“เที่ยวเอง” อยากแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยตัวเองแบบไม่ง้อทัวร์ ขอเล่าเรื่องราวหลากหลายแง่มุมของทริปตะลุยสแกนดิเนเวียคนเดียว ทริปนี้เป็นทริปใหญ่ที่วางแผนได้ยากมาก เรียกว่ากว่าจะวางแผนได้ลงตัวต้องเตรียมตัวกันเป็นเดือนๆ ทีเดียว สุดท้ายก็สำเร็จเป็นแพลน 8 วัน 6 คืน คือ Bangkok-Helsinki-Tallinn-Stockholm-Oslo-Bergen-Myrdal-Flåm-Oslo-Bangkok

ตอนที่ 4 นี้จะพาไปเที่ยวต่อกันที่กรุง Stockholm ประเทศสวีเดน เหมือนเดิมครับ เป็นวันที่ 2 ในสต็อกโฮล์ม

เหมือน เดิมครับ สำหรับใครที่ชอบกระทู้นี้ และอยากอัพเดทสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เข้า FB แล้ว search เพจ “เที่ยวเอง” เจอเลย กดไลค์ได้เลยครับ
เพจของผมเองครับ ^^

วันที่ 4

ยังอยู่กันที่กรุงสต็อกโฮล์มต่ออีก 1 วันครับ วันนี้จัดโปรแกรมเที่ยวสต็อกโฮล์มแบบอัดเต็มไว้ แถมตอนเย็นยังจะไปเที่ยว Vaxholm อีกต่างหาก เรียกว่าเดินกันทั้งวันจนขาลากแน่!

วันนี้อากาศขมุกขมัวเพราะมีฝนตกลงมาแต่เช้า ก่อน 9 โมงเช้าพร้อมออกตระเวนทั่วกรุงสต็อกโฮล์ม เมื่อวานลืมไปซื้อ Stockholm Card ไว้ล่วงหน้า วันนี้เลยต้องเดินเท้าไปที่ Stockholm Tourist Center ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนน Vasagatan เยื้องกับสถานีรถไฟกลาง Stockholm C เพื่อไปซื้อ Stockholm Card เพราะไม่อยากเสียเงินค่ารถเที่ยวละ 30 SEK หรือเกือบ 150 บาท สำหรับการนั่งรถเพียงไม่กี่ป้าย

แต่ระยะทางเพียงไม่กี่ป้ายรถ ผมต้องใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงสถานีรถไฟ Stockholm Centralstation เข้าไปข้างในสถานีเพื่อซื้อตั๋วรถไฟไป Oslo สำหรับพรุ่งนี้เช้าก่อน ตั๋วรถไฟ Stockholm to Oslo S ชั้น 2 ราคา 364 SEK ผมถึงกับงงเพราะที่เช็คราคาในเว็บไซต์มามันแค่ 197 SEK เท่านั้น *ขอแนะนำนักเดินทางรุ่นหลังเลยนะครับว่าขอให้ทำการจองออนไลน์ตั๋วยานพาหนะทุกชนิดที่จะโดยสารระหว่างเมืองต่างๆ ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ยกเว้นรถสาธารณะในเมืองล่วงหน้า อย่าไปซื้อที่เคาน์เตอร์เพราะราคาจะแพงขึ้นอย่างมาก

ข้ามถนนไป Tourist Center ซื้อ Stockholm Card 1 day ราคา 425 SEK บัตรนี้สามารถใช้โดยสาร Stockholm Public Transport คือ รถไฟใต้ดิน, รถเมล์, รถราง, commuter train และ ferry ทั่ว Stockholm County ได้ไม่จำกัดตามระยะเวลาที่ระบุในบัตร นอกจากนี้ยังใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมายในสต็อกโฮล์มและชานเมืองได้ฟรีหรือได้รับส่วนลดบางอย่าง

จากตรงนี้มองไปจะเห็นอาคารสีอิฐขนาดใหญ่มีหอสูงตั้งอยู่ริมน้ำ นั่นคือ Stadshuset หรือ City Hall 10 โมงเศษๆ เดินข้ามสะพานประมาณ 10 นาทีก็ถึง Stadshuset ซึ่งเป็นสถานที่มอบรางวัลโนเบลในเดือนธันวาคมของทุกปี สามารถเข้าชมภายในได้ในเดือนมิ.ย.-ส.ค. เปิดทุกวัน 09.00-17.00 น. การเข้าชม Stadshuset ต้องผ่าน guide tour ซึ่งมีทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 10.00 น. ใช้เวลารอบละ 45 นาที ปกติราคา 90 SEK ในช่วงเดือนเม.ย.-ต.ค. ส่วนหอสูงเรียกว่า Tornmuseet หรือ Tower Museum ขึ้นไปชมวิวกรุงสต็อกโฮล์มได้เช่นกัน โดยในเดือนพ.ค.-ก.ย. เปิดทุกวัน 09.00-16.00 น. ปกติค่าขึ้นชมราคา 40 SEK แต่ทั้ง Stadshuset และ Tornmuseet นี้ใช้ Stockholm Card เข้าฟรีครับ

ลืมลงตอนเก่าเลยครับ อิอิ เผื่อใครอยากตามอ่านตั้งแต่ต้นทริป

วันแรกที่ฟินแลนด์ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11058987/E11058987.html

วันที่สองที่เอสโตเนีย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11080618/E11080618.html

วันที่สามที่สวีเดน http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11110857/E11110857.html

กะจะขึ้น Tornmuseet รอบ 10.35 น. แต่ตั๋วถูกขายหมดเกลี้ยงแล้ว ขนาดมี Stockholm Card ยังขอขึ้นไม่ได้เลย ต้องรอรอบต่อไปอีก 1 ชั่วโมง เลยเดินดูและถ่ายรูปมุมต่างๆ ของที่นี่ เสร็จแล้วก็เดินข้ามสะพาน Stadshusbron กลับ Gamla Stan

ถึง Gamla Stan เดินซอกแซกตามตรอกแคบๆ ของเมืองเก่าไปจนถึงทางเข้า Kungliga Slottet หรือ The Royal Palace ใช้ Stockholm Card ผ่านประตูเข้าไปชมภายในพระราชวังฟรี (ปกติค่าเข้าชม 100 SEK) พระราชวังเปิดให้เข้าชมได้ในระหว่างวันที่ 14 พ.ค.–25 ก.ย. ทุกวันตั้งแต่ 10.00–17.00 น.

เดินขึ้นบันได Inre Borggården ห้องโถงไปและเข้าไปที่ฝั่ง Festvåningen (The State Apartments) ชมห้อง Konseljsalen (The Council Chamber) เป็นห้องแรก

ต่อด้วยห้อง Karl XI's galleri แต่ละห้องรวบรวมของล้ำค่าของพระมหากษัตริย์ราชวงศ์ต่างๆ แห่งสวีเดนไว้มากมาย

เดินไปทางฝั่ง Gästvåningen (The Guest Apartments) เข้าชมห้อง Meleagersalongen (The Meleager Salon) เป็นห้องสุดท้ายพอหอมปากหอมคอ

เที่ยงแล้ว หาของกินที่ซุ้มขายคล้ายๆ แป้งพิซซ่าไส้ต่างๆ ยืนดูหน้าตาเมนูแล้วก็เลือกสั่ง Tjock Korv & Rostad Lök ราคา 50 SEK หรือประมาณ 250 บาท เป็นแป้งหนานุ่มแผ่นใหญ่ห่อไส้กรอกชิ้นใหญ่ มีมันบดหนา และโรยหน้าด้วยเบคอนกรอบ ราดซอสตามใจชอบ รสชาติใช้ได้แต่เลี่ยนมันบดไปหน่อย

ข้ามถนนไปเข้าถนน Kungsträdgårdsgatan เดินผ่านสถานีรถไฟใต้ดิน Kungsträdgården ที่ถนน Arsenalsgatan ไปยัง Nybroplan

มาชมด้วยคน.......ขอบคุณครับ

รอเรือที่ Nybrohamnen ซึ่งมีเรือ sightseeing boat จอดเทียบท่ารอรับนักท่องเที่ยวไปชมจุดท่องเที่ยวต่างๆ หลายบริษัท ส่วนใหญ่แล้วสามารถใช้ Stockholm Card ขึ้นเรือได้ฟรี (ปกติค่าเรือป้ายเดียวราคา 40 SEK, 24 hour ticket ราคา 100 SEK)

รอประมาณ 5 นาที เรือก็มารับและพาไป Vasamuseet พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของสวีเดนอยู่ที่ถนน Galärvarvsvägen บนเกาะ Djurgården นั่งเรือไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้ว บนเกาะ Djurgården นี้ยังมีสวนสนุก Gröna Lunds Tivoli อยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์วาซาด้วย ถ้าอยากเล่นเครื่องเล่นก็ต้องเสียค่าผ่านประตู 90 SEK

ถึงท่าเรือต้องเดินอ้อมไปยังทางเข้าด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ ใช้ Stockholm Card เข้าชมภายใน Vasamuseet ได้ฟรีจากปกติค่าเข้า 110 SEK

Vasamuseet เปิดให้เข้าชมในเดือนมิ.ย.-ส.ค. ตั้งแต่ 08.30-18.30 น., ก.ย.-พ.ค. 10.00-17.00 น. วันพุธเปิด 10.00-20.00 น. ผ่านประตูพิพิธภัณฑ์ไปสิ่งแรกที่เห็นคือเรือไวกิ้งโบราณลำยักษ์ซึ่งเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ส่วนที่ชั้นต่างๆ ก็เป็นประวัติและโมเดลจำลองวิถีชีวิตและเรื่องราวต่างๆ ของนักเดินเรือในสมัยโบราณ ใช้เวลาเดินชมเกือบชั่วโมงจนถึงบ่ายสามโมง ต้องรีบไปที่อื่นต่อแล้ว

เดินออกไปด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์จะเห็นด้านหลังของ Nordiska Museet พิพิธภัณฑ์ที่ก่อสร้างอย่างสวยงามอลังการ เปิดให้เข้าชมได้ในวันจันทร์-ศุกร์ 10.00-16.00 น. วันพุธเปิดถึง 20.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เปิดตั้งแต่ 11.00-17.00 น.

เดินอ้อมไปด้านหน้า Nordiska Museet เพื่อรอรถเมล์สาย 44 ไปที่ Karlaplan แล้วต่อรถไฟใต้ดินไปยัง T-Centralen แต่เนื่องจากวันนี้มีการแข่งขันวิ่งมาราธอน ทำให้รถเมล์ยกเลิกให้บริการชั่วคราว ผมจึงต้องเดินเป็นกิโลไปที่ Karlaplan

แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย T13 ไปที่ T-Centralen ต่อสาย T17 direction Åkeshov ไปลงที่สถานี Brommaplan ซึ่งเป็นเขตนอกเมืองสต็อกโฮล์มแล้วต่อรถเมล์สาย 177 ที่จอดรออยู่ไปพระราชวัง Drottningholm อีกประมาณ 8 นาที ประมาณ 4 โมงเย็นก็ถึง Drottningholm (Ekerö) ใช้เวลารวมจาก T-Centralen ประมาณ 30 นาที (ปกติค่ารถจาก T-Centralen ถึง Drottningholm ราคารวม 60 SEK)

Drottningholm อยู่บนเกาะ Lovön ในโซน B ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสต็อกโฮล์ม มี Drottningholm Slott หรือ Prince Carl Philip Slottsteater เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้ พระราชวัง Drottningholm มีลักษณะคล้ายพระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส เป็นที่ประทับของพระราชวงศ์แห่งสวีเดน สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1662 เปิดให้เข้าชมทุกวันในเดือนพ.ค.-ส.ค. 10.00-16.30 น., ก.ย. 11.00-15.30 น., เดือนเม.ย.-ต.ค. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิด 11.00-15.30 น. ปกติค่าเข้าชม 80 SEK ถ้าซื้อแบบรวม Kina Slott ด้วยราคา 120 SEK (Kina Slott หรือ Chinese Pavilion เปิดทุกวัน พ.ค.-ส.ค. 11.00-16.30 น., ก.ย. 12.00-15.30 น. ปกติค่าเข้า 70 SEK)

วันนี้พระราชวังปิด 16.30 น. เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ต้องรีบเข้าชมให้เร็วที่สุด เข้าไปเดินชมห้องต่างๆ ของพระราชวังได้แปปเดียวพระราชวังก็จะปิดแล้ว

เดินไปที่ป้ายรถเมล์พอดีรถสาย 322 มาพอดีเลยขึ้นรถกลับไปที่ Brommaplan แล้วต่อรถไฟใต้ดิน (จริงๆ อยู่ลอยฟ้า) สาย T19 direction Gullmarsplan กลับไปที่ T-Centralen ต่อสาย T14 direction Mörby Centrum อีก 3 สถานี แล้วลงที่สถานี Tekniska högskolan ที่ถนน Vallhallavägen รอต่อรถเมล์สาย 670 แล้วนั่งยาวประมาณ 50 นาทีจะถึง Vaxholm

เกือบ 1 ทุ่มก็ถึง Söderhamnsplan ที่เมือง Vaxholm ซึ่งอยู่บนเกาะ Wax หรือ Vaxön ในโซน B ห่างจากสต็อกโฮล์มทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 45 กิโลเมตร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของ archipelago ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มเกาะน้อยใหญ่ถึง 64 เกาะ แต่มีเพียง 16 เกาะเท่านั้นที่มีผู้อยู่อาศัย Vaxholm เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบแต่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย

ลงจากรถเมล์ เดินไปทางขวามือแปปเดียวก็เห็น Vaxholm Hotell พอผ่านโรงแรมเลี้ยวซ้ายตามทางบังคับก็เห็น Vaxholms fästning และ Kastellet คือป้อมปราการแห่งแว็กซ์โฮล์มอยู่บนเกาะห่างจากฝั่งไปไม่ถึง 100 เมตร ป้อมปราการแห่งนี้เคยใช้ป้องกันการโจมตีของกองทัพเรือเดนมาร์คและรัสเซียมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน  

ตอนนั้นก็เย็นมากแล้ว ถ้ามาเช้ากว่านี้จะสามารถนั่งเรือข้ามไปที่เกาะและเข้าชม Vaxholms fästning museum ได้ สามารถใช้ Stockholm Card เข้าชมฟรี จากปกติค่าเข้าชม 50 SEK

จากท่าเรือ Österhamnen ที่มองไปเห็น Vaxholms fästning ผมเดินย้อนกลับทางเดิมกลับมาที่เดิมดูป้ายบอกทางไป Rådhustorget จัตุรัสซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ว่าการเมืองและ Vaxholms Turistbyrå หรือศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว เดินไปไม่ไกลนักก็ถึงแล้วแต่ Tourist Information ปิดแล้ว

เดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์เดิม รอรถเมล์สาย 670 เหมือนเดิมกลับสต็อกโฮล์ม พอถึงสถานีรถไฟใต้ดิน Tekniska högskolan ก็ลงรถเมล์และต่อรถไฟใต้ดินสาย T14 ไปที่สถานี Östermalmstorg และต่อรถเมล์สาย 2 กลับถึงโฮสเทล
ประมาณสองทุ่ม

วันนี้ตระเวนทั่วกรุงสต็อกโฮล์มจริงๆ เล่นเอาปวดเมื่อยขาไปหมด แต่ยังไม่จบทริปเพียงแค่นี้ พรุ่งนี้จะไปตะลุยเที่ยวกันต่อที่ประเทศนอร์เวย์ อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ

รูปสวยมากค่ะ ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ

แวะมาชมครับ และมาตามเที่ยวต่อครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ตามมาเที่ยวด้วยครับ

มาเที่ยวต่อค่ะ  Nordiska Museet ตึกสวยจริงๆ

เที่ยวสวีเดนด้วยคนค่ะ อยากไปมากเลย

สวยมากค่ะ น่าไปเที่ยว
รอนอร์เวย์นะคะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ตามมาต่อค่ะ ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

รอไปเที่ยวนอร์เวย์ต่อค่ะ

ที่สวีเดนวันนี้ท้องฟ้าครึ้มมาเชียวครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ขอบคุณสำหรับภาพสวย และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากค่ะ

เคยไปเที่ยวบ้านญาติที่สก๊อตโฮม ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยเพราะพี่สาวชอบชอปปิ้ง เลยได้แค่เดินเที่ยวซื้อของเท่านั้นเอง เพราะไปกันหลายคนเกรงใจเจ้าของบ้านที่เค้าพาไปด้วย พอดีไม่เก่งด้านภาษา เสียดายมาก

ผมไปเดือน ต.ค. Kungliga Slottet หรือ The Royal Palace  มันปิดหรอครับ

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

บรรยากาศบรรเจิด สวยจังเลย

บรรยากาศดูครึ้มฟ้า ครึ้มฝนนะครับ
คงเดินได้สบายทั้งวันเป็นแน่

 ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆค่ะ

คุณ GuY (vicked) ครับ Kungliga Slottet เปิดให้เข้าชมได้ในระหว่างวันที่ 14 พ.ค.–25 ก.ย. ทุกวันตั้งแต่ 10.00–17.00 น. เดือนตุลาปิดครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^