สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิกชาวบลูฯ
รีวิวนี้ ไม่ได้เน้นเนื้อหา หรือภาพสวยงามสักเท่าไร
เป็นลักษณะ เมื่อไปเที่ยวที่ไหน ก็จะมาเล่าสู่กันฟังมากกว่าค่ะ
คราวนี้ไปเมือง คอร์โดบา ซึ่งถือว่าใหญ่เป็นอับดับสองของประเทศอาร์เจนตินา รองจากบัวโนสไอเรส
และเป็นการขับรถไป แทนการนั่งเครื่องบินค่ะ
ก่อนอื่นให้ดูแผนที่ จะได้นึกภาพได้ชัดขึ้น
อาร์เจนตินา จะแบ่งพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล ออกเป็นรัฐ
แต่ละรัฐก็จะมีเมืองหลวง และบริหารงานอิสระ แต่นโยบายหลัก
ก็จะมาจากรัฐบาลกลาง
จะเห็นว่า คอร์โดบา ตั้งอยู่กลางประเทศจริงๆ
ห่างจาก บัวโนสไอเรส 700 กิโลเมตร
สองข้างทาง 700 กม จะเป็นทุ่งหญ้าราบเรียบ ไม่มีภูเขา
มีแต่ วัว และม้า เต็มทุ่งนา ตลอดเส้นทาง
ที่เรากล้าขับรถไป เพราะตรวจดูแล้วว่า เป็นทางด่วนตลอด ต้องปลอดภัย
จะผ่านเมือง โรซาริโอ ห่างจาก บัวโนสไอเรส 300 กม
เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองธุรกิจสำคัญเช่นกัน
ไปเที่ยวด้วยคนครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่เราออกจากบัวโนสไอเรส ตอนบ่ายสองโมงกว่าแล้ว
ใครรู้เข้าก็จะบอกว่า จะบ้าหรืองัย
ระยะทาง 700 กม.นี่นะ
แต่ว่ารถที่ขับมันดีมาก ความเร็ว 200 กม/ชม ไม่รู้สึกว่าเร็วหรือน่ากลัว
เราไม่ได้แวะในเมือง โรซาริโอ (เคยไปแล้ว)
แต่แวะกินกาแฟตามปั๊มน้ำมันไปเรื่อยๆ
ในรูป ตามปั๊มน้ำมัน เขาจะมีตู้น้ำร้อน สำหรับให้เติมใส่กระติกน้ำชา
คนอาร์เจน เขาจะดื่มน้ำชา ที่เรียกว่า มาเต้
ทุกคนก็จะมาต่อคิวกรอกน้ำร้อนใส่กระติก
สวัสดีค่ะคุณ เล็กทาโร่ // อย่าลืมตามไปนะคะ เดี๋ยวมีตื่นเต้นด้วยละ
เนื่องจากเป็นนักเดินทางแบบร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำมา หาใครเทียบยาก
เคยขับรถจากโรม ถึงเบอร์ลิน 1.500 กม รวดเดียว บ่อยๆ(ช่วยกันขับ)
เราจะต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังตลอดเวลา ถ้าเจอปั๊ม
โชคดีหรือพระคุ้มครองก็ไม่รู้ละ เราเติมน้ำมันเต็มถังจากเมือง โรซาริโอ
หน้าปัทม์รถบอกว่าเราสามารถวิ่งได้อีก 600 กม ในกรณีขับแบบประหยัด
สบายมาก จาก โรซาริโอ ถึง คอร์โดบา แค่ 400 กม.เท่านั้น
เส้นทางต่อไปนี้ 400 กม มีแต่ถนน นานๆจะมีรถวิ่งสวนทาง หรือร่วมทางกับเรา
อร๊ายยย...วันนี้มาทัน
ตามเที่ยวคอร์โดบาด้วยคนค่ะคุณ Flaminio
เส้นทางจะตรงเหมือนเอาไม้บรรทัดมาขีด
ด้วยความเคยชิน (เมื่อก่อนอยู่เยอรมัน ขับแบบไม่อั้นเมื่อป้ายอนุญาตให้ขับ)
ครั้งนี้ก็เช่นกัน นานๆมีรถสักคันให้แซง
และอยากถึงเร็วๆก่อนสามทุ่ม เพราะต้องไปหาโรงแรม หรือกินข้าวอีก
ก็เลยขับซะแบบ 200 กม
สวัสดีค่ะคุณ la liga fan // ดีใจจังมีเพื่อนตามไปด้วย กำลังเซ็งกับสองข้างทาง
เราก็ขับตะบึงไปเรื่อย ให้เข็มตัวเลขเป็นพยาน
ขับผ่านไป ระยะทางยาวเป็นร้อย กม ก็ยังไม่เจอผู้คนหรือปั๊มน้ำมัน
ดีนะที่ไม่นึกอยากจะเข้าห้องน้ำ
ขับไปเรื่อยๆ หวังว่าจะเห็นปั๊มริมทางบ้าง
ไม่น่าเชื่อ ยังไม่เจออะไรเลย
ขอไปด้วยคน ขอรัดเข็มขัดแน่นๆ ขับเร็วเราแอบกลัว
จากคุณ : Stupid is as stupid doesมืดแล้ว
นี่ก็ผ่านไปจะสามร้อย กม แล้วนะ ยังไม่มีปั๊มน้ำมันเลย
ไม่น่าเชื่อ ทางด่วนประสาอะไร ไม่มีปั๊มน้ำมัน
เมื่อเหลือบไปมองหน้าปัทม์รถ เขารายงานว่ามีน้ำมันเหลือให้วิ่งแค่อีก 80 กม. เท่านั้น (คำนวนจากระบบเครื่องรถ)
ตาย ตาย แย่แล้ว เราเผลอขับแบบซิ่ง มันก็เลยซดน้ำมันจะหมด
ที่จากตอนแรกบอกว่าจะวิ่งได้ 600 กม
นี่แค่วิ่งไป 300 กม.เอง
เหงื่อเริ่มออก ทั้งๆที่อากาศข้างนอกรถ 10 องศา
เิริ่มตื่นเตลล์..
จากคุณ : la liga fanสวัสดีค่ะคุณ Stupid is as stupid does // มา มาอยู่เป็นเพื่อนกันค่ะ
ตอนนี้ก็เลยทำทุกวิถีทางที่จะประหยัดน้ำมัน หรือลุ้นให้มีปั๊มสักแห่ง
เราก็ลดความเร็วมาเหลือแค่ ไม่เกิน 100 กม/ชม
ความรู้สึกเหมือนว่ารถมันหยุด หรือวิ่งช้ามากๆ
เปิดไฟหน้าแบบหรี่ จะได้ประหยัด
ถ้าหยุดหายใจ และทำให้ประหยัดน้ำมันได้ เราก็จะทำแน่นอนเลย
ตอนนี้ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนอาร์เจน เขาต้องมีถังน้ำมันสำรองอยู่ท้ายรถกันทุกคัน
ไม่อยากนึกภาพว่า รถน้ำมันหมด ตอนกลางคืน ในที่ที่ร้างผู้คน
นานๆมีรถวิ่งผ่าน
นึกถึงหนังฆาตรกรรม หนังสยองขวัญ
เราคงไม่เจอแบบนั้นหรอกนะ แอบลุ้นเงียบๆ พูดเสียงดัง เดี๋ยวเปลืองน้ำมัน
เราขับคลานไปเรื่อยๆ ตอนนั้นประมาณสองทุ่มกว่าๆ
ในที่สุดโชคดีสำหรับเราก็เกิดขึ้นเสมอ เพราะว่า
ที่หน้าปัทม์รถ บอกว่าคุณสามารถขับได้แค่อีก 40 กม.เท่านั้น
เราเห็นป้ายเชลล์ สว่างโร่มาแต่ไกล
รอดตายแล้ว เพราะใกล้เข้าเมืองแล้ว
คุณ la liga fan // ตอนนั้นตื่นเต้น แต่แบบนั่งเงียบกริบเลยค่ะ
บทเรียนนี้ต้องจำไปตลอดชีวิต คือไม่นึกว่าจะมีทางด่วน
แบบนี้
ต้องขอบคุณเครื่องนำทาง ทำให้เราหาโรงแรมได้รวดเร็วขึ้น
เพราะการไปถึงที่หมายตอนดึกๆ เราจะมองไม่เห็นอะไร บางทีโรงแรมดีๆสวยๆอยู่แค่บล๊อคถัดไป แต่เราไม่รู้ คือเจอที่ไหนก็ต้องเอาไว้ก่อน
พอเช้าขึ้นมาเพิ่งจะเห็นว่า เลยไปอีกนิดมีที่สวยกว่านี้อีก
พอเข้าพักโรงแรมได้แล้ว ก็ออกไปหาอาหารกิน
เราไปพักตรงที่ไม่มีร้านอาหาร คือมี แต่ว่าปิดหมดแล้ว
ก็เลยเข้าไปกินใน โรงแรม ซา วอย
และอาหารก็ไม่มีให้เลือกนัก ก็ได้กินพอประทังความหิว
มองผ่านกระจกห้องอาหาร
เป็นโบสถ์ที่สำคัญของเมือง
ของหวานหลังอาหาร
ตอนนี้ผ่อนคลายแล้ว แถมยังมานั่งหัวเราะขำเหตุการณ์ที่ผ่านมา
เมือง คอร์โดบา ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสอง
เพราะว่าเราเป็นพวกประเภท ไม่ค่อยหาข้อมูลก่อนจะไปไหน
ก็เลยไม่มีรูปภาพเมืองย่านสวยๆมาฝาก
ก็ตั้งใจว่าจะเที่ยวไปดูตามเมือง รัฐ ต่างๆเท่าที่จะพยายามไปได้
และการขับรถไป จะได้เห็นอะไรมากมายกว่าการนั่งเครื่องบิน
ตลอดข้างทางจะมีต้นไม้ดอกสีชมพู ออกดอกเต็มต้น
จากคุณ : Flaminioต้นไม้พวกนี้จะออกดอกสลับเวลากัน
ทำให้มีดอกไม้สีสวยตลอดเวลา
ร้านขายของชำ ไส้กรอก อาหารต่างๆ
โปรดสังเกตุว่า มีเหล็กดัดแน่นหนาเหมือนคุก
ชอบดอกไม้มากจริงๆ
จากคุณ : Flaminioแวะดื่มกาแฟ และขนม ที่ร้านนี้ เพราะว่าร้านสวยน่านั่ง
จากคุณ : Flaminioคือว่าที่โรงแรมก็มีอาหารเช้าให้ แต่ค่อนข้างแย่มาก
มีกาแฟ กับครัวซองต์ ขนมปังนิดหน่อย
เราก็เลยมากินเพิ่มอีก แต่กลายเป็นว่ากินขนมเค้ก ตั้งแต่เช้า
อย่าไปอ้างโทษโรงแรมเขาเลยนะ
เรื่องของเรื่องคือ อยากนั่งที่ร้านนี้มากกว่า
ดอกไม้ริมทาง
จากคุณ : Flaminioขับรถไปเรื่อยๆ
ไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอน
คงเป็นประเภททัวร์ ไร้สาระ
บ่ายๆก็นั่งกินพิซซ่า
จากคุณ : Flaminioร้านนี้มีสาขาทั่วไป
แต่ที่เมืองนี้ทำไม่อร่อยเลย
ส่วนหนึ่งของเมืองนี้
จากคุณ : Flaminioสะพานข้ามคลอง
จากคุณ : Flaminioจากที่สังเกตุดู เอาความเห็นส่วนตัว
ประชากรเมืองนี้ รูปร่างสูงใหญ่ และใช้ชีวิตแบบคนยุโรป
เป็นพวกมีเชื้อสายทางยุโรป
รถสำหรับบรรทุกเงิน
ถ้าโจรที่นี่ไปเห็นรถบรรทุกเงินที่บ้านเรา คงจะขำ
เพราะดูไม่แน่นหนาเลย น่าปล้นจัง
ตอนเย็น เราขับรถออกไปนอกเมือง
เพื่อจะไปดูหมู่บ้านเยอรมัน ที่ Villa Belgrano
อยู่บนภูเขา ห่างออกไปประมาณ 80 กม.
พูดถึงคำว่า Villa คำนี้ถ้าที่อาร์เจนเขาถือว่าเป็นหมู่บ้าน
อย่างที่บัวโนสไอเรส จะถือเป็นคล้ายๆระดับสลัม แต่คำว่า Country จะถือว่า
เป็นหมู่บ้านคนรวยเศรษฐี
แต่ถ้าอย่างเมืองไทย วิลล่า คือบ้านคนรวย จะกลับกัน
เราขับรถวกวน ข้ามภูเขาไปสองลูก
ก็แปลกดี คนเยอรมันไปอยู่ที่ไหน ก็จะหาที่อยู่บนเขาสูง
ที่เมืองนี้ เป็นกลุ่มคนเยอรมัน ออสเตรีย สวิส รุ่นสงครามโลก
ที่หนีอพยพมา พวกนาซีขนสมบัติมาซ่อนที่เมือง คอร์โดบา มาก
ต้องไปศึกษาประวัติศาสตร์
วิวบนยอดเขา
ที่ประเทศนี้ คนเชื้อสายเยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส อังกฤษ มีมาก
แต่จะอยู่ในบัวโนสไอเรส เป็นส่วนใหญ่
หนังสือพิมพ์ก็ยังมีภาษาเยอรมัน
ขับรถ พับไป พับมา ตามถนนที่คดเคี้ยว
แต่วิวสวยสู้ทางยุโรปไม่ได้เลย
มันจะออกแนวแห้งแล้ง
ร้านขายอาหารริมทาง
แถวๆจุดชมวิว
เราเรียกเธอว่า น้องอุ้ยอ้าย
จากคุณ : Flaminioอีกมุมหนึ่ง
จากคุณ : Flaminioเพื่อนชาวอาร์เจน อุตส่าห์หวังดีจองโรงแรมที่เลิศที่สุดให้
เพราะเขาภาคภูมิใจกับโรงแรมนี้มาก
ที่หมู่บ้านเยอรมันแห่งนี้ เขามีการจัดงาน Oktober fest ด้วย
แบบยิ่งใหญ่
เห็นเขาว่ากันว่า ถ้าเทียบกันในบรรดาการจัดงานนอกประเทศเยอรมัน
ถือว่าที่นี่จัดได้อลังการทีเดียว
คนจะแน่น โรงแรมจะแพงขึ้นในช่วงนั้น
ทางเข้าโรงแรม
แต่เป็นแบบที่เราไม่ชอบ หรือเรารสนิยมไม่ถึงก็ได้
คือจะเป็นลักษณะ เหมือนมีบริการต่างๆให้เราอยู่แต่ในโรงแรม
เช่น มีสปา มีการขี่ม้า กีฬา ฯลฯ เหมือนถูกขังอยู่ในป่า
เราไม่ชอบ เราชอบแบบไปนั่งดูวิวสวยๆ ย้ายที่ไปเรื่อยๆ
ก็เลยแวะมาบอกยกเลิก โปรดยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
ชอบแบบบ้านๆ แบบนี้
ในหมู่บ้านนี้ บรรยากาศเหมือนอยู่ที่หมู่บ้านในเยอรมันเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า หรือบ้านทั่วๆไป
กลับเข้าเมือง
กว่าจะถึงเกือบสามทุ่มอีกแล้ว
ก็ยังหาของกินถูกใจไม่ได้เลย
ไปเจอร้านนี้ จริงๆเขาเป็นผับ ขายเหล้าเบียร์
ถามเขาว่ามีอะไรให้กินบ้าง ก็จัดมาได้แบบนี้
หิวมาก ลืมถ่ายรูปก่อนลงมือกิน
เพิ่งนึกออก ตอนกินจนหมดจานแล้ว
ตอนเช้าของอีกวันต่อมา
ก็ออกเดินทางกลับ
ในรูปเป็นบ้านตามริมทาง เขาจะสร้างแทงค์เก็บน้ำไว้บนหลังคาบ้านทุกหลัง
แทนการมีปล่องไฟ
เมืองไทย น่าทำบ้าง สำหรับบริเวณที่กันดารน้ำ
จากคุณ : Flaminioประตูเมืองคอร์โดบา
จากคุณ : Flaminioขากลับ เราเตรียมพร้อม
เติมน้ำมันเต็มถัง และจะพยายามเป็นคนดี ขับรถช้าๆ
แต่พอเผลอก็เป็นแบบนี้อีก 191 กม/ชม
เนื่องจากขากลับ เราขับตอนกลางวัน
จึงสังเกตุเห็นว่าตามทางแยกออกไปเมืองอื่นๆจะมีปั๊มน้ำมัน
เราน่าจะแวะเข้าไปดู เผื่อว่ามีปั๊ม จะได้เติม และซิ่งได้
ไม่ต้องคลานไปตลอดทาง 400 กม แรก
เราขับออกนอกเส้นทางด่วน เข้าไปในหมู่บ้าน เจอปั๊มน้ำมัน
เจ้าของดีใจมากที่นานๆจะมีคนมาเติมแบบหนักๆ
เราก็ดีใจมากเหมือนกัน จะได้ขับรถแบบไม่ต้องเกร็งประสาท
กลัวน้ำมันหมดก่อนถึงเมือง โรซาริโอ
ถึงเมือง โรซาริโอ
อยากจะกินปลา เมืองนี้เขาอยู่ริมแม่น้ำ มีปลาอร่อยๆ
แต่หาร้านไม่เจอ ไม่ได้จดที่อยู่มาด้วย
ก็ได้ร้านนี้สั่งข้าวกับเนื้อผัดผักใส่ซีอิ๊ว คล้ายๆอาหารไทย
ไม่ได้กินอาหารไทยหลายมื้อแล้ว ออกอาการลงแดง
เป็นภาพที่เอามาจากเวบไซด์ทั่วๆไป
เพื่อให้มองเห็นภาพเมืองในมุมกว้าง
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชม หรือทักทายกันค่ะ
ก็รู้ตัวว่าเป็นทัวร์แบบไร้สาระ แต่ก็อยากจะแบ่งปันประสบการณ์
ให้กับเพื่อนๆในห้องนี้
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ อ่านตอนที่ต้องประหยัดนํ้ามันแล้วก็ลุ้นไปด้วย ดีใจจังที่เจอคนไทยที่อยู่ Buenos Aires(BsAs) ตามไปอ่านตอนเก่าๆด้วยค่ะ เล่าเรื่องได้สนุกดี
ปีหน้าช่วงกลางปีกะไว้ว่าจะไปเรียนเต้นแทงโก้ที่ BsAs ประมาณหนึ่งเดือน ตอนนี้กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ ครูที่จะเรียนด้วย อาหารการกิน milonga ร้านรองเท้าแทงโก้ และอีกจิปาถะ
คราวหน้าทำรีวิวเกี่ยวกับแทงโก้บ้างสิคะ
สวัสดีค่ะคุณ pasión y drama // น่าเสียดาย ที่ BA เขาเพิ่งจบการประกวดเต้นแทงโก้ไปเมื่อ 2-3 วันนี้เอง
ปีนี้โคลัมเบียได้เป็นแชมป์ ปีที่แล้วญี่ปุ่นได้
เคยไปดูโชว์หลายครั้งแล้ว ชอบมากโดยเฉพาะที่ ซินญอร์ แทงโก้
จัดได้ดีที่สุด
ยอมรับเลยว่า แทงโก้ เป็นศิลปะการเต้นรำจริงๆ สุดยอดมากๆ
มันเป็นศิลปะ ชนิดที่ว่าเป็นแค่เส้นบางๆแบ่งแยกระหว่าง เซ็กส์ กับ ศิลป์
คุณ Flaminio ถ้ามีเวลาช่วยรีวิวเกี่ยวกับแทงโก้ให้ดูหน่อยนะคะ เราเต้นมาก็หลายประเภทแต่แทงโก้นี่เสพติดจริงๆค่ะ ได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับประกวดเต้นแทงโก้เช่นกัน แต่แบบห่างๆเพราะมัววางแผนเที่ยว เลยไม่รู้ว่าประเทศไหนได้ โชคดีที่คุณ Flaminio แบ่งปันข้อมูล
เห็นด้วยที่ว่าแทงโก้เป็นศิลปะแบ่งเส้นบางๆระหว่าง เซ็กส์ กับ ศิลป์ บางคนถึงได้บอกว่า "making love for 3 minutes" ในขณะที่เต้น "One body, four legs"
ถ้าเราอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับ BsAs ก่อนที่จะมาจริงๆ เรารบกวนถามคุณ Flaminio ได้ไม๊คะ
ปล ขอโทษที่เบี่ยงเบียนประเด็นจากกระทู้นี้ค่ะ
คุณ pasión y drama // ยินดีค่ะ ตอบข้อมูลตามที่รู้นะ หรือพอที่จะหาให้ได้
จากคุณ : Flaminio...ขอบคุณครับสำหรับรีวิว อ่านไปลุ้นไป
เป็นประเทศที่อยากไปมากๆอีกที่นึง
muchas gracious ^_^
ขอบคุณมากครับ สำหรับรีวิวที่หาดูได้ยากๆแบบนี้
จากคุณ : ม่วงมหากาฬ@ มีเมืองใหม่ๆ มาให้เปิดหูเปิดตา .. จัดกิฟแรกของเดือนไปเลยครับ ..
จากคุณ : MRBIG173ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะคะ ^^
จากคุณ : หนูกิตหอ 4 ชายร้านขายของชำบ้านเขาเหมือนร้านขายทองบ้านเราเลยนะคะ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ^^
จากคุณ : สามแซ่OMG ตาม คห #7
นี่ขับรถเร็วตั้ง 218 km/hr กันเลยหรือ
ถนนคงต้องดี และ รถก็ต้องเยี่ยม
ที่สำคัญที่สุด ใจต้องถึง ด้วย
ขอคารวะ
เมื่อคืนตามทัวร์ ฟุบไปหลังรถตอนดอกไม้ริมทาง
ตื่นมาอีกทีเขากลับกันแร่ว เป็นรีวิวสนุกแบบไปเรื่อยๆ ดีค่ะ ให้เกร็ดความรู้ด้วย
ขอบคุณที่มาพาเที่ยวเมืองต่างๆ ในอาร์เจนตินาค่ะ คอยติดตามตลอด
อาร์เจนติน่าเป็นประเทศในฝันอีกแห่งหนึ่งเลย แต่คงต้องเก็บตังค์อีกนาน
แถมนั่งเรือบินหลายสิบชม.แบบเบื่อกันไปข้างนึงเลย
แอบย่องมาดูว่าเมืองนี้มีอะไรน่าทานมั่ง
บรรยากาศเมืองนี้ดูเป็นเมืองที่เงียบสงบดีเหมือนกันครับ
จากคุณ : Destiny-Boyขับรถเร็วจังเลยค่ะ.... ของเราเมื่อก่อนเหยียบร้อยห้าสิบที่เยอรมันก็เสียวจะแย่.... ปัจจุบันพยายามไม่เกินร้อย.... อิอิ
จากคุณ : ป้าฟูดูแล้วอยากไปมากๆค่ะ
จากคุณ : Red-Rose-14Febขอบคุณครับ ผมก็ชอบอารมณ์ทัวร์ไร้สาระเหมือนกันนะ ขับรถไปดูวิวไป ไปดูเมืองแปลกๆ เห็นวิวแปลกตาก็ถือว่าได้เที่ยวแล้วล่ะครับ
ถึงจะเป็นทัวร์ไร้สาระ แต่รีวิวนี้มีสาระให้ผมนะคับ สารภาพว่าไม่เคยได้ยินชื่อเมือง Cordoba และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเมืองสำคัญอันดับ 2 เพราะผมรุ้จักแต่บัวโนส เมืองเดียวเลยครับ
ว๊าว ขับรถเร็วจังคะ เป๊นคนกลัวความเร็ว ขอบคุณสำหรับรีวิวคะ
จากคุณ : atayaขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักกัน
ต้องสารภาพว่า โดยส่วนตัวแล้วก็ขับรถไม่เร็วค่ะ เต็มที่แค่ 180 เท่านั้น
และก็แค่เป็นมือสำรอง สลับให้มือขับตัวจริงได้พักบ้าง
คุณป้าฟู // ระวังนะคะ ขับไม่ถึง 100 เขาจะไม่ให้ขึ้นทางด่วนนะเออ..(ล้อเล่นค่ะ)
คุณชาวทัวร์ // ตอนที่อยู่เยอรมัน เราขับกัน 240 แต่ปรากฏว่าถูกมอเตอร์ไซด์ แซงไปแบบหายวับไปเลยค่ะ และยังโดนรถไฟแซงอีกต่างหาก
ดูจากภาพเหมือนหิมะตกเลยใช่ไหมคะ
เติมน้ำร้อนฟรีหรือเปล่าคะ
ขับรถเร็วมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก น่ากลัวจัง
ตอนนี้ใช GPS คล่องหรือยังคะ คุ้มเลยนะเนี่ย
ป้าเองไม่เคยคุยในรถเลย เพราะหลับตลอด งานนี้ประหยัดน้ำมันมาก ขำกับมุขนี้จริ้งๆๆๆๆ
แอบชอบคำว่า ทัวร์ไร้สาระด้วยคะ เหมือนทัวร์ป้าไง อิ อิ อิ
เคยได้ยินชื่อเมืองนะคะ แต่ไม่เคยเห็นภาพคะ
ขอบคุณนะคะ มาหลงรักอาร์เจนเช่นเดิมจ้า
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
จากคุณ : สาวหน้าใสสวัสดีค่ะ คุณ สาวหน้าใส และ
คุณ blackbubble //
ตอนนี้ไม่มีหิมะ กำลังจะเข้าฤดูใบไม้ผลิเดือนหน้าแล้วค่ะ น้ำร้อนเติมฟรี ใช้ จีพีเอส พอได้แล้ว
เราน่าจะเป็นพวกเดียวกัน คือไร้สาระทัวร์ หรือ สะเปะสะปะทัวร์ โลเลทัวร์ คือนึกอยากจะไป นึกอยากจะหยุด ไม่มีแผนการ ถือว่าค่ำไหนนอนนั่น ซึ่งบางคนอาจจะทนกับทัวร์ประเภทนี้ไม่ได้
ยังไงก็ยังรอคุณอยู่นะคะ (หนุ่มอาร์เจนฝากมาบอก)
ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ
จากคุณ : noiwanwannoiตามไปเที่ยวด้วยครับ
จากคุณ : il giallorossi