อ่านหัวข้อกระทู้อาจจะงงๆซักหน่อย เพราะเป็นชื่อภาษาจีนทั้งนั้น ไม่รู้จะแปลยังไง
พวกเรานั่งรถเมล์จากแถวที่พักไปที่เที่ยวที่แรกคือ สวนจั๋วเจิ้งเหยวียน(拙政園 The Humble Administration's Garden) สวนชื่อดังของซูโจว ค่าเข้าคนละ 70 หยวน
อ่อ ที่เที่ยวเหล่านี้ มีแบ่ง high season กับ low season ด้วยนะคะ ช่วงไฮ(เม.ย.-ต.ค.โดยประมาณ) ค่าเข้าก็จะแพงกว่าช่วงโลว์
อ๊ะ ขออภัยค่ะ พิมพ์หัวข้อกระทู้ผิดสวน ต้องเป็นจั๋วเจิ้งเหยวียนค่ะ ไม่ใช่หลิวเหยวียน
วันที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10978267/E10978267.html#33
วันที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11004330/E11004330.html
สวนเหล่านี้ บริเวณทางเข้าจะมีแจกแผนที่แผ่นพับให้หยิบฟรี
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรจั๋วเจิ้งเหยวียน ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ปีค.ศ.1509
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว และเป็น 1 ใน 4 สวนดังของจีน
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรสะพานโค้ง
(ไม่รู้จะบอกทำไม แต่ไม่รู้จะพิมพ์อะไร ไม่พิมพ์ไม่ได้)
ทำภาพสวยจังครับ สถานที่ก็น่าไป
จากคุณ : TOSHyเก๋งนี้มีนามว่า เก๋งต้นสน ลม น้ำ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรที่เที่ยวที่2ของวันคือ สวนซือจื่อหลิน (獅子林 The Lion Forest Garden) ค่าเข้า 30 หยวน อยู่ห่างจากสวนจั๋วเจิ้งเหยวียนไม่ไกล เดินกันถึง แต่ต้องใช้ถามทางเอาเป็นระยะๆ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรแปลตรงตัวก็ สวนป่าสิงโต สวน 1 ใน 4 สวนดังของจีน
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรโถงเยี่ยนอวี้ถัง (燕譽堂)
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรสวนแบบจีน จะต้องมีหินเป็นองค์ประกอบสำคัญ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกร
แวะมาชมครับ ขอตามไปเที่ยวด้วยคน
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
ขอเดินชมสวนด้วยคน
ยังไม่เคยไปเห็นของจริงซะที
มารอชมรีวิวส่วนที่เหลือครับ
จากคุณ : Destiny-Boyดูแล้วนึกถึงตอนไปเที่ยวที่นี่จังครับ
จากคุณ : TeeChocoยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ครับ
จากคุณ : noiwanwannoiชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า สวนป่าสิงโต ก็เลยต้องมีสิงโตน้อยนั่งอยู่บนรั้ว
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรป้ายนี้อ่านว่า เจินชวี่ เป็นลายพระหัตถ์ของเฉียนหลงฮ่องเต้ สังเกตได้ที่บนป้ายมีมังกรกำกับไว้ด้วย
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรกลางสวนมีเกาะหินประดิษฐ์เกาะหนึ่ง ปีนขึ้นปีนลง มุดซ้ายป่ายขวาได้
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรปล. ถามกูรูหน่อยค่ะ ว่า เราจะเปลี่ยนชื่อหัวข้อกระทู้ได้หรือไม่ อย่างไร
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรเมื่อออกจากสวนซือจื่อหลิน จะเจอลานจอดรถของสวน ออกจากลานจอดรถ เลี้ยวซ้าย เจอร้านอาหารพื้นเมืองซูโจวเรียงรายอยู่สองข้างทาง สมกับที่พวกดิฉันอยากลิ้มลอง
พวกเราเลือกร้านนี้ค่า ชื่อร้านอ่านว่า ภัตตาคารเหล่าซูโจว
อาหารกลางวันมื้อนี้ได้แก ปลากระพงกระรอก(ซงสู่หลูอวี๋ 松鼠鱸魚)
ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมต้องลงท้ายด้วยคำว่า กระรอก แต่คนขับแท๊กซี่เมื่อวานแนะนำมา ว่าอาหารพื้นเมืองซูโจวดังๆมีอะไรบ้าง หนึ่งในนั้นก็คือปลา...กระรอก(มีปลาหลายชนิดให้เลือก แต่วิธีการทำเหมือนกัน)
ไม่รู้เค้าบั้งตัวปลายังไง ทอดเสร็จแล้ว เนื้อปลาจะชี้ออกมาเป็นแท่งๆ จากนั้นทำซอสเปรี้ยวหวานราดลงไป อย่างนี้จึงจะเรียกได้ว่า ปลา...กระรอก ค่ะ
จานนี้เป็นหอยยัดไส้ ตัวหอยใหญ่พอสมควร เค้ายัดไส้เข้าไปจนไส้เข้าไปถึงยอดหอย สังเกตว่ายอดหอยจะโดนทุบออกนิดนึง
วิธีกินของพวกเรา เมื่อถึงส่วนที่แคะเอาเนื้อออกมาไม่ได้แล้ว พวกเราก็จัดการทุบหรือเอาตะเกือบงัดยอดหอยจนแตก เปลือกหอยแตกๆกระจายไปทั่วโต๊ะ กินแล้วต้องกินให้หมด ถูกมั๊ยคะ
หลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จ พวกเราก็เดินไปที่ เจดีย์เป่ยซื่อถ่า (北寺塔) เดินนานพอสมควร แถมเดินกลางแดดเปรี้ยง ไขมันแทบละลาย เมื่อเดินไปถึงแล้ว ก็ยืนถ่ายรูปด้านหน้า ไม่ได้เข้าไปด้านในหรอกค่ะ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรจากนั้นพวกดิฉันไปสถานีรถไฟเพื่อซื้อตั๋วไปโจวจวงสำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ
เนื่องจากวันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ คนจีนก็ไปเที่ยวโจวจวงกันเยอะ พวกเราเลยไปซื้อตั๋วล่วงหน้าที่ท่ารถ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับสถานีรถไฟ
ถามทางช่องขายตั๋วซักพักใหญ่ๆกว่าจะเจอ จะไปโจวจวง จะมีช่องขายตั๋วเฉพาะ ขายบัตรเข้าเมืองโจวจวงพร้อมค่ารถในราคา 100 หยวน จากราคาปกติค่าตั๋วเข้าเมืองอย่างเดียวก็ 100 หยวนแล้วค่ะ ก็คือค่ารถฟรีนั่นเอง
ตอนซื้อตั๋ว เจ้าหน้าที่ยื่นคีบอร์ดให้เราพิมพ์ชื่อ ดิฉันก็พิมพ์ภาษาอังกฤษใหญ่ ชีบอกม่ายๆ พิมพ์ภาษาจีนดิ พวกดิฉันก็บอกว่าพวกเราไม่มีบัตรประชาชน มีแต่พาสปอร์ต ชีก็ยังบอกว่าพิมพ์ชื่อมาเรย คนต่อคิวข้างหลังก็เริ่มซุบซิบกันว่า เฮ้ย ต้องพิมพ์ชื่อเองด้วยหรอ ในที่สุดพวกเราเลยควักพาสปอร์ตออกมา ชีถึงได้ถึงบางอ้อ อ๋อ เป็นคนไทยนั่นเอง ชีหายไปถามหัวหน้าซักพัก พร้อมกลับมาบอกว่า ชาวต่างชาติใช้ชื่อภาษาอังกฤษแทน เล่นเอาเหนื่อย ...เฮ่อ
สิ่งที่ได้รับคือบัตรเข้าเมืองโจวจวง ซึ่งเข้าออกได้ 3 วัน และตั๋วรถซูโจว-โจวจวงที่ระบุที่นั่งค่ะ
ซื้อตั๋วเสร็จ พวกเราก็นั่งรถเมล์ไปเที่ยวกันต่อที่ สวนหว่างซือเหยวียน (網師園 The Master-of-Nets Garden) โบราณสถานระดับAAAA สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรโถงวั่นเจวี้ยนถัง (萬卷堂 The Hall of 10,000 Volumes)
อ่อ ลืมบอกว่า พวกสวนต่างๆทั้งหลายเหล่านี้ เดิมเป็นบ้านส่วนตัวของพวกคนรวยหรือขุนนางค่ะ เลยจะมีทั้งห้องหับและสวน
ที่นี่สงบเงียบมาก นักท่องเที่ยวที่มาเป็นต่างชาติซะเยอะ ผิดกับ 2 ที่แรกตอนเช้า ชาวจีนมากมายมหาศาล ถึงขนาดต้องแย่งมุมถ่ายรูป
แต่ที่นี่ชิลๆเลยค่ะ
ลืมบอก ค่าเข้าคนละ 30 หยวนค่ะ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรพวกเรานั่งรถเมล์กลับที่พัก รถเมล์มาจอดสุดสายด้านหน้าของชีหลี่ซันถัง เราถึงได้เห็นว่าปากซอยอีกฝั่งของชีหลี่ซันถังเป็นตลาดและห้างสรรพสินค้านั่นเอง แสดงว่าที่พักของเราไม่บ้านนอกซะทีเดียว
ในตลาดมีบริการขัดรองเท้าครั้งละ 2 หยวน โคตะระถูก อัปป้าเลยขอใช้บริการหน่อย ด้านข้างเป็นบริการนวดค่ะ
ฝั่งตรงข้ามคือมุมหนึ่งของชีหลี่ซันถัง
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรซุ้มประตูทางเข้าหลักของชีหลี่ซันถัง
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรซอยโบราณๆ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรด้านหลังคือเรือบริการนักท่องเที่ยว ล่องไปล่องมาแถวนี้
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรเดินไปสุดซอย ก็จะเป็นที่พักของเรา หมิงหันถัง (明涵堂 Ming Han Tang)
ดิฉันจองห้องพักที่นี่ผ่านเวป hostelworld เหมือนกัน ปัญหาครั้งที่ 2 จึงตามมา
จากเวปไซต์ของหมิงหันถังเอง มี family room สำหรับ 3 คน ราคาห้องละ 240 หยวนต่อคืน แต่ในเวปไซต์ของ hostelworld ราคาคนละ 240 หยวนต่อคืน ดิฉันเลยเมล์ถามหมิงหันถัง เค้าก็แนะนำให้จองผ่านเวปอื่น แต่เวปอื่นๆล้วนเป็นเวปไซต์ของจีน ที่ต้องทำการลงทะเบียนและรับSMSผ่านมือถือจีนก่อน จึงจะจองห้องได้
ในเมื่อดิฉันไม่มีซิมเมืองจีน ดิฉันก็เลยโทรหาหมิงหันถังว่ามีวิธีอื่นมั๊ย เค้าบอกว่าก็ต้องโอนมัดจำมา 10% ดิฉันบอกว่าจะโอนยังไง ขอจองผ่าน hostelworld แล้วหักเอาทีหลังละกัน ดิฉันเลยจองและจ่ายมัดจำผ่าน hostelworld ไป 144 หยวน (240หยวนx3คนx2คืนx10%) เสร็จแล้วเมล์ไปบอกหมิงหันถังว่าจะจ่ายส่วนที่เหลือ 336 หยวน ((240หยวนx2คืน)-มัดจำ144หยวน)
หมิงหันถังรีบเมล์กลับมาบอกว่า เงินมัดจำส่วนนี้จะถูก hostelworld เอาไปทั้งหมด ดังนั้นดิฉันเลยต้องติดต่อ hostelworld ให้ตรวจสอบความถูกต้อง ตอนหลัง hostelworld สาขาเซี่ยงไฮ้จึงตอบกลับมาว่าเป็นความผิดพลาด จะคืนเงินมัดจำกลับมา
กว่าจะจองหมิงหันถังได้ รากเลือดมาก ที่จริงยังมีปัญหาตอนจองโรงแรมอื่นอีก เหนื่อย
ทางเข้าส่วนของห้องพักค่ะ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรส่วนกลางของที่พัก ก็เป็นสไตล์บ้านจีน
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรตอนเย็น พวกเราออกหากินที่ ถนนกวันเฉียนเจีย (觀前街)
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรแนวเดียวกับสยามสแควร์บ้านเรา เน้นแฟชั่น
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรพวกเราเลยข้ามถนนเข้าซอยทะลุไป ถนนผิงเจียงลู่ (平江路) ถนนสุดโบราณคลาสสิกกลางเมือง
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรความโบราณกับแสงไฟยามค่ำคืน
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรที่จริง ถนนผิงเจียงลู่ สามารถมาเดินได้ตั้งแต่กลางวัน มีร้านรวงเรียงร้าน โรงแรมที่พักก็มีทั้งถูกและแพง
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรเป็นกำลังใจและขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
จากคุณ : สาวหน้าใสชอบเมืองจีนจังครับ
แบบโบราณแบบนี้น่าเดินจัง
แต่พี่ผู้ชายแต่งตัวสุภาพมากสำหรับการไปเที่ยว แหะๆ