ผมไม่ได้ นักเดินทางแต่ส่วนตัว ผมชอบการเดินทาง การเดินทางก็เหมือนกับการได้เรียนรู้และได้อ่านหนังสือเล่มใหม่
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก ยิ่งอ่านยิ่ง วางหนังสือไม่ลง เราได้เสพการเดินทางและการเรียนรู้แบบ หยุดไม่ได้แล้ว ว่าแล้ววันนี้ไป หาอะไรเสพที่เยาวราชดีกว่า เห็นผู้คนตื่นเต้นกับราคาทองแท่ง จนผมคิดว่า ถ้าทองแท่งกินได้ ทองแท่งที่เยาวราชคงอร่อยขึ้นชื่อเลย
ส่วนตัว ผมก็มาซื้อมา 2โลนะครับ แต่ไม่ใช้ทองแท่ง แต่ เป็นฝรั่งสดครับ เอาไปให้ยายทองแม่บ้านคนเก่ง หันให้กินที่บ้านครับ เลยเก็บรูปกรุงเทพเอาไว้ลงใน FB หน่อยครับ เผื่อๆๆคนที่อยู่ไกลจะได้ชมรูป กรุงเทพบาง แต่อย่าติดใจมานะ แค่นี้ก็แย่งกันกิน แย่งกันเดิน แย่งกันเดิน แย่งกันจอดรถ รถก็ติดนะ.... อยากมาเลย วันนี้ก็เหมือนเหมือนวันอื่นๆๆที่ผ่านไป แต่ผิดกันที่แค่อยากจะถ่ายทอดความเป็นเมืองหลวง พอดีช่วงนี้ฟ้าสวยด้วย ไม่มีฝนตกมา หลายวันแล้ว ... ว่าแล้วก้ไปกันครับ...
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10573970/E10573970.html
กรุงเทพฟ้าอมร ตอนแรก เผื่อใครยังไม่ได้ชม.
สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นสถานีรถไฟหลักของประเทศไทย และเป็นสถานีที่เก่าแก่ที่สุด สร้างในสมัย รัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2453 สร้างเสร็จและเริ่มใช้งาน วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2459 ในปัจจุบันสถานีรถไฟหัวลำโพง มีทางเชื่อมต่อที่มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่ดูกลมกลืนกับรถไฟฟ้ามหานครหรือรถไฟฟ้าใต้ดินบริเวณถนนพระรามที่ 4
การก่อสร้างสถานีกรุงเทพ ก่อสร้างในลักษณะโดมสไตล์อิตาเลียนผสมกับศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับสถานีรถไฟฟรังค์ฟูร์ทในประเทศเยอรมนี การประดับหลัก ประดับด้วยหินอ่อนและเพดานมีการสลักลายนูนต่าง ๆ โดยมีนาฬิกาขนาดใหญ่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 160 เซนติเมตร ตั้งอยู่กลางสถานีรถไฟเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่ง
ประวัติ
เดิมที สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งคำว่า หัวลำโพง สันนิษฐานว่าตั้งชื่อตามคลองและทุ่งที่มีฝูงวัวที่วิ่งกันคึกคัก ที่เรียกว่า ทุ่งวัวลำพอง และได้เพี้ยนเสียงมาเป็น หัวลำโพง บ้างก็สันนิษฐานว่าเป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่งคือ ต้นลำโพง ซึ่งเคยมีมากในบริเวณนี้
สถานีนี้เริ่มสร้างในสมัย รัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2453 สร้างเสร็จและเริ่มใช้งาน วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2459 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 สถานีรถไฟหัวลำโพง เดิมเป็นสถานีที่ให้บริการทั้งด้านการขนส่งสินค้า และขนส่งมวลชน ต่อมาการขยายตัวในด้านการโดยสารและขนส่งสินค้ามีมากขึ้น แต่ด้วยพื้นที่อันจำกัดเพียง 120 ไร่ จึงทำให้ต้องย้ายกิจการขนส่งสินค้าไปอยู่ที่ย่านสินค้าพหลโยธิน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 และทำการปรับปรุงสถานีรถไฟหัวลำโพงให้เป็นสถานีรถไฟสำหรับบริการด้านขนส่ง มวลชนเพียงอย่างเดียว เพื่อสามารถรองรับผู้โดยสารจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ
ตัวสถานีแบ่งเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ อาคารมุขหน้า มีลักษณะเหมือนระเบียงยาว และอาคารโถงสถานีเป็นอาคารหลังคาโค้งขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิค (Classicism) คือ เป็นงานเลียนแบบสถาปัตยกรรมโบราณของกรีก - โรมัน จุดเด่นของสถานีหัวลำโพงอีกอย่างหนึ่งคือ กระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งประดับไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนกับตัวอาคาร เช่นเดียวกับนาฬิกาบอกเวลาซึ่งติดตั้งไว้กลางส่วนโค้งของอาคารด้านในและด้าน นอก โดยเป็นนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นพิเศษเป็นการเฉพาะ ไม่ระบุชื่อบริษัทผู้ผลิตเหมือนนาฬิกาทั่วๆ ไป
บริเวณที่พักผู้โดยสารเป็นห้องโถงชั้นครึ่ง ชั้นล่างซึ่งมีที่นั่งจำนวนมาก มีร้านค้าหลากหลาย ได้แก่ ร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ผลไม้ ขนมปัง ไอศกรีม หนังสือ ร้านขายยา ฯลฯ ก่อนถึงห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้ายังมีห้องละหมาดอีกด้วย เหนือห้องประชาสัมพันธ์มีจอภาพขนาด 300 นิ้ว ควบคุมด้วยระบบ DOLBY DIGITAL ฉายเรื่องราวเกี่ยวกับการรถไฟ ส่วนชั้นลอย มีที่นั่งไม่มากนัก มีบริษัททัวร์ บริษัทรับจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา และร้านกาแฟ
ที่ผนังด้านซ้ายและขวาของสถานีหัวลำโพงมีภาพเขียนสีน้ำ เป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ของประเทศ อาทิ พระบรมมหาราชวัง ตลาดน้ำ เขาวัง ภูกระดึง หาดสมิหลา ฯลฯ นอกจากนี้ที่ด้านหน้าสถานีมีสวนหย่อมและน้ำพุสำหรับประชาชน โดยข้าราชการรถไฟได้รวบรวมทุนทรัพย์จัดสร้างอนุสาวรีย์น้อมเกล้าฯ อุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระพุทธเจ้าหลวง อนุสาวรีย์ที่ว่านี้เป็นรูป “ช้างสามเศียร” มีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แกะสลักเป็นภาพนูนสูงประดิษฐานอยู่ด้านบน
กิจการรถไฟในปัจจุบัน มีเส้นทาง เดินรถทั้งหมด 5 สาย สายที่ออกจากสถานีหัวลำโพง ได้แก่ สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ สายตะวันออก และสายใต้ออกจากสถานีหัวลำโพง และสถานีธนบุรี และสายแม่กลอง รถออกจากสถานีวงเวียนใหญ่ สถานีรถไฟหัวลำโพงในปัจจุบันมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินให้บริการอยู่ภายในชั้นใต้ดินของสถานีรถไฟ เปิดให้บริการ 24 ชม.
ลูกค้าคนแรกมาประเดิม
จากคุณ : ม่วงมหากาฬเดินตากแดดไป ไม่ไกลเท่าไร
วัดไตรมิตร ที่ผู้คนนิยมไปสักการะพระพุทธรูปทองคำกัน ตอนนี้ทางวัดได้สร้างพระมหามณฑปหลังใหม่สวยงามโอ่อ่าสำหรับประดิษฐานองค์พระ ที่สำคัญด้านในยังมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าความเป็นมาทั้งของพระทองคำและชุมชนชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในย่านเยาวราชนี้ มาไหว้พระชื่นใจแล้วยังได้มาชื่นชมกับพิพิธภัณฑ์ดี ๆ อีกแห่งของเมืองกรุง โดยเฉพาะใครที่มีเชื้อสายจีนต้องบอกว่าไม่ควรพลาดมาชมกัน
พี่เอก ตกใจเลยล่ะ ,,,,
ใกล้ๆๆ ก็มีประตู่สู่ไชน่าทาวน์ .......
งดงาม จริงๆ ครับ
จากคุณ : น้าลีโอแดดแรงร้อนมากๆๆ หน้ามืดลื่นเป็นลมเลยกด ชัดเตอร์มาได้แค่นี้ล่ะ...
จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิตไปเที่ยวบ้านของเราเองด้วย เด้อ
จากคุณ : tottui น้าลีโอ
ได้ซื้อฝรั่งสดเยาวราช ตามตั้งใจแล้ว มาต่อที่ศาลากลางจังหวัดกันครับ.
งดงามจังค่ะ ชายเอ
คุณ : tottui
ลานคนเมือง (หน้าศาลาว่าการกรุงเทพ)
เที่ยวกรุงเทพฯ ด้วยคนค่ะ ภาพสวยจัง
เสาชิงช้า ตั้งอยู่หน้าวัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นเสาชิงช้าขนาดใหญ่ โครงยึดหัวเสาทั้งคู่ แกะสลักอย่างสวยงาม ทั้งหมดทาสีแดงชาด ตั้งอยู่บนแท่นหินขนาดใหญ่
เสาชิงช้านี้มีความสูง 21 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางฐานกลมประมาณ 10.50 เมตร ฐานกลมก่อเป็นฐานปัทม์ทำด้วยหินล้างสีขาว พื้นบนปูกระเบื้องดินเผาสีแดง มีบันได 2 ขั้น ทั้ง 2 ด้าน ตามแนวโค้งของฐานติดแผ่นจารึกประวัติเสาชิงช้า เสาไม้แกนกลางคู่และเสาตะเกียบ 2 คู่ เป็นเสาหัวเม็ด ล้วนทำด้วยไม้สักกลึงกลม กระจังและหูช้างไม้เป็นลวดลายไทย ติดสายล่อฟ้าจากลวดลายกระจังด้านบนลงดิน
สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
เสาชิงช้า
ท่องเที่ยว
การก่อสร้าง
จดหมายเหตุการณ์อนุรักษ์กรุงรัตนโกสินทร์บันทึกไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจักรีบรมนาถ หรือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 โปรดให้สร้างเสาชิงช้าขึ้นตรงหน้าเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เมื่อวันพุธ เดือน 5 แรม 4 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2327 บริเวณลานด้านเหนือของวัดสุทัศนเทพวราราม แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร ต่อมาสร้างใหม่บริเวณหน้าวัดสุทัศน์เทพวราวราม ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านสถานที่ คุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) ขอบคุณครับแวะมาชม
ผีเสื้อ คุณ : บูตะ กะ กิมจิ ขอบคุณครับ ภาพสวยแต่ผิวคนถ่ายรูป ดำมากๆๆ
จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิตการซ่อมแซม
ล่วงสู่สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 บริษัทหลุยส์ ที.เลียวโนเวนส์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าไม้ได้มอบซุงไม้สักสำหรับสร้างเสาชิงช้าใหม่ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2463 นับเป็นการปฏิสังขรณ์ครั้งแรก และซ่อมใหม่อีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2502 ครั้งนั้นเสาชิงช้ามีส่วนสูงทั้งสิ้น 21.15 เมตร
ต่อมาเมื่อพ.ศ. 2490 เกิดไฟไหม้เสาชิงช้า เนื่องจากมีผู้จุดธูปกราบไหว้ ไฟจากธูปตกลงในรอยแตกและลามจนไหม้ จึงต้องซ่อมชั่วคราว จนถึง พ.ศ. 2513 เสาชิงช้าชำรุดทรุดโทรมมากต้องเปลี่ยนเสาใหม่ โดยการบูรณะได้พยายามรักษาลักษณะเดิมไว้ทุกประการ
กระทั่งวันที่ 30 กันยายน 2539 มีการซ่อมแซมอีกครั้งโดยสำนักการโยธา กทม. ได้ใช้สายเหล็กรัดเป็นโครงเหล็กประกับ คล้ายลักษณะเข้าเฝือกไม้ยึดโครงสร้างหลัก
ล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2548 พบว่าเสาชิงช้ามีความชำรุดทรุดโทรมมาก ปรากฏรอยผุแตกเป็นร่องลึกตลอดแนวยาว โดยเฉพาะโคนเสากลาง
กทม.ได้ทำหนังสือขออนุญาตกรมศิลปากร เพื่อดำเนินการซ่อมแซมด้วยการเปลี่ยนเป็นเสาใหม่ทั้งหมด เน้นการแก้ไขการผุกร่อนในระยะยาว เนื่องจากสาเหตุที่เสาชิงช้าผุกร่อนได้ง่ายนั้นเป็นเพราะภายใต้ฐานเสามีน้ำซึมขัง ทางกทม.ตั้งเป้าไว้ว่าเสาชิงช้าใหม่จะยืนหยัดได้ถึง 100 ปี เมื่อเทียบกับการบูรณะครั้งก่อนหน้าที่ทำให้เสาชิงช้ามีอายุการใช้งานมากกว่า 35 ปี
วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2350 เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่จะประดิษฐานเป็นสังฆาราม จึงเรียกกันว่า วัดพระโต วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้าบ้าง จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อ และทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยพระองค์เอง ...
จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิตรูปสวยจังค่ะ
จากคุณ : Anny_love loveภายในวิหาร พระศรีศากยมุนี (พระโต)
จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิตเกร็ดความรู้เยอะมากครับ...ขอเสริมนิดนึง...
กรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย แต่เป็น "เมือง" เหมือนดั่งเช่น "เมืองพัทยา" ฉะนั้นแล้ว...ถ้าจะพูดให้ถูก ก็ต้องบอกว่าประเทศไทยมี ๗๖ จังหวัด และ ๒ เมืองนั่นเอง
คุณ : Anny_love love ขอบคุณครับ.
คุณ : Into the Groove ขอบคุณความรู้ที่นำมากฝากนะครับ...
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางวงเวียนระหว่างถนนราชดำเนินกลางกับถนนดินสอ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การก่อสร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเริ่มขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2483 ในสมัยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นผลงานการออกแบบของหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล อันเป็นแบบที่ชนะการประกวดการออกแบบอนุสาวรีย์แห่งนี้ การออกแบบได้นำสถาปัตยกรรมแบบไทยมาผสมผสาน ตรงกลางเป็นสมุดไทยที่สื่อถึงรัฐธรรมนูญประดิษฐานบนพานแว่นฟ้า นอกจากการเป็นสัญลักษณ์เพื่อระลึกถึงประชาธิปไตยนั้น อนุสาวรีย์แห่งนี้ ยังเป็นหลักกิโลเมตรที่ศูนย์ของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยอีกด้วย
.
.เดินมาเรื่อยๆๆครับ ...
จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิตบ่นๆ เบื่อๆ
แต่ยังไงก็คือบ้านเกิด....รักเธอนะกรุงเทพฯ
ขอบคุณสำหรับภาพกรุงเทพฯ สวยๆ ค่ะ
วัดราชนัดดารามวรวิหาร (วัดราชนัดดา) เป็นวัดสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมมหากาฬ ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ซึ่งเป็นพลับพลารับแขกเมือง เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงสร้างบนสวนผลไม้เก่าเนื้อที่ประมาณ ๒๕ ไร่ เพื่อพระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดา คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี (ซึ่งภายหลังเป็นพระมเหสีในรัชกาลที่ ๔) โดยทั้งสองพระองค์เสด็จวางศิลาฤกษ์เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๙
จุดเด่นของวัดราชนัดดาที่ประชาชนมองเห็นได้ทั่วไปเมื่อผ่านมาทางถนนพระราชดำเนิน คือ โลหะปราสาท ซึ่งสร้างโดยพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้สเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๙ เนื่องจากทรงมีพระราชศรัทธาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและทรงทราบว่าในสมัยโบราณมีการสร้างโลหะปราสาทเพียง ๒ ครั้งในโลก คือ หลังแรกนางวิสาขา แห่งเมืองสาวัตถี สร้างยอดปราสาททำด้วยทองคำ หลังที่สอง พระเจ้าทุฏฐคามณี แห่งกรุงอนุราธปุระ ลังกา ทรงสร้างเมื่อราว พ.ศ. ๓๘๒ หลังคามุงด้วยแผ่นทองแดง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสร้างโลหะปราสาทเพื่อเป็นเกียรติแก่พระนครแทนการสร้างพระเจดีย์เช่นพระอารามอื่น นับเป็นโลหะปราสาทแห่งที่ ๓ ของโลก โดยสร้างเป็นปราสาทสูง ๓ ชั้น มียอดทั้งหมด ๓๗ ยอด กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน ๖๗ ขั้น ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้
เอามะพร้าว มาขายสวนป่าวเนี้ยน รีวิวกรุงเทพเลยเลย
ต้องคนบ้า เท่านั่นมัง 5555 (บ่นใส่ตัวเอง ) 55
สวัสดีครับพี่ชายเอฯ ยังทันอยู่มั้ยครับ รีบมากลัวไม่ทัน เดี๋ยวขอย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มก่อนนะ
คุณ: ตัวยาว (lekatuayao) รักกรุงเทพๆ เหมือนกันครับ. ถึงรถจะติด
สวยงามครับๆ บางสถานที่เราก็ลืมไปแล้วนะครับว่าควรไปเที่ยว เวลาเพื่อนถามว่า กทม.มีอะไรน่าเที่ยว
ไม่เคยตอบเค้าได้เลยอะครับ มาชมรีวิวนี้แล้ว นึกขึ้นมาได้หลายที่เลยครับ
คุณ(P.S. i love you) ทันครับ รีวิวไป นั่งกินขนมไป คิดงานไปด้วย เออ สนุกดี
ป้อมมหากาฬ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในปี พ.ศ. 2326 เป็นป้อม 1 ใน 14 ป้อมที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันรักษาพระนคร มีลักษณะรูปแปดเหลี่ยม มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น เป็นป้อมประจำพระนครด้านตะวันออก ปัจจุบันป้อมมหากาฬเป็น 1 ใน 2 ป้อมที่ยังคงเหลืออยู่ในกรุงเทพมหานคร (อีกป้อมหนึ่งคือป้อมพระสุเมร) ทางกรุงเทพมหานคร และกรมศิลปากรได้บูรณะซ่อมแซมป้อมมหากาฬเมื่อคราวพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในปี พ.ศ. 2525 และได้มีการบูรณะเรื่อยมาจนมีสภาพที่เห็นในปัจจุบัน
ตามมาป่วน
เอ้ย... ไม่ใช่เป็นหน้าม้า ถือป้ายไฟให้คุณชายเอ ค่า^^
จากคุณ : hollaneung คุณ : ข้าวเสาไห้ ครับ กรุงเทพอยุ่ใกล้ตัวเรา จนบางครั้งก็ลืมกรุงเทพไปเลยว่า กรุงเทพก็มีของดีๆๆ
เสาชิงช้า อีกรอบ ช่วงแสงกำลังสวย..
หนึ่งจัง ว่างหรือ ตามมาป่วน...
ประวัติความเป็นมา
อาคารหินอ่อนศิลปะสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกหลังนี้ เริ่มก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2450 ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่รับรองแขกเมือง และใช้สำหรับประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน ภายหลังจากที่สร้างพระที่นั่งอัมพรสถานในเขตพระราชวังดุสิตเสร็จแล้วในปี พ.ศ.2449 โดยทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เป็นแม่กองจัดการก่อสร้าง ให้นาย มาริโอ ตามาโย สถาปนิกชาวอิตาลีเป็นนายช่างออกแบบ ให้ศาสตราจารย์ แกลิเลโอ คินี และ นาย ซี. ริกุลี เป็นช่างเขียนภาพ
พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมแบบอิตาเลียนเรอเนสซองส์ ภายนอกประดับด้วยหินอ่อนซึ่งสั่งมาจากประเทศอิตาลี องค์พระที่นั่งเป็นอาคารหินอ่อนสองชั้น มีโดมสูงใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีโดมเล็ก ๆ โดยรอบอีก 6 โดม ชั้นบนเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ แบ่งเป็นท้องพระโรงหน้าและท้องพระโรงหลัง บนเพดานโดมของพระที่นั่ง มีภาพเขียนสีปูนเปียกขนาดใหญ่ที่สวยงามจำนวน 6 ภาพ แสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพระบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 6 โดยฝีมือเขียนภาพของศาสตราจารย์แกลิเลโอ คินี และนาย ซี.ริกุลี
การก่อสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคม ได้ดำเนินการจนสำเร็จบริบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ.2458 รวมใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 8 ปี งบประมาณค่าก่อสร้างตามราคาในสมัยนั้นคิดเป็นเงิน 15 ล้านบาท
.
จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิตพระบรมรูปทรงม้า
พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบรมรูปทรงม้า ตั้งอยู่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า สร้างขึ้นในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยนำแบบอย่างมาจากพระบรมรูปของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14แห่งฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส ด้วยฝีมือนายช่างชาวฝรั่งเศส บริษัท ซุซเซอร์ เฟรสฟอร์เดอร์ ในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2450
เด็กบ้านนอก ขอเกาะเลนส์ ไปเที่ยว เมืองฟ้าอมร ด้วยค่ะ
แต่ที่เห็นๆนี้ ไม่น่าจะฟ้า อมร แต่เป็นฟ้าเข้ม ทไวไลท์ งามมาก
ขอบคุณพี่ชายเอมากค่ะ
ปล่อยรีวิวออกมาอีกเยอะๆ เลยน๊าา รอชมอยู่เน้อเนี้ย
สะพานพระราม 8 มีความยาวรวม 475 เมตร สูงเท่าสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และความลาดชันไม่เกิน 3% เป็นสะพานหลักช่วงข้ามแม่น้ำ 300 เมตร สะพานยึดช่วงบนบก 100 เมตร และสะพานช่วงโครงสร้างยึดเสา 75 เมตรมีรูปแบบโดดเด่นสวยงามเพราะได้ออกแบบเป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรซึ่งหมายความว่ามีเสาสะพานหลักเสาเดียวบนฝั่งธนบุรี และมีเสารับน้ำหนัก 1 ต้นบนฝั่งพระนคร จึงไม่มีเสารับน้ำหนักตั้งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ไม่มีปัญหาต่อการสัญจรทางน้ำ ช่วยป้องกันน้ำท่วมและระบบนิเวศวิทยาในน้ำ รวมทั้งไม่กระทบต่อการจัดตั้งกระบวนพยุหยาตราชลมารค
การรับน้ำหนักของสะพาน ได้ติดตั้งสายเคเบิลระนาบคู่ 28 คู่ขึงยึดพื้นช่วงข้ามแม่น้ำ และใช้สายเคเบิลระนาบเดี่ยว 28 เส้น ขึงยึดรั้งกับโครงสร้างยึดเสาสะพานบนฝั่งธนบุรี เคเบิลแต่ละเส้นประกอบด้วยสลิงตั้งแต่ 11-65 เส้น เมื่อเกิดปัญหากับเคเบิล สามารถขึงหรือหย่อนได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องปิดการจราจรเหมือนสะพานพระราม 9 เนื่องจากเคเบิลแต่ละเส้นใช้สลิง ภายในซึ่งเป็นขดลวดใหญ่ทำให้ดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมยากกว่า อีกทั้งสายเคเบิลของสะพานพระราม 8 ยังมีสีเหลืองทอง สีประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อสะท้อนแสงจะส่องประกายสวยงาม โดยเฉพาะยามค่ำคืน : P r i m t a a ปาดดด...รีวิวไม่มีปล่อยล่ะ ถ้าปล่อยงูเห่า รอไหมจ๊ะ 55
โครงการพระราชดำรินี้ ทำให้สะพานแห่งนี้ เชื่อระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธน เดินทางรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผมเดินทางได้เร็วและประหยัดเวลาได้มาก เพราะคนที่บ้านรอผมอยู่และที่บ้านก็มีคนที่ผม อยากเจอเธอ( แม่) อยู่เหมือนกัน
สะพานพระราม 8 มีความยาวรวม 475 เมตร สูงเท่าสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และความลาดชันไม่เกิน 3% เป็นสะพานหลักช่วงข้ามแม่น้ำ 300 เมตร สะพานยึดช่วงบนบก 100 เมตร และสะพานช่วงโครงสร้างยึดเสา 75 เมตรมีรูปแบบโดดเด่นสวยงามเพราะได้ออกแบบเป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรซึ่งหมายความว่ามีเสาสะพานหลักเสาเดียวบนฝั่งธนบุรี และมีเสารับน้ำหนัก 1 ต้นบนฝั่งพระนคร จึงไม่มีเสารับน้ำหนักตั้งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ไม่มีปัญหาต่อการสัญจรทางน้ำ ช่วยป้องกันน้ำท่วมและระบบนิเวศวิทยาในน้ำ รวมทั้งไม่กระทบต่อการจัดตั้งกระบวนพยุหยาตราชลมารค
การรับน้ำหนักของสะพาน ได้ติดตั้งสายเคเบิลระนาบคู่ 28 คู่ขึงยึดพื้นช่วงข้ามแม่น้ำ และใช้สายเคเบิลระนาบเดี่ยว 28 เส้น ขึงยึดรั้งกับโครงสร้างยึดเสาสะพานบนฝั่งธนบุรี เคเบิลแต่ละเส้นประกอบด้วยสลิงตั้งแต่ 11-65 เส้น เมื่อเกิดปัญหากับเคเบิล สามารถขึงหรือหย่อนได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องปิดการจราจรเหมือนสะพานพระราม 9 เนื่องจากเคเบิลแต่ละเส้นใช้สลิง ภายในซึ่งเป็นขดลวดใหญ่ทำให้ดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมยากกว่า อีกทั้งสายเคเบิลของสะพานพระราม 8 ยังมีสีเหลืองทอง สีประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อสะท้อนแสงจะส่องประกายสวยงาม โดยเฉพาะยามค่ำคืน : P r i m t a a ปาดดด...รีวิวไม่มีปล่อยล่ะ ถ้าปล่อยงูเห่า รอไหมจ๊ะ 55
โครงการพระราชดำรินี้ ทำให้สะพานแห่งนี้ เชื่อระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธน เดินทางรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผมเดินทางได้เร็วและประหยัดเวลาได้มาก เพราะคนที่บ้านรอผมอยู่และที่บ้านก็มีคนที่ผม อยากเจอเธอ( แม่) อยู่เหมือนกัน
เมืองฟ้าอมร งดงามแบบนี้เอง^^
จากคุณ : SCFMสวย
จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลังสุดท้าย ส่งกรุงเทพด้วยสะพานพระราม8 อีกรุปนะครับ
ขอบคุณที่แวะมาชม มุมกรุงเทพๆ
ถ้า บุญมีวาสนาส่งเสริม จะหามุมกรุงเทพ มาให้ชมกันอีก
ขอบคุณทุกคำติชมและกิ๊ฟครับ...
มาไม่ทัีนถ่ายทอดสด
ให้กิ๊ฟเป็นกำลังใจและคำขอบคุณสำหรับภาพสวยๆแทนละกัน
อยากทราบอุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายในรีวิวนี้ครับ กล้องอะไร เลนส์wide ตัวไหนอ่ะ
คุณ: SCFM ขอบคุณครับ
คุณ : หมูอ้วนจอมพลัง ดีใจครับ ที่พี่ชอบ
คุณ : veemai โตกิน่า 11-16/2.8ครับ อีกตัว วีวิต้า 28/2.5 ตัวนี้เลนท์มือหมุนครับ... 2ตัว ถ่ายมาแฉกไฟ คนละแนวกันครับ
สวยมากค่ะ
ชอบมาก ๆ เลย มีแสงไฟแบบเป็นแฉก ๆ ด้วย สวยดีค่ะ
แต่ละภาพสวยงามจริงๆครับ ความฝันอย่างหนึ่งของผมคือถอยกล้องเจ๋งๆซักตัว แล้วตระเวนถ่ายภาพไปตามสถานที่สวยงามทั้งในและต่างประเทศ ตอนนี้ก็ขอเก็บตังซื้อกล้องก่อนและกันครับ หุหุ
จากคุณ : น้องจิมมี่สวยมากๆ ค่ะคุณชายเอ
ฟ้าแจ่มได้ใจจริงๆด้วยครับ สวยๆทั้งนั้นเลย
ขอบคุณสำหรับรีวิวด้วยครับ
สารภาพว่าไม่คุ้นกับภาพศาลาว่าการกรุงเทพค่ะ อาจจะเคยผ่านแต่ไม่ได้สนใจเลย แต่รักกรุงเทพเช่นกันค่ะ ^-^
จากคุณ : auooamบ้านเมืองนี้ งามแต้ๆ ค่ะ
จากคุณ : Bpearl โอ้..กรุงเทพเมืองฟ้าอมร สมเป็นนครมหาธานี ...
เดินตามคุณชายเอ ไปเที่ยวเมืองฟ้าอมร แบบเงียบๆค่ะ
ปล. ภาพชุดนี้สวยจังค่ะ ... (( แฉกได้คมมากๆเลย ))
ฟ้าอมร...จริง ๆ คะ.....ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน หรือ กลางคืน
รูปสวยขึ้นทุกวันนะครับ ขอบคุณกับรีวิวสวยๆเยี่ยมๆครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่เด็กบ้านนอกขอตามมาเที่ยวกรุงเทพฯด้วยคน
กรุงเทพสวยค่ะ โดยเฉพาะวัดต่างๆ สวยมาก
จากคุณ : Flaminioกรุงเทพยามค่ำคืนนี่สวยมากเลยครับ
จากคุณ : Destiny-Boyว้าววววว สวยทุกรูปเลยครับ
จากคุณ : ส่วนหนึ่งของประเทศไทยรูปสวยจริงๆค่ะ ผ่านแต่ตอนกลางวัน เห็นตอนกลางคืนนี่ก็สวยไม่เบาเลย
ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆและเรื่องราวนะคะ
คนเราใกล้เกลือกินด่างมากๆนะครับ
ผมไม่เคยไปถ่ายรูปสวยๆมาอวดเลยทั้งๆที่อยู่ใกล้นี่เอง
ภาพสวยมากๆครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะครับ
สวยมากครับ
จากคุณ : tiger's nestพี่เอ รูปสวยมากกกกกกกกกกกกกกก
ขอบุคณสำหรับภาพสวย นะครับ
สวยทุกรูปครับ
จากคุณ : tonhok...ตามป๊ะป๋านุมาชมความงามของเมืองกรุงด้วยคนนะคะ
แต่ละที่สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย อยากไปมั่งจังเลยค่ะ ^-^
มาชมเมืองกรุง ในมุมมองสวยๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะ
เข้ามาชมรูปสวยๆก่อนนอน คืนนี้หลับฝันดีแน่ๆเลย ขอบคุณนะคะ
กทม ของเรา น่าอยู่คะ
ภาพสวยมากเลย
ตอนท้ายๆนี่แวะมาแถวบ้านผมเลยนะเนี่ยะ
สวยมากค่ะ
จากคุณ : pchamaip คุณ: Salmon Lover ปรับรูปรับแสง(F)แคบๆๆครับ ไฟก็เป็นแบบนั่น
คุณ : น้องจิมมี่ ขยันทำงานนะ จะได้มีเงินถอยกล้องใหม่ ถ่ายแล้วมาอวดด้วย
คุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน ขอบคุณครับ ดีใจอย่างแรง
คุณ : เล็กทาโร่ ขอบคุณครับพี่ นึกว่าพี่หายไปไหน
คุณ พี่เอ ว่างๆๆจะแอบไป เที่ยว บ้านพี่บางนะ
คุณ : Flaminio กรุงเทพ มีมุมสวยๆๆซ้อนอยู่แยอะนะ
คุณ : Destiny-Boy กรุงเทพๆกลางคืนสวยครับ แต่ก็ระวังตัวด้วยครับ ยามค่ำคืน
คุณ : ส่วนหนึ่งของประเทศไทย ขอบคุณครับ แวะมาชม
คุณ : Red-Rose-14Feb ขอบคุณเช่นกันครับ แวะมาชม
คุณ : paipaiphuart ใกล้เกลือกินด่าง พูดถุกใจมากเลยนะ
พี่เสือ ขอบคุณหลายๆๆเน้อ..
คุณ : ชานมชงเอง ขอบคุณครับ
คุณ : tonhok จะหามาฝากอีกนะครับ
ตะวัน มาซะดึกเลย...ฮิ่ววววว
คุณ : DOGHALL ผมก็ตามอ่าน รีวิว ที่ไปเที่ยวๆๆกับน้องๆๆ น้องๆๆน่ารักมาก ผมชอบ
คุณสาวหน้าใส ขอบให้ฝันดี ทุกๆๆคืนนะครับ
คุณ: มารร้ายวัวน้อย ถ้ารถไม่ติด จะน่าอยู่มาที่สุด สำหรับผม
คุณ กาแฟ บ้านอยู่ฝั่งธน หรือ ผมข้ามพระราม8 ไปหาแม่ประจำ
คุณ : pchamaip ขอบคุณนะครับ.
thank you ka....
ตลาดวายซะแล้ววว
ตระการตาวิลิศมาหรามากครับ
thank you krab.... ^
สวยมากๆ ค่ะลุงนุ ชอบทุกใบเลย
ขอบคุณครับ
จากคุณ : คนมีแฟนขับ (chun_cx)รูปสวยมากกกกกกกกกก
จากคุณ : กุ้งตะลอน (Rafael-II)
ถ่ายทอดมุมมองของเมืองฟ้าอมรออกมาได้สวยงามมากเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆนะคะ
สวยมากๆค่ะ
จากคุณ : Happy_Jeab