ตอนที่แล้วยังหนาวไม่หนำใจพอ ตอนนี้จึงจะพาตามกันไปหนาวต่อให้ถึงสุดขั้วหัวใจ
แต่ไม่รู้ทำไมหนอ มาถึงแล้วกับไม่หนาวระริกอย่างคิดไว้ หรือว่าเป็นเพราะโดนหิมะทำให้เย็นชาตามกันไปแบบไม่ทันรู้ตัว
ทิ้งท้ายเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่แล้วว่า จะพาไปเที่ยว "หมู่บ้านเลื่องชื่อ" ที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าว เต้นเร่าๆอยากไปเหยียบให้ได้สักครั้ง
ตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้น อยากจะไปยลโฉม "หมู่บ้านที่ว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่น" โดยเฉพาะยิ่งถ้าทั้งหมู่บ้านเป็นสีขาวโพลน เส่น่ห์นั้นเกินทานไหว
งามอย่างไรที่ถึงขนาด UNESCO ก็คิดเหมือนกัน ยกย่องให้เป็น "มรดกโลก" คู่บ้านคู่เมืองสู่ความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่น
[3 ส.ค. 54 13:03:09
]
ชิระคะวะโกะ 白川郷
- อยู่ในจังหวัด Gifu 岐阜県 -
หมู่บ้านชิระคะวะ Shirawaka-Mura แห่งนี้ มีแม่น้ำตัดผ่านออกสู่ทะเลสาปชิระคะวะ หรือ Shirakawa-Go
ตั้งอยู่ในหุบเขาลำธาร Shogawa ที่ถอดยาวครอบคลุมพื้นที่ถึง 2 จังหวัดยาวไปถึง Toyama
ซึ่งในส่วนนี้ก็มีหมู่บ้านลักษณะคล้ายกัน มีชื่อเรียกว่า Gokayama 五箇山 แต่จะเล็กและเข้าถึงลำบากกว่า
[3 ส.ค. 54 13:03:46
]
การเดินทางด้วยรถบัสเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด สามารถเดินทางมาได้ทั้งจาก Takyama และ Kanazawa
โดยใช้ระยะเวลาเพียง 50 นาที แถมราคาประหยัดไป-กลับต่อคนเพียง 4300 เยนเท่านั้น (จากทะคะยะมะ)
สามารถตรวจสอบตารางเดินรถได้ที่นี่
Bus Timetable : Takayama - Shirakawago - Kanazawa
http://www.japan-guide.com/bus/shirakawago.html
[3 ส.ค. 54 13:06:00
]
องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้สถานที่ทั้งสองแห่งนี้ (ทั้ง Shirakawago และ Gokayama) เป็น World Heritge Site เมื่อปี 1995
นอกจากประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมที่เด่นชัดแล้ว ยังแสดงถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้อย่างดี
ในอดีต Shirakawago นั้นเคยถูกปกครองโดยตระกูลคะนะซะวะมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 17 จนถึงยุคปฏิรูปเมจิ
เมื่อปี 1868 ก็ถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารบะฟุคุมาโดยตลอด ในขณะที่ Gokayama อยู่ในมือของตระกูลคะนะซะวะไม่เปลี่ยนแปลง
[3 ส.ค. 54 13:09:29
]
หมู่บ้านชาวนาแห่งนี้ด้วยภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศแล้วไม่ได้อำนวยต่อการปลูกข้าวไปซะทุกแห่ง ดังนั้นชาวบ้านจึงได้คิดค้น
และทดแทนด้วยการปลูกพืชผลชนิดอื่นแทน ไม่ว่าจะเป็น buckwheat และ ข้าวฟ่าง (millet) นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์
และเป็นที่ต้องการของตลาดมากในสมัยนั้นคือ กระดาษ ที่ทำจากเส้นใยของต้น Mulberry และก็ได้ลดบทบาทลงในช่วงศตวรรษที่ 19
เพราะอิทธิพลจากฝั่งยุโรปเข้ามาแทนที่ในยุคนั้น ส่วนอุตสาหกรรมจำพวกผ้าไหมยังคงอยู่มานานจนถึงช่วงประมาณปี 1970
ไม่ว่าจะเป็นตัวไหม (silkworm) หรือใบจากต้นมัลเบอร์รี่ล้วนแต่ต้องการความดูแลเป็นพิเศษ ต้องเก็บให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
และด้วยเหตุนี้เองที่เป็นปัจจัยหลักในการสร้างบ้านสไตล์ Gasshō ของหมู่บ้านที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นมาจนถึงทุกวันนี้
[3 ส.ค. 54 13:13:43
]
Gasshō-Zukuri 合掌造り หรือ Gasshō-styled House
คำว่า กัชโช่ แปลว่า การเอาฝ่ามือมาชนกัน หรือคล้ายๆกับการประนมมือแล้วแบะออก
คนญี่ปุ่นนี่เวลาจะสร้างอะไรก็ต้องมีที่มาที่ไปซะหมด น่าทึ่งก็ตรงนี้แหละน้า ถ้าไม่อ่านมาก่อนก็คงไม่รู้ว่าหลังคานี้แปลงมาจากการประนมมือ
[3 ส.ค. 54 13:14:54
]
ลักษณะที่สามารถบ่งบอกได้ดีที่สุดว่าเป็นสไตล์กัชโช่ก็คงไม่พ้นหลังคาที่ทั้งใหญ่ ยาว และ หนา ทำขึ้นจากฟาง
ทั้งนี้ที่ต้องสร้างให้มีขนาดใหญ่โตเป็นพิเศษนั้นก็เพื่อป้องกันแรงกดทับจากหิมะนั่นเอง เพราะอาจจะต้องแบกรับนน.หิมะมากถึง 500 KG
[3 ส.ค. 54 13:15:21
]
เพราะที่เมืองนี้ยามหิมะตกนั้น ตกแบบไม่ยั้งจนเมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้กองหิมะ อย่างที่ได้เห็นกันในรูป
ชาวบ้านไม่ได้สนุกเพลินกับหิมะอย่างพวกเรานักท่องเที่ยวนะครับ เพราะนอกจากอากาศที่หนาวถึงขั้นทรมานแล้ว
ถ้าสร้างบ้านไม่ดีพอพืชผลที่เก็บรักษาเอาไว้อาจจะพลอยได้รับผลกระทบเกิดความเสียหายอีกด้วย เผลอๆบ้านอาจจะถล่มได้
เอาล่ะ เล่าประวัติความเป็นมากันพอสมควรแล้ว พร้อมจะเดินเที่ยวกันรึยังครับ
[3 ส.ค. 54 13:15:50
]
ถึงแม้วันที่เรามาถึงจะไม่มีหิมะตก แต่ก็มีหิมะปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้าน เพราะเพิ่งตกหนักไปเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้าที่จะมาถึงเอง
เรื่องอากาศหนาวคงไม่ต้องพูดถึง หนาวๆยังงี้ละของชอบ แต่ถึงยังไงก็ต้องแต่องค์ทรงเครื่องให้เข้ากะสถานที่ซะหน่อย
[3 ส.ค. 54 13:16:14
]
คุณไกด์สาวใจดีให้พวกเราลงตรงจุดจอดรถบัส แจกแผนที่ และนัดแนะเวลากันเสร็จสรรพ
แถมวันนี้ใจดีเป็นพิเศษ ให้เราเดินเล่นกันถึง 2 ช.ม. เต็ม เดินลงมาก็เจอร้านของฝากเรียงรายมากมาย
[3 ส.ค. 54 13:16:40
]
แอบแวบออกนอกเส้นทางเล็กน้อย เลยได้ภาพมุมสวยๆกลับมาฝากกัน
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:17:09
]
แอบแวบออกนอกเส้นทางเล็กน้อย เลยได้ภาพมุมสวยๆกลับมาฝากกัน
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:17:36
]
มีป้ายหินคล้ายๆอนุสรณ์อะไรสักอย่าง พยายามอ่านแล้วแต่ตัวหนังสือเลือนลางมาก
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:18:45
]
ไม่ว่าจะบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ก็ขอให้เป็นสไตล์กัชโช่เอาไว้ก่อน
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:20:06
]
หิมะท่วมสูงมาก นี่ขนาดหยุดตกไปหลายวันแล้วนะเนี่ย ถ้ามาตอนวันหิมะตกคงเดินเที่ยวลำบากพอดู
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:21:04
]
ประติมากรรมเล็กๆน้อยๆ ช่วยให้ดูมีสีสันน่ารัก
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:21:37
]
จริงๆไม่ต้องกางแผนที่ก็เดินเที่ยวได้ หมู่บ้านไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป สามารถเดินลัดเลาะตามใจได้สะดวก
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:21:54
]
อ้อ หมู่บ้านแห่งนี้ถ้าวัดประชากรชาวบ้านกันจิงๆ อาศัยกันอยู่แค่พันกว่าคนเองนะครับ
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:22:14
]
หมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า Ogimachi 荻町 เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด ต้องเดินข้ามสะพานไปก่อน
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:22:31
]
แวะถ่ายรูปข้างทางกันหน่อย ชาวบ้านที่นี่ช่วยกันตกแต่งซะน่ารักเชียว
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:22:56
]
เรามีนายแบบมาด้วย แก้มแดงยังกะลูกพีช วิ่งเล่นบนกองหิมะใหญ่เลย แถมยิ้มให้กล้องอีกแน่ะ
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:23:32
]
นี่ละครับสะพานที่บอก ชื่อว่า Deai-Bashi であい橋 (อ่านว่า เดะอะอิบะชิ)
ข้ามแม่น้ำสายใหญ่ของหมู่บ้าน แม่น้ำโช หรือ Shogawa 庄川 นั่นเอง
[3 ส.ค. 54 13:23:54
]
มองลงไปด้านล่างก็จะพบกับหมู่บ้าน Ogimachi
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:24:28
]
แผนที่คร่าวๆ จาก Japan-Guide
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:24:41
]
บ้านโดยส่วนใหญ่ก็ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ร้านขายของฝากท้องถิ่นต่างๆ
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:25:08
]
ใครจะฝากท้องไว้ที่นี่ก็ดีนะครับ มีร้านน่าทานเยอะ
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:26:06
]
กลางวันนี้ยังไม่หิวมาก แถมกลัวเสียเวลาเดินเที่ยว เลยขอแบบง่ายๆ ชมวิวไปเดินชิมไปละกัน
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:26:40
]
ทางเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ Gasshō-Zukuri Minka-en 合掌造くり民家園
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:26:56
]
เป็น Open-Air Museum ค่าเข้าชม 500 เยน เปิดตั้งแต่ 9 โมงเช้า - 4 โมงเย็น (ช่วงฤดูหนาว)
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:27:54
]
ว่ากันว่าเวลาหิมะตกหนักๆ หิมะจะก่อตัวสูงถึง 1.8 เมตร เลยท่วมหัวกันพอดี
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:28:11
]
ถนนหนทางตัดไว้อย่างดี ให้รถราเข้าถึงง่ายมากขึ้น ต้องขอขอบคุณทางการของญี่ปุ่นที่อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ
จะเห็นว่าชาวบ้านถึงแมจะคงสไตล์บ้านแบบเดิมไว้ แต่รถยนต์เข้าถึงกันแทบทุกบ้าน รุ่นใหม่ๆทั้งนั้น
[3 ส.ค. 54 13:29:44
]
เดินอ้อมไปเที่ยวหมู่บ้านอีกด้านหนึ่ง มีรูปปั้น Thinker ด้วย ท่าทางจะหนาวนะ ตัวหดเชียว
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:30:08
]
เห็นด้วยมั้ยครับว่าที่นี่คือ หมู่บ้านที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:30:31
]
ส่วนถาพข้างๆคือ หอระฆัง ตอนนั้นด้านในปิดปรับปรุงอยู่ น่าเสียดาย
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:30:46
]
ถ้าเอาผ้าใบที่คลุมสำหรับปิดปรับปรุงออก ก็จะพบว่าสวยงามอย่างที่เห็นในภาพ
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:31:53
]
จุดชมวิวย่อมๆ หากใครไม่มีเวลามากพอเดินไปถึง Shiroyama Viewpoint (ขอบอกว่าลื่นมากกกก )
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:32:08
]
เดินเล่นเตร็ดเตร่ลืมดูนาฬิกา ก็พบว่าเวลา 2 ช.ม.นั้นผ่านไปไวอย่างกับโกหก
ยอมรับว่ายังเดินไม่คุ้มเลย ยังมีที่ๆอยากไปอีกเยอะ ยังไม่อยากกลับ แต่ก็ไม่กลับไม่ได้ ไม่งั้นก็โดนทิ้ง ฮือๆ
คงจะต้องหาโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้ง คราวหน้าขอเป็นช่วงดอกไม้บานละกัน ท่าทางจะสวยน่าดู
[3 ส.ค. 54 13:32:38
]
แวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านเล็กน้อย
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:33:17
]
ซื้อบ้านกัชโช่จำลองไปฝากคนที่บ้านก็น่ารักดีนะครับ
จากคุณ : Bird Freedom
[3 ส.ค. 54 13:34:09
]
ปาดดดด ครับ
ขอไปด้วยคน เอิ๊กๆ
[3 ส.ค. 54 13:34:58
]
ขากลับคุณไกด์พาแวะจุดแวะพัก เลยแก้หิวด้วยราเมงชามโต
หลังจากนั้นก็นั่งรถยิงยาวเข้าสู่โตเกียว กว่าจะถึงบ้านก็เกือบๆ 3 ทุ่มแล้ว เป็นทริปสองวันที่เที่ยวคุ้มค่าสุดๆ
อ่านตอนที่ผ่านๆมาใน Blog ได้เลยนะครับ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=birdfreedom&month=31-07-2011&group=1&gblog=24
ตอนหน้ายังคงพาไปเที่ยวญี่ปุ่นกันต่อ อย่าเพิ่งเบื่อกันซะก่อน ไหนๆก็มาแนวมรดกโลกกันแล้ว
ตอนหน้าขอนำเสนอ Nikkō เมืองเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,200 ปี
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้ากับ นกน้อยพาเที่ยว
[3 ส.ค. 54 13:36:04
]
เป็นอีกที่ในฝันเลยครับ
บ้านหลังคาสามเหลี่ยม มีหิมะปกคลุมแบบนี้เลย
งั้นขอตามไปเที่ยวกับรีวิวนี้แล้วกันนะครับ
[3 ส.ค. 54 13:41:56
]
..
สมเป็นมรดกโลกครับ สวยและมีเอกลักษณ์น่าประทับใจ
..
[3 ส.ค. 54 14:06:52
]
สวยมากค่ะ ตอนที่ไปเนี่ยไปเดือนไหนคะ เห็นยังมีหิมะอยู่เลย
แล้วก็ช่วงดอกไม้บานประมาณเดือนไหนค่ะ อยากไปบ้าง
[3 ส.ค. 54 14:15:04
]
ขอไปด้วยอีกครั้งนะครับ ผมพึ่งไปมาเมื่อธันวาปีที่แล้วอ่ะครับ...
จากคุณ : ลอยล่องคนเดียว
[3 ส.ค. 54 14:18:55
]
อยากไปเมืองนี้ มีเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นสุดๆ เรียบง่าย น่ารัก
จากคุณ : เที่ยวละไม
[3 ส.ค. 54 14:35:42
]
สวยมากครับ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[3 ส.ค. 54 15:08:07
]
หิมะเยอะมาก ขอบคุณสำหรับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุกๆด้วยค่ะ
จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด
[3 ส.ค. 54 15:31:11
]
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
ทั้งคุณ Moonlight Sentinel, cold river, POGGHI, นู๋เป็นแมวน้อยมาจากญี่ปุ่น, ลอยล่องคนเดียว, เที่ยวละไม, เล็กทาโร่, ก่วยก๊วยตาลสด
[3 ส.ค. 54 15:41:32
]
ตอบคุณ นู๋เป็นแมวน้อยมาจากญี่ปุ่น ตอนที่ผมไป ไปตอนปลายเดือน 2 ครับ หิมะเลยเริ่มบางตาแล้ว ถ้าไปช่วงปลายธันวาจนถึงต้นกุมภา ก็จะเจอหิมะตกหนักๆสมใจ
แต่ถ้าอยากไปหน้าดอกบ๊วยดอกซากุระบาน ไปประมาณช่วงต้นเดือนมีนายาวไปจนปลายเมษานะครับ
หลังจากนั้นเข้าช่วงหน้าร้อน ปลายพฤษภาถึงสิงหา ก็จะมีดอกไม้สีสันสวยๆมากมายบานอีก
แล้วก้อเข้าสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ตั้งแต่ กันยา-พฤศจิกา เรียกได้ว่าเที่ยวได้ทั้งปีเลยละครับ
[3 ส.ค. 54 15:42:43
]
ชอบที่นี้มากเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่เคยไปช่วงหิมะหนาๆแบบนี้ อยากไปอีกจัง
จากคุณ : ohhioh
[3 ส.ค. 54 15:49:41
]
ความเห็น ที่ 16 หมู่บ้านเล็ก ๆๆ แต่ก้ทำให้กะเรี่ยง 3 คน หลงได้นะค่ะ
จากคุณ : nongpoompui
[3 ส.ค. 54 16:12:04
]
ความคิดเห็นที่ 50 คุณ ohhioh
หน้าหนาวสวยมากครับ ผมเองยังอยากจะกลับไปอีก แต่คราวหน้าขอไปหน้าอื่นบ้าง
ความคิดเห็นที่ 51 คุณ nongpoompui
หลงทางในที่สวยๆขนาดนี้ คงต้องบอกว่า "ยอม" หลงครับ 555+
[3 ส.ค. 54 16:17:35
]
อยากไปเห็นกับตาเหมือน ภาพคห.ที่ 6 น่ะค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวคือความสวยงามอัศจรรย์ใจ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่มีหิมะ แต่ชาวบ้านที่นั่นคงลำบากในการดำรงชีวิตน่าดูนะคะ ถึงจะชินแล้วแต่เขาก็คงไม่สนุกเท่าไหร่เนอะ ภาพสวยมากค่ะ ถ้าไปเองจะลำบากมั้ยคะกับการเดินทาง
จากคุณ : นางฟ้าขาเก(เร) [3 ส.ค. 54 17:19:39 ]A:223.205.12.218 X: TicketID:318293@ เห็นรูปแล้วหนาวแทนเลยครับ .. ที่นี่ไปหน้าไหนก็สวยทุกครั้งนะครับ
จากคุณ : MRBIG173
[3 ส.ค. 54 17:25:13
]
ขอบคุณที่นำเที่ยวด้วยภาพ อยากไปบ้างจัง
จากคุณ : พนอจัน
[3 ส.ค. 54 18:16:41
]
เห็นแล้วอยากไปเยือนบ้างจังครับมีหิมะปกคลุมด้วย
ของที่ระลึกบ้านจำลองน่ารักจังครับอยากได้สักชิ้น
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
[3 ส.ค. 54 18:40:20
]
เป็นเมืองที่อยากไปมาก ขอบคุณสำหรับรีวิวสวย ๆ ครับ
จากคุณ : tiger's nest
[3 ส.ค. 54 18:46:29
]
สวยมากๆ ทุกฤดูเลยค่ะ ชอบหมู่บ้านนี้สุดๆ
จากคุณ : Bpearl
[3 ส.ค. 54 20:48:40
]
อยากไปเหมือนกันค่ะ สวยจริงๆเหมือนบ้านตุ็กตา
จากคุณ : saranrat
[3 ส.ค. 54 21:05:00
]
เกือบจะได้เมื่อต้นปีนี้ ตั้งใจจะไปชมแบบมีหิมะคลุม แต่ก็พลาดไป พอต้นปีหน้าว่าจะไปอีก เพื่อนมาบอกว่าไม่ไปแล้วหลังจากเกิดเหตุ Tsunami ฮือๆๆ อยากไปมากๆเลยครับ ชีวิตนี้ต้องไปเห็นให้ได้สักครั้ง
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ ..
[3 ส.ค. 54 21:33:05
]
อยากกลับไปช่วงที่มีหิมะตกคลุมหลังคาบ้านสักครั้ง.. ขอบคุณที่นำมาฝากกันนะคะ ^^
จากคุณ : Blue Whale
[3 ส.ค. 54 21:50:38
]
ขอบคุณนะคะที่พาเที่ยว
จากคุณ : สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี
[3 ส.ค. 54 22:39:17
]
ไปเที่ยวด้วยญี่ปุ่นด้วยคนครับ
จากคุณ : noiwanwannoi
[4 ส.ค. 54 08:52:22
]
ชมหมู่บ้านชิราคาวะสวยๆแล้วชื่นใจ ได้รายละเอียดครบถ้วนดีจัง ^^
จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~*
[4 ส.ค. 54 08:57:16
]
ขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ
จากคุณ : Us-Sama Iland
[4 ส.ค. 54 08:59:11
]
ดีใจที่ทุกคนชอบกัน ขอบคุณมากนะครับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิกที่นี่ต้อนรับกันอย่างอบอุ่นมาก ชอบที่นี่จัง
ขอบคุณทุกคนเลยนะครับ ทั้งคุณ นางฟ้าขาเก(เร), MRBIG173, พนอจัน, Destiny-Boy, tiger's nest, Bpearl, saranrat, Coffee Blended, Blue Whale, สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี, noiwanwannoi, ลอร่า อิงกัลส์, และ Us-Sama Iland
[4 ส.ค. 54 10:56:55
]
เกร็ดความรู้ต่างๆน่าสนใจจังค่ะ
เราอยู่ญี่ปุ่นมาจะห้าปียังไม่เคยไปหมู่บ้านนี้เลย >.<
(แต่น้องๆที่มหาลัยไปมากันคนละมากกว่าสองครั้งค่ะ ;-)
[4 ส.ค. 54 12:50:17
]
รูปใน คห 6 ถูกใจลุงมากครับ
อยากได้บ้านจำลองจังน่ารักน่าชัง
ขอบคุณที่พาไปชมมรดกโลกครับ
[4 ส.ค. 54 14:41:27
]
หมู่บ้านนี้ฤดูไหนก็สวยจริงค่ะ
แต่อยากไปหน้าหนาวบ้างจัง
[4 ส.ค. 54 17:58:35
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะคะ
จากคุณ : สาวหน้าใส
[4 ส.ค. 54 22:21:59
]
ขอบคุณมากค่ะที่พาเที่ยว สวยมากเลย
จากคุณ : maychaegyeong
[8 ส.ค. 54 15:47:05
]