บันทึก(เรื่องไม่ลับ)จากเมืองหลวงพระบาง(กุมภาพันธ์ 2011)

ต่อไปนี้เป็นบันทึก ของการเดินทางเยือนหลวงพระบางเมื่อตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้(2011)

เป็นบันทึก(ไม่ลับ)จากเมืองหลวงพระบางถึงใครบางคน....
อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ในห้องBP ได้อ่าน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ไม่มีรูปภาพประกอบ
เนื่องจากได้เห็นภาพถ่ายสวยงาม
ของเมืองหลวงพระบางจากเพื่อนๆในห้องBP ให้ชมกันมากมายอยู่แล้ว
(อายน่ะ ไม่กล้าโชว์)

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 06:06:00 ]
ความเห็นที่ 1

เช้าวันอาทิตย์ที่6 กุมภาฯ เป็นเวลาเดินทางกลับเวียงจันทร์แล้ว
หลังจากที่มาเตร็ดเตร่อยู่เมืองหลวง(พระบาง)อยู่หลายวัน

ก่อนจะเดินทางกลับเวียงจันทร์ ขอย้อนเวลาถอยกลับไปปูพื้นเรื่องเล่านิดนึง

เริ่มจากผมมาตามหาหัวใจ ตามประสาชายสูงวัยเป็นโรคหัวใจ
(ใจอ่อนอกหักซ้ำซาก) ผมมาทำงานรับจ้างไม่มีหลักแหล่ง
เมื่อตอนต้นปีนี้ได้มาทำงานรับจ้าง
อยู่ที่เมืองเวียงจันทร์อยู่ระยะนึง
อย่าไปพูดถึงเรื่องงานเลยครับ
เดี๋ยวจะเครียดเสียอารมณ์ เล่าเรื่องกันซะปล่าๆ

ช่วงต้นกุมภาฯที่ ผ่านมาเป็นช่วงวันหยุดยาว เทศกาลตรุษจีน
(ตรุษญวนก็ หยุดช่วงนี้เหมือนกัน)
ก็เลยมีเวลาพักไปเที่ยวหลวงพระบางแบบหนุ่มโสด
ลุยเดี่ยวเที่ยวคนเดียว บ้าง

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 06:11:47 ]
ความเห็นที่ 2

รถบัสของเราออกจากเวียงจันทร์ประมาณสิบเอ็ดโมงเช้าเป็น
รถหวานเย็นครับ คือจอดแวะรับส่งผู้โดยสารไปตลอดทางไม่รีบร้อน

ผมได้จับจอง ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่ดีทีเดียว คือไม่ห่างจากพขร มากนัก
เมื่อตอนกลางวันช่วงที่รถออกเดินทางจากเวียงจันทร์
ผมสังเกตุว่าโชเฟอร์ของเราแกไอ ไม่สบาย มาตลอดทาง แถมมีบ้วนถ่มน้ำลายเป็นระยะๆ ผมเองต้องคอยระวังน้ำลายกระเด็นใส่หน้า

พอรถวิ่งไปได้ครึ่งทางขณะที่กำลังวิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทางคดเคี้ยวบนภูเขา
ท้องฟ้ามืดมิดกลางขุนเขา อากาศก็เย็นยะเยือก ในขณะที่ไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางก็ไม่มี รถบัสต้องใช้ ประสบการณ์ และความชำนาญขั้นสูงที่จะขับฝ่าผ่านความมืดโดยอาศัยไฟหน้ารถไปได้

หลายโค้งหลายจุดอันตรายที่ตื่นเต้นราวกับนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้าน

อากาศยังคงหนาวลงเรื่อยๆ แต่ที่หนาวกว่านั้น เจ้าเด็กกระเป๋ารถที่เห็นเมื่อตอนกลางวัน มาในบัดนี้กลับ เปลี่ยนสถานภาพ(บทบาท) มาถือพวงมาลัยเป็นโชเฟอร์นักบินมือหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ โดยมีโชเฟอร์ไอขอกเขก คนเดิมมานั่งกำกับ บอกบท อยู่ข้างๆ

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 06:19:47 ]
ความเห็นที่ 3

ในที่สุด รถบัสพวกเรามาถึงบขส เมืองหลวงพระบางเอาตอนห้าทุ่มกว่า
รวมระยะเวลาการเดินทางประมาณสิบสองชั่วโมงกับระยะทางไม่ถึงสี่ร้อยกิโลเมตร อากาศเมืองหลวงพระบางคืนนั้นหนาวมาก หนาวจนคางสั่น

เนื่องจากผมไม่ได้จองที่พักมาล่วงหน้า
มันเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลยที่จะมาวอร์คอิน เดินหาห้องพักกันตอน
ยามดึกดื่นเที่ยงคืนในคืนอันหนาวเหน็บแบบนี้

ที่แย่กว่านั้นผมลืมไปสนิทเลยว่าวันนั้นเป็นวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน
ในเมื่อผมเองยังคิดอยากมาเที่ยวที่นี่ในวันหยุดได้ คนอื่นเค้าก็คิดแบบนี้
ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน

ในคืนนั้นสามารถมองเห็นรถยนต์ป้ายทะเบียนจากเมืองจีนจอดเต็มไปหมด
ทราบมาว่ามีนักท่องเที่ยวจีนที่ขับรถมาและมาทางเรือเข้ามา
เที่ยวเมืองหลวงพระบางกันเยอะมาก

ผลก็คือโรงแรม เกสต์เฮาส์ ในชั่วโมงนั้นหาห้องว่างยากมาก

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 06:25:52 ]
ความเห็นที่ 4

ในคืนนั้นมีเพื่อนร่วมชะตากรรมอยู่ห้าชีวิต
เป็นสามสาวจากเมืองไทย หนึ่งหนุ่มฝาหรั่งและหนึ่งหนุ่มจากไทยแลนด์คือตัวผมเอง

ในที่สุดพวกเราก็ไปพบห้องว่างที่เกสต์เฮาส์แห่งนึงหลังที่ตระเวณหากันมานานจนเหนื่อยอ่อนเพลีย
เกือบจะถอดใจไปขออาศัยพระ นอนค้างศาลาวัดกันอยู่แล้ว

เป็นห้องเตียงเดี่ยว ปรกตินอนได้สองท่าน
มาคราวนี้ ปรากฎว่าแม่สาวไทยคนเก่งของเราเธอช่วยเจรจาให้พวกเราทั้งห้า
ได้พักห้องนั้นห้องเดียวกัน

โดยบรรดาแม่คุณสาวๆนอนเตียง ส่วนหนุ่มๆนอนพื้นปูด้วยฟูกนุ่มๆ
ในสนนราคาคนละสิบเหรียญยูเอส

ผมลังเลคิดอยู่พักนึง
แหมก็ไม่เคยนอนร่วมห้องกับสาวๆแปลกหน้าถึงสามคน
กับหนุ่มต่างชาติที่รู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ

แต่เพื่อนฝาหรั่งชวนให้อยู่ก็เลย ต้องเลยตามเลยอีกอย่างก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนต่อ
มันดึกมากแล้ว


เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นนอนตั้งแต่เช้า ตีห้าก็ตื่นนอนแล้ว
นอนไม่ค่อยหลับมาทั้งคืน
คงไม่ค่อยคุ้นเคยกับการแชร์ห้องนอนกับคนแปลกหน้าแบบนี้มาก่อน
ทั้งๆที่ก่อนหน้าก็เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน

อยากจะอาบน้ำให้สบายตัวก็ไม่กล้า คนอื่นเค้ากำลังหลับสบายกันอยู่
จึงออกไปเปิดโน๊ตบุ้คศึกษาเก็บข้อมูลที่จะท่องเที่ยวดีกว่า

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 06:34:40 ]
ความเห็นที่ 5

รอจนถึงเกือบเก้าโมงเช้าเพื่อนร่วมห้อง(สามสาว)
จึงตื่นนอนเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวกัน

ผมได้กล่าวอำลาและขอบคุณเพื่อนๆร่วมการเดินทาง (ชะตากรรม)
จากนั้นก็แยกย้ายกันออกไปหาที่พักใหม่

จะเป็นด้วยบุพเพสันนิวาสหรือ อย่างไรไม่ทราบ
ระหว่างเดินตระเวณหาที่พักแห่งใหม่

ก็มาเจอเพื่อนฝาหรั่งคนเดิมอีก
ผมพาไปเดินตระเวณหาเกสต์เฮาส์
แกอยากได้ที่พักราคาถูก แกพร่ำพูดถึงเกสต์เฮาส์
ราคาเจ็ดยูโรมาตลอดทาง
ซึ่งมันหาไม่ได้ในละแวกนั้น

เดินหากันไปมา ราคาอยู่ที่ 20-25 เหรียญยูเอส
สำหรับผมถือว่าพอรับได้
แต่เพื่อนฝรั่งไม่เอา
จะเดินหาในตรอกซอกซอย
ก็หนีไม่พ้นราคา ประมาณนี้

ในที่สุดแกก็เลยเสนอให้แชร์ค่าห้องกันอีกครั้ง
เอ้าเป็นไงเป็นกัน

ในวันนั้นต่างคนต่าง ก็แยกย้ายออกเที่ยวตามความสนใจ ของแต่ละคน

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 06:40:49 ]
ความเห็นที่ 6

รออ่านตอนเช้าๆ ครับ ไม่มีรูป ต้องจินตนาการอย่างเดียวเลย

จากคุณ : i_like_reading [28 ก.ย. 54 06:49:43 ]
ความเห็นที่ 7

อยากเห็นรูปภาพประกอบด้วยค่ะ จะเพลิดเพลินที่สุด ฮิ ๆ ๆ

จากคุณ : sa_bkk [28 ก.ย. 54 06:49:46 ]
ความเห็นที่ 8

ผมมาหลวงพระบางครั้งนี้ผมอยากเที่ยววัด อยากชม ความงดงาม
ทางประวัติศาสตร์
ตัวผมเองได้ ศึกษาเตรียมข้อมูลมาบ้างนิดหน่อย

ผมมีความรู้สึกอย่างนึงว่าคุณค่าของการมาเยือนเมืองหลวงพระบาง
น่าจะมีเป้าหมายชัดเจนว่ามาเพื่ออะไร
ไม่ใช่แห่ตามๆกันมา

มาเพื่อดูความงดงามความเงียบสงบของเมืองหลวงเก่าที่
แฝงด้วยมนต์ขลัง เมืองที่สงบเยือกเย็นเป็นธรรมชาติ
มีแม่น้ำขนาบสองด้านคือแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน

บ้านเมืองที่มีศิลปะวัฒนธรรมมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ยังรักษา
และสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้

เมืองท่องเที่ยวที่ไม่มี โรงแรมตึกสูง แข่งกันสร้างผุดขึ้น
อย่างที่ดูเกะกะไร้ระเบียบ

แต่ผมคงต้องขอแนะนำว่า อย่าได้คาดหวังอะไรมากนัก
เมืองหลวงพระบางวันนี้คงไม่ใช่สาววัยละอ่อน
เลือดฝาดเปล่งปลั่ง กลิ่นกายสาวหอมละมุนอย่างสาวแรกรุ่น
เช่นเมื่อวันวาน

หากแต่หลวงพระบางวันนี้เธอได้เติบโต เจริญวัยเป็นสาวออฟฟิศ
ที่ยังคงนุ่งผ้าซิ่นรักษาความงดงามของวัฒนธรรมท้องถิ่น
ให้มากที่สุด

ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด

ผมใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับการชมวัดและทำบุญตามกำลังทรัพย์ที่มี

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 06:51:21 ]
ความเห็นที่ 9

ในระหว่างนั้นได้มีโอกาสไปล่องเรือเที่ยวถ้ำติ่ง

แต่เจ้ากรรม
ในตอนเช้าวันนั้นเพิ่งจะย้ายห้องพัก
(ผมเปลี่ยนเกสต์เฮาส์ทุกวัน ไม่ซ้ำที่เดิม)
แล้วโน้ตบุ้ค(ของบริษัท)ก็วางอยู่ในห้องพักพร้อมกับเพื่อนฝาหรั่ง
ที่ขอย้ายตามมาด้วย ไม่รู้แกถูกอกถูกใจอะไรกับผมเป็นนักหนา


ปรกติผมไม่เคยพลาดกับเรื่องพวกนี้เลย
ของมีค่าผมจะฝากไว้กับเคาเตอร์รีเซฟชั่น
แต่ในวันนั้นด้วยอารามความรีบร้อน
คงกลัวว่าจะไปขึ้นเรือ ไปเที่ยวไม่ทันหรือยังไงไม่ทราบ

กว่านึกถึงเรื่องโน้ตบุ้คนี้ได้ เรือแล่นออกมาจากฝั่ง มาเป็นชั่วโมงแล้ว
ใจหายวาบ คิดไปสารพัดอย่าง หากเพื่อนฝาหรั่งคิดไม่ซื่อเชิดเอาไป
แล้วเช็คเอาท์ออกไปทันที จะทำยังไง

คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน
ในวันนั้นไปเที่ยวไม่สนุกเลย
เพราะเป็นห่วงกังวลเรื่องโน้ตบุ้คไปตลอดทาง

ทีแย่กว่านั้นในระหว่างทางที่เที่ยว
บังเอิญก็ไปเจอเพื่อนฝาหรั่ง
คนนี้อีก แถมยังมาบอกผมว่า
แกจะเดินทางต่อไปเข้า เมืองจีน
ในเย็นวันนั้นเลย

ฟังอย่างนี้ยิ่งน่าคิดหนักเข้าไปอีก
อยากกลับเข้าเมืองหลวงพระบางไวๆ
ไม่มีอารมณ์จะอยู่เที่ยวอีกแล้ว
เป็นห่วงของมาก

ทันทีที่เรือกลับมาส่งถึงท่าที่หลวงพระบางตอนบ่ายโมงครึ่ง
ผมรีบวิ่งแจ้นไปที่เกสต์เฮาส์ก่อน
ข้าวปลาไม่ต้องกินมันแล้ว

เจ้าของเกสต์เฮาส์รีบรายงาน เพื่อนฝาหรั่งของคุณขนข้าวของ
ออกไปตั้งแต่เช้า ร้อนใจรีบไขกุญแจห้องสำรวจดู
ให้เห็นกับตา

โอ้พระเจ้า โน้ตบุ้คยังอยู่ครบ

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 07:00:14 ]
ความเห็นที่ 10

การเดินทางเยือนหลวงพระบางครั้งนั้น ถือว่าได้เที่ยววัดทำบุญมากที่สุด

ได้มีโอกาสไปดู พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองหลวงพระบาง
ซึ่งในอดีตก็คือพระราชวังของอดีตเจ้ามหาชีวิตลาวนั่นเอง

ผมค่อยๆเดินชมในแต่ละห้องอย่างตั้งอกตั้งใจ
แต่สิ่งที่ผมสะดุดตามากกลับกลายเป็นซีรีส์ภาพเขียนเล็กๆ
ติดผนัง ที่เหมือนไม่ค่อยมีใครสังเกตุ ให้ความสนใจดู แล้วพากัน
เดินผ่านเลยไป

เป็นภาพเกี่ยวกับเรื่องเทศน์มหาชาติในแต่ละกัณฑ์โดยเริ่มจาก
คำอธิษฐานของพระนางผุสดีที่ได้รับพรจากพระอินทร์ มีสิบประการ
ไปจนจบกัณฑ์เทศน์สุดท้าย ในแต่ละภาพเขียนจะมีคำบรรยายใต้ภาพ
เป็นภาษาลาวและภาษาอังกฤษแต่ความหมายและอรรถรส ต่างกันพอสมควร

หลังจากได้อ่านทั้งสองเวอร์ชั่นแล้วก็อดบังเกิดรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากไม่ได้


ผมใช้เวลาดูอยู่พิพิธภัณฑ์นานมาก ถึงนานที่สุด
เดินดูอยู่สองรอบจนเค้าปิดทำการ

แน่นอนก่อนวันเดินทางกลับ วันนั้นผมไม่พลาดที่ขึ้นไปไหว้
พระธาตพูสี(เป็นครั้งที่สอง)
เพื่อชมพระอาทิตย์ลับทิวเขา
อันเป็นไฮไลท์อีกอย่างของเมืองหลวงพระบางที่นี่

ระหว่างที่รอชมพระอาทิตย์ลับทิวเขานั้น
ผมก็ได้ถือโอกาสสวดมนต์ทำวัตรเย็น
(แหมฟังดูดี สร้างภาพน่าดูเชียว)

ในขณะที่นักท่องเที่ยวเดินเข้าออก
เพื่อกราบพระขอพร อย่างไม่ขาดสาย

ทันใดนั้นเอง
มีหญิงไทยกลางคนมาสะกิดเรียกผม
อยู่ข้างๆ แรกๆผมก็ไม่ได้ให้ความสนใจ
ยังคงก้มหน้าก้มตาสวดมนต์ต่อไป

เธอพยายามเรียกผมอีก
ถามว่าผมเห็นผู้หญิงอุ้มท้องที่นั่งอยู่มุมโน้นมั๊ย เธอเป็นใคร ผมรู้จักมั๊ย
ผมบอกว่าผมไม่เห็นและก็ไม่ทราบ
แต่ก็อดที่จะรู้สึกขนหัวลุก หนาววาบสันหลังขึ้นมาไม่ได้

ผู้หญิงกลางคนคนนั้น เธอคงไม่มีเหตุผลอะไร หรือนึกสนุกมาอำ
แกล้งผมเล่น เธอแนะนำให้ผมแผ่เมตตาให้ผู้หญิงอุ้มท้องคนนั้นด้วย

ในเย็นวันนั้นได้เห็นพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมทิวเขาเมืองหลวงพระบางได้สมความตั้งใจ
บรรยากาศยามเย็นในเวลานั้นช่างงดงามจริงๆ

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 07:17:31 ]
ความเห็นที่ 11

ขอพักเบรคช่วงนี้หน่อยครับ

ในระหว่างนี้ เพื่อนๆสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นได้ตามสบายเลยครับ
ขอน้อมรับฟัง ทุกความคิดเห็นด้วยความยินดีครับ

จากคุณ : UncleJoe123 [28 ก.ย. 54 07:20:22 ]
ความเห็นที่ 12

เคยไปเดินเล่นหลวงพระบางคนเดียว แบบนี้เหมือนกันค่ะ น่าจะเกือบสิบปีแล้วมังค่ะ...ปัจจุบันก็ยังคงชอบการเดินทางแบบนี้อยู่..

จากคุณ : never the last [28 ก.ย. 54 08:56:50 ]
ความเห็นที่ 13

เราก็บุกทุกวัดในตัวเมืองหลวงพระบางมา

จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร [28 ก.ย. 54 09:22:45 ]
ความเห็นที่ 14

อยากไปบุกเหมือนกัน..ที่หลวงพระบาง

จากคุณ : ฟ้า (ฟ้ากำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว) [28 ก.ย. 54 09:34:37 ]
ความเห็นที่ 15

น่าอิจฉาจังค่ะ อยากไปบ้าง

จากคุณ : ต่างหู...ไม่รู้อยู่ไหน? [28 ก.ย. 54 09:39:08 ]
ความเห็นที่ 16

รีบมาต่อนะคะ ขนยังลุกชันอยู๋เลย อิอิ
ชอบจริงไรจริงเรื่องลึกลับ

จากคุณ : GT2007 [28 ก.ย. 54 11:04:30 ]
ความเห็นที่ 17

ลุงใช้ความพยายามอย่างสูงในการจินตนาการ

จากคุณ : ลุงแบกเป้ [28 ก.ย. 54 12:09:31 ]
ความเห็นที่ 18

ไปลุยเดี่ยวมาแล้วเหมือนกันครับ

จากคุณ : predator_john [28 ก.ย. 54 12:24:37 ]
ความเห็นที่ 19

แวะมาอ่านด้วยคน
แล้วรีบมาต่อเร็วๆนะครับ
อ่านไม่จบมันเหมือน.......ไม่สุดนะครับ

จากคุณ : low batt. [28 ก.ย. 54 12:31:29 ]A:223.207.94.15 X: TicketID:329936
ความเห็นที่ 20

อ่านไป ลุ้นไปค่ะ

จากคุณ : คนมีเจ้าของ--หัวฟูน้ำนิ่ง [28 ก.ย. 54 12:32:40 ]
ความเห็นที่ 21

ไปลุยเดี่ยวมาแล้วเหมือนกันครับ

จากคุณ : predator_john [28 ก.ย. 54 12:37:34 ]
ความเห็นที่ 22

อ่านดึกๆแบบนี้ แอบหลอนรออ่านต่อพรุ่งนี้ด้วยคนค่ะ

จากคุณ : สาวหน้าใส [29 ก.ย. 54 00:54:04 ]
ความเห็นที่ 23

ขอบคุณสำหรับเสียงตอบรับจากเพื่อนๆ
เป็นกำลังใจให้ กระทู้บันทึกเล็กๆของผมได้ชุ่มชื่นหัวใจ


คุณ i_like_reading, คุณsa_bkk  -> ต้องขออภัย ผมมีแต่รูปวัด รูปวิว
สวยสู้เพื่อนบ่ได้


คุณnever the last -> แหมน่าจะมาช่วยแฉ เอ๊ยแชร์
มาเล่าให้เพื่อนได้อ่านกัน บ้างจัง

คุณต้นโพธิ์ต้นไทร -> มีชอบหรือประทับใจวัดไหนเป็นพิเศษบ้าง
นอกจากวัดเชียงทอง

คุณฟ้า (ฟ้ากำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว) -> บุกเลยครับ ผมเอาใจช่วย

คุณต่างหู...ไม่รู้อยู่ไหน? -> อย่าอิจฉาผมเลย อยากไปต้องได้ไป อยากทำต้องได้ทำ

คุณGT2007 ->  หูยไม่อยากเชื่อ นี่ไม่ได้เขียนบันทึกเรื่องลี้ลับนะ

คุณลุงแบกเป้ -> เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณลุงเข้ามาเยี่ยมชม

คุณpredator_john -> มีเรื่องราวประทับใจในทริปนั้นบ้างมั๊ย อยาก ให้แชร์ ทราบบ้างเหมือนกัน

คุณlow batt. -> จ้า

คุณคนมีเจ้าของ—หัวฟูน้ำนิ่ง -> ขอบคุณที่ช่วยลุ้น

คุณสาวหน้าใส -> ไม่มีหลอนครับไม่มีจริงๆโอมเพี้ยง

ต้องขออภัยเพื่อนๆด้วยครับ

ผมพึ่งมาถึงพนมเปญเมื่อเช้านี่เอง
ยังงัวเงียง่วงนอนอยู่เลย
สติสะตังยังไม่เข้าที่ดีนัก

ขอเวลาผมเตรียมวัตถุดิบหน่อยนะครับ

จากคุณ : UncleJoe123 [29 ก.ย. 54 12:36:38 ]
ความเห็นที่ 24

นะๆๆ  น้าโจ เล่าต่อโหน่ย อย่าช้าวัยรุ่นเซ็ง
ปูเสื่อกินทาโร่รสหมึกบด รออยู่ นะ คร่อกกกกก

จากคุณ : GT2007 [29 ก.ย. 54 14:37:46 ]