เราสองคนมีโครงการว่าเสาร์อาทิตย์จะไปเดินเที่ยวในบริเวณกรุงเทพและปริมณฑลกันเป็นประจำ
โดยตกลงกันว่า จะใช้บริการขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะทางเรือเป็นหลัก และเดินเท้าตระเวนกันไปในที่ต่างๆ
ผมมีความตั้งใจหลายปีมาแล้วว่าอยากจะตระเวนชมกรุงเทพที่คนจากทั่วทุกมุมโลกหลายล้านคนเดินทางมาท่องเที่ยวทุกปี
ผมเองได้พบกับชาวต่างชาติหลายคนที่มีความสนใจและเข้าใจในศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างน่าทึ่ง
จนนึกละอายใจว่าเป็นคนไทยแต่กลับรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมไทยน้อยกว่าชาวต่างชาติเสียอีก
นี่คืออีกแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้เกิดโครงการนี้
สถานที่แรกๆที่เป็นแหล่งรวมของศิลปวัฒนธรรมที่เข้าถึงได้ง่ายคือวัดวาอารามต่างๆ
เราจึงตั้งใจว่าจะตระเวนไปไหว้พระตามวัดต่างๆและสัมผัสกับวิถีชุมชนรอบวัดนั้นๆด้วย

ตอนที่ 1 วัดอรุณราชวราราม
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10951296/E10951296.html
ตอนที่ 2 วัดกัลยาณมิตรและชุมชนกุฎีจีน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10962075/E10962075.html
ตอนที่ 3 วัดราชโอรสาราม
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10979288/E10979288.html
ตอนที่ 4 วัดนางนองและวัดหนัง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10995963/E10995963.html
ตอนที่ 5 วัดราชบพิธ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11017370/E11017370.html
ตอนที่ 6 วัดราชประดิษฐ์ วัดมหรรณ ศาลหลักเมือง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11040059/E11040059.html
ตอนที่ 7 ชุมชนวัดอนงคาราม
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11052080/E11052080.html




หากท่านเห็นว่ากระทู้นี้มีประโยชน์และช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ก็จะขอบคุณมากครับ
………………………………………………………………………………………

ครั้งนี้จะแตกต่างจากตอนก่อนๆนิดหน่อยครับ เพราะเป็นการไปทำงานด้วยไปเที่ยวด้วย เราไปกันโดยรถส่วนตัวครับ
ไปกับกลุ่มครูหนุ่มสาวชาวจีนที่เข้ามาสอนภาษาตามโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน
เป็นการสัมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการสอนภาษาจีนและปัญหาต่างๆในการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมและวิธีคิดของตนไทย
ผมในฐานะผู้ติดตามก็เลยเก็บภาพมาฝากเพื่อนสมาชิกกันด้วย

ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้ เพียงแต่เมื่อวานนี้(เสาร์ที่ 17 กันยายน) เรานั่งเรือเข้ากรุงเทพเหมือนเคย เห็นว่าที่ท่าน้ำนนท์มีระดับน้ำสูงมาก

บางวัดต้องสูบน้ำออกตลอดเวลา

บางวัดก็เริ่มท่วมแล้ว
เอาใจช่วยทุกท่านที่มีปัญหาน้ำท่วม ขอให้มีความปลอดภัย มีสุขภาพกายและใจที่ดีเพื่อสู้กับปัญหาต่อไปครับ

ขอตัดกลับมาที่อัมพวานะครับ
รีสอร์ทที่จัดสัมมนาอยู่ริมแม่น้ำแต่ห่างจากตัวตลาดอัมพวาพอสมควร เป็นช่วงใกล้คุ้งน้ำของแม่น้ำแม่กลอง

ฝั่งตรงข้ามยังเป็นบ้านสวน ดูน่าอยู่มาก

เอาภาพบรรยากาศบางช่วงในการสัมมนาครั้งนี้มาให้ดูกันเล่นๆครับ

ส่วนมากเป็นครูสาว มีครูหนุ่มอยู่ไม่มาก

ช่วงสาธิตการสอน

สาธิตการใช้กิจกรรมเสริมในการสอนภาษา

หล่าวซือเล่นกล้อง

ช่วงเย็นวันแรกหลังการสัมมนา กลุ่มครูจีนนั่งเรือจากรีสอร์ทไปตลาดน้ำอัมพวากัน

ผมเพิ่งไปตลาดน้ำอัมพวาเป็นครั้งแรก

โดยส่วนตัวแล้ว สถานที่เที่ยวที่มีคนมากๆไม่ใช่ที่ผมชอบไปนัก

เคยไปตลาดน้ำเทียมๆที่เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่ท่องเที่ยวแบบย้อนยุคบางแห่ง บอกตัวเองว่าไม่ใช่ อย่างที่วัยรุ่นบอกว่าไม่โดน

ที่อัมพวา แม้คนจะมากไปหน่อย(มากๆ) แต่ผมรู้สึกว่ามันใช่ มันโดน

เดินดูตลาดไป ในใจก็ฮัมเพลง “โอ้ อัมพวานี่หนางามจริงทุกสิ่งงามสมใจ...” ไปตลอดทาง

เป็นตลาดน้ำที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะมาเดินหาของกินหลากหลายหรือมาเดินดูของเท่านั้น

อัมพวาทำให้ผมนึกถึงบ้านปากน้ำเวฬุหรือโรงไม้เป็นบ้านเกิดของพ่อผมที่จันทบุรี แต่ที่นั่นบ้านปลูกอยู่ในน้ำปากคลองป่าโกงกางเลย

ที่หน้าบ้านมีสะพานไม้ทอดเดินถึงกัน สภาพก็แล้วแต่ฐานะของบ้านนั้น บางบ้านก็มั่นคงแข็งแรงเดินสบาย บางบ้านก็โย้เย้เป็นไม้แผ่นเดียว
มีปลาโลมาโดดเล่นน้ำให้เห็นอยู่จนชินตา บนฟ้ามีเหยี่ยวบินโฉบอยู่ไปมาไม่เคยขาด

ข้างหลังบ้านเป็นสะพานไม้ส่วนกลางที่ชำรุดเป็นช่วงๆ ผมจำได้ว่าชอบเอายางวงผูกเชือก ค่อยๆคล้องปูก้ามดาบสีสวยที่มีอยู่ชุกชุมขึ้นมาเล่นแต่ก็ถูกแม่บอกให้ปล่อยไป

ครั้งสุดท้ายที่ไปเยี่ยมเยือนที่นั่นก็สามสิบกว่าปีมาแล้ว เดี๋ยวนี้ทราบว่าทำกิจการโฮมสเตย์กันจนเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว

ลูกชายเพิ่งไปเที่ยวที่นั่นกับเพื่อนที่บริษัทมาเมื่อไม่นานมานี้ ผมเองใจหนึ่งก็อยากไปดูสภาพปัจจุบัน อีกใจหนึ่งก็อยากเก็บภาพเก่าๆที่สวยงามประทับใจไว้

เมื่อมาเห็นอัมพวา ผมคิดว่าคงต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยือนบ้านเกิดของพ่อ แม้ว่าคงจะไม่ได้เห็นภาพเก่าในความทรงจำ

คงเป็นการเห็นแก่ตัวและเป็นไปไม่ได้ถ้าจะหยุดสิ่งต่างๆให้เป็นอย่างที่ผมคุ้นชินและประทับใจ
หวานใจผมแปลกใจมากที่ผมชอบอัมพวามาก เพราะรู้นิสัยผมดีว่าไม่ชอบไปเที่ยวที่ที่ต้องเบียดเสียดแย่งชิงกัน
จริงๆแล้วเขาแปลกใจแบบนี้ครั้งแรกก็คือตอนที่เราไปเที่ยวปักกิ่งกัน ผมชอบมากจนวางแผนจะไปอีกปีหน้า

เห็นป้ายนี้แล้วอดขำไม่ได้

หลังจากเดินตลาดน้ำจนมืดก็ไปดูหิ่งห้อยกัน
นี่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมหวนนึกถึงตอนเป็นเด็ก เพราะบ้านที่อยู่ ข้างบ้านมีต้นแสมใหญ่ที่บางคืนจะมีหิ่งห้อยมาเกาะมีแสงแพรวพราวไปทั้งต้น
ที่ชอบใจคือเรือนักท่องเที่ยวทุกลำที่ผมเห็นพยายามไม่เร่งเครื่องเสียงดัง ดับเครื่องจอดดูหิ่งห้อยกันเงียบๆ น่ารักมาก

น้องๆในภาพกำลังชื่นชมเสบียงที่ซื้อกลับไปกินกันที่รีสอร์ท

ด้วยต้องการความเป็นส่วนตัว เราสองคนก็เลยแยกออกมาพักที่รีสอร์ทอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ริมคลองด้วยเงินส่วนตัว

สวัสดีค่ะ วันนี้มาทันถ่ายทอดสดด้วย

จากศาลาที่นั่งกินอาหารเช้า เห็นเรือแม่ค้าพายมาขายของ

สวัสดีครับคุณflymom ยินดีที่ได้ทักทายกันครับ
...........................................

ขนมและผลไม้พื้นบ้าน

มีพระพายเรือ มาบิณฑบาต

เป็นบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่น อิ่มบุญสำหรับนักท่องเที่ยวหลายเพศหลายวัย

หลังอาหารเช้า เรารีบออกจากรีสอร์ทเพื่อไปตลาดน้ำตอนที่ยังไม่มีคน

ทางเดินอันว่างเปล่าผิดกับเมื่อเย็นวันก่อนอย่างลิบลับ

ทั้งสองฝั่งคลองเงียบสงบ ปราศจากนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มคึกคักอีกครั้งตอนสายๆ

คงต้องหาช่วงเวลาที่เหมาะกับจริตของแต่ละท่านในการท่องเที่ยวอัมพวา สำหรับผมทั้งสองช่วงมีเสน่ห์กันคนละอย่างแต่ผมชอบช่วงนี้มากกว่า

เราจะกลับไปอัมพวาอีกแน่ๆ คราวนี้จะลองพักที่รีสอร์ทใกล้ๆหรือที่ตลาดน้ำเลย จะได้ถ่ายรูปบรรยากาศตลาดตอนกลางคืนดูบ้าง

วัดแรกที่เราไปคือวัดอัมพวันเจติยารามหรือที่เรียกกันสั้นๆว่าวัดอัมพวัน
วัดอยู่ใกล้ตลาดน้ำมาก อยู่ติดกับอุทยานรัชกาลที่สองที่เราคงจะไปคราวหน้า

พระอุโบสถ

วัดอัมพวันเป็นวัดเก่าตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5
ปัจจุบันวัดอัมพวันเจติยารามเป็นพระอารามหลวงชั้นโท

ประวัติความเป็นมาของวัดอัมพวันเจติยารามเกี่ยวข้องกับต้นราชวงศ์จักรี คือ
พระชนกชนนีของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระมเหสีในรัชกาลที่ 1 ตั้งบ้านเรือนอยู่ทางทิศเหนือของวัดจุฬามณี
วันหนี่งขณะที่ท่านทั้งสองถือศีลอุโบสถอยู่ที่วัดจุฬามณี เกิดเพลิงไหม้บ้านจนหมดสิ้น
จึงย้ายบ้านเรือนไปปลูกที่ริมคลองอัมพวาที่เป็นวัดอัมพวันเจติยารามในปัจจุบัน

มีนักท่องเที่ยวมาไหว้พระกันมากพอสมควร

จิตรกรรมฝาผนังด้านหน้า เขียนภาพการเดินทางของสมณทูตไปศรีลังกากับภาพการสถาปนาพระพุทธบาท  
เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิบากในการพบกับพายุทางทะเล ขณะเดินทางไปศรีลังกาของสมณทูต ประดุจการผจญกับมารที่มักเขียนเป็นภาพในสมัยอดีต

ภาพจิตรกรรมเรื่องการสถาปนาพระอิสริยยศและพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ภาพจิตรกรรมพระราชพิธีต่างๆ เช่น สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จไปรับครัวมอญ
พิธีต้อนรับทูตจอห์น ครอฟอร์ด จากอังกฤษ พระราชพิธีโสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎ
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎทรงผนวชสามเณรและ ถวายเทศน์มหาชาติ

ฝาผนังด้านหลังพระประธานเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังภูมิสถานกรุงรัตนโกสินทร์
เป็นการเขียนขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในรัชกาลที่ 1 อันเป็นปฐมบรมราชจักรีวงศ์ ได้ทรงสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ทดแทนการล่มสลายของกรุงศรีอยุธยา

บริเวณประตูหน้า-หลัง เขียนภาพจิตรกรรมทวารบาลเป็นท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่

พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประดิษฐานอยู่ใกล้พระอุโบสถทางด้านหน้าพระวิหาร

พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หล่อที่กรมศิลปากร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเททองเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2509
ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2520

พระปรางค์ อยู่ด้านในพระวิหารซึ่งอยู่ทางด้านหลังพระอุโบสถเยื้องมาทางขวา
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบริเวณสถานที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
เพื่อบรรจุพระบรมสรีรังคารและพระบรมอัฐิบางส่วนของพระราชชนก

มีพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานอยู่รอบระเบียงคดพระวิหาร จำนวน 52 องค์

ภายในพระวิหารยังมีพระนอนองค์ใหญ่

ตั้งแต่พระเศียรจนถึงพระบาท วัดได้ 4 วา 3 ศอก

ตามไปเที่ยวด้วยครับ

พระที่นั่งทรงธรรมเดิมเป็นตำหนักไม้ที่ประทับของสมเด็จพระรูปศิริโสภาค มหานาคนารี พระราชชนนีในพระชายาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งทรงธรรม" เพราะสมเด็จพระรูปฯ เมื่อคราวบวชชีได้ทรงฟังธรรมในที่นั้นเป็นประจำ

คุณlow batt. เชิญตามมาเลยครับ
..........................................

ในคราวบูรณะใหญ่ปี พ.ศ. 2538 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระราชทานพระนามาภิไธยย่อ (สธ) ไว้ที่หน้าบัน

ภายในพระที่นั่งทรงธรรมมีพระประธานและมีพระพุทธบาทจำลอง 5 รอย อยู่ด้านหน้า

พระพุทธบาทจำลอง 5 รอย ด้านหน้าพระประธาน

จากนั้นเราก็ไปวัดบางแก้วที่มีหุ่นปูนปั้นศิลปะการต่อสู้ของไทย เช่นมวยไทยและกระบี่กระบอง ตั้งเรียงรายอยู่
***วัดบางกุ้งครับ ขออภัย***

นี่น่าจะเป็นพระอุโบสถ แต่เงียบเหงามากแถมประตูปิดล็อคอยู่ด้วย ได้แค่ถ่ายจากนอกกำแพง

คนมาอยู่ที่นี่หมดครับ หนึ่งใน Unseen Thailand ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

โบสถ์ปรกโพธิ์ เป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร ไกร และกร่างมองจากภายนอกคิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่ มากกว่าจะเป็นโบสถ์

รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูป อยู่ได้ ทั้งยังให้้ความขรึมขลังอีกด้วย

มุมนี้เป็นมุมบังคับของคนที่มาถ่ายรูปที่นี่

ในพระอุโบสถนี้มีพระพุทธรูปปั้นขนาดใหญ่ หลวงพ่อพุทธมณีนิล หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อดำ เป็นพระประธาน

มีคนเข้าแถวเดินขึ้นไป “ปิดทองหลังพระ” คิวยาวเลยครับ

ผมคิดว่ามันแปลกๆอยู่เพราะคำว่า ปิดทองหลังพระ มีความหมายในเชิงเปรียบเทียบว่าคนดีทำความดีโดยไม่ต้องมีคนเห็น
แต่ที่คนเข้าคิวปิดทองหลังพระแปลว่าอะไร ปิดทองหลังพระแล้วเป็นคนดีหรือ หลงประเด็นอะไรกันหรือเปล่า

ที่มุมหนึ่งมีรากไม้เลื้อยอยู่ก็มีคนไปปิดทอง ห่มผ้าให้ ผมเห็นหลายคนยืนจ้องหาอะไรอยู่นาน

ออกจากวัดบางกุ้ง เราไปต่อกันที่นี่ครับ

คุณหญิงจุ้ย(น้อย) วงศาโรจน์ เป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2411 เดิมพระอุโบสถของวัดสร้างบนแพไม้ไผ่ผูกไว้กับต้นโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการบูรณะอย่างดี
มีลานน้ำพุที่ตรงกลางมีมณฑปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ล้อมรอบด้วยรูปปั้นบรรดาเทพยดาและพระอรหันต์

ปี พ.ศ.2540 พระอุโบสถหลังเดิมเกิดชำรุด พระครูสมุทรนันทคุณ (แพร) จึงได้ดำเนินการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น
พระอุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่นี้ ภายในจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด อุโบสถหลังนี้มีความงดงามมาก

วัดนี้มีพื้นที่ว่างรอบพระอุโบสถค่อนข้างกว้าง ทำให้พระอุโบสถดูสวยงามโดดเด่นยิ่งขึ้น

พระอุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่นี้ ภายในจะมีไม้สักแกะสลักติดประดับอยู่โดยรอบ
ช่างแกะสลักเป็นช่างฝีมือจากเพชรบุรี ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านแกะสลักไม้เป็นอย่างมาก

ฝาผนังด้านซ้าย ขวา ของพระประธานเป็นไม้แกะสลักรูปพระเจ้าสิบชาติ

ฝาผนังด้านตรงข้ามพระประธานเป็นไม้แกะสลักรูปปางชนะมาร

มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไหว้พระและชื่นชมความงามของพระอุโบสถอยู่ตลอดเวลา

แม้แต่ลวดลายที่เพดานก็เป็นไม้แกะสลักทั้งสิ้น

นอกจากนั้นยังมีกุฏิเก่าแก่อายุนับร้อยปีสร้างด้วยไม้หลังใหญ่มาก ได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก

บนกุฏิ มีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานบนแท่นไม้แกะสลักเป็นลวดลายสวยงาม

ด้านในสุดของกุฎินี้มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์

ที่ด้านหน้าของกุฏิยังมีหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ให้คนได้สักการะบูชาด้วย

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาดู แสดงความเห็นและช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้
ขอบคุณเว็บไซต์ที่เข้าไปหาข้อมูล banplatabtimresort.com  , thaigoodview.com, amphawatoday.com

กลิ้งมาสุดชีวิตค่ะ  มาทันไหมคะ  ไปด้วยคนค่ะ

คุณคุณนายช่างคอม ไม่ถึงกับต้องกลิ้งหรอกครับ
วัยนี้แล้วไปช้าๆใช้เวลานานหน่อย ยังไงก็ทันครับ ฮ่า ฮ่า

ไปมาแล้วค่ะแต่ก็อยากไปอีก  ของเยอะดี

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ตามมารำลึกความหลังกับอัมพวาและจังหวัดสมุทรสงครามด้วยครับ

คุณRed-Rose-14Feb - ที่เยอะมากคือของกินครับ หลายอย่างที่ลองชิมรสชาติดีทีเดียว
                                คุณRed-Rose-14Feb คงจะชอบอาหารที่นั่นเหมือนกันนะครับ

คุณtonhok - ด้วยความยินดีครับ

คุณCherokee1 - พูดถึงรำลึกความหลัง อัมพวาทำให้นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ สมัยเด็กๆ ของผมจริงๆครับ
                       เคยไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกก็ไม่ได้รู้สึกอย่างนี้ จะกลับไปอีกแน่ๆ ครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รอตอนหน้าอยู่ครับว่าจะเป็นที่ไหน

ไปกี่ครั้งก็ยังไม่เข็ดครับสำหรับอัมพวา

รูปวัดสวยมากๆเช่นเคยกิฟลุงหมดแล้ว ให้ของขวัญแทนคำขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

คุณDestiny-Boy - ด้วยความยินดีครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

คุณลุงแบกเป้  - เข้ามาดู แสดงความคิดเห็น ก็ดีใจแล้ว ยังให้ของขวัญอีกด้วย ขอบคุณมากครับ

ชอบมากค่ะดูเพลินมีต่ออีกก็ดีค่ะลงรายละเอียดเยอะดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

คุณเดือนสว่าง - ดีใจที่คุณชอบ จะมีตอนต่อไปแน่ๆครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ด้วยความยินดีครับ คุณสาวหน้าใส

ตามมาอ่านด้วยคน ขอโทษที่มาช้าหน่อย
หากระทู้ไม่เจอ กระทู้ fd เยอะจัด ต้อง search เลย
เห็นกระทู้นี้นึกถึงแม่ แม่บอกอยากมีบ้านริมน้ำ
เนื่องจากเธออ่านคู่กรรมเยอะไปหน่อย อินจัด
แต่ตอนนี้ก็อยู่แต่ในกรุงเทพ ไม่ได้ไปไหน
ไม่นึกว่าจะยังมีพระพายเรือบิณฑบาตนะคะเนี่ย
รู้สึกถึงความเป็นไทยจัง ชอบๆ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

ภาพสวยครับ วัดก็สวย

คุณSomeone In This World - ขอบคุณครับที่อุตส่าห์หากันจนเจอ bookmarkไว้สิครับจะได้ไม่ต้องหานาน
                                         ผมเองก็อยากมีบ้านริมน้ำ แต่ชาตินี้คงไม่มีวาสนาแล้ว
                                         ลองพาคุณแม่ไปพักดูบ้าง ท่านคงจะชอบบรรยากาศนะครับ

คุณสะแบง545 - ขอบคุณครับ

ติดตามตอนที่ 9 วัดเทพธิดาราม วัดราชนัดดา ได้ที่กระทู้นี้ครับ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11104014/E11104014.html#31