สวัสดีครับ สมาชิก Blue Planet....

วันนี้ขอมารีวิว กับทริป Backpacker ที่ไปเที่ยวมา 28 - 31 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมาครับ

ก็เนื่องจาก จองตั๋วโปรฯ คุณ Air Asia เอาไว้เมื่อปีก่อน ช่วงโปรฯ อะไร แฮะ แฮะ จำมะได้แย้วว อะ

แล้วด้วยความคันมือ ดั้นไปจองโปรฯ บินในประเทศ มาเลฯ ของ Air Asia เค้าเอาไว้อีก

มันจึงทำให้ มีเรื่องราว ที่ได้บันทึกเอาไว้ในหัวใจ ดั่งที่จะพาไปชม และ ร่วมกรี๊ด กรี๊ด กับเอ็มมี่

ลองมาดูกันซิ 4 วัน 3 คืน ในต่างแดน (ไม่ไกล) กับเงิน ที่แลกไป แค่ 3,000 บาท  ไปกันเลยจ้า

หมายเหตุ 1. กระทู้นี้ อยู่ในหมวดเสียเงินเอง
หมาย เหตุ 2. ใจจริงอยากเอากระทู้ไว้ในหมวด Backpacker อ่ะ แต่ก็รู้มาว่าถ้าเอาไว้ที่หมวด บันทึกนักเดินทาง แล้วกระทู้จะไม่ลางเลือนหายไป

แปะ รายละเอียด การเดินทาง ที่จองเอาไว้ ให้ดูกัน ก่อน.....กรี๊ดดด   55

วันพฤหัส ที่ 28 กค. 54 Bangkok - Kuala Lumpur - Johor Bahru

วันศุกร์ ที่ 29 Johor Bahru - Kuala Lumpur

วันอาทิตย์ ที่ 31 Kuala Lumpur - Bangkok

ถ้า รูปใหญ่ จัมโบ้ ไปหน่อย ต้องขออภัยนะคร๊าบบ

****************************************************

ตั๋วเครื่องบิน เรียบร้อย ไกล้ถึง วันเดินทางแล้วสิ ทีนี้ล่ะ ทั้งข้อมูล ทั้งรีวิว อดหลับอดนอน นั่งอ่านนั่งศึกษากันเลย ทีเดียว

ส่วนหนึ่งข้อมูลที่มีประโยชน์ ทำให้นำพาไปได้ ก็ ต้องกล่าวขอบคุณ มากมากเลยครับ ไล่ดูแทบทุกกระทู้

เช่นของ ป้าแหม่ม คุณดีบุก และอีกหลายรีวิว หลายท่านจริง ๆ แบบอ่านกันไม่หวัดไม่ไหว  ใช้ Smart Search นี่สะดวกดีครับ แต่บางครั้ง ต้องพลิกแพลง ตะแคง ตั้ง เพื่อให้ได้ มาหลาย ๆ ข้อมูล

และเมื่อ ดูรีวิวบ้าง จดบ้าง บันทึกบ้าง ก็ถึงคราวต้อง ไปเซาะหา ข้อมูล ติดตัวไปอีก แน่นอนครับ สำนักงานการท่องเที่ยว มาเลเชีย ถ.สีลม

ได้มาเยอะ จริงจริง ดั่งคำล่ำลือ

ท่าจะสนุก  ตามไปเที่ยวด้วยครับ

ข้อมูลพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม... อ่อพูดถึงเรื่อง ใจ

ต้องขอกล่าวขอบคุณ พี่ คาการิ ที่ได้มาแนะนำ จากที่เอ็ม โพสถามเอาไว้ กระทู้นี้ครับ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10835220/E10835220.html

ถึงจะมีคนมาตอบน้อย แต่เราก็เฝ้ารอ คำแนะนำ จากใครก็ได้ และพี่เค้าก็มีคำแนะนำมาให้ "กำลังใจ" เริ่มมี

อีกคนที่ ให้คำแนะนำ คุณ hermione_jane ต้องขอขอบคุณมาก ๆ ครับ

***************************************************
อ่ะ เมื่อตั้งมั่นว่าจะไป แล้ว ทีนี้ต้องหาที่พัก แล้วล่ะ เนื่องจาก เพิ่งกลับมาจากทริป มิงกะลาบา พม่า กับ เดอะแก๊งค์ เมื่อต้นเดือน ซึ่งก็ใช้เงินไป หลายพันบาท อยู่เหมือนกัน

ครั้นเราจะไป ครั้งนี้ เราไปนอนแพง ๆ คง"ไม่ไหวแน่"  คืนวันอาทิตย์ ที่ 24 เริ่มหาจองที่พัก ล่ะ

แน่นอนที่ สุด สำหรับเรา Hostel , Guest house , อะไรที่มันถูกๆ ณ. ตอนนั้นมันช่างเหมาะสมกับเรามาก อิอิ

กล่าวไว้เลย ที่หลับที่นอน ใน ทริปนี้ 3 คืน

1 คืนที่ โจโฮ บาร์รู , 1 คืนที่ กัวลาลัมเปอร์ , 1 คืนที่ มะละกา   รวมแล้ว 600 บาท หน่อย ๆ เอง เรา แฮปปี้ มาก

สำหรับ เกสเฮ้าส์ คืนแรก ที่ โจโฮ บาร์รู ( Johor Bahru @ Jomi Homestay )

ที่นี่ ราคา 15. RM. เป็นเงินไทย ก็ ง่าย ๆ คูณไปก่อน 10 ก็คือ 150 บาท เอง (ก็แค่เอาไว้นอน นะ)

พอดีจองกับเวปนี้เค้า มีคิด ค่า Booking Fee อีกประมาณ 2 USD. ก็ กล่อมแกล้ม 200 บาทล่ะ ประมาณนี้

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
คุณเอมมี่ ใช่ปะคะ

สวัสดีครับ พี่ เล็กทาโร่  ต้องลอง ตามๆ เรื่องราวไปคร๊าบบ ถ้ามีเวลานะ เอ็มขอค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ เล่า  

**************************************************

แหม๋ ข้าม ช๊อตไปได้ ไง ย้อนกลับไป ณ การเดินทาง ก่อนแล้วกัน เนอะ 55 นานๆ รีวิวที เอ๋อ ๆ เชียว

ปาดครับ ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

แฮะ ๆ ไม่อยากจาโชว์ รูปนี้ เลยย

เงินก็ แลกไปอย่างที่เห็นล่ะ จ๊ะ  

200 MR. (ริงกิต) กับ อีก  30 SGD. (สิงค์โปร ดอลล่า)

สิริรวม ก็ 2901 บาท ไทย แหม๋ นี่ แลกไป เหลือ ๆ เกินกว่า แผนงบประมาณที่ตั้งไว้อีก นะเนี่ย

ส่วน งบประมาณที่ตั้งไว้ เดี๋ยวจะได้เห็นกัน มัน จะ แร้นแค้น ขนาดไหน 555

ปล. เรื่อง กรี๊ด ยังคงไม่เกิดนะจ๊ะ

สวัสดีครับ พี่ kumyotha

สวัสดีครับ พี่ ม่วงมหากาฬ

มาดึกหน่อยนะครับ สำหรับรีวิวนี้ ค่อยๆ นึก เรียบเรียบเรื่องราวอยู่ครับ

*************************************************

Exchange Rate เก๋ เก๋ แลกกันที่สนามบิน นั่นละจ้าา เงิน ขี้ปะติ๋วแค่นี้ 555 ไม่กล้าโทรเรียก ร้านชัยสมบูรณ์ ที่บริษัทฯ เรียกมาแลกเงินประจำ 55

อ่อ ตอนที่แลกเงิน ก็ เริ่มเข้าโหมด ฮา หน่อย ๆ และ เมื่อ จนท.สาว เอ่ยปากถามว่า " ไปกี่วันค่ะ"

เราตอบไปอย่างภาคภูมิใจ ว่า 4 วัน จ๊ะพี่  

" จนท. สาว เหลือกตา (หน้าผากย่น) นาง ช๊อก!! เล็กเล็ก อิอิ "

มารอกรี๊ดฮะ

เอาละ เห็น เงิน เห็น งบประมาณกันแล้ว หลายคนอาจยิ้ม ๆ หลายคน อาจขมวดคิ้ว 555 เอะยังไง

มาดู งบประมาณที่ เอ็มลอง แพลน ไว้แต่ละวัน มันเป็นเหมือน แผนการเดินทาง กลายๆ เลยล่ะ

เริ่มที่ แพลน "วันที่ 1"  (ไม่เข้าใจ ตรงไหน ถาม นะ อิอิ )

ปล. T ย่อมาจาก ใช้ไปจริง
     N ย่อมาจาก เหอะไม่ได้ใช้ ,ไม่ทันได้ใช้ ,ไม่มีโอกาส ได้ใช้
     E ย่อมาจาก เอ็กตร้า หรือ มันมาจากไหน ฉันไม่ได้แพลนไว้

หวัดดีคับ พี่ ออร์-ฟิ-อุส_orpheus  กรี๊ดได้อย่างเดียวนะ ห้าม ทึ้งหัว ให้เป็นหน้าที่ของเอ็ม เอง อิอิ

***************************************************

วันที่ " 2 "

แพลน วันที่ " 3 "

แพลน วันที่ " 4 "

และ สรุป ค่าใช้จ่าย 55 แอบมี เฉลย ๆ เรื่อง ช๊อก

เอาไว้บ้างล่ะ

แอบรูดบัตรหรือเปล่าคะ ใช่เงินเท่านี้จริงเหรอ

ตามมาเที่ยวมาเลย์กับสิงคโปร์ด้วยค่ะ
เมื่อคืนได้รับอาหารฟรีจากหางแดงหรือเปล่าคะ

ไปเริ่ม เที่ยวกันดีกว่า ตอนแรก หัวสมอง มันสั่งการไม่ทันว่า ระหว่างรอเครื่อง ที่ LCCT เนี่ย ร่วม ๆ 5 ชั่วโมง เราจะทำอะไร หรือ ไปไหนดี

แต่เมื่อ อ่านรีวิวไป ไป มา มา ก็ บรรเจิด ล่ะ เฮ้ยย เราไป เที่ยว ปุตราจายา (Putrajaya)  ได้นิหน่าา

จาไปชม มัสยิส สีชมพู อิอิ

ตามลายแทง ที่มีพี่พี่เค้ารีวิว ไว้มันไปได้ ไม่ยากนิน่า จัดไป พร้อม แอดเข้าไว้ใน สาระบบ งบประมาณ

อ่อ Backpacker คนนี้มัน "บ้าา" มันหอบ เอา โน๊ตบุ๊ค ติดตัว ไปด้วย ไม่ใช่รุ่น สลิม อะไร บาง ๆ เลยย Compaq CQ45 น้ำหนัก สิริรวมของมัน บวก อแดปเตอร์ และ รางปลั๊กไฟ ขนาดใหญ่ แบบว่า สายไฟ 10 เมตร 5 รูปลั๊กงี้

คงร่วม ๆ 3 กิโล แล้วม๊าง 55 จัดเข้ากระเป๋าแบกมันไป

และ อนึ่ง ด้วยที่ดูดูรีวิว มา ไม่แน่ใจ ของคุณป้าแหม่ม หรือเปล่า บอกเอาไว้ว่า ที่ฝากกระเป๋า ณ. สนามบิน LCCT มัน 50 RM. เอะหรือ 20 RM. นี่แหละ พร้อมภาพ กอง ๆ สุมสุมอ่ะ 555 บอกอำลา ไว้ ณ.ในรีวิวเลย "ฉันจาแบกติดตัวไปเอง"


อีกนิดดดด เนื่องจากกระชั้นชิด ที่จะเดินทาง จึงไม่ได้ โพส ยืม ซิม Tune ใครไปเลย ก็ กะไปซื้อเอานะ บนเครื่อง 5 RM. นิหน่า

แต่ก็ อ่านแว่ว ๆ มาว่า มีขายเฉพาะ เที่ยวบิน AK. Flight เท่านั้น หุหุ ขาไป เราไปกะ FD. นิ แต่ก็ยังคัน แหม๋ ใน แคตตาล๊อก มีบอกไว้นิน่า ว่า มีขายบนเที่ยวบิน FD. กับ AK.

จัดการถาม คุณแอร์สาวไปว่า "พี่มี ซิมการ์ดขาย มั้ยครับ" นางฟ้า เธอ ก็ตอบกลับมาว่า " Today We don't have " 555 ขำตัวเอง ฉานนเมือน คน มาเลฯ แล้ว ชิป่ะ อิอิ

พอบอกพี่ ครับ ผมคนไทย พี่นางฟ้า เค้าก็มาอธิบายว่า ซื้อได้ที่ สนามบิน นะ หน้า ร้าน แม็คโดนัล ประมาณนี้ ก็โอเคไม่ซี

ชักยืดยาว ไปเที่ยวกันเหอะ ไปเที่ยว ปุตราจายา โดย KILA Trnasit ( รถทัวร์ + รถไฟ ) จัดไป 5.5 RM.

ว้าววววววววววววววววว

ตามมากรี๊ดดค่าา


ไปด้วย ๆๆๆ

สวัสดีครับ พี่ kumyotha  ด้วยความสัตย์จริงจ๊าา ให้เกียรติตัวเอง มิโกหก หาก โกหก ขอให้ จู๊ดจู๊

สวัสดีคับ พี่ Memories pink ทันได้รับอานิสสง ด้วยจ๊า

*************************************************

พอได้ตั๋วมาจะเดินไปขึ้นรถ 555 ก็ว่าอ่านมาแล้วนะ รถจอดที่ ฝั่งตรงข้ามด้านหน้า ทางแม็คโดนัล นั่นแหละ

แต่ เอ้อละเหย ฉุยฉาย เดินไปยันนู้นนน ฟู๊ดคอร์ด ด้านที่ เลยจุดรถ Sky Bus จอดไปอีก ( จะเดินไปทำไม ) อากาศ วันนั้น ก็ร้อนมาก

ขึ้นรถมาล่ะ ตากแอร์รอ เย็น ๆๆ เหมือนรถจะออกทุก 30 นาที หรือเปล่านะ

แอบส่งลงไป พี่ผู้หญิง เสื้อดำ คอยเก็บตั๋วและ ก็ซื้อ ตั๋วตรงนี้ก็ได้นะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ

สวัสดีจ้า P r i m t a a เดี๋ยวเอ็ม แจก ฮอลให้อม อิอิ

************************************************

ถึง แล้ว สถานี Sslak Tinggi อิอิ ตามน้องหนุ่มคนนี้ ไป

ค่อย ๆ ตามมาครับ พี่ inint&anant  เดี๋ยวคุณนายเล็ก จาตื่น อิอิ

************************************************

และแล้ว ก็มาถึง ง่าย เร็ว สะดวก สนุก อิอิ ทั้งรถทัวร์ ทั้งรถไฟ

สถานี Putrajaya Sentral ปุตราจายา เซ็นทรัล

อิอิ

ขอนำข้อมูล จากที่เอ็มดูรีวิวในนี้แหละ พี่เค้าได้ให้ข้อมูลเอาไว้ ด้วย

ขออนุญาต นำข้อมูล ของพี่เค้าที่เป็นประโยชน์ มาแปะ ไว้อีกที เพราะเอ็มก็ ก๊อป ไปปริ้นท์ เป็นข้อมูลสำหรับการเดินทางครับ

"รถชัตเตอร์บัสของ KLIA TRANSIT ออกจาก LCCT ทุกครึ่ง ช.ม. รอบ XX:25 และ XX:55
นั่งจาก LCCT ไปสถานี Salak Tinggi ใช้เวลา 20 นาที แล้วไปรอต่อรถไฟฟ้า
ขากลับ รถไฟฟ้าออกจากสถานีปุตราจายา ทุกครึ่ง ช.ม. รอบ XX:50 และ XX:20

เตือน : ตั๋ว KLIA Transit พ่วงชัตเตอร์บัส ที่สถานีปุตราจายา ขายถึง 4 ทุ่มเท่านั้น
รถบัสจะมาส่งที่สถานี Salak Tinggi ก่อนเวลารถไฟฟ้า KLIA TRANSIT รอบถัดไป ประมาณ 13 นาที "

รถสายนี้แหละ ที่ได้ข้อมูลมาว่า วิ่ง อ้อมน้อยสุด

สาย 300

ค่ารถ เมล์ ในเมือง ปุตราจายา แค่ 0.5 RM. เองครับ

อ่อ ไม่ทอนนะจ๊ะ เพราะฉนั้น ก็ เอา เศษ จากที่ซื้อตั๋วรถ KLIA 5.5 RM. นั่นแหละมาใช้ อิอิ

อ่อ ถือโอกาส ขอแลกเหรียญกับพี่คนขายตั๋วเค้าไปด้วย เค้าใจดี คน มาเลฯ ใจดีนะ

เอาละซิ จากข้อมูล ในกระทู้ พี่เค้า บอกว่า นั่งไป ให้สังเกตุ  ว่า ถ้าเห็น กำแพง ตรงแยก ที่มี ตัวอักษร Putrajaya ก็ให้เตรียม ตัวลงได้เลย

พอเอ็มเห็น ปุ๊ป อ่าา นี่แหละ ๆ ตามรูปเลย ก็ กด กริ่ง ลงรถ (ตอนนั้น ยังปากแข็ง 55 ไม่ถามไถ่ใครให้แน่อน)

พอกดกริ่ง รถจอด ลงจากรถ ป๊าปปป ตามข้อมูล พี่เค้าบอกว่า ลงรถแล้วรถจะส่ง แถว ๆ อาราคของ นายก ฯ ที่ เป็น ตุ้มเขียว นี่แหละ

แต่ กรี๊ดดดดดดด ที่ 1 ฉันลง มาตรงไหนเนี่ยยย

555 สมอง ประมวลผล มัน ต้องไม่ใช่อย่างที่ พี่เค้าลงแน่เลย

จุดที่ลง ลงมา ก็เจอ แบบนี้แหละ 555 มัน Kompleks EDCBA มันตรงไหน ฟะเนี่ยย

อ่อ ลืมบอกไป ระหว่างทาง แหม๋ ผ่านเหมือน เป็นโรงเรียน หรือ ที่เรียน พิเศษ ก็ไม่ทราบนะ

เป็นภาพ เด็ก ๆ ที่ประทับใจ เค้าเล่น กัน สนุกเชียว

ก่อน ลงรถ ก็ เห็นล่ะ มัสยิส สีชมพู โอ้ว สวยงามจริง ๆ

ปล.แอบ เล่าย้อน อีกล่ะ

เมื่อ ลงรถ ผิด หรือ ถูก ไม่รู้ ก็ เดิน สิจ๊ะ  เดิน เดิน เดิน แล้วก็ เดิน

บนถนน มีแต่รถวิ่ง  

ทางที่เราเดิน ไม่มีใคร มีเราเดินคนเดียว

จากด้านอาคาร ก็มี แต่ รถเก๋ง ขับออกมา เข้าใจว่า เป็นเวลา เลิกงาน

ระหว่างทาง ก็เลย กดภาพ ไปเล่น ๆ ไม่คิดอะไร เดี๋ยวมันก็ต้องเจอ สิน่า เมื่อกี้ยังเห็น อยู่เลย

ไปด้วยครับ เป็นประเทศที่ผมเคยมองข้ามไป
แต่จะหาโอกาสไปให้ได้....

นั่นนั่น ๆ เห็น อาคาร ตุ้มเขียวแล้ว อยู่ตรงนั้นเอง

ที่จริง อาคารนี้เค้ามีชื่อของเค้านะ ชื่อ Perdana Putra เป็นที่พัก และที่ทำงาน ของ นายกรัฐมนตรี นะ น่าจะอย่างนั้น

แต่เราขอเรียก ตึกตุ้มเขียวละกัน เพราะเราอยากเดินไปถึง นั่นแล้ว ก่อนที่จะเห็นนี่ เดินมาแล้ว เกือบ 10 นาทีนะ อิอิ

ไม่ได้ ไม่ได้ เห็นอยู่ไกล ไกลนู้นนนนน ถ่ายรูปไว้ก่อน เดี๋ยวหายไปไหนอีก

ตามไปด้วยครับ  คุณเอ็ม หรือ เอ็มมี่  ดีล่ะ ^^

สวัสดีครับ พี่ หนุ่มอุบล คนวาริน เหมือนเอ็มเลยครับ เห็นรีวิว แล้ว ทีแรกไม่ค่อยสนใจ แต่จริงๆ แล้วนี่นี่ ประเทศนี้ มันมีอะไรมากมาย กว่าที่เราคิด หาโอกาส ไปให้ได้นะครับ

*************************************************

ก็เดินเข้าหา เจ้าอาคาร ตุ้มเขียวนั่นไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ นะ จนมาเจอทางแยก แล้ว ประมาณว่า ด้านหน้าอาคาร มัน ด้านไหน ฟระ ซ้ายมือ หรือ ขวามือ ของเราดี

คือตอนนั้น ด้วยตัวถนนที่โค้ง มาเรื่อย ๆ พาเราจนมาเจอ ด้านข้างของอาคาร ที่ ใหญ่โตมาก

พอดี เจอเป็นสวน เหมือนสวนสาธารณะ เลยเสี่ยงเดินทะลุเข้าไป พอเดินเข้าไป โอ้ววว ฉันโชคดีจัง มันเป็นทาง เหมือน ลงเนิน อิอิ (ตอนนั้นเดินจนเหนื่อยแล้วนะ 55 )

ตามมาเลยครับ คุณ Palm Jung Won

คือชื่อที่บ้าน พ่อกะแม่ เรียก เอ็ม หรือ ไอ้หนู (แต่ตัวไม่หนูนะ 55) ส่วนชื่อใน วงการ หลายคนเรื่อง เอ็มมี่ , มี่ , มู่มี่ บ้างก็มี บางคน เข้าใจว่า ภาษา อังกฤษ คง งูงูปลา ปลา มาเรียก เอ็มว่า "หมูหมี" คือจะหมูก็หมู จะหมีก็หมี 555

แต่ไม่ได้โกรธนะ เพื่อน ทุกคน "น่า ร๊ากก" อ่ะ

**************************************************
พอเดิน มาจนสุดสวน 555 เริ่มเห็นล่ะ ยอดยอด ของ มัสยิส สีชมพู ตอนนั้นชมตัวเอง ในใจ เก่งมาก หาจนเจอจนได้

จัดการ กางขาตั้งกล้อง กับกล้อง ดิจิม่อน ถ่ายไป ก่อน 2 3 แชะ

: )

ว้าวววววววว  ไปมัสยิด สีจมปู  ไม่ชวนเลยน๊า...
ป้าหนิงยังไม่ได้ไปสักหนเลยอ่ะ
อยากไปๆๆๆ

เราเห็น ลาน นี่อยู่ข้างหน้า เลยจัดการ เดินลง ไปตามทางนั่นแหละ เสร็จสรรพ กางขาตั้งกล้อง

กาง กาง หุบหุบ มันอยู่คนเดียวนั่นล่ะ 55 ไม่แยใคร อิอิ

สังเกตุได้ว่า เดินมาไกลนะ เหงื่อ เริ่มออกแล้วอ่ะ อากาศก็ร้อนนะ วันนั้น

ขอบคุณครับ สนุกดี

ไปกัวลาลัมเปอร์มาเกือบสิบครั้ง
แต่ไม่เคยไปปุตราจาย่า

ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือ ผมไม่ชอบอากาศร้อน

สวัสดีจ้า คุณป้าหนิง นอนดึกอีกแล้ว น๊าา สว. สอย โปรหลุดอยู่ชิมิ อิอิ

ทริปนี้ ฉุกละหุก จ้า 55 เดอะแก็งค์ เอ็มยังไม่ได้บอกเลย อิอิ มีหวังโดน ป้า วิปครีมรสมะนาว บ่นแหงง แหงง

**************************************************

ถึง แล้ว อาคาร ตุ้มเขียว ใหญ่โต โอฬาร จริง ๆ นะ :)

สวัสดีครับ คุณ TheFootball  เมืองใหม่ เค้า โล่ง ๆ อะครับ เหมือน รับลม รับแดด เต็มเต็ม แต่ส่วนตัวเอ็มว่า หากมีโอกาส อีก ลองไปดูนะครับ

****************************************************

ที่ระทึก "หัวใจเต้นระทึก" เหนื่อย 55

ครับ Putrajaya อยู่ในแผนทุกครั้งที่ไปครับ
แต่พอไปถึงโน่น มันไม่อยากไปยังไงไม่รู้

^
^
^
อุ้ยย รูป คห. บน  ตัวคน กับ ตัวอาคาร เท่ากันเชีย ไม่เวริคแฮะ มุมนี้ อิอิ

อ๊ะ ลองใหม่ อันนี้ท่าจะ เก๋กว่า

โอ๊ะ ถามว่า เปลี่ยนแอ๊คติ้ง แล้ว ได้นำพาอะไรมั้ย

บอกได้คำเดียว ว่า " มิได้นำพา " อาคาร ยังคงใหญ่ เหมือนเดิม 55555 เก๋เก๋น๊า

นี่นี่มันต้องอย่างนี้ อิอิ แอบย้อนแสงบ้าง อะไร บ้าง ก็ มะเป็นไร หุบหุบ กางกาง ขาตั้งกล้อง มัน ทั้งวัน 55

: )

มัสยิส สีชมพู เต็มๆ

เดิน เข้าไป ถ่ายข้างใน ซะหน่อย

จัดเต็ม มันทั้ง เป้ ไปเลย "จัดหนัก" เป้นะที่หนัก 555

ปล. แต่เวลา เช็คอินขึ้นเครื่อง หน้ายิ้มแย้ม เชีย ไม่หน๊ากก ไม่หนัก ไม่เกิน 7 กิโล Carry on Cabin ได้ อิอิ

:)

ป้ายหน้า มัสยิส จ๊า

:)

เห็น สะพาน ดีไซน์ แปลกตา ล้ำอนาคต อยู่ไกล ไกล

:(

ระหว่างนี้ ยังไม่รู้ตัว ว่า ต้องเดิน ไปนู่นนล่ะ ข้ามสะพาน ที่เห็นตอม้อ ใหญ่ ๆ ด้านซ้ายมือ ของภาพ ไปยังนู่นล่ะ เจ้า สะพาน ดีไซน์ล้ำ อนาตด ที่เราว่า

ระหว่างนี้ เริ่ม มองหา และ เราจะไปขึ้นรถเมล์ ได้ตรงไหน เพื่อนกลับไปยัง Putrajaya Sentral เพื่อนั่ง KLIA Transit กลับไป LCCT

ในบริเวณนี้ มี เหมือนซุ้มขายของที่ระลึก ของ มัสยิสสีชมพู ก็เลย ขอเข้าไปเพื่อสอบถามว่า ป้ายรถเมล์ อยู่ตรงไหน เราต้องการ ไป Putrajaya Sentral

เจ้าหน้าที่แนะนำเราว่า เรามี อยู่ 2 ทางเลือก คือเดินไป ด้านนี้ (ด้านที่ต้องทะลุสวนสาธารณะ ) ซึ่งมัน ต้องขึ้นเนิน ไป 555 เหนื่อย เพลีย  ไม่ไปแน่แน่

กับ อีกทางเลือกคือ เดินข้ามสะพานนี่ไป แล้ว จะมีป้ายรถเมล์ แล้วให้สอบถามกับ คนขับรถว่า ไป Putrajaya Sentral ใช่มั้ย

แน่นอนเราเลิกเดินทางนี้ อิอิ (แต่ก็ ไกลนะ) ระหว่างเดิน เราก็ สาวเท้าอย่างไว

เพราะอะไร เราไปเสียเวลา ลงรถผิดในตอนแรก เหลือดูนาฬิกาตอนนี้ โอ้ยย

จะ 1 ทุ่มแล้ว แต่ฟ้า ยังสว่างจ้าา แน่นอนล่ะ เพราะเวลาบ้านเค้าเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง

:(

ระหว่งทางที่เดินข้ามสะพานไป อ่อ ทำให้รู้ว่า อาคาร ตุ้มเขียว นี่เค้า ดีไซน์ให้อยู่ ตรงกลาง แบบนี้ นี่เอง

ส่องกลับไปยัง มัสยิส สีชมพู ในระยะไกล

ข้ามยังไม่ทัน สุดสะพานดีเลย เรายังต้องเดินต่อไปอีก นะ

ลุยถึกอย่างนี้ เอาใจไปเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยย

จากรูปด้านบน บริเวณที่เห็นท้ายรถ เราเข้าไปสอบถาม พี่ผู้หญิงคนมาเลฯ ที่นั่งตรงนั้น

เค้าก็ ชี้และแนะนำว่า เราต้องข้ามถนนไปอีกฟากนึงนะ นั่น ตรงนั้นเห็นมั้ย จะเป็นป้ายรถเมล์

รูปนี้ถ่ายตรงเกาะกลาง ถนน ซะหน่อย ข้ามถนนไปแล้ว เรายังต้อง เดิน ไปอีก สัก 100 เมตรนะ

ตอนนี้เริม ว้าวุ่นล่ะ ทุ่มนึงล่ะ ที่ป้ายรถเมล์ แจ้งว่า จะมีสายรถเมล์ เข้ามาอีก 2 นาที ข้างหน้า ไป Putrajaya Sentral

เราเลยถามพี่ที่อยู่ตรงป้ายรถเมล์ว่า จากที่นี่ใช้เวลา นานเท่าไหร่ ที่จะไป Putrajaya Sentral พี่เค้าบอกเราว่า ไม่เกิน 10 นาที

เราก็ พอใจชื้นนะ แต่ก็ ว้าวุ่นร่วมไปด้วย เพราะไฟล์ ที่เราจะบิน ไป โจโฮ บาร์รูนั้น ออก 09.00 PM. หรือ 3 ทุ่ม

ด้วยความที่ว่า ตอนขามา คิดว่า เดี๋ยวกลับมาเราค่อยมาเช็คอินก็ได้น่า ทัน

หวัดดีจ้า คุณดีบุก  ลุยอย่างเดียวก็พอม๊างง ไม่ต้องขนาด ถึก นะ 5555

************************************************

มาถึง ปุตราจายา เซ็นทรัล แบบว่า ลงรถเมปุ๊ป วิ่งง 4X100 เมตร ขึ้นไปยังชั้น ขายตั๋ว เหลือบเห็นเวลา แจ้งว่า รถกำลังจะเข้า สถานี อีก 2 นาที ณ เพลานั้น ยังต้องต่อคิว ซื้อตั๋วอีก 2 คิวคน ข้างหน้า

ใจก็ร้อนรน จนท. ก็ ละเมียด ทอนเงิน อยู่ได้ คือรีบ อะรีบ พอถึงคิวเรา ซื้อตั๋วเสร็จรับเงินทอน เป็นเวลาที่รถ เข้าไฟเข้าสถานีแล้ว

วิ่ง ๆๆ ๆๆ ยิ่งกว่าวิ่งสู้ฟัด เป้ที่ แบกอยู่ก็นะ หนัก ทำให้วิ่งเร็วมากไม่ได้ วิ่งลงบันได ไปชานชลา นี่รถไฟ จอดสนิท เปิดประตู พอดี

เรียกได้ว่า ถ้าไม่ตัดสินใจวิ่ง คือ เช็คอิน ไม่ทัน ตกเครื่องแน่

และ จะบอกว่า ณ เวลา 1 ทุ่ม เศษ ๆ ตอนนั้น อาหารยังไม่มีตกถึง ท้องเลย ตั้งแต่เช้า เพราะที่แพลน จะมากิน ที่ ปุตราจายา นั้น ก็ ไม่มีเวลากิน ไปโดยปริยาย

:)

ในขบวนรถไฟ มีเรา คนเดียว 55 ที่ยืน เอาพัด พัดหน้า โฮก ๆ อยู่ ร้อน เหนื่อย มาก


ปล. ช่วงที่เอ็มไป คนใช้ บริการ รถไฟ KLIA Transit เยอะนะ

พอต่อรถ โคช ลงจากรถโคชได้ ที่ LCCT เท้าน้านน และ วิ่ง อีกแล้ววิ่ง เข้าตัวอาคาร อีกแล้ว

วิ่ง วิ่ง วิ่ง ไปยัง เครื่อง Kios Checkin กด No.Booking ปุ๊ป ระบบไม่ให้เช็คอิน ตาย ล่ะวา คงเพราะหมดเวลาเช็คอินกะเครื่อง ละมั้ง

มองที่นาฬิกาข้อมือ เหลือ เหลือ เหลือ อีก 10 นาที ที่เค้าเตอร์เช็คอิน จะปิด ที่เราจะบิน ไฟล์ 3 ทุ่ม

แต่ แต่ แต่ ทุกเค้าเตอร์ แดงเถือก ไปด้วย Drop Off กระเป๋า แล้วฉันต้องเช็คอินกะเค้าเตอร์ไหน ฟะเนี่ยยย

ถ้าคนที่เคยไป อาคาร LCCT จะนึกภาพออกว่า ฝั่ง ภายในประเทศ กับ ฝั่งอินเตอร์ อยู่ คนละปีกอาคารกัน ณ ตอนนั้น เรามองป้ายไม่รู้เรื่อง นะว่า เค้าเตอร์ที่เท่าไหร่ เช็คอินใน หรือ นอกประเทศ

ก็วิ่งไป ฝั่งอินเตอร์ซะอย่างงั้น อ่าวว อ่าวว ไม่มีเค้าเตอร์ให้เช็คอินอีก เหลือบไปเห็น เค้าเตอร์ Verifile เอกสาร ก็เข้าไป บอกเค้าว่าขอเช็คอิน เค้าก็บอกว่า คุณต้อง ไปเช็คอินกับเครื่อง นะ

เราบอกเค้าว่า เราทำแล้วแต่ ระบบมันปิดแล้ว คุณดูไฟล์ไทม์ เราสิ พอเจ้าหน้าที่เห็น เท่านั้นแหละ บอกเราว่า ให้เรารีบวิ่ง ไปที่ เค้าเตอร์ ที่ 60 กว่า ๆ เท่าไหร่นี่แหละ แต่มัน อยู่ฝั่ง ในประเทศอีก โอ้ยยยย คุณพระ!

ฉันมาเพื่อ ที่จะวิ่ง กับ เดิน ชิป่ะ ทริปนี้

มันยังไม่จบ จนท.สนามบิน ไม่ให้เข้าไปอีก คือเราก็งง ว่าไม่ให้เข้าตรงนี้แล้ว มันเข้าตรงไหน ล่ะที่จะไปยังเข้าเตอร์ด้านในอ่ะ ก็บอกเค้าไปว่าเราต้องรีบเช็คอิน นั่น เค้าเตอร์นั้น เราเห็นแล้ว ในสุด ลึกสุด

จนท. ยังซักเราอีก ของเหลวมีมั้ย ของมีคมมีมั้ย เราไม่มี ไม่มีดะ เลย ระหว่างนั้น ก็ กึ่งๆ  ดันดันตัวเอง ให้เข้าไปให้ได้ จนเค้าให้เราเข้าไป

เช็คอินได้สำเร็จ  แสกนกระเป๋า และเข้าไปรอที่ Gate. อ่ะ เราเพิ่งเห็นว่า สนามบินราคาถูก แห่งนี้นี่ มี Wifi ให้ใช้ ฟรีด้วยนะ อิอิ

แหม๋ ระหว่าง นั่งรอขึ้นเครื่อง เวลา 3 ทุ่ม ตอนนั้นหิว นะ มีแต่น้ำเปล่า ติดตัวในกระเป๋า ( เค้าไม่ห้ามเอาน้ำเปล่าเข้า เกท)

ใจก็คิดว่า เดี๋ยวเอาไว้ ไปกิน รวบตึง มื้อค่ำที่ Johor Bahru เลยทีเดียวละกัน จะได้ กินอาหาร ทางนู้นดู

เงินมื้อกลางวันที่ไม่ได้กิน ก็ เอาไปทบ กินกะ มื้อกลางคืนเลย จัดเต็ม เพราะหิว

แล้วก็ หยิบเอา บีบี จะเอาขึ้นมา ต่อ Wifi เล่น ก็เห็นว่า มีข้อความเข้ามา 555 มันมาได้ไงฟะ ไม่ได้เปิด โรมมิ่ง อ่ะ งง งงอยู่

พอเปิดอ่าน ปรากฎ เป็น SMS แจ้ง ไฟล์ ดีเล เที่ยวบิน โจโฮ บาร์รู ของเรา คือ ง่าย ๆ ไอ้ 3 ทุ่ม 55 ตามเวลาที่แจ้งมาน่ะ เราต้องไปถึง และลงเครื่องที่ โจโฮ แล้ว เพื่อให้ทันรถเข้าเมือง เที่ยวสุดท้าย

เอาจิงจิง กว่า จะโหลดผู้โดยสาร กว่าเครื่อง จะทยาน ออกจากรันเวย์ เรามองที่นาฬิกา ณ เวลานั้น มัน 4 ทุ่มครึ่ง เข้าไปแล้วอ่ะ

ปกติเวลา เครื่องจอด เพื่อที่ผู้โดยสารจะลง นี่เอ็มจะไม่รีบเลยนะ แต่ไฟล์นี้ พอเสียงเข็มขัด กริ๊กกริ๊ก แกร๊กแกร๊ก ปุ๊ป สแคชตัว ลุกขึ้นเอากระเป๋า อย่างไว แล้วรีบเดิน ๆ ดุ่มดุ่ม เข้าตัวอาคาร เพื่อจะรีบออกไป ขึ้นรถเข้าเมือง

(ยังจะหวังว่ามันต้องมีรถประจำทาง อะไรบ้างล่ะ) ซึ้งข้อมูลที่เตรียมไป รถเข้าเมือง รอบสุดท้าย จากสนามบิน เชนไน มัน 22.50 อะ

ข้อมูลตามนี้ http://www.senaiairport.com/travel_options/getResults.asp

แต่ ณ.เวลานั้น มัน 5 ทุ่มครึ่งได้แล้ว อะ แงแง เดินออกมานอกตัวอาคารสนามบิน

ไม่มีรถแล้ว เลยต้องเดินไป จุด ลีมูซีนเซอวิส ให้ที่อยู่ ที่พักไป อยู่ ถ. Jalan Yayha

เจ้าหน้าที่ แจ้งมาว่า 44 RM.  กรี๊ดดดดดดดดดดด ที่ 2

นี่มันไม่ใช่ สิ่งที่ดาวคาดหวังไว้ แต่จะทำยังไงได้ ก็ต้องนั่งไป

ปล.มีแต่รูปตอนลงจากเครื่อง จะเห็นคนรอ ไฟล์ที่กลับ ไป กัวลาฯ ก็ต้องรอ เพราะดีเลย์ นั่นเอง

ระหว่างที่นั่ง ลีมูชีน มานั่น คนขับรถ ที่นี่ นิสัยดีมาก ชวนเราคุย ชวนเรา รีแล็ก ตลอดทาง ซึ่งระยะทาง มันประมาณ 40 กิโล ได้นะประมาณนี้

แถมยัง รู้เรื่องเมืองไทยอีก เค้าร้องเพลง เมดอินไทยแลนด์ ของพี่ คาราบาว ให้เราฟัง เราก็ ฮา 5555 ร้องได้ไง

แล้วก็ชวนคุยเรื่อง นายกหญิงคนใหม่ ของไทย ยังไม่พอ ยังรู้อีก ที่ไทย มี เรดเชิท เยลโลเชิท 555

เราเลยบอกเค้าไปว่า เค้าเนี่ยเหมือนแท็กซี่ ที่เมืองไทย นะ ชอบคุยเรื่อง การเมือง

และเค้าก็ พาเรามาส่ง ที่ Jomi Homestays  จนได้ เวลานั้น ก็ ล่่วงเลย เที่ยงคืน เข้าไปแล้ว

5555 ไม่ต้องสืบ เรายังไม่ได้กินข้าว เข้าบ้านไป ก็มีเพื่อน ร่วมหลับนอน โฮมสเตย์ หลับปิดไฟนอนกันแล้ว อยู่อีก 3 คน 1 คนนั่นเล่น อินเตอร์เนต อยู่หลังบ้าน

เราเลยถามถึงห้องน้ำ เป็นอันดับแรก อยากอาบน้ำนอนล่ะ ไม่กงไม่กินมันล่ะ

ปุ๊บปั๊บ ตัดมาตอนเช้า เลย ถ่ายรูปที่นอนมาให้ ดู เพื่อนร่วม โฮมเสตย์เรา เป็น ฝรั่งแบ็คแพ็ค ทั้งนั้นเลย วัยรุ่น กันทั้งนั้น แต่เค้าตื่นสาย นะ

นี่แหละ ที่นอนราคา 15 RM. ริงกิต ของเรา หลับสบายนะ (จนระแวง ตัวเอง ไปคำราม เซอร์ราว ดิจิตอน ไฮไฟ) ใส่ใครเค้าหรือเปล่า 555

ตามชมอยู่นะครับ
จขกท.เล่าเรื่องสนุกดีครับ ชอบๆ

เช้ามา เราก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือ ที่ต้องมาจ่ายที่นี่ 13.50 RM. กับคุณลุง Jomi ไป

อ่อ ก่อนจองที่นี่หรือที่ไหน เราก็ศึกษา นะว่า ฟีดแบ็ค เป็นยังไง ได้ไปอ่านใน Trip Advisor แล้ว ก็ ถือว่าอยู่ใสเกณท์ที่ดี

และเราเป็นพวก นอนง่าย อยู่ง่าย อยู่แล้วด้วย ล่ะ เจ้าของที่นี่ คุณลุง Jomi พูดภาษาไทย พอได้ กล่อมแกล้มด้วยนะ

สำเนียงคล้าย ๆ แอนนา ตลก ถั่วต้วมม เลยล่ะ เราฮามาก 555 หน้าก็คล้าย ๆ นิดนิด

ได้คุยกันตอนเช้า แบบอังกฤษคำ ไทยคำกับเค้า ก็ได้ความว่า เคยไปอยู๋ อ.ฝาง ที่ จ.เชียงใหม่ เหมือนมี เกสเฮาส์ ที่นั่่นด้วย ประมาณนี้

เช้านี้ เราเลยขอฝาก กระเป๋าแบ็คแพ็คของเราไว้ที่นี่ เพราะเราจะข้ามไปเที่ยว สิงค์โปร์ คุณลุง Jomi ก็ ได้ให้แผนที่ ละแวกนั้นมาด้วย ว่าท่ารถ อยู่ตรงนี้ ๆ นะซึ่งเราก็ ได้ทำการบ้าน จาก Google Map มาบ้างแล้ว ว่ามันเดิน ไปท่ารถได้

ไม่ไกล ประมาณ 10 นาที เดิน เล่น ๆ ชิว ๆ ตอนเช้า ๆ สาย ๆ อากาศดีนะ 55 ไม่เหนื่อย

อ่อ ก่อนออกจากบ้าน ถ่ายรูป ที่พักมาให้ ได้ดู

ส่วนนี้เป็น บริเวณด้านใน มีคอมฯ ไว้ให้เล่น เนตได้ ผลัด ๆ กันเล่น แต่ มีไวไฟ ฟรีนะ เราก็

อ่อ ฝรั่งคนนี้เห็นแต่ด้านหลังกัน แต่ถ้าได้เห็นหน้านะ หล่อ ระเบิดเถิดเทิงเลยล่ะ  เอาจิงจิง

อ่าว ยังไม่นอน เหรอครับ คุณ sanamluang งั้นก็ ฟังนิทานสนุก ๆ คืนนี้ไปเรื่อย ๆ นะครับ

****************************************************

ถ่ายจากด้าน หน้าประตูบ้าน เข้าไป ก็นอนกันตาม สภาพ ล่ะจ้าา นอนได้นะ ไม่ได้ลำบากอะไร ที่นอนใคร ที่นอนคนนั้น

อ่อ ใสส่วนของห้องน้ำ ก็ ตามสภาพ แต่ก้มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่ได้ สอาดเรี่ยมเร้ อะไรขนาดนั้น บอกเล่าให้ฟังกันจ้า

ก่อน ออกเดินทาง เราก็นึกขึ้นได้ ว่า สิงค์โปร น้ำดื่มแพง 555 เลยเดินเข้าไปในครัว ถามคุณลุง Jomi ว่า มีน้ำดื่มฟรีให้กดกินมั้ย

คุณลุงชี้ไปที่ ก๊อกน้ำ นั่นแหละ กินได้ "ทำเสียงให้เหมือน แอนนา ถั่วต้วมม" นะ จะฮามาก อิอิ

เราก็ ก๊อกก็ก๊อก ฟระ 5555 เค้ากินได้ เราก็กินได้ อิอิ กรอกไป เต็มขวด (น้ำแร่มิเนเร่ บนเครื่อง หางแดง) อ่อ ลืมบอกว่าเราซื้อกิน ตอนไฟล์เมื่อคืน ไป 3 RM.

:)

ถ่ายจากรั้ว หน้าบ้าน จ๊า

บริเวณ โดยรอบ Jomi Homestay นี่อยู่ ซ.4 สุดซอยเลย ประมาณ 300 เมตร จาก ถนนหน้าปากซอย

อ่อ หน้าปากซอยเป็นร้านอาหาร ชาวบ้านนะ เปิด 24 ชั่วโมงเลยล่ะ แล้วก็ มีปั้มน้ำมัน เอสโซ่ซึ่งก็มี มินิมาร์ทด้วย

นี่เป็น ไฟล์ที่เอ็ม ทำการบ้าน คร่าว ๆ ระหว่าง Bus Terminal ซึ่งเป็นที่ที่เราจะไปขึ้นรถ เมล์ข้ามด่าน ไปสิงค์โปร์ และ เป็นจุดที่ ลงรถ โคช์ รับส่ง จากสนามบิน ราคา 8 RM.

เดินได้นะ ไม่ไกล(เท่าไหร่) 555

แก้ไข : อ้าววแนบรูปผิดซะอย่างงั้น

อีกที

:)

บริเวณ โดยรอบ

มีอาหาร สวย ๆ ด้วยแต่ไม่มั่นใจว่า เป็นมัสยิส หรือเปล่า ส่วน รูปล่างที่เห็นนั่น สันนิสฐานว่าเป็น กุโบ ที่ฝั่งศพอ่ะนะ แต่สวย ดี ไม่น่ากลัวเลย

นั่นล่ะ อย่าที่บอก มีร้านอาหาร มี มินิมาร์ท นะ

อ่อ ที่ Jomi Homestay มีจักยาน ให้เอาไปถีบ ไปไหนมาไหนได้ด้วยนะ

ตอนเช้าก็ มีกาแฟ ให้กิน ด้วยล่ะ

เดินตามแผนที่มา เรื่อย ๆ ก็ เจอ ป้ายบอกว่า นี่แหละ ทางนี้ล่ะ Bus Terminal สำหรับ ไป สิงค์โปร

ถึงแล้วล่ะ ข้อมูล ตามนี้เลย มีไปได้ทุกสาย เท่าที่เห็นก็มีสาย 170 สาย 950 แล้วก็มีรถที่เป็น Express ที่เห็นราคา 5 ริงกิต อีก แต่เราเลือกนั่งรถบัส สาธารณะ

ค่ารถก็ ประมาณ ไม่ถึง ครึ่งเหรียญ SGD ได้นะ พอดีเอ็มใช้บัตร EZ-ling แตะ ๆ ไปจำราคาได้ไม่แม่นนัก

เพิ่งเคยอ่านกระทู้รีวิวของคุณเอ็ม สนุกดีจังค่ะ

แต่ตอนนี้ดึกแล้ว พรุ่งนี้จะมาตามต่อนะคะ :D

ลงรถ ที่ด่าน ขาออก Malaysia แล้วจ้า ตรงนี้ ยังถ่ายรูปได้อยู่เลย ไม่ได้ห้าม

อ่อ ลืมบอกให้ขึ้นไปทู งบประมาณวันนี้ของเรา เลย และแผนการเที่ยว คร่าว ๆ ที่ คห. 12

ออกด่าน ตม. มาเลฯ มาแล้ว ก็ เดิน เดิน มาลง มาที่ท่ารถ ด้านล่างอาหาร รถก็จะจอดรออยู่แล้ว เลือกขึ้นเอาเลยว่าจะไปลงที่ ไหน ของ สิงค์โปร

แต่เอ็มเลือกขึ้น สาย 170 เพราะจะไปลงที่ MRT. สถานี Kranji (NS7)

ที่สถานี Kranji นี้ มี ที่แลกเงินได้ด้วยนะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้แลกเงิน SGD. มาอะจ้า

ขอบคุณ ครับคุณ sneer  นอนหลับฝันดีนะคร๊าบบ

**************************************************
ว่าด้วยเรื่อง ตู้จำหน่ายตั๋วและ เติมเงิน สำหรับบัตร EZ-Ling

ขำตัวเอง อะ 5555 ก็อ่านข้อมูลไปแล้วนะ เรื่องการเติมมูลค่าบัตร การ ซื้อตั๋ว

คือพอหลังจากที่เรา วางบัตรแล้วเติมเงินเข้าไปแล้ว นั้น 10 SGD. อ่อ อ่อ

งบประมาณ วันนี้ สำหรับที่ สิงค์โปร์ 30 SGD. เท่านั้น คุณค่า ค่าคุณคู่ควร แหม๋ ก็ ปาเข้าไป ซะ 750 แล้วอ่ะ ร่วม ๆ 1000 แนะ

ทีนี้เราจะซื้อตั๋วรถ ไฟฟ้า กับเครื่อง อัตโนมัตซะงั้น เลือกสถานี เสร็จสรรพ แล้วก็เอาบัตร วาง ๆ พลิกซ้าย พลิกขวา ตรงแท่นที่ให้วางเพื่อเช็คและเพิ่มเงินนั่นแหละจ๊ะ 555 ทำไม ทำไม มันไม่ได้ซะทีนะ เริ่มร้อน แล้วนะ ก็อ่านมาแล้ว ทำไมไม่ได้

แหม๋ เดชะบุญ อะไรมาดนใจไม่รู้ ให้ได้ นิมิตร ได้ว่า "ช่วยเอาบัตรไปแตะ เพื่อเข้าสถานีไปเลย" ไม่ต้องมามัวซื้อตั๋ว ตรงนี้ 55555 เปิ่นได้อีก

เล่า ข้าม ช๊อต ไปอีก แล้ววว

************************************************

คือเมื่อลงรถเมล์ หลังจากออกจากด่านขาออกมาเลฯ มาแล้ว แล้วกำลังจะขึ้นไปด่าน ขาเข้า ของ สิงค์โปร  แหม่ มือดันไว หยิบกล้องขึ้นมาแชะ ยิงไปที่ตัวอาคาร ด่าน 1 แชะ

เอาเลยจ้าาา จนท.ตม. เข้ามาชาร์ทเลยย No Photo No Photo ... พร้อมชี้ไปให้ดูที่ป้ายว่า ห้ามถ่าย แล้วชี้เราไปหาหัวหน้าเค้า แล้วก็ ฟ้องฟ้องฟ้อง หัวหน้าเค้าใหญ่เลย

เราก็ Sory Sory อย่างเดียว แต่ดันเรียกเราไป ให้ลบภาพให้ดูด้วย เราก็ไปลบ แต่โดยดี เลยปล่อยเรามาได้

ทีนี้ก็ขึ้นไปล่ะ ต่อแถว ตรวจลงตรา เพื่อ สแตมป์ เข้าประเทศ 5555

แต่ มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นสิ เอ็มนะอุตสาห์ ยิ้มหวาน เข้าช่อง ตม.ที่ ทรงเสน่ห์ ที่สุด ณ. จุดนั้นแล้ว

เปิดเปิด พลิกพลิก พาสปอร์ต เราดู พร้อมกับถามว่า มาครั้งแรกเหรอ เราก็ตอบเค้าไป ตามที่ถาม ทีนี้ถามเราอีกว่า มีคนรู้จัก เพื่อน หรือใครอยู่ที่นี่มั้ย อยากจะบอกไป จริงๆ ว่า บริษัทฯ ที่ทำงานก็อยู่ที่นี่ และก็มีเพื่อน อยู่ที่นี่ แต่ฉัน ไม่รู้จะติดต่อยังไง 555 เบอร์ไม่มี

ไม่ได้ จดไป ไม่เคยโทร เคยแต่ เมล แล้วก็ เฟสคุย อีกอย่าง มือถือเรา แม๋ ซิมการ์ด วันทูคอล แบบเติมเงิน แล้วตอนนั้น มีเงินอยู่ 3 บาทกว่าๆ 555 เข้าเฟส โทรไปไหนก็ไม่ได้ ไอ้เบอร์ที่เป็นรายเดือน ก็ไม่เอามาเพราะกลัวปัญหาจับ สัญญาน โรมมิ่ง แล้วเดี๋ยวกลับ ไทยไป จะช๊อก กับ ค่าใช้จ่าย

พอเราบอกไม่มี ไม่รู้จักใคร เท่านั้นล่ะ เรียกให้เราเข้าไปนั่ง ข้าง ๆ บอกว่า คุณต้องขึ้นไป บนออฟฟิต ของเราเดี๋ยวจะมี จนท.มาพาตัวคุณไป 555

ตอนนั้น หงุดหงิดมากกว่านะ ไม่ได้กลัวอะไร  ก็ถูกพาตัวขึ้นไป ข้างบน ส่วนออฟฟิต ทีนี้ก็ถูก เชิญเข้าไป สอบแบบห่องส่วนตัว แบบตัวต่อตัว กันเลยทีเดียว (แต่ก็มีหลายคนอยู่นะ ที่โดนเรียกตัวแบบเอ็ม)

ก็ถามเหมือนเดิม อีก มาครั้งแรกใช่มั้ย มาทำอะไร มีคนรู้จักที่นี่มั้ย แล้วจะไปไหนบ้าง

เราก็ตอบเค้าไปตราตรงว่า มาเที่ยวนะ เดี๋ยวเย็นก็จะกลับข้ามไปมาเลฯ แล้ว พร้อมยื่น เอกสารยืนยันการเดินทาง เที่ยวบินให้ดู ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ถามอีกแล้วจะไปเที่ยวที่ไหน อย่างไร ใน สิงค์โปร

เราก็ตอบว่า เราจะไป ไชน่าทาวน์นะ ไป เซนโตซ่านะ ไป เมอไลออน นะ ประมาณนี้ เดินทางโดย MRT เรามี บัตร EZ-Link มาแล้ว และพร้อมกับขอเราดู บัตรประชาชน คนไทย (เสร็จจุดนี้ ออกมานั่งรอ ด้านนอก)

เรียกสัมภาษณ์ อีกคนอีก ทีนี้เป็นเค้าน์เตอร์ด้านหน้า ถามเหมือนเดิม อธิบายเหมือนเดิม เลยคิดในใจ เหลืออย่างเดียวและ จับฉันถอดเสื้อผ้า ค้นตัว แต่พอ คนสุดท้ายสัมภาษณ์เสร็จ ก็ ปั้มให้เข้าประเทศได้ 3 ตึ้ง ตี้ง ตี้ง  แบบว่า ทรงพลัง ทรงอำนาจมาก 555

ใจเอ็มนะ กลั้ววกลัว ว่าจะขอดูเงินที่พก ติดตัวมาว่ามีมากี่บาท ถ้ายื่นให้ดูบอกว่า มีมา 30 SGD. จะเกิด อะไรขึ้น 55555

โอ้ยย รำพันมาซะยืดยาว กว่าจะผ่านจุดนี้ได้ ปาเข้าไป เที่ยงจะครึ่งแล้ว

ปล. ข้าวยังไม่ได้กินนะจ๊ะ......

ต่อ ที่ MRT. ก็ ยิงตรงไป เลย ไชน่าทาวน์ แบบว่า ทำไมมันนานจังฟระ สายสีแดงนี่ หลายสถานี จัด ข้ามเรื่องการต่อ สายรถไฟ ไปล่ะกัน

ณ.ไชน่าทาวน์ ดิ่งตรงไปยัง ฟู๊ดคอร์ท มหาชนก่อนเลย หิวมากกก ตอนนี้ ก็มี อยู่ 20 SGD. อ่ะ บวกกับพี่ที่ทำงานให้ ขวัญถุงมา 2 เหรียญ 5555 เป็น 22 เหรียญ...

ตรงลี่เข้าไปกินข้าวมันไก่ เห็นร้านดังแล้วล่ะ เทียนเทียน แต่แหม๋ คนต่อแถวกันยืดยาว เชีย

เลยแบบกินร้าน นอกกระแสนี่แหละ  หิวสุดสุดล่ะ

จัดไป แบบปกติ ก่อน 3 SGD. ได้มาก็นั่งกิน คำแรกที่ ลิ้มตัวเนื้อไก่ อุ๊ปส์!!!! ที่เมืองไทยหากินแบบนี้ที่ไหน

ช่างละมุลลิ้นดีเหลือเกิน 5555 เนื้อนุ่มหนังเด้ง มากกก แล้วคือจะซื้ออีกเซ็ท ก็ แพงอ่ะ เลย เอาข้าวมันเปล่าละกัน จัดมาอีก 1 ถ้วย รวมแล้ว มื้อนี้ 3.5 SGD.

ปล. ยับยั้งอารมณ์ไม่มัน ภาพอาหาร เลยไม่เรียบร้อยเหมือนหน้าคนกินเท่าไหร่ คิคิ

บรรยากาศ Cina Town

:)

2  :)

อิ่มท้องแล้ว ก็ข้าม ไปฝั่งตรงข้าม คือ วัดพระเขี้ยวแก้ว ในนี้แอร์เย็น เชียว

ข้างนอกวันนี้ อากาศร้อนม๊ากกก อ่ะ

:)

ที่วัดพระเขี้ยวแก้ว มีเครื่อง ทำน้ำร้อน น้ำเย็น ให้กินฟรีด้วยนะ

เราเห็น ล่ะ แทบจะกระโจนใส่ งัดเอาขวดน้ำ ที่เมื่อกี้กินหมดไปที่ ฟู๊ดคอร์ด มากดดื่มเข้าไป อีก หลายอึก หร้อม ตุนไปอีก เต็มขวด กด Like ให้เลย อิอิ

มุมสวย ๆ อีกมุม ของวัดพระเขี้ยวแก้ว  ยามที่ลมพัดมา เจ้าป้ายพวกนี้ ก็พากัน ปลิววว สวยงาม น่าดู

ด้วยความที่ อากาศมันร้อนมาก เดินผ่านตู้ขายน้ำ เป็นอดใจไม่ได้อ่ะ ที่จะต้องซื้อกิน แก้กระหาย เย็น ๆ

ตรงนี้เหมือนจะเป็น ศูนย์ข้อมูลพร้อมกับ ขายทัวร์ด้วยหรือเปล่า ไม่มั่นใจ แต่มีให้หยิบโบร์ชัว พวกแพ็คเก็จ ต่าง ๆมาดูด้วย

จากนั้น ก็ นั่งรถไฟฟ้า ต่อไปที่ ห้าง VIVO  เพื่อจะข้าม ไป Sentosa.

ขอ หยุดรีวิว ไว้ตรงนี้ก่อน นะจ๊ะ ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ง่วงแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานอีก

เรื่องราว กรี๊ด  กรี๊ด

ยังไม่จบ เพียงเท่านี่

ยังเหลือ ขากลับ ยังเหลือที่ กัวลาฯ ยังเหลือ ที่ มะละกา

อยากให้อยู่ในตอนเดียว มันไม่ทันจริง ๆ

คืนนี้ ฝันดี กันทุกคนนะจ๊ะ และหวังว่า เรื่องราวที่ถ่ายทอดไป อาจจะเป็นประโยชน์ สำหรับบางท่าน ก็จะดีใจเป็นอย่างมาก

 นอนกันเถอะ

รอติดตามตอนต่อไปนะครับ รีวิว ได้สนุกมากๆ

ตอนไปมาเลก็งงๆหลงๆ มัวแต่มองน้องพริตตี้ระดับเทพ ประมาณทุกส่วนสัดมีปริมาณที่น่าจับต้อง เลยขึ้นรถไฟฟ้าผิดข้างกันไป วิ่งกันหอบเลย เกือบตกรถ ดีที่เอะใจทัน ไม่งั้นเสร็จ

แวะเข้ามาชมตอนดึกๆครับ

น่าสนุกจังเลย..

@  หนีเที่ยวอีกแล้ว .. แสดงว่าเดือนนี้ 2 ทริปใช่มั้ยครับเนี่ย ..

แวะมาเที่ยวด้วยครับ

รีวิวละเอียดมากๆ ครับ สนุกด้วย

น่าสนุกดีนะครับ เที่ยวแบบนี้ ขอบคุณสำหรับรีวิวและข้อมูลที่นำมาให้ได้ชมนะครับ

เข้ามาด่อมๆ มองๆ โอ้วววว สวดยอดเลยค่ะ ไปคนเดียวเก่งจังเลยอ่ะ ขอเข้ามาเก็บข้อมูลไว้นะค่ะ เพื่อจะมีโอกาสได้ไปบ้างรัยบ้าง แต่อยากไปแบบตั้งงบไว้แล้วได้สมดั่งใจแบบคุงATM รุ่นนี้กดง่าย แค่ใช้รหัสใจ มั้งจังเลย

สวัสดีตอนเช้า เช้าคับคุณ

takbai : ขอบคุณมาก ๆ ครับที่ติดตาม

เจ้าชายแวมไพร์  : ขอบคุณครับ ว่าแต่ เพิ่งตื่นหรือยังไม่ได้นอนเนี่ย อิอิ

MRBIG173 : 5555 ช่ายยเลยครับพี่ 2 ทริป เลือดซิบ กันเลยทีเดียว

One Light One Shadow  : พี่ วัน ไลท์ ก็ไม่รู้ว่า มันละเอียด หรือ เว้นเว้อ ก็ไม่รู้นะ 555

noiwanwannoi  :  ขอบคุณมากครับ เอ็มก็หวังว่าบางแง้บางมุม จะมีประโยชน์ ต่อหลาย ๆ คนอยู่บ้าง ครับ

ว๊าวว คุง อาราเล่ น้อย  มาได้งายยเนี่ยย น่ารักเท่สุด ยังไม่ได้ ไปแจ้งใครเลย

เมื่อคืน มัวแต่ตั้งใจนั่งทำ ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ เล่าไป จนลืมกินข้าวเลยนะ 555

ฝากรบกวน คุง อาราเล่ น้อย  เอาไปโพส บอก เพ่น้อง เราหน่อยนะจ๊ะ

เนตที่ออฟฟิต เค้าเข้า FB ม่ายยด่ายง่ะ อิอิ นะ คุง อาราเล่ น้อย  คนสวย เท่สุด 55

ว้าวตะลุยเดี่ยว ขอบคุณที่เอามาให้ดูครับ เผื่อลอกการบ้านได้

ปลื้มมากกกกกก

รีวิวละเอียดที่สำคัญเป็นตัวอย่างที่ดีของหนูในการรู้จักวางแผนการเดินทางเลยอ่ะ

แชร์ให้เพือ่นๆดูด้วย ยกย่องเลยค่ะ  ^^

น่าสงสารจังเลย ไม่ได้กินข้าวกินปลาเลยหรา ระวังสูบนะค่ะ เค้าจัดการหั้ยเรียบร้อยแล้วนะค่ะ

เข้ามาดู  

แปะไว้ก่อน เดี๋ยวเข้ามาชมอีกรอบนะจ๊ะ

ตามมากรี๊ด  ด้วยคน  

รีวิวหนุกมากรีบกลับมาต่อเร็วๆ น๊า  

ไปด้วยคนค่ะ

เป็นการเดินทางที่ลุ้นระทึกมากๆเลยค่ะรอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ

งัวเงียมาบอกว่ามาแจกกิ๊บน้องรักก่อน

เดี๋ยวดึกๆค่อยแว๊บมาดูใหม่นะจ๊ะ ไปนอนต่อก่อนเน้อ

ตามเกาะติดจอครับ

แวะมาชมครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

เกาะปีกเครื่องบิน ตามมาชม

มาสวัสดี ตอนค่ำ จ้า ทุกคนเลย

ตามเอ็มไปเที่ยว ต่อ ตอนที่ 2 นะจ๊ะ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10897276/E10897276.html#1

พี่มาชมรีวิวสวยๆบรรยายสนุกด้วยคนค่ะน้อง
ช่วยเก็บเข้าคลังกระทู้ให้พร้อมกิฟท์ที่เกือบจะหมดลงอย่างรวดเร็วของต้นๆเดือนนะคะ  

^
^
^
พี่ลิลลี่ แสนซน คนสวย ขอบคุณมากจ้าา

ตามมาอ่านตอนแรก

แค่วันแรก ชั้นก้อสงสารน้องแล้วว  โถๆๆ อดข้าวขนาดนี้จะซูบขนาดไหนนะเนี่ยยยย

ปอลิง  รายละเอียดเยี่ยมมากเลยน้องไว้พาพี่ไปมั่งนะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากครับ

รีวิวได้มันส์หยดติ๋งเลยค่ะ........ผ่านสายตาไปได้อย่างไร......

สงสัยเพราะมาดึกเกิ๊น อิอิ.............................................

เพิ่งเห็นรีวิวคุณ จขกท.
ย่องมาตอนดึกๆหน่อย


ปล........คิดเหมือน คห.24 เช่นกันคะ
สายนี้น่าจะระยะทางใกล้สุด
ถ้าเทียบกะสาย100( วนจนมึน)

ขอโทษทีคร๊าบบ ทุกท่าน เข้ามาตอบทักทาย ช้าไปหน่อย ยุ่งมาก ๆ เลยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

 คุณวิปครีมรสมะนาว ..... พี่แก้ว พี่อยากไปเมื่อไหร่ เดี๋ยวน้องพาไป แต่ต้องเดินหน่อย นะ 55

 คุณDestiny-Boy  ..... ขอบคุณเช่นกันคร๊าบบ ที่ติดตาม

 คุณhermione_jane  ..... แฮะแฮะ เอ็มขอโทษทีคร๊าบบ เริ่มต้นรีวิว ก็ดึกดื่นล่ะ กว่าจะจบ ก็ดึกเข้าไปใหญ่ ยังไงต้องขอขอบคุณ มากคร๊าบบ

 คุณคาการิ  แฮะแฮะ ถ้าเอ็มขึ้น สาย 100 ไป คงจะมึน ยิ่งกว่า อิอิ

4 วัน 3 คืน ในต่างแดน (ไม่ไกล) กับเงิน ที่แลกไป แค่ 3,000 บาท

บร๊ะเจ้า !!!! เห็นแล้วผมอยากไปเลยนะเี่นี่ย ......... = ="

^
^
สวัสดีจ้า คุณหมาโต้ลม แนะนำให้ลองเลยครับ ถ้าไม่มี แอ็คซิเดน แบบผม นี่ กินอยู่สบายเลยนะ

ขอบคุณที่ เข้ามาติดตามนะครับ

ลงชื่อค่ะ อ่านแล้วมันหยดตึ๋ง ขอบคุณข้อมูลและรูปสวยๆนะคะ