ดิฉันไปเข้าพักที่โฮเทล เดส อาร์ทติส เขาใหญ่ เมื่อวันที่ 15 กย พาเพื่อนคนญี่ปุ่นไปเที่ยวเขาใหญ่ค่ะ
<BR> <BR>
โรงแรมน่ารัก พนักงานบริการดี เป็นที่น่าประทับใจค่ะ กะว่า คราวหน้าจะชวนสามีมาพักที่นี่ เพราะไม่ได้มาด้วย
<BR> <BR>
แต่ตอนเช็คเอ้าท์ พนักงานนำผ้าขนหนูสี่เหลื่ยมจตุรัสเช็ดมือที่เปี้ยนไวน์บอกว่า ทางเราต้องชาร์จ 100 บาท โอ้ววว ไวน์นั่น เราทำเปื่อนก็จริง แต่ต้องคิดเงินกับผ้าขนหนูเล็กๆที่จะต้องเอาไปซักอยู่แล้วเหรอ ดิฉันก็ถามพนักงานว่า ไม่เห็นโรงแรมอื่นชาร์จค่าใช้จ่ายอย่างนี้เลย เค้าก็บอกว่ามันเป็นกฏ พอถามว่าเอาผ้าขนหนูมาลองซักเองได้มั้ย เค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ ทางเราจัดการซักเองได้(ซักได้ก็ไม่เห็นต้องมาชาร์จเลย)
<BR> <BR>
สรุปก็ต้องเสีย 100 บาทไป เพื่อนญี่ปุ่นก็บ่นเสียดายที่โรงแรมน่ารัก แต่มาทำให้เสียความรู้สึกตอนท้าย ผ้าขนหนูก็ทั้งเก่าและหยาบ จริงๆแล้วมันจะเป็นจุดที่เรามองข้ามไปด้วยซ้ำถ้าไม่มีเรื่องอย่างนี้
<BR> <BR>
น่าเสียดายค่ะ กลายเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่จะไม่กลับไปเข้าพักอีก
<BR> <BR>
มาแชร์กันไว้ค่ะ ถ้าคุณไม่ไปทำอะไรที่ตกลงไปใน "กฏ" ที่ทางโรงแรมสร้างไว้ คุณน่าจะได้ความประทับใจกลับบ้านค่ะ

โรงแรมอื่นกฎก็เป็นแบบนี้ค่ะ คือถ้าทำผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็คตัว เช็ดผม เช็ดหน้า พรม เปื้อนคราบต่างๆ จะต้องเสียค่าซักค่ะ จะเท่าไหร่ก็ขี้นอยู่กับแต่ละโรงแรมค่ะ

สาเหตุเพราะเวลามันเปื้อนแล้วเนี่ย ถ้าไม่ได้รีบซักทันที ยังไงมันก็ไม่หมดคราบค่ะ โดยเฉพาะผ้าขาวเนี่ย แล้วถ้ามันซักไม่ออกผ้าผืนนั้นเค้าก็เอามาให้บริการลูกค้าอีกไม่ได้ เพราะลูกค้าอย่างเราๆก็คงไม่ชอบใจที่ได้ผ้าคราบๆมาใช้ ถูกมั้ยคะ

ดังนั้นที่คุณจขกท.สรุปมานั้นก็ถูกต้องแล้วค่ะ กฎก็คือกฎ คุณจะไปติเค้าก็ไม่ถูกนักหรอกค่ะ

ไม่แปลกคะ เราโดนค่าซักผ้าปูที่นอนไป 500 บาท เลอะไวน์เหมือนกัน อยากคิดมาก ถ้ามันซักไม่ออก เขาก็ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้นะคะ

ผมเพิ่งไปเขาใหญ่มาเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา (แต่พักที่ Sala เขาใหญ่)
ก็แวะเข้าไปชมที่ Hotel Des Artist ด้วย
บรรยากาศห้องก็ดูสวยดีนะครับ พนักงานก็บริการดีโอเคเลยครับ
แต่ราคาห้องผมว่าแพงไปนิดนึงเพราะขนาดห้องมันก็ไม่ใหญ่มาก

ส่วนเรื่องผ้าเลอะนี่ก็ต้องทำใจนิดนึงอ่ะครับ
เพราะผ้าชนหนูมันสีขาวจั๊วะ ถ้าซักไม่ออกมันจะเห็นเป็นคราบชัดมาก
ปรับ 100 นึงผมรับได้นะครับถ้าเราไปทำเลอะจริงๆ
ทางที่ดีถ้าคุณไปทำผ้าอะไรของเค้าเลอะ ลองซักเองดูก่อนดีกว่า
ออกไม่ออกก็ลองดูก่อน เผื่อคราบจะจางลงและเค้ามองไม่เห็นจะได้ไม่ต้องโดนปรับอ่ะครับ

คราบไวน์มันซักออกยาก แล้วก็ต้องแยกซักน่ะครับ

ทางที่ดีเวลาไปพักโรงแรมเนี่ย...ใช้กระดาษชำระเถอะครับ ปลอดภัยกว่าเยอะ

"เค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ ทางเราจัดการซักเองได้(ซักได้ก็ไม่เห็นต้องมาชาร์จเลย)"

ตรงกันข้ามสิครับ ถ้าคุณซักจนคราบหายก่อนเขาจะเห็น เขาถึงไม่ต้องเก็บเงินคุณเพิ่ม เขาไปซักก็ต้องเสียทั้งแรงงานและเวลาทำงานอย่างอื่นมาซักผ้าผืนนี้ให้คราบหาย เขาก็ต้องเก็บเงินอยู่แล้ว



"ผ้าขนหนูก็ทั้งเก่าและหยาบ จริงๆแล้วมันจะเป็นจุดที่เรามองข้ามไปด้วยซ้ำถ้าไม่มีเรื่องอย่างนี้"

ตลอดเวลาที่เข้าพักไม่รู้สึกว่ามันทั้งเก่าและหยาบ เพิ่งมารู้สึกตอนโดนเก็บเงินเหรอครับ



"น่าเสียดายค่ะ กลายเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่จะไม่กลับไปเข้าพักอีก

มาแชร์กันไว้ค่ะ ถ้าคุณไม่ไปทำอะไรที่ตกลงไปใน "กฏ" ที่ทางโรงแรมสร้างไว้ คุณน่าจะได้ความประทับใจกลับบ้านค่ะ"

น่าเสียดายแทนคุณเหมือนกันที่จะไม่กลับไปพักในที่ที่คุณอุตส่าห์ประทับใจ เพียงเพราะคุณไม่มั่นใจว่าตัวเองจะไปละเมิดกฎของโรงแรมหรือเปล่า



คราวหน้าเวลาไปพักที่อื่น แนะนำให้ถามทางที่พักก่อนละกันว่า ถ้าทำไวน์เปื้อนผ้าขนหนูแล้วจะโดนเก็บเงินเพิ่มหรือเปล่า ถ้าทางโรงแรมบอกว่าเก็บ คุณก็เปลี่ยนที่แล้วหาที่ที่เขาไม่เก็บเงินละกัน

ผมว่าเป็นทุกที่นะ ถ้าทำเปื้อนก็ต้องชาร์จ เป็นค่าเสื่อมราคา เสียหาย ฯลฯ

ในสัญญาเช่าห้องน่าจะบอกไว้ไหมครับว่าผู้เข้าพักต้องดูแลสิ่งของในโรงแรมเสมือนวิญญูชนพึงกระทำกับของของตัวเอง ถ้าเป็นผ้าขนหนูสีขาวของเรา เราคงไม่กล้าทำเปื้อนไวน์แน่ ๆ

ถ้าเป็นเรา เราคงซักเองตั้งแต่ทำเปื้อนแล้วอะค่ะ แต่ถ้ามันเยอะ คือจงใจเอาผ้าขนหนู (สำหรับเช็ดหน้า เ้ช็ดผม ที่มีไว้ให้ในห้องน้ำใช่ไหมนะ) มาเช็ดเพราะทำไวน์หก อันนี้เราว่า น่าจะยอมให้เขาปรับนะคะ เพราะมันไม่ได้เอาไว้ใช้เช็ดทั่้วไปแบบนี้

แต่ถ้าเป็นผ้าเช็ดมือ เช็ดปาก แบบที่มีในเซ็ตอาหาร แล้วเปื้อน อันนี้เราว่า ถ้าเก็บค่าซักน่าจะเกินกว่าเหตุไป

ผ้าเลอะไวน์ซักออกยากกกกกกก มาก อาจถึงขั้นต้องซื้อผ้าใหม่กันเลยทีเดียว ผ้าปูีที่นอนเดี๋ยวนี้ก็ผืนละ เกือบพัน ยิ่งปลอกผ้านวม พันอัพ ส่วนผ้าขนหนูผืนเล็กๆจัตตุรัส น่าจะประมาณ 30 บาท สงสัยเค้ารวมค่าที่้ต้องไปซื้อใหม่มั๊ง

คุณ จขกท ไม่รู้เลยหรือว่าทุกโรงแรมเขาก็คิดค่าเสียหาย ซึ่งหากว่าเปื้อนไวน์หรือเลือดเขาก็จะต้องทิ้งผ้านั้นไปเลยนะครับ เพราะมันซักไม่ออก โดยเฉพาะเพื่อนญี่ปุ่นของคุณก็ต้องรู้มารยาทข้อนี้ดี นอกเสียจากว่ามาจากเกาหลีเหนือแต่หลอกคุณว่ามาจากญี่ปุ่น คุณไปนอนบังกะโลว์ตามเดิมน่ะดีแล้วครับ แล้วคุณมาโพสต์แบบนี้ทางโรงแรมเขาก็คงไม่ตามมาชี้แจง นั่นหมายความว่าคุณกำลังใช้วิชามารให้ร้ายกับเค้านะครับ ด้วยความไม่รู้จักกฎกติกามารยาทของคุณ

อ่วมเลยจขกท.  กระทู้นี้เป็นประโยชน์นะครับถ้าเราไม่ทิฐิเกินไป
ถ้าคุณบังเอิญทำแก้วไวน์ของเขาแตกจะต้องจ่ายมากกว่านี้อีกเยอะครับ
ผิดพลาดไปแล้วก็ต้องชดใช้อย่าไปโกรธเขาเลยครับ



ปล.เพื่อประโยชน์แก่ท่านที่บังเอิญทำไวน์แดงหกรดเสื้อผ้า
     ให้รีบนำไปแช่น้ำแล้วโรย"เบ้คกิ้งโซดา"ลงบนรอยเปื้อนสักสองช้อนโต๊ะ
แช่ค้างคืนไว้แล้ววันรุ่งขึ้นนำไปซักด้วยผงซักฟอกตามปรกติ คราบเปื้อนจะหมดไปครับ