http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=522285


หน.เขตรักษาป่าฯไม่ว่ากรณีใดห้ามรบกวนธรรมชาติ
   
31 กค. 2554 21:29 น.


ดร.กาญจนา วิริยะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ดำเนินการตามความเหมาะสมตามหน้าที่แล้ว โดยทางนิเวศน์วิชาการพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ถือเป็นพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติตามพรบ.สงวนและคุ้มครองป่า ซึ่งการจะเข้าพื้นที่ไม่ว่าจะเข้าไปดำเนินการใดใดก็ถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ อนุโลมให้เข้าได้ในบางพื้นที่เท่านั้น เพราะในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่ใช้มีความสวยงาม แต่ทุกพื้นที่มีความเปราะบางมาก การเข้าไปเหยียบย่ำอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ได้

“การทำงานสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เรื่องเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งต้องมีความยืดหยุ่น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกคนล้วนรู้สึกเป็นห่วงสภาพพื้นที่ป่าแห่งนี้ ซึ่งป่าสงวนแต่ละแห่งมีความแตกต่างกันทางระบบนิเวศน์อยู่แล้ว ไม่สามารถให้ภูคิ้งดำเนินการเหมือนพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆได้ จริงๆแล้วต้องขอขอบคุณ คุณติ๊ก ที่ช่วยประกาศว่าพื้นที่ภูคิ้งเป็นพื้นที่ปิด พื้นที่หวงห้าม เปราะบาง ไม่อนุญาตให้เข้าไปทำกิจกรรมไม่ว่ากรณีใดใด ซึ่งการขึ้นตัววิ่งจะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจร่วมกัน และช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมมากขึ้น เพราะทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่ล้วนสร้างผลกระทบให้สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ทั้งสิ้น ”

กรณีนักจัดรายการทีวี”เนวิเกเตอร์”ทางช่อง 3 นำโดยติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ได้พาทีมงานเข้าไปขอถ่ายทำรายการในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อนำมาออกอากาศเป็นตอนๆ ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องถูกให้ระงับการออกอากาศในวันที่ 12 สิงหาคม เพราะทำผิดเงื่อนไขข้อตกลงฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่ทางเขตรักษาพันธุ์ฯ โดยลักลอบเข้าไปถ่ายทำรายการในจุดหวงห้ามบนภูคิ้ง

ล่าสุดติ๊ก เจษฎาภรณ์ แจงทำเรื่องขออนุญาตอย่างถูกต้อง ยืนยันไม่ได้ล่วงล้ำ เข้าไปในบริเวณหวงห้าม เผยอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอนุญาตให้รายการเนวิเกเตอร์ออกอากาศได้ในวันที่ 12 สิงหาคม โดยต้องดำเนินการให้มีตัวหนังสือวิ่งว่า”ภูคิ้งเป็นพื้นที่ธรรมชาติ ที่มีสภาพเปราะบาง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจึงไม่มีนโยบายเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว”

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=522292


นี่เป็นข่าวที่เกี่วยข้องกันครับ

ปธ.ชมรมเด็กรักษ์นกฯบอกอนุรักษ์ภูคิ้งเป็นที่ศึกษา
   
31 กค. 2554 21:54 น.


นายวิชัย นาพัว ประธานชมรมเด็กรักษ์นก ท่ามะไฟหวาน จ.ชัยภูมิ บอกว่า ที่ผ่านมาได้มีขอเข้าใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลนกที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) ซึ่งการเข้าไปใช้ประโยชน์แต่ละครั้งต้องถามเจ้าหน้าตลอด หากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตไม่ให้เข้าก็จะไม่เข้าไปโดยเด็ดขาด เพราะทราบว่าพื้นที่นี้ถือเป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคอีสาน

ส่วนการที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ให้รายการเนวิเกเตอร์ขึ้นตัววิ่ง ”ภูคิ้งเป็นพื้นที่ธรรมชาติ ที่มีสภาพเปราะบาง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจึงไม่มีนโยบายเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว” นายวิชัย กล่าวว่า ถือเป็นกรณีศึกษาของคนที่รักธรรมชาติ ที่ต้องระมัดระวังธรรมชาติร่วมกัน เคารพการตัดสินใจ คำสั่งห้ามของเจ้าของพื้นที่ ไม่ฝ่าฝืน ต้องเป็นผู้ศึกษาธรรมชาติที่ดี ให้เจ้าหน้าที่นำไปเข้าใช้พื้นที่ โดยเฉพาะภูคิ้ง ถือเป็นไข่มุกอีสานที่พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์เหลืออยู่เพียงพื้นที่เดียว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ทุกจุดล้วนเป็นพื้นที่เปราะบางซึ่งพื้นที่นี้มีไว้เพื่ออนุรักษ์พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ถ้ามีการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับพื้นที่ป่า ทางเขตต้องเป็นผู้ระบุว่าสามารถผ่อนปรนให้คนเข้ามาเรียนรู้ได้ คนที่เข้าไปใช้ประโยชน์ต้องให้เจ้าหน้าที่ชี้จุด ไม่ไปรบกวนพื้นที่และเข้าไปทำอะไรที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งพื้นที่ภูคิ้งเองยังไม่พร้อมที่จะนำเสนอต่อสาธารณะ และควรอนุรักษ์ไว้เป็นพื้นที่ศึกษาเท่านั้น

คุณวิชัยนี่ดูแล้วเป็นนักอนุรักษ์จริงๆไม่ใช่อนุรักษ์เอาหน้า รู้อะไรควรไม่ควร

นายวิชัยผมจำได้แม่นเลยครับว่าเค้าคืิอ เสื้อแดง นี่คือนักอนุรักษ์ตัวจริง?

คนที่ไม่เห็นด้วย ต้องลองแยกกันให้ดีๆ ครับ ระหว่าง

กฏ และ ความรู้สึก

ไม่ว่าใครจะคิดด้านไหน มันก็ถูกกันไปหมดละครับ คนที่คิดคำนึงกฏ มันก็ต้องค้านกับคนที่คิดแต่ด้านความรู้สึก

ส่วนคนที่คิดในด้านของความรู้สึก ต่อให้กฏนั้น มีเปาบุ้นจิ้นเป็นคนถือมืดพร้อมที่จะตัดคอ ยังไงๆ มันก็ต้องค้านกฏกันไปตลอด...ละครับ

แล้ว....เมื่อไหรคนเราจะ..เคารพ กฏ !

ตกลงทางหัวหน้าเขตฯ กับ ทางคุณติ๊ก เจษฎาภรณ์ เข้าใจกันดีแล้วใช่มั้ยครับ

แล้วตกลงจะเอายังไงกับภูคิ้งครับ ทั้งจุดที่ติ๊กและทีมงานไปตั้งกล้องถ่าย
ทั้งแหล่หินจ้อง และทางเดินที่ชาวบ้านเค้าใช้เดินกันอยู่ทุกวันๆ
จะปิดไม่ให้มีการเข้าไปเลยหรือไม่
และจะถอดภูคิ้ง ออกจากรายการแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิหรือไม่
จะตกลงกับทาง อบต. อย่างไร

ผมเชื่อว่ามีอีกหลายพื้นที่ในประเทศที่เป็นแบบนี้
และก็จะมีกรณีพิพาทกับชาวบ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่เนืองๆ

สรุป ไปเที่ยวได้ (หรือจะใช้คำเก๋ๆ ว่า ไปศึกษาธรรมชาติก็ได้) แต่ขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ครับ
ถ้าเขาไม่ให้ ก็ไม่ต้องไป จบครับ ไม่ต้องคิดมาก

เหมือนคุณไปต่างประเทศนั่นแหละ
คิดซะว่า วีซ่า ไม่ผ่าน
แค่นั้นแหละครับ

เหมือนขอวีซ่า ..วีซ่าผ่าน แต่ immigration ไม่ผ่าน ไม่รู้ว่าทำไมในเมื่อเอกสารที่ยื่นขอถูกต้องทุกอย่างคนอื่นก้อเคยเข้าได้

คำอธิบาย และคำชี้แจงขนาดนี้แล้ว ก้อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยังไม่เข้าใจ

เปนเทบรายการข่าว 3 มิติ และ เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=DYi544tsom8&feature=youtu.be
http://www.youtube.com/watch?v=wWsVjeLSQmU&feature=related

เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 4 ครับ!!!

การที่คนอื่นก่อนหน้านี้เคยขออนุญาตและสามารถขึ้นภูคิ้งได้ ไม่ได้หมายความว่า คนที่ขอทีหลังจะได้รับอนุญาตเหมือนกัน มันเป็นเรื่องของเหตุผลในการขอและดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ต่างกรรมต่างวาระกันไป หากเขาไม่อนุญาต ก็คือเข้าไม่ได้...  ผิดก็คือผิด ฝ่าฝืนก็คือฝ่าฝืน แม้เจตนาดีแต่ถ้าฝ่าฝืนกฎระเบียบ จะให้มองว่าทำถูกต้องสมควรก็ไม่ได้

ปล. แต่ผมก็จะดูรายการนี้ต่อไป เพราะผมชอบรูปแบบและแนวคิดของรายการ คนเราพลาดกันได้ แก้ไขแล้วเริ่มกันใหม่ ไม่มีคำว่าสาย!!!

อืมๆๆๆๆ แล้วอนุญาตไม่อนุญาตนี่ใช้อะไรเป็น *** เกณฑ์วัด *** ละคะ

ขึ้นไปถ่ายรูปกันมาแล้วหลายคณะเลยค่ะ อันนี้ไม่รู้เป็นในจุดที่ว่าเปราะบางด้วยเหรอป่าว

http://www.chomthai.com/forum/view.php?qID=122

ไปกันเยอะแล้วครับ ภูคิ้ง จุดเปราะบาง อย่างที่ว่าเนี่ยแหล่ะ

ถ้าจะห้ามจริงๆ ทำแบบภูกระดึงเลยครับ

ผาน้ำผ่า แง่งทิดหา โหล่นฟ้าโลมดิน ผาส่องโลก ปิดตายมานานแสนนานแล้ว

ไม่ต้องให้ใครเข้าไป...เก็บไว้เป็นบ้านสัตว์ป่า...

เห็นตอนนี้ภูคิ้งยังเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่เลยค่ะ ดังนั้นจึงควรมีความชัดเจนในเรื่องนี้ มิฉะนั้นประชาชนก็คงจะสับสนในการปฏิบัติตัว


*** เวปไซด์ Amazing Thailand เค้าว่าอย่างนี้ค่ะ ****

การเดินทาง  ห่างจากอำเภอเกษตรสมบูรณ์ประมาณ 20 กิโลเมตร ตามเส้นทางเกษตรสมบูรณ์ – โนนทอง ทางขึ้นภูคิ้งอยู่ที่บ้านโนนหนองไฮ ตำบลโนนทอง นักท่องเที่ยว

สามารถสอบถามข้อมูล การบริการมัคคุเทศก์นำทาง และที่พักแบบโฮมสเตย์ได้ที่ที่ว่าการอำเภอเกษตรสมบูรณ์ โทร. 0 4486 9115 หรือองค์การบริหารส่วนตำบลโนนทอง โทร. 0 4482 2926

http://thai.tourismthailand.org/what-to-see-do/sights-attractions/info-page/cat/41/attraction/3369/parent/347/lang/2/

อีก 1 เวปไซด์เชิญชวนท่องเที่ยวภูคิ้ง

การเดินทาง จากตัวเมืองชัยภูมิใช้ทางหลวงหมายเลข 2159 (ชัยภูมิ-หนองบัวแดง) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 2037 หนองบัวแดง-เกษตรสมบูรณ์ วิ่งเข้าเส้นทางสายเกษตร-บ้านกลาง ถึงบ้านบุ่งสิบสี่และบ้านโนนหนองไฮ รวมระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร จากเชิงเขาถึงยอดภูคิ้ง มีระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร มีความสูงชันเกือบ 80 องศา บางช่วงต้องโหนเถาวัลย์ขึ้นและใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงในการพิชิตภูคิ้ง

**** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-2220513 หรือ ติดต่อ "กลุ่มอนุรักษ์ภูคิ้ง" 154 หมู่ 4 บ้านบุ่ง 14 ตำบลโนนทอง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ 36120

http://www.annaontour.com/province/chaiyaphoom/pukhing.php

ความคิดเห็นที่ 7    

เหมือนขอวีซ่า ..วีซ่าผ่าน แต่ immigration ไม่ผ่าน ไม่รู้ว่าทำไมในเมื่อเอกสารที่ยื่นขอถูกต้องทุกอย่างคนอื่นก้อเคยเข้าได้

คำอธิบาย และคำชี้แจงขนาดนี้แล้ว ก้อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยังไม่เข้าใจ

เปนเทบรายการข่าว 3 มิติ และ เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=DYi544tsom8&feature=youtu.be
http://www.youtube.com/watch?v=wWsVjeLSQmU&feature=related

แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 54 15:34:24

แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 54 15:32:57

จากคุณ : jes_ismine  
เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 15:32:04  

**************************************************************

เพิ่มเติมจากคลิป คห ที่ 7
จากรายงานท้ายข่าวของคลิปนี้ :-

จากรายงานท้ายข่าวนี้ คุณกิติบอกว่าจนทในภูเขียวบอกว่า ปกติภูคิ้งนี่เป็นส่วนหนึ่งของภูเขียว ได้เปิดให้ขึ้นไปเที่ยวด้านบนซึ่งก็คือแหล่หินจ้องโดยต้องขออนุญาตมาตลอด ขึ้นได้ทีละอย่างมาก 20 คนโดยประมาณ  เว้นเฉพาะหน้าฝน ต่อมาประมาณปี 2549 เมื่อคุณกาญจนามาดูแลก็พิจารณาให้ขึ้นไปบ้าง แต่ไม่บ่อยนักล่าสุดก็เมื่อปีที่แล้วพึ่งจะมีคณะขึ้นไปเที่ยว และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีคำสั่งปิดพื้นที่เปราะบางที่ว่านี้ เพราะว่าการปิดไม่ให้ขึ้นไปนั้น จะต้องทำหนังสือแจ้งไปที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช เพื่ออนุมัติปิด ไม่เช่นนั้นเมื่อกรมฯไม่รับรู้การสั่งปิด ใครขออนุญาตเข้าไปเที่ยวชมกรมฯก็จะอนุญาต และภูคิ้งก็เป็นส่วนหนึ่งของภูเขียวจะมีพื้นที่ที่คนขอเข้าเที่ยวชมมากก็คือแหล่หินจ้องเพราะว่ามีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูกระดึงของจวเลยอยู่ไกลๆ ดังที่ท่านเห็นว่ามีหินแปลกๆให้ถ่ายรูปและคือที่รายการเนวิเกเตอร์จะขอเข้าไปแต่ไม่ได้ให้เข้า ก็เลยหาบริเวณมุมกว้างอื่นแทนดังที่คุณติ๊กได้ชี้แจงไปครับ (แกะจากคำสรุปคุณกืติท้ายคลิปนี้ค่ะ ผิด ตก ขออภัย เนื่องจากพิมพ์ไม่ค่อยทัน)

ส่วนขั้นตอนการขออนุญาตของรายการให้ดูทั้งคลิป รายการทำหนังสือแนบสคริปขออนุญาตเข้าไปสามจุด ภูคิ้งรวมด้วย และได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช
แต่มาที่พื้นที่ไม่ได้รับอนุญาตขึ้นเพราะเป็นพื้นที่เปราะบางดังว่า รายการก็ไม่ได้ขั้นหรือผ่านแหล่หินจ้อง แต่ไปเดินทางที่ชาวบ้านเดินขึ้นไปพื้นที่โล่งที่จะเห็นภาพภูคิ้งเป็นแบ้คกราวน์เพื่อสรุปจบรายการ (ผิดตกก็ขออภัยเพราะสรุปให้อ่านย่อๆค่ะ ดูจากคลิแจะชัดกว่าค่ะ)เรื่องมีอยู่แค่นี้เอง

**********************************

ส่วนประเด็นของคุณติ๊ก

พื้นที่เปราะบางไม่ใช่ประเด็นของกรณีติ๊ก เนื่องจากติ๊กมีหนังสืออนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชให้เข้าถ่ายทำรายการได้ในภูเขียวและในบริเวณภูคิ้ง แต่เมื่อเข้าพืนที่หนเขตไม่ให้ติ๊กขึ้นภูคิ้ง (หรือบริเวณแหล่หินจ้อง) ซึ่งติ๊กก้ไม่ได้เข้า และเดินไปอีกด้านขึ้นไปตามเส้นทางที่ชาวบ้านเดินเข้าออกประจำกันเพื่อถ่ายภูคิ้งเป็นแบล้คกราวน์

แวะมาอ่านข่าวด้วยค่ะ    ขอบคุณมากๆนะคะ

เอารายงานพิเศษเรื่องภูคิ้งมาให้อ่านค่ะ ทำให้เข้าใจหลายๆอย่างดีขึ้น และขณะเดียวกันก็เกิดข้อสงสัยในการจัดการหลายๆอย่างค่ะ

http://www.naewna.com/news.asp?ID=273392
เปิดมรดกธรรมชาติ "ภูคิ้ง" เพชรเม็ดงามแดนอีสานใต้ (รายงานพิเศษ)

รอชมเทปนี้วันที่ 12 ส.ค. คงไม่เก้ออีกนะครับ

สำหรับคนที่รอข่าวเรื่องการดำเนินคดี สรุปแล้ว ตำรวจ ไม่ฟ้อง ติ๊กค่ะ

ส่วนความคืบหน้า คดี“ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ผลดี ดาราหนุ่มและพิธีกรชื่อดัง ถูกดร.กาญจนา นิตยะ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ แจ้งความจับดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน และลักลอบเข้าพื้นที่ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าบนภูคิ้ง โดยไม่ได้รับอนุญาต นั้น พ.ต.อ.สิทธิพันธุ์ พุฒทอง ผกก.เกษตรสมบูรณ์ เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากพ.ต.ท.ศรายุทธ ดาวแจ้ง พนักงานสอบสวน ว่า"ติ๊ก"เจษฎาภรณ์ ว่าได้มอบหมายให้ทีมงานนำหนังสือชี้แจงว่าได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากกรม อุทยานฯก่อนเข้าไปทำการถ่ายทำรายการในพื้นที่ดังกล่าวและมาให้ปากคำยืนยัน ทางตำรวจจึงสรุปสำนวนสั่งไม่ฟ้อง พร้อมส่งเรื่องดังกล่าวให้อัยการจังหวัดภูเขียว จ.ชัยภูมิ พิจารณาสั่งไม่ฟ้องต่อไป.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=156463

ไม่มีนี่ กลายเป็นเทปเก่าๆ ไป ไม่ออกก็ดี ในเมื่อเขาไม่เต็มใจให้เสนอ

จนบัดนี้ภูคิ้งยังอยู่ในเวปการท่องเที่ยวไทยอยู่เลย
http://thai.tourismthailand.org/what-to-see-do/sights-attractions/info-page/cat/41/attraction/3369/

คดี ติ๊ก เจษฎาพร รุกป่าภูคิ้ง ถ่ายรายการเนวิเกเตอร์ จบแล้ว หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง

http://news.sanook.com/1048520-ยกฟ้อง-ติ๊ก-รุกป่าภูคิ้ง-ถ่ายเนวิเกเตอร์.html

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (17 ส.ค.) พ.ต.ท.ศรายุทธ ดาวแจ้ง พนักงานสอบสวน สภ.เกษตรสมบูรณ์ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ในส่วนคดีได้มีการดำเนินการสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องเสร็จสิ้นแล้ว หลังพระเอกพิธีกรชื่อดัง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ส.ค.54 ที่ผ่านมา พร้อมทางทีมงานรายการเนวิเกเตอร์ที่ร่วมเป็นพยานในคดีนี้ ได้เดินทางมาร่วมให้ข้อมูลให้ปากคำ และขอยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการยื่นฟ้องคดีนี้

         "จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายผู้แจ้งตัวแทนกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องพระเอกดัง และรายการเนวิเกเตอร์ เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาแล้ว ซึ่งก็มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้แล้วด้วยเช่นกัน  ซึ่งต่างฝ่ายก็มีเจตนาที่ดีร่วมกันป้องกันรักษาป่าและอยากให้เป็นกรณีศึกษาได้เป็นบทเรียนร่วมกันต่อไปมากกว่า ซึ่งคดีนี้สามารถเจรจากันได้และต่างฝ่ายก็ไม่ได้มีความติดใจอะไรต่อกัน พ.ต.ท.ศรายุทธ กล่าว

         พ.ต.ท.ศรายุทธ กล่าวต่อว่า ในส่วนข้อหาที่ถูกแจ้งดำเนินคดีใน 2 ข้อหา ในเรื่องการเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าของทีมงาน ที่ยอมรับว่ามีการเข้าไปจริง แต่ในบทละหุโทษ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ในมาตรา 37 ในข้อกฎหมายไม่ได้ระบุโทษไว้ และผู้แจ้งไม่ได้ติดใจเอาโทษเพิ่มเติม รวมทั้งคดีฝ่าผืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ทางผู้แจ้งเองก็ไม่ได้ระบุวัน เวลา ว่าเป็นเวลาฝ่าฝืนช่วงใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางอัยการจังหวัดชัยภูมิ จึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่อไปต้องดูอยู่ที่เจตนาของแต่ละฝ่าย