ตอนเช้าๆ จากที่พักหมิงหันถัง เดินไปสวนหลิวเหยวียน (留園 The Lingering Garden) เดินแค่ขาใกล้หลุดก็ถึงแล้ว ค่าเข้า 70 หยวนค่ะ
วันที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10991443/E10991443.html
วันที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11043088/E11043088.html
ด้านในมีโชว์ร้องเพลงและพายเรือในอ่าง
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรที่นี่เป็น 1 ใน 4 สวนดังของจีน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นโบราณสถานระดับ AAAAA
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกร...และถังขยะ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรจากนั้นก็นั่งแท๊กซี่เถื่อนต่อไปที่แถวๆวัดหันซันซื่อ หากินแถวๆนั้นก่อน
เริ่มด้วยข้าวผัดหยางโจว
บะหมี่หมูสามชั้น
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรและเกี๊ยวน้ำ
มื้อนี้ทานง่ายๆค่ะ
ด้านหน้าวัดหันซันซื่อ (寒山寺)
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรสร้างขึ้นในปีค.ศ.502 ก่อนราชวงศ์ถังอีก
เจดีย์นี้สร้างจากไม้ค่ะ
ที่วัดนี้ดัง ก็เพราะกลอนบทนี้นั่นเอง
"ฟงเฉียวเย่ปั๋ว" (楓橋夜泊) บทกลอนที่แต่งโดยนักกวี จางจี้ ซึ่งกล่าวถึงการล่องเรือมาค้างแรมริมวัดแห่งนี้ เนื่องจากกลอนนี้ดังมาก เลยทำให้วัดดังไปด้วยค่ะ
อีกมุมหนึ่ง
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรจากนั้น พวกเราก็กลับที่พักเพื่อเช็คเอาท์ นั่งแท๊กซี่จะไปท่ารถ แต่บอกแท๊กซี่ไปผิดท่า แท๊กซี่วีนแตก บ่นใหญ่ว่าทำไมไม่บอกให้ดีๆ พวกดิฉันก็บอกว่าไม่ใช่คนแถวนี้ เพิ่งมาซูโจวเมื่อ 2 วันก่อนเอง ฮีก็ยังบ่นๆๆ จนดิฉันต้องสะกิดให้อัปป้าบอกฮีว่าพวกเราไม่ใช่คนจีนนะ พอฮีรู้ คราวนี้จากหน้ามือเปลี่ยนเป็นหลังทีน พูดจาดีผิดหูผิดตา ตอนลงจากรถยังแอบโบกมือบ๊ายบายให้อัปป้า
สรุปว่า เจอคนจีนหลายคนมาก ตอนแรกนึกว่าพวกดิฉันมาจากกวางเจา เค้าแยกภาษาไทยกับภาษากวางตุ้งไม่ออก ก็จะปฏิบัติกับพวกดิฉันแบบแย่ๆ แต่พอรู้ว่าเป็นคนต่างชาติ จะเปลี่ยนเป็นพูดดีอย่างไม่คาดคิด ไม่รู้ว่าคนจีนภาคกลางกับภาคใต้เค้าแอบมีปัญหาไรกันรึเปล่า อย่าได้เหยียบโดนตาปลาเชียว
จากนั้นพวกเราก็นั่งรถบขส.ที่ซื้อตั๋วไว้แล้วไปที่โจวจวงค่ะ
เมื่อถึงท่ารถโจวจวง ก็หาแท๊กซี่เถื่อนเพื่อไปส่งที่ประตูทางเข้าตัวเมืองโบราณ โดยจะต้องบอกแท๊กซี่ด้วยว่าที่พักเราชื่ออะไร แท๊กซี่จะได้ไปส่งที่ทางเข้าที่ใกล้ที่สุด เพราะมีทางเข้าหลายทางค่ะ
เมื่อถึงที่ตรวจตั๋วแล้ว และอยากจะเข้าออกหลายรอบ เจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปเราไว้เป็นหลักฐาน มะงั้นจะเข้าได้แค่ครั้งเดียวค่ะ
จากนั้นก็ไล่บ้านเลขที่ แปปเดียวก็เจอที่พักคืนนี้ โรงเตี๊ยมหลงซิง (หลงซิงเค่อจ้าน 隆興客棧)
แวะมาชมครับ ขอตามไปเที่ยวด้วยคน
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
อยากยกถังขยะกลับบ้าน
ชั้นบนสุด เจดีย์ มีระฆัง ไปเคาะรึป่าว
จากคุณ : อิๆ [31 ส.ค. 54 03:42:00 ]A:58.9.137.249 X: TicketID:052378แวะมาให้กำลังใจมือใหม่ค่ะ ถ้าหากมีโอกาสอยากจะตามรอย จขกท. ไปเที่ยวบ้างจัง
จากคุณ : คนมีเจ้าของ--หัวฟูน้ำนิ่งขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่ตามมาเที่ยวต่อครับ
พักโรงเตี๊ยมด้วย กลางคืนโจวจวงคงสวยนะครับ
ขอบคุณสำหรับทริปพาเที่ยวครับ
จากคุณ : Destiny-Boyขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
จากคุณ : สาวหน้าใสขอขอบคุณทุกๆกำลังใจค่ะ
@ คุณอิๆ ไม่ได้ขึ้นไปเคาะระฆังค่ะ ขาหมดแรง
หน้าตา triple room ค่ะ
ตู้โชว์ติดผนังด้านหลัง ด้านในเป็นของโบราณต่างๆ ทั้งโชว์และขายในเวลาเดียวกัน
ที่จริงเค้ามีห้องย้อนยุคด้วย เตียงเป็นตั่งจีนที่มีม่านสีชมพู แต่เป็นห้อง 2 คน เลยอด
ห้องน้ำใช้ได้เลยทีเดียวเจียว
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรตอนเช็คอิน เถ้าแก่เนี้ยผู้มีมิตรไมตรีได้ยื่นแผนที่โจวจวงมาให้ แล้วก็วงๆสถานที่เที่ยวที่เข้าฟรีให้ด้วย พร้อมทั้งแนะนำอีกว่า มีวัดนึง ให้ระวังพระหลอกด้วย ...อ่าว
พวกเราเริ่มเที่ยวที่แรก บ้านตระกูลจาง (The Hall of Zhang's Residence)
เป็นบ้านที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรบ้านสร้างคร่อมคลอง เพราะโจวจวงเป็นหมู่บ้านน้ำ แต่ละบ้านพึ่งฟาน้ำเพื่อทำมาหากิน
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกร...
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกร...
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรต่อกันที่ บ้านตระกูลเสิ่น (The Hall of Shen's Residence)
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรขอบคุณรีวิวสวยๆค่ะ
จากคุณ : Us-Sama Ilandเป็นบ้านของลูกหลานของเสิ่นวั่นซัน เศรษฐีในสมัยต้นราชวงศ์หมิง สร้างขึ้นสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ชิง
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกรเสิ่นวั่นซันเป็นใคร...
เสิ่นวั่นซันเกิดในสมัยปลายราชวงศ์หยวน(มองโกล) ย้ายมาอยู่ที่โจวจวงตั้งแต่เด็ก ตอนวัยรุ่นได้รู้จักกับพระรูปหนึ่งชื่อจูหยวนจาง ตอนหลังจูหยวนจางสึกออกมากอบกู้จีนจากมองโกล ก็ได้เงินสนับสนุนจากเสิ่นวั่นซันด้วย จนในที่สุดจูหยวนจางทำการสำเร็จ ได้เป็นฮ่องเต้หมิงไท่จู ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง
เพื่อตอบแทนผู้ที่มีความดีความชอบ(ผสมความหวาดระแวง กลัวว่าคนรวยจะเป็นภัยแก่ตนเอง) จูหยวนจางจึงหาเรื่องเสิ่นวั่นซัน โดยการให้เสิ่นวั่นซันนำเงินตำลึงมาให้ทุกวัน โดยในแต่ละวันจะต้องนำมาเป็นสองเท่าของเมื่อวาน ให้ได้ครบ 60 วัน(มั๊ง) เสิ่นวั่นซันดีดลูกคิดคำนวณแฟคทอเรียล(factorial)แล้ว ก็แอบเครียด เพราะถ้าทำไม่ได้ก็โดนประหารสถานเดียว
ตอนหลัง ถึงแม้เสิ่นวั่นซันจะหาเงินตำลึงมาให้ได้ครบกำหนด แต่ก็ยังเกือบจะโดนประหารชีวิต เคราะห์ดีได้หม่าฮองเฮาและเสนาบดีช่วยพูดให้ จึงแค่ถูกเนรเทศไปอยู่ยูนนาน(อวิ๋นหนาน) ซึ่งในสมัยนั้นความเจริญเข้าไม่ถึง พร้อมโดนริบทรัพย์ไปอีกกึ่งหนึ่ง
หลังจากเสิ่นวั่นซันเสียชีวิตที่ยูนนาน ลูกหลานได้นำเสื้อผ้ากลับมาฝังที่โจวจวง เพราะไม่สามารถนำศพกลับมาได้(ทางมันไกล) โดยฝังไว้ใต้น้ำ เพราะเสิ่นวั่นซันเคยสั่งเสียไว้ว่าให้ฝังศพไว้ใต้น้ำ เพราะชีวิตของเค้าพึ่งพาน้ำเป็นหลัก ร่ำรวยได้ก็เพราะน้ำ เนื่องจากเสิ่นวั่นซันทำพาณิชย์นาวีเป็นหลัก เดินเรือสำเภาออกไปค้าขายต่างแดนเป็นประจำ
ณ ปัจจุบันนี้ ที่โจวจวงก็ยังมีป้ายสุสานเสิ่นวั่นซันอยู่ จุดฝังเสื้อผ้าก็ยังอยู่ใต้น้ำบริเวณนั้น (ไม่กล้าถ่ายรูปมา)
รูปนี้เป็นรูปเสิ่นวั่นซันและขันวิเศษในตำนานที่เชื่อว่าทุกคืนจะมีทองโผล่ออกมาจากขันนี้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวเลยนิยมไปลูบขันใบนี้ ตักเงินเข้ากระเป๋า โดยผู้ชายลูบด้วยมือซ้ายและผู้หญิงลูบด้วยมือขวา
ส่วนนี่ colour of night ค่ะ
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกร...
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกร...
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกร...
จากคุณ : สมิงสาวปากตะไกร