[CR] คุณนายช่างคอมตะลอนทัวร์ ตอน ทริปเสาะหาน้องปลา(คาร์ฟ)

สวัสดีค่ะ  วันนี้มาตั้งกระทู้ในห้องบันทึกนักเดินทางเรียบร้อยแล้วค่ะ   หุหุหุหุ   กระทู้นี้สืบเนื่องมาจากวันก่อนโน้น
[CR] คุณนายช่างคอมตะลอนทัวร์ ตอน น้ำท่วมเลยอดเที่ยว @ อยุธยา
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11077845/E11077845.html

ที่ไปอยุธยาแล้วอดเที่ยวเพราะน้ำท่วมน่ะค่ะ   วันนั้นได้กินโรตีสายไหมเป็นการปลอบใจ (นัยว่ามาเหยียบอยุธยาแล้วเน้อ)

นั่งรถกลับบ้านจู่ๆคุณสามีพาออกนอกเส้นทางอีกแล้วค่ะ ก็งงๆสิค่ะ   ไปดูกันค่ะ   คุณสามีคุณนายพามาที่ไหน

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 17:54:51 ]
ความเห็นที่ 1

ขับรถมาทางรามอินทรา ซอย 40 แล้วก็เลี้ยวแว้บเข้าไปที่นี่ (แล้วมันคืออะไรล่ะที่เลี้ยวเข้ามาเนี่ย   มีของกินไหมคะคุณสามี)

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:04:08 ]
ความเห็นที่ 2

คุณสามีจอดรถแล้วหันมายิ้ม (ยิ้มทำไม)   ไม่พูดไม่จาอะไรแล้วเดินลงรถไป   อืม....ต้องตามไปดูค่ะ

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:04:59 ]
ความเห็นที่ 3

สร้างเป็นโรงเรือนอะไรสักอย่าง (ฟาร์มปูนิ่ม   บ่อกุ้งกุลาดำ  @#!!!2% เดามั่วไปหมด   แต่ละอย่างของกินได้ทั้งนั้น)

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:06:08 ]
ความเห็นที่ 4

ใหญ่โตใช่ย่อย (ว่าแต่มีของกินหรือเปล่าเนี่ย)

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:06:47 ]
ความเห็นที่ 5

ไปด้วยคนครับ ๆๆ

จากคุณ : ชานมชงเอง [18 ก.ย. 54 18:10:10 ]
ความเห็นที่ 6

"ไม่ทราบมีอะไรให้ช่วยไหมครับ"  พี่สุดหล่อหน้าตี๋ ใส่แว่น เอ่ยถามเราสองคน(โอ้ว....ผู้ชายในสเปกคุณนายเลย   แต่ในชีวิตจริงก็ได้ตรงสเปกมาค่ะ คือ สูง และ เป็นผู้ชาย   นอกนั้นไม่เข้าเกณฑ์สักข้อ)

"พอดีภรรยาผมอยากเลี้ยงปลาคาร์ฟ   ช่วยแนะนำหน่อยสิครับ"   คุณสามีตอบพี่หนุ่มตี๋

กรี๊ดดดดดดด!!!!!!!!!!!! ถึงแม้จะไม่ตรงตามสเปกแบบพี่หนุ่มตี๋   แต่เอาหัวใจไปเต็มร้อยเลยค่ะ  นี่คือข้อดีของคุณสามีจุดนึง   ที่ทำให้คุณนายรักหมดใจ   คือ   ถ้าคุณสามีทราบว่าคุณนายชอบ หรือ อยากได้อะไร   คุณสามีก็พยายามเสาะหา หรือ พยายามทำให้ค่ะ   ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆน้อยๆหรือเรื่องใหญ่ๆ

ว่าแล้วก็เดินตามพี่หนุ่มตี๋ไปเลยค่ะ

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:12:32 ]
ความเห็นที่ 7

ความคิดเห็นที่ 5    ไปด้วยคนครับ ๆๆ
จากคุณ : ชานมชงเอง  
จุ๊บๆ > สวัสดีจ้าน้องชานม   วันนี้มาแต่วันเลย


จุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่ง


เดินตามมาก็เจอบ่อแบบนี้เต็มไปหมดเลย

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:14:37 ]
ความเห็นที่ 8

คุณนายชอบปลาคร๊าฟ...หรือครับ...
โดนตาแปะไล่มา...ที่นิวเวิล์ดฺ...ยัไงไม่เข็ดหรือครับ...


ปล /
ขอแนะนำให้คุณนายไปเลี้ยงปลาท่องโก๋...ดีก่าไหมครับ...
อิ่มท้องด้วยนะ //
เชื่ออ๊ายเต๊อะ...อีนาง....

จากคุณ : เล้ง (แก้วบางจาก) [18 ก.ย. 54 18:35:34 ]
ความเห็นที่ 9

อิจฉาคุณนายจังมีสามีน่ารัก....

จากคุณ : มะเฟืองรักเมืองไทย [18 ก.ย. 54 18:35:50 ]
ความเห็นที่ 10

นั่นไง  น้องปลาน้อย!!!!!!!!!  แอ๊บสำรวมกิริยาสุดฤทธิ์   กลัวพี่หนุ่มตี๋จะตกใจนึกว่าคุณนายเป็นผีเสื้อสมุทรจะมางับปลาเค้า

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:49:29 ]
ความเห็นที่ 11

ความคิดเห็นที่ 8    คุณนายชอบปลาคร๊าฟ...หรือครับ...โดนตาแปะไล่มา...ที่นิวเวิล์ดฺ...ยัไงไม่เข็ดหรือครับ...

ปล / ขอแนะนำให้คุณนายไปเลี้ยงปลาท่องโก๋...ดีก่าไหมครับ...อิ่มท้องด้วยนะ //เชื่ออ๊ายเต๊อะ...อีนาง....
จากคุณ : เล้ง (แก้วบางจาก)    
จุ๊บๆ > สวัสดีค่ะพี่เล้ง   หายไปหลายวันเลยนะคะ   คุณนายชอบน้องคาร์ฟมากค่ะ   วันนั้นโดนอาเจ็กไล่มาก็ไม่เข็ดค่ะ  เพราะวันนี้ไม่ได้มาตักฟรี  มาเสียเงินค่ะ (งอนขอปลาเจ็กไม่ให้  ซื้อเองซะเลย)  
 

ความคิดเห็นที่ 9   อิจฉาคุณนายจังมีสามีน่ารัก....
จากคุณ : มะเฟืองรักเมืองไทย  
จุ๊บๆ > สวัสดีค่ะคุณมะเฟืองรักเมืองไทย   คุณสามีคุณนายก็มีเสน่ห์ตรงนี้แหละค่ะ

จุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่ง

หูย   อวบอ้วน  แหวกว่ายไปมากันเต็มเลย  เสน่ห์ของปลาคาร์ฟคือเรื่องความสมดุลสีสันนี่แหละค่ะ   แหม.....น่ากิน เอ๊ย!!!!! น่ารัก

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:53:18 ]
ความเห็นที่ 12

นั่งมองข้างๆบ่อ  คุณสามีอมยิ้มอยู่ไกลๆกับพี่หนุ่มตี๋  ทำปากขมุบขมิบว่า "อย่าโดดลงไปนะ"

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:55:06 ]
ความเห็นที่ 13

สามีคุณนายน่ารักมาก ๆ ค่ะ

จากคุณ : ครูปัญญดา [18 ก.ย. 54 18:57:09 ]
ความเห็นที่ 14

พี่หนุ่มตี๋อธิบายถึง น้องปลาคาร์ฟให้คุณสามีฟังอย่างละเอียดค่ะ  

          ปลาคาร์พ จัดอยู่ในประเภทปลาน้ำจืดกลุ่มปลาตะเพียน (Carp) ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า โต่ย (Koi) นิชิกิกอย (Nichikigoi) มีต้นกำเนิดมาจากปลาไนธรรมดา ซึ่งพบในแหล่งน้ำจืดต่างๆ ทั่วโลก สำหรับถิ่นกำเนิดที่แท้จริงก็คือ ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน แต่ชาวจีนเป็นกลุ่มแรกที่ได้ศึกษาเรื่องปลาไนมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว

          ส่วนประเทศญี่ปุ่นได้ศึกษาเกี่ยวกับปลาคาร์พ เมื่อประมาณ 200 ปี หลังคริสต์ศตวรรษ โดยกล่าวถึงปลาชนิดนี้ว่ามีสีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน ซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมเลี้ยงไว้ดูเล่น และได้พัฒนาสายพันธุ์ดั้งเดิมของปลาไน ให้เป็นปลาสวยงาม มีสีสันและรูปร่างที่สวยงามขึ้นมาเป็นระยะเวลานาน โดยเรียกว่า ปลาคาร์ฟ หรือ แฟนซีคาร์ฟ โดยมีแหล่งหรือศูนย์กลางการเพาะเลี้ยงปลาแฟนซีคาร์ฟ บริเวณเขาแถบเมืองโอจิยะ จังหวัดนิอิกาตะ และเมืองฮิโรชิมา

          สำหรับประเทศไทยได้เริ่มนำเข้าปลาคาร์ฟเมื่อปี พ.ศ.2493 โดยการนำมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการซื้อขายในราคาที่ค่อนข้างสูง ในปี พ.ศ.2498 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ทรง สั่งปลาชนิดนี้มาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์และตั้งชื่อปลาแฟนซีคาร์ฟนี้ว่า ปลาอมรินทร์ หรือบางทีก็เรียกว่า ปลาไนทรงเครื่อง ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า นิชิกิกอย (Nichikigoi)

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 18:58:49 ]
ความเห็นที่ 15

ความคิดเห็นที่ 13    สามีคุณนายน่ารักมาก ๆ ค่ะ
จากคุณ : ครูปัญญดา  
จุ๊บๆ > สวัสดีค่ะคุณครูเอ๋   อย่าชมเยอะค่ะ  เดี๋ยวเหลิง 5555


จุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่ง

ประเภทของปลาคาร์พ

          ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปลาแฟนซีคาร์พขึ้นใหม่ในเชิงการค้าทั้งหมด 13 สายพันธุ์หลัก โดยแบ่งแยกตามลักษณะของลวดลายและสีสันบนตัวปลา ได้แก่

          1. โคฮากุ (Kohoku) เป็นปลาที่มีลายขาวและแดง เป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันมากที่สุด ลักษณะที่ดีสีแดงจะต้องคมชัดสม่ำเสมอ และสีขาวไม่ควรมีตำหนิใดๆ
   
          2. ไทโช ซันเก้ (Taisho Sanke) ประกอบ ด้วย 3 สีด้วยกัน คือ ขาว แดง และดำ สีดำบนตัวปลานั้นควรดำสนิท และดวงใหญ่ ไม่ควรมีสีดำบนส่วนหัว รวมทั้งไม่มีสีแดงบนครีบและหาง
   
          3. โชวา ซันโชกุ (Showa Sanshoku) เป็น แฟนซี คาร์พสามสี เช่นเดียวกับไทโช ซันเก้ ที่แตกต่างกันก็คือ สีขาวและแดงจะรวมตัวอยู่บนพื้นสีดำขนาดใหญ่ และมีสีดำบริเวณเชื่อมต่อครีบ และลำตัวในลักษณะของตัว Y
   
          4. อุจิริ โมโน (Utsuri Mono) เป็นแฟนซีคาร์พ ที่มีสีดำพาดผ่านบนพื้นสีอื่น โดยสีดำที่ปรากฏจะเป็นรอยปื้นยาวพาดบนตัวปลา
   
          5. เบคโกะ (Bekko) เป็นแฟนซี คาร์พ ที่มีสองสี โดยมีลวดลายเป็นจุดดำแต้มอยู่บนพื้นสีต่างๆ ในขนาดที่ไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไป
   
          6. อาซากิ ชูซุย (Asagi Shusui) อาซากิ ชูซุย เป็นสายพันธุ์ที่ถ่ายทอดมาจากปลาไนโดยตรง จะมีเกล็ดสีฟ้าสวยเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ
   
          7. โกโรโมะ (Koromo) เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างอาซากิกับสายพันธุ์อื่นๆ โดยจะมีเกล็ดสีน้ำเงินกระจายเด่นอยู่บนลวดลาย
   
          8. โอกอน (Ogon) เป็นปลาที่ไม่มีลวดลาย โดยจะมีสีลำตัวสว่างไสว ปราศจากจุดด่างใดๆ
   
          9. ฮิการิ โมโย (Hikari Moyo) เป็นปลาที่มี 2 สี หรือมากกว่า โดยจะมีอย่างน้อยหนึ่งสีที่แวววาวดุจโลหะ (Metallic)
   
          10.ฮิการิ อุจิริ (Hikari Utsuri) เป็นปลาที่มีลาดยพาดสีดำเช่นเดียวกับ อุจิริ โมโน บนพื้นที่มีความแวววาวคล้ายโลหะ
   
          11. คินกินริน (Kinginrin) เป็นปลาที่อยู่ในกลุ่มที่มีประกายเงินหรือทองอยู่บนเกล็ด โดยเกล็ดจะดูนูนเหมือนไข่มุก
   
          12. ตันโจ (Tancho)  เป็นปลาที่มีสีแดงเพียงที่เดียวอยู่บนหัว โดยอาจมีรูปทรงกลมขนาดใหญ่ หรือรูปอื่นๆก็ได้
   
          13. คาวาริ โมโน (Kawari Mono) เป็นปลาที่ไม่มีลักษณะลวดลายที่ตายตัว ต่างจากพันธุ์อื่นๆ โดยจะมีลวดลายเกิดขึ้นใหม่ทุกปี

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 19:00:58 ]
ความเห็นที่ 16

อยู่ใกล้บ้านมากเลยค่ะ กำลังจะหา"เพื่อนปลา"ใส่บ่อ
อาทิตย์หน้าแวะไปดูบ้างดีกว่า ขอบคุณมากค่ะ

จากคุณ : แม่ก้อย [18 ก.ย. 54 19:04:41 ]
ความเห็นที่ 17

พี่หนุ่มตี๋พูดจ้อยๆต่ออย่างคล่องแคล่ว ว่า
.....
...
..
การเริ่มต้นเลี้ยงปลาคาร์พ

          ใครที่ตัดสินใจจะเลี้ยงปลาคารพ์ ควรเริ่มต้นด้วยการขุดบ่อขนาด 80 x 120 ลึก 50 เซนติเมตร มีสะดือที่ก้นบ่อขนาด 1 x 2 ฟุต ลึกประมาณ 4-6 นิ้ว เพื่อไว้เป็นที่เก็บขี้ปลาและสิ่งสกปรก และติดตั้งระบบถ่ายเทน้ำเสียเพื่อช่วยให้น้ำในบ่อสะอาดอยู่ตลอดเวลาด้วย สำหรับบ่อที่จะใช้เลี้ยงปลาคาร์ฟ ควรเป็นบ่อซีเมนต์เพราะสามารถดัดแปลงเป็นบ่อธรรมชาติได้ง่าย มีตะใคร่น้ำเกิดและเกาะได้เร็ว ซึ่งตะใคร่น้ำนั้นจะเป็นอาหารที่ดีของปลาและสามารถดูดสิ่งสกปรกและแอมโมเนียที่อยู่ในน้ำได้อีกด้วย

          และบ่อนี้ควรจะตั้งอยู่ในที่มีร่มเงาต้นไม้ใหญ่ได้ร่มรื่นพอควร อย่าให้อยู่กลางแจ้งเพราะจะทำให้ปลามีสัสันที่จืดจางลง และยังโตช้าลงไปอีกด้วย

          ส่วนน้ำที่จะใช้เลี้ยงปลาคาร์พ เป็นน้ำประปาจะดีกว่าน้ำชนิดอื่น เพราะน้ำประปามีสภาพเป็นกลาง ถ้าใช้น้ำฝนจะทำลายสีของปลาและปลาอาจเกิดโรคได้ง่าย ส่วนน้ำจากแม่น้ำลำคลองก็ไม่เหมาะ เพราะอาจมีเชื้อโรคติดมาเป็นอันตรายกับปลาได้ หากไม่มีน้ำประปา ต้องใส่ยาฆ่าเชื้อและเติมปูนขาวเพื่อปรับสภาพน้ำจากกรดให้เป็นกลางเสียก่อน แล้วค่อยนำมาเลี้ยงปลาได้    ทางที่ดีต้องติดตั้งระบบหมุนเวียนของน้ำ และเครื่องพ่นน้ำ เป็นการเพิ่มออกซิเจนให้น้ำในบ่อถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา และมีออกซิเจนเพียงพอกับปลาด้วย

          เมื่อเตรียมบ่อและน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การจะหาปลาคาร์ฟมาเลี้ยง ควรหาลูกปลาที่มีอายุ 1-2 ปี มาเลี้ยง ไม่ควรจะนำปลาขนาดใหญ่มาเลี้ยง และปลาชนิดอื่นหากไม่จำเป็นไม่ควรนำมาเลี้ยงรวมกับปลาคาร์ฟ เพราะอาจนำเชื้อโรคมาให้ปลาคาร์ฟได้


หยอกเย้า  ตายล่ะ!!!!! บ่อที่บ้านลึกไม่พอ   พี่หนุ่มตี๋บอกว่าระวังปลาพวกนี้ชอบกระโดด   ถ้าบ่อไม่ลึกมันจะบันจี้จั๊มพ์ออกมานอกบ่อง่ายๆเอา

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 19:05:01 ]
ความเห็นที่ 18

ความคิดเห็นที่ 16    อยู่ใกล้บ้านมากเลยค่ะ กำลังจะหา"เพื่อนปลา"ใส่บ่อ
อาทิตย์หน้าแวะไปดูบ้างดีกว่า ขอบคุณมากค่ะ
จากคุณ : แม่ก้อย
จุ๊บๆ > สวัสดีค่ะคุณแม่ก้อย    โอ้ววววว!!!!!น้องปลาบ้านแม่ก้อยเบิ้มมากเลยค่ะ


จุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่งจุ๊บๆพลุกระดิ่ง


เห็นไหมคะ  ที่บ่อมีเน็ทกั้นไว้กันน้องปลากระโดดข้ามบ่อกันด้วย (แหม  ยังกะเน็ทวอลเลย์บอล)   พี่หนุ่มตี๋อธิบายต่อค่ะ
......
...
..
อาหารและการเลี้ยงดู

          ผู้เลี้ยงควรให้อาหารไม่เกินวันละ 2 เวลา คือเช้ากับเย็น ข้อควรจำในการให้อาหารคือ ต้องให้ตามเวลา เพื่อปลาจะเกิดความเคยชินและเชื่องกับผู้ที่เลี้ยง และอาหารที่ให้ต้องกะให้พอกับจำนวนปลา อย่าให้น้อยหรือมากเกินไป ทั้งนี้ต้องคอยสังเกตว่า ปลากินอาหารอย่างไร? ถ้าอาหารหมดเร็ว แสดงว่าปลายังต้องการอาหารเพิ่ม ก็เพิ่มลงไปอีเล็กน้อย แต่ถ้าอาหารยังลอบน้ำอยู่ ก็รีบตักออกเพราะว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้น้ำเสียเร็ว

          สำหรับอาหารที่ให้ แนะนำเป็นเนื้อปลาป่น กุ้งสดบด เนื้อหอย เนื้อปู ปลาหมึก ข้าวสาลี รำ ผักกาด ข้าวโพด แมลง สาหร่าย ตะใคร่น้ำ แหน ลูกน้ำ หนอนแดง ถั่วเหลือง ขนมปัง และอาหารสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาด

          ทั้งนี้ เมื่อสังเกตเห็นน้ำในบ่อเริ่มขุ่นและมีสิ่งสกปรกมาก ต้องรีบเปลี่ยนน้ำทันที และขณะที่ถ่ายน้ำ ออก 1 ใน 3 ส่วนของบ่อจะต้องเพิ่มน้ำใหม่แทนในปริมาณเท่าเดิมโดยใช้น้ำประปาที่เก็บไว้ประมาณ 2-3 วันหลังจากที่คอรีนระเหยแล้ว อย่าใช้น้ำประปาที่รองจากก๊อกใหม่ๆ หรือน้ำประปาที่เก็บไว้นานเพราะจะเกิดอันตรายต่อปลาได้


จุ๊บๆ  ที่นี่เค้ามีอาหารของน้องปลาขายด้วยนะคะ   อัดฉีดกันเต็มที่   ให้น้องปลาอวบอ้วนสวยๆค่ะ

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 19:09:00 ]
ความเห็นที่ 19

คุยกับพี่หนุ่มตี๋ได้สักพัก   เราก็กลับค่ะ  ต้องไปทำบ้านเพิ่มเพื่อน้องปลาอีกเยอะเลยค่ะ   ทั้งระบบน้ำและเรื่องความลึกของบ่อ (และไม่ลืมเน็ทวอลเลย์บอลของน้องปลาด้วย)

งานนี้ขอสัก 2 บ่อนะคะคุณสามี จุ๊บๆ

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 19:11:08 ]
ความเห็นที่ 20

คุณสามีถึงกับอึ้งไปพักนึง  แล้วพูดว่า "ที่รัก  บ่อละ 5 ตัว   ตัวละ 1500 ฿ (ตามที่พี่หนุ่มตี๋แนะนำ)  แค่บ่อเดียวก็พอมั้ง"


หุหุหุหุหุหุหุ

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 19:12:33 ]
ความเห็นที่ 21

ขออนุญาตเพิ่มเติมเรื่องปลาคาร์ฟ จากประสบการณ์ตรงด้วยคนนะคะ

บ่อปลาแรก จ้างช่างที่ปลูกบ้านทำ ช่างก็ไม่มีความรู้ เราก็ไม่รู้ปล่อยเขาทำ บ่อแรก ตื้นแค่ 80 ซม. บ่อกรองเล็กจิ๋ว สามเดือนแรกทำยังไงน้ำก็ไม่ใส ไม่เห็นตัวปลาเลย และล้างบ่อบ่อยมาก ทุกสองสัปดาห์ น้ำเขียวขจีตลอด

กลัวปลาจะตายซะก่อนที่จะได้ชื่นชม เลยไปหาเจ้าหน้าที่จากฟาร์มปลาใหญ่แห่งหนึ่งแวะมาดูบอกว่า น่าจะเป็นเพราะสาเหตุหลักๆคือ

วัสดุกรองไม่ดีพอ มีเปลือกหอยนางรม กับ ปะการังหยาบเกินไป ไม่น่าจะกรองอะไรได้มากนัก บ่อกรองบ่อแรก ไม่มีวัสดุกรอง ไม่มีบ่อตกตะกอน น้ำมายังไง ไปอย่างงี้น ปั๊มน้ำ ยังดูไม่ได้ เพราะเป็นปั๊มจม แต่ดูจากแรงน้ำ คิดว่าน่าจะพอไหว

เขาเสนอทางแก้คือ กั้นบ่อกรองอีกชั้นไว้สำหรับตกตะกอน เปลี่ยนวัสดุกรอง เอาหอยนางรมออก เอาปะการังเก่าไปใส่บ่อแรก เพิ่มปะการังเบอร์ 3 และ หิน zeolite แล้วก็ติดยูวีด้วย รวมทั้งเปลี่ยนหัวท่อพ่นเป็นหัวเจ๊ต

เขาว่า น้ำน่าจะใสภายใน 3 วัน สนนราคาค่าเสียหายก็หลายบาทอยู่
แต่หลังจากเขามาทำได้สามวัน น้ำใสกิ๊งทันที สามสี่เดือนค่อยล้างทีก็ได้

จะเลี้ยงปลาคาร์ฟ สำคัญอันดับแรกคือ "บ่อปลา" และ"บ่อกรอง" ต้องมีขนาดที่เหมาะสม

อันนี้บ่อแรก บ่อเล็ก ตื้นเกินไป ปลาแยะเกินไป

จากคุณ : แม่ก้อย [18 ก.ย. 54 19:20:32 ]
ความเห็นที่ 22

น้องปลา ก่อนและหลัง ปรับปรุงบ่อเก่า

จากคุณ : แม่ก้อย [18 ก.ย. 54 19:22:39 ]
ความเห็นที่ 23

เวลาผ่านไป ปลาป่วยบ่อย เพราะบ่อตื้น น้ำร้อนเกินไปด้วย ไม่ค่อยมีที่หลบแดด
ปลาน้อยตายไปเฉลี่ยปีละ 2 ตัว เลยตัดสินใจทุบบ่อเก่าทำใหม่ ไฉไลกว่าเดิม
เขาว่าขนาดบ่อที่ดี ต้องลึกอย่างน้อย 1.5 เมตร บ่อกรองต้องมีความจุอย่างน้อยเท่ากับ 1/3 ของขนาดบ่อเลี้ยงปลา
ถ้าไม่อยากล้างบ่อบ่อย บ่อกรองต้องมีวัสดุกรองหลายชั้น มี UV มีจิปาถะนู่นนี่นั่น

สุดท้ายเลยได้บ่อใหม่มาแบบนี้ ปลาน้อยมีความสุขมาก โตไว ตัวใหญ่อวบอ้วน

เล่าสู่กันฟังค่ะ อ้อ..ต้องซื้อบ่อยางและอุปกรณ์ทำออกซิเจนติดบ้านไว้นะคะ เวลาปลาป่วยต้องแยกออกมารักษา ไม่งั้นมีสิทธิตายยกบ่อ

จากคุณ : แม่ก้อย [18 ก.ย. 54 19:31:30 ]
ความเห็นที่ 24

ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงปลาคาร์ฟน้อยนะคะ
ลาด้วยน้อง"ด่างน้อย" ปลาที่มีชีวิตรอดจากบ่อเก่า :)
อายุ 10 ปีแล้ว

จากคุณ : แม่ก้อย [18 ก.ย. 54 19:40:16 ]
ความเห็นที่ 25

ตามมาดูปลาด้วยคน(คาร์ฟ) ^^

จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) [18 ก.ย. 54 19:46:50 ]
ความเห็นที่ 26

ดอกไม้ น้องตาล ชีวิตก็ชอบเที่ยว จะหาภาระมาใส่ตัวทำไมคะ
อ่านๆ วิธีการเลี้ยงแล้ว เสียเงินหลายอยู่นะคะ

จากคุณ : บัวนลิน [18 ก.ย. 54 20:12:51 ]
ความเห็นที่ 27

วันนี้เลยได้ความรู้ใหม่ๆ ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : ป้าฟู [18 ก.ย. 54 20:22:47 ]
ความเห็นที่ 28

ฟาร์มปลาคาร์ฟน่าสนใจมากเลยครับ

โอ้...ได้ความรู้ต่างๆเยอะมากเลยครับ

จากคุณ : Destiny-Boy [18 ก.ย. 54 20:35:12 ]
ความเห็นที่ 29

สอบถาม จขกท นิดนึงค่ะ  


เลี้ยงปลาคาร์ฟนี่  มันจะมีกลิ่นคาวไหมคะ


เราว่าจะทำบ่อเลี้ยงเหมือนกัน  บ่อห่างจากตัวบ้านแค่ 50 เซน  ข้างบ้านเป็นบานหน้าต่างแบบยาว


กลัวว่าจะมีกลิ่นคาว หรือ กลิ่นไม่พึงประสงค์อะค่ะ

จากคุณ : เซียวลี้ปวยตอ มิเคยพลาดเป้า [18 ก.ย. 54 20:50:45 ]
ความเห็นที่ 30

ความคิดเห็นที่ 21-24
จุ๊บๆ >   ขอบคุณคุณแม่ก้อยที่เอาข้อมูลมาแนะนำค่ะ   มือใหม่แบบคุณนายเห็นบ่อปลาบ้านแม่ก้อยแล้วชอบมากๆเลยค่ะ   น้องด่างน้อยก็น่ารักมากนะคะ  ตัวเบิ้มเชียว


ความคิดเห็นที่ 25   ตามมาดูปลาด้วยคน(คาร์ฟ) ^^
จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE)  
จุ๊บๆ > สวัสดีค่ะ   ชอบไหมคะปลาคาร์ฟ  
 

ความคิดเห็นที่ 26     น้องตาล ชีวิตก็ชอบเที่ยว จะหาภาระมาใส่ตัวทำไมคะ
อ่านๆ วิธีการเลี้ยงแล้ว เสียเงินหลายอยู่นะคะ
จากคุณ : บัวนลิน    
จุ๊บๆ > พี่บัวขา   เที่ยวก็ชอบค่ะ  น้องปลาเนี่ย  เอามาเลี้ยงเผื่อไม่มีลูกน่ะค่ะ   จะได้มีอะไรทำ  
 

ความคิดเห็นที่ 27    วันนี้เลยได้ความรู้ใหม่ๆ ขอบคุณค่ะ
จากคุณ : ป้าฟู    
จุ๊บๆ > ป้าฟูหายไปหลายวัน  คุณนายคิดถึงนะคะ  แอบไปเที่ยวไหนมาเอ่ย  
 

ความคิดเห็นที่ 28    ฟาร์มปลาคาร์ฟน่าสนใจมากเลยครับ   โอ้...ได้ความรู้ต่างๆเยอะมากเลยครับ
จากคุณ : Destiny-Boy  
จุ๊บๆ > ใช่ค่ะ   น่าสนใจและน้องปลาน่ารักมากค่ะ  
 

ความคิดเห็นที่ 29    สอบถาม จขกท นิดนึงค่ะ  เลี้ยงปลาคาร์ฟนี่  มันจะมีกลิ่นคาวไหมคะ   เราว่าจะทำบ่อเลี้ยงเหมือนกัน  บ่อห่างจากตัวบ้านแค่ 50 เซน  ข้างบ้านเป็นบานหน้าต่างแบบยาว   กลัวว่าจะมีกลิ่นคาว หรือ กลิ่นไม่พึงประสงค์อะค่ะ
จากคุณ : เซียวลี้ปวยตอ มิเคยพลาดเป้า  
จุ๊บๆ > ถ้าทำบ่อปลาแบบที่ถูกต้องตามสัดส่วน  ยกตัวอย่างคุณแม่ก้อยที่ทำออกมาดีมากๆ   ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์แน่นอนค่ะ

จากคุณ : คุณนายช่างคอม [18 ก.ย. 54 21:16:18 ]
ความเห็นที่ 31

เที่ยวบ่อยจริงๆนะค่ะ คุณนายmad

จากคุณ : ม่วงมหากาฬ [18 ก.ย. 54 21:49:29 ]
ความเห็นที่ 32

@เซียวลี้ปวยตอ มิเคยพลาดเป้า

ทำบ่อปลาดีๆ มีระบบกรองน้ำที่เหมาะสม น้ำก็จะสะอาดตลอด กลิ่นคาวปลาอาจจะมีได้บ้าง เพราะใกล้ตัวบ้าน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ มันชิดตัวบ้านเกินไป เวลาทำบ่อ ถ้าบ่อลึกและกว้าง ต้องตอกเสาเข็ม บ้านจะทรุดหรือเปล่า ต้องหาช่างที่เขาทำบ่อปลาเป็นอาชีพมาทำดีกว่านะคะ

ถามได้เรื่อยๆนะคะ แม่ก้อยรบกับบ่อปลาที่บ้านมาหลายปี :)

อ้อ...บ่อปลาคาร์ฟไม่ควรเลี้ยงอย่างแออัดนะคะ บ่อเก่าเลี้ยงขนาดน้องด่างน้อย 13 ตัว ช่างเขายังว่าแน่นเกินไป น้ำเสียง่ายถ้าบ่อกรองไม่ดีจริง ขนาดนี้ถ้าตัวละ 30 cm ควรเลี้ยงซัก 7-8 ตัวก็พอแล้ว

จากคุณ : แม่ก้อย [18 ก.ย. 54 22:11:57 ]
ความเห็นที่ 33

ช่างว่าต้องห่างตัวบ้านซัก 1.5 -2 เมตรค่ะ ถ้าบ่อลึกขนาดนี้ ผนังบ่อต้องก่ออิฐฉาบปูน ไม่ปูกระเบื้อง เขาว่าปลาต้องการตะไคร่น้ำ ใช้ปูนเปลือยดีที่สุด

ที่บ้านห่างตัวบ้านประมาณเมตรครึ่ง มีปลาอยู่ 25 ตัว ขนาดประมาณ 3/4 ของน้องด่างน้อยเป็นส่วนใหญ่

ปลาคาร์ฟ จะใจเสาะมากเมื่อเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ ซื้อมาใหม่ก็ต้องเลี้ยงในบ่อยางก่อน ให้ยานู่นนี่นั่นให้ชัวร์ว่าไม่มีเชื้อโรค แล้วถึงจะปล่อย ตอนทำบ่อใหม่ ย้ายปลาขึ้นบ่อยาง ปลา 13 ตัว วันแรกที่ย้าย ตายคืนเดียว 9 ตัว เสียดายจนทุกวันนี้ :(

ทะเลาะกับช่างทำบ่อ(มืออาชีพ) ว่า ย้ายยังไงทำปลาเราตาย สุดท้ายใช้คืนมา 10 ตัวแต่ตัวเล็กกว่า 4 เท่า

จากคุณ : แม่ก้อย [18 ก.ย. 54 22:22:35 ]
ความเห็นที่ 34

ขอบคุณ จขกท และ แม่ก้อยมากค่ะ


เดี๋ยวต้องไปนำเสนอข้อมูลกับสมาชิกในบ้าน และโหวตกันก่อน


ขอบคุณมากๆๆๆ ค่ะ

จากคุณ : เซียวลี้ปวยตอ มิเคยพลาดเป้า [19 ก.ย. 54 10:19:53 ]
ความเห็นที่ 35

ขอบคุณครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [19 ก.ย. 54 10:22:24 ]
ความเห็นที่ 36

ตลอดเลย คุณนายเนี้ย ..............

5555++

จากคุณ : ลอยล่องคนเดียว [19 ก.ย. 54 12:00:21 ]
ความเห็นที่ 37

ลุงไม่ถนัดเลี้ยงครับพวกปลาๆนี่
ถนัดตกปลา กินปลามากกว่าครับ
แวะมาดูงานอดิเรกเศรษฐีครับ

จากคุณ : ลุงแบกเป้ [19 ก.ย. 54 14:54:49 ]
ความเห็นที่ 38

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ^^

จากคุณ : สามแซ่ [19 ก.ย. 54 22:11:38 ]
ความเห็นที่ 39

มาชมรีวิวค่ะ

จากคุณ : ชมจันทร์ [20 ก.ย. 54 08:53:32 ]
ความเห็นที่ 40

อ่านรีวิวคุณนายช่างคอมมาหลายกระทู้  วันนี้ก็เพิ่งได้อ่านกระทู้นี้ นั่งทำงานเพลินๆ ได้ยินเสียงแว่วๆ หันไป อ้าวสามีคุณนายช่างคอมนี่นา เลยเดินไปทัก คุณสามีบอกว่าโน่นคุณนายก็มานั่งอยู่โน่น เราก็ได้แต่ส่งยิ้มให้ ขอบคุณสำหรับรีวิวที่ทำมาให้อ่านบ่อยๆ โอกาสหน้าถ้าแวะมาที่ออฟฟิศเราอีก บอกล่วงหน้าจะเตรียมขนมอร่อยๆ ไว้ให้ ยินดีที่ได้เจอตัวจริงนะคะ

จากคุณ : N BlueSky [20 ก.ย. 54 16:19:06 ]
ความเห็นที่ 41

ตามมาเที่ยวช้าไปนิดนึงไม่ว่ากันนะคะ

จากคุณ : สาวหน้าใส [21 ก.ย. 54 19:49:56 ]
ความเห็นที่ 42

ตามมาเที่ยวช้าไปนิดนึงไม่ว่ากันนะคะ

จากคุณ : สาวหน้าใส [21 ก.ย. 54 19:50:11 ]