สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวบลูทุกท่าน  อาทิตย์นี้ว่างไม่มีธุระก็เลยรีบมานั่งรีวิวภาคต่อสำหรับทริปท่องเที่ยวเวียดนามกลางในครั้งนี้  กลัวว่าเดี๋ยวจะมีงานเข้ามาแล้วจะไม่มีเวลามานั่งรีวิวจนจบ  สำหรับรีวิวครั้งนี้จะเป็นการท่องเที่ยวในวันที่ 4 ของทริปนี้

โปรแกรมสำหรับวันที่ 4 นี้ ก็มีดังนี้
-ตื่นตีห้า กินอาหารเช้าหกโมง และก็เริ่มออกเดินทางในเวลาเจ็ดโมง
-มุ่งหน้าสู่ บาน่าฮิลล์ ขึ้นกระเช้าเพื่อไปชมความงานของทะเลจีนใต้ โดยมีเวลาเที่ยวชมประมาณ 2 ชั่วโมง
-เดินทางมุ่งหน้าสู่"เมืองเว้" แวะกินอาหารเที่ยงแบบซีฟู๊ดและช๊อปปิ้งร้านจำหน่ายไข่มุก
-เดินทางเข้าสู่ "เมืองเว้" พาไปช๊อปปิ้งที่ "ตลาดดงบา" ให้ท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยตามอัธยาศรัยในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
-เดินทางเข้าสู่ที่พัก(โรงแรมกรีนแบมบูเว้) เวลาอิสระรอเวลาเดินทางไปกินอาหารเย็นที่ห้องอาหารเวียดนาม
-อิสระตามอัธยาศรัย (บางคนอาจจะไปดูหุ่นกระบอกน้ำ หรือบางคนก็ไปช๊อปปิ้งที่แหล่งช๊อปปิ้งในเมืองเว้)
-กลับมาพักผ่อนเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านในวันรุ่งขึ้น

ตื่นตั้งแต่ตีห้าด้วยเสียงตามสายที่ดังขึ้นตามกำหนดเวลา  เปิดผ้าม่านเพื่อชมความงามริมฝั่งน้ำของเมืองดานัง

มองลงไปด้านล่างเห็นรถบัสของคณะทัวร์เรามาจอดริมถนนแล้ว ..ตรงเวลาดีจริงๆ

รีบอาบน้ำแต่งตัว เตรียมลงไปกินอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร มองท้องฟ้ามีเมฆครึ้มๆ สงสัยวันนี้อากาศคงไม่แจ่มใสแน่ๆ เลย

ไม่ได้ตื่นแต่เช้าขึ้นมาชมแสงสีทองของท้องฟ้าแบบนี้นานแสนนานแล้ว...เป็นบุญตาจริงๆ

พร้อมเริ่มต้นกับวันใหม่ของชาวเรือดานัง

หลังจากลงไปกินข้าวเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ก็กลับขึ้นมาบนห้องเพื่อนำสัมภาระลงไปที่ล๊อบบี้เตรียมตัวเดินทางต่อ ช่วงนี้พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นพ้นขอบฟ้าแล้ว

ตามมาชมภาพสวย ๆ ต่อครับ

จากนั้นพวกเราก็นำสัมภาระลงไปรอคณะที่ล๊อบบี้ด้านล่าง ซึ่งยังมีอีกหลายกรุ๊ปที่ยังไม่ลงมาก็เลยพอมีเวลาที่จะถ่ายรูปเล่นด้านนอกกัน  

โรงแรมที่คณะของเราพักกันเมื่อคืนนี้  ทริปนี้ใช้บริการของโรงแรมในเครือ Green Hotel ทั้งเมืองเว้ และเมืองดานัง

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ  ตาเสือขยันจังวุ้ย  

ยินดีต้อนรับครับคุณ tiger's nest
.................................................................................................
มารู้ประวัติของเมืองดานัง Danang กันบ้างนะครับ
ดานังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ระหว่างกรุงฮานอย(ภาคเหนือ)กับกรุงโฮจิมินท์(ภาคใต้)  เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของเวียดนามตอนกลาง มีโรงงานอุตสาหกรรม และเป็นเมืองท่าสำคัญ

ยินดีต้อนรับครับคุณเล็กทาโร่
.................................................................................................
เมืองดานังเป็นเมืองท่าและเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาแต่อดีต ตั้งแต่สมัยฝรั่งเศสส่งกองเรือมาขึ้นฝั่งที่ดานังเพื่อยึดเวียดนามในเดือนสิงหาคม ค.ศ 1855 และตั้งชื่อเมืองว่าเมืองตูราน (Tourane) และในสมัยสงครามเวียดนาม กองทัพสหรัฐก็นำนาวิกโยธินจำนวน 3,500 นาย ยกพลขึ้นบกครั้งแรกที่นี่เพื่อปลดแอกเวียดนาม ให้รอดพ้นจากพวกเวียดกง หรือกองกำลังจากเวียดนามเหนือ พร้อมตั้งฐานทัพขนาดใหญ่และเป็นกำลังหลักในสมัยสงครามเวียดนาม ประกอบด้วยนาวิกโยธินและพลเรือนจำนวนหลายแสนคน   ปัจจุบันดานังกำลังได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน และอีกไม่นานเราก็จะเห็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่เกิดขึ้นที่นี่

ตำแหน่งที่ตั้งของเมืองดานัง  ตั้งอยู่ที่ตำแหน่งละติจูดที่ 15°55' ถึง 16°14' องศาเหนือ และลองจิจูดที่ 107°18' ถึง 108°20' องศาตะวันออก ทิศเหนือติดกับเมืองเว้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของเวียดนาม ทิศตะวันตกและทิศใต้ติดกับจังหวัดกว่างนาม ทิศตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางใต้ 764 กิโลเมตร และห่างจากโฮจิมินห์ซิตีไปทางเหนือ 964 กิโลเมตร

ผมเดินข้ามฝั่งจากโรงแรมไปยังลานคนเดินริมแม่น้ำเลียบถนน  ผมชอบที่นี่จังเพราะดูแล้วสะอาดสะอ้านน่าเดินเล่นออกกำลังกายตอนเช้าและตอนเย็น  บรรยากาศก็ดูสดชื่นน่านั่งเล่นอ่านหนังสือหรือออกมานั่งเสวนากันมาก

เรือลำนี้ที่เห็นจากด้านบนห้องพัก พร้อมเรือกระจาดที่มีที่นี่แห่งเดียว

สักพักเจ้าของเรือก็ลงไปนั่งบนเรือกระจาดแล้วก็ดึงเชือกให้เรือเข้าฝั่ง

เรือกระจาดเป็นอย่างงี้นี่เอง

ตามไปทุกกระทู้ อิอิ

สังเกตว่ากำลังมีการก่อสร้างอาคารริมน้ำหลายๆ แห่ง อีกไม่นานเมืองดานังคงจะเจริญและก้าวไกลไปกว่านี้แน่ๆ

ยินดีต้อนรับครับคุณ hermione_jane  ขอบคุณนะครับ
.................................................................................................
ก็จะขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้าไปขึ้นกระเช้าที่"บาน่าฮิลล์" ให้ดูโรงแรมที่พักแบบเต็มๆ ใหญ่โตใช้ได้เลยครับ

ถนนมุ่งหน้าสู่"บาน่าฮิลล์"ช่วงแรกเป็นถนนเลียบทะเล วิวทิวทัศน์สวยงามมากเลยครับ

วิวริมแม่น้ำสวยมากๆครับ พี่น้อย

ผ่านถนนเลียบทะเลก็วิ่งเข้าสู่ถนนที่วิ่งผ่านไร่นาของชาวเมืองดานัง ช่วงนี้รวงข้าวกำลังเขียวขจีสวยงามทีเดียวเลยครับ

ยินดีต้อนรับครับคุณ One Light One Shadow  ใช่ละครับดูดีมากๆ เลยครับ
.................................................................................................
แล้วก็วิ่งเลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามขุนเขา จากนั้นไม่นานก็ถึงแล้วครับ "บาน่าฮิลิล์"

เมื่อจอดรถแล้วคณะทัวร์ของเราก็เดินตามกันไปเป็นขบวน มุ่งหน้าสู่อาคารขึ้นกระเช้า ผ่านเสาต้นนี้ที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของที่นี่

คณะลูกทัวร์เข้าไปรอด้านในอาคารเพื่อรอเวลาขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปชมวิวสวยๆ บนยอดเขา  ระหว่างรอก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ  อันนี้คือชิ้นส่วนสำคัญของกระเช้าไฟฟ้า

จากนั้นไม่นานก็ถึงเวลาขึ้นกระเช้ากันสักที  การนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาที่ บาน่าฮิลล์ นี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ซึ่งช่วงแรกระยะทางจะค่อนข้างไกลกว่าช่วงที่สอง และกระเช้าก็ใหญ่กว่าสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นเที่ยวบนยอดเขาได้มากกว่า (บรรทุกได้ประมาณ 8 คน)

ขึ้นไปแรกๆ ก็เกร็งกันพอสมควร  สังเกตจะสีหน้าของเพื่อนของผมสิครับ...ดูกังวัลยังงัยไม่รู้

แต่นั่งไปเรื่อยๆ ก็เริ่มชิน  หันมาฉีกยิ้มกันได้เต็มปาก
ปล.น้องที่ใส่เสื้อสีม่วงเป็นไกด์คนหนึ่งของบริษัททัวร์ครับ ต้อนรับขับสู้ได้ดีทีเดียว ขอบคุณมากนะจ๊ะ)

ภาพที่ถ่ายจากบนกระเช้าเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มองเห็นทะเลจีนใต้ได้อย่างสวยงามมากเลยครับ

ช่วงแรกที่ขึ้นมาอาจจะเป็นเพราะยังไม่สูงมากนัก ลมก็เลยยังไม่แรงมาก ก็ยังคงคุยเล่นหยอกล้อกันเป็นที่สนุกสนาน

แต่พอวิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ลมก็เริ่มพัดแรงขึ้น กระเช้าก็เริ่มแกว่งไปมาไม่หยุดนิ่ง  เสียงที่เคยเจี๊ยวจ๊าวกันก็เริ่มเงียบกันอีกครั้ง

ตามไปด้วยครับ ภาพสวยขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ

ในช่วงแรกใช้เวลาในการนำพาพวกเราขึ้นบนยอดเขาประมาณสิบห้านาที  แล้วก็มาถึงอาคารพักช่วงแรก...รอดตายแล้วพวกเรา

ยินดีต้อนรับครับคุณม่วงมหากาฬ  ขอบคุณครับ
.................................................................................................
จากนั้นพวกเราต้องเดินไปอีกอาคารเพื่อไปนั่งกระเช้าอีกช่วงขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้  แต่ก่อนที่จะไปหวาดเสียวกันต่อขอสูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อปรับสภาพร่างกายและจิตใจ  อากาศบนยอดเขานี้ลมพัดแรงมาก เย็นดีครับแตกต่างกับด้านล่างโดยสิ้นเชิง

อาคารขึ้น-ลงช่วงแรกของกระเช้าบาน่าฮิลล์

ตามมาเที่ยวเมืองเว้ต่อ
รีวิวนี้ละเอียดดีมากจริงๆ
ถือว่าเป็นข้อมูลที่ดีสำหรับผู้จะตามรอยเลยค่ะ

เมื่อพักกันจนหายเหนื่อย..ใจแล้ว  ก็เดินต่อไปยังอาคารอีกหลังเพื่อขึ้นกระเช้าช่วงที่ 2 มุ่งหน้าสู่ยอดเขากันทันที

ยินดีต้อนรับครับคุณ Memories pink  ถ้ามีประโยชน์ไม่มาก็น้อยก็ดีใจครับ
...............................................................................................................
ตั๋วโดยสารกระเช้าเรียกเก็บกันแค่ครั้งเดียวตอนขาขึ้นมาจากด้านล่างนะครับ  ส่วนช่วงที่ 2 และตอนขาลงไม่เห็นเรียกดูตั๊วโดยสารเลยครับ (ส่วนราคาตั๋วโดยสารกระเช้าไม่ทราบนะครับว่าราคาเท่าไหร่เพราะทุกอย่างเป็นหน้าที่ของทัวร์ทั้งหมด ...นี่ก็เป็นข้อดีอีกอย่างที่มาท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์)  

กระเช้าไฟฟ้าช่วงที่ 2 นี้จะเล็กกว่าช่วงแรกเล็กน้อย มีรูปร่างกลมเกลียวไม่เป็นเหลี่ยมเหมือนกับกระเช้าช่วงแรก สามารถรองรับบรรทุกได้ประมาณ 6 คนนะครับ

ระยะทางสั้นกว่าช่วงแรกค่อนข้างเยอะ

ด้านบนยอดเขากำลังมีการก่อสร้างเพิ่มเติมห้องพักของโรงแรมบาน่าฮิลล์โมริม (Banahills - Morin Hotel)

รายละเอียดของโรงแรมบาน่าฮิลล์โมริม (Banahills - Morin Hotel) เป็นโรงแรมระดับ 4-ดาว มีห้องพักจำนวน 59 ห้อง (ในอนาคตอาจมีมากกว่านี้)ซึ่งได้รับการตกแต่งให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ห้องพักทุกห้องของที่นี่มี ห้องปลอดบุหรี่, เสื้อคลุมอาบน้ำ, โต๊ะเขียนหนังสือ, เครื่องเป่าผม, อินเทอร์เน็ตไร้สาย อยู่ภายในห้องพัก  โรงแรมแห่งนี้ รูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง, ร้านค้า, ห้องพักชั้นพิเศษ, คอฟฟี่ช็อป, บาร์/ผับ, บริการซักรีด/ซักแห้ง, ห้องประชุม, ไนท์คลับ โดยเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการชั้นยอด ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาและนันทนาการ เช่น บริการนวด, จาคุซซี, สโมสรสำหรับเด็ก, ห้องฟิตเนส, ซาวน่า โรงแรมที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้รับความนิยมมายาวนาน ทั้งจากผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวและมาติดต่อธุรกิจในเมืองดานัง (ข้อมูลจาก http://www.agoda.co.th)

พอออกจากอาคารขึ้น-ลงกระเช้า ลมพัดกระโชกแรงมากกว่าด้านล่างเสียอีก  เห็นบางคนไล่จับหมวกกันอย่างชุลมุน  อากาศดีแต่ก็หนาวกันพอสมควร  แต่วิวทิวทัศน์โดยรอบก็สวยกว่าด้านล่างเหมือนกันนะครับ

อาคารห้องพักของโรงแรมสไตล์ฝรั่งเศส...สวยงามแต่ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมเพราะเวลาไม่อำนวย

จากบริเวณอาคารขึ้น-ลงกระเช้าจะมีทางเดินลงไปชมสถานที่โดยรอบ  เมื่อลงบันไดก็จะเจอกับอาคารที่พักอีกหลังตั้งอยู่บนริมผา ดูโดดเดี่ยวแต่ก็เงียบสงบ

ตามมาเที่ยวค่ะ

ทะเลจีนใต้และวิวเมืองดานัง

ยินดีต้อนรับครับคุณ  Bpearl
.................................................................................................
จากมุมนี้จะเห็นองค์พระใหญ่ที่คล้ายกับที่ฮ่องกงแต่เล็กและงดงามน้อยกว่า(ตามความคิดส่วนตัวนะครับ)

เดี่ยวขอตัวพร้อมหัว..ไปทำอาหารให้คุณผู้หญิงกินก่อน แล้วจะกลับมาต่อในเวลาอันสั้นนี้

เดินลัดเลาะไปตามอาคารที่พักที่อยู่โดดๆ หลังนั้นไปนิดเดียวก็จะเจอกับสะพานแขวนที่ใช้เป็นเส้นทางข้ามช่องเขาไปอีกฝั่ง  แต่ผมไม่ได้เดินไปไกลกว่าสะพานแขวนนะครับ  เดี๋ยวกลับมาไม่ทันจะไม่งาม

ดานังสวยเหมือนกันเนอะ ได้แต่ผ่านไม่เคยแวะสักที
ขอบคุณค่ะ

กลับมารีวิวต่อแล้วครับ  
ภาพกว้างๆ อีกมุมหนึ่งก่อนที่จะรีบเดินกลับหลังจากพยายามมองหาลูกทัวร์คนอื่นๆ ไม่เห็นใครอยู่ใกล้ๆ เลย   ช้าไปตามระเบียบอีกแล้วพวกเรา...ไม่ยอมเสียคอนเซ็ปต์เลยสักครั้งเดียว...

พอเดินมาถึงอาคารขึ้น-ลงกระเช้าก็เจอกับไกด์สาวไทยอีกคน ยืนรอลูกทัวร์คนอื่นๆ อยู่ก็เลยเบาใจไปหน่อยไม่ได้ล้าช้าเพียงกลุ่มเดียว  หลังจากลูกทัวร์มากันครบก็เริ่มทยอยกันลงไปยังด้านล่าง

นี่ครับไกด์สาวไทยที่ใจเย็นมากมาย ชื่อ"น้องแป๋ว"ครับ ขอบคุณสำหรับบริการอันน่าประทับใจนะครับ

จากนั้นก็มาต่อยังกระเช้าที่จะใช้ลงไปยังด้านล่างจุดเดิมและความรู้สึกเดิมๆ...เสียวๆ

เกือบถึงอาคารด้านล่างแล้วครับ ช่วงที่คณะของเราลงมานี้จะสังเกตเห็นรถทัวร์และรถประชาชนท้องถิ่มมากันเต็มไปหมด  เพราะวันที่คณะของเรามายังที่นี่เป็นวันอาทิตย์ซึ่งก็เป็นวันหยุดตามปกติของชาวเวียดนามเหมือนกัน  คนก็เลยเยอะแยะไปหมด

หลังจากลงมาจากยอดเขาบาน่าฮิลล์  คณะของเรานั่งรถมุ่งหน้าเดินทางสู่ "เมืองเว้"

และแวะกินอาหารกลางวันแบบซีฟู๊ดกันที่นี่ "THANH TAM SEASIDE RESORT" ซึ่งเป็นทั้งรีสอร์ทที่พัก ห้องอาหารและสถานที่จำหน่ายของที่ระลึกประเภทไข่มุก อยู่ติดกับชายทะเลด้วยนะครับ

อาหารซีฟู๊ดที่นี่รสชาติไม่ค่อยถูกปากคนไทยสักเท่าไหร่  ฟังจากคำบอกเล่าของลูกทัวร์คนอื่นๆ บอกว่ายังงัยๆ ที่เมืองไทยก็อร่อยกว่า  หน้าตาอาจดูดีแต่รสชาติต้องปรับปรุงอีกนิด

ชายหาดที่นี่ก็ดูสะอาดและกว้างขวางดี แต่เสียดายไม่ได้ลงไปแตะน้ำทะเลสักนิดเดียว

เมื่อกินอาหารกลางวันกันเสร็จก็มีเวลาให้ลูกทัวร์ได้เดินย่อยและช๊อปปิ้งกันสักครู่ ใครอยากหาของฝากก็เดินไปยังอาคารข้างๆ หลังนี้ เผื่อจะได้ของติดไม้ติดมือมาบ้างก็ได้

เมื่อลูกทัวร์ทุกคนพร้อม รถก็เริ่มเดินทางต่อ ระยะทางจากที่นี่ไปยังเมืองเว้ประมาณร้อยกว่ากิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง ผ่านเส้นทางบนขุนเขา

ท้องทุ่งและท้องทะเล

หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

พวกเราหลับไปตั้งแต่รถออกจากห้องอาหารได้ไม่นาน  เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีจากเสียงอันนุ่มลึกของคุณลุงประเสริฐไกด์ชาวเวียดนามปลุุกให้ลูกทัวร์ได้รับรู้ว่า  ณ บัดนี้พวกเราได้เข้ามาอยู่ในเมืองเว้แล้วและกำลังจะถึง"ตลาดดงบา" ซึ่งอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้

หลังจากที่มาถึง"ตลาดดงบา" พวกเรามีเวลาช๊อปปิ้งที่ตลาดแห่งนี้อย่างเต็มที่จนถึงเวลาห้าโมงเย็น  ซึ่งขณะที่มาถึงเวลาเพิ่งจะแค่บ่ายสองโมงเอง ฉะนั้นพวกเราจึงมีเวลาตามอัธยาศรัยกันประมาณ 3 ชั่วโมง  
ปล.ร้านค้าส่วนใหญ่ในตลาดดงบารับทั้งเงินเวียดนาม เงินอเมริกาและเงินไทย ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับบางคนที่ไม่ได้แลกเงินมา

ตลาดดงบา ถือว่าเป็นตลาดสำคัญและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเมืองเว้ มีสินค้าจำหน่ายทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค พืชผักผลไม้ ของที่ระลึก ขนมขบเคี้ยว ชากาแฟ และเสื้อผ้ากางเกง อื่นๆ อีกมากมาย  พวกเราเดินเข้าไปชมแต่ไม่รู้สึกอยากซื้ออะไรติดไม้ติดมือมากันเลย ก็เลยเดินออกจากตลาดไปชมวิถึชีวิตของชาวเวียดนามตามท้องถนนกันดีกว่า

ขนมหวานรูปร่างหน้าตาก็คล้ายกับขนมบ้านเรานั่นแหละครับ

อย่างที่รู้ๆ กัน ชาวเวียดนามนิยมชมชอบที่จะใช้จักรยานหรือมอเตอร์ไซต์ แต่วินัยการใช้รถหรือถนนคงต้องปรับปรุงกันอีกมาก

อีกหนึ่งอาชีพที่พบเห็นได้ตามท้องถนน

เดินกันไปเรื่อยๆ จนไปเจอร้านขายเครื่องดื่มริมแม่น้ำหอมก็เลยพักเหนื่อยสั่งเครื่องดื่มแล้วก็นั่งถ่ายรูปสะพานแห่งเมืองเว้ในเวลากลางวัน  สะพานแห่งนี้แหละที่จะเปิดและเปลี่ยนสีสันตลอดเวลา

นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่นิยมชมขอบในการเดินท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ

เรือหัวมังกรจอดเทียบท่ารอเวลาที่จะรับนักท่องเที่ยวออกไปชมบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองเว้

สาวน้อยลูกเจ้าของร้านกาแฟ แต่งกายในชุดพื้นบ้าน น่ารักดีครับ

เมื่อได้เวลาที่นัดหมายกันพวกเราก็เดินกลับไปยังจุดนัดพบ  จากนั้นเมื่อลูกทัวร์มากันครบรถก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ที่พักซึ่งเป็นที่เดิมเมื่อครั้งที่พาพักที่เมืองเว้วันแรก นั่นก็คือ โรงแรมกรีนแบมบู นั่นเอง

ก่อนที่จะขึ้นห้องพักมีการแจ้งกำหนดการถัดไปคือการไปกินอาหารเย็นกันที่ร้านเวียดนามสุดหรูในเวลาหกโมงเย็น  ซึ่งมีเวลาเหลือที่จะล้างหน้าล้างตาอาบน้ำแต่งตัวกันประมาณหนึ่งชั่วโมง  แต่ผมกับคุณผู้หญิงยังไมเต็มอิ่มกับการท่องเที่ยวเมืองเว้ก็เลยให้เพื่อนที่มาด้วยได้พักผ่อน แล้วเราสองคนก็แอบไปเดินเล่นกัน โดยเดินออกทางด้านหลังของโรงแรมซึ่งจะมีทางเดินเล็กๆ เลียบไปกับคลองแห่งหนึ่ง

อีกหนึ่งอาชีพของชาวเมืองเว้

วันนี้ลูกทัวร์ขึ้นรถช้าไปหน่อย แต่ขอไปด้วยคนนะครับ ^^"

ขอตามไปเที่ยวต่อด้วยคนนะครับ .. สนุกมาก ^ ^

ต้องขอประทานโทษเพื่อนๆ ทุกท่าน ต้องขอจบรีวิวนี้ไปดูบอลดาร์บี้แม็ทเมืองแมนเชสเตอร์ก่อนนะครับแล้วจะกลับมารีวิวใหม่ ขอบคุณสำหรับเพื่อนที่เข้ามาเยี่ยมชมแล้วพบกันใหม่ในรีวิวภาคต่อนะครับ

หลายๆภาพดูแล้วประทับใจคับ

:D ดูไปดูมา ผมชักรู้สึกว่า ไปกับทัวร์ก็คุ้มดีนะครับ (ฮ่าๆ)

แวะมาชมครับ ขอตามติดไปเที่ยวด้วยคน

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

อยากลองนั่งเรือกระจาดมั่ง ^__^

อยากไปนั่งกระเช้าข้ามเขาแบบนี้บ้างจังครับ วิวสวยได้บรรยากาศมาก

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ฟุตบอลทำคุณน้อยจบดื้อๆซะงั้น

ทิวทัศน์ของฝั่งแม่น้ำที่ดานังสวยงามมากครับ

เมืองเว้ก็ดูสงบ มีวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายดี

แล้วจะรอชมภาคต่อนะครับ

มาสมัคร เป็นลูกทัวร์ ด้วยคนคร้าบบบ

มาขึ้นกระเช้าเวียตนามด้วยค่ะ    มาดามยิ้มแป้นแบบดูไม่เหนื่อยเลยนะคะ ^_^

ยิ้มแก้มปริจากผลงานของผีเมื่อคืนนี้ เลยเข้ามาดูทู้น้องน้อยอย่างสบายอารมณ์

อืม...เวียดนามเขาทันสมัยขึ้นเยอะเหมือนกันนะเนี่ย

ไม่รู้เมื่อไหร่ป้าจะมีโอกาสได้ตามรอยบ้าง

ตามชมรีวิวสวยๆทุกตอน  เห็นแล้วก็อยากไปบ้างค่ะ  

ตามมาชมต่อครับ

...ตามมาเที่ยวเวียตนามต่อนะคะ  

อยากไปมั่งจังเลยค่ะ แต่ไม่กล้าลอง ตามไปเที่ยวในรีวิวก่อนนะคะ   ^-^

ไปเดินเที่ยวด้วยคนนะคร๊าบบบบ

ตามมาดูด้วยคน ครับ

ตามไปเที่ยวเวียตนามกลางด้วยค่ะ ชอบหลาย ๆ เมืองของที่นี่เหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะ

... ตื่นเช้าๆก็ดีนะคะ ได้เห็นภาพสวยๆยามเช้า ...

ขอบคุณทุกท่านนะครับที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ และต้องขอโทษที่จู่จู่หยุดรีวิวกระทันหันไปดูฟุตบอล  แต่ก็ดีใจที่ แมนยูฯ ชนะ..ฮิฮิ
-ยินดีต้อนรับครับคุณ องค์ประกอบศิลป์  ขอบคุณมากครับ
-ยินดีต้อนรับครับคุณ วัชเจียเหว่ย  ก็คุ้มดีครับแต่เหนื่อยหน่อย
-ยินดีต้อนรับครับคุณ กัปตันลูกชุบ
-ยินดีต้อนรับครับคุณ Pat :o)
-ยินดีต้อนรับครับคุณ Destiny-Boy
-ยินดีต้อนรับครับคุณ Koon Shy_Tour Dee ขอโทษนะครับ
-ยินดีต้อนรับครับคุณ สิงห์สามหมอก (สิงห์สามหมอก)
-ยินดีต้อนรับครับคุณ ชอบกินชอบเที่ยว   ก็เหนื่อยนะครับแต่ก็สนุกด้วย
-ยินดีต้อนรับครับคุณ เตี้ยอ้วนชวนไถล  มาไชโยกันหน่อยนะครับคุณพี่ สุดยอดจริงๆ แมนยูฯ
-ยินดีต้อนรับครับคุณ สาวหน้าใส  ขอบคุณครับ
-ยินดีต้อนรับครับคุณ คุณชายชอบเที่ยว
-ยินดีต้อนรับครับคุณ จูลายกะปลายฟ้า ^-^ (ปลายฟ้าที่ภูตะวัน)
-ยินดีต้อนรับครับคุณ biGbOySalaDbAr
-ยินดีต้อนรับครับคุณ สิงห์เขียว7
-ยินดีต้อนรับครับคุณ มุ่นแพร
-ยินดีต้อนรับครับคุณ kungtalay  ถูกต้องแล้วครับ
อย่าลืมไปชมภาคจบของทริปนี้กันนะครับ เร็วๆ นี้ได้รีวิวมาให้ชมแน่ๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

แล้วจะรอชมรีวิวภาคจบค่ะ

ทริปลองของ...ไปกับทัวร์เป็นอย่างงี้นี่เอง..เวียดนามกลาง (เว้-ฮอยอัน-ดานัง) ภาคจบ