อันยอง ฮาเซ โย เช้าวันที่ 12/4/54
ตื่นกันหกโมง ทำธุระส่วนตัว ลงมาทานข้าวตอนเจ็ดโมง
ห้องอาหารตกแต่งด้วยไฟสีฟ้า สวยดีครับ
มีเงาะเหมือนที่โรงแรมแรกด้วย
ห้องอาหารยังคงว่างแทบจะเป็นห้องส่วนตัว
ยังไม่มีแขกกลุ่มอื่นลงมาเลย
อาหารก็มีให้เลือกพอควร จากหน้าต่างกระจกห้องอาหารเห็นท่าเรือด้วย
เลือกทานกันได้ตามสบายเลยครับ
อีกด้านของโรงแรม จะมีอาคารทรงจีนใหญ่มาก
ทานมื้อเช้าอิ่มแล้ว
เวลายังเหลือเลยออกไปเก็บภาพอาคารทรงจีนที่อยู่อีกด้านของโรงแรม HARBOR PARK
ประมาณ 08.00 น.ล้อหมุน
ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็มาถึงบริเวณสวนสนุกที่อยู่แถวท่าเรือเฟอร์รี่
ที่ข้ามไปเกาะวอลมิโด
เรือเที่ยวแรกออกประมาณ 09.00 น.
ยังมีเวลาเหลือให้เดินเล่นแถวท่าเรือ
ร้านค้าเปิดอยู่ร้านเดียว เพื่อนสมาชิกเลยได้ชิมหอยกับแมลงแปลกๆ
เด็กๆ 2 คนซนมาก แอบไปขี่เป็ดเล่นกัน
ร้านค้าส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ จะเป็นร้านอาหารทะเล แต่ยังไม่เปิดร้านกันเลย
เก็บภาพหมู่ไว้เป็นที่ระลึก สนุกสนานกับการถ่ายภาพ
จากคุณ : AUN_SAPมีร้านน้ำผิวส้มให้ลองชิม รสชาติพอได้ครับ
จากคุณ : AUN_SAPดาวน้อยสามดวงน่ารัก ไม่แน่ใจว่าเป็นตัว มาสคอต จากงานอะไรหรือเปล่า
จากคุณ : AUN_SAPอากาศดีครับ เก็บภาพกันสนุกสนาน
จากคุณ : AUN_SAPโพสท่ากันไปเรื่อย สบายๆ ชิวๆ
จากคุณ : AUN_SAPสังเกตุที่จุดลงเรือ เห็นนกนางนวล เยอะพอควร
จากคุณ : AUN_SAPเห็นเรือเฟอร์รี่แล้ว กำลังแล่นเข้ามา
เก็บภาพหมู่กับเจ้าดาวสามดวง
แวะชมเครื่องคั่วเกาลัดก่อนกลับไปขึ้นรถ
เกือบ 09.00 น. เรือเฟอร์รี่เข้าเทียบท่า
ลงเรือกันเลย รถจะจอดชั้นล่างของเรือ
ส่วนคนจะรอในรถหรือขึ้นไปนั่งที่ห้องโดยสารชั้นบนก็ได้
แต่แนะนำให้ขึ้นไปด้านบนไปชมฝูงนกนางนวล ที่คอยบินตามเรือ
ระหว่างที่เจ้านางนวลบินตามเรือ สายตาก็มองหาอาหาร
จากนักท่องเที่ยว ที่เตรียมมา
ขนาดของลำเรือใหญ่มาก จุรถได้หลายคันทีเดียว
เข้าไปชมห้องรับรองผู้โดยสาร เที่ยวนี้ว่างมากๆ
อาจจะเป็นเพราะผู้โดยสารส่วนหนึ่งจะออกไปให้อาหารนกนางนวลที่ด้านนอก
แนะนำอาหารที่นกนางนวลชอบ จะเป็นข้าวเกียบกุ้ง
ถือแล้วยื่นออกไป มันจะบินโฉบมากินกับมือเลยครับ
ดูกันชัดๆ
จากคุณ : AUN_SAPนกนางนวลเยอะขึ้นเรื่อยๆ
เท่าที่สังเกตุดู ข้าวโพดคั่ว ไม่เป็นที่โปรดของเจ้านก สู้ข้าวเกียบกุ้งไม่ได้
นกนางนวลที่นี้ ดูสมบูรณ์ ขนาดตัวใหญ่
จากคุณ : AUN_SAPสีขาวของนก ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล สวยมาก
จากคุณ : AUN_SAPประมาณ 20 นาที ก็ถึงเกาะวอลมิโด
ตอนประมาณ 9.20 น. ลงไปขึ้นรถได้แล้วครับ
ข้าวเกียบเหลือจากเลี้ยงนก ก็เสร็จคนละทีนี้
ตามโปรแกรมของทัวร์ บรรยายไว้ดังนี้
"นำท่านสู่เกาะวอลมิโด ระหว่างบนเรือจะมีนกนางนวลบินมาทานอาหารจากมือท่าน
เกาะวอลมิโด เป็นเกาะที่สวยงามแห่งหนึ่งของเกาหลี
ตั้งชื่อตามลักษณะรูปร่างที่มีขนาดยาวและเรียวคล้ายคลึงกับส่วนปลายของพระจันทร์ครึ่งดวง
ให้ได้เดินเล่นตามถนนวัฒนธรรมที่อยู่เลียบชายหาดบนเกาะวอลมิโด
ถนนที่มีความกว้างเกือบ 1 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นส่วนสถานที่นัดพบ
พื้นที่ขายสินค้า พื้นที่วัฒนธรรมศิลปะ และยังมีพื้นที่ ที่ให้ได้ศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านของชาวเกาหลี
ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้ไปจะรู้สึกตกหลุมรักเกาะนี้ในทันที"
ที่บรรยายมาข้างต้น มันอยู่ส่วนไหนของเกาะหละเนี้ย
รถก็แล่นมาเกือบ 10 นาทีแล้ว จนเห็นป้ายเหมือนจะเส้นทางไปกรุงโซล
แล้วรถก็แล่นผ่านสะพานยาวมากๆ สงสัยกำลังจะกลับกรุงโซลจริงๆ ด้วย
จากคุณ : AUN_SAPด้วยความสงสัย ทนเก็บไว้ไม่ได้ เลยถามไกด์วิ
ตามโปรแกรมจะมีเดินเล่นที่เกาะวอลมิโด ไม่ใช่เหรอ
ไกด์วิบอกก็ที่เราแวะถ่ายรูปก่อนลงเรือนั้นแหละ
ได้คำตอบมาแบบนี้ งง เลยครับ
ยัง งง ไม่หาย
มานั่งนึกย้อน แล้วมันจะเป็นเกาะวอลมิโดได้ไง เพราะเรายังไม่ได้ลงเรือเลย
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
จากโปรแกรมเขียนไว้สวยหรู ถ้าเกาะวอลมิโดมีแค่ให้อาหารนกนางนวล
เราจะแวะให้เสียเวลาทำไม ไปบางปูบ้านเราก็ได้ เอาเวลาไปเที่ยวที่อื่นดีกว่ามั้ย
ได้แต่แอบคิดอยู่ในใจ
แล้วก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ก่อนมาก็พยายามหาข้อมูลบน Web
เกาะวอลมิโด มีอะไรน่าเที่ยว ก็หาข้อมูลไม่ค่อยได้
ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยไปเที่ยวหรือมีข้อมูลที่เที่ยวในเกาะวอลมิโดหรือเปล่า
ว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้างครับ
ประมาณ 10.20 น.เราก็มาถึง 63 Tower
เด็กเล็กๆ มาเยี่ยมชม ยืนออกันอยู่ด้านหน้าตึกเยอะทีเดียวครับ
เข้าไปด้านใน วันนี้เด็กๆ ก็ตั้งแต่กันอยู่ใช่น้อย
คริสไปซื้อตั๋ว ภายในอาคารจะมีส่วนแสดง หลายส่วน
เช่น ส่วนแสดงสัตว์น้ำ หอศิลป์ และ อีกหลายๆ อย่าง
ทางเดินบริเวณนี้ประดับไฟสี เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ สวยครับ
จากคุณ : AUN_SAPเดินกันระยะพอควร ก็มาถึง 63 WAX MUSEUM
จากคุณ : AUN_SAPพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งบุคคลและศิลปินดังระดับโลก
จากคุณ : AUN_SAPด้านหน้าจะจัดแสดงอุปกรณ์และวัสดุในการปั้นหุ่น
จากคุณ : AUN_SAPด้านในจัดแสดง หุ่นขี้ผึ้งของบุคคลและศิลปินดังระดับโลก หลายๆ ท่าน
เช่น Matsuzaki Satoru, U.S. President OBama, Lincoln, Marilyn Monroe, James Dean, David Backham ฯลฯ
ใครเป็นใคร ชมกันเองนะครับ
จากคุณ : AUN_SAPจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ที่ถูกใจเด็กๆ ที่สุด น่าจะเป็นหุ่น เช-สาระแนสิบล้อ ฮิฮิ
จากคุณ : AUN_SAPหุ่นปั้นจากต้นแบบภาพเขียนสีน้ำมัน
มีสิ่งแปลกปลอม ปะปนอยู่กับหุ่น ลองดูนะครับว่าอยู่ไหน
สนุกสนานกับการถ่ายภาพ
จากคุณ : AUN_SAPมาที่นี้จะได้ถ่ายภาพกับดาราที่ชื่นอย่างใกล้ชิด
จากคุณ : AUN_SAPโซนภูตผีปีศาจ มีห้องผีสิง Harror Hall
เกาะกลุ่มเข้าไปกรี๊ดๆ กันด้านใน ไม่ค่อยเห็นอะไรเพราะมืดมาก
พอออกมาด้านนอก ลองดูหุ่นที่อยู่ในโลง เหมือนคนมากๆ ฮิฮิ
แวะดูหนังพาโนรามา 5D รอบทิศ รอบสั้นๆ แปลกดีเหมือนกัน
จากคุณ : AUN_SAPหนังที่ฉายเป็นเรื่องสั้นๆ ไม่กี่นาที
พอหนังจบก็ออกมาถ่ายภาพกับเหล่าหุ่นฮีโร่ น่าจะดังเมื่อสมัย 20-30 ปีก่อน
ทำให้ย้อนนึกถึงตอนเป็นเด็กๆ
ระหว่างทางเดินจะมีร้านถ่ายภาพให้เก็บภาพเป็นที่ระลึก และ
ร้านเทียนหลอมแบบมือของเราเอง
ถัดมาจะเป็นมุมนักกีฬา และ หมีตัวใหญ่มากๆ
จากคุณ : AUN_SAPทางเดินออกแบบสวยดี
แล้วก็มาถึงห้องสุดท้าย เป็นหุ่นของบุคคลสำคัญที่มีภาพบนธนบัตรของประเทศต่างๆ
มีธนบัตรของหลายประเทศ
แล้วก็มาถึงร้านขายของที่ระลึก
มีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มด้วยครับ
สมาชิกแก๊งส์ไอศครีม ได้ชิมไอศครีมอีกแล้ว
ได้เวลากลับกันแล้ว มีปัญหาในการเดินหารถบัสนิดหน่อย
จากคุณ : AUN_SAPประมาณ 11.30 น.ก็เดินทางกันต่อ
จากคุณ : AUN_SAPระหว่างทางเห็น SEOUL TOWER อยู่ไกลๆ
จากคุณ : AUN_SAP11.50 น. ก็มาถึงร้านอาหารมื้อเที่ยง ที่อยู่ใกล้ๆ กับร้านที่มาทานเมื่อคืนวาน
มื้อนี้หมูย่างเกาหลีอีกแล้ว ชอบๆ
หมูย่างเกาหลี หรือ คาลบี้ ได้ทานกันมาแล้ว 1-2 มื้อ
มื้อนี้เลยย่างและทานกันได้อย่างคล่องแคล้ว อร่อยครับ
ทานอิ่มกันแล้ว ก็ออกมาเดินช๊อปของที่ระลึกร้านค้าเล็กๆ ด้านหน้าร้านอาหาร
12.50 น.เดินทางกันต่อ ชิมสตรอเบอร์รี่เกาหลี ดูจกาสีหน้าคนชิม บ่งบอกถึงรสชาติที่พอได้
เรากำลังมุ่งหน้าสู่เขานัมซัน ภูเขาแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโซลมีความสูง 274 เมตร
ไกด์วิ บอกต้องคอยลุ้นกัน ว่าจะต้องเดินขึ้นเขาที่ระยะไกลแค่ไหน
เพราะไกด์ทัวร์อื่นที่เจอกันที่ร้านอาหาร บอกวันนี้คนขึ้นเยี่ยมชมเยอะมาก
รถไม่สามารถขึ้นไปถึงลานจอดด้านบนได้
แล้วเราก็มาถึงทางขึ้นเขานัมซัน ขึ้นมาได้ระยะหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่มาโบกให้รถบัสจอดข้างทาง ตอนประมาณ 13.10 น.
รถขึ้นไปต่อไม่ได้พวกเราก็ลงเดิน ระยะทางคงไม่ไกลเท่าไร
เพราะเห็นคนเกาหลีเขาเดินขึ้นเขากันมา
ลุยกันเลยพวกเรา ถนนขึ้นเขาสวยมากๆ
เดินกันได้ระยะหนึ่ง ก็มีจุดพักชมกรุงโซลจากมุมสูง
เก็บภาพ พักเหนื่อยสักครู่ ออกเดินกันต่อ ลูกๆ หลานๆ พลัดกันเข็นรถคุณแม่
Thanks หลายๆ เด้อ หลานๆ
มุมหนึ่งของ โซล แบบพาโนราม่า จากจุดพักชมวิว
เห็นถึงความหนาแน่น
SEOUL TOWER บนยอดเขานัมซัน จากจุดพักชมวิว
จากคุณ : AUN_SAPเดินกันต่อ เริ่มร้อน ต้องถอดเสื้อกันหนาว กางร่มเดินกันแล้ว
เปลี่ยนมือคนเข็นรถคุณแม่ เข็นขึ้นเขากินแรงเหมือนกันครับ
เดินไปก็ต้องระวังรถบัสด้านหลังกันไป
ถนนเส้นเล็กแถมมีรถบัสจอดข้างทาง
แทบจะไม่เหลือทางให้คนเดิน
รถบัสบริการของที่นี้ใช้ไฟฟ้า กำลังจอดชาร์จไฟอยู่
ช่วงที่ไปไม้ดูแห้งๆ มีแต่กิ่งไม่เหลือใบให้เห็นเลย
เดินอีกนิดเดียว
เห็น SEOUL TOWER อยู่ใกล้ๆ แล้ว
แล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายของทางเดิน ที่เป็นช่วงที่ชันที่สุด
เจ๊นวลใช้เทคนิคเดินถอยหลังขึ้น เพื่อช่วยผ่อนแรง
13.30 น. ก็มาถึงยอดเขา ที่ตั้งของ SEOUL TOWER นั่งพักกันสักครู่
จากคุณ : AUN_SAPพอหายเหนื่อยแล้ว เข้าไปด้านใน SEOUL TOWER กันเลย
กลุ่มเด็กๆ เดินสวนออกมา แต่งตัวน่ารักกันจัง
จุดแรกที่แวะชม พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์
ชมความน่ารักของหมีน้อย ในอิริยาบถต่าง ๆ แบบสมัยโบราณ
หมีน้อย แข็งขัน กำลังช่วยกันสร้างพระราชวัง
จากคุณ : AUN_SAPพวกขุนนาง ในงานราชพิธี ต่างๆ
จากคุณ : AUN_SAPพวกบัณฑิต กำลังเรียนหนังสือ
จากคุณ : AUN_SAPพีธีแต่งงาน และ พิธีการต่างๆ
จากคุณ : AUN_SAPขบวนแห่ และ การใช้ชีวิตของชาวเกาหลีในสมัยก่อน
จากคุณ : AUN_SAPร้านค้า ตลาด ทำได้น่ารักมาก
จากคุณ : AUN_SAPชมกันเพลินๆ ในแบบเกาหลีแล้ว ก็ออกมาจุดนั่งพัก บริเวณร้านขายขนม ของว่าง
จากคุณ : AUN_SAPชมวิวมุมสูง ก่อนจะเดินชมน้องหมีต่อ
จากคุณ : AUN_SAPส่วนถัดมาจะเห็นถึงความแตกต่างของเครื่องแต่งกายน้องหมี
จากคุณ : AUN_SAPชุดแต่งกายจะเป็นปัจจุบัน ทันสมัย
จากคุณ : AUN_SAPน่ารักไปอีกแบบ
จากคุณ : AUN_SAPเก็บภาพน้องหมีมาเยอะมาก
แล้วก็ถึงบริเวณแสดงตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ยุคแรกๆ
บางตัวดูแล้วน่ากลัว มากกว่าน่ารัก
แล้วก็มาถึงร้านขายของที่ระลึก หากใครชอบสะสมเท็ดดี้แบร์
เลือกซื้อจากที่นี้ได้เลยครับ
แล้วก็ได้เวลาไปขึ้น SEOUL TOWER 1 ใน 18 หอคอยเมืองที่สูงที่สุดในโลก
มีความสูงถึง 480 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
ชมทัศนียภาพของกรุงโซลได้รอบทิศ 360 องศา
เห็นจุดที่เราลงรถแล้วเดินขึ้นมาไกลเหมือนกันนะเนี้ย
เขาว่าจากบนนี้
"สามารถมองได้ถึงเขาพูกักซัน และถ้าหันไปยังทิศตรงข้าม ก็จะเห็นไกลไปถึงแม่น้ำฮันกัง"
เก็บภาพพาโนร่ามาสักภาพ
มีของเล่นให้เล่นด้วย เวลาเข้าไปยืนบนพื้นกระจก
กระจกก็จะเปลี่ยนภาพเป๊นภาพพื้นกำลังยุบตัวทะลุลงไปเห็นด้านล่าง แจ๋วอะ
พาโนราม่าอีกด้าน กรุงโซล บ้านเรือนหนาแน่นจัง
จากคุณ : AUN_SAPตามกระจกแต่ละบานจะมีชื่อเมือง พร้อมระยะทางจากความห่างจาก SEOUL TOWER
จากคุณ : AUN_SAPก่อนจะลงจาก SEOUL TOWER อย่าลืมแวะเข้าห้องน้ำกันนะครับ
สำหรับห้องน้ำชาย เวลาเบาไป ก็ชมวิวกรุงโซลไป มองได้กว้างไกล เพลินดีครับ
ได้เวลาลงลิฟท์มาด้านล่าง ผ่าน จุดคล้องกุญแจคู่รัก
จุดไฮไลท์อีกจุดของ SEOUL TOWER
การคล้องกุญแจคู่รัก Love Key Ceremony
ให้เขียนข้อความ หรือชื่อของคู่รักไว้บนแม่กุญแจ
และก็จะนำแม่กุญแจนี้ไปคล้องกับรั้วเหล็ก
ส่วนลูกกุญแจเขาจะทิ้งไป ด้วยความเชื่อที่ว่าหากคู่รักคู่ใด
ได้มาเยือนและคล้องกุญแจคู่รักกันที่นี่
จะทำให้ความรักของทั้งคู่ยืนยาว ไม่พรากจากกัน
14.40 น.รถบัสมารับบริเวณลานจอด ใกล้กว่าจุดที่ส่งเราลงเยอะ
ระหว่างทางจะกองหินเช่นเคย ใช้เวลาไม่นานเราก็ลงมาถึงด้านล่าง
นั่งรถไม่นาน ประมาณ 15.00 น.เราก็มาถึง ตลาดทงแดมุน
จากคุณ : AUN_SAPตลาดทงแดมุน จะมีสินค้าประเภท เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆ
เครื่องหนัง เครื่องนอน เครื่องใช้ในบ้าน รองเท้า กระเป๋า เครื่อง ประดับ และ
เครื่องสำอางยี่ห้อดังๆ เช่น SKIN FOOD, THE FACE SHOP, ETUDE HOUSE ฯลฯ
ผมเลือกพาคุณแม่ไปชมคลองชองเกชอง
ที่มีความยาวประมาณ 6 กม. เมื่อก่อนเป็นคลองที่เป็นน้ำเสีย
มีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ไหลผ่านใจกลางเมือง
ปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนริมสองฝั่งคลองสวยงาม น้ำใสมาก
แล้วจึงย้อนกลับมาเดินเล่นตลาด
เดินช๊อปกันได้อีกสักครู่ ก็ได้เวลานัดเจอกันที่รถ
พร้อมกันตอน 17.00 น. พร้อมของอีกคนละ 2-3 ถุง
นั่งรถชมวิวตัวเมืองกรุงโซล
จากคุณ : AUN_SAPประมาณ 17.45 น. เราผ่านถนนที่มีอนุสาวรีย์กษัตริย์
ลองค้นใน Web ได้ข้อมูลว่าเป็นอนุสาวรีย์ท่านนายพล ลี ซุนชิน
ผู้ประดิษฐ์เรือบรบเต่า เรือรบหุ้มโลหะลำแรกของโลก และ
อนุสาวรีย์กษัตริย์เซจงมหาราช ผู้ประดิษฐ์ตัวอักษรเกาหลี
ร้านอาหารมื้อเย็นของเราก็อยู่บริเวณนี้
เข้าไปในร้านกันเลย
มื้อนี้เป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติ เลือกทานกันตามสบาย ไม่อั้น
ของก็มีให้เลือหลากหลาย เยอะจนตักไม่ครบเลยครับ
จากคุณ : AUN_SAPไฮไลท์มื้อนี้ ขาปูยักษ์อลาสก้าอันเลื่องชื่อ และเบียร์บุฟเฟต์
แต่เสียดายตรงที่รสชาติอาหารบางอย่างไม่ค่อยเท่าไร
อิ่มของคาว ก็มีของหวานให้ตบท้าย
อิ่มแล้วก็ออกมานั่งรับลมหนาวที่หน้าร้านรอพรรคพวก
ประมาณ 19.20 น.ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ
นั่งรถสักครู่เดียว ตอน 19.40 น.เราก็ถึงด้านหน้าโรงละคร JUMP SHOW
เราเข้าชมโชว์รอบ 20.00 น.
JUMP SHOW เป็นโชว์ลีลาศิลปะป้องกันตัวในท่าทางที่โลดโผน
ผสมกับละครเวทีรูปแบบใหม่
เป็นละครใบ้ที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่การนำเสนอศิลปะการต่อสู้แบบโบราณของเกาหลี
ได้แก่ เทควันโด้และเทคยอน ผสมผสานกับศิลปะการต่อสู้ของชนชาติอื่นในแถบเอเชีย
เช่น กังฟู คาราเต้ กระบี่กระบอง และมวยจีน แทรกมุกตลกขำขัน
โชว์จบประมาณ 21.30 น. ชมแล้วฮาดีเหมือนกันครับ
มากันครบแล้วขึ้นรถกันได้เลยครับ
ระหว่างเดินทางเข้าสู่ที่พัก
คริสก็นำภาพที่เขาถ่ายพวกเราตลอดทริป มาจำหน่าย แบบไม่เป็นการบังคับ
ใจจริงก็อยากจะรับทุกภาพไว้ แต่ด้วยราคาต่อภาพที่สูงลิ่ว
เลยจำใจต้องขอคัดเก็บไว้เพียงบางส่วน
ต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาอึดอัดมากๆ
ตามมาเที่ยวเกาหลีต่อครับ
เห็นอาหารใน คห.5 แอบขนลุก
ชอบนัมซานทาวเวอร์กับหุ่นขี้ผึ้งครับ
ประมาณ 22.00 น. เราก็มาถึง โรงแรม HARBOR PARK โรงแรมเดิมที่นอนเมื่อคืนวาน
คืนนี้นอนไวหน่อยนะครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตีสี่ ล้อหมุนตีห้า
ราตรีสวัสดิ์ครับผม
สวยและสนุกมากครับ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่ตามมาเที่ยวด้วยครับ อยากไปชม JUMP SHOW บ้างจัง
จากคุณ : tiger's nestขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
จากคุณ : Destiny-Boy555
ตัวแมลงใน คห.5 ผมก็ไม่กล้าลองครับ คุณ Koon Shy_Tour Dee
ได้ลองแต่หอย ไม่อร่อยเท่าไร
JUMP SHOW สนุกดีเหมือนกันครับ คุณ tiger's nest
เห็นเขาว่า Nanta ก็สนุก มีแสดงที่บ้านเราแล้ว
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ คุณ Destiny-Boy ,คุณเล็กทาโร่
คืนนี้เก็บของฝากของใช้ลงกระเป๋าให้เรียบร้อยนะ
พรุ่งนี้ต้องเดินทางข้ามไปอีกประเทศแล้ว
ตามมาเดินเล่นต่อค่ะ
คอเบียร์คงจะชอบตรงมีบุฟเฟ่ห์เบียร์ให้ด้วยนะคะ
ถูกต้องแล้วครับ คุณสาวหน้าใส
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ