ปกติชอบขึ้นเครื่องภายในประเทศที่ดอนเมือง บังเอิญชื้อตั๋วโปรฯเครื่องหางแดงได้เลยขึ้นที่สุวรรณภูมิ โดนเจ้าหน้าที่ใส่สูทแต่สแกนกระเป่าบอกมีกรรไกรขอตรวจก็ให้ตรวจแต่ไม่พบเพราะไม่ได้พกพา
- มันดึงขวดน้ำหอม CK มาดูแล้วบอกว่าเกิน 100 มล.
- ผมถามกลับว่า"เอาอะไรมาประเมิน"
- มันเปลี่ยนประเด็นบอกว่า"น้ำหอมไม่เกินแต่ภาชนะบรรจุเกินกว่า 100 มล"
- มันให้เอาไปโหลดขึ้นเครือ่ง
- ผมเลยเทน้ำหอมทิ้ง
เรียนผู้รู้ช่วยหน่อยว่า ที่ ทอท.ห้ามถือของเหลวขึ้นเครื่องเกิน 100 มล
มันคือ ของเหลว หรือ บรรจุภัณฑ์ กันแน่ครับ

บรรจุภัณฑ์ครับ

ของเหลวฯ ทุกชนิดที่ไม่ใช่วัตถุอันตราย ซึ่งผู้โดยสารจะนำติดตัวขึ้นไปในอากาศยาน
ต้องใส่ไว้ในภาชนะซึ่งมีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (100 cc)  
โดยจะพิจารณาขนาดของภาชนะเป็นสำคัญ
หากภาชนะสามารถบรรจุเกิน 100 มิลลิลิตร จะนำติดตัวขึ้นไปในอากาศยานไม่ได้
ถึงเม้ว่าจะใส่ของเหลวไว้ไม่ถึง 100 มิลลิลิตร ก็ตาม

ของเหลว เจล และสเปรย์ทุกชนิด ต้องบรรจุในภาชนะที่มีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร
สำหรับภาชนะที่เกิน 100 มิลลิลิตร แม้จะบรรจุของเหลว เจล และสเปรย์ เพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้

อ้างอิงจากหน้าเว็บของท่าอากาศยานครับ..

http://www.suvarnabhumiairport.com/screen_before_boarding_th.php

ใช่ครับดูที่ขวดครับ

ถ้าขวดเขียนว่า 200 มล.
ถึงแม้ว่าเราใส่ไปแค่ 20 มล.

ก็ไม่ได้เหมือนกันครับ

บรรจุภัณฑ์ค่ะ

ของที่มีลักษณะคล้ายดินน้ำมัน ถ้าบรรจุในภาชนะเกิน 100 มล.ก็ไม่ได้เหมือนกัน  ทั้งๆ ที่มันเกือบจะเป็นของแข็ง  แต่ก็ไม่มีข้อยกเว้น

เขาทำถูกกฏก็ดีแล้วนี้ครับ   คุณเองนั้นแหละที่ทำไม่ถูกซะเอง


อ้อแล้วก็อีกอย่างนะครับเลิกใช้คำว่า  "มัน"  กับมนุษย์ด้วยกันเสียเถอะนะดูคุณจะ  "ถ่อย" มากเลย

คิดว่าน่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ครับ เพราะคงไม่มีใครให้เจ้าหน้าที่มาตัดสินด้วยสายตาว่า เกินหรือไม่เกิน บรรจุภัณฑ์จะระบุโดยไม่ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ ป้องกันความผิดพลาดของคน

ใครผิดไม่รู้ รู้แต่ว่า จนท. ทำถูก

คอนเฟิมค่ะ ดูตัวเลขฉลากข้างขวดอย่างเดียวค่ะ  เคยเจอมาแล้วกับโฟมล้างหน้าค่ะ ต้องทิ้งไป เสียดายมาก

ถ้าบรรจุภัณฑ์ไม่มีของเหลวเอาไปได้
ขวดน้ำดื่มไม่มีน้ำ แล้วไปกรอกน้ำที่รอขึ้นเครื่อง ทำประจำ

ดูที่บรรจุภัณฑ์คะ ถึงแม้ว่าจะใช้งานไปจนพร่องแล้วก็ตาม แต่หากข้างขวดระบุว่าเกิน 100 มล. ก็ถือขึ้นเครื่องไม่ได้ค่ะ

ปล. จนท.เค้าทำถูกแล้ว จขกท. ไม่น่าใช้ศัพท์เรียกเค้าว่ามันเลยนะคะ

ผิดตรงเรียกเจ้าที่ว่า มัน ครับ


ส่วนเรื่องไม่รู้กฎไม่ผิด ไม่มีใครรู้ทุกเรื่อง

อย่าโกรธชั้นเลย....ยกโทษให้ชั้นถ้าทำผิดไป...
อย่าโกรธชั้นเลย....ชั้นเพียงต้องการให้เธอเข้าใจ.....

จขกท "มัน" ทำไม่ถูกกฏเองครับ

มันอ่ะทำตามกฎ

แต่เมิงดันไม่รู้กฎ

แล้วมาว่ามันอย่างโน้นนอย่างนี้

งานนี้เมิงเลยโดนเพื่อน BP แหกกฎซ่ะ

เคยโดนน้ำหอม ck เหมือนกัน
เจ้าหน้าที่สแกนเห็นในกระเป๋า รีบเชิญไปที่โต๊ะเลย
เหมือนเป็นอาชญากรเลยอะ ^0^
แต่ขวด 100 ml เป๊ะ

เห็นด้วยกับคณะลูกขุน...ทุกๆ ท่าน ขอรับ !

ศาล..ขอตัดสินว่า ให้นำน้ำหอม จับกรอกปาก จำเลย 10 cc.

เข้ามาอ่านเป็นความรู้

^
^
^
ส่วนที่เหลือ ส่งมาให้ผม ผมรับต่อเอง

.... เคยโดนเหมือนกันเลย ขวด 125 มิล ตอนแรกก็เถียงนะครับ ว่าน้ำหอมมันไม่ถึง เหลือไม่ถึงครึ่งขวด จะ 100 มิลได้ไง
เขาก็อธิบายให้ฟัง ก็เลย เข้าใจนับแต่นั้นมา

ตอนนี้รู้ยังล่ะครับว่าใครผิด

เข้าใจอารมณ์คนโมโหครับ...

คำว่ามัน มันอาจจะแรงไปมั้งครับ...

คราวหน้าก็อย่าใช้คำนี้เลย....แทนที่จะได้รับคำตอบกับได้รับคำด่าแทนอ่ะครับ..

เป็นกำลังใจให้ จขกท ครับ...ปล่อยวางป่ะครับ อย่าไปถือสาเค้าเลยครับ

จขกท..ถ้ามีน้าใจ..น่าจะเข้ามาขอบคุณคนที่เค้าอุตส่าห์เข้ามาใ้ห้คำตอบ บ้างนะครับ

ถึงแม้บางคำตอบจะไม่ถูกใจท่านก็ตาม แต่คนตั้งกระทู้ต้องใจกว้างยอมรับมันไห้ได้ เพราะเรามาเป็นฝ่ายมาขอความช่วยเหลือเอง

ผมละเบื่อ กระทู้พวกเห็นแก่ตัวมากเลย เววลาสงสัยอะไร หรือ อยากได้ความช่วยเหลือ รีบเข้ามาตั้งกระทู้อย่างไว แถมชอบใช้คำว่า..ด่วน..ด้วย

แต่พอได้คำตอบแล้ว หนีหาย ทิ้งกระทู้ไปเลย ไม่มีแม้แต่คำว่า ขอบคุณ...ซึ่งนับวันกระทู้แบบนี้ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...

แล้วปกติ จขกท ขึ้นที่ ดอนเมือง แล้วนำน้ำหอมขวดนั้นขึ้นได้หรือ?


*แก้ไขคำผิด

เจ้าหน้าที่เขาทำถูกกฎแล้ว
คุณน่ะแหละผิดเอง

และผิดมากด้วยที่ไปใช้คำว่ามัน

สนามบินทุกที่ทำอย่างนี้กันหมด
เขาดูที่บรรจุภัณฑ์กันทั้งนั้นแหละ ไม่ได้ดูจำนวนที่บรรจุด้านใน
ไม่ว่าสนามบินไหนๆ ก็ตาม

จำไว้นะครับ ก่อนจะว่าคนอื่น ดูก่อนว่าตัวเองถูกหรือผิด

ดูจากบรรจุภัณฑ์ครับ และรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 1 ลิตร
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทำตามกฏอย่างเคร่งครัดดีแล้วครับ

ตอนเช๊คอิน...เขาก็มีป้ายข้อมูลบอกนะครับว่าอะไรบ้างที่ห้ามติดตัวขึ้นเครื่อง (ของมีคม ของมีค่า อาวุธ วัตถุอันตราย ภาชบรรจุของเหลวขนาดเกิน 100 มล.)

คือเขาดูที่ขนาดบรรจุภัณฑ์ครับ

ต่อให้ถือโอ่งไปทั้งใบ...แต่มีน้ำแค่หยดเดียว ก็เอาขึ้นเครื่องไม่ได้ครับ

แต่เททิ้งน่ะถูกแล้ว...ถ้าทำแล้วสบายใจ ไม่มีใครว่าอะไรครับ

คราวหลังก็ใจเย็นๆ หน่อยครับ

ขอบคุณทุกความเห็นและไม่ได้หนีคำตอบครับ

กระทู้เริ่มจาก กระเป๋าผ่านเครื่องสแกนแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่า เหมือนมีกรรไกร จึงถูกตรวจเมื่อไม่พบกรรไกรขอตรวจโฟม,โลชั่นและมาสิ้นสุดที่น้ำหอม

ติดตามความเห็นต่อครับ

ไม่ว่าจะดอนเมือง สุวรรณภูมิ หรือสนามบินใดๆในโลกนี้  เขาวัดที่ขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกี่ยวกับปริมาณข้างในว่าเหลือเท่าไร?

คนที่ผ่านไปได้ไม่ใช่เพราะเจ้าหน้าที่อนุญาต แต่เป็นเพราะเจ้าหน้าที่เขาสะเพร่ามากกว่านะฮ้า

เรื่องจะตรวจกรรไกร แต่ไม่เจอก็เลยตรวจของเหลวแล้วเจอก็ไม่แปลกอยู่ดีล่ะครับ ถ้าผ่านไปตอนแรกโดยไม่โดนตรวจถือว่าเจ้าหน้าที่บกพร่องแต่คุณโชคดีไป แต่ถ้าตรวจเจอไม่ว่าจะยังไงมันก็เจออยู่ดี

เหมือนตำรวจตอนแรกขอตรวจดูบัตรประชาชนเพราะสงสัย แต่ค้นไปมาดันเจอยาบ้า ก็ต้องจับยาบ้าอยู่ดี มันไม่เห็นจะปลกตรงไหนครับ

โฟมล้างหน้า เจลใส่ผม ก้อโดนนะจ๊ะ ... ระวังอย่าลืม แพคลงกระเป๋าแล้วโหลดไปดีกว่านะ ...

เพราะบางคน ปัญหาเรื่องผิวหน้า เป็นเรื่องใหญ่ !!! โฟมหรือสบู่เหลวตามท้องตลาด อาจจะใช้กับหน้าท่านไม่ได้ ดังนั้น ควรระวังไว้ด้วย ... อิอิอิ

ส่วนหน้าผม ไม่ต้องห่วง ตั้งแต่ สกินเดียวถึงโทนาฟ หน้าผมรับได้หมด ใช้ได้ทุกยี่ห้อออออออ ... อิอิอิ

ไอ้ของเหลวก็เข้าใจนะ แต่คราวที่แล้วที่ฮ่องกง พอดีเพิ่งซื้อเนย กับเยลลี่ผลไม้มา โดนตรวจเจอ ต้องทิ้งไปเลย เสียดายจัง ไม่คิดว่าของอย่างนี้ก็ห้ามด้วย

มีเพื่อนมีcup cakeมีสว่นผสมเป็นเนย ยังโดนไม่ให้ผ่านที่อเมริกาเลยครับ เค้าบอกว่าเพราะมันสามารถละลายได้

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนจะ post อะไรใน pantip จะต้องทำการบ้านมา่ก่อน ไม่งั้นภัยจะเข้าตัว

ของเหลว ครีม เจล จะตีความรวมถึงสารทุกชนิดที่มีสภาพแบบนั้นค่ะ
โดยไม่สนว่าจะเป็นของอะไร ไม่ว่าจะเป็น ดินเหนียว ดินน้ำมัน
น้ำพริกเผา จารบี ครีมล้างหน้า ยาสีฟัน ไอศครีม เป็นต้น

มัน...จริงๆ

คงจะดูที่ขนาดบรรจุภัณฑ์เป็นหลักครับ นี่ว่ากันตามหลักสากลเลย

แต่ก็น่าแปลกใจที่ดันไม่รวมถุงพลาสติกเข้าไปด้วย เจ้าถุงพลาสติกใสๆที่เจ้าหน้าที่เขาแจกให้ใส่โลชั่น ยาสีฟันเพื่อเข้าช่อง X-ray นั่นแหละครับ
ผมไปถึงโรงแรมที่อัมมานไม่มีขันน้ำให้ใช้ในห้องน้ำ ก็เลยเอาถุงใสๆนั่นแหละมาทำขันน้ำ ใช้ได้อย่างดีเลยและเกิน 100mL แน่นอนครับ

จริงๆ ตั้งคำถามอย่างนี้ นั่นแสดงว่าตัวเองไม่แน่ใจว่าใครผิดกันแน่

ดังนั้นไม่ควรใช่คำว่ามันกับคนอื่น(เหมือนกับบอกว่าตัวเองถูกแต่คนอื่นผิด)
เลยใช้คำว่ามัน

แต่ีเพื่อให้แน่ใจเลยมาตั้งคำถามอีกครั้ง
เพราะถ้ามันผิด จะได้ด่ามันได้เต็มที่ ไม่เกี่ยวกับเผือก

แต่พอถามไปถามมา ปรากฎว่า มันไม่ผิด

555

กระทู้นี้ ฆ่าตัวตายชัดๆ

ปูเสื่อเสียบปลั๊กกาน้ำร้อนรอครับ

อ่านเสร็จแล้วอย่าเครียดกำลังสองนะคับ จขกท.

ไม่รู้เจตนาอย่างไรแต่เท่าที่อ่านเหมือนต่อว่าเจ้าหน้าที่ พาล หากรรไกรในกระเป๋าไม่เจอเลยไปเล่น เรื่องของเหลวแทนยังไงไม่รู้

จริงมันเป็นสิทธิ์ที่เค้าสามารถขอตรวจได้อยู่เเล้วเพื่อความปลอดภัย ไม่ได้ทุจริตต่อหน้าที่หรือเรียกเก็บส่วย อันนี้ว่าเค้าไม่ได้ แถมของเหลวตามกฏระเบียบผู้โดยสารจะต้องแยกใส่ถุงพลาสติ๊กซิบล็อคเพื่อให่้ง่ายต่อการตรวจด้วยซ้ำ

เหมือนแฟนเคยพกยาสีฟัน โฟมล้างหน้า โรลออน ขึ้นนะ

แต่เราไม่รู้ว่าแฟนพกขึ้น แฟนก็ไม่รู้กฎ ผ่านมาแบบเฉยๆ

มารู้อีกทีตอนถึงโรงแรม เปิดกระเป๋า อ้าว ผ่านมาได้ไง 5555+

^_^

จริงๆ แล้วถ้าคุณมีของเหลวในกระเป๋า ก็ควรต้องเอาออกมาใส่ถุงพลาสติกใสแล้ววางแยกในกระบะต่างหากด้วยนะครับ ที่ไทยผมว่าตรวจไม่เข้มเท่าไหร่ แต่ถ้าเมืองนอก (โดยเฉพาะเมกา) ถ้าเค้าสแกนเจอในกระเป๋าเมื่อไหร่เค้าจะบังคับให้คุณหยิบมันออกมาให้เค้าเห็นอย่างชัดเจนทุกขวดและใส่ถุงให้เรียบร้อยครับ ถ้าคุณใส่ลงถุงไม่หมดก็ต้องเลือกเอาว่าจะทิ้งอันไหนเพื่อให้ถุงสามารถปิดได้

ไม่เป็นไรครับ ผิดเป็นครู คราวหน้าก็เตรียมให้พร้อมครับ จะได้ไม่เสียเวลา เสียอารมณ์อีก

น้ำหอม CK ... ภาชนะบรรจุเกินกว่า 100 มล

ส่วนมาก น้ำหอมมันก็จะ 100ML ไม่ใช่หรือครับ
ถ้าใช่ ก็คือไม่เกิน
ประจวบกับน้ำหอมในนั้น พร่องลงไปแล้ว จขกท ก็คงยิ่งคิดว่า ยังไงก็คงไม่เกินมั้งครับ

สรุป น้ำหอมกี่ ML ครับ

จากความคิดเห็นที่ 28 ของ จขกท
กระทู้เริ่มจาก กระเป๋าผ่านเครื่องสแกนแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่า เหมือนมีกรรไกร จึงถูกตรวจเมื่อไม่พบกรรไกรขอตรวจโฟม,โลชั่นและมาสิ้นสุดที่น้ำหอม

อ่านแล้วเหมือนเราคิดว่า จขกท ไม่พอใจที่ ถูก จนท อ้างขอตรวจนู่นนี่ ไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่ได้มีการนำกรรไกรมาด้วย เหมือนหาไม่เจอตามที่ถูกกล่าวหา เลยทำเป็นจับผิดอย่างอื่น



จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เวลาที่ต้องแสกนกระเป๋าเค้าจะดูว่ามีสิ่งของต้องห้ามหรือไม่ บางทีภาพที่เห็นมันอาจจะสันนิษฐานได้ว่าเป็นของต้องสงสัย แล้วเค้าจะขอเปิดดูกระเป๋าเราค่ะ อย่างพี่ที่เคยเดินทางด้วยกัน กระเป๋าเครื่องสำอางใหญ่มาก ก็โดนตรวจอยู่นานเลยค่ะ

ส่วนของเหลว ที่เราเจอครั้งนึงคือ แฟนเรานำขวดน้ำหอม 100 ml ใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วย แต่ไม่ได้ใส่ถุงซิป หลังจากผ่านเครื่องแสกน จนท. ก็เรียกมายังจุดตรวจสอบ ขอให้เราเปิดกระเป๋าค่ะ เค้าก็หยิบขวดน้ำหอมมาดูแต่ว่า ไม่ได้เกินที่กำหนด เพียงแต่ว่าเดินไปหยิบถุงซิปมาให้เราเพื่อใส่ขวดน้ำหอมแล้วก็ปิดกระเป๋า เรียบร้อยค่ะ

ที่ผ่านมา เราจะเอาพวกของใช้ส่วนตัวที่ถือว่าเป็นของเหลวใส่ภาชนะบรรจุภัณฑ์เล็ก ๆ สำหรับใช้เวลาเดินทาง ใส่ในถุงซิปอีกที ก็มักจะผ่านเครื่องแสกนได้ปกติไม่ถูกเรียกตรวจ แต่มีครั้งนึงค่ะ ที่ลืมเอาขวดโลชั่น ที่เกิน 100 ml ไปด้วย ก็ถูกจนท. ขอเปิดกระเป๋า ตอนแรกก็งง  ๆ ว่า ไม่ได้มีอะไรที่ผิดนะ พอเปิดกระเป๋ามาถึงรู้ว่า ขวดโลชั่นขวดใหญ่นี่เอง ที่ทำให้ จนท.แสกนเห็นว่าเราน่าจะมีของที่เกิน 100 ml มาด้วย

ที่บ้านก็มี CK ขวด 100 ml อยู่เหมือนกันค่ะ ไม่แน่ใจว่า มีแบบขวดใหญ่กว่านี้รึเปล่า :D  

เสียดายน้ำหอม เททิ้งซะงั้น T_T

เราเอาของเหลวทั้งหมดใส่ในถุงพลาสติกชิปเล็ก และว่างในกระปะ ยังไม่ต้องใส่กระเป๋า ให้เขาเห็นและตรวจค่ะ ก็ผ่านนะ

เคยต้องทิ้งโฟมล้างหน้าเหมือนกันค่ะที่สนามบินออสโล

แต่ขาไปผ่านสนามบินสุวรรณภูมิไปได้ไงไม่รู้

ของเหลวต่างๆที่ห้ามนำขึ้นเครื่องโดยนับตามบรรจุภัณฑ์(ฉลากข้างขวด)ให้มีปริมาณขวดละ 100 มล.และไม่เกิน 10 ขวด ค่ะ