หญิงสาวสวมชุด Kimono สีสันสดใส เดินเลาะริมรั้วของอารามและอาคารยุคเก่าไปตามถนนโบราณที่ปูด้วยหินก้อนใหญ่ รอบข้างตัวเธอรายล้อมไปด้วยนักท่องเที่ยวหลายร้อยชีวิตทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ในมือของทุกคนถืออุปรณ์อิเล็กโทรนิกส์ทันสมัยอย่างกล้องดิจิตอล เครื่องฟังเพลงแบบพกพา ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุด คงมีเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่สามารถเห็นภาพที่ขัดแย้งกันแบบนี้ได้ทุกวันจนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไป ทั้งหมดที่กล่าวมาคุณสามารถพบได้ที่นี่
..
Kyoto
..เมืองเก่าที่ยังมีชีวิต
[16 ส.ค. 54 21:10:08
]
สวัสดีครับ เกริ่นนำมาแบบนี้ทุกคนก็คงทราบกันแล้วว่าบันทึกฉบับนี้ พวกเราจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวชมส่วนหนึ่งของ Kyoto อดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุมานับพันปี
ถึงแม้การที่ต้องมาทำงานที่ญี่ปุ่นในแต่ละครั้งจะต้องพบกับความเหงาที่ต้องห่างไกลบ้านร่วมๆเดือน แต่ในข้อเสียก็ยังมีข้อดีอยู่ นั่นก็คือมีเวลาได้มานั่งทำรูปใส่อัลบั้มของเราสองคนและเขียนบันทึกการเดินทางฉบับใหม่ๆไว้เป็นความทรงจำ รวมทั้งแบ่งปันให้กับเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วย
โชคชะตามักเล่นตลก เค้าว่ากันอย่างนั้น บันทึกฉบับนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อคืนวันที่ 17 พฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำงานสบายๆมาสองสามอาทิตย์อยู่ๆวันที่จะต้องเดินทางไปเยี่ยมภรรยาที่ญี่ปุ่นก็มีงานประดังเข้ามาไม่หยุด กว่าจะสะสางออกไปได้เล่นเอาเหนื่อยและเสียเวลาไปพอสมควร เมื่อแท็กซี่หักซ้ายเข้ามาจอดส่งผมที่อาคารผู้โดยสารของสุวรรณภูมิก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วก่อนที่เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิด
จัดการเอกสารและขั้นตอนความปลอดภัยเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินจ้ำมาจนถึง Gate F2 เพื่อโดยสารเที่ยวบิน NH174 ที่เพิ่งจะเปิดทำการบินได้ไม่ถึง 3 สัปดาห์สู่ท่าอากาศยาน Haneda กรุงโตเกียว
[16 ส.ค. 54 21:11:52
]
นกเหล็กเลือดปลาดิบลงแตะพื้น ณ สนามบินปลายทางอย่างนิ่มนวล ถึงผมจะมาถึง Tokyo แต่เช้าตรู่แต่ก็ต้องรอจนค่ำกว่าจะได้พบภรรยาเนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงานปกติ ทำให้มีเวลาจัดการธุระส่วนตัวและเดินชมอาคารระหว่างประเทศของ Haneda รวมทั้งเดินเล่นในเมืองโตเกียวตลอดทั้งวันนี้ด้วย
ชั้นบนของ Haneda International Terminal ซึ่งเป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกตกแต่งในแนวญี่ปุ่นโบราณคล้ายกับที่ Nagoya Centrair เน้นย้ำให้เห็นถึงความงามและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมของชาติที่ฝังลึกอยู่ในกายของลูกพระอาทิตย์ทุกคน
[16 ส.ค. 54 21:12:40
]
เดินชมสนามบินอยู่พักใหญ่ๆก็ได้เวลาย้ายตัวเองเข้าไปในเมืองบ้าง การเดินทางจาก Haneda สู่ใจกลางกรุงโตเกียวสามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วยบริการรถไฟของ Keikyu และ Tokyo Monorail ตามที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านได้เคยลงรายละเอียดเอาไว้แล้ว
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:15:18
]
ทีแรกทริปนี้ผมตั้งใจจะพาเธอไปเที่ยวตามหมู่บ้านในชนบทญี่ปุ่นที่ยังเป็นธรรมชาติ แต่เนื่องจากผมเคยเล่าให้ภรรยาฟังถึงความสวยงามของ Kyoto ยามใบไม้เปลี่ยนสีช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนบ่อยๆ ทำให้เธออยากเห็นด้วยตาตัวเองบ้าง สุดท้ายจุดหมายของการเดินทางในครั้งนี้จึงมาสรุปลงที่ Kyoto ครับ
ซึ่งระยะทางจาก Kanto ไปถึง Kyoto ไม่ใช่ใกล้ๆ ทำให้คุณภรรยาซึ่งไม่สามารถใช้ Japan Rail Pass ได้ต้องมีค่าใช้จ่ายพอสมควรหากจะนั่ง Shinkansen ทั้งไปและกลับ เราจึงมองหาทางเลือกใหม่ๆในการเดินทางดู ในที่สุดรถ Highway Bus ของ Willer Express ก็กลายเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดทั้งเรื่องเวลาและราคา
เมื่อแผนการเป็นแบบนี้ตัวผมเองจึงไม่ได้ซื้อ Pass ใดๆมาใช้เช่นกัน ดังนั้นการเดินเล่นในวันแรกนี้จึงทำได้เพียงในเขตเมืองใกล้ๆเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเป้าหมายแรกไม่ใช่อื่นไกล ย่านตึกระฟ้าในเขต Shinjuku ตะวันตกนั่นเอง ที่เลือกมาที่นี่ก่อนก็เพราะ Bus Terminal ของ Willer ตั้งอยู่ใต้ตึก Sumitomo ในเขต Shinjuku ตะวันตก ก็เลยมาดูลู่ทางไว้ก่อนเย็นนี้จะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด
[16 ส.ค. 54 21:17:32
]
เมื่อค้นหาเป้าหมายหลักเจอพร้อมกับระบุพิกัดไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกตามล่าเป้าหมายรองก็คือการขึ้นไปชมวิวบนชั้น 45 บนตึกแฝดซึ่งเป็นที่ทำการของเทศบาลกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Office) บนตึกแฝดนี้เราสามารถชมวิวได้ทั้งบนตึกฝั่งเหนือและฝั่งใต้แล้วแต่ว่าใครจะชอบทิวทัศน์แบบไหน ซึ่งทั้งสองตึกไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:18:28
]
ลงจากจุดชมวิวแล้วออกเดินทางต่อไปยัง Harajuku แหล่งช็อปปิ้งในฝันของใครหลายๆคน วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีคนเลยไม่เยอะมาก เดินดูข้าวของได้สบายๆ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:19:52
]
ช่วงนั้นใบไม้กลางกรุงโตเกียวก็เริ่มเปลี่ยนสีเต็มที่แล้วเช่นกัน อีกไม่กี่วันจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แถวนี้คงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ออกมาชมใบไม้เหลืองกันอย่างแน่นอน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:20:40
]
ออกจากแหล่งวัยรุ่นอย่าง Harajuku มาสู่ถิ่นเก่าอย่าง Shibuya กันบ้าง ที่บอกว่าถิ่นเก่าเพราะเกือบๆ 10 ปีก่อนเคยมาทำงานที่ Nakameguro อยู่ 3 เดือน ตกเย็นเลิกงานเป็นต้องแจ้นไปเดินเล่นที่ Shibuya ทุกวัน ภาพแบบนี้ที่แยกอันแสนวุ่นวายก็ไม่เคยร้างผู้คนเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:21:39
]
ตกเย็นภรรยาโทรมาบอกว่าออกจากห้องพักที่ Utsunomiya แล้วแต่ลืมของใช้จำเป็นบางอย่าง ผมเลยต้องแวะนอกโปรแกรมที่ Bic Camera หน้าสถานี Yurakucho อีกครั้งเพื่อซื้อของ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:22:37
]
ทุ่มกว่าๆน้องก้อยก็มาถึงสถานี Ueno อาหารเย็นวันนั้นเรากินอะไรกันผมก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าได้เจอกันก็อิ่มใจแล้วครับ จากทริปก่อนห่างกันแค่เดือนเดือนเดียวแต่ทำไมมันเหมือนนานมากก็ไม่รู้
เหลือบตามองดูนาฬิกาพบว่ายังมีเวลาเหลืออีกมากกว่ารถจะออก เราเลยไปกิน Krispy Kreme กันเห็นตอนนั้นที่ไทยกำลังฮิตเหลือเกิน ไปยืนต่อคิวกันหลายชั่วโมง แต่ที่นี่ไม่มีคิวเลยครับเดินเข้าไปสั่งแล้วก็ได้กินทันที อร่อย+อินเทรนด์แบบไม่ต้องเหนื่อย
[16 ส.ค. 54 21:23:43
]
ก่อนสี่ทุ่มเล็กน้อยเราก็มาเตรียมพร้อมอยู่ที่ Bus Terminal ใต้ถุนตึก Sumitomo โดยเค้าจะจัดผู้โดยสารขึ้นรถแบ่งเป็น Gate ต่างๆคล้ายๆกับนครชัยแอร์ เมื่อถึงเวลา Boarding (เรียกซะหรู) ตามข้อมูลในจอภาพ ผู้โดยสารใน Gate นั้นๆก็จะเดินทางไกลออกไปขึ้นรถตามจุดที่กำหนด
ผมไม่ได้ถ่ายรูปรถมานะครับเนื่องจากไม่มีอะไรน่าประทับใจซักเท่าไหร่ เบาะแคบ เพดานเตี้ย แต่เค้ามีดีที่ราคาครับ ค่ารถเที่ยวเดียวจาก Shinjuku ถึง Kyoto เพียง 3,000 เยนเท่านั้นเอง จริงๆแล้วราคาตั๋วไม่ได้ตายตัวอยู่ที่ราคานี้ จะขึ้นลงแตกต่างกันไปตามชนิดของรถ ซึ่งผมเลือกแบบที่ที่นั่งแคบที่สุดรวมทั้งไม่มีห้องน้ำด้วย ทำให้ได้ราคาที่ถูกมากๆ ถ้าใครอยากนั่งสบายๆลองดูรถ Type อื่นๆหรือยี่ห้ออื่นก็ได้เพราะเส้นทางนี้มีวิ่งกันอยู่หลายยี่ห้อ เมื่อปี 2002 เคยนั่ง Highway Bus ของ JR Bus Kanto จาก Shinjuku ไป Kyoto เช่นกัน ราคา 8 พันกว่าเยน นั่งสบายกว่านี้มากครับ แต่ครั้งนี้พวกเราขอแบบประหยัดอย่างนี้แหละ
http://willerexpress.com/bus/pc/3/top/
[16 ส.ค. 54 21:25:23
]
มาเที่ยวและชมภาพสวยๆ ด้วยคนครับ
จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42)
[16 ส.ค. 54 21:25:44
]
รถ Willer Express พาพวกเรามาถึงหน้าสถานี Kyoto ตั้งแต่ยังไม่ตี 5 ดี พอลงรถเราสองคนก็รีบมุดลงไปชั้นใต้ดินทันทีเนื่องจากอากาศหนาวของเขต Kinki รอต้อนรับอยู่แล้ว พร้อมทั้งใช้เวลานี้ทำธุระส่วนตัวและเก็บของเข้า Locker ด้วย
เราจัดการข้าวปั้นคนละสองก้อนที่ซื้อเตรียมไว้จากจุดพักรถแล้ววางแผนการเดินทางทันที เช้าๆแบบนี้ใน Kyoto มีที่เที่ยวอยู่ไม่กี่ที่หรอกครับ ที่น่าสนใจคงจะเป็นวัดคู่ Higashi Nishi Hongan-ji หรือไม่ก็ FushimiInari-taisha อันโด่งดัง ซึ่งครั้งนี้ก็เลือกไม่ยากเนื่องจากภรรยาของผมยังไม่เคยไปศาลเจ้าแห่งเสา Torii หมื่นต้นเลย เราจึงจัดแจงซื้อตั๋ววันของ City Bus ราคา 500 เยนแล้วมุ่งหน้าไป FushimiInari-taisha ทันที
[16 ส.ค. 54 21:26:18
]
สวัสดีครับคุณตู่ เชิญมาเที่ยวทริปย้อนหลังฤดูใบไม้ร่วงด้วยกันเลยครับ
---------------------------------------------------------------------------
ลงรถเมล์ที่ป้าย Inaritaisha-mae พอพ้นจากทางเข้าเราก็เห็นเสา Torii สีแดงขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเคียงคู่กับต้นไม้ที่เปลี่ยนสีของใบเป็นเหลืองทองตัดกับท้องฟ้าสีครามรอต้อนรับเราอยู่ เป็นนิมิตรหมายที่ดีของการท่องเที่ยว Kyoto ในครั้งนี้
[16 ส.ค. 54 21:28:33
]
เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามครับ เข้าศาลเจ้าญี่ปุ่นเราก็ต้องขอพรกันตามธรรมเนียม โดยคุณภรรยาทำหน้าที่สั่นกระดิ่งปลุกเทพเจ้ามารับคำอธิษฐานของพวกเราแต่เช้าตรู่ (ท่านเทพจะโกรธมั้ยเนี่ย)
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:29:09
]
อย่างที่หลายๆท่านทราบกันดีอยู่แล้วครับว่าศาลเจ้าแห่งนี้โดดเด่นด้วย Torii จำนวนมหาศาล ตั้งแต่ขนาดเล็กจิ๋วไปจนถึงขนาดจัมโบ้ซุปเปอร์ไซส์ สร้างคลุมทางเดินภายในศาลยาวร่วม 4 กิโลเมตรจนกลายเป็นอุโมงค์สีแดงขนาดยักษ์
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:30:33
]
Torii เหล่านี้สร้างขึ้นโดยบริษัทหรือกลุ่มธุรกิจต่างๆเพื่ออำนวยพรให้การค้าของตนเองเจริญรุ่งเรือง เพราะเทพ Inari นอกจากจะดูแลเรื่องพืชพรรณธัญญาหารแล้ว ยังรับจ็อบดูแลเรื่องการค้าขายอีกด้วย (รวมทั้งยังมีอีกหลายๆหน้าที่ครับ) สนนราคาของ Torii แต่ละต้นก็แตกต่างกันไปตามขนาดตั้งแต่ไม่กี่แสนจนถึงหลายล้านเยนก็มี ซึ่งที่เสาก็จะมีการสลักชื่อผู้บริจาคเงินสร้างเอาไว้
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:31:28
]
ที่เห็นมากมายรองลงไปจาก Torii ก็เห็นจะเป็นรูปสลักสุนัขจิ้งจอก (Kitsune) เพราะเชื่อกันว่าผู้นำสารของเทพ Inari เป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาวปลอด หรือบ้างก็เชื่อว่าจิ้งจอกขาวเป็นพาหนะให้เทพ Inari เลยก็มี โดยรูปสลักสุนัขจิ้งจอกของเทพ Inari มักจะคาบอัญมณีหรือกุญแจหรือรวงข้าวในปากด้วย
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:32:25
]
รูปสวยโฮก ขอ save เก็บเอาไว้ตอบคำถามเพื่อนๆ ใน บอร์ดนะคะ
จากคุณ : aomnan
[16 ส.ค. 54 21:32:43
]
หากทุกท่านมาเที่ยว Kyoto ตั้งแต่เช้ามืด แนะนำให้มาเที่ยว FushimiInari-taisha เป็นที่แรกครับ นอกจากที่นี่จะเปิด 24 ชั่วโมงเหมือนเซเว่นแล้ว ช่วงเช้าๆแบบนี้ยังปลอดจากกองทัพนักท่องเที่ยวที่ยังไม่แห่กันมาอีกด้วย สามารถหามุมถ่ายภาพได้ตามใจเรา แต่ถ้าหากใครต้องการชมความงามแบบน่าพิศวงของศาลเจ้าแห่งนี้แล้วล่ะก็เคยค้นข้อมูลมาเค้าแนะนำให้มาช่วงเย็นๆก่อนพระอาทิตย์ตกครับ อันหลังนี่ผมเองก็ยังไม่เคยถ้ามีใครเคยมาเที่ยว FushimiInari-taisha ในช่วงเย็นรบกวนช่วยเล่าประสบการณ์ให้ทุกๆคนฟังด้วยนะครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:33:05
]
สวัสดีครับคุณ aomnan เชิญเลยครับไม่มีปัญหา
-------------------------------------------------------------------------
เที่ยวชมศาลเจ้ายอดนิยมแห่งนี้จนล่วงเข้าช่วงสายๆก็ได้เวลาอำลาไปเที่ยวชมสถานที่อื่นๆบ้างเสียที ไม่ว่าคุณจะเคยเห็น FushimiInari-taisha จากในหนังหรือจากสื่ออื่นๆ ถ้ามีโอกาสได้มา Kyoto อย่าพลาดชมเด็ดขาดเพราะนอกจากจะสวยแล้วที่สำคัญที่สุด ฟรี ครับ
[16 ส.ค. 54 21:36:44
]
จาก FushimiInari-taisha เราโดยสารรถประจำทางต่อมาถึงย่านท่องเที่ยวสำคัญของเมืองหลวงเก่าญี่ปุ่น เพราะเรามีนัดกับร้าน Sensho Kitamura ซึ่งเป็นร้านเช่า Kimono แถวๆหน้าวัด Kodai-ji ครับ ครึ่งวันนับจากนี้คุณภรรยาจะได้แปลงโฉมเป็นสาวน้อยในเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่น เดินชมเมืองให้เข้ากับบรรยากาศกันแบบสุดๆ
พอก้าวเท้าเข้าไปคุณป้าเจ้าร้านทั้ง 3 ก็ออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี โดยมีคุณป้าหมายเลข 1 คอยให้คำแนะนำในการเลือกชุดพร้อมกับทำผม ส่วนคุณป้าหมายเลข 2 และ 3 คอยแต่งตัวให้ลูกค้า เราต้องรออยู่นานพอสมควรเนื่องจากก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีลูกค้าชาวจีนเข้าร้านมาหลายคนและกำลังแต่งองค์ทรงเครื่องกันอยู่ ดังนั้นใครที่ตั้งใจจะเช่าชุดแบบนี้แนะนำว่าให้เช่าและนัดเวลาล่วงหน้าแต่เนิ่นๆนะครับ จะได้เลือกเปลี่ยนชุดได้แต่เช้าไม่ต้องรอใคร ในกรณีของพวกเราไม่สามารถนัดได้เร็วกว่านี้แล้วเนื่องจากคิวเต็มหมด
[16 ส.ค. 54 21:37:50
]
เสร็จเรียบร้อยพร้อมออกเดินทางแล้วคร้าบบบ
.
ค่าเสียหายเท่ากับ 5,250 เยน พร้อมทำผมให้บวกกับเครื่องประดับและกระเป๋าถือด้วย หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ต้องมาเลือกรองเท้าและกระเป๋าที่เข้าชุดกัน ใครสนใจรายละเอียดของร้านสามารถดูได้จากลิงค์ด้านล่างนะครับ
http://www.sensho-kitamura.jp/info/english.html
[16 ส.ค. 54 21:38:57
]
แวะเติมพลังด้วยอาหารกลางวันแล้วก็ได้เวลาเดินเล่นกันเสียที โดยเส้นทางวันนี้เราจะไปที่ Yasaka-jinja กันก่อน ต่อด้วย Maruyama-koen ย้อนกลับมาที่ Kodai-ji เดินผ่านย่านเก่าที่ Higashiyama ไปจบที่ Kiyomizu-dera ก่อนจะกลับมาคืนชุดให้ทัน 19:00 น.ตามกำหนด
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:39:30
]
Kyoto ในยามนี้ไม่ต้องเดินไกลครับ เอาแค่ด้านหลังของร้านอาหารที่เดินออกมาก็สวยแล้ว
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:40:24
]
ที่ Maruyama-koen ที่มีชื่อมากๆในเรื่องการชม Sakura วันนี้ไม่มีคนมาเยือนมากนักคงเพราะเรื่องใบไม้แดงคงสวยงามสู้สวนตามวัดต่างๆไม่ได้
ในภาพเป็นรูปปั้นของท่าน Sakamoto Ryoma (คนยืน) และ Nakaoka Shintaro (คนนั่ง) ภายใน Maruyama-koen ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงซามูไรหัวก้าวหน้าทั้งสองคนที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณที่เมือง Kyoto นี่เองครับ
[16 ส.ค. 54 21:42:22
]
เรามาแวะกินซอฟต์ครีมกันที่ Kodai-ji Sho Museum กันก่อนครับเพื่อเติมความสดชื่นและดูของใช้กระจุกกระจิกไปในตัว ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากทีเดียวมีนักท่องเที่ยวเวียนกันเข้ามาไม่ขาดสาย
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:43:10
]
วัด Kodai-ji มีชื่อเสียงมากเรื่องไลท์อัพในฤดูใบไม้ร่วง แต่พวกเราตัดสินใจมาชมกันในเวลากลางวัน เพราะต้องคืนชุดที่เช่ามาก่อน 1 ทุ่ม คิดว่าเวลาคงไม่พอสำหรับการเที่ยวชมในช่วงกลางคืน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:43:59
]
ที่วัดนี้ต้องเสียค่าเข้าชม 600 เยน ซึ่งสามารถเข้าชมได้ทั้งวัด Kodai-ji และ Kodai-ji Sho Museum ภายในมีทั้งอาคารและสวนที่ใบไม้กำลังขับสีออกมาอย่างสวยงาม
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:44:39
]
สระน้ำนี้เป็นที่นิยมมากถ้าใครมาชมไลท์อัพในช่วงกลางคืน จะพบนักท่องเที่ยวนั่งกันอยู่ริมสระน้ำเต็มไปหมด เพื่อชมไฟที่ประดับไว้และใบไม้รอบๆสระ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:45:16
]
ก่อนถึงทางออกมีซุ้มเล็กๆไว้ให้นักท่องเที่ยวนั่งดื่มน้ำชาพร้อมกับชมความงามของสวนภายในวัด
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:46:00
]
ตามเที่ยวด้วยครับ น่าไปมากกกกก
จากคุณ : เด็กชายต้นกล้า
[16 ส.ค. 54 21:46:41
]
ออกจากวัด Kodai-ji พวกเราเดินไปตามเส้นทางโบราณย่าน Higashiyama Ninenzaka และ Sannenzaka ถนนคนเดินยอดนิยมที่ขนาบข้างไปด้วยร้านรวงต่างๆมากมาย มุ่งหน้าไปวัด Kiyomizu-dera เพื่อให้ทันชมแสงสุดท้ายของวันกันที่นั่นครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:46:49
]
สวัสดีครับคุณเด็กชายต้นกล้า ตามมาเที่ยว Kyoto ด้วยกันเลยครับ
----------------------------------------------------------------------------
เดินกันพอเหนื่อยก็ถึงทางเข้าวัด ชำระค่าธรรมเนียมแล้วเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าที่วัดแห่งนี้ไม่เคยร้างราผู้คนจริงๆ ยิ่งเป็นเวลาอาทิตย์ยอแสงกลางฤดูใบไม้ร่วงอย่างนี้นักท่องเที่ยวยิ่งมากเพิ่มขึ้นไปเป็นทวีคูณ
พวกเราใช้เวลาเดินชมความงามซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติอันงดงามกับสิ่งก่อสร้างจากยุคเฮอันอย่างมีความสุข ผมแทบจะไม่ได้ยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพอีกเลยนอกจากรูปจากมุมยอดนิยมใบนี้เท่านั้น
[16 ส.ค. 54 21:49:24
]
เดินชม Kiyomizu-dera จนฟ้ามืด ก็ได้เวลาที่ต้องพาภรรยากลับไปคืนชุด Kimono ที่เช่ามา พวกเราใช้เส้นทางเดิมเหมือนขามา แต่ขากลับนี้มีแวะดูสินค้าต่างๆตามรายทางบ้าง ขอเตือนคนใจไม่แข็งถ้ามาเที่ยวญี่ปุ่นรับรองหมดตัวกันง่ายๆเลยครับ เพราะอะไรๆก็ดูสวยงาม บรรจุหีบห่ออย่างดี น่ารักน่าซื้อไปเสียหมด
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:50:41
]
แม้จะค่ำมืดแล้วแต่ถนนสายนี้ไม่เคยเงียบเหงา มีฝูงชนเดินเป็นเพื่อนเราไปตลอดทางจนกระทั่งกลับถึงร้านบริเวณด้านหน้าวัด Kodai-ji
ที่บริเวณขั้นบันไดที่ Sannenzaka นี้ต้องเดินระวังๆให้ดี เพราะมีเรื่องเล่าว่าหากใครพลัดตกบันไดที่ Sannenzaka จะถึงแก่ความตายภายใน 3 ปีครับ !!!
[16 ส.ค. 54 21:52:05
]
ภาพสวยมากค่ะ
ขอบคุณนะคะที่รีวิวที่สวยๆ ในญี่ปุ่นให้ได้ดูเสมอๆ
[16 ส.ค. 54 21:52:44
]
เมื่อกลับถึงร้านคุณป้าเตรียมน้ำดื่มแก้กระหายไว้ให้ แล้วจัดแจงพาออกไปด้านหน้าร้านเพื่อให้ผมถ่ายรูปภรรยาในชุด Kimono ไว้เป็นที่ระลึกอีกครั้ง พอถ่ายรูปเสร็จคุณป้าก็เรียกผมให้ตามเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วย เพื่อถ่ายภาพตอนที่จะหมุนตัวถอดผ้าคาดเอวออก ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมากทำให้ถ่ายได้ไม่ดีเท่าไหร่มานึกได้ทีหลังว่าผมถือ 550D อยู่นี่นา ตัวนี้มันถ่าย VDO แบบ HD ได้ด้วยไม่เหมือนปู่ 30D ตัวเก่า แต่มันก็สายเกินไปถ่ายไม่ทันแล้วครับ ดังนั้นถ้าใครจะไปเช่าชุดเหมือนพวกเราให้เตรียมตัวตรงนี้ไว้ด้วยนะ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:52:55
]
สวัสดีครับคุณ ColaGirl ขอบคุณที่เข้ามารับชมเช่นกันครับ ไปกันต่อเลยนะครับ
----------------------------------------------------------------------------
หลังจากคืนชุดเสร็จเรียบร้อยเราสองคนก็เดินทางไปยังที่พักทันที ซึ่งคราวนี้ผมจองโรงแรม Kansai Business Hotel แถวๆ Umeda ที่ Osaka ไว้ ค่าห้องก็ 3,980 เยนต่อคืน ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีภาพโรงแรมแต่อย่างใด ซึ่งสภาพห้องก็ตามราคานั่นแหละครับ
วันเสาร์เราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่เช่นเดิม เพราะวันนี้มีโปรแกรมออกไปชมใบไม้เปลี่ยนสีถึง 3 แห่ง ฟังดูเหมือนไม่เยอะแต่พวกเราเป็นคนเที่ยวนาน สถานที่หนึ่งๆใช้เวลาเดินชมหลายชั่วโมง ถ้าไม่รีบคงดูได้ไม่หมดแน่ๆ
[16 ส.ค. 54 21:56:42
]
เดินทางมาจาก Osaka แล้วแวะซื้อตั๋ววันแล้วใช้บริการรถ Kyoto City Bus เช่นเดิม แต่วันนี้เราประเดิมด้วยการลงที่ป้าย Tofuku-ji ใช่แล้วครับวันนี้เราจะเริ่มด้วยการเที่ยวชมวัด Tofuku-ji หนึ่งในสถานที่ที่ใบไม้เปลี่ยนสีมีชื่อเสียงที่สุดของ Kyoto กัน
เราเดินตามฝูงชนเข้าไปในซอยผ่านโรงเรียนอนุบาล Enichi ที่ญี่ปุ่นนี่มักจะมีอะไรกุ๊กกิ๊กน่ารักๆมาให้ดูเล่นอยู่เสมอสมกับเป็นจ้าวแห่งโลกการ์ตูนจริงๆ โดยเฉพาะอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเด็กด้วยแล้วตัวการ์ตูนเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลย
[16 ส.ค. 54 21:58:05
]
ซื้อตั๋วเข้าชมราคา 400 เยนแล้วเดินเข้ามาด้านในก็ถึงกับผงะกับคลื่นมนุษย์ที่รวมตัวกันอยู่ในวัดแห่งนี้ ซึ่งเกียวโตในเดือนพฤศจิกายนคนก็เยอะสาหัสอยู่แล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์คนยิ่งแน่นมากขึ้นไปอีก
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:58:39
]
เดินตามทางไปเรื่อยๆต้นไม้บริเวณสวนภายในวัดเปลี่ยนสีใบจากเขียวเป็นแดงหรือเหลืองเข้มเพื่อเตรียมผลัดใบให้เหลือแต่กิ่งสำหรับฤดูหนาวอันยาวนาน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 21:59:23
]
ปกติแล้ว Tofuku-ji อาจไม่ใช่ปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วๆไปในเวลาอื่นๆ แต่สำหรับฤดูใบไม้ร่วงไม่ควรพลาดวัดซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสถานี Kyoto แห่งนี้ด้วยประการทั้งปวง
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:00:11
]
แน่นอนครับในเมื่อภายในเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว คุณคงจะหามุมสงบๆเป็นส่วนตัวสำหรับถ่ายภาพไม่ค่อยได้ ทางที่ดีที่สุดคือเดินดูด้วยสายตาของเราเองบ้าง อย่ามองผ่านเลนส์แต่เพียงอย่างเดียวเลย
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:00:47
]
Tsutenkyo คือจุดที่มีนักท่องเที่ยวไปรวมตัวกันมากที่สุดเพราะจากสะพานนี้สามารถมองเห็นยอดไม้ของต้น Momiji ศีต่างๆภายในบริเวณวัดได้อย่างสวยงามและชัดเจน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:01:21
]
แต่ถึงแม้คนจะเยอะแต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่ได้แออัดอะไรมากนะครับ แถมยังสามารถวนกลับไปดูได้อีกด้วย คงเป็นเพราะว่าส่วนใหญ่เค้าดูกันแล้วก็เดินออกไปไม่ได้ยืนแช่กันอยู่นาน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คอยจัดการเรื่องคนอยู่ด้วย
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:02:01
]
Tofuku-ji เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยเราไม่น้อยเลย ระหว่างที่เดินอยู่ภายในวัดก็จะได้ยินภาษาไทยลอยมาตามลมอยู่เป็นระยะๆ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:02:39
]
ภาพสวย เเสงคมชัดมากครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะครับ
จากคุณ : Traveller Among Mountains
[16 ส.ค. 54 22:03:06
]
มาเกียวโตคราวนี้ได้เห็นใบไม้ที่สมบูรณ์มากจริงๆ ใบยังมีสีสดใสและไม่มีจุดด่างดำเหมือนที่เคยมาดูเมื่อหลายปีก่อน ครั้งนั้นผมคงมาช่วงปลายมากจนเกินไป
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:03:11
]
สวัสดีครับคุณ Traveller Among Mountains ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ตามมาเที่ยวด้วยกันต่อเลยครับ
---------------------------------------------------------------------------
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเราสามารถเลือกมาเที่ยวชมได้หลายช่วงเวลา บางคนชอบแบบใบกำลังแดงหรือเหลืองสดเต็มต้น บางคนชอบให้มีใบหลุดร่วงลงมาด้วยจะได้มีบรรยากาศของความเหงาเพิ่มเติมขึ้นมา
[16 ส.ค. 54 22:04:55
]
สำหรับผมแบบไหนก็ได้ครับ ขอให้มีเธออยู่ข้างๆโลกนี้สวยงามเสมอ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:05:38
]
จาก Tofuku-ji เราเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไป Kyoto ในยามนี้คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว บ่อยครั้งการจราจรที่ติดขัดและความหนาแน่นของฝูงชนทำให้เราไม่สามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้ได้ อย่างครั้งนี้เราไม่สามารถรอต่อคิวยาวๆเพื่อขึ้นรถเมล์ทอดเดียวไปวัด Nanzen-ji ได้ เราจึงใช้วิธีนั่งรถเมล์ที่ว่างๆไปลงแถวๆศาลเจ้า Heian-jingu แล้วเดินต่อไปถึง Nanzen-ji แทน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:06:13
]
มาถึง Nanzen-ji ก็บ่ายแก่ๆแล้วเข้าไปชมข้างในกันเลยดีกว่าครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:06:44
]
ภายในสวนของวัด Nanzenji ก็คล้ายๆกับวัดอื่นๆคือมีต้น Momiji ที่กำลังขับสีสันปลูกอยู่ทั่ว ซึ่งที่นี่จะมีทั้งพันธุ์สีเหลืองและสีแดงผสมผสานกันไป
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:07:15
]
ประตู Sanmon ด้านหน้าวัด Nanzen-ji ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปด้านบนเพื่อชมทิวทัศน์ได้ด้วย
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:07:43
]
และที่ทำให้ Nanzen-ji โดดเด่นเหนือใครก็คงเป็น Aqueduct ท่อส่งน้ำที่สร้างขึ้นในสมัย Meiji เพื่อลำเลียงน้ำและอาหารจากทะเลสาบ Biwa-ko ผ่านไปยัง Kyoto และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันยังสามารถเห็นซากของ Aqueduct ที่สมบูรณ์ได้ภายในบริเวณวัด Nanzen-ji
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:08:15
]
กำแพงวัดตัดกับใบไม้เหลืองๆ วิวง่ายๆแต่ก็สวยได้เช่นกัน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:08:46
]
คุณภรรยาทำงานที่ญ๊ปุ่น
เเล้วจขกท อยู่ไทยใช่ไหมคะ ? (เท่าที่อ่าน เเล้วจับใจความได้)
คล้ายๆ ชีวิตเราเมื่อ ปีก่อนเลย... เเต่ .. มันก็มีข้อดีของความห่างไกลนะ
ทำให้เรารู้จัก คำว่าเวลา .. เเละคุณค่าของความคิดถึง
[16 ส.ค. 54 22:09:30
]
Akibare (อะขิบะเระ) คือคำเรียกวันที่อากาศดีในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาในอุดมคติของการท่องเที่ยวและถ่ายภาพเลยทีเดียว เพราะท้องฟ้าสวยใส อากาศเย็นสบาย บรรยากาศโดยรอบก็เต็มไปด้วยสีสัน
วันนี้ก็เรียกว่าเป็นโชคดีของเราเช่นกันที่ได้มาเจอ Akibare ในระหว่างการเดินทางเช่นนี้พอดี
[16 ส.ค. 54 22:10:27
]
รูปสวยมากครับ ทำให้อยากไปเห็นของจริงเลยครับ
จากคุณ : mpitt09 (mpitt09)
[16 ส.ค. 54 22:13:31
]
คุณ aomnan ณ เวลาที่ไปเที่ยวด้วยกันในกระทู้นี้ใช่ครับ แต่ปัจจุบันนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ภรรยากลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยแล้วครับ
สำหรับเราสองคนนี่เป้นการแยกกันครั้งที่ 2 แล้วครับ ช่วงปี 2004-2007 ผมไปอยู่ที่ญี่ปุ่นมา 3 ปี ครั้งนี้เป็นคิวของเธอบ้างแต่ไม่เหมือนเดิมตรงที่เราแต่งงานกันแล้ว ตอนนี้ที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันจะเรียกว่าโชคดีก็คงได้ครับ :-)
----------------------------------------------------------------------------
อำลาวัด Nanzen-ji กันด้วยเจ้านกน้อยในภาพนี้ครับ
[16 ส.ค. 54 22:15:11
]
สวัสดีครับคุณ mpitt09 ขอบคุณมากครับ ช่วงนี้ก็ใกล้จะได้เวลาฤดูใบไม้ร่วงเวียนกลับมาอีกรอบแล้ว อย่ารอช้าครับ
----------------------------------------------------------------------------
จาก Nanzen-ji เราเดินต่อมาอีกนิดนึงก็ถึง Eikan-do ในเวลาที่เค้ากำลังปิดประตูหมดเวลาเข้าชมสำหรับรอบกลางวันและเตรียมเปิดไลท์อัพต้อนรับนักท่องเที่ยวในเวลากลางคืนพอดี ระหว่างที่รอต่อคิวผมก็ขอนำภาพของ Eikan-do ในช่วงกลางวันที่ถ่ายไว้เมื่อปี 2005 มาให้ชมกันซัก 3-4 ภาพก็แล้วกัน
[16 ส.ค. 54 22:17:24
]
Eikan-do หรือ Temple of the Maple Leaves แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องมาชมในฤดูใบไม้ร่วงถึงจะเหมาะ โดยในฤดูนี้จะเก็บค่าเข้าสถานที่ในช่วงกลางวัน 1,000 เยน ส่วนฤดูอื่นๆ 600 เยน และพิเศษสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีจะมีไลท์อัพให้ชมกันด้วยซึ่งต้องเสียค่าเข้าชมในช่วงกลางคืนต่างหากอีก 600 เยน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:18:19
]
โดย Eikan-do หรือ Zenrin-ji สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 จนกระทั่งศตวรรษที่ 11 เจ้าอาวาสในยุคนั้นนามว่าท่าน Eikan ได้สร้างพระพุทธรูปองค์หนึ่งขึ้นโดยมีตำนานว่าเดิมพระพุธรูปนั้นหันหน้าตรงธรรมดา จนวันหนึ่งท่าน Eikan เดินผ่านพระพุทธรูปองค์นั้นก็หันหน้ามองดูและพูดกับท่าน Eikan ซึ่งทำให้วัด Zenrin-ji กลายเป็นที่กล่าวขวัญและนิยมในยุคนั้นจนมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Eikan-do นั่นเอง
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:19:35
]
ปัจจุบัน Eikan-do มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เรียกว่าเป็นจุดหมายที่ห้ามพลาดของคนที่มา Kyoto ในฤดูนี้เลยทีเดียวโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤศจิกายน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:20:06
]
เราสองคนต่อคิวอยู่พักใหญ่ก็ได้เวลาเปิดให้เข้าชมในช่วงกลางคืน ตามมาเลยครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:20:29
]
Eikan-do ในเวลาพลบค่ำจะประดับประดาไปด้วยไฟตามพุ่มไม้ต่างๆเพื่อเน้นสีสันที่สวยงามยามฤดูใบไม้ร่วง
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:20:57
]
เส้นทางเดินชมภายในวัดไม่ได้ยาวมากนักและก็ไม่ได้สั้นจนน่าเสียดายเงิน เรียกว่าคุ้มค่าต่อการเข้าชมและไม่เหนื่อยจนเกินไป
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:21:26
]
สระ Hojo ก็เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบการชมภาพสะท้อนของแสงสีต่างๆในบึงน้ำกัน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:21:49
]
การเดินชมไลท์อัพในฤดูใบไม้ร่วงมาพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็นหลังพระอาทิตย์ตก ดังนั้นจึงควรจะเตรียมตัวแต่งกายให้เหมาะสมเพื่อรับมือกับสภาพอากาศให้ได้ด้วยนะครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:22:19
]
เดินชมความงามของ Eikan-do ได้สักพักก็ถึงเวลากลับไปพักผ่อนที่โรงแรม ซึ่งการจราจรในวันนี้ติดขัดมหาโหดมากๆ พอรถเมล์เลี้ยวเข้ามาแถว Sanjo เท่านั้นก็ติดหนึบไม่ขยับไปไหนร่วมๆ 20 นาที จนกระทั่งมีพนักงานขึ้นมาบอกว่าวันนี้รถติดอย่างหนักจากจุดดังกล่าวไปจนถึงสถานี Kyoto คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 180 นาที!!!! แต่ผู้โดยสารท่านไหนที่มีตั๋ววันของ City Bus สามารถไปรับบัตรดดยสารรถไฟใต้ดินได้ฟรีที่สถานี Higashiyama ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เราสองคนไม่รอช้าโดดผึงลงจากรถแล้วเปลี่ยนไปใช้บริการรถใต้ดินทันที
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:22:47
]
แวะทานข้าวเย็นที่สถานีก่อนกลับโรงแรม ทริปนี้มีแต่อาหารเส้นแฮะ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:23:09
]
ตัดมาเช้าวันอาทิตย์วันนี้เราเดินทางมายังสถานี Kyoto อีกครั้งพร้อมฝากกระเป๋าเดินทางไว้ใน Locker เพราะวันนี้เราจะเดินทางไปเมือง Nara กัน เพราะมีนัดกับ Matsui-sensei อาจารย์ที่เคยสอนภาษาญี่ปุ่นให้ภรรยาก่อนมาประจำการที่ญี่ปุ่นครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:23:43
]
เราเดินทางสู่บ้านเกิดของอาจารย์ด้วยรถไฟสาย Kintetsu Nara ซึ่งผมชอบมากเพราะตัวสถานีอยู่ใกล้ Todai-ji และ Nara-koen เพียงนิดเดียว
อาจารย์มารอต้อนรับเราที่สถานีอยู่แล้วพร้อมกับพาไปเดินชมเมืองทางด้าน Nara-koen
[16 ส.ค. 54 22:24:20
]
จริงๆแล้วเราสองคนเคยมาเที่ยว Nara ด้วยกันแล้วครั้งนึงและสถานที่ที่อาจารย์จะพาไปเราก็ไปมาหมดแล้ว แต่ครั้งนี้เราก็ยินดีที่จะไปอีกเพราะบ้านใคร ใครก็รักและภูมิใจอยากเล่าและนำเสนอให้คนที่เรารู้จักฟัง
ท่านอาจารย์ประเดิมพาเราเดินทางไกลไปยังศาลเจ้า Meotodaikoku-sha ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการขอพรในเรื่องความรัก (เนื่องจากชื่อศาลเจ้าเกี่ยวข้องกับคำว่าสามี-ภรรยา) เพื่อให้เราสองคนขอพรให้มีชีวิตคู่ที่ดีและมีความสุขกันตลอดไป โดย Meotodaikoku-sha นี้เป็นศาลเจ้าขนาดเล็กที่อยู่ในเขตแดนของ Kasuga-taisha ครับ
[16 ส.ค. 54 22:25:00
]
จากนั้นก็เดินทางต่อมายังศาลเจ้า Kasuga-taisha ที่คุ้นเคยกันดี โดย Kasuga-taisha เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในจังหวัด Nara และยังเป็น 1 ใน 3 ของศาลเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย สร้างขึ้นราวปีค.ศ. 700 ที่เชิงเขา Mikasa และเขา Kasuga
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:25:37
]
โดยศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเรื่องของตะเกียงหินที่ตั้งเรียงรายกันตั้งแต่ปากทางเข้าจนกระทั่งถึงตัวศาล
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:26:02
]
ในวันนั้นมีพิธี Shichi-Go-San ของเด็กๆพอดีด้วยทำให้เราได้เห็นเด็กญี่ปุ่นสีชุดประจำชาติน่ารักๆมาเข้าพิธีที่ศาลเจ้ากัน โดยในพิธีนี้เด็กหญิงที่มีอายุครบ 3 และ 7 ขวบ พร้อมกับเด็กชายที่อายุครบ 5 ขวบ จะเฉลิมฉลองการก้าวย่างเข้าสู่วัยเด็กในแต่ละช่วง แต่งกายในชุดประจำชาติมาที่ศาลเจ้าเพื่อขับไล่วิญญาณร้ายและนำมาซึ่งสุขภาพที่ดี มีอายุยืนยาว
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:26:46
]
จาก Kasuga-taisha เราออกเดินผ่าน Nara-koen อีกครั้งเพื่อมุ่งหน้าไปยังวัด Todai-ji
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:27:15
]
ระหว่างทางจะผ่านศาล ร้านรวง และวัดเล็กๆมากมาย ซึ่งในฤดูนี้ทุกที่ต่างก็จัดแต่งและประดับประดาเรียกให้ลูกค้านั่งพักชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:27:48
]
ภายใน Nara-koen กว้างขวางและร่มรื่นมากๆ เหมาะสำหรับเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง Nara และนักท่องเที่ยว และยังมีกวางน้อยน่ารักมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่เวลาให้อาหารกวางบางตัวอาจจะไม่น่ารักเท่าไหร่นะครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:28:21
]
มาถึงหน้าทางเข้าวัด Todai-ji แล้วครับ บริเวณนี้มีร้านค้าขนาบอยู่สองฟากฝั่งแต่เลยจากร้านค้าไปก็ยังเป็นสวนที่สวยงามเช่นเดิม
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:28:49
]
น้องกวางมารวมตัวกันบริเวณนี้หลายตัวทีเดียว ราวกับรู้งานว่าถ้าอยู่ตรงนี้มีอาหารกินอุดมสมบูรณ์อย่างแน่นอน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:29:14
]
มุมนี้ได้ฟีลหนังเกาหลีมากๆ เล็งไว้ว่าจะออกมาถ่ายตอนขากลับแต่สุดท้ายก็ลืมครับ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:29:39
]
ใครเอาหมาน้อยไปนั่งรอบนนั้นน่ะ วางไว้แบบนี้ไม่วิ่งหนีไปไหนแน่นอน อิอิ
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:30:05
]
Daibutsu-den หรือวิหารพระใหญ่ของวัด Todai-ji เป็นสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1998 ในฐานะส่วนหนึ่งของ Historical Monuments of Ancient Nara หลังจากจ่ายค่าเข้าสถานที่ 500 เยนแล้วเดินเข้าไปชมด้านในก็พบว่าต้นซากุระหน้าวิหาร Daibutsu-den ที่ผมเคยมาถ่ายไว้เมื่อฤดูใบไม้ผลิหลายปีก่อน ตอนนี้เปลี่ยนสีและผลัดใบร่วงไปพอสมควรแล้ว
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:30:38
]
เมื่อก้าวเข้ามาด้านในวิหารพระใหญ่ นักท่องเที่ยวทุกคนก็ต้องทำท่าบังคับท่าเดียวกันครับคือแหงนจนคอตั้งบ่า บางคนก็ยกกล้องถ่ายภาพหรืออุปกรณ์ใดก็ได้ที่สามารถบันทึกภาพได้ขึ้นมา
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:31:12
]
ที่ทุกคนทำแบบนั้นก็เพื่อที่จะชมหรือถ่ายภาพองค์ Nara Daibutsu พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สร้างจากโลหะสัมฤทธิ์สูง 15 เมตร หนักร่วม 250 ตัน พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นมาพร้อมๆกับตัววัด Todai-ji เพียงแต่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติและสงครามหลายครั้งจนต้องหล่อซ่อมแซมจนเป็นองค์ที่พวกเราเห็นในปัจจุบัน
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:31:39
]
ตัววิหาร Daibutsu-den ก็ได้รับความเสียหายจากภัยต่างๆมากมายหลายครั้งเช่นเดียวกัน จนต้องสร้างขึ้นมาใหม่หลายหน ซึ่งแบบจำลองของวิหารในยุคต่างๆมีแสดงอยู่ด้านในด้วยครับ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าวิหารในสมัยก่อนใหญ่โตมโหฬารยิ่งกว่าปัจจุบันนี้เสียอีก
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:32:08
]
เดินตามอาจารย์พาชมและบรรยายถึงวัด Todai-ji อย่างภาคภูมิใจจนจบ พวกเราก็เดินกลับไปขึ้นรถไฟโดยผ่านออกทาง Nara-koen อีกครั้งเพื่อไปเยี่ยมบ้านของอาจารย์
จากคุณ : Gelgoog
[16 ส.ค. 54 22:32:41
]
การที่ได้รับเชิญไปบ้านของคนญี่ปุ่นถือเป็นเกียรติอย่างมากครับ เพราะปกติแล้วเจ้าบ้านจะถือว่าการมีแขกไปที่บ้านเป็นเรื่องใหญ่ต้องเตรียมตัวรับรองอย่างดี ครั้งนี้อาจารย์และคุณนายเตรียมทำ Okonomiyaki, Yakisoba และสลัดแสนอร่อยไว้เลี้ยงต้อนรับเราด้วย
หลังจากทานอาหารและอยู่คุยกันซักพักก็ได้เวลาเดินทางกลับ โดยเจ้าบ้านยังใจดีแวะซื้อ Kakinoha-sushi (ซูชิอัดหน้าปลาแซลมอนหรือซาบะห่อด้วยใบพลับ) ของดีมีชื่อของจังหวัด Nara เอาไว้ให้เราทานบนรถไฟตอนกลับด้วย ขอบคุณท่านอาจารย์มากครับ
[16 ส.ค. 54 22:33:13
]
เนื่องจากเวลามีน้อยขากลับเราจึงนั่ง Shinkansen กลับ Tokyo โดยผมไปส่งคุณภรรยาที่ Ueno เพื่อขึ้นรถไฟกลับ Utsunomiya หลังจากนั้นตัวเองก็นั่งรถไฟกลับมารอขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทยที่ Haneda เหมือนขามา
จบแล้วครับทริป KYOTO อะโซบิเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว อาจจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ดังๆที่หลายๆคนชอบแต่ก็เป็นการเดินทางที่มีความสุขอีกครั้งนึงของพวกเราครับ
ขอบคุณทุกเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามารับชมนะครับ
[16 ส.ค. 54 22:34:07
]
ใบไม้แดงสวยงามมากๆๆๆๆ ครับ
ผมไปปลาย พ.ย. นี้ หวังว่าจะได้เจออากาศดีๆ กับใบไม้แดงสวยๆ แบบ จขกท. บ้างนะครับ
[16 ส.ค. 54 22:38:12
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆค่ะ
จากคุณ : aomnan
[16 ส.ค. 54 22:39:08
]
สวยมากครับ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[16 ส.ค. 54 22:55:12
]
จบซะและ กะลังอินเลย
ภาพสวยดีครับ อยากไปมั่ง
[16 ส.ค. 54 22:57:10
]
ภาพสวยมากๆค่ะ
จากคุณ : handayo
[16 ส.ค. 54 22:58:09
]
เตรียมตามรอยเกียวโตปลายปีนี้ค่ะ
เห็นคิวยืนรอเข้าวัด Eikan-do ที่เข้าคิวเพราะไปก่อนวัดเปิดรอบ17.30 น. ใช่มั้ยคะ
เห็นคิวแล้วคนเยอะน่าดู รบกวนถามอีกเรื่อง
จากสถานีเกียวโตถ้านั่งรถเมล์ไป Fushimi Inari สาย 5 ใช่มั้ยคะหรือว่ามีสายไหนแนะนำ
[16 ส.ค. 54 23:12:51
]
สวัสดีครับ.
ขอขอบคุณครับ.สำหรับภาพสวยงามแถมยังโรแมนติก..หวานแหวว..มากๆ
ผมก็มีตั๋วไปโอซาก้าช่วงปีใหม่แล้วเหมือนกันครับสองคน..9วัน
..ที่ผมคิดไว้ว่าจะพักรร.เล้กๆที่เกียวโต8คืนเลย
แต่ช่วง25ธค.-2มค.ที่เกียวโตแพงครับ.
ถ้าพักที่โอซาก้า(ซึ่งผมคิดว่าถูกกว่า)
แล้วนั่งรถไฟไปเกียวโตเกือบทุกวัน.จะเหนื่อยไปมั๊ยครับ..
[16 ส.ค. 54 23:17:56
]
ใบไม้แดงสวยมากค่ะ
จากคุณ : ฮิโนเดะ
[16 ส.ค. 54 23:25:50
]
ภาพสวยมากๆ ดูแล้วอยากตามไปชมใบไม้แดงบ้างจังครับ...
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
...
[16 ส.ค. 54 23:29:22
]
เอาไปเลยค่ะสามกีบสำหรับรีวิวนี้ จขกทมีความอุตสาหะมากในการถ่ายรูปแล้วเอามารีวิวให้ดูกัน ขอบคุณมากนะคะ
จากคุณ : flymom
[16 ส.ค. 54 23:32:05
]
เอาไปเลยค่ะสามกีบสำหรับรีวิวนี้ จขกทมีความอุตสาหะมากในการถ่ายรูปแล้วเอามารีวิวให้ดูกัน ขอบคุณมากนะคะ
จากคุณ : flymom
[16 ส.ค. 54 23:32:33
]
ถูกใจมากคับพี่ยอ 
ไว้ซากุระปีหน้าจะเจริญรอยตามครับ
เพิ่งเห็นว่า ใบไม้เปลียนสีที่เกียวโตนี่งามงดแต๊ๆๆๆ
สงสัยในอนาคตคงต้องได้กลับไปเที่ยวตอนใบไม้เปลี่ยนสีอีกแน่ๆ ครับ
ปล. ถึงคุณเจ้าแก้วฯ ครับ รู้สึกวาถ้านั่งรถไฟก็ไปได้เหมือนกัน
สายที่ไปนาราหน่ะครับ แต่ผมจำไม่ได้ว่าต้องลงสถานีไหน รู้สึกว่าจะสถานีที่ 2 หรือ 3 จากสถานีเกียวโตนะครับ ....
[16 ส.ค. 54 23:34:15
]
สวยมากครับ
จากคุณ : Jose Pasillas ll
[16 ส.ค. 54 23:45:30
]
รุปสวยมากๆค่ะ
จากคุณ : สาวหน้าใส
[16 ส.ค. 54 23:56:54
]
ปีนี้ผมจะไปตามรอยใบไม้แดงมั่งครับ
เพราะคุณจขกท.ไปช่วงเดียวกับที่ผมจะเดินทางในปีนี้เลย(ผมไป15กลับ24พฤจิกายน)
ก็เลยพยายามสังเกตุดูว่า ผู้คนช่วงนั้นแต่งตัวกันยังไง อากาศหนาวมากมั๊ย
[17 ส.ค. 54 00:12:43
]
ขอบคุณหมอยุ่งฯค่ะ ^__^
ที่ถามสายรถเมล์เพราะความงก กะจะใช้ bus pass ให้คุ้มค่า
นั่งรถไฟ 140 เยนค่ะไปกลับจ่ายเพิ่มอีก 280 แหะแหะ นั่งรถเมล์แล้วออกกำลังขาเดินไกลกว่าหน่อย
[17 ส.ค. 54 00:16:02
]
ขอบคุณมากนะคะ
ภาพสวยมากๆเลยค่ะ....
นางแบบก็สวยมากกกๆๆๆ.....
[17 ส.ค. 54 00:34:31
]
เกียวโตช่วงใบไม้แดง งดงามสมคำร่ำลือ
ขอบคุณที่แบ่งปันรูปสวยๆ ให้ชมค่ะ
[17 ส.ค. 54 01:16:43
]
ขอบคุณครับ ภาพสวยมากจริงๆ ช่วง Autumn นี่ต้องยกให้แถบคันไซเลย สวยสุดยอดครับ
[17 ส.ค. 54 01:55:59
]
ภาพสวย บรรยากาศดีมากเลยครับ
[17 ส.ค. 54 06:52:48
]
ภาพสวยสุดยอดเลยค่ะ แถมมีพร็อพเป็นคุณภรรยาใส่กิโมโนอีก แบบนี้ไม่ให้กีบได้ไงคะเนี่ย 
เกียวโตนี่เมืองในฝันของเราเลยค่ะ เพราะเราชอบเที่ยววัดเก่าๆ ไม่มีโอกาสได้ไปเยือนซะที ขอตาม จขกท.ไปก่อนก็แล้วกันนะค๊า >_<
[17 ส.ค. 54 07:22:38
]
@ สวยงามและน่ารักมากครับ .. ใบไม้แดงนี่สวยจริงๆ น่าเสียดาย
ที่ช่วงแบบนี้ไม่มีวันหยุดยาวเหมือนช่วงซากุระเลยไม่ได้ไปชมซะที
.. น้องหมาตัวนั้นน่ารักที่สุดเลย .. เอาไปวางอย่างนั้น แล้วถ้าปวดฉี่
แล้วเค้าจะฉี่ยังไง ..
[17 ส.ค. 54 07:49:27
]
ญี่ปุ่นช่วงใบไม้แดง....
หันไปทางไหนก็สวยมากๆเลยครับ....
จขกท.ก็ถ่ายทอดความสวยงามออกมาได้เยี่ยมจริงๆ....
[17 ส.ค. 54 07:50:00
]
ภาพสวยคมแจ่มมากครับ ถ่ายทอดสีสันยามใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตได้งดงามจริงๆครับ
จากคุณ : white koala
[17 ส.ค. 54 08:11:21
]
คุณติวเตอร์ตู่, คุณ aomnan, คุณเด็กชายต้นกล้า, คุณ ColaGirl, คุณ Traveller Among Mountains, คุณ mpitt09 ขอบคุณทุกๆท่านที่มาร่วมเดินทางในระหว่างถ่ายทอดสดนะครับ :-)
คุณ aryan : ส่วนใหญ่ปลายเดือน 11 จะอากาศดีครับ ขอให้เจออากาศดี แสงสวยๆ ถ่ายรูปงามๆได้สมใจเหมือนตอนที่ไปเกาหลีนะครับ แล้วจะรอชมภาพของคุณบ้าง
คุณ aomnan : ขอบคุณที่ติดตามชมตั้งแต่ต้นจนจบเช่นกันครับ
คุณเล็กทาโร่ : กระทู้หน้าอย่าลืมตามไปเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ
คุณ boydz : ขอบคุณครับ จริงๆแล้วรูปมีเยอะครับแต่เป็นภาพบุคคลซะเป็นส่วนมาก ขอลงเท่านี้ก็แล้วกันนะครับ
คุณ handayo : ขอบคุณมากครับ
คุณเจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย : ใช่แล้วครับไปถึงวัดตอนเค้าปิดรอบกลางวันพอดีก็เลยยืนเข้าคิวรอรอบเย็นอยู่ตรงนั้นเพราะไม่รู้จะไปไหน คนเยอะนะครับมีคิวต่อหลังผมไปอีกยาวมากๆแต่เค้าก็จัดระเบียบดีตามสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนการเดินทางด้วยรถเมล์ไป FushimiInari-taisha มีรถผ่านสายเดียวครับคือ 南5 (South 5 ) ส่วนใหญ่เค้าจะนั่งรถไฟไปกันเพราะมีรอบถี่กว่ารถเมล์ครับ แต่ผมก็เสียดายตังค์เหมือนคุณนั่นแหละครับ อิอิ ไปกลับสองคนเกือบ 600 เยนแพงกว่าค่าตั๋ววันรถเมล์ใบนึงอีก
แต่ถ้าจะไปรถไฟให้นั่งสาย Nara ลงสถานี Inari (สถานีที่ 2) ครับ
คุณ actloma : ขึ้นอยู่กับว่าไปเที่ยวที่ไหนมากกว่ากันก็พักที่นั่นดีกว่าครับ อันที่จริงๆนั่งรถไฟระหว่าง Osaka Kyoto มันก็ไม่ได้ไกลมากไม่เหนื่อยหรอกครับ แต่ถ้านั่งหลายๆวันมันจะเบื่อมากกว่า
คุณฮิโนเดะ : ขอบคุณเช่นกันครับ
คุณผู้ก่อการร้ายทางความคิด : ขอบคุณครับ ถ้ามีโอกาสไปดูด้วยตาตัวเองจะเห็นว่าสวยกว่าที่ผมถ่ายมาเยอะมาก
คุณ flymom : ขอบคุณมากครับ ใช้เวลาเรียบเรียงนานจนเกือบจะข้ามปีอยู่แล้วครับ อิอิ
หมอยุ่ง : ไปเลยครับหมอทั้งซากุระทั้งใบไม้ร่วงที่ Kansai สวยมากๆอยู่ครับ พูดไปแล้วจริงๆผมก็ยังไม่เคยดูซากุระที่ Kyoto เลย เคยไปดูที่ Nara ครั้งนึงขาไปผ่านสถานีเกียวโตเห็นคนเป็นล้านเลยไม่อยากฝ่าเข้าไป เอาไว้หมอยุ่งไปแล้วเอาภาพมาให้ผมกับเพื่อนๆชมด้วยนะครับ
Kyoto รอบเดียวไม่พอแน่นอนครับต้องมีซ้ำ อย่างผมนี่ซ้ำไปหลายรอบแล้วก็ยังไม่เบื่อเลย
คุณ Jose Pasillas ll : ขอบคุณครับผม
คุณสาวหน้าใส : ขอบคุณมากๆครับ
คุณลิ้ม (rimu) : เที่ยวให้สนุกกับทริปใบไม้ร่วงปีนี้นะครับ สำหรับการแต่งตัวในช่วงนั้นก็ใส่เต็มยศสำหรับการเที่ยวเมืองในฤดูหนาว ถ้าใครขี้หนาวก็ต้องใส่พวก Coat หรือ Down Jacket แต่ถ้าใครชอบเย็นๆแบบผมจะใส่แจ็คเก็ตธรรมดาๆก็ได้ แต่เน้นว่าช่วงเช้ามืดกับกลางคืนจะหนาวมากครับ
คุณ Miss_Behaving : ขอบคุณครับและขอบคุณแทนภรรยาด้วยครับ
คุณ la liga fan : ขอบคุณมากครับ ยังมีทริปเดือนตุลาที่ Nyuto Onsen อีก ตอนนี้ยังหาเวลาเขียนไม่ได้เลยครับ
คุณ Coffee Blended : ขอบคุณครับผม นอกจากใบไม้แดงแถว Kansai แล้วที่ Tohoku ก็สวยมากเช่นกัน แล้วแต่คนชอบครับ ส่วนตัวแล้วผมชอบแนวธรรมชาติแบบ Tohoku มากกว่านิดๆ
คุณ databoy : ขอบคุณครับ ของจริงบรรยากาศสุดยอดจริงๆครับ
คุณ ha-meow : ถ้าชอบเมืองเก่าต้องไป Kyoto ให้ได้นะครับ เป็นเมืองเก่าที่มีชีวิตชีวามากๆ ต้องขอบคุณแนวคิดและความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ทำให้ Kyoto ไม่ต้องไปข้องแวะกับสงครามใดๆ และขอบคุณอเมริกาที่ตัดชื่อ Kyoto ทิ้งไปจากรายชื่อเมืองที่จะถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ด้วยครับ
คุณ MRBIG173 : น้องหมาตัวนั้นเค้าคงชินแล้วล่ะครับ ดูแล้วเจ้าของน่าจะวางไว้แบบนั้นบ่อยๆ ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็ต้องหันไปมองและยิ้มให้
คุณ LVP@HEART : ขอบคุณมากครับ ฤดูใบไม้ร่วงในวันที่อากาศแจ่มใสเป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับการท่องเที่ยวจริงๆครับ
คุณ white koala : ขอบคุณครับผม ของจริงสวยกว่านี้มากครับ
[17 ส.ค. 54 09:32:49
]
ชอบมากๆๆๆๆ เราเริ่มสับสนระหว่างซากุระ กับ ใบไม้เปลี่ยนสีซะแล้ว เลือกไรก่อนดีน๊า อิอิ ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ^^
จากคุณ : สามแซ่
[17 ส.ค. 54 10:19:58
]
ขอบคุณรีวิวดีดีแบบนี้มากเลยนะคะ
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นตามไปจริงๆ
[17 ส.ค. 54 10:34:07
]
รูปสวย จนอยากเปลี่ยนใจ จากที่ตั้งใจไปดูซากุระ ใบไม้แดง โตเกียวก็สวยไม่แพ้กันเลย
ขอบคุณรุปสวยๆ รีวิวดีๆ ค่ะ
[17 ส.ค. 54 10:50:37
]
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากจริงๆ
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ บรรยากาศดีๆ ที่นำมาฝากกันค่ะ
[17 ส.ค. 54 10:52:36
]
ภาพสวยมากครับ จะเก็บไว้เป็นข้อมูล จะพาภรรยาไปใส่ชุดกิโมโนบ้าง
จากคุณ : เซนต์ซาจิทาเรียส
[17 ส.ค. 54 11:24:43
]
ขอบคุณมากเลยค่ะ
[17 ส.ค. 54 12:50:39
]
ภาพสวยมาก ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
จากคุณ : areewan
[17 ส.ค. 54 12:52:32
]
..
กรี๊ดไปสามตลบให้กับภาพสวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจากเมืองเก่า ทำเอาคิดถึงเกียวโตขึ้นมาตะหงิดๆ อยากกลับไปเยือนในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงอีก >___<
คุณ Gelgoog เดินสวนกับผมบ้างไหมเนี่ย อิอิ
.
.
ขอบคุณ สำหรับบรรยากาศที่สวยงามทะลุออกมานอกจอนะครับ กดโหวตให้กระทู้นี้เลย ชอบมาก 
..
[17 ส.ค. 54 14:46:27
]
เข้ามาชมภาพสวยๆค่ะ พย.นี่ใบไม้แดงกำลังสวยเลย
เรากำลังแพลนไปคันไซปลายเดือน ตค. ค่ะ สงสัยใบไม้ยังไม่แดง >_<
อยากใส่กิโมโนบ้าง ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ ^_^
[17 ส.ค. 54 15:48:59
]
รูปคมชัดดีจัง สวยมากเลย ^^
จากคุณ : Moopenguin
[17 ส.ค. 54 15:53:45
]
^
^
^
ขอร้อง POGGHI อย่ากรี๊ด...
เราไม่กล้าจินตนาการ
.
ยิงไป คุณ นางเงือกน้อย ตบบนตบล่าง
ปลาย ตค.ใบไม้เเดงนับใบได้ค่ะ.. น้อยนิดเหลือเกิน!!
[17 ส.ค. 54 16:05:43
]
ที่ Tofuku-ji ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่สวยมากๆเป็นสถานที่ที่พลาดไำม่ได้อย่างแรงเลยครับสวยประทับใจมาก
ที่ Eikan-do ตอนกลางคืนไฟต่างๆที่ประัดับไว้ตามต้นไม้สวยงามมากครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
[17 ส.ค. 54 21:10:07
]
คิดมากกับคุณ POGGHI กรี๊ด...อยู่เหมือนกัน ^^"
_________________________________________________
บันไดที่ตกแล้วจะตายภายในสามปี Sannenzaka น่ากลัวจัง ... (ไปคราวหน้าจะได้ผลักใครบางคนที่เหม็นขี้หน้าลงไปจ้ำเบ้าท่าจะดี)
บรรยากาศของเกียวโตในฤดูใบไม้ร่วงคงทำให้คู่ของคุณ Gelgoog โรแมนติกมากมาย สวยสดชื่นไปหมดทั้งรีวิวเลยค่ะ
[17 ส.ค. 54 21:17:25
]
สวยงามมากกกกกกกกก
หลงรักใบไม้แดงจริงๆ
[17 ส.ค. 54 21:32:59
]
ช่วงที่ไปอากาศดีมากๆ เลยนะครับ โชคดีจัง :) ติดตามผลงานมานาน ถ่ายรูปได้สวยมากๆเลยครับ
ถามนิดนึงครับ ร้านเช่าชุดกิโมโน มีของผู้ชายด้วยรึเปล่าครับ ราคาเท่าไหร่อ่ะคับ พอดีว่าเข้าไปดูในเว็ปแล้วไม่เห็นมีบอก :)
[18 ส.ค. 54 15:22:25
]
ว่าจะมาเม็นต์ ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ ระบบปิดปรับปรุง ได้ไม่ได้เม็นต์
いい写真ですよ。
[18 ส.ค. 54 16:14:57
]
ใบไม้แดงสวยสุดๆ
บรรยากาศดี โรแมนติคอีกต่างหาก
ขอบคุณนะคะสำหรับรีวิวดี ๆ
[18 ส.ค. 54 17:16:29
]
ตามไปเที่ยวเกียวโตด้วยคน ขอบคุณสำหรับรีวิวและภาพสวยๆ นะครับ
จากคุณ : noiwanwannoi
[18 ส.ค. 54 18:54:39
]
คุณสามแซ่ : สะดวกช่วงไหนก็เลือกช่วงนั้นก่อนเลยครับ แต่ถ้าเป็นตัวผมเองญี่ปุ่นต้องซากุระเท่านั้นครับ
คุณสายลมแห่งความรัก : ขอบคุณมากครับ
คุณ aor-naja : ไม่ต้องเปลี่ยนใจหรอกครับ ซากุระสวยมากนะครับ
คุณ k_kazuya : ขอบคุณมากๆเลยครับ
คุณเซนต์ซาจิทาเรียส : อย่าลืมจองก่อนไปนะครับ ยิ่งฤดูท่องเที่ยวคนยิ่งเยอะมากๆ
คุณ hollaneung : ถ้าผ่านจุดเยือกแข็งมาได้ฤดูใบไม้ร่วงที่เกียวโตก็เด็กๆไปเลยครับ และยังมีบันทึกการเดินทางช่วงใบไม้ร่วงแถบ Tohoku เหลืออีกหนึ่งชุดครับ
คุณ areewan : ขอบคุณครับผม
คุณ POGGHI : ขอบคุณมากครับ คาดว่าเราอาจจะสวนกันที่ Kyoto ไปแล้วก็เป็นได้ อิอิ รออ่านญี่ปุ่นหมุนรอบตัวตอนต่อไปอยู่นะครับ
คุณนางเงือกน้อย ตบบนตบล่าง : อย่างที่คุณ aomnan บอกครับ ปลายตุลาที่ Kansai ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมใบไม้แดงเท่าไหร่ แต่ที่นั่นก็ยังมีอย่างอื่นให้ประทับใจได้ครับ
คุณ Moopenguin : ตอนนี้ใช้ EOS 550D ครับ เมื่อก่อนนี้ใช้ 30D ยิ่งนานยิ่งลดเกรดลง หุหุ
คุณ Destiny-Boy : ทั้งสองที่นี่พลาดไม่ได้เลยล่ะครับสำหรับฤดูใบไม้ร่วงที่ Kyoto
คุณลอร่า อิงกัลส์ ~* : ขอบคุณครับ ส่วนเรื่องความเชื่อที่ Sannenzaka นี่เป็นเรื่องปกติของคนญี่ปุ่นเลยครับ เค้าอยู่กับความเชื่อพวกนี้จริงๆ
คุณนางมารชุดส้ม : ขอบคุณมากครับผม
คุณ I_Jayjay : ขอบคุณครับไม่นึกว่าจะมีคนติดตามผลงานของผมด้วย ร้านเช่านี้มีชุดของผู้ชายด้วยครับแต่ผมไม่แน่ใจเรื่องราคาแต่น่าจะถูกกว่านิดหน่อย แถมดันไปสัญญากับคุณป้าเจ้าของร้านไว้ว่ากลับไปคราวหน้าจะเช่าชุดผู้ชายใส่คู่กับภรรยาด้วย อิอิ ลองหาดูหลายๆร้านก็ได้ครับ แถว Kiyomizu-dera มีเยอะ แต่ผมเลือกที่นี่เพราะไม่ต้องเดินไกลมากนัก
คุณ JinMingTian : いいえ、まだまだですよ。ขอบคุณสำหรับคำชมครับ
คุณสวยด้วยแสง-แรงด้วยสี : ใช่ครับบรรยากาศดีมากๆ ขอบคุณที่เข้ามารับชมครับ
คุณ noiwanwannoi : ตามมาด้วยกันเลยครับ ขอบคุณที่เข้ามารับชมเช่นกันครับ
[18 ส.ค. 54 19:46:38
]
อยากเรียก Trip นี้ ว่า Romantic Trip จังค่ะ
สถานที่สวย บรรยากาศอบอุ่น
ในการเดินทางอันหวานชื่น
ไม่แปลกเลยที่ภาพที่ถ่ายทอดออกมาจึงดู...
สวยงามและน่าประทับใจจังค่ะ
ขอบคุณที่นำความสวยงามทั้งสถานที่ ผู้คน และคู่รัก มาแบ่งปันนะคะ :D
[19 ส.ค. 54 09:53:55
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ...
ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากๆเลยค่ะ...
[19 ส.ค. 54 11:19:31
]
สวยมาก ๆ เลยครับ ต้องหาโอกาสไปช่วงนี้บ้าง
ขอให้มีความสุขมาก ๆ ทุก ๆ วัน ทั้งสองท่านนะครับ ^^
[19 ส.ค. 54 18:23:37
]
kyoto - momiji Love Love !!!
จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด
[29 ส.ค. 54 17:01:30
]