สวัสดีครับ พี่น้องชาวบลูทุกท่าน แอบหายหน้าไปนานจะเกือบปี ด้วยหลายๆเหตุผล ทั้งหน้าที่การงาน การเรือน และอื่นๆ จิปาถะ
จนลืมไปแล้วว่าเวลามารีวิวเค้าต้องทำยังไงกันบ้าง
งงว่า AR, CR SR คืออะไร รู้แต่ว่าที่รีวิววันนี้คงเป็น AR
จนคราวนี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ "คนเล่าเรื่อง เมืองน่ารัก"
ซึ่งผมได้มีโอกาสไปที่ กาฬสินธุ์ ถิ่นไดโนเสาร์ล้านปี
แต่จากที่ไปมาจริงๆแล้ว กาฬสินธ์ูมีอะไรมากกว่าคำว่า ถิ่นไดโนเสาร์ล้านปีเลยครับ
อยากรู้แล้วซิครับว่ามันมีอะไรบ้าง งั้นตามผมมาเลยค้าบบบบบบ
----------------------------------------------
ปล. คนอื่นๆรวม 10 คน 10 เส้นทาง ก็ตามนี้นะครับ งานนี้ห้องบลูได้ไป 7 คนจาก 10 คน
1. The sixthfloor : ชั้นหก หรือค่อนศรี ไปเหล่สาวที่ จ.ลำปาง...เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11055483/E11055483.html
2. Ikhong : ไปเป็นตี๋ที่ จ.อุทัยธานี...เมืองเหนือจินตนาการ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11085210/E11085210.html
3. เอ๋อ้อย : ไปเป็นอาเสี่ยที่ จ.กาฬสินธุ์ ...ถิ่นไดโนเสาร์ล้านปี
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11087689/E11087689.html
4. Campusman Man : จ.เลย...เมืองสายหมอกดอกไม้
5. หมูอ้วนจอมพลัง และ ตามกาลเวลา : จ.สมุทรสงคราม...เมืองสายน้ำสามเวลา ไปเหอะ ใกล้แค่นี้เอง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11026304/E11026304.html
6. ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก : จ.นครปฐม...นครสุขใจ ไปเพื่อข้าวหมูแดงเลย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10995473/E10995473.html
7. น้องผักอ้วน : จ.ระยอง...เมืองเกาะแก้วแสนพิสดาร ไปเป็นนางเงือกจ๊ะ ชีประกาศมา
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11074762/E11074762.html
8. Dusit Ajake Semangern : จ.จันทบุรี ...เมืองศิลป์ถิ่นอัญมณี
9. Mano Tangtriamjitman : จ.สงขลา ...เมืองความทรงจำหลากรส
10.ป๋อหลาง : อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา...เมืองย้อนยุคแห่งอันดามัน หึหึ เล่นซะไกลบ้านเลยนะ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11088035/E11088035.html
ปล. แอบไปก๊อบลิค์จาก ดีบุกมา 5555
ก่อนเริ่มเดินทาง
ผม : ตัวเองไปเที่ยวกาฬสินธุ์กัน
เธอ : กาฬสินธุ์ เนี่ยนะ .... มีอะไรให้เที่ยวเหรอ ???
ผม : 555 ว่าแล้วต้องถามอย่างนี้ ไปชวนใครก็โดนคำถามนี้หมด 5555
เธอ : แล้วตกลงมีอะไรให้เที่ยวหล่ะ เห็นโฆษณามีแต่ ไดโนเสาร์
ผม : เอาน่าไปก่อนๆ แล้วค่อยว่ากัน
เธอ : แล้วเดินทางยังไงหล่ะ
ผม : พอดีมี Voucher รถเช่าอยู่ แต่ต้องไปรับรถที่ขอนแก่น งั้นเรานั่งรถทัวร์ไปมั๊ย ไปเอารถ แล้วขากลับค่อยนั่งเครื่องกลับจะได้ไม่เสียเวลา
เธอ : ยังไงก็ได้ตัวเองออกตังค์ให้เค้าอยู่แล้วนิ
ผม : -____- '
กาฬสินธ์ุ อยู่ห่างจาก กทม.ประมาณ 500 กม. อยู่กลางๆ ภาคอีสาน ติดจังหวัด ขอนแก่น อุดร สกล มุกดาหาร มหาสารคาม และร้อยเอ็ด
ที่จังหวักนี้ไม่มีสนามบิน ดังนั้นการเดินทางจึงต้องใช้ รถทัวร์ เป็นหลัก แต่ด้วยความที่ติดอยู่กับหลายจังหวัด โดยเฉพาะ ขอนแก่นที่เปรียบเสมือนเป็น ศูนย์กลางของภาคอีสาน ดังนั้น หลายคนจึงสามารถ นั่งทั้ง เครื่อง รถไฟ หรือ รถทัวร์ที่มีให้บริการจำนวนมากไปลงที่ขอนแก่น แล้วค่อยต่อรถไปกาฬสินธุ์ครับ
ของผมก็ด้วยความที่ว่ามี voucher รถเช่าเหลือและมี Counter ที่ ขอนแก่น ผมจึงเลือกที่จะนั่งรถทัวร์ไปที่ ขอนแก่น และไปรถรถก่อนที่จะขับต่อไป กาฬสินธุ์ครับ
ไปเที่ยวด้วยค่ะ
ว้าววว... ขอปาดขวาตามไปเที่ยวด้วยนะคะ
จากคุณ : แพรวดาวแน่นอนมากับผมเรื่องกินเรื่องใหญ่
ดังนั้นต้องเริ่มจากข้าวเช้าก่อน ซึ่งจะกินทั้งทีต้องถามเจ้าถิ่นซิ
ตอนเอารถเลยถามคุณน้องที่เอารถมาให้ซะเลยครับว่ากินที่ไหนดี
ก็ได้คำคอบมาว่า ให้ไปลองกินที่ร้าน เอมโอช อยู่ตรงข้ามโรงแรมโรมา
เลยเปิดๆ แผนที่ดูก็อยู่แถว "ถนนกลางเมือง" นั่นเองซึ่งเป็นนนที่เป็นที่จอดรถทัวร์ (แบบปรับอากาศ) ด้วยนั่นแหละครับ
หลังจากเดินๆ ดูถนนนี้จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร และร้านขายของฝาก มากมาย เทียบง่ายๆ น่าจะเหมือนถนนนิมมานเหมินทร์ ที่เชียงใหม่นั่นหล่ะครับ
สวัสดีครับคุณ บูตะ กะ กิมจิ ตามไปเที่ยวด้วยกันเลยครับ
สวัสดีครับคุณ แพรวดาว ปาดมาได้เลยค้าบบบบบ
------------------------------------------
นี่หล่ะครับ ถนนกลางเมือง คนคึกคักมากมาย
แน่นอนมาอีสานทั้งทีต้องกินของดีเมืองอีสาน
จัดซะ เริ่มจาก ไข่กะทะ หน้าตาใช้ได้แต่รสชาติ ธรรมดาครับ
ตามด้วยกุนเชียง และหมูยอ
จากคุณ : เอ๋อ้อยและตบท้ายเบาๆด้วย ขนมปังญวน
จากคุณ : เอ๋อ้อยพระธาตุขามแก่น
ระหว่างขับรถตามเส้น 209 เพื่อจะไปกาฬสินธุ์ เห็นป้ายพระธาตุขามแก่น แน่นอนไม่รอช้าที่จะแว๊บบบบ ไปเที่ยวซะหน่อย
ขับไปตามป้ายจากถนนใหญ่ประมาณสิบกว่ากิโลก็ถึงครับ
โดยประวัติคร่าวๆ คือ ครั้งแต่การเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้มีการนำพระธาตุ ต่างๆไปบรรจุในแต่ละที่
ซึ่งมีอยู่ชุดหนึ่งมีความตั้งใจจะนำพระอังคารธาตุไปบรรจุที่พระธาตุพนม ซึ่งในการเดินทางนั้นคณะได้มาแวะพักที่สถานที่แห่งหนึ่งที่มีต้นมะขามที่ตายไปแล้วจนเหลือแต่แก่น จึงได้นำพระธาตุวางพักไปที่นั้น จนต่อมาหลังจากเดินทางต่อไปยังพระธาตุพนม เพื่อจะนำพระอังคารธาตุไปบรรจุ ปราฏฎว่าคณะมาช้าเกินไป พระธาตุพนมสร้างเสร็จแล้ว จึงไม่สามารถบรรจุพระธาตุเพิ่มได้ จึงจำต้องนำพระธาตุนั้นกลับไป
ระหว่างทางกลับนั้นก็ผ่านที่เดิม ต้นมะขามเดิมที่เคยเหลือแต่แก่น กลับผลิดอกออกผล แสนอัศจรรย์ เห็นดังนั้นคณะเลยสร้างพระธาตุครอบต้นมะขาม และบรรจุพระอังคารธาตุในพระธาตุนั้น และเป็นที่มาของพระธาตุขามแก่นในปัจจุบันนั่นเอง ครับ
โดยวันที่ไปซักคณะของ มข. มีรับน้องพอดี จึงมีกลุ่มชนเสื้อแดง จำนวนมากที่พระธาตุ
อีกซักรูปกับพระธาตุขามแก่นครับ
วันที่ไป ฟ้าหายากเหลือเกิน จะมีก็แต่เมฆฝนเต็มไปหมด
จากนั้นผมขับรถต่อไปตามป้ายไปกาฬสินธุ์ ไม่นาน ก็จะเจอป้ายแบบนี้ครับ
เรียงรายอยู่มากมาย ไม่ต่างจากป้าย ไปสนามบินสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯ
แต่ก็ทำให้แน่ใจได้ว่าไม่หลงแน่นอน
ช่วงก่อนถึงตัวเมือง ผมมาสะดุดกับอีก 1 ป้าย
ก็คือ ป้ายไปเขื่อนลำปาว ครับ
ประกอบกับเวลาใกล้เที่ยงก็เลยเห็นเหมาะเห็นควรว่าจะเข้าไปเดินเล่นแล้วก็ไปหาอะไรกินแถวๆ เขื่อน
เพราะเขื่อนทุกที่ มันเป็นที่ตามอากาศและมีของกินให้กินอยู่แล้วนั่นเอง บอกแล้วเรื่องกินเรื่องใหญ่
เขื่อนลำปาว
เขื่อนลำปาว เป็นเขื่อนดิน ที่สร้างปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยาง สูงราวๆ 33 เมตร
มีเที่ยวเที่ยวคือหาดดอกเกด ซึ่งเป็นดินทราย คล้ายชายหาก สามารถลงเล่นน้ำได้ แต่แน่นอนตอนผมไปนำค่อนข้างสูงครับจึงไม่สามารถเล่นอะไรได้เลยครับ
คิดๆอยู่ว่าตอนนี้ที่นี่จะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหลังผมกลับมา อาทิตย์นึงได้ยินว่า กาฬสินธุ์ เริ่มน้ำท่วมด้วย ก็หวังว่าชาวบ้านที่นั่นจะไม่เป็นอะไรมากครับ
เท่าที่คุยกับชาวบ้านแถวนั้น เห็นบอกว่าเขื่อนพึ่งได้รับการปรับปรุงตัวประตูน้ำ จากเดิมนั้นประตูน้ำจะใช้แรงคนในการเปิดปิด แต่ปัจจุบัน ได้สร้างระบบ ไฮโดริก เพื่อช่วยในการเปิดปิดประตูน้ำครับ
ที่เห็นสีแดงสดๆนั่นหล่ะครับ ประตูน้ำอันใหม่
ซึ่งตอนที่ไปนั้นบนสันเขื่อน เริ่มเห็นร่องรอยในการสร้างสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นคล้ายๆ ศูนย์บริการท่องเที่ยว แต่ยังไม่เสร็จดี เดาว่าอีกหน่อยคงมีบริการร้านอาหารเพิ่มเติมแถวนี้
แต่ตอนนี้ถ้าจะกินอะไร ก็สามารถไปกินตรงหาดดอกเกด ได้ครับ มีร้านมาตรฐานที่เที่ยวเขื่อน นั่นก็คือ ส้มตำ ปลาเผา นั่นเอง
แต่ขามาผมแอบเห็นระหว่างทางมีร้านอาหารน่ากิน ก็เลยปันใจให้ร้านนั้นดีกว่าครับ
ตลอด 3 วันที่ผมขับรถเที่ยวแถวนี้ ร้านอาหารที่มากระหว่างทางก็คือ กุ้งเผา และ ปลาเผาครับ
ชาวบ้านแถวนี้ จะมีอาชีพประมาณทำฟาร์มกุ้ง กันครับ ดังนั้นจึงเป็รร้านอาหารพวกนี้ไม่น้อยเลย
แน่นอนมื้อกลางวันนี้ก็ขอจัดเต็มกุ้งเผาซะหน่อย อิอิ
โดยส่วนใหญ่ร้านมักจะทำคล้ายๆ แพ รอบๆ บ่อกุ้งครับ
สวัสดีครับ ชาวกาฬสินธุ์ยินดีต้อนรับครับ นานๆเห็นรีวิวกาฬสินธุ์ที ดีใจครับ
ตามมาขี่ไดโนเสาร์ครับ
จากคุณ : ลุงแบกเป้ สวัสดีครับคุณเล็กทาโร่ วันนี้มีเจ้าถิิ่นมาต้อนรับล่ะ สบายใจ อิอิ
ถ้าข้อมูลอะไรผิดแก้ให้ด้วยนะครับ
---------------------------------------------------------------
มาแล้วววว กุ้งเผา
แต่แอบงงว่าบางตัวทำไมไม่สด ทั้งๆที่ตักกันจากบ่อเลย แต่โดยรวมอร่อย อิอิ
ปล.ทำรูปไปท้องร้องไป T__T
สวัสดีครับ คุณลุงแบกเป้ งั้รคนต้องเปลี่ยนเป็นล๊อคอิน ลุงแบกเป้ขี่ไดโนเสาร์แทน อิอิ
------------------------------------------------------------------------
ระหว่างขับรถกลับเข้าเมือง ผ่านร้านน้ำปั่นร้านนึง ป้ายร้านน่ารักเชียว
ร้าน "กาแฟ ไดโนเสาร์" สงสัยว่าที่นี่ถ้าอะไรที่ไม่มีคำว่าไดโนเสาร์จะขายไม่ดีหรือเปล่าเนี่ย 555
เลยจัดน้ำปั่นมากินเล่นซะหน่อย อิอิ
จากนั้นขับรถเข้าตัวเมืองสะดุดกับป้ายใหญ่โตมากๆ
สมแล้วที่เป็นถิ่นไดโนเสาร์ล้านปี
แต่ยังครับ วันนี้ยังไม่มีโปรแกรมย้อนอดีต แต่วันนี้เป็นโปรแกรมไหว้พระครับ
หลังจากผ่านป้ายเมื่อซักครู่ เข้าตัวเมืองจะมีสี่แยก ผมเลี้ยวขวาไปทางเส้นทาง 214 ไปทาง อ.กมลาไสย ครับ
เพื่อไปไหว้อีกหนึ่งพระธาตุ ของจังหวัดกาฬสินธุ์ นั่นคือพระธาตุยาคูนั่นเองครับ
พระธาตุยาคู เป็นหนึ่งในโบราณสถานของประเทศไทย
มีจุดเด่นที่เป็นสถาปัตยกรรมร่วมกันถึง 3 สมัยคือ
ในส่วนฐานนั้นสร้างตั้งแต่สมัยทราวารดี มีทางขึ้น 4 ทิศทาง จากนั้นมีการสร้างฐานทรงแปดเหลี่ยมซ้อน ในช่วงยุคอยุธยา
และ สุดท้ายส่วนยอดของพระธาตุนั้นสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์
ทั้งนี้ไม่แน่ชัดว่าภายในบรรจุสิ่งใดแต่คาดว่าน่าจะเป็นอัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองเคารพนับถือ เพราะเมื่อเมืองแพ้สงคราม พระธาตุมิได้ถูกทำลายตามไปด้วยนั่นเองครับ
เสียดายว่าวันไปฟ้าฝนไม่เป็นใจเลยได้ฟ้าทึมๆมาครับ จากนั้นผมก็ขับรถเข้าเมืองหาที่พักคืนนี้ครับ
จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นจังหวัดไม่ใหญ่มากนัก ผมขับรถวนๆ 2-3 รอบก็จำทางได้โดยไม่ยากนัก
แทบทุกที่ต้องเจออะไรที่เป็น ไดโนเสาร์ เสมอ สมแล้วที่เป็นถิ่นไดโดนเสาร์ มาก่อน
คืนนี้ผมเลือกที่จะไปพักที่ โรงแรมลำปาว โรงแรมประมาณ 3 ดาวที่น่าจะดีที่สุดในเมืองกระมั๊ง
สนนราคาไม่ได้แพงมากมาย พัก 3 คน อยู่ที่ 1400 บาทรวมอาหารเช้า
อยู่ตรง H2 ของแผนที่ครับ ซึ่งสามารถเข้าจากสวนสาธารณพกุดน้ำกิน ได้เลยครับ ซึ่งทำให้สามารถทะลุเข้าออกเมืองได้สบาลเลยครับ
โดยตรงตัวเมืองก็จะอยู่บริเณรอบๆ วงเวียน กลางเมืองนั่นหล่ะครับ
ตกเย็น ผมพาคุณเพื่อนที่ไปด้วยกันไปที่ขนส่งเพื่อจองตั๋วรถทัวร์ (เพื่อนกลับก่อนวันนึง) จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ กุดน้ำกิน
ชื่อประหลาด ไม่รู้มีที่มาอย่างไรเหมือนกัน
ที่ กุดน้ำกิน จะว่าไปก็คงเปรียบได้กับสวนลุมในกรุงเทพฯ ครับ
พอตกเย็นก็จะเป็นที่รวมของ คนมากมายหลายวัย ทั้งวัยรุ่นที่มาขี่จักรยาน ผาดโผน หรือ คนที่รักสุขภาพว่าวิ่ง จ๊อกกิ้ง และออกกำลังกาย เต็มไปหมดเลยครับ
ด้วยความที่ว่าเป็นเสมือนเกาะที่อยู่กลางทะเลสาป ลมเย็นชิวเชียวครับ
เพื่อความกลมกลืน 2 คนนี้เลยเล่นด้วยซะเลย
พอใกล้มืดก็ขับรถไปดูในตัวเมืองต่อ เจอศาลหลักเมือง เลนแวะสักการะ กันซักเล็กน้อยครับ
จากคุณ : เอ๋อ้อยแก้แล้ว...งั้นลบออกเนอะคะคุณเอ๋อ้อย
^_______^
ตามมาเที่ยวด้วยครับ น้าเอ๋อ้อย
เป็นอีกเมืองนึงที่น่ารัก ว่าจะหาโอกาสไปสักที
ขอปาดขวาอีกคน
จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก คุณแพรวดาว... แก้แล้วค้าบบบบบ
สวัสดีครับคุณตั้มเม้ง.. ลองหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนนะครับ
-------------------------------------------------------------------
จากนั้นแวะไปกินข้าวต้มรอบเย็น ที่ร้านชื่อว่า มุมอร่อย ร้านอยู่ตรงหัวมุม ถนนสิทธิเดช ใกล้ๆขนส่งครับ
มาโลดดีบุก มาทันข้าวเย็นพอดี...
------------------------------------------------------------
ผมชอบจานนี้ผัดได้อร่อยดี "หมูสับไข่เค็ม" ครับ
แล้วก็หอยลายพริกเผา อันนี้ก็ใช้ได้ครับ
จากนั้นก็กลับโรงแรมนอนครับ เตรียมย้อนรอยประวัติศาสตร์พรุ่งนี้ อิอิ
ปล. โรงแรมที่ไปพักชอบอย่างนึงคือ ทีวีมีให้ดูเยอะดีครับ เป็นร้อยช่องได้ เลยได้อานิสงค์ดูบอลไปด้วย อิอิ
เช้าวันอาทิตย์ หลังตื่นนอนผมก็ขับรถไปทาง อำเภอ สหัสขันธ์ ซึ่งมีแหล่งขุดค้นซากได้โนเสาร์นั่นเองครับ
ซึ่งขับๆรถไปไม่ต้องกลัวหลงเลยครับมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ
แวะมาชมครับ และมาตามไปเที่ยวด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
สวัสดีครับคุณกัปตันลูกชุบ ขอบคุณที่แวะมาชมเช่นกันครับ
-----------------------------------------------------------------
พอขับผ่านโรงเรียนนึง ผมเจอป้ายนี้......
ก็แอบคิดว่าจะมีไดโนเสาร์ข้ามถนนจริงหรือเปล่า
แต่คิดอีกทีปกติป้ายนี้ที่หน้าโรงเรียนจะเป็นระวังเด็กข้ามถนน
เลยงงว่าเค้าจะหาว่าเด็กเป็นไดโนเสาร์เหรอ แซวเล่นครับ อิอิ
แต่ป้ายน่ารักดี
ตามมาแล้วจ้า
จากคุณ : ข้าวเสาไห้ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆๆนะครับ
จากคุณ : tonhokแต่พอขับต่อมาอีกหน่อยเลยรองอ๋อ... เพราะมีสวนสาธารณะ อำเภอสหัสขันธ์ ซึ่งทำเก๋
เป็นสวนสาธารณะไดโนเสาร์ครับ
มีไดโนเสาร์เท่าของจริงปั้นไว้อยู่เต็มไหมดเลยครับ แปลกดี
สวัสดีครับพี่ต้น ตามมาเล้ยยยย
สวัสดีครับคุณ tonhok ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมเช่นกันครับ
-----------------------------------------------------------------
ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเราอยู่ในสมัยนั้น ที่ยังมีไดโนเสาร์อยู่ แล้วเราอยู่ในวงล้อมไดโนเสาร์ จะน่ากลัวขนาดไหน
ผมว่ามันเป็นอะไรที่เด็กชอบนะ เห็นมีพ่อแม่ พาลูกๆ มาเดินเล่นหลายครอบครัวเลยครับ
แต่มีสิ่งที่อยากติสวนสาธารณะที่นี้นิดเดียวจริงๆ คือบรรดาไดโนเสาร์ตัวใหญ่ๆ ที่หางใหญ่ๆเนี่ย
เข้าใจว่าน่าจะกลัวคนขึ้นไปยืน ไปนั่งแล้วมันหัก เค้าเลยเอา ลวดหนามมันพันไว้แทนครับ
แต่ผมว่าความสูงมันระดับเดียวกะหัวเด็กเลยนะ น่ากลัวเด็กไปวิ่งเล่นแล้วเอาหัวไปชนจังเลยครับ
พอออกจากสวนสาธารณะไปไม่นาน ประมาณ 2-3 กิโลจะเจอทางเข้าไปยัง "พิพิธภัณฑ์สิรินธร" ซึ่งไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหลงทาง
มองไปทางขวามือของถนนจะเห็น ป้ายใหญ่โตบอกอยู่บนยอดเขา เสมือนหนึ่ง ป้าย Hollywood ที่ LA ไม่ผิดเพี้ยน อันนี้ถ่ายตรงหน้าพิพิธภัณฑ์เลยโดนต้นไม้บังไปเยอะเลยครับ
พิิพิธภัณฑ์สิรินธร
ซากไดโนเสาร์ที่นี่นั้นพึ่งจะขุดพบเจอไม่นาน เมื่อประมาณปี 2537 พระครูวิจิตรสหัสคุณ ขุดพบเจอซากไดโนเสาร์ (บริเวณนี้มีวัดสักกะวันตั้งอยู่)
สำนักธรณีวิทยา จึงเข้ามาขุดสำรวจเมื่อราวๆ ปี 2538 ซึ่งพบเจอซากไดโนเสาร์จำนวนมาก จึงได้จัดตั้งโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติภูกุ้มข้าวขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๓๘
ก่อนที่จะสร้าง อาคารพิพิธภัณฑ์ขึ้น เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรขึ้น ช่วงปี 2548 โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ชื่อพิพิธภัณฑ์นี้ว่า พิพิธภัณฑ์สิรินธร เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๔๙
ซึ่งตอนแรกผมเองคิดว่าคงเป็นพิพิธภัณฑ์ ทั่วไปไม่ได้มีอะไรจัดแสดงมากมายนอกจากซากไดโนเสาร์ที่เจอแถวนี้ แต่ผมคิดผืด
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นยิ่งกว่าพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ เพราะที่นี่เป็นเสมือน แหล่งความรู้ทางประวัติศาสตร์ ที่มีตั้งแต่ข้อมูลต้นกำเนิดของโลก จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วตามผมมาเลยครับ ไปดูกันว่าที่นี่มีดียังไง
อ้อที่นี่ปิดวันจันทร์นะครับ เหมือนพิพิธภัณฑ์ทั่วโลกครับ
สำหรับที่นี่ เข้าฟรีนะครับ ตรงหน้าทางเข้าจะเจอเจ้านี้ยืนจังก้าอยู่ครับ
เป็นโมเดลของ สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส
โดยในโซนแรกของพิพิธภัณฑ์ นั้นจะเป็นต้นกำเนิดของ โลกและจักรวาลครับ จะย้อนไปตอนเกิด Big Bang นั่นหล่ะครับ
จนเกิดเป็นโลก และสิ่งมีชีวิตในยุคแรกๆครับ โดยที่โซนนี้จะมี ข้อมูลเกี่ยวกับ ธรณีวิทยาให้ศึกษาครับ และไม่ได้มีแต่ภายในประเทศด้วยครับ
มีการนำตัวอย่างแร่ธาตุต่างๆ จากต่างประเทศมาจัดแสดงด้วยเช่นกันครับ จากต้นกำเนิดโลกแล้วก็ตามด้วยต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิตครับ จะค่อยๆไล่เรียงมาตามยุคสมัยต่างๆ
อย่างเช่นอันนี้เป็นซากของ Trilobite ซึ่งค้นพบที่ประเทศ โมร๊อคโก ครับ
ซึ่งวันที่ผมไปมีคนเข้ามาเยี่ยมชมจำนวนมากเลยครับ
แน่นอนส่วนใหญ่ก็จะเป็น พ่อแม่ พาเด็กๆ มาชมครับ ซึ่งถ้าผมเป็นเด็กคงชอบอ่ะครับ มีอะไรตื่นตาตื่นใจเยอะเลยครับ
โดยบริเวณกลางโถงใหญ่จะเป็นที่จัดแสดง โครงกระดูกใหญ่ๆ ของไดโนเสาร์ ครับ
จากคุณ : เอ๋อ้อยเจ้าตัวนี้คือ อิลาสโมซอรัส พลาทิยูรัส ครับ
จากคุณ : เอ๋อ้อยจากนั้นในพิพิธภัณฑ์จะดำเนินเรื่องมายังส่วนของตอนสิ้นยุคไดโนเสาร์ครับว่า สูญพันธุ์ไปเพราะอะไร ซึ่งก็มีหลากหลายทฤษฎี ไม่ว่าจะ อุกาบาตชนโลก ,ภูเขาไฟระเบิด, การคุกคามของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนทิศทาง
แล้วก็ไล่จนมาถึงต้นกำเนิดของมนุษย์นั่นเองครับ ซึ่งในแต่ละยุค แต่ละสมัยมีรายละเอียดให้ศึกษาในที่แห่งนี้มากมายเลยครับ
ผมว่าเป็นอะไรที่น่าอิจฉาเด็ๆชาว กาฬสินธุ์อยู่นะครับ ที่มี พิพิธถัณฑ์ดีๆ แบบนี้ให้ลูกหลานได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ได้อย่างที่นี่ครับ
สำหรับใครที่ชอบส่ง Postcard ที่นี่ก็มีบริการตู้ไปรษณ๊ย์นะครับสามารถมาใช้บริการกันได้ครับ
จากนั้นตอนแรกผมว่าจะเดินขึ้นไปด้านบนซึ่ง เป็นแหล่งขุดค้น แต่ทว่าฝนเทลงมาซะก่อน เลยเปล่ียนใจไปกินข้าว หน้าพิพิธภัณฑ์นั่นหล่ะครับ
แน่นอนหนีไม่พ้นส้มตำ อีกแล้ว
แล้วก็เลยถือโอกาสเดินดูของฝากแถวนี้ซักหน่อย ซึ่งก็หนีไม่พ้นบรรดา ไดโนเสาร์จำนวนมากนั่นเองครับ
จากคุณ : เอ๋อ้อยหลังกินเสร็จผมหยุดพอดีเลยได้โอกาสขึ้นไปที่หลุมขุดค้น ภูกุ้มข้่าว ซึ่งอยู่ด้านบนของพิพิธภัณฑ์สิรินธรนั่นเองครับ
ก็เดินพอเหนื่อยๆ ย่อยอาหารหลังกินข้าว
โดยตัวอาคารจะทำเป็นหลังคาครอบในส่วนของที่ขุดค้น ตามรูปเลยครับ โดยตรงที่ลึกลงไปและตรงที่มองเห็นนั้น
เท่าที่คุยกัยเจ้าหน้าที่คือ จะทิ้งไว้แบบนั้น สำหรับจัดแสดง โดยได้มีการนำน้ำยาต่างๆ มาเสมือนสตั๊ฟไว้เรียบร้อยแล้ว
แต่บริเวณใต้ทางเดินจุดที่มองไม่เห็นนั้นก็จะมีการขุดค้นไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะเจอซากไดโนเสาร์มาเรื่อยๆเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อเจอ จะนำไปที่ lab ซึ่งอยูาภายในพิพิธภัณฑ์ เพื่อนำไปวิจัย และจัดแสดงต่อไปครับ
ซึ่งใต้นี้เองยังมีไดโนเสาร์อีกจำนวนมากรอนักวิจัยมาค้นพบอยู่ครับ
อันนี้เป็นซากกระดูกที่เจอในหลุมขุดค้นที่นี่และได้ทำการ สตั๊ฟ เพื่อแสดงในหลุมขุดค้นนี้แล้วครับ
จากคุณ : เอ๋อ้อยจากนั้นผมขับรถกลับมาที่ถนนใหญ่บริเวณทางเข้ามีสวนสาธารณะอยู่ พอดีเห็นว่ามีเสาไฟฟ้าสวยๆ เลยแวะลงไปถ่ายครับ
จากคุณ : เอ๋อ้อยน่ารักมั๊ยหล่ะ
จากคุณ : เอ๋อ้อยไม่ได้มีแต่แบบเดียวด้วยนะ... เท่าที่นับๆดูมีซัก 5-6 แบบได้ครับ
จากคุณ : เอ๋อ้อยหลังจากถ่ายเสร็จเดินๆกลับมาที่รถเจอ หลักกิโลล้มอยู่ถ่ายมาด้วยซะเลย
จากคุณ : เอ๋อ้อยพอจะถึงรถอยู่ๆ เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ผมสะดุดล้มลงครับ
ตอนแรกงงว่าเกิดอะไรขึ้น หันไปดูเจอเหล็กเส้นยื่นเฉียงขึ้นจากพื้นมา
หันไปดูเท้าตัวเอง โอววววววววว ม่ายยยยย
เหล็กมันแฉลบง่ามเท้า เป็นแผลยาวเกือบ 5 ซม. ได้
แบบว่าเห็นเนื้อข้ามในชัดเชียว ตอนนั้นเนี่ยไม่รู้สึกเจ็บเลย น่าจะชาอยู่
แต่เห็นแผลรู้เลยว่าต้องไป โรงพยาบาล แน่ๆ เลยตะโกนเรียกคนที่อยู่ในรถ ให้ออกมาช่วย
คุณแฟนออกมาถามว่าเป็นอะไร ไม่รู้จะตอบยังไงบอกว่าต้องไปโรงพยาบาล และเปิดแผลให้ดู
ได้ผลไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ อีก
เป็นความโชคดีในโชคร้าย ที่โรงพยาบาลสหัสขันธ์อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไปแค่ 1 กิโลเท่านั้นเอง
สรุป วันนั้นเจอเย็บไป 4 เข็ม แต่ 2 อาทิตย์ต่อมา แผลไม่ติด เจอเย็บรอบ 2 ไปอีก 6 เข็ม T_________T
ตอนแรกโปรแกรมที่เหลือคือจะไปดูหมู่บ้านผลิตผ้าไหมแพรวา เกือบล่มไปแล้วเพราะขาเจ็บ เพราะตอนแรกกะจะไปที่บ้่านโพนซึ่งเป็นแหล่งใหญ่
แต่ในวิกฤติ กลายเป็นโอกาส คุยๆกับพยาบาลได้ความว่าใกล้ๆ อ.สหัสขันธ์ ก้มีหมู่บ้านที่ทำผ้าไหมแพรวาเช่นกัน
นั่นก็คือ ชุมชนบ้านสิงห์สะอาดนั่นเองครับ
ตอนเข้าไปก็งงๆว่าอยู่ตรงไหน ถามชาวบ้านแถวนั้น ได้ความว่าให้ไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านจะมีขาย และมีคนทำด้วย
แต่ไปถึงเจอแต่ป้าย... แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่อยู่ คนในหมู่บ้านเลยแนะนำอีกทีให้ไปที่บ้านแม่สมปองแทน
จริงๆตอนคุยกับชาวบ้านก็คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง ด้วยผมก็พูดฟังแต่ภาษากลาง พอเจอภาษาอีสานจ๋าๆ ก็หูไม่ค่อยกระดิก แต่ชาวบ้านเค้าก็พยายาม พูด พยายามชี้ จนเรารู้จนได้ว่าอยู่ตรงไหนยังไง
ตอนไปที่บ้านแม่สมปอง แม่สมปองก็กำลังนั่งถักผ้าไหมอยู่พอดีครับ ตอนแรกว่าจะไปกวนแกแปร๊บเดียวที่ไหนได้อยู่ๆ ฝนตกลงมาอีก ไอ้แผลผมก็ห้ามโดนน้ำ เลยขอแกนั่ง และคุยกะแกซะนานเลยครับ
จากที่คุยๆ เห็นบอกว่าปกติแล้วแกนั่งทำตกผืนละประมาณ 1 อาทิตยืหรือ ซัก 10 วันแล้วจะเอาไปให้ผุ้ใหญ่บ้านขายให้ รวมถึงบางทีก็ส่งไปขายในเมือง
โดยลายที่ทำบางครั้งจะมีลูกค้าสั่งมาเลยครับว่าอยากได้ลายประมาณไหน ผืนนึงจะขายได้ราว 3-4 พันบาท
ที่นี่เท่าที่คุยมาเลยรู้ว่า ผ้าไหมแพรวา คำว่าแพรวา เสมือนเป็นแบรนด์ๆนึง
มีลักษณะคือเป็นลักษณข้าวหลามตัด มีความกว้าง 1 วา แต่ยาวเท่าไหร่ลืมไปแล้ว //ฮ่าฮ่่าฮ่า
ซึ่งโดยทั่วไปผ้าผืนนึงจะตัดชุดได้ประมาณหนึ่งชุดครับ
โดยเห็นบอกว่าถ้าเป็นเครื่องจักร สามารถทอผ้าไหมได้แต่จะไม่สามารถทำลายได้
ดังนั้น ผ้าไหมแพรวา จึงเป็นงาน handmade ทั้งหมดครับ
สรุปวันนั้นผมเลยไม่ต้องไปไกลถึงบ้่านโพนครับ อยู่ที่อ.สหัสขันธ์ก็สามารถมาชมวิธีการทำผ้าไหมแพรวาได้เลยครับ
จากนั้นผมกลับเข้าเมืองไปส่งคุณเพื่อนที่ขนส่ง แล้วผมก็ไปกินข้าวร้านเดิมครับ ตอนนี้เริ่มปวดแผลตุบๆ เลยต้องอัดพารา เพื่อให้หายปวดครับ
เช้าวันสุดท้ายตอนแรกผมก็ว่าจะเที่ยวๆ ระหว่างทางกลับ อาจจะแวะพวกอุทยานแห่งชาติที่ขอนแก่น แน่นอนทุกโปรแกรมแทบจะยกเลิกไปหมดครับ
เลยเปลี่ยนเป็นนั่งรถชมเมืองแทนครับ
เช้าๆเลยไปแวะกินกาแฟที่สวนสาธารณะ กุดน้ำกินครับ
ร้านน่านั่งเชียวหล่ะครับ
แล้วก็แวะวัดกลาง ถ้าตามแผนที่ก็จะอยู่ตรงจุดวัดหมายเลข 2 นั่นหล่ะครับ
โดยไปไหว้พระองค์ดำ ซึ่งเสมือนเป็นพระคู่บ้านคู่เมืิองของเมืองกาฬสินธุ์ครับ
แล้วคุณแฟนก็อยากไปช๊อปปิ้งของฝากที่บ้านครับ เลยลองถามๆ คนในเมืองได้ความว่ามีร้านขายผ้าไหม อยู่ตรงแถวๆวงเวียนครับ
จากวัดขับไปวงเวียนจะมีร้าน ผ้าไหมแม่เนื่อง อยู่ครับ สรุปได้ไทด์มา 1 เส้นไปฝากคุณพ่อตา
คุยๆกับเจ้าของร้าน เค้าแนะนำว่าถ้ามีเวลาให้ไปที่วัดป่ามัชฌิมวาส จะเป็นที่ปฏิบัติธรรม แล้วก็มีอาจารย์ใหญ่ ให้ศึกษา เหมาะกับคนอยากไปปลงสังขาลอะไรประมาณนั้น
ด้วยความที่ว่างแล้วก็เลยไปซะเลยครับ ทางก็ไม่ยากครับตามแผนที่ข้างบนแยกไปเสร็จก็ขับเข้าซอยไปประมาณ 10 กิโลจะมีป้ายบอกทางไปเรื่อยๆครับ
ตามเข้ามาดูไดโนเสาร์ครับ
ระหว่างขับๆไปวันนี้เป็นวันที่แดดดีมากกกกกก ฟ้าใสสวยงาม
และสมแล้วที่เมืองนี้เป็นเมืองไดโนเสาร์ เพราะขนาด เมฆ ยังเป็นรูปไดโนเสาร์เลยครับ
สวัสดีครับคุณเข้าชายแวมไพร์ ตามมาเลยค้าบบบ
-------------------------------------------------------------------
ส่วนรูปนี้เหมือนไดโนเสาร์ อ้าปากพ่นไฟ... มีตาด้วยนะเออ...
สงสัยจะเจ็บจนเพี้ยนซะละผม
พอถึงที่วัดป่า มัชณิมวาส ที่นี่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ทีเดียวครับ ตอนผมไปมีรถจาก กทม. มาอยู่ 3-4 คันเลยเหมือนกัน
ไปที่ห้องปลงสังขาร จะมีโครงกระดูกมนุษย์ และเหล่าอาจารย์ใหญ่ อยู่ และมีป้ายติดประมาณว่า ให้สังขารไม่เที่ยวแท้ วันหนึ่งเราทุกคนก็เป็นเช่นนี้
เจอหลวงพี่ในห้องบอกว่า ที่นี่ด้านนอกจะมีหลวงพ่อขาวอยู่ ชาวบ้านนิยมมาบนกัน
ก็เลยเอามาไหว้พระซักหน่อยครับ ทริปนี้ไหว้พระกันจุใจเลย
จากนั้นแวะกินข้าวในตัวเมืองแล้วก็ขับรถกลับไปขอนแก่นครับ แวะไปถนนกลางเมือง ซื้อของฝากนิดหน่อย แล้วก็ขับรถไปสนามบินครับ
แวะปั๊มเติมน้ำมัน ปั๊มนี้ เป็นปั๊ม self Service โอกาสลองเป็นเด็กปั๊มดูครับ
จากนั้นส่งคืนรถแล้วก็ขึ้นเครื่องกับกรุงเทพฯ เป็นอันจบทริปกาฬสินธุ์ครับ
กาฬสินธุ์ จากการได้ไปสัมผัส อาจจะดูเหมือนเป็นเมืองที่ไม่มีอะไร แต่ก้อเป็นเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ มีความสำคัญในด้านการศึกษาค้นคว้าทางประวัติศาสตร์
อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมแพรวาแสนงดงามอีกตะหาก และมีพระธาตุยาคู ซึ่งเด่นด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัยถึง สาม สมัยเลยทีเดียวครับ
กาฬสินธุ์อาจจะไม่ใช่จังหวัดที่ใหญ่โต หรือมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูด แต่ในเมืองแห่งนี้มีความน่ารัก ชาวบ้านมีอัทธยาศรัยดี และให้ควมาช่วยเหลือเป็นอย่างดี
ชาวบ้านมความภาคภูมิใจในสิ่งที่ตนเองมี ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม หรือซากไดโนเสาร์ เห็นได้จาก รูปปั้นไดโนเสาร์ที่มีอยู่เต็มเมือง และเสาไฟสวยๆ เต็มไปหมดเลยครับ
สุดท้ายหากใครได้มีโอกาสไปที่ อีสาน ผมว่ากาฬสินธุ์ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่เหมาะแก่การแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนด้วยครับ
และต้องขอขอบคุณ ททท. และโครงการ คนเล่าเรื่องเมืองน่ารัก กับการแนะนำจังหวัดน่ารักๆ แห่งนี้ให้รู้ว่า เมืองไทยยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมายนัก
วันนี้ก็ขอตัวไปก่อนหล่ะคร้าบบบบบ
ค่าใช้จ่าย
ส่วนนี้ 3 คน
1. ค่ารถทัวร์ไป 1172
2. ตุ๊กๆ ไปสนามบิน 130
3. มื้อเช้าที่เอมโอช 140
4. อาหารเที่ยง กุ้งเผา&co แถวๆเขื่อน ลำปาว 535
5. กาแฟไดโนเสาร์ 30
6. โรงแรมริมปาว 1400
7. ข้าวต้มมุมอร่อย 300
8. 7-11 132
9. ค่าเช่ารถ 3000
10. ส้มตำหน้าพิพิธภัณฑ์ 340
11. ข้าวต้มมุมอร่อย 340
รวม 7519 --> ตกคนละ 2506
อันนี้ค่าใช้จ่าย 2 คน
1. โรงแรมริมปาว 1000
2. อาหารกลางวัน 175
3. กาแฟริมกุดน้ำกิน 95
4. น้ำมัน 1178
5. ค่าตั๋วเครื่องบิน 3300
รวม 5843 --> คนละ 2921
ไปแพงตรงค่าตั๋วเครื่องบินกะค่าเช่ารถนี่แหละครับ
แต่เลือกอย่างนั้นเพราะ voucher จะหมดอายุพอดี เนื่องจาก ทริป เชียงราย ล่มไปเลยพอเหมาะกับการเอามาใช้ที่นี่เลยครัย
ปล. เด๋วจะมาสรุปค่าใช้จ่ายให้อีกครั้งครับ
ตามไปด้วยค่ะ กุ้งเผาน่ากิน
รีวิวนี้สั้นจัง ไม่ได้รีวิวตั้งนาน มารีวิวเยอะๆหน่อยจิ
จากคุณ : ข้าวเสาไห้ชอบเสาไฟไดโนเสาร์อ่ะ น่าร้กดี
แอบมาเที่ยวด้วยน๊า เคยขับผ่านสามสี่หนแต่ไม่เคยแวะซักกะที
จากคุณ : ดวงดาว หัวใจ ดอกไม้ ชายทะเลน่ารักมากๆ
จากคุณ : boy next doorตามไปเยือนถิ่นไดโนเสาร์ด้วยค่ะ
ไดโนเสาน่ารักจังเนอะ
แผลหายรึยังจ๊ะเอ๋อ้อย...
ขอให้ขาหายไวๆครับ
จากคุณ : TheKop78ตามไปเที่ยวกาฬสินธุ์ด้วยคนครับ
จากคุณ : ม่วงมหากาฬคห 9 ของชอบเลยค่ะ
จากคุณ : ตามกาลเวลามาดูไดโนเสาร์ด้วยคนค่ะ ว่าแต่เปิดมาก็น่ากินเลยนะคะ อยากกินอะไข่กะทะเนี่ย
จากคุณ : Red-Rose-14Febหายไปนานเลยนะคะ แต่ยังไงก็เป็นแฟนคลับคุณเอ๋อ้อยอย่างเหนียวแน่นอยู่จ้า
ตามไปถิ่นเจ้าไดโนด้วยจ้า ^^
แน๊..
แอบมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ที่ มหาลัย เราเป็นคนดูแลอยู่
ก้อไม่บอกเจ้าถิ่น จะได้ไปเป็นล่ามให้อ่ะเอ๋อ้อย
ล่ามสามารถช่วยต่อราคาผ้าแพรวา ได้ด้วยเด้อ...
ตามมาดูไดโนเสาร์ครับ
ไม่เห็นเอ๋อ้อยนานเลย.... คิดถึงรีวิวดีๆ รูปสวยๆ นะคะ
ว่าแต่จินตนาการเป็นเลิศนะ มองเมฆเป็นไดโนเสา ด้วย
กาฬสินธุ์ ยังไม่มีโอกาสได้เฉียดไปสักที คงต้องหาโอกาสเฉียดบางซะแล้ว
ขอบคุณสำหรับรีวิว ดีๆ นะคะ...
แวะมาชมฮะ น้าเอ๋อ้อย
ไดโนเสาร์น่ารักอะ คอยาวๆๆๆ เห็นแล้วนึกถึง
ตอนเด็กๆที่ดูจูราสสิคปาร์คภาคแรก ตื่นเต้นน่าดู
เป็นรีวิวที่ดีมาก ไม่คิดว่าจังหวัดกาฬสินจะมีที่เที่ยวเยอะแบบนี้ ขอบคุณครับ
จากคุณ : 18rain
ตามไปเยือนถิ่นไดโนเสาร์ด้วยคนครับ พี่เอ๋อ้อย
ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆ นะครับ ^^
...ตามไปเที่ยวด้วยจ้า อาจารย์เอ๋อ้อย
ไดโนเสาร์น่ารัก ชอบๆ
ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ คุณเอ๋อ้อย
ไดโนเสาร์น่ารักจังเลย (ถ้เราอยู่ในสมัยนั้น มันจะยังน่ารักอีกไหม)
/ ตามมาเยือนถิ่นไดโนเสาร์ค่ะ
ผ้าไหมแพรวาสวยมากจริงๆค่ะ
ที่นี่มีอะไรให้ดูอีกเยอะมากๆ ทั้งพิพิธภัณฑ์สิรินธร ที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ที่เมืองไทย
สุดท้าย ขอให้ขาหายเจ็บไวไวนะเอ๋อ้อย
ตามมาเที่ยวเมืองน้ำดำด้วยครับ ไดโนเสาร์ น่าัรัปทานมากครับ ขอบคุณที่พาเที่ยวครับ
จากคุณ : Red Fox...ตามพี่เอ๋อ้อยมาชมไดโนเสาร์ด้วยคนนะคะ
อาหารแต่ละอย่างน่าหม่ำมากๆ เลยค่ะ ดูเพลินกว่าไดโนเสาร์อีกนะคะเนี่ย ^-^
ได้ผจญภัย เสมือนได้ไปเองเลยครับ อาจารย์
ผมรู้แล้วไดโนเสาร์สูญพันธุ์เพราะอะไร
เพราะว่าเดินไปเตะเศษเหล็กเหมือนที่อาจารย์ไปเตะเข้าครับ
ทีนี้สมัยก่อนไม่มีโรงพยาบาล ไดโนเสาร์เลยเป็นบาดทะัยักตาย
ทฤษฏีผมพอจะมีเหตุผลมั๊ยครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิว
ทำให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้ แขวงการทางฯเปลี่ยนสัญญลักษณ์
จากโปงลางใหญ่ยักษ์เป็นไดโนเสาซะแล้ว
ตามไปเที่ยวกาฬสินธุ์ด้วยคนค่ะ^^
จากคุณ : สามแซ่โห...เลยเจ็บเท้ากลับมาเลยเน้อ --"
เมืองกาฬสินธุ์ถูกใจคนชอบไดโนเสาร์มากมายค่ะ ยิ่งพอรู้ว่าในหลุมขุดบนเขาเป็นซากตัวจริงๆตั้ง7ตัวด้วยแล้ว สุดยอดดดด
แต่ไดโนเสาร์ไม้เล่นโปงลางสุดยอดกว่า
ขอบคุณที่พาเที่ยวเมืองน่ารักค่ะ
คน กาฬสินธุ์
...ตามมาเที่ยวเมือง น้ำดำ ด้วยคน ครับ
คิดได้งัย ระวังไดโนเสาร์ข้ามถนน ป้ายนี้เด็ด
ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ
ตาม เอ๋อ้อย..มาเที่ยวเมือง ไดโนเสาร์ ด้วยจ้า
ขอบคุณ สำหรับ รีวิว ด้วยนะจ๊ะ
ตามมาดูไดโนเสาร์ด้วยคนค่า
แต่ว่าเปิดมาดึกๆ แบบนี้ เห็นปังญวนกะไข่กระทะแล้วทรมานใจมากเลยค่ะ
วันหลังคงได้ตามรอยบ้าง อยากจะเก็บอีสานให้ครบทุกจังหวัดสักทีค่ะ
จากคุณ : ป้าฟูตามเที่ยวด้วยคนค่ะ แต่ไม่ตามเจ็บนะ
จากคุณ : scuba734ขอบคุณสำหรับรีวิวนะค่ะ อยากพาลูกสาวไปดูมากๆ เเต่ไม่รู้ว่าจะไปยังไงดี จากสนามบินขอนเเก่นไปกาฬสินไกลมั้ยค่ะ
XoXo หายไวๆด้วยนะค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวจ้าคุณเอ๋อ้อย
ฟาดเคราะห์ไปทีนะ หายไวๆ
ถ้าจำไม่ผิดเคยไปที่นี่ครั้งหนึ่ง
ไม่เข้าใจว่าจขกท.ทำไมไปแล้ว รูปออกมาดูดีกว่าเราไป ฮา...
ทำให้น่าไปตามรอยอีกสักรอบจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ให้กิฟและเม้นท์เป็นกำลังใจกันค่ะ
หายไวๆ นะคะพี่เอ๋อ้อย เห็นแล้วหวาดเสียวจัง
@^_^@
น่ารักดีอ่ะ ทุกอย่างเป็นไดโนเสาร์ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นป้าย ไฟถนน ดีไม่มีทอผ้าไหมลายไดโนเสาร์ด้วย เอาให้ฮา
ขอบคุณค่ะที่รีวิวพิพิธภัณฑ์น่าสนใจแบบนี้ ถ้าแวะไป จะเข้าไปยลซากน้องไดโนมั่ง
น่าไปเที่ยวจัง อยากไปซื้อผ้าไหมทางอีสานอ่ะ สวยๆทั้งนั้น
จากคุณ : COCOSWEET ขอตามครอบครัวน่ารัก มาเที่ยวเมืองน่ารักด้วยค่ะ ..เอ๋อ้อย
ต้องตามรอยบ้างแล้วละ ไปได้เห็นไดโนเสาร์ซักครั้งหนึ่ง ..
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะค่ะ
ปล. ขอให้แผลหายไวๆนะค่ะเอ๋อ้อย .. สู้สู้
ขอบคุณนะคะ......ว่าจะไปหาเพื่อนตอนปิดเทอมอยู่พอดีเลยคะ
แล้วตอนนี้เท้าหายดีแล้วเหรอคะ
ขอบคุณนะคะพี่เอ๋อ้อย สำหรับรีวิวที่ทุ่มทุนเพื่อชาว BP แบบนี้
ว่าแต่ตอนนี้แผลหายดีแล้วใช่มั๊ยคะ
กาฬสินธุ์นี่เมื่อก่อนไปบ่อยมาก แต่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนเท่าไหร่ และก็ไปถือศีลที่วัดป่ามัฌชิมาวาสทุกสิ้นปี-ปีใหม่ 2-3 ปีติดกัน พอดีเป็นช่วงวันเกิดท่านเจ้าอาวาส คนไปกันเยอะเลยค่ะ นี่ก็ไม่ได้ไปกาฬสินธุ์นานแล้วเหมือนกัน ชักคิดถึงแล้วสิ ขอบคุณนะคะสำหรับรีวิวนี้
กาฬสินธุ์ พิพิธภัณฑ์ จัดสวยมากขึ้นกว่าเดิม ครั้งที่ผมไปเยือนใหม่ ๆ เยอะเลยครับ
ชมภาพนี้นึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ครั้งไปเยือนแดนไดโนเสาร์แห่งนี้
ขอบคุณสำหรับรีวิวดี ๆ ครับ
ก่อนทักทายเพื่อนๆ ทุกท่าน ต้องขอขอบคุณถึงความเป็นห่วงต่อแผลที่เท้าครับ
ตัดไหม(ครั้งแรก) ไปเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ทำแผลต่อมา 1 อาทิตย์ แต่..... เนื้อเยื่อส่วนหนังไม่ติด
เลยต้องเย็บอีกครั้ง จากที่แหวกๆ ดูคราวนี้เหมือนจะเย็บประมาณ 5-6 เข็มครับ (ครั้งแรกเย็บมา 4 เข็ม)
หมอนัดไปตัดไหมวันศุกร์นี้ คิดว่าคงจะโอเคแล้วหล่ะครับ แต่ตอนนี้เท้ายังอักเสบ และแดงๆ รอบแผลเล็กน้อย หมอให้ยาแก้อักเสบมากินอยู่ครับ
ขอบคุณทุกท่านจริงๆครับ...
-------------------------------------------------------------
สวัสดีครับคุณ แม่ราศีธนู ตามมากินโลดครับ อร่อยๆ
พี่ต้น แบบแว่ไม่ได้รีวิวนาน แค่นี้ก็ใช้เวลามากโขล่ะ
สวัสดีครับพี่อู๊ด... เสาไฟนี่แลกมาด้วยแผลที่เท้าเลยนะ T____T
สวัสดีครับคุณ ดวงดาว หัวใจ ดอกไม้ ชายทะเล ไว้มีโอกาสแวะไปเที่ยวนะครับ
อย่างพิพิธภัณฑืตอนแรกผมไม่ได้คาดหวังอะไรเท่าไหร่ แต่ไปแล้วกลับชอบครับ สวัสดีครับคุณ boy next door
สวัสดีครับคุณ ย้ำคิดย้ำฝัน ขอบคุณที่ตามมาเที่ยวด้วยกันครับ
สวัสดีครับพี่อุ๊ ขอบคุณครับ เกือบหายหล่ะครับ
สวัสดีครับคุณ TheKop78 ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณ ม่วงฯ ตามมาเล้ยยยย
สวัสดีครับคุณ ตามกาลเวลา ผมก็ชอบ อิอิ
สวัสดีครับคุณ Red-Rose-14Feb ไม่มีของกินไม่ใช่รีวิวเอ๋อ้อยครับ อิอิ
สวัสดีครับคุณ หนูกิตฯ ขอบคุณครับที่ยังจำกันได้ แบบว่าหายหัวไปนานมว๊ากก
สวัสดีครับป้าหนิง ไม่รู้อ่าว่าเป็นเจ้าถิ่นไม่งั้นจะให้เป็นไกด์กิติมศักดิ์ซะเลยอ่ะครับ
สวัสดีครับคุณ Banbondoi ตามมาด้วยกันเลยครับ
สวัสดีครับคุณกุ้ง ฮุยเฉง 555 คุณแควนเป็นคนสมองซีกขวาเจริญงอกงามดีครับ อิอิ
สวัสดีครับชั้นหก.. นั่นซิเนอะ ขอบคุณที่แวะมาชมค้าบบบบ
สวัสดีครับคุณ 18rain ขอบคุณครับ
สวัสดีครับบัวนลิน
สวัสดีครับคุณ นายโอเลี้ยง ไปเที่ยวด้วยกันครับ
สวัสดีครับคุณป๋อหลาง เด๋วแอบตามไปพังงาด้วย อิอิ
สวัสดีครับคุณ แป๋วแว๋ว ถ้าอยู่สมัยนั้นคงวิ่งหนีอ่ะครับ
สวัสดีครับคุณ กิ๊ก ขอบคุณที่ตามไปเที่ยวด้วยกันค้าบบบ
สวัสดีครับก้อง ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณ Red Fox เอ๊ะ ผมก็ไม่เคยกินเนื้อไดโนเสาร์เหมือนกันครับ
สวัสดีครับคุณ จูลายกะปลายฟ้า อิอิ ไม่งั้นเสียชื่อ เที่ยวจุ๊บเที่ยวจิ๊บครับ อิอิ
สวัสดีครับคุณ โด้ เอ่อ
คิดได้เนอะ แต่สมัยก่อนมันจะมีเหล็กเส้นได้ไงอ่ะครับ
สวัสดีครับคุณ low batt. โปงลางยักษ์ ย้ายไปอยู่อีกแยกนึงแทนครับ
สวัสดีครับคุณ สามแซ่ ตามมาเลยครับ
สวัสดีครับพี่แจง... ขาใกล้หายแล้วหล่ะครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณ Bras Pooh อ้าวเป็นคนกาฬสินธุ์ หรอกหรือนี่ เจอเจ้าถิ่นเยอะวุ้ย อิอิ
สวัสดีครับพี่บี DOGHALL นั่นซิครับ คิดได้ยังไง
สวัสดีครับป้าแดง ขอบคุณค้าบบบบ
สวัสดีครับคุณ คนช่างฝัน สาวข้างบาน อิอิ รีบเช็ดน้ำลายเร็ว เด๋วหยดลงคีย์บอร์ดครับ
สวัสดีครับคุณ ป้าฟู อีสานผมก็พึ่งเที่ยวได้ไม่กี่จังหวังเหมือนกันครับ
สวัสดีครับพี่ตุ้ม Scuba อ้าวไม่มาเจ็บเป็นเพื่อนผมเหรอครับ อิอิ
สวัสดีครับคุณ ellie@aggie ถ้าจำไม่ผิดซัก 70 โลจะถึงตัวเมืองครับ แต่ถ้าไปถึง อ.สหัสขันธ์ก็ขับต่ออีก 30 โล ได้ครับ ใกล้หายแล้วหล่ะครับ ขอบคุณครับ..
สวัสดีครับคุณ ชมจันทร์ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณ สาวไกด์ใจชื่อ ขอบคุณค้าบบบบ
สวัสดีครับคุณแพม CX gal ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณ ha-meow นั่นซิครับทุกอย่างเค้าทำเป็นไดโนเสาร์หมดจริงๆ ดูเค้าภูมิใจมากกับไดโนเสาร์ครับ
สวัสดีครับแอมป์ ผ้าไหมสวยดีครับ แต่ผมดูไม่เป็นอ่ะ
สวัสดีครับหวาน มาตามรอบเลยคร้าบบบ แผลใกล้หายแล้วหล่ะขอบคุณคร้บ
สวัสดีครับคุณ กานพลู
คนชอบเที่ยว ใกล้หายแล้วครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณ Ged^_^Ged ใกล้หายแล้วครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณ @}-- เยอบีร่า -- ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมเช่นกันครับ
สวัสดีครับคุณ Campusman ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมเช่นกันครับ
..
เอ๋อ้อยห่างหายไปนานมาก
ปล่อยแฟนคลับรอกันแกร่วเลย ... แต่เข้าใจครับ ว่าหายไปแบบมีความสุข แถมกลับมามีนางแบบกิติมศักดิ์ด้วย อิอิ
ขอบคุณที่เปิดมุมมองการท่องเที่ยวเมืองน้ำดำครับ นานๆๆๆๆๆๆๆทีจะได้มีแหล่งข้อมูล - รีวิวจากแดนอีสานแบบครบครันบ้าง
..
สนุกจังเลย เด็กๆๆไปคงชอบมากๆๆ
ได้แผลมาด้วย ตอนนี้คงหายแล้วนะ
ขอบคุณค่ะ
ไปเที่ยวกาฬสินธุ์ด้วยคนค่ะ ผ้าไหมแพรวาสวย
ไม่ได้เห็นรีวิวฝีมือล้อคอินนี้นานมากๆ คิดถึง !!
ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆขอให้แผลแห้งไวไวนะคะ
ชอบพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์มาก ... เห็นรูปแล้วน่าไปเป็นที่สุดค่ะ
ถ่ายรูปสวยจัง อิอิ
เป็นเมืองที่ไม่ค่อยได้เผยโฉม ให้ เราได้ชมความน่ารักกันบ่อยๆ นะค๊ะ
ในห้อง BP
แต่ดูจากรีวิวนี้ ก็เป็นเมืองน่ารักๆ จริงๆ นะเนี่ย^^
จากคุณ : hollaneungขอบคณรีวิวคุณภาพนะคะ
จากคุณ : enduresexyตามไปดูไดโนเสาร์ด้วยคนค่ะ....มาช้าไปหน่อย คงทันนะคะ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ ^^
จากคุณ : Nordlysมาดูไดโนเสาร์ข้ามถนน อิอิ ^^
ขอบคุณมากคร้าาาา
มาดูไดโนเสาร์ข้ามถนน อิอิ ^^
ขอบคุณมากคร้าาาา
เจอไหมคะ ไดโนเสาร์ข้ามถนน
อบต เค้าคิดเก่งเนอะ
ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ