POGGHI@BP : ญี่ปุ่นหมุนรอบตัว ตอนที่ ๓ : มนุษย์ทน “อุณหภูมิความเหงา” ได้กี่องศา ?

..

ความเดิมจาก ตอนที่ ๑

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10413976/E10413976.html

ความเดิมจาก ตอนที่ ๒

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10590488/E10590488.html


.
.


อุณหภูมิความเหงา


[คุณคิดว่าร่างกายของมนุษย์สามารถทน “อุณหภูมิความเหงา” ได้กี่องศา ?]

.
.

เกียวโตในปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นรอยต่อของฤดูใบไม้ร่วงเข้าสู่ฤดูหนาว

ในช่วงที่ผมเดินทางไปเยือน ... เมืองเก่าแห่งนี้จึงมีอุณหภูมิเฉลี่ยในเวลากลางวันประมาณ ๑๐ องศาต้นๆ ส่วนกลางคืนก็ต่ำสิบ

แต่นับเป็นความโชคดีที่ช่วงหนึ่งของการเดินทางมีฝนกระหน่ำลงมาทั้งวัน ทำให้วันถัดจากนั้นอุณหภูมิลดต่ำไปที่ ๕-๗ องศา สะใจคนที่โหยหาอากาศหนาวๆอย่างผมยิ่งนัก

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:40:10 ]
ความเห็นที่ 1

..

ก่อนไปละเมียดละไมกับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางอุณหภูมิเลขตัวเดียวในเกียวโต ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวอันแสนน้อยนิดของผมนั้น เคยสัมผัสความหนาวเพียงไม่กี่ครั้ง แถมหนาวที่สุดเท่าที่เจอ ก็แค่ ๑๒ องศาเซลเซียส ในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงเวลารุ่งสาง บนดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน


... ถัดจากคราวนั้น ผิวเนียนๆของผมก็มิเคยต้องแตกระแหงด้วยลมหนาวจัดๆอีกเลย ดังนั้นแม้ไม่ใช่การเดินทางไปเกียวโตในฤดูหนาวแท้ๆ แต่อุณหภูมิปลายฤดูใบไม้ร่วงในเมืองเก่าของญี่ปุ่น ก็เป็นอุณหภูมิต่ำที่สุดในชีวิตของผมแล้ว


.
.


เมื่อพูดถึง “ความหนาว” เรามักพูดถึง “ความเหงา” ควบคู่กัน อาจเป็นเพราะความหนาวมักทำให้คนเหงา อยากมีใครมาช่วยทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น ซึ่งกรณีนี้รวมถึงฤดูฝนก็เช่นกัน


...  ส่วนฤดูร้อนนั้นรอดตัวไป ไม่ค่อยมีใครบ่นว่าร้อนมากจนเหงา คงเพราะการมีใครสักคนทำให้หายเหงา เราน่าจะรู้สึก “อบอุ่น” พออากาศมันร้อนๆ จึงไม่ต้องการความอุ่นมาเพิ่มเติมอีก

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:41:36 ]
ความเห็นที่ 2

..

เมื่อก่อน .. เวลาแบ็คแพ็คเดินทางไปไหนคนเดียว ผมมักบอกคนอื่นว่า “ไม่เหงาหรอก” เพราะเรื่องราวระหว่างการเดินทาง มิตรภาพที่เกิดขึ้นใหม่รอบตัว มักช่วยเติมเต็มให้ความเหงาจางลงไปเอง


แต่เมื่อเริ่มเดินทางคนเดียวบ่อยครั้งขึ้น ระยะทางไกลมากขึ้น พ่วงด้วยความรู้สึก “อิน” กับหนังเรื่องหนึ่งที่ผมเพิ่งบรรจุเข้าไปเป็นหนังในดวงใจ คือ “Up in The Air”

เห็นทีผมคงปฏิเสธความเหงาได้ยาก


... สุดท้าย จึงต้องอ้าแขนรับความเหงาเข้ามาร่วมเดินทางไปด้วยกันเสียเลย ซึ่งการเดินทางไปญี่ปุ่นทั้ง ๒ ครั้ง ผมไม่ลืมพกความเหงาติดตัวไปเป็นเพื่อน แม้บางครั้งเพื่อนรายนี้จะกระเจิดกระเจิงหนีหายไปบ้าง เวลาเจอสาวๆญี่ปุ่นหน้าตาจิ้มลิ้มโปรยยิ้มมาให้

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:42:32 ]
ความเห็นที่ 3

..

เมื่อ ... “ความเหงา” กับ “การเดินทาง” เขย่าให้เข้ากัน จากนั้นเติม “สายฝนโปรยปราย” หรือ “สายลมหนาว” เพิ่มไปตามฤดูกาล ... มันก็น่าทานใช่ไหมล่ะครับ (ฮาๆ)



ประสบการณ์เหงาๆจากญี่ปุ่นของผมจึงอาจเรียกได้ว่า “โตเกียว เหงาในสายฝน - เกียวโต เหงาในลมหนาว”

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:43:13 ]
ความเห็นที่ 4

..

แต่ผมเชื่อว่า ส่วนใหญ่เรามักเหงาในฤดูหนาวมากกว่าฤดูฝน ... เพราะฤดูฝน ถึงแม้จะมีบรรยากาศเหงาๆ แต่ก็มาพร้อมกับความเฉอะแฉะ ซึ่งเป็นปัญหาจุกจิกสร้างความขัดใจให้กับใครๆหลายคน จนอาจบั่นทอนอารมณ์เหงาให้กลายเป็นความหงุดหงิดไปแทน


ปัญหาหลักของฤดูฝนที่ลดทอนความเหงา เพราะบ่อยครั้งที่สายฝนไปเพิ่มความลำบากในเรื่องการคมนาคม รถติดต้องใช้เวลาในการเดินทางนานขึ้น เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง หรือจะนั่งเครื่องบินก็เสียวลำไส้ใหญ่มากกว่าเดิม ฯลฯ


ส่วนปัญหาจุกจิกอย่างเช่น เดินฝ่าฝนแล้วผมเสียทรง เสื้อผ้าเปียกทำให้เสียบุคลิกภาพ กิจกรรมกลางแจ้งต้องยกเลิก จนถึงปัญหาใกล้ตัวอย่างการตากผ้าไม่แห้ง !!


(มีใครรู้สึกเหงาใจมากขึ้น เวลาตากผ้าไม่แห้งบ้างไหมครับ ?)

.
.


ไม่ต่างกันกับครั้งที่ผมไปเที่ยวโตเกียว ในช่วงปลายฤดูฝน เพราะฝนเจ้ากรรมทำให้โปรแกรมหลายอย่างต้องปรับเปลี่ยนกันแบบฉุกละหุก จนเพิ่มความปวดหัวในการวางแผน ไปทดแทนอารมณ์เหงาๆ

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:44:23 ]
ความเห็นที่ 5

..

แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว หรือแค่หนาวๆแบบใบไม้ร่วงก็ตาม อารมณ์เหงาคงได้อรรถรสมากกว่า (เว้นเสียแต่ว่าหนาวมากไปจนอุณหภูมิติดลบ)


เมื่อถึงฤดูกาลแห่งใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโต กับอุณหภูมิความหนาว ที่ลดต่ำระดับลงไปเหลือเลขตัวเดียว

... ผมจึงรับรู้ถึงระดับอุณหภูมิความเหงาที่เพิ่มขึ้นแปรผกผันกับอุณหภูมิอากาศที่ลดต่ำ

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:45:02 ]
ความเห็นที่ 6

..

๕ – ๗ องศาเซลเซียส ... กับการต้องเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว กินข้าวคนเดียว เดินชมสีสันแห่งความงามในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคนเดียว ... ท่ามกลางผู้คนมากมาย ซึ่งมาเป็นครอบครัว เป็นหมู่คณะ หรือเป็นคู่รัก


ถามว่า “เหงาไหม ?” ตอบได้เลยว่า เหงาสิครับ

.
.

... แต่เนื่องจากผมไม่ใช่ “เหมยลี่” แบบในหนังไทยสุดฮิต อุณหภูมิความเหงาในเมืองเกียวโต จึงไม่ได้สร้างความสะทกสะท้านแก่ชายหนุ่มมาดเซอร์คนนี้ได้มากมายนัก




แล้วร่างกายมนุษย์ทั่วไป จะทนอุณหภูมิความเหงาได้กี่องศา ?

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:45:59 ]
ความเห็นที่ 7

..

จากคำถามนี้ ผมคิดว่า มนุษย์เราทนอุณหภูมิความเหงาได้แตกต่างกัน คล้ายกับการทนร้อน ทนหนาวนั่นล่ะ ... ซึ่งที่บอกว่าคล้าย เพราะมีข้อต่างอยู่บ้าง คือ การ “ทนทานต่อความเหงา” นั้น เป็นเรื่องของสภาพจิตใจล้วนๆ

.

ถ้าเรามีทัศนคติต่อความเหงาในด้านลบ ... โอกาสที่ความเหงาจะแทรกซึมเข้าไปทำให้หัวใจสั่นสะท้านพร้อมกับอุณหภูมิความหนาว ย่อมมีมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากมองความเหงาเป็นอารมณ์ชิวๆ โรแมนติก ร่างกายย่อมปรับตัวได้ดีกว่า

.

เช่นเดียวกัน ที่ผมรับเอาความเหงาเป็นเพื่อน จนรู้สึกว่าอารมณ์เหงาๆ เป็นเพียงอารมณ์กลางๆ ไม่บวกไม่ลบ ... เป็นความรู้สึกที่ทำให้เราได้สงบจิตใจ หยุดนิ่ง ครุ่นคิด ตกผลึกในสิ่งต่างๆที่ผ่านมา และใส่ใจเก็บรายละเอียดของเรื่องราวรอบตัวได้ดี


โดยเฉพาะ หากได้ไปในสถานที่ท่องเที่ยว หรือบรรยากาศดีๆ ความเหงาก็ยิ่งทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม กรึ่มๆ มึนๆ ลอยล่องราวกับอยู่ในความฝันเลยทีเดียว



... นี่คืออาการเหงาในแง่บวกนะครับ อย่าสับสนว่าผมเมากัญชา

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:46:53 ]
ความเห็นที่ 8

..

ผมยังจำบรรยากาศที่อุณหภูมิความเหงาพุ่งขึ้นอยู่ในระดับสูงสุด (แต่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพใจ) ในเมืองเกียวโตได้ดี

.

… คืนนั้นเป็นค่ำคืนฝนพรำๆ อุณหภูมิลดต่ำเหลือเลขตัวเดียวเช่นเคย ผมเข้าไปหลบฝนในสถานีเกียวโต ท่ามกลางหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นอีกจำนวนมาก


สถานีรถไฟหลักแห่งเมืองเก่า ซึ่งออกแบบโดย ศาสตราจารย์ Hiroshi Hara สถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นสถานีรถไฟที่ดูคร่ำครึโบราณแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับดูหรูหรา โฉบเฉี่ยวทันสมัย มีลักษณะเป็นโถงขนาดใหญ่ เป็นทั้งที่ตั้งของโรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร ฯลฯ

... ภายในพื้นที่อาคารอันโอ่อ่า ด้านบนมีต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ประดับไฟสว่างจ้า พร้อมรับเทศกาลแห่งความสุขซึ่งกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่สัปดาห์



ต้นคริสต์มาสยักษ์ นี่ล่ะครับ คือ สถานที่ที่ทำให้อุณหภูมิความเหงาพุ่งปรี๊ด

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:47:43 ]
ความเห็นที่ 9

..

เมื่อฝนยังตกปรอยๆ และดูเวลาแล้วยังไม่ดึกมากนัก .. ผมจึงขึ้นบันไดเลื่อน ตั้งใจไว้ว่า ขอแวะไปชมแสงสวยๆจากต้นคริสต์มาสแบบใกล้ๆ ระหว่างรอให้ฝนซา


เมื่อขึ้นไปถึงที่หมาย ผมได้ยินเสียงเพลงที่แว่วมาจากต้นคริสต์มาสยักษ์ ซึ่งเป็นเพลงแบบกล่องดนตรี (Music Box) ขับกล่อมให้บรรยากาศช่างโรแมนติก

ขณะเดียวกันกับที่ละอองฝนเม็ดเล็กๆผสมไอหนาว เล็ดรอดโปรยลงมาจากหลังคาโปร่งที่เปิดโล่งด้านบนอาคาร

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:48:25 ]
ความเห็นที่ 10

..

ท่ามกลางแสงไฟกระพริบระยิบระยับในม่านละอองฝน มีหนุ่มสาวชาวเกียวโต นั่งกันเป็นคู่ๆ แนบชิด จับมือ โอบกอด พูดคุย รายล้อมอยู่บริเวณรอบต้นคริสต์มาสยักษ์ ... นอกจากนั้นก็เดินทางกันมาเป็นกลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว ... คงมีแต่ผมนี่ล่ะ ที่เดินถ่ายรูปอยู่คนเดียว

.
.


นาทีนั้น ผมไม่แน่ใจว่า ร่างกายตัวเองทนทานกับความเหงาได้มากแค่ไหน




... แต่รู้ตัวว่า ต้องกระชับ “เสื้อกันเหงา” ให้แน่นขึ้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อย


..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:49:18 ]
ความเห็นที่ 11

..

คันโต ชิดซ้าย , คันไซ ชิดขวา


[ความมีระเบียบวินัย คือ ปัจจัยนำชาติพัฒนา]



.
.
.

“ญี่ปุ่นเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และเป็นชนชาติที่มีระเบียบวินัยสูง” ประโยคบอกเล่านี้ เป็นประโยคที่ผมอ่าน และได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แต่อ่านซ้ำกี่ครั้ง หรือฟังมากี่หน ... ความเข้มข้นจากการรับรู้ ย่อมไม่เท่ากับการได้ไปสัมผัสสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง


สำหรับคนไทยแท้อย่างผม ที่คุ้นเคยกับภาพระเบียบแบบไท๊ยไทยอันหลากหลาย อาทิ การโดนแซงคิวใน 7-11 , วิ่งเบียดเสียดกันขึ้นรถเมล์ , ป้ายรถเมล์เคลื่อนที่ไปตามคนยืนรอ , เห็นรถวิ่งฝ่าไฟแดง , คนเดินข้ามถนนใต้สะพานลอย ฯลฯ  


... เมื่อได้เห็นความมีระเบียบวินัยของชาติที่พัฒนาแล้ว จึงเป็นสิ่งที่รู้สึกอิ่มเอมยิ่งนัก คล้ายกับการได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในเมืองไทย

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:50:24 ]
ความเห็นที่ 12

..

ผมว่า มันเป็นภาพที่น่าทึ่งมากทีเดียว เมื่อเห็นถนนโล่งๆ ไม่มีรถสักคัน แต่กลับไม่มีใครข้ามถนนไปสักคน ต่างยืนรอสัญญาณไฟคนข้ามถนนให้ปรากฏขึ้นมาก่อน แม้กระทั่งบางครั้งจะเป็นเพียงถนนสายเล็กๆระยะทางไม่กี่ย่างก้าว หรือเป็นเวลาดึกดื่นแล้วก็ตาม


รวมทั้งการยืนรอเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ สำหรับขึ้นรถเมล์ จากนั้นค่อยๆทยอยขึ้น – ลง ทีละคน ... คงเป็นภาพหาชมได้ยาก(มาก)ในเมืองไทย

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:51:03 ]
ความเห็นที่ 13

..

ส่วนตัวผมคิดว่า เมืองไทย ก็สามารถพัฒนาระเบียบวินัยขึ้นได้บ้าง ถ้า ๑) ผู้มีอำนาจทั้งหลาย บังคับใช้กฎระเบียบ – กฎหมายอย่างจริงจัง ๒) ประชาสัมพันธ์ให้เป็นกระแส และ ๓) ทำอย่างต่อเนื่อง

.
.


ตัวอย่างที่ผมพอจะเห็นความมีระเบียบวินัยของคนไทยเป็นรูปธรรมอยู่บ้าง คือ การยืนต่อคิว(ค่อนข้าง)เป็นระเบียบเมื่อใช้บริการ “รถไฟฟ้า BTS กับ รถไฟใต้ดิน MRT” ของชาวเมืองหลวง ซึ่งก็เป็นผลมาจาก ๓ ข้อดังกล่าว เริ่มที่หน่วยงานรณรงค์อย่างจริงจัง จนผู้ใช้บริการปฏิบัติตามกันเป็นกระแส และยังคงทำมาอย่างต่อเนื่อง


แต่ระบบขนส่งมวลชนทั้งสองหน่วยงาน ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก สำหรับการรณรงค์ให้ผู้ใช้บริการ “ยืนชิดขวา”บนบันไดเลื่อน เพื่อเปิดช่องให้คนที่เร่งรีบ “เดินขึ้น” ทางซ้าย

.

แต่ที่ญี่ปุ่น การยืนชิดขวา หรือ ชิดซ้าย บนบันไดเลื่อน ถือเป็นสิ่งปกติ ... โดยจำง่ายๆว่า “ภูมิภาคคันโต ยืนชิดซ้าย ส่วนฝั่งคันไซ ยืนชิดขวา”

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:52:05 ]
ความเห็นที่ 14

..

ความสำคัญตรงนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการจัดระบบระเบียบสำหรับ “การเดิน” ให้คล่องตัวขึ้น สำหรับคนที่เร่งรีบ มีธุระสำคัญ รวมถึงเป็นการจัดระบบให้การเดินไหลลื่นมีแบบแผนกว่าเดิม


แต่หากมองให้ลึก ถือว่ามีความหมายคล้ายเป็นระเบียบวินัยขั้นพื้นฐาน ที่ทำได้ง่ายแสนง่ายที่สุดแล้ว เพราะคุณแค่ “ยืนเฉยๆ” ให้ถูกฝั่งเท่านั้นเอง ... หากทำตามระเบียบง่ายๆแค่นี้ไม่ได้ ก็คงป่วยการจะไปคาดหวังกับระเบียบวินัยในด้านอื่น

..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:52:42 ]
ความเห็นที่ 15

..

เรื่องการยืนชิดฝั่งใดฝั่งหนึ่งบนบันไดเลื่อนสาธารณะ จึงเป็นระเบียบวินัยอย่างหนึ่ง ที่ผมได้รับอิทธิพลนำเข้ามาจากแดนอาทิตย์อุทัยโดยตรง และใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเอง (ผมเลือกใช้ตามธรรมเนียมไทย คือ การยืนชิดขวา)


แต่นั่นก็ทำให้ต้องขัดใจอยู่บ่อยครั้ง เมื่อต้องเจอกับผู้ร่วมบันไดเลื่อนในเมืองไทยซึ่งไม่ได้คิดแบบเดียวกันกับเรา ไม่ว่าจะเป็นการยืนตรงกลางบันไดเลื่อน ยืนคู่กันเต็มซ้ายขวา ไปจนยืนสลับชิดซ้ายบ้าง ชิดขวาบ้าง ไม่เป็นระบบระเบียบ ใครที่มีความจำเป็นเร่งรีบก็ต้องอาศัยทักษะการหลบหลีกเดินซิกแซกฝ่าขึ้นไปเอง


แม้จะขัดใจอยู่บ่อยครั้ง แต่ผมคิดว่าคนไทยเราอาจรับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่นตามภูมิภาคที่ต่างกัน ดังที่ว่า “คันโตชิดซ้าย คันไซชิดขวา”



เมื่อนำระเบียบวินัยจากต่างภูมิภาคมาปรับใช้ จึงกลายเป็นยืนเต็มบันไดทั้งซ้ายทั้งขวาไปอย่างที่เห็น !!??






- โปรดติดตาม ตอนต่อไป –
..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:53:30 ]
ความเห็นที่ 16

มาแอบปราด และกดโหวต เบาๆ ครับ smile

จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ [1 ส.ค. 54 02:54:45 ]
ความเห็นที่ 17

..

อ่านทิ้งท้ายสักนิด

.
.

“ญี่ปุ่นหมุนรอบตัว” ตอนที่ ๓ ... อาจจะสั้นไปสักหน่อยครับ แต่ผมก็ตั้งใจเขียนไม่น้อยไปกว่า ๒ ตอนแรก สาเหตุที่เขียนสั้นลง เนื่องจากภารกิจอื่นๆที่ค่อนข้างยุ่ง บวกกับ “ความตั้งใจส่วนตัว” ที่ไม่อยากเขียนมากเกินพอดี


เพราะนอกจาก “คนอ่าน” จะล้าในการอ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์มากไปแล้ว ... “คนเขียน” ก็เกรงว่า รายละเอียดของความเรียงอาจจะขาดความพิถีพิถัน

ผมจึงตั้งใจ .. เขียนแต่น้อยเพื่อให้มีเวลาในการคิดเนื้อหา ผูกโครงเรื่อง และขัดเกลาสำนวน มากขึ้นดีกว่า

.
.

***** เรื่องสำคัญอีกประการ ที่ผมขออนุญาตใช้พื้นที่กระทู้นี้ ในการกล่าวถึงบุคคลท่านหนึ่ง *****


หากใครที่ติดตามอ่านกระทู้บันทึกนักเดินทางของผมมาอย่างต่อเนื่อง คงพอจับเอกลักษณ์ด้านหนึ่งของผมได้ครับ ว่าในระยะหลัง ผมจะเขียนไม่มากนัก กระทู้หนึ่งมักโพสต์ไม่เกิน 20-30 ความเห็น

ส่วนหนึ่งของจุดเริ่มต้นที่ผมเริ่มลดปริมาณรูป ลดปริมาณความเห็นลง แต่พยายามใส่ใจเนื้อหาในรูปแบบงานเขียนมากขึ้น คือ [bคำแนะนำของสมาชิกท่านหนึ่ง[/b]


ครั้งนั้นผมโพสต์กระทู้ “โตเกียวหมุนรอบตัว” ... จากนั้นผมก็ได้รับข้อความจากสมาชิกท่านนี้แนะนำว่า ...


“กระทู้ของผม มีจุดเด่นที่งานเขียน ดังนั้นไม่ต้องโพสต์รูปมาก แต่ให้เน้นเนื้อหา นั่นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว”

(ข้อความอาจไม่ตรงเสียทีเดียว เพราะผมเคยล้างกล่องข้อความไป แต่ความหมายประมาณนี้ล่ะครับ)

.

จุดเริ่มต้นเล็กๆครั้งนั้น ก็ทำให้ผมค่อยๆปรับรูปแบบกระทู้บันทึกนักเดินทางของตัวเองไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ก็พัฒนามาเป็นรูปแบบ “ความเรียง” ดังที่เพื่อนๆได้เห็นกัน

ดังนั้น ผมจึงขอกล่าวคำขอบคุณในความกรุณาและความปรารถนาดีของสมาชิกท่านนั้นครับ และไม่ว่า ณ เวลานี้ท่านจะอยู่ที่ใด แต่คำสอน คำแนะนำของท่าน ผมจะจดจำ นำมาใช้อยู่เสมอ


ขอบคุณนะครับ อาหมู love


.
.
.
.

สุดท้าย การเดินทางและบทความว่าด้วยญี่ปุ่นของผม คงไม่อาจสำเร็จได้ หากปราศจากคำแนะนำ หรือข้อมูลที่ได้รับจากบุคคลเหล่านี้ love ได้แก่

เจ๊ว่านน้ำ ผู้เลอโฉม , MaNgKoOd เพื่อนซี้ , พี่ฟ้า SkyBox ผู้เป็นดั่งกูเกิลเจแปน , ท่าน NumAromDee , อ.ตู่ - ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) , คุณ ลาบราดอร์สีดำ , คุณ เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย , คุณ Art999. , คุณ ก่วยก๊วยตาลสด , คุณโต้คลื่น , คุณปังแปด , คุณหนุ่ม NMkrung , คุณ k i m m i e z , คุณหมอดาริน , คุณยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ , คุณลอร่า อิงกัลส์ ~* , คุณ กาแฟขม , เจ้าแม่คันไซ aomnan ,คุณ วันนี้รักเธอที่สุด , คุณ ohhioh , ครอบครัว  inint&anant , ท่านประธาน LVP@HEART



... รวมถึงคนรักญี่ปุ่นทุกๆท่านที่เคยตั้งกระทู้บอกเล่าประสบการณ์ดีๆเอาไว้ ณ ห้อง Blueplanet แห่งนี้


และที่สำคัญที่สุด “ผู้อ่านทุกท่านครับ” <<< พระเอกมากเลยนะแก  (>__<”)


..

จากคุณ : POGGHI [1 ส.ค. 54 02:55:09 ]
ความเห็นที่ 18

มาเจอกระทู้สุดท้ายก่อนนอน ก็เป็นกระทู้คุณ POGGHI พอดี
คืนนี้นอนหลับสบายใจแน่ๆ ครับ

"ส่วนฤดูร้อนนั้นรอดตัวไป ไม่ค่อยมีใครบ่นว่าร้อนมากจนเหงา"
มีนะครับ

"ยืนมองท้องฟ้าไม่เป็นเช่นเคย
ฤดูร้อนไม่มีเธอ เหมือนก่อน เมื่อต้องขาดเธอ"
ฤดูร้อน - Paradox

(คิดว่าน่าจะเป็นเพลงเดียวที่บอกว่าเหงาตอนฤดูร้อน)


ฤดูฝน

"ผ่านมากี่ฝนยังทนไม่ได้ ไม่รู้ทำไมใจต้องหวั่นไหว
แค่เพียงความเหงาที่เข้ามากับฝน แต่ก็ยังซึม ไปถึงหัวใจ"
วันฝนพรำ - Basket Band

ส่วนหน้าหนาว ไม่มีใครไม่รู้จักเพลงนี้
เรียกได้ว่าเป็นเพลงชาติของคนเหงา

"ลมหนาวมาเมื่อใด ใจฉันคงยิ่งเหงา
คืนวันที่มันเหน็บหนาวไม่รู้จะทนได้นานเท่าไร"
ลมหนาว - Tea for Three

แต่ในความเหงา มันก็ทำให้เราได้ซึมซับกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวได้อย่างเต็มที่จริงๆ
โดยที่ไม่มีใครขัดจังหวะความคิดของเราในขณะนั้น
อาจจะเรียกได้อีกอย่างว่า มันคือ "พื้นที่ส่วนตัว" ที่เรากันไว้ให้กับตัวเราเองจริงๆ

และสุดท้าย
ถ้าเราไม่รู้จักความเหงา
เราคงไม่รู้ว่า ความอบอุ่นจากความรัก
...มันมีค่าเพียงใด

ขอบคุณที่ถ่ายทอดความเหงาออกมาได้อย่างละเมียดละไมครับ

จากคุณ : David_kop [1 ส.ค. 54 03:29:37 ]
ความเห็นที่ 19

อีกนิด

“ภูมิภาคคันโต ยืนชิดซ้าย ส่วนฝั่งคันไซ ยืนชิดขวา”

ของบ้านเราก็มีนะครับ
"คนขวา หมาซ้าย"

แต่บางคนก็บอกว่า
"คนซ้าย ควายขวา"

ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : David_kop [1 ส.ค. 54 03:34:58 ]
ความเห็นที่ 20

ตามมาอ่าน "ความเรียง" ก่อนนอนค่ะ
เป็นนิทานก่อนนอนที่ทำให้ใครๆหลายคนหลับฝันดีได้เลยนะคะ


ทั้งสายลมหนาวและสายฝนที่ชุ่มฉ่ำ เป็นตัวแปรชั้นดีที่ทำให้อุณหภูมิความเหงาเพิ่มขึ้น

แต่อย่างน้อย...
การเดินทางก็มักทำให้เราพานพบกับอะไรๆที่ช่วยบรรเทาความเหงาของเราได้เสมอ

จากคุณ : + ฝนสุดท้ายเมื่อปลายกันยาู + [1 ส.ค. 54 03:37:46 ]
ความเห็นที่ 21

ความเรียงชุดนี้กว่าจะออกรอนานมากเลยค่ะ
นี่ นอนไม่หลับเลยลุกมาเปิดคอม ดีใจจังค่ะ
ได้อ่านเรียงความดีๆก่อนไปนอนอีกครั้งคงฝันดีถึงเกียวโตด้วยภาพสีส้มๆนะคะ ^^

ป.ล. ฝากเพลงมาให้เหงาค่ะ  wink

จากคุณ : oriole [1 ส.ค. 54 03:39:57 ]
ความเห็นที่ 22

แวะเข้ามาอ่านเรียงความตอนดึกๆครับ

จากคุณ : เจ้าชายแวมไพร์ [1 ส.ค. 54 03:50:26 ]
ความเห็นที่ 23

ที่นี่กรุงเทพฯ ฝนตกพรำๆ เช่นเกียวโตในช่วงนั้น

แต่ปริมาณความ 'เหงา' ยังไม่พุ่งขึ้น เพราะว่านั่งอบอุ่นในบ้านตัวเอง ^_^

ซึ่งที่พุ่งขึ้นเป็นความ 'อยาก' ไปสัมผัสความเหงาเช่นเดียวกับป๊อกกี้บ้าง

จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย [1 ส.ค. 54 04:21:29 ]
ความเห็นที่ 24

ตรงใจจังเลยค่ะ ตรงคห.ที่ 7

เวลาเหงาๆ แล้วไปไหนมาไหนคนเดียว ในบรรยากาศโรแมนติกๆ มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ^^

จากคุณ : LittleEntchen [1 ส.ค. 54 04:33:08 ]
ความเห็นที่ 25

 

เจอรีวิวคุณPOGGHI  ก็ดูดกิ๊ฟไปหลาย...ตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ   แต่..เต็มใจอย่างที่สุด   กระทู้ที่ไม่ต้องเสียตังซื้อ   หาอ่านได้จากห้อง BP  นี่หละ

 

กด   อีกคน

 

ทึ่งอย่างที่สุด ระเบียบของประเทศญี่ปุ่น   สักครั้งในชีวิต  ต้องขอไปเยือนให้ได้ค่ะ    รออ่านตอนต่อไปค่ะ 

จากคุณ : DOGHALL [1 ส.ค. 54 04:57:15 ]
ความเห็นที่ 26

เกิดมาก็ไม่ค่อยจะเหงาเหมือนใครๆ    ชีวิตมันวุ่นวายมากไปหน่อยจนไม่เหลือเวลามาเหงา....  อ่านรีวิวคุณป๊อกกี้แล้วก็อยากเหงามั่งจัง...  คงโรแมนติคน่าดู...อิอิอิ...

จากคุณ : ป้าฟู [1 ส.ค. 54 05:12:24 ]
ความเห็นที่ 27

ปรกติป๊อกกี้เขียนอะไร ก็อ่านง่ายและมองเห็นภาพตามได้อย่างไม่ยากนัก :-p

แต่ตอนนี้มีอยู่ประโยคหนึ่งที่อ่านแล้ว.........


"...เดินฝ่าฝนแล้วผมเสียทรง...."




นึกภาพไม่ออกจริงๆ 555

จากคุณ : SkyBox [1 ส.ค. 54 05:56:40 ]
ความเห็นที่ 28

ตื่นเช้าๆได้อ่านบทความเรียงดีๆแบบนี้  ชื่นใจค่ะ แม้จะมีความเหงาซุกซ่อนอยู่
ส่วนตัวแล้วมีความอดทนต่อความเหงาและความหนาวได้น้อยพอๆกัน   เวลาเจอความหนาวมากๆ น้ำตาจะไหลออกมาโดยอัตโนมัติ  เพราะความรู้สีก เหงาอยู่ข้างใน  หนาวทีไรอยู่คนเดียวทุกที  เกิดคำถามขึ้นมาว่า หนีความเหงาไม่ได้เลยใช่ไหมชีวิตนี้ :)  
รัก ญี่ปุ่น เท่าๆกับ รักเมืองไทย รักเชียงใหม่
*ขอบคุณรูปสวยๆค่ะป๊อกกี้  love

จากคุณ : สาวหน้าใส [1 ส.ค. 54 06:13:44 ]
ความเห็นที่ 29

@  ตอนนี้แม้จะสั้นไปนิด .. แต่เพลิดเพลินกับเรื่องราวและรูปภาพครับ ..

จากคุณ : MRBIG173 [1 ส.ค. 54 06:53:35 ]
ความเห็นที่ 30

ภาพเล่าเรื่องได้ดี
เรื่องที่เล่าได้ข้อคิด
สุขสันต์วันที่มีภาพสวยๆให้ชมsmile

จากคุณ : SkylineKip [1 ส.ค. 54 07:10:31 ]
ความเห็นที่ 31

อยากมีเวลาเหลือให้เหงาบ้าง

มีสิ่งก่อกวนชี้ชวนแบบนี้  เดี๋ยวคงต้องหนีความวุ่นวาย

แอบไปทำซึน มึน เหงา เศร้า โรแมนติค กับเขาบ้างแล้ว

จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง [1 ส.ค. 54 07:23:13 ]
ความเห็นที่ 32

เข้ามาละเมียดอ่านตอนเช้าๆ ยามฝนพรำๆแบบนี้ ทำให้ชักเริ่มเหงาขึ้นมาเลยครับwink
ขอบคุณสำหรับบทความดีดีเช่นเคยครับ

จากคุณ : ม่วงมหากาฬ [1 ส.ค. 54 07:24:43 ]
ความเห็นที่ 33

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ

ขอบคุณสำหรับคำบรรยายเหงาๆ ในวันฝนตกค่ะ

จากคุณ : armearn [1 ส.ค. 54 07:27:25 ]
ความเห็นที่ 34

บางครั้ง...อารมณ์เหงาก็มีคุณค่าในตัวเอง....

อยู่คนเดียวเงียบๆ  ในที่สวยๆแบบเกียวโต....ท่ามกลางใบไม้แดง....

คิดถึง ใคร หรือ อะไร  ที่เคยผ่านเข้ามาสร้างสิ่งดีๆในชีวิต....

เป็นเรื่องที่น่ารื่นรมย์ไม่น้อยนะครับ....









บางทีผมอยู่คนเดียวก็คิดถึงความเรียงดีๆจากญี่ปุ่น....

หรือน้องๆที่เดินเล่น แถวสยาม แถวบีทีเอส....เหมือนกัน....zax

จากคุณ : LVP@HEART [1 ส.ค. 54 07:45:23 ]
ความเห็นที่ 35

ส่วนใหญ่เรามักเหงาในฤดูหนาวมากกว่าฤดูฝน ... เพราะฤดูฝน ถึงแม้จะมีบรรยากาศเหงาๆ แต่ก็มาพร้อมกับความเฉอะแฉะ ซึ่งเป็นปัญหาจุกจิกสร้างความขัดใจให้กับใครๆหลายคน จนอาจบั่นทอนอารมณ์เหงาให้กลายเป็นความหงุดหงิดไปแทน

(มีใครรู้สึกเหงาใจมากขึ้น เวลาตากผ้าไม่แห้งบ้างไหมครับ ?)

ชอบประโยคนี้มากๆ ค่ะ

 

อ่านรีวิวของหนุ่มเซอร์คุณป๊อกกี้ในเช้าวันฝนพรำแล้ว รู้สึกเริ่มจะเหงาขึ้นมาอีกแล้วอ่ะคะ

จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน [1 ส.ค. 54 07:49:25 ]
ความเห็นที่ 36

...รีวิวสวยจัง... มาเป็นสมาชิกชมรมความเหงาด้วยคน

จากคุณ : เด็กใต้..ตัวดำ [1 ส.ค. 54 07:51:27 ]
ความเห็นที่ 37

มาเหงาเป็นเพื่อนอีกคนค่ะ
ภาพสวยจังนะคะ

จากคุณ : nakaoka [1 ส.ค. 54 08:01:34 ]
ความเห็นที่ 38

หายไปนานเลยนะฮะ ว่าแต่ไปเหงามาจากไหนเนี่ย haha

จากคุณ : Yukung [1 ส.ค. 54 08:03:30 ]
ความเห็นที่ 39

เมื่อยามฝนพรำ เธอทำอะไร ??
เข้ามาเหงาท่ามกลางสายฝนพรำ ๆ ค่ะ
ขอบคุณกระทู้ดี ๆ ต้อนรับเดือนสิงหาจ้า
flower

จากคุณ : ครอบครัวตัว ป [1 ส.ค. 54 08:05:46 ]
ความเห็นที่ 40

ความเรียง ที่อ่านแล้ว ละเมียดละมุนเหลือเกินครับ

ทำไงจะเขียนให้ได้แบบนี้มั่งเนี่ย อิอิsmile

ถ้าบ้านเรามีระเบียบวินัยได้ซักครึ่งหนึ่งของคนญี่ปุ่นก็คงจะดีนะครับ

จากคุณ : One Light One Shadow [1 ส.ค. 54 08:08:04 ]
ความเห็นที่ 41

บรรยากาศแบบนี้มันชวนเหงาเนอะ พี่ป็อกกี้

ปล.รูปสวยมากๆ จ้า

จากคุณ : นายโอเลี้ยง (ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง) [1 ส.ค. 54 08:09:35 ]
ความเห็นที่ 42

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

จากคุณ : Us-Sama Iland [1 ส.ค. 54 08:09:36 ]
ความเห็นที่ 43

ชอบการเปรียบความเหงาในฤดูฝน กับฤดูหนาว จังเลยค่ะ

 

" ส่วนใหญ่เรามักเหงาในฤดูหนาวมากกว่าฤดูฝน ... เพราะฤดูฝน ถึงแม้จะมีบรรยากาศเหงาๆ แต่ก็มาพร้อมกับความเฉอะแฉะ ซึ่งเป็นปัญหาจุกจิกสร้างความขัดใจให้กับใครๆหลายคน จนอาจบั่นทอนอารมณ์เหงาให้กลายเป็นความหงุดหงิดไปแทน "


 

จากคุณ : kungtalay [1 ส.ค. 54 08:12:55 ]
ความเห็นที่ 44

ไม่หลับไม่นอนอีกแร้ววววเหรอคะ Mr.Pogghi หัวข้อชวนให้อ่านจิงๆ หัวข้อนี้จะอ่านให้ครบทุกตัวอักษรเลย ฮ่า ฮ่า :P

จากคุณ : คนของเมื่อวาน [1 ส.ค. 54 08:19:09 ]
ความเห็นที่ 45

ซาบซึ้งความเรียงของคุณ POGGHI อีกแล้ว

บรรยายได้เห็นภาพดีจริงๆ

ผมก็อยากเห็นเมืองไทยเรารับวัฒนธรรมด้านดีๆของญี่ปุ่นเข้ามาใช้บ้างจัง

ไม่เพียงแค่รับด้านการแต่งกายหรืออาหารการกินเท่านั้น

หวังว่าสักวันคงมีโอกาสได้เห็น ถ้าโลกยังไม่แตกสลายไปเสียก่อน

ขอบคุณความเรียงดีๆของคุณ POGGHI ด้วยครับ

จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee [1 ส.ค. 54 08:20:59 ]
ความเห็นที่ 46

เสื้อกันเหงาที่ดีที่สุด น่าจะเป็นเสื้อของคนข้างๆนะ


กะพริบตา

ป.ล. แล้วทำไม คันโตกับคันไซ ไม่ยืนชิดด้านเดียวกัน?

จากคุณ : Pat :o) [1 ส.ค. 54 08:29:38 ]
ความเห็นที่ 47

หลบฝนไปรับลมหนาวด้วยคนครับ ๆๆ

จากคุณ : ชานมชงเอง [1 ส.ค. 54 08:38:16 ]
ความเห็นที่ 48

เข้ามาดู"คนเหงา"

จากคุณ : areewan [1 ส.ค. 54 08:42:03 ]
ความเห็นที่ 49

รักญี่ปุ่นเหมือนกันครับ  เหงาได้ใจ ขอบคุณสำหรับการถ่ายทอดอีกอารมณ์หนึ่งของญี่ปุ่นครับ

จากคุณ : white koala [1 ส.ค. 54 08:47:16 ]
ความเห็นที่ 50

อ่านอยู่ทุกตอนครับ

จากคุณ : tan_www [1 ส.ค. 54 08:59:42 ]
ความเห็นที่ 51

สวัสดีครับ.
เข้ากับบรรยากาศเหงาๆในเช้าฝนพรำ..ซะจริงๆ
ขอบคุณครับสำหรับความเรียงดีๆภาพสวยๆ
ปีใหม่นี้ผมก็มีแผนไปเกียวโตเหมือนกัน...

จากคุณ : actloma [1 ส.ค. 54 09:03:51 ]
ความเห็นที่ 52

ไม่เคยสังเกตุเลยว่าคันโตกับคันไซเดินกันคนละข้าง ขอบคุณรูปสวยๆบทความดีๆกับเช้าวันฝนพรำ

ส่วนตัวเดินทางคนเดียวตลอดด้วยหน้าที่การงานจนเป็นความชอบ พอมีเพื่อนขอเดินทางด้วยเลยกลายเป็นอึดอัดแทน

ตอนนี้อารมณ์ประมาณไปไหนคนเดียวชักไม่สนุก คิดถึงลูก เลยกลายเป็นวางแผนพาลูกเที่ยวเวลาที่เค้าโตมากกว่านี้แทนแม่ก็survey รอไปก่อน

จากคุณ : Ganit [1 ส.ค. 54 09:06:53 ]
ความเห็นที่ 53

ชีวิตป้า  ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ความรู้สึกที่เรียกว่า "เหงา" เข้ามาซักเท่าไร  เพราะรู้สึกถึงความโหดร้ายของมัน  ..




แต่ซักวัน  ที่เวลาและโอกาสมาถึง  ป้าจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยตาตัวเอง   ในอุณหภูมิที่อบอุ่น  ไม่เดียวดาย  ...

จากคุณ : ป้าเกษ (inhouse) [1 ส.ค. 54 09:19:21 ]
ความเห็นที่ 54

ตามไปเที่ยวด้วยครับพี่ป็อกกี้

จากคุณ : Banq T31 [1 ส.ค. 54 09:23:10 ]
ความเห็นที่ 55

มาแอบเหงา กับ Pogghi

บางครั้งแอบรู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก
แม้มีคนอยู่รอบกายเต็มไปหมด กะพริบตา

"เหงา"  
♪♪ ♫ เคยเหงากันบ้างไหม เคยรู้อยู่ใช่ไหม
ว่าเหงามันโหดร้ายเกินจะเปรียบ
มองหาคนข้างกาย ลองถามเขาบ้างไหม
ทุกคนรู้สึกเหงาเท่าเท่ากัน
อยากให้โลกเห็นใจ อยากให้คนสงสาร
ทุกคนก็ต้องการเหมือนเหมือนกัน
โอ้ใครหนอใครช่างทำเธอให้
น้ำตาหล่นไหล หลั่งริน
จึงร้องเพลงกล่อมทั้งคืน
ส่งไปตามสายลมโบกโบย ถึงเธอ
เพื่อนเอย
ชีวิตยังมีหวังอีกยาวไกล
เพื่อนเอย
จะเศร้าจะซึ้งกันไปใย
ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ให้ค้นหา

ถึงรู้อยู่แก่ใจ ถึงคิดจนซึ้งใจ
ทำไมยังเศร้าใจยังเจ็บปวด
จึงหาโลกกว้างไกล ค้นหาอยู่เพียงไหน
ยังไปไม่ถึงเพียงครึ่งทาง
เพื่อนเหงาเราก็เหงาใครเศร้าก็ปลอบใจ
ใครถมใครจะซ้ำก็ช่างเขา
โอ้ใครหนอใครช่างทำเธอให้
น้ำตาหล่นไหล หลั่งริน
จึงร้องเพลงกล่อมทั้งคืน
ส่งไปตามสายลมโบกโบย ถึงเธอ
เพื่อนเอย
ชีวิตยังมีหวังอีกยาวไกล
เพื่อนเอย
จะเศร้าจะซึ้งกันไปใย
ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ให้ค้นหา... ♪♪ ♫

                                  ...พงษ์สิทธิ์ คำภีร์...

จากคุณ : +G@To+ [1 ส.ค. 54 09:26:20 ]
ความเห็นที่ 56

ยังคิดถึง ใบไม้แดง ที่ญี่ปุ่นอยู่เหมือนเดิม

จากคุณ : aeewil [1 ส.ค. 54 09:26:40 ]
ความเห็นที่ 57

คนถ่ายรูปสวย ๆ พวกนี้ พี่โผ้มมมมครับ ... พี่โผ้มมมม

จากคุณ : ladydunce [1 ส.ค. 54 09:27:26 ]
ความเห็นที่ 58

ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วชอบมากเลย
สงสัยว่าตุลานี้คงต้องไปเดินเหงาๆคนเดียวกลางฝนพรำที่โตเกียวแน่ๆ

จากคุณ : ฮิโนเดะ [1 ส.ค. 54 09:30:39 ]
ความเห็นที่ 59

ปลายเดือนพฤศจิกายนเหรอพี่ป๊อกกี้...เค้าอยากไปมั่ง ดิ้น ดิ้น...

จากคุณ : Jook^Ka^Jick [1 ส.ค. 54 09:35:50 ]
ความเห็นที่ 60

ทั้งรูป และเนื้อหา ... เยี่ยมไปเลยครับ ^^

จากคุณ : I_Jayjay [1 ส.ค. 54 09:44:49 ]
ความเห็นที่ 61

ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆ และภาพน่ารักๆค่ะ
หวังว่าจะมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนตามรอยสักวัน

ส่วนความเหงาไม่ค่อยมีค่ะ เพราะมีเจ้าตัวเล็กคอยป่วนทั้งวัน 555

จากคุณ : nongteatree [1 ส.ค. 54 09:57:56 ]
ความเห็นที่ 62

คิดถึงแต่ก่อน เหงาได้ทุกเมื่อ ทุกฤดู :

จันทร์แจ่มฟ้า แสงดาวกระพริบพร่างพราว    เงาเหล่าแมกไม้ แกว่งไกวโยกเย้าคลอเคลีย
โอ้เดือนดาว ดาราราย ฝากใจส่งไปให้เธอ    คร่ำครวญเพ้อ  ฮึม............

คอยเธอเสมอ ดวงใจ ฉันไร้คู่เคียง               อยากมีรักร่วมเรียง ผูกพันสัมพันธ์ไม่คลาย
ก่อนนอนคืนนี้ โอ้เธอ คิดถึงใคร                  ถ้ามีเธอ คงสุขสม น้ำตาเอ่อล้นทรวงใน  
                                                              ค่ำคืน....เหงา


จากคุณ : หนุ่ม ณ วันวาน [1 ส.ค. 54 10:03:34 ]
ความเห็นที่ 63

มาอ่านเอาเรื่องและเอาอารมณ์ค่ะ

เราทนความเหงาไม่ได้พอๆ กับความหนาวค่ะ แหะๆ

แต่ทน "ร้อน" ได้ อิอิ


พยายามฝึกใจให้ทนได้กับทุกสภาวะอยู่

เอิ่ม..นอกเรื่องนะนี่ ก็รีวิวมันชวนให้คิดใคร่ครวญถึงตัวเองนี่นา เง่อ


สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ [1 ส.ค. 54 10:09:02 ]
ความเห็นที่ 64

การอยู่คนเดียวแล้วเหงา
ดีกว่า
มีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ แต่เหมือนอยู่คนเดียว
......เหงามากมาย ........

จากคุณ : สาวนุ้ย@ภูเก็ต [1 ส.ค. 54 10:16:20 ]
ความเห็นที่ 65

ดูภาพแล้วทำให้เหงาไปด้วยเลยค่ะ
รูปสวยมาก เห็นแล้วอยากไปเที่ยวจริง ๆ

จากคุณ : verdandi [1 ส.ค. 54 10:19:16 ]
ความเห็นที่ 66

ไม่ไหวแล้ว อ่านถึง คห 7


จะบอกว่าเป็น 1 ในรีวิวที่โดนใจที่สุดของคุณป๊อกกี้ตั้งแต่ผมอ่านมาเหมือนกัน ประสบการณ์ความเหงา ความหนาว และการเดินทาง


สนุกจน(แืทบจะ)วางเมาส์ไม่ลง แต่ก็ต้องวาง ไม่งั้นตกงานแน่ๆ เดี๋ยวคืนนี้มาอ่านต่อ และเมนต์ต่อนะครับ ฝากกิฟไว้เป็นมัดจำก่อน wink

จากคุณ : Coffee Blended [1 ส.ค. 54 10:29:22 ]
ความเห็นที่ 67

ไม่เหงา เเต่เข้ามาดูค่ะ
รูปสวยมากค่ะ
ขอบคุณที่นำมาเเบ่งปันนะคะ

จากคุณ : prdd26 [1 ส.ค. 54 10:31:11 ]
ความเห็นที่ 68

ภาพสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  กราบในความงามของภาพ

พี่มาถ่ายรูปงานพรีเวดดิ้งให้ผมที 555+

^^"

---------------------------------------------------------------------------

ส่วนเรื่องความเหงา ... แค่องศาเดียวที่เย็นขึ้น หัวใจก็ทนไม่ไหวแล้วครับ

555+

จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม [1 ส.ค. 54 10:34:01 ]
ความเห็นที่ 69

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ...

สักวันเราต้องไปเยือนญี่ปุ่นในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบ้าง...

จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า [1 ส.ค. 54 10:36:43 ]
ความเห็นที่ 70

ขอบคุณเรื่องราวดีๆๆมากนะครับ  ชอบภาพเปิดมากมายจริงๆๆ ได้
อารมณ์มากๆๆ  หามาให้อ่านอีกนะครับ......โหวตไป,,,

จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต [1 ส.ค. 54 10:38:02 ]
ความเห็นที่ 71

เรียบง่าย ละมุนละไม

จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง [1 ส.ค. 54 10:38:44 ]
ความเห็นที่ 72

บอกได้คำเดียวว่า ”โดน” จริงๆ ค่ะ (≡^∇^≡)

ซุ่มอ่านรีวิวของคุณป๊อกกี้ทุกครั้งแต่ไม่ค่อยได้โผล่มาทักทาย
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ค่าาาm (_ _) m

จากคุณ : kizuna_Ai [1 ส.ค. 54 10:39:31 ]
ความเห็นที่ 73

เหงามากๆ ไม่ไหวแล้ว

จากคุณ : boy next door [1 ส.ค. 54 10:53:16 ]
ความเห็นที่ 74

เหงาๆ หนาวๆ ต้องหาสาวยุ่นมากอดแก้เหงาแก้หนาวน่าจะช่วยได้นะครับฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : keep it up [1 ส.ค. 54 10:56:49 ]
ความเห็นที่ 75

เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ แต่ติดตามกระทู้เที่ยวญี่ปุ่นในห้อง blueplanet มานานแล้วค่ะ ชอบ review ของคุณ Pogghi ภาพสวยมากมาย ^_^

จากคุณ : piece_of_mind [1 ส.ค. 54 10:57:25 ]
ความเห็นที่ 76

ชอบชื่อตอนมากๆ

จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก [1 ส.ค. 54 10:59:51 ]
ความเห็นที่ 77

มีใครเคยคิดเหมือนกันไหมคะ

เมื่อเราอ่านรีวิวดีดี ข้อความดีดี หรือเห็นภาพสวยๆในห้องนี้
แล้วนึกสงสัยว่า เอ คนทำงานดีดีแบบนี้ออกมา จะหน้าตาเป็นอย่างไร
นิสัยใจคอจริงๆเป็นแบบไหน แล้วยังมีบางข้อความที่โดนใจ เพราะเราก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน

ทำให้รู้สึกถึงมิตรภาพ รู้สึกว่าถ้าได้รู้จักกัน คงเป็นเพื่อนที่ดีมากๆเลย
ประมาณเธอเป็นเพื่อนฉันแล้ว (แบบโมเมเอาเอง)

คุณ POGGHI ทำให้รู้สึกแบบนั้นเลยค่ะ
จะติดตามความเรียงของคุณเงียบๆอย่างซาบซึ้งไปตลอด ตลอด ค่ะ

จากคุณ : ทะเลที่รัก [1 ส.ค. 54 11:00:56 ]
ความเห็นที่ 78

ขอบคุณมากครับ เรียกได้ว่าประทับใจมากกับรูปและงานเขียนครับ

จากคุณ : SpEyTRo_M [1 ส.ค. 54 11:08:50 ]
ความเห็นที่ 79

สวยจัง...

จากคุณ : ปลาไหลตัวเล็ก [1 ส.ค. 54 11:13:02 ]
ความเห็นที่ 80

มาแอบดูรูปสวย ๆ ของพี่ป๊อกกี้ แฮะ ๆ ไอติม

เดี๋ยวมาอ่านอีกรอบ ครับ

จากคุณ : นายฟ้าใส [1 ส.ค. 54 11:15:39 ]
ความเห็นที่ 81

อ่านจบแล้วรู้สึกถึงความเหงาได้จริงๆ

คุณป็อกกี้มาพร้อมกับบทความดีๆให้ข้อคิดและความรู้สึกอีกแล้ว

ติดตามทุกตอนครับ ไม่พลาดแน่นอน


ปล.เน้นบทความเยอะๆก็ดีครับ แต่ผมก็เป็นคนหนึ่งแหละที่ชอบชมภาพสวยเยอะๆ ดังนั้นถ้าจะลงภาพเยอะๆก็ถูกใจผมนะครับ smile

จากคุณ : inint&anant [1 ส.ค. 54 11:17:22 ]
ความเห็นที่ 82

ภาษาสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ คุณป๊อกกี้

กำลังอยู่ในความเหงาเหมือนกัน ได้อ่านรีวิวนี้แล้ว คลายเหงาไปได้เยอะเลยค่ะ

จากคุณ : มา รัก กัน เถอะ [1 ส.ค. 54 11:22:17 ]
ความเห็นที่ 83

ภาพสวย  เรื่องดี อินไปด้วยเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ปกติขึ้นบันไดเลื่อน ยืนชิดซ้ายตลอดอะค่ะ  เหมือนเวลาขับรถเราก็อยูเลนซ้าย ไงค่ะ

จากคุณ : HANEUN [1 ส.ค. 54 11:26:36 ]
ความเห็นที่ 84

ชอบความเป็นระเบียบของบ้านเมืองเขาเนี่ยเเหละครับสุดยอดจริงๆ ดาว

จากคุณ : ทำหน้าไม่เล่น [1 ส.ค. 54 11:29:58 ]
ความเห็นที่ 85

สารภาพว่ายังอ่านไม่จบ แต่จะขอติดไว้ก่อน เดี๋ยวคืนนี้ค่อยมาตั้งใจอ่านอีกที

สำหรับความเหงา เรามีมันเป็นเพื่อน ไปเที่ยวทุกครั้งกับมัน แต่เราก็มีความสุขและสนุกกับความเหงาของเราได้ เพราะเราเชื่อว่า
"โดดเดี่ยวในโลกกว้าง ดีกว่า อ้างหว้างท่ามกลางฝูงคน"

จากคุณ : ohhioh [1 ส.ค. 54 11:32:43 ]
ความเห็นที่ 86

ความเหงาที่ซ่อนอยู่ใต้ความมีชีวิตชีวา

คงเป็นสมบัติที่ติดตัวมนุษย์มานะคะ


แต่....แต่ละคนจะทนได้กี่องศา  เป็นมุมน่าสนใจที่จะลองสำรวจตัวเองดูบ้าง


flower  flower  flower

จากคุณ : แม่ซากานะ [1 ส.ค. 54 11:37:30 ]
ความเห็นที่ 87

เข้ามาชมแบบหา "เสื้อกันเหงา" ไม่ทันค่ะ

ขอลองอาจหาญเข้ามาชมรีวิวท้าทายความเหงาของคุณป๊อกกี้ดูว่าจะเป็นอย่างไร

ชมภาพไป อ่านความเรียงไป เคล้าเสียงฝนและลมพัดเย็น ๆ เข้าบรรยากาศให้เหงาสุด ๆ เลยค่ะ

หน้าหนาวเหมาะกับความเหงาที่สุด ส่วนหน้าฝนก็เหงาได้มาก ๆ ถ้านั่งอยู่ริมหน้าต่างแล้วมองสายฝนพรำ

อ่านจบแล้วแอบจินตนาการถึงผู้ชายมาดเซอร์ (ผิวเนียน) ฮ่าฮ่าฮ่า

.... ยืนอยู่ใต้ต้นคริสต์มาส ฟังเสียง Music box บรรเลง เคล้าบรรยากาศหนาว ๆ เย็น ๆ....ก็ได้ความโรแมนติคแบบเหงา ๆ ดีนะคะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวความเรียงชุดนี้นะคะ ทำให้จิตใจเบิกบานกับความเหงาได้ดีจัง

love

จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai [1 ส.ค. 54 11:37:54 ]
ความเห็นที่ 88

เข้ามาอ่านเรื่องราวเหงาๆด้วยครับคุณป๊อกกี้
บางครั้งเราอยู่กับความเหงาบ้างก้อทำให้รู้สึกดี
รู้สึกได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นนะครับsmile

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

จากคุณ : BANBONDOI [1 ส.ค. 54 11:40:25 ]
ความเห็นที่ 89

รูปสวยจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความเหงา ในต่างประเทศ

จากคุณ : nong2215 [1 ส.ค. 54 11:43:53 ]
ความเห็นที่ 90

อย่าเหงามากนะครับเดี๋ยวจะไม่สบายนะ หาเติมความรัก ความอบอุ่น จากคนรอบๆข้างน่าจะช่วยให้หายและทุเลาได้บ้างครับ กระทู้ดีมีประกันจาก k pogghi แบบนี้ หาอ่านได้จากกระทู้แนะนำประะจำสัปดาห์เสมอครับ ^__^

จากคุณ : 1twenty2 [1 ส.ค. 54 11:45:55 ]
ความเห็นที่ 91

ขอบคุณคุณ POGGHI สำหรับความเรียงดีๆ และรูปสวยๆ เช่นทุกครั้งค่ะ

จากคุณ : la liga fan [1 ส.ค. 54 11:51:50 ]
ความเห็นที่ 92

เป็นรีวิวพร้อมคำบรรยายลึก ๆ ซึ้ง ๆ ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ครับ

จากคุณ : รักษ์ธรรม [1 ส.ค. 54 12:06:23 ]
ความเห็นที่ 93

ชอบทุกถ้อยคำ

จากคุณ : tiger's nest [1 ส.ค. 54 12:24:20 ]
ความเห็นที่ 94

กลับมาอ่านแบบละเมียดละมัยอีกรอบ....อ่านไปพร้อมๆกับสายฝนพรำๆยิ่งเพิ่มดีกรีความเหงา



ขอบคุณสำหรับบทความเหงาๆ  ของผู้ชายเซอร์ๆคนนี้

มอบรัก

จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง [1 ส.ค. 54 12:26:10 ]
ความเห็นที่ 95

ความสวยของภาษา บวกกับภาพที่สื่อความหมาย

อ่านแล้วคุ้มค่าจริง ๆ ค่ะ

ถ้ามีโอกาสได้รวมเล่มก็จะดีนะคะ

หยิบได้จับต้องได้ คงเป็นหนังสือที่มีคุณค่ะ

จากคุณ : สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี [1 ส.ค. 54 12:29:02 ]
ความเห็นที่ 96

น้าป๊อก 


ชอบจังสั้นๆ ง่ายๆ แต่โดนใจชะมัด

หนึ่งเองก็เป็นคนนึงที่มีประสบการณ์เหงาๆ กลางสายฝนและในที่สุึด
ความไม่ชอบฝนตกเป็นอันพับไป เพราะเหมือนมีเพื่อนเิดินอยู่ด้วยกัน 

ความเหงามีประโยชน์เยอะค่ะ เพราะมันหมายถึงเราได้อยู่กับตัวเอง
ได้คุยกับตัวเอง ได้ให้กำลังใจตัวเอง เปลี่ยนความคิดตัวเอง
และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงตัวเอง... ให้ยอมรับกับความเหงา....

บางคนอาจโดนความเหงาทำร้าย 
แต่คนที่โชคดีที่มองเห็นประโยชน์ของความเหงา เค้าจะเป็นเพื่อนที่ทำให้โตขึ้นเสมอๆ ^^

ขอบคุณการแบ่งปันความเหงาผ่านตัวอักษรที่อ่านแล้ว แอบคิดถึงความเหงาขึ้นมาเฉยๆ ^^

จากคุณ : hollaneung [1 ส.ค. 54 12:29:25 ]
ความเห็นที่ 97

เดินฝ่าฝนแล้วผมเสียทรง เสื้อผ้าเปียกทำให้เสียบุคลิกภาพ
^
^
ใช่เลยค่ะ ไม่ชอบฝนเพราะทำให้หัวเละอย่างรุนแรง ^^
โดยเฉพาะเมื่อเหล่ไปมองสาวญี่ปุ่นคนข้างๆ
อ้าว...ทำไมผมเค้ายังปิ๊งได้อยู่เลยเนี่ย >.<

จากคุณ : White Amulet [1 ส.ค. 54 12:32:09 ]
ความเห็นที่ 98

งามทั้งรูป งามทั้งข้อความ ทำเอาอ่านจบต้องหาเพลงมาฟังเพิ่มความเหงากันเลยทีเดียว ...  กำลังฟังเพลง ฤดูที่ฉันเหงา วง ฟลัวร์ อยู่ค่ะ

จากคุณ : reddao [1 ส.ค. 54 12:32:24 ]
ความเห็นที่ 99

เพิ่งไปเที่ยวคนเดียวมาเหมือนกันครับ
ของผมจะเกิดอามณ์เหงาตอนไปเดินเล่นริมทะเล
กับวันที่อากาศขมุกขะมัว

วันไหนไปที่ที่คนเยอะๆ อารมณ์เหงาก็หายไป
แล้วก็รู้สึกถึงความสนุกสนานครึกครื้นแทน

จากคุณ : ปอนคุงไม่ใช่ปังคุง [1 ส.ค. 54 13:02:47 ]
ความเห็นที่ 100

ให้กิ๊ฟไว้ก่อน  บุคมาร์คไว้แล้ว

จะกลับมาอ่านให้ชื่นใจ  กะพริบตา

สมกับที่ต้องรอ นานมากกกกก

จากคุณ : แป๋วแว๋ว [1 ส.ค. 54 13:05:41 ]
ความเห็นที่ 101

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะค่ะ อยากไปเที่ยงญี่ปุ่นจัง อ่านคำบรรยายแล้วซึ้ง

จากคุณ : Pingguo_Apple [1 ส.ค. 54 13:07:10 ]
ความเห็นที่ 102

เวลาไปเที่ยวคนเดียว เราก็เหงาค่ะ ยิ่งที่ที่อากาศหนาวๆ มาก ๆ มันจะเหงาขึ้นไปอีก
ก็อยากมีคนไปด้วยค่ะ แต่ยังหาไม่เจอ ^^

จากคุณ : onearth [1 ส.ค. 54 13:11:24 ]
ความเห็นที่ 103

แวะมา ช่วยน้าป๊อกกี้หาเสื้อกันเหงา

อิอิ

ช่วงนี้ไม่ว่างเข้าพันทิปเท่าไหร่นัก

จากคุณ : tummeng_in [1 ส.ค. 54 13:31:06 ]
ความเห็นที่ 104

ขอเหงาด้วยคน

จากคุณ : mamao [1 ส.ค. 54 13:46:04 ]
ความเห็นที่ 105

แวะมาทักทาย ชมภาพสวยๆครับคุณป๊อกกี้
คุณป๊อกกี้ช่วยเหงาบ่อยๆหน่อยนะครับ จะได้มีภาพสวยๆเรื่องราวดีๆมาให้ฝากกันเรื่อยๆ^^

จากคุณ : ชานไม้ชายเขา [1 ส.ค. 54 13:46:37 ]
ความเห็นที่ 106

ขอบคุณป๊อกกี้นะ ภาพสวยตลอดเลยอ่ะ

ดูแต่ละภาพ เหงา ดีจริงๆ

จากคุณ : น้องวินนี่ [1 ส.ค. 54 13:58:48 ]
ความเห็นที่ 107

ชอบทุกภาพเลย ขอบคุณค่ะ

อารมณ์เหงาแบบมีความสุขก็มีนะ..

จากคุณ : เศษฝ้ายใยฟาง [1 ส.ค. 54 14:10:30 ]
ความเห็นที่ 108

เคพยายามปลอบเพื่อนที่ขี้เหงาโดยถามว่าความเหงาเป็นอย่างไร
ถ้าเจอแล้วจับตัวมันมาให้ดูหน่อยซิ ฉันถึงจะรู้ว่าความเหงาคืออะไร
คนเราถ้าอยู่กับตัวเองได้ ความเหงาไม่มีทางมีตัวตนขึ้นมาได้เลย...
เห็นรูปแล้วคิดถึงญี่ปุ่นมาก เป็นประเทศที่ไปแล้วมีความสุขจริงๆค่ะ
(แต่กลับมาหน้าซีดมือสั่นกันทีเดียวเมื่อเห็นใบเสร็จ...^^")
นกดื่มชา

จากคุณ : เขียนบนอีแก่ Nokia 6260 (Stila is Style) [1 ส.ค. 54 14:36:23 ]
ความเห็นที่ 109

ตามมาแอบดูมุมเหงาของป๊อกกี้ เพราะเชื่อหนมกินได้ว่าต้องออกมาซึ้งบาดอารมณ์อีกแน่ๆ

แล้วป้าก็ไม่ผิดหวังเลยซักน้อยนิด

อย่าว่าแต่เที่ยวคนเดียวจะเหงาเลย ไปเป็นกลุ่มอย่างป้า บางจังหวะ "เจ้าเหงา" ก็เสนอหน้ามามีเอี่ยวกับป้าด้วยซะนี่หยอกเย้า


แต่มันก็เป็นช่วงจังหวะดีๆที่ป้าได้นั่งทบทวนอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อย ปล่อยให้เป็นห้วงคำนึงที่ส่วนตัวจริงๆ (คล้ายๆกะของน้อง David_kopนั่นแหละ)

 

ปอลอ...ป้าว่า หลังความเรียงชิ้นนี้ หนุ่มมาดเซอร์ แต่ผิวเนียน คงไม่เหงาอีกต่อไปละม้างฮ่าฮ่าฮ่า


 

จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล [1 ส.ค. 54 14:42:35 ]
ความเห็นที่ 110

...ภาพสวยมากๆ ครับ บรรยายก็ดี ความเหงากับความหนาว เมือ่เจอพร้อมกัน...
ก็...อะนะ

จากคุณ : เจ็บเพื่อเข้าใจ [1 ส.ค. 54 15:01:36 ]
ความเห็นที่ 111

มาให้ข้อสังเกตอย่างนึงนะครับ
สำหรับแถบโตเกียวคนจะยืนชิดซ้าย (ภาพ 13)
ส่วนแถบคันไซคนจะยืนชิดขวาครับ (ภาพ 15)
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม  อย่ายืนผิดด้านนะครับท่าน ^^

ส่วนนาโกยาเมืองที่อยู่ตรงกลางระหว่างคันโตและคันไซ
เมืองนี้มีบอกไว้ว่าห้ามเดินขึ้นลงบันไดเลื่อนครับ แปลกใช่มั้ย
แต่เอาเข้าจริงแล้วถ้าเป็นสถานีที่แน่นๆก็จะชิดซ้ายเหมือนแถบคันโตครับ  ทั้งนี้ไม่มีข้อบังคับให้ยืนชิดนะครับ ^^

จากคุณ : Gbe [1 ส.ค. 54 15:06:45 ]
ความเห็นที่ 112

ภาพสวยงาม ความเรียงสละสลวย
อ่านแล้วชวนหลงใหลใฝ่ฝันถึงบรรยากาศโรแมนติกของญี่ปุ่นยามฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจริงๆ ค่ะ

จากคุณ : weza (weza2005) [1 ส.ค. 54 15:10:20 ]
ความเห็นที่ 113

inlove

รูปใบไม้เปลี่ยนสีสวยจังเลยค่ะ

บรรยากาศน่าไปเที่ยวจัง

ขอบคุณรุปสวยๆนะคะ

smile

จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน [1 ส.ค. 54 15:29:53 ]
ความเห็นที่ 114

..


คุ้มค่าแก่การติดตามและรอคอย
เป็นการถ่ายทอดความเหงา
ได้ละมุนละไมมากค่ะ .. ^^


ความเหงาไม่เข้าใครออกใคร
มันอาจจะจู่โจมมาแบบ
ไม่เลือกเวลาและสถานที่


บางครั้ง ..
การยืนอยู่ท่ามกลาง
ผู้คนมากมายรายรอบตัว
ก็อาจก่อให้เกิดความเหงาได้จับใจ


ความเหงา ..
มันคือความรู้สึกว้าเหว่
และ เดียวดายที่เข้าเกาะกุมหัวใจ
ถึงแม้ว่า ..
อาจจะมีอุ้งมือของใครบางคน
เกาะกุมมือเราไว้อยู่ไม่ห่างก็ตาม.


..

จากคุณ : ทิ .. (Ka - Ti) [1 ส.ค. 54 15:36:12 ]
ความเห็นที่ 115

แค่อ่านชื่อคนตั้งกระทู้ก็เข้ามาอย่างไม่ลังเล

...

อากาศมีผลต่ออารมณ์จริงๆ ค่ะ

จากคุณ : ดอยสูง [1 ส.ค. 54 15:41:06 ]
ความเห็นที่ 116

มาอยู่เพื่อนช่วยคลายเหงาค่า

จากคุณ : Baby_I Know_U Know [1 ส.ค. 54 15:45:20 ]
ความเห็นที่ 117

อุณหภูมิความเหงา..........................smile

....อืมห์....จะทนได้ถึงไหนน่ะ....

จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว [1 ส.ค. 54 16:22:43 ]
ความเห็นที่ 118

ความเหงาที่อบอุ่น love

จากคุณ : ยิ้มไม่หุบ [1 ส.ค. 54 16:24:54 ]
ความเห็นที่ 119

คิดถึงญี่ปุ่นจัง ซักวันเราจะกลับไปอีกก

จากคุณ : pnp125 [1 ส.ค. 54 16:38:04 ]A:58.11.1.215 X: TicketID:325617
ความเห็นที่ 120

เข้ามาอ่านแบบเงียบ ๆ .... และชื่นชมอย่างแผ่วเบาคะ.....haha

ความเหงาที่ได้รับ....แฝงความอบอุ่นไว้ด้วยจริง ๆ

ขอบคุณสำหรับข้อความดี ๆ นะคะ....

ดอกมะลิ

จากคุณ : กานพลู...คนชอบเที่ยว [1 ส.ค. 54 16:59:28 ]
ความเห็นที่ 121

หนาวนี้เจอกันญี่ปุ่นที่รัก ^^

จากคุณ : yorky [1 ส.ค. 54 17:17:10 ]
ความเห็นที่ 122

ตามกลิ่นธูปมาครับ ไม่ผิดหวังทั้งเรื่องราวและภาพถ่าย ขอบคุณครับ

จากคุณ : ทะเลทะเล [1 ส.ค. 54 17:21:13 ]
ความเห็นที่ 123

ขอบคุณสำหรับถ้อยคำและภาพที่มีความหมายมากมาย  ของเมือง kyoto ที่เรารักค่ะ

จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด [1 ส.ค. 54 17:42:27 ]
ความเห็นที่ 124

ภาพสวยมากกกกกกกกกกกก

จากคุณ : นางมารชุดส้ม [1 ส.ค. 54 17:57:04 ]
ความเห็นที่ 125

เป็นการรีวิวที่ต้องบอกว่าน่าสนใจมากเลยครับ ชอบมาก

จากคุณ : KungDekZa [1 ส.ค. 54 18:04:18 ]
ความเห็นที่ 126

เป็นหนึ่งคนที่มีความเหงาเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเสมอเลยค่ะ

เพราะด้วยหน้าที่การงานที่ทำให้ไม่ได้อยู่บ้านเหมือนกับคนอื่น

หลายๆครั้งที่อยู่คนเดียวแล้วมีเรื่องราวมากมายเข้ามา... ทั้งเหงาและนอยด์

แต่ก้ต้องจัดการกับความรู้สึกเหล่านั้นแล้วใช้ชีวิตต่อไป


ขอบคุณเรื่องราวดีดี อ่านแล้วอยากลองวัดว่าเราเหงาสุดๆกี่องศา haha

จากคุณ : ZhuZhuJoopJoop [1 ส.ค. 54 18:20:32 ]
ความเห็นที่ 127

น่าทึ่งในความมีระเบียบของเค้านะครับ
อยากให้เราทำได้แบบเค้าบ้าง บ้านเราคงจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะครับ
ขอบคุณสำหรับ "ความเรียง" และมุมมองสวยๆครับ

จากคุณ : ออร์-ฟิ-อุส_orpheus [1 ส.ค. 54 19:26:42 ]
ความเห็นที่ 128

บ่อยครั้งที่พยายามจะทนกับความเหงาที่เข้ามากระทบจิตใจ และบ่อยครั้งที่อยู่กับความเหงาจนชิน จนไม่คิดว่า มันเป็นความเหงา
.. ขอบคุณสำหรับภาพเหงาๆ และเรื่องราวดีๆ นะคะ .. อยากจะบอกว่า พออ่านแล้ว ความเหงากลับเข้ามาเยี่ยมเยือนในหัวใจเลยค่ะ ^^"

จากคุณ : Blue Whale [1 ส.ค. 54 20:13:40 ]
ความเห็นที่ 129

ภาพสวยมากค่ะ อ่านรีวิวแล้วรู้สึกอินความเหงาตาม คุณ POGGHI เลยทีเดียว ซึ่งปกติในชีวิตเชื่อไหมว่าใจไม่เคยรู้สึกเหงาเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรือว่ามันจะขึ้นอยู่กับใจค่ะ

จากคุณ : lovely_l [1 ส.ค. 54 20:21:50 ]
ความเห็นที่ 130

สั้นๆ ง่ายๆ แต่กินใจค่ะ

จากคุณ : Bpearl [1 ส.ค. 54 20:42:02 ]
ความเห็นที่ 131

ญี่ปุ่น  อยากไปดูใบไม่เปลี่ยนสี่ด้วยตาตัวเองเหมือนกันคะ

นานแล้วที่จำไม่ได้ว่าเหงาเป็นยังไง

วันนี้..เหงาจับใจ..จริง..จริง

จากคุณ : ODD_NL [1 ส.ค. 54 20:45:09 ]
ความเห็นที่ 132

ขอบคุณมากๆครับผม

จากคุณ : digimontamer [1 ส.ค. 54 20:48:44 ]
ความเห็นที่ 133

เจสัน

แวะมาชมครับ สวยงามมากๆครับ คุณป็อกกี้

ขอตามไปด้วยคนนะครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับผม

จากคุณ : กัปตันลูกชุบ [1 ส.ค. 54 20:53:01 ]
ความเห็นที่ 134

ญี่ปุ่น ประทับใจมิรู้ลืมจริงๆ

จากคุณ : Powercat [1 ส.ค. 54 21:27:23 ]
ความเห็นที่ 135

ขอบคุณที่ทำให้ วันนี้ ของเราจบลงอย่างมีความสุขค่ะ

จากคุณ : salamanka [1 ส.ค. 54 21:33:37 ]
ความเห็นที่ 136

ไม่น่าเชื่อว่าพี่ป๊อกกี้จะมีอารม เหงา กะเค้าเหมือนกัน ผมยังติดใจญี่ปุ่นอยู่เลย ถ้ามีโอกาสคงจะกลับไปเที่ยวอีกครั้ง ครับ

จากคุณ : ikhong [1 ส.ค. 54 21:34:52 ]
ความเห็นที่ 137

แอบโหวต..............ให้กับความคิดเห็นที่8

ใครบ้างจะเคยเหงาเมื่อเห็นต้นคริสมาตที่ประดับประดาด้วยแสงไฟระยิบระยับ..นึกว่ามีเพียงเราคนเดียวที่เคยยืนหน้าเซ็นทรัลเวิลมองต้นคริสมาสแล้ว..น้ำตาซึม..เหงาจับใจในวันที่ไปคนเดียว เพราะทุกทีที่ไปจะต้องมีเพื่อนกลุ่มใหญ่ บางครั้งก็มีแค่เพื่อนกลุ่มเล็ก แต่แล้ววันนึงที่ทุกคนกระจัดกระจายกันไป ไปต่างประเทศ ไปมีครอบครัว คนที่รักก็ไม่อยู่

เมื่อนั้นต้นคริสมาสต้นเดิมก็สวยกว่าทุกปี และเหงากว่าทุกวัน..

จากคุณ : creamnaka [1 ส.ค. 54 22:04:02 ]
ความเห็นที่ 138

กรุงเทพบ้านผม
บันไดเลื่อน ยืน 2 ฝั่งครับ

ผมว่าน่าจะมีการรงณรงค์ บ้างได้แล้วหละ

จากคุณ : MyPoint [1 ส.ค. 54 22:11:38 ]
ความเห็นที่ 139

ไม่ว่ายุ่งแค่ไหนแต่ถ้าเห็นชื่อ POGGHI บนกระทู้แนะนำก็ต้องยอมเสียเวลาค่อยๆ ละเมียดอ่านงานเขียนดีๆ ครับ wink ...

อ่านแล้วชอบมุมมอง ทัศนคติ และความคิดหลายๆ อย่างที่โดนใจ ครับ อย่าง Up In The Air นี่ก็หนังเรื่องโปรดเลย...

ส่วนทัศนคติเรื่องความเหงานี่ ผมว่า การเดินทางกับความเหงานี่เป็นของคู่กันนะครับ ถ้าไปเที่ยวไกลๆ ต่างบ้านต่างเมืองแล้วไม่รู้สึกเหงาเลย ผมว่ามันก็ไม่ต่างกับการอยู่บ้านมีชีวิตปกตินะครับ...

อย่างช่วงคริสต์มาสนี่เป็นฤดูแห่งความเหงาจริงๆ ครับ จำได้เลยว่าช่วงที่ต้องอยู่ไกลบ้านแล้วได้ดู Love Actually ช่วงนั้นพอดี นี่ถึงหนังจะน่ารักแค่ไหนแต่ก็ทำเอาเหงาได้สุดๆ เหมือนกันครับ...

จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด [1 ส.ค. 54 22:30:14 ]
ความเห็นที่ 140

เล่าเรื่องได้กระชับ เข้าใจง่ายและอินไปกับการเดินทาง ครับ
ทำให้อยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้บ้าง ^ ^

จากคุณ : บ๊วยเปรี้ยว [1 ส.ค. 54 22:40:49 ]
ความเห็นที่ 141

อ่านจบแระ มาเมนต์เลยละกัน อิอิ wink


ส่วนตัว หลังๆชอบเป็นมนุษย์เที่ยวคนเดียวบ้างในบางอารมณ์ จริงๆความรู้สึกมันมีมาตั้งนานแล้ว จนเมื่อได้อ่านรีวิวนี้ โช๊ะเด๊ะ เหมือนโดนตีแสกหน้าเข้าอย่างจัง มันจริงด้วยครับไอ้ตรงที่ว่า ทุกครั้งที่ไปเที่ยวคนเดียวในที่หนาวๆ เจ้าความเหงามันมักจะมาเป็นเพื่อนเสมอๆ บางทีไม่ทันได้รู้ตัว แต่โดยมากมักจะมาในยามที่เจ้า ipod แสนเก่าของผมมาเปิดเพลงได้โดนใจ คราวนี้พอจะไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไปซะงั้น แต่ก็อยู่กับมันได้ครับ เพราะสนิทกันไปแล้ว ฮิฮิ แต่เวลาไปที่ร้อนๆอย่างบาหลี มาเล ฮ่องกง มักจะไม่เจอมันซะงั้น สงสัยความเหงา กับความหนาว มันมาด้วยกันจริงๆอย่างที่ท่านป๊อกกี้ตั้งสมมติฐานไว้หละครับ อันนี้ขอนับถือในความช่างสังเกตของท่านจริงๆ smile


ชอบวลีที่ว่า กระชับ "เสื้อกันเหงา"จัง ไว้จะไปหาซื้อมาใส่บ้างนะครับ จะได้ไม่เหงาเวลาไปเที่ยวwink



ส่วนเรื่องชิดซ้าย ชิดขวา มาได้ไงเนี่ยยยย อ่านเพลินเจอสอนไม่รู้ตัวซะงั้น สำหรับชายเจ้าระเบียบอย่างผม ก็สารภาพว่าแอบรำคาญนิดๆ (ถึงมาก) เวลาที่เจอคนที่ไม่เป็นระเบียบ และไม่รู้มันเป็นอะไร มันมักจะมาพร้อมกับเวลาที่เรารีบๆซะด้วยสิ โดยมากที่เจอคือพวกที่ยืนแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง ไม่เปิดช่องให้ผมได้แทรกเลยซะงั้น ให้มันได้งี้สิ หงุดหงิดก็หงุดหงิด จนสุดท้ายต้องบอกว่าขอโทษนะครับ พร้อมกับอาการไม่กล้าสบตา เพราะกลัวโดนสายตาเหวี่ยงๆกลับมา 5555+

จากคุณ : Coffee Blended [1 ส.ค. 54 22:47:37 ]
ความเห็นที่ 142

ชอบรีวิวจัง ขอบคุณนะคะ ^^
ปล. เวลาเราเหงาเรามักจะร้องเพลงนี้ค่ะ "อยู่คนเดียวมันเหงาเท่าไหร่ ดีกว่าคนใจร้ายเข้ามา มาทำให้เจ็บ ให้มีน้ำตา ให้ผิดหวังฟรีฟรี..."

จากคุณ : สามแซ่ [1 ส.ค. 54 22:59:03 ]
ความเห็นที่ 143

...ตามพี่ป็อกกี้มาเหงาๆ ในโตเกียวด้วยคนนะคะ   กะพริบตา

จริงๆ แล้วสำหรับตะวันเหงาได้ทุกที่เลยนะคะที่ไปคนเดียวไม่เฉพาะต้องโตเกียวหรอกนะคะ   ฮ่าฮ่าฮ่า  

เคยเดินทางไปต่างประเทศไม่ไกลเท่าไหร่ แค่รู้ว่าจะต้องจากเมืองไทยไปเพียงไม่กี่วัน แค่ก้าวขึ้นเครื่องบินก็รู้สึกถึงความเหงาและเศร้าได้แล้วนะคะ คืนนั้นไม่ต้องพูดถึงน้ำตาซึมหมอนแฉะไปเลยค่ะ   หยอกเย้า

ถ้าพี่ป็อกกี้ไม่อยากเหงาระหว่างเดินทางก็ชวนคนข้างๆ ไปด้วยสิคะ หายเหงาแน่เลยค่ะ  smile

รอชมตอนต่อไปอยู่นะคะ  สั้นลงๆ สั้นลงทุกทีนะคะ   haha   ^-^

จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า ^-^ (ปลายฟ้าที่ภูตะวัน) [1 ส.ค. 54 23:09:48 ]
ความเห็นที่ 144

สวยจังเลยครับ ชมภาพพร้อมคำบรรยายเพลิดเพลินไปด้วย  ขอบคุณสำหรับรีวิวและภาพสวยๆ นะครับ

จากคุณ : noiwanwannoi [1 ส.ค. 54 23:25:23 ]
ความเห็นที่ 145

สวยมากครับ อ่านแล้วเพลินมาก ๆ ด้วย ขอบคุณมากครับสำหรับบทความดี ๆ แบบนี้

จากคุณ : chartchy [1 ส.ค. 54 23:59:04 ]
ความเห็นที่ 146

อ่านแล้วพาให้เคลิ้มอยู่ในภวังค์เลยค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปทั่วโดยลำพัง มาเจอความรู้สึกแบบนี้บอกได้คำเดียวว่า มัน...ใช่เลย! เหงามันเป็นแบบนี้นี่เอง

จากคุณ : สาวน้อยตระกูลฮัว (rokco milo) [2 ส.ค. 54 00:19:33 ]
ความเห็นที่ 147

ตามไปเหงาด้วยคนค่ะ

จากคุณ : ohkouu [2 ส.ค. 54 00:34:49 ]
ความเห็นที่ 148

ได้อ่านตอนต่อของเกียวโตแล้ว อยากถามว่า เสื้อกันเหงา ที่ญี่ปุ่นเขาขายกันที่ไหนครับจะได้ไปหาซื้อบ้าง

จากคุณ : toytrip [2 ส.ค. 54 02:04:58 ]
ความเห็นที่ 149

อยู่นี่ค่ะ...มาแล้ว^^ รายงานตัวพร้อมส่งยิ้มกลบเกลื่อนแบบเนียนๆที่มาช้า แหะๆ^-^  ที่จริงเปิดเจอตอนใหม่จากคุณ POGGHI ในกล่องข้อความตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ แต่ไม่สามารถจริงๆ เพราะต้องออกไปหาหมอตามนัด ความจริงอีกอย่างคือหมอให้นอนพักผ่อนเยอะๆ ห้ามใช้สายตาเพ่งอะไรนานๆ เพราะกระจกตาอักเสบค่ะ...แต่เข้ามาเม้นให้โดยเฉพาะนะเนี่ย ขอความดีความชอบนิดนึงนะ^^

อืมม...ร่างกายมนุษย์ทนความเหงาได้กี่องศาเหรอ?  แล้วจะเลือกองศาแบบไหนดีละคะ ฟาร์เรนไฮต์ หรือว่า เซลเซียสดี คำถามไม่เคลียร์น่ะ^^"
เจอเวอร์ชั่นเหงาของคุณ POGGHI เข้าไปเล่นเอาอึ้ง ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
หรือว่าเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ขึ้นต้นมาก็เหงาเลย...อ่านๆไปซักพักเหงามาอีกละ เป็นระยะๆ...โอเคเหงาด้วยก็ได้ค่ะ จะได้อินตามคอนเซ็ป^^
ที่จริงมีเรื่องญี่ปุ่นเยอะนะคะ..แต่ฟีลเหงามาเต็มๆ เก็บไปก่อนเลยดีกว่าเนอะ
ภาพต้นคริสต์มาสทำให้ต้องหยิบ Music Box ที่มีมาเปิดฟังบ้างชอบอยู่แล้ว
ปกติเป็นคนเหงาไม่ค่อยเป็นค่ะ...ยิ่งถ้าอากาศเย็นๆในหน้าหนาวจะรู้สึกว่า เป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุด ร่างกายอบอุ่น มีแต่ใบหน้าที่สัมผัสลมหนาวที่เย็นชื่นใจได้เต็มที่ ท้องฟ้าก็เป็นสีฟ้าสวยกว่าในทุกฤดูจริงๆ...
เปิดเพลงฟังจากipodที่พกติดตัวเสมอ พร้อมเข้าสู่โลกส่วนตัวได้ตลอดเวลา เพลงคือภูมิคุ้มกันความเหงาได้ในทุกกรณีค่ะ...ตอนนี้เปิด ..The Call.. ost.Nania Prince Caspian..ฟังอยู่ค่ะ เลือกเพลงนี้มาฟังตอนเม้นให้  
เข้ากับบรรยากาศเหงาๆในแง่บวกของคุณ POGGHI ได้ดีจัง
เพลงเพราะมากด้วยล่ะ^-^

ป.ล. รอชมตอนหน้าว่าจะหายเหงายัง แล้วจะเป็นตอนที่ 4 หรือ 3.1 ดีคะ^^

จากคุณ : แม่หญิงพิมาลา [2 ส.ค. 54 10:29:22 ]
ความเห็นที่ 150

รูปสวยมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [2 ส.ค. 54 11:20:41 ]
ความเห็นที่ 151

ขอบคุณสำหรับรีวิวคะ ขอเก็บข้อมูลเอไปใช้บ้างนะคะ รูปสวยทุกรูปเลยคะ

จากคุณ : ผึ้งตัวกลม [2 ส.ค. 54 12:21:58 ]
ความเห็นที่ 152

เข้ามาเสพติดความเหงาค่ะ

ดูกระทู้นี้แล้ว

อยากไปญี่ปุ่น

อยากไปญี่ปุ่น

อยากไปญี่ปุ่น

อยากไปญี่ปุ่น

อยากไปญี่ปุ่น

อยากไปญี่ปุ่น

ภาพสวยเฉียบ เล่าเรื่องได้เยี่ยม เหมือนเดิมเลยนะคะ

บางครั้ง คนเรา....ไม่ต้องหนาวก็เหงาไ้ด้ในบางเวลาค่ะ...อิอิ..

ขอแปะไว้ก่อน แล้วจะกลับมาเสพติดความเหงาอีกรอบค่ะ

จากคุณ : พะยูนอ้วน [2 ส.ค. 54 12:54:24 ]
ความเห็นที่ 153

เบาะรถไฟสวยจัง  น่านังมากครับ  คงจะสะบายน่าดูเลย
ตามไปดู ตอน 1-2 ต่อ

จากคุณ : we will rock you [2 ส.ค. 54 13:09:45 ]
ความเห็นที่ 154

เข้ามาซึบซับ ความเหงา
ปล. ผมชอบแบบยาวๆนะ รูปเยอะๆเนื้อหาเยอะๆอ่ะ ถ้าเขียนดีมันจะอ่านเพลินน่ะ ครั้งนี้เขียนสั้นจนตกใจ

จากคุณ : มาสามวิหกอาแปด [2 ส.ค. 54 13:16:23 ]
ความเห็นที่ 155

เขียนได้น่าสนใจมากเลยครับ อ่านแล้วเพลินพร้อมกับชมรูปสวยๆไปด้วย อยากมีโอกาสไปเยือนญี่ปุ่นอีกสักครั้งจัง flower

จากคุณ : ฟองนมเย็น [2 ส.ค. 54 14:00:14 ]
ความเห็นที่ 156

มาชมรีิวิวดีๆ สวยๆ กับการรณงค์การมีระเบียบต่อสังคมรวมด้วยอีกคนนะครับ

ชอบมากครับ ผมว่าเราคงเริ่มเปลี่ยนได้ตั้งแต่เราเป็นต้นไปนะครับ สอนลูกสอนหลาน

ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปในทางดีได้แน่นอน  ผมเชื่อยังงั้น พ่อแม่ลูก

จากคุณ : arrthai [2 ส.ค. 54 14:32:05 ]
ความเห็นที่ 157

ถ่ายภาพออกมาได้เหงามากครับ ทั้งๆที่ญี่ปุ่นควรจะเป็นเมืองที่ไม่เหงา
จัดไปสามกีบ

จากคุณ : เที่ยวตามใจ [2 ส.ค. 54 15:14:45 ]
ความเห็นที่ 158

ชอบจังเลยครับ  ขอบคุณน่ะครับ

จากคุณ : หนอนน้อยเจ้าปัญหา (แพทจร้า) [2 ส.ค. 54 15:51:42 ]
ความเห็นที่ 159

ปกติชาจะแวะเข้ามาอ่านรีวิวดีๆและดูรูปสวยๆของคุณป๊อกกี้ ก่อนจากไปเงียบๆพร้อมกับกีฟแทนใจ
แต่วันนี้ขอเม้นท์ด้วยละกันนะคะ เพราะธีมของตอนนี้มันโดนใจจริงๆ ^^

จริงค่ะที่ปกติคนเรามักจะเหงาในช่วงฤดูหนาวมากกว่าฤดูฝน
ขนาดตอนที่ชาอยู่ที่ญี่ปุ่นซึ่งตอนนั้นเป็นฤดูใบไม้ผลิแล้ว ก็ยังอดเหงาเพราะสายลมเย็นๆนั่นไม่ได้.....
เข้าใจอารมณ์ที่อุณหภูมิความเหงาพุ่งปรี๊ดเมื่อเจอต้นคริสมาสต์ยักษ์ของคุณป๊อกกี้เลยค่ะ
เพราะคงไม่ต่างกับตอนที่ชาไปเจอกระเช้าลอยยามค่ำคืนที่โอไดบะ ในคืนวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิเช่นกัน
คิดว่าความรู้สึกคงน่าจะคล้ายๆกันค่ะ

"ความเหงา" ฟังดูแล้ว คำๆนี้อาจจะให้ความรู้สึกในแง่ลบ
แต่ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อเรารู้จัก "ความเหงา" ดีมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เรามองเห็นคุณค่าในตัวของบุคคลที่อยู่รายรอบตัวเรา
ทำให้เราเข้าใจว่า ทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน
หรือแม้กระทั่งคนไม่รู้จักที่บังเอิญผ่านเข้ามาพูดคุยหรือช่วยเหลือเรานั้น มีค่ามากแค่ไหน

จากคุณ : ZoSha [2 ส.ค. 54 16:28:27 ]
ความเห็นที่ 160

รูปสวยสุดยอดเลยค่ะ

จากคุณ : BROWN STITCH [2 ส.ค. 54 16:40:49 ]
ความเห็นที่ 161

รีวิวนี้ทำให้คิดถึง.....โตเกียว.......  จิงๆๆ

อยากกลับไปหาเธออีกครั้ง..

คราวนี้จะไม่ลืมที่จะพกความเหงาไปเป็นเพื่อน..^^

คราวที่แล้ว..เหมือนจะพกไป...  แต่พกความตื่นตาไปมากกว่า
ฮ่ะๆๆ..เลยกลบความเหงาไปเกือบหมด

ขอบคุณรูปสวยๆและข้อความเหงาๆ ที่มาแบ่งปันนะคะ

ปูลู..ญี่ปุ่นยามมีฝนปรอยๆๆก้อสวยอีกแบบนะคะ..
ส่วนตัว..หนีฝนมาตลอด..เพิ่งจะรู้สึกว่ามันก้อสวยดีแหะ

จากคุณ : wHiTe ShOEs [2 ส.ค. 54 18:01:22 ]
ความเห็นที่ 162

เห็นแล้ว อยากไปญี่ปุ่นทันที แต่เงินไม่อำนวย --"

จากคุณ : เด็กแมลง [2 ส.ค. 54 18:02:42 ]
ความเห็นที่ 163

อยากบอกว่ากำลังเลยค่ะ แม้ว่ารอบ ๆตัวมีผู้คนมากมาย แต่ไม่มีใครสนใจเรา

เหงาตัวโตจัง

จากคุณ : Noon_Ja_Zaa_TuK_TeE [2 ส.ค. 54 19:11:47 ]
ความเห็นที่ 164

จริงอยู่เวลาเดินทางคนเดียวอาจจะเหงาไปบ้าง แต่ก็มีข้อดีทดแทน คือ การได้อยู่กับตัวเอง ได้เรียนรู้ได้ฝึกการพึ่งพาตนเอง

ป.ล.ไม่ว่าจะโตเกียว หรือเกียวโต หรือทริปไหนๆ ทั้งเนื้อหาและรูปก็โดดเด่นเสมอจ้ะ
ป.ล.2 สาวญี่ปุ่นในรถไฟ น่ารักจิ้มลิ้ม^^

จากคุณ : oub_ib [2 ส.ค. 54 19:26:53 ]
ความเห็นที่ 165

เรื่องระเบียบวินัย ปัจจุบันประเทศไทยก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีนะคะ

มันอาจจะไม่ทันใจเรา  อาจจะมีแตกแถวบ้าง  แต่ถ้าเราอดทนช่วยกันปฎิบัติต่อไป 

มันจะดีขึ้นเรื่อยๆ จนสักวันหนึ่งเราเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ 

จากคุณ : FloraLilly [2 ส.ค. 54 20:55:05 ]
ความเห็นที่ 166

มากี่ครั้งก็ภาพสวยมากมายก่ายกอง

อิอิ^^

จากคุณ : คิโนะคุนิยะ [2 ส.ค. 54 21:22:12 ]
ความเห็นที่ 167

กดไลค์ให้กิ๊ฟต์ถี่ๆ
ฝนตกหรือแดดออก ผมไม่เคยเหงาซักทีครับ ไม่รู้เป็นไง

กระทู้ตอนนี้มาได้เวลาจัง ผมกำลังครึ่งร้อนครึ่งเย็นอยู่ที่โตเกียวนี่แหละครับ...

จากคุณ : อาจารย์โยดา [2 ส.ค. 54 22:50:18 ]
ความเห็นที่ 168

อยากอ้าแขนต้อนรับ ความเหงา   กอดเอว เอาเข้ากระเป๋า พกไปไหนๆ ด้วย  
ได้แบบนี้มั่งจังค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณป๊อกกี้  

อ่านแรกๆ สะดุด เพราะ ฉึกฉึก  ความเหงาทะลุขั้วหัวใจเลยค่ะ แต่พออ่านๆ ชมภาพไป  เพลิน  จนจบไม่รู้ตัว   ว้า จบซะแล้ว   แล้วอย่างนี้ เมื่อไหร่จะได้อ่าน  โตเกียวหมุนรอบตัว 4 , 5 ...... ล่ะค้า
ไม่เป็นไรๆๆ กลับไปอ่าน  หมุนรอบตัว รอบแรก ใหม่ ก็ได้ค่า  คิดถึงๆ

จากคุณ : วงกลมกะสามเหลี่ยม [3 ส.ค. 54 00:05:34 ]
ความเห็นที่ 169

อุณหภูมิความเหงาพุ่งทะลุปรอดแล้วจ้า 555555

love

จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน [3 ส.ค. 54 01:09:47 ]
ความเห็นที่ 170

ความเหงาก็เหมือนฝาแฝดติดตัวเรามาตั้งแต่ร้องอุแว๊ๆ แล้วล่ะงับพี่ป็อกกี้ จากวัยเด็กโตขึ้นเรื่อยๆ ความเหงามันก็เติบโตตามมาเช่นกันงับ


เพียงแต่ว่า... ตัวเราเลือกที่จะซี้กับมัน หรือคบกันแบบบ้านๆเท่านั้นล่ะเนอะ

haha



หนังสือดีดีเล่มนี้อ่านแล้ววางไม่ลงอีกเช่นเคย รอติดตามอ่านเล่มต่อไปนะงับคุณพ่อเจ้ามุลเลอร์ smile


ปล.ให้กิ๊ฟท์ไปล่วงหน้าตั้งหลายวันแระ แต่เพิ่งมีเวลาอ่านจริงๆจังๆคืนนี้เอง ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า (July 15th) [3 ส.ค. 54 01:48:34 ]
ความเห็นที่ 171

นอกจากภาพจะสวยแล้ว

เนื้อหายังเฉียบคมอีกต่างหาก

แสดงว่าเจ้าของกระทู้ต้องหน้าตาดีแน่ๆ เลย (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย อิอิ)

ยังคงรอติดตามซีรีส์ชุดนี้อยู่ตลอดนะครับ

จากคุณ : Justice of the Peace [3 ส.ค. 54 08:04:26 ]
ความเห็นที่ 172

ในความเหงา ทำให้ความคิดบรรเจิดดีจัง

จากคุณ : แม่ราศีธนู [3 ส.ค. 54 10:36:15 ]
ความเห็นที่ 173

ภาพยังคงสวย และเนื้อหายังคมคายเช่นเดิมเรยนะฮะ ลูกสาว

สารภาพว่าเราไม่เคยได้เที่ยวคนเดียวเลยค่ะ จะจัดทริปเดี่ยวทีไร ต้องมีมารมาขวางให้กลายเป็นฉิ่งฉับทัวร์ทุกที ฮ่าฮ่าฮ่า
เคยแต่ไปกับพ่อ กลางวันพ่อทำงาน เราก็เดินเล่น แต่สุดท้ายตอนเย็นก็ได้มากินข้าวพร้อมกับพ่ออยู่ดี
เลยไม่เคยรู้สึกเหงาเหง๊าเหงาเวลาไปเที่ยว แต่แบบนี้ก็อาจจะดีไปอย่างนะคะ
เพราะจะได้ซึมซับกับบรรยากาศรอบตัวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย >_<

ส่วนเรื่องอากาศหนาวจะทำให้เหงาขึ้น อันนี้ก็เห็นด้วยอีกฮะ
เวลาเมืองที่อยู่หิมะตกทีไร เดี๊ยนจะคิดถึงแมววววว แมวตัวอ้วนๆที่บ้าน กทม. อยากปล้ำน้องแมวให้หายหนาว งื้ดๆ T^T

จากคุณ : ha-meow [3 ส.ค. 54 11:45:05 ]
ความเห็นที่ 174

ภาพสวยสุด ๆ...ค่ะ มา เป็นเพื่อนเหงา

จากคุณ : ม่านบาหลี [3 ส.ค. 54 12:36:48 ]
ความเห็นที่ 175

รุป สวย..Cintent ดี
อยากทำได้ จังเลย
Forded

จากคุณ : Forded (ForDed) [3 ส.ค. 54 14:43:07 ]
ความเห็นที่ 176

รุป สวย..Cintent ดี
อยากทำได้ จังเลย
Forded

จากคุณ : Forded (ForDed) [3 ส.ค. 54 14:43:24 ]
ความเห็นที่ 177

รุป สวย..Content ดี
อยากทำได้ จังเลย
Forded

จากคุณ : Forded (ForDed) [3 ส.ค. 54 14:43:41 ]
ความเห็นที่ 178

ขอบคุณค่ะ ^^ flowerflowerflower

จากคุณ : Alethia [3 ส.ค. 54 16:02:14 ]
ความเห็นที่ 179

เมื่อไหร่จะเขียนได้เท่านี้เนี้ย ^^

จากคุณ : หนูกิตหอ 4 ชาย [3 ส.ค. 54 20:20:47 ]
ความเห็นที่ 180

 

Title / เพลง : ความทรงจำในค่ำฤดูร้อน
ศิลปิน / Artist : Cocktail

ฤดูร้อนกลับมาเยือนอีกครั้ง ฉันยังคงจดจำฝั่งใจ
เมื่อครั้งมีเธอแนบชิดเคียงกายอยู่ คราวนี้ทุกอย่างจางหาย
ไม่มีเธอที่เคยคุ้น ไม่มีมือที่กุ้มไว้

และฉันยังคงฝังใจ ยังจดยังจำเมื่อครั้งมีเธอแนบเคียงชิดใกล้
ไม่มีความหมายเมื่อไม่มีเธอ เคียงอีกต่อไป
สิ่งใดสิ่งใหนก็ไม่เหมือนเก่า ที่เราเคยเป็น

ฤดูฝนผ่านไปจนน่าหนาว ฉันยังคงจดจำเรื่องราว
เมื่อครั้งที่เราเคยมี……. เธออยู่ตรงนี้ อยู่กับฉัน
แม้วันคืนผ่านเท่าไรยังคงฝังใจ ไม่ลืม

เพราะฉันยังคงฝังใจ ยังจดยังจำเมื่อครั้งมีเธอแนบเคียงชิดใกล้
ไม่มีความหมายเมื่อไม่มีเธอ เคียงอีกต่อไป
สิ่งใดสิ่งใหนก็ไม่เหมือนเก่า ที่เราเคยเป็น

เปรียบดั่งน้ำฝนไหลตกในคืนหน้าร้อน เหมือนเป็นน้ำตาของใคร
ยังคงรินไหล เหตุใดคืนนี้ฉันจึงยังคง เหน็บหนาวจับใจ
ฤดูน่าหนาวก็ไม่เหมือนเก่า เมื่อไม่มีเรา
และฉันยังคงฝังใจ…

ฤดูร้อนกลับมาเยือนคราวนี้ ฉันยังคงเฝ้าหาวิธีที่จะได้ลืม เธอ..

จากคุณ : Find_Story [3 ส.ค. 54 22:57:11 ]
ความเห็นที่ 181

ชอบรีวิวนี้มากเลยครับ อ่านไปเพลินไปรูปสวยด้วยครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

จากคุณ : Destiny-Boy [3 ส.ค. 54 22:59:05 ]
ความเห็นที่ 182

ขอบคุณคร้าบบบบบบ

จากคุณ : MrHeng & KooKKiK [4 ส.ค. 54 08:12:09 ]
ความเห็นที่ 183

ขอบคุณสำหรับมุมมองใหม่ๆค่ะ

จากคุณ : เด็กชายถั่วงอกหัวโต [4 ส.ค. 54 09:38:23 ]
ความเห็นที่ 184

เหงากันไปเรียบร้อย

จากคุณ : biGbOySalaDbAr [4 ส.ค. 54 15:25:28 ]
ความเห็นที่ 185

ดาว เข้ามาอ่านหลายรอบแล้วค่ะ แต่ไม่กล้าจะ comment จริงๆ ดาว

เพราะกระทู้นี้ของคุณ POGGHI ทำให้ยายปุก น้ำตาซึมทุกครั้งที่ได้อ่านค่ะ

    หรืออาจเป็นเพราะ " อุณหภูมิความเหงา คงจะแปรผันตรงกับระยะทาง " มั๊งค่ะ ..

  ขอบคุณคุณ POGGHI จริงๆค่ะ สำหรับเรื่องราวดีๆ

จากคุณ : ยายปุก [4 ส.ค. 54 16:51:39 ]
ความเห็นที่ 186

เปลี่ยนแนวมาเน้น "ความเรียง" มากกว่ารูปภาพ ต้องบอกว่าเป็นการดึงจุดแข็งที่มีและถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ จ้า คนถ่ายภาพสวยหาไม่ยาก แต่คนที่ถ่ายทอดได้สวยงามทั้งภาพและภาษา หาคนเทียบ POGGHI ยากจริงๆ นะ

ไม่ใช่แค่ภาษาสวยอย่างเดียวนะ จ๊าบอีกตะหาก ขนาดเป็นคนมี "วัคซีนกันเหงา" เยอะอยู่แล้ว  ยังอ่านไปวี๊ด กรี๊ด ไป ตั้งหลายตอน แต่ละคำคิดได้ไง "อุณหภูมิความเหงา" , "เสื้อกันเหงา" ... กระทู้สื่อความได้หลากหลายจริงๆ รูปภาพ คติ อารมณ์ทั้งซึ้งและฮา เอามาคู่กันได้ลงตัวดีจัง .... ถามจริงนะ ตรงประโยค "ผิวเนียนๆของผม ... "  เขียนไปขำ (ตัวเอง) ไป บ้างมะ

สรุปแล้วคุณ POGGHI  "ทนเหงาได้กี่องศา" ล่ะ  ....  ไม่บอกไม่เป็นไร เอาเป็นว่าอวยพรให้หา "เสื้อกันเหงา" ได้เร็วๆ นะ  เผื่ออนาคตอันใกล้จะได้อ่านความเรียงประมาณ "เมื่อหัวใจใส่เสื้อกันเหงา (แล้ว)"   wink

จากคุณ : Nov_9th [4 ส.ค. 54 17:00:35 ]
ความเห็นที่ 187

ขอชมว่าภาพสวย บรรยายภาพดี
ทำให้คิดถึงญี่ปุ่น เพราะเคยไปเหงาที่ญี่ปุ่นมาเหมือนกัน...เลยอิน

จากคุณ : bangkoknail [4 ส.ค. 54 19:32:19 ]
ความเห็นที่ 188

มีมุมไม่เหงาบ้างไม่เหงา
อ่านกระทู้ไปเรื่อยๆ แล้วเหงาตามเลย

จากคุณ : bangkoknail [4 ส.ค. 54 19:42:30 ]
ความเห็นที่ 189

มาแล้วตามคำชวน


กระทู้สวย และสมบูรณ์จนเมนต์ไม่ออก
ก็อยากแชร์ความเหงาอะราวโตเกียวให้ท่านบ้าง แต่...
ณ ตอนนี้ผมไ่ม่(ค่อย)ได้อยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อน
ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสไปคนเดียวอยู่บ่อย ๆ แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม

เมื่อก่อนไม่มีใคร ไม่มีอะไรรอเราอยู่ ไปตรงไหน สงบ ๆ วิวดี ๆ แล้วเจอคนอื่นมาเป็นคู่

เหงาปรื๊ดดดดดดดดดดดดด


แต่ตอนนี้ ไปตรงนั้น บรรยากาศเดิม คนเดียว เจอคนเค้ามาเป็นคู่
กลับกลายเป็นว่ากระวนกระวายอยากกลับบ้าน..
อยากกลับไปชวนคนที่บ้านมาดูให้เห็นบรรยากาศสวย ๆ ด้วยสองตาเดียวกัีน ซ่ะงั้น!


ผมว่านะ..
อย่าไปกังวลเลยว่าเราจะ "ทนเหงาได้กี่องศา"
เพราะความเหงาไม่ใช่ความหนาว มันคือความว่างเปล่า ที่มีความหนาวเป็นตัวเร่งปฏิกริยาต่างหาก

"ความว่างเปล่า" ถ้าเราตั้งใจอยู่กับมันให้ดี เราจะพบว่า

เราได้ิิยินความคิดของตัวเองชัดเจนขึ้นนะ

เหมือนอย่างที่ท่านป็อกไปเหงา แล้วมาบรรยายจนได้กลิ่นความเหงาฟุ้งกระจายเต็มกระทู้อยู่นี่ไง  smile

จากคุณ : NumAromDee [4 ส.ค. 54 20:25:35 ]
ความเห็นที่ 190

เหงา  = ได้ทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง = สมาธิ

ขอบคุณสำหรับวลี สวยๆ  อ่านแล้ว เหงาจับใจ จริงๆ คะ

จากคุณ : lovertravelmak [4 ส.ค. 54 21:26:23 ]
ความเห็นที่ 191

ตลอดการเดินทางอันแสนยาวนาน  

นับแสน  นับล้าน  ภพภูมิ  

เราไปด้วยตัวคนเดียวเสมอ

จากคุณ : maruman [4 ส.ค. 54 21:56:53 ]
ความเห็นที่ 192

ชอบคห. ข้างบนมากๆค่ะ

จากคุณ : มายแอปเปิ้ลพาย [5 ส.ค. 54 13:18:26 ]
ความเห็นที่ 193

กว่าจะได้เข้ามา ตอนแรกไม่กล้าอ่านกระทู้นี้เพราะกำลังเหงาอยู่ที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน เดี๋ยวจะกลายเป็นตัวละครในนั้นไป

เป็นข้อคิดที่ดีนะครับว่าเราทนอุณหภูมิความเหงาได้เท่าไหร่ แต่อุณหภูมิความเหงาก็เปลี่ยนไปตามระยะเวลาของแต่ละคนเช่นกัน อย่างของผมตอนนี้อีก 6 วันฤดูแห่งความเหงากำลังจะจบลงแล้วครับ

ไว้มาญี่ปุ่นอีกทีเมื่อไหร่ฤดูแห่งความเหงาค่อยมาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง

จากคุณ : Gelgoog [5 ส.ค. 54 14:38:38 ]
ความเห็นที่ 194

เปิดมาห้องนี้เจอกระทู้แนะนำญี่ปุ่นปั้บ ต้องขอเข้ามาดูทันที

....พอเข้ามาแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เนื้อ และภาพสวยมว๊ากกก

รู้สึกคิดถึง อยากกลับไปที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ^_^

จากคุณ : สาวเกาหลี [5 ส.ค. 54 16:26:33 ]
ความเห็นที่ 195

สวยจังเลยค่ะ ทั้งภาพและคำบรรยาย

ขอบคุณนะคะ

จากคุณ : bremstrahlung [5 ส.ค. 54 18:14:19 ]
ความเห็นที่ 196

เข้ามาร่วมความเหงาด้วยคนค่ะ

จากคุณ : บ้านนี้มีสุข [5 ส.ค. 54 21:56:58 ]
ความเห็นที่ 197

ชื่นชอบมากเลยครับ

จากคุณ : birdnui [6 ส.ค. 54 13:55:31 ]
ความเห็นที่ 198

เหงาด้วยคน .. รูปสวยมาก ๆ ครับ

จากคุณ : halfofw [7 ส.ค. 54 02:08:54 ]
ความเห็นที่ 199

เดินทางคนเดียว มีความเหงาเป็นเพื่อร่วมทาง ชักอยากจะหาเสื้อกันเหงาสักตัวแล้วครับ

จากคุณ : Poppartacus [7 ส.ค. 54 15:14:41 ]
ความเห็นที่ 200

ชอบรูปภาพมากเลยค่ะ  สื่อความหมายได้ดีมาก  สีสวยจัง ทำให้อยากไปญี่ปุ่นเลยอ่าค่ะ ^^

จากคุณ : friend_st [8 ส.ค. 54 02:12:15 ]
ความเห็นที่ 201

เข้ามาเหงา เอ๊ย...เข้ามาขอบคุณค่ะ

กรี๊ด..นี่ชั้นพลาดตอนสองไปเมื่อใดกัน

ไม่ได้..ต้องไปตามเก็บก่อน...

จากคุณ : Jerryholic [11 ส.ค. 54 17:39:12 ]
ความเห็นที่ 202

มาลงชื่อครับ

ภารกิจรัดตัว กว่าจะได้อ่านก็เกือบหมดเดือนสิงหา

อ่านจบแล้วก็อยากออกเดินทางไปหาความเหงาบ้างจังเลย ไม่เคยเจอกันนานเท่าไหร่แล้วนะเพื่อนคนนี้

จากคุณ : ยุง บิน ชุม [27 ส.ค. 54 10:37:01 ]
ความเห็นที่ 203

ลงชื่อด้วยคนค่ะ

พลาดกระทู้นี้ไปได้ไงเนี่ย

จากคุณ : วันนี้รักเธอที่สุด [30 ส.ค. 54 03:11:11 ]
ความเห็นที่ 204

ภาพสวย และเล่าเรื่องได้ดีมากค่ะ
ยิ่งหนาวก็ยิ่งเหงาค่ะ
เป็นบ่อย และกำลังเป็นอยู่
การมาเรียนต่างประเทศคนเดียว ไม่มีคนในครอบครัว ไม่มีเพื่อนสนิท
และเพิ่งเลิกกับคนรัก มันยิ่งเหงาสุดๆค่ะ

ปีหน้าจะไปเผชิญความเหงาคนเดียวที่ญี่ปุ่นบ้างเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณที่ลงรูปสวยๆและเรื่องเล่าดีๆนะค่ะ

จากคุณ : bengee-jv [3 พ.ย. 54 22:30:48 ]
ความเห็นที่ 205

ขอบคุณรีวิวดี ๆ น่ารัก ๆนะคะ

รักตั้งแต่ชื้อกระทู้แล้วอ่ะคะ >_____<

จากคุณ : Pastel Mind [9 ม.ค. 55 14:13:01 ]