กน้อยพาเที่ยว - ญี่ปุ่น 'NIKKO' ตอน 1 มุ่งหน้าสู่เมืองมรดกโลก

ตี้ดติ้ด...ตี้ดติ้ด...ตี้ดติ้ด...ตี้ดดดดดดดดดดดดดดดด...ผัวะ!!

เสียงจากเหตุการ์ณจริงที่เกิดขึ้นตอนเช้าตรู่ของวันที่หก...โอยย ปลุกกันทำไม นี่มันยังไม่เช้าเลยนะ...

สักพักเริ่มรู้สึกตัวว่าจะมานอนต่อไปไม่ได้แล้ว เดี๋ยวไปไม่ทันรถไฟรอบเช้าสุด แย่กันพอดี

จึงต้องพยายามพาร่างกายอันบอบช้ำจากการใช้งานอย่างหนักหน่วงตลอดห้าวันที่ผ่านมา

ไปฟื้นฟูความสดชื่นจากมวลไม้ธรรมชาติแสนบริสุทธิ์กันที่เมืองมรดกโลก....นิกโก้ 日光

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:18:06 ]
ความเห็นที่ 1

Nikkō 日光

อยู่ทางตอนเหนือห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 140 กิโลเมตร

ตั้งอยู่ในจังหวัด Tochigi 栃木県

เมืองนิคโก้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

เนื่องจากในอดีตเป็นพื้นที่ในอาณาเขตของโชกุนตระกูลโทกุกาวะ อิเอยาสุ ผู้ก่อตั้งเมืองเอโดะเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่

และปัจจุบันเป็นสถานที่ที่เก็บอัฐิของท่านโชกุนไว้ด้วย มีสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมายและมีอายุยาวนานกว่า 1,200 ปี

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:19:13 ]
ความเห็นที่ 2

โดยจุดเริ่มต้นของเมืองนั้นเริ่มขึ้นโดยที่มีการสร้างวัด ก่อนตามมาด้วยศาลเจ้า Futarasan และศาลเจ้า Tōshō-gū

หมู่บ้านนิคโก้จึงพัฒนาในรอบบริเวณนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเขตมรดกโลก

นิคโก้นั้นเป็นศูนย์กลางศาสนาพุทธและชินโตมานานหลายศตวรรษ ก่อนที่ศาลเจ้า Tōshō-gūจะถูกสร้างขึ้นเสร็จสมบูรณ์ในปี 1617 ซะอีก

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:19:42 ]
ความเห็นที่ 3

เส้นทางที่เราจะใช้เดินทางกันในวันนี้ต้องไปตั้งต้นที่ อาซากุสะ 浅草 โดยจะเดินทางกันด้วย Tōbu Nikkō Line 東武日光線

ออกจากสถานีใต้ดินอาซากุสะที่ตั้งอยู่ด้านล่างของห้าง Matsuya Asakusa ก็มีป้ายบอกว่าจะต้องไปต่อสายโทบุที่ไหน

เดินมาตามทางถนน Edo Dōri 江戸道路 มาอีกทางเข้าหนึ่งคือ North Ticket Gate

แต่ก่อนถึงทางเข้าจะมี Tourist Information Center สามารถสอบถามข้อมูลท่องเที่ยว ขอแผนที่ท่องเที่ยวได้

และพนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษพอได้ด้วย ท่าทางจะมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเยอะ

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:20:09 ]
ความเห็นที่ 4

เลยตัดสินใจขอคำปรึกษาเรื่อง Nikko Discount Pass ทางเจ้าหน้าที่เลยแนะนำมาว่าถ้ามีเวลาวันเดียวน่าจะเที่ยวเฉพาะที่หลักๆ

ให้เลือกแบบ World Heritage Pass น่าจะดีกว่าเพราะสามารถเข้าสถานที่สำคัญๆได้หมดแถมรวมตั๋วรถไฟไป-กลับไว้แล้วด้วย

ในราคาสุดประหยัด เพียง 3,600 เยน เท่านั้น แต่ถ้าใครที่อยากจะออกไปไกลนิดหน่อยเพื่อเที่ยวที่บริเวณทะเลสาปและน้ำตกเคกอน

เลือกแบบ All Nikko Pass ราคา 4,400 เยนที่จะประหยัดค่าโดยสารระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวได้มาก แต่จะไม่รวมค่าเข้าชมสถานที่ไว้

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:20:36 ]
ความเห็นที่ 5

หลังจากนั้นเดินไปสถานีขึ้นไปชั้นสองตรงชานชาลา โชว์ World Heritage Pass ให้กับนายสถานีได้เลย

ขึ้นไปถึงรถไฟก็จอดรออยู่แล้ว เช็คชื่อขบวนนิดนึงว่าเป็นรถด่วนพิเศษรึเปล่า ไม่มีอะไรผิดพลาดก็ขึ้นไปจับจองที่นั่งตามสะดวก

เพราะเช้านี้รถไฟโล่งมาก รถไฟไม่ใหม่แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน โดยเลือกขบวนเร็วที่สุดคือ Limited Express 特急 เรียกว่า SPACIA

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:21:00 ]
ความเห็นที่ 6

เผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว แป้บเดียวใช้เวลาเกือบ 2 ช.ม. ก็ถึงสถานี Tōbu Nikkō 東武日光駅 เป็นที่เรียบร้อย

พาหนะหลักที่ใช้สำหรับเดินทางเที่ยวในเมืองนิคโก้คือ รถบัส ที่มีชื่อว่า World Heritage Bus โดยจะมีวิ่งตลอดทั้งวัน

ตารางเดินรถบัสจะมีแจกให้ตั้งแต่ตอนที่ซื้อตั๋วแล้ว ถ้าเค้าไม่ให้ก็อย่าลืมขอ

เจ้าหน้าที่บอกให้ไปรอที่ป้ายรถบัสเบอร์ 2C ซึ่งเป็นจุดที่รถบัสคันนี้จะมาเทียบจอด

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:22:26 ]
ความเห็นที่ 7

บรรยากาศรอบๆสถาณี สงบเสงี่ยม เงียบเชียบ

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:23:18 ]
ความเห็นที่ 8

จุดเริ่มต้นของ World Heritage Site คือ วัดรินโนจิ 輪王寺 เป็นวัดที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดของนิคโก้

สร้างขึ้นโดยพระสงฆ์นามว่า Shōdō Shonin 勝道上人 ขึ้นในปี 766 ผู้ที่นำศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 8

ด้วยลักษณะภูมิศาสตร์ที่อยู่ในหุบเขา ทำให้ต่อมาวัดแห่งนี้เป็นที่นิยมของพระหลายองค์ที่แสวงหาความสงบ

เพื่อสามารถปฏิบัติธรรมได้อย่างสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูง

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:23:57 ]
ความเห็นที่ 9

นั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Omotesandō 表参道 พอหันหลังก็จะพบกับรูปปั้นของท่าน Shōdō Shonin

และมีป้ายเขียนต้อนรับเป็นภาษาญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ว่า

Welcome to Nikkō Mountain - The Entrace of World Heritage Site

ตื่นเต้นๆๆ ลิ่นความขลังเก่าแก่โชยมาแต่ไกล เห็นทางเข้าใหญ่ๆอยู่ด้านหน้าให้เดินตรงเข้าไป

จะเห็นจุดจำหน่ายตั๋วให้เอาพาสที่เรามีอยู่ไปแลกตั๋วเข้าชมสถานที่ได้

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:24:27 ]
ความเห็นที่ 10

โดยทางเจ้าหน้าที่จะเก็บพาสของเราไปและให้เป็นกระดาษสีขาวมาหนึ่งใบ

โดยจะแบ่งเป็นช่องๆ ระบุส่วนที่สามารถเข้าไปชมได้เป็นลำดับ

ถ้าหากเข้าไปที่แรกทางพนักงานก็จะฉีกหรือตัดตรงบริเวณภาพของสถานที่นั้นๆ

เพื่อแสดงว่าเราได้เข้ามาชมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอแรกตั๋วเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปลุยกันเล้ย

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:25:36 ]
ความเห็นที่ 11

แต่ก่อนเข้าไปด้านใน เยื้องกับบริเวณซุ้มขายตั๋วจะมีสวนญี่ปุ่นสไตล์โบราณขนาดเล็ก

ตกแต่งสวนด้วยหินอ่อนชื่อว่า Shōyōen 逍遙園 เดินชมนกชมไม้กันพอเป็นพิธี อย่าใช้เวลามากเพราะของดียังมีอีกเยอะ

ใกล้ๆกันนั้นจะมีศาลาที่จัดแสดงสมบัติทางพระพุทธศาสนาของตระกูลโทกุกาวะเอาไว้ด้วย

แต่หากจะเข้าชมทั้ง 2 ที่นี้จะไม่รวมกับส่วนที่เราแลกตั๋วมาเมื่อครู่นี้ ต้องเสียค่าเข้าชมเพิ่ม 300 เยน

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:27:02 ]
ความเห็นที่ 12

ภายในบริเวณวัดรินโนจิประกอบไปด้วยศาลาหลายหลัง แต่ที่มีความสำคัญที่สุดคือ

Sanbutsudō 三仏堂 หรือ Three Buddha Hall

สร้างขึ้นภายหลังในปี 1648 ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปไม้สามองค์คือ

พระอมิตาภพุทธะ (Amida) เจ้าแม่กวนอิมพันกร (Senju-Kannon) และ พุทธรูปซึ่งมีเศียรเป็นม้า (Bato-Kannon)

คุ้มครองชาวเมืองนิคโก้มานานแสนนาน ล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ แกะสลักจากไม้ขนาดใหญ่และปิดสีทองอร่าม

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:29:18 ]
ความเห็นที่ 13

ด้านในนั้นห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด บรรยากาศด้านในเงียบสงบ น่าวังเวงทำเอาขนลุกแบบไม่ใช่เพราะความหนาว

และที่สำคัญมีความเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มากแบบสัมผัสได้ด้วยความรู้สึก

สามารถเขียนขอพรบนแผ่นไม้ที่เตรียมไว้ให้ได้ด้วย ทำบุญแล้วแต่ความศรัทธา

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:29:47 ]
ความเห็นที่ 14

นอกจากนี้ในบริเวณยังมีสุสานของท่านโชกุนโทกุกาวะ อิเอะมิตซุ โชกุนลำดับที่สามของตระกูลโทกุกาวะ Taiyū-in Reibyō 大猷院霊廟

พร้อมกันนั้นยังเป็นจุดที่ตั้งของศาลเจ้า Futarasan และ Tōshō-gū โดยทั้งหมดนี้เรียกรวมกันว่าเป็นแหล่งมรดกโลก

Shrines and Temples of Nikkō UNESCO World Heritage Site

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:31:24 ]
ความเห็นที่ 15

อย่างที่บอกว่าที่นี่ตั้งอยู่ในหุบเขา นอกจากอากาศจะหนาวเย็นจับใจแล้วทางเดินยังชันสุดชีวิต เดินทีทำเอาเมื่อยเหมือนกัน

ระหว่างทางเดินหลังจากชมวัดรินโนจิเสร็จแล้ว จะเห็นต้นไม้ที่มีอายุนานหลายร้อยปีสูงค้ำฟ้าอยู่ทั้งสองข้างทางเยอะแยะมากมาย

เรียงรายให้สมศักดิ์ศรีขุนเขาแห่งธรรมชาติอันเก่าแก่ สุดทางเดินนี้เราจะพบกับเป้าหมายต่อไปของเราคือ วัดโทโชกุ 東照宮

สังเกตได้จากแท่นหินด้านข้างที่สลักชื่อวัดไว้ พร้อมกับที่ด้านบนมีตราสัญลักษณ์สีทอง เป็นรูปใบไม้สามใบประจำตระกูลโทกุกาวะ

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:31:50 ]
ความเห็นที่ 16

วัดโทโชกุสร้างขึ้นในสมัยของโชกุนโทกุกาวะรุ่นที่สอง คือ ท่านฮิเดทาดะ ในปี 1617

ก่อนท่านโชกุนโทกุกาวะ อิเอะยะสึ สิ้นพระชนม์ลงในปราสาทที่จังหวัดชิซุโอกะนั้น ท่านมีประสงค์ว่าให้ทำการฝังพระศพที่นิคโก้แห่งนี้

ดังนั้นวัดนี้จึงสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานของท่านอิเอยาสุนั่นเอง ในสมัยโชกุนโทกุกาวะรุ่นที่สามคือ ท่านอิเอะมิตซึ

ได้ทำการบูรณะครั้งใหญ่ในปี 1634-1636 โดยใช้แรงงานคนมากถึง 4,533,648 คน ใช้เวลาทั้งหมด 17 เดือน

ด้วยจำนวนเงินมหาศาลถึง 4 หมื่นล้านเยน (เทียบเป็นเงินเยนในปัจจุบัน)

ทั้งบริเวณวัดมีงานประติมากรรมมากถึง 5,173 ชิ้นกระจายตามจุดต่างๆนับเป็นจุดเด่นที่สำคัญของสถานที่แห่งนี้

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:32:44 ]
ความเห็นที่ 17

บริเวณทางเข้ามีโทริอิขนาดใหญ่ทำจากหินเรียกว่า Ishi-Dorii 石鳥居 มีความสูง 9 เมตรและเป็นโทริอิที่ทำจากหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุด


รู้สึกทึ่งว่าสามารถแบกหินท่อนโตขนาดนั้นไปอยู่ด้านบน แล้วยังคงตั้งปักหลักอยู่ที่ฐานอย่างแน่นหนาโดยที่ไม่ล้มลงมาได้อย่างไร

เลยจากทางเข้าศาลเจ้าทางด้านซ้ายมือจะมี เจดีย์ 5 ชั้น Five-story pagoda

มีความสูง 34.3 เมตร สร้างขึ้นภายหลังในปี ค.ศ. 1650 หลังจากที่ถูกไฟไหม้เสียหายจึงได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1818

โดยแต่ละชั้นแสดงถึงส่วนประกอบต่างๆคือ พื้นดิน, น้ำ, ลม, ไฟ และ สวรรค์

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:34:51 ]
ความเห็นที่ 18

บรรยากาศดูร่มรื่นย์ผสมให้อารมณ์ขลัง เพราะบรรดาป่าต้นสนด้านหลังสูงเทียมทัดยอดของเจดีย์เลยทีเดียว

ภายในได้รับการออกแบบให้รับกับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว โดยที่แกนหลักนั้นถูกตรึงไว้ด้วยโซ่ขนาดใหญ่

ประตูชั้นนอกสุด หรือ Omote-mon 御殿表門 มีสีแดงและที่สองฝั่งของประตูมีรูปปั้นยักษ์ 2 ตนที่ชื่อว่า Niō 仁王 สูง 4 เมตร

และด้านในเป็นรูปปั้นของสิงโต มีศาลาอยู่ทางซ้ายมือคือ Shinkyu-sha 神厩舎 พอดูจากชื่อแล้วถึงรู้ว่าที่นี่เคยเป็นคอกม้ามาก่อน

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:36:40 ]
ความเห็นที่ 19

ที่นี่เราจะพบกับรูปแกะสลักของลิงแสนรู้สามตัว Three Wise Monkeys 三匹の猿

ถ้าสังเกตที่นี่จะเป็นศาลาเดียวที่ไม่ได้มีการขัดเงาบนไม้ ลิงสามตัวนี้เป็นภาพปริศนาธรรมที่มีใจความหลักและสอนว่า

“ไม่เห็นในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ฟังในสิ่งที่ไม่ดี ไม่พูดในสิ่งที่ไม่ดี” (See-no-evil, Say-no-evil, Hear-no-evil)

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:39:27 ]
ความเห็นที่ 20

ถ้ามองให้ดีจะเห็นว่ารอบศาลาจะมีภาพไม้แกะสลักภาพลิงเป็นเรื่องราว

ลิงแต่ละตัวมีชื่อว่า Mizaru 見ざる ใช้มือปิดตา, Kikazaru 聞かざる ใช้มือปิดหู, และ Iwazaru 言わざる ใช้มือปิดปาก

จริงๆแล้วอาจจะมีลิงตัวที่สี่มาเกี่ยวข้องชื่อว่า Shizaru しざる ใช้มือปิดท้องหรืออวัยวะเพศ คือสื่อว่าไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี

โดยชื่อของลิงทั้งสามตัวนั้นมาจากการเล่นคำโดยการนำคำกิริยามารวมกับคำว่า Saru ที่แปลว่าลิง

และนำไปสอดคล้องกับหลักคำสอนโบราณที่อยู่ในคัมภีร์ของขงจื้อ ความหมายของลิงทั้งสามตัวนี้ถ้าพูดเอาให้เข้าใจง่าย

นั่นคือ การพูดดี คิดดี และกระทำดี หรือมีความหมายอีกนัยหนึ่งว่า ไม่เกิดความประมาทในการไม่มองอีกมุมหนึ่ง คือการแสร้งที่จะไม่รับรู้

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:41:55 ]
ความเห็นที่ 21

โดยรอบด้านของศาลาเล่าเรื่องราวของลิงแสนรู้ทั้งสามตัวนี้ มีทั้งหมดแปดภาพ

ภาพ 1 สื่อว่า “แม่ลิงกำลังมองมุ่งไปข้างหน้าเพื่ออนาคตของลูกลิงและลูกลิงแหงนหน้าขึ้นมองแม่ลิง”

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:42:41 ]
ความเห็นที่ 22

ภาพ 2 สื่อว่า “ลูกลิงแสนรู้ทั้งสามบอกว่าเด็กไม่ควรมอง ฟัง และ พูด ในสิ่งที่ไม่ดี”

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:50:41 ]
ความเห็นที่ 23

ภาพ 3 สื่อว่า “เมื่อลูกลิงเติบโตขึ้น ก็จะต้องดำรงชีวิตตามลำพัง”

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:51:23 ]
ความเห็นที่ 24

ภาพ 4 สื่อว่า “ลิงที่กำลังมองขึ้นข้างบนด้วยความทะเยอทะยาน”

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:53:04 ]
ความเห็นที่ 25

ภาพ 5 สื่อว่า “ลิงกำลังสับสนในชีวิตและมองลงจากหน้าภาพอย่างโดดเดี่ยวโดยที่มีเพื่อนรักให้กำลังใจอยู่ข้างกาย”

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:53:30 ]
ความเห็นที่ 26

ภาพ 6 สื่อว่า “เจ้าลิงกำลังมีอาการป่วยด้วยโรครัก”

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:54:46 ]
ความเห็นที่ 27

ภาพ 7 สื่อว่า “ลิงสองตัวที่เพิ่งตกลงเป็นคู่ชีวิตกัน กำลังจะลงเรือลำเดียวกันเพื่อผ่านมรสุมในชีวิตไปด้วยกัน”

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:55:37 ]
ความเห็นที่ 28

ภาพ 8 สื่อว่า “ลิงตัวเมียกำลังอุ้มท้อง และ เรื่องราวก็ย้อนกลับไปที่ภาพแรก”

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:56:07 ]
ความเห็นที่ 29

ใช้เวลากับเจ้าลิงแสนรู้กันพักใหญ่ ที่ใกล้ๆกันก็มีร้านของของที่ระลึกกันเลยทีเดียว แบบว่าประทับใจปุ้บก็หันมาซื้อเก็บเป็นที่ระลึกได้ปั้บ

ของที่ระลึกมีหลากหลายตั้งแต่ชิ้นเล็กจนถึงชิ้นใหญ่ และแน่นอนที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ลิงแสนรู้สามตัว

เลยเก็บพวกกุญแจเครื่องรางลิงสามตัวที่ทำออกมาหน้าตาน่ารักคิกขุมาเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง ราคาก็ไม่แพงแค่ชิ้นละ 300 เยน

ส่วนเพื่อนอยากจะซื้อดาบญี่ปุ่นไปฝากคนที่บ้านก็เลือกซื้อกันตามใจชอบ ของแต่ละชิ้นล้วนมีความหมายทั้งสิ้น

โดยจะมีป้ายบอกไว้เป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ อย่างเช่นดาบที่เพื่อนซื้อไปนั้นคือเพื่อให้ประสบความสำเร็จในทางธุรกิจของที่บ้าน

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:56:47 ]
ความเห็นที่ 30

ยังไม่จบเท่านี้นะครับ เดี๋ยวกลับมาเที่ยวนิคโก้ต่อกันตอนหน้า

นกน้อยพาเที่ยว

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 11:57:45 ]
ความเห็นที่ 31

ตามไปด้วยคนครับ

จากคุณ : noiwanwannoi [วันแม่แห่งชาติ 54 12:11:03 ]
ความเห็นที่ 32

@  ตามชมด้วยคนครับ .. ดูแล้วที่นี่ไม่ได้รับผลกระทบจาก
    แผ่นดินไหวเลยนะครับ

จากคุณ : MRBIG173 [วันแม่แห่งชาติ 54 12:21:37 ]
ความเห็นที่ 33

เกาะติดไปเที่ยวด้วยคนจ้า

จากคุณ : yuechan [วันแม่แห่งชาติ 54 15:04:03 ]
ความเห็นที่ 34

ข้อมูลปวศ.น่าอ่านมากๆค่ะ   รอติดตามตอนหน้าา ^^

จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* [วันแม่แห่งชาติ 54 15:36:39 ]
ความเห็นที่ 35

ประวัติศาสตร์เป๊ะ  ................

แต่ขออนุญาตเสริมนะครับ

โชกุน ก็คือผู้นำของรัฐบาล ไม่ได้เป็นเจ้าอะไร แถมมาทางสายทหารอีก

....และปัจจุบันเป็นสถานที่ที่เก็บพระบรมอัฐิของท่านโชกุนไว้ด้วย มีสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมายและมีอายุยาวนานกว่า 1,200 ........

แค่อัฐิ ก็พอครับ เดี๋ยวภาพของโชกุนจะล้นฟ้ามากเกินไป..

ด้วยความเคารพ

จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) [วันแม่แห่งชาติ 54 15:50:30 ]
ความเห็นที่ 36

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [วันแม่แห่งชาติ 54 15:58:25 ]
ความเห็นที่ 37

ได้ความรู้ดีค่ะ

ขอบคุณนะคะ

จากคุณ : สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี [วันแม่แห่งชาติ 54 16:48:20 ]
ความเห็นที่ 38

ขอบคุณค่ะ พาชมพาเที่ยว แล้วยังแทรกสาระความรู้ให้ด้วย ชอบมากค่ะ

จากคุณ : ฮิโนเดะ [วันแม่แห่งชาติ 54 17:55:36 ]
ความเห็นที่ 39

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

จากคุณ : เอื้องเหมย [วันแม่แห่งชาติ 54 18:55:15 ]
ความเห็นที่ 40

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

เพิ่งจะกลับมา แต่ไม่อินเท่าไรกับนิกโก้ โดยส่วนตัว (ส่วนตัว!) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่สงบน่ารัก แต่ภาษาอังกฤษน้อยเหลือเกิน มันไม่มีภาษาที่เราจะเข้าใจได้ เลยไม่เข้าใจประวัติศาสตร์นักค่ะ  เข้าไปในสถานที่ต่าง ๆ มีบรรยาย เราอยากจะยืนซาบซึ้งไปด้วย แต่ก็ต้องย่องออกมา หุหุ

ซื้อหนังสือภาพมาเล่มนึง มีภาษาอังกฤษด้วย 500 เยนเอง ไว้มาซาบซึ้งคนเดียวทีหลัง หะหะหะ

จากคุณ : บลอนดี้ [วันแม่แห่งชาติ 54 21:02:38 ]
ความเห็นที่ 41

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านติดตามนะครับ ทั้งคุณ noiwanwannoi, MRBIG173, yuechan, ลอร่า อิงกัลส์ ~*, ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42), เล็กทาโร่, สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี, ฮิโนเดะ, เอื้องเหมย, บลอนดี้

จากคุณ : Bird Freedom [วันแม่แห่งชาติ 54 21:39:58 ]
ความเห็นที่ 42

ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากเลยครับดูรูปไปอ่านข้อมูลไปเพลินมากเลยครับ

จากคุณ : Destiny-Boy [วันแม่แห่งชาติ 54 22:22:10 ]
ความเห็นที่ 43

ถ่ายรูปสวยมากกกกกกกก ค่ะ

จากคุณ : ส้มสะท้อนแสง [13 ส.ค. 54 22:40:28 ]
ความเห็นที่ 44

ตามติืดค่ะ เพราะเดือน ตค มีแพลนจะไปนิกโก้

จากคุณ : web_rung [14 ส.ค. 54 21:06:46 ]
ความเห็นที่ 45

ขอบคุณสำหรับรีวิวรูปสวยมากๆค่ะ  ดอกไม้

จากคุณ : สาวหน้าใส [15 ส.ค. 54 00:02:05 ]