จองอะไร ใช้ Swiss Pass อย่างเดียว

หลังจากเปลี่ยนขบวนที่ Brig ก็อุ่นใจละ ทีนี้ถึง Interlaken Ost แน่นอน

บรรยากาศข้างทาง .. เขียวไปหมดเลยค่ะ  สวยจริงๆ

เพลินๆ

เริ่มเห็นทะเลสาบกว้างใหญ่ .. ที่มีน้ำเป็นสีฟ้า Turquoise ก็เริ่มขยับตัวได้แล้วนะคะ เพราะแปลว่าถึง Thunersee แล้ว

ดูจากในแผนที่ .. เราจะถึง Thunersee กับ Interlaken West ก่อนนะคะ

* เมือง Interlaken แปลว่าระหว่างทะเลสาบ จะมีทะเลสาบใหญ่มากๆ 2 ที่ขนาบข้าง คือ Thunersee & Brienzersee

เคยถามคนที่นั่นว่าที่น้ำในทะเลสาบมันเป็นสี Turquoise มันเป็นเพราะน้ำในทะเลสาบนี้ เป็นน้ำที่มาจากหิมะที่ละลายแล้วบนยอดเขา แล้วในหิมะแบบว่ามีแร่ธาตุที่มันละลายแล้วออกมาเป็นสีนี้เลย ธรรมชาติมากๆ

รถไฟว่างมาก .. เลยวิ่งถ่ายรูปซ้ายขวา มันส์เลย 555

กิจกรรม Outdoor ของครอบครัวที่นี่ .. น่ารักจัง

ถ้ามาดูด้วยตาตัวเอง .. จะเห็นว่ามันฟ้ามากๆ แถมสะอาดด้วยล่ะค่ะ :)

ในที่สุดก็มาถึง Interlaken Ost แล้ว .. ขบวนที่จอดที่ชานชาลาโน้น เป็นขบวนเส้นทาง Golden Pass ที่เดี๋ยววันมะรืนเราจะได้ใช้บริการกัน

วันนี้ .. เปลี่ยนขบวนขึ้นไป Lauterbrunnen กันก่อนเน้อ

ภาพกว้างๆ .. ที่ปักหมุดไว้ให้นะคะ Day7 เราจะอยู่กันแถวนี้ล่ะค่ะ

หลายคนที่มาถึง Interlaken บางคนก็พักที่ Interlaken เลย แต่บางคนก็เลือกที่จะขึ้นไปพักบนเขา เพื่อรอที่จะขึ้น Jungfraujoch ในตอนเช้า

(แต่จริงๆแล้วจาก Interlaken Ost ไป Lauterbrunnen ก็แค่ 20 นาทีเท่านั้นเอง)

ที่เห็นไปกันเยอะๆมี 2 เมืองหลักๆ คือ Lauterbrunnen กับ Grindelwald ในคือ Day6 เราเลือกพักที่ Lauterbrunnen กันค่ะ

ขบวนรถไฟที่ขึ้นเขา พอถึงช่วงที่ชัน รางรถไฟจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ค่ะ เห็นมั้ยคะ รางรถไฟจะเป็นฟัน เพื่อช่วยให้ขึ้นเขาได้ดีขึ้น และเราว่าน่าจะปลอดภัยกว่ารางรถไฟปกติ

ถึงแล้วค่า Lauterbrunnen เป็นสถานีเล็กๆ เงียบๆ มีชานชาลาไม่กี่เท่าไหร่เอง

ในที่สุดเราก็มารับกระเป๋าทันเวลาพอดี .. จำได้ว่าเกือบจะปิดแล้วสิ ดีนะเจ้าหน้าที่หยวนๆให้เราเข้าไปเอากระเป๋าได้

แล้วเราก็ไม่วายสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนสำหรับแพลนพรุ่งนี้ เพราะเราจะขึ้น Jungfraujoch กันค่า

Valley Hostel ที่พักสำหรับเราสองคนในคืนนี้ .. อ่อ ต้องปูเตียง ใส่ปลอกหมอน และใส่ปลอกผ้าห่มนวมเองด้วย

สามีไปถามเจ้าของ .. เจ้าของบอกว่าเป็นแบบชาวสวิส และเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นผ้าปูใหม่ ปลอกหมอนใหม่ บลาๆ 555

โอเค .. ใหม่ก็ใหม่ แต่ตรูเหนื่อยง่า ต้องมาปูเตียงเองอี๊กกกก T_T

แต่วิวดีมากเลยค่ะ .. มองเห็น Staubbach Falls ด้วยล่ะ

จบแล้วค่า .. สำหรับ Day6

สำหรับ Day7 ตื่นกันเช้าหน่อยนะคะ เพราะเราจะไปขึ้น Jungfraujoch กันแต่เช้า วันนี้ลาไปด้วยรูปนี้เลยแล้วกันค่ะ

ไม่รู้ทำบุญมาด้วยอะไร เจอฟ้าใสคนน้อยทุกที่เลย เย้ๆ วันนี้ไบ๋บายไปก่อนแล้วนะคะ

ปล. ขอบคุณผู้ติดตามกระทู้ทุกคนเลยนะคะ ช่วยกันเก็บเข้าคลังด้วยน๊า ถ้าคิดว่ากระทู้นี้มีประโยชน์ ขอบคุณค่า :)

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากครับ รอติดตามตอนต่อไปอยู่ครับ

สวยมากเลยค่ะ เชื่อว่าุถ้าได้ไปเห็นด้วยตาคงยิ่งประทับใจ ^^

ชอบรูปสุดท้าย (ความเห็น 122) น่ารักค่ะ

สนุกมากเลย ขอบคุณคะ ^^

สนุกค่ะ ตามตลอดเรยยยย