สวัสดีค่ะ เพื่อน ชาว blueplanet ทุกท่าน เป็นครั้งแรกนะค่ะที่ลองรีวิวการเดินทางที่จดจำครั้งหนึ่งในชีวิตให้เพื่อนได้อ่าน รบกวนติชมมาด้วยนะค่ะ =^_^=

ทริปนี้เกิดจากตัวดิฉันและเพื่อนร่วมงานได้รับอีเมล์โต้ตอบระหว่างเจ้านายกับพี่ที่จองตั๋วเครื่องบิน ในรายละเอียดเขียนว่าให้จองตั๋วเครื่องบินให้เรา 2 คนไปเดนมาร์ก!!! งานเข้าพวกเราทันที โดนเซอร์ไพร์แบบไม่ทันตั้งตัว แต่ต่อมาที่ท่านให้พวกเราไปคือไปประชุมค่ะ ^_^ ส่วนที่เหลือคือของแถมที่ท่านจัดให้เราค่ะ

เราไปทั้งหมด 10 วัน จะอยู่ที่เดนมาร์กและรอบๆเมือง 3 วัน หลังจากนั้น เราลุยเดี่ยวกันไปที่เบอร์เก้น 2 วัน และนั่งรถไฟไป ออลโล อีก 2 วัน พร้อมทั้งนั่งเรือกลับมาที่Copenhagen และอยู่เที่ยวต่อใน Copenhagen และ Malmo สวีเดนอีก 3 วันค่ะ

ส่วนตัวดิฉันเองเคยลองเที่ยวกับน้องสาวแค่ ฮ่องกงกับมาเก๊าเท่านั้น ยุโรปนี้คงต้องเก็บเงินอีกนาน ส่วนเพื่อน นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่เที่ยวต่างประเทศ

แน่นอนค่ะ เรา 2 คน ไม่เก่งภาษาเท่าไรเลย แต่เมื่อโดนจัดให้ไปแล้วเรา 2 คนก็พยายามให้ดีที่สุด

และความสนุก ความกลัว ความตื่นเต้น ก็ได้เริ่มต้นจากจุดนี้ เดนมาร์กค่ะ..^_^

เรา 2 คนเดินทางช่วงประมาณ ปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา  การทำพาสปอร์ต ไม่ได้ยากค่ะ เนื่องจากทริปนี้ วีซ่าของพวกเราเป็น business ทุกอย่างฟรี ^_^ เอกสารที่ต้องเตรียมส่วนใหญ่เจ้านายและพี่ที่ทำงานจะเป็นคนช่วยเตรียมให้ หลังจากยื่นขอใช้เวลาเพียง 5 วันเราก็ได้วีซ่ามาแล้วค่ะ
ส่วนที่อยู่นั้น ถ้าในเมืองหลวง (Copenhagen)เราจะพักกันที่บ้านเจ้านายค่ะ และจะพักโรงแรมเวลาไปประชุม + เที่ยวนอกเมือง

หลังจากลงจากเครื่องบินและเก็บของเรียบร้อย เจ้านายก็พาไปเซอร์เวย์สถานที่ว่าพรุ่งนี้จะเจอกันที่ไหน

แต่อยู่ดีดีก็พามาดูการเปลี่ยนเวรทหารก่อนเลยค่ะ

การเปลี่ยนเวรทหารจะมีที่นี้ค่ะ Amalienborg Palace  รูปนี้เป็นด้านหน้าทางเข้าวังค่ะ

Amalienborg Palace เป็นที่ประทับของราชวงค์เดนมาร์กค่ะ ศิลปะเป็นแบบร็อคโคโค ตอนที่พวกเราไปนั้นอากาศประมาณ 14 - 15 องศาค่ะ ครึ้มๆ แต่นักท่องเที่ยวที่ไปชมก็ยังมากอยู่ค่ะ

ที่นี้จะมีการเปลี่ยนทหารยามหน้าวังทุกวันตอนเที่ยงเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถ เสด็จประทับอยู่ที่นี่ ค่ะ

เรา 2 คน พอได้เห็น ทหารเวรเปลี่ยนยาม เราก็ทิ้งคนดูแลเราทันที :P และถ่ายรูปกันแบบลืมตาย ^_^

เซตนี้ คือทุกช็อตของการเปลี่ยนทหารยามเลยค่ะ

ลืมรูปค่ะ

หลังจากนั้นเจ้านายก็ พาพวกเราข้ามฝั่งถนนค่ะ จะมีโบสถ์หินอ่อนตั้งอยู่ ชื่อ Frederick church ค่ะ ซึ่งตอนที่ไปเป็นหน้าร้อนจะมีการซ่อมแซมกันค่ะ

ภายในจ้า..  

สีสรรอาจดูแสบตานิดหนึ่งนะค่ะ เนื่องจากข้างในมืดมากแล้วกล้องที่เอาไปเกิดอาการถ่ายแล้วสั่น (เนื่องจากผู้คุมอยู่ใกล้ๆหรือเปล่าไม่ทราบได้:P) เลยใช้กล้องมือถือ เป็นตัวช่วยอีกหนึ่งแรงค่ะ ^_^

หลังจากนั้น เจ้านายก็พาเดินดูรอบๆ Nytorv ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับวังพร้อมทั้งกำหนดสถานที่เพื่อนัดเจอในวันรุ่งขึ้นค่ะ

ซึ่งคืนแรกพวกเราจะไปนอนที่บ้านญาติของเจ้านายที่ Ishoej ค่ะ

วิวระหว่างทางเดินพร้อมรถที่เห็นแล้วต้องถ่าย สีสรรถูกใจจริงๆค่ะ ^_^

ที่นี้คือ บ้านพักคืนแรกของเราค่ะ  เป็นบ้านชั้นเดียวที่น่ารักมากๆๆ  และมี 2 ตัวนี้คอยต้อนรับค่ะ  

จริงๆแล้วเรา 2 คนจะนอนในรถเคบินค่ะ แต่ความตื่นเต้นเราเลยลืมถ่ายรูปมาค่ะ :P

ชาวเดนมาร์กจะรักธรรมชาติมากค่ะ นี่คือดอกไม้เฉพาะที่เจ้าของบ้านที่พักปลูกเอาไว้ค่ะ ^_^

หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ เราก็ไปเดินเล่นรอบๆหมู่บ้าน เช่นเดียวกันแถบนี้จะเป็นบ้านชั้นเดียวหมด และทุกพื้นที่ที่โล่งก็จะปลูกต้นไม้เขียวๆตลอดเลยค่ะ ^_^

ช่วงเวลาที่เราเดินเล่นกันคือ 3 ทุ่มบ้านเค้าและค่ะ

เช้าวันรุ่งขึ้น คุณลุงเจ้าของบ้านก็ขับรถพาเรา 2 คนมาสถานีรถไฟค่ะ หลังจากนั้นเราก็ลุยเดียวนั่งรถไฟเข้าเมืองจ้า

รูปที่เห็นจะเป็นวิวระหว่างทางและCentral Stationที่เราไปถึงค่ะ

เท่าที่สังเกตบริเวณ Central station มีร้านอาหารไทยตั้งอยู่ด้วยนะค่ะ

จริงๆแล้วจาก Central Station เราสามารถนั่งเลยไปอีก 1 สถานีและต่อรถไฟใต้ดินเพื่อไปขึ้นที่จุดนัดพบได้ แต่พวกเราไม่รู้ เลยเดินค่ะ

ซึ่งวันนี้ที่เราจะเดินกันคือ เราจะผ่าน Townhall Sguare และ ถนนคนเดิน ที่ชาวเดนมาร์กเรียกว่า สตร้อยท์ ค่ะ

รูปนี้เป็นวิวทางเดินระหว่างทางหลังจากออกจากสถานีรถไฟค่ะ

ที่นี้ค่ะ รอฮุดซ์แพลดเซ่น หรือ Townhall Sguare ที่ตั้งศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน ค่ะ

บริเวณรอบๆ ศาลาว่าการค่ะ ที่นี้จะเป็นจุดเริ่มต้น ของถนนคนเดินที่ยาวที่สุด (ไม่แน่ใจว่าในโลกหรือเปล่านะค่ะ) ซึ่งชาวเดนมาร์กจะเรียกว่า สตร้อยท์ และแน่นอนค่ะ สิ้นสุดถนนนี้คือจุดนัดพบ (ระยะทางถ้าจำไม่ผิดประมาณ 2-3 กม และเราก็เดินจ้า)

ช่วงที่เราไปกันจะมีศิลปินมารวมตัวกัน เพ้นท์ช้าง ซึ่งมีตั้งเยอะมากรอบ เมือง โคเปนเฮเกน ค่ะ หนึ่งในศิลปินนั้น คือ เจ้าชายเฟรดอริก มงกุฎราชกุมารของเดนมาร์กด้วยค่ะ (แต่พวกเราหาไม่เจอค่ะว่า ช้างตัวนั้นตั้งอยู่ที่ไหน)

มาเที่ยวเดนมาร์กด้วยค่ะ โชคดีจังเจ้านายใจดีจังเลยนะคะ ^^

วันแรกในสตร้อยท์นั้น พวกเราแค่เดินดูและเก็บข้อมูลเพื่อกลับมาในวันหลังๆค่ะ  อีกอย่างหนึ่งเรายังไม่สามารถกะเวลาได้ว่า ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุดจะใช้เวลายาวนานเท่าไร

วิวในสตร้อยท์วันแรกที่ถ่ายมาค่ะ

หลังจากถึงจุดนับพบและเจอกับเจ้านายเราแล้ว ช่วงบ่ายก็ได้เวลา ออกนอกเมืองค่ะ เมืองต่อไปที่เราจะไปคือ Herning ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ ตอนกลาง ของคาบสมุทร จัทแลนท์ค่ะ เท่าที่สังเกตดูจะเป็นเมืองที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่นะค่ะ ที่เห็นบริษัทใหญ่ๆเลยคือ ซีเมนต์ ค่ะ ซึ่งเค้าจะผลิตกังหันลมเพื่อทำกระแสไฟฟ้าค่ะ


วิวนอกเมืองจ้า สังเกตว่า ฟ้าเริ่มใสแล้ว ^_^

การเดินทางวันนี้ จริงๆแล้วเราต้องนั่งรถไฟค่ะ แต่ว่าพอเจ้านายหาข้อมูลแล้ว รถไฟไป Herning ช่วงนี้แพงมาก ท่านเลยตัดสินใจ เช่ารถและขับเองค่ะ ^_^

ประเทศเดนมาร์ก ถ้าเราดูจากแผนที่จะเป็นเกาะๆนะค่ะ แต่ละเกาะก็จะเชื่อมด้วยสะพานข้ามมหาสมุทรค่ะ จากcopenhagen ไป herning เราจะผ่านสองสะพานใหญ่ๆ ค่ะ ซึ่งเราต้องเสียเงินค่าข้ามสะพานและใช้ moterway ของเค้า ที่สังเกตจากที่เจ้านายจ่ายเงินอยู่ที่ 220 DKK ประมาณ 1280 บาทไทยค่ะ =_=''

โห อยากมี Trip ไม่คาดฝันอย่างงี้บ้างจังค่ะ

ที่ได้บอกไปแล้วว่า เรานั่งรถกันมา และคนขับคือเจ้านาย เพราะฉะนั้น ห้ามหลับ !!! และต้องคุยเป็นเพื่อนเจ้านายตลอดด้วย ซึ่งก็เป็นการฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวค่ะ

หลังจากข้ามสะพานแล้ว เราก็เจอที่สิ่งเราต้องการ ฟ้าใสๆๆๆ ดีใจมากมายเลยค่ะ...^_^

ที่เดนมาร์กจะมีกังหันไฟฟ้าเยอะมากเลยค่ะ และนี่ก็เป็นประเด็นในการฝึกภาษาโดยการซักถามเกี่ยวกับสิ่งรอบๆตัวระหว่างทางได้ ซึ่งตอนแรกดิฉันเรียกมันว่า Big fan TT_TT และเจ้านายก็แก้ให้ทันทีว่า Wild mill พร้อมอธิบายความเป็นมาของกังหันทันที

รูปนี้ถ่ายจากกล้องมือถือค่ะ เพราะกล้องตัวใหญ่จะเกะกะสายตาระหว่างการขับรถของเจ้านาย แต่ก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ

ที่นี้ค่ะ ตัวเมือง Herning

ที่นี้เค้าจะกั้นเป็นถนนคนเดิน ประมาณ 1 กิโล ได้ แต่รถจักรยานก็สามารถขี่ผ่านได้นะค่ะ

คืนนี้ เราพักกันที่นี้ค่ะ Hotel Corona เป็นโรงแรมขนาดห้องกำลังพอดีในเมืองนี้ค่ะ
http://www.hotelcorona.dk/

จริงๆเมืองนี้ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวนะค่ะ แต่เรามีประชุมกันทื่เมืองนี้ แต่เท่าที่เดินดูแล้วเป็นเมืองเล็กๆที่น่ารักมากค่ะ

วิว รอบๆ ในตัวเมืองค่ะ ^_^

ที่นี้น่าจะเป็นโบสถ์ที่เป็นศูนย์กลางของเมืองนี้นะค่ะ

ที่บอกว่าโบสถ์เป็นน่าศูนย์กลางของเมือง เนื่องจากตอนเย็น บริเวณนี้จะเป็นที่แสดงดนตรี สนามฟุตบอล และร้านอาหารแบบนั่งชิวๆ ค่ะ

วันรุ่งขึ้นหลังจากประชุมเสร็จเราก็เดินทางกันต่อค่ะ และวิวระหว่างทางก็ กังหัน ทุ่งหญ้า และเนินเขา ^_^

ระหว่างทางไปอีกเมือง เราแวะปั้มเพื่อเติมน้ำมัน  และนี่คือวิวปั้มบ้านเค้าค่ะ

ดอกไม้ป่า ที่ขึ้นตรงหญ้าที่เราแวะปั้มเพื่อเติมน้ำมันค่ะ

ถึงและค่ะที่หมายใหม่ของเรา Odense ค่ะ

Odense เป็นเมืองท่องเที่ยว ระหว่าง Copenhagen และ Herning ค่ะ เราสามารถนั่งรถไฟเพื่อมาพักและเที่ยวได้เลยค่ะ

ที่นี้เป็นต้นกำเนิดของ Han christian Andersen ค่ะ เจ้าของนิทานลูกเป็ดขี้เหร่ นั่นเอง ^_^

ทริปในฝันเลยครับ......งขอบคุณ จขกท มาแบ่งปัน

นี่คือ ร้านค้าของที่ระลึก ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้าน Hans Christian Andersen ค่ะ น่ารักมากๆ

ตอนเราเดินดูนั่นเป็นเวลา 6 โมงเย็นและค่ะ ทุกอย่างเลยปิดหมดแล้ว แต่โชคดีของเราคือ ไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านค่ะ รูปที่ได้มาแต่ละรูปก็จะสวยมาก (ซึ่งของจริงสวยและน่ารักกว่าเยอะค่ะ)

ยินดีค่ะ เนื่องจากเท่าที่เล่นเวปพันทิพมาประมาณ 5-6 ปี ไม่มีใครรีวิวเกี่ยวกับ เดนมาร์กที่ไม่ใช่เมืองหลวงเลย ได้โอกาสไปพอดี แล้วนำมาเปรียบเทียบกับ เบอร์เก้น กับ ออสโล( ซึ่งจะแตกออกมาอีกกระทู้) แล้ว ที่นี้สวยกว่ามากค่ะ เป็นเมืองที่น่ารัก สงบ มากค่ะ

รูปนี้เป็นบริเวณรอบบ้าน Hans Christian Andersen ซึ่งเค้าจะทาสีบ้านจัดๆ เหมือนลูกกวาด ส่วนรูปล่างขวา เป็นกล้องส่องผู้ชายของหญิงสมัยก่อนค่ะ (อันนี้เจ้านายบอกมา ^_^)

หลังจากเที่ยวชมบ้านเจ้าของนิทานแล้ว เราก็เดินดูบ้านเมืองเค้าต่อค่ะ รูปนี้เป็นโบสถ์ระหว่างทางค่ะ แต่พอดีไม่ได้ถามว่าชื่ออะไร เนื่องจากอากาศตอนนี้อยู่ที่ 12 องศา แล้วลมแรง มากค่ะ

หลังจากนั้น ไกด์กิตติมาศักดิ์ และ เพื่อนที่เป็นชาว โอเดนเช่ ก็เดินพามาที่นี้ค่ะ St. Canute's Cathedral

ตามธรรมเนียมของบริษัทนี้ค่ะ ถ้าเดินกับเจ้านายซึ่งเป็นไกด์กิตติมาศักดิ์ของพวกเราต้องผ่านสวน :P

ที่นี้เป็นสวนสาธารณะใน Odense ค่ะ เขียวชะอุ่มเอามากๆ

และแน่นอนที่ขาดไม่ได้ถ้าเที่ยวชมสวน เป็ดเขียวค่ะ ^_^

ตอนที่ถ่ายนี้ จขกท ต้องค่อยๆย่องและคุกเข่า พร้อมหมุนเลนส์ซูมให้ใกล้ที่สุด เพื่อแอบถ่าย เจ้าเป็ดน้อยค่ะ  กว่าจะได้มาแต่ละรูป ทำให้ไกด์ที่พาเที่ยวหันมายืนมองเลยค่ะ :P

เราเดินมาน่าจะเป็นด้านหลังของสวนแล้วค่ะ หลังจะเพ่งดูกันกับเพื่อน น่าจะเป็นม้าบินนะค่ะ

หลังจากชมสวนเสร็จ เจ้านายก็พาพวกเราไปนั่งดืมกาแฟ และกลับเข้าโรงแรมค่ะ ซึ่งระหว่างนั้นฝนตก +_+''

คืนนี้เราพักกันที่นี้ค่ะ Cabinn Odense hotel ที่นี้ข้างหลังจะติดกับ สถานีรถไฟค่ะ ตอนกลางคืนอาจจะได้ยินเสียงรถไฟหนวกหูนิดหน่อย แต่จะสะดวกมากถ้านั่งรถไฟมาลงที่นี้
http://www.cabinn.com/hotel-i-odense/hotel-cabinn-odense.html

วันรุ่งขึ้นค่ะ ไกด์กิตติมศักดิ์เราพาเที่ยวที่นี้ Egeskov Castle ^_^

ที่นี้สร้างขึ้นใน ศ.ที่ 14 โดย Frands Brockenhuus ค่ะ

บ้านหลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ ในบริเวณปราสาทค่ะ

บริเวณรอบๆค่ะ เป็นพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา

บริเวณรอบๆ เช่นกันค่ะ

อิจฉาจัง อยากไปเดนมาร์กอีก เราไปอยู่มาปีนึงค่ะ
บ้านที่เราไปอยู่ อยู่ห่างจาก Egeskov slot เพียง 3 กม.ค่ะ :)

รอชมเรื่อย ๆ นะคะ

ปราสาทนี้ ถูกสร้างไม้โอ๊กและตั้งอยู่ในทะเลสาบขนาดเล็ก ค่ะ

พาโนรามาจากกล้องมือถือนะค่ะ

ภายในปราสาทค่ะ

ห้องหนึ่งภายในปราสาทแบบพาโนรามา ค่ะ

ชุดอัควิน บนห้องโถงกลางชั้น 2 ค่ะ

ระหว่างทางเดินของแต่ละชั้นจะมาหน้าต่าง เพื่อชมวิวข้างนอก ซึ่งวิวข้างนอกก็จะงดงามแบบนี้ค่ะ

พวกเราเดินขึ้นไปถึงชั้นใต้หลังคาเป็นที่จัดแสดง ของเล่นสมัยเจ้าคุณปู่ค่ะ

วิวจากกระจกห้องใต้หลังคา ค่ะ

อีก ภาพหนึ่ง ^_^

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปที่หลังปราสาท ซึ่งเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ ค่ะ

หลังแรกค่ะ นี่เลย พิพิธภัณฑ์รถเก่า ^_^

อยากได้รุ่นไหน ดูได้เลยค่ะ ^_^

อีกหนึ่งที่จะเป็น พิพิธภัณฑ์เครื่องบินเก่าค่ะ

เราใช้เวลากับที่นี้ประมาณ 3 ชม ครึ่งค่ะ หลังจากนั้น เราก็กลับไปที่ Copenhagen เพื่อ แพคกระเป๋าใหม่ (ซึ่งเราเอากระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่บ้านเจ้านายค่ะ) หลังจากนั้นถึงเวลาที่เจ้านายเราปล่อย พวกเราลุยเดี่ยวแล้วค่ะ  กระทู้หน้า เราจะนั่งเครื่องบินไปลงที่ Bergen และต่อด้วย ออสโล ค่ะ ^_^

โหหห อิจฉาอะครับ เจ้านายใจดีจัง ถ้ารับพนักงานเพิ่มบอกด้วยนะครับ จะขอไปสมัครบ้าง

สวยงามมากๆครับ

อยากมีเจ้านายอย่างนี้บ้างจัง

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะครับ

แวะมาชมครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

บรรยากาศที่สวนสาธารณะนี่ดีมากเลยครับ
อยากไปชมพิพิธภัณรถกับเครื่องบินบ้างจังครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

รอชมรีวิวพาเที่ยวเบอเก้น ออสโลนะครับ :D

รอชมตอนต่อไปค่ะ

ชอบบ้านเมืองเขาจัง รอชมตอนต่อไปนะคะ^^

รอชมตอนต่อไปครับ

ถ่ายรูปสวยมากๆค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
กำลังจะไปพอดีค่ะ
โคเปนเฮเกน โอเดนเซ เฮิร์นนิง แบรนเด