สวัสดีครับ

แวะมาพบกับทริปภูเก็ต (อีกแล้ว) กันอีกครั้งหนึ่งครับ คราวนี้ไปที่อื่นๆ บ้างไม่ให้ซ้ำกับกระทู้คราวที่แล้วที่ไปพักชูการ์ปาล์มแต่เจอฝน เพราะครั้งนี้ แม้จะไปเที่ยวหน้าโลว์สุดๆ อย่างต้นเดือนสิงหาคม แต่ผมก็ได้พบกับแดดแรงจ้า ไม่เจอฝนซักนิด (ในขณะที่ทางเหนือน้ำท่วมกัน คนละเรื่องกับเชียงใหม่เลย)

กลายเป็นทริปล่าสุด ที่ทำให้ผมพลาดขบวนรถไฟ อาหารอินเดีย 0 บาทจากหางแดง
แต่ผมก็ไม่เสียดายครับ เพราะจริงๆ ทริปที่จองไว้กับหางแดงก็มีเหลืออยู่ไม่มากเท่าใดนัก
และที่เที่ยวๆ ได้อยู่ก็เป็นผลพวงจากโปรโมชั่นเดิมๆ ที่เคยได้จองมาเมื่อปีที่แล้ว

อย่างโปรโมชั่นนี่ จองไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ราคาโปรโมชั่น เชียงใหม่-ภูเก็ต 214 บาท/เที่ยวบิน (รวมทุกอย่างแล้ว)ตอนแรกก็กะว่าจะจองอาหารอินเดียนี่หล่ะครับ แต่ก็จองไม่ทันอยู่ดี ก็ไม่เป็นไร ดูจากรีวิวท่านอื่นๆ ก็อิ่มละครับ

กระทู้นี้อาจจะค่อนข้างยาวหน่อยครับ เพราะจะพาบิน พาชิม พาไปพัก พาไปเที่ยวพังงา-เขาหลัก บนถนนสายธรรมชาติอันเขียวชะอุ่ม แวะชมโรงแรม JW Marriott เขาหลัก ที่เพิ่งทำโปรโมชั่นสุดคุ้ม 1,999 บาทรวมอาหารเช้า ให้เห็นกับตาว่าเป็นอย่างไรบ้างก่อนตัดสินใจซื้อ (เดาว่าเค้าคงต้องมีโปรโมชั่นราคาประมาณนี้ออกมาอีกแน่ๆ ครับ) และแน่นอนว่าไม่พลาดไปชิมอาหารทะเล แล้วคราวนี้จะแวะขึ้นไปไหว้พระใหญ่เมืองภูเก็ตด้วยเช่นกันครับ

จริงๆ ก็เป็นแค่กระทู้พาเที่ยวเพลินๆ ครับ ลองอ่าน พิจารณาตามอัธยาศัยได้เลย

กระทู้นี้ เป็นกระทู้แรกที่ลองใช้อากู๋โครมครับ ตั้งชื่อยาวเกิน ปรากฎรูปหายซะงั้น

ในวันที่ 1 สิงหาคม ผมยังจำได้ถึงเช้าวันจันทร์ที่ฝนตกหนักมาก
เชียงใหม่รถติดแบบสุดยอด น้ำท่วมขังบนถนนหลายสาย
ขนาดผมที่ไปเป็นมือปืนรับจ้างให้กับรุ่นพี่ รักษาหมาแมว ยังต้องซิ่งรถลุยน้ำท่วมไปทำงานเลย
ฟ้าครึ้ม จนผมเริ่มหวั่นๆ ว่าภูเก็ตจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ

แห่ะๆๆ ฝนหยุดตกแล้ว เป็นนิมิตรหมายอันดีว่าจะได้ไปเที่ยวทะเลสนุกครับ
ทริปนี้ผมเลือกเดินทางกับเที่ยวบิน FD3975 เชียงใหม่-ภูเก็ต รอบบ่าย 13.10-15.15 น.
เช่นเคย จริงๆ จองรอบดึกไว้แล้วใช้สิทธิ์เลื่อนฟรี +/- 7 วันย้ายมาบินตอนบ่ายครับ
และทำเว็บเช็คอินแบบดูตาม้าตาเรือได้ที่นั่ง 21A-B-C มาครองแบบสบายๆ

บินกับเครื่อง HS-ABH ซึ่งลำนี้เดิมทีเคยนอนอยู่ Hub เชียงใหม่
ตอนนี้สลับตัวไปประจำการที่ภูเก็ตแล้วส่ง HS-ABK มานอนที่เชียงใหม่แทนครับ
ไฟล์ทนี้มีผู้โดยสาร 153 ชีวิตพร้อมจะไปภูเก็ตแล้ว (ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง)

ในกระเป๋าหน้าที่นั่ง โปรโมตสุดๆ World's Best Low-Cost Airlines สามปีซ้อน
และเมนูใหม่เดือนสิงหาคม

เป็นเรื่องที่น่าเศร้าว่า เมนูสุดแซ่บอย่าง ไก่ต้มเค็ม ของน้าเล็กคาราบาวถูกถอดออกไปแล้ว
ในขณะที่ เมนูอินเดียสามารถ pre-book ได้และได้ทำโปร 0 บาทอาหารอินเดียไปในวันที่ 2 สิงหาคมนั่นเอง (รู้สึกว่าเปิดจองได้แค่ 18.00-24.00 น. เท่านั้นครับ ดูท่าชาวบีพีจะซัดกันไปร่วมหมื่นกล่อง แห่ะๆๆ ยินดีด้วยจ้ะนายจ๋า อร่อยมั้ยจ๊ะนาย...)

เมนูเด็ดประจำเดือนนี้ แน่นอน....

ดาด้าข้าวเหนียวไก่ย่าง
รสชาติแซ่บเหมือนพรีเซนเตอร์ อันนี้คอนเฟิร์ม !!!

ปล. แต่ถ้าผมเป็นเจ๊ดาด้า ผมจะเศร้ามากนะ
ที่เล่นเอามาจับคู่กับ A&W เพราะรสชาติไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
จับคู่กับโค้กดูจะดีเสียกว่า ....

จริงๆ มีเรื่องนึง
เดือนนี้ แอร์เอเชียแจกคูปองส่วนลด 40 บาท
สำหรับผู้โดยสารที่ทำ Self Check-in มา
แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องซื้ออาหารและเครื่องดื่มมูลค่ามากกว่า 200 บาทขึ้นไปจึงจะได้ลด 40 บาท
(เมนูดาด้าข้าวเหนียวไก่ย่าง ไม่เข้าร่วมโปรโมชั่นนี้ครับ)

แล้วทีนี้ ตอนที่สนามบินเชียงใหม่ วันที่ 2 สิงหาคม
ปรากฎว่า คูปองส่วนลด 40 บาทยังมาไม่ถึงครับ
ทีนี้ก็เลยแห้ว ไม่สามารถใช้ส่วนลดได้ เพราะคูปองยังไม่มา
พี่ๆ พนักงานก็เลยได้แต่ขอโทษกัน ก็ไม่รู้ทำไง แอร์ก็บอกว่า ลดไม่ได้จริงๆ จ้า ....

ไฟล์ทนี้ ผมสั่งลาซานญ่าไว้ครับ เป็นเมนูที่อร่อยใช้ได้ และกลับมาขายใหม่อีกครั้งหนึ่ง
พี่แอร์เข็นมาละครับ อย่าลืมโชว์บอร์ดดิ้งพาสเพื่อแสดงตนรับอาหาร ....

ลาซานญ่า มีหน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ ...
คอนเฟิร์มโดยผมและคุณเธอรับรองว่าอร่อยเด็ด แน่นอน

ถ้าสั่ง pre-book จะมาพร้อมกับน้ำกระปุกเล็กๆ ในภาพ
แต่ถ้าซื้อบนเครื่อง จ่าย 130 บาทไม่มีน้ำอะไรซักอย่างครับ

ถึงที ไก่ย่างดาด้า บวก A&W แล้วครับ ...
เมื่อเปิดกล่องมาเป็นแบบนี้ ....

เมื่อเปิดฝาข้าวเหนียวมาแบบเต็มๆ ไม่ค่อยเหมือนรูปที่โฆษณาเท่าไหร่

แต่รสชาติโอเคครับ พอราดน้ำจิ้มแจ่วนี่ แซ่บมากกกก

มาถึงของที่ระลึกบ้าง ....

ด้วยความที่เราเป็นนักสะสมหมี่ครับ มีหมีหางแดงครบทุกท่าแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นหมีหางแดงรุ่น Limited Edition พร้อมลายเซ็นเจ๊นิ้ง ก็ยังคงเก็บไว้
หมีวาเลนไทน์ และคราวนี้ หมี Ramp ชุดส้มแสบตาครับ ผมว่าโอเคเลยนะ
คราวหน้าสงสัยมีหมีกัปตัน หมีแอร์ หมีจ๊วต โผล่ออกมาแน่ๆ

อื้มมมมม ....
ถึงภูเก็ตละครับ ผมดีใจที่แดดดี ไม่มีฝน
จอดเทียบคู่กับเจ้าบาวแดงพอดี

แน่นอนว่า สิ่งนี้จะถูกงัดออกมาใช้งานทุกครั้งเมื่อมาภูเก็ต

เรียกได้ว่าซื้อ Voucher ของ Master มาเพื่อใช้ที่ภูเก็ตเท่านั้นครับ
โทรจองซิตี้ไว้เรียบร้อยแล้ว

มารีวิวเวลาที่คุ้นเคยเลยคร้าบบ คุณหมอ

วันนี้ก็ ... ได้รับรถฮอนด้าซิตี้ สีขาวใหม่เอี่ยม
เพิ่งขับไปได้แค่ 2,900 กิโลเมตรเท่านั้นเองครับ

สภาพในรถยังคงใหม่มากๆ
แม้ว่า Master จะมีประกันภัยมาให้แล้วก็ตาม แบบแทบไม่ต้องตรวจรถเลย
แต่เจ้าหน้าที่ย้ำว่า ถ้าทำในรถเปรอะเปื้อน ขออนุญาตเก็บรอยละ 500 บาท

ปล. ก็เข้าใจครับว่า ซิตี้เบาะเปื้อนง่ายจริงๆ น่าจะทำเป็นเบาะหนังเสียให้หมด

แห่ะๆ ครับ รีวิวเวลานี้หล่ะครับ

การเดินทางสู่โรงแรม ศุภาลัย รีสอร์ท ภูเก็ต
นั้นไม่ยากเลยครับ เพราะตอนแรกผมก็งงๆ เข้าใจว่าโรงแรมอยู่บางเทา
แต่ความจริงโรงแรมอยู่อ่าวปอ ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ก็รู้สึกดีว่า
จะได้เปลี่ยนบรรยากาศมานอนโรงแรมทางตอนกลางฝั่งตะวันออกของเกาะบ้าง
และยิ่งโปรฯ 444 ของแอร์เอเชียโก (จองไว้ตั้งแต่ต้นปี) ก็ยิ่งคุ้มสุดๆ ครับ

แผนที่ตามนี้เลยครับ
ขับรถออกจากสนามบินไปตามทางหลัก (หรือจะขับเลียบรันเวย์ก็ได้)
พอถึงทางหลวงใหญ่ เลี้ยวขวา แล้วเตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ
เพราะปากซอยทางหลวง 4027 นั้นอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
โดยจะมีจุดสังเกตคือ ป้าย ยินดีต้อนรับสู่จังหวัดภูเก็ต
และขับไปอีกนิดก็จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปโรงแรมศุภาลัย

ขับไปอีกนิดเดียวจะเห็นเซเว่น ตรงปากซอยอยู่ติดกับเซเว่นครับ ปากซอยเล็กนิดเดียว
แต่ขับเข้าไปไกลพอสมควร ประมาณ 16 กิโลเมตรครับ ขับเพลินๆ ไม่เครียดครับ

เมื่อขับเข้าไปในถนนสาย 4027 แล้วผ่านสนามกอล์ฟมิชชั่นฮิลล์

จะมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้ายครับ

และเราก็จะต้องเลี้ยวซ้ายอีกรอบหนึ่ง แต่ป้ายนี้จะค่อนข้างงงๆ หน่อยนะครับ
เพราะเถียงกันอยู่นานว่า ต้องเข้าซอยไหนกันแน่
จุดสังเกตปากซอยคือ มีร้านครัวอ่าวปออยู่
ร้านนี้เป็นร้านข้าวราดแกง ที่เรียกได้ว่า ถ้าเวลาอยู่โรงแรมหิวๆ
หรือไม่มีอาหารเช้า (แน่นอนว่าโปรฯ 444 ไม่มีอาหารเช้าให้)
ก็ออกมาซื้ออาหารที่ร้านนี้ได้ครับ รสชาติโอเคผ่าน สไตล์ปักษ์ใต้

ไปเที่ยวภูเก็ตด้วยคนค่าาาา รีวิวคุณหมอนี่ละเอียดดีจริงๆ ^^

เมื่อเลี้ยวเข้าไปแล้ว จะต้องผ่านบ่อกุ้ง เลียบทะเล อีกหน่อยก็จะถึงปากทางเข้าโรงแรมครับ

โรงแรมศุภาลัยเข้าได้ 2 ทางนะครับ
เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าขับเลยไปทางเข้าที่ 2 จะชันน้อยกว่าทางเข้าอันแรก
แต่เนื่องจากว่าเราไม่รู้ และ รปภ. ก็ไม่ว่าอะไร
เราก็เลยเลี้ยวซ้ายขึ้นเนินไปตามภาพนี้เลย

ยังนึกตกใจเลยครับว่า ดีนะที่เช่าซิตี้ ถ้าเช่าบริโอ้ สงสัยไต่ไม่ไหวแน่ๆ
ชันอย่าง:-)ยอ่างขางเลยทีเดียว

อยากลองทานเมนูข้าวเหนียวไก่ย่างบ้างจังค่ะ...
ขอบคุณคุณหมอฯสำหรับรีวิวและข้อมูลที่ละเอียดมากๆนะคะ

ทางชันแบบนี้หล่ะครับ ค่อยๆ ไต่ขึ้นไป
ส่วนอีกทางหนึ่ง ที่จนท. ว่าชันน้อย ก็ยังนับว่าชันนะครับ
รถเก่าๆ แรงไม่ดีไม่น่าจะไต่ไหว
รถใหม่แรงน้อยๆ ก็น่าลุ้นอยู่ครับ
ดังนั้น ถ้าคิดจะพักศุภาลัย โปรดหลีกเลี่ยงน้องมีนา และบริโอ้
(แต่ความจริงต้องให้สาวกมีนามาคอนเฟิร์มครับว่าไต่ไหวหรือเปล่า ถ้านั่ง 1-2 คนน่าจะไหว แต่ถ้ามากัน 4 นี่เช่า ซิตี้ แจ๊ส วีออส ยาริส จะดีกว่ามั้ย?)

ตามหมอยุ่งไปเที่ยวภูเก็ตด้วยคนครับ

และแล้วเราก็มาถึงครับ ...

โดยปกติตามประสบการณ์
จองกับแอร์เอเชียโกทีไร โรงแรมชอบจัดห้องที่ไม่ค่อยดีให้ทู๊กที
เป็นห้องมุมอับบ้างหล่ะ ห้องที่ดูอาจจะไม่ค่อยเวิร์กบ้างหล่ะ
แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณีครับ

อย่างน้อย ที่ศุภาลัย เค้าเลือกห้องพักชั้นล่างให้ (อาคารมี 3 ชั้น)
ข้อดีของชั้นล่างคือระเบียงกว้าง และที่สำคัญเค้าเลือกห้องที่อยู่ปลายอาคาร
ที่กว้างปกติให้ด้วยครับ

วันนี้หวยก็เลยออกที่ห้อง 113 และ 115 ครับ จะอยู่ทางปีกซ้าย (แต่ในภาพคือปีกขวา)

ขออนุญาตเกาะน้อง city ไปเที่ยวภูเก็ตด้วยนะค่ะ

อาทิตย์นี้ไม่มีโปร ง้านดูรีวิวหมอยุ่งไปก่อนแล้วกัน คริคริ

ว้าว เส้นทางธรรมชาติเงียบๆดีครับ ที่พักก็แสนกว้างขวาง ^^

สำหรับโรงแรมศุภาลัย เดิมทีอยู่ในเชน Best Western Premier ด้วยนะครับ
ในเอกสารยังมีรอยลิกขวิด และป้ายทางเข้ายังมีรอยลบโลโก้ Best Western อยู่เลย

แม้ว่าโรงแรมจะสร้างมาหลายปีแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้คือ
การบำรุงรักษา ความสะอาดใช้ได้ครับ และดูพนักงานก็ค่อนข้างสนใจลูกค้าพอสมควรทีเดียว

ภาพนี้คือห้อง 115 เป็นแบบธรรมดาครับ สิ่งที่แตกต่างจากห้อง 113 ซึ่งเป็นห้องปลายอาคาร
นั่นก็คือ ชุดโตีะทานข้าว และทีวีซึ่งห้อง 113 ทีวีจะใหญ่กว่าห้อง 115 ส่วนนอกนั้นก็ใกล้เคียงกัน

แห่ะๆ ผมก็ไม่รู้ครับว่าจะมีโปรฯ หรือไม่มี
แต่ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงของการเฝ้าระวังครับ
ตราบใดที่โปรฯ ปัจจบันเดินทางช่วง มค.-กพ.
ก็ไม่มีกฎข้อไหนห้ามว่า ห้ามออกโปรฯ เดินทางช่วง เม.ย.-สค. นี่ครับ

แต่ที่แน่ๆ ผมอดข้าวฟรี ก็เพราะมาพักที่นี่หล่ะ อิอิ (โทษปี่โทษกลองซะงั้น ไม่เกี่ยวเลย 555)

งั้นพามาดูห้อง 113 ที่ผมจะแนะนำกันบ้างหล่ะครับ
(แนะนำเหมือนห้อง 1814/1824 ที่ Westin Siray เลย)
เหตุผลที่แนะนำเพราะว่า เป็นห้องใหญ่ปลายอาคารที่เห็นวิวรอบทิศทาง
ไม่ค่อยโดนต้นไม้บัง มองไปทางด้านข้างเห็นเขาและต้นไม้เขียวขจี มองออกไปตรงๆ เห็นทะเล
ทีวีจอใหญ่ พักได้อย่างสบายๆ ครับ (พอเจอโปร 444 บาทคุณเธอก็กรี๊ดไปเลยทีเดียว)

เพราะวิวผมก็ว่าเทพใช้ได้อยู่นะครับ นอนบนเตียงเห็นทะเล เป็นอะไรที่มีความสุขแล้วครับ

ตามหมอยุ่งเที่ยวภาคใต้ครับ

ออกมาชมวิวกัน ..... มุมทำงานสบายๆ

ถ้าได้ห้องพักบนขั้น 2 และ 3 จะได้โซฟานอนชมทะเลในห้องพักแทน แต่ระเบียงก็จะแคบลง
ก็ต้องเลือกเอาครับ

ส่วนห้องน้ำ... ก็มีอุปกรณ์ครบครับ มีฝักบัวเรนเชาวเวอร์ด้วย ....
แต่จุดเสียสำคัญคือ ในห้อง 113 ไม่มีฝักบัวในตู้อาบน้ำครับ มีแต่เรนเชาวเวอร์
(ภาพประกอบเป็นของห้อง 115 มีฝักบัวแต่ไม่มีเรนชาวเวอร์)

ในห้อง 113 จึงมีแต่ฝักบัวที่อ่างอาบน้ำแทน ... ซึ่งตรงอ่างอาบน้ำก็จะมีหน้าต่างบานเล็กๆ
ให้อาบน้ำไปจ๊ะเอ๋กับคนข้างนอกได้ แต่ ... ไม่สามารถนอนแช่น้ำดูทีวีได้
(เป็นโรงแรมกึ่งเก่ากึ่งใหม่ ถ้าเป็นโรงแรมยุคใหม่อาจจะสร้างเป็นตู้กระจกแบบ ชูการ์ปาล์มไปแล้ว แต่อันนี้ยังเป็นกึ่งโบราณอยู่)

ปล. ห้อง 113 มีจุดบอดอย่างหนึ่งคือ ม่านตรงด้านข้างจะปิดไม่ค่อยสนิทนะครับ
ห้องฝั่งตรงข้ามสามารถมองลอดเข้ามาได้ ดังนั้น เวลาปิดม่านอย่าลืมเอาเก้าอี้ดันม่านไว้ด้วยครับ

วันนี้มาแต่หัววันเลยนะคร้าบคุณหมอ
จริงอย่างที่คุณหมอว่าจองโปรห้องพักกับAir Asia Go
ได้ห้องไม่ปลื้มอย่างแรง พึ่งไปพักHotel M ได้ห้องติดลิฟต์บังวิวสุดๆ

ตามดูหมอยุ่งตอนดึกๆค่ะ ภูเก็ตครั้งเดียวไม่เคยพอ ^^

ผมก้ไม่เข้าใจนะ ว่าจะมีหน้าต่างแค่นี้ไปเพื่ออะไร ...
สู้เป็นกระจกใหญ่ไปเลย แล้วมีมู่ลี่ปิดไปเลยจะดีกว่ามั้ย

แต่ก็อย่างว่าหล่ะครับ น่าจะเป็นโรงแรมกึ่งเก่ากึ่งใหม่
ถ้าเป็นโรงแรมยุคเก่าก็ก่อผนังปิดทึบไปแล้ว อันนี้อยากให้มีโชว์บ้างเล็กๆ น้อยๆ

ปูเสื่อรอชม นะคะ

หนูเป็นคนภูเก็ต แต่ขอตามคุณหมอยุ่งไปเที่ยวภูเก็ตด้วยคนค่า

ถึงคุณ bangalow --> ผมเคยเจอห้องแย่ๆ ที่ FuramaXclusive ด้วยครับ
เลยไม่ค่อยอยากจะพูดมากเท่าไหร่ ยิ่งมาพักโปร 444 บาทเตรียมปิดปากสนิทและทำใจมาในระดับนึง
ก็ไม่รู้ว่า เป็นเพราะอะไร ขึ้นชื่อว่าแอร์เอเชียโกได้ห้องไม่ค่อยจะดีทุกที ไม่กล้าปริปาก request ด้วย แต่คราวนี้ห้องใช้ได้ครับ ประทับใจโรงแรม คราวหน้าอย่าลืมจัด 444 อีกนะครับ
ผมว่าจริงๆจัด 777 หรือ 888 สำหรับโรงแรมนี้ก็ยังนับว่าคุ้มครับ เพราะวิวทะเลสวยมาก
แต่มีข้อเสียสำคัญก็คือ ไกลสุดๆ ไม่เช่ารถมาไม่ได้แน่ๆ ปลีกวิเวกพอสมควร
ถ้าคนชอบแสงสีเสียงแบบป่าตอง กะตะ กะรน ไม่ใช่ที่นี่แน่ๆ ครับ

ถึงคุณ Priness Moo --> มาภูเก็ตต้องพักที่พักไม่ซ้ำครับ จะได้บรรยากาศแปลกใหม่ อิอิ
ส่วนตัวผม แค่คิดว่ามาทานอาหารทะเล ก็คุ้มแล้วครับ ค่าตั๋วหลักร้อยจิ๊บๆ บินสองชั่วโมงถึง

--------------------------------------------------------------
มาดูบริเวณสระว่ายน้ำกันบ้างนะครับ

สระว่ายน้ำมี 2 สระไม่ลึกเท่าไหร่ และส่วนใหญ่มักจะตกเป็นของแก๊งค์ทัวร์จีน (หรือฮ่องกง หรือสิงคโปร์ ไม่แน่ใจ ครับแยกยาก) คนไทยแทบไม่มีเลยจริงๆ
ส่วนใหญ่จะเล่นสระล่างกันครับ

สำหรับฟิตเนส รู้สึกว่าอุปกรณ์จะใช้การไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว จักรยานใช้ได้แต่ลู่วิ่งเหมือนจะเสีย อากาศค่อนข้างร้อนแต่ติดแอร์ และส่วน Game Area อย่างโตีะปิงปอง จริงๆ อยู่ใต้ห้อง 113-116 เลยครับ แต่ข้อเสียคือ ข้างบนคือคอมเพรสเซอร์แอร์ฝุ่นเขรอะ สภาพเหมือนไม่มีใครมาเล่น ทั้งๆ ที่เราอยากจะตีปิงปองซัดกัน แต่สภาพไม่เอื้อก็เลยบ้ายบายดีกว่า
(คิดถึงห้องปิงปอง ที่ Westin Siray มากๆ ครับ บรรยากาศดี ตีสนุก แอร์เย็น)

สำหรับกิจกรรมริมหาด ...

จริงๆ โรงแรมนี้ไม่ได้ติดหาดนะครับ ถือว่าโรงแรมชมวิวทะเล
ซึ่งถ้าลูกค้าจะไปหาด สามารถนั่งรถฟรีของโรงแรมลงไปข้างล่างได้
แต่สภาพหาดไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เวลาเช้าๆ หรือบ่ายแก่ๆ น้ำก็จะแห้งขอดแบบที่เห็น
มีเรือแคนนูให้พาย และมีเจ้าหน้าที่นำพายช่วงเวลา 9.00-15.00 น. ด้วยนะครับ
(แค่คิดก็เมื่อยแล้วไม่เอาดีกว่า)

ผมลองขับวนออกมาอีกทางหนึ่งบ้าง ... (สามารถวนเป็นวงกลมออกอีกทางหนึ่งได้ ไม่ต้องวกกลับทางเดิม)

ให้ความรู้สึกเหมือนไปลุยป่่าอะเมซอน ถนนที่ค่อนข้างร้างไม่ค่อยมีรถผ่าน
ดูค่อนข้างเปลี่ยวพอสมควรครับ ยิ่งไปช่วงเย็นๆ พระอาทิตย์กำลังตกดิน ใจหวิวๆ
แต่มีไปกัน 3 คน (ผม+คุณเธอ และแน่นอน ว่าที่คุณพ่อตาก็ไปด้วย)
จึงไม่แนะนำอย่างยิ่งที่จะใช้ทางนี้ในช่วงเวลาหลังจากพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ...

แต่ช่วงเย็นๆ ทางนี้ก็สวยอยู่นะครับ ชมวิวทะเลได้ แม้จะเป็นทะเลที่ไม่สวยมากเท่าไหร่ก็ตาม

ภาพบนนี่ ถ้าไม่บอกว่าเป็นภูเก็ตคงไม่เชื่อนะครับ

เพราะดูเผินๆ นึกว่าทางไปปาย

แต่นี่หล่ะครับ สิ่งที่บ่งชี้ว่า เป็นภูเก็ต อิอิ

ส่วนผมได้ไปเชียงใหมอีกแน่ๆไปรอบนี้เจอแต่ฝน
ระวังเราจะสวนกันในสนามบินนะคร้าบบบ

เราตั้งใจจะไปทานอาหารทะเลกัน ที่ร้านริมทะเลๆ แบบเอาเท้าแกว่งเล่นทรายได้
ที่หาดไนยางครับ เพราะดูๆ แล้วรัศมีจากโรงแรม ไปไนยางก็น่าจะเวิร์กสุดครับ

แอบโฆษณานิดนึง
หลายท่านคงจะรู้จักโรงแรม อิมพีเรียล อดามาส รีสอร์ท ครับ
ตอนนี้มีดีลของเว็บ D.... ราคาอยู่ที่คืนละ 1,900 บาทรวมอาหารเช้า 2 ท่าน
ผมก็คิดว่าโอเคนะครับ สำหรับท่านที่อยากจะพักริมหาด ระยะไม่ไกลมากจากสนามบิน
ที่นี่ก็โอเคใช้ได้ทีเดียว

ก่อนถึงหาดไนยาง ก็ต้องผ่านวัดไนยาง ข้างวัดมีตลาดนัดอยู่
พอดีเป็นวันอังคาร มีตลาดนัด (แต่ผมไม่แน่ใจว่ามีวันไหนบ้างนะครับ บางวันอาจจะไม่มี)
ข้าวของขายเพียบเลยทีเดียว .... คนเพียบด้วย พนักงานสนามบินก็เยอะ

จริงๆ ผมเคยคิดว่า ภูเก็ตอะไรๆ ก็แพง

แต่พอมาเดินตลาดนัด ก็รู้สึกว่าหลายๆ อย่างก็ถูกดีนี่ ...

อย่างกล้วยที่ผมถือในภาพนี้ ... 2 หวี 10 บาท
เป็นกล้วยเปรี้ยวๆ ด้วยแปลกดีครับ
(ร้านที่ขาย เป็นร้านขายน้ำส้มปั่น่แก้ว 5 บาท อยู่กลางภาพ คห. บนนี้พอดี)

พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้วว ... ท้องฟ้าสีชมพู ไม่มีฝนเลย (กด Like)

เอาหล่ะครับ จริงๆ อาหารร้านนี้ รสชาติก็โอเคอยู่นะครับ
แต่ถ้าเทียบราคาแล้ว คงไม่มีอะไรคุ้มไปกว่าการไปซัดอาหารทะเลที่ราไวย์
ดังนั้น ขอตัดภาพอาหารออกไปแล้วกันครับ

ตัดมาตอนเช้าเลยดีกว่า เช้านี้อากาศสดใส วิวทะเลแจ่มจริง ตอนเช้าแดดร้อนหน่อย
แต่พอหลัง 10 โมงจะเริ่มไม่ร้อนแล้วครับ

ว่าแล้วเราออกเดินทางกันเลยดีกว่า ....

ข้อดีของห้อง 113 อีกจุดหนึ่งที่เราค้นพบก็คือ ...
อยู่ใกล้กับลานจอดรถมากาๆ ครับ
เพราะบริเวณชั้น 2 ติดกับบันไดจะมีทางเดินเชื่อมไปลานจอดรถอยู่
เรียกได้ว่าจอดรถปุ๊บ เดินข้ามสะพาน ลงบันไดมาชั้นเดียวก็ถึงห้องพักแล้ว

แนะนำห้อง 113 นะครับ อิอิ

ยกมือเห็นด้วยอีก 1 ค่ะกะโปรแอร์เอเชียโก คราวก่อนไป Hotel M ค่ะ วิวดับสนิท
ลังเลว่าจะไปทดสอบที่ FX Makasan ดีอ่ะป่าว
ปล.หมอยุ่งค่ะ จะว่าแล้วเดือนนี้ต้องลุ้นแทบทุกสัปดาห์เลยที่เดียว ว่าจะมาตอนไหน
เหมือนไ่ก่อินเดีย กะ ข้าวเจ อิอิ  
รอ เชียงใหม่-อุดร กะ เชียงใหม่-อุบล จะมารอบนี้อ่ะป่าวเอ่ย หลังจากหมดหวังกะ เชียงใหม่-ฮ่องกง

วันนี้เราจะไปวนเส้นทางสายธรรมชาติกันครับ

ขอยืมภาพแผนที่จากทริป ฟอร์ดเฟียสต้า เมื่อปีที่แล้วมาหน่อย
ปีที่แล้วซิ่งเฟียสต้า ปีนี้ขอเปลี่ยนเป็นซิตี้แล้วกัน

เป็นเส้นทางที่ใครจะลอกเลียนแบบก็ได้นะครับ เพราะผมว่าก็เป็นเส้นทางที่สวย
แวะไปเที่ยวเมืองเก่าตะกั่วป่า หรือใครจะรวดไปเที่ยวเขาสก (ค้างคืน) แล้ววกกลับมาก็ได้เช่นกัน
(แต่เหมาะสำหรับคนมีเวลามากๆ นะครับ)

แห่ะๆ เรื่องโปรฯ นี่คาดเดาจับทางหางแดงลำบากครับ ก็คงต้องเฝ้าระวังกันไปตลอดทั้งเดือน
ส่วน เชียงใหม่-อุดร, เชียงใหม่-อุบล เดาว่าอีกไม่นานอ่ะครับ เพราะถ้าจะบิน 30 ตุลาคม ภายในเดือนนี้น่าจะเริ่มเปิดให้จองและมีงานแถลงข่าวแล้วหล่ะครับ ผมก็รอสอยทั้ง 2 เส้นทางอยู่เหมือนกัน

---------------------------------------------------------------

ขับข้ามสะพานสารสิน 2 ตอนนี้สะพานสารสินเดิม กำลังก่อสร้างเป็นจุดชมวิวนะครับ

เป้าหมายของเราคือจะไปทานมื้อสายกันที่ ร้านห่อหมกแม่เขียวเมืองพังงานั่นเอง

อยากจะบอกว่า ห่อหมกอร่อยเหมือนเดิมครับ
แต่่ข้าวแข็งไปนิดนึง

ปล. จริงๆ ขับเลยออกนอกเมืองไปหน่อย เจอร้านข้าวแกงนครฯ คนจอดรถเยอะมาก
ไม่รู้รสชาติเป็นไงบ้าง ฝากลองหน่อยนะครับ

เส้นทางสายธรรมชาติ นอกจากต้นไม้เขียวขจีตลอดสองฝั่งแล้ว ...

ก็จะมีจุดชมวิวทุ่งคา ที่เป็นสวนปาล์ม ..

เมื่อขับมาจนถึงทางหลวงสาย ตะกั่วป่า-สุราษฎร์ธานี ก็จะพบกับ
ซุ้มต้นไม้ที่สวยงามครับ ชอบทางแบบนี้จริงๆ (แต่ผมถ่ายได้แค่นี้หล่ะ ขับไปถ่ายไป เหอๆ)

ถึงเมืองตะกั่วป่าแล้ว ....

จริงๆ มีร้านอร่อย (ผมเคยแนะนำในกระทู้ทริปที่ไประนองเมื่อปีใหม่ปี 53 แต่วันนี้เค้าปิดครับ)
ผมก็เลยกะว่าจะกลับไปร้านยิ้มยิ้ม (หลังสึนามิ) เจ้าเก่า
แต่จะแวะไปเยี่ยมชมหมู่บ้านน้ำเค็มก่อนครับ

พอดีคุณเธออยากแวะศูนย์ขายของที่ระลึก (สำรวจสินค้า) และก็ต้องพบกับความผิดหวัง
เมื่อสินค้าภายในร้าน อารมณ์เหมือนจะเป็นผลิตภัณฑ์ไม้ๆ จากเชียงใหม่ซะงั้น ....

คั่นรายการด้วย น้องแมวน้อย วัดย่านยาว ในวันนี้ที่เงียบสงบ

ปล. แมวน้อยเป็นขี้เรื้อนแห้งนะครับ สะเก็ดเต็มใบหูทั้ง 2 ข้างเลย ....
ขี้เรื้อนแห้งนี่จะติดกันหมดครับ เป็นกันทั้ง 2 ตัว

อนุสรณ์สถานบ้านน้ำเค็ม ในปีนี้ ...

สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้คือ ตรงที่เป็นห้องพิพิธภัณฑ์
เหมือนเค้าจะเอารูปถ่ายความเสียหายออกไปเหมือนกันนะครับ
กลายเป็นห้องที่ดูเหมือนไม่มีอะไร
(ตอนที่มาเมื่อเดือน ตค. 53 ก็ปิดล๊อกไปเลย)

แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปเกือบ 7 ปีแล้ว
แต่รู้สึกได้ว่า ความเงียบเหงา ยังคงอยู่ครับ ... แม้จะกลางวันแสกๆ ก็ตาม

บ้านเรือนที่ร้างก็เยอะครับ บ้านเรือนที่อยู่กันก็มี บางแห่งก็ทิ้งร้างไว้เลย

บริเวณท่าเรือไปเกาะคอเขาครับ เกาะคอเขาในวันนี้แดดเปรี้ยงใช้ได้ ....

เอาหล่ะครับ เดี๋ยวจะพาไปแวะทานข้าวที่ร้านยิ้มยิ้ม ก่อนนะครับ ....

แอ่นแอ่่น ร้านนี้เลย จะอยู่เลยจากหมู่บ้านน้ำเค็มลงไปทางเขาหลักไม่มากครับ
(แต่ถ้าขับจาก เลอเมอฯ หรือ JW Marriott ขึ้นมาก็ประมาณซัก 10-15 นาทีได้)

ร้านนี้ก็ทำอาหารซีฟู๊ดแบบบ้านๆ รสชาติอร่อยเด็ดแนะนำได้อยู่ครับ ....

กุ้งผัดสะตอ+กะปิ อร่อยแผล่บๆ

หอยลายผัดฉ่า

หัวปลาต้มเผือก

หลังจากทานเสร็จ พาชมหาดบางสักครับ .....
วันนี้วันธรรมดาแทบไม่มีคน (หาดสนรีสอร์ทก็เงียบมากๆๆ)

แต่ผมก็ไม่รู้ว่า ...

ใครกำลังก่อสร้างอะไร แต่คิดว่าเป็นโครงการที่ใหญ่มากพอสมควรครับ ...

ผมแวะไปที่แหลมปะการังด้วย .... ดูเงียบๆ วังเวงๆ แม้แดดจะแรงจ้าก็ตาม
รีสอร์ทที่เงียบ ก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม ....

เอาหล่ะครับ เริ่มเรื่องกันที่ JW Marriott เขาหลัก เลยดีกว่า
รู้สึกว่าจะเป็นประเด็นฮ๊อตกันตั้งแต่งาน Amazing Thailand Grand Sale
เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่โรงแรมนี้ออกโปรโมชั่นแค่ 1,999 บาท รวมอาหารเช้า 2 ท่าน
ซึ่งถือว่าถูกมาก เพราะเป็นโรงแรมเชน JW Marriott (ถ้าเทียบกับ Accor ก็คงเท่ากับ Sofitel เลยทีเดียว)

แต่ทีนี้ ก็ด้วยผมเอง (อีกละ) ดั้นไปจุดประเด็นเรื่องสถานที่ตั้งของโรงแรม
จนทำให้หลายๆ คนไปใช้บริการอากู่๋ค้นหาข้อมูลเก่าๆ กันมามากมาย
ในทริปนี้ ผมจึงอาสาพาไปชมโรงแรม JW Marriott เขาหลักด้วยตนเองครับ .....

ปากซอยโรงแรมติดกับวัดคึกคักเลยนะครับ .... หาไม่ยาก ป้ายเบ่อเริ่ม
แต่ต้องเข้าซอยไปประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร ควรจะเช่ารถขับส่วนตัวนะครับ
เพราะจะได้ออกไปหาอะไรทานได้ง่ายหน่อยไม่ต้องอยู่แต่ในโรงแรม

เลื่อนดูรีวิวมาเรื่อยๆเจอรูปอาหาร

หิววววววววววววววววววววว

คุณหมอทำหิวตอนตีสองนะคะ ^^

เมื่อขับเข้าไปในซอย (ไม่กว้างเท่าไหร่ แค่รถสวนได้)
ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะเจอโรงแรมอยู่ริมหาดครับ ...
ต้องเลี้ยวขวาผ่านด่าน รปภ. ไปก่อนถึงจะเข้าลานจอดรถได้

บริเวณทางเข้า มีลักษณะเหมือนหุ่นทหารที่มีหอก ตั้งอยู่เรียงราย .... ก่อนจะเข้าโรงแรม

จอดรถเรียบร้อย ... เข้าไปในอาคารแอร์เย็นฉ่ำกันดีกว่า ...

อยากจะบอกว่า บรรยากาศที่ผมสัมผัสได้ คือ ความอบอุ่นครับ
ที่นี่ไม่ได้รู้สึกเงียบเหงาวังเวงเลย แต่ดูมีชีวิตชีวา
ยิ่งพบกับพนักงานด้วยแล้ว พนักงานดูค่อนข้างเอาใจใส่มากๆ

แม้ว่าวันนี้เราจะแค่ขอมา Inspection ก็ตาม

บริเวณโรงแรมจะประกอบไปด้วยกลุ่มอาคาร และสระว่ายน้ำที่สามารถว่ายถึงเชื่อมกันได้ตลอดครับ
จะมีอาคารหลักเป็นส่วนล๊อบบี้ ชั้นล่างก็จะเป็นห้องกีฬา ห้องเด็กเล่น
(ห้องกีฬาเค้าก็เจ๋งครับ ครบเครื่องจริงๆ เรียกได้ว่าคนชอบกีฬาใช้เวลาอยู่ในโรงแรมได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ) นอกจากนี้ยังมีส่วนของ Business Lounge ร้านขายของฝาก ห้องทำกิจกรรม รวมไปถึงเล้าจน์สำหรับแขกที่เช็คเอ้าท์ไปแล้ว สามารถนั่งเล่นในห้องและใช้ Facility ของโรงแรมได้จนกว่าจะเดินทางออกจากโรงแรม

สำหรับห้องอาหาร และสปา จะอยู่ติดกับชายหาดครับ
ดังนั้น เวลาทานอาหารมื้อเช้า ก็จะได้ทานอยู่ใกล้ๆ กับทะเล บรรยากาศดี
(เหมือนกับที่ Renaissance ภูเก็ต ตอนเปิดใหม่ๆ)

แต่ทีนี้ ถ้ามองจากผังโรงแรมด้านบนแล้ว
จะเห็นได้ว่า ห้องพักแต่ละห้องจะเห็นแต่สระว่ายน้ำ ไม่ค่อยได้เห็นทะเล
หรือถ้าเห็นทะเลก็แบบลิบๆ ซึ่งก็ต้องแลกกับ หาดทรายที่สวยงาม แต่วิวทะเลไม่เห็นจากห้องพัก

ดังนั้นแต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป อย่าง Westin Siray เค้ามีดีเรื่องวิว
แต่หาดเค้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตรงกันข้ามกับที่นี่ หรือแม้แต่ Le Meridien เขาหลัก ซึ่งคิดว่าก็จะเป็นคู่แข่งทางตรงของที่นี่ (แต่ถ้ามากับเด็ก ผมคิดว่า เด็กน่าจะชอบที่นี่ครับ เพราะสระเด็กก็ใหญ่มาก เด็กโตที่พอว่ายน้ำแข็งแล้วก็น่าจะชอบครับ)

จากภาพบนนี้ ถ่ายจากบน Lobby ตรงไปยังทะเลครับ
บริเวณสปาจะอยู่ฝั่งขวา ส่วนห้องอาหารอยู่ตรงกลาง(ด้านซ้ายของภาพ)
สระว่ายน้ำเมนหลักจะมีบาร์ทั้ง 2 ฝั่งด้วย
อย่างที่บอกครับว่า ... ถ้าว่ายน้ำวนๆ กันอาจจะยาวถึง 3 กิโลเมตรเลยทีเดียว
สระว่ายน้ำปิด 2 ทุ่มนะครับ แต่ถ้าห้อง pool access ก็ตามอัธยาศัย

บรรยากาศ Lobby สไตล์ไทยๆ ครับ
พนักงานดูกระฉับกระเฉงและเป็นมิตรมากๆ มีพนักงานชาวต่างชาติด้วยนะครับ

ปล. รู้สึกได้เลยว่า โรงแรมค่าย Marriott เค้าเทรนพนักงานมาดูเป็นมิตรเอาใจใส่ดีครับ
แต่ก็ไม่ได้หมายถึงเจ้าอื่นจะบริการไม่ดี แต่เจ้านี้ดูค่อนข้างเด่นพอสมควรทีเดียว

รอชม  JW Marriott  ค่ะ ป้ายทางเข้าใหญ่มากกก.. อย่างงี้คงหลงยาก
เพราะประเด็นฮอท  Amazing Thailand Grand Sale  ของหมอยุ่งฯ  นี่แหล่ะ เลยตัดสินใจจองแล้วค่ะ 7 ห้อง 14 คน บวกเด็กอีก 4
อานิสงค์หางแดง อุดร- ภูเก็ต 160 บาทตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ

พนักงานนำ Welcome Drink และของว่างต้อนรับมาให้ครับ

เข้าใจว่าถ้าเป็นแขกเข้าพักก็คงได้รับสิ่งนี่เช่นกัน
เป็นขนมเต้าส้อ ขนมพื้นเมืองตะกั่วป่า และ น้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ ครับ

เดี๋ยวจะมีพนักงานพาไปเดินชมห้องพัก 2 ประเภท
คือห้อง Deluxe Pool View และ Deluxe Pool Access ครับ

ถึงคุณแก้วแจ๋ว --> ยินดีด้วยครับ คิดว่าเด็กๆ จะต้องถูกใจแน่ๆ
เพราะห้องเด็กเล่นก็ใช้ได้เลยครับ มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก สระว่ายน้ำสวยสุดๆ
ถามว่าเงียบไหม ผมคิดว่า แม้จะมีแขกอยู่แค่ 40% แต่บรรยากาศก็ไม่ดูเหงาครับ
เดินสวนกับพนักงาน พนักงานทักตลอดครับ

พนักงานเค้ายังบอกอีกว่า สำหรับแขกที่มีปัญหาเรื่องไม่สามารถนอนหลับได้
ก็สามารถโทรศัพท์ หรือเดินมาหาพนักงานที่ Front ล๊อบบี้ได้ตลอดเวลาครับ
เค้ามีพนักงานสำหรับให้บริการดูแลแขกเป็นพิเศษ เอาใจใส่ลูกค้ากันเต็มที่ครับ

----------------------------------------------------------------
พาขึ้นมาบนห้องกันก่อนนะครับ
อันนี้เป็นห้อง Deluxe Pool View บนชั้น 2 และชั้น 3
เป็นห้องแบบเตียงคู่ครับ ออฟชั่นทุกอย่างเหมือนกับห้อง Deluxe Pool Access ซึ่งอยู่ชั้นล่าง ต่างก็แค่ ห้อง Pool Access โดดลงสระได้เลย

บรรยากาศการตกแต่งห้องเป็นแบบไทยๆ พื้นเป็นไม้
มีการใส่กลิ่นตะไคร้หอมระเหยไปในระบบปรับอากาศ
ทำให้จะได้กลิ่นตะไคร้หอมๆ จางๆ อยู่ตลอดเวลา
สำหรับคู่ฮันนี่มูน ก็สามารถเซ็ทห้องให้มีดอกกุหลาบโรย หรือมีดอกโรยในอ่างได้เช่นกัน

แปร่ว รูปหายซะงั้น .... ลายวิจิตรบรรจงดีครับ คิดว่าฝรั่งน่าจะชอบ
แต่ก็ไม่น่ากลัวเกินไปสำหรับคนไทย

บริเวณระเบียงห้อง นั่งเล่นชมวิวสระว่ายน้ำได้
อย่างในภาพจะเป็นสระเด็กอยู่ตรงกลางครับ

มองออกไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะเห็นห้อง Pool Access อยู่ข้างล่าง
ห้อง Deluxe Pool View อยู่ชั้น 2-3 ครับ

มาทันกินเต้าส้อพอดีนะครับ

เพิ่มเติมอีกนิดนึงคือ ... ห้อง Pool Access ฝั่งนี้ที่มีกระจกกั้น
สำหรับห้องพักที่มีเด็กเข้าพักด้วยนะครับ

แต่จะมีห้องพักอีกโซนหนึ่งที่ไม่มีกระจกกั้น สำหรับผู้ใหญ่เข้าพักได้
เวลาจองก็ request กันดีๆ นะครับ

มีเตียง Day Bed อยู่ตรงระเบียงด้วย (ส่วนเบาะแดงๆ ไว้ปูตรงที่นั่งขอบระเบียงครับ
ข้อเสียของโรงแรมที่ฝนสาดก็คือ ถ้าเก็บเบาะไม่ทัน เบาะมักจะขึ้นราครับ บางทีเค้าก็เลยยังไม่ปูไว้ให้
(เรียกง่ายๆ คือห้องนี้ ไม่ได้เป็นห้องที่ถูกเซ็ทไว้ก่อนนั่นเอง)

ขู่เซลส์ในงานว่าจะโดดน้ำจากระเบียงชั้นสองค่ะ
เค้าเลย up ให้เป็น Pool Access 3 ห้อง
คิดเหมือนกันค่ะว่าเด็กๆต้องถูกใจแน่ๆ

อจน. เพิ่งกลับมาจากบ้านนอกเหรอครับ
อยากจะบอกว่า JW Marriott น่าไปนอนมากมายครับ ลองหาโอกาสดูนะครับ อิอิ

มองจากประตูระเบียงไปในห้อง ก็จะเห็นเตียง และห้องน้ำเป็นกระจกใสมีมู่ลี่

ถ้าได้ Pool Access ยิ่งคุ้มใหญ่เลยครับ แต่ถ้าเด็กเล็กๆ อย่าลืมขอห้องที่มีประตูกระจกด้วยนะครับ
ว่าแล้วอยากขอแบบนี้ได้มั่งจัง

สำหรับห้องน้ำเหมือนกันทั้งชั้นบนและชั้นล่างครับ
ประกอบไปด้วย อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ (คาดว่านอนแช่อาจจะไม่สบายนัก แต่ก็ไม่ได้ลองนะครับ อิอิ)
ซึ่งถ้าเทียบกับ Westin Siray ห้อง 1814/1824 วิวเทพจริงแต่ก็นอนแช่น้ำดูทีวีไม่ได้นะเออ

อ่างล้างหน้าล้างมือ มี 2 อ่างไม่ต้องแย่งกัน แปรงฟันพร้อมๆ กันได้
มีห้องอาบน้ำ และห้องสุขา มีประตูกระจกกั้นชัดเจนครับ

บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าอีกทีละกันครับ

เอาหล่ะครับ ลงไปดูชั้นล่าง ห้อง Deluxe Pool Access บ้างดีกว่า

แอ่นแอ๊น.....

อ่าว ห้องข้างบนนี่หว่า ขอโทษทีครับ
ห้องข้างล่างอยู่นี่ ....

ในห้องมีพัดลมด้วยนะครับ
ส่วนตัวผม ผมว่าโอเคเลยหล่ะ ....
เทียบกับ Le Meridien เขาหลักแล้ว ชอบที่นี่มากกว่าครับ

จอ LED ทีวีขนาดใหญ่ (เดาว่าน่าจะ LED นะครับ)

ตรงระเบียงห้อง และประตูกระจกสำหรับลงสระ

อีกมุมหนึ่ง ....

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

แวะมาถ่าย Day Bed ในห้องซะอย่างนั้น ตรงนอกห้องก็มีครับ เหมือนห้องข้างบนเลย
ทุกอย่างเหมือนกัน ต่างกันก็ตรงที่ทะลุโดดลงสระได้เท่านั้นเองครับ

พาไปสำรวจโรงแรมโดยรอบๆ กันบ้างนะครับ .....

สำหรับพนักงานที่พาเดินบอกว่า ตอนนี้มีแขกมาพักราว 40% ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
ก็อย่างไรก็ลองหาโอกาสมาสัมผัสบรรยากาศดีๆ ที่นี่ได้ครับ
ส่วนเรื่องอย่างนั้น จริงๆ เราก็ถามไปตรงๆ เหมือนกัน
เธอก็ตอบตรงๆ ว่าในด้านความคิดคงไม่สามารถห้ามไม่ให้ใครคิดได้
ยิ่งถ้าเป็นคนไทยด้วยยิ่งค่อนข้างยากเพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
แต่ทางโรงแรมก็มีการทำบุญอย่างสม่ำเสมอ
และตัวเธอเองทำงานที่นี่มาตั้งแต่แรกเริ่ม กลับบ้านดึกดื่นเดินในโรงแรมคนเดียวก็ไม่มีอะไร
(ตัวพนักงานเองก็เป็นคนในพื้นที่แถวนี้นี่หล่ะครับ เธอย้ำว่า ที่นี่เน้นเรื่องการบริการจริงๆ เรียกได้ว่าตามคอนเซปต์ลูกค้าคือพระเจ้าเลยก็ว่าได้)

ซึ่งเท่าที่ดูจากรีวิว แทบทุกกระทู้จะชื่นชมการให้บริการของพนักงานโรงแรมนี้ครับ
ผมจึงคิดว่าการให้บริการเป็นสิ่งสำคัญและทดแทนกันได้ ในสถานที่ที่ได้ปรับปรุงทุกอย่าง
จนสมบูรณ์สวยสดงดงามเรียบร้อยแล้ว

ปล. อย่างไรผมก็รอสอยโปรฯ หาโอกาสมาพักให้ได้ละกันครับ
ส่วนตัวผมเห็นว่า 1,999 บาท รวมอาหารเช้า 2 คนเป็นอะไรที่คุ้มมากๆ ครับ
ถ้าต่อรองเซลล์ ขู่ว่าจะโดดน้ำจากชั้น 2 (แบบคุณแก้วแจ๋ว 555 -- แต่เค้าจองมาตั้ง 7 ห้องนะครับ) เผื่อได้อัพเกรดเป็น Pool Access ครับ อิอิ (ล้อเล่นนะครับ แล้วแต่เซลล์ละกัน)

บริเวณสระกลางครับ ก็จะมีเป็นพุ่มไม้สูงบังสายตา
จะมีเตียงสระตั้งไว้เป็นคู่ๆ แบบนั่งเป็นส่วนตัวๆ หลบแดดได้ดีทีเดียวครับ

เดินต่อไปเรื่อยๆ

บางจุดก็จะเป็นบันไดลงสระ บางจุดก็จะเป็นเตียงให้นอนเล่นครับ
เรียกได้ว่า คนที่ชอบสระว่ายน้ำ และชอบลงสระนี่ สวรรค์สุดๆ
(ผมคิดว่าสระเค้าดูมีลูกเล่นมากกว่า โซฟิเทล โภคีธรา กระบี่ ครับ)

บริเวณห้อง Pool Access ฝั่งนี้จะมีสวนคั่นด้วยนะครับ ...

บริเวณ Quan Spa อยู่ด้านหน้าชายหาดครับ ....

บริเวณใกล้ๆ กันก็จะมีบาร์ในสระว่ายน้ำด้วย แบบประมาณว่าว่ายเหนื่อยๆ ก็สั่งเครื่องดื่มได้
(แต่ราคาไม่ทราบครับ คาดว่าน่าจะไม่ธรรมดาอยู่แล้วหล่ะ)

บริเวณชายหาด ...

เห็นรีวิวไหนบอกว่า เค้าจะตั้งเตียงชายหาดให้เท่ากับจำนวนแขกที่พักเลยทีเดียว
ผมก็ว่าด้วยขนาดพื้นที่ น่าจะเป็นไปได้อยู่ครับ ....

บริเวณสระกลาง และบาร์น้ำครับ ....

บริเวณห้องอาหาร .... ทานข้าวเช้าที่นี่ แหล่มครับ !!

ตามไปเที่ยวภูเก็ตต่อครับ

ได้เวลากลับแล้วครับ ... คราวหน้าจะหาโอกาสมาพักนะครับ

บ้ายบาย ....

มาเที่ยวทะเลเจอฟ้าแจ่มๆ  แหม..ช่างโชคดีสุดๆ   ชอบกระทู้หมอยุ่งเรื่องอาหารการกิน  ดูไปกลืนน้ำลายตามตลอด   ที่พักน่าไปนอนจริงๆ คงได้แต่มองจริงๆ ค่ะ  มีลูกเป็นหมานี่ต้องทำใจ  รอชมต่อค่ะ ^^

ไปจริงๆ ละครับ ...

แห่ะๆ ผมก็ไม่เคยเอาลูกชายมาภูเก็ตเลยครับพี่บี
เนื่องจากบินหางแดงตลอด เอาลูกโหลดใต้ท้องเครื่องมาไม่ได้ ต้องทิ้งไว้ที่เชียงใหม่
ครั้นจะบิน TG ก็ไม่ไหวหล่ะครับ แต่ถ้าพี่บีมาภูเก็ต
ผมคิดว่า Ibis ป่าตอง+กะตะ น่าจะสบายๆ อยู่นะครับ พาลูกๆ 3 ตัวพักได้อยู่อ่ะครับ
แต่ถ้าพักแนวๆ กระทู้นี้ ถ้าตัวผมผมก็ต้องตัดใจ เอาลูกฝากโรงบาลไว้เลยทีเดียว
(เคยทำมาแล้วครับที่เชียงราย เพราะอยากลองพักที่ เลอเมอฯ เชียงรายมาก
งั้นลูกพักอยู่ตรง รพ.ส. ปากซอยก่อนนะลูก พรุ่งนี้เช้ามารับ อิอิ ทำร้ายจิดใจกันสุดๆ เรียกได้ว่า หมางอนกัน 3 วัน 3 คืนเลยทีเดียวครับ)

----------------------------------------------------------------

จริงๆทริปเขาหลัก เคยไป Inspection โรงแรมเลอเมอฯ, ลาฟลอร่า มาด้วยเช่นกันครับ
แต่ไว้มีโอกาสค่อยโพสต์ครับ ส่วนตัวผมคิดว่า ในย่านนี้ ผมชอบที่นี่หล่ะครับ แฮ่ๆๆๆๆ

แวะชมเรือ ต.813 ในรถนิดนึง ....

และก็ชมวิว ... เขาหลัก ก่อนกลับ

ขออนุญาตตามไปเที่ยวด้วยนะคะ
ถ่างตาอ่านเต็มที่ค่ะ จะหลับแล้ววว

สำหรับใครที่ตั้งใจมาพักโซนเขาหลัก
บินลงภูเก็ต เช่ารถขับขึ้นมา สามารถแวะซื้อเสบียงกรัง ตุนมากมาย
ได้ที่ ตลาดโลตัส เล็กๆ มินิๆ สาขาท้ายเหมืองได้ครับ
อยู่ก่อนถึงท้ายเหมืองประมาณ 1 กิโลเมตร

เรียกได้ว่า ขนาดใหญ่กว่า Expess ซักประมาณ 3-4 เท่าเท่านั้นเองครับ
เป็นสาขาที่เล็กมาก (ผมว่าที่เชียงใหม่ สาขาสันทรายเล็กแล้วนะ อันนี้เล็กกว่าอีก)

แห่ะๆ ผมก็ถ่างตาโพสต์เหมือนกันครับ จะตี 4 แว๊วว ...

คุณเธอบอกว่าอยากแวะ Turtle Village ไม้ขาวซะหน่อย ...
ก็เลยจัดให้ ที่นี่มี Esprit Outlet และของบางอย่างก็ถูกจนคุณเธออดใจไม่ไหวสอยมา
ไหนๆ ก็พาเธอวนดูโรงแรมไฮโซย่านหาดไม้ขาวซะหน่อย
ไม่ว่าจะเป็น JW Marriott ไม้ขาว (ที่ราคาไม่เคยต่ำกว่า 4,xxx)
หรือ อนันตรา หรือ ศาลา และ Renaissance ที่อยู่ลึกเข้าไปอีกหน่อย

ก็เลยได้มาชมพระอาทิตย์ตกดินที่ หาดไม้ขาวพอดีครับ

เช้าวันกลับเลยดีกว่า ....

ตอนแรกขอ late check-out บ่ายสอง เค้าบอกว่า
มีคนต่อพอดี ขอได้แค่เที่ยงตามปกติ ก็ไม่เป็นไรครับ
โปรแกรมวันสุดท้าย ก่อนจะบินกลับ
ก็จะมีไปแวะ Premium Outlet, ไหว้พระวัดฉลอง, ทานซีฟู๊ดราไวย์
และปิดท้ายด้วย ขึ้นนมัสการพระใหญ่เมืองภูเก็ตครับ

ได้เวลาต้องโบกมือบ้ายบาย .... ห้อง 113 แล้ว

ศุภาลัยภาพสุดท้าย

ไว้มีโปรฯ 444-555-777-888 ใหม่แล้วจะมาพักอีกนะ
แต่ถ้าราคาแพงกว่านี้อาจจะต้องเลือกทางเลือกอื่นที่เดินทางสะดวกกว่านี้ ...

ไปละครับ ...
ต้องแวะเติมน้ำมัน ...

อยากจะบอกว่า ที่ภูเก็ตมีแต่แก๊สโซฮอลล์ 95 นะครับ
ไม่มีน้ำมัน E20 หรือแก๊สโซฮอลล์ 91 ให้เติม
ดังนั้นน้ำมันจะแพงกว่าพอสมควร (ปาดเหงื่อเล้กน้อย)

ปั๊ม ปตท. เข้าเมืองเค้าต้องเติมมากกว่า 800 ถึงจะรับบัตรนะครับ ...
แต่ปัีม ปตท. หน้าสนามบินไม่มีขั้นต่ำ
ทริปนี้หมดค่าน้ำมันไป 1,5xx บาทขับไป 500 กว่ากิโลเมตร

เอาหน่ะ ....

แวะที่นี่ก่อน ดูคุณเธอจะถูกใจมาก
ของบางอย่างก็แพงเว่อร์ (ซื้อในห้างเวลามีโปรฯ คุ้มกว่า) และราคาสินค้าถูกเป็นบางอย่าง
ต้องใช้เวลาเลือกพอสมควร (เรียกได้ว่า ผมกะว่าที่พ่อตา นั่งรอกันเกือบหงิก)

ไหว้พระวัดฉลองก่อน ....

ผมจำได้ว่า เวลาผมมาภูเก็ต ผมต้องมาไหว้ขอพรทุกครั้ง
มีอยู่ช่วงนึง ตอนนั้นสอบ MBA ที่เกษตรเมื่อปี 50
ไหว้ทุกที่ ปรากฎว่าสอบติดซะงั้น (ก็ไม่รู้ว่าติดด้วยความสามารถตนเองหรือเปล่า 555)
แต่ที่แน่ๆ คือ เมื่อปรารถนาสิ่งใด มาขอพรแล้วจะรู้สึกสบายใจขึ้นครับ ...

และแล้วก็มาจอดรถที่นี่ ... หม่ำๆๆ

วันนี้แดดดีมาก ทะเลก็เลยสวยมากๆๆๆ กว่าปกติ

เสียดาย ถ้ารู้งี้อยู่ต่ออีกซักวันก็ดี จะได้ซื้อทัวร์ทะเลด้วย อิอิ

เอาหล่ะครับ ช๊อปปิ้งของสดดีกว่า
ไม่รู้อะไรดลบันดาลใจให้ซื้อแต่หอย ไม่ว่าจะหอยชักteen และหอยหลอด !!
(หอยหลอดมาจากสุราษฎร์ธานี ไม่ใช่ของภูเก็ต)

และแล้วก็กลับมาร้านเดิม

อยากจะบอกว่า นึกเมนูไม่ออก ก็เปิดเมนูดูก่อนได้ครับ
อยากกินอะไรดี บางทีมาเปิดเมนูหาไอเดียก่อน แล้วค่อยออกไปซื้อของสดมาก็ยังไหว

พี่เจ้าของร้านใจดีเดินเข้ามาทักเช่นเคย ....

กลุ้มตรงที่ หอยหลอดบังคับซื้อเป็นถุง ถุงละ 1 โลจะกินไงไหว
สรุปว่าแบ่งเป็น หอยหลอดผัดฉ่า 1 จาน

และหอยหลอดผัดน้ำพริกเผา 1 จาน แผล่บๆ อร่อยทั้งคู่ครับ
คิดถึงหอยหลอดที่อัมพวาแต่ผมว่าที่นี่ก็โอเคนะ (แม้จะเป็นของสุราษฎร์ก็ตาม)

ผัดน้ำพริกเผา

หอยชักteen ของโปรด....

หากินไม่ได้ที่เชียงใหม่ หรือถ้าหากินได้ก็ไม่สดหรอกครับ (เพราะตอนที่ซื้อมายังเป็นๆ อยู่เลย)
ที่เห็นในภาพนี่คือ 1 กิโลกรัม ราคาโลละ 120 บาทครับ
(หอยหลอดก็โลละ 120 บาทเหมือนกัน)

ปลาหมึกย่างนิดๆ หน่อยๆ แค่เจอหอยไปก็พุงปลิ้นแล้วครับ

ปล. สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงจะแพ้อาหารทะเลโปรดระวังนะครับ
การทานอาหารแปลกๆ ที่ไมได้ทานเป็นประจำในปริมาณมากๆ อาจจะมีอาการแพ้ได้
ควรเตรียมยาแก้แพ้ไว้เลย สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงครับ

เอาหล่ะครับ หนังท้องตึง หนังตาหย่อน เอ้ย...
ไปไหว้พระใหญ่กันครับ ...
ระหว่างทางจะหาของฝากด้วย

แน่นอนว่าของฝากที่เราถวิลหา มิใช่อื่นใด
นั่นคือสะตอสดๆ จากภูเก็ตครับ ใส่ถุงใหญ่หิ้วขึ้นเครื่องหางแดงกลับเชียงใหม่

ทางเข้าพระใหญ่เมืองภูเก็ต จะอยู่ซอยแฟมิลี่มาร์ท ใกล้ห้าแยกอ่าวฉลองครับ

กรณีมาจากทางราไวย์ หรือกะตะ-กะรน ถึงห้าแยกอ่าวฉลองแล้ว
ให้ตรงขึ้นไปทางที่ไปวัดฉลอง
ตรงไปเล็กน้อยจะเจอสามแยกไฟแดง
ข้ามสามแยกไปจะมีร้านแฟมิลี่มาร์ทด้านซ้ายมือครับ
ซอยทางเข้าจะอยู่ถัดจากร้านแฟมิลี่มาร์ทเลย

กรณีขับมาจากวัดฉลอง ก่อนถึงสามแยกไฟแดงจะเห็นร้านแฟมิลี่มาร์ทอยู่ด้านขวา
มีป้ายเบ่อเริ่มเขียนว่าทางขึ้นพระใหญ่ครับ .... ชื่อยาวมากผมจำไม่ได้ แห่ะๆๆ

แต่ละเมนูน่าหม่ำจังเลยครับ

แอบหิวตอนดึกๆ อิอิ

ขับเข้าไปในซอยประมาณ 6 กิโลเมตรครับ
ระหว่างทางจะมีร้านขายของชำ ขายผักอยู่
มีสะตอวางอยู่กองใหญ่ๆ ครับ

คุณเธอตาโตลงไปตรวจสอบราคา
ทั้งกองใหญ่คิดแค่ 120 บาท ก็เลยเหมามาเลยครับ
ใส่กระสอบมาแบบนี้ (เป็นหน้าที่ที่เราต้องหากระเป๋าใหญ่สวมทับอีกที
เพราะถ้าหิ้วแบบนี้โดนแอร์ตบแน่ๆ

อิอิ ผมก็หิวด้วยและง่วงด้วยครับ

แอ่นแอ๊น... ขับขึ้นไปต้องระวังนิดนึงนะครับ ทางบางช่วงยังสร้างไม่เสร็จดี
แต่ที่แน่ๆ ข้างบนคนค่อนข้างเยอะครับ

พอเห็นแล้วสิ่งที่ผมนึกถึงก็คือ พระใหญ่วัดโป้หลิน นองปิง เกาะลันเตา ฮ่องกง เลยครับ ....

จอดรถฟรี และเข้าชมฟรี แต่อย่าลืมทำบุญด้วยนะครับ

ที่นี่จึงกลายเป็น สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเกาะภูเก็ตไปแล้ว

ปากทางขึ้นชมครับ มีบันได 78 ขั้นเดินขึ้นไปนิดเดียวก็ถึงแล้วครับ

ชมวิวเมืองภูเก็ตจากข้างบนได้ จะเห็นวัดฉลองอยู่ข้างล่าง

มองออกไปเห็นอ่าวฉลอง และแหลมพันวา

ศรีพันวาอยู่ตรงนั้น !!

กระดิ่งตรงบันไดทางขึ้น ตรงใบเสมามีการเขียนชื่อผู้ที่แขวนกระดิ่งด้วย

ก็เลยนึกถึง N-Seoul Tower ที่เกาหลีขึ้นมา
ถ้าเกิดที่นี่ทำแบบนั้นบ้าง หมายถึงที่นู้นเค้าเป็นแม่กุญแจคล้องกัน
แต่ที่นี่ถวายระฆังห้อยบริเวณด้านบน ก็อาจจะเป็นความคิดที่ดีก็ได้เช่นกัน
เพราะทางวัดก็จะได้รับการทำบุญค่าระฆังกัน
อีกทั้งระฆังก็มีีความหมายที่ดีแสดงถึงความก้องกังวานชื่อเสียงขจรขยายไป ....

ปัญหาหนึ่งที่ผมพบคือ ที่นี่มีลิง .... (ห้ามให้อาหารลิงนะครับ)

และมีประชากรแมวเยอะมากๆๆๆ
ที่นี่ ผมคิดว่า ใครที่อยากจะทำบุญกับแมววัด
ด้วยการนำไปทำหมัน ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีพอสมควรครับ
จริงๆ เห็นทางแม่ชีบอกว่า มีมูลนิธิฝรั่งมาช่วยดูแลเหมือนกัน
(อะไรก้ได้ แต่อย่ามาม่าทำตัวเป็นเห็บหมาอย่างในจตุจักรก็แล้วกัน)
เพราะที่แน่ๆ แมวๆ พวกนี้จำเป็นต้องคุมกำเนินถาวร (ทำหมัน) ทุกตัว
มิฉะนั้นประชากรแมวล้นวัดแน่ๆ
เพราะปัีมกันเก่งเหลือเกิน แมวคลอดปุีบกลับสัดปั๊บพร้อมมีลูกได้เรื่อยๆนั่นเอง

ปล. ปีนี้ยังไม่ได้ทำวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ากันนะครับ
คิดอยากจะซื้อวัคซีน และไปทำวัคซีนถวายวัดเหมือนกันครับ

ขาลง แวะผ่านร้านนี้ ให้อารมณ์เหมือนม่อนแจ่มดีครับ

เพียงแต่ว่า วิวที่มองออกไปนอกจากวิวเขาแล้ว ยังเห็นทะเลด้วย !!!

สำหรับใครที่อยากขับ ATV ที่นี่ก็มีให้ขี่นะครับ ...
สำหรับคนไทยลด 50% จากราคาในโบร์ชัวร์ที่เห็นนี้ครับ

ได้เวลากลับบ้านแล้ว เติมน้ำมัน ปตท. หน้าสนามบิน

ราคาน้ำมัน 38 บาท ลมจะใส่ .....
(ปกติเติมแจ๊สตัวเอง ใช้น้ำมัน E20 แค่ลิตรละประมาณ 34 กว่าบาทเอง)

คืนรถเรียบร้อยรวดเร็วทันใจ ....

เนื่องจากผมทำ Self Check-in
โดยการเช็คอินผ่านโทรศัพทืมือถือเรียบรอ้ยแล้ว ได้ QR Code มายิงกับเครื่องได้เลย ....

แต่ไม่ใช่ยิงแบบนี้นะครับ !!!

ต้องมายิงตรงนี้ .....

พลิกๆ ตะแคงๆ นิดหน่อย พอสแกนได้
ก็จะได้บอร์ดดิ้งพาสมาแบบนี้ครับ

ถ้า booking นี้มี 9 คนก็จะ print ออกมาทั้ง 9 ใบเลยทีเดียว
รีบตะครุบรับไว้ให้ทันก็แล้วกัน

ส่วนเครื่องอีกแบบหนึ่ง ก็ไม่ต้องกดปุ่มครับ แค่เอามือถือ เปิดหน้า QR Code ไว้
แล้วก็จ่อ ถ้าเครื่องอ่านได้ก็จะ print บอร์ดดิ้งพาสออกมาเองครับ

พยายามใช้กันให้คุ้นเคยนะครับ เพราะเดือนหน้าคาดว่าหางแดงเอาจริงครับ

ถ้าโหลดกระเป๋า ก็ต้องไปต่อคิวยาวเหยียดอยู่ดี ....

คนเยอะมากจริงๆ

ปล. แต่ช่องเชียงใหม่ คนโล่งแล้วนะครับ

สำหรับใครที่บินในเดือนสิงหาคมนี้
ถ้าทำ Self Check-in แล้ว
(ไม่่ว่าจะเป็น เว็บเช้คอิน/คีออส/โมบาย)
ให้ไปแวะขอคูปองส่วนลด 40 บาทค่าอาหารบนเครื่องได้เลยนะครับ
ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ต้องไปขอเองถึงจะได้คูปองมานะครับ ถ้าไม่ได้ขอก็เสียสิทธิ์ไป

ป๊ะ กลับบ้านดีกว่า ... เจอเจ้า HS-ABH ลำเดิมอีกแระ

ไฟล์ทนี้ผมสั่ง ไก่ย่างบาร์บีคิวครับ ... รสชาติผมว่าโอเคเลยครับ
ไก่เป็นไก่ดี

และตอนแรกว่าจะสั่งลาซานญ่า ปรากฎว่าหมดเกลี้ยง
ก็เลยได้ดาด้ามาแทน .... เพลียกับ A&W จริงๆ
ขอเปลี่ยนเป็นโค้กได้ไหมเนี่ยะ ช่วยเอา A&W ไปเก็บที ไม่อร่อยเลย ......

มาทัน ส่งคุณหมอยุ่ง กลับเชียงใหม่ และเข้านอนพอดีเลยคะ

ปิดไฟ นอนหลับกันดีกว่า คร๊อก... คร๊อกก.....

เอาหล่ะครับ .... กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
ก่อนเวลา 23 นาที กัปตันซิ่งใช้ได้ครับ
ถ้าเป็น Hub ภูเก็ต ส่วนใหญ่ถึงก่อนเวลาทั้งนั้นเลยทั้งขาไป-ขากลับ

อย่างไรต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ รู้สึกว่าหมอยุ่งจะชอบมาดึกๆนะ อิอิ

เดือนที่แล้วไปภูเก็ตมาเหมือนกันมีแต่เมฆกับฝน ไม่เห็นฟ้าใสแบบนี้บ้างเลย

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
น่าตามรอยมาก ข้อมูลแน่นเช่นเคยครับ

ตามหมอยุ่ง.....ไปเที่ยวด้วยคนจ้า

โอว์ หมอยุ่งรีวิวเช้ามืดอีกแล้วค่ะ...

ตามไปเที่ยวภูเก็ตด้วยคนค่ะ...

แวะมาเที่ยวภูเก็ตด้วยครับ

สวยจังเลยครับ

ตามหมอยุ่งไปเที่ยวภูเก็ตอีกรอบค่ะ
อากาศแจ่มใสผิดคาด
อาหารการกินยังอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม

ขอบคุณสำหรับรีวิวแจ่มๆนะคะ

ตามไปเที่ยวดภูเก็ตด้วยค่ะ แอบอิจฉาเล็กน้อย เห็นคุณหมอยุ่งเที่ยวติด ๆ กันตลอดเลย

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ เห็น JW แล้วอยากไปพักมั่งจัง แต่เคยไปพักที่ปาล์ม แกลเลอเรีย เขาหลัก แหลมปะการัง เล่นเอานอนไม่หลับทั้งคืน หลอน ๆ เงียบ ๆ ไงไม่รู้ เลยยังไม่กล้าพอจะลองไป JW กลัวใจตัวเองค่ะ

thank you for good review

เคยไปพักแต่ JW Marriott Phuket นานมากแล้วตั้งแต่เปิดใหม่ๆ
ภูเก็ตผมก็ไม่ได้ไปอีกเลยตั้งแต่คราวนั้น
เห็นรีวิวแล้วชักอยากจะไปบ้างเลยครับเนี่ย...

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

JW Marriott Khao Lak  น่าไปมากๆครับ สงสัยต้องตามรอยซะหน่อยแล้ว

ว่าจะไปซื้อ โปร 1,999 ของ JW Marrioot Khao Lak ที่งาน ไทยเที่ยวไทย 1-4 กันยานี้ซะหน่อย แต่พอโทรไปถามเซลล์ พูดจาก็ไม่เพราะ กระแทกเสียงใส่ลูกค้าอีกต่างหาก เซลล์บอกว่า ไม่มีโปรนี้ขายแล้ว ออกครั้งเดียวเลย ถึงไม่มีก็น่าจะพูดดี ๆ กับลูกค้าหน่อยนะคะ เสียความรู้สึกไปเลยคะ

ว่าจะไปซื้อ โปร 1,999 ของ JW Marrioot Khao Lak ที่งาน ไทยเที่ยวไทย 1-4 กันยานี้ซะหน่อย แต่พอโทรไปถามเซลล์ พูดจาก็ไม่เพราะ กระแทกเสียงใส่ลูกค้าอีกต่างหาก เซลล์บอกว่า ไม่มีโปรนี้ขายแล้ว ออกครั้งเดียวเลย ถึงไม่มีก็น่าจะพูดดี ๆ กับลูกค้าหน่อยนะคะ เสียความรู้สึกไปเลยคะ

เยี่ยม ครับ
หมอ ยุ่ง
ไม่ได้ขึ้นเขารัง ???

ForDed

เยี่ยม ครับ ...Give
หมอ ยุ่ง
ไม่ได้ขึ้นเขารัง ???

ForDed

เยี่ยม ครับ ...Give
หมอ ยุ่ง
ไม่ได้ขึ้นเขารัง ???

ForDed

ขอบคุณที่พาชม พาเที่ยวนะครับ

ขอบคุณที่พาชม พาเที่ยวนะครับ

เอ...คลับคล้ายคลับคลาว่า ปตท. ตรงเลยวัดฉลองไปหน่อยนึงมี E20 นะครับ...

ส่วนแก๊สโซฮอล์ 91 มีที่ปั๊มบางจากตรงราไวย์ (แต่บางทีก็หมด เหอะๆ)

_________________________________________________________________________________

ปล. ทีแรกเห็น Sea Sand Sun ที่ชื่อกระทู้นึกว่าชื่อโรงแรมซะอีก (อยู่ตรงกะรน) 5555

คคห.58 นั่นคือโรงแรม Graceland ครับ (ที่ภูเก็ตอยู่ที่หาดป่าตอง ตอนนี้กำลังสร้างอยู่ที่บางสัก)

คคห.108 ตอนนี้ภูเก็ตมี E20 ให้เติมแล้ว (เย้ๆ) อยู่ถนนเทพกษัตรี ขาออก ก่อนถึงแยกบ้านเคียน (สี่แยก อ.ถลาง) ประมาณ 2 กม. ครับ (จริงๆ แก้สโซฮอลล์ 91 มีให้เติมอยู่หลายปั้มนะครับ ของ Shell)

แมริออทเขาหลักดูดีทีเดียวนะคะ

รีวิวของคุณหมอยุ่งมีรายละเอียด และเรื่องราวสนุกๆมาให้เสมอ
ชอบมุมโต๊ะทำงานที่ศุภาลัย จาก คห. 26 จังเลยค่ะ  
แมริออท เขาหลักสวยงามและกว้างมากๆเลยนะคะ  
ขอบคุณที่พาทัวร์นะคะ

ติดตามอ่านรีวิวของหมอยุ่งทุกเรื่องเลย
ข้อมูลแน่น  อ่านเพลินๆ ดี

รีวิวละเอียดเช่นเคย  

ขอบคุณมากๆค่ะ

เยอะจริงๆ ครับท่าน

ละเอี๊ยด ละเอียด ค่ะ   แหะ แหะ มีสอนวิธี scan ให้ด้วย   ป้าอ้วนน้อยฯ ทำไม่เป็น

หมอครับวันหลังถ้าไปพักแถวศุภาลัยอีก แนะนำร้านบางแปซีฟู๊ด ขับรถเข้ามาทางน้ำตกบางแป ทั้งถูกและอร่อยครับ

ผมว่า JW นี่ขายห้องได้เพิ่มอีกหลายห้องเลยกับคุณหมอ
แล้วไม่มีรูปที่เกะนาคาเหรอครับ ^^

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันครับ

ต้องขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องน้ำมัน แก๊สโซฮอลล์ 91 และ E20 ด้วยนะครับ
เพราะปกติผมไม่ได้อุดหนุนปั๊มหอยมานานมากแล้ว เลยมองข้ามไป
ปกติจะอุดหนุนแต่บางจาก เพราะจะเติม E20 + Cash Back บัตรเครดิตกรุงศรี + แจกน้ำ
คราวหน้าจะได้ไม่พลาดอีกครับ เพราะลิตรละ 38 บาทนี่ผมว่าเอาเรื่องนะ
ขนาดไปปาย แต่เติม E20 ยังรู้สึกสบายใจกว่านี้ครับ

--> สำหรับ JW Marriott อันนี้ผมก็คิดว่าตัว Product เค้าก็โอเคอยู่ครับ
แต่ ... เรื่องเซลล์ อันนี้ผมไม่ทราบเลย เพราะแม้จะ Product ดีเท่าไหร่
แต่เซลล์ไม่ดี ก็เท่านั้นหล่ะครับ อย่างช่วงที่จัดงาน ผมพยายามติดต่อเพื่อสอบถามโปรโมชั่น
ปรากฎว่าโทรไปที่แผนก Reservation เค้าก็บอกว่าเซลล์ JW Marriott เขาหลัก
ไม่มีใครอยู่ซักคน และไม่มีใครติดต่อกลับด้วย สงสัยน่าจะอยู่ในงานศูนย์ฯ สิริกิติ์กันหมด

ทีนี้ ก็เป็นเรื่องของเซลล์แล้วหล่ะครับ ว่าจะจัด 1,999 ออกมาอีกหรือไม่
ซึ่งส่วนตัวผมนะ ถ้าอัตราการเข้าพักช่วง Low แบบนี้มีแค่ 40% ผมคงจะอัด 1,999 ต่อไป
เพราะอย่างไร โรงแรมก็ไม่เสีย แถมจะสร้างชื่อเสียง และสร้างความคึกคักให้กับโรงแรมด้วยซ้ำไป
ในอนาคตจะไม่ออกโปรฯ อีกก็ไม่มีใครว่า แต่ได้ชื่อเสียงไปแล้ว (ตัวอย่างเช่น ปานวิมาน เชียงใหม่ เดิมทีไม่เคยออกโปรฯ พอออกโปรฯ ทีเดียวคนไปพักเยอะ ก็ได้ชื่อเสียงมา จนปัจจุบันเค้าก็ขายไม่ถูก แต่ทุกคนรับรู้ในคุณภาพและบรรยากาศว่า เยี่ยมครับ)

ดังนั้น เรื่องเซลล์มะนาวไม่มีน้ำ จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวครับ
โรงแรมจะเสีย เสียเพราะเซลล์ เสียเพราะบุคคลากรมีเยอะครับ ต้องระวังให้ดี

----------------------------------------------------------------
ถึงคุณ Forded --> อยากจะบอกว่าขึ้นเขารังบ่อยจนจะหลับตาขึ้นได้ละครับ
ก็เลยไม่ตัดสินใจขึ้นอีกครับ ส่วนตัวผมคิดว่า วิวที่พระใหญ่สวยกว่าที่เขารังครับ

ขอบคุณ คุณ nonsaint สำหรับคำแนะนำร้านอาหารด้วยนะครับ
ผมเองก็ทำการบ้านไปไม่เยอะเท่าไหร่ เห็นป้ายแต่ไม่ได้เข้าไปทานครับ แฮ่ๆๆๆๆ

ถึงคุณ bangalow แหม่ สำหรับ The Naka ผมก็แค่แวะไป check-in ใน foursquare เฉยๆ
โรงแรมยังไม่เปิดเลย เปิด 1 พฤศจิกายน นู้นแหน่ะครับ ...

ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาอ่านกันครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ^ ^

ขอบคุณครับ ตอนผมไปภูเก็ตเมื่อ ก.พ. ปีที่แล้ว แดดแรงมากๆ ร้อนนนนนนนนนน สุดๆ ลมยังเป็นลมร้อนเลย

-ขอบคุณครับ..คุณหมอ..

 ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ

ป้าตามหมอยุ่งมารำลึกถึง JW Marriott ด้วยคนจ้า

เห็นแล้วยิ่งคิดถึงงงงงง เสียดายโปร 1,999 พอดีช่วงจังหวะไม่ให้ หวังว่าคงจะมีออกมาอีก

ป้ากะครอบครัวไปอยู่มา 4 วัน 3 คืนช่วงปลายเม.ย. สนุกมากๆ ยืนยันว่าน้องพนักงานน่ารักทุกคน

สระว่ายน้ำเป็นที่ปลื้มสุดๆ ด้วยความลึกตั้งแต่ 1.30 - 1.60 เมตร ป้าอาศัยเดินออกกำลังข้อเข่าและขาเพลินไปเลย

ถึงแม้ว่าโรงแรมจะอยู่เข้าไปลึก แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องที่กินนะคะ

บริเวณชายหาดสองฟากของโรงแรม มีร้านอาหารเปิดบริการอยู่หลายเจ้า บางร้านจะมีราคาคนไทยด้วย ซึ่งจะถูกกว่าชาวต่างชาติ

ตัวป้าติดใจร้านทิวสนที่อยู่ไปทางด้านขวา รสชาติอร่อยใช้ได้ เจ้าของให้บริการดีมาก อ้อ...ต้องบอกไม่ใส่ชูรสนะคะ

แหะๆ รูปที่ถ่ายมา ปร้ายังดองไว้ในไหเลยอ่ะ

เที่ยวอีกแล้ว .. อิจฉาเกิ้น ๕๕๕

อ่านจบพร้อมกับความอิ่มเอมใจ ขอบคุณหมอยุ่งมากๆนะคะ

ลอกตาม คูหา 166 เลยค่ะ

ขอบคุณหมอยุ่งอีกครั้งค่ะ

(^_^) ∠※

JW Marriott Khao Lak สวยมาก ไม่ผิดหวังที่ซื้อ voucher ไว้ในงานท่องเที่ยว 1,999 บาทเหมือนกัน
เราซื้อไว้ 2 คืน ได้ upgrade เป็น pool access เหมือนกัน (ไม่ได้ขู่เซลว่าจะกระโดดน้ำนะคะ แค่ออดอ้อนอยู่ 3 รอบ อิอิ)

ผมไปพัก JW เขาหลักเมื่อต้นเดือน กรกฎา 54 ครับ ซื้อเวาเช่อร์ในงาน 1999 บาท 2 คืน ตกลงกับเซลส์ขออัพเป็นพูลแอ็กเซส  นอนอยู่แต่ใน รร. ไม่ไปเที่ยวไหนเลย นอนสบายมากๆครับ พนง.ก็บริการดี รถเช่า ก็เช่ามาจอดไว้เฉยๆ จะออกก็ช่วงเย็น ไปหาข้าวทาน
ตอนจอง ก็ลังเล ถึงขนาดปลีกตัวออกมาใช้ I 4 หาข้อมูล เพราะสงสัยว่าทำไมมันถูกจัง พอดูคอมเม้นท์แล้ว ไม่มีข้อติ  ก็ตัดสินใจซื้อเลยครับ
ถ้าไม่มีโปรนี้แล้ว ก็เสียดายมาก  รร.ดีจริงๆ ไม่อยากออกไปไหนเลย นอนกลิ้งอยู่แต่ในห้อง  ยิ่งตอน พนง.มาส่งที่ห้อง เค้าใช้รถกอล์ฟ ขับมาส่งถึงหน้าห้องเลย ทั้งๆที่ ถนนก็แคบ รู้สึกสนุกมากๆครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวคุณภาพนะครับ โดยเฉพาะที่ JW Marriott Khoa Lak

ปล. Westin Siray Bay ห้อง superior ก็นอนแช่ดูทีวีจากในห้องน้ำได้นะครับ เข้าใจว่า lay out ห้องในแต่ละตึกไม่เหมือนกันครับ (ถ้าจำไม่ผิด) แต่ที่ชัวร์ๆ ก็ discovery suite ครับ

รบกวนถามหน่อย ครับ พอดีจอง JW ไว้เหมือนกัน ไม่ทราบว่าสระน้ำลึกมากแค่ไหน พอดีมีเด็กเล็กไปด้วย  ส่วนผู้ใหญ่กะว่าจะโดดจากชั้น 2 ลงมาเลย ไม่รู้คอจะหักหรือเปล่า

ขอบคุณสำหรับรีวิวคุณภาพ naka  โดยเฉพาะที่ JW Marriott Khoa Lak

copy  Khun Nobody loves me.   NAKA

รบกวนถามหมอยุ่งนิดนึง
ดีลเวปอะไรขายอดามัส1999คะ หลังมายก็ได้ค่ะ
แล้วระหว่างอดามัสกับศุภาลัยอันไหนน่าพักกว่ากัน
ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากครับ สนุกมากๆเลยครับ

ขอบคุณมากๆครับผม

อยากทานอาหารทะเลเลยค่ะเข้ากระทู้หมอยุ่งมาเนี่ย อิอิ

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวย ๆ นะคะ ทำให้หวนคิดถึงตอนที่ไป JW Marriott เขาหลักเมื่อปีที่แล้ว
อยากไปอีกจังค่ะ ^^

 สงสารน้องแมวที่เป็นขี้เรื้อนจังเลยค่ะ

อาหารทะเลน่าทานทุกอย่าง โดยเฉพาะกุ้งผัดสะตอค่ะ

ขอบคุณคุณหมอยุ่งสำหรับรีวิวมากๆๆๆ เลยค่ะ
จะต้องตามไปชิมร้านที่าหาดราไวย์ให้ได้
แต่จองหางแดงบินอีดที เมษาหน้านู้นนน
ขอบคุณนะคะ ^ ^

แวะมาชมครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ไปเที่ยวด้วยคนครับ

ตามไปเที่ยวด้วยนะครับหมอยุ่ง

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะครับ

--> ตอบคุณแป้งสีฝุ่นครับ สำหรับดีล โรงแรมอิมพีเรียลอดามาส ถ้าเทียบกับศุภาลัยแล้ว อดามาสย่อมเหนือกว่าครับ ทั้งรูปแบบการตกแต่งโรงแรม สระว่ายน้ำ รวมถึงห้องพัก แต่อดามาสจะออกแนวไม้ๆ หน่อยนะครับ ด้วยความที่แต่งแบบไม้ๆ เท่าที่เคยไปพัก บางทีอาจจะรู้สึกแปลกๆ ได้เหมือนกัน มีหาดทรายกว้างจริง แต่ข้างๆ ดันมีโรงแรมร้างอยู่นี่สิ ลำบากหน่อย อยู่ใกล้กับสนามบิน ระยะขับรถประมาณ 10 กว่านาทีก็ถึงแล้วครับ ดีลที่ขายอยู่เว็บ Dealไทยแลนด์ อ่ะครับ

--> ขอบคุณป้าเตี้ยฯ สำหรับคำแนะนำเรื่องของกินที่ JW Marriott เขาหลักครับ ก็หวังว่า เซลล์จะใจดีขาย 1,999 บาทเหมือนเดิม เพราะรอสอยอยู่เช่นกันครับ แต่ถ้าเซลล์มะนาวไมมีน้ำ ก็คงพูดยากหล่ะครับ

--> ถึงคุณ Nobodyฯ เจ้าพ่อ Starwood (ยกตำแหน่งนี้ให้ละกัน)
ใช่ครับ ถ้าห้อง Superior ที่อยู่อาคารชั้นล่างๆ หน่อย (ห้องขึ้นต้นด้วยเลข 2xxx) จะเป็นแบบห้องน้ำกระจก นอนแช่น้ำดูวิวได้ แต่ถ้าห้องที่อยู่ด้านบน เป็นกลุ่มอาคารมี 8 ห้อง กลุ่ม 11xx - 18xx เท่าที่สำรวจคือ การวางผังห้อง อ่างอาบน้ำอยู่ติดมุมอีกด้านหนึ่งเลย ได้แค่นอนแช่น้ำดูวิวผ่านหน้าต่างเล็กๆ แต่ไม่ได้ดูทีวีครับ ดังนั้น ถ้าจะพัก Westin Siray แบบนอนแช่น้ำดูทีวีได้ ก็คงต้องเลือกห้องหมายเลข 2xxx ไป ส่วนถ้าจะเอา 1814/1824 สุดฮิต ก็คงไม่ได้หล่ะครับ (อันนี้ยืนยัน แฮ่ๆๆๆ)

--> ตอบคุณ pu (iampp) ครับ จะบอกว่าสระไม่ลึกนะครับ
มาตรฐานโรงแรมโดยประมาณ 1.30 เมตรเท่านั้นเอง ถ้าโดดมาจากชั้น 2 เกรงว่าคอหักแน่ๆ ครับ ห้ามโดดเด็ดขาด ยอมไปอ้อนเซลล์ขออัพเกรดเป็น Pool Access น่าจะดีกว่าครับ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ
และผมหวังว่า กระทู้นี้คงจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเที่ยวได้ไม่มากก็น้อยครับ อย่างผมเอง ผมไปดูด้วยตาตนเอง ผมก็โอเคกับ JW Marriott เขาหลัก และก็หวังว่า เซลล์จะปราณีออกโปรฯ 1999 บาทมาอีกเช่นกันครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวน่ะค่ะ