จงมีชีวิตที่คนอื่นต้องแอบอิจฉา ดีกว่าไปนั่งอิจฉาชีวิตคนอื่น  แหะๆๆๆๆ แรงส์ไปป้า (แต่ว่าเรื่องจริงอะ)  มนุษย์นี่ก็แปลกนะ เสียเวลาเกือบทั้งชีวิตมานั่งอิจฉาคนอื่น ไม่ยอมทำให้คนอื่นต้องมาอิจฉาตัวเองมั่ง  เหมือนที่ป้านั่งอิจฉาหลานๆ  ที่ไปเดินเล่นแถวฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เยอรมันกันเฉิบๆๆๆ   ส่วนป้าทำได้แค่แบกเป้เหย็งๆๆๆ  นอนบนรถไฟ ใส่ยีนส์เน่าๆ กินข้าวสองวันครั้ง  เวลา 17 วัน ฉ้านรับประทานไป 9 มื้อเอ๊งงงงงงงงง     อืม...... เดินทางรอบโลกไปตามล่าหาคู่แท้ อิ อิ อิ   ต้องตามถึงชาติหน้าแล้วป้า


การเดินทางไปตามล่าหาสมบัติของมวลมนุษยชาติที่วันนี้อาจจะไม่มีอะไรเหลือให้คนรุ่นหลังได้เชยชม!!!   เงิน 42,000 บาท สำหรับใครหลายคนมันอาจจะซื้อได้แค่กระเป๋า 1 ใบ แต่เงิน 42,000 บาท สำหรับป้าได้ประสบการณ์มามากมายที่มันจะตายไปพร้อมกับป้า  อ้าวๆๆๆๆ   ทำไมอยากตายเอาง่ายๆ ละป้า  อืม แต่ขอฝากเรื่องราวไว้ให้หลานๆ ได้อ่านเอามันส์ในวันที่อยากอู้งาน โดนไล่ออกป้าไม่รับผิดชอบนะ

การเดินทางครั้งนี้ 17 วัน ไปตามล่าหาฝัน ค่ำไหนนอนนั่น บ้านที่ดีที่สุดคือ รถไฟ  เพื่อนนอนที่รู้ใจคือไอ้หนุ่มหลากหลายสัญชาติที่เปลี่ยนหน้ามานอนร่วมเตียง อิ อิ อิ  แอบอิจฉาละสิ!!!   ถ้าคิดว่าป้าขี้โม้ ลองหยิบเป้ขึ้นมาแล้วซื้อตั๋วที่อ่านได้ว่า ISTANBUL  ตามตูดป้าสักทริป  รับรองติดใจ!!!

.................


ABU SIMBEL

ก่อนอื่นป้าขอขอบคุณหลานๆ ทุกท่านที่โหวตให้กระทู้นี่เป็นกระทู้แนะนำนะคะ


ตอนที่ 10 ป้าจะพาไปเสียวที่มหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์ไอยคุปต์กันคะ คือ มหาวิหาร ABU SIMBEL


ใครที่ลงทุนเดินทางมาที่นี่เพื่อให้แขกหลอกแล้ว ไหนๆ ก็จะโดนหลอก โดนยำ โดนกระทำซะแล้ว การไปชมมหาวิหาร ABU SIMBEL ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เราเสียบางอย่างไป เราต้องได้คืนกลับมาบ้าง



การได้ชมที่นี่ถือว่าสุดยอดของการเดินทางในอียิปต์แล้ว เขาว่ากันอย่างงั้นนะ แต่ป้าเองขอบอกว่า ป้าชอบตรงอื่นอะ อุบไว้ก่อน ยังไม่บอก แต่ยอมรับและคารวะให้กับความยิ่งใหญ่ของที่นี่คะ




หลายๆ คนคงจะได้เห็นภาพที่หัวกระทู้จนคุ้นเคยจากรายการสารคดีทางทีวี แต่เมื่อมาเห็นของจริง เชื่อเหอะว่ามันสุดยอดมาก ไม่ว่าคุณจะพยายามจะแพนกล้องยังไง คุณก็ไม่สามารถถ่ายภาพให้อยู่เฟรมเดียวกันได้ นอกเสียจากใช้กล้องแพงๆ  


................

อ่านตอนที่ 1 ที่นี่คะ ในชื่อว่า จะพาไปเสียว

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10014771/E10014771.html

ตอนที่ 2 เสียวไม่กลัวทราย

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10022609/E10022609.html

ตอนที่ 3  เสียวไม่กลัวทราย

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10030281/E10030281.html


ตอนที่ 4 เสียวว่าจะไปไม่กลับหลับไม่ตื่น

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10065203/E10065203.html

ตอนที่ 5  เสียวว่าสมบัติของมวลมนุษยชาติจะวินาศวอดวายเพราะไอ้คนเห็นแก่ตัว

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10211213/E10211213.html

ตอนที่ 6 พักเรื่องเสียวๆ ไปเที่ยวตลาด ชมมัสยิด

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10216974/E10216974.html


ตอนที่ 7  ขึ้นรถไฟไปเสียวกันที่ ASWAN


http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10304468/E10304468.html


ตอนที่ 8 เสียวว่าจะไม่รอดที่ ASWAN


http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10946176/E10946176.html


ตอนที่ 9

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10962404/E10962404.html

วันนี้มาทันชมวิหารอาบูซิมเบลด้วย

อยากไปอียิปจังเลย

นั่งเกาะขอบจอ ติดตามป้ากาญจน์คนสวยไปอีหยิบด้วย

มาดูที่มาของการไปชมมหาวิหารแห่งนี้กันคะ


ป้าอ่าน lonely planet ทุกวัน อ่านเท่าไหร่ก็จับใจความได้เหมือนเดิมคือ คุณต้องไปชมมหาวิหาร ABU SIMBEL มาถึง ASWAN แล้วต้องไปชมให้ได้ ถ้าไม่ชมมหาวิหาร ABU SIMBEL แล้วจะมาให้แขกหลอกทำไมเนี่ย



การไปชมวิหารแห่งนี้เขาบอกไว้ว่ามีรถเมล์ไปถึงที่เลย อิ อิ อิ ช่างเข้ากับคนอย่างป้ายิ่งนัก เพราะป้าไม่ต้องการจ่ายแพง  การเดินทางด้วยรถเมล์ที่แนะนำมีย้ำอะ ว่ารถเมล์ 1 คันมีชาวต่างชาตินั่งไปได้แค่ 4 คนเท่านั้น


อ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เมื่อป้าขึ้นไปบนรถเมล์แล้ว หลานๆ ว่าเมื่อโดนตำรวจจับจับ แล้วมีชาวต่างชาติอยู่บนรถเมล์เกิน 4 คน ป้าคนสวยของเราจะถูกนับให้เป็นคนที่เท่าไหร่เนี่ย งานนี้จะเถียงสู้เขาได้ไหมเนี่ย



มีข้อมูลแนะนำด้วยว่าถ้าถูกตำรวจจับ ไอ้คนรถมันไม่รับผิดชอบหร็อกนะ อ้าวๆๆๆๆ อย่างงี้มันไม่เขี่ยเราทิ้งเหรอ ลงกลางทางไม่ใช่เรื่องที่น่าลิ้มลองนะ เพราะตลอดทางที่ไป ABU SIMBEL คือ ทะเลยทรายล้านๆๆๆ   ลงไปเดินให้หมาทะเลทรายรับประทานเป็นอาหารเช้าแน่ๆ ตู


สุดยอด Hyroglyphic จาก ABU SIMBEL TEMPLE

มีแนะนำเพิ่มเติมคะว่า ถ้าตำรวจจับ แกล้งควักเงินออกมาแล้วส่งไปให้ด้วยมืออันสั่นระริก อาจจะรอดได้ แต่งานนี้ทำนายได้ว่าต้องจัดหนัก!!!


เผลอๆ อาจจะแพงกว่าการไปด้วยทัวร์นะเนี่ย ป้าสอบถามเรื่องรถเมล์จะไปมหาวิหารแห่งนี้ ไม่มีใครแนะนำ ที่สำคัญป้ายังไม่รูเลยว่าจะไปขึ้นรถเมล์ได้ที่ไหนเนี่ย การไปด้วยรถเมล์จึงไม่เป็นจริง



เมื่อกลับมาถึงโรงแรม ก่อนจะเข้าห้องหอรอรักของป้า พนักงานโรงแรมเข้ามาถามว่า hey hey hey hey you อยากไป ABU SIMBEL ปะ ที่นี่มีทัวร์ไปที่วิหารแห่งนี้ด้วยนะ ไปปะ สะดวกมากนะ ไม่แพงด้วย



ป้าได้ยินปั๊ป ป้าเมินเลย ตูเกลียดการไปด้วยทัวร์ อย่ามาชวนให้ยากเลย ไม่สำเร็จหร็อก ตูจะไปด้วยรถเมล์เว้ย คอยดูนะตูนี่แหละจะไปด้วยรถเมล์ให้ดู แล้วจะไปนอนแถวๆ ABU SIMBEL สัก 2 คืน ไปกับทัวร์ทำไมให้โง่ แพง แถมยังรีบอีกด้วย ดูไม่สะใจโว้ย ไม่เอา อย่ามาง้อนะ ไม่สนอะ


ผ่านไปคืนที่ 2 หลังจากที่โดนแขกหลอกไปเยอะ ป้าคนสวยของหลานๆ เดินไปบอกพนักงานด้วยตัวเองเลยอะ


hey hey hey มีทัวร์ไป ABU SIMBEL ใช่ปะ ไปด้วยดิ อยากไปมากเลยเนี่ย ให้ไอไปด้วยนะ ไออยากเห็นสุดยอดมหาวิหารของโลกอะ ไปด้วยนะ ไปโล้ดดดดดดดดด   อิ อิ อิ  สุดยอดจริงๆป้าเรา เรื่องกลืนน้ำลายตัวเองป้าแกถนัดนักเชียว ไหนบอกว่าไม่ชอบไปกับทัวร์ไงป้า ชะ ชะ ชะ

เมื่อตกลงราคากันเรียบร้อย 90 เหรียญเองคะ ราคานี้มีย้ำหลายครั้งบอกว่า นี่คือค่ารถเท่านั้นนะ ค่าตั๋วเข้าชมต้องจ่ายเอง อาหารต้องหาเอง


รถจะมารับตอนตี 3 สุดยอดจริงๆ ออกตั้งแต่หัวดึก งานนี้จะตื่นไหวไหมเนี่ย

เนื่องจากต้องไปไกลใช่มะ เราต้องถามกันนิดหน่อยเพื่อความชัวร์ว่าทริปนี้เป็นทริปส่วนตัวอะเปล่า ไม่ใช่ขึ้นรถไปแล้วมองซ้ายมองขวามีแต่เจ้าป้านั่งหน้าดำอยู่คนเดียว  ป้าไม่ชอบทริป VIP เท่าไหร่ เพราะไม่มีตัวหารไง เรื่องอะไรตูจะโดนหลอกคนเดียว



เขาบอกว่ารถที่จะไปเป็นรถตู้อย่างดี มีคนไปด้วย 15 คนเหมือนรถตุ้บ้านเราเลยอะ จะเชื่อได้ไหมเนี่ย แต่ต้องเชื่ออะ



โปรแกรมคือ ชมวิหารอาบูซิมเลล จากนั้นขากลับแวะที่วัด ฟิเล่ สุดยอดวัดที่สวยที่สุดในอียิปต์ ที่นี่แหละที่เจ้าป้าประทับใจมากที่สุด จากนั้นแวะ high dam เขื่อนที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ แล้วปิดท้ายกันด้วยอีกวิหารซึ่งอยู่ใกล้อัสวาน จำชื่อไม่ได้คะ รวมแล้ว 4 โปรแกรมกับราคา 90 เหรียญถือว่าคุ้มมาก ถึงไม่คุ้มป้าก็จะบอกว่าคุ้ม ป้าปลอบใจตัวเองไง



มีอีกเรื่องที่ลืมบอกไป lonely planet บอกประมาณ 1000 ครั้งว่า การเดินทางท่องเที่ยวในอียิปต์ต้องพกหนังสือเดินทางอยู่ตรลอดเวลา เพราะที่นี่ตำรวจไม่ขี้เกียจอะ เขาจะตรวจอยู่ตลอด ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไม่มีหนังสือเดินทางติดตัว เสร็จเขาอะ หลานๆ ที่จะไปอียิปต์อย่าาลืมนะคะ หนังสือเดินทางสำคัญกว่าเงินอีกอะ



แม้ว่าเราจะซื้อทัวร์ไป ทัวร์คุกคันก็ไม่ได้รับการยกเว้น ตำรวจจะกักทุกด่านเลยอะ อย่า อย่า อย่าถามว่าทำไม ดักเพื่อไถเงินนะเอง ไม่รู้ว่ากี่ด่าน กว่าจะถึงอาบูซิมเบลคงโดนไถไปเยอะมาก



พนักงานโรงแรมย้ำเรื่องราคาอีกครั้ง และเรื่องหนังสือเดินทางว่าห้ามลืมเด็ดขาด ความจริงป้าไม่เคยไปไหนโดยปราศจากหนังสือเดินทางอยู่แล้ว แต่ป้าไม่มั่นใจว่าเราควรจะหยิบออกมาให้ใครดูบ้าง และใครคือตำรวจจริง ใครคือตำรวจปลอม!!!

เป็นไข้หวัดใหญ่อยู่นะคะ นอนไป 3 วัน เพิ่งฟื้นมาวันนี้เองคะ ถ้าหายไปอีกคือเดี้ยงนะคะ ไม่ต้องจุดธูปรอนะคะ หายเมื่อไหร่ป้าจะกลับมาคะ

โห  กะลังอ่านมันส์ ๆ จะหายไปซะละ
ต่อ ค่ะต่อ  สนุกดี  อยากไปได้แบบนี้มั่ง
แต่ตัดใจทิ้งลูก และซะมี ไม่ลง

โห  กะลังอ่านมันส์ ๆ จะหายไปซะละ
ต่อ ค่ะต่อ  สนุกดี  อยากไปได้แบบนี้มั่ง
แต่ตัดใจทิ้งลูก และซะมี ไม่ลง

จากคุณ : ครอบครัวตัว ป  
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 10:09:15  

......................

ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามากดดันกันอีกคน


ซะมีไม่ต้องทิ้งนะคะ ป้ารับฝากจ้า ไม่คิดตังค์ด้วย อาหารไม่ต้องป้าดูแลเอง



ป้าเข้าไปแอบอ่านพม่าของคุณ MRBIG173 อยู่นะคะ มันส์ดีจัง

..............


ชมวิหารอาบูซิมเบลไปพลางๆ ก่อนนะคะ เรื่องตามมาทีหลังนะคะ

ป้าหายไป เพราะกินข้าวสองวันครั้ง หรือเพราะใส่ยีนส์เน่าๆ กันแน่ละค่ะ

หายไวๆ นะค่ะ จะได้ลงจอต่อ

รูปเจ้าป้ากับ มหาวิหาร ABU SIMBEL ดูยิ่งใหญ่มาก

ตอนแรกที่อยากไปอียิปต์ จะนึกถึงแต่พีระมิด  แม่น้ำไนล์ สฟิงค เจอรูปเคหา 6 เข้าไป กิเลสขึ้นเลย อลังการงานสร้าง

ขอบคุณมากๆค่ะ

ในที่สุดก็กลับมาต่ออีบิปต์แล้ว
ยังเหลือทรานไซบีเรียที่ผมยังรดูอยู่อีกน้าครับ ^^"

ไปหนูไปด้วยคนคร่าาาาา

ป้ากาญจน์เอารูปหน้าวิหาร Abu Simbel Temple มาจุดประกายกันเลยนะคะ

อ้าว..แล้วหายไปสอนหนังสืออีกหรือเปล่าละเนี่ย

ตามไปเสียวแอนด์ซี๊ด

ป้าหายไปแล้ว แหะๆๆ รออ่านอยู่นะครับ ^^

ไอ๊หยะ...ป้าป่วยซะงั้น

ขอให้แข็งแรงไวๆ นะคะ .. ป้ากาญ FC รอรีวิวซี๊ดแซ่บอยู่ค่ะ

และแล้ววันที่ป้าจะได้เห็นสิงมหัศจรรย์หมายเลข 2 ของ ป้าก็มาถึง


พนักงงานทะลึ่งปลุกป้าตั้งแต่ตีสองครึ่งอะนะ กลัวจังกลัวว่าเราจะไม่ตื่น แหมๆๆๆๆ จะได้ดูของที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ใครบ้างจะนอนหลับลืม แต่ถ้าโดนลักหลับก็ว่าไปอย่างอะนะ จะแกล้งหลับนานๆ เลยอะ เพราะมันเพลี่ยไงหลานเอ้ย


เดี๋ยวๆๆๆ ป้าขอเลี้ยวโค้งออกนอกเส้นทางนิดนึ่งนะ ป้าเคยไเมืองชลเมื่อปีก่อน แล้วแวะที่เมืองจำลองของเมืองชลนะ ที่นั่นจัดดีนะ มันคงไม่สุดยอดระดับโลก แต่เมื่อไปแล้วก็รู้สึกดีเป็นอันมาก ยังมีอีกหลายแห่งเลยบนโลกใบนี้ที่เราอยากไป


ครั้งนั้นป้าไปกับเด็กนักเรียนไง เด็กๆ เดินตามแล้วจะคอยบอกว่าที่นี่ครูไปแล้ว ครูถ่ายรูปมาแล้ว เราเองแอบดีใจมาก เด็กๆ มีความสุขมากขนาดเขาได้เห็นแค่ภาพจากเรา และเห็นของปลอมที่เมืองชล มีเด็กคนหนึ่งจูงมือป้า เด็กคนนี้รักป้ามาก พาป้าไปยืนอยู่หน้าสถานที่แห่งหนึ่งแล้วเขาบอกว่า หนูอยากไปที่นี่มากที่สุดในโลกเลยครับ ครูเล่าเรื่องที่นี่ให้หนูฟังหน่อยนะครับ




ถ้าครูจะไปต่างประเทศอีก ครูไปที่นี่ได้ไหมครับ หนูอยากให้ครูไปถ่ายภาพจากสถานที่จริงกลับมาให้ผมดูนะครับ วันนั้นป้าพูดขึ้นมาว่า ครูสัญญา ครูจะไปที่นี่และถ่ายภาพมาฝากหนูนะ


เด็กคนนี้ในวันนั้น

ก่อนจะออกจากโรงแรมป้าไม่ลืมอาบน้ำ อาบน้ำตั้งแต่ตีสองครึ่งเลยอะ ครั้งแรกในชีวิตปป้าเลยปะ จากนั้นจัดการเก็บเป้ ไม่มีอาหารสำรอง เพราะตามโปรแกรมแล้วจะกลับมาที่อัสวานไม่ทันตะวันลับฟ้า ที่สำคัญป้าไม่รู้จะเอาอะไรไปเป็นอาหาร ค่อยไปหาเอาข้างหน้า นี่คือการคิดผิดอย่างยิ่ง เพราะที่อาบุซิมเบลไม่มีร้านอาหารเลยอะ จงแขวนท้องรอกันต่อไป



รถมารับตีสามตามที่สัญญา จากนั้นพาป้าขึ้นรถเลี้ยวไปเลี้ยวมาเวียนหัวมาก รถที่มารับเหมือนแท็กซี่เก่าๆ ที่วิ่งจากเมืองคอนไปปากพนังบ้านป้า วิ่งไปสักครุ่คาดว่าล้อจะหลุด ยางจะระเบิดไรเงี้ย ลุ้นดีอะ นั่งได้ไม่น่าจะเกิน 5 คน ถ้ายัดดีอาจจะมีถึง 8 คน ป้าเองมั่นใจมั่กๆ ว่าต้องนั่งรถนี่แน่นอน



เมื่อผ่านไปอีกหลายเลี้ยว ในที่สุดรถคันนี้ก็ไปจอดหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง รออีกครุ่ใหญ่ รอไรวะ อ้าวๆๆๆ รอนักท่องเที่ยวไงป้า ป้าอยากไปกันสองต่อสองเหรอ น่ากลัวไปมั้งป้า แหะๆๆๆๆ ป้าก็ว่างั้นแหละ รอก็รอ รอกันต่อไป




แบกเป้กันมา 2 คน จากนั้นเข้าซอก ออกซอยทะลุทะลวงอีกหลายที จนได้นักท่องเที่ยวมาเต้มรถเลยอะ แต่ยังวิ่งวนอยู่ในเมืองอัสวานไม่เห็นจะออกนอกเมืองสักที วนหาอะไรกันนี่



สุดท้ายรถคันนี้ได้ขนหมูทั้งหมดมาโยนไว้ ณ ที่แห่งหนึ่ง .......



ภาพนี้ของปลอมจากเมืองชล

พวกเราถูกเปลี่ยนรถกันคะ ไม่ได้ไปแท็กซี่ขี้ไก่แต่อย่างใด ดีขึ้นมาหน่อยกลายมาเป็นรถตู้ขนาดใหญ่ประมาณ 12 คนบ้านเราอะนะ แต่เชื่อไหมว่าเขาพาเราทั้งหมดน่าจะ 18 คน เจ๋งมะ และกว่าจะรับผู้โดยสารครบ ทุกคนพากันอึ้ง รถมันนั่ิงได้ 12 คนเองอะ ทำไมยังเลี้ยวเข้าซอยไม่รู้จักจบสิ้นกันเนี่ย




พวกเราเลยต้องเล่มเกมส์ทายปัญหาว่า สุดท้ายแล้วทริปนี้จะมีทั้งหมดกี่คน


เนื่องจากส่วนตัวแล้วเจ้าป้าหน้าเด้งคนนี้เกลียดการเที่ยวกับทัวร์อย่างมากใช่มะ เมื่อขึ้นรถมาแล้วคนอื่นๆ พยายามจะหลับ พยายามจะเงียบ แต่ she คนนี้นั่งเคัยดแค้นไรนักหนาไม่รู้ คือว่าป้าไม่ชอบการรอคอยไง แค่จะรับผู้โดยสารให้ครบป้าไปชั่วโมงกว่า เซ็งมั๊กๆๆๆขอบอกเลย ว่ามันเซ็ง หมดอารมณ์




ด้วยความที่โรงแรมมันลึกลับ และยังมืดอยู่มาก เมื่อป้าเบื่อการรอคอย ป้าคิดเอง เออเอง อวยเอง ป้าลงจากรถซะงั้น ประมาณว่า ไปปรับคนอื่นให้ครบก่อนได้ปะ เดี๋ยวตูรอตรงนี้ ป้านึกทะลึ่งคิดว่ารถมันจะกลับมาจอดที่เดิม



ได้เรื่องไอ้คนที่ลงมาพร้อมป้ามันวิ่งกลับขึ้นรถตอนไหนไม่รู้ แหมๆๆๆๆ ไม่ชวนกันเลย ถ้าเขาชวนขึ้นรถ ป้าจะขึ้นไหมละ รถออกไปแล้วหายไปไหนไม่รู้ มีเจ้าป้ายืนหน้าดำอยู่คนเดียว ตอนแรกไม่กลัวอะ นึกว่าเขาจะกลับมารับไง ใครจะไปคิดว่ามันจะไปเลยแถมยังทิ้งตุไว้ด้วยตอนตีสามกว่าๆๆๆ


ภาพจากเมืองชล

เมื่อรู้สึกตัวก็สายเกินไป กี่คนที่เธอผ่านชาย อ้าวๆๆๆๆป้า นั่นมันเพลง



กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกทิ้ง ป้าเริ่มสวยที่สุดในซอย เพราะถึงแม้จะตีสามกว่าๆ แต่ก็มีคนที่ตื่นแล้วอะ รวมทั้งคนที่ยังไม่ได้นอนเพราะยังหาเหยื่อไม่เจอไง เดินกันเพ่นพ่านเชียว หลายคนเข้ามาถาม มายืนเซ่ออยู่ทำไม นั่นๆๆๆ มีคนอยากรู้จักตอนตีสามกว่าๆ งานเข้าซะแล้วมั้ง



แต่โชคดีอะ มีคนวิ่งหน้าตั้งกลับมาคะ หน้าเริ่ดส์มาเชียว แหกปากโวยวายลั่น  my tourist , my tourist ลูกทัวร์ตู  เฮ่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เกือบไม่รอด โดนด่ายับเลยอะ ข้อหาลงจากรถโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อนร่วมทุกข์หลายคนพลอยตกใจไปด้วย ทำไมทำอย่างงี้ ลงจากรถไปทำไม อ้าวๆๆๆ ทำไมตูจะต้องนั่งรออยู่ในรถตลอดเวลานี่ มันเซ็งเข้าใจปะ



คราวนี้เด็กรถกำกับหนักแน่น ห้ามลงจากรถโดยเด็ดขาด!!! แหมๆๆๆๆ ผิดใหญ่โตเลยนะเนี่ย เชื่อไหม เด็กรถพาป้ากลับไปที่รถไกลมาก ชนิดที่ให้ป้าเดินเองมีหวังไม่รอด ทั้งงงและมึนมากๆ เพราะรถตู้คันนี้วนหาโรงแรมหลายแห่งมาก




เขามาจอดรถอีกครั้งแล้วประกาศเสียงดังฟังชัด กรุณาลงไปซื้อน้ำดื่ม อาหาร ของว่างได้ที่นี่ เพราะต่อจากนี้จะไม่มีร้านค้าอีกแล้ว รวมทั้งน้ำดื่มที่อาบูซิมเบลแพงมาก  ป้าเองคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นไรนักหนา ต้องซื้อน้ำดื่มไปด้วยเหรอ แพงจะตาย ซื้อทำไมเนี่ย เดี๋ยวถ้ามีส้วมก็ย่อมมีน้ำดื่ม




คนลงกันทั้งรถเลยอะ เหลือป้านั่งหน้าหนาอยู่คนเดียว จนฝรั่งคนหนึ่งสงสัยมาก hey hey hey you ไม่ซื้อน้ำเลยเหรอ น้ำดื่มที่อาบูซิมเบลแพงมาก อากาศที่นั่นร้อนมากด้วย you ต้องตายแน่นอน แหมๆๆๆ คนเรามันก็ต้องอายเป็นกันบ้าง ใครจะกล้าบอกว่าไอดื่มน้ำจากส้วม




งานนี้ป้าเลยซื้อน้ำดื่มเป็นครั้งที่ 2 ของทริปนี้ ราคาขวดละ 8 เหรียญ เอาวะ นี่ขนาดกลางเมืองอัสวานนะเนี่ยยังแพงจะตาย ไปถึงอาบูซิมเบลมีหวังขวดละ 50 เหรียญแน่ๆ


ตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า ณ ทะเลทรายสะฮารา

เรากลับขึ้นรถที่อัดแน่นมากยิ่งกว่าปลากระป๋องยี่ห้อดังๆ ของบ้านเราซะอีก


อาากาศยามหัวรุ่งเย็นได้ใจ เมื่อทุกคนกำหลับอย่างสบายฝันหวานว่า เดี๋ยวจะเข้าไปด๊วบปากรามเสสที่ 2 กันคนละทีสองทีให้หายอยาก แต่แล้วทุกคนต้องตื่นขึ้นจากความฝันอันหวานชื่น



รถจอดเงียบ ตอนที่รถวิ่งมันไม่มีไรให้เครียด พอรถหยุดวิ่งเริ่มเครียด เพราะว่ามันร้อนมากไง เหงื่อไหลคลั๊กๆๆๆๆๆเลยอะ อ้าวๆๆๆๆๆ ทำไมรถจอดวะ แล้วจอดทำไม ถามใครป้า ใครจะไปตอบป้าได้เนี่ย จอดอยู่แป๊ปๆๆ  ป้าจะไม่ว่า ไม่บ่น เพราะยังไงป้าก็อยากไปเยี่ยมรามเสสที่ 2 นะ แต่นี่ดันจอดนานมาก ร้อนยังกับตกนรกเลยอะ มันยังไม่สว่างเลยนะเนี่ย ทำไมประเทศนี้ร้อนแบบนี้เนี่ย ว่าแต่ว่าป้าเคยเล่นชู้เหรอ ถึงรู้ว่านรกนะมันร้อนมั่กๆๆๆๆ



เมื่อไม่มีคำตอบจากสรวงสวรรค์ว่ารถจอดทำไม หลายคนเริ่มทนกับความร้อนไม่ไหว เริ่มหยิบเป้แล้วลงมายืนกันรอบๆ รถ ส่วนป้าทนได้ ไปนรกออกจะบ่อย ร้อนแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยไง เหตุผลที่ไม่ลงไปคือว่าป้าอยากจะหลับไง เพราะเมื่อคืนตื่นเต้นมากไปหน่อยนอนไม่ค่อยหลับเลยอะ


ผ่านไปนานมาก เกิน 30 นาที เด็กรถไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น หลายคนเริ่มโวยวาย เอามั่ง เรื่องสำทับคนอื่นป้าถนัด ป้าลงมามั่งถึงได้ฉลาดขึ้นตั้งเยอะ เพราะตอนนี้บนถนนเต้มไปด้วยรถที่มองไปสุดลูกหูลูกตามีแต่รถ และบนถนนมีแต่นักท่องเที่ยวเต็มไปหมด



คนเป็นล้านเลยจริงๆ นะเนี่ย ไปไหนกันนักหนาเนี่ย แล้วป้าไปไหนเหรอ เขาก็ไปแบบป้านะแหละ  การที่รถต้องจอดนานเกือบชั่วโมงเพราะว่ารถทุกคันต้องโดนตรวจ โดนค้น ตำรวจไง บอกแล้วว่าที่นี่ตำรวจน่ากลัวกว่าประชาชนตัวดำๆ ซะอีก


รถทุกคันต้องผ่านด่านแห่งนี้ ตรวจกันอย่างละเอียด ทั้งใบอนุญาต ข้าวของสมบัติพัสถานล้านเจ็ด ตรวจกันเข้าไป ที่สำคัญต้องตรวจหนังสือเดินทางด้วย อันนี้ไม่ต้องกลัวอะ เพราะเด็กรถจะทำหน้าที่แทนเรา


เมื่อรอนานมาก ๆ ท้องไส้เริ่มอยากทำงาน เครียดเรื่องรอคิวไม่พอดันมาหิวซะอีก งานนี้โชคดีเพราะโรงแรมได้ห่ออาหารเช้ามาให้ด้วยอะ ตอนนี้ทุกคนทำเหมือนกันหมด ออกมานั่งลงข้างถนน แล้วควักอาหารเช้ารสชาติห่วยๆ มากินแก้เซ็ง ดีนะที่มีอาหารเช้าติดมือมาด้วย ถ้าทำหยิ่ง say no มีหวังน้ำตาเล็ด




ผ่านไปหลายวัน ใบหน้าเหลือนิดเดียวเลยนะป้า สาหัสเลยสิท่า

เมื่อรอดพ้นด่านมาแล้ว คาวนี้ทุกคนหลับสนิท อากาศกลับมาหนาวอีกครั้ง รถตู้คันนี้ไม่มีแอร์ให้บริการ ถึงมีก็คงไม่มีใครอยากจะฆ่าตัวตายกันอะ



นานมาก นานที่สุด ป้าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง อ้าวๆๆๆๆ  ถึงไหนแล้วเนี่ย เมื่อมองออกไปนอกรถ ต้องตะลึง โอ้วววววววววว ทะเลทราย ไอชอบ I like.


รอบๆ ตัวคือทะเลทราย มองไปทางไหนก็คือทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาล ทรายสีน้ำตาลที่เห็นแล้วรูสึกแห้งแล้งในหัวใจ อาจจะเห็นทะเลทรายมาบ้าง แต่มันไม่ใหญ่เท่านี้เลยอะ เลยตื่นเต้นมากไปหน่อย


ฟ้าเรื่มสาง อืมๆๆๆๆ ใครจะคิดนะว่าเมื่อลืมตาขึ้นมา ตะวันที่กำลังโผล่ขึ้นจากขอบฟ้ามันคือตะวันดวงเดียวกันกับตะวันสวยๆ ของเมืองคอน ต่างกันที่วันนี้มันโผล่อยู่ที่ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ของประเทศอียิปต์แดนไอยคุปต์



รถมาถึงเมืองอัสวานแปดโมง นานไหมละ โดนฝัด โดนฟัด โดนเหวี่ยงมาซธหลายชั่วโมง แถมยังเพลียจากอาการคอหักคอพับในรถอีก สะบักสะบอมมาก แทบตายกันเลยอะ



ไกด์มาปลุกให้ทุกคนตื่นด้วยถ้อยคำว่า


welcome to ABU SIMBEL.


welcome to ABU SIMBEL.


welcome to ABU SIMBEL.



ทุกคนตื่นในทันที ตาโตเท่าไข่ห่าน เพราะใครๆ ก็ฝันว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาที่นี่ใช่ปะ และแต่ละคนล้วนแต่โดนแขกหลอกกันมาอย่างสาหัสแล้วทั้งนั้นก่อนที่จะได้มาเห็นสิ่งนี้ เพราะฉะนั้นจึงดีใจอย่างมากที่เราได้มาถึงอาบูซิมเบลกันเสียทีโดยทีไม่มีใครตาย!!!


รถตุ้คันนี้วิ่งเร็วมาก ป้ายังนึกว่าตูนั่งรถตู้หรือนั่งเครื่องบินคองคอร์ดวะเนี่ย จะรีบไปตายก่อนได้เห็นอาบูซิมเบลหรือเปล่าเนี่ย รถต้องวิ่งเร็วมาก ๆทำเวลากันอย่างสุดเดช เพราะโปรแกรมมันเยอะไง



ถ้าไปถึงนรกก่อนก็เป็นเรื่องโชคชะตาของแต่ละคน ป้าแนะนำว่ามาที่นี่ทำประกันภัยไว้ก็ดีนะ อาจจะไม่สามารถป้องกันแขกหลอกได้ แต่ถ้าโดนรถชนจนไส้ไหลไตสักเสบ อาจจะเคลมได้บ้างอะ

ไกด์รีบบอกว่าคุณมีเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้น กลับมาที่รถก่อนสิบโมงนะ อย่าให้มีเคือง อยากรู้ละสิว่าใครโดนย้ำมากที่สุด!!!


ป้าไม่กล้าชุ่ยอีกต่อไป กลัวโดนทิ้งอีก คราวนี้ป้าฟังคำอธิบายของไกด์อย่างละเอียด แหะๆๆๆๆ ฟังไม่รู้เรื่องหรอก พูดไรของมันวะเนี่ย แต่ที่แน่ๆ ไกด์บอกว่า ทะเบียนรถเลขนี้นะ xxxx จำไม่ได้แล้ว รถจะจอดรอตรงนี้นะ


ย้ำ ย้ำ ย้ำ ป้าพูดเรื่องจริงไม่ได้โม้ เขาบอกว่ารถจอดตรงนี้นะ และทะเบียนรถคือเลขนี้ xxxx จากนั้นบอกเพิ่มว่ากรุณาซื้อตั๋วเอง เพราะราคา 90 เหรียญคือค่ารถ ถ้าไม่อยากจ่ายให้รอในรถได้ ถ้าจะต้องรอในรถ ป้าฝากซื้อโลงด้วยอะ รับรองตายไม่มีทางเลือกแน่นอน ร้อนขนาดนี้จะให้รอที่รถ บ้าแล้วมั้ง


ความจริงอากาศตอนแปดโมงไม่ได้ร้อนมากมายไรนะ  เพราะวิหารแห่งนี้อยู่ติดกับแม่น้ำไนล์อะ สายลมเย็นจากแม่น้ำพัดมาให้พอชื่นหัวใจอันห่อเหี่ยวของเจ้าป้า



เมื่อคิดว่าเข้าใจทุกอย่างดีแล้ว ป้าลงมือวิ่งทันที เราจะเสียเวลาไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว เวอร์ขนาดนั้นเชียวป้า  เนื่องจากที่จอดรถมันอยู่ไกลจากวิหารมากมายเลยนะ แค่เดินเข้าไปที่ซื้อตั๋วก็อาจจะมีหน้ามืดได้ สาเหตุที่สร้างที่จอดรถไกลมากๆ เพราะว่ามันมีรถมาที่นี่วันละเหยียบพันคันไง



ส้วมที่มีเพียงแห่งเดียว งานนี้ป้าต้องถอยก่อนแม้ว่าจะอยากใช้มากขนาดไหน เราไม่ควรเสียเวลาไปกับส้วม เพราะต้องไปเข้าคิวซื้อตั๋วอีก แล้วเวลา 2 ชั่วโมงจะทำไรได้บ้างเนี่ย

เมื่อเข้ามาถึงจุดที่ต้องซื้อตั๋ว แต่ละคนถึงกับคราง


งานหนักซะแร้ววววว   เพราะคิวยาวมาก คิดดูสิว่ามีคนมาที่นี่วันละเท่าไหร่  และทุกคนออกพร้อมกันตอนตีสามครึ่ง ย่อมมาถึงพร้อมกันด้วย งานนี้แค่รอคิวก็หมดเวลาแล้วมั้ง


ส่วนใหญ่จะมีไกด์ให้บริการซื้อตั๋วให้ อันนี้สะดวกดีอะ แต่ขอบอกนะคะราคามันเบิ้ลอะ เพราะถือว่าการซื้อตั๋วเป็นเรื่องที่เหนื่อยใจมั่กๆ นะเอง มีคนเข้ามานำเสนอด้วยนะ พวก spam นะ



เนื่องจากเขารู้อยู่แล้วว่าเรามากับรถตู้มันบังคับเวลาไง เขาเลยหากินกันทางนี้ เอาตั๋วผีตั๋วปอบมาขายให้อะ กล้าเสี่ยงมะ แพงกว่ากันแล้วยังไม่อาจจะรู้ได้ด้วยว่ามันปลอมหรือเปล่า



หากดันเซ่อซื้อมาแล้วคิดว่าโชคดีไม่ต้องต่อคิว แต่พอไปยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ ดันเจอดีซะนี่ ถูกจับไงเพราะใช้ตั๋วปลอม ป้าว่าเราโกงชาติโกงแผ่นดินน่าจะง่ายกว่านะ โดยเฉพาะแผ่นดินประเทศไทยอะ  วิธีนี้อย่าไปเสี่ยงเรยยย   ติดคุกที่อียิปต์ไม่ได้รับรางวัลโนเบลหรอก รางวัลโนเบลสาขาขี้โกงระดับชาติป้าไม่เคยได้ยินมาก่อนอะ





แม่น้ำไนล์รอบวิหารอาบูซิมเบล

ยังมีกลโกงอีก วิธีเดียวมันน้อยไป ไม่ใช่อียิปต์แล้วน้องเอ้ย ไม่ขายตั๋วให้เราหรอก แต่บอกว่าจะไปซื้อให้แทน แบบว่าไอเจ๋ง ไอซี้กับเจ้าหน้าที่ไง ไอสามารถลัดคิวได้ไรเงี้ย เลือกเอานะว่าสมควรเสี่ยงไหม แต่ป้าขอยืนยันอีกที ตำรวจที่นี่น่ากลัวที่สุดในโลก


ให้ตั๋วฟรีป้าไปอัฟกันยังดีเสียกว่าให้ป้าโดนตำรวจอียิปต์จับอะ ป้าไม่กล้าเสี่ยงเด็ดข้าดดดดดด


ระหว่างที่เข้าคิวรอ ป้าเจอเนื้อคู่คนที่ต่อคิวอยู่ด้านหลัง ฝรั่งผมทองจากอังกฤษมาคนเดียวเหมือนกัน นั่นๆๆๆๆ ว่าแล้วเชียวป้าแกมีลางพิเศษสามารถรุ้ได้ว่าใครมาคนเดียวบ้าง ถ้ามาหลายคนป้าแกไม่คุยด้วยหรอก




นายคนนี้เองก็ไม่รู้ว่าราคาตั๋วเท่าไหร่ เราเลยเตรียมเงินกันใหญ่ กลัวกันจังว่าเมื่อคนมาก เจ้าหน้าที่จะอ้างว่าไม่มีเงินทอน แล้วแห็ปๆๆๆๆแบบเนียน เราสองคนเลยพยายามควักกระเป๋าหาแบงค์เล็กมาเตรียมได้ไปสองล้านกว่า อิ อิ อิ อิ


โฉมหน้าตั๋วคะ ราคา 80 เหรียญ ถือว่าไม่แพงกับสมบัติของมวลมนุษยชาติที่เราต้องได้ดูกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิต ถ้าถามป้าว่าให้ไปอียิปต์อีกครั้งจะไปไหม คำตอบคงรู้กันอยู่แล้ว ชอบเสพย์ความซาดิสต์ซะขนาดนี้ ป้าจะพลาดได้ไง ที่สำคัญป้ายังชมวิหารอาบูซิมเบลได้แค่ 5% ของความยิ่งใหญ่ที่เห็น บอกแล้วไงว่าอย่าไปกับทัวร์ มันไม่สะใจเรยยยย

เมื่อได้ตั๋วแล้วไอ้หนุ่มแดนผู้ดีตีจากป้าทันที ป้าเข้าใจนะว่า รามเสสที่ 2 เขาสำคัญจะมาเสียเวลากับคนเพนจรอย่างป้าได้ไง



แต่ละคนรีบโกยอ้าว ป้าเองวิ่งเลยอะ แต่บางครั้งก็หยุดชมวิวบ้าง แหมๆๆ วิวรอบๆ ก็สวยไม่ใช่น้อยนะ วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไนล์ที่ภูมิทัศน์ดีที่สุดจุดหนึ่งคะ



ทางเดินที่จะเดินเข้าไปซื้อตั๋วค่อนข้างสะดวก ทำไว้อย่างดีตามภาพ สองแนวถนนคือแนวต้นปาล์มให้บรรยากาศความเป็นอียิปต์คะ




แต่เมื่อเลยจากจุดซื้อตั๋วแล้วมีทางให้เลือก 2 ทาง เหมือนชีวิตใครหลายๆ คน ทางเลือกมักมากกว่า 1 ทางให้ลำบากใจ ป้าเดินตามไอ้หนุ่มจากแดนผู้ดี ชอบเขาเหรอป้า มาคนเดียวนี่ อิ อิ อิ



ป้าแอบหวังว่าต่างคนต่างมาคนเดียว ย่อมเข้าใจกันได้เร็ว เชื่อเหอะว่าใครๆ ก็อยากได้ภาพจากวิหารแห่งนี้ ถ้าเขาไม่เสนอ ป้าจะสนอง ยังไงป้าก็จะสนอง!!!




ไอ้หนุ่มของป้าใส่แว่นดำสูงเด่นอยู่นั่นไง

อย่าถามป้านะว่าเขานั่งรอไรกันอยุ่ เขาคือคนอียิปต์ เขาจะนั่งรออะไรได้บ้างน่าจะรู้ดีกันอยุ่แล้วอะ


ทางเดินนี้จะเชื่อมไปจนถึงจุดที่ขายตั๋วคะ ทางกว้างใหญ่ เดินสะดวกสบายแต่อาจจะไม่ปลอดภัยต่อทรัพย์อันมากมายที่อยู่ในกระเป๋าของคุณ ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณด้วย ผู้ชายอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่คุณสาวๆๆ ป้าทายได้ว่าไม่รอด!!!

ทางเดินจะแยกเป็นด้านซ้ายกับด้านขวา ทางเดินที่เห็นในภาพคือด้านซ้ายจะเลียบริมแม่น้ำ ต้องปีนขึ้นภูเขาชันๆ จากนั้นไต่งลงระดับล่างขึ้นลงซ้ำกันไปมา พอให้ขาลากคะ



หลายคนจะเลือกเดินทางด้านขวาแล้วเดินกลับออกไปทางด้านซ้าย ตามสะดวกกันคะ


ต้องเล่าด่านที่ตรวจตั๋วกันนิดนึงคะ ที่นี่ตรวจค่อนข้างเข้มงวดนะคะ ไม่รู้ว่ากลัวเรื่องก่อการ้ายหรือ ฆาตกรรมอำพรางกันแน่คะ มีการ x-ray ด้วยคะ ป้าเองไม่ได้พกยาอี ยาบ้า เฮโรอีน พกแต่ยาคุมเลยผ่านเข้าไปอย่างสบายๆๆ

ภาพที่เห็นเป็นเหมือนแนวสันเขา แต่ความจริงแล้วคือด้านหลังของมหาวิหารอาบูซิมเบล ตอนที่เห็นไกลๆ มันดูว่าเล็กอะ ป้าแอบบ่น ไรวะ นั่งรถมาตั้งไกล โธ่เว้ย กระจอกอะ เล็กอะ ไม่เจ๋งเลย



นี่ขนาดโง่แล้วยังไม่เก็บความโง่ไว้คนเดียวอีก ยังบอกคนอื่นอีกเหรอป้า ป้ายังงงว่าวิหารมันจะอยู่ยังไงเนี่ย เห็นแต่ทราย มองไปทางไหนก็มีแต่ทราย แล้ววิหารที่บอกว่าเจ๋งที่สุดในโลกมันอยู่ตรงไหน



ไหนบอกว่าใหญ่มากไง  สูงเท่าตึกคอลิฟะของดูไบไม่ใช่เหรอ  บ๊ะๆๆๆๆ ป้าเล่นงี้เลยเหรอ ไม่เห็นไรเลยเนี่ย ถ้าไม่เจ๋งจริงตามที่ใครๆ โม้นะ ป้าจะกลับมาบลัฟให้ล่มเลยอะ


แต่ป้าเห็นแนวสันเขาแล้วครึ้มๆ ในหัวใจเหมือนกัน เดี๋ยวปีนขึ้นไปวิ่ง 100 เมตรดีกว่า เอามันส์

ระหว่างทางเจอหม้อดินจากเกาะเกร็ดด้วยอะ เขาเอามาวางเรียกน้ำย่อยหรือเปล่าป้าไม่รู้ แต่ความจริงแล้ววิหารอาบูซิมเบลไม่มีเรื่องราวของหม้อๆ ไหๆ หรอกนะ สิ่งที่สวยที่สุดคืออะไรขอยังไม่บอกอะ สิ่งที่คุณทายอาจจะผิดก็ได้นะ

เห็นแล้วก็อยากทำแบบป้าบ้าง แต่ด้วยสถานะมีครอบครัว กับการงานที่ลาไม่ได้นานแบบป้า ก็คงต้องติดตามป้าทางนี้แหละ อยากให้ป้าไปตุรกี อยากเห็น :)

เดินมาได้สักพักใหญ่ๆ เจอออเดิฟกันอีกครั้ง มุมของภูเขาจะเปลี่ยนไป


มีแผ่นบางอย่างวางอยู่ มีภาษฮีโรกลิฟฟิกด้วย งานนี้อาศัยเทคนิกทำให้เราน้ำลายหกอยากเห็นของจริงเร็วๆ


ในภาพเห็นคน 2 คนเดินลงมาจากด้านบนใช่มะ ป้าว่าเขาช่างกล้ามากๆ ป้าขอคารวะให้เลย ช่างไม่กลัวโดนตำรวจที่นี่สอยกันซะเรยยยย



ป้าเองยังแอบจะปีนเลยไม่ใช่เหรอ แหมๆๆๆ ทำไปว่าคนอื่น ตัวเองดีนักหรือไง



ความจริงแล้วป้าว่าไม่ควรปีนขึ้นไปนะคะ เพราะบางทีเทพเจ้าหลายอย่างชาวอียิปต์อจจะยังนับถืออยู่ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเราไปลบหลู่อะ

ใครตอบป้าได้บ้างว่าทำไม พันทิปให้ป้าล็อกอินอยู่ตลอดเวลาคะ



เดี๋ยวป้ามีน้ำโหแอบงอนไม่อัพซะงั้น เนี่ยป้าต้องล็อกอินทุก 30 นาทีเลยอะ ทั้งที่ป้าตั้งล็อกอิน 1 ปี ชักมีอารมณ์แล้วนะ และไม่ใช่อารมณ์หื่นด้วย

เมื่อเดินมาได้ครุ่ใหญ่ๆ ให้พอเสียเวลา ในที่สุดป้าก็ได้ยลโฉมแบบไกลๆ


มองเห้นแต่ไกลเลยว่าบางท่านชำรุดแล้วอะ ป้าเองอยากจะปีนขึ้นไปซ่อมแซมความเสียหาย อยากเห็นอวัยวะอยู่ครบๆๆ อืมๆๆๆ แต่ความจริงการที่บางอย่างหลุดร่วงหายไปมันทำให้ขลังดีนะ



ความเสียหายของมหาวิหารแห่งนี้มันมีสาเหตุ แต่ป้าไม่อยากเล่าเลยอะ เดี๋ยวโม้ผิดๆ ไปจะเสียหายต่อชื่อเสียงของป้า ชะ ชะ ชะ ป้าโม้ผิดมาจนเขาชินกันแล้ว



ความเสียหายเกิดจากที่คนโบราณเขาว่ากันอย่างงั้นพยายามทำลาย รวมทั้งการซ่อมแซมครั้งใหญ่เมื่อพยายามจะยกวิหารแห่งนี้ขึ้นเหนือน้ำ เพราะตอนที่มีการพบเจอวิหารแห่งนี้โดยความบังเอิญนั้น ยังไม่ได้จมน้ำหร็อก แต่มนุษย์ฉลาดไง เก่ง เจ๋ง สุดยอดไรเงี้ย เลยสร้างเขื่อนขึ้นมาไง ขังน้ำไว้อ้างว่าเพื่อการเกษตรไรเงี้ย ได้เรื่องเลยน้ำท่วม วิหารแห่งนี้เลยจมน้ำไปด้วยไง



จมอยู่หลายปี จนในที่สุดก็มีแผนการระดับชาติกันเลยอะ ขุดวิหารแห่งนี้ขึ้นมา อย่าเรียกว่าขุดเลย เรียกว่ายกขึ้นมาดีกว่า ใครที่เคยดูสารคดีเรื่องนี้รับรองว่าตะลึง มนุษย์ทำได้ไงเนี่ย แต่ความจริงก็ไม่น่าแปลกใจอะไรนักหนา ขึ้นชื่อว่ามนุษย์นะ สร้างให้เจริญทำมาก็มากมาย ทำให้อิ๊บอ๋ายมากกว่า อิ อิ อิ

เห็นแล้วก็อยากทำแบบป้าบ้าง แต่ด้วยสถานะมีครอบครัว กับการงานที่ลาไม่ได้นานแบบป้า ก็คงต้องติดตามป้าทางนี้แหละ อยากให้ป้าไปตุรกี อยากเห็น :)

จากคุณ : norsk    
เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 14:26:21  
 

..................


หวัดดีคะคุณ norsk    ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาทักทายกัน วันเสาร์ไม่ค่อยมีใครเล่นเน็ต ป้าเลยชอบแอบเข้ามาอัพเวปคะ เงียบดีอะ ตามกันต่อนะคะ ไม่สัญญาว่าจะพาไปตุรกีหรือเปล่า คำตอบจะชัดเจนเมื่อสิ้นสัปดาห็หน้าไปแล้วคะ
................

แม่น้ำไนล์อันยิ่งใหญ่ ความจริงตรงนี้คือพื้นที่ของน้ำในเขื่อนคะ เขาเรียก lake จำชื่อไม่ได้อีกนั่นแหละคะ

ใจเย็นน่านะ..รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ
ว่ากันต่อไปเลยนะป้ากาญจน์
 

ก่อนจะถึงตัววิหาร มันจะมีแหลมยื่นไปกลางลำน้ำ เนื่องจากคาดได้ว่าคนประมาณสองล้านคน แล้วเราจะแย่งกันทำไม ป้าเดินออกไปที่แหลม จากนั้นเก็บภาพสวยๆ จากระยะไกล และนี่คือที่มาของอาการอยากได้กล้องดีๆ สักตัว



เพราะมหาวิหารยิ่งใหญ่ซะขนาดนี้ ถ่ายภาพด้วยกล้องปัญญาอ่อนแล้วมันไม่ได้อารมณ์เลยสักนิด เสียอารมณ์มั่กๆๆๆ แต่ภาพก็พอรับได้อยู่คะ  ป้าเดินออกไปเก็บภาพแบบไม่เกรงใจเวลาที่เหลือน้อยกันเลยอะ คือว่าป้าแอบไม่ปลื้มอยู่ในใจนิดหน่อยนั่นเองว่า มันไม่ได้ยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ ทำไมต่วยตูนถ่ายภาพมามันอลังการจังวะ สร้างภาพเปล่าวะเนี่ย ทำไมที่เราเห็นมันยังไม่ยิ่งใหญ่เท่าที่ใจเราแอบหวังวะเนี่ย



มาชมภาพระยะไกลกันนะคะ

นี่คือจำนวนนักท่องเที่ยวบางส่วนของเช้าวันนั้น วันที่ป้าเราเริ่มหน้าดำ

ตามมาดูใกล้ๆ กันดีกว่า เพราะป้าเองก็ไม่อาจจะหลอกตัวเองกันต่อไป


ความจริงแล้วป้าอยากเห็นมันมาก แต่ป้าแอบงอนว่าทำไมคนมามากจัง แล้วจะดูยังไงเนี่ย จะได้เห็นไหมเนี่ย



แหมๆๆๆ ของเขาใหญ่ซะขนาดนั้น ป้าตาบอดแล้วละถ้าไม่เห็น


ตามก้นพี่เสื้อแดงกันไปเลยอะ

ป้าต้องเดินออกไปให้ทิ้งระยะห่างจากตัววิหารนิดนึงเพื่อจะเก็บภาพแบบเต็มเฟรม



ถ้าคุณคิดจะไปถ่ายรุปใกล้ๆ คุณคิดผิดอย่างแรง เพราะคุณจะได้แต่หัวของนักท่องเที่ยวเท่านั้น การถ่ายภาพที่ดีที่สุดจึงต้องถอยออกมาสักระยะหนึ่ง



ป้าเองยืนอิจฉาคนที่มีกล้องดีตัวโตๆ กดชัตเตอร์กันมันมาก แช๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงแสลงหัวใจป้าอย่างยิ่ง



เมื่อเก็บภาพระยะไกลจนพอใจแล้ว ความจริงแล้วไม่ว่าจะพยายามแพนกล้องไปมุมเท่าไหร่ ป้ารู้สึกทุกทีว่าภาพมันออกมาแนวเดิมๆ   แล้วเราจะถ่ายไปทำไมให้เปลืองเมมเนี่ย ช่างคิดได้นะป้า แอบโมโหอยู่ละสิว่า ไม่มีใครมาเสนอตัวถ่ายภาพให้ป้า



ไอ้หนุ่มแดนผผู้ดีที่ป้าหวังพึ่งพาอาศัยก็ตีจากไปแล้วงานนี้ป้าเลยรมณ์บ่จอย อิ อิ อิ อ้างนู่นอ้างนี้เชียว

อย่าได้ถามว่าใครชื่ออะไรบ้าง ป้าลืม บางทีชื่อตัวเองป้ายังไม่อยากจะจำเลยอะ



องค์ที่ 2 ชำรุดมากที่สุด หายไปเกือบหมดตัว ใครนะช่างทำกันได้ลงคอ ปล่อยให้ท่านยืนแสดงความพิการสะท้านสายลมหนาวและแสงแดดกล้าในหน้าร้อน

วันนี้มาทันชมวิหารอาบูซิมเบลด้วย

จากคุณ : toytrip  
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 08:58:25  
 ....................


จัด B &W ให้คุณ toytrip

อยากไปอียิปจังเลย

จากคุณ : Mrs-Ginna  
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 08:59:18  

....................


ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาทักทาย ขอจัด sepia version ให้นะคะ

นั่งเกาะขอบจอ ติดตามป้ากาญจน์คนสวยไปอีหยิบด้วย

จากคุณ : มาดามไร่องุ่น    
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 09:12:18  
 
........................


ส่วนมาดามเขาจัดให้ 1 คน กับ 1 ซีก อิ อิ อิ ชอบของไม่เต็ม(ราคา) ว่ากันไป

โห  กะลังอ่านมันส์ ๆ จะหายไปซะละ
ต่อ ค่ะต่อ  สนุกดี  อยากไปได้แบบนี้มั่ง
แต่ตัดใจทิ้งลูก และซะมี ไม่ลง

จากคุณ : ครอบครัวตัว ป  
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 10:09:15  

...........................


ส่วนครอบครัวตัว ป ครอบครัวใหญ่ ป้าใจดีให้ไป 2 องค์จ้า

ป้าหายไป เพราะกินข้าวสองวันครั้ง หรือเพราะใส่ยีนส์เน่าๆ กันแน่ละค่ะ

หายไวๆ นะค่ะ จะได้ลงจอต่อ

จากคุณ : Hi Aoy    
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 10:31:55  
 

......................


คุณ Hi Aoy    ลูกค้ารายใหม่ของเจ้าป้า ป้าจัดให้ 2 องค์ กับอีกครึ่งซีก ภาพทางด้านซ้ายมือขององค์เทพที่เราเห็นคือ เทพที่ปรากฎอยู่ด้านบนตรงตำแห่งประตุของวิหารแห่งนี้คะ

หลายคนอาจจะงงว่าเสียเงินไปตั้ง 80 เหรียญไม่รวมค่ารถ นั่งรถตั้งหลายชั่วโมงให้ริดสีดวงอักเสบเพื่อมาดูรูปปั้นของ 4 พระงองค์นี้เองเหรอ



ลงทุนมากไปอะเปล่า เชื่อเหอะว่าเมื่อคุณมาถึงแล้วคุณจะคิดวามันคุ้มมากที่ได้เข้ามาที่นี่ เพราะภาพที่ถ่ายมาไม่สามารถสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของที่นี่ได้เลยจริงๆ เราต้องเห็นกับตาเราเอง



แต่อย่าทะลึ่งปีนขึ้นไปละ อาถรรพ์นะป้าไม่รับแก้เคล็ดนะจะบอกให้ ที่นี่มีกฎห้ามปีนอย่างชัดเจนอยู่แล้ว และที่สำคัญถึงคุณจะพยายามขนาดไหนคุณก็ทำไม่ได้หรอกเพราะมีลวดกั้นอยู่คะ  แถมยังมีเจ้าหน้าดูแลหลายคน อย่าเสี่ยงให้ชีวิตมันลำบากขึ้นเลยคะ



ราคาตั๋วที่โชว์ไม่ได้ให้ชมแค่ 4 องค์ที่ยืนตากแดดอยู่ที่หน้าผาแห่งนี้หรอกคะ คุณสามารถชมข้างในได้ด้วย ตอนแรกป้าเองก็ไม่รู้ แอบนินทาอยู่ในใจ แพงอิ๊บอ๋ายให้มาดูเทพ 4 องค์ ดู 5 นาทีก็ครบแล้ว เวอร์จริงป้า เห็นป้าดูตั้งนานแนะ ดูไรหรือป้า มองหาขนจั๊กแร้ของท่านรามเสสที่ 2 อยู่เหรอ เอาแหนบไปด้วยปะจะช่วยถอนนะ

เมื่อไม่มีไรทำ ป้าเลยเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพให้ครบทุกโหมดฆ่าเวลาซะงั้น



ภาพที่ได้ทั้งหมดออกมาในมุมเดิมแต่คนละสีนะเอง  ส่วนตัวแล้วชอบภาพขาว-ดำมากกว่า เพราะเข้ากับบรรยากาศแบบไอยคุปต์ดีคะ

รูปเจ้าป้ากับ มหาวิหาร ABU SIMBEL ดูยิ่งใหญ่มาก

ตอนแรกที่อยากไปอียิปต์ จะนึกถึงแต่พีระมิด  แม่น้ำไนล์ สฟิงค เจอรูปเคหา 6 เข้าไป กิเลสขึ้นเลย อลังการงานสร้าง


ขอบคุณมากๆค่ะ


จากคุณ : jasssilp    
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 10:44:06  

...................

เทพเจ้านะยิ่งใหญ่จริงคะ ส่วนเจ้าป้าตัวเล็กนิดเดียว


จัดให้อีกภาพจ้า

ในที่สุดก็กลับมาต่ออีบิปต์แล้ว
ยังเหลือทรานไซบีเรียที่ผมยังรดูอยู่อีกน้าครับ ^^"

จากคุณ : ปอนคุงไม่ใช่ปังคุง    
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 12:00:58  
 ......................


ส่วนคุณปอนป้าให้ภาพนี้คะ สังเกตไหมว่าป้าเริ่มเดินเข้าใกล้วิหารไปทีละนิด โดนมนตร์สะกดอะเปล่าเนี่ย

ไปหนูไปด้วยคนคร่าาาาา

จากคุณ : เขียนบน iPhone (mercipians)    
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 13:13:47  

............


เจ้าแม่ไอโฟนป้าขอมอบภาพนี้ให้คะ วันนี้ป้าแกรวยอะ แกแจกมหาวิหารอาบูซิมเบลแก่หลานๆ เลยอะ รวยจริงนะเนี่ย

เมื่อเดินมาจนถึงทางเข้าวิหาร ป้าต้องเปลี่ยนใจ เราจะรีบเข้าไปให้ไสยศาสตร์มันสำแดงทำไม แอบนินทาเขาไว้เยอะ เดี๋ยวเจอดีแน่ตู



ป้าแกล้งเดินชมรอบๆ ประตุทางเข้า ความจริงไม่ได้กลัวอาถรรพ์แต่อย่างใดหรอก แต่รอบๆ มันสวยไง มีหลายอย่างให้ถ่ายภาพ ไม่อยากได้แค่ภาพเทพเจ้า 4 องค์ อยากได้ภาพหลายๆ สไตล์มาฝากหลานๆ กันนะ



รอบๆ มีนักท่องเที่ยวหลายคนกำลังเมามันส์กับการทำอนาจารต่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของโลก แล้วคนจิตหื่นอย่างป้าจะไม่เอาบ้างเลยเหรอ ป้าไม่ได้ไปข่มขืนกระทำชำเราแต่อย่างใด เพราะไม่มีใครเป็นตากล้องให้ป้า งานนี้ป้าเลยเดินเก็บภาพแบบเงียบๆ อะ

เมื่อเข้ามาใกล้ก็จงเอากลับไปแค่หน้าแข้ง


คราวนี้เชื่อหรือยังว่ามันใหญ่มาก ต้องถ่ายใกล้แบบนี้แหละ อึ้งๆๆๆๆๆๆ ทำได้ไงเนี่ย หย่ายยยยยยยยยยยยยยจริงๆๆๆ

บางส่วนของ Hyroglyphic language บริเวณฐานของรูปปั้น

ป้าเข้าไปยืนใต้ฐานจากนั้นก็เงยหัวให้เงาหัวมันหายไปซะเฉยๆๆๆ  อ้าวๆๆๆ ป้าหาเรื่องแล้วอะ



จากนั้นป้าก็ถ่ายภาพย้อนขึ้นไปข้างบ้าน ประมาณว่าอยากจะเก็บความยิ่งใหญ่ไว้ในเฟรมเดียวให้ได้ ภาพนี้เลยดูหดๆ อะ

นางเล็กๆ บริเวณฐานของรูปปั้น ทำนายได้ว่าไม่ใชเบอร์ 1 อิ อิ อิ เพราะเบอร์ 1 ยืนเคียงกันใน 4 พระองค์ที่เราเห็น

เนื่องจากรูปปั้นใหญ่มาก เจ้าป้าเกิดไอเดียดีๆ  อย่างงี้เราต้องถ่ายแค่ครึ่งตัว เอาเท้าก่อน จากนั้นถ่ายท่อนบน อ้าวๆๆๆๆๆ  ป้าไปฆ่าหั่นศพเขาซะงั้น



ป้าคิดว่าเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยป้าจะหัดใช้ photoshop ซะที แล้วป้าจะเอาศพมาต่อกันโดยไม่ต้องทำการศัลยกรรมตกแต่งให้แพงเปล่าๆ ฝีมือป้านี่ละ จะได้ภาพที่สมบูรณ์แบบมาให้ได้    ตอนนี้ผ่านไปจะครบ 1 ปีแล้ว ป้าใช้ photoshop เป็นยังป้า


มาดูท่อนแรกที่เจ้าป้าหั่นมา คือท่อนล่าง

ส่วนนี่คือท่อนหัวอะ

หน้าตาบอกชัดว่ากลัวอาถรรพ์ ยืนเรียบร้อยเชียว

มาชมข้างในกันบ้าง ภาพนี้บอกชัดว่าห้ามถ่ายภาพ เชื่อเหอะว่ามีคนแอบไม่พอใจกันหลายคน หนึ่งในนั้นคือป้าด้วย



ภายในเห็นห้องขนาดใหญ่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีหลายห้องด้วยคะ คนแน่นมาก เดินยากมาก ถ้าทุกคนปฏิบัติตามกฏ การชมที่นี่น่าจะนำความสุขมาให้มากกว่านี้แม้ว่าเขาจะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพก็ตาม




ภายในค่อนข้างอึมๆๆๆๆ เหม็นด้วยคะ แต่ไม่น่ากลัวนะ ไม่น่ากลัวมาก น่ากลัวนิดหน่อย ถ้าให้เข้าคนเดียวแบบไม่มีใครเลย ป้าไม่เอาอะ ภาพที่เห็นตามกำแพงคือภาพที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วนั่นคือ ภาพของภาษฮีโรกลิฟฟิกที่สวยสุดยอดนั่นเอง


ขนาดมีข้อห้ามตัวโตเท่าบ้าน ยังมีคนแอบเนียนคะ แอบเอากล้องขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์ไปแบบเนียนๆๆๆๆ  เท่าที่สายตาอันฝ้าฟางของป้าอ่านได้ พอจะบอกได้ว่าคนกลุ่มนี้คือใคร ส่วนใหญ่น่าาจะเป็นนักเขียนสารคดีมั้ง ป้ารู้ได้ไง คนพวกนี้เส้นใหญ่จะตาย เผลอๆ เข้าชมฟรีด้วยป้า เออๆๆๆๆ แล้วใครที่ีมันแหกกฎละนี่



ป้าเห็นคนอื่นๆ  หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ แช๊ะๆๆๆๆๆ ป้าด่าเขาปะ หรือป้าหยิบกล้องขึ้นมาบ้างแล้วทำตาม



อย่าให้ป้าต้องพูดเลยหลานเอ้ย ป้ากุมกล้องตัวเองด้วยมืออันสั่นระริก เดินเข้าห้องโน้นออกห้องนี้ พยายามหาจุดที่ปลอดคน กะว่ากดสักแช๊ะด้วย แหมๆๆๆๆ มันสวยมากไง ป้ายอมเลว แต่งานนี้ป้าไม่มีโอกาสเลว เพราะมีคนเดินตามอยู่ตลอดเวลาอะ

ภายในจัดแสสวยงามมาก ไม่แปลกที่คนเข้าชมภายในอยากจะแหกกฎอย่างยิ่ง


อารมณ์มันให้จริงๆ ต่อการหยิบกล้องออกมาแล้วทำในสิ่งที่เราต้องการ  ภายในมีทางเดินไปตามห้องต่างๆ ไม่ต้องกลัว่าจะหลงนะคะ เพราะยังไงก็คงไม่มีใครปล่อยให้คุณนอนเฝ้าสมบัติที่ชาวอียิปต์หวงอย่างยิ่ง



การชมข้างในไม่ค่อยจะมีความสุขมากนัก เพราะมันมีนักโบราณคีจากทั่วโลกไง คุยกันเสียงดังมาก ประมาณว่าฉันอ่านมาแล้ว อันนี้ฉันรู้จัก อันนี้เรียกว่าอย่างงี้ จะพูดออกมาทำไมเนี่ย ตูไม่ได้อยากรู้ซะหน่อย


ป้าเองพยายามเข้าใจนะว่าเขาก็อยากจะวิจารย์ อยากจะแสดงภูมิ หรืออาจจะตะลึงกับสิ่งที่เห็นจนไม่อาจจะเงียบอยู่ได้ แต่ละคนจบมาจากมหาวิทยาลัยระดับโลกกันทั้งนั้น คนที่ไปเดี่ยวๆ อย่างป้าหูชาไปเลย



ดูกันให้เบื่อไปเลยนะคะ

จะบอกอีกอย่างว่า การชมอย่างคนหลงไหลในประวัติศาสตร์มันค่อนข้างจะไม่สุภาพอยู่นะ การที่คุณเข้าไปมองเพ่งพิจารณาชนิดที่จะให้สายตาทะลวงเข้าไปในกำแพงมันจะเป็นการรบกวนคนอื่นอย่างยิ่ง เพราะรอบๆ ตัวคุณมีคนรอดูอยู่เป็นพัน การชมแบบผู้ดีเลยต้องดูแบบลวกๆ อย่างยิ่ง อาจจะต้องขัดใจกันบ้างนะ จะโทษใครละ ของมันยิ่งใหญ่




มีคนพื้นเมืองแนะนำป้าว่า อย่างป้าต้องมาตอนใกล้มืดคนจะน้อย ชมได้เต็มที่ ไม่มีใครรบกวน ควรมาช่วงบ่ายๆ นะเอง แต่ป้าว่าคนน้อยๆ มันน่ากลัวอะ น่ากลัวทั้งผีและน่ากลัวทั้งคนเลยอะ

สักยันต์ที่หัวไหล่ด้วยแฮะ

ตรงประตูทางเข้ามีคนมาขวางทาง อย่าได้ตกใจไปนะ เขาจะยื่นของสิ่งหนึ่งให้เรา กัญชาอีกหรือเปล่าป้า


สิ่งที่ยื่นให้คือ งวง ป้าเรียกของป้าเองนะ มันคือเหล็กที่ใช้คำยันคางของตุตันคาเมนไง


เมื่อเรารับมานั่นแปลว่าเราจะต้องเสียเงินค่าเช่า ป้าเองไม่ทราบว่ากี่เหรียญ เพราะคางป้ามัแข็งแรงดีอยู่แล้วยังไม่อยากโดนยัน ถ้าไม่ต้องการก็ปฏิเสธได้ เขาไม่เซ้าซี้ จะเซ้าซี้ทำไมละป้า ในเมื่อมีคนมาที่นี่วันละเหยียบแสน ป้าปฏิเสธไปคนนึงรายได้ของเขาไม่ลดหรอกมั้ง

ภาพนี้ขอไม่กลับหัวนะคะ เพราะตั้งใจถ่ายมาแบบนี้ ตะแคงดูละกันนะจ๊ะ

ทรมานสายตาคนอ่านรีวิวได้อีกนะป้า
ลมจับอ่ะดิ

ป้ากาญจน์เอารูปหน้าวิหาร Abu Simbel Temple มาจุดประกายกันเลยนะคะ

อ้าว..แล้วหายไปสอนหนังสืออีกหรือเปล่าละเนี่ย


แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 54 13:14:54

จากคุณ : SkylineKip    
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 13:14:25  

................


ของคุณอ้อยป้าขอจัดอันนี้ให้ ภาษาฮีโรกลิฟฟิกด้านหน้าประตูทางเข้าคะ


ภาพผิดคะ เอาใหม่นะคะ

ภาพอยู่นี่คะ

โปรดดูลวดลายที่ผ้าผุงนะคะ ดูกันให้ชัดๆ เลยคะว่ามันอ่อนช้อยมาก ทำให้ป้านึกถึงนางอัปสรของเขมรเลยคะ


อีกอย่างที่เห็นชัดมากคือ ไม่มีใครอ้วน ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   ปล่อยให้เราอ้วนอยู่คนเดียว คนสมัยนั้นเขาไม่กินพิซซ่า ชีส แอนด์เนยไงป้า เขาเลยหุ่นเด้งมั่กๆๆๆๆ


ยังมีอีกอย่างเห็นแล้วอึ้ง ตะหมูกโด่งกันทุกคนเชียว ถึงว่าป้าดั้งหักอยู่คนเดียว คนอียิปต์หยิบดั้งไปหมดไม่เหลือให้ป้าเลยอะ




ภาพเดียวกันคะ แต่แสงไม่เท่ากัน ภาพบนถ่ายตอนที่แดดส่องมาพอดีคะ

เอากันให้สำลักกันไปเลย คนที่คลั่งใคล้อียิปต์อยู่ก่อนแล้วมีหวังได้ขอวีซ่ากันวันจันทร์นี้แน่ๆ

ไอ๊หยะ...ป้าป่วยซะงั้น

ขอให้แข็งแรงไวๆ นะคะ .. ป้ากาญ FC รอรีวิวซี๊ดแซ่บอยู่ค่ะ

จากคุณ : อรยาเจ้าสำราญ (heyoki)  
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 20:45:24  
 
................


ป้าขอขอบคุณ คุณอรยา ด้วยภาพนี้แล้วกันนะคะ ใครนะแอบแกะปูนออกไปซะ แต่ก็สวยดีเหมือนกันนะ

ป้าหายไปแล้ว แหะๆๆ รออ่านอยู่นะครับ ^^

จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย    
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 18:01:17  

..........................................


ส่วนคุณแมลงภู่รับภาพนี้ไปนะคะ สวยไม่แพ้ภาพอื่นๆ เลยคะ ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาให้กำลังใจป้าในวันที่ป้าแอบหนีกระทู้ไปนอนซมอยู่บนเตียง

ตามไปเสียวแอนด์ซี๊ด

จากคุณ : BeeVee'    
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 16:17:20  
................


คุณ BeeVee คะเห้นภาพนี้แล้วต้องครางกันเลยคะ ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่ามันจะสวยมากขนาดนี้ ป้าแอบชมตัวเองอยู่เหมือนกันว่าป้าสวย อ้าวๆๆๆ ไม่ใช่ซะหน่อย ป้าถ่ายภาพออกมาสวยกะเขาเหมือนกันนะเนี่ย

ส่วนภาพนี้ขอมอบให้  คุณรวมฝันคะ  ไม่ทราบว่าตอนนี้ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะไปทำบุญใหญ่หรือเปล่า อิ อิ อิ รับรองได้ขึ้นสวรรค์แน่นอนอะ ป้าคอนเฟิร์มอะ

ขอหนีอีกสักครู่ใหญ่ๆ ไปเลี้ยงหมา ไปพักผ่อน ไปหาข้าวกิน ว่าไปตามเรื่องจ้า

ส่วนภาพนี้ขอมอบให้  คุณรวมฝันคะ  ไม่ทราบว่าตอนนี้ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะไปทำบุญใหญ่หรือเปล่า อิ อิ อิ รับรองได้ขึ้นสวรรค์แน่นอนอะ ป้าคอนเฟิร์มอะ

555555  ตัดสินใจแล้วค่ะ  ว่าจะไปเดือนพฤศจิกายนนี้  ตอนนี้กำลังศึกษาเรียนรู้หลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับการไปอียิปต์อย่างขมักเขม้น  แต่ในใจก็ปอดไปใช่น้อยเลย  ยิ่งโง่ ๆ อยู่ด้วยค่ะ  อยู่เมืองไทยก็ยังโดนหนุ่มอียิปต์หลอกมาแล้ว.......5555555   นี่จะไปให้มานหลอกถึงที่เลยเชียว  ยังไม่เข็ดอีก

งานนี้  แว่นกันแดดคงลืมไม่ได้เด็ดขาด  มีหวังได้เปลี่ยนบรรยากาศ  นั่งร้องไห้อยู่อียิปต์บ้าง  เอิ๊กก ๆ

แวะเข้ามาอ่านครับ ว่าแล้วว่าป้าต้องมาอัพต่อช่วงวันหยุด อิอิ


สารภาพว่ายังไม่กล้าไปแถวอิยิปต์ และอินเดียอะครับ ยังซ่าส์ไม่พอเท่าป้า ขออาศัยและสั่งสมประสบการณ์ไปอีกหน่อยนะ วันนึงจะตามรอย ส่วนวันนี้อ่านรีวิวป้าไปก่อนละกัน อิอิ

มหาวิหารอาบู ซิมเบล ยิ่งใหญ่จริง ๆ คุ้มค่าที่ได้ไปชมนะครับ แล้ววิหารเล็กของมเหสีล่ะครับ ได้เข้าไปชมข้างในด้วยหรือเปล่าครับ

หนูตามมาเที่ยวต่อช้าไปนิน่อยไม่ว่ากันนะคะ

มาคอยอ่าน :)

มากดดันอาจารย์ครับ

มาขอหนึ่งภาพด้วยนะคะ อยากได้กะเค้ามั่ง อิอิ

(ขอเล่านิดนุงว่า เมื่อวานคอมพัง ตอนกะลังอ่านรีวิวเจ้่าปร้าพอดี อาถรรพ์แรงนะเนี่ยยย) แต่ถึงคอมจะพัง ก้อจะดันทุรังมาอ่านรีวิวจ้าปร้า(แอบกดดันเล็กน้อย ครุคริ)

ขอเล่านิดว่าภายในเป็นอย่างไรนะคะ



ข้างในจะมีทางเดินแคบๆ ตอนนี้มีไม้รองไว้เหมือนสะพานคะ ให้เราเดินตามเข้าไป ทางแคบมาก ถ้าใครสักคนหยุดชมความงาม คนที่เดินตามหลังต้องฟันศอกแทงเข่ากระแทกตัวเข้าไป งานนี้เลยมีหงุดหงิดกันบ้าง



ส่วนแสงภายในถือว่าจัดดีมากคะ สีส้มสวยมาก ทำให้เห็นภาษาฮีโรกลิฟฟิกโดดเด้งขึ้นอีกมากมายเลยคะ


ห้องภายในมีหลายห้องเลยคะ การเดิมชมค่อนข้างวกวนพอสมควร บางทีเดินมั่วๆ กลับมาเจอห้องเดิมอีกคะ ภาพฮีโรกลิฟฟิกที่เห็นสูงท่วมหัวเลยนะคะ สูงน่าจะเกิน 4 เมตร เมื่อเข้าไปแล้วเราจะไม่เชื่อเลยว่าเขาจะสร้างวัดซ่อนอยู่ในดินได้ใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ ที่น่าปรบมือให้คือคนเขียนภาพ สุดยอดมาก!!!


..............

คุณ LittleEntchen  รับภาพนี้ไปจ้า

มากดดันอาจารย์ครับ

จากคุณ : englefield  
เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 21:58:04  
 
....................


ป้าจะกดดันคุณ englefield ด้วยภาพนี้คะ ภาพนี้ป้าถ่ายแบบตะแคงและไม่อยากกลับรูป เพราะเมื่อเรากลับรูปแล้วความสวยของภาพจะหายไปคะ


ภาพนี้อยู่ตรงกลางสุดของประตูทางเข้าคะ


ขอบคุณมากๆ นะคะที่เข้ามาให้กำลังใจ หายไปนานเชียวคะ

ยังอยู่ที่ประตูทางเข้าของวิหารแห่งแรกนะคะ เมื่อเดินกลับออกมา อะไรจะโชคดีปานนั้น เพราะแสงแดดดันสาดส่องเข้ามาพอดี แล้วมันก็กระทบเข้ากับฮีโรกลิฟฟิกตรงที่เลยข้ามประตูไปนิดหน่อย จุดนี้ห้ามถ่ายนะคะ




แต่เจ้าป้าทำเพื่อหลานๆ ได้เสมอ งานนี้รีบทำเนียน หยิบกล้องแล้วกดทันที จากนั้นแพนกล้องไปทางอื่น มีคนเดินผ่านมาด้วย สวยจริงๆ ชมคะ

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างแสงแดดจากธรรมชาติกับแสงสีส้มภายในจากไฟฟ้า ป้าให้คะแนนไม่ถูกว่าแบบไหนสวยกว่ากัน



นี่คืออีกภาพ กดมา 2 ภาพ ภาพนี้ขอกลับรูปนะคะ แล้วเทียบว่าภาพไหนสวยกว่ากัน

ภาพนี้้สำหรับคุณไก่เจี๊ยบจ้า แอบอ่านเงียบๆ ป้ายังจัดให้ งานนี้มีแจกกันทุกคน


ภาพนี้เดินเลยออกมาแล้วถ่ายกลับเข้าไปข้างในคะ แดดส่องเข้าไปเลยประตุแค่นิดเดียว เมื่อได้มา 4 ภาพ เป็นไปตามคาดคะ เพราะว่าเจ้าหน้าที่มาห้าม เลยต้องขอโทษ แต่ไม่ยอมลบภาพนะคะ

มาคอยอ่าน :)

จากคุณ : norsk    
เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 19:31:24  

............


ขอบคุณมากคะ รับรางวัลสินน้ำใจจากเจ้าป้าไปด้วยคะด้วยภาพนี้จ้า


ภาพนี้ตั้งใจซูมให้ใกล้ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดมากที่สุด ความอ่อนช้อยที่หาไม่ได้ในตัวเจ้าป้า

นักท่องเที่ยวที่มากับรถทัวร์คันใหญ่ๆ ป้านึกว่าจะ VIP  มากกว่าป้าที่มาด้วยราคา 90 เหรียญ ที่ไหนได้ทัวร์แบบนี้รีบมาก ป้าเห็นแต่ละคนเร่งเวลากันน่าดูเลยคะ




สำหรับการมาชมที่นี่ ป้าว่าทางเลือกอย่างป้าน่าจะดีที่สุด ใครที่ตั้งใจมาเองแล้วมานอนค้างที่อาบูซิมเบล สัก 2 คืน อันนี้ก็น่าสนใจคะ แต่โรงแรมที่นี่มีน้อยมากคะ ควรจองมาก่อนล่วงหนานะคะ


ตัวเมืองของอาบูซิมเบลเองไม่ได้อยู่ใกล้วิหารแต่อย่างใดนะคะ เมื่อจะมาชมวิหารต้องนั่งแท็กซี่เข้ามาคะ ราคาขึ้นอยู่กับการเจรจา


ป้าเองแอบดีใจที่มากับทัวร์จากโรงแรม เพราะเมืองอาบูซิมเบลนี่มันวังเวงมากเลยอะ แถมโรงแรมอยู่ตรงไหนบ้างก็ไม่รู้ มีหวังได้นอนคอกอูฐแน่ๆ

มาเข้าเรื่องของกินกันหน่อย



คืนก่อนเดินทางได้ไปผจญภัยในตลาดใช่มะ สิ่งที่ป้าสนใจมากที่สุดมันคือผลไม้ประจำตัวเจ้าป้า นั่นคือองุ่นไร้เมล็ดนะเอง


ร้านขายองุ่นอยู่ในซอยลึกหน่อย เพราะด้านนอกจะขายของที่ระลึกมากกว่า ของกินและผลไม้ต้องเดินเข้าข้างในให้หัวใจเต้นแรง



เมื่อคนสวยเดินเข้าไป เสียงวี้ดวิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดังลั่น ปลื้มละสิป้า เด็กหนุ่นผิวปากให้ซะขนาดนี้  ป้าขาสั่นเชียว เพราะไม่คิดว่าจะมากันทั้งกองพันไง แต่เมื่อเราเดินเข้าไปแล้วเราต้องมั่น อย่าได้แสดงความเขิลลลลลเป้นอันขาด!!!


ไอ้เด็กกลุ่มนี้คงเจอนักท่องเที่ยวมามากมาย ชักลามปามอะ เริ่มเข้ามาลวนลาม เรื่องจริงนะ เข้ามาจับตัว ลูบแขน หยาบคายมาก พยายามจะลวนลามแบบไม่เกรงใจเลยอะ  ป้าตกตะลึง เฮ่ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ซอยไม่ได้มืดเลยนะเนี่ย เล่นกันอย่างงี้เลยเหรอ งานนนี้ต้องด่า ตะโกนแรงๆๆๆ



ไม่ยอมไปฮะ เพราะกลุ่มใหญ่ไง เลยอยากจะอวดกันว่าใครแน่กว่ากัน ใครเจ๋งสามารถจับนมเหี่ยวๆ ของป้าได้ เชื่อมะคนที่มาช่วยป้าให้รอดนะคือคนขายองุ่น!!! งานนี้เลยต้องยอมซื้อองุ่นเป็นการตอบแทน



ราคาของผลไม้ที่อาบูซิมเบลแพงมากกว่าในไคโรคะ แทบไม่อยากควักตังค์ แต่ทำไงได้เขาช่วยเราแล้วนี่ ที่สำคัญต้องหาผลไม้กินบ้างเดี๋ยวริดสีดวงกำเริบอีก


เมื่อมาชมวิหารป้าเลยหอบเอาองุ่นทั้งโลติดตัวมาด้วย เดินชมวิหารไป มือล้วงองุ่นออกมากินอย่างมีความสุข องุ่นที่อียิปต์อร่อยจริงๆๆๆ

รูปปั้นหลายรูปโดนคนมือบอนไปจารึกชื่อของตัวเอง

ส่วนตัวอักษรที่เห็นที่แก้มไม่รู้ว่ามีมาก่อนแล้วหรือโดนใครจารึกลงไปคะ

ภาษาที่ยากที่สุดภาษาหนึ่งของโลก

อีกอารมณ์หนึ่งในวันที่แสงเป็นใจอย่างยิ่ง

ทำนายได้ว่าน่าจะโดนฆ่าหั่นศพ

นักท่องเที่ยวจากฝั่งวิหารของมเหสีเดินมาชมฝั่งของรามเสส 2

วิหารของมเหสีอยู่ห่างออกไปไม่น่าจะเกิน 200 เมตร ต้องเดินฝ่าแสงแดดอันโหดร้ายของที่นี่ หน้าเกรียมมากเลยคะ ร้อนและทรมานจริงๆ


เมื่อเราเดินห่างออกมา แล้วมองย้อนกลับไปที่วิหารของรามเสส 2 จะยิ่งประทับใจในความยิ่งใหญ่จริงๆ ป้าเกิดอาการอาวรณ์เลยเดินย้อนกลับไปอีก สงสัยโดนอาถรรพ์ ไม่อยากจะจากมาอะ

โดดข้ามตอนอื่น ๆ มาเม้นท์ให้ป้าก่อนเลย แบบว่า ตกกระทู้อียิปต์ไปนานมาก เลยต้องขอกลับไปย้อนอ่านก่อนนะคะป้า ^^

ภาพแห่งความอาวรณ์ ย้อนกลับไปแล้วเดินออกไปห่างๆ เก็บภาพนี้กลับมา

โดดข้ามตอนอื่น ๆ มาเม้นท์ให้ป้าก่อนเลย แบบว่า ตกกระทู้อียิปต์ไปนานมาก เลยต้องขอกลับไปย้อนอ่านก่อนนะคะป้า ^^

จากคุณ : @}-- เยอบีร่า --    
เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 12:10:48  
 
.......................


โหยยยยยยยยยยยยยยยยย   ป้าจัดภาพนี้ให้จ้า อ่านตามมาให้ทันนะคะ

เมื่อเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ระหว่างวิหารของฟาโรห์กับของมเหสี ต้องยกให้ฟาโรห์ใช่มะ มันธรรมดาผู้ชายยิ่งใหญ่มาตั้งแต่อดีต



แต่ภายในวิหารของมเหสีสวยกว่าของฟาโรห์มากคะ หรือเป็นเพราะป้าชอบมั้ง ไม่ให้ถ่ายภาพด้วยเหมือนกัน

ป้าจะมาต่อให้เร็วที่สุด แต่ขอไปเตรียมวีซ่าเข้าญี่ปุ่นกับตุรกีสาหรีสีแสบของป้าก่อนนะคะ

เนื่องจากอากาศที่ร้อนมากๆ ทำให้ที่วิหารของมเหสีป้าไม่ได้ถ่ายภาพมากนัก อาจจะมีความอลังการของรูปปั้นด้านหน้าน้อยกว่านั่นเอง ไม่ได้ซูมมาเลยสักภาพเดียว ยังเสียดายอยู่คะ



การเข้าชมข้างในไม่สามารถถ่ายภาพได้เช่นกัน ความงดงามสวยกว่าที่วิหารแห่งแรกค่อนข้างมาก การเข้าชมน่าจะเอายาดมเข้าไปด้วยนะคะเพราะว่าเหม็นมาก อากาศเอียนๆ ชวนให้คลื่นไส้อย่างยิ่งคะ



ใครที่ sensitive ควรเตรียมตัวให้พร้อมกันนิดนะคะ รวมทั้งควรทานอาหารมาให้เรียบร้อย บางครั้งความหิวจะทำให้ชมไม่สนุกด้วยคะ

เมื่อคิดว่าเราเสียเวลาไปนานพอสมควรและน่าจะใกล้เวลาที่่รถออกกันอีกครั้ง ป้าเลือกเดินกลับอีกเส้นทางเพื่อให้ได้ชมที่นี่รอบพอดี เดินเรื่อยๆ แบบไม่รรีบ กินองุ่นไปด้วยสบายใจมาก ด้านซ้ายมือของทางเดินคือทะเลสาปขนาดใหญ่มากที่มีน้ำใสแจ๋ว เห็นแล้วสบายตาอย่างยิ่ง



เนื่องจากในชีวิตไม่เคยใส่นาฬิกา มองรอบๆ ตัวทำไมมีแต่คนที่เราไม่รุ้จักเนี่ย ไม่คุ้นหน้าเลย คนที่มาด้วยกันหายไปไหนหมดเนี่ย ชักจะตกใจ หรือว่าตอนนี้ทุกคนกลับไปที่รถหมดแล้ว งานนี้เดือดร้อนแน่ๆ ถ้าตกรถจริงๆ จะทำยังไง เพราะไม่มีข้อมูลของเมืองอาบูซิมเบลเลยสักนิดเดียว โรงแรมราคาถูกแทบไม่มีเสียด้วย



เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกลมาก เดินเท่าไหร่ก็ไม่รอบซะที งานนี้เลยต้องวิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วิ่งจนหอบเลยคะ แทบตาย เมื่อผ่าน tourist information รวมทั้งร้านค้าขายของที่ระลึก แทบไม่ชายตามองเลยอะ ทั้งที่เห็นว่ามีของสวยๆ ขายเยอะมาก ป้าโกยสุดชีวิต



เมื่อกลับมาถึงลานจอดรถ!!! งานนี้แทบน้ำตาเล็ด มีรถมาจอดเป็นพันคัน มากจนจำอะไรไม่ได้ ป้าพยายามจะตามหารถโดยกลับไปดูที่เดิมที่รถจอด   แต่ไม่มี มีแต่รถทัวร์คันโต



ซวยสุดยอด รถหายไป ทำไมคนขับรถถึงไม่บอกว่าจะมีการย้ายที่จอดรถ แล้วใครจะไปปจำได้เนี่ย



ป้าเดินไปตามหาแถวที่เป้นรถตู้ทั้งหมด ดูตั้งแต่คันแรกจนถึงคันสุดท้าย จำอะไรไม่ได้เลย ป้าสังเกตเอาจากสีเบาะรถ ดูครบทุกแถว!!! ไม่มีรถของป้า



งานนนี้มีตุกติกอะเปล่า รถทิ้งเราเหรอ ทำไมถึงกล้าทำแบบนี้เนี่ย เมื่อหาด้วยตัวเองไม่เจอ ป้าเลยเข้าไปถามคนขับรถทั้งหมด แต่ละคนไม่รู้ ดันมาถามเราอีกว่าทะเบียนรถอะไร จำไม่ได้โว้ย แต่ถ้าเห็นตัวเลขจะบอกได้ ใครจะบอกถูกเพราะเป็นภาษาอารบิกอะ  ยอมรับว่าชุ่ยมาก น่าจะถามเสียก่อนว่ารถจอดตรงไหนกันแน่

ผ่านไปหลายนาทีไม่มีท่าทีว่าจะหาเจอ ถามไม่รู้กี่คน เดินร้องให้เลย


ตกใจมาก คิดไม่ออกว่าจะกลับอัสวานยังไง ป้าเดินหาไปด้วยร้องให้ไปด้วย



เจอใครถามหมดแต่ไม่มีใครช่วยได้ เพราะป้าจำไม่ได้ว่ารถทะเบียนอะไร



คนขับรถแถวนั้นยืนยันว่าเขาไม่ทิ้งลูกทัวร์แน่นอน ให้ใจเย็นๆ เดินหาเรื่อยๆ เดี๋ยวคงเจอ ป้าบอกว่าเนี่ยมันสายมากแล้ว เขาอาจจะไม่รอ คงทิ้งไปแล้ว ฉันขอขึ้นคันอื่นได้ไหม ขอแอบไปด้วย เดี๋ยวจ่ายค่ารถให้



เขาบอกว่าไม่มีที่ว่างหรอก ไม่น่าจะอาศัยใครได้ ต้องหารถให้เจอเท่านั้น

มีหลายคนมาช่วยเดินหา แถมยังไปชักชวนคนอื่นๆ มาช่วยหาด้วย เลยเกิดมหกรรมการหารถตู้ให้แม่นางเจ้าน้ำตา




มีคนหนึ่งเขาจำป้าได้ และจำได้ว่าป้ามากับรถคันไหน เขาพาไปส่ง ดีใจแทบตาย ป้าขอบคุณแล้วมีทิปปะ



เมื่อกลับมาถึงรถมีคนรออยู่บ้างแล้ว แต่ทุกคนโวยเหมือนกันหมดว่า ทำไมคนขับรถไม่ยอมบอกว่าจะเปลี่ยนที่จอดรถ แต่ละคนตามหารถกันจนท้อใจเหมือนกัน


กว่าจะได้ออกรถอีกครั้งก็สายมากเพราะมีคนหนึ่งที่หลงอยู่นานมาก แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเขาก็รอคะ แถมยังกลับเข้าไปตามคนที่มาทีหลังจากภายในวิหารด้วยคะ

ร้านค้าขายของที่ระลึกที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ไม่ซื้อแค่เข้าไปดูก็คุ้มแล้วคะ จะได้เห็นอะไรแปลกอีกมากมาย ป้ารู้ได้ไงในเมื่อป้าไม่ได้แวะไม่ใช่เรอะ

มาอ่านรีวิวภาคบ่ายต่อ..
แก้ง่วงดีจังคะป้ากาญจน์

เมื่อกลับขึ้นรถแล้ว สมาชิกพร้อม ทุกคนหลับกันไปอย่างเหน็ดเหนื่อยมาก



รถวิ่งเร็วมาก มีคำอธิบายสั้นๆ ว่าเรากำลังกลับสู่อัสวาน ได้ยินแล้วแอบเซ็ง น่าจะพาเข้าไปชมเมืองอาบูซิมเบลสักหน่อย ไม่น่าจะพาชมแค่แค่วิหารอาบูซิมเบล  ได้ดูบรรยากาศในเมืองเป็นขวัญตาสักหน่อย



ไกด์ไม่ได้อธิบายไรเลยว่าจะไปไหนต่อ ทุกคนเลยเข้าสู่การนิทราที่สุดแสนทรมานมาก




รถตู้มาจอดอีกครั้ง ณ สถานที่แห่งหนึ่งแล้วบอกว่า จะะลงไปดูไหม ถามทำไมเนี่ย ในเมื่อโปรแกรมบอกไว้ว่าต้องมาที่นี่อยู่แล้ว ไกด์พยายามชักจูงให้พวกเราเปลี่ยนใจไม่ลงอะ เขาจะได้กลับเร็วๆ

ซ้ำจ้า

สถานที่ที่เขาพามาคือ HIGH DAM คะ อ้างว่าเขื่อนก็คือเขื่อน ไม่มีไรพิเศษเลยนะ จะดูทำไม มีแต่น้ำ ไม่เคยเห็นน้ำกันหรือไง



อ้าวๆๆๆๆๆๆพูดงี้ก็สวยสิ  ในเมื่อจ่ายเงินแล้ว จะไม่ดูได้ไง เขื่อนแห่งนี้มันยิ่งใหญ่มากจนทำให้วิหารอาบูซิมเบลจมลงใต้น้ำ ใครๆ ก็อยากมาเห็นด้วยตาตัวเองว่ามันใหญ่ขนาดไหน มันจะใหญ่กว่าเขื่อนภูมิพลกี่เท่ากันเนี่ย



เขาพูดมาก ย้ำหลายครั้ง มีแต่สันเขื่อนจะดูทำไม ไม่มีไรดูกันแล้วหรือไงถึงจะลงไปดูสันเขื่อน



ลูกทัวร์ทุกคนไม่มีใครยอม ได้แต่มองหน้ากัน ไม่รุ้จะเอายังไงดี จนมีวีรบุรุษคนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความโมโหอย่างยิ่ง ไอจะดูที่นี่ จอดรถเดี๋ยวนี้ จะดู จะลง


ไกด์ยังไม่เลิกความพยายาม มีแต่น้ำจะดูทำไม สองคนนี้เลยแทบจะตีกันตาย สุดท้ายคนขับบอกว่า เอางี้แล้วกัน ไม่ต้องลงจากรถเดี๋ยวจะพาวิ่งไปบนสันเขื่อน


เมื่อมีสักคนที่กล้า คนอื่นๆ เลยเอามั่ง ยืนยันว่าจะลง สุดท้ายคนขับรถพาเราไปจอดลงตรงสถานที่แห่งหนึ่ง!!!

แล้วไกด์หันมาถามว่าใครจะลงบ้าง ใครที่ไม่อยากดูให้รอที่รถ



มีบางคนเลือกรอที่รถคะ คราวนี้ไกด์ถามหาเงินคะ เขาจะซื้อตั๋วให้เราคะ ราคา 40 เหรียญ



วีรบุรุษบอกว่า noway ไอจะซื้อเอง แล้วเขาเป็นตัวตั้งตัวตีคะ ก่อสงครามกับไกด์ซะงั้น ไกด์ไม่ยอมอ้างโน่นอ้างนี้วุ่นวายมาก ลีลาด้วยคะ ไม่ยอมบอกว่าซื้อตั๋วที่ไหน



แต่ในที่สุดเราได้ตั๋วมาคะ ราคาตามที่เห็น ดีนะที่ไม่ให้ไกด์ซื้อให้ โดนฟันยับเลยนะเนี่ย โกงทุกวิถีทางจริงๆ พี่น้องเหอ!!!


เขาให้เวลาเรา 20 นาทีกับการชมเขื่อนที่ใหญ่โตขนาดนี้ อ้างแค่ว่าถ่ายภาพแล้วให้กลับขึ้นรถทันที โหดดดดดดดดดดดดมากกกกกกกกกกก

ด้านล่างของเขื่อนไม่มีไรเลยจริงๆ ด้วย

รายละเอียดของเขื่อนแห่งนี้คะ

ขั้นตอนการทำว่ากันว่ายิ่งใหญ่จริงๆ ก่อสร้างหลายปีมากคะ

ขนาดอาจารย์เจ้าป้า  ยังร้องไห้เลย  แล้วถ้ารวมฝันไปมันจะน่าเวทนาขนาดไหนเนี๊ยะ  เฮ๊ออออ.........

เรื่องหลงทางนี่มันเป็นเรื่องประจำตัวเลยด้วย  ไม่เคยจำอะไรได้เลย  ไม่รอดกลับมามั้ยรวมฝัน

เมื่อลงจากรถแล้วแต่ละคนวิ่งขาขวิดเลยคะ ทำเวลากันเต็มที่


คนเยอะพอสมควร ต้องรอคิวถ่ายรูปนานหน่อย ไม่รู้ทำไมต้องมาชอบวิวเดียวกันด้วย ส่วนใหญ่พยายามถ่ายลงไปที่ใต้เขื่อนที่ไม่มีน้ำสักเท่าไหร่คะ แต่พยายามจะถ่ายให้เห็นความยาวของสันเขื่อนคะ



เมื่อไม่สามารถแทรกตัวไปได้ ป้าปลีกกตัวมาหาสาระที่บอร์ดข้อมูล อืมๆๆๆทึ่งกับที่นี่จริงๆ



ภาพนี้บอกรายละเอียดว่าเมื่อสร้างเขื่อนแห่งนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง สถานที่สำคัญที่อยู่ใกล้ๆ กับเขื่อนแห่งนี้คะ

บนสันเขื่อยที่ใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริกา


น้ำเหนือเขื่อนจำนวนมากมายมหาศาลที่ช่วยในการเกษตรของประเทศอียิปต์

นี่คือสภาพรถตูที่พากพวกเราไปปชมวิหารสุดอลังการ



ขากลับเลยบ่ายไปปแล้ว รถตู้คันนี้ไม่มีแอร์ แจ่มไหมละ ร้อนมั่กๆๆๆๆๆๆๆ




คนเต็มรถจนแทบจะนั่งตักกันเลยคะ แถมยังต้องมาแย่งอากาศกันอีก เมื่อใครบางคนเปิดหน้าต่าง งานนี้ต้องปิดทันทีเลยคะ เพราะทรายพัดเข้ามา


นี่คือการอบเนื้อแห้งที่ทรมานมากๆ ใครที่ทนอากาศร้อนไม่ได้ อย่าใช้วิธีป้าเลย เลือกไปรถทัวร์ใหญ่ๆ ดีกว่าเพราะมีแอร์บริการด้วยคะ



มาที่เรื่องน้ำดื่มบ้าง มีคนทักป้าว่า ทำไม you ซื้อน้ำแค่ขวดเดียว จะพอเหรอ


ตอนแรกป้าแอบทำปากเบ้ จะดื่มไรกันนักหนาเนี่ย ฉ้านกลืนน้ำลายตัวเองก็น่าจะพอ ที่ซื้อมา 1 ขวดนี่ก็มากเกินพอ



เชื่อมะว่ามันหมดไปอย่างรวดเร็วมาก กลับมาบนรถแล้วหิวน้ำมาก แทบจะขอน้ำของคนอื่นมาดื่มเลยอะ แต่อายอะ เลยต้องกลืนน้ำลายตัวเองไปจนคอแห้งเป้นทะเลทรายไปอีกแห่ง


ต้องบอกอีกอย่างนะว่า รถตู้วิ่งยาวกว่า 3 ชั่โมงเลยอะ ไม่มีการจอดที่ไหนทั้งนั้น ไม่มีการแวะปั้ม จอดหาส้วมเลยอะ เพราะตลอดสองข้างทางมีแต่ทะเลทราย ใครที่กระเพาะปัสสาวะรั่ว งานนี้มีเศร้า


แต่ที่น่าปลื้มใจแทนเพศชาย คนขับปวดเยี่ยว แกหาได้แคร์ใครไม่ จอดรถปุ๊ป รูดซิ๊ปปั๊ป เยี่ยวอย่างสบายใจเฉิบๆๆๆๆๆ  สาวๆ ได้แต่กลืนน้ำลาย

ภายในคะดูว่าหรูหรานะเนี่ย  ผ้ารองหนามากมาเจอกับอากาศที่ร้อนมากๆ


เหม็นเหงื่อตัวเอง เหม็นเหงื่อคนข้าง และเหม็นเหงื่อนคนขับด้วย กลิ่นตัวแรงมากๆๆ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไกด์ลงจากรถเดินตามประกบและคอยเร่งอยู่ตลอดเวลา งานนี้เลยได้ชมไปแค่ 20 นาที จากนั้นขึ้นรถกั้นอีกครั้งมุ่งสู่จุดหมายต่อไปที่ถือว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่อื่นๆ



รถมาจอดลงอีกครั้งด้านหน้าสถานที่ดูแล้วเป็นร้านขายของที่ระทึก!!! มากมายหลายร้านตื่นตาตื่นใจกันอีกครั้ง ไกด์แจ้งว่าที่นี่คือ Philae temple วิหารที่ครั้งหนึ่งเคยจมหายไปใน Lake Nassue มายาวนานหลายปี


ปัจจุบันนี้ Philae temple  ถูกย้ายจากที่ตั้งเดิมมาสร้างขึ้นใหม่บนเกาะเล็กๆ กลาง Lake Nassue  ที่มีพื้นที่เล็กมากจริงๆ สามารถวาง Philae temple  ได้พอดี ขั้นตอนการย้ายมีภาพถ่ายขาว-ดำเล่าเรื่องราวไว้เห็นแล้วต้องชื่นชมให้กับนักโบราณคดียุคนั้นจริง ทำงานกันอย่างเข้มแข็งมาก  



ถือว่าเป็นงานชิ้นสำคัญของประวัติศาสตร์เลยคะ ใช้คนงานจำนวนมากกว่าที่จะย้ายวิหารทั้งวิหารขึ้นมาได้หมด แล้วมาวางใหม่โดยให้เหลือเค้าโครงเดิมให้มากที่สุด


เสาแต่ละต้นของที่นี่ใหญ่มากๆ ใหญ่กว่าตัวคนหลายสิบเท่า ทำกันได้ไงเนี่ย มีบันทึกเล่าไว้ว่าการสร้าง High Dam ทำให้วิหารที่สำคัญของชาวไอยคุปต์จมลงใต้น้ำนับ 10 แห่ง นักโบราณคดีต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปีถึงจะรื้อขึ้นมาแล้วสร้างใหม่ได้จนเกือบครบทั้งหมด  ต้องปรบมือให้เลยคะ





ร้านขายของที่ระลึกหน้า Philae temple   เนื่องจากอากาศร้อนมากๆ เกิน 40 องศาแน่นอน ร้านขายหมวกเลยขายดีมากๆๆๆๆ มาเที่ยวอียิปต์แล้วสิ่งที่ห้ามมลืมคือ แว่นกันแดดและหมวกนี่ละคะ สำคัญมากๆ

ไกด์นำเสนอว่าจะซื้อตั๋วให้อีกครั้ง แต่ตอนนี้ทุกคนรุ้ทันแล้วเลยปฏิเสธกันเสียงห้วนเชียว


เขายังนำเสนออีกว่า จะช่วยเหมาเรือให้พวกเรา ตอนได้ยินคำว่าเรือ ป้าเองถึงกับงง เพราะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า Philae temple  ตั้งอยู่บนเกาะ ความจริงไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าภายใน Lake Nassue มีวิหารอีกตั้งหลายแห่งซ่อนตัวอยู่ ไม่รุ้จัก Philae temple  เลยด้วยซ้ำคะ เป็นความโชคดีมากๆ ที่เลือกมากับทัวร์นี้ เพราะความรู้ดั้งเดิมรู้แต่ว่าอัสวานมี Abu simbel เท่านั้นเอง




ถือว่านี่คือของแถมที่น่าประทับใจมากที่สุด เพราะราคาที่จ่ายไปคิดว่าได้ดูแค่ Abu simbel ก็พอกล้อมแกล้มแล้วคะ



ไม่มีใครยอมให้ไกด์ซื้อทั้งตั๋วและเหมาเรือ หลายคนที่มาด้วยกันและรุ้จักกันเลยสุมหัวกันแล้วคิดว่าน่าจะเหมาเรือด้วยตัวเอง ส่วนป้าไม่รู้จักใครเลยเดินลงท่าเรือด้วยหวังว่าจะซื้อตั๋วแบบรายบุคคลได้


เมื่อไปถึงท่าเรือ เราต้องกลายร่างเป็นเหยื่อกันอีกครั้ง คนเรือที่นี่กดดันเก่งมาก เขาไม่ยอมให้เราซื้อตั๋วรายบุคคลทั้งที่อ้างว่าไอมาคนเดียว งานนี้ป้าเลยต้องยืนเซ่อเลยอะ จะให้ตูไปรวมกับใครเนี่ย ตูไม่รู้จักใคร แล้วตูจะได้ลงเรือไหมเนี่ย

มีบางคนเหมือนกันที่มาคนเดียวแล้วยังทำเย่อหยิ่งไม่ยอมสร้างสัมพันธ์ไมตรีกับใคร เดินเข้ามาซื้อตั๋วคนเดียว อิ อิ อิ ไม่ขายอะ งานนี้ป้าเลยมีเพื่อน



ป้ารีบเดินไปบอกว่า เขาไม่ขายให้เดี่ยวๆ หรอก เพราะส่วนใหญ่มาทกับทัวร์อะ เขาเหมากันทั้งนั้นเลย เราจะทำไงกันดี



งานนี้เลยต้องรอกลุ่มเพื่อนๆ จากรถตู้คันเดียวกัน เมื่อกลุ่มใหญ่เข้ามาถึงจุดที่ซื้อตั๋ว ป้าเลยนำเสนอใบหน้าเน่าๆมันๆ เยิ้มๆ เข้าไปบอกว่า ไอขอรวมกลุ่มด้วยนะ แหะๆๆๆๆ ไม่รวยพอที่จะเช่าเหมาลำเพียงคนเดียวอะ

มีคนหนึ่งในกลุ่มตั้งตัวเป้นหัวหน้าเข้าไปเจรจาราคา ราคาโหดมาก เพราะถือว่าคนเรืออยู่ในสถานะที่ได้เปรียบ ใครที่มาถึงแล้วย่อมอยากจะเข้าชม Philae temple  กันทั้งนั้น และมีทางเดียวเท่านั้นที่จะไปปชมได้คือต้องลงเรือ



เจารจากันนานมาก ราคาที่คนเรือเสนอคือ 20 เหรียญต่อคน ไม่สนว่ามากี่คน จะเอาเท่านี้  เราแข็งข้อกันบ้าง ได้เรื่อง เพราะเขาพวกเดียวกันทั้งหมด เมื่อลำนี้ไม่ไป เขาจะไปบอกอีกลำให้ไม่รับเราด้วยอะ สุดท้ายได้มาที่ราคา 15 เหรียญต่อคนคะ ยอมมันไป งานนี้บอกได้ว่าต้องยอมคะ



ไกด์ให้เวลาสำหรับที่นี่ 1 ชั่วโมงรวมเวลาที่อยู่บนเรือด้วย เสียเวลาเข้าแถวซื้อตั๋วนานมาก มาเสียเวลาเจรจาเรืออีก แล้วไหนจะนั่งเรือไปอีกตั้งไกล โฮ่ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะได้เห็นไรไหมเนี่ยหะ

ท่าเรือที่มีเรือจอดรอเหยื่ออยู่นับร้อยลำ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเดียวกัน การต่อราคาเลยไม่ได้เปรียบเท่าไหร่


พยายามรวมกลุ่มใหญ่ๆ เข้าไว้แล้วเอาคนที่โหดๆ เข้าไปเจรจาราคา อาจจะได้ราคาลดลงมาหน่อย แต่คงไม่มากนัก


เนื่องจากคนขับรถให้เวลาน้อย พยายามรวมกลุ่มกันก่อนลงจากรถ แล้วเข้าไปเจรจาเลยจะได้ไม่เสียเวลามากเกินไป การซื้อตั๋วก็เหมือนกัน บางครั้งเจอทัวร์คันโตๆ มาพร้อมกันหลายๆ คัน งานนี้หมดเวลาพอดีเมื่อได้ตั๋ว ถ้ารวมตัวกันแล้วเข้าไปซื้อสักคนจะประหยัดเลาเยอะมากคะ

นอกจากจะโดนรุมทึ้งขึ้นเรือแล้ว ยังโดนดักให้ช่วยซื้อของที่ระลึกอีกด้วยคะ


ราคาจะแพงกว่าด้านหน้าหรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ แต่ตุ๊กตาบางแบบก็สวยดีคะ  และนี่คืออีกเหตุผลที่ทำให้เราเสียเวลาเพิ่มขึ้น เพราะมัวแต่เลือกของที่ระลึกคะ

เพื่อนร่วมทาง แต่ละคนเริ่มบนถึงความขี้โกงของคนขับรถ ไกด์ และอีกหลายๆ อย่างๆ คะ บางคนยังบ่นอยุ่กับราคาค่าเรือที่แพงเกินไป  เพราะคิดว่าระยะทางไม่น่าจะไกลมาก ไม่ควรจ่ายแพงขนาดนี้ ไปกันตั้งหลายคนควรจะราคาต่ำกว่านี้




เรือจะออกจากท่าเมื่อคนขับเรือพอใจ เมื่อเราไปเร่งให้ออกเร็วๆ โดนโวยวาย แม้เราจะรวมกลุ่มกันแล้วเขาก็ยังรอเหยื่อยรายต่อไปอีก คนคิดว่าคุ้มมากที่สุดแล้วถึงจะออกจากท่าเรือซะที

ภายใน Lake Nassue มีเกาะร้างอยู่หลายแห่งคะ เรือล่องผ่านเกาะแก่งเหล่านี้ไปเรื่อยๆ สายน้ำเย็นฉ่ำจนหายร้อนไปมากมาย  รอบๆ ทะเลสาปมีทั้งสายน้ำ เกาะต่างๆ รวมทั้งภูเขาเตี้ยๆ ที่เห็นไกลออกไป บรรยากาศแปปลกตาดีคะ

เกือบ 20 นาทีก็มาถึง Philae temple  สภาพที่เห็นคือกำแพง ยอมรับว่าไม่ปลื้ม ให้มาดูไรเนี่ย มันกำแพงไม่ใช่เหรอ



ฉันอยากดูภาษาฮีโรกลิฟฟิกสวยๆ อะ ชอบอะ ทำไมพามาดูกำแพงเนี่ย


ก่อนลงจากเรือต้องตอกย้ำคนเรือกันนิดหน่อยเรื่องเวลาที่มารับ เราสั่งให้เขารอ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรอหรือเปล่า อาจจะกลับไปก่อนแล้วหาลูกค้าเพิ่มอีกสักเที่ยว แล้วค่อยมารับพวกเรากลับ



งานนี้ไม่น่าห่วงมากนัก เพราะยังไม่มีใครจ่ายตังค์นะเอง

จากท่าเรือต้องปีนป่ายให้พอเสียวๆ หัวใจเล่น เสี่ยงต่อการตกน้ำเป้นอย่างยิ่ง  เพราะทางขึ้นชันมาก แถมยังแคบมากด้วยคะ คู่รักสูงวัยต้องประคองกันเลยคะ


เดินประมาณ 100 เมตร จากกำแพงที่เจ้าป้าเบะปากใส่ กลายเป็นบงอย่างที่มนุษย์ยุคก่อนฝากให้มนุษย์หน้าโง่อย่างป้าได้ชื่นชม ดูให้ดีๆ จะเห้นว่ามีอะไรบางอย่างอยู่บนกำแพงด้วยคะ

มีเสาโอเบลิกส์(เขียนแบบนี้หรือเปล่าคะ) ดูไกลว่าเล็กมาก ภาพนี้แอบถ่ายจากซองพงหญ้าคะ


เมื่อเข้าไปถึงที่เสาจริงๆ สงสัยต้องใช้หลายคนโอบคะ

ถ่ายจากด้านหน้าของท่าเรือคะ   สภาพอาจจะดูแห้งแล้งไปนิดนะคะ


แต่บริเวณรอบๆ ริมน้ำจะมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมดคะ มีส่วนที่เป็นสีเขียวอยู่บ้างเหมือนกันคะ แต่ป้าเชื่อว่าไม่มีใครสนใจส่วนที่เป็นสีเขียวหรอกคะ

นี่คือส่วนแรกที่ป้าแวะเข้าชม หลายๆ คนเดินเลยจากไปก่อน เพราะคิดว่าตรงนี้ไม่ค่อยสวยมากนัก



ป้าเองไม่มีข้อมูลเลยไม่ทราบว่าจุดสำคัญของ Philae temple  อยู่ตรงไหน แต่ความจริงแล้วอยากเห็นทั้งหมดคะ


อยากแนะนำว่า Philae temple  มาเองได้นะคะ เพราะว่าอยู่ไม่ไกลจากอัสวานมากนัก ไม่น่าจะเกิน 30 กิโล เหมาแท็กซี่มาคะ แล้วลงเรือด้วยตัวเองโดยรอเข้ากลุ่มกับคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของท่านแล้วจากไปเมื่อชมเสร็จแล้ว  



ใครที่ชอบถ่ายภาพ น่าจะมาอยู่นานๆ เลยคะ มีจุดที่ให้ถ่ายภาพเยอะมาก มากกว่าที่วิหารอาบูซิมเบลด้วยคะ


ภาพนี้ไม่ค่อยชัดและไม่สวยมากนักเพราะยังงงอยู่กับทิศทางของแสงแดดยามบ่ายคะ ภาพเลยย้อนแสง ชมเวลาเช้าน่าจะดีกว่านะคะ

เลยจากจุดแรกในภาพก่อน จะมีทางเดิมเชื่อมต่อกันไปเลยคะ ทางเดินไม่กว้างมากนัก รายล้อมด้วยเสา โอเบลิกส์  คิดว่าน่าจะเกือบ 50 ต้นกันเลยคะ



ความรู้ดั้งเดิมอันน้อยนิดของป้าเข้าใจว่าเสาโอเบลิกส์นี้มีแต่ที่ยุโรปหรืออิตาลี ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะมีที่นี่ด้วย และไม่คิดด้วยว่าจะมีขนาดใหญ่มากเยี่ยงนี้



ลักษณะของเสาตรงส่วนปลายโดมมันเป็นศิลปะของโรมหรือเปล่าคะ ป้าเองมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์น้อยมาก ผิดพลาดอย่างไรต้องของอภัยด้วยคะ



เสาที่เห็นทั้งหมด เมื่อแหงนจนคอตั้งบ่า จะพบว่าแต่ละเสาจะมีลวดลายต่างกัน โดยเฉพาะตรงปลายโดมจะสวยมาก สุดยอดจริงๆ บางยอดมีการวาดลวดลายแล้วลงสีไว้ด้วยคะ ตะลึงมากจริงๆ

ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อยคะ

คานบางส่วนหลุดร่อนไปบ้าง เหลือร่องรอยของฮีโรกลิฟฟิกไว้ให้ชมนิดหน่อย ส่วนที่ตัวเสายังมีเต็มๆ คะ แต่ยังถือว่าไม่สวยมากนักคะ

ฮีโรกลิฟฟิกแบบจัดเต็ม แผ่นหินอันนี้วางอยู่ด้านนอกของมหาวิหารคะ โดนแสงแดดพอดี สวยหน่อย

ภาพนี้ต้องการให้เห็นว่าด้านบนมีการแกะสลักใบหน้าไว้ด้วยคะ มีรอบ 4 ทิศทางเลยคะ  ส่วนใหญ่เเป็นใบหน้าของหญิงสาวคะ

อีกแผ่นคะ วางอยู่ด้านนอกเช่นกันคะ



จะเห็นว่าภาพสลับกันไประหว่างด้านนอกกับด้านใน มีเหตุผลคะ เมื่อชมด้านในมากๆ ต้องเงยหน้าคะ เริ่มมึน เวียนหัวมาก ป้าก้จะเดินออกมาด้านนอกเพื่อให้หายมึนแล้วกลับเข้าข้างในใหม่คะ

น่าเสียดายที่กลีบดอกไม้บริเวณส่วนยอดของเสาโอเบลิกส์(ขอเรียกแบบนี้นะคะ) ส่วนใหญ่จะหักเสียหายไปเกือบทั้งหมด ไม่แน่ใจว่าเกิดจากการรื้อถอนแล้วน้ำมาสร้างใหม่ หรือเสียหายมาก่อนหน้านี้แล้ว





ลวดลายส่วนที่เป้นกลีบดอกไม้จะค่อนข้างอ่อน้อยสวยงาม เห้นแแล้วรับรุ้ได้ถึงความตั้งใจชองช่างในอดีตที่ทำเพื่อฟาโรห์ที่พวกเขาเคารพคะ


ภาพนี้ถ่ายตะแคงนะคะ

อีก 3 เสาคะ ถ้าถ่ายด้วยเลนส์ดีๆ คงสวยมาก ไม่ต้องตะแคงถ่ายอย่างที่เจ้าป้าทำ


ลองกลับภาพให้อยู่ในแบบปกติแล้วคะ ไม่สวยเลย เสียสมดุลมาก เลยต้องวางแบบนี้คะ

เบื่อโหมดปกติเลยเปลี่ยนเป็นซีเปียดูบ้างคะ

อีกหนึ่งดอกที่จะมอบให้กับผู้อ่านทุกท่านคะ

ดอกนี้ลายไม้กวาด

เปลี่ยนบรรยากาศมาชมกระโปรงสวยๆ กันอีกครั้งคะ


สองลูกที่อยู่ในมือใช้บ่อยๆ แถว 3 จังหวัดภาคใต้หรือเปล่าเนี่ย นอกเรื่องแล้วป้า


สังเกตให้ดีนะคะ ผู้ชายไว้ผมยาวเกือบทั้งหมด แต่ละคนผมเรียบแปล้เลยคะ

ตกแต่งทรงผมได้จ๊าบมั่กๆๆๆๆ

ส่วนทรงนี้ก็เก๋ไม่แพ้กันคะ ใครจะเลียนแบบก็ไม่ว่ากันนะคะ

ทางเดินที่รายล้อมด้วยเสาโอเบลิกส์  ต้องบอกนิดนึงว่าที่นี่แทบไม่มีเจ้าหน้าที่คอยมาดูแล ภายในค่อนข้างสกปรก ที่สำคัญคือกลิ่นเหม็นมาก มาจากกลิ่นขี้นกคะ



บนยอดเสาสวยๆ ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่ของนกพิราบทั้งนั้น หลายรังเลยคะ ที่พื้นคือขี้นกมากมายไปหมด บางเสาเลอะมาก น่าจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยทำความสะอาดบ้าง



หรืออาจจะตั้งใจให้สกปรกแบบนี้เพื่อให้ดูว่ามันเก่า ขลังดี น่ากลัวหน่อยๆ คะ

ชอบลายไหนเลือกกันได้เลยคะ สร้างเรือนหอครั้งหน้าเอาเสาใหญ่ๆ เลยคะ

ขาว-ดำบ้างดีกว่า

เมื่อยามร้างคน

กลับมาที่ลวดลายกันอีกที สงสัยป้าแกจะชอบจริงๆ นะเนี่ย ภ่ายภาพหัวเสามามากมายเลยอะ

นอกจากยอดเสาสวยๆ แล้ว บริเวณตัวเสาเองก็มีความงดงามไม่แพ้กัน เกือบทุกเสาจะมีภาษฮีดรกลิฟฟิกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ไว้เช่นกัน



บางเสายังสมบูรณ์มาก บางเสาอาจจะมีการหลุดร่อนไปบ้าง เลยเห็นเทพเจ้าในรูปแบบที่เรียกว่าพิการคะ


ภาพนี้หายทั้งขาและหัว   ถ้ามองเผินนึกว่าเขมรอีกแล้วคะ

ส่วนเสาต้นนี้ถือว่าสมบูรณ์มากคะ

จุดนี้ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดเช่นกันคะ

ชมส่วนที่เป้นเสาโอเบลิกส์กันไปแล้ว จริงๆ แล้วส่วนนี้ยังไม่ใช่  Philae temple  


ด้านหน้าทางเข้าของ  Philae temple   จะมีประตุเล็กๆ ให้ลอดผ่านเข้าไปภายในที่ค่อนข้างมืดนิดหน่อย แค่ประตูก็ประทับใจแล้วคะ ดูภาพกันเลยคะ

มีพนักงานต้อนรับหลายพระองค์ยืนรอนักท่องเที่ยวมายาวนานหลายพันปีอย่างไม่เบื่อหน่ายคะ


ภาพนี้เลือกมา 2 พระองค์เพื่อให้เห็นรายละเอียดกันชัดๆ คะ

บางส่วนของแผ่นประตูเมื่อดูกันชัดๆ

ผ่านเข้ามาข้างในแล้วต้องตกตะลึงมากๆ ภาพทุกภาพยืนยันว่าทำไมป้าชอบที่นี่มากที่สุด

จัดแสดงได้สวยจริงๆ ดึงความโดด้ดงของภาพออกมาทุกขุมขนเลยอะ

อยากให้มีใครแปลได้จริงๆ เลยคะ


อยากรู้จริงๆ ว่าเขาต้องการบอกอะไรกับคนรุ่นหลังอย่างพวกเราคะ

ยืนยันอีกทีว่าไม่มีใครอ้วนคะ

น่าจะเป็นพิธีการที่สำคัญอย่างยิ่ง เครื่องเซ่นไหว้ครบสมบูรณ์แบบจริงๆ คะ

ด้านล่างมีภาพเปลือยด้วยคะ



ภาพนี้ตั้งใจถ่ายมาอย่างละครึ่ง ได้ด้านบนครึ่งตัว และด้านล่างครึ่งตัว

อ๋า.......ที่นี่มันสุดยอด จริง ๆ  ค่ะ  อาจารย์

รวมฝัน  แปลได้บ้างนะคะบางรูป แต่ไม่กล้าลงหรอก  กลัวมันไม่ถูกต้องกับความรู้ งู ๆ ปลา ๆ  และลืมไปเยอะแล้วเหมือนกัน  พอดีเคยได้ศึกษามาบ้างหลายปีแล้ว  และได้ข้อมูลมาจากอินเตอร์เน็ต   ไม่มีอะไรยืนยันว่าใช่เต็มร้อย.........

แต่ว่ากำลังตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้เห็นภาพจากผนังด้านใน  ในตอนนี้ค่ะ

ลงรูปแจมนะคะ  อันนี้เป็นกรอบกระจก  ฝีมือเพ้นท์โดยรวมฝัน .........

หวัดดีคะคุณรวมฝัน ขอบคุณมากๆ คะสำหรับภาพ มาแจมได้เลยคะ กระทู้ป้าเสรีจ้า ป้าจะได้เห็นของคนอื่นๆ บ้าง มุมมองอื่นๆ ที่แปลกและแตกต่างคะ



ไปเที่ยวโดยที่แปลได้ด้วยถือว่าสุดยอดคะ เพราะเราจะได้ชมอย่างสนุกมากขึ้นด้วยไงคะ เข้าใจเรื่องราวต่างๆ มากขึ้น น่าจะประทับใจมากขึ้นด้วยคะ



แอบเอาภาพจากบางภาพของป้าไปเพ้นท์บ้างนะคะ แหะๆๆๆๆ แล้วแกล้งส่งมาให้ป้า ป้าไม่ได้ขอนะเนี่ย แค่บอกว่าแกล้งส่งมาอะ ป้าเอามาติดคฤหาสน์จ้า




เพ้นท์ได้สวยมากๆ เลยคะ เป็นศิลปินระดับชาติที่แอบเข้ามาอ่านกระทู้ป้าปะเนี่ย เดี๋ยวป้าโก๊ะไปจะแย่นะเนี่ย


ป้าแถมภาพนี้ให้จ้า ขาดๆ เกินๆ ไปบ้างไม่ว่ากันนะคะ

ภายในวัดจะจัดห้องด้วยแสงที่แตกต่างกันเลยได้หลายอารมณ์คะ



บางห้องจะเปลี่ยนแสงเป็นสีทึมๆ อาจจะถ่ายภาพออกมาไม่สวยมากนักแต่ก็แปลกดี




การชมภายในมันได้บรรยากาศมากตรงที่จะมีชาวนูเบียนเข้าไปยืนบ้าง นั่งบ้าง แอบดูเราบ้าง บางคนอาสาเป็นไกด์ด้วยคะ เรื่องราคาอย่ามาถามป้า



ป้าเองแอบสงสัยว่าเขาเหล่านั้นอ่านภาษาฮีโรกลิฟฟิกได้ด้วยจริงเหรอ แต่ถ้าเขาจะโกหกเรา เราก็คงจะจับไม่ได้หรอก แถมอาจจะไปเซ่อเชื่อเข้าให้อีกคะ


ภาษาฮีโรกลิฟฟิกที่เห็นทั้งหมดน่าจะเป็นของเิมตั้งแต่ยุคโบราณ ไม่น่าจะเขียนขึ้นใหม่ เพราะดูยังไงก็เก่าจริงๆ คะ แต่มีอยูที่หนึ่งที่เข้าไปแล้วเสียดายตังค์อย่างยิ่ง ยังไม่เฉลยว่ามันคือที่ไหน ต้องตามป้าต่อไปคะ

ทุกกำแพงของแต่ละห้องภายใน Philae temple  เต็มไปด้วยความอลังการของสิ่งนี้คะ ชมเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ไม่หมด อยากอ่านได้จริงๆ




หลายคนบอกว่าแต่ละภาพที่มาโชว์น่าจะมีรายละเอียดคล้ายๆ กัน แต่เมื่อพิจารณาดีๆ จะเห็นว่ามันต่างกันนะคะ แต่มีตัวละครบางตัวอาจจะคล้ายกันนะคะ พิธีกรรมการเซ่นไหว้แต่ละอย่างถือว่าอลังการมาก สมบูรณ์พูนสุขจริง บ่งบอกได้ว่าสมัยนั้นประเทศอียิต์มีความอุดมสมบูรณ์มากขนาดนี้

เมื่อมีการเปลี่ยนสีของหลอดไฟในอีกห้องหนึ่ง บรรยากาศเปลี่ยนไปจริงๆ



เมื่อเปรียบเทียบตั้งแต่ด้านนอกที่อาศัยธรรมชาติ จากนั้นแสงไฟสีส้ม จนมาถึงแสงสีทึมจะเห็นว่ามันให้อารมณ์ท่ี่ต่างกันมากมาย แต่น่าจะยืนยันได้ว่าแสงสีส้มสวยมากที่สุดคะ

ดอกปาปิรัสหรือเปล่า

กางปีกด้วยคะ   เทพเจ้าที่มีปีกแบบนี้ถูกนำมาใช้ประดับหน้าอาคารสำคัญหลายๆ แห่งคะ เอกลักษณ์ดีคะ

เมื่อกลับออกจากภายในวัด ไม่ไกลกันคือ วิหารอีกแห่ง ลืมชื่อไปเรียบร้อยแล้วคะ ความจริงไม่น่าจะเรียกว่าวิหาร แต่เป็นลักษณะของเสาพาดกันหลายๆ ด้าน ดูตามภาพนะคะ


ด้านนอกสุดของกลุ่มเสานี้คือ Lake Nassue นั่นเอง เดินออกไปชมได้อย่างใกล้ชิด แต่เมื่ออกไปแล้วอาจจะเสียวนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยมีใครเดินออกไป มีคนพื้นเมืองนั่งรอๆ อยู่ กลัวว่าจะโดนหลอกอีก เลยต้องถอยออกมาคะ

ผ่านไปชั่วโมงกว่าด้วยความตั้งใจของทุกคนทำเป็นนาฬิกาตายบ้าง ไม่มีนาฬิกาบ้าง อ้างไปได้เรื่อยๆ ตามที่ต้องการจะชมความงามให้มากที่สุด จากนั้นพวกเราแต่ละคนสภาพสะบักสะบอมอย่างยิ่งขึ้นเรือเพื่อกลับขึ้นฝั่ง



นั่งเรือออกไปได้ไม่นาน คนขับเรือทวงค่าโดยสาร งานนนี้มีการเจรจากันอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จคะ เลยต้องควักกันไป 15 เหรียญแต่คิดว่าไม่น่าจะมีใครเสียดาย ได้ยินเสียงพึมพำคือ ที่นี่สวยกว่าอาบูซิมเบลเยอะเลย



ที่ส่วยกว่าคงเป็นเรื่องรายละเอียดภายในที่มีมากกว่าแถมยังถ่ายรูปได้นั่นเอง แต่ความยิ่งใหญ่ยังคงต้องยกให้อาบูซิมเบลอยู่นั่นเองคะ



อีกวิหารที่อยู่ด้านหลัง วิหารแห่งนี้ห้ามเข้าคะ คุณตำรวจรูปงามยืนยิ้มหน้าแฉล้มคะ บอกเสียงเพราะๆ ว่า ห้ามเข้าคะ

เมื่อมาถึงรถต้องรอหลายๆ คนซื้อของที่ระลึกกันอีกนานแสนนาน อากาศร้อนมากๆ จนในที่สุดกาญจนาต้องยอมซื้อน้ำดื่ม ถ้าไม่ได้ดื่มอาจจะช็อกตายได้ เสียไป 10 เหรียญคะ ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมคนขับรถถึงบอกว่าให้ซื้อน้ำดื่มไปด้วยให้มากที่สุด




เมื่อออกรถกันอีกครั้ง เรายังเหลืออีกโปรแกรม ไกด์นำเสนอจุดประสงค์เดิมว่า จะขับรถผ่านให้แตต่ไม่ต้องลง ไม่ดีอย่างงั้น ไม่สวยอย่างงี้ ไม่มีไรดู ถ้าไม่มีไรดูมาใส่ไว้ในโปรแกรมให้เราอยากไปด้วยทำไมเนี่ย



มันต้องมีไรดีบ้างละ สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้อัสวาน เป็นเนินเขาเล็กๆ ที่มีสิ่งก่อสร้างเก่าๆ มากมายให้เดินเข้าไปชม น่าสนใจตรงที่เป้น outdoor เหมาะแก่การปีนป่าย และถ่ายภาพอย่างยิ่ง


วิหารเล็กๆ จากความเห็น 173 เมื่อถ่ายในระยะไกล

เมื่อรถวิ่งผ่าน แหะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   ไม่มีใครอยากลงเลยสักคนเดียว เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังจะตาย ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเหนื่อยมากขนาดนี้ สมควรจะเหนื่อยเพราะแต่ละคนตื่นตั้งแต่ตีสอง แล้วตากแดดทั้งวัน สาหัสจริงๆ ทุกคนเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ดังมาก ไปโล้ดดดดดดดดดดดดดดด ไม่ลงแล้ว จะตายแล้วอะ



ทางเดินรอบๆ Philae temple

ขอจบตอนที่ 10 แต่เพียงเท่านี้คะ


ขอขอบคุณทุกท่านที่โหวตให้นะคะ toytrip, Mrs-Ginna, ครอบครัวตัว ป, jasssilp, SkylineKip, LittleEntchen, ไก่เจี๊ยบ, BeeVee', รวมฝัน, englefield


ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกคนคะ ขอบคุณทุกเม้นท์และทุกภาพที่เอามาแจมกันคะ


ขอลากันด้วยภาพนี้คะ  หน้าอกหน้าใจ size เดียวกับป้าเลยอะ

EGYPT ทริปนี้มีเสียวแอนด์ซี๊ดถูกใจคนวัยทอง ตอนที่ 11 ชมวิถีชาวนูเบียน

อ่านแล้วนึกถึงตัวเองตอนอึดอัดยัดทะนานอยู่ในรถตู้ไป อาบูซิมเบล
หนูไปหน้าหนาว แต่ก็ยังร้อนค่ะ พอขากลับมาถึง High Dam ไม่มีกะใจจะไปดู
ปวดฉี่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก..

ขอลงข้างหน้าปากทางนั่นแหละ วิ่งเข้าห้องน้ำกันจ้าละหวั่น สุดๆจริงๆ