[Journey of Love 003] ......…..KYOTO…..อะโซบิ….........

หญิงสาวสวมชุด Kimono สีสันสดใส เดินเลาะริมรั้วของอารามและอาคารยุคเก่าไปตามถนนโบราณที่ปูด้วยหินก้อนใหญ่ รอบข้างตัวเธอรายล้อมไปด้วยนักท่องเที่ยวหลายร้อยชีวิตทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ในมือของทุกคนถืออุปรณ์อิเล็กโทรนิกส์ทันสมัยอย่างกล้องดิจิตอล เครื่องฟังเพลงแบบพกพา ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุด คงมีเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่สามารถเห็นภาพที่ขัดแย้งกันแบบนี้ได้ทุกวันจนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไป ทั้งหมดที่กล่าวมาคุณสามารถพบได้ที่นี่…..

Kyoto…..เมืองเก่าที่ยังมีชีวิต

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:10:08 ]
ความเห็นที่ 1

สวัสดีครับ เกริ่นนำมาแบบนี้ทุกคนก็คงทราบกันแล้วว่าบันทึกฉบับนี้ พวกเราจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวชมส่วนหนึ่งของ Kyoto อดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุมานับพันปี

ถึงแม้การที่ต้องมาทำงานที่ญี่ปุ่นในแต่ละครั้งจะต้องพบกับความเหงาที่ต้องห่างไกลบ้านร่วมๆเดือน แต่ในข้อเสียก็ยังมีข้อดีอยู่ นั่นก็คือมีเวลาได้มานั่งทำรูปใส่อัลบั้มของเราสองคนและเขียนบันทึกการเดินทางฉบับใหม่ๆไว้เป็นความทรงจำ รวมทั้งแบ่งปันให้กับเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วย

“โชคชะตามักเล่นตลก” เค้าว่ากันอย่างนั้น บันทึกฉบับนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อคืนวันที่ 17 พฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำงานสบายๆมาสองสามอาทิตย์อยู่ๆวันที่จะต้องเดินทางไปเยี่ยมภรรยาที่ญี่ปุ่นก็มีงานประดังเข้ามาไม่หยุด กว่าจะสะสางออกไปได้เล่นเอาเหนื่อยและเสียเวลาไปพอสมควร เมื่อแท็กซี่หักซ้ายเข้ามาจอดส่งผมที่อาคารผู้โดยสารของสุวรรณภูมิก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วก่อนที่เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิด

จัดการเอกสารและขั้นตอนความปลอดภัยเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินจ้ำมาจนถึง Gate F2 เพื่อโดยสารเที่ยวบิน NH174 ที่เพิ่งจะเปิดทำการบินได้ไม่ถึง 3 สัปดาห์สู่ท่าอากาศยาน Haneda กรุงโตเกียว

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:11:52 ]
ความเห็นที่ 2

นกเหล็กเลือดปลาดิบลงแตะพื้น ณ สนามบินปลายทางอย่างนิ่มนวล ถึงผมจะมาถึง Tokyo แต่เช้าตรู่แต่ก็ต้องรอจนค่ำกว่าจะได้พบภรรยาเนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงานปกติ ทำให้มีเวลาจัดการธุระส่วนตัวและเดินชมอาคารระหว่างประเทศของ Haneda รวมทั้งเดินเล่นในเมืองโตเกียวตลอดทั้งวันนี้ด้วย

ชั้นบนของ Haneda International Terminal ซึ่งเป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกตกแต่งในแนวญี่ปุ่นโบราณคล้ายกับที่ Nagoya Centrair เน้นย้ำให้เห็นถึงความงามและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมของชาติที่ฝังลึกอยู่ในกายของลูกพระอาทิตย์ทุกคน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:12:40 ]
ความเห็นที่ 3

เดินชมสนามบินอยู่พักใหญ่ๆก็ได้เวลาย้ายตัวเองเข้าไปในเมืองบ้าง การเดินทางจาก Haneda สู่ใจกลางกรุงโตเกียวสามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วยบริการรถไฟของ Keikyu และ Tokyo Monorail ตามที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านได้เคยลงรายละเอียดเอาไว้แล้ว

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:15:18 ]
ความเห็นที่ 4

ทีแรกทริปนี้ผมตั้งใจจะพาเธอไปเที่ยวตามหมู่บ้านในชนบทญี่ปุ่นที่ยังเป็นธรรมชาติ แต่เนื่องจากผมเคยเล่าให้ภรรยาฟังถึงความสวยงามของ Kyoto ยามใบไม้เปลี่ยนสีช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนบ่อยๆ ทำให้เธออยากเห็นด้วยตาตัวเองบ้าง สุดท้ายจุดหมายของการเดินทางในครั้งนี้จึงมาสรุปลงที่ Kyoto ครับ

ซึ่งระยะทางจาก Kanto ไปถึง Kyoto ไม่ใช่ใกล้ๆ ทำให้คุณภรรยาซึ่งไม่สามารถใช้ Japan Rail Pass ได้ต้องมีค่าใช้จ่ายพอสมควรหากจะนั่ง Shinkansen ทั้งไปและกลับ เราจึงมองหาทางเลือกใหม่ๆในการเดินทางดู ในที่สุดรถ Highway Bus ของ Willer Express ก็กลายเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดทั้งเรื่องเวลาและราคา

เมื่อแผนการเป็นแบบนี้ตัวผมเองจึงไม่ได้ซื้อ Pass ใดๆมาใช้เช่นกัน ดังนั้นการเดินเล่นในวันแรกนี้จึงทำได้เพียงในเขตเมืองใกล้ๆเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเป้าหมายแรกไม่ใช่อื่นไกล ย่านตึกระฟ้าในเขต Shinjuku ตะวันตกนั่นเอง ที่เลือกมาที่นี่ก่อนก็เพราะ Bus Terminal ของ Willer ตั้งอยู่ใต้ตึก Sumitomo ในเขต Shinjuku ตะวันตก ก็เลยมาดูลู่ทางไว้ก่อนเย็นนี้จะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:17:32 ]
ความเห็นที่ 5

เมื่อค้นหาเป้าหมายหลักเจอพร้อมกับระบุพิกัดไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกตามล่าเป้าหมายรองก็คือการขึ้นไปชมวิวบนชั้น 45 บนตึกแฝดซึ่งเป็นที่ทำการของเทศบาลกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Office) บนตึกแฝดนี้เราสามารถชมวิวได้ทั้งบนตึกฝั่งเหนือและฝั่งใต้แล้วแต่ว่าใครจะชอบทิวทัศน์แบบไหน ซึ่งทั้งสองตึกไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:18:28 ]
ความเห็นที่ 6

ลงจากจุดชมวิวแล้วออกเดินทางต่อไปยัง Harajuku แหล่งช็อปปิ้งในฝันของใครหลายๆคน วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีคนเลยไม่เยอะมาก เดินดูข้าวของได้สบายๆ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:19:52 ]
ความเห็นที่ 7

ช่วงนั้นใบไม้กลางกรุงโตเกียวก็เริ่มเปลี่ยนสีเต็มที่แล้วเช่นกัน อีกไม่กี่วันจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แถวนี้คงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ออกมาชมใบไม้เหลืองกันอย่างแน่นอน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:20:40 ]
ความเห็นที่ 8

ออกจากแหล่งวัยรุ่นอย่าง Harajuku มาสู่ถิ่นเก่าอย่าง Shibuya กันบ้าง ที่บอกว่าถิ่นเก่าเพราะเกือบๆ 10 ปีก่อนเคยมาทำงานที่ Nakameguro อยู่ 3 เดือน ตกเย็นเลิกงานเป็นต้องแจ้นไปเดินเล่นที่ Shibuya ทุกวัน ภาพแบบนี้ที่แยกอันแสนวุ่นวายก็ไม่เคยร้างผู้คนเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:21:39 ]
ความเห็นที่ 9

ตกเย็นภรรยาโทรมาบอกว่าออกจากห้องพักที่ Utsunomiya แล้วแต่ลืมของใช้จำเป็นบางอย่าง ผมเลยต้องแวะนอกโปรแกรมที่ Bic Camera หน้าสถานี Yurakucho อีกครั้งเพื่อซื้อของ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:22:37 ]
ความเห็นที่ 10

ทุ่มกว่าๆน้องก้อยก็มาถึงสถานี Ueno อาหารเย็นวันนั้นเรากินอะไรกันผมก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าได้เจอกันก็อิ่มใจแล้วครับ   จากทริปก่อนห่างกันแค่เดือนเดือนเดียวแต่ทำไมมันเหมือนนานมากก็ไม่รู้

เหลือบตามองดูนาฬิกาพบว่ายังมีเวลาเหลืออีกมากกว่ารถจะออก เราเลยไปกิน Krispy Kreme กันเห็นตอนนั้นที่ไทยกำลังฮิตเหลือเกิน ไปยืนต่อคิวกันหลายชั่วโมง แต่ที่นี่ไม่มีคิวเลยครับเดินเข้าไปสั่งแล้วก็ได้กินทันที อร่อย+อินเทรนด์แบบไม่ต้องเหนื่อย

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:23:43 ]
ความเห็นที่ 11

ก่อนสี่ทุ่มเล็กน้อยเราก็มาเตรียมพร้อมอยู่ที่ Bus Terminal ใต้ถุนตึก Sumitomo โดยเค้าจะจัดผู้โดยสารขึ้นรถแบ่งเป็น Gate ต่างๆคล้ายๆกับนครชัยแอร์ เมื่อถึงเวลา Boarding (เรียกซะหรู) ตามข้อมูลในจอภาพ ผู้โดยสารใน Gate นั้นๆก็จะเดินทางไกลออกไปขึ้นรถตามจุดที่กำหนด

ผมไม่ได้ถ่ายรูปรถมานะครับเนื่องจากไม่มีอะไรน่าประทับใจซักเท่าไหร่ เบาะแคบ เพดานเตี้ย แต่เค้ามีดีที่ราคาครับ ค่ารถเที่ยวเดียวจาก Shinjuku ถึง Kyoto เพียง 3,000 เยนเท่านั้นเอง จริงๆแล้วราคาตั๋วไม่ได้ตายตัวอยู่ที่ราคานี้ จะขึ้นลงแตกต่างกันไปตามชนิดของรถ ซึ่งผมเลือกแบบที่ที่นั่งแคบที่สุดรวมทั้งไม่มีห้องน้ำด้วย ทำให้ได้ราคาที่ถูกมากๆ ถ้าใครอยากนั่งสบายๆลองดูรถ Type อื่นๆหรือยี่ห้ออื่นก็ได้เพราะเส้นทางนี้มีวิ่งกันอยู่หลายยี่ห้อ เมื่อปี 2002 เคยนั่ง Highway Bus ของ JR Bus Kanto จาก Shinjuku ไป Kyoto เช่นกัน ราคา 8 พันกว่าเยน นั่งสบายกว่านี้มากครับ แต่ครั้งนี้พวกเราขอแบบประหยัดอย่างนี้แหละ

http://willerexpress.com/bus/pc/3/top/

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:25:23 ]
ความเห็นที่ 12

มาเที่ยวและชมภาพสวยๆ ด้วยคนครับ

จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) [16 ส.ค. 54 21:25:44 ]
ความเห็นที่ 13

รถ Willer Express พาพวกเรามาถึงหน้าสถานี Kyoto ตั้งแต่ยังไม่ตี 5 ดี พอลงรถเราสองคนก็รีบมุดลงไปชั้นใต้ดินทันทีเนื่องจากอากาศหนาวของเขต Kinki รอต้อนรับอยู่แล้ว พร้อมทั้งใช้เวลานี้ทำธุระส่วนตัวและเก็บของเข้า Locker ด้วย

เราจัดการข้าวปั้นคนละสองก้อนที่ซื้อเตรียมไว้จากจุดพักรถแล้ววางแผนการเดินทางทันที เช้าๆแบบนี้ใน Kyoto มีที่เที่ยวอยู่ไม่กี่ที่หรอกครับ ที่น่าสนใจคงจะเป็นวัดคู่ Higashi – Nishi Hongan-ji หรือไม่ก็ FushimiInari-taisha อันโด่งดัง ซึ่งครั้งนี้ก็เลือกไม่ยากเนื่องจากภรรยาของผมยังไม่เคยไปศาลเจ้าแห่งเสา Torii หมื่นต้นเลย เราจึงจัดแจงซื้อตั๋ววันของ City Bus ราคา 500 เยนแล้วมุ่งหน้าไป FushimiInari-taisha ทันที

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:26:18 ]
ความเห็นที่ 14

สวัสดีครับคุณตู่ เชิญมาเที่ยวทริปย้อนหลังฤดูใบไม้ร่วงด้วยกันเลยครับ

---------------------------------------------------------------------------

ลงรถเมล์ที่ป้าย Inaritaisha-mae พอพ้นจากทางเข้าเราก็เห็นเสา Torii สีแดงขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเคียงคู่กับต้นไม้ที่เปลี่ยนสีของใบเป็นเหลืองทองตัดกับท้องฟ้าสีครามรอต้อนรับเราอยู่ เป็นนิมิตรหมายที่ดีของการท่องเที่ยว Kyoto ในครั้งนี้

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:28:33 ]
ความเห็นที่ 15

เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามครับ เข้าศาลเจ้าญี่ปุ่นเราก็ต้องขอพรกันตามธรรมเนียม โดยคุณภรรยาทำหน้าที่สั่นกระดิ่งปลุกเทพเจ้ามารับคำอธิษฐานของพวกเราแต่เช้าตรู่ (ท่านเทพจะโกรธมั้ยเนี่ย)

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:29:09 ]
ความเห็นที่ 16

อย่างที่หลายๆท่านทราบกันดีอยู่แล้วครับว่าศาลเจ้าแห่งนี้โดดเด่นด้วย Torii จำนวนมหาศาล ตั้งแต่ขนาดเล็กจิ๋วไปจนถึงขนาดจัมโบ้ซุปเปอร์ไซส์ สร้างคลุมทางเดินภายในศาลยาวร่วม 4 กิโลเมตรจนกลายเป็นอุโมงค์สีแดงขนาดยักษ์

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:30:33 ]
ความเห็นที่ 17

Torii เหล่านี้สร้างขึ้นโดยบริษัทหรือกลุ่มธุรกิจต่างๆเพื่ออำนวยพรให้การค้าของตนเองเจริญรุ่งเรือง เพราะเทพ Inari นอกจากจะดูแลเรื่องพืชพรรณธัญญาหารแล้ว ยังรับจ็อบดูแลเรื่องการค้าขายอีกด้วย (รวมทั้งยังมีอีกหลายๆหน้าที่ครับ) สนนราคาของ Torii แต่ละต้นก็แตกต่างกันไปตามขนาดตั้งแต่ไม่กี่แสนจนถึงหลายล้านเยนก็มี ซึ่งที่เสาก็จะมีการสลักชื่อผู้บริจาคเงินสร้างเอาไว้

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:31:28 ]
ความเห็นที่ 18

ที่เห็นมากมายรองลงไปจาก Torii ก็เห็นจะเป็นรูปสลักสุนัขจิ้งจอก (Kitsune) เพราะเชื่อกันว่าผู้นำสารของเทพ Inari เป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาวปลอด หรือบ้างก็เชื่อว่าจิ้งจอกขาวเป็นพาหนะให้เทพ Inari เลยก็มี โดยรูปสลักสุนัขจิ้งจอกของเทพ Inari มักจะคาบอัญมณีหรือกุญแจหรือรวงข้าวในปากด้วย

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:32:25 ]
ความเห็นที่ 19

รูปสวยโฮก   ขอ save เก็บเอาไว้ตอบคำถามเพื่อนๆ ใน บอร์ดนะคะ

จากคุณ : aomnan [16 ส.ค. 54 21:32:43 ]
ความเห็นที่ 20

หากทุกท่านมาเที่ยว Kyoto ตั้งแต่เช้ามืด แนะนำให้มาเที่ยว FushimiInari-taisha เป็นที่แรกครับ นอกจากที่นี่จะเปิด 24 ชั่วโมงเหมือนเซเว่นแล้ว ช่วงเช้าๆแบบนี้ยังปลอดจากกองทัพนักท่องเที่ยวที่ยังไม่แห่กันมาอีกด้วย สามารถหามุมถ่ายภาพได้ตามใจเรา แต่ถ้าหากใครต้องการชมความงามแบบน่าพิศวงของศาลเจ้าแห่งนี้แล้วล่ะก็เคยค้นข้อมูลมาเค้าแนะนำให้มาช่วงเย็นๆก่อนพระอาทิตย์ตกครับ อันหลังนี่ผมเองก็ยังไม่เคยถ้ามีใครเคยมาเที่ยว FushimiInari-taisha ในช่วงเย็นรบกวนช่วยเล่าประสบการณ์ให้ทุกๆคนฟังด้วยนะครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:33:05 ]
ความเห็นที่ 21

สวัสดีครับคุณ aomnan เชิญเลยครับไม่มีปัญหา

-------------------------------------------------------------------------

เที่ยวชมศาลเจ้ายอดนิยมแห่งนี้จนล่วงเข้าช่วงสายๆก็ได้เวลาอำลาไปเที่ยวชมสถานที่อื่นๆบ้างเสียที ไม่ว่าคุณจะเคยเห็น FushimiInari-taisha จากในหนังหรือจากสื่ออื่นๆ ถ้ามีโอกาสได้มา Kyoto อย่าพลาดชมเด็ดขาดเพราะนอกจากจะสวยแล้วที่สำคัญที่สุด “ฟรี” ครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:36:44 ]
ความเห็นที่ 22

จาก FushimiInari-taisha เราโดยสารรถประจำทางต่อมาถึงย่านท่องเที่ยวสำคัญของเมืองหลวงเก่าญี่ปุ่น เพราะเรามีนัดกับร้าน Sensho Kitamura ซึ่งเป็นร้านเช่า Kimono แถวๆหน้าวัด Kodai-ji ครับ ครึ่งวันนับจากนี้คุณภรรยาจะได้แปลงโฉมเป็นสาวน้อยในเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่น เดินชมเมืองให้เข้ากับบรรยากาศกันแบบสุดๆ

พอก้าวเท้าเข้าไปคุณป้าเจ้าร้านทั้ง 3 ก็ออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี โดยมีคุณป้าหมายเลข 1 คอยให้คำแนะนำในการเลือกชุดพร้อมกับทำผม ส่วนคุณป้าหมายเลข 2 และ 3 คอยแต่งตัวให้ลูกค้า เราต้องรออยู่นานพอสมควรเนื่องจากก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีลูกค้าชาวจีนเข้าร้านมาหลายคนและกำลังแต่งองค์ทรงเครื่องกันอยู่ ดังนั้นใครที่ตั้งใจจะเช่าชุดแบบนี้แนะนำว่าให้เช่าและนัดเวลาล่วงหน้าแต่เนิ่นๆนะครับ จะได้เลือกเปลี่ยนชุดได้แต่เช้าไม่ต้องรอใคร ในกรณีของพวกเราไม่สามารถนัดได้เร็วกว่านี้แล้วเนื่องจากคิวเต็มหมด

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:37:50 ]
ความเห็นที่ 23

เสร็จเรียบร้อยพร้อมออกเดินทางแล้วคร้าบบบ……….

ค่าเสียหายเท่ากับ 5,250 เยน พร้อมทำผมให้บวกกับเครื่องประดับและกระเป๋าถือด้วย หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ต้องมาเลือกรองเท้าและกระเป๋าที่เข้าชุดกัน ใครสนใจรายละเอียดของร้านสามารถดูได้จากลิงค์ด้านล่างนะครับ

http://www.sensho-kitamura.jp/info/english.html

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:38:57 ]
ความเห็นที่ 24

แวะเติมพลังด้วยอาหารกลางวันแล้วก็ได้เวลาเดินเล่นกันเสียที โดยเส้นทางวันนี้เราจะไปที่ Yasaka-jinja กันก่อน ต่อด้วย Maruyama-koen ย้อนกลับมาที่ Kodai-ji เดินผ่านย่านเก่าที่ Higashiyama ไปจบที่ Kiyomizu-dera ก่อนจะกลับมาคืนชุดให้ทัน 19:00 น.ตามกำหนด

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:39:30 ]
ความเห็นที่ 25

Kyoto ในยามนี้ไม่ต้องเดินไกลครับ เอาแค่ด้านหลังของร้านอาหารที่เดินออกมาก็สวยแล้ว

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:40:24 ]
ความเห็นที่ 26

ที่ Maruyama-koen ที่มีชื่อมากๆในเรื่องการชม Sakura วันนี้ไม่มีคนมาเยือนมากนักคงเพราะเรื่องใบไม้แดงคงสวยงามสู้สวนตามวัดต่างๆไม่ได้

ในภาพเป็นรูปปั้นของท่าน Sakamoto Ryoma (คนยืน) และ Nakaoka Shintaro (คนนั่ง) ภายใน Maruyama-koen ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงซามูไรหัวก้าวหน้าทั้งสองคนที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณที่เมือง Kyoto นี่เองครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:42:22 ]
ความเห็นที่ 27

เรามาแวะกินซอฟต์ครีมกันที่ Kodai-ji Sho Museum กันก่อนครับเพื่อเติมความสดชื่นและดูของใช้กระจุกกระจิกไปในตัว ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากทีเดียวมีนักท่องเที่ยวเวียนกันเข้ามาไม่ขาดสาย

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:43:10 ]
ความเห็นที่ 28

วัด Kodai-ji มีชื่อเสียงมากเรื่องไลท์อัพในฤดูใบไม้ร่วง แต่พวกเราตัดสินใจมาชมกันในเวลากลางวัน เพราะต้องคืนชุดที่เช่ามาก่อน 1 ทุ่ม คิดว่าเวลาคงไม่พอสำหรับการเที่ยวชมในช่วงกลางคืน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:43:59 ]
ความเห็นที่ 29

ที่วัดนี้ต้องเสียค่าเข้าชม 600 เยน ซึ่งสามารถเข้าชมได้ทั้งวัด Kodai-ji และ Kodai-ji Sho Museum ภายในมีทั้งอาคารและสวนที่ใบไม้กำลังขับสีออกมาอย่างสวยงาม

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:44:39 ]
ความเห็นที่ 30

สระน้ำนี้เป็นที่นิยมมากถ้าใครมาชมไลท์อัพในช่วงกลางคืน จะพบนักท่องเที่ยวนั่งกันอยู่ริมสระน้ำเต็มไปหมด เพื่อชมไฟที่ประดับไว้และใบไม้รอบๆสระ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:45:16 ]
ความเห็นที่ 31

ก่อนถึงทางออกมีซุ้มเล็กๆไว้ให้นักท่องเที่ยวนั่งดื่มน้ำชาพร้อมกับชมความงามของสวนภายในวัด

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:46:00 ]
ความเห็นที่ 32

ตามเที่ยวด้วยครับ น่าไปมากกกกก

จากคุณ : เด็กชายต้นกล้า [16 ส.ค. 54 21:46:41 ]
ความเห็นที่ 33

ออกจากวัด Kodai-ji พวกเราเดินไปตามเส้นทางโบราณย่าน Higashiyama Ninenzaka และ Sannenzaka ถนนคนเดินยอดนิยมที่ขนาบข้างไปด้วยร้านรวงต่างๆมากมาย มุ่งหน้าไปวัด Kiyomizu-dera เพื่อให้ทันชมแสงสุดท้ายของวันกันที่นั่นครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:46:49 ]
ความเห็นที่ 34

สวัสดีครับคุณเด็กชายต้นกล้า ตามมาเที่ยว Kyoto ด้วยกันเลยครับ

----------------------------------------------------------------------------

เดินกันพอเหนื่อยก็ถึงทางเข้าวัด ชำระค่าธรรมเนียมแล้วเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าที่วัดแห่งนี้ไม่เคยร้างราผู้คนจริงๆ ยิ่งเป็นเวลาอาทิตย์ยอแสงกลางฤดูใบไม้ร่วงอย่างนี้นักท่องเที่ยวยิ่งมากเพิ่มขึ้นไปเป็นทวีคูณ

พวกเราใช้เวลาเดินชมความงามซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติอันงดงามกับสิ่งก่อสร้างจากยุคเฮอันอย่างมีความสุข ผมแทบจะไม่ได้ยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพอีกเลยนอกจากรูปจากมุมยอดนิยมใบนี้เท่านั้น

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:49:24 ]
ความเห็นที่ 35

เดินชม Kiyomizu-dera จนฟ้ามืด ก็ได้เวลาที่ต้องพาภรรยากลับไปคืนชุด Kimono ที่เช่ามา พวกเราใช้เส้นทางเดิมเหมือนขามา แต่ขากลับนี้มีแวะดูสินค้าต่างๆตามรายทางบ้าง ขอเตือนคนใจไม่แข็งถ้ามาเที่ยวญี่ปุ่นรับรองหมดตัวกันง่ายๆเลยครับ เพราะอะไรๆก็ดูสวยงาม บรรจุหีบห่ออย่างดี น่ารักน่าซื้อไปเสียหมด

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:50:41 ]
ความเห็นที่ 36

แม้จะค่ำมืดแล้วแต่ถนนสายนี้ไม่เคยเงียบเหงา มีฝูงชนเดินเป็นเพื่อนเราไปตลอดทางจนกระทั่งกลับถึงร้านบริเวณด้านหน้าวัด Kodai-ji

ที่บริเวณขั้นบันไดที่ Sannenzaka นี้ต้องเดินระวังๆให้ดี เพราะมีเรื่องเล่าว่าหากใครพลัดตกบันไดที่ Sannenzaka จะถึงแก่ความตายภายใน 3 ปีครับ !!!

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:52:05 ]
ความเห็นที่ 37

ภาพสวยมากค่ะ
ขอบคุณนะคะที่รีวิวที่สวยๆ ในญี่ปุ่นให้ได้ดูเสมอๆ

smile

จากคุณ : ColaGirl [16 ส.ค. 54 21:52:44 ]
ความเห็นที่ 38

เมื่อกลับถึงร้านคุณป้าเตรียมน้ำดื่มแก้กระหายไว้ให้ แล้วจัดแจงพาออกไปด้านหน้าร้านเพื่อให้ผมถ่ายรูปภรรยาในชุด Kimono ไว้เป็นที่ระลึกอีกครั้ง พอถ่ายรูปเสร็จคุณป้าก็เรียกผมให้ตามเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วย เพื่อถ่ายภาพตอนที่จะหมุนตัวถอดผ้าคาดเอวออก ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมากทำให้ถ่ายได้ไม่ดีเท่าไหร่มานึกได้ทีหลังว่าผมถือ 550D อยู่นี่นา ตัวนี้มันถ่าย VDO แบบ HD ได้ด้วยไม่เหมือนปู่ 30D ตัวเก่า แต่มันก็สายเกินไปถ่ายไม่ทันแล้วครับ ดังนั้นถ้าใครจะไปเช่าชุดเหมือนพวกเราให้เตรียมตัวตรงนี้ไว้ด้วยนะ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:52:55 ]
ความเห็นที่ 39

สวัสดีครับคุณ ColaGirl ขอบคุณที่เข้ามารับชมเช่นกันครับ ไปกันต่อเลยนะครับ

----------------------------------------------------------------------------

หลังจากคืนชุดเสร็จเรียบร้อยเราสองคนก็เดินทางไปยังที่พักทันที ซึ่งคราวนี้ผมจองโรงแรม Kansai Business Hotel แถวๆ Umeda ที่ Osaka ไว้ ค่าห้องก็ 3,980 เยนต่อคืน ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีภาพโรงแรมแต่อย่างใด ซึ่งสภาพห้องก็ตามราคานั่นแหละครับ

วันเสาร์เราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่เช่นเดิม เพราะวันนี้มีโปรแกรมออกไปชมใบไม้เปลี่ยนสีถึง 3 แห่ง ฟังดูเหมือนไม่เยอะแต่พวกเราเป็นคนเที่ยวนาน สถานที่หนึ่งๆใช้เวลาเดินชมหลายชั่วโมง ถ้าไม่รีบคงดูได้ไม่หมดแน่ๆ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:56:42 ]
ความเห็นที่ 40

เดินทางมาจาก Osaka แล้วแวะซื้อตั๋ววันแล้วใช้บริการรถ Kyoto City Bus เช่นเดิม แต่วันนี้เราประเดิมด้วยการลงที่ป้าย Tofuku-ji ใช่แล้วครับวันนี้เราจะเริ่มด้วยการเที่ยวชมวัด Tofuku-ji หนึ่งในสถานที่ที่ใบไม้เปลี่ยนสีมีชื่อเสียงที่สุดของ Kyoto กัน

เราเดินตามฝูงชนเข้าไปในซอยผ่านโรงเรียนอนุบาล Enichi ที่ญี่ปุ่นนี่มักจะมีอะไรกุ๊กกิ๊กน่ารักๆมาให้ดูเล่นอยู่เสมอสมกับเป็นจ้าวแห่งโลกการ์ตูนจริงๆ โดยเฉพาะอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเด็กด้วยแล้วตัวการ์ตูนเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลย

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:58:05 ]
ความเห็นที่ 41

ซื้อตั๋วเข้าชมราคา 400 เยนแล้วเดินเข้ามาด้านในก็ถึงกับผงะกับคลื่นมนุษย์ที่รวมตัวกันอยู่ในวัดแห่งนี้ ซึ่งเกียวโตในเดือนพฤศจิกายนคนก็เยอะสาหัสอยู่แล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์คนยิ่งแน่นมากขึ้นไปอีก

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:58:39 ]
ความเห็นที่ 42

เดินตามทางไปเรื่อยๆต้นไม้บริเวณสวนภายในวัดเปลี่ยนสีใบจากเขียวเป็นแดงหรือเหลืองเข้มเพื่อเตรียมผลัดใบให้เหลือแต่กิ่งสำหรับฤดูหนาวอันยาวนาน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 21:59:23 ]
ความเห็นที่ 43

ปกติแล้ว Tofuku-ji อาจไม่ใช่ปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วๆไปในเวลาอื่นๆ แต่สำหรับฤดูใบไม้ร่วงไม่ควรพลาดวัดซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสถานี Kyoto แห่งนี้ด้วยประการทั้งปวง

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:00:11 ]
ความเห็นที่ 44

แน่นอนครับในเมื่อภายในเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว คุณคงจะหามุมสงบๆเป็นส่วนตัวสำหรับถ่ายภาพไม่ค่อยได้ ทางที่ดีที่สุดคือเดินดูด้วยสายตาของเราเองบ้าง อย่ามองผ่านเลนส์แต่เพียงอย่างเดียวเลย

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:00:47 ]
ความเห็นที่ 45

Tsutenkyo คือจุดที่มีนักท่องเที่ยวไปรวมตัวกันมากที่สุดเพราะจากสะพานนี้สามารถมองเห็นยอดไม้ของต้น Momiji ศีต่างๆภายในบริเวณวัดได้อย่างสวยงามและชัดเจน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:01:21 ]
ความเห็นที่ 46

แต่ถึงแม้คนจะเยอะแต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่ได้แออัดอะไรมากนะครับ แถมยังสามารถวนกลับไปดูได้อีกด้วย คงเป็นเพราะว่าส่วนใหญ่เค้าดูกันแล้วก็เดินออกไปไม่ได้ยืนแช่กันอยู่นาน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คอยจัดการเรื่องคนอยู่ด้วย

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:02:01 ]
ความเห็นที่ 47

Tofuku-ji เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยเราไม่น้อยเลย ระหว่างที่เดินอยู่ภายในวัดก็จะได้ยินภาษาไทยลอยมาตามลมอยู่เป็นระยะๆ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:02:39 ]
ความเห็นที่ 48

ภาพสวย เเสงคมชัดมากครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะครับ

จากคุณ : Traveller Among Mountains [16 ส.ค. 54 22:03:06 ]
ความเห็นที่ 49

มาเกียวโตคราวนี้ได้เห็นใบไม้ที่สมบูรณ์มากจริงๆ ใบยังมีสีสดใสและไม่มีจุดด่างดำเหมือนที่เคยมาดูเมื่อหลายปีก่อน ครั้งนั้นผมคงมาช่วงปลายมากจนเกินไป

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:03:11 ]
ความเห็นที่ 50

สวัสดีครับคุณ Traveller Among Mountains ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ตามมาเที่ยวด้วยกันต่อเลยครับ

---------------------------------------------------------------------------

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเราสามารถเลือกมาเที่ยวชมได้หลายช่วงเวลา บางคนชอบแบบใบกำลังแดงหรือเหลืองสดเต็มต้น บางคนชอบให้มีใบหลุดร่วงลงมาด้วยจะได้มีบรรยากาศของความเหงาเพิ่มเติมขึ้นมา

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:04:55 ]
ความเห็นที่ 51

สำหรับผมแบบไหนก็ได้ครับ ขอให้มีเธออยู่ข้างๆโลกนี้สวยงามเสมอ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:05:38 ]
ความเห็นที่ 52

จาก Tofuku-ji เราเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไป Kyoto ในยามนี้คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว บ่อยครั้งการจราจรที่ติดขัดและความหนาแน่นของฝูงชนทำให้เราไม่สามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้ได้ อย่างครั้งนี้เราไม่สามารถรอต่อคิวยาวๆเพื่อขึ้นรถเมล์ทอดเดียวไปวัด Nanzen-ji ได้ เราจึงใช้วิธีนั่งรถเมล์ที่ว่างๆไปลงแถวๆศาลเจ้า Heian-jingu แล้วเดินต่อไปถึง Nanzen-ji แทน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:06:13 ]
ความเห็นที่ 53

มาถึง Nanzen-ji ก็บ่ายแก่ๆแล้วเข้าไปชมข้างในกันเลยดีกว่าครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:06:44 ]
ความเห็นที่ 54

ภายในสวนของวัด Nanzenji ก็คล้ายๆกับวัดอื่นๆคือมีต้น Momiji ที่กำลังขับสีสันปลูกอยู่ทั่ว ซึ่งที่นี่จะมีทั้งพันธุ์สีเหลืองและสีแดงผสมผสานกันไป

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:07:15 ]
ความเห็นที่ 55

ประตู Sanmon ด้านหน้าวัด Nanzen-ji ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปด้านบนเพื่อชมทิวทัศน์ได้ด้วย

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:07:43 ]
ความเห็นที่ 56

และที่ทำให้ Nanzen-ji โดดเด่นเหนือใครก็คงเป็น Aqueduct ท่อส่งน้ำที่สร้างขึ้นในสมัย Meiji เพื่อลำเลียงน้ำและอาหารจากทะเลสาบ Biwa-ko ผ่านไปยัง Kyoto และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันยังสามารถเห็นซากของ Aqueduct ที่สมบูรณ์ได้ภายในบริเวณวัด Nanzen-ji

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:08:15 ]
ความเห็นที่ 57

กำแพงวัดตัดกับใบไม้เหลืองๆ วิวง่ายๆแต่ก็สวยได้เช่นกัน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:08:46 ]
ความเห็นที่ 58

คุณภรรยาทำงานที่ญ๊ปุ่น
เเล้วจขกท อยู่ไทยใช่ไหมคะ ? (เท่าที่อ่าน เเล้วจับใจความได้)

คล้ายๆ ชีวิตเราเมื่อ ปีก่อนเลย...   เเต่ .. มันก็มีข้อดีของความห่างไกลนะ

ทำให้เรารู้จัก  คำว่าเวลา .. เเละคุณค่าของความคิดถึง

จากคุณ : aomnan [16 ส.ค. 54 22:09:30 ]
ความเห็นที่ 59

Akibare (อะขิบะเระ) คือคำเรียกวันที่อากาศดีในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาในอุดมคติของการท่องเที่ยวและถ่ายภาพเลยทีเดียว เพราะท้องฟ้าสวยใส อากาศเย็นสบาย บรรยากาศโดยรอบก็เต็มไปด้วยสีสัน

วันนี้ก็เรียกว่าเป็นโชคดีของเราเช่นกันที่ได้มาเจอ Akibare ในระหว่างการเดินทางเช่นนี้พอดี

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:10:27 ]
ความเห็นที่ 60

รูปสวยมากครับ ทำให้อยากไปเห็นของจริงเลยครับ

จากคุณ : mpitt09 (mpitt09) [16 ส.ค. 54 22:13:31 ]
ความเห็นที่ 61

คุณ aomnan ณ เวลาที่ไปเที่ยวด้วยกันในกระทู้นี้ใช่ครับ แต่ปัจจุบันนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ภรรยากลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยแล้วครับ

สำหรับเราสองคนนี่เป้นการแยกกันครั้งที่ 2 แล้วครับ ช่วงปี 2004-2007 ผมไปอยู่ที่ญี่ปุ่นมา 3 ปี ครั้งนี้เป็นคิวของเธอบ้างแต่ไม่เหมือนเดิมตรงที่เราแต่งงานกันแล้ว ตอนนี้ที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันจะเรียกว่าโชคดีก็คงได้ครับ :-)

----------------------------------------------------------------------------

อำลาวัด Nanzen-ji กันด้วยเจ้านกน้อยในภาพนี้ครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:15:11 ]
ความเห็นที่ 62

สวัสดีครับคุณ mpitt09 ขอบคุณมากครับ ช่วงนี้ก็ใกล้จะได้เวลาฤดูใบไม้ร่วงเวียนกลับมาอีกรอบแล้ว อย่ารอช้าครับ

----------------------------------------------------------------------------

จาก Nanzen-ji เราเดินต่อมาอีกนิดนึงก็ถึง Eikan-do ในเวลาที่เค้ากำลังปิดประตูหมดเวลาเข้าชมสำหรับรอบกลางวันและเตรียมเปิดไลท์อัพต้อนรับนักท่องเที่ยวในเวลากลางคืนพอดี ระหว่างที่รอต่อคิวผมก็ขอนำภาพของ Eikan-do ในช่วงกลางวันที่ถ่ายไว้เมื่อปี 2005 มาให้ชมกันซัก 3-4 ภาพก็แล้วกัน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:17:24 ]
ความเห็นที่ 63

Eikan-do หรือ Temple of the Maple Leaves แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องมาชมในฤดูใบไม้ร่วงถึงจะเหมาะ โดยในฤดูนี้จะเก็บค่าเข้าสถานที่ในช่วงกลางวัน 1,000 เยน ส่วนฤดูอื่นๆ 600 เยน และพิเศษสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีจะมีไลท์อัพให้ชมกันด้วยซึ่งต้องเสียค่าเข้าชมในช่วงกลางคืนต่างหากอีก 600 เยน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:18:19 ]
ความเห็นที่ 64

โดย Eikan-do หรือ Zenrin-ji สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 จนกระทั่งศตวรรษที่ 11 เจ้าอาวาสในยุคนั้นนามว่าท่าน Eikan ได้สร้างพระพุทธรูปองค์หนึ่งขึ้นโดยมีตำนานว่าเดิมพระพุธรูปนั้นหันหน้าตรงธรรมดา จนวันหนึ่งท่าน Eikan เดินผ่านพระพุทธรูปองค์นั้นก็หันหน้ามองดูและพูดกับท่าน Eikan ซึ่งทำให้วัด Zenrin-ji กลายเป็นที่กล่าวขวัญและนิยมในยุคนั้นจนมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Eikan-do นั่นเอง

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:19:35 ]
ความเห็นที่ 65

ปัจจุบัน Eikan-do มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เรียกว่าเป็นจุดหมายที่ห้ามพลาดของคนที่มา Kyoto ในฤดูนี้เลยทีเดียวโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤศจิกายน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:20:06 ]
ความเห็นที่ 66

เราสองคนต่อคิวอยู่พักใหญ่ก็ได้เวลาเปิดให้เข้าชมในช่วงกลางคืน ตามมาเลยครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:20:29 ]
ความเห็นที่ 67

Eikan-do ในเวลาพลบค่ำจะประดับประดาไปด้วยไฟตามพุ่มไม้ต่างๆเพื่อเน้นสีสันที่สวยงามยามฤดูใบไม้ร่วง

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:20:57 ]
ความเห็นที่ 68

เส้นทางเดินชมภายในวัดไม่ได้ยาวมากนักและก็ไม่ได้สั้นจนน่าเสียดายเงิน เรียกว่าคุ้มค่าต่อการเข้าชมและไม่เหนื่อยจนเกินไป

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:21:26 ]
ความเห็นที่ 69

สระ Hojo ก็เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบการชมภาพสะท้อนของแสงสีต่างๆในบึงน้ำกัน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:21:49 ]
ความเห็นที่ 70

การเดินชมไลท์อัพในฤดูใบไม้ร่วงมาพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็นหลังพระอาทิตย์ตก ดังนั้นจึงควรจะเตรียมตัวแต่งกายให้เหมาะสมเพื่อรับมือกับสภาพอากาศให้ได้ด้วยนะครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:22:19 ]
ความเห็นที่ 71

เดินชมความงามของ Eikan-do ได้สักพักก็ถึงเวลากลับไปพักผ่อนที่โรงแรม ซึ่งการจราจรในวันนี้ติดขัดมหาโหดมากๆ พอรถเมล์เลี้ยวเข้ามาแถว Sanjo เท่านั้นก็ติดหนึบไม่ขยับไปไหนร่วมๆ 20 นาที จนกระทั่งมีพนักงานขึ้นมาบอกว่าวันนี้รถติดอย่างหนักจากจุดดังกล่าวไปจนถึงสถานี Kyoto คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 180 นาที!!!! แต่ผู้โดยสารท่านไหนที่มีตั๋ววันของ City Bus สามารถไปรับบัตรดดยสารรถไฟใต้ดินได้ฟรีที่สถานี Higashiyama ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เราสองคนไม่รอช้าโดดผึงลงจากรถแล้วเปลี่ยนไปใช้บริการรถใต้ดินทันที

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:22:47 ]
ความเห็นที่ 72

แวะทานข้าวเย็นที่สถานีก่อนกลับโรงแรม ทริปนี้มีแต่อาหารเส้นแฮะ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:23:09 ]
ความเห็นที่ 73

ตัดมาเช้าวันอาทิตย์วันนี้เราเดินทางมายังสถานี Kyoto อีกครั้งพร้อมฝากกระเป๋าเดินทางไว้ใน Locker เพราะวันนี้เราจะเดินทางไปเมือง Nara กัน เพราะมีนัดกับ Matsui-sensei อาจารย์ที่เคยสอนภาษาญี่ปุ่นให้ภรรยาก่อนมาประจำการที่ญี่ปุ่นครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:23:43 ]
ความเห็นที่ 74

เราเดินทางสู่บ้านเกิดของอาจารย์ด้วยรถไฟสาย Kintetsu Nara ซึ่งผมชอบมากเพราะตัวสถานีอยู่ใกล้ Todai-ji และ Nara-koen เพียงนิดเดียว

อาจารย์มารอต้อนรับเราที่สถานีอยู่แล้วพร้อมกับพาไปเดินชมเมืองทางด้าน Nara-koen

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:24:20 ]
ความเห็นที่ 75

จริงๆแล้วเราสองคนเคยมาเที่ยว Nara ด้วยกันแล้วครั้งนึงและสถานที่ที่อาจารย์จะพาไปเราก็ไปมาหมดแล้ว แต่ครั้งนี้เราก็ยินดีที่จะไปอีกเพราะบ้านใคร ใครก็รักและภูมิใจอยากเล่าและนำเสนอให้คนที่เรารู้จักฟัง

ท่านอาจารย์ประเดิมพาเราเดินทางไกลไปยังศาลเจ้า Meotodaikoku-sha  ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการขอพรในเรื่องความรัก (เนื่องจากชื่อศาลเจ้าเกี่ยวข้องกับคำว่าสามี-ภรรยา) เพื่อให้เราสองคนขอพรให้มีชีวิตคู่ที่ดีและมีความสุขกันตลอดไป โดย Meotodaikoku-sha นี้เป็นศาลเจ้าขนาดเล็กที่อยู่ในเขตแดนของ Kasuga-taisha ครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:25:00 ]
ความเห็นที่ 76

จากนั้นก็เดินทางต่อมายังศาลเจ้า Kasuga-taisha ที่คุ้นเคยกันดี โดย Kasuga-taisha เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในจังหวัด Nara และยังเป็น 1 ใน 3 ของศาลเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย สร้างขึ้นราวปีค.ศ. 700 ที่เชิงเขา Mikasa และเขา Kasuga

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:25:37 ]
ความเห็นที่ 77

โดยศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเรื่องของตะเกียงหินที่ตั้งเรียงรายกันตั้งแต่ปากทางเข้าจนกระทั่งถึงตัวศาล

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:26:02 ]
ความเห็นที่ 78

ในวันนั้นมีพิธี Shichi-Go-San ของเด็กๆพอดีด้วยทำให้เราได้เห็นเด็กญี่ปุ่นสีชุดประจำชาติน่ารักๆมาเข้าพิธีที่ศาลเจ้ากัน โดยในพิธีนี้เด็กหญิงที่มีอายุครบ 3 และ 7 ขวบ พร้อมกับเด็กชายที่อายุครบ 5 ขวบ จะเฉลิมฉลองการก้าวย่างเข้าสู่วัยเด็กในแต่ละช่วง แต่งกายในชุดประจำชาติมาที่ศาลเจ้าเพื่อขับไล่วิญญาณร้ายและนำมาซึ่งสุขภาพที่ดี มีอายุยืนยาว

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:26:46 ]
ความเห็นที่ 79

จาก Kasuga-taisha เราออกเดินผ่าน Nara-koen อีกครั้งเพื่อมุ่งหน้าไปยังวัด Todai-ji

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:27:15 ]
ความเห็นที่ 80

ระหว่างทางจะผ่านศาล ร้านรวง และวัดเล็กๆมากมาย ซึ่งในฤดูนี้ทุกที่ต่างก็จัดแต่งและประดับประดาเรียกให้ลูกค้านั่งพักชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:27:48 ]
ความเห็นที่ 81

ภายใน Nara-koen กว้างขวางและร่มรื่นมากๆ เหมาะสำหรับเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง Nara และนักท่องเที่ยว และยังมีกวางน้อยน่ารักมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่เวลาให้อาหารกวางบางตัวอาจจะไม่น่ารักเท่าไหร่นะครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:28:21 ]
ความเห็นที่ 82

มาถึงหน้าทางเข้าวัด Todai-ji แล้วครับ บริเวณนี้มีร้านค้าขนาบอยู่สองฟากฝั่งแต่เลยจากร้านค้าไปก็ยังเป็นสวนที่สวยงามเช่นเดิม

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:28:49 ]
ความเห็นที่ 83

น้องกวางมารวมตัวกันบริเวณนี้หลายตัวทีเดียว ราวกับรู้งานว่าถ้าอยู่ตรงนี้มีอาหารกินอุดมสมบูรณ์อย่างแน่นอน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:29:14 ]
ความเห็นที่ 84

มุมนี้ได้ฟีลหนังเกาหลีมากๆ เล็งไว้ว่าจะออกมาถ่ายตอนขากลับแต่สุดท้ายก็ลืมครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:29:39 ]
ความเห็นที่ 85

ใครเอาหมาน้อยไปนั่งรอบนนั้นน่ะ วางไว้แบบนี้ไม่วิ่งหนีไปไหนแน่นอน อิอิ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:30:05 ]
ความเห็นที่ 86

Daibutsu-den หรือวิหารพระใหญ่ของวัด Todai-ji เป็นสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1998 ในฐานะส่วนหนึ่งของ Historical Monuments of Ancient Nara หลังจากจ่ายค่าเข้าสถานที่ 500 เยนแล้วเดินเข้าไปชมด้านในก็พบว่าต้นซากุระหน้าวิหาร Daibutsu-den ที่ผมเคยมาถ่ายไว้เมื่อฤดูใบไม้ผลิหลายปีก่อน ตอนนี้เปลี่ยนสีและผลัดใบร่วงไปพอสมควรแล้ว

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:30:38 ]
ความเห็นที่ 87

เมื่อก้าวเข้ามาด้านในวิหารพระใหญ่  นักท่องเที่ยวทุกคนก็ต้องทำท่าบังคับท่าเดียวกันครับคือแหงนจนคอตั้งบ่า บางคนก็ยกกล้องถ่ายภาพหรืออุปกรณ์ใดก็ได้ที่สามารถบันทึกภาพได้ขึ้นมา

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:31:12 ]
ความเห็นที่ 88

ที่ทุกคนทำแบบนั้นก็เพื่อที่จะชมหรือถ่ายภาพองค์ Nara Daibutsu พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สร้างจากโลหะสัมฤทธิ์สูง 15 เมตร หนักร่วม 250 ตัน พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นมาพร้อมๆกับตัววัด Todai-ji เพียงแต่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติและสงครามหลายครั้งจนต้องหล่อซ่อมแซมจนเป็นองค์ที่พวกเราเห็นในปัจจุบัน

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:31:39 ]
ความเห็นที่ 89

ตัววิหาร Daibutsu-den ก็ได้รับความเสียหายจากภัยต่างๆมากมายหลายครั้งเช่นเดียวกัน จนต้องสร้างขึ้นมาใหม่หลายหน ซึ่งแบบจำลองของวิหารในยุคต่างๆมีแสดงอยู่ด้านในด้วยครับ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าวิหารในสมัยก่อนใหญ่โตมโหฬารยิ่งกว่าปัจจุบันนี้เสียอีก

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:32:08 ]
ความเห็นที่ 90

เดินตามอาจารย์พาชมและบรรยายถึงวัด Todai-ji อย่างภาคภูมิใจจนจบ พวกเราก็เดินกลับไปขึ้นรถไฟโดยผ่านออกทาง Nara-koen อีกครั้งเพื่อไปเยี่ยมบ้านของอาจารย์

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:32:41 ]
ความเห็นที่ 91

การที่ได้รับเชิญไปบ้านของคนญี่ปุ่นถือเป็นเกียรติอย่างมากครับ เพราะปกติแล้วเจ้าบ้านจะถือว่าการมีแขกไปที่บ้านเป็นเรื่องใหญ่ต้องเตรียมตัวรับรองอย่างดี ครั้งนี้อาจารย์และคุณนายเตรียมทำ Okonomiyaki, Yakisoba และสลัดแสนอร่อยไว้เลี้ยงต้อนรับเราด้วย

หลังจากทานอาหารและอยู่คุยกันซักพักก็ได้เวลาเดินทางกลับ โดยเจ้าบ้านยังใจดีแวะซื้อ Kakinoha-sushi (ซูชิอัดหน้าปลาแซลมอนหรือซาบะห่อด้วยใบพลับ) ของดีมีชื่อของจังหวัด Nara เอาไว้ให้เราทานบนรถไฟตอนกลับด้วย ขอบคุณท่านอาจารย์มากครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:33:13 ]
ความเห็นที่ 92

เนื่องจากเวลามีน้อยขากลับเราจึงนั่ง Shinkansen กลับ Tokyo โดยผมไปส่งคุณภรรยาที่ Ueno เพื่อขึ้นรถไฟกลับ Utsunomiya หลังจากนั้นตัวเองก็นั่งรถไฟกลับมารอขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทยที่ Haneda เหมือนขามา

จบแล้วครับทริป KYOTO อะโซบิเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว อาจจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ดังๆที่หลายๆคนชอบแต่ก็เป็นการเดินทางที่มีความสุขอีกครั้งนึงของพวกเราครับ

ขอบคุณทุกเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามารับชมนะครับ

จากคุณ : Gelgoog [16 ส.ค. 54 22:34:07 ]
ความเห็นที่ 93

ใบไม้แดงสวยงามมากๆๆๆๆ ครับ
ผมไปปลาย พ.ย. นี้ หวังว่าจะได้เจออากาศดีๆ กับใบไม้แดงสวยๆ แบบ จขกท. บ้างนะครับ

จากคุณ : aryan [16 ส.ค. 54 22:38:12 ]
ความเห็นที่ 94

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆค่ะ

จากคุณ : aomnan [16 ส.ค. 54 22:39:08 ]
ความเห็นที่ 95

สวยมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [16 ส.ค. 54 22:55:12 ]
ความเห็นที่ 96

จบซะและ กะลังอินเลย

ภาพสวยดีครับ อยากไปมั่ง

จากคุณ : boydz [16 ส.ค. 54 22:57:10 ]
ความเห็นที่ 97

ภาพสวยมากๆค่ะ

จากคุณ : handayo [16 ส.ค. 54 22:58:09 ]
ความเห็นที่ 98

เตรียมตามรอยเกียวโตปลายปีนี้ค่ะ

เห็นคิวยืนรอเข้าวัด Eikan-do  ที่เข้าคิวเพราะไปก่อนวัดเปิดรอบ17.30 น. ใช่มั้ยคะ

เห็นคิวแล้วคนเยอะน่าดู รบกวนถามอีกเรื่อง

จากสถานีเกียวโตถ้านั่งรถเมล์ไป  Fushimi Inari สาย 5 ใช่มั้ยคะหรือว่ามีสายไหนแนะนำ

จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย [16 ส.ค. 54 23:12:51 ]
ความเห็นที่ 99

สวัสดีครับ.
ขอขอบคุณครับ.สำหรับภาพสวยงามแถมยังโรแมนติก..หวานแหวว..มากๆ
ผมก็มีตั๋วไปโอซาก้าช่วงปีใหม่แล้วเหมือนกันครับสองคน..9วัน
..ที่ผมคิดไว้ว่าจะพักรร.เล้กๆที่เกียวโต8คืนเลย
แต่ช่วง25ธค.-2มค.ที่เกียวโตแพงครับ.
ถ้าพักที่โอซาก้า(ซึ่งผมคิดว่าถูกกว่า)
แล้วนั่งรถไฟไปเกียวโตเกือบทุกวัน.จะเหนื่อยไปมั๊ยครับ..

จากคุณ : actloma [16 ส.ค. 54 23:17:56 ]
ความเห็นที่ 100

ใบไม้แดงสวยมากค่ะ

จากคุณ : ฮิโนเดะ [16 ส.ค. 54 23:25:50 ]
ความเห็นที่ 101

ภาพสวยมากๆ ดูแล้วอยากตามไปชมใบไม้แดงบ้างจังครับ...

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ haha ...

จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด [16 ส.ค. 54 23:29:22 ]
ความเห็นที่ 102

เอาไปเลยค่ะสามกีบสำหรับรีวิวนี้ จขกทมีความอุตสาหะมากในการถ่ายรูปแล้วเอามารีวิวให้ดูกัน ขอบคุณมากนะคะ

จากคุณ : flymom [16 ส.ค. 54 23:32:05 ]
ความเห็นที่ 104

เอาไปเลยค่ะสามกีบสำหรับรีวิวนี้ จขกทมีความอุตสาหะมากในการถ่ายรูปแล้วเอามารีวิวให้ดูกัน ขอบคุณมากนะคะ

จากคุณ : flymom [16 ส.ค. 54 23:32:33 ]
ความเห็นที่ 105

ถูกใจมากคับพี่ยอ haha

ไว้ซากุระปีหน้าจะเจริญรอยตามครับ
เพิ่งเห็นว่า ใบไม้เปลียนสีที่เกียวโตนี่งามงดแต๊ๆๆๆ
สงสัยในอนาคตคงต้องได้กลับไปเที่ยวตอนใบไม้เปลี่ยนสีอีกแน่ๆ ครับ

ปล. ถึงคุณเจ้าแก้วฯ ครับ รู้สึกวาถ้านั่งรถไฟก็ไปได้เหมือนกัน
สายที่ไปนาราหน่ะครับ แต่ผมจำไม่ได้ว่าต้องลงสถานีไหน รู้สึกว่าจะสถานีที่ 2 หรือ 3 จากสถานีเกียวโตนะครับ ....

จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ [16 ส.ค. 54 23:34:15 ]
ความเห็นที่ 106

สวยมากครับ

จากคุณ : Jose Pasillas ll [16 ส.ค. 54 23:45:30 ]
ความเห็นที่ 107

รุปสวยมากๆค่ะ

จากคุณ : สาวหน้าใส [16 ส.ค. 54 23:56:54 ]
ความเห็นที่ 108

ปีนี้ผมจะไปตามรอยใบไม้แดงมั่งครับ
เพราะคุณจขกท.ไปช่วงเดียวกับที่ผมจะเดินทางในปีนี้เลย(ผมไป15กลับ24พฤจิกายน)
ก็เลยพยายามสังเกตุดูว่า ผู้คนช่วงนั้นแต่งตัวกันยังไง อากาศหนาวมากมั๊ย

จากคุณ : ลิ้ม (rimu) [17 ส.ค. 54 00:12:43 ]
ความเห็นที่ 109

ขอบคุณหมอยุ่งฯค่ะ ^__^

ที่ถามสายรถเมล์เพราะความงก กะจะใช้ bus pass ให้คุ้มค่า

นั่งรถไฟ 140 เยนค่ะไปกลับจ่ายเพิ่มอีก 280 แหะแหะ นั่งรถเมล์แล้วออกกำลังขาเดินไกลกว่าหน่อย

จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย [17 ส.ค. 54 00:16:02 ]
ความเห็นที่ 110

ขอบคุณมากนะคะ

ภาพสวยมากๆเลยค่ะ....
นางแบบก็สวยมากกกๆๆๆ.....

จากคุณ : Miss_Behaving [17 ส.ค. 54 00:34:31 ]
ความเห็นที่ 111

เกียวโตช่วงใบไม้แดง งดงามสมคำร่ำลือ

ขอบคุณที่แบ่งปันรูปสวยๆ ให้ชมค่ะ

จากคุณ : la liga fan [17 ส.ค. 54 01:16:43 ]
ความเห็นที่ 112

ขอบคุณครับ ภาพสวยมากจริงๆ ช่วง Autumn นี่ต้องยกให้แถบคันไซเลย สวยสุดยอดครับ smile

จากคุณ : Coffee Blended [17 ส.ค. 54 01:55:59 ]
ความเห็นที่ 113

ภาพสวย บรรยากาศดีมากเลยครับ zax

จากคุณ : databoy [17 ส.ค. 54 06:52:48 ]
ความเห็นที่ 114

ภาพสวยสุดยอดเลยค่ะ แถมมีพร็อพเป็นคุณภรรยาใส่กิโมโนอีก แบบนี้ไม่ให้กีบได้ไงคะเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า

เกียวโตนี่เมืองในฝันของเราเลยค่ะ เพราะเราชอบเที่ยววัดเก่าๆ ไม่มีโอกาสได้ไปเยือนซะที ขอตาม จขกท.ไปก่อนก็แล้วกันนะค๊า >_<

จากคุณ : ha-meow [17 ส.ค. 54 07:22:38 ]
ความเห็นที่ 115

@  สวยงามและน่ารักมากครับ .. ใบไม้แดงนี่สวยจริงๆ น่าเสียดาย
    ที่ช่วงแบบนี้ไม่มีวันหยุดยาวเหมือนช่วงซากุระเลยไม่ได้ไปชมซะที
    .. น้องหมาตัวนั้นน่ารักที่สุดเลย .. เอาไปวางอย่างนั้น แล้วถ้าปวดฉี่
    แล้วเค้าจะฉี่ยังไง ..

จากคุณ : MRBIG173 [17 ส.ค. 54 07:49:27 ]
ความเห็นที่ 116

ญี่ปุ่นช่วงใบไม้แดง....


หันไปทางไหนก็สวยมากๆเลยครับ....


จขกท.ก็ถ่ายทอดความสวยงามออกมาได้เยี่ยมจริงๆ....

จากคุณ : LVP@HEART [17 ส.ค. 54 07:50:00 ]
ความเห็นที่ 117

ภาพสวยคมแจ่มมากครับ ถ่ายทอดสีสันยามใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตได้งดงามจริงๆครับ

จากคุณ : white koala [17 ส.ค. 54 08:11:21 ]
ความเห็นที่ 118

คุณติวเตอร์ตู่, คุณ aomnan, คุณเด็กชายต้นกล้า, คุณ ColaGirl, คุณ Traveller Among Mountains, คุณ mpitt09 ขอบคุณทุกๆท่านที่มาร่วมเดินทางในระหว่างถ่ายทอดสดนะครับ :-)

คุณ aryan  :  ส่วนใหญ่ปลายเดือน 11 จะอากาศดีครับ ขอให้เจออากาศดี แสงสวยๆ ถ่ายรูปงามๆได้สมใจเหมือนตอนที่ไปเกาหลีนะครับ แล้วจะรอชมภาพของคุณบ้าง

คุณ aomnan  :  ขอบคุณที่ติดตามชมตั้งแต่ต้นจนจบเช่นกันครับ

คุณเล็กทาโร่  :  กระทู้หน้าอย่าลืมตามไปเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ

คุณ boydz  :  ขอบคุณครับ จริงๆแล้วรูปมีเยอะครับแต่เป็นภาพบุคคลซะเป็นส่วนมาก ขอลงเท่านี้ก็แล้วกันนะครับ

คุณ handayo  :  ขอบคุณมากครับ

คุณเจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย  :  ใช่แล้วครับไปถึงวัดตอนเค้าปิดรอบกลางวันพอดีก็เลยยืนเข้าคิวรอรอบเย็นอยู่ตรงนั้นเพราะไม่รู้จะไปไหน  คนเยอะนะครับมีคิวต่อหลังผมไปอีกยาวมากๆแต่เค้าก็จัดระเบียบดีตามสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนการเดินทางด้วยรถเมล์ไป FushimiInari-taisha มีรถผ่านสายเดียวครับคือ 南5 (South 5 ) ส่วนใหญ่เค้าจะนั่งรถไฟไปกันเพราะมีรอบถี่กว่ารถเมล์ครับ แต่ผมก็เสียดายตังค์เหมือนคุณนั่นแหละครับ อิอิ ไปกลับสองคนเกือบ 600 เยนแพงกว่าค่าตั๋ววันรถเมล์ใบนึงอีก

แต่ถ้าจะไปรถไฟให้นั่งสาย Nara ลงสถานี Inari (สถานีที่ 2) ครับ

คุณ actloma  :  ขึ้นอยู่กับว่าไปเที่ยวที่ไหนมากกว่ากันก็พักที่นั่นดีกว่าครับ อันที่จริงๆนั่งรถไฟระหว่าง Osaka – Kyoto มันก็ไม่ได้ไกลมากไม่เหนื่อยหรอกครับ แต่ถ้านั่งหลายๆวันมันจะเบื่อมากกว่า

คุณฮิโนเดะ  :  ขอบคุณเช่นกันครับ

คุณผู้ก่อการร้ายทางความคิด   :  ขอบคุณครับ ถ้ามีโอกาสไปดูด้วยตาตัวเองจะเห็นว่าสวยกว่าที่ผมถ่ายมาเยอะมาก

คุณ flymom  :  ขอบคุณมากครับ ใช้เวลาเรียบเรียงนานจนเกือบจะข้ามปีอยู่แล้วครับ อิอิ

หมอยุ่ง  :  ไปเลยครับหมอทั้งซากุระทั้งใบไม้ร่วงที่ Kansai สวยมากๆอยู่ครับ พูดไปแล้วจริงๆผมก็ยังไม่เคยดูซากุระที่ Kyoto เลย เคยไปดูที่ Nara ครั้งนึงขาไปผ่านสถานีเกียวโตเห็นคนเป็นล้านเลยไม่อยากฝ่าเข้าไป เอาไว้หมอยุ่งไปแล้วเอาภาพมาให้ผมกับเพื่อนๆชมด้วยนะครับ

Kyoto รอบเดียวไม่พอแน่นอนครับต้องมีซ้ำ อย่างผมนี่ซ้ำไปหลายรอบแล้วก็ยังไม่เบื่อเลย

คุณ Jose Pasillas ll  :  ขอบคุณครับผม

คุณสาวหน้าใส  :  ขอบคุณมากๆครับ

คุณลิ้ม (rimu)  :  เที่ยวให้สนุกกับทริปใบไม้ร่วงปีนี้นะครับ สำหรับการแต่งตัวในช่วงนั้นก็ใส่เต็มยศสำหรับการเที่ยวเมืองในฤดูหนาว ถ้าใครขี้หนาวก็ต้องใส่พวก Coat หรือ Down Jacket แต่ถ้าใครชอบเย็นๆแบบผมจะใส่แจ็คเก็ตธรรมดาๆก็ได้ แต่เน้นว่าช่วงเช้ามืดกับกลางคืนจะหนาวมากครับ  

คุณ Miss_Behaving  :  ขอบคุณครับและขอบคุณแทนภรรยาด้วยครับ

คุณ la liga fan  :  ขอบคุณมากครับ ยังมีทริปเดือนตุลาที่ Nyuto Onsen อีก ตอนนี้ยังหาเวลาเขียนไม่ได้เลยครับ

คุณ Coffee Blended  :  ขอบคุณครับผม นอกจากใบไม้แดงแถว Kansai แล้วที่ Tohoku ก็สวยมากเช่นกัน แล้วแต่คนชอบครับ ส่วนตัวแล้วผมชอบแนวธรรมชาติแบบ Tohoku มากกว่านิดๆ

คุณ databoy  :  ขอบคุณครับ ของจริงบรรยากาศสุดยอดจริงๆครับ

คุณ ha-meow  :  ถ้าชอบเมืองเก่าต้องไป Kyoto ให้ได้นะครับ เป็นเมืองเก่าที่มีชีวิตชีวามากๆ ต้องขอบคุณแนวคิดและความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ทำให้ Kyoto ไม่ต้องไปข้องแวะกับสงครามใดๆ และขอบคุณอเมริกาที่ตัดชื่อ Kyoto ทิ้งไปจากรายชื่อเมืองที่จะถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ด้วยครับ

คุณ MRBIG173  :  น้องหมาตัวนั้นเค้าคงชินแล้วล่ะครับ ดูแล้วเจ้าของน่าจะวางไว้แบบนั้นบ่อยๆ ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็ต้องหันไปมองและยิ้มให้

คุณ LVP@HEART  :  ขอบคุณมากครับ ฤดูใบไม้ร่วงในวันที่อากาศแจ่มใสเป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับการท่องเที่ยวจริงๆครับ

คุณ white koala  :  ขอบคุณครับผม ของจริงสวยกว่านี้มากครับ

จากคุณ : Gelgoog [17 ส.ค. 54 09:32:49 ]
ความเห็นที่ 119

ชอบมากๆๆๆๆ เราเริ่มสับสนระหว่างซากุระ กับ ใบไม้เปลี่ยนสีซะแล้ว เลือกไรก่อนดีน๊า อิอิ ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ^^

จากคุณ : สามแซ่ [17 ส.ค. 54 10:19:58 ]
ความเห็นที่ 120

ขอบคุณรีวิวดีดีแบบนี้มากเลยนะคะ
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นตามไปจริงๆ

จากคุณ : สายลมแห่งความรัก [17 ส.ค. 54 10:34:07 ]
ความเห็นที่ 121

รูปสวย จนอยากเปลี่ยนใจ จากที่ตั้งใจไปดูซากุระ ใบไม้แดง โตเกียวก็สวยไม่แพ้กันเลย

ขอบคุณรุปสวยๆ รีวิวดีๆ ค่ะ

จากคุณ : aor-naja [17 ส.ค. 54 10:50:37 ]
ความเห็นที่ 122

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากจริงๆ

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ บรรยากาศดีๆ ที่นำมาฝากกันค่ะ

จากคุณ : k_kazuya [17 ส.ค. 54 10:52:36 ]
ความเห็นที่ 123

ภาพสวยมากครับ จะเก็บไว้เป็นข้อมูล จะพาภรรยาไปใส่ชุดกิโมโนบ้าง

จากคุณ : เซนต์ซาจิทาเรียส [17 ส.ค. 54 11:24:43 ]
ความเห็นที่ 124

ขอบคุณมากเลยค่ะ 


สำหรับความสุขที่มาแบ่งปันกัน 
อยากไปทัวร์ญี่ปุ่น ตอนใบไม้แดงมาก แต่ก็กลัวความหนาว
แต่ปีนี้ ผ่าน ศูนย์องศา ติดลบมาได้ แสดงว่าแค่นี้ ไปได้แหงๆ 

เพราะฉะนั้นอยากตามรอยค่ะ ชอบมากเลย สำหรับข้อมูลดีๆ มีประโยชน์แบบนี้...

ขอให้มีรีวิวน่ารักๆ มาฝากพวกเราอีกนะค๊ะ^^

จากคุณ : hollaneung [17 ส.ค. 54 12:50:39 ]
ความเห็นที่ 125

ภาพสวยมาก ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

จากคุณ : areewan [17 ส.ค. 54 12:52:32 ]
ความเห็นที่ 126

..

กรี๊ดไปสามตลบให้กับภาพสวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจากเมืองเก่า  ทำเอาคิดถึงเกียวโตขึ้นมาตะหงิดๆ อยากกลับไปเยือนในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงอีก >___<

คุณ Gelgoog เดินสวนกับผมบ้างไหมเนี่ย อิอิ

.
.

ขอบคุณ สำหรับบรรยากาศที่สวยงามทะลุออกมานอกจอนะครับ  กดโหวตให้กระทู้นี้เลย  ชอบมาก love

..

จากคุณ : POGGHI [17 ส.ค. 54 14:46:27 ]
ความเห็นที่ 127

เข้ามาชมภาพสวยๆค่ะ พย.นี่ใบไม้แดงกำลังสวยเลย
เรากำลังแพลนไปคันไซปลายเดือน ตค. ค่ะ สงสัยใบไม้ยังไม่แดง >_<

อยากใส่กิโมโนบ้าง ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ ^_^

จากคุณ : นางเงือกน้อย ตบบนตบล่าง [17 ส.ค. 54 15:48:59 ]
ความเห็นที่ 128

รูปคมชัดดีจัง สวยมากเลย ^^

จากคุณ : Moopenguin [17 ส.ค. 54 15:53:45 ]
ความเห็นที่ 129

^
^
^

ขอร้อง  POGGHI   อย่ากรี๊ด...
เราไม่กล้าจินตนาการ   exclaim.



ยิงไป  คุณ นางเงือกน้อย ตบบนตบล่าง

ปลาย ตค.ใบไม้เเดงนับใบได้ค่ะ.. น้อยนิดเหลือเกิน!!

จากคุณ : aomnan [17 ส.ค. 54 16:05:43 ]
ความเห็นที่ 130

ที่ Tofuku-ji ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่สวยมากๆเป็นสถานที่ที่พลาดไำม่ได้อย่างแรงเลยครับสวยประทับใจมาก

ที่ Eikan-do ตอนกลางคืนไฟต่างๆที่ประัดับไว้ตามต้นไม้สวยงามมากครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

จากคุณ : Destiny-Boy [17 ส.ค. 54 21:10:07 ]
ความเห็นที่ 131

คิดมากกับคุณ POGGHI  กรี๊ด...อยู่เหมือนกัน ^^"
_________________________________________________

บันไดที่ตกแล้วจะตายภายในสามปี Sannenzaka น่ากลัวจัง ... (ไปคราวหน้าจะได้ผลักใครบางคนที่เหม็นขี้หน้าลงไปจ้ำเบ้าท่าจะดี)  

บรรยากาศของเกียวโตในฤดูใบไม้ร่วงคงทำให้คู่ของคุณ Gelgoog โรแมนติกมากมาย  สวยสดชื่นไปหมดทั้งรีวิวเลยค่ะ

จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* [17 ส.ค. 54 21:17:25 ]
ความเห็นที่ 132

สวยงามมากกกกกกกกก

หลงรักใบไม้แดงจริงๆ

จากคุณ : นางมารชุดส้ม [17 ส.ค. 54 21:32:59 ]
ความเห็นที่ 133

ช่วงที่ไปอากาศดีมากๆ เลยนะครับ โชคดีจัง :) ติดตามผลงานมานาน ถ่ายรูปได้สวยมากๆเลยครับ

ถามนิดนึงครับ ร้านเช่าชุดกิโมโน มีของผู้ชายด้วยรึเปล่าครับ ราคาเท่าไหร่อ่ะคับ พอดีว่าเข้าไปดูในเว็ปแล้วไม่เห็นมีบอก :)

จากคุณ : I_Jayjay [18 ส.ค. 54 15:22:25 ]
ความเห็นที่ 134

ว่าจะมาเม็นต์ ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ ระบบปิดปรับปรุง ได้ไม่ได้เม็นต์

いい写真ですよ。

จากคุณ : JinMingTian [18 ส.ค. 54 16:14:57 ]
ความเห็นที่ 135

ใบไม้แดงสวยสุดๆ

บรรยากาศดี โรแมนติคอีกต่างหาก

ขอบคุณนะคะสำหรับรีวิวดี ๆ

จากคุณ : สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี [18 ส.ค. 54 17:16:29 ]
ความเห็นที่ 136

ตามไปเที่ยวเกียวโตด้วยคน ขอบคุณสำหรับรีวิวและภาพสวยๆ นะครับ

จากคุณ : noiwanwannoi [18 ส.ค. 54 18:54:39 ]
ความเห็นที่ 137

คุณสามแซ่  :  สะดวกช่วงไหนก็เลือกช่วงนั้นก่อนเลยครับ แต่ถ้าเป็นตัวผมเองญี่ปุ่นต้องซากุระเท่านั้นครับ

คุณสายลมแห่งความรัก  :  ขอบคุณมากครับ

คุณ aor-naja  :  ไม่ต้องเปลี่ยนใจหรอกครับ ซากุระสวยมากนะครับ

คุณ k_kazuya  :  ขอบคุณมากๆเลยครับ

คุณเซนต์ซาจิทาเรียส  :  อย่าลืมจองก่อนไปนะครับ ยิ่งฤดูท่องเที่ยวคนยิ่งเยอะมากๆ

คุณ hollaneung  :  ถ้าผ่านจุดเยือกแข็งมาได้ฤดูใบไม้ร่วงที่เกียวโตก็เด็กๆไปเลยครับ และยังมีบันทึกการเดินทางช่วงใบไม้ร่วงแถบ Tohoku เหลืออีกหนึ่งชุดครับ

คุณ areewan  :  ขอบคุณครับผม

คุณ POGGHI  :  ขอบคุณมากครับ คาดว่าเราอาจจะสวนกันที่ Kyoto ไปแล้วก็เป็นได้ อิอิ รออ่านญี่ปุ่นหมุนรอบตัวตอนต่อไปอยู่นะครับ

คุณนางเงือกน้อย ตบบนตบล่าง  :  อย่างที่คุณ aomnan บอกครับ ปลายตุลาที่ Kansai ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมใบไม้แดงเท่าไหร่ แต่ที่นั่นก็ยังมีอย่างอื่นให้ประทับใจได้ครับ

คุณ Moopenguin  :  ตอนนี้ใช้ EOS 550D ครับ เมื่อก่อนนี้ใช้ 30D ยิ่งนานยิ่งลดเกรดลง หุหุ

คุณ Destiny-Boy  :  ทั้งสองที่นี่พลาดไม่ได้เลยล่ะครับสำหรับฤดูใบไม้ร่วงที่ Kyoto

คุณลอร่า อิงกัลส์ ~*  :  ขอบคุณครับ ส่วนเรื่องความเชื่อที่ Sannenzaka นี่เป็นเรื่องปกติของคนญี่ปุ่นเลยครับ เค้าอยู่กับความเชื่อพวกนี้จริงๆ

คุณนางมารชุดส้ม  :  ขอบคุณมากครับผม

คุณ I_Jayjay  :  ขอบคุณครับไม่นึกว่าจะมีคนติดตามผลงานของผมด้วย ร้านเช่านี้มีชุดของผู้ชายด้วยครับแต่ผมไม่แน่ใจเรื่องราคาแต่น่าจะถูกกว่านิดหน่อย แถมดันไปสัญญากับคุณป้าเจ้าของร้านไว้ว่ากลับไปคราวหน้าจะเช่าชุดผู้ชายใส่คู่กับภรรยาด้วย อิอิ ลองหาดูหลายๆร้านก็ได้ครับ แถว Kiyomizu-dera มีเยอะ แต่ผมเลือกที่นี่เพราะไม่ต้องเดินไกลมากนัก

คุณ JinMingTian  :  いいえ、まだまだですよ。ขอบคุณสำหรับคำชมครับ

คุณสวยด้วยแสง-แรงด้วยสี  :  ใช่ครับบรรยากาศดีมากๆ ขอบคุณที่เข้ามารับชมครับ

คุณ noiwanwannoi  :  ตามมาด้วยกันเลยครับ ขอบคุณที่เข้ามารับชมเช่นกันครับ

จากคุณ : Gelgoog [18 ส.ค. 54 19:46:38 ]
ความเห็นที่ 138

อยากเรียก Trip นี้ ว่า Romantic Trip จังค่ะ
สถานที่สวย บรรยากาศอบอุ่น
ในการเดินทางอันหวานชื่น
ไม่แปลกเลยที่ภาพที่ถ่ายทอดออกมาจึงดู...
สวยงามและน่าประทับใจจังค่ะ
ขอบคุณที่นำความสวยงามทั้งสถานที่ ผู้คน และคู่รัก มาแบ่งปันนะคะ :D

จากคุณ : ลุงหนวด & ต้นอ้อ [19 ส.ค. 54 09:53:55 ]
ความเห็นที่ 139

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ...

ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากๆเลยค่ะ...

จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า [19 ส.ค. 54 11:19:31 ]
ความเห็นที่ 140

สวยมาก ๆ เลยครับ ต้องหาโอกาสไปช่วงนี้บ้าง

ขอให้มีความสุขมาก ๆ ทุก ๆ วัน ทั้งสองท่านนะครับ ^^

จากคุณ : eurasianbrown [19 ส.ค. 54 18:23:37 ]
ความเห็นที่ 141

kyoto - momiji Love Love !!!

จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด [29 ส.ค. 54 17:01:30 ]