สวัสดีค่า ทิ้งท้ายกระทู้มหากาพย์วูฟสาวปลาแห้งเอาไว้ ว่าจะพาไปปีนเขา นี่ก็จะสิ้นเดือนละ รีบกลับมารีวิวต่อ ก่อนที่เพื่อนๆ จะลืมความเดิมตอนที่แล้วไป
สืบเนื่องมาจากรีวิว wwoof ที่จบแบบกั๊กๆ อย่างที่บางคนบอกมา แหมบอกหมดก็ไม่สนุกน่ะสิ
ตอนนี้ก็เลยมาต่ออีกซักนิด น่าจะถือเป็นรีวิวสุดท้ายจริงๆ ของสาววูฟแล้วละค่า
หากใครเพิ่งเข้ามาอ่าน อาจจะสะดุดตรงคำว่า wwoof คืออะไร
ก็ตามไปอ่านลิงค์ที่ผ่านๆมาก็แล้วกันนะคะ เพราะการไปพิชิตภูเขาไฟฟูจิครั้งนี้มันมีที่มา หุหุ
ตอนที่ 1
๑ ^^ ๑ วูฟสาวปลาแห้งตะลุยแดนปลาดิบ ตอนที่ 1 wwoof ญี่ปุ่น 3 เดือน กับเงินจำนวน 30,032.93 บาท \^^/
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10229855/E10229855.html
ตอนที่ 2
๒๒^_^๒๒ วูฟสาวปลาแห้งตะลุยแดนปลาดิบ ตอนที่ 2 เมื่อ wwoofer สาวไทยไปเกี่ยวข้าวไกลถึงเจแปน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10293299/E10293299.html
ตอนที่ 3
วูฟสาวปลาแห้งตะลุยแดนปลาดิบ ตอนที่ 3 wwoof สบายๆ สไตล์ Gahaha House
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10414598/E10414598.html
ตอนที่ 4
๔๔^^๔๔ วูฟสาวปลาแห้งตะลุยแดนปลาดิบ ตอนที่ 4 wwoof ลั๊นลา @ Gahaha House ๔๔^^๔๔
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10437969/E10437969.html
ตอนที่ 5
๕๕^^๕๕ วูฟสาวปลาแห้งตะลุยแดนปลาดิบ ตอนที่ 5 พัก wwoof กันซักครู่ ชวนไปดูเมืองโคจิ ๕๕^^๕๕
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10580068/E10580068.html
ตอนที่ 6
๖๖^_^๖๖ วูฟสาวปลาแห้งตะลุยแดนปลาดิบ ตอนที่ 6 เมื่อ wwoofer สาวไทยได้ไปตำโมจิ ๖๖^_^๖๖
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10757671/E10757671.html
ตอนที่ 7
๗๗^_^๗๗ วูฟสาวปลาแห้งตะลุยแดนปลาดิบ ตอนที่ 7 Mt. Fuji Love~Destiny~ ๗๗^_^๗๗
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11010823/E11010823.html
ตอนพิเศษ ....ฟูจิที่รัก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10152290/E10152290.html
เปิดกระทู้ด้วยภาพฟูจิซังหน้าร้อนก็แล้วกันโน๊ะ หิมะละลายหมด เหลือยอดดำๆ อย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ (ถ่ายจากไร่พี่แครอท เมืองฟูจิโนะมิยะ)
ก่อนจะเข้าเรื่องการปีนเขา ก็ขอกล่าวถึงเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ทุกคนในห้องนี้คงคุ้นเคยกันดี อิอิ
เอ่ยชื่อไปหลายรอบแล้วในกระทู้ที่ผ่านมา สาวมังคุดนี่เอง นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเซียนผู้รอบรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น และมักจะหาอะไรแปลกๆ ที่แม้แต่เราเองก็ยังไม่เคยรู้มาบอกเล่าสู่กันฟังอยู่เสมอ
มังคุดเคยชวนเราเอาไว้ตั้งแต่ กค. ปีที่แล้ว ว่าปีหน้า (2011) ไปปีนฟูจิกัน พอโดนชวนขึ้นมา ต่อมเที่ยวเริ่มทำงาน อยากไปมากๆ
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำตามแผนได้หรือเปล่า ก็ติดขัดเรื่องเดิมๆ นั่นแหละ แหะๆจะหาตังค์แล้วเก็บทันรึเปล่า
จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนเมษา ก็มีเหตุให้พ่อมังคุดต้องเข้าออกโรงพยาบาลต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
ทำให้แพลนที่มังคุดวางไว้หลายๆอย่างล้มเลิก รวมทั้งปีนเขาฟูจิด้วย เพราะต้องคอยอยู่ดูแลพ่อ ถึงแม้เราไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนเคย
แต่ก็รู้ข่าวคราวจากเฟซบุ๊คมังคุดเกือบทุกวัน เราเข้าใจ ว่ามังคุดเหนื่อยและลำบากมากๆ โดยเฉพาะตอนที่ต้องพาพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาล
สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือเป็นกำลังใจให้พ่อมังคุดอาการดีขึ้นกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
รวมทั้งรักษาสุขภาพตัวเองด้วย แอบหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งเราจะได้ไปปีนฟูจิด้วยกันตามที่แพลนไว้ในลิงค์นี้นะ
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/07/E9468894/E9468894.html
สู้ๆ ^^V
ปอลิง. ถึงจะเคยบ่นไว้ตอนที่เพิ่งลงเขาสดๆร้อนๆว่า ไม่ปีนฟูจิอีกแล้ว เพราะอยู่ในโหมดเหนื่อยเกือบตาย แต่ตอนนี้หายเหนื่อยแล้ว ปีนอีกครั้งก็ยังไหวอยู่
มาเกาะกระทู้!!! ว้าวๆๆๆๆๆ โชคดีจัง!! ><
จากคุณ : ซารุ (saruseiyuu) คุณซารุ....ว้าว มาคนแรกเลย ดีใจมีเพื่อนร่วมทางคนนึงละ
...........................................................................................
ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น 1 ในสถานที่อันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องมีไว้ในโปรแกรม ก็คือภูเขาไฟฟูจิ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ฟูจิซัง
อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวเลย แม้แต่คนญี่ปุ่นจากทั่วทุกสารทิศ ก็นิยมมาเที่ยวดูความงามของภูเขาลูกนี้ไม่ขาดสาย
เราเองก็เคยใฝ่ฝันว่าซักวันหนึ่งอยากจะเห็นฟูจิซังใกล้ๆ ชัดๆ กับเขาบ้าง
จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปวูฟนี่แหละ ถึงได้ยลโฉมฟูจิซังอย่างสะใจ แต่ก็ยังไม่ถึงที่สุด
(กระทู้นี้ขอลงรูปฟูจิซังกับก้อนเมฆแปลกๆ มาให้เพื่อนๆได้ยลโฉมกันดีกว่าเนอะ ฟูจิซังแบบปกติดูจนชินละ)
เพราะอีกความฝันหนึ่งที่อยากทำก็คือ การพิชิตยอดฟูจิซังนั่นเอง
ฟูจิซัง เป็นภูเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ถึง 3,776 เมตร
อยู่ทางทิศตะวันตกของโตเกียว คลอบคลุมพื้นที่ในเขต 2 จังหวัด คือ จ. ชิซึโอกะ และ จ. ยามานาชิ
ได้ยินมาว่า วันที่อากาศแจ่มใส ไม่มีเมฆหรือหมอกบังซักก้อนว่างั้นเถอะ จากโตเกียวหรือโยโกฮาม่าก็มองเห็นฟูจิซังได้
แต่ถ้าเกิดมีเมฆหรือหมอกมาบดบังเธอล่ะก็ ถึงจะอยู่ใกล้แค่ไหนก็มองไม่เห็นเลย
สมกับคำร่ำลือที่ว่าฟูจิซังนั้นขี้อายเสียจริง
มีเพื่อนบอกว่าคนญี่ปุ่นบางคนที่อยู่ละแวกโตเกียวและโยโกฮาม่าถึงกับยอมทุ่มทุนจ่ายแพงกว่าเพื่อให้ได้ห้องที่สามารถมองเห็นยอดฟูจิซังกันเลยทีเดียว
v
v
v
ฟูจิซังรูปนี้ หลายคนลงความเห็นว่า เหมือนเครื่องทำขนมสำลีปุยฝ้าย ตามงานวัดเลย
ไปอ่านในวิกิ ฯ เค้าเขียนว่า ฟูจิซังเคยระเบิดล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 1707 และถูกจัดให้เป็นภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ
แต่ก็นะใช่ว่าจะไม่มีโอกาสจะปะทุขึ้นมาอีกซะเมื่อไหร่ เราจึงต้องรีบไปปีนก่อน ฮ่าๆ
แล้วปีหนึ่งๆ ก็ปีนได้แค่ 2 เดือนเท่านั้น คือ เดือน กรกฎาคม และเดือน สิงหาคมอาจจะยืดมาถึงต้นๆ กันยายนก็ยังพอไหว
ส่วนเดือนที่เหลือรึ อันตรายมากกกก เพราะหิมะตกคลุมปิดเส้นทางปีนเขา
ได้ข่าวว่ามีคนฝืนกฎ ไปปีนช่วงนอกเทศกาลแล้วไม่กลับลงมาก็มี
ขนาดคนที่ปีนช่วง 2 เดือนที่ว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว ก็ยังมีข่าวคนพลัดตกเขาให้ได้ยินกันบ่อยๆ -*-
ดีใจจังเลยค่ะ คุณ harumi มาแล้ว....
รอชมนะคะ
ป.ล. รอชมเรื่องราว รูปภาพ และรวมทั้ง romantic scenes ด้วยนะคะ... อิอิอิ
ขอบคุณมากนะคะ
สวัสดีค่า คุณ Miss_Behaving
วันนี้จะพาไปเหนื่อยกันละ ไม่รู้จะมีความโรแมนติกเหลืออยู่บ้างรึเปล่า เตรียมตัวให้พร้อมนะคะ
...........................................................................................................
หลังจากที่เรากลับจากวูฟญี่ปุ่น ก็ได้ติดต่อกับพี่แครอททาง skype เรื่อยมา
ไม่รู้ไปคุยกับพี่แครอทยังไงเหมือนกัน ถึงกล้าบินออกจากเกาะมาเที่ยวบ้านเกิดเราเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาต้นปี
หลังจากพาทัวร์จนสะบักสะบอม ด้วยตารางพาเที่ยวที่อัดไว้จนแน่นเอี๊ยด พี่แครอทถึงกับออกปากว่า คราวหน้าขอแบบเบาะๆ ชิวๆ นะ
คนที่ 3 คร้าบบบบ
มาแอบ เอ๊ยย มาตั้งใจรอฟังเฉลย 5555+
ไปด้วยคร๊าบ
ทุกกระทู้ของจขกท.เป็นกระทู้พาเที่ยวญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยมมากๆครับ
ต่อคิวขอไปด้วยยยย ^^
จากคุณ : pammapมาลงชื่อไว้ก่อนน่ะค่ะ
รอมานาน
เดี๋ยวคืนนี้มาอ่านต่อค่ะ
คุณ กาแฟปั่น ไม่ต้องแอบค่า อยากรู้อะไรถามๆมา ตอนนี้เฉลยแบบหมดเปลือกเลย
คุณ F_for_Fantastic...อู๊ยย ขอบคุณค่า ปลื้มหลายๆ งี้ค่อยมีแรงฮึดรีวิวขึ้นมาหน่อย
คุณ pammap....สวัสดีค่า กระทู้นี้เน้นใช้แรงงานค่ะ เพราะฉะนั้นฟิตร่างกายไว้ก่อนเลยนะ อิอิ
คุณ chocola_latte...ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ คาดว่า กว่าเราจะรีวิวเสร็จคงจะเลยไปยันเที่ยงคืน หรือไม่ก็พรุ่งนี้เช้าเป็นแน่แท้
..............................................................................................................
พาเที่ยวจนน่าจะหนำใจพี่แกละ ก็ส่งกลับไปเป็นชาวเกาะทำไร่ปลูกผักเหมือนเดิม
เพียงไม่กี่เดือน บอกเรา มาช่วยพี่หน่อยเถอะนะๆ
ค่าที่พักกับอาหารพี่ออกให้เหมือนตอนมาวูฟนั่นแหละ
แหมๆ ทำยังกะตั๋วไปญี่ปุ่นมันถูกมากเลยนะ
แหมๆ แต่ไหนๆมาทั้งที จะให้ช่วยทำงานอย่างเดียวเบื่อแย่ เลยถือโอกาสนี้พิสูจน์
ด้วยการชวนไปปีนฟูจิซัง เพราะเคยได้ยินมาว่า นิสัยที่แท้จริงมันจะเผยออกมาก็คราวที่ลำบากสุดๆ อย่างปีนเขานี่แหละ
เช่น คนที่เป็นแฟนกันเนี่ย กลับลงมาบางคู่ก็เลิกรากันไป หรือถ้าดีหน่อยกลับลงมาก็จะยิ่งรักกัน ว่างั้น
ปีนฟูจิซังครั้งนี้เป็นนัดชี้ชะตาเลยทีเดียวว่าจะออกหัวหรือออกก้อย
ตอนแรกพี่แกก็อ้ำๆ อึ้งๆ เพราะเคยมีประสบการณ์ปีนฟูจิซังสมัยที่ยังทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่
ความลำบากครั้งนั้นยังฝังอยู่ในสมองพี่แครอท
ฟูจิซัง ครั้งเดียวพอ ตรูไม่ขอปีนอีกเป็นครั้งที่สองหรอก แล้วก็บอกเราว่าขอคิดดูก่อน จะให้คำตอบวันหลัง
ปล. ฟูจิซังรูปนี้ เหมือนก้อนเมฆตั้งใจพุ่งชนภูเขาจริงๆค่ะ น่ากลัวอ่า
ก้อนเมฆประหลาดนี้ เกิดช่วงหลังแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นเพียงไม่กี่อาทิตย์ ผู้คนแถวนั้นแตกตื่นกันใหญ่ เกรงว่าจะมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นอีก
แต่ถ้าพี่แครอทไม่ตกลงคงไม่มีกระทู้ปีนฟูจิซังนี้น่ะสิ โฮะๆ ในที่สุดพี่แครอทก็ตอบตกลงว่าไปก็ไปด้วยกันจ้า
เตรียมตัวมาให้ดีละกัน เสื้อกันหนาว รองเท้า บลาๆๆๆ หลายต่อหลายสิ่งที่พรั่งพรูออกมาจากปากจนเราจำแทบไม่หมด
อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นสำหรับปีนเขาก็ตามนี้ค่ะ
1. เสื้อโค้ท ที่มีตัวนอกตัวใน เราใช้ของ The North Face คู่ชีพ ที่เคยใช้ปีนโคตาคีนาบาลูที่มาเลเซีย
2. เสื้อกันหนาวหนาๆอื่นๆอีก เพราะข้างบนหนาวขนาดติดลบเลยทีเดียว
3. เสื้อกันฝนและกางเกงกันฝน ควรแยกกันนะคะ เค้าไม่แนะนำให้เป็นเสื้อกันฝนแบบที่คลุมทั้งตัว เพราะเวลาโดนลมพัด เดี๋ยวจะกลายเป็นภาระ
อันนี้อเนกประสงค์ดี เพราะนอกจากกกันฝนแล้วยังสามารถใส่กันลม พัดต้องผิวกายได้อีกทางด้วย
4. กางเกงขายาว เค้าบอกว่าห้ามเป็นกางเกงยีนส์ เพราะเกิดเจอฝนมันจะไม่คล่องตัว ควรใช้กางเกงเบาๆที่กันหนาว, ลม และกันฝนได้ระดับหนึ่ง
5. ถุงเท้าหนาๆ
6. ถุงมือสำหรับปีนเขา หรือถ้าไม่มีก็เอาแบบไหมพรมธรรมดาก็ได้ แต่จะเอาไม่อยู่ เย็นมือมากๆ
7. รองเท้าปีนเขา เราใช้ยี่ห้อ HI-TEC ราคาไม่แพงเท่าไหร่ค่ะเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
8. ไฟฉายคาดหัว
9. กระเป๋าเป้ที่มีสายคาดเอวได้จะดีมาก เพราะจะช่วยรับน้ำหนักไม่ให้ไปตกที่ไหล่มากเกินไป
10. ที่คลุมกระเป๋า (Bag cover) หรือถุงพลาสติก กันน้ำฝน
11. ออกซิเจน ติดไปด้วยก็ดี ยิ่งสูงยิ่งหนาวและออกซิเจนยิ่งน้อย เหนื่อยง่ายมาก
12. น้ำดื่ม เอาขวดใหญ่ไปเลยค่ะ คนละขวดน่าจะพอไหว แต่สำหรับคนกินน้ำเยอะ เอาไปเผื่ออีกก็ดี
13. ช็อคโกแลต , ผงเกลือแร่ผสมน้ำ เพื่อเติมพลังงาน
14. ยาต่างๆที่จำเป็น พลาสเตอร์ปิดแผล ฯลฯ
15. ทิชชู่เปียก
16. เงิน พวกเหรียญร้อยเยน ติดตัวไปด้วย เพื่อเข้าห้องน้ำ ตามสถานีต่างๆ ครั้งละ 200 เยน แพงได้อีก -*-
17. หมวก
18. แว่นกันแดด ครีมกันแดด
19. กล้องถ่ายรูป
20. ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สำหรับเช็ดเหงื่อ
21. ชุดชั้นใน เผื่อกรณีฝนตกแล้วเปียก จะได้เปลี่ยนให้สบายตัว
ส่วนนี่ก็เป็นวีดีโอแนะนำการปีนเขาค่ะ มีทั้งเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและอังกฤษ ตลกๆ
English version
http://www.youtube.com/user/shizuokapref#p/c/2/kX3jHdEvqrs
Japanese version
http://www.youtube.com/user/shizuokapref#p/c/1/C-X7xqMQdZc
ตามไปเที่ยวด้วยอีกค่ะ
ลิลลี่...ขอบคุณค่า ที่มาให้กำลังใจทุกกระทู้
.................................................................................................................
เส้นทางปีนฟูจิซังมี 4 เส้นทางค่ะ
1. Yoshida trail Fuji-Subaru line (Kawaguchiko) 2,305m (7,560ft.) เส้นทางนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด ถ้าไปช่วงเทศกาล อาจจะไม่ได้ปีนด้วย คนเยอะม๊ากกก
2. Subashiri trail 1,980m (6,494ft.)
3. Gotemba trail 1,440m (4,723ft.)
4. Fujinomiya trail 2,400m (7,872ft.)
มีลิงค์คนที่เคยไปปีนทาง คาวากุจิโกะ
แนะนำโดยคุณ skybok ด้วยค่ะ อันนี้เลย รูปสวยๆ
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=2&topic_no=222372&topic_id=225301
เราเลือกปีนจากทาง Fujinomiya เพราะอยู่ใกล้บ้านพี่แครอท ขับรถไปเองได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เส้นนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มีแต่ชาวญี่ปุ่นที่ไปปีนค่ะ ไม่ค่อยเห็นต่างชาติ
ลิงค์ข้อมูลต่างๆ ในการไปปีนฟูจิซังจากเส้นทางนี้ โดยคุณ teddy bear in the box
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/06/E10638024/E10638024.html
เส้นทางนี้เราจะเห็นติ่งๆหนึ่งที่งอกออกมาเหมือนเม็ดสิว เรียกว่า Hoei san (โฮเอซัง)
อย่างที่คุณ teddy bear in the box บอกไว้ คือปีนจากสถานีที่ 5 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น
ไปที่สถานีที่ 6 ก็สามารถเดินต่อไปยังโฮเอซังได้ รู้สึกว่าจะสามารถเดินทะลุไปถึงเส้นทาง Gotemba ด้วย
เก่งจังเลยค่ะสาวน้อย
จากคุณ : ป้าแหม่ม (Pa~Mam@Andaman) เย้...เย้ วันนี้ดีใจจัง ได้ทันถ่ายทอดสด คิดถึง
มากมาย ยังนึกอยู่เลยว่า สงสัยต้องรอให้หน้าหนาวก่อน ถึงจะมารีวิว
ขอบคุณมากคะ ที่มารีวิวในวันนี้ ตั้งแต่เช้า มีแต่ข่าวน่ากลัวเรื่องน้ำท่วมบ้าน.... น้ำป่าทะลักท่วมเมือง ได้กระทู้(แววว่าจะ)หวาน มาสลับฉากหน่อย ค่อยหายเครียด
ยังไม่ได้ปีนซะที ฮ่าๆๆๆๆๆ
จากคุณ : MaNgKoOdทริปนี้ได้อานิสงส์จากโปรหางแดง จองตั๋วเดือน พค. บินปลายเดือน กค. ราคาไป-กลับ รวมทุกอย่างทั้งภาษี และน้ำหนักกระเป๋า 11,780 บาท
แถมไปลงฮาเนดะด้วย เดินทางเข้าโตเกียวประหยัดและสะดวกสุดๆ แต่เสียอย่างเดียว เครื่องลงดึกไปนิด รถไฟเกือบจะหมดแล้วด้วย
และแน่นอน การเดินทางจากโตเกียวไปฟูจิโนมิยะ เส้นทางที่ประหยัดสุดๆ คงจะหนีไม่พ้น นั่งรถไฟธรรมดา ที่ต้องต่อรถหลายรอบหน่อยแต่ราคาถูกใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
โดยใช้เส้นโทไกโด และมาเปลี่ยนรถที่อาตามิ นั่งยาวไปถึงสถานีฟูจิ ต่อด้วยสายมิโนบุ ก็ถึงฟูจิโนะมิยะแล้วค่า
และอีกทางเลือกหนึ่งใช้บริการรถบัส ที่เรียกว่า ชื่อก็ตามอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้เค้าละค่ะ
Yakisoba Express สามารถเข้าไปดูตารางการเดินรถได้ในเว็บไซต์นี้
http://bus.fujikyu.co.jp/highw/jikokuhyo/14.html
ราคาประมาณ 2,500 เยน รวดเดียวถึง โดยต้นทางอยู่ที่ สถานีรถไฟโตเกียว
ใครสะดวกขึ้นตรงไหน เค้ามีบอกไว้หมดค่ะ ส่วนใหญ่จะจอดตรงสถานีใหญ่ๆ เช่น โยโกฮาม่า เป็นต้น
พี่แครอทได้เอาถุงนำโชคอันที่เหมือนกันไปเมืองไทยด้วยไหมครับ อิอิ
จากคุณ : DEKCGN สวัสดีค่า ป้าแหม่ม...มัวแต่ลงข้อมูล แล้วเมื่อไหร่จะพาไปปีนเขาซะทีล่ะเนี่ย ฮ่าๆ
คุณ สิบล้อชอบเที่ยว...ที่บ้านตอนนี้ก็เกือบๆ ท่วมค่ะ เพราะอยู่ริมคลอง แต่เพราะฝนหยุดตกมาหลายวัน น้ำเลยลดลงไปบ้างแล้ว
ภาคนี้สงสัยความโรแมนซ์โดนกลบด้วยความลำบากหมดแหงๆ มังคุด...คราวหน้าถ้าเกิดไปปีนด้วยกัน ก็อยากเลือกเส้น Gotemba อ่ะ
คุณ DEKCGN....พี่แครอทไม่กล้าเอาติดมาด้วย กลัวหายว่างั้น ล่าสุดเห็นเอาขึ้นหิ้งบูชากันเลยทีเดียว
........................................................................................................
ส่วนการเดินทางมาปีนฟูจิ จากเส้นทาง ฟูจิโนะมิยะ จากโตเกียวก็อาศัยข้อมูลรถบัสจากเว็บนี้ได้ค่ะ
http://www.fuji-tozan.com/05_access.html เป็นเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น น่าจะมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะ ลองหาดู
หากใครไปช่วงเดือนสิงหาคมต้องดูวันดีๆ เพราะจะมีประมาณอาทิตย์หนึ่งที่เป็นเทศกาลหยุดยาวของชาวญี่ปุ่น เรียกว่าเทศกาลโอบ้ง
ราวๆวันที่ 13-15 สิงหาคมของทุกปี เชื่อกันว่าช่วงวันเวลาดังกล่าว วิญญาณบรรพบุรุษที่ตายไปแล้วจะกลับมาบ้าน
ผู้คนที่ออกจากบ้านไปทำงานในเมืองก็จะกลับมา และไหว้ผีบรรพบุรุษ รวมถึงจะมีเทศกาลรำวง
ซึ่งเรียกว่า โอบงมะซึริ คล้ายกับเทศกาลงานวัดที่จะจัดเวียนกันไปตามแต่ละเมือง
ดังนั้น เราจึงเลี่ยงไม่ไปปีนช่วงเทศกาล อย่างแรกที่กลัวคือ ไม่อยากเจอคนเยอะแบบที่เคยได้ยินมาว่าก่อนจะถึงยอดถึงขนาดต้องยืนรอต่อแถวเรียงหนึ่งขึ้นไปกันเลย
อีกข้อ ช่วงเทศกาลนั้นห้ามนำรถส่วนตัวขึ้นไปบนสถานีชั้นห้าด้วย ใครจะไปต้องนั่งรถโดยสารอย่างเดียว
จากที่คิดไว้ว่าจะไปปีนเขากันวันจันทร์ ก็ต้องเลื่อนมาเรื่อยเพราะดูพยากรณ์อากาศแล้ว ข้างบนฝนตก ทางลื่น หนาว อันตรายมาก
เป็นอันว่าตกลงไปปีนกันวันพุธที่ 10 สค.
วันนั้นพี่แครอทดั๊นไปรับปากเพื่อนว่าจะไปปิกนิกที่ริมแม่น้ำชิบะด้วยกันอีก
แทนที่จะพักผ่อนนอนเอาแรง -*- ดู๊ดู แย่งปลาวาฬเด็กๆมาขี่ซะงั้น
น่ารักดีครับ ปีหน้าไปอีกหรือเปล่าครับ ปีนี้ผมไปมาหลังจากสึนามิ กะว่าจะไปใกล้ชิดฟูจิอีกรอบปีหน้า
จากคุณ : DEKCGN คุณ DEKCGN ตอนนี้ไม่รู้อนาคตเลยค่า หลังจากปีนฟูจิ ก็ต้องกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บตังค์อีกแล้ว
.........................................................................................................
เดิมทีจะเริ่มปีนตั้งแต่ 3 ทุ่ม เพื่อไปให้ทันพระอาทิตย์ขึ้นตอนประมาณตีสี่ครึ่ง แต่เพราะเหตุผลด้านบน ไปเล่นน้ำ ปิ้งบาร์บีคิวกับเพื่อนจนเย็น
กว่าจะมาถึงบ้าน จัดกระเป๋า กว่าจะได้ออกเดินทางก็เกือบๆ 2 ทุ่ม เพราะเมื่อคืนพี่แครอทนอนไม่ค่อยหลับ แถมกลางวันยังจะไปเล่นน้ำอีก
ตอนเดินทางหน้าตาพี่แกดูไม่ได้เลย ทำหน้าเป็นตรู๊ดดไม่พูดไม่จา
มองแล้วควันเริ่มออกหู (ไม่ใช่คันหูนะ ฮ่าๆ)
ด้วยความโมโหเราเลยบอกไปว่า ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องปีนกับเราก็ได้ เราปีนคนเดียวเอง
แต่พี่แครอทไม่ยอม พร้อมกับพูด โกะเมงนาไซๆๆๆ ขอโทษเรายกใหญ่เค้าผิดเองที่ดันไปเล่นน้ำกับเพื่อนแทนที่จะอยู่บ้านนอนเอาแรง และยืนยันว่าจะไปด้วยให้ได้
ตอนนี้เราเป็นฝ่ายไม่พูดไม่จาบ้าง แต่ก็เริ่มใจเย็นลง
ตอนพี่แครอทขับรถขึ้นเขา หมอกลงจัดมาก มองไปข้างหน้าแทบไม่เห็นทาง ต้องค่อยๆ ไต่เขาขึ้นไปด้วยความเร็วบนหน้าปัดรถที่ไม่ถึง 40 กม./ชั่วโมง
เลยชวนคุย กลัวพี่แกเกร็งและเครียด เกิดขับพลาดตกเขาไปทำไง หนูยังไม่อยากตายตอนนี้นะ
ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งกว่า ในการฝ่าหมอกจนถึงสถานีที่ 5 ซึ่งเป็นจุดสตาร์ท หนาวได้อีกแฮะ เลยต้องควักเสื้อโค้ทตัวนอกที่กันลมมาสวมทับ
ขึ้นมาชั้นนี้มองลงไปเห็นเมฆอยู่ข้างล่างแล้วอ่ะ แสดงว่าหมอกที่รถเราฝ่ามาน่าจะเป็นพวกก้อนเมฆข้างล่างนั้นแน่ๆ
ไหนวันก่อนบอกว่า.... ไม่ไปอีกแล้ว? ยังจะมีอีกเหรอ?
จากคุณ : MaNgKoOdเดี๋ยวตามดูอีกรอบครับ สวยและน่าสนใจมากฟูจิ ขอบคุณครับ
จากคุณ : DEKCGN มังคุด บอกแล้วไงว่า ช่วงที่กลับมามันยังไม่ลืมความลำบาก และทรมาน แต่ตอนนี้เริ่มลืม ไปอีกได้ (ขอปีนตอนกลางวัน พักค้างคืนระหว่างทาง แล้วค่อยตื่นมาปีนต่อดีกว่า) ไม่ปีนมาราธอนแบบคราวนี้ละ
....................................................................................................
ตรงนี้มีอาคารที่สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักปีนเขาหรือนักท่องเที่ยวทั้งหลาย
ในนั้นก็มี ห้องน้ำ ตู้ขายน้ำหยอดเหรียญอัตโนมัติ ที่ดูราคาแล้วปกติทั่วไปเหมือนด้านล่าง
ร้านของอาหาร ขายของฝาก อุปกรณ์ที่จำเป็นในการปีนเขา เช่น ไม้เท้า ถุงมือ กระป๋องออกซิเจน หมวก แว่น ฯลฯ
หลังจากทำธุระ เข้าห้องน้ำอะไรเป็นที่เรียบร้อย ประมาณ 4 ทุ่ม ครึ่ง ก็ได้เวลาเดินทาง ช้ากว่าที่แพลนไว้ ตั้งชั่วโมงกว่าๆ
ก่อนขึ้นเขา จะมีคุณลุงคอยบอกข้อมูลของเวลาพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อปีนถึงยอดเขา ได้ความประมาณนี้
พระอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้าเวลาประมาณ ตี 4:50 น.
พร้อมกับเตือนพวกเราว่า ลมค่อนข้างแรง และอากาศหนาวมาก รักษาตัวกันด้วยนะ
กว่าจะได้ปีน พรรณนาอะไรเยอะแยะก็ไม่รู้เนอะ
เย่ \^^/ พร้อมแล้วค่า ไปกันเล๊ยยย
ปล. รูปกลางคืนไม่ได้ถ่ายไว้เพราะมันเบลอมาก เอารูปที่ถ่ายขาลงมาประกอบการบรรยายก็แล้วกันนะ
งั้น.... ฉันต้องฟิตร่างกายแล้วสินะ? หึหึหึ
จากคุณ : MaNgKoOd คุณ DEKCGN ....ขอบคุณเช่นกันค่า ที่ติดตามกระทู้เวิ่นเว้อของเรา
..............................................................................................................
เราสองคนใช้เวลาไม่นานก็ถึงสถานีที่ 6 โดยไม่ได้แวะพัก
เนื่องจากคนนั่งพักเยอะ ตอนนี้เริ่มถอดเสื้อโค้ทออก เพราะเริ่มร้อน และเดินต่อไปเรื่อยๆ
ค่าเข้าห้องน้ำจะเริ่มเก็บคนละ 200 เยน หรือประมาณ 80 บาท ตั้งแต่สถานีนี้ค่ะ แพงอ่า
มาติดขอบรอชมรีวิวด้วยคนครับ
มังคุด ใช่แล้ว เธอจะได้ผอมซะทีละทริปนี้
คุณ Destiny-Boy....ตามมาเลยค่า กะลังคลำทางปีนเขากันอยู่
.....................................................................................................................
พอถอดเสื้อโค้ทออก อย่างที่เค้าว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว
ลมเริ่มพัดเอาความหนาวมาปะทะร่างกายเป็นระยะๆ แถมทางขึ้นก็เริ่มลำบาก
ชักจะไม่ค่อยมีทางลาดแล้ว มีแต่ขึ้นอย่างเดียว มิหนำซ้ำดินภูเขาไฟนี่ลื่นชะมัด
ด้วยความงก ไม่ซื้อไม้เท้า ก็เลยอาศัยเชือกคอยพยุงสังขารขึ้นไป
พอไปถึงสถานีที่ 7 คราวนี้ต้องหาที่นั่งพักกินน้ำ แล้วก็เข้าห้องน้ำ
ค่าเข้าห้องน้ำ 200 เยน !!! จากที่หนาวๆ แอบมีเหงื่อตกบ้างเล็กน้อย
ไม่ได้อ่านไปหลายตอน ขอมาติดตามไปพลางอ่านตอนเก่าๆไปพลางนะคะ
เมื่อกี๊พึ่งไปวี้ดวิ้วอ่านตอนฟูจิและคุณแครอทจบ^^
รูปสวยมากครับ
จากคุณ : tonhokฟูจิซังสวยจัง ชอบทุกรูปเลยค่ะ ^^
จากคุณ : หนูกิตหอ 4 ชาย ...คุณ yuki_shimi ...ขอโทษด้วยค่า ที่ไม่ได้ไปตามเหมือนเคย เกรงใจอ่ะ
....คุณ tonhok...ขอบคุณค่ะ รูปฟูจิได้มาจากพี่แครอทอีกทีค่ะ ชอบดูฟูจิกับก้อนเมฆประหลาด แปลกดี
คุณ หนูกิตหอ 4 ชาย...ต้องยกความดีความชอบให้พี่แครอทเค้าละค่ะ ที่ส่งรูปมาให้
.....................................................................................................................
ห้องน้ำตามสถานีต่างๆ ระหว่างปีนฟูจิซัง จะเหมือนห้องน้ำบนเครื่องบินเลย บนเขานี่เนอะ ต้องประหยัดน้ำ
ทำธุระเสร็จก็กดปุ่ม ทุกสิ่งอย่างก็จะถูกดูดเข้าไป ถือว่าสะอาดพอสมควร
นั่งอ่านไปยิ้มไปทุกรีวิวเลยค่าา
จากคุณ : เก๊กฮวยเย็นตามไปปีนเขาด้วยจ้่า
ปล แอบลุ้นพี่แครอท ^__^
คุณเก็กฮวยเย็น....ขอบคุณค่า ดีใจจริงๆที่รีวิวที่ผ่านมาทำให้มีความสุข
บีวี่....ตามให้ทันน๊า เค้าปีนมาถึงสถานีที่ 7 แล้วววว
........................................................................................................................
พอปีนไปเรื่อยๆ ทางชันถึงกับต้องแหงนมองทางข้างหน้าแบบคอตั้งบ่ากันเลยทีเดียว
ลมก็พัดแรง เอาอากาศเย็นๆมาปะทะ เลยต้องควักเอาเสื้อโค้ทมาใส่อีกรอบ
ถึงตอนนี้เริ่มกินน้ำ และหยุดพักบ่อยขึ้น เนื่องจากออกซิเจนเบาบางเหลือเกิน
เวลาก็ล่วงเลยไปประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆ แล้วค่ะ เราเดินผ่านสถานีที่ 7
ซึ่งจะแบ่งย่อยออกเป็น 7 ใหม่ กับ 7 เก่า อีกแน่ะ -*-!
เราเริ่มเดินช้าลงแล้วค่ะ เหนื่อยมากกกกกกก ถึงมากกกกที่สุด
แต่พี่แครอท ที่ตอนแรกเห็นเหมือนจะปีนไม่ไหว กลับดูกระปรี้กระเปร่า เดินอย่างไม่สะทกสะท้าน
พลางถามเป็นระยะๆว่าไหวมั้ย ไม่ไหวก็บอกนะ
ก็เลยหยุดพักริมทางก่อน ควานหาช็อคโกแลต ใส่ปากเพิ่มพลังงานหน่อย กินน้ำตาม พละกำลังก็เริ่มกลับมา
เสื้อผ้ากันหนาว และเสื้อกันฝน ถูกควักจากกระเป๋าออกมาห่อตัวหมดทุกชิ้น
น้ำที่พกไปก็จะหมดขวดแล้ว เนื่องจากเราพักบ่อยมาก ประมาณว่าเดินไปได้ไม่กี่สิบก้าวก็พักว่างั้นเถอะ
แต่ยังดีเหลือน้ำขวดใหญ่อีกขวดในกระเป๋าพี่แครอท ระหว่างที่เดินขึ้นจากสถานีที่ 7 เพื่อไปยังสถานีที่ 8 ตอนนั้นเริ่มสลึมสลือ
แถมทางก็ลื่น มันไม่ได้ลื่นเพราะฝนตก ลื่นเพราะดินหรือหินภูเขาไฟก้อนเล็กๆเนี่ยแหละ ตั้งแต่ปีนเขามาที่คีนาบาลูนี่เราว่าโหดแล้วนะ
แต่ฟูจิซังโหดกว่าอีก
พี่แครอท เห็นเราอาการไม่ค่อยดี จะเอากระเป๋าสัมภารกของเราไปสะพายให้
แต่เรายังไหว ไม่เป็นไร แบกได้ (แน่ะ ทำเป็นเก่ง) ฮ่าๆ
ตามมาชมค่ะ
จากคุณ : อรยาเจ้าสำราญ (heyoki)มองลงไปข้างล่างก็นะ สูงชะมัดเลย บางเส้นทางนี่ชันเอามากๆ
เกิดพลัดตกลงไปก็คงไม่เหลือค่ะ ปีนเขาไปก็คิดไปว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของเรา
สถานีนี้มีที่นั่งยื่นออกไปตรงหน้าผา ให้สัมผัสกับก้อนเมฆและลมโดยตรง
เราไม่กล้าไปนั่งเลย แค่ชะโงกหน้าไปมองก็ขาสั่นแล้ว
สวัสดีค่า คุณ อรยาเจ้าสำราญ (heyoki)...ตามขึ้นเขามาเลย เกือบถึงปลายทางละ
...........................................................................................................
เดินขึ้นเขาแบบเบลอๆ ก็มาถึงสถานี......... ไหน?? จำไม่ได้แล้ว แต่ก็ปาเข้าไปเกือบตี 4 แล้ว
เหลืออีกแค่ 50 นาที พระอาทิตย์จะขึ้น !!!
เราพยายามรวบรวมกำลังที่เหลือปีนขึ้นไปต่อ แต่มันไม่ไหวแล้วค่ะ ปีนมาได้ครึ่งทาง
ไฟฉายคาดหัวดันติดๆดับๆ แล้วก็เป็นเหมือนกันทั้ง 2 คน
เลยต้องอาศัยคลำทางไปกับคนข้างหน้า
แต่เพราะพระอาทิตย์เริ่มขึ้นพ้นขอบฟ้า ก็เลยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉายแล้ว
ตอนนั้นไม่คิดที่จะต้องขึ้นไปดูพระอาทิตย์แรกของวันละ แค่ลากสังขารขึ้นไปถึงยอดเป็นพอ
สวัสดีค่ะ...คุณharumi
ดีใจจังวันนี้มาทันถ่ายทอดสดด้วย...รออยู่คุณharumi อยู่ว่าวันไหนน้า จะพาไปปีนฟูจิซังซะที...
แล้วพวกเราก็อาศัยคลำทางตามคนอื่นมาถึงชั้น 9 จนได้
จากคุณ : harumi คุณดอกโสนบานเช้า...ฮ่าๆ พอดีทำรูปเสร็จก็เลยมารีวิวเรื่อยๆค่ะ กว่าจะจบคงเลยเที่ยงคืนแหงๆ
.................................................................................................................
ตลอดระยะทางขึ้นจากชั้น 9 ไปถึงยอดฟูจิซัง พี่แครอทเป็นคนลากเราขึ้นไปค่ะ ซึ้งมากๆ
ได้แต่คิดว่า ดีนะที่พี่เค้ายืนยันจะมากับเราด้วย ไม่งั้นถ้าปีนคนเดียวอาจไม่รอด ตกเขาไปแล้ว
(ตอนแรกทำเป็นเก่งนะ)
ปาดมาแปะชื่อไว้ก่อนนะคะ ^^
จากคุณ : salamanka คุณ salamanka...อิอิ กระทู้นี้มาทันปีนเขาด้วย
............................................................................................................................
ตอนที่ปีน เรามองเห็นยอดเขาอยู่ใกล้ๆ แล้วละ แ่ต่พอก้าวขึ้นนี่สิ ขามันหนักซะเหลือเกิน
ระหว่างที่นั่งพัก ได้แต่มองคนอื่นปีนเขาผ่านขึ้นไปตาปริบๆ
ฮือๆ เค้าปีนขึ้นไปไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นอ่า
แม้แต่แรงที่จะควักกล้องถ่ายรูปออกมาก็ยังไม่มี
เลยพูดกับพี่แครอทไปว่า ช่วยถ่ายรูปแสงอาทิตย์ให้หน่อย จะเอาไปรีวิว
ในที่สุด!!! เราก็ได้พิชิตยอดเขาฟูจิซะที
ตอนนั้นน้ำตาไหลเลย ทั้งซึ้งน้ำใจพี่แครอท และดีใจที่รอดมาได้ถึงบนนี้
แล้วก็เพิ่งรู้ทีหลังว่าพี่แครอทก็อาการเหมือนเรา แต่ทำกลบเกลื่อนไม่ให้เห็น
สมัยหนุ่มๆ....เคยเดินขึ้นเขาแห่งหนึ่งที่ ชม. ....
ระหว่างเดินขึ้น ก็ได้แต่บ่นกะตัวเองในใจ....
ตรูมาทรมานตัวเองทำไมฟระเนี่ย....
แต่พอขึ้นถึงยอดแล้ว....โอ้โห....คุ้มมาก หายเหนื่อยเลย....
ผมว่าน่าจะอารมณ์ใกล้ๆกันนะ....
คุณ LVP@HEART ....ใช่แล้วค่ะ อารมณ์นั้นเลย ฮ่าๆ
......................................................................................................................
ตอนนี้ไม่สนใจใครละ มองหาที่นั่ง เพื่อกินขนมปัง ซึ่งพี่แครอทแบกใส่เป้เอามาเผื่อเราด้วย
แอบเห็นคนอื่นเอาแก๊สกระป๋องมาตั้งพร้อมเตา ต้มน้ำร้อนใส่คัพราเมน
หนาวๆ แบบนี้ อยากกินร้อนๆบ้างจัง งี๊ดๆ
กินขนมปังอิ่มแล้ว ตอนนั้นประมาณ 6 โมงเช้า นิดๆ แรงจะเดินแทบไม่มี
ง่วงก็ง่วง เพราะปีนทั้งคืน ไม่ได้นอนพักผ่อนเลย
เจอทำเล เป็นผนังข้างๆ เพิงร้านขายกาแฟมีแดดส่อง พอให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
ก็เลยนั่งเอาหลังพิงแล้วก็ผล็อยหลับไปทันที
ตื่นมาอีกที เกือบ ๆ 8 โมงเช้า คนเริ่มซาลงบ้างนิดหน่อย
ในรูป หลายๆคน ก็คงประมาณพวกเราค่ะ ปีนเขามาทั้งคืน ถึงยอดแล้วก็หาที่นั่งรับแสงแล้วหลับไปทั้งอย่างงั้นแหละ
นอนพักเอาแรงกันพอหอมปากหอมคอ ก็เดินสำรวจ
ปากปล่องภูเขาไฟนี่ก็นะ กว้างอย่างเดียวไม่พอ มีเนินให้ขึ้นอีกแล้วววววว
เริ่มจินตนาการออกแล้วค่ะว่า รูปฟูจิซังที่เค้าวาดในการ์ตูนที่เป็นหยักๆๆๆนั่นน่ะ ก็คือไอ้เนินพวกนี้นี่เอง
เป็นอันว่า ทริปเดินสำรวจรอบๆปากปล่องภูเขาไฟล้มเลิก ฮ่าๆ
มองลงไป ได้ยินเสียงลมพัดหวีดหวิว มีหิมะที่ยังละลายไม่หมดกองอยู่หน่อยนึง
ตรงนี้รู้สึกจะเคยใช้เป็นหอพยากรณ์อากาศบนฟูจิ
จากคุณ : harumiกรี๊ดๆ แค่อ่านก็หมดแรงแทนแล้ว ไปเองคงพี่วิ่งลงตั้งแต่ยังไม่ถึงชั้น 6 ^^"
ระหว่างเดินบนเขาแสงมีแสงสว่างราวกับกลางวันเลยนะคะ
ทริปพิสูจน์ใจชายหนุ่ม คุณแครอทได้ใจไปอีกเยอะเลยใช่มั๊ยคะ ^^ เท่าที่ติดตามมาคุณแครอทใจดีมาก น่ารักจัง
เมื่อเดินสำรวจจนไปแทบไม่ไหว ประมาณ 9 โมงเช้า
เราก็เดินลง ตอนแรกกะว่าจะเดินลงโดยใ้ช้เส้นทาง Gotemba แต่เห็นว่าต้องอ้อมลัดเขา Hoei san มา
ก็เลยกลับทางเดิมดีกว่า
รีวิวมาราธอนจริง ๆ เลยค่ะ ^^ มารอดูผลว่าพิสูจน์ใจหลังจากปีนฟูจิแล้วเป็นไงบ้าง
เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้เก่งมากเลยนะคะ สุดท้ายก็ขึ้นไปถึงข้างบนได้ เห็นพื้นผิวขรุขระ กับหินสีดำ ๆ บนฟูจิแล้ว ชอบมองแบบอยู่ไกล ๆ จะสวยกว่าค่ะ
คุณ ลอร่า อิงกัลส์ ~*....บนนั้น ประมาณ ตีห้าก็สว่างจ้าแล้วค่า ยิ่งประมาณ 8 โมง ยังกะกลางวันเลย แต่ก็ไม่ทำให้อุณหภูมิข้างบนมันอุ่นขึ้นเล๊ยย หนาวได้อีก ตอนนั้นซึ้งใจพี่แครอทจริงๆค่ะ ที่ไม่ทิ้งกัน
เจ้าหญิงถั่วเขียว...ทริปนี้พี่แครอทผ่านค่ะ ฮ่าๆ ได้ใจไปเต็มๆ ฟูจิซังเห็นสวยๆอย่างงี้ จริงๆแล้วเธอช่างโหดร้ายเหลือเกิน
............................................................................................................................
จะเดินลงแล้วน๊าาา แดดเริ่มแรงแล้วละ แต่ด้วยความขี้เกียจควักครีมกันแดดขึ้นมาทา
ทำให้กลับมา ใครๆก็ทักว่า ไปทำอะไรมา ถึงตัวดำหน้าดำแบบนี้ ฮ่าๆๆ
ภูมิใจแทนเลยค่ะ เก่งจริงๆ.....
คุณ แครอท ก็ถ่ายรูปสวยมากเลยนะคะ
หลังจากรีวิวปีนฟูจิจบแล้ว อยากให้มีภาค Mr. Carrot in Thailand ด้วยจังเลยค่ะ....
(อืมมม... มาพอดีช่วง Valentine's ด้วยหรือปล่าวน้าาา....)
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ สำหรับรีวิวชุดวูฟและฟูจิ
คุณ Miss_Behaving....โอ๊ยยย ทายถูกอีกแล้วววว ฮ่าๆ มาช่วงวันวาเลนไทน์หลังจากเราปล่อยรีวิววูฟสาวปลาแห้งตอนที่ 1 ไปไม่กี่วันนั่นแหละค่า
..........................................................................................................................
ขาลงนี่ ไม่เท่าไหร่ มองลงไปแล้วเสียวเหมือนกันนะเนี่ย แต่ถ้าเทียบกับขาขึ้น ช่างต่างกันมากมาย
วิวสวย เห็นแล้วก็หายเหนื่อยบ้าง แต่ไม่ได้หายขาดเป็นปลิดทิ้งซะทีเดียว อิอิ
จากคุณ : harumiสีขาวๆที่เห็น เป็นหิมะที่ยังละลายไม่หมด
สะท้อนแสงเข้าตาซะ
เอารูปยอดเขา Hoei san มาฝากคุณ Teddy bear in the box ด้วยค่า
จากคุณ : harumiระหว่างที่เดินลงก็มีคนเดินสวนขึ้นมาเป็นระยะๆ
ไม่ว่าจะเป็น เด็กๆที่มาปีนเขากับครอบครัว หรือคุณลุงคุณป้า คนญี่ปุ่นเค้าฟิตกันจริงๆ
เจอเสาสองต้น มีเหรียญเสียบอยู่ทั่วทั้งตั้นเลยค่ะ
ไม่รู้เสียบไว้เพื่ออะไร
ตามบ้านพักของสถานีต่างๆแ่ต่ละชั้น จะมีหินวางทับอยู่บนหลังคา
คาดว่าน่าจะกันลมพัดหลังคาปลิว
โอ้้ว... หากวันนั้นมาถึง แล้วคุณ harumi & คุณ carrot
จะมาดื่มน้ำผึ้งหรืออะไร แถวๆ Switzerland
และก็หากมีอะไรที่พอจะช่วยเหลือได้ เชิญบอกเลยนะคะ
จะยินดีมากเลยค่ะ..... :-)
สวยยอดมากเลย ภาพสวยมากตามมาดูอยากไปบ้างจัง ปั้มตังก่อน อิอิ
จากคุณ : easytest คุณ Miss_Behaving....ฮ่าๆ ขอบคุณมากค่ะ อยากไปๆๆๆ
คุณ easytest ....ปั๊มตังค์เหนื่อยหน่อยนะคะ ช่วงนี้เยนแข็งโป๊ก
......................................................................................................................
ในที่สุด เราสองคนก็ปีนลงมาถึงสถานีชั้น 5 เวลา เที่ยงตรง
แวะกินข้าว เข้าห้องน้ำ แล้วก็ไปแวะแช่ออนเซ็น เพื่อคลายความเมื่อยล้า
อันนี้แนะนำสำหรับเพื่อนๆที่จะไปปีนฟูจินะคะ หลังจากกลับลงมา ให้หาออนเซ็นแช่ตัวค่ะ
ปกติทริปปีนเขาก่อนๆ หลังจากกลับมาเราจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะต้นขา แล้วก็น่อง กว่าจะหายก็ประมาณอาทิตย์นึง
แต่คราวนี้ อาการพวกนั้นไม่เกิดขึ้นกับเราเลยค่ะ ดีจริงๆ เลยเอามาบอกต่อ
ทริปนี้คุ้มมาก เพราะนอกจากได้พิชิตฟูจิซังแล้ว ยังได้พิสูจน์ใจของใครบางคนด้วย อิอิ
ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถรีวิว กระทู้ภาคต่อได้ยาวมาถึงขนาดนี้เลย
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่มาให้กำลังใจ และติดตามมาจนถึงภาคสุดท้ายนะคะ
และขอบคุณ โฮส ฟุคุชิม่า , โฮส กาฮาฮาเฮาส์ ที่คาราซึ, ครอบครัวโยชิมิ, คะซึโกะซัง, และพี่แครอท ด้วยที่ทำให้เราได้รับประสบการณ์ดีๆ ในการวูฟครั้งนี้
โดยเฉพาะโยชิมิและคะซึโกะซัง ที่ทำให้เราได้ค้นพบว่า ความพิการทางร่างกายไม่ใช่อุปสรรคในการดำเนินชีวิตของคนเราเลย ทุกอย่างอยู่ที่ใจอย่างเดียวเ่่ท่านั้น
และตั้งปณิธานไว้ว่า ถ้ามีโอกาส เราจะกลับไปเยี่ยมทุกบ้านอีกแน่ๆ
ขอปิดท้ายกระทู้ด้วยเพลงนี้ เข้ากันกะกระทู้บ้างมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ ดึกแล้วเริ่มเบลอ
แจ่มมากครับ....
จากคุณ : เลขไทยเวลาพิสูจน์อะไรได้จริงๆครับ เป็นแรงเชียร์ด้วยครับ อิอิ ขอชมนะครับว่าเล่าเรื่องได้สนุกและน่าติดตามมากครับ หลังจากรีวิวเกี่ยวกับวู๊ฟจบยังเสียดายอยู่เลยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
จากคุณ : DEKCGNขอปรบมือให้ค่ะ... ขอบคุณมากๆอีกครั้งนะคะ
จากคุณ : Miss_Behaving
แวะมาชมครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
ว้าว ยิ่งสูง ยิ่งหวาน ^_^
เก่งมากๆเลยอ่ะ เราอ่านแล้วก็ลุ้นตามไปด้วย แหะๆ
อืมมมมมม....เคยได้ยินตั้งแต่เด็ก..ที่ว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
อันนี้ version 2011 - ระยะทางพิสูจน์คน แต่กาลเวลาจะพิสูจน์หัวใจ
ไว้พบกันใหม่ เมื่อหัวใจจะเริ่มเดินทาง .... แล้วสิบล้อจะคอยรอชมนะ โชคดีนะจ๊ะ
ตามกลับไปอ่าน ตอนที่ไป wwoof
ตอนสุดท้ายถึงกับจิกหมอนกันเลยทีเดียว อิอิ
แถมเดทแรก ยังไปเดทที่ป่าภูเขาฟูจิซะด้วย เด็ดมากก
แวะมาอ่านต่อรอบดึก ฮิ้วววววววว ความจิงเปิดเผย แฮ่ๆๆ
ส่วนตัว เคยไปปีนเขาโซรักซานที่เกาหลี ใช้เวลาปีนไป 4 ชั่้วโมง จนถึงยอด เหนื่อยมาก ทั้งหนาว ทั้งชื้น ฝนก็ตก ใจจะขาดรอนๆ แต่ต้องอดทน เพราะปีนแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด แต่ให้ไปปีนอีกคงไม่เอาแล้ว แต่พอดูฟูจิซังแล้วที่เกาหลีเบาะๆไปเลย ไม่ต้องสืบแน่นอนว่าจะขึ้นไหม เพราะคำตอบชัดเจนอยู่แล้ว ขอดูฟูจิซังขี้อายจากมุมไกลดีกว่านะ แบบว่า ไม่ทรหดเท่าคุณฮารุและหนุ่มแครอท
มาอ่านตอนจบ.....วู้วๆๆๆ ^^ ชอบๆๆๆ
"ทริปนี้คุ้มมาก เพราะนอกจากได้พิชิตฟูจิซังแล้ว ยังได้พิสูจน์ใจของใครบางคนด้วย อิอิ"
เนอะค้าาาา ^^ .... ที่จริงปีนี้เราก็วางแผนจะไปปีนฟูจิเหมือนกัน..แต่คุณชายผู้ติดตามงอแงไม่ยอมไป....
อย่างเซ็งงงงงงง อ่ะค่ะ =*= แผนเลยต้องพับไปตามระเบียบแล้วพาลไม่ได้ไปญี่ปุ่นอีกตะหาก...ชิชิชิ....
ไอ้ครั้นจะไปปีนคนเดียวก็คงได้เลิกก่อนปีนแน่ๆ 55555
สวยมากเลยครับ ขอบคุณมากมายจ้าที่นำภาพมาให้ชมกัน
พอดีย้อนไปอ่านกระทู้แรกมา อยากทราบว่าทำยังไงวีซ่าถึงผ่านอ่ะครับ ได้ตั้ง 3 เดือนด้วย เห็นบอกว่า เหตุผลที่จะไป wwoof เค้าไม่ให้ผ่าน
จากคุณ : Jose Pasillas llขอบคุณสำหรับภาพ เขา ฟูจิ ที่นำมาฝากนะครับ
สวยมากเลยข้างบน
มาแอบปีนเขาด้วยนะ แอบอิจฉานะเนี่ยะ ...
แหม น่ารักจังเลยครับ ขอบคุณหนูฮารุมากครับที่พาไปเที่ยว
จากคุณ : เล็กทาโร่ระยะทางพิสูจน์คนค่ะ...เปรียบไป ก็เหมือนการปีนขึ้นภูกระดึงบ้านเราเลยเนอะ เพราะความลำบากในการปีนขึ้นมันพิสูจน์ใจคนว่า เมื่อลำบากด้วยกันแล้วจะเป็นอย่างไร ดูแลกันมั๊ย? หรือว่าเอาตัวรอดอยู่คนเดียว...
ส่วนเรานั้นคงจะมองฟูจิซังผ่านรูปภาพไปก่อน หรือถ้ามีโอกาสไป ก็คงจะเห็นแบบไกลๆ เพราะกลัวความสูงมากๆ ถึงปีนขึ้นไปได้ ตอนลงมาก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นลมกลิ้งลงมาแทน...
คุณ harumi เก่งมากๆเลย...ที่ขึ้นไปถึงยอดฟูจิซังได้ มีทั้งแรงกายและใจพร้อมหรือป่าว?555+
รอชมรีวิวครั้งต่อไปอยู่นะคะ...ให้กำลังใจ คุณharumi สู้ๆๆๆ(ปั๊มเงิน) จะได้ไปแล้วกลับมารีวิวให้เราชมอีก
ขอบคุณค่ะ...สำหรับรีวิว อ่านแล้วมีความสุขทุกครั้งเลยค่ะ...
ไม่ตามเราเลย..... ดีนะเราหาเจอเอง
ขอบคุณนะคะที่นำข้อมูลดีๆและภาพสวยๆมาฝาก
ฮารุมิจัง เป็นจริงดังคาดไว้
ว่าต้องจบ แบบ Happy Ending... ดีใจด้วยจ้า อิอิ
เก่งมากจ้าที่พิชิตได้สำเร็จ
อยากลองไปปีน ฟูจิงซังบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตลงมาหรือเปล่า อิอิ
สวยงามน่าลองซักครั้งหนึ่งในชีวิตของ Japan Fan Club เนาะ
จบได้สวยงามกับวูฟเรื่องยาวที่มีความสนุกและแง่คิดดีๆ จ้า ฮารุจัง
จากคุณ : hollaneungอยากไปวูฟมั่งแล้วสิคะ เผื่อได้อย่างพี่แครอทติดมือกลับมาสักคน โรแมนติกจังเลย เค้าเรียก บุพเพสันนิวาสเนอะ ^^
จากคุณ : @}-- เยอบีร่า --ไม่ทราบว่าขึ้นฟูจิซัง เดือนไหนคะ
สิงหา หรือ กันยา คะ ดูสภาพแล้วก็ไม่หนาวเท่าไหร่
ทีแรกเรา ก็กะว่าจะขึ้น เดือนที่แล้วเหมือนกัน เพราะไปหน้าอื่นแข็งตายแน่ๆ
ปรากฏ หาเวลาว่างไม่ได้ซักวันเลย งานเยอะมากๆ เป็นปิดเทอมหน้าร้อนที่ทำงานเยอะกว่าเปิดเทอมอีก T-T
กะจะไปวูฟฟ บ้างนี่ก็ฝันไปได้เลย
ร่วมด้วยช่วยยืนยันค่ะว่า หน้าร้อน ญี่ปุ่น ตีสามตีสี่ก็สว่างโร่แล้วค่ะ
ไม่เพียงแต่บนเขา ในเมืองก็เหมือนกัน
แผดแสงรุนแรงทะลุผ้าม่านกันเลย
เวลานอนบางวันต้องใส่ผ้าปิดตายังกะนอนบนรถทัวร์มาก
จะเปลี่ยนม่านใหม่ก็ไม่มีตัง เซ็งมากมาย
มาตามดูทริปหวานๆต่อครับ อ่านแล้วมีความสุขจัง
ฟูจิซังสวยงามมากๆเลย หลายๆภาพอย่างเสียวเลยอ่า
สุดยอดมากๆได้ขึ้นไปถึงยอด นับถือๆ
คุณ เลขไทย ....ขอบคุณค่าที่แวะเข้ามาชมรีวิว
ฮิ้ว ตามมาแล้วๆ
แอบรอดูรูปคู่อีก อิอิ
เราจะเลียนแบบคุณ harumi ไปหาประสบการณ์วูฟบ้าง แต่เรื่องปีนฟูจิซังนี่ ขอบายค่ะ
(อีกอย่างที่อยากจะเลียนแบบคือ เจอเนื้อคู่ที่นั่น อิอิ)
มาเลยนะคะ... จะขอเป็นไกด์พาเที่ยวเมืองซูริคนะคะ
ปล ติดตามคุณ harumi ตั้งแต่คุณมังคุดรีวิวตอนไปเที่ยวลาวน่ะค่ะ
และจะรออ่านภาคต่อไปนะคะ :-)
เสียกี๊ฟให้ฟูจิซังหมดตัวกันเลยทีเดียว อิอิ ;p
เพิ่งไปปีนจุดชมวิวหมู่เกาะอ่างทองมา...
ระหว่างทางหูอื้อหอบหายใจฮักๆ... ได้แต่ร้องเป็นเพลงพี่เบิร์ดว่า..
ชั้นมาทำอะไรที่นี่... ชั้นมาทำอารายยยที่นี่.... T^T
ขึ้นไปได้ไงอ่ะฮารุ ความอดทนสุดยอดเลย แต่พอถึงด้านบนนี่ยังกะอยู่บนชั้นบรรยากาศดาวเพโคปอง(โลกเรานี่ล่ะ)
ถ้าเราปีนบ้างคงจะลมจับกันตั้งแต่สถานีแรกไปแระ
มาเก็บเกี่ยวหลายสิ่งหลายอย่าง
จากประสพการ์ณของคุณ harumi ด้วยคนนะครับ
กีฟหมด ขอให้ดอกไม้แทนก่อนนะครับ
ขอบคุณ คุณharumi มากๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ
ยังอุตส่าห์นึกถึงแล้วเอารูปกับเรื่องราวน่าประทับใจมาฝาก
ส่งแรงเชียร์สานความสัมพันธ์กับพี่แครอทต่อนะคะ
ความคิดเห็นที่ 68
เดี๋ยวเดือนหน้า กลับมาให้รางวัลค่ะ
ปล. ปีหน้า ถ้าจะปีนฟูจิซังอีกครั้งหรือมีโครงการไปเยี่ยมพี่แครอท รบกวนมาเคาะบอกด้วยนะคะ
จากคุณ : teddy bear in the boxขอบคุณมากๆ เป็นที่ๆ ผมอยากไปที่หนึ่งในสาม
ความฝันของผมเลยนะ ขอบอก
แค่เห็นภาพก็ ทำให้อยากไปขึ้นมาทันที่เลย
ได้ใจไปเต็มๆเลยค่ะ ทริปลำบากด้วยกันเนี่ย
แต่ขอไม่พิสูจน์แบบนี้ดีกว่า กลัวคุณผู้ชายทอดทิ้ง แล้วจะเป็นม่ายไปซะ .. อิอิ...
รอเวลาฮารุมิกลับมารีวิวญี่ปุ่นแบบผู้อาศัยนะคะ ;-)
คือผมสงสัยว่าทำไมเค้าให้นานจัง ตั้ง 3 เดือน เป็นผู้หญิงไปเที่ยวคนเดียวด้วย
จากคุณ : Jose Pasillas llย้อนกลับไปอ่านรีวิวใหม่ตั้งแต่ต้น
เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลย
โอ มาทริปปืนเขาสายมากเลยค่ะ นี่ถ้าคุณ harumi ไม่หลังไมค์มานี่ ตกไปหลังเขาแหงๆ 555
ภูมิใจแทนคุณ harumi นะคะ ปีนเขาได้ขนาดนี้แถมได้พิสูจน์ใจคนด้วย อิอิ
ถ้ามีรีวิวอะไรก็ตาม หลังไมค์มาได้เลยนะคะ ชอบรีวิวคุณ harumi ค่ะ
และสุดท้ายขอบคุณนะคะ สำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ดีๆให้ได้อ่าน ได้เพลิดเพลินค่ะ ^^
ว๊าว...ไปปืนโคตาคีนาบาลูมาแล้วด้วย สุดยอดค่ะ สุดยอดจริงๆ
จากคุณ : อวบอ้วนถาวร (tohjay)กรี๊ดดดดดดดด อิจฉา แอบเอาใจช่วยหนุ่มแครอทอยู่ คราวนี้สมหวังซะที (ใช่มั้ยคะ ^^)
อยากไปปีนฟูจิบ้าง แต่แค่เราปีนที่ดอยอินทนนท์ ก็จะตายอยู่แล้ว
ไปปีนที่ฟูจินี่ ไม่รอดกลับมาแน่ๆ -*-
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ทุกรีวิวเลยนะคะ
คุณเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากไป wwoof ที่ญี่ปุ่นแบบนี้บ้าง
และตอนนี้กำลังตั้งใจเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจังซะที หลังจากเรียนๆ เล่นๆ มานานแล้ว แต่ไม่ได้อะไรเลย 555+
คุณ bookalive...ฟูจิซังนั่งดูอย่างเดียวพอเหอะ อย่าไปปีนเลยค่ะ เหนื่อยและทรมานร่างกายมากกกก (แต่ก็ยังอยากไปปีนอีก)
คุณ ยูจินคุง ...ตอนแรกที่อ่านแต่อีเมล์ที่เขียน ประกอบกับในหน้าแนะนำตัวของพี่แครอทก็ไม่มีรูปด้วย เจอแล้วผิดจากที่เคยจินตนาการไว้เยอะ คิดว่าเป็นตาลุงเขี้ยวๆซะอีก อิอิ
คุณ Miss_Behaving ....ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ ประเทศนี้เป็นที่ๆใฝ่ฝันว่าอยากไปเหยียบให้ได้ซักครั้งจริงๆ
คุณ babyroo talk .....เห็นด้วย ตอนกำลังปีนเขาอยู่คิดแบบนั้นเลยค่ะ จะหาเรื่องทำให้ตัวเองลำบากทำไมเนี่ย ฮ่าๆ
คุณ บอล....ฮ่าๆ จินตนาการสุดยอดอ่ะ เหมือนจริงๆด้วยเนอะ
คุณ Art999...ขอบคุณค่า ฮ่าๆ ไม่ต้องแจกกิฟก็ได้ แค่แวะมาก็ดีใจแล้วค่า
คุณ teddy bear in the box ....ตอนปีนแล้วเห็น Hoei san แล้วคิดถึงคุณ teddy bear in the box เลยค่ะ ที่จริงกะว่าถ้าลงไปถึงสถานีที่ 7 แล้วค่อยถ่ายใกล้ๆอีกที แต่ปรากฏว่า เมฆบังมิด อดเลย T_T
คุณ ชายเอ ทุ่งรังสิต....รับรองถ้าได้ไปแล้ว ต้องอยากกลับไปเที่ยวอีกแน่ๆค่ะ อิอิ
คุณ Auntie AnT ....ใช้วิธีอื่นพิสูจน์ดีกว่าค่ะ วิธีนี้ลำบากเกิ๊นน
คุณ Jose Pasillas ll...อ่อ เราแนบแผนการท่องเที่ยวอย่างละเอียดลงไปด้วยค่ะ วีซ่าเลยผ่านฉลุย
คุณ areewan ....ถ้ามีโอกาส และเวลา ลองไปแบบนี้ดูนะคะ เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นจริงๆเลยค่ะ
คุณ oriole....กว่าจะพิสูจน์ได้ เล่นเอาแทบตายแน่ะค่ะ ลำบ๊ากลำบาก
คุณ อวบอ้วนถาวร (tohjay) ...เทียบกับตอนปีนคีนาบาลู คนละเรื่องเลย เพราะตอนนั้นได้นอนพักผ่อนบ้าง ก่อนจะปีนถึงยอด แต่นี่เล่นปีนทั้งคืน กลางวันก็ไ่ม่ได้นอนอีก ดีที่รอดมาได้นะเนี่ย
คุณ PG_008...งั้นไปเรียนและฝึกใช้ภาษาจริงๆ ด้วยการ wwoof ที่ญี่ปุ่นเลยสิคะ รับรองเก่งแน่นอน
เพิ่งเข้ามาตามอ่านรีวิวมหากาพย์ สาววูฟ สนุกมาก ทำให้อยากไปบ้าง
แถมมีการลุ้นกับคุณแครอทให้ อร๊ายยยยยย อีกต่างหาก
ขอบคุณ คุณฮารุมิ มากนะคะ ที่มารีวิวสนุกๆๆ แบบนี้ให้อ่านกัน
หวังว่าจะมีรีวิวคุณแครอท ผจญภัย กรุงเทพเมืองฟ้าอมรบ้างนะคะ
ให้กิ๊ฟสำหรับรูปสวยๆ และความพยายามค่ะ
เห็นแล้วเหนื่อยแทน
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
อีดีท พึ่งไปตามอ่านตอนเก่าๆมา
เดี๋ยวว่างๆ จะไล่อ่านให้ครบ สนุกดีค่ะ
เข้ามาลงชื่อว่าดูหมดแล้วน่ะค่ะ ขอบคุณที่หลังบ้านคร่าาา
ไม่งั้นพลาดแน่ๆเลย ยิ่งอ่านยิ่งอยากไปวูฟ
คุณแครอทนี่แอบทำแมนให้คุณฮารุซึ้งน่ะ
เรียกคะแนนสาวไทยสุดๆเลย
คิดเหมือนความเห็นบนๆเลยค่ะ
ว่าอยากให้มีรีวิวตอนคุณแครอทโดนพาทัวน์เมืองไทย
อยากรู้จังประทับใจอะไรเมืองไทยมั้งน้า
นอกจากสาวไทยของเรา
ขอบคุณสำหรับหลังบ้านด้วยค่ะ
ไม่ได้อ่านไปหลายตอน
ขอกลับไปทำรู้จักกับคุณแครอทก่อนนะคะ
ชอบอ่านรีวิวของคุณ Harumi จังค่ะ
อ่านง่าย ข้อมูลดี ภาพก็สวย
อยากให้มีเก็บตก wwoof 1.1 อะไรแบบนี้มาให้หายคิดถึงบ้างค่ะ
คราวหน้าน้องฮารุคงไม่ต้องไปวูฟแล้ว
จบ Happy แบบนี้ สงสัยต้องไปอยู่ตลอดแน่ ๆ (ล้อเล่นนะคะ อย่าคิดมาก)
ขอบคุณค่ะตามตั้งแต่ต้นจนจบ ถึงจะตามทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่ก็อ่านทุกตอน ไปเที่ยวที่ไหนอีกอย่าลืมเคาะหลังบ้านด้วยนะ ไม่อยากพลาดค่ะ
โดโมอะริกาโตะ โกะไซมัส
ตามมาแบบเลทๆ ขอบคุณที่หลังบ้านไปบอกนะคะ เึคลียร์งานยังไม่เสร็จแอบมาเจิมกระทู้ก่อน 5555+
กระทู้ได้ใจเหมือนเดิมเลย อิจฉาาาา อยากปีนฟูจิซังมั่ง^^
รอคอยกระทู้ถัดไปนะคะ ^__^
คุณ กลิ้งหลุน หลุน....ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่แวะมาอ่าน ตอนพาพี่แครอทไปผจญภัย นึกดูแล้วน่าสงสารมากค่ะ ไม่ปล่อยให้พักผ่อนเลย เดินทางตลอด
พี่สุดยอดมากกกกกกกกกกกกกกกกก ไอดอลเลยค่ะ ตามอ่านมานานมากๆๆๆๆแล้วค่ะ
นายน์มีแพลนจะไปวูฟเหมือนกันค่ะ เห็นพี่เจอพี่แครอทแล้ว อยากไปตามหาพี่หัวไชเท้าบ้าง ฮ่าๆๆๆ
นายน์ไปเกียวโตมา5วัน โตเกียวอีก2วัน ไต้ฝุ่นเข้าพอดี ไม่ได้ไปไหนมากมาย ภาษาญี่ปุ่นก้พูดไม่ได้
ได้แต่สุมิมาเซน แต่แปลกที่กลับเข้าใจสิ่งที่คนญี่ปุ่นเค้าสื่อมา และโชคดีที่ได้พบเจอคนดีๆ
อยากกลับไปอีก แต่ไม่มีเงินมากพอจะไปเที่ยวๆๆๆๆ เห็นเรื่องวูฟ เลนสนใจมากๆ
พี่คะ คะสึโกะซัง นี่รับเฉพาะวูฟเฟอร์ที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้เท่านั้นป่าวค่ะ หนูสนใจจะไปมากๆๆเลย
หนูเรียนกายภาพบำบัดด้วยอ่าค่ะ rigakuryohoshi กะลังจะจบเทอมหน้า กะว่าจบแล้วทำงานสักพักจะไปวูฟค่ะ :)
ติดตามอ่านมาจนจบทุกตอนเลยค่ะ
ชอบมากๆๆ อยากไปวูฟบ้างจัง
แต่ภาษาญี่ปุ่นได้แค่ระดับต้นๆเอง
แล้วเราจะเดินทางไปถูกมั้ยล่ะเนี้ย เหอๆๆ
ประทับใจในความสามารถของคุณฮารุมากเลยค่ะ
อยากเป็นเหมือนคุณฮารุให้ได้จัง ผู้หญิงเก่ง