สวัสดีอีกครั้งครับสำหรับสมาชิกชาว BP ทุกท่าน
กลับมาอีกครั้งสำหรับการรีวิวโรงแรมและรีสอร์ทที่ผมได้ไปพักมา ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่นๆหน่อยครับ
เนื่องจากการรีวิวครั้งนี้เป็นการทำรีวิวร่วมกับโครงการ " Thailand Boutique Awards 2011 " ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  
เคทีซี และ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ร่วมกันจัดทำโครงการประกวดสุดยอดโรงแรมบูติก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างกระแสของ “โรงแรมบูติก” ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
และเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขั้น
นอกจากนี้ ยังมุ่งช่วยเหลือในเรื่องของการส่งเสริมการทำการตลาดออนไลน์ การประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขายด้านอื่นๆ อันจะเอื้อประโยชน์แก่ โรงแรมบูติกต่างๆที่เข้าร่วมโครงการนี้ด้วยครับ

ครั้งนี้เป็นปีที่ 2 แล้วสำหรับโครงการประกวดนี้แต่สำหรับผมเป็นการเข้าร่วมโครงการเป็นครั้งแรกครับ
เพื่อนๆคงได้เห็นหลายๆรีวิวของเพื่อนสมาชิกชาว BP ของเราที่มีส่วนเข้าร่วมทำรีวิวกับโครงการนี้ไปบ้างแล้ว คราวนี้มาตามรับชมกับรีวิวของผมกันบ้างนะครับ

การทำรีวิวครั้งนี้ผมเลือกโรงแรมที่จะไปทำรีวิวไว้ทั้งหมด 2 ที่ครับ ที่แรกที่จะพาไปเที่ยวชมกันวันนี้เป็นรีสอร์ทขนาดกลางๆที่อยู่บนเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
และนี่เป็นการเดินทางไปเกาะลันตาเป็นครั้งแรกของผมร่วมถึงผู้ติดตามส่วนตัวของผมด้วยครับ

ปล.ขอบคุณเช่นเคยสำหรับกิฟ คอมเม้นท์ รวมถึงคำติชม และกำลังใจที่มีให้กันมาตลอดครับ

ก่อนอื่นมารู้จักกับเกาะลันตากันก่อนดีกว่าครับ เกาะลันตาอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ มีเกาะรวมกันทั้งสิ้น 25 เกาะ
มีเกาะที่เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวก็เช่นเกาะรอก เกาะไหงเป็นต้น เกาะลันตาใหญ่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดแล้วก็เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทที่ผมจะพาไปวันนี้ด้วยครับ

การเดินทางไปเกาะลันตา ผมเลือกเดินจากจากกรุงเทพฯโดยทางเครื่องบินสายการบินที่ให้บริการก็มีการบินไทย บางกอกแอร์เวย์ แอร์เอเชีย ทั้งหมดลงที่สนามบินนานาชาติกระบี่  
ส่วนนกแอร์ก็มีให้บริการแต่ต้องไปลงที่สนามบินตรังครับ
หลังจากเครื่องลงแล้วผมก็รอรถตู้โดยสารสายกระบี่-ลันตา จากตัวเมืองกระบี่มารับซึ่งผมได้ติดต่อไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนไปไว้แล้ว
ใช้เวลารอพอสมควรรถตู้มาถึงสนามบินคนขับก็จะโทรมาตามเบอร์ที่เราให้ไว้เพื่อบอกว่ามาถึงแล้ว จากนั้นเราก็เดินทางไปกับรถตู้นั้นจนถึงที่พักเลยครับ

ปล.รถตู้ไปลันตาจะมีออกทุกๆชั่วโมงตังแต่เช้าจนเย็นครับ ค่าบริการรถตู้ถ้าให้เข้ามารับในสนามบินไปเกาะลันตาเสียค่าโดยสาร 200 บาทต่อคนนะครับ

การเดินทางใช้เวลาพอสมควรครับ จริงๆระยะทางไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่แต่ที่ช้าเพราะรถตู้ต้องแวะรับส่งผู้โดยสารไปเกือบจะตลอดทางบางทีก็แวะเดี๋ยวเดียวบางทีก็แวะหากันอยู่นาน
ก่อนถึงลันตาก็ต้องรอลงเรือเฟอร์รี่(ซึ่งผมว่าน่าจะเรียกว่าโป๊ะข้ามฟากซะมากกว่า)ถึงสองครั้ง
ซึ่งการข้ามเฟอร์รี่ถึงสองครั้งเนี่ยล่ะครับที่ทำให้เวลาในการเดินทางช้าลงเพราะแต่ละครั้งเราต้องใช้เวลารอให้รถลงมาเต็มลำเรือก่อนเรือถึงจะออก ครั้งแรกจะไปขึ้นที่เกาะลันตาน้อย
อีกครั้งก็จะถึงท่าเรือศาลาด่าน เกาะลันตาใหญ่ครับจากนั้นรถตู้ก็จะขับทยอยส่งนักท่องเที่ยวตามโรงแรมต่างๆให้ถึงที่เลยครับ
นอกจากการเดินทางโดยรถตู้โดยสารแล้ว ใครจะขับรถมาเองก็ไม่ว่าครับมาเส้นทางเดียวกันข้ามแต่ละท่าเรือก็ต้องจ่ายค่ารถข้ามเอาเอง
นอกจากนี้ยังมีวิธีการเดินทางให้เลือกอีกวิธีคือไปทางเรือโดยจากกระบี่จะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือเจ้าฟ้า แต่วิธีนี้เวลามันจะไม่ตรงกับเที่ยวบินที่ผมไปผมเลยตัดวิธีนี้ไปครับ หรือมีอีกทางคือมาจากภูเก็ตก็ได้ครับ แต่ต้องแวะเปลี่ยนเรือที่เกาะพีพีก่อนซึ่งใช้เวลาเดินทางนานและต้องกะเวลาในการเดินทางดีๆด้วยเพราะเรือมีรอบน้อยถ้าไม่ทันรอบเรืออาจจะเสียเวลานอนที่พีพีอีกคืนนึงครับ

ปล.จริงๆทางรีสอร์ทก็มีบริการรับส่งทั้งจากสนามบินกระบี่และภูเก็ตนะครับช่วงฤดูปลอดมรสุมก็จะมีสปีดโบ๊ตบริการด้วย เรทราคาก็อาจจะสูงกว่าปกติซักหน่อย แต่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ก็นิยมใช้วิธีนี้ครับ

ระยะเวลาการเดินทางจนถึงรีสอร์ทประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งครับเรียกว่าหลับๆตื่นๆเดี๋ยวก็ถึง ตอนนี้เราก็มาถึงที่พักของเราแล้ว " Layana Resort and Spa " รีสอร์ทที่อยู่บนหาดพระแอะ หาดที่มีความยาวถึง 3 กม.และอยู่ทางด้านเหนือของเกาะลันตา ทางเข้าอาจจะต้องสังเกตซะหน่อยเพราะว่าป้ายจะไม่ได้อยู่ติดถนนมากนักครับ

จากการศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทางมาที่ลยานะครั้งนี้ค่อนข้างคาดหวังปนหนักใจในการทำรีวิวรวมถึงข้อมูลเพื่อส่งให้คณะกรรมการได้พิจารณาพอสมควรครับ เนื่องจากทราบมาว่าทางรีสอร์ทมีรางวัลการันตีเอาไว้มากมายทั้งรางวัล TRAVELERS'CHOICE 2006 2008 2009 2010 2011 ของ TripAdvisor รางวัล WORLD TRAVEL AWARDS 2009 2010 รางวัล World Luxury Hotel Awards 2009 2010 และอีกหลายๆรางวัล ทำให้รู้สึกว่าโรงแรมนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

แค่ทางเข้าเราก็จะเริ่มเห็นความร่มรื่นของที่นี่บ้างแล้วครับ สองฝั่งถนนจะมีต้นไม้ปลูกเรียงรายตลอดแนวไปถึงด้านในเลยครับ

เข้ามาถึงด้านหน้าก็ต้องผ่านด่านแรกกันซะก่อนครับ

เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วงเลย เพราะว่าที่นี่มีรปภ.รักษาการที่ป้อมยามด้านหน้ารวมถึงด้านหน้าบริเวณชายหาดตลอด 24 ชม. ทำงานขยันขันแข็งมากๆครับขนาดผมเดินออกไปถ่ายภาพป้ายด้านหน้าขาออกก็สวัสดี ขาเข้ามาก็สวัสดีอีกทั้งๆที่เวลาห่างกันไม่ถึง 10 นาที

รถตู้ที่นั่งมาจะวนขึ้นมาจอดส่งตรงหน้าล็อบบี้เลยครับ ลงจากรถก็จะมีพนักงานมาช่วยยกกระเป๋ารวมถึงสัมภาระต่างๆตามแบบปกติของโรงแรมทั่วๆไปครับ แต่ที่พิเศษคือจะมีมาลัยดอกรักมาคล้องต้อนรับแขกด้วยครับ

หลังจากนั้นพนักงานจะพาเราเดินขึ้นไปที่ล็อบบี้เพื่อทำการเช็คอินซึ่งขั้นตอนนี้ทางโรงแรมได้เตรียมเอกสารไว้ให้เราเรียบร้อยแค่ใช้บัตรประชาชนของผู้เข้าพักทั้งสองคนเพื่อเป็นการยืนยันตัวตนแค่นั้นครับ

ขณะที่รอเอกสารอยู่ก็จะมี Welcome Drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆกับผ้าเย็นมาต้อนรับ รวมถึงมีผู้บริหารมาให้การต้อนรับซึ่งผมคิดเองว่าน่าจะมาต้อนรับแขกทุกท่านไม่เฉพาะแค่ผมกับแฟนครับ

ลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา เพิ่งมีการเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิมซึ่งเป็นชาวแอฟริกาใต้มาเป็นของเครือ MBK Hospitolity Management หรือมาบุญครองที่พวกเราๆรู้จักกันดีมาซัก 6 เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ
จริงๆโรงแรมในเครือของทาง MBK ก็มีอยู่หลายโรงแรมคือ Pathumwan Princess ,Sheraton Krabi Beach Resort ,Tinidee Hotel@Phuket ,Tinidee Hotel@Ranong แล้วก็ยังมีสนามกอล์ฟดังๆในเครืออีกหลายสนาม

โซนที่พักแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งครับมีห้องพักทั้งหมด 50 ห้อง แบ่งเป็นห้องพัก 3 แบบคือ
-Garden Pavilion เป็นห้องแบบที่ผมเข้าพักครับ มีห้องพักทั้งหมด 44 ห้อง โดยห้องทั้งหมดจะถูกแบ่งเป็นวิลล่าทั้งหมด 11 หลัง หลังละ 4 ห้องบนล่างอย่างละ 2 ห้อง ภายในห้องกว้าง 49 ตร.มซึ่งก็ถือว่าใหญ่พอสมควรเลยครับ มีให้บริการทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ครับ
-Beach Suites มีทั้งหมด 3 ห้อง เป็นวิลล่าที่อยู่หน้าชายหาดเลยครับ มีพื้นที่ภายใน 59 ตร.ม
-Ocean Deluxe Suites มีทั้งหมด 3 ห้อง เป็นวิลล่า 2 ชั้น พื้นที่รวม 88 ตร.ม ด้านบนมีศาลานั่งเล่นสามารถชมวิวได้กว้างถึง 270 องศา
ซึ่งเดี๋ยวจะพาไปชมห้องพักครบทุกแบบเลยครับ

ลยานะน่าจะเป็นคำพื้นเมืองที่แปลว่าความเงียบสงบครับ ที่นี่เลยมีความเป็นส่วนตัวมากๆไม่มีรีสอร์ทอื่นๆอยู่ติดกับลยานะเลย
ตอนที่เจ้าของเดิมสร้างที่นี่คือต้องการให้ที่นี่เป็นเหมือนเมืองลับแล คือถ้าลูกค้าเข้ามาพักจะรู้สึกเลยว่าที่นี่ private มากๆร่มรื่นแล้วก็เงียบสงบครับ

หลังจากจัดการกับเอกสารแล้วพนักงานก็พาเรานั่งรถบักกี้ไปที่ห้องพักครับ แต่ก่อนเข้าห้องพักก็จะพาเราวนไปแนะนำส่วนต่างๆของรีสอร์ทให้เรารู้จักก่อนซึ่งส่วนต่างๆเดี๋ยวผมจะค่อยๆแนะนำให้รู้จักกันต่อไปนะครับ

ได้เวลาเข้าห้องพักแล้วครับ วิลล่าที่ผมเข้าพักเป็นวิลล่าหลังสุดท้ายหมายเลข 12 ซึ่งอยู่ใกล้กลับล็อบบี้ที่สุดครับ

อย่างที่บอกไว้ว่าห้องพักแบบนี้จะมี 4 ห้องต่อ 1 วิลล่าครับ ห้องที่ผมพักเป็นห้องพักหมายเลข 56 ซึ่งอยู่ชั้นล่างซึ่งก็คือห้องที่เห็นอยู่ตรงหน้านี่เลยล่ะครับ

เข้ามาถึงห้องพักก็สำรวจก่อนเลย ต้องบอกว่าค่อนข้างพอใจสภาพของห้องพักมากกว่าที่คิดไว้ตอนแรกครับ เพราะก่อนไปก็ได้ทำการบ้านไปพอสมควรว่าที่พักที่เราจะไปมีลักษณะเป็นยังไง มีอะไรภายในรีสอร์ทให้เราทำข้อมูลบ้าง แต่ตอนแรกที่ดูภาพจากเวปไซต์ของโรงแรมรู้สึกได้เลยว่าโรงแรมน่าจะเก่า แค่มองภาพจากในเวปว่าทีวีในห้องยังเป็นทีวีรุ่นเก่าแบบตูดหนาก็พอนึกสภาพได้ แต่พอไปถึงจริงๆและได้มองได้สัมผัสจริงๆกลับแตกต่างจากในเวปไซต์โดยสิ้นเชิง

ปล.ห้องพักทุกห้องในรีสอร์ทเป็นห้องปลอดบุหรี่ครับ

**แก้วรรคครับ

Welcome Fruit ของที่นี่ครับ สามารถร้องขอเพิ่มเติมได้ทุกวัน หรือว่าชอบกล้วยไม่ชอบส้ม ชอบแอ๊ปเปิ้ลไม่ชอบองุ่นก็สามารถขอแต่ผลไม่ที่เราทานได้เลยครับ

ห้องพักวันแรกที่เราไปถึงถูกเซ็ตให้เป็นแบบฮันนีมูนครับ แต่จริงๆโดยปกติก็จะเซ็ตไว้แบบธรรมดาทั่วไป

เตียงนอนแบบ King Size ถูกตกแต่งด้วยผ้าขนหนูทำเป็นรูปหงส์สองตัวกำลังโก่งคอทำรูปหัวใจกันอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกเช่น โทรศัพท์ ดินสอ กระดาษโน๊ตมีให้ครบครับ
ส่วนที่เห็นคล้องอยู่กับโคมไฟนั่นก็คือมาลัยที่เราได้รับตอนมาถึงรีสอร์ทครับ แม่บ้านเอาขึ้นไปแขวนให้เรียบร้อย

ขออนุญาดปราดเบาๆ นะครับ
มาเห็นด้วยว่า ทำรีวิวโครงการนี้นี่ใช้พลังเยอะจริงๆ ครับ
ต่างจากทำรีวิวแบบเที่ยวเองจ่ายเองเยอะเลย
ผมเพิ่งทราบว่า MBK เป็นเจ้าของโรงแรมเครือ Tinidee ด้วย

เฟอร์นิเจอร์ต่างๆภายในห้องส่วนใหญ่จะเป็นไม้แทบทั้งสิ้น พื้นปูด้วยกระเบื้องซึ่งง่ายต่อการทำความสะอาดและไม่เป็นรอยง่าย ที่ปลายเตียงมีโต๊ะไว้สำหรับทำงานหรือจะปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับคุณผู้หญิงก็ได้ครับ ส่วนมุมไกลๆนั่นก็เป็นห้องน้ำครับ

ทีวีที่เห็นในเวปว่าเก๊าเก่าก็ถูกเปลี่ยนเป็น LCD จอแบนสามารถดูช่องทีวีต่างประเทศ ทรูวิชั่นบางช่อง และช่อง 3 5 7 9 ของไทยได้ ด้านล่างยังมีเครื่องเล่น DVD ที่สามารถเดินไปยืมแผ่นจาก Library ได้ตลอดเวลาทำการ ด้านล่างภายในตู้ไม้ยังมีตู้เย็นขนาดเล็กพร้อมมินิบาร์ไว้ให้บริการอีกด้วย(ราคาพอๆกับของโรงแรมทั่วๆไป) อีกทั้งยังมีโซฟาตัวใหญ่ไว้ให้นั่งเล่นนอนเล่นได้อีกด้วย

หมอยุ่ง ใช่ครับเปลืองพลังสุดๆผมไปสองที่พร้อมกันนี่เพิ่งทำที่แรกเสร็จรีวิวจบก็ต้องทำที่ต่อไปต่อ เหนื่อยมากๆครับ ส่วนโรงแรมในเครือของ MBK ผมก็เพิ่งจะทราบเหมือนกันนี่ล่ะครับ

************************************************

อีกหนึ่งความพิเศษที่แสดงถึงความเอาใจใส่ในลูกค้าของทางรีสอร์ทก็คือหมอนครับ ที่นี่มีบริการเลือกหมอนได้ตามความต้องการของเราถ้าหมอนที่มีให้บนเตียงยังไม่ถูกใจสามารถขอเปลี่ยนเป็นแบบที่เราต้องการได้ครับ
โดยจะมีหมอนให้เลือกถึง 5 แบบนั่นก็คือ

- Classic Standard Polyester
- Micro Fiber
- Ultra Soft Micro Fiber
- Duck Down 90%
- Hypoallergenic

สำหรับผมไม่ค่อยมีปัญหากับเรื่องหมอนเพราะเป็นคนนอนหมอนสแตนดาดได้อยู่แล้ว ผู้ติดตามก็ชอบนอนหมอนเตี้ยฉะนั้นก็จะมีให้เลือกครบอยู่แล้ว

ทีนี้เข้ามาสำรวจห้องน้ำกันบ้างครับ ห้องน้ำขนาดกำลังดีครับ สิ่งแรกที่ผมต้องดูในทุกๆที่ที่ไปคือโถชักโครกมีสายชำระหรือไม่ ที่นี่ไม่ทำให้ผมผิดหวังครับเพราะว่ามีสายชำระให้ด้วย

อ่างล้างหน้ามีแค่อ่างเดียว มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ด้วยครับ

ส่วนของฝักบัวอาบน้ำจะแบ่งสัดส่วนออกไปแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ม่านที่เห็นสามารถเลื่อนเปิดขึ้นได้ ด้านนอกจะมีสวนเล็กๆเอาไว้นอนแช่น้ำพักผ่อนสายตาได้ครับ
เรื่องความเป็นส่วนตัวก็ไม่ต้องกังวลเพราะว่ามีกำแพงสูงกันสายตาจากภายนอกได้ครับ

อ่างอาบน้ำขนาดสำหรับคนเดียวแช่ครับ ที่เห็นมีดอกไม้มาแช่อยู่เพราะว่าแม่บ้านได้จัดห้องเป็นแบบฮันนีมูนอย่างที่บอกตอนแรกล่ะครับ ถ้าเป็นห้องแบบปกติก็จะเป็นอ่างแห้งๆธรรมดาครับ

มีโต๊ะวางพวกสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตราฐานโรงแรมทั่วๆไปครับ ชั้นล่างจะมีกล่องใส่ไดร์เป่าผมให้ด้วย ประตูจะเป็นบานเลื่อนที่ไม่มีกุญแจล็อคนะครับ แค่เลื่อนปิดได้เฉยๆ

ด้านนอกที่เห็นเป็นบานกระจกก็คือตู้เสื้อผ้าครับ

สบู่เหลว แชมพู ครีมนวด โลชั่น รวมถึง amenities ต่างๆทั่วๆไปมีให้ครบครับ

ระบบน้ำที่นี่แรงดีครับเปิดอ่างอาบน้ำพักเดียวน้ำก็เต็มแล้ว การปรับน้ำร้อน-เย็นก็ง่ายมากครับ ที่นี่อาจจะมีข้อเสียบ้างที่ระบบไฟ เพราะไฟฟ้าที่เกาะลันตาจะตกบ่อยๆ แต่ทางรีสอร์ทก็มีระบบปั่นไฟของตัวเองครับ ถ้าไฟตกไฟดับก็จะมีไฟสำรองมาให้ใช้งานได้ทันที

มีป้ายเตือนให้ช่วยประหยัดน้ำและช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยครับ

ส่วนที่เห็นเป็นขวดสเปรย์ก็เป็นสเปรย์กันยุ่งจากธรรมชาติครับ ถือเป็นอภินันทนาการจากทางรีสอร์ท เพราะว่าบริเวณโดยรอบของวิลล่าจะเป็นต้นไม้ร่มรื่น อาจจะมียุงหรือแมลงเข้ามารบกวนได้บ้าง แต่จากที่ผมอยู่ในห้องพักก็ไม่มียุงนะครับ จะมีบ้างก็แมลงตัวเล็กๆแต่ก็ไม่ได้สร้างความรำคาญอะไร แถมทางรีสอร์ก็มีเครื่องไล่แมลงเสียบให้อยู่ตรงประตูด้านในห้องเราอยู่แล้ว

ในตู้เสื้อผ้าด้านนอกมีอยู่ 2 ตู้ครับ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตามมาตราฐาน คือ ผ้าคลุม ร่ม รองเท้า อีกตู้ก็จะมีตู้เซฟแล้วก็ไฟฉายเตรียมไว้ให้ครับ

ชา กาแฟก็มีไว้บริการฟรีครับ น้ำดื่มที่เห็นสามารถขอเติมได้ไม่จำกัดครับ

หลังจากพาชมห้องพักแล้วก็ขอพักเอาแรงด้วยการทานมื้อแรกในเกาะลันตาซะหน่อย ไม่ไปไหนไกลหรอกครับสั่งมาทานในห้องนี่ล่ะ
เมนูอาหารที่สั่งเข้ามาทานในห้องจะมีไม่เยอะเท่าที่ห้องอาหารนะครับ ส่วนเรื่องราคาก็ถือว่าแพงพอสมควรสำหรับคนไทยครับราคาอาหารส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ราคาประมาณ 250 บาท
เนื่องจากผู้ติดตามส่วนตัวทานอาหารยากนิดนึงก็เลยจัดอาหารง่ายๆมาครับมื้อนี้ แพนงไก่กับข้าวสวย อีกจานก็ข้าวผัดไก่ครับ รสชาดอาหารดีทีเดียวครับไม่จืดชืดเหมือนโรงแรมทั่วๆไปที่เน้นลูกค้าต่างชาติ
สำหรับมื้อนี้เป็นมื้อนอกเหนือจากอภินันทนาการที่โรงแรมมอบให้แต่ทาง GM ก็ยังใจดีเลี้ยงมื้อนี้กับเราด้วยครับ (แอบคิดในใจว่าน่าจะสั่งเยอะๆ 555 ล้อเล่นนะครับ)

หลังจากอิ่มแล้วงานก็ดำเนินต่อไปครับ เดี๋ยวผมจะพาออกๆไปเดินเล่นรอบๆรีสอร์ทกันบ้าง จะเห็นได้ว่ารีสอร์ทที่นี่ร่มรื่นมากครับ จะมีถนนเล็กๆแบบนี้รอบรีสอร์ทแต่จะอนุญาตแค่รถบักกี้เท่านั้นที่วิ่งได้ครับ

รูปนี้ถ่ายย้อนกลับไปที่ล็อบบี้จากด้านหน้าสระว่ายน้ำริมหาดครับ จะเห็นว่ามีสนามหญ้าที่สามารถเอาไว้ทำกิจกรรมของทางรีสอร์ทได้

ล็อบบี้ของที่นี่สวยงามดีครับ แสดงออกถึงความเป็นไทยพอสมควร

เดินย้อนกลับไปทางล็อบบี้จะมีทางเดินลงมาด้านล่างเพื่อจะไปที่สปาได้ ถ้าเดินขึ้นไปด้านบนก็จะมีศาลาไว้ให้นั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆได้ครับ

ต่อไปจะพาไปชมสปาของที่นี่กันครับ สปาจะอยู่ข้างๆกับล็อบบี้เลยครับ

สปาที่นี่ชื่อ Linger Longer Spa ครับเปิดบริการ 9.30-19.00น. เป็นสปาที่มีบริการ Massages, Body Scrubs, Body Mask Wrap, Facial Treatments ครับ

ลูกค้าในรีสอร์ทก็มีเข้ามาใช้บริการพอสมควรครับ คอนที่เข้าไปก็มีลูกค้าใช้บริการอยู่เลยถ่ายภาพมาได้ไม่มากนัก

สปาที่นี่จะมีทั้งแบบ Open Air แล้วก็ในห้องที่มีระบบปรับอากาศครับ การตกแต่งก็เน้นร่มรื่น มีกลิ่นหอมตามแบบฉบับสปาทั่วๆไป

มีตู้ไว้สำหรับขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำสปา รวมถึงครีมกันแดด และโปสการ์ดรูปสวยๆของลันตาด้วยครับ

เรียกว่าเดินเข้าไปก็จะสัมผัสบรรยากาศสปาได้ครบถ้วน ทั้งเสียงน้ำไหล กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย ความร่มรื่น และเสียงเพลงคลอเบาๆ

เข้าไปในอาคารก็จะมีห้องนวดตัว ทำทรีทเม้นท์ครับ ด้านนอกออกไปก็จะมีอ่างแช่ตัว อยู่ในศาลากลางแจ้ง

ด้านในนี้ก็จะมีอุปกรณ์รวมถึงพวกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำทรีทเม้นท์ นวดตัว ขัดผิวเตรียมไว้บริการ

ในห้องจะมีห้องอาบน้ำไว้ให้ในตัวเลยด้วยครับ สามารถอาบไปชมวิวไปเลยร่มรื่นจริงๆ

สปานี้มีสองชั้นครับ ขึ้นไปชมด้านบนกันดีกว่า

ด้านบนก็จะแบ่งห้องย่อยๆออกเป็น 3 ห้องแตกต่างกันครับ

ห้องนี้เป็นห้องเตียงเดียวสำหรับลูกค้าที่มาคนเดียวไม่ต้องไปทำรวมกับคนอื่น

ส่วนห้องนี้เป็นห้องนวดแบบไทยครับ จะไม่เหมือนห้องอื่นเพราะว่าไม่ต้องใช้เตียง

ห้องสุดท้ายพิเศษหน่อยตรงในห้องมีจากุซซี่ไว้บริการด้วยครับ ในส่วนรายละเอียดการนวดแบบต่างๆผมไม่สันทัดเลยครับเพราะเวลาไปเที่ยวที่ไหนที่มีสปาก็ไม่เคยได้ใช้บริการซะที สงสัยเพราะไม่ใช่คนขี้เมื่อยมั้งครับ

ออกจากสปามาข้างๆกันอีกด้านก็เป็นส่วนของ Library เป็นแบบ Open Air อีกแล้ว เปิดบริการ 9.00-20.00น.ครับ จะเห็นได้ว่าแทบจะทุกพื้นที่ในรีสอร์ทจะเป็นแบบเปิดโล่งแทบทั้งหมดยกเว้นแค่ในห้องพักกับห้องฟิตเนสเท่านั้นที่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากพื้นที่ของรีสอร์ทอยู่ริมทะเลมีลมทะเลพัดผ่านตลอดเวลา แล้วก็เป็นการให้ลูกค้าที่เข้าพักได้สัมผัสกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุดด้วยครับ

การออกแบบเป็นแบบหลังคาเปิดสูง ผนังเปิดโล่งรับลม มีชั้นวางหนังสือให้ลูกค้าหยิบไปอ่านได้เลย

นอกจากนี้ยังมีบริการยืมแผ่น DVD ไปชมในห้องพักได้ด้วยโดยไม่เสียค่าบริการครับ

หนังสือส่วนมากของที่นี่จะเป็นภาษาเยอรมัน อังกฤษ และฝรั่งเศสครับ

มีโต๊ะไว้ให้นั่งอ่านหนังสือ รวมถึงยังมีคอมพิวเตอร์เอาไว้ให้ใช้อินเตอร์เน็ตได้อีกด้วยครับ ผมลืมบอกไปว่าอินเตอร์เน็ตมีให้ใช้ฟรีทั่วทั้งในรีสอร์ทครับ หนึ่งห้องสามารถใช้ได้ 2 User แต่มีข้อเสียนิดนึงตรงเวลาจะใช้ต้องคอยใส่ล็อคอินและพาสเวิร์ดใหม่ตลอดเวลา

เห็นแบบนี้เย็นทีเดียวครับลมพัดมาตลอดเวลา นั่งๆไปอาจจะง่วงได้เลย

เดินย้อนกลับมาทางด้านหลังล็อบบี้บ้างครับ ชั้นล่างจะมีห้องออกกำลังกายอยู่ เปิดบริการ 6.00-22.00น.ครับ

เครื่องเล่นก็มีพอสมควรครับ ด้านข้างๆกันก็จะมีลานจอดรถของรีสอร์ทแต่ไม่ใหญ่นักเพราะลูกค้าที่นี่แทบทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติส่วนใหญ่ก็จะไม่มีรถส่วนตัวกันครับ

ที่นี้มาดูส่วนของ LEISURE & DIVING CENTER กันบ้างครับ จะเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าของรีสอร์ทได้ติดต่อบริการต่างๆได้ เช่น เช่าจักรยาน พายเรือคายัค ดำน้ำติ้น-น้ำลึก ขี่ช้างชมธรรมชาติ ติดต่อทัวร์เที่ยวรอบๆเกาะ หรือว่าเรียนทำอาหารไทย ฯลฯ ส่วนนี้อยู่ติดกับห้องอาหารและสระว่ายน้ำครับ (หลายๆกิจกรรมโดยเฉพาะกิจกรรมทางน้ำจะมีให้บริการเฉพาะช่วงหน้าปลอดมรสุมเท่านั้นครับ)

สระว่ายน้ำที่นี่แบ่งเป็น 2 สระครับ สระแรกเป็น Infinity Pool กว้าง 25x8 เมตรสามารถว่ายออกกำลังได้เลยครับ อีกสระเป็นจากุซซี่กว้าง 8x8 เมตรอยู่ข้างๆกันครับ ทั้ง 2 สระเป็นสระน้ำเกลือนะครับ

ตรงทางเข้าไปที่ห้องอาหารก็จะมีป้ายบอกกิจกรรมสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาบอกลูกค้าให้รับทราบถึงกิจกรรมของทางโรงแรม

ภาพที่เห็นถือเป็น Signature ของรีสอร์ทเลยครับ เป็นบริการพาลูกค้านั่งเรือสปีดโบ๊ทออกไปชิมไวน์ชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลครับ แต่กิจกรรมนี้มีเฉพาะช่วงหน้าปลอดมรสุมเท่านั้นนะครับ

ตอนเย็นๆก็จะมีลูกค้ามานั่งดื่มนั่งคุยกันครับ นี่เป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นได้ในรีสอร์ทนี้ เพราะว่าตลอดทั้งปีลูกค้าส่วนใหญ่มากกว่า 80% จะเป็นชาวเยอรมันครับ จะเห็นได้จากเวปไซต์ของทางโรงแรมก็จะมีภาษาหลักแค่ 2 ภาษาคืออังกฤษและเยอรมันครับ ไม่แน่ใจว่าเพราะ GM ที่นี่เป็นชาวเยอรมันด้วยหรือเปล่าลูกค้าชาวเยอรมันถึงเยอะ


แล้วเวลาลูกค้ามีพักที่นี่เค้าก็จะมาพักยาวๆกันเป็นอาทิตย์ๆเค้าเลยค่อนข้างที่จะสนิทกันครับ แล้วลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเก่าที่ประทับใจและกลับมาเที่ยวอีกในทุกๆปี บางทีมารู้จักกันที่นี่ก็จองห้องพักข้ามปีในช่วงเวลาเดียวกันเพื่อจะกลับมาเจอกันที่นี่อีก เหมือนได้มาเที่ยวกันเป็นหมู่คณะเลยล่ะครับ

เพียงแต่ที่นี่เน้นว่าต้องการให้ในรีสอร์ทเงียบสงบและให้ลูกค้าได้รับความเป็นส่วนตัว เพราะฉะนั้นทางรีสอร์ทจะไม่รับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเลยครับ
รวมถึงถ้าจะจองมาเป็นหมู่คณะก็ต้องคัดกรองก่อนเลยว่าจะมาทำให้บรรยากาศเสียหรือไม่ครับ

ด้านหน้าของสระว่ายน้ำจะมีหุ่นปั้นที่จะปักธงแสดงให้เรารู้ว่าคลื่นลมวันนั้นๆเป็นอย่างไรเหมาะจะลงเล่นน้ำหรือไม่ วันที่ไปจะปักธงเหลืองไว้แสดงว่าคลื่นปานกลางสามารถเล่นน้ำได้แต่ควรระมัดระวัง

ด้านหน้าของรีสอร์ทครับ หาดพระแอะเป็นหาดที่มีความยาวถึง 3 กม.เป็นหาดที่ไม่พลุกพล่านครับ ทรายละเอียดและนุ่มเท้า ที่เห็นมีต้นผักบุ้งทะเลไม่ใช่รีสอร์ทไม่ดูแลความสะอาดนะครับ แต่เพราะช่วงนี้คลื่นลมแรงมาก น้ำตอนขึ้นสุดจะขึ้นมาสูงถึงกอผักบุ้งทะเลเลยครับถึงต้องเอาวัชพืชพวกนี้ไว้ช่วยเกาะไม่ให้ทรายบริเวณหน้าหาดโดนคลื่นซัดไปหมด

ก็จะเห็นว่าบ่ายๆมาจะมีเศษไม้เศษปะการังโดนคลื่นซัดมากองที่หน้าหาดเศษเล็กๆนี้ตอนเช้าทางรีสอร์ทก็จะมีพนักงานมาเคลียร์ให้สะอาดครับ ส่วนตอใหญ่ๆก็ปล่อยไว้แบบนี้ล่ะครับ

ถ้าเป็นช่วงทะเลสงบหาดนี้น่าจะเป็นชายหาดที่สวยมากๆแห่งนึงบนเกาะลันตาเลยครับ ช่วงนั้นหน้าหาดทางรีสอร์ทก็จะเอาเก้าอี้มาวางไว้หน้าหาดให้ลูกค้ามานอนอาบแดดได้ครับ

พอขึ้นมาด้านหน้ารีสอร์ทก็จะมีอ่างน้ำไว้ให้เราล้างเท้าได้ด้วยครับ

เสียดายว่าที่เกาะลันตาทั้ง2วันที่มีโอกาสจะได้ชมพระอาทิตย์ตกสวยๆถูกมรสุมซะจนไม่ได้ชมพระอาทิตย์ตกงามๆเลยครับ วันแรกก็ได้ภาพแบบนี้

วันที่สองก็ได้มาอีกแบบแถมซักพักฝนก็ตกไม่ลืมหูลืมตา มีไม่กี่ช่วงที่ฟ้าจะเปิดให้เราได้มองเห็นเกาะพีพีที่เราสามารถมองเห็นได้จากหน้ารีสอร์ทครับ

ทีนี้ก็จะพามาชมห้องอาหารของที่นี่กันบ้างครับ ห้องอาหารที่นี่ชื่อว่า " TIDES " ตั้งอยู่หน้าชายหาดเลยครับ เปิดบริการเวลา 6.30-22.30น. อาหารที่บริการก็จะเป็นอาหารไทย อาหารตะวันตก และมีไวน์แช่อยู่ที่ตู้ด้านในเยอะมากครับ

ห้องอาหารก็จะเป็น Open Air เช่นกันครับ

ปกติถ้าอากาศดีๆจะมีโต๊ะด้านนอกของระเบียงห้องอาหารด้วย ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูทะเลสงบจะมี Sunset Diner on the Beach ด้วยครับ

บนโต๊ะอาหารก็จะจุดตะเกียงสร้างบรรยากาศโรแมนติคด้วยครับ

ด้านข้างๆกันของห้องอาหาร TIDES จะมีบาร์ที่ชื่อว่า " SUNDOWNERS BAR " เปิดบริการ 10 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน

เปิดให้บริการเครื่องดื่มและค็อกเทล เย็นๆของทุกวันตรงบาร์นี้จะเหมือนศูนย์รวมของลูกค้าในรีสอร์ท และทุกๆวันอังคารจะมีทริป Wine Together ให้ลูกค้ามานั่งพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นต่างๆกันครับ

พูดมาถึงตอนนี้จะไม่พูดถึงการบริการของพนักงานในรีสอร์ทนี้ก็คงไม่ได้ รีสอร์ทนี้ถือว่าเด่นมากในเรื่องของการบริการครับ จากการเข้ามาสัมผัสและสังเกตพนักงานที่นี่จะเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี ยิ้มแย้มแจ่มใสตั้งแต่ระดับล่างแบบรปภ.ไปจนถึงระดับสูงแบบ GM เลยล่ะครับ ตรงนี้เชื่อถือได้จากการได้รับรางวัล TRAVELERS'CHOICE 2006 2008 2009 2010 2011 ของ TripAdvisor ถือว่าเป็นรีสอร์ทอันดับ 1 บนเกาะลันตาครับ

สระว่ายน้ำตอนกลางคืนก็จะเปิดไฟให้แสงสว่างสวยมากครับ

ลืมพูดถึงสระว่ายน้ำอีกอย่างครับ การจะมาใช้สระว่ายน้ำสามารถมารับผ้าเช็ดตัวได้ที่สระได้เลยครับไม่ต้องเอามาจากห้องพัก

ส่วนด้านความปลอดภัย ทั้งที่สระและที่ชายหาดจะมี Lifeguard คอยดูแลให้ตลอดเวลาครับ โดย Lifeguard นี้จะมีการจ้างมาเป็นพิเศษและมีการอบรมสำหรับพนักงานในรีสอร์ทด้วยครับ

ล็อบบี้ในตอนกลางคืนเปิดไฟสวยมากๆครับ เดี๋ยวเราไปดูด้านในกัน

กลับมาที่ล็อบบี้กันอีกครั้งครับ

ล็อบบี้สร้างขึ้นเป็นศาลาจุดประสงค์หลักคือเอาไว้เช็คอินอย่างที่เราๆทราบ แต่ก็มีช่วงฤดูปลอดมรสุมที่รีสอร์ทจะไปทำการเช็คอิน เช็คเอ้าท์ที่หน้าหาดเพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมมาจากทางสปีดโบ๊ทมากกว่าครับ

โต๊ะของพนักงานต้อนรับ ด้านหลังจะโชว์รางวัลที่ทางรีสอร์ทเคยได้รับมา เรียบว่าเต็มตู้เลยล่ะครับ

หลังคาเป็นหลังคาทรงสูงตามแบบที่พักอาศัยท้องถิ่น ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งและลมพัดเย็นสบายไม่ร้อนครับ

เป็นล็อบบี้ Open Air ครับบานกระจกสามารถเปิดรับลมทะเลได้ มีโต๊ะให้ลูกค้านั่งรอเช็คอิน หรือว่านั่งพักผ่อนได้ครับ

ถ้าอากาศดีๆฟ้าเปิดเราก็สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้จากตรงนี้เช่นกันครับ เสียดายที่ไม่มีโอกาสนั้นเลย

ถัดมาอีกด้านจะมีศาลาไว้ให้นั่งพักผ่อนได้ครับ บันไดสามารถเดินลงไปที่สปาหรือว่าห้องสมุดได้

วิลล่าที่พักก็เปิดไฟเรียบร้อย ทางเดินอาจจะดูมืดไปนิดแต่ก็กำลังจะได้รับการแก้ไขครับ เดี๋ยวไปทานอาหารค่ำกันครับ

ถึงเวลาที่ต้องปล่อยหน้าที่เป็นของผู้ติดตามส่วนตัวให้ถ่ายภาพอาหารกันแล้วครับ ถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติในทุกๆทริปของผมครับ

ในห้องอาหารแสงค่อนข้างน้อยทำให้การถ่ายภาพค่อนข้างยาก

ส่วนเมนูในวันนี้ผมให้ทางเชฟของรีสอร์ทจัดให้ครับ เพราะทางรีสอร์ทมอบให้เป็น Complimentary เพราะฉะนั้นทุกรายการรสชาดจะอร่อยทีเดียวครับ
เพียงแต่ผมออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ค่อยถนัดเรื่องอาหารภาพพิ้นยุโรปซักเท่าไหร่ ถ้าอาหารไทยล่ะไม่อั้นครับ

เมนูถูกจัดมาเป็นเซ็ตครับ

เมนูแรกเป็น Cold Starter ผมขอเรียกชื่ออาหารตามเมนูเลยแล้วกันนะครับเพราะอาจจะอธิบายไม่ถูกต้องนัก เมนูนี้ชื่อว่า

" Yellow Fin Tuna Tartar " with  avocado and fresh marinated fennel in raspberry vinegar

เมนูที่สองเป็น Warm Starter ที่มีชื่อว่า

" Grilled Vegetable Tower " with eggplant, zucchini, roasted capsicum and roasted tomatoes sprinkled with cashew nuts and finished with basil pesto oil

เมนูหลักเป็น " Grilled Tiger Prawn " served with vegetable fried rice ,black pepper sauce and thai spicy seafood sauce
จานนี้พอจะอธิบายได้เพราะทานหมด เป็นเหมือนกุ้งทอดราดซอสมะขาม และมีซอสพริกไทยดำกับซอสซีฟู๊ดให้ครับ

เสริฟพร้อมข้าวผัดผักจานนี้อีกจาน ส่วนน้ำผมไม่ทานแอลกอฮอร์อยู่แล้วเลยสั่งเป็นน้ำมะม่วงปั่น กับสับปะรดปั่นมาทานครับ

เมนูหลักอีกจานครับเรียกว่า

" Pan-Fried Yellow Fin Tuna " in a crust of fine herbs almond served with sauteed seasonal vegetables and sage mashed potatoes

สุดท้ายเป็นของหวานครับ ของหวานจานแรกเรียกว่า " Cream Brulee " เป็นคัสตาร์ดครีมที่ด้านบนถูกเผาไฟให้ไหม้นิดหน่อย รสชาดหวานหอมมีกลื่นขิงด้วย เสริฟมากับไอศครีมมะนาว อร่อยมากครับจานนี้

จานสุดท้ายจริงๆมีชื่อที่หลายๆคนรู้จักว่า " Panna Cotta " เสริฟมาพร้อมผลไม้ในจานอันนี้ก็อร่อยมากเช่นกันครับ

หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็จะพาไปชมห้องพักแบบอื่นๆที่เหลือกันต่อครับ
ที่ต้องพาไปตอนค่ำๆเช่นนี้เพราะว่าช่วงที่ไปห้องพักเต็มครับ ลูกค้าเพิ่งจะเช็คเอ้าท์ออกไปตอนเย็นเลยได้เข้ามาถ่ายตอนค่ำๆแทน

ห้องแบบแรกที่จะพาไปชมเป็นห้องพักที่เป็นวิลล่าหน้าชายหาดเลยครับ ทางรีสอร์ทจะเรียกห้องแบบนี้ว่า Beach Suites มีทั้งหมด 3 วิลล่าด้วยกัน เปิดห้องมาก็จะเจอแบบนี้เลยครับ

ทางด้านปลายเตียงก็จะเป็นระเบียงทางเข้าที่มองออกไปเป็นชายหาดเลย แต่เพราะไปถ่ายตอนกลางคืนเลยไม่ได้เห็นวิวสวยๆจากชายหาดเลยครับ

ทีวีจะวางเฉียงๆกับเตียงนอนแต่ก็มีโซฟาไว้ให้นั่งๆนอนๆดูทีวีได้ ข้างๆกันก็จะเป็นมินิบาร์เหมือนของที่ห้องพักของผม

มีโต๊ะทำงานไว้ให้ข้างเตียงนอน อีกฝั่งก็จะเป็นโซฟาเหมือนกับที่ห้องผมเช่นกัน ด้านหลังเตียงไปจะเปิดไปเป็นห้องน้ำครับ

มีโซฟาไว้ให้นอนดูทีวีด้วยซึ่งห้องของผมไม่มีครับ ห้องพักกว้างขวางพอสมควร ตื่นมารูดม่านก็จะเจอกับวิวทะเล คิดว่าถ้าได้นอนห้องนี้จะมีความสุขมากๆเลยครับ

มาดูในห้องน้ำจะแบ่งสัดส่วนกันชัดเจนกว่าที่ห้องของผม อ่างอาบน้ำใหญ่กว่านิดหน่อย ส่วนชักโครกกั้นเป็นส่วนเช่นเดียวกับส่วนอาบน้ำ

ห้องแบบนี้จะมีอ่างล้างหน้าให้ 2 ฝั่งเลยครับ

ฝั่งของห้องอาบน้ำจะพิเศษตรงสามารถเปิดออกไปอีกได้ซึ่งจะสามารถเดินออกไปที่ลานอาบน้ำกลางแจ้งได้ครับ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ห้องแบบที่ผมพักไม่มี

ลานอาบน้ำกลางแจ้ง อาบได้ตามสบายครับเพราะว่ากำแพงสูงมากด้านนอกไม่สามารถมองเห็นครับ

ต่อไปจะพาไปชมห้องพักแบบสุดท้ายของที่นี่ครับ วิลล่าแบบนี้จะอยู่ด้านหลังของ Beach Suites ครับ

วิลล่านี้เรียกว่า Ocean Deluxe Suites ครับ มีด้วยกันทั้งหมด 3 หลัง เป็นห้องพักขนาดใหญ่ที่สุดครับ แต่วิวอาจจะสู้แบบ Beach Suites ไม่ได้
เข้าห้องไปก็จะเป็นแบบนี้เลยครับ

วิวในห้องนอนจะเฉียงๆไปทางสระน้ำครับ ด้านหน้าห้องก็จะมีสวนเล็กๆอยู่ด้านหน้า

ทีวิและโซฟาก็จะอยู่ด้านปลายเตียงแต่เพราะห้องมีขนาดใหญ่อาจจะดูทีวีจากเตียงนอนได้ไกลไปซักนิด ช่องทางเดินที่โล่งอยู่เป็นทางเดินไปห้องน้ำและตู้เสื้อผ้าครับ

ส่วนประตูที่ปิดอยู่จะเป็นทางเดินขึ้นไปศาลาชั้นบนซึ่งห้องแบบนี้เป็นแบบเดียวที่มีซึ่งเดี๋ยวจะพาขึ้นไปชมครับ

ไปดูส่วนห้องน้ำก่อนครับ เดินเข้ามาก็จะพบอ่างล้างหน้าห้องนี้ก็จะมีอ่าง 2 อ่างครับ

ตามพี่บอย SalaDbAr มาเที่ยวชมรีสอร์ทหรูค่า

ครั้งนี้มาเช้าตรู่เลยนะคะ แต่เราก็ตามมาค่ะ ที่พักสวยมากๆๆๆ

หันมาทางด้านหลังก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าพร้อมอุปกรณ์เหมือนในห้องของผม

สาวยิ้ม ไม่ใช่มาเช้าจ้า ยังไม่ได้นอนเลย 555 ตื่นมาชมแต่เช้าเลยนะจ๊ะ

************************************************

ในห้องน้ำแต่ละส่วนก็จะถูกแบ่งแยกชัดเจนเหมือนห้องที่แล้วแต่ห้องนี้ดูจะมีพื้นที่เยอะกว่าหน่อยครับ

ห้องอาบน้ำก็เปิดออกไปที่ลานอาบน้ำกลางแจ้งได้เช่นกัน

ลักษณะภายนอกก็จะเหมือนห้องแบบที่แล้วทุกอย่างครับ

มีสวนเล็กๆเอาไว้สร้างบรรยากาศความร่มรื่นเวลาอาบน้ำไปด้วย

ทีนี้มาดูด้านบนกันบ้างครับ ด้านบนจะมีโซฟาตัวใหญ่ไว้ให้นอนเล่นพักผ่อนครับ มีโต๊ะทำงานและผลไม้ไว้ต้อนรับอีกดัวย

บนนี้จะสามารถมองวิวได้ 270 องศาครับ แต่อาจจะมองเห็นทะเลไม่ชัดเท่าไหร่เพราะติดวิลล่า Beach Suites ที่อยู่ด้านหน้าครับ

แต่ก็จะได้วิวสระว่ายน้ำและห้องอาหารรวมถึงบาร์แทน ยิ่งเป็นตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบครับ

กลับมาที่ห้องพักของเรากันบ้าง ได้เวลาพักผ่อนแล้วครับ เรื่องของระบบความปลอดภัย ประตูห้องพักยังเป็นแบบลูกบิดที่ต้องล็อกเองจากด้านในด้วยครับซึ่งตรงนี้ยังไม่ค่อยปลอดภัยนัก เพราะถ้าเราลืมล็อกคนด้านนอกก็เข้ามาได้สบาย ส่วนถ้าเราอยู่ในห้องก็ต้องล็อคประตูเองด้วยทุกครั้ง แต่ก็จะมีสายคล้องประตูให้อีกชั้นนึงครับ

ส่วนระบบไฟในห้องยังเป็นแบบเสียบอย่างที่เห็นครับ

กลางคืนอีกวันก็จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องและ Turn Down เตียงให้ในสภาพประมาณนี้

ทุกคืนจะมีของเล็กๆน้อยๆวางอยู่ตรงหมอนด้วยครับ เป็นคุ๊กกี้โฮมเมดที่อร่อยทีเดียว

เหนื่อยหนักเลยครับสำหรับการเดินทางและพาเที่ยวชมในวันนั้น ได้เวลาหลับพักผ่อนแล้วครับ

ตื่นเช้ามาพร้อมแสงอ่อนๆที่ลอดผ่านมู่ลี่ไม้เข้ามาในห้องครับ

มาดูห้องน้ำในสภาพปกติของทางรีสอร์ทกัน

ผ้าขนหนูผ้าเช็ดตัวก็แล้วแต่ครับว่าเราจะเปลี่ยนหรือจะใช้ต่อ

น้ำที่นี่ไหลแรงดีครับ ปรับร้อนเย็นได้ง่ายๆ

ด้านหน้าระเบียงห้องจะมีเก้าอี้ไว้ให้นอนเล่นด้วยครับ ถ้าจะสูบบุหรีก็สามารถสูบได้ที่ระเบียงนี่ล่ะ หลังจากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปทานอาหารเช้ากันครับ

มีอีกส่วนนึงที่ผมยังไม่ได้แนะนำเลยคือ Lounge ครับ จะอยู่ข้างๆสระว่ายน้ำตรงทางเดินไปที่ห้องอาหารนั่นล่ะครับ

Lounge นี้เปิดบริการตั้งแต่ 10.00-22.00น.ครับ เราสามารถมานั่งรีแล็กซ์ดูทีวีและสั่งเครื่องดื่มมานั่งทานได้ตรงนี้

บรรยากาศดีเช่นกันครับสำหรับตรงนี้ ผมเห็นลูกค้าชอบมานั่งตรงนี้กันเหมือนกัน

วันนี้ตื่นมาพร้อมอากาศไม่ค่อยดีครับ คลื่นลมแรงมากจนต้องเปลี่ยนธงเป็นสีแดง นั่นคือไม่เหมาะจะลงเล่นน้ำทะเลครับ เพราะคลื่นสูงและอันตราย

อาหารเช้าก็เสริฟที่ห้องอาหาร TIDES นี่ล่ะครับ

อาหารส่วนใหญ่เป็น Breakfast เหมือนๆรีสอร์ททั่วไป แต่อาหารที่นี่มีให้เลือกไม่เยอะครับ จะเน้นจริงๆก็คงเป็นพวกอาหารเบาๆ เป็นพวกสลัด แฮม พร้อมซอสต่างๆ

ชีสที่ถ่ายมาให้ดูว่าสองวันจะไม่เหมือนกันครับ

อาหารก็มี Potato Casserrole, Baked Beans, Tomatoes With Sauteed Mushroom & Cheese, Pasta

ไส้กรอกสองวันก็ไม่เหมือนกัน อร่อยหมดเลยครับ ส้วนเบคอนและแฮมมีให้ทั้งสองวัน วันที่สองมีเนื้อทอดเป็นก้อนเล็กให้ด้วย

นี่เป็นอาหารของวันที่สองทั้งหมดครับ เป็นไส้กรอกผัดชีส ตรงกลางน่าจะเป็นลาบไก่ ด้านขวาเรียกว่า Rosti ครับไม่ได้ชิมเลยไม่รู้ว่าเป็นอะไร

น้ำก็มีเสริฟหลายหลายชนิดครับทั้งน้ำส้ม น้ำฝรั่ง องุ่น มะม่วง Mixed Fruit นมสด รวมถึงสามารถสั่งชา กาแฟ หรือโกโก้ร้อนเย็นได้จากพนักงานเสิร์ฟครับ เมนูไข่ก็มีทุกแบบครับแล้วแต่เราจะสั่ง มีพ่อครัวมายืนทำกันสดๆตรงนั้นเลย พร้อมทั้งวาฟเฟิลอีกด้วย

ส่วนผัดผักทั้งสองวันก็มีเมนูที่ต่างกันครับ

เมนูพิเศษของทั้งสองวันก็ต่างกันคือวันแรกจะเป็นผัดไทย ส่วนวันที่สองจะเป็นผัดหมี่รสชาติจะคล้ายๆยากิโซบะครับ

เมนูอาหารประเภท Conflakes ก็มีให้เลือกครับ พร้อมกับเครื่องเคียงอีกมายมายเลยทีเดียว

ขนมปัง เนย แยมมีให้เลือกหลายแบบผมว่ารายการพวกขนมปังนี่มีมากกว่าอาหารหลักอีกนะครับ

ครัวซองค์ เค้กกล้วยหอม มัฟฟิน ชอคโรล ชินนาม่อนโรล เดนิส มีมาเพียบ

ชิมไปชมวิวไปก็สุขไปอีกแบบนะครับ

ตบท้ายอาหารเช้าด้วยผลไม้นานๆชนิดครับ

การมาพักผ่อนกึ่งทำงานครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ผมเองก็เพิ่งเคยได้สัมผัสครับ ถึงจะเหนื่อยมากเพราะเวลาในการทำรูปและกลับมาทำรีวิวมีเวลาจำกัดจนช่วงนี้ไม่ต้องเอาเวลาไปทำอะไรอย่างอื่นเลย แต่ก็ได้ความภูมิใจและประสบการณ์ที่ดี

ทางรีสอร์ทเองก็ดูจะกระตือรือล้นที่ได้ผ่านเข้ารอบการประกวด และให้ความร่วมมืออย่างดีในการทำงานของผม ผมได้เข้าไปพบกับคุณ Stefan Heintze GM ของรีสอร์ทตามคำเชิญเพื่อแลกเปลี่ยนคำแนะนำในการมาเยี่ยมเยียนทางรีสอร์ทในครั้งนี้เพื่อที่จะได้เอาข้อมูลของผมไปแก้ไขและปรับปรุงรวมไปถึงพัฒนาให้รีสอร์ทมีบริการที่ดียิ่งขึ้น

ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความรู้อะไรแค่เอาข้อดีข้อเสียของแต่ละรีสอร์ทที่เราเคยไปสัมผัสมาแล้วเอามาแชร์ประสบการณ์แค่นั้นเอง ซึ่งผลตอบรับที่ออกมาถือว่าดีมากๆเพราะข้อพูดคุยส่วนใหญ่ที่ผมเสนอแนะไปให้ทางรีสอร์ทเป็นข้อที่ทางรีสอร์ทเห็นตรงกันกับผมเป็นส่วนใหญ่ว่าอะไรควรปรับปรุงอะไรกำลังแก้ไขเพราะหลังจากที่ทาง BMK Hospitality เข้ามาซื้อกิจการก็เริ่มมีการปรับปรุงแก้ไขเรื่องต่างๆบ้างแล้ว เช่น

- เรื่องของห้องพักก็กำลังมีการปรับปรุงทาสีใหม่ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ลูกบิดที่ผมบอกว่ากลัวจะมีปัญหาก็กำลังได้รับการแก้ไขอยู่โดยจะเปลี่ยนเป็นระบบล็อคอัตโนมัติแล้ว ทีวีที่เห็นในเวปว่าเก่าก็ได้รับการแก้ไขโดยเปลี่ยนเป็นแบบใหม่แล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกผมก็แนะนำว่าควรจะมีเครื่องเสียงที่ต่อกับไอพอตซักชุด ทางรีสอร์ทก็บอกว่ากำลังทำเรื่องจัดซื้ออยู่โดยทาง GM เป็นคนเทสเองด้วยซ้ำ

- เรื่องเวปไซต์ที่เก่ามากแล้วและมีแค่ภาษาอังกฤษและเยอรมันก็กำลังจะจ้างช่างภาพมาถ่ายรูปรีสอร์ทใหม่ รวมถึงทำเวปไซต์ใหม่ด้วยซึ่งผมแนะนำให้มีภาษาไทยเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งภาษาเพราะเดี๋ยวนี้ลูกค้าที่เป็นคนไทยก็เริ่มเที่ยวรีสอร์ทสไตล์นี้แล้วเหมือนกัน

- เรื่องป้ายบอกทางมารีสอร์ทที่ทางรีสอร์ทก็กำลังขอกับทางองค์การบริหารของเกาะเพื่อขอติดตั้ง

ส่วนที่เหลือก็คงเป็นข้อดีที่ทางรีสอร์ทปฎิบัติมานานตั้งแต่เจ้าของเก่า ซึ่งอยากให้ทางรีสอร์ทคงคอนเซปตรงนี้ไว้ครับ

การได้ไปเยี่ยมลยานะรีสอร์ทในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมและผู้ติดตามส่วนตัวได้ไปเกาะลันตา ส่วนตัวอยากให้เกาะลันตาเป็นเกาะที่น่าอยู่แบบนี้ไปตลอดถึงแม้จะมีความเจริญเข้ามาบ้างแล้วแต่ก็ยังถือว่ายังดิบอยู่พอสมควร
คนที่นี่น่ารักครับ ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความเป็นมิตรสูง ต่อไปการมาเยี่ยมลันตาคงง่ายขึ้นเพราะว่ากำลังจะมีโครงการก่อสร้างสะพานข้ามจากเกาะลันตาน้อยมาที่เกาะลันตาใหญ่คงจะช่วยทุ่นเวลาในการเดินทางได้พอสมควร ตอนนั้นไม่รู้ว่าเกาะลันตาจะยังน่าเที่ยวอยู่หรือเปล่า แต่อย่างน้อยลันตาก็มีรีสอร์ทเล็กๆที่มีบริการที่เป็นเลิศ ร่มรื่นและมีความเป็นส่วนตัวสูงซ่อนตัวอยู่รีสอร์ทนั้นชื่อว่า " ลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา " ครับ

ขอขอบคุณคุณStefan Heintze GM ของรีสอร์ทที่เฟรนลี่มากๆ, คุณคณิณ System Development Manager ที่ให้ข้อมูลรีสอร์ทรวมถึงเป็นล่ามช่วยคุยกับคุณStefan ร่วมถึงพาแนะนำสถานที่ต่างๆในรีสอร์ท, คุณสาที่ติดต่อกันเรื่องการจองห้องพักรวมถึงกำหนดวันในการเดินทาง, น้องปุ๊ที่พาไปแนะนำและรอให้ผมถ่ายภาพห้องพักจนเสร็จ รวมไปถึงพนักงานที่น่ารักในรีสอร์ททุกคนที่เต็มที่และเต็มใจบริการกับแขกทุกคนไม่แตกต่างกัน

การเดินทางไปครั้งนี้ถึงจะมีปัญหาใหญ่คือฝนที่ตกมาไม่เป็นเวลาเลย การถ่ายรูปด้านนอกทำได้ยากมาก บางทีเห็นแดดออกอยู่ไม่ถึง 10 นาทีฝนตกซะอย่างงั้นแต่โดยรวมภาพที่ได้ออกมาถือว่าน่าพอใจในระดับนึงครับ

ขอบคุณทุกๆคนทุกๆคอมเม้นท์ที่เข้ามาติชมและชมรีวิวนี้จนจบครับ

ผมขอโปรโมตนิดนึงครับ ผมได้รับการติดต่อให้ไปออกรายการ Blue Planet รายการท่องเที่ยวที่มีบล็อคเกอร์มานั่งพูดคุยและร่วมแชร์สถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะโรงแรมหรือรีสอร์ทที่เคยไปพักมาครับ

รายการนี้เป็นรายการสดครับ ที่ผ่านๆมามีเพื่อนๆของเราใน BP ไปออกรายการมาหลายคนแล้วครับเช่น อาจารย์ชานไม้ชายเขา, พี่อุ๊ หมูอ้วนจอมพลังกับพี่ต้อง ตามกาลเวลา ,ชั้นหก the Sixth Floor ,เหาคุง One Light One Shadow ,ยายบง Yai Klong_Tour Rai ,น้องผักอ้วน ,คุณอิ๊น inint&anant ,ดีบุก ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก เป็นต้นครับ

คิวของผมจะออกอากาศในวันพฤหัสที่ 20 ตุลาคมนี้ ทางช่องทรูวิชั่น 73 Travel Channel Thailand เวลา 19.00-20.00 น.ครับ

ส่วนผมจะพาไปเที่ยวที่ไหนหรือว่ามีอะไรมาแจกในรายการติดตามกันได้นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

ไม่ได้ดูที่พักเลย ดูแต่อาหาร อิอิ

...หาของไปแจกในรายการเยอะๆนะ

 ที่พักสวยมากเลยครับ น่าพักสุดๆแถมอาหารนี่เรียกน้ำย่อยตอนเช้าดีนักเชียวครับ

สวยมากครับน้าบอย บรรยากาศดีจัง

แวะมาชมฮะ ... เล่นมาซะเช้าตรู่เลยน่ะ
เอาแรงมาจากไหนละเนี่ย

โห...แปบเดียว ร้อยกว่าความเห็น

น้าบิกบอย ไปแค่สองยังเหนื่อย ผมไม่น่าโลภ ไปสามเลย T_T

ตามมาเที่ยวลันตาด้วยครับ คุณบอย

เก็บมาครบทุกมุมเลยครับ ขยันมากๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ วันไหนว่างต้องลองไปบ้างซะละ

ที่พักตกแต่งเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดาเลย

บรรยากาศโดยรอบดูสบายๆ น่าพักผ่อนครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวภาพสวยๆแบบจัดเต็ม พร้อมข้อมูลแน่นปึ้กนะคะ

Hi So นะคุณบอย นอกจากสโรจินที่เตยมารีวิวแล้ว ที่ Layana นี่ผมก็ไม่รู้จักเหมือนกัน เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินและเห็นจากรีวิวคุณนี่แหละ อาหารจัดเต็ม รีสอร์ตสวยสงบสมกับชื่อจริงๆครับ


รอชมที่ต่อไปนะ

บรรยากาศดูดี น่าพักผ่อนนะครับ

โห๊ว มาเร็วทันใจจังครับ ทั่นบอย

จัดเต็มกันเลยทีเดียวครับ

ตามมาชมที่พักสวยๆ ค่ะ คุณบอย

ภาพสวยจริงๆครับ คุณบอย

ยังไง พฤหัสนี้ผมจะรอเชียร์อยู่หน้าจอนะครับ

ภาพสวยมากๆครับ

ตามไปเกาะลันตาด้วยคนนะคะ
ยังไม่เคยไปเหมือนกันค่ะ ทั้งๆที่ไปกระบี่ มา 2-3 รอบแล้ว

ใช้ระยะเดินทางแค่ 2.30 ชม.จากสนามบินกระบี่ (ขนาดแวะเรื่อยๆตามทาง)นี่
ใกล้กว่าไปเกาะสมุย ผ่านทางสนามบินสุราษฎร์อีกค่ะ
น่าสนใจจัง

อยากเห็นที่นี่มานานครับคุณบอย
ลยานะขึ้นชื่อเรื่องการบริการและบรรยากาศมากๆ
ภาพที่คุณบอยถ่ายมาก็สวยหลายๆภาพ ทางรีสอร์ทเห็นคงเป็นปลื้ม
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและรีวิวนะครับ

ภายสวยมากค่ะ
ห้องพักหรูหรา น่าพักดีจังเลย ^O^

ฟิตมากกกกก

ที่พักทั้งสวย ร่มรื่นและสงบมากเลยค่ะ  อาหารก็หน้าตาดีเชียว
ไว้มีโอกาสจะได้ไปพักบ้าง ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ  รูปสวยมากเลยค่ะ

สวยงามน่าไปมากจ้ะ   เสียดายไกลไปหน่อยเนอะบอยเนอะ

น้าบอยมาลงชื่อไว้ก่อน เด๋วอ่านเก็บรายละเอียดอีกครั้งครับผม

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ที่พักสวยมาก

รูปใหญ่สะใจดีมากจ้ะ

น่าไปจังเลย แต่ไกลจัง ต้องมีเวลาหลายๆๆวัน เค้าไม่สามารถ

สวยจริงๆๆอ่ะโรงแรมนี้ ดูเรียบๆๆแต่มีเสน่ห์จัง

ตามมาชมรีวิวด้วยคนครับ....

เสี่ยจัดเต็ม รีวิวเป็นเรื่องเป็นราว เป็นทางการ รูปสวย ตั้งใจม้ากอ่า

ทำงานขยันขันแข็งแล้วงานออกมาดีขนาดนี้ วันหลังได้อีกน่ะ แล้วเค้าไปแทน แหะๆ

ปล... รูปขึ้นถึง #38 แหะๆ

ภาพลยานะของพี่บอยสวยมากๆเลยค่ะ โรงแรมหรูจัง Panna Cotta ก็น่า

ทานสุดๆ ดูจบก็เพิ่งนึกได้ว่าเป็นคนเชียร์นี่หน่า เดินทางไกล

แต่สวยไม่ผิดหวังเลยเนอะคะ

แหล่มครับคุณบอย เป็นรีวิวที่สวยมากครับ

สำหรับรีวิวสวยๆ..........ขอบคุณมากครับ

สวยมากค่ะ คุณบอย แอบคิดถึงเกาะลันตาเหมือนกัน

ไม่ได้ไปมาหลายปีละ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะครับ

ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับพี่บอย

ที่พักสวยมากครับเอาไปเลยครับ 5 กระโหลก
ส่วนของกินนี่เห็นแล้วระรานตาไปหมดเลยครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ห้องหรูมากๆ เลยครับ บอย

ว่าแต่ตกชื่อเค้าไปได้ไงอ่ะ งอลลล แล้ว ^^

ช่างไม้จากอินเดีย,เสื่อปาหนันที่ตกแต่งสั่งทอโดยเฉพาะ
พอดีเราได้เขียนแบบประจำอยู่siteนี้ สนุกมาก ได้เก็บภาพกลับบ้านมา6พันกว่าภาพที่เกาะน้อยใหญ่แห่งนี้

บรรยากาศที่พักดีจังเลยนะคะ

ขอบคุณรูปสวยๆ ด้วยค่ะ คุณบอย

แวะมาชมครับ คุณบอย ภาพสวยจังครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ ตามชมรีวิวถัดไปครับ

...ตามพี่บอยมาเที่ยวเกาะลันตาด้วยคนนะคะ  

เกาะแห่งความหลังในการดำ scuba เลยค่ะ ไกลและนั่งรถนานมากนั่งเรือแค่แป๊บเดียวเองนะคะ  

ลยานะสวยมากเลยนะคะ ดูเรียบๆ แต่ดูน่าพักมากเลยค่ะ และก็โดยส่วนตัวชอบเกาะลันตามากเหมือนกันค่ะ ถึงแม้จะไกลไปหน่อยแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคเลยนะคะ ที่นี่ดูเงียบและสงบมากเลยค่ะ ชอบจัง ได้เห็นลันตาอีกครั้งทำให้อยากไปดำน้ำอีกจังเลยค่ะ   ^-^

ผมก็ยังไม่เคยไปเกาะลันตาเลยครับ...

ที่พักสวยดี แต่ตอนจบนี่อาหารจัดมาเต็มเลยนะครับ ...

ไม่น่ามาเปิดเจอรูปอาหารตอนเที่ยงคืนเลยครับ

ภายในโรงแรมบรรยากษสดีจังเลยเนอะพี่บอย น่าไปพักผ่อนมาก


ที่สำคัญเก็บภาพมาได้อย่างละเอียดยอดเยี่ยมากครับ


ภาพสวยงาม อาหารถูกใจ อิ..อิ.. ขอบคุณสำหรับรีวิวด้วยนะครับ

อาหารน่ากินจังค่ะคุณบอย อิอิ

ยังไม่เคยไปลันตาเลยค่ะ ฟังจากคุณบอยเล่า น่าจะเดินทางเหนื่อยพอดู
แต่รีสอร์ทสวย ดูดีมากค่ะ
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะคะ

สวยงามมากๆค่ะ

รีวิวสวยมากๆค่ะ ไม่เคยไปพักที่นี่เคยพักที่พิมาลัย ปีนี้มีแพลนจะกลับไปอีก  ชักลังเลอยากลองไปสัมผัสที่นี่บ้าง
แค่ตอนนี้อยากจะบอกว่าหิวค่ะ
เป็นกำลังใจให้ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคมนี้นะคะ  ลิลลี่ไม่เคยได้ชมรายการสด อดเล่นเกมด้วยกับนักรีวิวของบีพีทุกครั้ง เพราะไม่ทำงานก็อยู่ระหว่างการเดินทางกลับ หรือไม่ก็อยู่ ตปท T_T

ยังไม่เคยไปเกาะลันตาเลยค่ะ เลยมาช้าไปนิดนึงนะคะ

ที่นี่ดูคลาสสิก ไทยๆ บรรยากาศดีจัง ^^

..

สวยมากครับ

บรรยากาศดี๊ดีเน้อ  ที่พักงามๆที่ได้เสน่ห์เมืองใต้ กลิ่นไอทะเลติดจมูกมาเลย

..

ดีบุก มีแจกแน่นอนไม่ต้องห่วงแต่จะเป็นอะไรต้องคอยติดตามชมนะ อิอิ

ลุงแบกเป้ ที่นี่เงียบสงบและสวยครับ อาหารเช้าก็คุณภาพทั้งนั้นเลยครับ

ลุงเอก เสียดายที่ฝนตกแทบจะตลอดเลยครับถ้าไปช่วงทะเลสงบคงจะสวยกว่านี้อีกเยอะ

ชั้นหก FF ไม่ใช่ว่ามาแต่เช้าแต่ทำข้อมูลเสร็จดึกมากเลยรีวิวต่อเลยตะหาก นั่นยังไม่ได้นอนเลยนะน่ะ

คุณตั้ม แหมรูปผมเยอะก็ต้องแบบนี้ล่ะครับ คุณตั้ม 3 ที่แต่ก็ใกล้บ้านนี่นาไม่ได้ไปไกลเหมือนผม แค่คุณตั้มต้องลุยน้ำไปแค่นั้นเอง เอิ๊กๆๆ

เหาคุง ต้องเก็บเยอะๆสิเห็นความตั้งใจและใส่ใจในโครงการของโรงแรมเค้าแล้วอยากให้เข้ารอบต่อไปอ่ะ

คุณตระเวนเที่ยว ไปเลยครับที่นี่เงียบสงบ เอ.. แต่ว่าเอาเด็กๆไปไม่ได้นะครับต้องไปสวีทอย่างเดียวเท่านั้น อิอิ

คุณชาย ที่นี่เรียบแต่หรูนะคุณชาย บริการก็ยอดเยี่ยมมากๆ มีโอกาสพาคนข้างบ้านไปมั่งจิ

คุณSergeant Keroro ขอบคุณที่มาชมเหมือนกันนะครับ

กาแฟ ผมก็เพิ่งรู้จักเหมือนกันครับ ตอนไป WS ไม่มีข้อมูลที่ไหนไปเลยด้วยซ้ำ 555

คุณตี๋ ใช่ครับ ไปปลีกวิเวกเหมาะมากเลย

คุณเก่ง ไม่เร็วได้ไงครับ เค้าให้เวลาทำรีวิวอาทิตย์เดียว ไม่ได้หลับได้นอนกันเลยล่ะ

บัวติ๊ก ขอบคุณมากๆจ้า

คุณอิ๊น ขอบคุณมากๆครับคุณอิ๊นแต่โดนโรงเลื่อนไปเป็นวันที่ 20 แล้วล่ะครับเป็นกำลังใจให้หน่อยน๊า

คุณฮูยัน ขอบคุณที่ชมครับผม

คุณI-am-Nina ใกล้กว่าแน่ครับเพราะว่าที่นี่ถึงจะขึ้นเฟอร์รี่ถึงสองรอบแต่เป็นการข้ามเหมือนข้ามแม่น้ำมากกว่าเลยไม่ใช้เวลามากครับ ไปสมุยนี่นั่งในเรือกันเบื่อเลยทีเดียว

อาจารย์ ที่นี่บริการเยี่ยมแบบอาจารย์บอกไว้จริงๆครับ เงียบสงบและเหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ ขอบคุณสำหรับคำชมครับ อยากให้รีสอร์ทที่ไปทำทั้งสองที่เข้ารอบจริงๆครับ

คุณตาฟาง... ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ที่นี่สวยและสงบมากจริงๆครับ

น้าตุ๋ม แน่นอนครับ จะน็อคกลางอากาศอยู่แล้ววว เอิ๊กๆๆ

คุณชมพู่ อยากแนะนำเลยครับ คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักที่นี่ทั้งๆที่บริการและสถานที่ดีมากๆ ไปลองดูนะครับ

พี่อุ๊ ไกลไปจริงๆครับ แถมเวลาน้อยเหนื่อยในการทำรีวิวมากๆเข็ดแล้วววว

คุณarmearn ขอบคุณที่เข้ามาชมเช่นกันนะครับ

คุณปุ๊กกี้ ชอบใช่ป่าวล่ะครับเอาใหญ่กว่านี้อีกม๊ะ เอิ๊กๆๆๆ

ยิ้ม ใช่จ้าตอนแรกที่นี่ให้คืนเดียวนะแต่เค้าให้เพิ่มเพราะบอกไปว่าคงไม่สามารถเก็บรูปได้หมดเพราะกว่าจะเดินทางไปถึงก็สาหัสแล้ว แต่ที่นี่สวยจริงๆจ้าเงียบสงบด้วยน่าไปมากๆยิ้ม

คุณอาร์ท ยินดีเลยครับ

มาดาม ยอมยกให้ไปแทนเลยอ่ะ เหนื่อยมากจ้ากับการเดินทางและเหนื่อยหนักมาขึ้นไปอีกเท่านึงเมื่อต้องกลับมาทำรีวิว เริ่มขยาดแล้วอ่ะ ที่ต้องทำละเอียดขนาดนี้เพราะทางรีสอร์ทเค้าดูใส่ใจกับโครงการด้วยครับ เลยต้องช่วยเค้าหน่อยอ่ะ

เตย เพราะถ้ามันไม่สวยไม่ดีพี่จะกลับมาโทษเตยฐานแนะนำที่นี่ให้ไป เอิ๊กๆๆ ของหวานที่นี่อร่อยมากอ่ะเตย นั่งกินแล้วนึกถึงเตยเลย เอิ๊กๆ

พี่แซงค์ ขอบคุณมากๆครับ เดี๋ยวผมตามไปเก็บรีวิวอีกทีนะครับ

คุณlow batt. ถ้าหมดพลังที่นี่น่าไปนอนชาร์ตนะครับ

คุณหนึ่ง ลันตายังน่ารักเหมือนเดิมครับ ถึงจะมีรีสอร์ท มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะขึ้นแต่ผมว่ามันก็ยังดิบมากๆที่จะไปซึมซับครับ

คุณtonhok ขอบคุณที่เข้ามาชมเช่นกันครับ

คุณนนท์ เห็นรีวิวขึ้นแนะนำเดี๋ยวจบภาระกิจจะตามไปเก็บตกนะครับ

คุณDestiny-Boy ผมนึกว่าเรื่องของผมมันน่ากลัวมากให้ตั้ง 5 กะโหลก เอิ๊กๆๆ ขอบคุณที่เข้ามาชมนะครับ

โอเลี้ยง โอ๋ๆๆอย่างอนเลยพ่อคุณ เค้าทำรีวิวดึกดื่นไม่ได้หลับได้นอนเลยลืมๆไปบ้างน่ะ

คุณDOUNGDEE ถึงว่าสิครับงานไม้ที่นี่ดีมากๆ เจอคนที่รู้จักที่นี่ดีซะแล้ว

คุณปริม เสียดายช่วงที่ไปฝนตกแทบจะตลอดครับแทบไม่ได้ออกไปเดินชายหาดเลย ถ้าไปช่วงต้นปีท่าทางจะสุดยอดมากครับ

คุณตัน เดี๋ยวผมกลับไปตามรีวิวคุณตันด้วยนะครับ รอภาระกิจลุล่วงก่อน //hah

ตะวันจ๋า ช่วงที่พี่ไปธงแดงขึ้นเลยจ้า ทะเลป่วนมากๆ ดีจังได้ไปดำน้ำด้วยอ่ะ ของพี่ถ้าไปคงเป็นพยูนลอยน้ำเนอะ 555 สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะจ๊ะ

คุณเยี่ยม ผมว่าลันตามีเสน่ห์นะ มีโอกาสผมก็อยากกลับไปเที่ยวอีก ที่ไปนี่ไม่ได้ออกจากรีสอร์ทไปไหนเลยครับ เอิ๊กๆ

คุณOatta's Journey ผมขอโทษค๊าบบบ เอิ๊กๆๆ

ตัวแชมป์ เสียดายที่แชมป์สละสิทธิ์เนอะไม่งั้นคงได้เห็นรีวิวของแชมป์บ้าง ที่นี่น่าพักนะ พี่ยังชอบเลยอ่ะ

ยายบง นี่อีกคนเค้าบอกจะจับฉลากให้ก็ไม่เอา เผื่อได้ไปนอนสองผัวเมียที่เชียงคาน 555

คุณแม่เด็กจิ๋ว เหนื่อยครับแต่ที่เหนื่อยกว่าคือต้องรีบกลับมาทำรีวิวเนี่ยล่ะครับ เดี๋ยวผมตามไปชมทั้งสองที่อีกทีนะครับ

คุณ+G@To+ ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ

นู๋ลี่ พิมาลัยเป็นอีกหนึ่งโรงแรมหรูของเกาะนี้จ้าแต่ที่นี่เค้าก็บอกนะว่าเค้าคืออันดับหนึ่งเรื่องบริการดูจากรางวัลก็น่าจะดีมากอยู่ ต้องไปลองดูจ้าแนะนำๆ

จุ๊บๆ ใช่จ้าออกแนวไทยๆหน่อยเพราะเค้าเน้นกลุ่มลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะเยอรมัน แต่คนไทยไปพักเค้าก็ดูแลไม่แตกต่างนะจ๊ะ

คุณป๊อกกี้ สวย เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน มากๆครับ

เตียงน่านอนมาก ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^