สวัสดีค่า ชาว BP ทุกคน ห่างจากการทำรีวิวไปก็หลายเดือน ระหว่างนี้กลิ้งมีแต่ทริปออกเที่ยวๆๆๆๆๆ แต่ดองเค็ม ดองเปรี้ยว ไว้เยอะมาก วันนี้ก็ว่างจากการทำงาน หรืออีกนัยหนึ่ง อู้งานมารีวิว แล้วด้วยยังประทับใจกับภูเก็ต เลยหยิบเอาทริปภูเก็ตมารีวิว แซงทริปหนองคาย-เวียงจันทร์

การไปภูเก็ตครั้งนี้ กลิ้งไปเป็นครั้งแรกตั้งกะเกิดมาเลย ดูรีวิวในพันทิปก็หลายอันอยู่ เกิดกิเลสเป็นอย่างมาก เลยอ้อนผู้อุปการะคุณว่า อยากจะไปภูเก็ต จะไปเที่ยว จะได้ไม่ล้าสมัยกะชาวบ้านเค้า อยากไปกินหมี่ต้นโพธิ์ อยากไปภูเก็ตแฟนตาซี อยากไปดูตึกสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ฯลฯ เรียกได้ว่า งานนี้ทริปภูเก็ตจัดเต็ม

เราเริ่มออกเดินทางที่ดอนเมืองตอนเช้า ด้วยนกสุรินทร์ตัวนี้ค่ะ แดดไม่มี ฝนไม่มา พระอาทิตย์ไม่ส่อง แต่นกตัวนี้จะบินแย้วววว

ออกจากกรุงเทพ 9 โมงครึ่ง ถึงภูเก็ต 10 โมงกว่าๆ โดยทริปนี้ผู้มีอุปการะคุณรู้จักกับคนที่อยู่ภูเก็ต เลยส่งรถและคนขับรถมารับเพื่ออำนวยความสะดวกให้
พอมาถึงภูเก็ตฝนเริ่มโปรยปราย ฟ้ามืดครึ้ม เมฆเยอะฟ้าไม่โปร่ง แต่เราไม่แคร์ ระหว่างทางแวะเอาฤกษ์เอาชัยที่วัดพระผุดก่อนค่ะ ขอให้ทริปนี้เจอแดดด้วยเท้ออออ สาธุ (กราบ 3 ครั้ง)

ตามกลิ้งไปเที่ยวภูเก็ตด้วยคนครับ

จริงๆ กลิ้งแวะทานหมี่ต้นโพธิ์ก่อน แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะตอนทานอยู่ฝนก็ตกอย่างกะพายุ ต้นไม้ใบหญ้าแถวนั้นปลิวกันว่อน คนทานอย่างเราก็แทบกลิ้งไปตามแรงลม วิ่งเข้าร้านหาที่หลบฝน แต่ฝนก็กระหน่ำพัดเข้ามาให้โดนละออง หยึ๋ย หนาวววว
แต่รสชาติสมคำร่ำลือ อร่อยมาก ชอบกันทุกคนในทริปเลยทีเดียว อยากจะขอเบิ้ลหากฝนไม่ตกซะก่อน

หลังจากฝนซาลงบ้างเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ ต้องวิ่งฝ่าฝนระดับปานกลางจนโรศัพท์เจ๊งไปหนึ่ง) เลยบอกคนขับรถว่าไปที่พักเลยดีกว่า ที่พักของเราในทริปนี้ที่จองมาคือ ศรีพันวา จองมาก่อนล่วงหน้า 3 เดือนค่ะ ซื้อแพคเกจในงานท่องเที่ยวไทย ห้องแบบ Two Bedroom Villa ฝั่งพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ (ฝั่งที่สร้างทีหลังแต่ก็สร้างเสร็จมา 2 ปีแล้ว)

@ เชิญค่ะ คุณเล็กทาโร่ ทริปนี้เจอทั้งแดด ทั้งฝน แต่ก็ประทับใจมากๆๆๆ

ตอนเข้ามาก็ขับผ่านยามที่เฝ้าตรงป้ายโรงแรม ซึ่งยามที่นี้จะสอบถามก่อน กลิ้งก็แจ้งไปว่ามาพักนะคะ และด้วยฝนตก ขอเอารถเข้าไปตรงเช็คอินเลยดีกว่า ซึ่งปกติ ตรงทางเข้าจะมีรถกระป๊อคอยบริการแขกที่อาจจะขับรถไม่แข็ง เนื่องจากทางขึ้นโรงแรมเป็นทางลาดชัน ทางยามก็บริการดีค่ะ วิทยุไปแจ้งกับทางฟร้อนท์ว่าลูกค้ามาแล้ว เตรียมรอรับนะ แล้วก็เข็นราวกั้นออกเพื่อให้รถขับผ่านไป

ระหว่างทางขึ้น ฝนยังตกพรำๆ แต่ก็ยังมียามคอยยืนตากฝน โบกทางไปฟร้อนท์เป็นระยะตลอดทาง เห็นแล้วก็อยากบอกเขาว่าพี่ไม่ต้องมายืนโบกก็ได้ เพราะทางเป็นทางบังคับอยู่แล้ว หนูคงไม่หลงอ่ะ

แล้วเราก็ถึงตึกสำหรับเช็คอิน สำหรับที่นี่ ฟร้อนท์ที่เช็คอิน และ เช็คเอ้าท์จะอยู่คนละที่ค่ะ ถ้าต้องการเช็คเอ้าท์จะอยู่ตรง บาบ้า พูลคลับ คิดว่าเพื่อระบายไม่ให้แขกออกันเยอะ ซึ่งก็นับว่าดีมากเลยค่ะ

รูปนี้ถ่ายวันที่ 2 ที่ฝนหยุดแล้ว วันแรกทุลักทุเลกับการลงรถวิ่งหนีฝนมากค่ะ แต่พนักงานที่นี่ดีมากค่ะ เอาร่มมายืนกางรอลูกค้าตรงถนน รถกลิ้งจอดปุ๊บ วิ่งมาเปิดประตูพร้อมกางร่มให้ แต่พนักงานเปียกฝนซะงั้น

ตามไปด้วยคนครับ

ตามไปภูเกตด้วยคนค่ะ

อ๊า ลงรูปผิด แต่ก็ไม่เป็นไร พนักงานจะนำ Welcome Drink เย็นๆ ชื่นใจมาเสิร์ฟต้อนรับเพื่อพักผ่อนให้หายเหนื่อยก่อนทำการเช็คอิน ซึ่งพนักงานจะขอบัตรประชาชนของผู้เข้าพักทุกท่านไว้ ตอนแรกกลิ้งก็แปลกใจเลยสอบถามว่าทำไมถึงต้องเอาบัตรของทุกคน เพราะเวลาไปพักที่อื่นเอาแค่ของชื่อคนจองคนเดียวก็พอ พนักงานเลยตอบว่า เผื่อกรณีแขกสูญหายไปจะได้ตามถูกว่าพักที่ไหนยังไงล่ะค่ะ

รูปตึกที่ไว้เช็คอินค่ะ

@ คุณม่วงมหากาฬ และคุณMyloveisBlue เชิญค่ะ เพิ่งจะเริ่มยังไปไม่ถึงไหนเลยค่ะ

เมื่อเข้าไปในตึกก็เลี้ยวซ้ายตรงประตูจะเป็นทางลงไปยังฟร้อนท์อีกที ดูเหมือนลึกลับ แต่กลิ้งชอบค่ะ
สระบัวที่อยู่ตรงขนาบทางเดินค่ะ มีปลาด้วย

เดินเข้ามาด้านในตึกจะมีที่นั่งแบบนี้ค่ะ มานั่งมองวิวตรงนี้ก็เพลินใจดีนะคะ แต่มันเป็นแบบ Open Air ออกจากร้อนสักหน่อยพอเหงื่อซึมในวันที่แดดจัด

ลงไปเช็คอินกันค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ^^

ตามมาพักหรู ไว้มีโอกาส(ไม่รู้เมื่อไหร่)จะไปบ้างนะครับ

เมื่อลงบันไดมาชั้นล่างแล้วจะเป็นห้องแอร์ค่ะ ด้านข้างบันไดจะมีเคาน์เตอร์เช็คอินและมีพนักงานคอยต้อนรับ รูปนี้กลิ้งขออนุญาตน้องพนักงานแล้วค่ะ ประทับใจน้องเค้ามาก เพราะเค้าไปยืนตากฝนคอยรับ นำน้ำมาให้ดื่ม แล้วยังพาไปส่งที่บ้านพักอีกด้วยนะ

@ คุณมะนาวเค็มปี๋ และคุณTeeChoco เชิญค่ะ รูปไม่สวยเท่าไหร่นะคะ แต่พยายามถ่ายมาให้ได้ดูกัน ถ้าคุณTeeChoco ไปพัก รับรองว่าต้องถ่ายรูปสวยมากๆๆๆ แน่ๆ

ห้องทางด้านหลังเคาน์เตอร์จะเป็นห้องสมุดค่ะ มีหนังสือฝรั่งและอินเตอร์เน็ต พร้อมปริ้นเตอร์บริการด้วยนะคะ แต่มีเครื่องเดียวค่ะ ซึ่งก็ไม่ค่อยเห็นแขกใช้เท่าไหร่ กลิ้งไปใช้บริการมาเหมือนกันบริการฟรีนะคะ แม้ว่าจะปริ้นเอกสารด้วยก็เหอะ

หนังสือของเชฟครัวนรก กอร์ดอน เรมซีย์ ชอบตานี่จริงๆ

อยากไปบ้างไรบ้าง...

ส่วนด้านหน้าเคาน์เตอร์จะเป็นที่นั่งแบบนี้ค่ะ นั่งเช็คอินตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องลุกไปทำตรงเคาน์เตอร์ ดื่มด่ำบรรยากาศไปเรื่อยๆ

ที่นั่งในส่วนของเช็คอินทั้งหมด จะแปลงสภาพเป็นโต๊ะทานอาหารตอนเช้าด้วยค่ะ โดยพนักงานจะนำอุปกรณ์มาเตรียมไว้ เผื่อในกรณีที่ลูกค้าใช้บริการโต๊ะด้านล่างจนเต็มก็ระบายมานั่งทานที่นี่ได้ อ้อ ลืมบอกไปตึกเช็คอินจะเป็นที่สำหรับทานอาหารเช้าด้วยนะคะ โดยชั้น 2 จะเป็นที่เช็คอิน ชั้น 3 จะเป็นห้องทานอาหารเช้า

@ คุณหมูอ้วนจอมพลัง กลิ้งได้อานิสงฆ์จากครอบครัวค่ะ เลยมีโอกาสไปพัก

ตอนเช็คอิน พนักงานจะให้การ์ดสำหรับเข้าห้องพัก 2 ใบ สำหรับ 2 ห้อง และแผนที่ของโรงแรม แสดงจุดต่างๆ ว่าอยู่ตรงไหนยังไงบ้าง เวลาต้องการไปที่ไหนก็โรแจ้งพนักงาน รอแป็บเดียวรถก็จะมารับถึงหน้าประตูค่ะ

แผนที่ศรีพันวาที่ทางโรงแรมตั้งเอาไว้ตรงด้านหน้าประตูทางเข้าตึกเช็คอิน เผื่อหลงนะคะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ เห็นว่าที่นี่สวยมาก แต่ไม่ได้ไปซักทีงบไม่ถึง อิอิ

อยากไปจังเลย..

ไปห้องพักกันดีกว่า กลิ้งได้พักห้อง ปลาโลมา Flipper อยู่แถวชั้น 3 ห้องเกือบริมสุดนะคะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ ^^

@คุณตระเวนเที่ยว และคุณBROWN STITCH เชิญมาเที่ยวด้วยกันค่ะ ที่นี่วิวสวยมากค่ะ คอนเฟิร์ม ส่วนสถานที่ก็อาจจะเก่าบ้างนิดหน่อยเพราะตากแดดตากฝน แต่โดยรวมก็ยังสวยมากอยู่ดี

มองจากถนนเข้าไปยังหน้าประตู  ต้นไม้ที่ปลูกให้ความร่มรื่นดีค่ะ

@ คุณWini2524 ยังทันค่ะ ยังไม่ได้เข้าบ้านเลย 555

ตื่นเต้นๆๆๆๆ มะเข้าบ้านกัน

เมื่อเข้าประตูมาแล้วจะเจอแบบนี้เลยค่ะ กลิ้งเห็นยังไง ทุกท่านก็เห็นแบบนี้เลยค่ะ

ตามเก็บข้อมูลอย่างใกล้ชิดเพื่อทำโปรเจ็คต์เสนอเบื้องบนครับ
อิอิ

ถัดจากประตูบ้าน จะมีบันไดลงไปชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนอน 2 ค่ะ แล้วก็จะมีเก้าอี้หินให้นั่งเล่นด้วย กลิ้งไปรั่งแค่แปบเดียวก็ร้อนค่ะ เพราะตากแดดเลย แต่ช่วงเย็นถ้าแดดร่มๆ ก็นั่งสบายอยู่ค่ะ ลมพัดมาเรื่อยๆ

ทางลงไปชั้น 2 เดินดีๆ นะคะ เพราะมันมีหักมุมด้วย แล้วบันไดก็เป็นแบบทรายหยาบๆ กลิ้งไม่ทันระวังขูดไปนิดนึงได้แผลตรงเท้ากลับมา

@ คุณลุงแบกเป้ กลิ้งก็เก็บเอารีวิวในนี้ไปไซโคบ่อยๆ ค่ะ พอถึงเวลาพาไปตีปลาซื้อวอยเชอร์หน้าบูธเลยทีเดียว 555

ที่นั่งหินค่ะ กว้างมากค่ะ

มองย้อนกลับไปประตูทางเข้า รูปนี้ถ่ายจากศาลาค่ะ ด้านขวาคือทางลงไปชั้น 2 ด้านซ้ายมือคือประตูเข้าบ้าน เป็นระบบเปิด-ปิด ด้วยคีย์การ์ดค่ะ ทางศรีพันวาให้มาห้องละ 1 ใบเท่านั้น วันแรกใช้ไม่เป็นเลยไม่ได้ล็อคห้องค่ะ แต่ของก็ไม่หายนะคะ

อยู่ข้างนอกแล้วร้อน เข้าไปข้างในกันค่ะ กลิ้งพาไปชมห้องด้านบนก่อนนะ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ที่มีโซฟาเบดตัวใหญ่ นอนกันได้ทั้งบ้าน (4 คน) ทีวีจอแบน IPOD เครื่องเล่นดีวีดี โต๊ะทานข้าว และวิวสระว่ายน้ำ
ตอนไปถึงกลิ้งไม่ทันได้ถ่ายรูปไว้ มาถ่ายเอาทีหลัง ตอนกลางคืนและห้องก็เละมาก มาค้นรูปเลยเจอแต่ถ่ายเจาะ แต่แบบถ่ายภาพห้องนั่งเล่นโดยรวมไม่มี

อันนี้ถ่ายโซฟาเบดที่ว่าค่ะ หันหลังให้สระว่ายน้ำ

ส่วนภาพนี้มองจากโซฟาเบด ออกไปยังสระว่ายน้ำ ซึ่งจะเป็นประตูกระจก สามารถลงสระจากห้องนั่งเล่นได้เลยเหมือนกัน ต้องขอโทษที่ภาพเบลอนะคะ เละเทะมากด้วย นี่ขนาดว่าพนักงานมาช่วยเก็บด้วยนะคะนี่

ทีวี IPOD+Dock เครื่องเล่น DVD พร้อมชุดเครื่องเสียง ตอนเข้ามาในห้องครั้งแรกทางพนักงานจะเปิดเพลงต้อนรับค่ะ โดยใน IPOD จะมีเพลงฟังสบายๆ มีทั้ง Bossa Jazz ฯ ให้เลือกค่ะ

สำหรับที่บ้านพักนั้น ทางศรีพันวาจะมีผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยดูแลเราระหว่างที่เข้าพัก รวมถึงเข้ามาดูแลจัดเก็บห้องพักในช่วงที่เราไม่อยู่ โดยในแต่ละวันก็จะเปลี่ยนผู้ช่วยไปไม่ซ้ำกัน เพราะโรงแรมกลัวพนักงานจะจำแต่หน้าที่และแปลนบ้านที่ตัวเองดูแล พอเปลี่ยนบ้านก็จะจำไม่ได้

ตอนกลิ้งไปถึงที่พัก น้องผู้ดูแลก็มาแนะนำตัว และพาชมแต่ละส่วนของห้องพัก

ชุดโต๊ะเล็กในห้องพักผ่อน เอาไว้วางของอย่างเดียวเลยค่ะ

เดี๋ยวขออนุญาตไปทานข้าวเที่ยงก่อนนะคะ เดี๋ยวจะกลับมารีวิวต่อ

ภาพสระว่ายน้ำจากห้องนั่งเล่นค่ะ

ตามน้องกลิ้ง ไปเที่ยวด้วยเด้อ

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ^^

โว้ววววววววววววววว โว้ววววววววววววววว

นี่แหล่ะ ที่ๆอยากไปที่สุด

ไปเที่ยวด้วยคนนะคะ

เห็นชื่อ ศรีพันวา เมื่อไหร่ ต้องรีบเข้าตามเข้ามาดู รีสอร์ทในฝันเลยค่ะ
ช่วงนี้มีรีวิวศรีพันวาบ่อยจัง ยิ่งเห็นยิ่งอยากไป แต่ทำใจเรื่องราคาไม่ได้ซักที

@ คุณอ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เชิญค่ะ มาเที่ยวกันเน้อ
@ ปลาผัดคื่นช่าย ไปเที่ยวกันไม๊ จะไปก็รีบไป เดี๋ยวกลิ้งพาไปกิน.......
@ หนอนน้อยเจ้าปัญหา โว โวว โวว เย้
@ ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก เพราะกลิ้งก็คิดเหมือนคุณค่ะ เลยกล่อมให้ที่บ้านไป

กลับมาแล้วค่ะ งั้นมาต่อกันเลย นอกจาก Welcome Drink ก็ยังมี Welcome Fruit ให้ภายในห้องค่ะ จะมีให้ทั้งห้องข้างบน และห้องนอนข้างล่างค่ะ

สวยมากกกค่ะ บรรยากาศดีสุดๆเลย ^O^

@ คุณตาฟาง...  ใช่ค่ะ วันแรกฝนตกหนัก เมฆครึ้ม พอแดดออกก็สวยมากค่ะ
@ เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน ตามติดเลยนะคะ เที่ยวคราวนี้ประทับใจจริงๆ ค่ะ
@ Angel without wings เหมือนกลิ้งเลย ก่อนไปก็ดูทุกรีวิว หลังไปมาแล้วก็ยังดูค่ะ

ระบบไฟอัจฉริยะค่ะ มีทั้งแบบสว่าง และไฟสลัวแล้วแต่กดค่ะ แต่ไฟที่นี่จะไม่สว่างมากจนจ้านะคะ แต่จะออกนวลตามากกว่า เวลาอยู่ช่วงกลางคืนไฟจะสวยมากและทำให้อยากนอนตลอดเวลาเลยค่ะ ส่วนกล่องบนที่ปรับแอร์ค่ะ ตั้งไว้ที่ 18 ตลอดเวลาเลยค่ะ ชอบหนาวๆๆ

บ้านพักแบบเป็นหลังนี้จะแบ่งสันห้องเป็นส่วนๆ ค่ะ มีส่วนห้องนั่งเล่น ห้องแพนทรี่ (ห้องเตรียมอาหาร) ห้องเสื้อผ้า ห้องนอน และห้องน้ำค่ะ โดยในแต่ละส่วนจะกั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อน

ในส่วนของห้องแพนทรี่ และห้องเสื้อผ้าจะมีขนาดเท่าๆ กัน ค่ะ อยู่ถัดจากห้องนั่งเล่น

Complimentary ค่ะ ฟรีหมดนะคะ แม้กระทั่งมาม่า

เครื่องชงกาแฟ Nescafa ค่ะ ให้วันละ 3 กล่องเท่านั้น คนที่บ้านติดใจมากค่ะ

ตู้เย้นไซส์กลาง พร้อมของฟรี ยกเว้นขวดแก้ว 2 ขวดด้านล่างนะคะ ทางศรีพันวาจะมาเติมให้เต็มวันละครั้งค่ะ ทานมากทานน้อยก็เติมจนเต็ม หรือไม่ทานเลยก็ได้ แต่ใครเล่าจะไม่ทาน

ถัดจากส่วนของห้องแพนทรี่ ก็จะเป็นห้องเสื้อผ้าค่ะ กลิ้งไม่ได้ถ่ายภาพโยรวมของห้องมานะคะ แต่ถ่ายเจาะเฉพาะมุมเท่านั้น

อย่างในภาพก็เป็นตู้เสื้อผ้าแบบไม่มีประตูปิด เสื้อคลุม 2 ตัวสีชมพู ถุงใส่ผ้าเปียก พร้อมร่มสีแสด

อีกด้านหนึ่งของตู้เสื้อผ้าจะเป็นช่องๆ อย่างนี้ค่ะ มีผ้าเช็ตัวให้ สีขาวสำหรับอาบน้ำ สีเทาสำหรับเล่นน้ำสระ ส่วนช่องล่างเป็นผ้าขาวม้า ซึ่งพ่อกลิ้งชอบมาก พอดีไม่ได้เตรียมไปเลยใช้ของศรีพันวาซะเลย

ในส่วนถัดมาคือห้องน้ำค่ะ อย่างที่บอก จะเป็นประตูเลื่อนกั้นไว้ ซึ่งในห้องน้ำก็กว้างมากค่ะ
ส่วนแรกของห้องน้ำ จะเจอกับส่วนของอ่างล้างหน้า ซ้าย - ขวา ส่วนที่สองเลยเข้าไป ด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำ+สตรีมมิ่ง ด้านขวาจะเป็นห้องสุขา (ที่ไม่มีประตูปิด และส่วนสุดท้าย Out-door ข้างนอก จะเป็นอ่างจากุซซี่ขนาด 2 คนนั่ง ซึ่งอ่างกว้างมาก และฝักบัวแบบ Rain-Shower

ไล่กันไปทีละส่วนแล้วกันค่ะ

สำหรับอ่างล้างหน้านั้น จะแบ่งออกเป็นฝั่งซ้าย - ขวา พร้อมกระจกบานใหญ่ บนเคาน์เตอร์ จะมีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้อย่างพร้อมเลย

ชุด Amenitie ค่ะ
ขวดสีดำคือ โลชั่น บอดี้ และ แฮนด์ โลชั่น สำหรับโลชั่นเนี่ย ของฝั่ง 2 อ่างจะไม่เหมือนกันนะคะ คนละกลิ่น คนละแบบ ใครลองดมแบบไหนแล้วชอบ ก็เลือกใช้อันนั้นได้ค่ะ

ฝาเขียวคือกล่องใส่ คอตต้อน บัด และสำลีค่ะ ยังไม่หมดค่ะ มีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ให้ด้วยนะคะ

ส่วนในถุงจะเป็นไดร์เป่าผม มีให้ 2 เครื่องเช่นกันค่ะ จะได้ไม่ต้องแย่งกัน

ถัดมาจากอ่างอาบน้ำ จะแบ่งเป็นฝั่งซ้าย คือห้องอาบน้ำ+สตรีมมิ่ง แบบ In-door ค่ะ ภายในห้องน้ำจะมีพวก Shower cream Shampoo Conditioner ให้ใส่ไว้ภายในขวดสีดำ แปลว่าใช้ได้ แต่เอากลับบ้านไม่ได้

พวกสบู่ แชมพูพวกนี้ กลิ่นหอมดีมากเลยค่ะ กลิ้งใช้กันหมดไปวันละหลายรอบ บางทีไม่พอก็ต้องโทรให้น้องผู้ดูแลมาเติมให้ก็มีค่ะ

ขอตามไปเที่ยวด้วยคน
อยากไปมากๆๆ รอหาโปรดีๆ
เผื่อจะมีโอกาสได้ไปเยือนบ้าง

@ คุณMareeya ไปเที่ยวด้วยกันค่า

ส่วนอีกด้านที่อยู่ตรงข้ามกัน คือห้องสุขาเป็นแบบห้องกระจก ไม่มีประตูปิด และสามารถมองเข้ามาเห็นจากจากุซซี่ได้ แต่จะมีผ้าม่านปิดได้ค่ะ
แต่จริงๆ กลิ้งว่าก็ยังคงไม่มิดชิดอยู่ดี คือถ้าจะเข้าห้องสุขา ต้องปิดประตูใหญ่ของห้องน้ำทั้งหมดเลย แล้วห้ามใครเข้ามา ทีนี้ตรง Out-door ข้างนอกมันเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำได้ด้วย ดังนั้น ต่อให้ไม่เข้ามาทางประตูห้องน้ำ ก็เข้ามาทางสระได้เหมือนกัน อ้อ มีสายชำระให้นะคะ

มองห้องสุขาจากข้างนอกจะวาบหวิวแบบนี้อ่ะค่ะ

อ่างอาบน้ำแบบ Out-door ค่ะ คนตัวใหญ่ๆ นั่งได้ 2 คนสบายๆ ทางศรีพันวาเตรียมใยบวบ กับเกลือขัดผิวให้ด้วยค่ะ แล้วยังมี Bath Jel สำหรับเล่นฟองฟู่ๆ

นอกจากอ่างอาบน้ำแล้ว ก็ยังมี Rain Shower ข้างนอกอีกด้วยค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็ยังมีพวกแชมพู สบู่ ครีมนวดให้เหมือนกันค่ะ

ทีนี้เราไปดูในส่วนของห้องนอนกันค่ะ ห้องนอนในบ้านนี้จะมี 2 ห้องนอน คือห้องชั้นบน และห้องชั้นล่าง

ห้องแบบชั้นบนคือส่วนที่มีสระว่ายน้ำล้อมรอบ โดยสามารถเปิดประตูกระจกทั้ง 3 ด้านแล้วลงสระได้เลยค่ะ

เตียงไซส์ใหญ่เบิ้ม นุ่ม นอนสบาย ส่วนหมอนหนุนนั้น จะมีหมอนขนเป็ดให้ด้วย แต่กลิ้งชอบนอนแบบหนาๆ แน่นๆ หน่อยอ่ะค่ะ แบบนี้นอนแล้วมันยวบลงไปเลย

เตียงนอนอีกสักมุมค่ะ

Gift Set ที่ทางโรงแรมมอบให้ เป็นผ้าขาวม้า และถุงผ้าลดโลกร้อน ปะยี่ห้อ Sri panwa ได้มี 2 ชุดค่ะ จะวางไว้ให้บนเตียง

รอชมๆๆๆๆ

ส่วนของหัวเตียงนอนค่ะ มีโคมไฟ กลิ้งไว้นั่งเล่น Wi-Fi ค่ะ ที่นี่มีบริการ Wi-Fi ให้ใช้ฟรีไม่ว่าจะไปอยู่ตรงมุมส่วนใดของบ้านก็เล่นเนตได้ทุกที่ไม่พลาดทุกการท่องโลกไซเบอร์

ดอกบัวสวยๆ บนหัวเตียงค่ะ นอกจากในห้องนอน ก็จะมีประดับที่ห้องนั่งเล่นเช่นกันค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ..ศรีพันวาอยากไปพักมากแต่งบไม่ถึง..

@ คุณuxbridge ตามชมกันนะคะ

กลับย้อนมาส่วนของห้องนั่งเล่นนะคะ ตรงบริเวณโซฟาเบด จะมีโทรศัพท์แบบไร้สายไว้เวลาเรียกแม่บ้าน หรือเรียกรถให้มารับค่ะ นอกจากนั้นยังวางนิตยสารที่มีคุณปลาวาฬวางไว้ให้อ่านกันด้วยค่ะ

@ คุณชาปั่น เชิญค่ะ สักวันนึงต้องได้ไปค่ะ

ออกไปดูในส่วนข้างนอกบ้านกันบ้าง

อย่างที่บอกไปนะคะว่าห้องนอนจะล้อมรอบไปด้วยสระว่ายน้ำ ก็ตามภาพเลยค่ะ

ศาลาไว้นั่งเล่น ชมวิว ชมทิวทัศน์ ซึ่งวันที่ไปวันแรก ฝนตกหนักมากค่ะ ทำให้ไม่สามารถไปนั่งเล่นได้ แถมตัวโซฟาเป็นเบาะผ้า แล้วโดนน้ำฝนทำให้เปียกนั่งไม่ได้ ต้องรอไปอีก 2 วัน แดดออกแรงๆ ถึงจะไปนั่งได้ค่ะ

ทีนี้ด้วยความอยากรู้เลยลองพลิกเบาะขึ้นมาดู รู้สึกว่าเริ่มขึ้นราแล้วอ่ะค่ะ

ที่นั่งบริเวณศาลาค่ะ ถ้ามานั่งตอนช่วงเย็นๆ จะเวิร์คมากค่ะ ลมพัดมาเรื่อยๆ ไม่ร้อน กลิ้งเคยเห็นในรีวิวของท่านอื่น บอกว่าสามารถเปิดเพลงจากในห้องพักแล้วนั่งฟังเพลงในศาลานี้ได้เช่นกัน กลิ้งพยายามเปิดแล้วค่ะ แต่เปิดไม่ได้ เลยอดนั่งฟังเพลงไปแล้วชมวิวไปเลย

ส่วนภาพนี้ขอนำเสนอ วิวแบบพาโนรามาของบ้าน Flipper เผื่อไว้เป็นตัวเลือกว่าชอบวิวแบบนี้ไหมนะคะ

ชมวิวอีกสักภาพ ขอบอกว่า อยู่ในสระว่ายน้ำแล้วมองภาพนี้ มีความสุขมากกกกกกกกกกกก

ส่วนถ้าอยู่ในน้ำจะเห็นวิวแบบนี้ค่ะ

นั่งตรงนี้ มองวิวเพลินๆ ลมพัดเอื่อยๆๆๆ สวรรค์บนโลกมนุษย์จริงๆ

กลิ้งขอจบรีวิว Part 1 แค่นี้ก่อนนะคะ ยังมีอีกหลายส่วนทั้งห้องนอนชั้นล่าง และบริเวณอื่น ๆ ของศรีพันวาที่ยังไม่ได้นำมาลง จะขอยกยอดไปรีวิวครั้งหน้า

ขอบคุณทุกกิ๊ฟ ทุกคอมเมนท์ ค่ะ แล้วกลิ้งจะรีบกลับมารีวิวให้ได้ชมกันนะคะ

ปล.หากจะไม่รบกวนก็เก็บเข้าคลังกระทู้สักนิดเผื่อเป็นข้อมูลให้คนอื่น ๆ ต่อไปนะคะ

ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับรีวิว

อยากไปมั่ง

ห้องพักสวยหรูหราอลังการณ์มากเลยครับ เห็นแล้วน่าพักสุดๆ

บอกได้คำเดียวว่าอิจฉาครับ

ที่พักสวยมากๆเลย  ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ  

งามมมากกกก อยากไปพักที่นี่อ่าา

ไปเที่ยวเกาะภูเก็ตด้วยคนครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

เห็นรีวิวแล้วอยากไปพักศรีพันวามาก ๆ

อยากไปนอนแช่น้ำ ชมวิวชิลชิล คงมีความสุขน่าดู

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

อิจฉาๆๆๆ

สวยจริงอะไรจริง  ขอบคุณที่พาชมนะคะ  
มุมมองในสระว่ายน้ำออกสู่ทะเลจากภาพ คห. 71 สวยอย่างแรงค่ะ