สวัสดีรอบวงอีกครั้งค่ะ หลังจากไปทำภาระกิจเรื่องงานก็ถึงเวลากลับมารีวิวสั้นๆบ้านๆของเราอีกครั้งหนึี่งกับชนบทของอังกฤษ ความเดิมจากตอนที่แล้วอยู่ที่นี่ค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10838158/E10838158.html

คราวนี้ก็จะต่อจากครั้งที่แล้วว่าหลังจากที่เราตื่นขี้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นนั้นจะมุ่งหน้าไปที่ไหนต่อดี..สรุปได้ความในใจว่า เราก็จะออกจากบาธแล้วแวะส่วนของประเทศอังกฤษที่เขาเรียกว่า Cotswold กันค่ะ

มามะ ไปกันเลยดีกว่า..

รูปหน้าต่างน่ารักๆบน Great Pulteney Street ค่ะ

ตื่นนอนมาตอนเช้า เช้าจริงๆค่ะเพราะปกติอยู่กรุงเทพไม่เค๊ย..ไม่เคยจะตื่นเช่้าเพียงนี้ นี่มาเที่ยวทำไมตื่นได้ก็ไม่รู้ หลังจากโอ้เอ้เก็บข้าวของเตรียมตัวออกไปข้างนอกแล้ว เราก็หอบข้าวของบางส่วนลงมาจากห้องนอนเพื่อเอามาใส่รถค่ะ กลัวว่าขนทีเดียวจะไม่ไหวแล้วก็ออกเดินเท้าตามหาตึกงามๆของคุณพ่อและคุณลูกดีกว่า

ใช่ค่ะ เรากำลังจะเดินไป The Circus ที่คุณพ่อ John Wood เป็นคนออกแบบ เขาว่าเป็นตึกสไตล์จอร์เจียนที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Colosseum ของโรมันโบราณค่ะ น่าเสียดายว่าคุณพ่อ John Wood ไม่ได้มีชีวิตอยู่ดูมันสร้างจนเสร็จ หน้าที่นั้นเลยไปตกอยู่กับ John Wood ผู้ลูกแทน

สิ่งที่น่ารักอย่างหนึ่งคือต้นไม้ที่อยุ่กลางวงเวียนค่ะ เป็นต้นไม้ใหญ่และร่มรื่นมากมาย และวงเวียนเองก็เป็นสนามหญ้า มีคนพาหมาน้อยมาวิ่งด้วย น่ารักเป็นที่สุดก็อีตรงที่หมาน้อยทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเจ้าของก็เก็บไปทิ้งด้วยนี่แหละค่ะ มีวินัยกันจริงๆ

ป้าตามไปอ่านทู้แรกมาแล้วนะคะ รูปสวยมาก ข้อมูลก็เป็นประโยชน์

กดเก็บเข้าคลังไว้ละ

เก่งจังค่ะ ไปเที่ยวคนเดียว ขับรถคนเดียว ถ่ายรูปคนเดียว

นานๆจะได้เห็นอังกฤษฟ้าแจ่มๆแบบนี้ซักที

เอาละ เมื่อเราเจอตึึกที่คุณพ่อสร้าง เราก็ควรจะเดินไปดูตึกของ John Wood ผู้ลูกบ้าง ก็เลยเดินต๊อกๆย่ำต่อไปยังถนนที่จะนำไปสู่ The royal crescent ค่ะ

อันว่าเดิมเราก็สงสัยว่าทำไมไม่เรียกThe crescent เฉยๆ ไปอ่านๆดูเห็นเค้าว่า ทีแรกก็เรียกเฉยๆนั่นละ พอมีเจ้ามาอยู่คือท่านดยุคแห่งยอร์คและอัลบานีก็เลยเติม royal เข้าไปให้สมศักดิ์ศรี ปัจจุบันเลขที่1 ของที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ค่ะ มีบางส่วนเป็นโรงแรมด้วยล่ะ

อันนี้ The royal crescent แบบกว้างๆค่ะ...

วันนี้ท้องฟ้าที่บาธใสกิ๊งเลยค่ะ ใสกิ๊งจนน่าเจ็บใจว่าหรือจะเข้าไปโรมันบาธอีกทีเพื่อเก็บรูป ฮา.. แต่ก็เปลี่ยนใจว่า ไม่เอาล่ะ ตารางยังมีอีกไกล วันนี้ต้องขับรถไปนอนที่ Bourton-on-the-water ด้วย ไหนยังจะมีที่ๆอยากแวะรายทางอีก ตัดใจก็ได้.. ปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยมาเก็บรูปใหม่ ฮ่าๆๆ

ระหว่างเดินกลับมาเดินตัดผ่านสวนสาธารณะค่ะ อากาศดี ผู้คนพาหมามาวิ่งกันเยอะแยะมาก เดินไปเดินมาก็หิวซะแล้ว ก็เลยว่าจะหาอะไรกินเสียหน่อย เล็งร้านบนสะพาน Pulteney ไว้ตั้งแต่ตอนขาไป ไม่ได้อะไรหรอกค่ะ อยากนั่งชิลๆชมวิวตอนเช้าเสียหน่อยมากกว่า แล้วตอนขาเดินไปร้านก็ยังไม่เปิด เล็งว่าขากลับน่าจะเปิดพอดี เลยแวะเข้าไปสั่งแพนเค้กกินตอนเช้าซะหน่อย

หม่ำๆค่า...

ในร้านมีนักท่องเที่ยวหลายคนเข้ามานั่งค่ะ ชิลๆนะ กินข้าวเช้าไป ชมวิวจากสะพานไปด้วย ดีออก ไอ้เราเห็นแล้วก็อดไม่ได้ต้องแอบยกมือถือขึ้นมาถ่ายบรรยากาศเก็บไว้ด้วย

สำหรับผู้สนใจ ร้านนี้คือร้านแรกสุดที่เห็นอยู่ขวามือบนสะพาน Pulteney เลยค่า

ถัดจากร้านประตูแดงๆนั่นละค่ะ เขาขายขนมอบชนิดต่างๆ เปิดซักแปดโมงเช้าเห็นจะได้ค่ะ แต่อย่าถามชื่อร้านนะคะ ตอนนั้นหิวตาลาย ไม่ได้อ่าน แหะ แหะ

*เพิ่มเติมข้อความเล็กน้อยค่ะ

โอเคค่ะ อิ่มหนำสำราญกับแป้งแพนเค้กไฮแคลลอรี่สำหรับมื้อเช้าแล้ว เราก็ตั้งใจเดินไปดูร้านขนมปังที่เก่าแก่ที่สุดในบาธ กะว่าจะซื้อติดไม้ติดมือไปเป็นเสบียง ร้านชื่อ Sally Lunn ค่ะ เขาว่าอร่อยนะเออ ใครเคยชิมบ้างคะ ร้านอยู่ใกล้ๆกับโรมันบาธแถวๆนั้นเอง แต่พระเจ้าไม่เข้าข้าง ร้านเปิดสิบเอ็ดโมง เราก็เลย..เออ ไว้ก่อนก็ได้ (อาฆาตไปเรื่อยเนาะเรา)

ผิดหวังแล้วก็กลับไปเช็คเอาท์กันดีกว่า กะว่าจะไปตะลุย Cotswold ตามใจฉันให้ลั้นลา คุณลุงที่รีเซฟชั่นคนเดิมน่ารักมาก อุตส่าห์ถามเราว่าจะยังเที่ยวอยู่ในบาธไม๊ จะได้ให้เอาบัตรจอดรถค้างไว้ที่หน้ารถก่อน ไม่ต้องเสียตังนะ แต่เราก็บอกว่าจะไปแล้วค่า บ๊ายบาย ปีหน้าฟ้าใหม่ได้มาเจอกันจะแวะมานอนอีกนะคะคุณลุง คราวนี้อยากลองห้องเวลลิงตันบ้าง ฮ่าๆๆๆ

ส่งท้ายด้วยสะพาน Pulteney ยามกลางวันละกันค่า.. ฟ้าเอียงไปเยอะเพราะเริ่มตาลายแล้ว แดดแจ๋มากเช้านี้

ตามมาเที่ยวอังกฤษด้วยคนค่ะภาพสวยมากๆเลยค่ะแถวบาธยังไม่เคยไปเลย. ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ

จากที่นี่เราตั้งใจจะไป Bibury ค่ะ เขาว่ากันว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆมีกระท่อมหินที่เป็นสัญลักษณ์ของ Cotswold ที่น่ารักมาก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปตรงไหนของ Bibury แล้วก็เลยลองใส่ชื่อเมืองBibury ไปเฉยๆแล้วให้พี่ทอมทอม (GPS) พาเราไปกันดีกว่า

ระหว่างทางสวยงามเช่นเคยค่ะ พี่ทอมทอมพาเราเข้าไฮเวย์พักหนึ่่งแล้วก็แยกออกไป ถ้าไม่ได้วิ่งบนทางหลวงถนนก็มักจะเป็นสองเลนสวนกันได้พอดีๆ ไม่ค่อยมีถนนเบิ้มๆใหญ่ๆเท่าไรนัก แต่พี่ทอมทอมก็จะเตือนเรื่องความเร็วตลอดค่ะ เชื่อพี่เขาก็ดีนะคะ จะได้ไม่ต้องเจอใบสั่ง ฮ่าๆๆๆ เค้าว่าตำรวจเมืองนี้ดุเสียด้วย

แดดแรงตั้งแต่เช้าหลังออกจากบาธ แต่พอขับมาได้สักครึ่งชั่วโมงก็เมฆเยอะ แต่แดดก็ยังแรงอยู่นะคะ ใช้เวลาจากบาธจนถึงBibury ประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ

ทริกเล็กน้อย พอดีที่ตรงที่ถ่ายรูปสวยๆนี้จะอยู่หน้าโรงแรม The Swan Hotel พอดีเลยค่ะ ดังนั้นถ้าใครอยากจอดพอดีเป๊ะ ใส่ Postcode นี้ลงไปเลยค่ะ GL7 5NW รถก็จะพาเรามาจอดหน้าโรงแรมพอดี จอดมันกลางหมู่บ้านเลยค่ะ มีลานเล็กๆให้จอดอยู่ แล้วก็ลงเดินเล่นได้เลย

จากรูปที่แล้วเหมือนเป็นคลองเล็กๆน้ำใสแจ๋ว แต่คนแถวนี้เรียกแม่น้ำค่ะ ฮ่าๆๆๆ เมื่อยืนอยู่บนฝั่งคลองมองไปด้านตรงข้ามก็จะเห็นหมู่กระท่่อมหินแบบนี้เลยค่ะ

สวยสมกับที่เขาเรียกว่าเป็น picturesteque  จริงๆเลย (ฟ้าหม่นไปหน่อยค่ะ ขออภัย ไม่มีรูปที่แจ่มใสกว่านี้แล้วค่ะ)

คลองที่ว่านี้มีทั้งเป็ดทั้งหงส์ลอยกันให้ควั่ก พวกนี้ไม่กลัวคนซะด้วยซิคะ เจ้าหงส์ขาวตัวนี้มาซะใกล้เชียวค่ะ

(หงส์จิกได้ป่าวเนี่ย... )

ปล.เขาปักป้ายไว้ชัดเจนค่ะ ห้ามคนลงน้ำ อันนี้สงวนไว้สำหรับWildlifeเท่านั้น....

เดินข้ามสะพานไปชมบรรยากาศดีกว่าค่ะ ตัวบ้านหลังเล็กๆ เตี้ยๆ เลยพาลคิดว่า เออ หรือเมื่อก่อนคนอังกฤษจะตัวเล็กๆเตี้ยๆหว่า

แต่ละบ้่านปลูกต้นไม้เลื้อยคลุมผนัง คลุมประตู ออกดอกออกใบสวยทีเดียวค่ะ ถ้าแดดแจ่มๆรูปคงจะงามแงะกว่านี้มากมาย อันนี้ก็หม่นๆไปเช่นนี้ล่ะค่ะ

ยืมแผ่นหลังของชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นแบบหน่อยละกัน อิ อิ

บางคนก็เดินเที่ยวชมบ้านเรือนถ่ายรูปไปด้วย แต่กับบางคนการได้นั่งจิบอะไรร้อนๆและนั่งมองธรรมชาติก็สุขแล้ว

เสียดายค่ะ.. จขกท.ไม่มีเสบียง.. ไม่งั้นจะงัดมานั่งปิคนิคอ่านหนังสือไปด้วยคงสุขดีไม่หยอก

เดินเล่น ชมธรรมชาติจนอิ่มอกอิ่มใจและเริ่มรู้สึกว่าอากาศครึ้มซึมเซาจนถ่ายรูปไม่สนุกแล้ว เราก็ขยับขยายต่อไปยังจุดพักคืนนี้ Bourton-on-the-water

คนที่นี่เขากลัวไม่รู้มังว่าบ้านมีแม่น้ำนะจ๊ะเลยตั้งชื่อบอกเสร็จสรรพว่า..บ้านฉันอยู่ติดน้ำจ้ะ.. เมืองแถวนี้ยังคงเอกลักษณ์การเป็นกระท่อมหินเล็กๆไว้ได้อย่างดีทีเดียว โรงแรมคืนนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำจิ๋ว (บ้านเราเรียกคลองชัวร์ๆ) ชื่อ The Dial House อยู่กลางเมืองเป๊ะค่ะ

สำหรับ Postcode ของโรงแรมคือ GL54 2AN ค่ะ เราจะไปเช็คอินกันก่อนแล้วค่อยแวบไปทุ่งลาเวนเดอร์หอมๆสวยๆกันนะ

ตอนเช็คอินนี่ จขกท.เริ่มรู้สึกป่วยๆแล้วค่ะ ปวดหัวแปลกๆยังไงๆอยู่ หน้าตาโรงแรมก็เป็นเช่นนี้ค่ะ (รูปมองจากห้องพักนะคะ)

อันนี้ห้องนอนค่ะ ไม่มีแอร์ตามเคย แต่ไม่ใช่ปัญหา เปิดหน้าต่างก็เย็นพอแล้วค่ะ

บ่ายสองกว่าๆ หิวแล้ว... ตั้งแต่มายังไม่ได้ลองอาหารประจำชาติอังกฤษ Fish and chips เลย ลองมันที่เมืองนี้แหละ ว่าแล้วก็ไปสั่งกินซะหน่อย

ได้ความว่า มันก็เป็นปลาทอดนี่แหละค่ะ แต่ว่ามันฝรั่งทอดเขาไม่เหมือนเฟรนช์ฟรายด์ฝั่งอเมริกันค่ะ ถามว่าอร่อยไม๊.. อืม.. ปกติไม่โปรดของทอดอะค่ะ แต่ก็พอไหวเนาะ ถ้าให้กินบ่อยๆเห็นจะขอลาค่ะ

สีเขียวๆทีเห็นเป็นถั่วบดๆค่ะ อร่อยทีเดียว

เอาล่ะ หลังจากอิ่มหนำ อาการปวดหัวตุบๆก็คลายลงเล็กน้อย ได้ฤกษ์ขับรถไปทุ่งลาเวนเดอร์อันได้แรงบันดาลใจมากจากกระทู้ของคุณ SyeSanDee ค่ะ ทั้งสาวน้อยทั้งสองและทุ่งดอกไม้หอมๆทำให้เราตั้งใจว่าจะตามไปดูให้ได้

ที่จริงตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะแวะไปเยี่ยมน้องๆเขาด้วยล่ะค่ะ แต่แผนมันพลาดค่ะ ..ดันป่วย... เพืิ่อนมารับตัวกลับลอนดอนไปเสียก่อน เสียใจมากๆที่ไม่ได้ไปเยี่ยมค่ะ

สำหรับทุ่งลาเวนเดอร์นี้อยู่ที่ Snow Hill ไม่ห่างจาก Bourton on the water มากนัก เป็นฟาร์มค่ะ ชื่อ Hill Barn Farm ส่วน postcode ก็นี่ค่ะ WR12 7JY จะพาเราไปหน้าทุ่งเป๊ะเลย

สำหรับแวบแรกที่เห็นทุ่งลาเวนเดอร์ มันสวยจริงๆค่ะ ... ถึงวันนั้นจะฟ้าหม่นหมองเมฆเยอะขนาดก็ตามที

อย่าลืมซื้อตั๋วเข้าชมนะคะ ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ตลอดหน้าร้อนเก็บตั๋วไว้โชว์ด้วย ไอ้เราก็นึกในใจว่า มีแบบตั๋วเดียวตลอดชีพไม๊อะ เพราะหน้าร้อนนึงก็ได้มาครั้งเดียวเอง..ฮ่าๆๆ (งกอีกแน่ะ)

แนะนำรูปสวยๆของท้องทุ่ง Cotswold ที่ไม่ได้มีแต่ลาเวนเดอร์ จากกระทู้ของคุณ SyeSanDee นะคะ มีนางแบบตัวน้อยๆน่ารักด้วยล่ะ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10826648/E10826648.html

หอมนะ.. หอมๆ หลายพันธุ์ด้วย

ตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ  วิวงาม  น่ารักไปหมดเลย  และรูปสวยมากเลยค่ะ

เอาแบบโคลสอัพซักหน่อยนะคะ

ดอกไม้ค่ะ.. ฮ่าๆๆ นางแบบไม่กล้าโชว์หน้า..

ไอ้เรารึก็พึ่งรู้นี่ละค่ะว่า..ลาเวนเดอร์มันมีหลากหลายสีเพียงนี้ สีขาวยังมีเลย ชื่อพันธุ์ Arctic Snow ค่ะ เห็นแล้วต้องรีบถ่ายรูป เพราะชื่อเหมือนหมาเรา..กร๊ากก

หมาน้อยเราชื่อสโนวค่ะ นี่อาจจะเป็นเหตุอันนึงที่เราดั้นด้นมาสโนว์ฮิลล์นะคะ ฮ่าๆๆ เกี่ยวไม๊อ่า...

อ้ะ อันนี้นอกเรื่องค่ะ หมาน้อยชื่อสโนว....

รักหนูนะจ๊ะ หมาน้อย....

ชมทุ่งลาเวนเดอร์กันอีกหน่อยนะคะ

อย่างที่บอก มุมไหนก็สวย

ช่องว่าง... ระหว่างกอของดอกไม้

นอนเกลือกกลิ้งแบบไม่เกรงใจผู้คนอยู่นานจนห้าโมงเย็นที่เขาปิดสวน เลยเกรงใจ เดินออกมา

บ๋ายบาย ทุ่งลาเวนเดอร์แสนสวย... ถ้ามีโอกาสปีหน้าฟ้าใหม่จะมาเยี่ยมอีกนะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ
สวยเหลือเกินค่ะ

สวยมากเลยค่ะ ขอตามไปเที่ยวด้วยนะคะ

หลังจากขับรถออกจากทุ่งลาเวนเดอร์ เราก็ตั้งใจจะไป Broadway Tower ต่อค่ะเพราะเห็นว่าเป็นปราสาทเล็กๆ ดูน่ารักดีและไม่ไกลมาก

อันว่าพิกัดของ Broadway tower นี้คือ WR12 7LB ค่ะ ขับรถจากทุ่งลาเวนเดอร์ไปไม่เกินสิบนาที ถึงแระ.. ทีแรกก็กะว่าจะไปรอใกล้ๆพระอาทิตย์ตก (ยังไม่เข็ด) อยากถ่ายรูปปราสาทหลังเล็กๆตอนแสงดีๆสักหน่อย ปรากฏว่าปวดหัวค่ะ เอิ๊กๆๆ แดดแรงเชียว... ปวดหัวตุ๊บๆ ถ่ายรูปได้ไม่เท่าไรก็เลยขอขับรถกลับ Bourton on the water ดีกว่า

*แก้คำผิดค่ะ

สวยมากเลยค่ะ

ขออนุญาตชมพนักงานที่โรงแรมหน่อย คือพอกลับไปนี่ปวดหัวมากค่ะ ไข้ขึ้นอย่างแรง คงไม่มีแรงออกไปกินข้าวที่ไหน แต่ก็ไม่ได้อยากจะกินอะไรมากๆเลยเดินไปถามคุณพนักงานว่ามีซุปไม๊ แต่ว่าที่ห้องอาหารเค้าจัดเป็นเซทเมนูไว้และมีแบบสั่งได้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่มีซุปอะ..

คุณพนักงานเห็นเราไม่สบายก็เลยบอกว่า เอางี้ เดี๋ยวไปถามคุณเชฟให้นะ หายไปสักเดี๋ยวก็มาบอกว่า โอเค คุณเชฟจะทำซุปให้ถ้วยนึงล่ะ จะกินบนห้องหรือกินที่นี่ดี ก็เลยขอบคุณเขาไปแล้วก็ขอให้ไปเสิร์ฟให้ในห้องแทน

ขอบคุณคุณพนักงานที่โรงแรมไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ถึงคุณๆเขาจะไม่รู้ไม่เห็นอ่านไทยไม่ออกก็เถอะค่ะ

จขกท.เลยกินซุป กินยา แล้วเพื่อนที่อยู่ลอนดอนก็โทรมาหาพอดีอะค่ะ เอิ๊กๆๆๆ เพื่อนโวยวายใหญ่เลยแล้วบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะซิ่งมารับ ฮ่าๆๆ ให้รออยู่ที่โรงแรมนี่แหละ เป็นอันว่าทริปโดดเดี่ยวของจขกท.ก็จะต้องสิ้นสุดโดยปริยายเพราะเพื่อนบอกว่าขอทีเถอะ! อย่าทำเป็นเก่งแถวนี้

โอเคค่ะ ..จะมารับก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ก็ยังต่อรองว่า ขากลับมารับแล้วแวะออกซ์ฟอร์ดหน่อยได้ไม๊อะ เพื่อนแทบจะกรี๊ดค่ะ ฮ่าๆๆ บอกว่าเดี๋ยวค่อยว่ากันพรุ่งนี้ตอนเจอกันก็แล้วกันนะ...

เล่าไปก่อนดีกว่า.. พอดีหลังจากกลับจากทืี่นี่แล้วได้มีโอกาสเช็คเมลค่ะ เจอเมลของคุณSaySanDee ที่คุยกันอยู่และมีน้ำใจชวนไปพักผ่อนด้วยช่วงเสาร์อาทิตย์ ขอบคุณอีกครั้งตรงนี้นะคะ ซึ้งในน้ำใจดีที่มีให้มากมายค่ะ ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะตามไปรบกวนแน่ๆ

เดี๋ยวตอนสามจะมาต่อ.. จขกท.จะได้ไปออกซ์ฟอร์ดไม๊เอ่ย... เดี๋ยวมาเล่าค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ จบด้วยภาพเป็ดน้อยลอยน้ำจาก Bourton-on-the-water ค่ะ

ขอบคุณครับ ชอบชนบทของอังกฤษจัง มันดูน่ารักสดชื่นดี ทุ่งดอกลาเวนเดอร์เคยชมจากรีวิวของคุณ SyeSanDee เหมือนกันครับ มันสวยจริงๆ



ปล น้องสโนว์น่ารักมากครับ ^^

น่าเสียดายมากๆ เลย  ที่การป่วยทำให้ไม่ได้เจอกัน  ไม่เช่นนั้นคงได้ไปตีลังกาด้วยกัน
ในทุ่งลาเวนเดอร์ด้วยกัน(10-07-11)  แต่อย่าลืมสัญญาในช่วงฤดูใบไม้ล่วง..นะ..

ขอบคุณสำหรับรีวิวรูปสวยๆ  ดูไปก็ยิ้มไปด้วยค่ะ  

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

ภาพสวยสุดๆ อยากให้กิฟทุกรูปเลย  แต่กิฟหมดแย้ว

สวยงามมากครับ  ขอบคุณกับรีวิวสวยๆครับ

รูปสวยมากเลยครับลุงชอบหงส์ขาวกะทุ่งลาเวนเดอร์มากมาย
ขอบคุณนะครับที่แบ่งปัน

น่าไปจัง

ทุ่งดอกลาเวนเดอร์นี่สวยมากครับอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองจังเลย

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

จขกท.เองค่ะ  ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะมาชมและหย่อนกิฟไว้ดูต่างหน้านะคะ อยากติชมเพิ่มเติมอะไรทำได้เสมอค่า

******

คุณ เตี้ยอ้วนชวนไถล จริงๆสถานการณ์บังคับค่ะสำหรับเรื่องต้องไปคนเดียวเนี่ย เพราะถ้าไม่ไปก็ไม่รู้เมื่อไรจะได้ไปอีกอะนะคะ เลยตัดสินใจว่าไปเถอะ.. จริงๆก็โอเคค่ะ คิดว่ามีครั้งแรกก็จะต้องมีครั้งที่สองแน่ๆ รีวิวไว้เผื่อใครๆที่คิดอยากจะไปไหนคนเดียวแต่ยังกล้าๆกลัวๆจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่ามันไม่น่ากลัวขนาดน๊านนนน

คุณ mearnss นี่ก็ครั้งแรกค่ะ เอิ๊กๆๆ วางแผนว่าจะกลับไปอีกด้วย ฮา.. แต่ครั้งหน้าจะไปเกาะแกะเมืองอื่นบ้างค่ะ

คุณ Red-Rose-14Feb ตามมาเที่ยวเลยค่า ชมบรรยากาศฟ้าหม่นๆไปพลางๆนะคะ

คุณ มารร้ายวัวน้อย เชิญค่า.. มีเพื่อนเยอะๆก็อุ่นใจนะ เอิ๊กๆๆ

คุณ GeD^_^GeD ยินดีค่ะ ไปดูรูปพร้อมๆกันเลยค่า

คุณ นางมารชุดส้ม ขอบคุณนะคะ

คุณ Coffee Blended จริงค่ะ ชนบทอังกฤษมันดูน่าร๊ากกกก น่าลงไปนอนกลิ้งเกลือกมากกกก ปล.โนวโนวเลียมือคุณCoffeeหนึ่งแผลบเป็นการทักทายค่า..

คุณ SyeSanDee ตาหน้าจะไม่พลาดค่า.. ตอนนี้ยังอ้ำอึ้งไม่กล้าลาเจ้านายอยู่ค่ะ เอิ๊กๆๆๆ เห็นน้องๆตีลังกากันแล้วอยากไปตีบ้าง..

คุณ สาวหน้าใส ยินดีค่ะ ดีใจที่ยิ้มได้จากรีวิวนะคะ

คุณ fossil05 มาเที่ยวดัวยกันเลยค่า

คุณ Us-Sama Iland มามะ จอยกัน จอยกัน

คุณ toastlover แค่แวะมาดูก็ดีใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ

คุณ เล็กทาโร่ ขอบคุณมากค่า..

คุณ ลุงแบกเป้ ลุงชอบหงส์เหรอคะ เอิ๊ก ตอนเค้าลอยมาใกล้ๆแอบหวาดๆอะค่ะว่าจะจิกกันไม๊ หงส์จิกเป็นหรือเปล่า เข้าใจว่าน้องหงส์คงคิดว่าตัวประหลาดอะไรมานั่งที่ชายน้ำเป็นแน่แท้ค่ะ ส่วนทุ่งลาเวนเดอร์นัั้นทั้งหอมทั้งสวย ใครไปใครก็ชอบล่ะค่ะ ดีนะ ถ้าพันทิปมีกลิ่นด้วยเนี่ย กลิ่นลาเวนเดอร์ฟุ้งแน่ๆค่ะ

คุณ Ma Ma Pim น่าไปซ้ำด้วยค่ะ เอิ๊กๆๆ แต่คงไม่ง่าย...

คุณ Destiny-Boy ถ้ามีโอกาสได้แวะไปอย่าลืมถ่ายรูปมาฝากบ้างนะคะ ขอบคุณที่แวะมาชมค่า

ขอบคุณที่พาเที่ยวนะครับ

สวยมากเลยค่ะ >_______<

ชอบทุกรูปเลย ขอบคุณมากเลยนะคะที่เอามาแบ่งปัน

ขอบคุณครับ ภาพสวยงามมาก
ตามมา 2 กระทู้แล้วครับ

อยากไป Bibury บ้างครับ ถ้าไม่เช่ารถจะสะดวกไหม? พอทราบไหมครับ

ปล. ภาพสวยมากครับ

คุณ noiwanwannoi ขอบคุณที่มาเที่ยวด้วยกันค่ะ

คุณ Muimommam ยินดีที่ชอบนะคะ

คุณ แมวเฒ่าเจ้าเล่ห์ (เส้นสีฟ้า) ขอบคุณที่ติดตามค่า...

คุณ Phmatzue คะ พอดีไม่เคยหาข้อมูลการเดินทางแบบอื่นเลยค่ะเพราะตั้งใจจะเช่ารถ  เมืองค่อนข้างเล็กค่ะ น่าจะหาทางไปลำบากหน่อย ขอโทษนะคะ  ช่วยไรไม่ได้เลย

จขกท.ยุ่งไปหน่อย ตอนสามจะมาแระ...แป๊บนะคะ