สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวบลู  กลับมารีวิวต่อให้เสร็จสำหรับทริปลองของ...ไปกับทัวร์เป็นอย่างงี้นี่เอง...เวียดนามกลาง (เว้-ฮอยอัน-ดานัง) 5 วัน 3 คืน อันแสนสนุกสนานปนเปไปกับความทุกข์ระทมในการเดินทาง  สำหรับรีวิวครั้งที่แล้วเป็นการเดินทางในวันที่ 3 ตามโปรแกรม จบลงที่"เมืองฮอยอัน"ด้วยความเร่งรีบที่ต้องไปทำงาน  ยังไม่ทันได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮอยอันมาให้ได้รับชมกันเลย  วันนี้ก็เลยอยากจะมารีวิวภาคต่อสำหรับส่วนที่เหลือของวันที่ 3 ของทริปนี้ให้เสร็จ  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปเที่ยวกันต่อเลยล่ะกันนะครับ

ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากนั่งรถบัสออกจาก"เมืองเว้" มุ่งหน้าสู่ "เมืองฮอยอัน"  แวะเที่ยว -เจดีย์วัดเทียนมู่-นครจักรพรรดิ์-สุสาานไดดิงห์-แวะช๊อปปิ้งไข่มุก-แวะช๊อปปิ้งหินอ่อนแกะสลัก แล้วคณะของเราก็มาถึง"เมืองฮอยอัน"ฉันรักเธอ ในเวลาประมาณสามโมงเย็น  มีเวลาที่จะเที่ยวชมแบบเร่งรีบกันสองชั่วโมงโดยประมาณ

ประวัติความเป็นมาของ"เมืองฮอยอัน"  ข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki ขอบคุณมากนะครับ

เมืองฮอยอัน (เวียดนาม: Hội An) เป็นเมืองขนาดเล็กริมฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกว่างนาม มีประชากรอาศัยอยู่ราว 80,000 คน ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในสมัยของอาณาจักรจามปา บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในปี พ.ศ. 2542 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผลว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ และอาคารต่างๆภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี

ทุกวันนี้ ฮอยอันยังคงเป็นเมืองขนาดเล็กเช่นเดิม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเป็นจำนวนมาก ผู้มาเยือนมักมาเยี่ยมชมร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม ริมฝั่งแม่น้ำมีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารเปิดเรียงรายอยู่มากมายซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าใช้บริการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่มีอยู่มากมาย

อนึ่ง..เมืองฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 23 เมื่อปี พ.ศ. 2542 ที่เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก

นั่นเป็นประวัติโดยคร่าวของ"เมืองฮอยอัน" กลับมายังโปรแกรมทัวร์ของคณะเรา  ก่อนที่จะรถจากรถบัสเพื่อเดินเท้ากันไปชมเมืองเก่าฮอยอันนั้น ทางไกด์ของเราก็บอกถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมืองฮอยอันให้ได้รับรู้กันไว้ก่อน  โดยสรุปแล้วสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเมืองฮอยอันก็มีอาทิเช่น  สมาคมฟุกเกี๋ยน (Phouc Kien Assembly Hall)-สะพานญึ่ปุ่น (Japanese Covered Bridge)-บ้านเลขที่ 101 (Old House No.101)และแม่น้ำทูโบน เป็นต้น  จากนั้นก็ลงจากรถบัสเดินตามกันไปเป็นขบวนมุ่งหน้านสู่ สมาคมฟุกเกี้ยน เป็นสถานที่แรก

สำหรับการมาเที่ยวชมเมืองฮอยอัน สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ การซื้อบัตรเข้าชมเมืองเก่าบริเวณหัวถนนตรันฝู ภายในบัตรนั้นคุณสมารถเข้าชมได้ 5 สถานที่ภายใน 1 วัน จะเลือกเดินเท้าเข้าชมเมือง เช่าจักรยาน หรือใช้บริการของสามล้อถีบก็ได้เช่นกัน เนื่องจากฮอยอันเป็นเมืองเล็กๆ มีถนนสายหลักเพียงไม่กี่เส้น ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็เที่ยวครบแล้ว

ผ่านบ้านเรือนทรงโบราณที่อนุรักษ์รูปแบบดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่จะประกอบกิจการค้าขายของที่ระลึก รูปภาพวาด หรือไม่ก็เป็นร้านกาแฟเก๋ๆ หรือร้านอาหารที่น่านั่งเล่นชิลๆ

ร้านกาแฟร้านนี้น่านั่งมากๆ

เดินมาได้สักห้านาทีก็ถึงแล้วครับสำหรับ สมาคมฟุกเกี๋ยน (Phouc Kien Assembly Hall)

สมาคมฟุกเกี๋ยน (Phouc Kien Assembly Hall) ตั้งอยู่ที่ถนนสายตรันฝู นอกจากจะเป็นศูนย์กลางของการเที่ยวชมเมืองโบราณฮอยอันแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในช่วงปี พ.ศ.2388-2428 จะเห็นได้จากบ้านเก่าแก่ประจำตระกูลกว่า 20 หลัง ตลอดจนจั่วฟุกเกี๋ยนที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2335 ซึ่งถือเป็นสามคมชาวจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน ใช้สำหรับเป็นที่พบปะของคนหลายรุ่นที่อพยพมาจากฟุกเกี๋ยนที่มีแซ่เดียวกัน และยังใช้เป็นที่ระลึกถึงถิ่นกำเนิดและบูชาบรรพบุรุษของตน

ภายในยังเป็นที่ตั้งของวัดที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับลัทธิของพระนางเทียนเห่า มีจุดเด่นอยู่ที่งานไม้แกะสลัก ลวดลายสวยงามน่าชม

ส่วนใหญ่ในทริปนี้ พวกเราสามคนที่มาด้วยกันไม่ค่อยได้ฟังคำบรรยายและบอกเล่าเรื่องราวและประวัติต่างๆ ของแต่ละสถานที่ที่ไปสักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่เก็บภาพตามมุมต่างๆ กว่าจะตามกลุ่มทันก็จบการบรรยายกันไปแล้วสักทุกที

หลังจากเข้าไปกราบไหว้สักการะศาลเจ้าแม่เทียนเห่ากันแล้ว ก็รวบร่วมเงินกันทำบุญด้วยการจุดธูปวงถวายเจ้าแม่ฯ

ธูปวงจำนวนมากถูกแขวนเรียงรายกันเต็มไปหมดทั้งศาลเจ้า

ด้านหลังรูปปั้นเจ้าแม่เทียนเห่า ก็ยังมีรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ ประดิษฐานไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ทำการสักการะกันอีกด้วยนะครับ

สระน้ำเล็กๆ มีรูปปั้นมังกรตัวใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสระ

โมเดลจำลองเรือสำเภาโบราณ ภาษาจีนอ่านกันไม่ออกแต่น่าจะมีความหมายดีๆ  ใครทราบแปลให้หน่อยนะครับ

หลังจากเต็มอิ่มกับ"สมาคมฟุกเอี้ยน"กันในเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง  คณะของเราก็ออกจากที่นี่  เดินเท้าไปกันต่อจุดหมายปลายทางต่อไปก็คือ บ้านเลขที่ 101 (Old House No.101) ระยะทางประมาณครึ่งกิโลเมตร ผ่านร้านค้าต่างๆ มากมาย

วิถีชีวิตตามปรกติของชาวเมืองฮอยอัน ซึ่งขาดไม่ได้กับการนั่งทานอาหารเส้นที่เรียกว่า "เฝอ"

เดินเลี้ยวลดคดเคี้ยวกันไปเรื่อยๆ ผ่านบ้านเรือนร้านค้าสองข้างทาง ได้แต่เมียงมองเมื่อเดินผ่าน ไม่กล้าแวะเดี๋ยวหลงทัวร์ล่ะจะยุ่ง...ยิ่งโดนกาหัวอยู่ว่าเป็นคนชอบรั้งท้าย

ชอบสีของบ้านเรือนที่นี่จัง ให้ความรู้สึกแบบโบล้านโบราณจริงๆ

มาเที่ยวต่อครับพี่น้อย

ขอปาดขวาไว้ก่อนนะครับ  เดี๋ยวบ่ายๆเสร็จงานจะมาเก็บรายละเอียดคร้าบ..

ยินดีต้อนรับครับคุณ One Light One Shadow
.................................................................................................
ถึงแล้วครับ บ้านเลขที่ 101 (Old House No.101)

ไปเที่ยวกับคุณน้อยต่อนะคะ

ยินดีต้อนรับครับคุณ nerve-racking
.................................................................................................
เสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเยือนเมืองฮอยอันก็คือ การได้เข้าไปเยี่ยมชมบ้านประจำตระกูลเก่าแก่ที่ยังคงงดงาม มีให้เลือกชมอยู่หลายหลัง แต่คุณสามารถเลือกเข้าชมได้เพียงหนึ่งหลังจากบัตรเข้าชม นอกเหนือจากนี้คุณจะต้องจ่ายค่าเข้าชมในบ้านแต่ละหลังเอง เริ่มตั้งแต่ถนนตรันฝู ที่ตั้งของบ้านเลขที่ 77 ซึ่งเป็นบ้านของลูกหลานชาวจีนเก่าแก่อายุเกือบ 80 ปี ซึ่งอยู่อาศัยมาถึง 6 รุ่นแล้ว ภายในใช้เครื่องไม้ประดับตกแต่งอย่างงดงาม ถัดมาที่ถนนเหวียนไทฮ็อก ที่ถือว่าเป็นศูนย์รวมของสถาปัตยกรรมแบบฮอยอัน บนถนนสายนี้มีบ้านประจำตระกูลเก่าแก่ให้เลือกเข้าชมทั้งหมด 3 หลังด้วยกัน เริ่มจากบ้านเลขที่ 22 บ้านเก่า 2 ชั้น ของชาวจีนที่เข้ามาติดต่อเพื่อซื้อขายอบเชย สร้างมาเกือบ 90 ปีแล้ว ภายในแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ บ้านไม้และบ้านปูนเก่าสร้างอย่างประณีต เป็นครอบครัวใหญ่ที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้และที่คุณพลาดไม่ได้คือ บ้านเลขที่101 เป็นบ้านของจีนในตระกูล Tan Ky นับเป็นบ้านไม้ที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดของเมืองฮอยอัน สร้างขึ้นมาเมื่อ 75 ปีที่แล้ว และอยู่กันมา 5 ชั่วอายุคน ภายในแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว ตั้งแต่ ห้องสมุดสมัยก่อน ห้องรับแขก และห้องครัว

แต่ผมไม่ได้ถ่ายภาพในหรือเก็บรายละเอียดใดๆ ของที่นี่ไว้เลยนะครับ  เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมากมายจริงๆ  ได้แค่เดินผ่านจากหน้าบ้านทะลุออกไปหลังบ้านใช้เวลาอยู่ในบ้านหลังนี้ยังไม่ถึงสองนาทีแค่นั้นเอง...555   ซึ่งหลังจากเดินทะลุ"บ้านเลขที่ 101"(เอ๋..เลขนี้มันคุ้นๆ นะ) ก็จะเจอกับ "แม่น้ำทูโบน"แล้วครับ

ยินดีต้อนรับครับคุณบง Yai Klong_Tour Rai
.................................................................................................
แม่น้ำทูโบน (Thu Bon River) เป็นแม่น้ำสายนี้มีความสำคัญตั้งแต่สมัยครั้งโบราณ ก่อนที่ฮอยกันยังเป็นเมืองท่าสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชาวต่างชาติจำนวนมากล่องเรือเข้ามาททำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่เมืองแห่งนี้ ทำให้ฮอยอันเป็นเสมือนศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก

แต่ภายหลังที่แม่น้ำเริ่มตื้นเขิน เรือเดินสินค้าไม่สามารถมาจอดเทียบท่าได้ เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ฮอยอัน แต่อย่างไรก็ดี สายน้ำทูโบนแห่งนี้กลับมิได้สูญหายไปพร้อมกาลเวลา แต่ยังคงทำหน้าที่หลักไหลหล่อเลี้ยงชาวฮอยอันอยู่เรื่อยมา เห็นได้จากชาวบ้านที่ยังคงออกหาปลาในแม่น้ำ และใช้แม่น้ำสายนี้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาหาสู่กันระหว่างสองฟากฝั่งน้ำ

การได้มาเดินเที่ยวชมริมแม่น้ำทูโบน จึงเต็มแด้วยเสน่ห์ของกาลเวลาที่เชื่อมต่อระหว่างอดีตและปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่บ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลมรดกตกทอดริมฝั่งแม่น้ำทูโบน หมู่บ้านชาวประมงที่หาดูได้ยาก ศิลปะที่ผสมผสานที่แสดงผลงานศิลปะไว้ภายในเรือ ตลอดจนร้านอาหารสองบรรยากาศที่มีให้คุณเลือกสรรทั้งร้านขายน้ำผลไม้แบบเรียบง่ายริมฝั่งแม่น้ำ หรือร้านอาหารสมัยใหม่หลายสัญชาติที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม และถ้าคุณต้องการสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสายน้ำทูโบนอบ่างใกล้ชิดแล้ว ก็มีบริการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์และวิถีริมฝั่งน้ำให้คุณเลือกใช้บริการเช่นกัน  (ข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ มาจาก http://www.oceansmile.com บริษัททัวร์ดีที่เราไปมา...แนะนำครับ)

เหนื่อยนักพักสักหน่อย หลังจากเร่งรีบเดินตามคณะทัวร์ให้ทัน

ชื่อถนนและสัญลักษณ์มรดกโลก

จากมุมถนนนั้นเดินมาอีกแค่ไม่กี่ร้อยก้าวก็ถึงแล้วครับ "สะพานญี่ปุ่น"

สะพานญึ่ปุ่น (Japanese Covered Bridge)  สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองฮอยอันที่คุณต้องมาชมคือ สะพานญี่ปุ่น ได้รับการก่อสร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว รูปทรงโค้งของสะพานและหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่น

ภาพสวยดีแต่นางแบบสวยกว่าครับ

ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัสที่สร้างอุทิศให้แก่ดั๊กเดและตรันหวู ก่อนเดินข้ามสะพานด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นสุนัขกำลังนั่ง และเมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอกับลิงอีกตัว นับเป็นสิ่งที่ช่างสมัยก่อนแสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้

ยินดีต้อนรับครับคุณ dreamboom   ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวต้องไปบอก ผบทบ.สักหน่อยว่ามีคนชมคงนอนไม่หลับไปหลายวัน...อิอิ
.................................................................................................
อีกมุมหนึ่งของ สะพานญี่ปุ่น หลังจากข้ามสะพานมาแล้ว

รำลึกความหลังที่ฮอยอันด้วยคนค่ะ

เมื่อข้ามสะพานมายังอีกฟากหนึ่งของเมือง คุณจะพบเห็นบ้านเรือนเก่าสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ตลอดจนร้านสไตล์อาร์แกลอรี่ริมถนนคนเดินสองฟากฝั่งถนนให้คุณได้เลือกซื้อเลือกชม

ยินดีต้อนรับครับคุณ hermione_jane
.................................................................................................
เอกลักษณ์ของบ้านไม้เก่าในฮอยอันอีกอย่างก็คือ ส่วนหน้าบ้านจะอยู่ติดกับถนนอีกสายหนึ่งและหลังบ้านจะอยู่ติดกับถนนอีกสายหนึ่ง บริเวณหลังบ้านจะยาวมาก ภายในตกแต่งด้วยไม้แกะสลักงดงาม และหน้าบ้านจะดัดแปลงมาเป็นร้านค้าขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว

ร้านแกะสลักจากต้นไม้และรากไม้

หนึ่งในหลายร้านอาร์ตแกลอรี่

ยังพอมีเวลาเหลือแวะซื้อของฝากฝังกันเสียหน่อย สินค้าที่นี่เป็นงานศิลปะหัตถกรรม อาทิ กระเป๋าดินสอ กระเป๋าสตางค์ โคมไฟ และอื่นๆ อีกมากมาย

เวลาเริ่มเย็นท้องถนนก็เริ่มโล่งเพราะนักท่องเที่ยวทยอยกันกลับ บรรยากาศแบบนี้ค่อยเข้ากันหน่อยกับเมืองโบราณแบบนี้

ไปด้วยครับ สะพานญี่ปุ่นนี่มันดูขลังจิงๆพี่น้อยๆ

หลังจากเลือกซื้อของฝากกันจนจุใจแล้วก็เดินไปยังจุดนัดพบซึ่งรถบัสรอรับคณะของเราอยู่  ระหว่างทางจะเห็นป้ายโฆษณาเมืองฮอยอันตั้งอยู่ริมทางเดินด้วย

เมืองเก่า คลาสสิคมากเลยค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยนะคะ ^^

ยินดีต้อนรับครับคุณ Coffee Blended  ใช่เลยคุณกาแฟแต่เสียดายน้ำในห้วยน้อยไปหน่อยนะ
................................................................................................
เมื่อคณะลูกทัวร์ขึ้นรถกันมาจนครบแล้ว คณะของเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่"เมืองดานัง" ระยะทางประมาณสี่สิบกว่ากิโลเมตร(ถ้าตัวเลขผิดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ) ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงถึงสี่สิบนาที  จุดหมายต่อไปก็คือไปกินข้าวเย็นกัน ก่อนที่จะเข้าสู่เมืองดานังเพื่อเข้าโรงแรมที่พัก

สวยมากครับ  ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

ยินดีต้อนรับครับคุณ P r i m t a a  ถูกต้องเลยครับ เสียดายเพราะไปกับทัวร์ก็เลยไม่มีเวลาละเลียดกับความเป็นเมืองเก่า และเข้าไม่ถึงความเป็น"ฮอยอัน"  อย่างน้อยน่าจะมีเวลาอยู่ที่นี่สัก 2 วัน 1 คืนเป็นอย่างต่ำ   ไม่เป็นไรเดี๋ยวครั้งหน้าแบกเป้ไปอยู่ที่นี่กันอีกครั้ง
................................................................................................
อาหารเย็นมื้อนี้เป็นอาหารซีฟู๊ดอย่างดี (แต่รสชาติสู้เมืองไทยไม่ได้...อันนี้Confirm)  เมื่อกินอาหารเย็นกันเสร็จก็มุ่งหน้าสู่โรงแรม  หลังจากได้ห้องพักกันจนครบแล้วก็ตัวใครตัวมันตามอัธยาศรัย  พวกผมวางแผนกันไว้ว่าคืนนี้จะออกไปเดินเล่นชิลๆ รับรู้บรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองดานังกันเสียหน่อย  เมื่อได้เวลาพวกเราก็ออกไปตลุยเมืองดานังกันด้วยสองเท้าที่ยังพอมีแรงก้าวเดินกันต่อไป...สู้เค้านะไอ้มดแดง

บ้านเมืองเค้าดูสงบดีนะครับ ไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่

ยินดีต้อนรับครับคุณเล็กทาโร่
.................................................................................................
บรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองดานังคึกคักกันพอสมควร มีร้านอาหาร ผับและบาร์อยู่กันประปราย

ยินดีต้อนรับครับคุณ Koon Shy_Tour Dee  
.................................................................................................
ร้านกาแฟร้านนี้น่านั่งดี อยู่มุมถนนพอดี

ที่นี่เป็นทั้งร้านกาแฟและโรงแรม

พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆ จนถึงสะพานแห่งนี้ สีสันสวยดี

ขอถ่ายรูปคู่ไว้เป็นที่ระทึกเสียหน่อย นานๆ จะมีที

จากนั้นก็เดินเลียบๆ เคียงๆ กันไปใต้สะพาน  สะพานของที่เวียดนามนิยมชมชอบที่จะสร้างสีสันด้วยการประดับไฟและเปลี่ยนสีสันให้ดูสวยงามกันจัง  สะพานของเมืองดานังแห่งนี้ก็สามารถเปลี่ยนสีได้เหมือนสะพานที่เมืองเว้เช่นกัน

เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอีกแว๊ว

กับสีม่วงของสะพานและวิวกว้างๆ ของแม่น้ำเมืองดานัง

ห้องอาหารนี้เป็นภัตตาคารและผับหรู อยู่ริมแม่น้ำเลยครับ

ชื่อตามนี้เลยครับ ถ้าใครได้แวะไปที่เมืองดานังแล้วอยากไปลองสัมผัสบรรยายดีๆ ดู

แต่สำหรับพวกเรายังหรูน้อยไป  มันต้องอย่างงี้ถึงจะเรียกว่ามีระดับและเข้าถึงเวียดนาม

ยามค่ำคืนอย่างนี้ก็ยังมีวิถีชีวิตชาวบ้านมาให้ได้เห็นอีกด้วย

ที่นี่แหละครับที่พวกเราเจอดีของชาวเวียดนามกันแบบเบาะๆ  เบียร์กระป๋องยี่ห้อหัวเสือซึ่งปกติขายกันตามร้านค้าทั่วไปกระป๋องละไม่ถึงยี่สิบบาท แต่ที่นี่คิดกระป๋องละประมาณสี่สิบบาท..สบายใจไทยแลนด์  แถมคุยสื่อสารกันไม่รู้เรื่องอีกด้วย..ก็สนุกกันไปอีกแบบ

นอนหลับสบายดีไหมครับ  ผมว่าที่นี่ใช้แตรคุ้มมา  ที่แปลกคือ สี่แยกไม่มีไฟแดง แต่เค้าก็ยังขับรถโดยไม่ชนกันได้

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตในการท่องเที่ยว...

ยินดีต้อนรับครับคุณ maxxx123  ก็นอนหลับสบายดีนะครับเพราะไปกับทัวร์เรื่องที่นอนและการกินก็เลยไม่ค่อยมีปัญหา  ส่วนเรื่องการจราจรและเสียงแตร ผมว่ามันเป็นของคู่กันไปแล้วสำหรับเวียดนาม  แรกๆ ก็ตกกะใจแต่พอผ่านไปก็ชินครับ
.................................................................................................
นั่งจิบเบียร์ชมวิวและก็ตบยุงกันประมาณสองชั่วโมง ก็ได้เวลากลับไปนอนกันเสียที พวกเราเดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ เพื่อกลับโรงแรม

ผ่านเรือท่องเที่ยวที่จอดทอดสมออยู่ริมตลิ่ง  เสียดาย..ทริปนี้ที่เมืองดานังไม่มีการนั่งเล่นล่องแม่น้ำชมวิวเมืองเหมือนตอนอยู่เมืองเว้

เมื่อถึงห้องพักก็นอนหลับสนิทไปด้วยความอ่อนเพลีย จบไปแล้วอีกวันสำหรับการเดินทางอันยาวไกลในเวียดนามกลางแห่งนี้  แล้วพบกันใหม่ในรีวิวตอนจบของทริปนี้นะครับ สำหรับวันนี้โชคดีไม่เจ็บไม่จนกันทุกท่านนะครับ สวัสดีครับ

ห้องอาหารริมน้ำดูบรรยากาศดีนะครับ

อาคารบ้านเรือนก็คลาสสิคมากกก

รอชมตอนจบนะครับ

พาแม่พาน้าไปเที่ยว ไปกะทัวร์หรือไปเองแบบไหนดีกว่ากันครับพี่?

ตามมาชมต่อครับ

@  สวยจังเลยครับ .. เห็นภาพตอนกลางคืนแล้ว
    นึกถึงร้านส้มตำริมน้ำเจ้าพระยาครับ

ตามมาเที่ยวต่อครับ  ภาพสวยจังเลย

มาเที่ยวอีกค่ะ สนุกดี รีวิวสวยมาก  ให้กิฟท์แทนคำขอบคุณนะคะ  

รูป คห.ที่ 61  ได้ปลาหมึกปิ้งซัก 20 บาท คงแหล่มเนอะ

ฮอยอัน...ฉันรักเธอ
รอชมตอนจบนะคะ

เข้ามาเที่ยวต่อค่ะ  เวียตนามสวยกว่าที่คิด^_^

สะพานเมืองดานังตอนกลางคืนนี่สวยมากเลยครับ

:D รูปสวยและให้ข้อมูลดีมากเลยครับ

ภาพสวยมากค่ะ ชอบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

ภาพสวยมากครับ อยากไปเที่ยวมั่งจัง

ขอบคุณนะครับทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
-ยินดีต้อนรับครับคุณ Koon Shy_Tour Dee
-ยินดีต้อนรับครับคุณ เขียนบน iPhone (Cherry-Lipz)  ถ้าไปกับครอบครัวมีผู้ใหญ่ไปด้วยแนะนำให้ไปกับทัวร์ครับ แต่นั่งเครื่องบินไปนะครับไม่แนะนำนั่งรถบัสไปแบบพวกผม
-ยินดีต้อนรับครับคุณ คุณชายชอบเที่ยว
-ยินดีต้อนรับครับคุณ MRBIG173
-ยินดีต้อนรับครับคุณ tiger's nest
-ยินดีต้อนรับครับคุณ สาวหน้าใส  ขอบคุณนะครับสำหรับกิฟ
-ยินดีต้อนรับครับคุณ นู๋หวานซ่าแสบ ...555
-ยินดีต้อนรับครับคุณ Memories pink
-ยินดีต้อนรับครับคุณ ชอบกินชอบเที่ยว
-ยินดีต้อนรับครับคุณ Destiny-Boy
-ยินดีต้อนรับครับคุณ วัชเจียเหว่ย
-ยินดีต้อนรับครับคุณ Salmon Lover
-ยินดีต้อนรับครับคุณ ม่วงมหากาฬ

ตามไปเที่ยวกันต่อในรีวิววันที่ 4 ของทริปนี้นะครับ

ทริปลองของ...ไปกับทัวร์เป็นอย่างงี้นี่เอง..เวียดนามกลาง (เว้-ฮอยอัน-ดานัง) วันที่ 4

มาเที่ยวเวียดนามด้วยคนค่ะ .... บ้านเมืองเค้าน่ารักจัง

... ภาพสวยจังค่ะ ...