สวัสดีครับ ....
ขออนุญาตแซงคิวรีวิว TBA2011 ที่ดองไว้
เพราะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง สดๆ ร้อนๆ เมื่อวานจรดวันนี้ครับ
อย่างที่หลายๆ ท่านก็ได้ทราบกันว่ามีเหตุการณ์น้ำท่วม ตอนนี้เรียกได้ว่าทุบสถิติเมื่อปี 2548 ไปเรียบร้อย กับเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ ปี 2554 ก็นับว่าสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงมากพอสมควร
อย่างตัวผมเอง ที่เป็นคนอยู่เชียงใหม่แท้ๆ ก็เพิ่งจะทราบข่าวจาก Blueplanet ก็ช่วงวันพุธที่ 28 ตอนเช้าว่าแม่น้ำปิงกำลังจะล้นตลิ่งแล้ว และคิดว่าน่าจะท่วมแต่คงไม่หนักเท่ากับปี 2548 แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะพื้นที่น้ำท่วมลามไปค่อนข้างกว้าง แต่ก็ไม่ได้กระทบกับพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปกัน และรีสอร์ทที่พักที่ได้รับผลกระทบหลักๆ คือรีสอร์ทที่อยู่ริมแม่น้ำปิง และที่พักย่านไนท์บาซาร์ ....
แต่ก็มีอีกที่พักหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ครั้งแรก
นับจากที่เพิ่งเปิดได้เมื่อประมาณปี 2552 ที่ผ่านมานี่เอง
นั่นก็คือ Eco Resort หรือ Imm Eco เดิม หนึ่งในโรงแรมค่าย Imm
ที่จับโรงเรียนอนุบาลบ้านเด็ก มาทำเป็นรีสอร์ทแนวธรรมชาติกลางเมือง
เป็นครั้งแรกเช่นกัน ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักมาก จากน้ำท่วมปี 2554 นี้ครับ .....
ส่วนตัวผม รู้จักทีพักแห่งนี้มาตั้งแต่เปิด เพราะเค้าเปิดพร้อมๆ กับโรงแรม Imm ท่าแพ (แต่ส่วนตัวผมพักท่าแพมาบ่อยแล้วครับ ตั้งแต่ยุคพี่ Ex V20 ก็ถลุงกับที่นี่ตลอด ไหนจะโปรฯ แอร์เอเชียโกฯ และโปรฯ อื่นๆ ไหนจะได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ๆ ที่จองห้องไว้แต่มาไม่ได้ ก็มอบห้องพักให้เราไปเปลี่ยนที่นอนกัน เรียกได้ว่าคุ้นเคยกับ Imm ท่าแพตั้งแต่สมัยยุคท่อน้ำมีกลิน จนปัจจุบันแก้ไขเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร)
เนื่องจาก แอร์เอเชียโก เจ้าเก่า คราวนี้เค้าไม่ได้อุโมงค์ผาเมือง(โป้ปด)
เค้าปล่อยโปร 99 บาทสำหรับห้องพักในเชียงใหม่เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ต้องพักก่อน 30 กันยายนนี้ พอดีผมกำลังมองหาที่กบดานเก็บตัวอ่านหนังสือเตรียมสอบให้กับคุณเธอพอดิบพอดี หลายๆ วันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน ก็เลยเข้าทางเลยครับ
ว่าแล้วเจ้า 99 บาทก็มาออกที่โรงแรม Eco Resort แม้ว่าห้องน้ำจะอยูข้างนอก แต่ด้วยมาตรฐาน Imm (แม้จะเปลี่ยนชื่อแตเจ้าของก็คือค่าย Imm อยู่ดี) ก็น่าจะไว้วางใจได้ในมาตรฐาน ก็เลยตัดสินใจจองรวดไป 6 คืนครับ ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน จนกระทั่งมีกำหนดออกเช้าวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม
และแล้ว เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมืองเชียงใหม่ ก็ได้เกิดขึ้นในวันพุธที่ 28 กันยายนนั่นเอง ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่น้ำเริ่มล้นตลิ่ง จนกระทั่งกลางคืนและกลางดึก จนกระทั่งเช้ามืดวันพุฤหัสที่ 29 ก็พบว่าน้ำเจิงนองเต็มไปหมดแล้วนั่นเอง
แต่ก็เหมือนเป็นความโชคดีของเรา ที่คืนวันที่ 28 ผมกับคุณเธอตัดสินใจไมได้เข้าไปพักค้างในคืนนั้นพอดี มิฉะนั้นนู๋แจ๊สมีโอกาสได้นอนแช่น้ำอยู่ที่ Eco Resort เป็นแน่แท้ .......
กระทู้รีวิวนี้ก็จะเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ Before จนกระทั่ง After และการแก้ปัญหาของทางโรงแรมต่อแขกผู้มาเข้าพักนะครับ .....
รอดตัวไปนะนู๋แจ๊สสส เกือบไปแล้ว .....
อันนี้บุ๊กกิ้งของเรากับแอร์เอเชียโกครับ
ทั้งหมด 6 คืนหมดตังค์ไป 594 บาท
ตอนที่ตัดเงิน ตัดเงินที่สิงคโปร์ นะครับ
ถ้าใช้บัตร Mastercard รูดก็จะได้คะแนนสะสมเป็น 2 เท่าครับ
ในวันที่เช็คอิน ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ .....
กรณีจองผ่านแอร์เอเชียโกมา อย่าลืม print ใบ Voucher ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ .....
ก็เรียกได้ว่าทาง Imm ก็ได้ดัดแปลงโรงเรียนอนุบาลบ้านเด็กเดิม
ให้กลายเป็นที่พักที่มีความเงียบสงบมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่
อยากจะบอกว่า ใครต้องการสมาธิ ที่นีหล่ะครับ จัดเต็มได้เลย เงียบมาก
โดยเฉพาะหน้าโลว์ ที่แขกค่อนข้างน้อย และเกือบทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติครับ
ทั้งนี้ เนื่องจากห้องพักส่วนใหญ่เป็นแบบ Dorm ซึ่งมีทั้งห้องนอนแบบ 2 คน (เตียงคู่/เตียงสองชั้น), 4 คน, 8 คน และ 12 คน (ห้องหมู่คณะนี้ Pantip ชอบแจกบ่อยๆ นะครับ) ถ้ามากันเป็นแก๊งค์ที่นี่ก็ค่อนข้างเหมาะทีเดียว แต่ห้อง Dorm ห้องน้ำจะอยู่นอกห้อง อาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนทีต้องการเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ตอนกลางคืนเท่าไหร่ ก็เลยเป็นไปได้ว่า เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยมจากคนไทยเท่าใดนัก
ต้องขอเกริ่นว่า Eco Resort แม้เปลี่ยนชื่อจาก Imm Eco ไปแล้ว
(คงป้องกันการเข้าใจผิดว่าคือ Imm Economy หล่ะมั้งครับ)
แต่เจ้าของก็ยังคงเป็น Imm (Imperial) โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Imm Fusion อ่อนนุชนั่นเองครับ
บรรยากาศแม้จะเป็นยามบ่าย ร่มรื่นเงียบสงบจริงๆ ครับ
อาคารเบื้องหน้านี้ก็คืออาคารหลัก reception อยู่ตรงนี้
และก็จะมีห้องอินเตอร์เน็ต ห้องนั่งเล่นอยู่ที่นี่ครับ แต่ส่วนห้องพักจะอยู่กระจายออกไป
กลุ่มห้องพัก
-- กลุ่มชั้นเดียวด้านซ้ายหน้าสุด มีทั้งห้องแบบ 2 คนและ 4 คน ห้องน้ำรวม
-- กลุ่มห้อง 8 เหลียม สามารถจุได้ 12 คน (ห้องที่พันทิปชอบแจก) อยู่ข้างในลึกเข้าไป
-- กลุ่มห้อง Private มีห้องน้ำในตัว จะอยู่ด้านในสุด เป็นอาคารที่ดัดแปลงอาคารเรียนตึกอนุบาลมาเป็นห้องพัก
-- กลุ่มห้อง Dorm แบบ 2 คน 4 คน ห้องน้ำรวม อยู่ตรงอาคารสระว่ายน้ำข้างในสุด
บ้านคุณหมอน้ำท่วมป่าวคับเนี่ยยย
จากคุณ : หล่อตรงไหน ตาต้องถึง จึงจะหล่อบรรยากาศทางเข้าห้องพักกลุ่มด้านหน้าครับ
เป็นห้อง Dorm แบบ 2 คนและ 4 คนครับ
ถ้าจองแอร์เอเชียโก 99 บาทมาจะได้นอนโซนนี้เลย
(แต่ถ้าจะไปนอนโซนสระว่ายน้ำก็ได้เช่นกันครับ)
ข้อได้เปรียบของโซนนี้ก็คือ อยู่ด้านหน้า เข้าออกสะดวก ไม่ต้องเดินไกล
แต่ถ้าไปสระว่ายน้ำก็เดินชมสวนไปหน่อยก็ถึงแล้ว .....
(หมายเหตุ : ส่วนนี้เป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากสุดจากน้ำท่วม เพราะพื้นทั้งหมดเป็นไม้ ผนังห้องทำด้วยยิปซั่มน่าจะบวมหมด คาดว่าน่าจะปิด Renovate กันเป็นเดือนเลยครับ)
บ้านผมน้ำไม่ท่วมครับ แต่ที่ทำงานของว่าที่แม่ยายตอนนี้ท่วมอยู่
แต่เนื่องจากไปพักที่ Eco Resort นี่หล่ะครับ
ก็เลยได้มีประสบการณ์ลุยน้ำย้ายของ
แต่ก็ไม่ได้หนักเท่ากับคนที่มีบ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรอกครับ (เห็นใจจริงๆ)
----------------------------------------------------------------------------
โซนนี้มีทั้งหมด 19 ห้องครับ เป็นห้อง Dorm 2 และ 4 คน
หวยออกที่ 1118 ครับ ห้องน้ำอยู่ด้านนอกเป็นทรง 8 เหลี่ยม
แยกชาย-หญิง ซึ่งก็ถือว่าห้องน้ำเค้าก็ทำได้สวยมากๆ ทีเดียว
บรรยากาศโถงกลาง (ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 27 ก่อนน้ำท่วมแค่ 1 วันกว่าๆ)
บรรยากาศดูก็รู้เลยว่า เป็นการปรับปรุงมาจากโรงเรียนอนุบาล
(จึงทำให้ห้องพักทุกห้องในโซนนี้ไม่มีห้องไหนมีห้องน้ำในตัวเลย)
แต่สะอาดสะอ้าน ดูอบอุ่นมากๆ ครับ
แม่บ้านก็เป็นมิตรมากๆ เช่นกัน
ทางเดิน มีแขกอยู่ห้องข้างๆ ครับ ดูไม่เงียบเกินไป
แต่ก็นับว่าอยู่กันค่อนข้างน้อย และเกือบทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ
เรียกได้ว่ามานอนที่นี่ เจอคนไทยก็แค่พนักงานที่อยู่ที่นี่เท่านั้นหล่ะครับ
บรรยากาศในห้อง แม้จะเป็นห้องเล็กๆ ทีเปิดประตูห้องมาเจอเตียง 2 เตียงอยู่คนละฟาก มีโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆ และตู้เก็บของ
แต่บรรยากาศอบอุ่นดีครับ พื้นไม้ให้ความรู้สึกสบายเท้า
คุณเธอเองก็ชอบบอกว่า เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การกบดานดีจริงๆ
สิ่งที่คุณเธอชอบมาก ก็คือไฟหัวเตียง ซึ่งมีคนละฟาก จะนอนเล่นอ่านหนังสือก็ได้เช่นกัน แม้จะอยู่แค่คนเดียว ก็อยู่ได้ (ห้องจองมาแบบ Share Room ก็จริงแต่ 99 บาทของแอร์เอเชียโกนอนได้ 2 คนนะครับ ก็เท่ากับว่า เหมาไป 1 ห้องเลย)
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ทางเดินไปยังห้องน้ำรวมครับ .....
กลางคืนอาจจะดูสลัวๆ คุณเธอก็เล่นเปิดไฟทุกดวง จน รปภ. ตกใจ เหอๆ
แตที่น่าตกใจกว่า ที่คุณเธอเล่าให้ฟังก็คือ ....
ตอนคุณเธอกำลังแปรงฟันอยู่ยามดึก
คุณเธอก็พบกับผู้หญิงใส่ชุดนอนสีแดงแปร๊ดเดินเข้ามาในห้องน้ำ
คุณเธอก็ตกใจ (เพราะบรรยากาศเงียบสงบมาก....) กรี๊ด !!
ปรากฎว่าเป็นคุณฝรั่งที่อยู่ห้องใกล้ๆ กันนั่นเอง Sorry กันใหญ่
ได้อารมณ์เหมือนมานอนในหอเข้าค่ายติวเข้มดีจริงๆ
(และด้วยความที่ผมตั้งใจให้เธอได้สมาธิเต็มที่ก็เลยไม่ค่อยได้ไปกวน แต่ขอถ่ายรูปมาทำรีวิวในฐานะเป็นสปอนเซอร์รูดบัตรก็แล้วกัน หุ หุ)
บรรยากาศในห้องน้ำรวม (หน้าตาเหมือนกันทั้งชาย-หญิง)
มีห้องสุขา และห้องอาบน้ำซอยแยกเป็นห้องเล็กๆ
แต่ผมว่าประตูกั้นห้องแยกเพศดูไม่ค่อยมิดชิดเทาไหร่นะ
อดเป็นห่วงในความปลอดภัยไม่ได้ แต่ดู รปภ. ก็ตั้งใจทำงานกันดี
จาก คห.11 เป็นผม ผมก็หลอนครับพี่หมอ ๕๕๕
จากคุณ : natthawatจากห้องพักโซน 99 บาท เราจะไปบุกโซนสระว่ายน้ำกันบ้าง ...
สำหรับสระว่ายน้ำที่นี่ เดิมมีชื่อว่า "สระซาร่า" ครับ
ถ้าถามคนรุ่นๆ ผม (รุ่นอายุ 25 ปี++ แต่ไม่เกิน 40 ปี) น่าจะรู้จักสระแห่งนี้เป็นอย่างดี เพราะด้วยความที่เป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่มากอยู่ในโรงเรียนอนุบาล แถมผมเรียนที่ปรินส์อีก ก็เลยมีโอกาสได้มาใช้บริการสระนี้บ่อยๆ ตอนเด็กๆ แถมยังจำได้ว่าเคยจมน้ำที่สระนี้อีกด้วย ....
ก็นับว่าสระที่นี่ก็มีความเก่าแก่ แต่ทาง Imm ก็ได้ Renovate ซะเอี่ยมเลย
กลายเป็นสระซาร่าที่น่าว่ายมากๆ สำหรับคนนอกก็มาว่ายได้นะครับ เค้าเก็บคนละ 100 บาทต่อครั้งครับ
ปากทางเข้าส่วนสระว่ายน้ำ เดินผ่านร้านอาหาร และห้องแปดเหลี่ยม (รวม 12 คน) เข้าไปก็จะเจอครับ
สำหรับห้องพักที่พันทิปชอบแจก รู้สึกจะเป็นห้องแบบ 8 คนนะครับ
น่าจะไม่ใช่ห้องนี้ เพราะห้องนี้จุได้ถึง 12 คนเลยทีเดียว
และมีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ จะซื้อแบบเหมาห้องเลยก็ได้
(เหมือนเค้าจะคิดหัวละ 300 บาทครับ ถ้าจ่าย 4,800 บาทก็เอาห้องนี้ไปเลย)
เดินลึกเข้ามาก็จะถึงโซนสระว่ายน้ำแล้ว
ข้างๆ กันก็จะเป็นห้องพักแบบ Private มีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ ...
รู้สึกราคา Walk-in เค้าจะคิดคืนละ 1,100 บาท
ดูแค่บันไดขึ้นตึก ก็แสดงถึงความเป็น The Old School จริงๆ ....
มีสะพานลืนด้วยนะเนี่ยะ ....
บรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงเรียนอนุบาลจริงๆ .... แต่ข้างในห้องมีห้องน้ำในตัวหมดนะครับ รู้สึกโซนนี้จะมีคนอยู่กันเยอะหน่อย
(ห้องพักโซนนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครับ เพราะอยู่ค่อนข้างสูง แถมอยู่โซนสระว่ายน้ำที่ยกขึ้นมาจากพื้นดินเมตรกว่าๆ อยู่แล้ว)
พระเอกของเราก็คือ ... สระซาร่าครับ ....
สระว่ายน้ำในตำนานอายุน่าจะร่วมๆ 30 ปี
แต่อย่างที่บอกคือทาง Imm เค้าก็ renovate ใหม่ใสกิ๊ก น่าว่ายเป็นอย่างยิ่ง
เท่าที่ดูๆ เหมือนเค้าไม่ได้เปลียนกระเบื้องนะครับ เป็นของดั้งเดิม
สระซาร่านับว่าเป็นสระที่ลึกมาก .... (สำหรับโรงเรียนอนุบาล)
เพราะจุดที่ลึกที่สุด ลึกตั้ง 2.9 เมตรเลยนะครับ
บริเวณอาคารที่มีต้นไม้สีเขียวๆ 2 ชั้นติดสระว่ายน้ำ ก็จะเป็นห้องพักแบบ Dorm แยกชาย-หญิงครับ ชั้นล่างให้ผู้ชายอยู่ ชั้นบนเป็นของผู้หญิงครับ มีห้องพักทั้งแบบ 2-4-8 เตียงให้เลือกอยู่กันได้ตามสบาย มากมายหลายห้อง แต่รู้สึกโซนนี้จะเงียบๆ นะครับ จะมีแขกที่มาว่ายน้ำกันมากกว่า
สำหรับฝรั่งที่อยู่ยาวๆ มีตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ พร้อมลานตากผ้า อยู่ยาวกันได้สบายๆ ครับ (ไม่ค่อยเห็นโรงแรมไหนมีบริการนี้)
พี่หมอครับ ไกลจากท่าแพมากหรือเปล่าครับ สนใจจะจองอยู่
จากคุณ : pichet152ห้องพักที่อยู่บนอาคารนี้ ก็คล้ายๆ กับห้องพื้นไม้ในอาคารชั้นเดียวแรกสุด
เพียงแต่ว่า เป็นพื้นหินขัด ห้องน้ำก็จะอยู่ปลายอาคาร อารมณ์หอพัก
ก็เลยแนะนำว่า ถ้าพักเอาบรรยากาศ พักตึกแรก (ที่เราไปพักกัน) จะดีกว่า แต่อย่างที่บอกครับว่า หลังน้ำท่วมไม่รู้ว่าเค้าจะ Renovate เสร็จเมื่อไหร่ เพราะเสียหายหนักสุดเลย
Eco Resort อยู่ถนนบำรุงราษฎร์ ครับ อยู่ไกลจากท่าแพพอสมควร
แต่จะอยู่ไปทางฟาก สถานีขนส่งอาเขตครับ เรียกได้ว่า จากอาเขตมาไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงแล้วครับ ...
-----------------------------------------------------------------------------
ห้องแบบเตียง 2 ชั้น ดูน่ารักดีนะครับ (คิดราคาเท่ากัน)
วิวจากบนชั้น 2 (ชั้นผู้หญิง--แต่ไม่มีแขกเลยวันนี้) มองไปเห็นอาคารที่เป็นห้อง Private มีห้องน้ำในตัว (The Old School)
ภาพความทรงจำวัยเด็กของผมเริ่มกลับมาอีกครั้ง
ผมจำภาพอาคารเหล่านี้ได้ดี .... บริเวณสระเด็กนั่นหล่ะครับ
เคยมีเด็กน้อย(ผมเอง)อายุ 5 ขวบจมน้ำอยู่ตรงนั้น คนอื่นช่วยกันใหญ่ สำลักน้ำไปหลายอึก ....
(แต่สระนี้เท่าที่ทราบไม่เคยมีประวัติร้ายแรงอะไรนะครับ)
พอเห็นความลึก ... ก็ขนลุกซู่แล้วครับ
ผมยอมรับว่าผมกลัวอยู่ 2 สิ่ง คือ ความลึก และ ผมกลัวงู ครับ .....
(ใครว่าสัตวแพทย์ไม่กลัวงู --- มีอยู่ไม่น้อยนะครับที่ไม่ชอบเอาซะเลยกับสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ผมนีเข้าขั้นหลอน ห้ามดูหนังพวกงูบนเครื่องบิน หรือ Anaconda เด็ดขาด)
ผมปิดท้ายภาค Before .... ด้วยศาลาหลังนี้ครับ .....
ครั้งหนึ่งเคยเป็นศาลาที่เด็กๆ รอผู้ปกครองมารับ
ปัจจุบันก็กลายเป็นศาลาให้แขกมานั่งรอรถมารับแทน
ไม่อยากคาดถึงภาคAfter แต่ก็ต้องขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
จากคุณ : low batt. [30 ก.ย. 54 02:13:50 ]A:49.49.138.202 X: TicketID:329936มาตามดูน้ำท่วมครับ อิอิ
จากคุณ : partompong007วันพุธที่ 28 กันยายน 2554
เวลา 12.00 น. มีประกาศว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงมาก
จากจุดวิกฤติที่ 3.7 เมตร ปาเข้าไปถึง 4-4.96 เมตร (ในเวลาดึก)
เวลา 19.00 น. ข่าวแว่วว่าระดับน้ำมาถึงบริเวณซอยวัดเชตุพน ข้างโรงเรียนปรินส์ (ห่างจากที่พักราว 500 เมตร)
เวลา 20.30 น. คุณเธอออกจากห้องพัก โดยไม่มีประกาศใดๆ จากทางที่พัก อีกทั้ง เนื่องจากเป็นช่วงเวลากบดาน คุณเธอจึงแทบไม่ทราบข่าวสารเลยว่า โลกข้างนอกเป็นอย่างไร .... คุณเธอเอานู๋แจ๊สออกจากที่พัก
เดิมทีคุณเธอกะว่าจะกลับเข้ามาอีกในช่วงดึก แต่ผมปรามไว้ว่า ตอนนี้ดึกแล้ว เธอก็เลยไม่ได้กลับเข้าไปในห้องพักคืนนั้นครับ .... (ไม่งั้นกลายเป็นแจ๊สจมน้ำไปแล้วแน่ๆ)
เวลาประมาณ 22.00 น. (จากที่ได้ยินมา) ทางเจ้าหน้าที่โรงแรมได้มีการอพยพแขกที่เข้าพัก ย้ายไปพักโซนข้างสระว่ายน้ำ มีการตัดไฟห้องพักในโซนชั้นล่าง
เวลาประมาณ 0.00-2.00 น. น้ำเริ่มเข้ามาในพื้นที่โรงแรม ทำนบกระสอบทรายกั้นเอาไว้ไม่อยู่ น้ำจึงไหลเข้ามาในพื้นที่โรงแรมทั้งหมด
--------------------------------------------------------------------------
เช้าวันที่ 29 กันยายน 2554
เนื่องจากที่ทำงานวาที่แม่ยายผมก็โดนน้ำท่วมเหมือนกัน (แต่ไม่สูงมาก) ก็เลยต้องไปดูกันแต่เช้า ก็เลยรวดเข้าไปที่ที่พักกัน ซึ่งผมเองก็คาดว่า น่าจะโดนน้ำท่วมไปบ้าง แตคงไม่หนักเท่าไหร่ ....
ระดับน้ำตอน 9.30 น. ลามไปถึงหน้าโรงพยาบาลแมคคอร์มิค
ด้วยความที่เราเอารถยนต์ และมอเตอร์ไซด์ ขับไปคู่กัน
พอถึงจุดที่เจอน้ำ ผมตัดสินใจให้จอดรถไว้ แล้วใช้มอเตอร์ไซด์ลุยน้ำไปต่อ (นู๋แจ๊สลุยน้ำไม่ได้ -- ไว้รอมีรถยกสูง Prerunner ก่อนแล้วกันนะ) ก็พบว่า ระดับน้ำบริเวณถนนบำรุงราษฎร์ ปาเข้าไปค่อนแข้ง พอเข้าไปในโรงแรมนี่เกือบหัวเข่าเลยทีเดียว เสียวมอเตอร์ไซด์ดับมาก แต่เราก็ได้ที่จอดรถ คือบริเวณฟุตบาทข้างศาลานั่นเอง .......
ภาพที่เห็นก็คือ ปริมาณน้ำมากมาย อยู่ในโรงแรม เข่าเริ่มอ่อนครับ ....
ค่อยๆ เกาะกันเดินกันไป ลุยน้ำไปเรื่อยๆ
ข้างหน้าคืออาคารแรก ห้องพักเราอยู่ตรงนั้น จะเป็นไงบ้างหนอ .....
บริเวณอาคาร Lobby น้ำค่อนข้างสูงครับ สูงประมาณหัวเข่า ค่อยๆ ลุยกันไป
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์เอาใจช่วยนะค่ะ
จากคุณ : ตามพระจันทร์น่าไปค้างนานๆมากเลยค่ะ ขอให้น้ำท่วมหมดไปเร็วๆ เดือดร้อนกันเยอะมากรอบนี้
ขอบคุณหมอยุ่งฯ ที่มารีวิวค่ะ ^__^
รอชมภาค After ครับคุณหมอ
ผมเคยไปพักอยู่ครั้งนึง ตอนไปเชียงใหม่ครั้งแรกเลย
สงบเงียบดีจริงๆ :)
แว๊บแรกที่เห็น น้ำเข้าไปในห้องด้วย แต่น้ำสูงแค่ประมาณ 5 เซนติเมตร แต่น้ำแค่นี้ก็ทำให้พื้นไม้บวมได้หมดจริงๆ ครับ ....
แม่บ้านกำลังเร่งเก็บห้องต่างๆ กันอยู่ครับ
เราไขกุญแจเข้าไป ก็พบว่าข้าวของต่างๆ เราอยู่ครบ
โดยทางแม่บ้านได้ช่วยเอาข้าวของที่วางบนพื้น ขึ้นมาวางไว้บนเตียงหมดเลยครับ ทุกอย่างเรียบร้อย แต่แค่เห็นน้ำบนพื้น ผมก็อดใจหายแทนเจ้าของโรงแรมไม่ได้จริงๆ .... ครั้งแรกของเขาเลย
ห้องที่เคยอบอุ่น น่ารัก กลายเป็นมีน้ำเข้ามาในห้อง ....
ไม่เคยพบไม่เคยเห็น แต่ผมเข้าใจอารมณ์เจ้าของบ้านที่โดนน้ำท่วมจริงๆ ...
ใจหายครับ .......
ผนังเป็นยิปซั่ม -- บวมน้ำแน่ๆ
พื้นเป็นไม้ -- บวมแน่นอน
เฟอร์นิเจอร์ไม้ -- น่าจะเสียหายมิใช่น้อย
แอร์ 19 เครื่อง (ทุกห้องที่อยู่ในโซนนี้) เสียหมด เปลี่ยนใหม่ได้เลย ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ห้องที่แม่บ้านเก็บเรียบร้อยแล้ว
เหลือแต่รอน้ำแห้ง คงจะได้ปิด Renovate กันยาว .....
บริเวณโถงกลาง คห. 7 ในวันนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วครับ ....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ทางไปห้องน้ำรวม ... คห. 11 กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว .....
จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์หมดเรียบทุกห้องครับ .....
ทางแม่บ้านก็ได้มาช่วยกันขนข้าวของ
โดยตอนแรก ทางโรงแรมยื่นข้อเสนอว่า
จะย้ายไปพักที่ตึกสระว่ายน้ำไหม ยังคงพร้อมให้บริการ
มีน้ำไฟครบ เพียงแต่ไม่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้น
ในเบื้องต้น เราก็ตอบตกลงไป โดยที่ยังไม่ทันได้เห็นว่าสภาพเป็นอย่างไร ...
ปล. แม่บ้านและพนักงานใจดีกันมากๆ ครับ เห็นพี่แม่บ้านคนนึง บ้านก็น้ำท่วมเหมือนกัน แต่ต้องมาเคลียร์ที่ทำงานก่อน เห็นใจจริงๆ ครับ
ขออนุญาตปาดยามวิกาลค่ะ อยากทราบระดับน้ำตอนนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้างค่ะพอดีมีญาติผู้ใหญ่อยู่ที่นั่นจะได้วางแผนกันถูก ขอบคุณค่ะ
จากคุณ : ทิชชู่จู้จี้ระดับน้ำเห็นว่าคืนนี้เพิ่มสูงอีกนะครับ
เท่าที่ survey มาตอนก่อนเที่ยงคืน
รู้สึกว่าระดับนี้น่าจะ 4.90 เมตรอีกแล้ว (ที่สะพานนวรัฐ)
ดังนั้น พื้นที่ที่จมน้ำอยู่ น้ำไม่น่าจะแห้งง่ายๆ ครับ
ดังนั้นโปรดหลีกเลี่ยงโซนไนท์บาซาร์ - ถนนช้างคลาน และฝั่งตะวันออกของเมืองอย่างโซน ถนนแก้วนวรัฐ ถนนเจริญเมือง
น้ำท่วมไปถึงสถานีรถไฟนู้นเลยครับ (น้ำค่อนข้างลึกด้วย)
(แต่สถานีขนส่งอาเขตยังปกติดีครับ)
การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดเพราะมีการปิดถนนมหิดลช่วง
จากสี่แยกสนามบินไปทางหนองหอย ตอนนี้แยกสนามบินเลยกลายเป็นสามแยกชั่วคราว และสะพานยกระดับก็งดใช้ชั่วคราวครับ
แต่ถ้ามาเชียงใหม่ พักในเขตคูเมืองหรือทางฝั่งเชิงดอย (ม.เชียงใหม่) ไปเที่ยวดอยสุเทพ สวนสัตว์ ไนท์ซาฟารี ฝั่งนั้นไม่มีปัญหาอะไรครับ
-----------------------------------------------------------------------------
เราเอาของมาวางกันที่ Lobby กลางก่อน ... แล้วก็ไปดูห้องใหม่
ปรากฎว่า คุณเธอเห็นระดับน้ำแล้วขอบายดีกว่า .... คิดว่าลุยน้ำไม่สนุกแน่ๆ
โดย จนท. ก็บอกว่า ยังคงมีแขกเหลือพักอยู่ที่ตึกใหม่
ระดับน้ำประมาณค่อนแข้งครับ ไม่ลึก ... แต่ไม่สนุกแน่ถ้าจะลุยน้ำ
มาถึงแล้วครับ โซน The Old School
ห้องใหม่ที่ย้ายไปอยู่บนชั้น 2 ตึกสระว่ายน้ำ ยังไงน้ำไม่ท่วมแน่
แต่เข้าออกอาจจะลำบากเกินไปจริงๆ
ที่สำคัญ แขกที่เหลืออยู่ก็ทยอยเช็คเอ้าท์ออกกันแล้ว
คุณฝรั่งคนนึงพูดขึ้นมาว่า No food No noodle No ฯลฯ
แล้วไอจะอยู่ได้อย่างไร ......
คุณแม่บ้านก็เลยได้ช่วยขนของกลับมาให้ที่ Lobby เหมือนเดิม
(บริเวณสระว่ายน้ำเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ)
แต่สภาพแบบนี้ คิดว่าแขกจะอยู่กันต่อไหวเหรอครับคืนนี้ .....
ภาพประกอบครับ ....
รู้สึกว่าจะมีแขกอยู่ เค้าก็เลยจัดไลน์อาหารเช้าให้แบบพอเท่าที่จะจัดให้ได้ตรงบริเวณโถงข้างสระว่ายน้ำ ก็เห็นใจทั้งแขก และ พนักงาน รวมไปถึงเจ้าของ เพราะเรื่องน้ำท่วมเป็นเหตุที่สุดวิสัยจริงๆ .....
ในเมื่อการเข้าออกลำบากมากๆ และคงไม่สามารถที่จะลุยน้ำมาหาอะไรทานได้ทุกมื้อเป็นแน่แท้ (เพราะถ้าจะลุยน้ำต้องลุยประมาณ 300-400 เมตรถึงจะถึง 7-Eleven และร้านอาหารมากมายนะครับ)
เราก็เลยตัดสินใจเช็คเอ้าท์หล่ะครับ ...
แต่ทีนี้ เรายังเหลือคืนที่จองไว้แล้วอีก 2 คืนจะทำอย่างไรกันดี ??
จริงๆ ผมกับคุณเธอ เราคิดว่าเราปลงแล้วหล่ะ ว่าน้ำก็ท่วม ไม่เป็นไร
แตหลังจากที่ คุณ Front ไม่สามารถอธิบาย และไม่ได้ช่วยหาทางออกให้สำหรับแขกที่จะต้องพักในคืนต่อไป เราก็เลยตัดสินใจดำเนินมาตรการต่อไป
เรื่องของเรื่องคือ ....
ทางเจ้าหน้าที Front ไม่สามารถตัดสินใจอะไรให้ได้
โดยแจ้งในเบื้องต้นว่า ให้ติดต่อแอร์เอเชียโก (อ่าวเค้าเป็นเอเจ้นท์ จริงๆ เค้าก็หมดหน้าที่แล้วนะ) อีกทั้งโปรโมชั่น 99 บาทตัวนี้สามารถพักคืนสุดท้ายได้แค่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น (นั่นก็คือคืน 29-30 ที่เราเหลืออยู่) เราก็เลยถามว่า อ่าวแล้วแขกคนอื่นๆ ของวันนี้ให้ทำอย่างไรกัน
จนท. แจ้งว่า ได้จัดห้องพักบริเวณโซนสระว่ายน้ำให้แล้ว ให้แขกย้ายไปอยู่กันตรงนั้น (เอ่อ ทุกท่านลองดูภาพประกอบนะครับ ว่าท่านจะลุยน้ำไปพักกันอยู่ไหมเอ่ย แม้ว่าห้องพักจะยังพักได้ แต่ท่านจะไหวมั้ย ยังคงสมควรให้แขกพักอยู่หรือเปล่า) เราก็เลยบอกว่า งั้นลองประสานงานดูกับทางผู้มีอำนาจหน่อยได้ไหม เพราะเราก็อยากรู้ว่า เค้าจะจัดการอย่างไรกับ คนที่มีบุ๊กกิ้งจองวันนี้ และวันต่อๆ ไป
เท่าที่สังเกตคือคุณ Front ไม่สามารถอธิบายอะไร และเหมือนไม่ได้ช่วยประสานงานอะไรให้เลยจริงๆ กลายเป็นว่าลูกค้าทุกรายต้องจำยอมเช็คเอ้าท์และเดินลุยน้ำออกจากที่พักไป
แน่นอนครับ เราก็ต้องลุยน้ำออกไปเหมือนกัน พร้อมกับข้าวของ ....
(เล่นเอาคุณเธอปวดแขนเลยทีเดียวหล่ะ)
ทั้งนี้ผมขอแยกเป็นสองประเด็นนะครับ
1. เรื่องน้ำท่วม ไม่มีแขกคนไหนเค้าบ่นว่า ทำไมน้ำต้องท่วม หรือโรงแรมไมมีมาตรการป้องกันน้ำท่วม เพราะว่า "น้ำท่วมเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ"
2. การแก้ปัญหาเรื่องการย้ายแขกไปพักในห้องที่น้ำไม่ท่วม แต่เข้าออกต้องลุยน้ำเข้าไป จึงไม่ค่อยจะเป็นทางออกที่ดีนัก ลองนึกสภาพดูนะครับ เหมือนเป็นการบีบให้เช็คเอ้าท์กลายๆ ซึ่งแน่นอนว่าแขกส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเช็คเอ้าท์กัน โดยทางโรงแรมไม่ได้มีวิธีการจัดการกับแขกที่จองห้องพักไว้ในคืนต่อไป (อย่างเช่นเราถามว่า แล้วคุณโทรบอกลูกค้าที่จะมาพักวันนี้ไหม เค้าบอกว่า เราไม่มีเบอร์ -- อ่าวแปลว่าจะต้องให้ลูกค้ามาเห็นสภาพน้ำท่วมด้วยตาตนเองอย่างนั้นเหรอครับ)
ปล. เพิ่มเติมข้อความครับ
แห่ะๆ .... เรื่องยังคงไมจบหรอกครับ
เพราะจริงๆ ถ้าทางผู้ใหญ่เค้าได้ฝึกวิธีการพูดคุยให้กับ Front มากกว่านี้
ถ้าหาก Front บอกว่า ว่าเดี๋ยวจะตามเรื่องให้ว่าจะทำอย่างไรได้บ้างกับอีก 2 คืนที่เหลือ แล้วจะโทรบอก อันนี้ก็คงจบปัญหา
แต่เราออกจากห้องพักมา โดยเหมือนกับว่า กลายเป็นลูกค้าต้องทิ้ง 2 คืนที่เหลือไปจริงๆ ใช่ไหม รู้สึกคาใจ และทางโรงแรมก็ไม่ได้เคลียร์บุ๊กกิ้งทีค้างอยู่ ....
ผมจึงตัดสินใจโทรหา Imm สำนักงานใหญที่กรุงเทพ
นั่นก็คือเบอร์เดียวกับ Imm Fusion อ่อนนุชนั่นแลครับ
โดยปรึกษาว่า เคสทำนองนี้ ทางโรงแรมจะทำอย่างไรได้บ้าง
สำหรับ 2 คืนที่เหลือในเมื่อโรงแรมไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติอันเนื่องมาจากน้ำท่วม และห้องทีจัดไว้ให้คงไม่สามารถลุยน้ำเข้าไปพักได้เป็นแน่แท้ ซึ่งผมเองก็โชคดีที่ได้มีโอกาสคุยกับทาง Manager ซึ่งคุณ Manager ที่กรุงเทพก็ได้ช่วยประสานงานให้เป็นอย่างดีครับ ....
คือผมเองก็เข้าใจว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ Eco Resort เจอเหตุการณ์หนักแบบนี้ แต่ผมเองก็อดเห็นใจคุณฝรั่งที่ต้องทยอยเช็คเอ้าท์เดินลุยน้ำออกไป อย่างรายนี้ยังไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะไปนอนไหนดีด้วยซ้ำไป ....
ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง .... ก็มีสายเข้ามาครับ ....
เป็นเสียงคุณผู้หญิง เข้าใจว่าคงเป็น GM ของที่นี่หล่ะ
ผมจำชื่อเธอไม่ได้เพราะผมไม่อยากจะจำเท่าไหร่
เพราะเธอพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะสู้ดีครับ ....
บทสนทนาก็ประมาณนี้หละครับ เท่าที่ผมจำได้ ผมพยายามเป็นกลางที่สุดแล้วนะ (และย้ำว่า ผมไม่ได้ขออะไรไปซักอย่างเดียว ผมอยากจะรู้ว่าโรงแรมจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร ไม่ใช่แค่ลูกค้าแบบผมนะ แต่หมายถึงลูกค้าคนอื่นๆ ด้วย)
ภาพประกอบ : บริเวณสี่แยกโรงเรียนปรินส์ หน้าร้านบั๊ด น้ำท่วมค่อนแข้งครับ ห่างจากที่พักประมาณ 200 เมตร
หมอยุ่ง : สวัสดีครับ
คุณผู้หญิง : สวัสดีค่ะ คุณได้โทรไปรายงานที่กรุงเทพใช่ไหมคะ ??
หมอยุ่ง : ใช่ครับ เพราะทาง Front ไม่สามารถทำอะไรได้เลยครับ
คุณผู้หญิง : แล้วเมื่อคืนคุณไปอยู่ที่ไหนมาคะ เขาอพยพกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และเรื่องน้ำท่วมนี่ก็เป็นเหตุสุดวิสัย .....
หมอยุ่ง : เอ่อ ... สรุปว่านี่ลูกค้าเป็นคนผิดใช่ไหมครับเนี่ยะ ....
คุณผู้หญิง : ไม่ใช่ค่ะ คือทางเราได้จัดเตรียมห้องพักสำหรับแขกไว้แล้วบริเวณสระว่ายน้ำ น้ำท่วมไม่ถึง
คุณเธอ : แต่บริเวณนั้นน้ำท่วมต้องเดินลุยน้ำเข้าไปคงไม่สะดวกกระมังคะ
(แล้วคุณเธอก็อธิบายว่าเป็นอะไรยังไงต่อ)
คุณผู้หญิง : แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ !!!
หมอยุ่ง : เอ่อ แล้วถ้าถามไปจะได้อะไรเหรอครับ ?? (แล้วจะถามทำไม)
คุณผู้หญิง : ก็จะบอกทางไปที่พักแห่งใหม่ค่ะ
หมอยุ่ง : ที่ไหนเหรอครับ บอกมาได้เลยครับ
คุณผู้หญิง : Imm ท่าแพ ค่ะ แต่ขอตรวจสอบห้องพักก่อนนะคะ เพราะห้องพักค่อนข้างเต็มและมีแขกจากที่อื่นในเครือย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เยอะมาก คิดว่าภายใน 30 นาทีน่าจะเช็คอินได้
คุณเธอ : จริงๆ ถ้าไม่หากทาง Eco ไม่สะดวกให้ไปพักที่ท่าแพ เราขอเป็นสิทธิ์ในการมาพัก 2 คืนทีหลังแทนก็ได้นะคะ .... (เนื่องจากเราเองก็รู้ว่า ราคาต่างกัน และเรามีเจตนาชัดเจนโดยอยากทราบการแก้ปัญหาของทางนี้จริงๆ)
คุณผู้หญิง : ทางเราสะดวกให้ไปพักที่ท่าแพมากกว่าค่ะ ...
โอเคครับ สรุปวาทาง Eco ได้ Transfer เราไปอยู่ Imm ท่าแพ
ซึ่งเป็นโรงแรมเจ้าของเดียวกัน (แต่เรื่องก็ยังคงไม่จบครับ)
น้ำท่วมหน้าโรงเรียนปรินส์ .....
ผ่านไปแป๊บนึง คุณ จนท. ก็บอกว่า
สามารถเข้าไปเช็คอินที่ Imm ท่าแพ ได้เลย
และกำชับว่า ตอนนี้ได้มาแค่ห้องเดียวเท่านั้น ห้องอื่นเต็มหมด
(แต่ผมก็ไม่ทันได้ถามต่อว่า แล้วสรุปว่าเค้าจัดการกับลูกค้าคนอื่นยังไงกัน)
ปิดท้ายแล้วครับ ....
ณ Imm ท่าแพ
เราก็เช็คอินตามปกติครับ ...
ตอนแรกได้ห้องมาแค่คืนเดียว
แล้วคืนวันพรุ่งนี้ดูสถานการณ์อีกทีหนึ่ง ว่าถ้าน้ำลด
จะต้องกลับไปพักที่ Eco Resort เช่นเดิม (อึ้งไปเลยทีเดียว)
โดยทาง เจ้าหน้าที่ย้ำว่า ทาง Eco Resort ได้จ่ายส่วนต่างนี้ให้กับคุณ
เพราะห้องพัก Imm ท่าแพ กับ Eco Resort ราคาไม่เท่ากัน ....
(เอ่อ โทดทีนะครับ ลองมาเป็นลูกค้าที่ยืนอยู่ตรงนั้นจะให้รู้สึกอย่างไรดี)
แถมคุณพี่ก็ยังคงย้ำต่อว่า "ไม่รวมอาหารเช้านะครับ"
(เอ่อ เราทราบดีครับ ตอนที่จองมาก็ไม่มีอาหารเช้าอยู่แล้ว)
แต่ในที่สุดทาง Eco Resort ก็ให้เราได้โยกมาอยู่ที่ Imm ท่าแพ ใน 2 คืนที่เหลือครับ ทั้งนี้ ..... เราพบกว่า ห้อง Superior เต็มจริง แต่ห้อง Deluxe ก็ยังว่างเยอะไม่ได้เต็มทั้งโรงแรมตามที่คุณผู้หญิงคนนั้นบอกครับ .... แถม เราเป็นแขกห้องเดียวที่ย้ายมาจาก Eco ด้วย สรุปว่าแขกที่เหลือเค้าเช็คเอ้าท์ออกเองหมดเลยหรือเปล่า หรือ ถ้าใครลุยน้ำได้ก็ลุยกันไป เหนื่อยแทนครับ
ทั้งนี้ ผมจึงต้องขอแยกเป็นสองประเด็นเช่นเคย
1. ขอเป็นกำลังใจในการฟื้นฟูโรงแรมแห่งนี้ครับ แต่คาดว่าคืนนี้น้ำน่าจะไม่ลดแน่ๆ เพราะเมื่อตอน 4 ทุ่มกว่าผมยังเห็นน้ำยังเต็มแยกโรงเรียนปรินส์ ไม่ได้ลดไปจากช่วงกลางวันเลย แถมกลางคืนน้ำน่าจะขึ้นสูงอีก
2. อยากให้โรงแรมมีแนวทางในการจัดการกับลูกค้าที่จองห้องพักไว้แล้ว หรือแขกที่พักต่อเนื่อง เช่นการแจ้งทางอีเมล์/โทรศัพท์ หรือการเสนอทางเลือกในการชดเชยอื่น อาจจะไม่จำเป็นต้อง Transfer แบบนี้ก็ได้ อาจจะเป็น Voucher ในการเข้ามาพักในคราวหลัง ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ
เห็นสภาพแล้วตกใจเลยครับ ไม่คิดว่าเชียงใหม่จะท่วมขนาดนี้
ช่วงสอบเสร็จ กำลังคิดอยู่ว่าจะแบคแพ็คไปเชียงใหม่อยู่พอดี คงต้องเลื่อนไปก่อน =="
เป็นกำลังใจให้ทางโรงแรมหลายๆแห่ง และชาวเชียงใหม่ครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ปีนี้ น้ำท่วมหลายที่มากๆๆ
จองไปเชียงใหม่ ตุลาปีหน้า จะไปดูกว่างชน หลังโรงเรียนปรินซ์ ขอให้ท่วมปีนี้ปีเดียวด้วยเถิ้ดดด
สู้ๆ เป็นกำลังใจให้คะ 28-31 ตค.จะไปแอ่วเชียงใหม่แล้วเจ้า
จากคุณ : นาสะแบงเห็นข่าวแล้วใจหายครับ ขอให้ผ่านพ้นไปดดยเร็วครับ
จากคุณ : mementototemขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ขอให้ระดับน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติไวๆนะครับ
จากคุณ : coffee kremผมยังติดน้ำท่วม อยู่ที่ ปิงนครา อูยู่เลยครับ คุณเหนือ (หมอยุ่ง)
แต่การจัดการเขามืออาชีพ กว่าเยอะครับ
แวะทัก แวะมาชื่นชมกับรายงานสด ก่อนไปทำงาน
ขอบคุณกระทู้สดเปียกนะคะ อิ อิ....ชอบมากๆคะ
(เลิกงานจะมาอ่านรายละเอียดอีกที)
น่าเห็นใจและเป็นกำลังใจให้คนเชียงใหม่และคนไทยทั่วประเทศที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ครับ
จากคุณ : noiwanwannoiขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะหมอยุ่ง
ขอให้ระดับน้ำลดลงไวๆ นะคะ
ฝากส่งกำลังใจให้ชาวเชียงใหม่ด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิว Before and Afterค่ะ
เหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์กะหมอยุ่งเลยค่ะ
ขอโทษนะครับ เขาลำบากขนาดนี้ promotion ก็ถูก
คุณยังไป "เขี้ยว" กับเขาอีก รู้จักเห็นใจเพื่อนมนุษย์บ้างสิครับ
คุณ "ยุ่งชะมัด......" อย่าโกรธนะครับ
ขอเตือนสติซักเล็กน้อย
เห็นใจทุกๆที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมจริงๆค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^O^
จากคุณ : ตาฟาง...จากคุณ : merit_bee
โรงแรมเชียงใหม่คงเป็นครั้งแรกมังคะ
โชคดีที่แขกยังออกจากโรงแรมได้
น่าจะส่งพนักงานมาเรียนรู้กับโรงแรมที่หาดใหญ่นะคะ
จะได้เรียนรู้วิธีการจัดการ การดูแลแขกที่ติดในโรงแรม
ในภาวะที่ไม่มีไฟฟ้า อาหารจำกัด
หาดใหญ่เจอหลายครั้งแล้วค่ะ...ปีนี้ก็ลุ้นอยู่
โห. ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ เป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกท่านค่ะ แต่แหม เป็นเราเจอคุณ GM พูดแบบนี้ก็แอบปรี๊ดนะ
จากคุณ : MinnieMoChiเข้ามาติดตามเหตุการณ์น้ำท่วมที่เชียงใหม่ค่ะ
เป็นกำลังใจให้ชาวเชียงใหม่ทุกคนนะคะ
มาเกาะติดสถานการณ์ค่ะหมอยุ่ง แอบลุ้นไปด้วย
เห็นความเสียหายจากน้ำท่วมแล้วใจหายแทนเจ้าของทรัพย์สิน
ขอเป็นกำลังใจในการฟื้นฟูโรงแรมและทุกพื้นที่
ที่กำลังประสบอุทกภัย ทั่วประเทศนะคะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
จากคุณ : ด.ช.ฤดูร้อนขอแย้งคคห.62 นะคะ โรงแรมที่มี Promotion ถูกๆ ไม่ได้แปลว่าเราควรยอมรับการบริการที่ต่ำลงนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ ที่เดือนร้อนกันทุกฝ่าย
เราเห็นใจโรงแรมทุกโรงแรมในเรื่องน้ำท่วม แต่โรงแรมมีควรวิธีช่วยเหลือลูกค้าและมีมารยาทที่ดีกว่านี้
ขอให้น้ำที่มาไวไว ก็จงไปไวไวนะคะ เป็นกำลังใจให้คนที่ได้รับความเดือดร้อนค่ะ
จากคุณ : I_love_Somtumเคยไปพักที่นี่เหมือนกันค่ะ เพราะชอบบรรยากาศ แต่เราพักบนตึกค่ะ
วันไปพักห้องข้างๆมีเด็กเล็ก กรี๊ดๆๆ ทั้งวัน กลางคืนก็ร้อง ไม่ได้หลับนอนกันเลยทีเดียว
ห้องเป็นแค่ผนังยิปซัมเก็บเสียงไม่ได้เลย พอไปแจ้ง front ได้แต่ยิ้มๆแล้วขอโทษ
สรุปคือ คืนนั้นไม่ได้นอนทั้งคืน ไม่ได้ช่วยจัดการอะไรให้เลย -*-
เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
จากคุณ : Destiny-Boyแหะๆ
ผมว่าหมอยุ่งฯ เข้าใจผิดเรื่อง agent อยู่นิดนึงนะครับ
ไม่ใช่ว่า agent ส่งแขกเข้าโรงแรมแล้วจะจบหน้าที่นะครับ เพราะทางโรงแรมยังไม่ได้รับเงินจาก agent เสมอไปครับ หน้าที่ของ agent ไม่มีจบ...จนกว่าจะหมดสัญญากับทางโรงแรมครับ แน่นอนว่า agent ได้สิทธิ์ขายห้องพักในราคาพิเศษแล้ว...ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัยเช่นกัน
แต่สถานการณ์น้ำท่วมแบบนี้ถ้าทางโรงแรมทำประกันเอาไว้ (ไม่แน่ใจว่าทำหรือเปล่านะ) ก็คงได้รับเงินสินไหมทดแทนอยู่เหมือนกัน คงไม่เข้าเนื้ออะไรมากมาย แต่ถ้าไม่ได้ทำประกันเอาไว้...งานนี้เสียหายมากมายครับ
ขอบคุณที่มารายงานสถานะการณ์ค่ะ
จากคุณ : prophetdollหวังว่าไปสิ้นเดือน คงไม่เจอน้ำท่วมแล้วนะคะ ^^
จากคุณ : Herminewผมชอบพักที่นี่นะ.. มันเงียบ ๆ บรรยากาศสบาย ๆ ดี แต่การบริการก็ธรรมดา ทั่ว ๆ ไป
แล้วก็ชอบอาหารเช้าของที่นี่มากกว่าที่ Imm ท่าแพ ด้วย
ยังไงก็ขอให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วครับ ^ ^
น่าสงสารจัง
เคยไปพักครับ ตอนใช้ Voucher ของ Zuji 15 SDG แต่จองแบบแยก Booking ละ 1 คน สรุป ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
เคยได้ห้องโซนเดียวกันเลยครับ
แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ ตอนเวลาเพื่อนๆ ข้างห้อง (ชาวต่างชาติ)
ท่านจะเดินลงส้นเท้า ดังมาก เพราะเป็นพื้นไม้ นอนกันก็ไม่ค่อยจะหลับเลย เดี๋ยวตึกๆๆๆๆ
แต่บรรยากาศโดยรวมชอบมาก
ขอให้ฟื้นคืนเร็วๆ ครับเอาใจช่วย
เข้าใจและเห็นใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นครับ
แต่... ไม่ค่อยพอใจวิธีการแก้ปัญหาของ พนง. เช่นเดียวกับคุณหมอครับ กรณีนี้ผมเข้่าใจว่าคุณหมอต้องการเรียกร้องสิทธิ์ให้กับผู้ได้รับผลกระทบ(นักท่องเที่ยวท่านอื่น)มากกว่า แต่สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นว่า "ถ้าร้อง ถึงได้ ไม้ร้อง อด" เป็นงั้นไป "-_-
กรณีนี้ผมเห็น 2มุมนะ
1 เห็นใจผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบ
2 เห็นใจนักท่องเที่ยว ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กรณีนี้น่าเห็นใจมากที่สุดครับ คาดหวังว่าจะไปเที่ยวพักผ่อน แต่กลับต้องปวดหัวกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือตามความเหมาะสม
แต่ยังไงก็ขอมห้ผู้ประสบภัยทุกท่าน พ้นภัยโดยเร็ววันแล้วกันนะครับ ^^
....ไม่รู้จะพูดยังไงเลย .....
เป็นกำลังใจให้ทั้งสองฝ่ายค่ะ
เห็นใจทุกๆ ฝ่ายครับ
ผมเพิ่งกลับจากเชียงใหม่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ตอนอยู่ที่นั่นยังรู้สึกดีจังว่าน้ำไม่ท่วม
แต่พอกลับลงมาก็เริ่มได้ข่าวน้ำป่าไหลหลาก
และติดตามมาด้วยข่าวน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ รู้สึกใจหายครับ
เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกๆ คนทุกๆที่ด้วยครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
จากคุณ : เอื้องเหมยขอบคุณสำหรับรีวิวหมอยุ่งค่ะ
แล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้คนทำธุรกิจโรงแรมด้วยค่ะ
สู้ๆนะอย่าเพิ่งท้อ
แว๊บเข้ามาดูครับ เราเช็คเอ้าท์ออกจาก Imm ท่าแพเมื่อเช้านี้ คนเยอะมากๆ ลูกค้าคนไทยน่าจะมากกว่า 90% ถูกปลุกด้วยเสียงเคาะช้อนส้อมมื้อเช้า
ตามประสาคนนอนห้องชั้นล่างครับ ตอนนี้น้ำน่าจะลดลงแล้วหล่ะ
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านด้วยนะครับ
ทั้งนี้ ผมก็ยังคงเป็นกำลังใจให้กับทาง Imm ในการฟื้นฟูโรงแรม Eco Resort ให้คืนสู่สภาวะปกติครับ ซึงถ้าใครไปพักตอนนี้ หลังน้ำลดแล้วคงจะได้ไปพักตรงอาคารสระว่ายน้ำ ซึ่งโรงแรมก็ยังคงให้บริการได้ไม่มีปัญหา
-----------------------------------------------------------------------------
และ ขอเรียนคุณ an+an และทุกท่านที่ให้กีบใน คห. 62 ตามตรงว่า ...
ผมมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และได้ใช้วิจารณญาณพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนทุกอย่างก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการต่อไปเนื่องจาก
"พนักงาน Front Office ที่มีอยู่คนเดียวของ Eco Resort ไม่ได้ให้ความกระจ่าง และไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่แขกผู้เข้าพักตามเท่าที่ควรจะเป็น"
ทุกคนรู้ว่าน้ำท่วมเป็นเหตุสุดวิสัย และโรงแรมได้รับความเสียหาย แต่ในเมื่อมีลูกค้าจองห้องต่อเนื่อง และไหนจะที่กำลังจะมีกำหนดเข้าพัก จึงควรมีทางออกให้กับลูกค้า เพราะลูกค้าได้ชำระเงินล่วงหน้าไปแล้ว และลูกค้าควรจะมีสิทธิ์ได้รับรู้ว่า อีก 2 คืนที่เหลือ ทางโรงแรมจะดำเนินการอย่างไรกับลูกค้า ....
--- ก่อนอื่น โปรด "ตัด" คำว่าโปรโมชั่น 99 บาท และ ความเป็นคนเชียงใหม่ของ จขกท. ออกไปชั่วคราว แล้วลองนึกภาพถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือต่างถิ่น ที่จองห้องพักไว้ในราคาปกติและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ว่าโรงแรมควรปฏิบัติอย่างไร เพราะตัว Property เสียหายไปแล้ว แต่ลูกค้าตัวเองยังอยู่ ลูกค้าชาวต่างชาติไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คืนต่อไปจะเอาอย่างไร รู้แต่ว่าโรงแรมน้ำท่วมและอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว (แม้ห้องพักจะน้ำไม่ท่วมก็ตาม)
--- เนื่องจากโรงแรม Imm จัดได้ว่าเป็น "โรงแรมเชน" ที่มีเครือข่ายโรงแรมอยู่ 2 แห่งในเชียงใหม่ จึงไม่ควรพลาดในจุดนี้ได้เลย ซึ่งจริงๆ แล้วอย่างโรงแรมที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยหนักๆ อย่างย่านถนนช้างคลาน ถนนเจริญประเทศ เค้าได้มีการพาแขกย้ายไปพักโรงแรมในเครือข่ายทั้งหมด "โดยที่ไม่ต้องรอให้แขกร้องขอหรือบอกกล่าว"
(อย่างโรงแรมเพื่อนผม อมตะล้านนา บูติกเล็กๆ ขนาด 12 ห้อง อยู่ตรงข้ามกับปิงนครา ก็มีการย้ายแขกไปที Sirilanna บูติกกลางเวียงซึ่งเป็นโรงแรมระดับเดียวกัน แม้ว่าตัวห้องพักจะน้ำไม่ท่วม แต่ไฟ-น้ำโดนตัดหมด สระว่ายน้ำโดนน้ำท่วมเสียหายหลายหมื่นบาท -- โรงแรมใหญ่หลายโรงโดนหนักมาก มูลค่าหลักล้านเลยทีเดียวครับ เค้าก็มีวิธีการจัดการกับแขกของเค้า -- ถึงคุณ Tummeng ครับ ผมก็อยากรู้ว่า ปิงนครา เค้าจัดการกับแขกของเขาอย่างไร ??)
-- การอพยพแยกออกจากห้องพัก อยางโรงแรมเพื่อนผมและโรงแรมหลายแห่ง จัดหาเรือท้องแบนพาแขกย้ายที่พักโดยไม่ต้องให้แขกลุยน้ำเองด้วยซ้ำ แต่กรณี Eco Resort ผมเข้าใจว่าเป็นครั้งแรกของเขา ซึ่งการตัดสินใจให้แขกย้ายไปพักในส่วนอาคารสระว่ายน้ำ ทั้งที่พื้นที่อื่นของโรงแรมโดนน้ำท่วมอยู่ แล้วให้แขกอยู่เหมือนติดเกาะอย่างนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และการปฏิบัติของโรงแรม ทำเหมือนกับว่า แขกเช็คเอ้าท์ออกไปแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ นะ ทุกคนได้แต่แบกสัมภาระของตนเดินลุยน้ำออกไป ซึ่งไม่ควรมีภาพทำนองนี้เกิดขึ้นกับโรงแรมเชน
-- ผมเชื่อว่า ถ้าผมไม่ได้ติดต่อตรงกับทางกรุงเทพ (ซึ่งเค้าดูเหมือนจะไม่ได้รับทราบเรื่องด้วยซ้ำ จนผมยังแอบสงสัยว่าทาง Eco Resort ได้รายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทาง Head Office หรือไม่) ซึ่งลูกค้าก็คงต้องหาทางออกแบบตามีตามเกิดด้วยตนเอง จองห้องไว้แต่เหมือนเสียเงินเปล่า โรงแรมไม่ได้ช่วยหาทางออกอะไรเลยเป็นแน่แท้ ......
-- "ทาง Eco Resort จ่ายส่วนต่างราคาห้องพักให้กับ Imm ท่าแพ เนื่องจากราคาห้องพักไม่เท่ากัน" -- อื้มมมม ฟังดูเหมือนเป็นพระคุณอย่างสูงที่ทางเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นได้ทำเรื่องย้ายแขกหนีน้ำท่วมมาพักในที่ใหม่เลยนะครับ ซึ่งคำพูดแบบนี้ ถ้าคนเป็นลูกค้าที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น ควรจะรู้สึกอยางไร ยิ่งเป็นโรงแรมเชนเดียวกัน การจัดการควรจะต้องง่ายอยู่แล้วครับ --- อย่างตอนที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ ครั้งนั้นเสียหายใหญ่โตกว่ามาก ทางโรงแรมเครือเมอร์ลิน เจ้าของได้ตัดสินใจทำการอพยพแขกจากโรงแรมที่ได้รับความเสียหาย 2 แห่งคือ ป่าตองเมอร์ลิน และ เขาหลักเมอร์ลิน ไปพักที่โรงแรม ภูเก็ตเมอร์ลิน ซึ่งอยู่ในตัวเมืองทันที และยังเปิดห้องพักให้กับแขกของโรงแรมอื่นให้ย้ายเข้ามาพักด้วยซ้ำ
ดังนั้น ด้วยความที่ Eco Resort เป็นโรงแรมเชนเครือ Imm ควรมีการจัดการที่ทำได้ดีกว่า การปล่อยให้พนักงานอึ้งๆ เงียบๆ ไม่ได้ชี้แจงหรือบอกอะไรกับลูกค้าทีมีกำหนดพักในคืนต่อไป คือพนักงานไม่ได้พูดอะไร ไม่มีความพยายามประสานงานไปยังพนักงานที่มีตำแหน่งใหญ่กว่า จนทำให้แขกรู้สึกได้ว่า พนักงาน Front Office ท่านนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย คนที่ใหญ่กว่าหายไปไหนกัน ทั้งๆ ที่เกิดเหตุการณ์ระดับนี้ ควรต้องออกมาแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้แล้ว
และเรื่องรู้จักการ "เห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์" (เพื่อนมนุษย์ในที่นี้คือ เครือโรงแรม Imm ซึ่งเป็นเจ้าของ Eco Resort ใช่ไหมครับ ??) เราต้องแยกประเด็นนะครับ คือ เราทุกคน "เห็นใจ" เพราะเขาเป็นผู้เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม และเราเป็นแขกผู้เข้าพัก "เรารับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" ไม่มีการตำหนิใดๆ ทั้งสิ้นในเรื่องน้ำท่วม ทุกคนลุยน้ำกันได้ ขนของกันเองได้ หาวิธีการจัดการในการเอาข้าวของออกจากที่พักเองได้
แต่โรงแรม หรือผู้ประกอบการทุกแห่ง ควรต้องมี "วิธีการปฏิบัติที่แก้ไขปัญหากับลูกค้าที่ชัดเจน" ว่าจะย้ายแขกไปพักที่อื่น จะคืนเงิน หรือให้สิทธิ์มาพักในภายหลัง ซึงเป็นหน้าที่ที่โรงแรม และผู้ประกอบการไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้ เพราะคุณรับเงิน รับการจองของแขกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ว่า ลูกค้าถามก็ตอบอะไรไม่ได้ ไม่พยายามที่จะประสานงานให้ เงียบๆ ยิ้มๆ ทำหน้าเฉยๆ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประหนึ่งว่า คุณจองมา 99 บาทคุณจะเอาอะไรมาก นอนก็ถูกแล้ว นอนไปตั้ง 4 คืน อีก 2 คืนก็ไปหาเอาเองสิ
ลองคิดเปรียบเทียบดูนะครับ ...
สมมติว่าคุณนั่งรถไฟ "ฟรี" แล้วปรากฎว่า ทางรถไฟขาดเพราะโดนน้ำท่วม (เป็นเหตุสุดวิสัยเหมือนกัน) การรถไฟฯ ยังต้องจัดหารถรับผู้โดยสาร ไปส่งยังจุดหมายปลายทางเลย ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเป็นผู้โดยสาร แล้วเกิด จนท. รถไฟบอกว่า "คุณนั่งฟรีมา คุณหาทางไปต่อเองนะ ทาง รฟท. ให้บริการได้แค่นี้" คุณจะรู้สึกอย่างไรครับ โปรด "เห็นใจ" เพื่อนมนุษย์ รฟท. ด้วยเพราะน้ำท่วม รฟท. เค้าก็เสียหาย ให้บริการต่อไม่ได้ อย่างนั้นหรือครับ ??
เช่นเดียวกับ ถ้าคุณจองโปรฯ แอร์เอเชีย "Free Seat 107 บาท"
แล้วปรากฎว่า เที่ยวบินที่คุณเดินทางไป ไม่สามารถร่อนลงจอดที่สนามบินปลายทางได้ อันเนื่องจากสภาพอากาศหรืออะไรก็ตาม แล้วเครื่องต้องตีกลับมา สายการบินก็ยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการนำเครื่องพาผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางให้ได้ หรือทำอย่างไรก็ได้ที่จะรับผิดชอบตามหน้าที่ของตน (และแน่นอน สายการบินก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายทุกอย่างเพิ่มเติม ค่าน้ำมันเครื่องบิน ค่าจ้างพนักงาน ค่าร่อนลงจอด ฯลฯ ไม่ต่างอะไรกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วม เช่นเดียวกัน) ถ้าเกิดสายการบินบอกว่า คุณจ่ายมาแค่ 107 บาท เราให้บริการคุณต่อไปไม่ได้ คุณหาทางไปเองแล้วกันนะ (ไม่พูดเรื่องคืนเงินหรืออะไรเลยซักนิด) คุณคิดว่าผู้โดยสารควรจะรู้สึกอย่างไรดีครับ โปรด "เห็นใจ" ทางสายการบินรับรองว่าเป็นกระทู้ด่ากันใน BP แน่นอน
ตอนนี้ผมเข้าใจว่า น้ำน่าจะลดระดับลงแล้ว
ขอเป็นกำลังใจให้กับทาง Imm สำนักงานใหญ่ในการส่งคนมาช่วยฟื้นฟูแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยครับ สู้ๆ นะครับ และคราวหน้าหวังว่าคงจะมีการจัดการกับแขกผู้เข้าพักให้ดีกว่านี้ เพราะพื้นที่ตั้ง Eco Resort จัดได้ว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง ทีมีโอกาสจะโดนน้ำท่วมได้อยู่แล้วครับ
หมายเหตุ : เพิ่มเติมข้อความให้กระจ่าง และชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
โอ้โห...เสียหายเพียบเลยนะคะนั่น อีก 1
ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ
โคราชถือว่าโชคดีค่ะ ปีนี้น้ำไม่ท่วม
จากคุณ : DOGHALL
ผมเข้าใจในมุมของเจ้าของกระทู้นะ
แต่ว่าคุณก็อย่าลืมว่าโรงแรมอื่นที่เค้าสามารถจัดการสถานการณ์ได้ดีกว่านี้ เค้าได้ค่าห้องคืนละเท่าไหร่
โรงแรมนี้ ถึงแม้จะเป็น chain hotel แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบริการจะต้องได้ระดับเดียวกับโรงแรมระดับ 4-5 ดาว
การจัดการที่ทางโรงแรมทำได้ ก็สามารถทำได้ในระดับที่สามารถ afford ได้แล้ว (นั่นคือการย้ายแขกไปพักในตึกที่น้ำท่วมไม่ถึง และพยายามย้ายของทุกอย่างหนีน้ำให้ โดยที่ไม่ต้องรอให้ของของลูกค้าเปียก)
จะให้ทางโรงแรมทำมากกว่านั้น และตัดสินใจว่าในสถานการณ์แบบนี้ เรายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกดี แต่หมายความว่าทางโรงแรมจะต้องยอมขาดทุนไปอีกมาก (ไม่รวมถึงที่ต้องซ่อมโรงแรมที่โดนน้ำท่วม) อย่างนั้นหรือ? ถ้าหากแก้ปัญหาคุณหนึ่งคน แล้วก็ต้องพยายามแก้ไขปัญหาให้แขกที่เหลือทั้งหมดด้วยวิธีเดียวกันกับที่คุณได้รับการแก้ไข อย่างนั้นหรือ?
สำหรับพนักงานหน้า front ผมก็มองว่าเค้าพยายามทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์แบบนี้ และมีอำนาจตัดสินใจเท่าที่มีนั่นแหละครับ
ผมเห็นคุณเขียนหลายครั้งว่าเป็นกำลังใจให้ เป็นกำลังใจให้ แต่การที่ลงรายละเอียดว่าทางโรงแรมจัดการได้แค่นี้ ไม่โปรเลย ก็เป็นการตอกย้ำและซ้ำเติมทางโรงแรมไปอีก
ตัวอย่างต่าง ๆ ที่คุณยกมา เป็นกรณีของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ทางโรงแรมอื่น ๆ ยินดีที่จะทำให้ ซึ่งผมมองว่าเป็นการบริการที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งก็ต้องชมเชย แต่ทาง Imm Eco เองก็จัดการปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งผมมองว่าก็น่าที่จะพึงพอใจได้แล้ว
ลองคิดดูละกันครับ
ปล. ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับโรงแรมนี้ และไม่เคยเข้าพักด้วย
แต่ผมอ่านความเห็นคุณแล้วผมรู้สึกไม่พึงพอใจครับ ข้อความนี้ผมเขียนหลังจากที่อ่านแล้วกลับไปคิดทบทวนดู และกลับมาพิมพ์ตอบด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วนครับ
ถึงคุณ zephyros (ความคิดเห็นที่ 87)
จากประโยค "จะให้ทางโรงแรมทำมากกว่านั้น และตัดสินใจว่าในสถานการณ์แบบนี้ เรายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกดี แต่หมายความว่าทางโรงแรมจะต้องยอมขาดทุนไปอีกมาก (ไม่รวมถึงที่ต้องซ่อมโรงแรมที่โดนน้ำท่วม) อย่างนั้นหรือ? ถ้าหากแก้ปัญหาคุณหนึ่งคน แล้วก็ต้องพยายามแก้ไขปัญหาให้แขกที่เหลือทั้งหมดด้วยวิธีเดียวกันกับที่คุณได้รับการแก้ไข อย่างนั้นหรือ?"
ก็ไม่ถูกต้องนะคะ การที่เราจะยื่นมือช่วยเหลือใครสักคน ถือเป็นเรื่องที่ตามหลักมนุษยธรรมควรมีค่ะ ถ้าคนที่ช่วย แล้วต้องมาคำนึงว่าตัวเองขาดทุนอะไรบ้าง นั่นแปลว่าเค้าคนนั้นไม่มีน้ำใจพอค่ะ
เรียนคุณคห. 87 ครับ คุณมีสิทธิ์ที่จะคิด แน่นอนผมก็มีสิทธิ์ที่จะคิดครับ
คุณบอกว่า เป็นโรงแรมเชนจริง แต่จ่ายมาราคาถูก เป็นเชนราคาถูกว่างั้นเถอะ แล้วการบริการจัดการจะดีเท่า 4-5 ดาวที่โดนน้ำท่วมได้ไง ???
อื้มมมม หลักสามัญพื้นฐาน คุณคิดว่าถ้าบ้านคุณน้ำท่วม คุณมีแขกพักอยู่ คุณจะทำอย่างไรกับแขกคุณดีครับ ?? พาแขกย้ายหนีน้ำ แต่ก็ให้แขกอยู่อย่างนั้น ลุยน้ำไปหาอะไรกินเองนะ แต่ถ้าคุณมีบ้านอีกหลังนึงที่คุณเองก็เป็นเจ้าของ น้ำก็ไม่ท่วม คุณควรจะพาแขกคุณไปพักที่บ้านอีกหลังนึงมั้ย .... หรือช่วยหาทางออกอย่างอื่นให้กับแขกของคุณ ... หรือ คุณจะปล่อยให้แขกของคุณบอกว่า เดี๋ยวฉันเดินลุยน้ำออกไปตายเอาดาบหน้าเองก็ได้
ผมอยากจะบอกว่า ถึงเป็นทางโรงแรมมาอ่านผมเองก็ไม่ได้แคร์ครับ
จุดประสงค์หลักของกระทู้นี้ก็คือ ผมพบเจออะไรมาบ้าง
เพราะผมรายงานตามจริงตามสิ่งที่เห็น และการแก้ปัญหาไม่ควรออกมาเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่า ถ้าคุณมาอยู่แบบผม เจออะไรแบบผม
คุณจะตอบแบบที่คุณตอบหรือเปล่า ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นครับ
คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พึงพอใจ แต่ผมเองก็มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการเช่นนี้เช่นกันครับ
ผมไม่ได้เรียกร้องว่า ถ้าติดเกาะจะต้องมีอาหารทุกมื้อ บริการเต็มเปี่ยมแบบปิงนครา แต่ผมมองว่า แค่ความคิดขั้นพื้นฐาน จะให้แขกลุยน้ำท่วมเข้าออกโรงแรม เป็นตรรกะที่ถือว่าถูกต้องแล้วหรือครับ ??
ถ้าว่าการแสดงความคิดเห็นจะเป็นการซ้ำเติมหรือไม่ ?
ผมไม่ได้มองว่าเป็นการซ้ำเติม เพราะผมแยกเป็นสองประเด็นอยู่แล้ว
คือ ประเด็นน้ำท่วม ผม "เห็นใจจากใจจริง" เพราะโรงแรมก็เสียหาย
แต่ในประเด็นของลูกค้า ผมรู้สึกว่าโรงแรมควรทำได้มากกว่านี้
ถามว่า Front Office ทำอะไรได้บ้าง เอ่อ โทรศัพท์ไม่ได้ถูกตัดขาดนะครับ
โทรถามผู้จัดการหรือคนที่ใหญ่กว่าก็ได้ ไม่ใช่แค่อึ้งๆ ไม่รู้ไม่ชี้ เพราะเราได้ย้ำถึงสองรอบแล้ว ถ้าเป็นรีสอร์ทเจ้าของคนเดียว ผมเชื่อว่าเค้าก็มีทางออกที่ดีให้ ไม่ใช่ให้ลูกค้าไปตายเอาดาบหน้า และที่สำคัญ เหตุการณ์แบบนี้ ผู้จัดการควรมีทางออกที่ดีกว่านี้ มิใช่แค่ย้ายตึก แต่ให้แขกลุยน้ำเข้าไปพักเอง
ลองคิดดูนะครับ หลักในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาของลูกค้าคืออะไร ??
ในเมื่อปัญหาเกิด ตัวเองไม่มีอำนาจตัดสินใจ
คิดว่าจะทำอย่างไรครับ ปล่อยไปเฉยๆ เงียบๆ ไมมีอะไร
รอให้ลูกค้าโวยวายเอง หรือ จะบอกลูกค้าว่า "เดี๋ยวรอซักครู่นึงนะครับ ขออนุญาตปรึกษาผู้จัดการก่อน" (ลูกค้าก็จะเริ่มเย็นลง -- แล้วคุณคิดหรือว่า Front Office จะไม่มีเบอร์ GM เหรอครับ?)
ถ้าผลตอบกลับมาบอกว่า ทางผู้จัดการต้องขอแสดงความเสียใจด้วย
ว่าทางเราสามารถรับผิดชอบได้เท่านี้จริงๆ
อย่างน้อยก็แปลว่า พนักงาน Front ได้พยายามตามหน้าที่ของตนแล้ว
ไม่ใช่ว่า นิ่งดูดายดูลูกค้าเดินลุยน้ำออกไปทีละคนสองคนอย่างที่ทำ เท่านั้นเอง
สุดท้ายผมก็ไม่ได้แคร์ว่า คุณจะตอบแบบมีสติสัปชัญญะครบถ้วนหรือไม่
แต่เผอิญว่ามีคนเตือนสติผม ผมก็แค่บอกว่าผมมีสติดีพอที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเท่านั้นครับ และผมคงไม่สามารถตอบเพื่อจะให้ทุกคนพอใจได้อยู่แล้วนะครับ